Professional Documents
Culture Documents
SIP
SIP
เสนอ
ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ บุญทรัพย์ ไวคำา
จัดทำาโดย
นายรัฐพล โพธิพิพิธ รหัสประจำาตัว 493020405-7
นางสาวศริญญา กิจการพัฒนาเลิศ รหัสประจำาตัว 493020427-7
คณะวิทยาศาสตร์
ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 322461
NETWORK ARCHITECTURE (สถาปัตยกรรมข่ายงาน)
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2551
1
คำานำา
เอกสารเล่ ม นี้ จั ด ทำา ขึ้ น โดยการรวบรวมเนื้ อ หาซึ่ ง เป็ น หั ว ข้ อ ที่ ใ ช้ ศึ ก ษาในวิ ช า NETWORK
ARCHITECTURE สถาปัตยกรรมข่ายงาน 322461 ซึ่งแหล่งข้อมูลหลักได้มาจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะ
เข้าใจเนื้อหาที่ดีขึ้น ผูอ้ ่านจำาเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานทางด้านระบบบัสและมีความรู้ในด้านนี้ด้วย
ผู้เ รียบเรี ยงขอขอบคุณ ผู้ที่ ได้ อ่านเอกสารเล่ ม นี้ แ ละแสดงความคิ ด เห็น ที่ เ ป็ น ประโยชน์ เ พื่อ การ
ปรับปรุงเนื้อหาให้สมบูรณ์มากขึ้น และผู้เรียบเรียงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารเล่มนี้จะเป็นประโยชน์สำาหรับผู้
ที่สนใจเกี่ยวกับ Session Initiation Protocol หรือ SIP ทั้งนี้ผู้เรียบเรียงต้องขอน้อมรับคำาชี้แนะจากผู้อ่าน ไม่ว่า
จะเป็นการใช้ภาษา ความเหมาะสมของเนื้อหา และข้อผิดพลาดใดๆในเอกสารเล่มนี้ ทั้งที่เกิดขึ้นจากความ
ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ผู้เรียบเรียงรู้สึกซาบซึ้งในความช่วยเหลือจากทุกคนและทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการทำาให้
เอกสารเล่มนี้เป็นตัวเป็นตนขึ้นมาและขอขอบคุณอีกครั้งมา ณ โอกาสนี้ด้วย
จัดทำาโดย
นายรัฐพล โพธิพิพิธ รหัสประจำาตัว 493020405-7
นางสาวศริญญา กิจการพัฒนาเลิศ รหัสประจำาตัว 493020427-7
2
สารบัญ
เรื่อง หน้า
คำานำา ก
1.บทนำา 1
2.ประวัติของ SIP 1
3. คุณสมบัติของ SIP 2
4. การออกแบบโปรโตคอล 2
5.องค์ประกอบสำาคัญในระบบ SIP (SIP Component) 4
• UAC (User Agent Client) 4
• UAS (User Agent Server) 4
• Network Server 5
6. SIP Header 5
7.การทำางานของ SIP Server ในระบบ SIP Protocol 7
• Registrar Server 7
• Proxy Server 8
• Redirect Server 9
8.การทำางานของ SIP ในระบุบ IP Telephony 11
9.ลำาดับสัญญาณ SIP ในระบบ IP Telephony 12
10.ส่วนประกอบของเครือข่าย SIP 14
• Session Initiation Protocol (SIP) 14
• Media Gateway Control Protocol (MGCP) 15
• Real-time Transport Protocol (RTP) 15
• Real-time Transport Control Protocol (RTCP) 15
• Real-time Streaming Protocol (RTSP) 15
11.การเปรียบเทียบ H.323 Standard และ SIP 16-17
12.สรุป 17-18
เอกสารอ้างอิง ค
1
1.บทนำา
Session Initiation Protocol (SIP) เป็ น โปรโตคอลมาตรฐานของ Internet Engineering Task Force
(IETF) สำา หรับการเริ่มต้น user session ปฏิสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับส่วนประกอบมัลติมีเดีย เช่น วิดีโอ เสียง แช๊ต
เกมส์ และ virtual reality
SIP เป็นมาตรฐานที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับระบบ IP โดยเฉพาะ โดยเป็นมาตรฐาน Application
Layer Control Protocol สำา หรั บ การเริ่ ม ต้ น (Creating), การปรั บ เปลี่ ย น (Modifying) และการสิ้ น สุ ด
(Terminating) ของ Session หรือ การติ ดต่ อสื่อ สารหนึ่ งครั้ ง มาตรฐาน SIP จะมี สถาปัต ยกรรมการทำา งาน
คล้ า ยคลึ ง การทำา งานแบบ Client-Server Protocol แต่ SIP เป็ น มาตรฐานที่ มี Reliability ที่ ค่ อ นข้ า งสู ง
2.ประวัติของ SIP
SIP เป็นโปรโตคอลที่ใช้ Create, Modify และ Terminate Session ในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งมีการนำาไป
ใ ช้ ใ น Internet Telephone Call, Multimedia Distribution, และ Multimedia Conference โ ปร โ ต ค อล นี้
ออกแบบโดย Henning Schulzrinne จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียและ Mark Handley จากมหาวิทยาลัยลอนดอน
ในปี 1996 (พ.ศ.2539) ต่อมาในเดือนพฤศจิกายนปี 2000 (พ.ศ.2543) ก็ได้รับการยอมรับจาก 3GPP และกลาย
เป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรม IMS (IP Multimedia Subsystem), Voice over IP รวมถึง H.323 และอื่นๆ
IMS เป็นแนวคิดเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมของการให้บริการ IP Multimedia แก่ผู้ใช้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน
การพัฒนาเครือข่ายมือถือของ GSM โดยเริ่มมาจาก 3GPP R5 นำาเสนอวิธีส่ง Internet Services ผ่าน GPRS ต่อ
มาได้ มี ก ารปรั บ ปรุ งโดย 3GPP, 3GPP2, และ TISPAN เพื่อ ให้ค รอบคลุ ม ถึ ง Wireless LAN, CDMA2000,
และ Fix Line โดยนำาโปรโตคอลของ IETF มาใช้ เช่น SIP
SIP จ ะ มี ลั ก ษ ณ ะ ทั่ ว ไ ป คื อ
- ข น า ด เ ล็ ก เ พ ร า ะ กำา ห น ด วิ ธี ติ ด ต่ อ ไ ว้ เ พี ย ง 6 วิ ธี เ พื่ อ ล ด ค ว า ม ซั บ ซ้ อ น
- มี ค ว า ม เ ป็ น อิ ส ร ะ ส า ม า ร ถ ใ ช้ ง า น กั บ UDP, TCP, ATM แ ล ะ อื่ น ๆ ไ ด้
- เป็นข้อความที่มนุษย์สามารถอ่านได้
SIP เหมือนกับ HTTP หรือ SMTP คือทำางานใน Application layer ของแบบจำาลองการสื่อสาร Open
Systems Interconnection (OSI) โดย Application layer เป็นระดับการตอบสนองสำาหรับการทำาให้มั่นใจว่าการ
สื่อสารเป็นไปได้ SIP สามารถก่อตั้ง multimedia session หรือการเรียก Internet telephony และปรับปรุงหรือ
ยุติ รวมทั้งโปรโตคอลนี้สามารถเชิญผู้เข้าร่วมเป็น unicast หรือ multicast session ที่ไม่จำาเป็นต้องเกี่ยวข้องกับ
การเริ่มต้น เนื่องจาก SIP สนับสนุนการจับคู่ชื่อและบริการ redirection สิ่งนี้ทำา ให้เป็นไปได้สำา หรับผู้ใช้ใน
การเริ่มต้นและรับการสื่อสารและบริการ จากทุกสถานที่ และสำาหรับเครือข่ายในการระบุผู้ใช้ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด
SIP เป็นโปรโตคอลตอบสนองคำา ขอ เกี่ยวข้องกับคำา ขอจากลูกข่ายและตอบสนองจากแม่ข่าย ผู้เข้า
ร่วมได้รับการระบุโดย SIP URL คำา ขอสามารถได้รับการส่งผ่านโปรโตคอลส่งผ่าน เช่น UDP, SCTP หรือ
TCP โดย SIP ตัดสินให้สิ้นสุดระบบที่ใช้กับ session ตัวกลางสื่อสารและพารามิเตอร์ตัวกลาง และเรียกผู้เข้า
2
3. คุณสมบัติของ SIP
เป็นโปรโตคอลระดับ Application ซึ่งอยู่เหนือโปรโตคอลระดับ Transport โดยอนุญาตให้ สามารถ
ทำาการส่งสัญญาณโดยใช้โปรโตคอลระดับ Transport ได้ทั้ง TCP (Transmission Control Protocol) และ UDP
(User Datagram Protocol)
รูปแบบสัญญาณที่นิยมตามมาตรฐาน SIP มีลักษณะเป็นข้อความ (Text-based) ซึ่งถูกเรียกว่า SIP
Message โดยรูปแบบและไวยากรณ์ของสัญญาณมีลักษณะคล้ายกับรูปแบบสัญญาณของโปรโตคอล HTTP
(Hypertext Transfer Protocol) ทำา ให้ผู้พัฒ นาสามารถพัฒนาได้ง่ ายและเหตุ ที่มีการใช้สัญ ญาณ SIP Message
ตลอดขั้นตอนการส่งสัญญาณควบคุมรวมถึงลำาดับขั้นตอนการส่งสัญญาณตามมาตรฐาน SIP นั้นเพราะไม่ซับ
ซ้อนจึงทำาให้โปรโตคอล SIP สามารถทำางานได้รวดเร็วกว่ามาตรฐาน H.323
ตามมาตรฐานของ SIP จะรับผิดชอบขั้นตอนการส่งสัญญาณควบคุมในส่วนก่อนและหลังการสนทนา
เท่านั้น โดยในขั้นตอนการส่งข้อมูลสื่อประสม (Media Stream) จะใช้โปรโตคอล RTP (Real Time Transfer
Protocol) และในขั้นตอนการแลกเปลี่ยนความสามารถในการส่งข้อ มูลสื่อ ประสม (Media Capabilities
Exchange) จะใช้ โ ปรโตคอล SDP (Session Description Protocol) ทำา งานร่ ว มด้ ว ย สถาปั ต ยกรรมตาม
ม า ต ร ฐ า น SIP เ ป็ น แ บ บ Client/Server โ ด ย มี ก า ร อ้ า ง อิ ง ตั ว SIP Client
โดยใช้ชื่ออ้างอิงถึงที่อยู่ของตัว SIP Client นั้นๆ ซึ่งถูกเรียกว่า SIP URL (Uniform Resource Locators)ทำาให้
เกิดความสะดวกและความยืดหยุ่นในการใช้บริการเพิ่มมากขึ้นรวมถึงการให้บริการแบบ User Mobility
4. การออกแบบโปรโตคอล
SIP client จะใช้ TCP หรือ UDP พอร์ต 5060 เชื่อมต่อกับ SIP server และ SIP อื่น ๆ ซึ่ง SIP จะใช้
สำา หรั บ ตั้ งค่ า และยกเลิ ก Voice หรื อ Video call แต่ ก็ สามารถนำา ไปใช้ กั บ งานกั บ ระบบอื่ น ที่ ต้ อ งการเปิ ด
Session รวมถึง Event Subscription และ Notification ได้ การสื่อสารโดยใช้ภาพและเสียงสามารถทำา ได้โดย
แบ่งโปรโตคอล Session ออกจากกัน เช่น RTP (Real-time Transport Protocol)
RTP ใช้กำาหนดรูปแบบ packet ในการส่งภาพและเสียงผ่านอินเตอร์เน็ต ถูกพัฒนาโดย Audio-Video
Transport Working Group ของ IETF และได้ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1996 (พ.ศ.2539) โดย RTP จะไม่มีพอร์ต
TCP หรือ UDP มาตรฐานในการสื่อสาร แต่จะใช้พอร์ต UDP ที่เป็นเลขคู่ในการสื่อสารและพอร์ต UDP เลขคี่
ถัดไปเป็น RTP Control Protocol (RTCP) เลขพอร์ตมักจะอยู่ระหว่าง 16384-32767 RTP สามารถรับส่งข้อมูล
อะไรก็ได้ แ บบ real-time เช่น ภาพและเสีย ง โดยใช้โ ปรโตคอล SIP ในการตั้ งค่า และยกเลิ ก SIP จะเป็น
โปรโตคอลที่ ใช้ ส่งสัญ ญาณและตั้ งค่ า ในระบบ IP สามารถใช้ งานร่ ว มกั บ ระบบโทรศัพท์ PSTN (Public
3
Switched Telephone Network) ได้ ซึ่ ง มาตรฐาน SIP ไม่ ไ ด้ ร ะบุ ไ ว้ SIP ทำา ได้ เ พี ย งส่ ง สั ญ ญาณและตั้ ง ค่ า
อย่างไรก็ตาม SIP สามารถใช้งานในระบบเครือข่ายได้ เช่น Proxy Server และ User Agent ซึ่งจะเหมือนกับ
การทำางานของโทรศัพท์ คือ หมุนเบอร์, ทำาให้โทรศัพท์ปลายทางส่งเสียง, ฟังเสียงตอบรับหรือสัญญาณไม่ว่าง
SIP ทำาให้ระบบโทรศัพท์มีความสามารถในขั้นตอนโทรออกมากขึ้น ดูได้จาก Signalling System 7
(SS7) โดย SS7 จะเป็นโปรโตคอลที่รวมศูนย์, ใช้กับระบบรวมศูนย์ที่ซับซ้อน, และใช้งานกับเครื่องลูกข่ายที่
ไม่เก่ง (โทรศัพท์บ้าน) SIP เป็นโปรโตคอลแบบ Peer-to-Peer ซึ่งใช้กับเครือข่ายที่ไม่ซับซ้อนและเครื่องลูกค้า
มีความสามารถสูง แม้ VoIP จะมีโปรโตคอลส่งสัญญาณเยอะอยู่แล้ว แต่ SIP ก็ช่วยสร้างเครื่องหลักในการ
สื่อสารแบบ IP ได้มากกว่าระบบโทรคมนาคม SIP จะเป็นมาตรฐานของ IETF ขณะที่ H.323 เป็นโปรโตคอล
ของ ITU ซึ่งทั้งสององค์กรก็ให้เกียรติกัน
SIP สามารถทำางานร่วมกับโปรโตคอลอื่นได้โดยจะสร้างสัญญาณให้ Session ของการติดต่อสื่อสาร
SIP จะทำา งานเป็นพาหะของ Session Description Protocol (SDP) ใช้อธิบายรายละเอียดของเนื้อหาที่จะส่ง
เช่น หมายเลขพอร์ตที่ใช้, Codec ที่ต้องการ SIP จะคล้ายกับ HTTP เช่น การรับส่งข้อมูลใช้ภาษาที่มนุษย์อ่าน
ได้, รหัสบอกสถานะจะคล้าย ๆ กัน บางคนกล่าวว่า SIP เป็นโปรโตคอลแบบ stateless ซึ่งสามารถตรวจสอบ
ความผิดพลาดและเพิ่มเติมความสามารถได้มากกว่าโปรโตคอลแบบ stateful ซึ่งโปรโตคอลแบบ stateless จะ
ส่งคำาสั่งได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องสนใจว่าคำาสั่งก่อนหน้าคือคำาสั่งอะไร ในขณะที่โปรโตคอลแบบ stateful จะ
ต้องมีการบันทึกสถานการณ์แลกเปลี่ยนข้อมูลไว้ตลอดเวลา
• UAC (User Agent Client) หรื อ (SIP Client) ทำา หน้ า ที่ ใ นการสร้ า งหรื อ เริ่ ม ต้ น การโทรโดยส่ ง
สัญญาณร้องขอ (Request Signal) ไปยังปลายทาง
• UAS (User Agent Server) หรือ (SIP Server) ทำา หน้าที่ในการตอบรับการโทรและส่ง สัญญาณตอบ
กลับ (Response Signal)
โดยปกติแล้ว SIP Client จะทำาหน้าที่เป็นได้ทั้ง UAC และ UAS เพื่อให้สามารถทำางานได้ ทั้งเป็นผู้โทร
(Caller) และผู้ถูกเรียก (Callee) การติดต่อเพื่อสร้างและสิ้นสุดเซสชันระหว่างเครื่องลูกข่ายซึ่งเป็นการติดต่อ
แบบพื้นฐาน ที่สุดแสดงในรูปที่ 2 จะเห็นได้ว่าเครื่องลูกข่ายแต่ละเครื่องจะต้องสามารถร้องขอ และตอบ
สนองการเรียกได้ นัน้ ก็คือเครื่องลูกข่ายแต่ละเครื่องจะต้องสามารถเป็นได้ทั้ง UAC และ UAS
5
รูปที่ 2 การสร้างและสิ้นสุดเซสชันระหว่างเครื่องลูกข่าย(cpe.rsu.ac.th)
• Network Server
เป็นนิยามของ SIP Server ที่มีรูปแบบการทำางานแบบต่างๆ ได้แก่
o Registrar Server ทำา หน้าที่รับการลงทะเบียนจากผู้ใช้บริการ (SIP Client) เพื่อ เก็บข้อมูลที่
อยู่ ชื่อ SIP URL และข้อมูลสำาคัญๆ ของผู้ใช้บริการ
o Proxy Server ทำาหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งสัญญาณระหว่างผู้โทร (Caller) และผู้ถูกเรียก
(Celle) โดยรับผิดชอบการส่งสัญญาณตลอดขัน้ ตอนการส่งสัญญาณตามมาตรฐาน SIP
o Redirect Server ทำา หน้าที่ระบุที่อยู่ของผู้ถูกเรียก (Celle) ที่ได้ทำา การ ลงทะเบียนไว้ โดยจะ
ส่งที่อยู่ที่คน้ หาได้กลับไปยังผู้โทร (Caller)
นอกจาก User Agent และ Network Server แล้วภายในระบบ SIP ยังมีส่วนการทำางานอื่นๆได้แก่
Location Server ทำาหน้าที่ในการเก็บข้อมูลหรือเป็นฐานข้อมูลผู้ใช้บริการให้กับตัว
Network Server ได้ ทำาให้ป้องกันปัญหาเรื่องของขนาดฐานข้อมูลไม่เพียงพอและ
ความ ปลอดภั ย ของข้ อ มู ล ได้ ตามมาตรฐาน SIP อนุ ญ าตให้ ส ามารถพั ฒ นาตั ว
Location Server ไว้เป็นตัว เดียวกันกับตัว SIP Server ได้
SIP Gateway ทำา หน้ า ที่ ใ นการแปลงสั ญ ญาณและข้ อ มู ล สื่ อ ประสมระหว่ า ง
ระบบเครือข่ายที่แตกต่างกัน เช่น การเชื่อมต่อไปยังระบบ PSTN (Public Switching
Telephone Network), ระบบ SS7 (Signaling System 7) เป็นต้น
6. SIP Header
ฟิลด์เฮดเดอร์ใช้สำาหรับระบุรายละเอียดของการเรียก เช่น ผูเ้ รียก ผู้ถูกเรียก เส้นทางของแมสเสจ ชนิด
และความยาวของ Message Body เป็นต้น เฮดเดอร์บางชนิดจะมีอยู่ในทุกแมสเสจ แต่บางชนิดอาจจะใช้ใน
บางแมสเสจเท่านั้น เอนทิตี้ไม่จำาเป็นจะต้องเข้าใจเฮดเดอร์ทั้งหมดโดยที่เฮดเดอร์ที่ไม่เข้าใจ เอนทิตี้จะไม่สน
ใจเฮดเดอร์นั้น เฮดเดอร์จะมีทั้งหมด 37 เฮดเดอร์ โดยแบ่งเป็น 4 ประเภทดังนี้
6
เฮดเดอร์ที่สำาคัญ และใช้บ่อยแสดงได้ดังต่อไปนี้
• To ใช้บ่งบอกถึงผู้รับข้อความร้องขอ
• From ใช้บ่งบอกถึงผู้ส่งข้อความร้องขอ
• Call-ID ใช้บ่งบอกหมายเลขของการติดต่อ โดยหมายเลขเหล่านี้จะไม่ซำ้ากันในการติดต่อแต่ละครั้ง
• Contact ใช้แสดงที่อยู่ปลายทาง ที่ผู้รับสามารถใช้ในการติดต่อได้โดยตรง
• Via ใช้แสดงเส้นทางในการส่งข้อความ
• CSeq ใช้บ่งบอกหมายเลขของข้อความร้องขอสำาหรับ Call ID นัน้ ๆ
• Content-Length ใช้บ่งบอกความยาวของ message body หน่วยเป็นไบต์
7
2. Proxy Server
เป็น SIP Server ที่ทำาหน้าที่เป็นตัวกลางในการติดต่อระหว่างผู้ร้องขอการติดต่อและผู้ถูกร้องขอการ
ติดต่อ โดยการทำา งานในขั้นตอน Call Setup, Media & Channel Control และ End Call การส่งสัญญาณทุก
อย่างในขั้นตอนทั้งหมดนี้จะต้องทำาผ่าน SIP Server โดย SIP Server จะทำาการ ตรวจสอบ SIP Message ที่ได้
รับทุกครั้งและจะทำาการส่ง SIP Message นัน้ ไปยังปลายทางที่ต้องการ โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของ
SIP Message ตามความเหมาะสม สำาหรับการทำางานใน ขัน้ ตอนการส่งข้อมูลเสียง (Media Stream) จะไม่ผ่าน
SIP Server นั้นคือ SIP Client ทั้ง 2 ฝ่ายจะทำา การส่งข้อมูลเสียงกันโดยตรง เมื่อมองในระดับ Logical แต่หาก
มองในระดับ Physical แล้ว SIP Client ทั้ง 2 ฝ่ายอาจมีการส่งข้อมูลผ่าน Server หรือ Gateway ก็ได้ เนื่องจาก
การทำา งานทั้งหมดมี พื้นฐานการทำา งานอยู่บนระบบเครือข่าย Internet ดังนั้นการส่งข้อมูลสามารถส่งผ่าน
แต่ละโหนด (Node) เพื่อให้สามารถส่งข้อมูลไปยังปลายทางที่ต้องการได้
3. Redirect Server
เป็น SIP Server ทีท่ ำาหน้าที่ในการระบุที่อยู่ของผู้รับการติดต่อที่ได้ทำาการลงทะเบียนไว้ โดยจะทำาการ
หาที่อยู่จาก Location Server ซึ่งเมื่อหาที่อยู่ได้แล้วจะส่งที่อยู่ทั้งหมดที่หาได้ให้กับผู้ร้องขอการติดต่อ ดังนั้น
หลังจากที่ SIP Client ได้ที่อยู่ในการติดต่อแล้วจะต้องทำาการติดต่อไปยังปลายทางที่ต้องการตามที่อยู่ที่ได้นั้น
เอง โดยหากผู้ร้องขอการติดต่อได้ที่อยู่มากกว่า 1 ที่อยู่ ผู้ร้องขอการติดต่อจะต้องทำาการติดต่อไปยังทุกๆที่อยู่
เพื่อหาที่อยู่จริงๆ ของผู้ถูกร้องขอการติดต่อเอง ดังจะ เห็นได้ว่าการทำางานในลักษณะนี้จะทำาให้ภาระในการ
ติดต่อทั้งหมดตกอยู่ที่ตัว SIP Client แต่การทำางานลักษณะนี้จะทำาให้ SIP Client สามารถทำาการติดต่อได้อย่าง
รวดเร็วในกรณีที่ได้ที่อยู่เดียวจาก SIP Server และตัว SIP Server สามารถให้บริการกับ SIP Client ได้จำานวน
มาก ซึ่งแสดงได้ดังรูปที่ 6
สำา หรั บ ในตั ว อย่ า งข้า งต้ น เป็ น การติ ด ต่ อ โดยได้ รั บ ที่ อ ยู่ เ ดี ย วจาก Redirect Server แต่ ห าก ได้ รั บ
มากกว่า 1 ที่อยู่ การทำางานในการติดต่อไปยังทุกๆ ที่อยู่ที่ได้รับนั้น โอกาสที่จะติดต่อได้จะขึ้นอยู่กับผู้ร้องขอ
การติดต่อ ดังนั้นหากใช้เป็น Proxy Server การจัดการส่วนนี้ Proxy Server จะทำา ให้ การทำา งานง่ายขึ้น ซึ่ง
แสดงได้ ดังรูปที่ 7
ข่ายกับเครื่องแม่ขา่ ย
13
ที่ได้ส่งไปนั้นเรียบร้อยแล้ว
• 200 การยกเลิ ก การติ ด ต่ อ ด้ ว ยคำา สั่ ง BYE เรี ย บร้ อ ยแล้ ว หรื อ การ
ยกเลิ ก ข้ อ ความบางข้ อ ความด้ ว ยคำา สั่ ง CANCEL เรี ย บร้ อ ยแล้ ว หรื อ การเชิ ญ ให้ มี
การติดต่อด้วยคำา สั่ง INVITE เรียบร้อยแล้ว หรือ การลงทะเบียนต่อ Server ด้วย คำา สั่ง
REGISTER เรียบร้อยแล้ว
• 3xx รหัสการตอบสนองสำาหรับการติดต่อผ่าน Server ในโหมดการ ทำางานแบบ
Redirection
• 302 บอก Address ของผู้ที่ต้องการติดต่อว่าผู้นนั้ ได้เปลี่ยนไปใช้Address ใด
• 4xx รหัสการตอบสนองหากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในระหว่างที่มีการติดต่อ
10.ส่วนประกอบของเครือข่าย SIP
• Session Initiation Protocol (SIP)
นอกเหนือจาก H.323 แล้วยังมี Session Initiation Protocol (SIP) ที่กำาหนดขึ้นโดย International
Engineering Task Force (IETF) ซึ่งเป็นโพรโตคอลในการสื่อสารข้อมูลแบบสตรีมไลน์ (Streamlined)
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไอพีโฟน SIP ได้รับการออกแบบให้มีขนาดเล็กและมีประสิทธิภาพสูงกว่า H.323 โดย
ส่วนประกอบที่สำาคัญของ SIP คือ
1. Media Gateway Control Protocol (MGCP) จะสร้างการเชื่อมต่อระหว่างเกตเวย์กับโครงข่าย
โทรศัพท์ PSTN
2. Session Announcement Protocol (SAP) ใช้สร้างเซสซันโดยเฉพาะกรณีที่ส่งข้อมูลแบบมัลติแคส
3. Real-time Streaming Protocol (RTSP) ทำาหน้าที่ควบคุมการส่งข้อมูลให้เป็นไปตามคุณภาพที่
15
11.เปรียบเทียบ
H.323 Standard
- มาตรฐาน SIP นัน้ จะเป็นมาตรฐาน Application Layer Control Protocol สำาหรับการเริ่มต้น (Creating),
การปรับเปลี่ยน (Modifying) และการสิ้นสุด (Terminating) ของ Session หรือการติดต่อสื่อสารหนึ่งครั้ง
12.สรุป
การที่โครงข่ายโทรคมนาคมพื้นฐานเช่น ระบุบโทรศัพท์มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งชนิดและรูป
แบบบริการ จากเดิม ที่มี เ พีย งเฉพาะบริ การด้านเสีย งสำา หรั บโทรศัพท์ บ้าน ต่อ มามีบ ริก ารชนิ ดใหม่เ ช่น
อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น อุปสรรคที่เกิดขึ้นคือ โครงข่ายโทรคมนาคมต่างๆดังกล่าว
ถูกแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิงตามชนิดของบริการเช่น โครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานสำา หรับโทรศัพท์บ้าน
โครงข่ า ยข้ อ มู ล สำา หรั บ อิน เทอร์ เ น็ ตความเร็ ว สูง โครงข่า ยโทรศัพท์ เ คลื่ อ นที่ เป็ น ต้น ดั งนั้ น “โครงข่ า ย
โทรคมนาคมยุคหน้า” จึงกำาเนิดขึ้นเพื่อให้สามารถรองรับบริการโทรคมนาคมทุกประเภทรวมทั้งบริการใหม่ๆ
ทจะเกิดขึ้นต่อไป ด้วยการรวมทุกโครงข่ายโทรคมนาคมเข้าด้วยกันภายใต้โครงข่ายไอพีที่มีการรับส่ง
ข้อมูลแบบกลุ่มข้อมูลหรือแพ็กเกจ
SIP (Session Initiation Protocol) คือโปรโตคอลหรือเกณฑ์วิธีเพื่อใช้งานด้านมัลติมีเดียบนเครือข่าย
IP ได้รับการพัฒนาโดย MMUSIC (IETF Multi-Party Multimedia Session Control Working Group)ตั้งแต่ปี
2540 และ SIP ถือว่าเป็นโปรโตคอลที่เหนือกว่าโปรโตคอลอื่นในแง่ของการที่สามารถปรับใช้และนำา ไป
18
เอกสารอ้างอิง