ข้อสอบภาคีวิศวกรเครื่องกล วิชา 2221 Ship Dynamics

สาขา: เครื่องกล วิชา: ME12 Ship Dynamics
1 of 189
ขอที่ : 1
่ า ย
หน
จ ำ
คําตอบ 1 :
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ว น
ส ง
ขอ
ทั้งสองฟงกชั่นมีขนาดแอมปลิจูด คาบเวลา และมุมเฟสเทากัน
กร
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก
ขอที่ :
ศ
ิ ว
าว
2
ส
ภ การเปลี่ยนแปลงของแอมปลิจูด มีผลตอคาบเวลาและมุมเฟส
คําตอบ 2 : การเปลี่ยนแปลงของคาบเวลามีผลตอแอมปลิจูดและมุมเฟส
คําตอบ 3 : การเปลี่ยนแปลงของมุมเฟสมีผลตอแอมปลิจูดและคาบเวลา
คําตอบ 4 : แอมปลิจูด, คาบเวลา และมุมเฟสเปนตัวแปรที่เปนอิสระตอกัน
2 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
ม
า้
ิธ์ ห
ส ิท
น
ง ว
อ ส
ข
กร
จงคํานวณหาตัวเลขคลื่น (k=Wave number) ของคลื่นฮารโมนิคที่มีความยาวคลื่นเทากับ 50 เมตร ในทะเลลึกมาก (Deep Water)
ว
คําตอบ 1 : 0.086
ศ
ิ
คําตอบ 2 : 0.126
าว
คําตอบ 3 : 7.957
ภ
คําตอบ 4 : 314.16
ส
ในการศึกษาคลื่นน้ําแบบ Sinusoidal (2 มิติ) ความยาวคลื่น (Wave Length) คือระยะใด
คําตอบ 1 : ระยะในทางระดับ วัดระหวางยอดคลื่นถึงทองคลื่นที่ตอเนื่องกัน
คําตอบ 2 : ระยะในทางระดับ วัดระหวาง 2 ยอดคลื่นหรือ 2 ทองคลื่นที่ตอเนื่องกัน
คําตอบ 3 : ระยะในทางระดับของยอดคลื่นหรือทองคลื่น
ขอที่ : 6 3 of 189
คําตอบ 1 : ความสูงที่ตําแหนงใดๆ ของคลื่นเมื่อเทียบกับแกนอางอิงหรือระดับเฉลี่ย
ย
คําตอบ 2 : ความสูงที่วัดระหวางแกนอางอิงกับจุดสูงสุด (Crest) หรือจุดต่ําสุดของคลื่น (Trough)
่ า
คําตอบ 3 : ความสูงที่มีคาเปน 2 เทาของความสูงที่ตําแหนงใดๆ ของคลื่นเมื่อเทียบกับแกนอางอิงหรือระดับเฉลี่ย
น
คําตอบ 4 : ความสูงที่มีคาเปน 2 เทาของความสูงที่วัดระหวางแกนอางอิงกับจุดสูงสุด (Crest) หรือจุดต่ําสุดของคลื่น (Trough)
จ ำ ห
ม
7
า้
ิธ์ ห
ิท
ส
เมื่อความยาวของคลื่นมากขึ้น ความเร็วคลื่นจะลดลง
น
คําตอบ 2 : เมื่อความยาวของคลื่นมากขึ้น ความเร็วคลื่นจะเพิ่มมากขึ้นตามไปดวย
ว
คําตอบ 3 : ความเร็วของคลื่นเปนอิสระตอความยาวของคลื่น
ง
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 3 : 4 of 189
่ า ย
น
ำ ห
ในการศึกษาความเร็วในการเคลื่อนที่ของคลื่นแบบ Sinusoidal ความเร็วของคลื่นที่เกิดในน้ําจะมีคุณสมบัติแตกตางกันตามระดับความลึกของน้ําอยางไร
มจ
า้
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ทั้งความเร็วของคลื่นในน้ําตื้นและน้ําลึก จะขึ้นอยูกับความยาวคลื่น
ว
คําตอบ 4 : ทั้งความเร็วของคลื่นในน้ําตื้นและน้ําลึก จะเปนอิสระตอความยาวคลื่น
ขอที่ : 10
าว ศ
ิ
ส ภ
คําตอบ 1 : 5 m.
ขอที่ : 11 5 of 189
ในการเคลื่อนที่แบบ Heaving สมมุติวาเมื่อใชแรงภายนอกกดใหเรือจมลงในน้ําแลวปลอยแรงดังกลาวออก ทําใหเรือมีการเคลื่อนที่ขึ้น-ลง และเมื่อมีแรง Damping Force เขามา
เกี่ยวของจะทําใหระยะขจัด (Displacement) ของการเคลื่อนที่แบบ Heaving เปนอยางไร
คําตอบ 1 : เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
คําตอบ 2 : ลดลงเรื่อย ๆ
ย
คําตอบ 3 : คงที่
่ า
หน
ำ
ขอที่ : 12
มจ
า้
ิธ์ ห
ิท
นส
ง ว
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ขอที่ : 13
ส ภ
6 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ส ภ
7 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ขอที่ : 14
จากการเคลื่อนที่แบบ Simple Harmonic Motion ขอใดกลาวผิด
ิท
คําตอบ 1 : Simple Harmonic Motion เปนการเคลื่อนที่ ที่มีอัตราเรงของการเคลื่อนที่เปนสัดสวนโดยตรงกับ ระยะของการเคลื่อนที่กับแนวอางอิง
ส
คําตอบ 2 : แรงตานการเคลื่อนที่ (Restoring Force) ในการเคลื่อนที่แบบ Simple Harmonic Motion เปนสัดสวนผกผันกับระยะขจัด (Displacement) จากแนวสมดุล
ง ว น
ส
ขอ
ว กร
าว ศ
ิ
ส ภ
ขอที่ : 15
8 of 189
คําตอบ 1 : 10cos(2t)
ย
่ า
น
ขอที่ : 16
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
น
คําตอบ 1 : 20sin(2t)
ง ว
คําตอบ 2 : - 20sin(2t)
ส
คําตอบ 3 : - 10sin(2t)
อ
คําตอบ 4 : 10sin(2t)
ขอที่ : 17
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
20cos(2t)
- 20cos(2t)
คําตอบ 4 : - 40cos(2t)
ขอที่ : 18
9 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
ส
ขอ
ว กร
าว ศ
ิ
ส ภ
ขอที่ : 19
จากการเคลื่อนที่แบบ Simple Harmonic Motion ขอใดกลาวถูกตอง
10 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ
ส ิท
ง ว น
ส
ขอที่ : 20
ขอ
วกร
าว ศ
ิ
ส ภ
11 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
นส
ง ว
อ ส
กร ข
ว
ขอที่ : 21
ศ
ิ
เรือขนาด 50 tonnes กําลังเคลื่อนที่โดยมีสมการการเคลื่อนที่แบบ Simple Harmonic Motion, z = 3.0cos(0.2t) จงหาความถี่ในการเคลื่อนที่ของเรือลํานี้
าว
ส
คําตอบ 2 : ภ
ขอที่ : 22 12 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
ขอที่ : 23
13 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
14 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ขอที่ : 24
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
15 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ส ภ
16 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
25
ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับแรง Restoring
คําตอบ 1 : แรงที่พยายามดึงวัตถุกลับไปยังตําแหนงสมดุลเดิม เมื่อวัตถุเคลื่อนที่ออกจากตําแหนงสมดุล
ิท
คําตอบ 2 : เปนแรงที่มีขนาดสัมพันธกับระยะขจัด
ส
คําตอบ 3 : วัตถุจะเคลื่อนที่กลับไปมาผานตําแหนงสมดุล โดยมีอัตราเรงภายใตแรงนี้เสมอ และเคลื่อนที่เร็วขึ้นเมื่อเขาใกลตําแหนงสมดุล
ว น
ส ง
อ
ขอที่ : 26
ข
ขอใดกลาวผิด เกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบฮารโมนิกอยางงาย (Simple Harmonic Motion)
กร
คําตอบ 1 : เมื่อวัตถุอยูในตําแหนงสมดุล ระยะขจัดจะมีคาเปนศูนย
ว
คําตอบ 2 : เมื่อวัตถุเคลื่อนที่ไปไกลจากแนวสมดุลมากที่สุด แรง Restoring จะมีคาต่ําสุด
ศ
ิ
คําตอบ 3 : เมื่อวัตถุเคลื่อนที่หางแนวสมดุลออกไป ความเร็วของการเคลื่อนที่จะลดลงเรื่อย ๆ
าว
คําตอบ 4 : เมื่อวัตถุเคลื่อนที่หางแนวสมดุลออกไป อัตราเรงของการเคลื่อนที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ขอที่ : 27
ส ภ
ขอใดกลาวผิด เกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบฮารโมนิก แบบกลับไปมา
คําตอบ 1 : กอนวัตถุจะเคลื่อนที่ออกจากแนวสมดุล วัตถุจะมีแตเฉพาะพลังงานจลน
คําตอบ 2 : ปริมาณของพลังงานจลนจะลดลงเรื่อย ๆ เมื่อวัตถุเคลื่อนหางจากแนวสมดุลออกไป
คําตอบ 3 : ปริมาณของพลังงานศักยจะลดลงเรื่อย ๆ เมื่อวัตถุเคลื่อนหางจากแนวสมดุลออกไป
คําตอบ 4 : ระดับของพลังงานจลนของวัตถุที่เคลื่อนที่แบบไปมานี้ เปนสัดสวนโดยตรงกับฟงกชันของเวลา
ขอที่ : 28
17 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
18 of 189
่ า ย
ขอที่ : 29
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ว
าว ศ
ิ
ส
ภ
19 of 189
่ า ย
ขอที่ : 30
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
นส
ง ว
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
20 of 189
่ า ย
ขอที่ : 31
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
นส
ง ว
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
21 of 189
่ า ย
ขอที่ : 32
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
นส
ง ว
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
22 of 189
ย
่ า
33
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ว น
ส ง
ขอ
วกร
ศ
ิ
ภ าว
ส
ขอที่ : 34
คําตอบ 1 : 3
คําตอบ 2 : 5 23 of 189
ขอที่ : 35
่ า ย
ปจจัยใดที่มีผลตอความเร็วของคลื่น ที่ความลึกใด ๆ
น
คําตอบ 1 : ความยาวคลื่น
ห
คําตอบ 2 : ความลึกของน้ํา
จ ำ
คําตอบ 3 : แรงโนมถวงของโลก
ม
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 36
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ส
ขอที่ : 37
24 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
น
ขอที่ : 38
ว
ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับพลังงานในคลื่นน้ํา
ง
คําตอบ 1 : พลังงานในคลื่นประกอบดวยสวนที่เปนพลังงานจลนและพลังงานศักย
อ ส
พลังงานจลนเกิดจากการที่อนุภาคมีการเคลื่อนที่แบบโคจร
ข
คําตอบ 3 : พลังงานศักยเกิดจากการที่ของเหลวถูกยกตัวสูงขึ้น
กร
ศ
ิ ว
าว
ขอที่ : 39
ส
ภ 1. 5.26 m/s
คําตอบ 2 : 2. 10.124 m/s
คําตอบ 3 : 3. 12.89 m/s
คําตอบ 4 : 4. 14.98 m/s
ขอที่ : 40
25 of 189
คําตอบ 1 : 0.21
่ า ย
หน
ำ
41
มจ
า้
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
ข
วกร
ศ
ิ
ภ าว
ขอที่ : 42
ส
คําตอบ 1 : 0.8 sec
26 of 189
ขอที่ : 43
คําตอบ 1 : 3.42 m/s
่ า ย
น
ำ ห
จ
า้ ม
ิธ์ ห
ขอที่ : 44
ส ิท
น
ง ว
ส
อ
ขอที่ : 45
กร ข
ว
เมื่อวัตถุเคลื่อนที่ออกจากตําแหนงสมดุล (Equilibrium Position) ขอใดกลาวถูกตอง
าว ศ
ิ
ยิ่งหางจากจุดสมดุลแรง Restoring ยิ่งมีคามาก
แรง Damping มีคาคงที่เสมอ
ส
ภ แรง Damping มีทิศทางเดียวกับแรง Restoring
การที่เรือเปลี่ยนสภาพกินน้ําลึกไปเกิดทริมเปนการเคลื่อนที่แบบ Oscillation
ขอที่ : 46
ขอใดจัดวาเปนการเคลื่อนที่แบบ Oscillation ของเรือที่ลอยอิสระอยู
คําตอบ 1 : เรือเปลี่ยนจากเกิดทริมทางหัวไปเปนเกิดทริมทางทายเรือ
คําตอบ 2 : Angle of Loll เปลี่ยนจาก 7 องศา เปน –7 องศา
คําตอบ 3 : หลังจากนําน้ําหนักปริมาณมากๆ ออกจากเรือโดยฉับพลัน
27 of 189
ขอที่ : 47
ขอใดไมเปนการเคลื่อนที่แบบ Oscillation ของเรือที่ลอยอิสระอยู
คําตอบ 1 : การเคลื่อนที่หลังจากการหยุดเครื่องยนตแลวปลอยใหเรือแลนตอไปจนหยุดนิ่ง
คําตอบ 2 : หลังจากใสน้ําหนักปริมาณมากๆ ลงในเรืออยางฉับพลัน
คําตอบ 3 : หลังจากเอาน้ําหนักปริมาณมากๆ ออกจากเรืออยางฉับพลัน
่ า ย
น
ขอที่ : 48
จ ำ ห
ม
ขอใดคือการเคลื่อนที่ Oscillation ของเรือแบบ Pitching
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : เมื่อเรือถูกคลื่นกระทําจากดานขางและกระดกหัวกระดกทาย
คําตอบ 2 : เมื่อเรือถูกคลื่นกระทําจากดานหัวหรือดานทายและกระดกหัวกระดกทาย
คําตอบ 3 : ขณะที่นําของหนักมาก ๆ ออกจากเรือบริเวณหัวหรือทายเรือโดยฉับพลัน
ิท
นส
ว
ขอที่ : 49
ง
ขอใดคือการเคลื่อนที่ Oscillation ของเรือแบบ Heaving
อ ส
การที่คลื่นกระทําดานหัวหรือทายเรือแลวเรือยกตัวสูงขึ้นลงจากระดับอางอิงเดิม
ข
คําตอบ 2 : การที่คลื่นกระทําดานขางเรือหรือทายเรือแลวเรือยกตัวสูงขึ้นลงจากระดับอางอิงเดิม
กร
คําตอบ 3 : การที่เมื่อนําของหนักมากๆ ใสในเรือบริเวณหัวเรือโดยฉับพลันแลวทําใหเรือยกตัวสูงขึ้นลงจากระดับอางอิงเดิม
ว
ขอที่ : 50
าว ศ
ิ
ภ
ขอใดคือการเคลื่อนที่ Oscillation ของเรือแบบ Rolling
ส
คําตอบ 1 : การที่คลื่นวิ่งเขากระทําทายเรือที่จอดอยูแลวเรือโคลงไปมาซาย-ขวา
คําตอบ 2 : การที่คลื่นวิ่งเขากระทําหัวเรือที่จอดอยูแลวเรือโคลงไปมาซาย-ขวา
คําตอบ 3 : การที่คลื่นวิ่งเขากระทําดานขางเรือที่จอดอยูแลวเรือโคลงไปมาซาย-ขวา
ขอที่ : 51
ขอใดคือการเคลื่อนที่ Oscillation ของเรือแบบ Yawing
คําตอบ 1 : การที่เรือเมื่อจอดอิสระอยูแลว เข็มหัวเรือเปลี่ยนไปมาระหวางบวก 10 องศา และ ลบ 10 องศา อยูชวงเวลาหนึ่ง
คําตอบ 2 : การที่เรือเมื่อจอดอิสระอยูแลว โคลงซายขวาเปลี่ยนไปมาระหวางบวก 10 องศา และ ลบ 10 องศา อยูชวงเวลาหนึ่ง 28 of 189
คําตอบ 3 : การที่เรือเมื่อจอดอิสระอยูแลว ทริมทายเปลี่ยนไปมาระหวางบวก 10 ซม. และ ลบ 10 ซม. อยูชวงเวลาหนึ่ง
ขอที่ : 52
่ า ย
ถาเดิมเรือลอยอยูอยางสมดุล หลังจากคอยๆสูบน้ําอับเฉา (Ballast) เขาถังกลางลําบริเวณหัวเรือเสร็จสิ้น ขอใดกลาวถูกตอง
น
คําตอบ 1 : 1. เรือยอมเกิด Oscillation แบบ Rolling
ห
คําตอบ 2 : เรือยอมเกิด Oscillation แบบ Heaving
จ ำ
คําตอบ 3 : เรือยอมเกิด Oscillation แบบ Swaying
ม
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 53
แทงไมรูปคลายแปรงลบกระดานแทงหนึ่งถูกกดใหจมขนานอยูใตน้ําลึกมาก ถายกเลิกแรงกดทันที แทงไมนี้จะลอยขึ้นสูผิวหนาน้ําทันที ถามวาชวงแรกที่แทงไมลอยขึ้นสูผิวหนาน้ําจะ
ิท
สังเกตเห็นแทงไมเคลื่อนที่ Oscillation แบบใดชัดเจนที่สุด
ส
คําตอบ 1 : Heaving
น
ว
Swaying
ง
คําตอบ 3 : Yawing
ส
คําตอบ 4 : Surging
ขอ
กร
ขอที่ : 54
แทงไมหนักมากรูปทรงคลายแปรงลบกระดานแทงหนึ่งกําลังลอยอิสระในน้ํานิ่ง ถาทําน้ํากระเพื่อมพอประมาณเขาใสทางดานขางของแทงไมนี้สักระยะเวลาหนึ่ง ชวงแรกๆจะสังเกต
ว
เห็นแทงไมเคลื่อนที่ Oscillation แบบใดชัดเจนที่สุด
Heaving
าว ศ
ิ
ภ
Swaying
ส
คําตอบ 3 : Rolling
ขอที่ : 55
ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของเรือในคลื่นปกติ (Regular Wave)
คําตอบ 1 : ถา Encountering Frequency เทากับศูนย ตําแหนงสัมพันธระหวางเรือกับคลื่นจะไมเปลี่ยน
คําตอบ 2 : ถา Encountering Frequency มากกวาศูนย แลวคลื่นตามมาจากดานหลัง คลื่นจะวิ่งแซงเรือไปในที่สุด
คําตอบ 3 : ถา Encountering Frequency นอยกวาศูนย แลวคลื่นอยูขางหนาเรือ เรือจะแลนไปทันคลื่นในที่สุด
29 of 189
ขอที่ : 56
ลักษณะการเคลื่อนที่ของเรือในทะเลโดยที่เรือแลนไปทิศทางเดียวกับคลื่นที่กําลังเคลื่อนที่อยู เรียกวาอะไร
คําตอบ 1 : Head Sea
ย
Following Sea
่ า
คําตอบ 3 : Beam Sea
น
คําตอบ 4 : Slow Overtaking Sea
ขอที่ : 57
จ ำ ห
ม
ลักษณะการเคลื่อนที่ของเรือที่แลนลงใต ในทะเลที่คลื่นวิ่งมาจากทิศตะวันออก เรียกวาอะไร
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 2 : Following Sea
ิท
คําตอบ 4 : South Heading Sea
นส
ว
ขอที่ : 58
ง
ถาขณะนั้นทิศทางการเคลื่อนที่ของเรือตางกับทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่น 270 องศา แสดงวาเรือกําลังเคลื่อนที่ในสภาพแวดลอมแบบใด
อ ส
ข
คําตอบ 2 : Following Sea
กร
ว
คําตอบ 4 : Overtaking Sea
ขอที่ : 59
าว ศ
ิ
ภ
การจะกําหนดวาเปนคลื่นในน้ําลึกหรือน้ําตื้นจะพิจารณาจากขอใด
ส
คําตอบ 1 : ความลึกเฉลี่ยของทองทะเลบริเวณนั้น
คําตอบ 2 : เทียบความยาวคลื่นกับความลึกเฉลี่ยของทองทะเลบริเวณนั้น
คําตอบ 3 : เทียบความสูงคลื่นกับความลึกเฉลี่ยของทองทะเลบริเวณนั้น
คําตอบ 4 : ดูจากความชันของคลื่น
ขอที่ : 60
ขอใดกลาวถูกตอง
คําตอบ 1 : ความยาวคลื่นในน้ําตื้นอิสระตอความยาวคลื่น
คําตอบ 2 : ความยาวคลื่นในน้ําตื้นไมอิสระตอความยาวคลื่น 30 of 189
คําตอบ 3 : ความยาวคลื่นในน้ําลึกอิสระตอความยาวคลื่น
คําตอบ 4 : ความสูงคลื่นในน้ําลึกไมสัมพันธกับความโนมถวงของโลก
ขอที่ : 61
่ า ย
ขอใดกลาวถูกตอง เกี่ยวกับคลื่นในน้ําตื้น ณ ที่แหงหนึ่ง ๆ
น
คําตอบ 1 : คลื่นที่ยาว 10 เมตร เร็วเทากับคลื่นที่ยาว 9 เมตร
ห
คําตอบ 2 : ความเร็วคลื่นคํานวณไดจากความลึกเฉลี่ยของน้ําขณะนั้น
จ ำ
คําตอบ 3 : ความโนมถวงของโลกมีผลโดยตรงกับความเร็วคลื่น
ม
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 62
ขอใดกลาวถูกตอง เกี่ยวกับคลื่นในน้ําลึก
ิท
คําตอบ 1 : การคํานวณความเร็วตองนําความยาวคลื่นมาประกอบดวย
ส
คําตอบ 2 : การคํานวณความเร็วไมตองนําความโนมถวงโลกมาพิจารณาดวย
ว น
คําตอบ 3 : ความเร็วคลื่นอิสระตอความยาวคลื่น
ง
อ ส
ข
ขอที่ : 63
กร
ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับคลื่นในน้ําตื้น
ว
คําตอบ 1 : ถาทราบความยาวคลื่นจะคํานวณความเร็วคลื่นไดทันที
ศ
ิ
คําตอบ 2 : คลื่นเดียวกันจะมีความเร็วบนดวงจันทรเทากับบนโลก
าว
คําตอบ 3 : ถาทราบความลึกน้ําจะคํานวณความเร็วคลื่นไดทันที
ภ
ขอที่ : 64
ส
ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับคลื่นในน้ําลึก
คําตอบ 1 : ถาทราบความยาวคลื่นจะคํานวณความเร็วคลื่นไดทันที
คําตอบ 2 : คลื่นเดียวกันจะมีความเร็วบนดวงจันทรเทากับบนโลก
คําตอบ 3 : ถาทราบความลึกน้ําจะคํานวณความเร็วคลื่นไดทันที
ขอที่ : 65 31 of 189
ในการเคลื่อนที่แบบแกวงไปมา (Oscillatory) ตําแหนงใดที่มีแรง Restoring นอยที่สุด
คําตอบ 1 : ตําแหนงสมดุล
คําตอบ 2 : ตําแหนงแอมปลิจูดสูงสุด
คําตอบ 3 : ตําแหนงที่มีระยะขจัดสูงสุด
ย
คําตอบ 4 : ตําแหนงที่มีระยะขจัดต่ําสุด
น่ า
ห
ขอที่ : 66
ำ
ในการเคลื่อนที่แบบ Simple Harmonic ความถี่เชิงมุมของการเคลื่อนที่(Angular Frequency) มีคาเทากับ
คําตอบ 1 : ความเร็วในการเคลื่อนที่ครึ่งรอบวงกลม
มจ
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : ความเร็วในการเคลื่อนที่ครบรอบวงกลม
ส ิท
คําตอบ 4 : ขอ 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 67
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
คําตอบ 1 : 1 เมตร
ภ
ส 3 เมตร
4 เมตร
ขอที่ : 68
ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง
คําตอบ 1 : คาบเวลาในการเคลื่อนที่มีคาเทากับเวลาที่ใชในการเคลื่อนที่ ณ จุดใดๆ ครบ 1 รอบพอดี
32 of 189
คําตอบ 3 : คาบเวลาคือ สวนกลับของความถี่
คําตอบ 4 : ความถี่เชิงมุมแปรผันตรงกับคาบเวลา
ย
69
่ า
การรวมกันของการเคลื่อนที่แบบ Simple Harmonic Motion ขอใดตอไปนี้กลาวไมถูกตอง
น
คําตอบ 1 : การเคลื่อนที่ของทั้งสองจะตองมีขนาดแอมปลิจูดเทากัน
ห
คําตอบ 2 : การเคลื่อนที่ของทั้งสองไมจําเปนตองมีมุมเฟสเทากัน
จ ำ
คําตอบ 3 : การเคลื่อนที่ของทั้งสองตองมีคาบเวลาเทากัน
ม
คําตอบ 4 : ความถี่ที่ไดจากการรวมกันของการเคลื่อนที่ทั้งสองตองเทากับความถี่เดิมของการเคลื่อนที่ทั้งสอง
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 70
ขอใดตอไปนี้ เปนเงื่อนไขในการรวมกันของการเคลื่อนที่แบบ Simple Harmonic Motion
ิท
คําตอบ 1 : ตองมีความถี่เทากัน
ส
คําตอบ 2 : ตองมีแอมปลิจูดเทากัน
ว น
คําตอบ 3 : ตองมีคาบเวลาเทากัน
ง
คําตอบ 4 : ตองมีมุมเฟสเทากัน
อ ส
ข
ขอที่ : 71
กร
ในการเคลื่อนที่แบบแกวงไปมา (Oscillatory) ตําแหนงใดที่มีอัตราเรงสูงที่สุด
ว
ศ
ิ
คําตอบ 2 : ตําแหนง 2/3 ของระยะขจัดสูงสุดจากตําแหนงสมดุล
าว
ภ
ขอที่ : 72
ส
ในการเคลื่อนที่แบบแกวงไปมา (Oscillatory) กราฟในขอใดตอไปนี้เปนความสัมพันธระหวาง ความเร็วของการเคลื่อนที่ (V) กับ ระยะขจัด (Displacement): Z
33 of 189
่ า ย
หน
ำ
มจ
า้
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ว
าว ศ
ิ
ขอที่ : 73
ส ภ
ในการเคลื่อนที่แบบแกวงไปมา (Oscillatory) กราฟในขอใดตอไปนี้เปนความสัมพันธระหวาง อัตราเรงของการเคลื่อนที่ (A) กับ ระยะขจัด (Displacement): Z
34 of 189
่ า ย
หน
ำ
มจ
า้
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ว
าว ศ
ิ
ขอที่ : 74
ส ภ
ขอใดตอไปนี้ กลาวไมถูกตอง
คําตอบ 1 : ในขณะกอนที่วัตถุจะเริ่มเคลื่อนที่ออกจากแนวสมดุล วัตถุจะมีแตเฉพาะพลังงานจลน
คําตอบ 2 : พลังงานจลนจะมีคาลดลงเมื่อความเร็วของการเคลื่อนที่ลดลง
คําตอบ 3 : พลังงานศักยจะมีคามากที่สุดเมื่อวัตถุเคลื่อนไปสูจุดหยุดนิ่ง
คําตอบ 4 : พลังงานศักยจะมีคาเพิ่มขึ้นเมื่อความเร็วของการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น
ขอที่ : 75 35 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
นส
ง ว
อ ส
ขอที่ : 76
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 3 : 3.14 เมตร
คําตอบ 4 : 2เมตร
ขอที่ : 77
36 of 189
่ า ย
หน
ำ
มจ
า้
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
ข
วกร
าว ศ
ิ
ภ
ส
ขอที่ : 78
37 of 189
ย
่ า
น
ำ ห
มจ
า้
ขอที่ : 79
ิธ์ ห
ในการเคลื่อนที่แบบแกวงไปมา (Oscillatory) ตําแหนงใดที่มีแรง Restoring มากที่สุด
คําตอบ 2 : ตําแหนง 2/3 ของระยะขจัดสูงสุดจากตําแหนงสมดุล
ิท
นส
ง ว
ส
ขอที่ : 80
ขอ
ว กร
าว ศ
ิ
ภ
คําตอบ 1 : 0 เมตร/วินาที
ส
คําตอบ 2 : 3.14 เมตร/วินาที
ขอที่ : 81
38 of 189
ย
่ า
น
ำ ห
มจ
า้
ขอที่ : 82
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
ส
ขอ
กร
ศ
ิ ว
าว
ส
ภ
ขอที่ : 83
39 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ขอที่ : 84
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
0 เมตร/วินาที
ขอที่ : 85
40 of 189
ย
่ า
น
จ ำ ห
ขอที่ : 86
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ส
คําตอบ 3 :ภ
ขอที่ : 87
41 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
42 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
น
ขอที่ : 88
ง ว
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ภ
ส
ขอที่ : 89
43 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ขอที่ : 90 ส ภ
44 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ขอที่ : 91 ส ภ
45 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
ส
ขอ
วกร
าว ศ
ิ
ขอที่ : 92
ส ภ
คําตอบ 1 : 7 cos (0.2t)
คําตอบ 2 : 0.2cos(7t) 46 of 189
คําตอบ 3 : 1.4 sin (0.2t)
คําตอบ 4 : - 1.4 sin (0.2t)
ขอที่ : 93
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
คําตอบ 2 : - 1.4 sin (0.2t)
คําตอบ 3 : 7 sin (0.2t)
คําตอบ 4 : - 7 sin (0.2t)
ส ิท
น
ขอที่ : 94
ง ว
อ ส
คําตอบ 1 : 0.28 sin (0.2t)
กร ข
ว
ศ
ิ
- 0.28 sin (0.2t)
าว
คําตอบ 3 : 0.28 cos (0.2t)
คําตอบ 4 : - 0.28 cos (0.2t)
ขอที่ : 95
ส ภ
คําตอบ 1 : 0.2 วินาที
47 of 189
ขอที่ : 96
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
น
ง ว
อ ส
กร ข
ว
ขอที่ : 97
าว ศ
ิ
ส
ภ 0.032 rad/sec
0.2 rad/sec
คําตอบ 3 : 1 rad/sec
คําตอบ 4 : 5.2 rad/sec
ขอที่ : 98
48 of 189
่ า ย
หน
ำ
มจ
า้
ิธ์ ห
ส ิท
ขอที่ : 99
ง ว น
อ ส
กร ข
คําตอบ 2 : -15
ว
คําตอบ 4 : - 45
าว ศ
ิ
ภ
100
ส
คําตอบ 1 : - 1.5 sin (0.5t)
คําตอบ 2 : - 3 cos (0.5t)
คําตอบ 4 : 3 cos (0.5t)
ขอที่ : 101
ในกรณีของการเคลื่อนที่แบบฮารโมนิกอยางงาย เมื่อวัตถุเคลื่อนที่ออกจากตําแหนงสมดุล (Equilibrium Position) จะมีแรงปริมาณหนึ่งพยายามดึงใหวัตถุกลับไปยั
49 of ง189
ตําแหนงสมดุล
ดังเดิมเสมอ และวัตถุจะเคลื่อนที่กลับไปมาผานตําหนงสมดุลโดยมีอัตราเรงภายใตแรงดังกลาวเสมอ แรงดังกลาวนี้มีชื่อเรียกเฉพาะวาอยางไร
คําตอบ 1 : Restoring
คําตอบ 2 : Harmonic
คําตอบ 3 : Angular Acceleration
ย
คําตอบ 4 : Buckling
น่ า
ห
ขอที่ : 102
ำ
ถาการเคลื่อนที่แบบ Simple Harmonic Motion มีระยะขจัดในเทอมของเวลาเปน cos(0.2t) จงคํานวณหาอัตราเรงในเทอมของเวลา
มจ
คําตอบ 1 : - 0.04 sin (0.2t)
า้
คําตอบ 2 : - 0.04 cos (0.2t)
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : 0.04 sin (0.2t)
คําตอบ 4 : 0.04 cos (0.2t)
ขอที่ : 103
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
50 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ขอที่ : 104
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
51 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ขอที่ : 105
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
52 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ขอที่ : 106
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
ขอที่ : 107
ถานานน้ําแหงหนึ่งเกิดคลื่นฮารโมนิคที่มีความยาวคลื่น 1,000 m. และมีความเร็วของคลื่นเทากับ 20 m/s โดยที่ขณะนั้นน้ํามีความลึกเทากับ 100 m จงคํานวณหาคาบเวลาการ
53 of 189
เคลื่อนที่ของคลื่น ดังกลาว
คําตอบ 1 : 5 Sec.
ย
น่ า
ห
ขอที่ : 108
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
ข
ว กร
ศ
ิ
ภ าว
ส
ขอที่ : 109
ถารองน้ําแหงหนึ่งเกิดคลื่นฮารโมนิคที่มีความยาว 50 m. และสูง 2 m. โดยที่ขณะนั้นน้ํามีความลึก 150 m. มีความเวลาการเคลื่อนที่เทากับ 32.024 sec. จงหาคาตัวเลขคลื่น (Wave
Number)
คําตอบ 1 : 0.13 54 of 189
คําตอบ 3 : 32.02
คําตอบ 4 : 78.07
่ า ย
ขอที่ : 110
น
ถาคลื่นฮารโมนิคในรองน้ําแหงหนึ่งมีความยาวคลื่นเทากับ 15 m. มีแอมปลิจูดขนาด 0.25 m. จงหาคาบเวลาของคลื่น
ห
คําตอบ 1 : 3.10 Sec.
จ ำ
ม
า้
ขอที่ : 111
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
ส
3.42 Sec.
อ
ข
กร
ศ
ิ ว
าว
112
ส ภ 2.21 m/s
ขอที่ : 113
55 of 189

่ า ย
หน
ำ
ขอที่ : 114
จ
ในการเคลื่อนที่อยางงาย (Simple Harmonic Motions) แรงใดที่พยายามดึงวัตถุใหกลับไปยังตําแหนงสมดุล
ม
คําตอบ 1 : แรงภายนอก (External Force)
า้
คําตอบ 2 : แรงภายใน (Internal Force)
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : แรงตานการเคลื่อนที่ (Restoring Force)
คําตอบ 4 : แรงเฉือน
ส ิท
น
ขอที่ : 115
ง ว
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ส
ภ
56 of 189
ขอที่ : 116
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ขอที่ : 117
ภ
ในการเคลื่อนที่แบบแกวงไปมา (Oscillatory) ตําแหนงใดที่มีความเร็วในการเคลื่อนที่สูงสุด
ส
คําตอบ 2 : ตําแหนงที่มีแอมปลิจูดสูงสุด
ขอที่ : 118
57 of 189
่ า ย
คําตอบ 2 : -3 เมตร
น
ห
คําตอบ 4 : -3.14 เมตร
จ ำ
ม
ขอที่ : 119
า้
กราฟในขอใดตอไปนี้เปนความสัมพันธระหวาง แรง Restoring (F)กับ ระยะขจัด (Displacement): Z
ิธ์ ห
ส ิท
น
ง ว
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
58 of 189
่ า ย
ขอที่ : 120
หน
ำ
การรวมกันของการเคลื่อนที่แบบ Simple Harmonic Motion ที่มีคาบเวลาของการเคลื่อนที่เทากัน ผลลัพธที่ไดคือ
จ
คําตอบ 1 : การเคลื่อนที่ที่มีขนาดแอมปลิจูดเทาเดิม
คําตอบ 2 : การเคลื่อนที่ที่มีขนาดระยะขจัดเทาเดิม
า้ ม
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : การเคลื่อนที่ที่มีมุมเฟสเทาเดิม
คําตอบ 4 : การเคลื่อนที่ที่มีความถี่เทาเดิม
ขอที่ : 121
ส ิท
น
สมการในขอใดตอไปนี้ เปนสมการโดยทั่วไปของคลื่นไซนูซอยดอย ( Sinusoidal Water Wave )
ง ว
ส
ขอ
กร
ศ
ิ ว
าว
ส
ขอที่ : 122
คุณสมบัติใดในขอตอไปนี้ ที่ไมมีผลตอความเร็วของคลื่นแบบ Sinusoidal
คําตอบ 3 : ความสูงคลื่น
คําตอบ 4 : คาแรงโนมถวงของโลก 59 of 189
ขอที่ : 123
การเคลื่อนที่ของคลื่น Sinusoidal ในน้ําลักษณะใด ที่ความยาวคลื่นแทบจะไมมีผลตอความเร็ว
่ า ย
น
ห
คําตอบ 4 : คาแรงโนมถวงของโลก
จ ำ
ม
า้
124
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
ข
ว กร
ศ
ิ
ภ าว
ส
ขอที่ : 125
60 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
ม
า้
ิธ์ ห
ส ิท
ขอที่ : 126
ง ว น
ส
การรวมกันของขบวนคลื่น (Additional of Wave Trains) ซึ่งมีปรากฏการณที่เรียกวา Superposition นั้นหมายถึง
อ
คําตอบ 1 : การรวมกันของขบวนคลื่นที่มีขนาดแอมปลิจูดเทากัน
กร ข
คําตอบ 2 : การรวมกันของขบวนคลื่นที่มีคาบเวลาเทากัน
คําตอบ 3 : การรวมกันของขบวนคลื่นที่มีความถี่เทากัน
ว
คําตอบ 4 : การรวมกันของขบวนคลื่นที่มีความเร็วเทากัน
าว ศ
ิ
ภ
127
ส
61 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ขอที่ : 128
ส ิท
ง ว น
ส
อ
ข
2.12
กร
คําตอบ 4 : 12.69
ศ
ิ ว
าว
ขอที่ : 129
ส ภ
62 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
ขอที่ : 130
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
น
ว
5
ง
ส
อ
กร ข
ว
131
าว ศ
ิ
ส
ภ 0.14
7.14
คําตอบ 3 : 136.8
ขอที่ : 132
แรง Damping ที่กระทํากับเรือในระหวางที่เรือเคลื่อนที่แบบ Rolling มีทีมาจากองคประกอบขอใด
คําตอบ 1 : คลื่น
คําตอบ 2 : ความฝดขางตัวเรือหรือจากคลื่นกระแสน้ําวน 63 of 189
คําตอบ 3 : กระดูกงูสวนยื่น (Bilge Keel), Skeg และ บรรดาสวนยื่นตางๆ (Appendages)
ขอที่ : 133
่ า ย
การติดตั้งกระดูกงูปก (Bilge Keel) เพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการเกิด Free Oscillation และถือเปนการเพิ่มคาใดใหกับเรือ
น
คําตอบ 1 : Exciting Force
ห
จ ำ
คําตอบ 3 : Damping
ม
คําตอบ 4 : Inertia
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 134
ในการเคลื่อนที่แบบ Rolling การที่เรือมีมุมเอียงไปกราบซายขวาของเรือลดลงเรื่อย ๆ เปนผลมาจากคาใด
ิท
คําตอบ 1 : Exciting Force
ส
ว น
คําตอบ 3 : Damping
ง
คําตอบ 4 : Inertia
อ ส
ข
ขอที่ : 135
กร
สําหรับยานความเร็วใชงานของเรือนั้นถูกแบงออกเปน 3 ยาน คือ ยานกอนวิกฤต (Subcritical Zone), ยานวิกฤต ( Critical Zone) และยานเหนือวิกฤต (Supercritical Zone) ซึ่ง
ว
เรือจะปฏิบัติการในยานใดขึ้นอยูกับตัวแปรใด
ศ
ิ
คําตอบ 1 : ความเร็วและความยาวของเรือ
าว
คําตอบ 2 : ความเร็วของเรือ และความลึกของน้ํา
ภ
คําตอบ 3 : Froude Number และ ลักษณะที่เรือแลนเขาหาคลื่น
ส
คําตอบ 4 : ความเร็วของเรือ และความเร็วของลมที่กระทํากับเรือ
ขอที่ : 136
การเคลื่อนที่เชิงมุมรอบแกนทางตั้งของเรือ คือหัวเรือกวาดไปในทางระดับ จัดเปนการเคลื่อนที่ แบบใด
คําตอบ 2 : Swaying
คําตอบ 3 : Pitching
ขอที่ : 137 64 of 189
ในการเคลื่อนที่แบบ Heaving แรง Damping Force มีทิศทางเปนอยางไรกับการเคลื่อนที่ของเรือ
คําตอบ 1 : ทิศทางเดียวกับการเคลื่อนที่ของเรือ
คําตอบ 2 : ทิศทางตรงกันขามกับการเคลื่อนที่ของเรือ
คําตอบ 3 : ทิศทางตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของเรือ
ย
น่ า
ห
ขอที่ : 138
ำ
การที่เรือเคลื่อนที่ไปขางหนาหรือถอยหลังในแนวระดับ เปนการเคลื่อนที่ลักษณะใด
มจ
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 139
ส ิท
ว น
การเคลื่อนที่ทางขวางในแนวระดับ (เคลื่อนที่ทางขาง) เปนการเคลื่อนที่ลักษณะใด
ง
ส
อ
ข
Pitching
กร
ขอที่ : 140
ศ
ิ ว
าว
เทอม Virtual Mass ในสมการการเคลื่อนที่ของเรือในของเหลวคืออะไร ?
ภ
คําตอบ 1 : คือคาโมเมนตอินเนอเชียของมวลเรือ
ส
คําตอบ 2 : คือแรงที่กระทํากับหารดวยคาแรงโนมถวง (g)
คําตอบ 3 : คือมวลเรือบวกกับมวลที่เพิ่ม (Added Mass) อันเนื่องจากเรือเคลื่อนทีในของเหลว
คําตอบ 4 : มวลที่เพิ่ม (Added Mass) อันเนื่องจากเรือเคลื่อนที่ในของเหลว
ขอที่ : 141
การหาคาสัมประสิทธิ์ของเทอมในสมการเคลื่อนที่แบบ Heaving เทอมใดที่คํานวณไดโดยตรงจาก ขนาดพื้นที่แนวน้ําของเรือ
คําตอบ 1 : เทอมที่เปนแรง Inertia
คําตอบ 2 : เทอมที่เปนแรง Damping
คําตอบ 3 : เทอมที่เปนแรง Restoring 65 of 189
คําตอบ 4 : เทอมที่เปนแรง Exciting
ขอที่ : 142
เรือรูปรางปกติทั่วไปมีคา Added Mass ในการเคลื่อนที่แบบ Heaving ประมาณเทาใด
คําตอบ 1 : 10 %
่ า ย
น
คําตอบ 2 : 30%
ห
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
143
เมื่อใดเริ่มมีผลกระทบจากความตื้นของน้ํา (Shallow Water Effects) ตอการเคลื่อนที่ของเรือโดยทั่วไป
คําตอบ 1 : เมื่อความลึกน้ําใกลเคียงกับความยาวเรือ
ิท
คําตอบ 2 : เมื่อความลึกน้ํานอยกวา 4 เทาของระดับกินน้ําลึกเรือ
ส
ว น
คําตอบ 4 : เมื่อคา Froude Number นอยกวา 1.0
ส ง
อ
ขอที่ : 144
ข
เมื่อใดที่อิทธิพลจากความตื้นของน้ํา (Shallow Water Effects) เริ่มมีอิทธิพลตอการเคลื่อนที่ของเรือโดยทั่วไปมากขึ้น
กร
ว
ศ
ิ
คําตอบ 3 : เมื่อความยาวเรือประมาณเทากับความลึกน้ํา
าว
คําตอบ 4 : เมื่อคา Froude Number มากกวา 1.0
ขอที่ : 145
ส ภ
การเคลื่อนที่ของเรือบนผิวหนาน้ําแบงไดเปนกี่ลักษณะ
ขอที่ : 146
Heaving คือการเคลื่อนที่ของเรือในลักษณะใด 66 of 189
คําตอบ 1 : การเคลื่อนที่ไปขางหนาหรือถอยหลังในแนวระดับ (ตามแนวแกน x)
คําตอบ 2 : การเคลื่อนที่ทางขวางในแนวระดับ ตามแนวแกน y (ตั้งฉากกับแกน x)
คําตอบ 3 : การเคลื่อนที่ในแนวดิ่งตามแนวแกน z (ตั้งฉากกับแกน x และ y)
คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ
่ า ย
น
ขอที่ : 147
ห
Pitching คือการเคลื่อนที่ของเรือในลักษณะใด
จ ำ
คําตอบ 1 : การเคลื่อนที่เชิงมุมรอบแกนทางยาวของเรือ (แกน x)
ม
คําตอบ 2 : การเคลื่อนที่เชิงมุมรอบแกนทางขวางของเรือ (แกน y)
า้
คําตอบ 3 : การเคลื่อนที่เชิงมุมรอบแกนทางตั้งของเรือ (แกน z)
ิธ์ ห
ิท
ขอที่ : 148
ส
Rolling คือการเคลื่อนที่ของเรือในลักษณะใด
ว น
คําตอบ 1 : การเคลื่อนที่เชิงมุมรอบแกนทางยาวของเรือ (แกน x)
ง
คําตอบ 2 : การเคลื่อนที่เชิงมุมรอบแกนทางขวางของเรือ (แกน y)
ส
คําตอบ 3 : การเคลื่อนที่เชิงมุมรอบแกนทางตั้งของเรือ (แกน z)
อ
กร ข
ว
ขอที่ : 149
ศ
ิ
การเคลื่อนที่ของเรือลักษณะใด ที่ทําใหเกิดการทริม (Trim)
าว
ภ
ส
ขอที่ : 150
อะไรคือแรงที่เรียกวา Restoring Force
คําตอบ 1 : แรงกระทําจากภายนอก
คําตอบ 2 : แรงที่คอยหนวงการเคลื่อนที่ของระบบ
คําตอบ 3 : แรงที่พยายามดึงใหเรือกลับสูแนวสมดุลเสมอ
คําตอบ 4 : แรงเสียดทานผิวของเรือ 67 of 189
ขอที่ : 151
อะไรคือการเคลื่อนที่แบบ Forced, Damped Heaving Motion
คําตอบ 1 : การเคลื่อนที่ที่เกิดจากแรง Inertia, แรง Damping, แรง Restoring และ แรงกระทําจากภายนอกมากระทํา
คําตอบ 2 : การเคลื่อนที่ที่เกิดจาก Inertia และ แรง Restoring มากระทําเทานั้น ไมมีแรงภายนอกและไมมีการหนวงในระบบ
่ า ย
น
คําตอบ 3 : การเคลื่อนที่ที่ปราศจาก แรงภายนอกมากระทํา และในระบบมีแรง Damping คอยหนวงการเคลื่อนที่ มีแรง Inertia และ แรง Restoring
ห
คําตอบ 4 : การเคลื่อนที่ที่มีแรงภายนอกมากระทํา มีแรง Inertia และ แรง Restoring แตไมมีแรง Damping
จ ำ
ม
า้
152
อะไรคือการเคลื่อนที่แบบ Free, Undamped Heaving Motion
ิธ์ ห
ิท
ส
ง ว น
ส
153
อ
อะไรคือการเคลื่อนที่แบบ Free, Damped Heaving Motion
ข
กร
ว
ศ
ิ
ขอที่ : 154
ภ าว
ส
แรงใดที่ทําใหเกิดการเคลื่อนที่แบบ Heaving
คําตอบ 1 : แรง Inertia
คําตอบ 3 : แรง Restoring
ขอที่ : 155
เราสามารถเพิ่มการ Damping ในการเคลื่อนที่แบบ Pitching ของเรือไดอยางไร
คําตอบ 1 : เพิ่มความกวางใหกับเรือ 68 of 189
คําตอบ 2 : ลดระยะกินน้ําลึก
คําตอบ 3 : ทําใหเรือมีรูปรางหนาตัดเปนตัว V มากขึ้น
่ า ย
ขอที่ : 156
น
ขอใดคือความหมายของคําวา Ahead Seas
ห
คําตอบ 1 : กรณีหัวเรือแลนสูคลื่น
จ ำ
คําตอบ 2 : กรณีคลื่นแลนตามจากทางทายจนทัน และแซงหนาเรือไปในที่สุด
ม
คําตอบ 3 : กรณีเรือแลนตามคลื่นไปจนทัน แลวแซงหนาคลื่นไปในที่สุด
า้
ขอที่ : 157
ิธ์ ห
ิท
ขอใดคือความหมายของคําวา Following Seas
ส
ว น
ง
ส
ขอ
กร
ขอที่ : 158
ว
อะไรคือแรงที่เรียกวา Damping Force
ศ
ิ
าว
ภ
ส
คําตอบ 4 : แรงเสียดทานผิวของเรือ
ขอที่ : 159
ขอใดคือความหมายของคําวา Overtaking Seas
69 of 189
ขอที่ : 160
อะไรคือแรงที่เรียกวา Exciting หรือ Encountering Force
่ า ย
น
คําตอบ 4 : แรงเสียดทานผิวของเรือ
ขอที่ : 161
จ ำ ห
ม
โมเมนตใดที่ทําใหเกิดการเคลื่อนที่แบบ Pitching และ Rolling
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : Inertial Moment
คําตอบ 2 : Damping Moment
คําตอบ 3 : Restoring Moment
ิท
นส
ว
ขอที่ : 162
ง
การเคลื่อนที่แบบใดที่ไมใชการเคลื่อนที่แบบแกวงกลับไปมา
อ ส
ข
กร
ว
ขอที่ : 163
าว ศ
ิ
ภ
การเคลื่อนที่แบบใดที่เมื่อเรือถูกรบกวนใหออกจากแนวสมดุลแลว เรือจะไมกลับคืนเขาสูตําแหนงเดิมอีก นอกจากวาจะมีแรงจากภายนอกหรือโมเมนตที่มีขนาดเทากับการรบกวนดัง
ส
กลาวมากระทําในทิศตรงกันขาม
ขอที่ : 164
ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับมวลที่เพิ่มขึ้น “Added mass” ในการเคลื่อนที่แบบ Heaving
คําตอบ 1 : มวลที่เพิ่มขึ้น (Added mass) ขึ้นอยูกับขนาดมวลของเรือ 70 of 189
คําตอบ 2 : มวลที่เพิ่มขึ้น (Added mass) จะเพิ่มขึ้นถาคาสัมประสิทธิ์แทงตัน (CB) เพิ่มขึ้น
คําตอบ 3 : มวลที่เพิ่มขึ้น (Added mass) จะเพิ่มขึ้นถาอัตราสวนความกวางตอความยาวเรือ (B/L) เพิ่มขึ้น
่ า ย
ขอที่ : 165
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : ชนิดของการ Oscillation
คําตอบ 2 : ความถี่ Oscillation ของการปะทะ
คําตอบ 3 : รูปรางของวัตถุ
ิท
คําตอบ 4 : ทุกขอที่กลาวมา
นส
ว
ขอที่ : 166
ง
ในการศึกษาเชิงพลศาสตรดวยแบบจําลอง จะตองทําการทดลองโดยพยายามเลียนแบบสภาพแวดลอมใหเหมือนจริงมากที่สุด และตองดําเนินการอยางถูกตองใหบรรลุกฏความคลาย
ส
คลึงใดบาง
คําตอบ 1 : Geometrical Similarity
ขอ
กร
คําตอบ 2 : Kinematic Similarity
ว
คําตอบ 3 : Dynamical Similarity
ศ
ิ
ขอที่ : 167
ภ าว
ส
Kinematic Similarity ระหวางเรือจริงกับเรือจําลอง คืออะไร
คําตอบ 1 : ความคลายคลึงกันทางรูปราง
คําตอบ 2 : ความเหมือนกัน หรือเปนสัดสวนกันของการเปลี่ยนแปลงความเร็ว
คําตอบ 3 : ความเหมือนกัน หรือเปนสัดสวนกันของการเปลี่ยนแปลงขนาดของแรงที่เกิดขึ้น
ขอที่ : 168
Dynamical Similarity ระหวางเรือจริงกับเรือจําลอง คืออะไร
คําตอบ 1 : ความคลายคลึงกันทางรูปราง 71 of 189
คําตอบ 2 : ความเหมือนกัน หรือเปนสัดสวนกันของการเปลี่ยนแปลงความเร็ว
คําตอบ 3 : ความเหมือนกัน หรือเปนสัดสวนกันของการเปลี่ยนแปลงขนาดของแรงที่เกิดขึ้น
่ า ย
ขอที่ : 169
น
ถาเรือจําลองขนาดยาว 4 ม. ลําหนึ่ง มีคาบเวลาของการเคลื่อนที่แบบ Heaving เทากับ 1.45 วินาที จงหาคาบเวลาของการเคลื่อนที่ของเรือจริงที่ยาว 100 ม.
ห
จ ำ
ม
า้
ขอที่ : 170
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
0.736
คําตอบ 2 : 0.934
คําตอบ 3 : 1.014
คําตอบ 4 : 1.236
ขอที่ : 171
72 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
ม
8.537
า้
คําตอบ 2 : 6.727
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : 6.196
คําตอบ 4 : 5.083
ขอที่ : 172
ส ิท
น
แรง Damping ที่กระทํากับเรือในระหวางที่เรือเคลื่อนที่แบบ Rolling มีที่มาจากองคประกอบใดบาง
ง ว
คําตอบ 1 : คลื่น
ส
คําตอบ 2 : ความฝดขางตัวเรือ หรือคลื่นกระแสน้ําวน (Eddy-making)
อ
คําตอบ 3 : กระดูกงูสวนยื่น (Bilge keels) Skeg และสวนยื่นตาง ๆ ของเรือ (Appendages)
กร ข
ขอที่ : 173
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 2 : 4.10 sec 73 of 189
ขอที่ : 174
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
ส
อ
กร ข
ขอที่ : 175
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 1 : 1. V < 3.50 knots
คําตอบ 3 : 3. V < 9.32 knots 74 of 189
ขอที่ : 176
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
คําตอบ 1 : V = 4.72 knots
ส
น
ว
ง
V = 24.72 knots
ขอที่ : 177
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 1 : 542.77
คําตอบ 2 : 656.38
คําตอบ 3 : 792.59
คําตอบ 4 : 902.74
ขอที่ : 178
75 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : 0.652
คําตอบ 2 : 0.831
ิท
ส
ขอที่ : 179
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
ขอที่ : 180 76 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
ส
Surging
น
ว
ส ง
อ
ขอที่ : 181
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
ขอที่ : 182 77 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
ส
ขอที่ : 183
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
ขอที่ : 184 78 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
ส
ขอที่ : 185
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 1 : ไปมาระหวาง a กับ c
คําตอบ 2 : ไปมาระหวาง d กับ b
คําตอบ 3 : a ไป b หรือ a ไป d
79 of 189
ขอที่ : 186
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
น
ว
คําตอบ 3 : a ไป b หรือ a ไป d
ส ง
ขอ
กร
ขอที่ : 187
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 3 : a ไป b หรือ a ไป d 80 of 189
ขอที่ : 188
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
น
ว
ง
ส
Pitching
อ
ขอที่ : 189
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 3 : Pitching 81 of 189
ขอที่ : 190
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
น
ว
ง
ส
Pitching
อ
ขอที่ : 191
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 1 : Free, Undamped Pitching Motion
คําตอบ 2 : Free, Undamped Heaving Motion
คําตอบ 3 : Forced Heaving Motion
คําตอบ 4 : Forced Swaying Motion 82 of 189
ขอที่ : 192
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
นส
ง ว
อ ส
ข
ว กร
ศ
ิ
ภ าว
ส
ขอที่ : 193
83 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
นส
ง ว
อ ส
ข
วกร
ศ
ิ
ภ าว
ส
ขอที่ : 194
84 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
น
ง ว
อ ส
คําตอบ 3 : ตรงที่ Tuning Factor = 1.0
กร ข
ว
คําตอบ 4 : ตรงที่ Tuning Factor มีคาใกลเคียงกับ 0
ขอที่ : 195
าว ศ
ิ
ส ภ
85 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
ข
ว กร
คําตอบ 3 : ตรงที่ Tuning Factor = 1.0
ศ
ิ
คําตอบ 4 : ตรงที่ Tuning Factor มีคาสูงสุด
ขอที่ : 196
ภ าว
ส
ขอใดกลาวถูกเกี่ยวกับปริมาณมวลของเรือที่เคลื่อนที่ในของเหลวในสมการเคลื่อนที่ทั่วไป
คําตอบ 1 : ปกติจะมีคามากกวามวลเรือในอากาศเล็กนอย
คําตอบ 2 : มีปริมาณเทากับมวลเรือในอากาศ
คําตอบ 3 : มีคามากกวามวลของเรือในอากาศเปนปริมาณเทากับ Added Mass ขณะนั้น
คําตอบ 4 : มีคานอยกวามวลของเรือในอากาศเปนปริมาณเทากับ Added Mass ขณะนั้น
ขอที่ : 197
คา Radius of Gyration มีประโยชนในการคํานวณสมการเคลื่อนที่เชิงมุมของเรือแบบ Rolling, Pitching และ Yawing อยางไร
คําตอบ 1 : นําไปหา Virtual Mass Moment of Inertia ได 86 of 189
คําตอบ 2 : นําไปหา Added Moment of Inertia ได
คําตอบ 3 : นําไปหา Moment of Inertia ของเรือได
่ า ย
ขอที่ : 198
น
Radius of Gyration ของเรือเปนตัวแปรตัวหนึ่งสําหรับพิจารณาการเคลื่อนที่ของเรือแบบใดบาง
ห
คําตอบ 1 : Heaving Rolling และ Swaying
จ ำ
คําตอบ 2 : Rolling Swaying และ Pitching
ม
คําตอบ 3 : Pitching Rolling และ Yawing
า้
คําตอบ 4 : Yawing Swaying และ Surging
ขอที่ : 199
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ส ภ
87 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
200
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
88 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
201
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
89 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
202
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
90 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
203
ส ิท
ง ว น
อ ส
ข
วกร
าว ศ
ิ
ส ภ
91 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
204
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
92 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
205
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ส ภ
93 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
ขอที่ : 206
า้ ม
ิธ์ ห
การเคลื่อนที่ของคลื่นแบบปกติ (Regular Wave) มีความสูงคลื่นเทากับขอใด
ิท
คําตอบ 2 : สองเทาของแอมปลิจูดของคลื่น
ส
คําตอบ 3 : ความสูงที่วัดระหวางแกนอางอิงกับจุดสูงสุด
น
คําตอบ 4 : ความสูงที่วัดระหวางแกนอางอิงกับจุดต่ําสุด
ง ว
อ ส
ขอที่ : 207
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
94 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ขอที่ : 208
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
95 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ขอที่ : 209
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
96 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ขอที่ : 210
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
97 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ขอที่ : 211
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ส
คําตอบ 2 :ภ
คําตอบ 4 : 98 of 189
ขอที่ : 212
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ขอที่ : 213
ส ภ
99 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
ม
ขอที่ : 214
า้
การเคลื่อนที่ของเรือบนผิวหนาน้ําจะมีลักษณะเปนแบบแกวงไปมา (Oscillatory) อยูตลอดเวลา การเคลื่อนที่ขอใดที่ไมไดเกิดขึ้นภายใตแรง Restoring
ิธ์ ห
ิท
ส
ขอที่ : 215
ง ว น
ส
การเคลื่อนที่ของเรือบนผิวหนาน้ําจะมีลักษณะเปนแบบแกวงไปมา (Oscillatory) อยูตลอดเวลา การเคลื่อนที่ของเรือแบบแกวงไปมาเชนนี้แบงออกไดเปน 6 ลักษณะ การเคลื่อนที่ใน
อ
ขอใดเปนการเคลื่อนที่ในลักษณะไปขางหนาหรือถอยหลังในแนวระดับ
กร ข
ว
าว ศ
ิ
ขอที่ : 216
ส ภ
100 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ขอที่ : 217 ส ภ
ในกรณีการเคลื่อนที่แบบ Heaving ที่ไมมีแรงภายนอกมากระทําและไมมีการหนวงในระบบ (Free, Undamped Heaving Motion) สมการการเคลื่อนที่จะเปนอยางไร
101 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ว
ขอที่ : 218
าว ศ
ิ
ส ภ
102 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ว
ขอที่ : 219
าว ศ
ิ
ถาเรือจําลองขนาดยาว 16.8 m ลําหนึ่งมีคาบเวลาของการเคลื่อนที่แบบ Heaving (Heaving Period) เทากับ 1.362 วินาที จงหา Heaving Period ของเรือจริงซึ่งยาว 420 m
ภ
ส
ขอที่ : 220
ขอใดคือสมการการเคลื่อนที่เชิงมุมแบบ Pitching
103 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ว
ขอที่ : 221
าว ศ
ิ
ส ภ
คําตอบ 1 : 0.79 Rad/Sec.
ขอที่ : 222
104 of 189
่ า ย
น
ำ ห
จ
า้ ม
ิธ์ ห
ขอที่ : 223
ขอใดคือการเคลื่อนที่ของเรือบนผิวหนาน้ําในลักษณะการเคลื่อนที่แบบเชิงมุม (Rotational) รอบแกน x,y,z
คําตอบ 1 : Surging, Swaying และ Heaving
ิท
คําตอบ 2 : Rolling, Pitching และ Yawing
คําตอบ 3 : Rolling, Swaying และ Heaving
นส
ว
คําตอบ 4 : Rolling, Pitching และ Swaying
ส ง
อ
ขอที่ : 224
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 1 : 0 องศา
ขอที่ : 225
ขอใดตอไปนี้คือการเคลื่อนที่ของเรือแบบเชิงเสน (Linear)ตามแกนหลัก x, Y และ Z
คําตอบ 1 : Surging, Swaying, Heaving
คําตอบ 2 : Yawing, Swaying, Pitching
คําตอบ 3 : Yawing, Rolling, Swaying 105 of 189
คําตอบ 4 : Yawing, Rolling, Pitching
ขอที่ : 226
ขอใดตอไปนี้คือการเคลื่อนที่ของเรือแบบเชิงมุม (Rotational) ตามแกนหลัก x, Y และ Z
่ า ย
น
ห
คําตอบ 3 : Yawing, Rolling, Swaying
จ ำ
คําตอบ 4 : Yawing, Rolling, Pitching
า้ ม
ิธ์ ห
227
ในการศึกษาเชิงพลศาสตรดวยการใชแบบจําลอง (Model) จําเปนตองพิจารณาความคลายคลึงกันทางดานใดระหวางเรือจริงกับเรือจําลอง
คําตอบ 1 : Geometrical Similarity
ิท
คําตอบ 2 : Kinematic Similarity, Dynamical Similarity
ส
คําตอบ 3 : Geometrical Similarity, Kinematic Similarity
ว น
คําตอบ 4 : Geometrical Similarity, Kinematic Similarity, Dynamical Similarity
ส ง
อ
ขอที่ : 228
ข
ถาเรือจําลองขนาดยาว 2 เมตร ลําหนึ่งมีคาบเวลาของการเคลื่อนที่แบบ Heaving เทากับ 2 วินาที จงคํานวณหาคาบเวลาของการเคลื่อนที่ของเรือจริง ขนาดยาว 288 เมตร
กร
คําตอบ 1 : 3 วินาที
ว
ศ
ิ
าว
ขอที่ : 229
ส ภ
การเคลื่อนที่ของเรือแบบเชิงเสน (Linear) ตามแกน Z เรียกวา
ขอที่ : 230
ขอใดตอไปนี้ ไมใชวิธีการเพิ่มคา Damping ของการเคลื่อนที่แบบ Pitching 106 of 189
คําตอบ 1 : เพิ่มความกวางใหกับเรือ
คําตอบ 2 : เพิ่มความยาวใหกับเรือ
คําตอบ 3 : ลดระยะกินน้ําลึก
คําตอบ 4 : ลดคา Cvp(Vertical Prismatic Coefficient)
่ า ย
น
ขอที่ : 231
ห
แรง Damping ที่กระทํากับเรือในระหวางที่เรือเคลื่อนที่แบบ Rolling มีที่มาจากองคประกอบตาง ๆ ในขอใดตอไปนี้ ที่มีความสําคัญนอยที่สุด
จ ำ
คําตอบ 1 : จากคลื่น
ม
คําตอบ 2 : จากความฝดขางตัวเรือหรือจากคลื่นกระแสน้ําวน (Eddy-making)
า้
คําตอบ 3 : จากพลังงานที่หายไปเนื่องจากความรอนที่เกิดขึ้นในระหวางการเกิด Rolling
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : จากกระดูกงูสวนยื่น (Bilge Keel) , Skeg และ Appendages ตางๆ ของเรือ
ิท
ขอที่ : 232
ส
เรือเคลื่อนที่เชิงมุมรอบแกนทางยาวของเรือและโคลงในแนวกราบซายขวาของเรือ เปนการเคลี่อนที่ในลักษณะใด
ว น
ง
ส
อ
ข
Yawing
ว กร
ขอที่ : 233
ศ
ิ
เรือเคลื่อนที่เชิงมุมรอบแกนทางขวางของเรือและโคลงในแนวหัวทายเรือ (เกิด Trim) เปนการเคลี่อนที่ในลักษณะใด
าว
ภ
ส
ขอที่ : 234
การเคลื่อนทีลักษณะใดเปนการเคลื่อนที่ที่เกิดขึ้นภายใตแรง Restoring เมื่อเรือถูกรบกวนใหออกจากแนวสมดุลแลวเรือจะกลับคืนเขาสูแนวสมดุลเดิม
คําตอบ 1 : Surging, Swaying และ Yawing
คําตอบ 2 : Heaving, Rolling และ Pitching
คําตอบ 3 : Surging, Heaving และ Rolling
คําตอบ 4 : Heaving Swaying และ Pitching 107 of 189
ขอที่ : 235
การเคลื่อนที่แบบใดเปนการเคลื่อนที่ในลักษณะเลื่อนไถลไปจากแนวสมดุลเดิม เมื่อเรือถูกรบกวนใหออกจากแนวสมดุลแลวเรือจะไมกลับคืนเขาสูตําแหนงเดิมอีก นอกเสียจากวาจะมี
แรงจากภายนอกหรือโมเมนตที่มีขนาดเทากับการรบกวนดังกลาวมากระทําในทิศทางตรงกันขาม
่ า ย
คําตอบ 1 : Surging, Swaying และ Yawing
น
คําตอบ 2 : Heaving, Rolling และ Pitching
ห
คําตอบ 3 : Surging, Heaving และ Rolling
ำ
คําตอบ 4 : Heaving Swaying และ Pitching
มจ
า้
ขอที่ : 236
ิธ์ ห
เมื่อเปรียบเทียบคาบเวลาของการเคลื่อนที่อิสระแบบ Heaving (Free Heaving) ที่ไมมีแรงภายนอกเขามาเกี่ยวของ แบบที่มีแรง Damping และไมมีแรง Damping จะเปนลักษณะ
ใด
ิท
คําตอบ 1 : คาบเวลาของการเคลื่อนที่ในแบบที่มี Damping จะสั้นกวาเล็กนอย
ส
คําตอบ 2 : คาบเวลาของการเคลื่อนที่ในแบบที่มี Damping จะยาวกวาเล็กนอย
น
คําตอบ 3 : คาบเวลาของการเคลื่อนที่ทั้ง 2 แบบเทากัน
ง ว
ขอที่ : 237
อ ส
กร ข
ในการเคลื่อนที่แบบ Heaving แรง Restoring หรือแรงที่พยายามดึงเรือใหกลับสุแนวสมดุลเปนฟงกชั่นของขอใด
คําตอบ 1 : มวลของเรือกับอัตราเรงของการเคลื่อนที่ในแนวแกน z
ศ
ิ ว
คําตอบ 2 : คาคงที่ของการหนวงกับความเร็วของการเคลื่อนที่ในแนวแกน z
าว
คําตอบ 3 : Restoring Coefficient กับความเร็วของการเคลื่อนที่ในแนวแกน z
คําตอบ 4 : Restoring Coefficient กับระยะขจัด (Displacement) การเคลื่อนที่ของจุด CG. เรือตามแนวแกน z
ขอที่ : 238
ส ภ
ในการเคลื่อนที่แบบ Heaving แรง Damping หรือแรงที่คอยหนวงการเคลื่อนที่ของระบบเปนฟงกชั่นของขอใด
คําตอบ 1 : มวลของเรือกับอัตราเรงของการเคลื่อนที่ในแนวแกน z
คําตอบ 3 : คาคงที่ของการหนวงกับระยะขจัด (Displacement) การเคลื่อนที่ของจุด CG. เรือตามแนวแกน z
ขอที่ : 239
ในการเคลื่อนที่แบบ Heaving แรง Inertia เปนฟงกชันของขอใด 108 of 189
คําตอบ 1 : มวลของเรือรวมกับมวลที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเรือเคลื่อนที่ในของเหลวกับอัตราเรงของการเคลื่อนที่ในแนวแกน z
คําตอบ 3 : คาคงที่ของการหนวงกับระยะขจัด (Displacement) การเคลื่อนที่ของจุด CG. เรือตามแนวแกน z
่ า ย
น
ขอที่ : 240
ห
ในการเคลื่อนที่ของคลื่นแบบไมแนนอน (Irregular Wave) จะมีลักษณะการเปลี่ยนแปลงไปของผิวหนาตามฟงกชั่นใด
จ ำ
คําตอบ 1 : เวลา
ม
คําตอบ 2 : สถานที่
า้
คําตอบ 3 : ความเร็วลม
ิธ์ ห
ิท
ขอที่ : 241
ส
ในการศึกษาการเคลื่อนที่ของเรือในคลื่นแบบไมแนนอน (Irregular Wave) จะพบวาผิวหนาน้ําจะเคลื่อนที่แบบไมแนนอน ซึ่งมีความซับซอนและเปลี่ยนแปลงอยูตลอดเวลา ดังนั้นเรา
น
จะใชวิธีใดในการทํานายขนาดของคลื่นชนิดดังกลาวได
คําตอบ 1 : วิธีการทางสถิติ
ง ว
ส
คําตอบ 2 : การรวมคลื่นไซนูซอยดอย (Sinusoidal Wave) ขนาดตาง ๆ เขาดวยกัน
อ
คําตอบ 3 : วัดความเร็วลม
กร ข
คําตอบ 4 : ขอ ก. และ ข. ถูกตอง
ขอที่ : 242
ศ
ิ ว
าว
ในการศึกษาการเคลื่อนที่ของเรือในคลื่นแบบไมแนนอน (Irregular Wave) พบวาสเปกตรัมพลังงานของคลื่น (Energy Spectrum) ณ ตําบลที่หนึ่ง ๆ จะมีคาเปนเชนใด
ภ
คําตอบ 1 : เพิ่มขึ้นตามเวลา
ส
คําตอบ 2 : ลดลงตามเวลา
คําตอบ 3 : คงที่เสมอ
คําตอบ 4 : ขึ้น-ลงไมสม่ําเสมอ
ขอที่ : 243
ในการศึกษาการเคลื่อนที่ของเรือในคลื่นแบบไมแนนอน (Irregular Wave) ตัวแปรใดที่มีผลตอรูปรางลักษณะของสเปกตรัมคลื่น
คําตอบ 2 : ชวงเวลาของลมที่พัด (Duration)
คําตอบ 3 : ระยะทางที่ลมพัดผานผิวหนาน้ํา (Fetch)
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ 109 of 189
ขอที่ : 244
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
นส
ว
ขอที่ : 245
ง
ในการศึกษาเรื่อง Irregular Seaway หากเราตองการประมาณความหนาแนนของสเปกตรัม (Spectral Density) เราสามารถหาไดจากสเปกตรัมคลื่นมาตรฐาน(Standard Wave
ส
Spectrum)ใดบาง
ข
สเปกตรัมคลื่นของ Bretschneider
อ
กร
คําตอบ 2 : สเปกตรัมคลื่นของ JONSWAP
ว
คําตอบ 3 : สเปกตรัมคลื่นของ Pierson-Moskowitz
ศ
ิ
ขอที่ : 246
ภ าว
ส
คําตอบ 1 : 6.25 m2
คําตอบ 2 : 12.5 m2 110 of 189
คําตอบ 3 : 25 m2
คําตอบ 4 : 50 m2
ขอที่ : 247
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
นส
ว
ส ง
อ
กร ข
ว
าว ศ
ิ
ภ
ขอที่ : 248
ส
คําตอบ 1 : 23.61 %
คําตอบ 2 : 29.36 % 111 of 189
คําตอบ 3 : 12.13 %
คําตอบ 4 : 6.78 %
ขอที่ : 249
่ า ย
ในการหาคาความสูงนัยสําคัญ (Significant Wave Height) ของคลื่นแบบไมแนนอนที่เวลาและตําบลที่ใดๆ ใชความสูงนัยสําคัญชนิดใด
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ขอที่ : 250
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
2.87 ม.
3.85 ม.
4.2 ม.
คําตอบ 4 : 5.0 ม.
ขอที่ : 251
112 of 189
่ า ย
น
คําตอบ 1 : 2.87 ม.
ำ ห
คําตอบ 2 : 3.85 ม.
จ
ม
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 252
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ว
คําตอบ 1 : 2.87 ม.
ศ
ิ
คําตอบ 2 : 3.85 ม.
าว
ภ
ขอที่ : 253
ส
113 of 189
่ า ย
น
คําตอบ 1 : 2.87 ม.
ห
คําตอบ 2 : 3.85 ม.
จ ำ
ม
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 254
ในการศึกษาเรื่อง พื้นน้ําชนิดมีคลื่นไมแนนอน (Irregular Seaway) ขอใดคือความสูงคลื่นเฉลี่ย (Average Wave Height) ของคลื่นแบบไมแนนอนที่เวลาและตําบลที่ตาง ๆ
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
ขอที่ : 255
ในการศึกษาเรื่อง พื้นน้ําชนิดมีคลื่นไมแนนอน (Irregular Seaway) ขอใดคือความสูงนัยสําคัญ (Significant Wave Height) ของคลื่นแบบไมแนนอนที่เวลาและตําบลที่ตาง ๆ
114 of 189
ย
ขอที่ : 256
่ า
ในการศึกษาเรื่อง พื้นน้ําชนิดมีคลื่นไมแนนอน (Irregular Seaway) ขอใดคือความสูงนัยสําคัญแบบ Average of One-tenth Highest Wave ของคลื่นแบบไมแนนอนที่เวลาและ
น
ตําบลที่ตาง ๆ
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
นส
ว
ส ง
ขอที่ : 257
ขอ
กร
ในการศึกษาเรื่อง พื้นน้ําชนิดมีคลื่นไมแนนอน (Irregular Seaway) ขอใดคือความสูงนัยสําคัญแบบ Average of One-hundred Highest Wave ของคลื่นแบบไมแนนอนที่เวลา
และตําบลที่ตาง
ศ
ิ ว
าว
ส
ภ
ขอที่ : 258
จากขอมูลความสูงคลื่น จํานวน 102 ลูก ถาตองการหาคาเฉลี่ยความสูงแบบมีคานัยสําคัญ 1 ใน 10 ของคลื่นกลุมนี้จะตองคํานวณอยางไร ? 115 of 189
คําตอบ 1 : นําคลื่นขนาดสูงสุด จํานวน 10 ลูกแรกมาหาคาเฉลี่ยความสูง
คําตอบ 2 : เรียงความสูงคลื่นจากนอยไปมากแลวนํา 10 ลูกแรกมาหาคาเฉลี่ยความสูง
คําตอบ 3 : หาคาเฉลี่ยความสูงของคลื่นทั้งหมด แลวเพิ่มคาขึ้นอีก 90%
่ า ย
น
ขอที่ : 259
ห
จากขอมูลความสูงคลื่น จํานวน 102 ลูก ถาตองการหาคาเฉลี่ยความสูงแบบมีคานัยสําคัญ 1 ใน 100 ของคลื่นกลุมนี้จะตองคํานวณอยางไร ?
จ ำ
คําตอบ 1 : เรียงความสูงคลื่นจากนอยไปมาก แลวนํา 99 ลูกแรกมาหาคาเฉลี่ยความสูง
ม
คําตอบ 2 : เรียงความสูงคลื่นจากมากไปนอย แลวนํา 99 ลูกแรกมาหาคาเฉลี่ยความสูง
า้
คําตอบ 3 : เรียงความสูงคลื่นจากมากไปนอย แลวนําความสูงของคลื่นลูกแรกเทานั้นมาเปนคาเฉลี่ยความสูง
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : เรียงความสูงคลื่นจากมากไปนอย แลวนํา 101 ลูกแรกมาหาคาเฉลี่ยความสูง
ิท
ขอที่ : 260
ส
Histogram ของคลื่นแบบปกติ (Regular Wave) จํานวนมาก ๆ มีลักษณะสําคัญเปนอยางไร
ว น
คําตอบ 1 : สูงและแคบ
ง
คําตอบ 2 : สูงและแผกวาง
ส
คําตอบ 3 : คลายการแจกแจงแบบ Normal Distribution
อ
คําตอบ 4 : คลายการแจกแจงแบบ Rayleigh Distribution
กร ข
ว
ขอที่ : 261
ศ
ิ
Histogram ของคลื่นแบบไมแนนอน (Irregular Wave) จํานวนมาก ๆ มีลักษณะสําคัญเปนอยางไร ?
าว
คําตอบ 1 : สูงและแคบ
ภ
คําตอบ 2 : สูงและแผกวาง
ส
คําตอบ 3 : เตี้ยและแผกวาง
คําตอบ 4 : เตี้ยและแคบ
ขอที่ : 262
Histogram จากขอมูลความสูงคลื่นแบบไมแนนอน (Irregular Wave) มีรูปรางลักษณะแจกแจงสอดคลองกับฟงกชั่นการแจกแจงแบบใด ?
คําตอบ 1 : Normal Distribution
คําตอบ 2 : Rayleigh Distribution
คําตอบ 3 : Normalized Bretschneider Spectrum
คําตอบ 4 : JONSWAP’s Spectrum 116 of 189
ขอที่ : 263
ขอใดกลาวถูกตอง
คําตอบ 1 : ความสูงเฉลี่ยของคลื่นสามารถคํานวณไดจากกราฟ Histogram ความสูงคลื่นโดยตรง
คําตอบ 2 : ความเร็วเฉลี่ยของคลื่นสามารถคํานวณไดจากกราฟ Histogram ความสูงคลื่นโดยตรง
่ า ย
น
คําตอบ 3 : คลื่นไมแนนอน (Irregular Wave) ไมเปนฟงกชั่นของแรงดึงดูดโลก
ห
คําตอบ 4 : ถาไมมีแรงดึงดูด คลื่นไมแนนอน (Irregular Wave) จะกลายเปนคลื่นแบบปกติ (Regular Wave) ทันที
จ ำ
ม
า้
264
ในการประมาณความสูงคลื่นไมแนนอน (Irregular Wave) นิยมใชความสูงคลื่นแบบมีคานัยสําคัญแบบใด ?
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : Average Wave Height
คําตอบ 2 : Average of one – third Highest Waves
ิท
คําตอบ 3 : Average of one – tenth Highest Waves
ส
คําตอบ 4 : Average of one – hundred Highest Waves
ง ว น
ส
265
อ
ทําไมบางครั้งตองปรับแกขนาดความสูงนัยสําคัญที่คํานวณไดจากสเปกตรัมความสูงคลื่น
ข
คําตอบ 1 : เพื่อเพิ่ม Safety Factor ในการประมาณการ
กร
คําตอบ 2 : เพื่อปรับสเปกตรัมใหสอดคลองกับลักษณะผิวหนาทะเลจริง
ว
คําตอบ 3 : เนื่องจากสเปกตรัมนั้น ๆ มิไดกระจายแบบ Rayleigh Distribution
ศ
ิ
คําตอบ 4 : เพื่อสามารถใชสเปกตรัมความสูงคลื่นดังกลาวไดกับทุกหนวยวัด
ขอที่ : 266
ภ าว
ส
โบวฟอรด (Beaufort) เปนหนวยวัดของอะไร
คําตอบ 2 : ความเร็วน้ํา
คําตอบ 3 : อัตราเรงของลม
คําตอบ 4 : อัตราเรงของน้ํา
ขอที่ : 267
สามารถแบงลักษณะผิวหนาของทะเลเปนสถานะตาง ๆ ที่เรียกวา Sea State ไดกี่สถานะ
คําตอบ 1 : 7 117 of 189
่ า ย
ขอที่ : 268
น
การหาคาความสูงเฉลี่ย (Average Wave Height) ของคลื่นแบบไมแนนอน ที่เวลาและตําบลใด ๆ คือคาเฉลี่ยทางคณิตศาสตรของความสูงคลื่นทั้งหมดนํามาพิจารณา ยกเวนคลื่นที่
ห
มีความสูง ต่ํากวาเทาไรที่จะไมนํามาคิด
ำ
คําตอบ 1 : 1 นิ้ว
มจ
คําตอบ 2 : 1 ฟุต
า้
คําตอบ 3 : 50 ซ.ม.
ิธ์ ห
ิท
ขอที่ : 269
นส
ง ว
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
0.46 m
0.68 m
คําตอบ 3 : 0.91 m
ขอที่ : 270
118 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
ส
ขอที่ : 271
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 1 : 0.915 m
คําตอบ 4 : 1.53 m 119 of 189
ขอที่ : 272
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
คําตอบ 1 : 0.915 m
ง ว น
ส
อ
ข
วกร
ศ
ิ
273
ภ าว
ส
120 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ว น
ส ง
ขอ
วกร
าว ศ
ิ
ส
ภ
121 of 189
ย
่ า
274
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ว
าว ศ
ิ
ภ
ขอที่ : 275 ส
122 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
คําตอบ 1 : 2.3 %
ง ว น
ส
คําตอบ 2 : 5.76 %
อ
คําตอบ 3 : 10.2 %
ข
กร
18.1 %
ศ
ิ ว
ขอที่ : 276
ภ าว
ส
123 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
คําตอบ 1 : 3.21 %
ง ว น
ส
คําตอบ 2 : 5.75 %
อ
คําตอบ 3 : 7.80 %
กร ข
คําตอบ 4 : 12.5 %
ขอที่ : 277
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
124 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
คําตอบ 1 : 3.74 %
ง ว น
ส
คําตอบ 2 : 5.86 %
อ
คําตอบ 3 : 12.1 %
ข
กร
15.3 %
ว
ศ
ิ
278
ภ าว
ส
125 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
3.26 %
ง ว น
ส
2.82 %
อ
คําตอบ 3 : 1.73 %
ข
คําตอบ 4 : 1.05 %
ขอที่ : 279
ว กร
ศ
ิ
ขอใดกลาวถูกตอง เกี่ยวกับพลังงานในคลื่น
าว
คําตอบ 1 : พลังงานในคลื่นสามารถคํานวณหาไดโดยตรงจากขนาดแอมปลิจูดคลื่น
ภ
คําตอบ 2 : สเปกตรัมพลังงาน คือ แผนภูมิกระจายระดับพลังงานของคลื่นที่ความถี่ตาง ๆ
ส
คําตอบ 3 : พลังงานในคลื่นขึ้นอยูกับความยาวคลื่น
ขอที่ : 280
126 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ขอที่ : 281 ส
คําตอบ 1 : 2m
คําตอบ 2 : 4m 127 of 189
ขอที่ : 282
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
313.34 kg/m
กร ข
ว
626.83 kg/m
ศ
ิ
คําตอบ 3 : 1,253.65 kg/m
าว
คําตอบ 4 : 2,507.30 kg/m
ขอที่ : 283
ส ภ
ขอใดเปนตัวแปรสําคัญที่มีผลตอรูปรางลักษณะของสเปกตรัมคลื่น
คําตอบ 2 : ชวงเวลาที่ลมพัด
คําตอบ 3 : ระยะทางที่ลมพัดผานผิวหนาน้ํา
ขอที่ : 284
ในการคํานวณการเคลื่อนที่ของเรือในคลื่นจะใชคาบเวลาชนิดใดในการคํานวณ และมีผลโดยตรงตอพลศาสตรการเคลื่อนของเรือ
128 of 189
่ า ย
หน
ำ
มจ
า้
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ขอที่ : 285
ส ภ
คําตอบ 1 : ความเร็วเรือ
คําตอบ 2 : มุมที่เรือกระทํากับคลื่น
คําตอบ 3 : ทิศทางการเคลื่อนที่ของเรือ
คําตอบ 4 : ความสูงของคลื่น
129 of 189
ขอที่ : 286
ในกรณีใดตอไปนี้ ที่ความถี่เชิงมุมของคลื่น (Circular Frequency) และความถี่ของการปะทะมีคาเทากัน
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ขอที่ : 287 ส
130 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
นส
ง ว
อ ส
ขอที่ : 288
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
วัดจากทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่นไปตามเข็มนาฬิกาจนถึงแนวทิศทางการเคลื่อนที่ของเรือ
วัดจากทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่นทวนเข็มนาฬิกาจนถึงแนวทิศทางการเคลื่อนที่ของเรือ
คําตอบ 3 : วัดจากทิศทางการเคลื่อนที่ของเรือไปตามเข็มนาฬิกาจนถึงแนวทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่น
คําตอบ 4 : วัดจากมุมที่นอยที่สุดระหวางทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่นกับทิศทางการเคลื่อนที่ของเรือ
ขอที่ : 289
131 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
น
ง ว
อ ส
กร ข
ขอที่ : 290
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 1 : 132 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
ขอที่ : 291
ส
จงคํานวณหาความยาวคลื่น (หนวยเปนเมตร) ที่มีคาบเวลา 2 วินาที (สมมุติวาเปนคลื่นในน้ําลึก)
ว น
ง
คําตอบ 2 : 6.245
ส
คําตอบ 3 : 8.625
อ
ข
10.525
ว กร
ขอที่ : 292
ศ
ิ
จงคํานวณหาความยาวคลื่น (หนวยเปนเมตร) ที่มีคาบเวลา 6 วินาที (สมมุติวาเปนคลื่นในน้ําลึก)
าว
ภ
ส
คําตอบ 3 : 76.56
คําตอบ 4 : 102.42
ขอที่ : 293
จงคํานวณหาความเร็วคลื่น (หนวยเปนเมตร/นาที) ที่มีคาบเวลา 2 วินาที (สมมุติวาเปนคลื่นในน้ําลึก)
คําตอบ 2 : 3.123
คําตอบ 3 : 6.245
คําตอบ 4 : 10.525 133 of 189
ขอที่ : 294
จงคํานวณหาความเร็วคลื่น (หนวยเปนเมตร/นาที) ที่มีคาบเวลา 6 วินาที (สมมุติวาเปนคลื่นในน้ําลึก)
ย
9.36
่ า
น
คําตอบ 3 : 36.245
ห
คําตอบ 4 : 100.54
จ ำ
ม
า้
295
ิธ์ ห
ความสูงนัยสําคัญ (Significant Wave Height) ชนิดใดที่นิยมใชมากที่สุด
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
134 of 189
ย
่ า
296
น
ขอใดตอไปนี้กลาวไมถูกตอง
ห
คําตอบ 1 : Standing wave ถือเปนปรากฏการณ Superposition
ำ
คําตอบ 2 : Standing wave เปนคลื่นประจําที่มีขนาดแอมปลิจูดเพิ่มขึ้นและลดลงอยูกับที่
จ
คําตอบ 3 : Standing wave เปนคลื่นในอุดมคติ มักไมพบตามธรรมชาติ
คําตอบ 4 : Standing wave สามารถพบเจอไดตามธรรมชาติ เกิดจากการรวมตัวกันของคลื่นที่วิ่งสวนทางกัน
า้ ม
ิธ์ ห
ขอที่ : 297
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
135 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ขอที่ : 298
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
136 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
137 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
ม
ขอที่ : 299
า้
อนุภาคน้ําที่อยูต่ํากวาผิวหนาน้ําเปนระยะเกินกวากี่เทาของความยาวคลื่น จึงถือวาไมไดรับผลกระทบจากผิวหนาน้ําอิสระเลย
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : 1 เทาของความยาวคลื่น
ส ิท
ขอที่ : 300
ง ว น
ส
การเกิดคลื่นและการแพรของคลื่นเกิดขึ้นไดดวยปจจัยสําคัญคือ
อ
คําตอบ 1 : ความเฉื่อยภายในของเหลว (Inertia of the Fluid) และความโนมถวงของโลก
กร ข
คําตอบ 2 : ความเฉื่อยภายในของเหลว (Inertia of the Fluid)
คําตอบ 3 : ความโนมถวงของโลก
ว
คําตอบ 4 : แรงจากภายนอก
าว ศ
ิ
ภ
ขอที่ : 301
ส
คลื่นประกอบดวยสวนที่เปนพลังงานจลนและพลังงานศักย การเคลื่อนที่ในลักษณะใดตอไปนี้ ทําใหเกิดพลังงานจลน
คําตอบ 1 : การที่อนุภาคของน้ําถูกยกตัวสูงขึ้น
คําตอบ 2 : การที่อนุภาคของน้ําเคลื่อนที่แบบโคจร
คําตอบ 3 : การที่อนุภาคของน้ําเคลื่อนที่แบบโคจรและยกตัวสูงขึ้น
ขอที่ : 302
จากขอมูลความสูงคลื่น จํานวน 102 ลูก ถาตองการหาคาเฉลี่ยความสูงแบบมีคานัยสําคัญ 1 ใน 3 ของคลื่นกลุมนี้จะตองคํานวณอยางไร ?
คําตอบ 1 : เรียงความสูงจากมากไปนอย แลวนํา 67 ลูกแรกมาหาคาเฉลี่ยความสูง
คําตอบ 2 : เรียงความสูงจากมากไปนอย แลวนํา 34 ลูกแรกมาหาคาเฉลี่ยความสูง 138 of 189
คําตอบ 4 : หาคาเฉลี่ยความสูงของคลื่นทั้งหมด แลวลดคาลงอีก 33%
ขอที่ : 303
่ า ย
ในการศึกษาการเคลื่อนที่แบบ Rolling ของเรือในคลื่นแบบไมแนนอนแหงหนึ่ง วัดมุม Rolling ในลักษณะการโคลงจากกราบหนึ่งไปอีกกราบหนึ่ง (Peak to Peak) ดังนี้ มุมเอียง 1
น
องศา จํานวน 2 ครั้ง มุมเอียง 2 องศา จํานวน 40 ครั้ง มุมเอียง 3 องศา จํานวน 31 ครั้ง มุมเอียง 4 องศา จํานวน 25 ครั้ง มุมเอียง 5 องศา จํานวน 2 ครั้ง จงหาขนาดมุมโคลงเฉลี่ย
ห
(Average Roll)
ำ
คําตอบ 1 : 0.05 องศา
จ
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
ขอที่ : 304
นส
ง ว
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
ภ
ขอที่ : 305
ส
139 of 189
่ า ย
น
ห
จ ำ
ม
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 306
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ว
ศ
ิ
าว
ภ
ขอที่ : 307
ส
คําตอบ 2 : 0.367 องศา 140 of 189
ขอที่ : 308
่ า ย
หน
จ ำ
ม
า้
ิธ์ ห
ส ิท
น
309
ง ว
อ ส
กร ข
ว
ศ
ิ
าว
ขอที่ : 310
ส ภ
คําตอบ 4 : 0.983 องศา 141 of 189
ขอที่ : 311
ในการศึกษาเรื่องการเคลื่อนที่ในคลื่นแบบไมแนนอน (Motion in Irregular Seaway) ขอใดเปนแฟกเตอรปรับแกความกวางของสเปกตรัมใหเสมือนกับวาขอมูลของสเปกตรัมมี
ลักษณะเปนการกระจายแบบ Rayleigh
่ า ย
หน
ำ
มจ
า้
ิธ์ ห
ส ิท
น
ขอที่ : 312
ง ว
ในการศึกษาเรื่องการเคลื่อนที่ในคลื่นแบบไมแนนอน (Motion in Irregular Seaway) ขอใดคือคาเฉลี่ยแอมปลิจูดการโคลง (Average Roll)
อ ส
กร ข
ว
าว ศ
ิ
ส
ขอที่ : 313
ขอใดคือมุมโคลงนัยสําคัญ (Significant Roll)
142 of 189
่ า ย
น
จ ำ ห
ม
า้
314
ิธ์ ห
ขอใดคือคาเฉลี่ยแอมปลิจูดมุมโคลงนัยสําคัญชนิด 1 ใน 10 ของการโคลงสูงสุด (Mean of One-Tenth Highest Amplitudes)
ส ิท
น
ง ว
ส
ขอ
กร
ศ
ิ ว
าว
ขอที่ : 315
ภ
ขอใดคือคาเฉลี่ยแอมปลิจูดมุมโคลงนัยสําคัญชนิด 1 ใน 100 ของการโคลงสูงสุด (Mean of One-hundredth Highest Amplitudes)
ส
คําตอบ 4 : 143 of 189
ขอที่ : 316
่ า ย
หน
ำ
คําตอบ 1 : พื้นที่ภายใตเสนโคงสเปกตรัมตอบสนองการเคลื่อนที่
จ
คําตอบ 2 : แอมปลิจูดเฉลี่ยของการโคลง
า้ ม
คําตอบ 3 : แฟกเตอรปรับแกความกวางของสเปกตรัม
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : ฟงกชั่นความถี่ตอบสนอง
ขอที่ : 317
ิท
เมื่อไดสเปกตรัมคลื่น (Wave Spectrum) แลว ในการทํานายการเคลื่อนที่ของเรือในคลื่นไมแนนอน ควรทําสิ่งใดกอน ?
นส
แปลงสเปกตรัมคลื่นใหเปนฟงกชั่นของความถี่ปะทะ (Encountering Frequency)
ว
คําตอบ 2 : คํานวณหาขนาดพื้นที่ภายใตสเปกตรัมคลื่น
ส ง
คําตอบ 3 : ปรับแกใหเปนสเปกตรัมที่แจกแจงแบบ Normal Distribution
อ
คําตอบ 4 : สรางสเปกตรัมตอบสนองการเคลื่อนที่ (Response Spectrum)
ขอที่ : 318
กร ข
ว
ขอใดกลาวผิด
าว ศ
ิ
สามารถนําสเปกตรัมคลื่นชายฝง (Coastal Wave Spectrum) ที่เหมาะสมกับพื้นที่ปฏิบัติงานเรือ มาพิจารณาลักษณะการตอบสนองการเคลื่อนที่ของเรือเล็กที่ปฏิบัติ
งานไกลฝงได
ภ
คําตอบ 2 : ถึงแมจะใชสเปกตรัมแตกตางกัน การทํานายลักษณะการเคลื่อนที่เรือที่ยาวประมาณ 30 เมตรขึ้นไป จะไมแตกตางกัน
ส
คําตอบ 3 : สเปกตรัมตอบสนองการเคลื่อนที่ของเรือในคลื่นแบบไมแนนอนมีคุณสมบัติทางสถิติเชนเดียวกับสเปกตรัมพลังงานของคลื่นนั้น
ขอที่ : 319
โดยสวนใหญแลว Spectrum แอมปลิจูดการเคลื่อนที่ (Motion Amplitude Spectrum) แบบ Rolling มีลักษณะอยางไร
คําตอบ 1 : แคบ
คําตอบ 2 : กวาง
คําตอบ 3 : กวางและเตี้ย
คําตอบ 4 : กวางและสูง 144 of 189
ขอที่ : 320
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ว
คําตอบ 1 : 4.12 deg
ศ
ิ
าว
ภ
ขอที่ : 321
ส
145 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ว น
ง
ส
อ
ข
9.3 deg
ขอที่ : 322
วกร
าว ศ
ิ
ส ภ
146 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ว น
ง
ส
อ
กร ข
ว
ขอที่ : 323
าว ศ
ิ
ส ภ
147 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
น
ว
8.5 deg
ง
ส
อ
กร ข
ว
ขอที่ : 324
าว ศ
ิ
ส ภ
148 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
ข
กร
ว
ศ
ิ
ภ าว
ส
325
149 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
าว
14.15 %
คําตอบ 2 : 28.30 %
ภ
คําตอบ 3 : 56.6 %
ส
คําตอบ 4 : 83.3 %
ขอที่ : 326
150 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
คําตอบ 1 : 7.08 %
ศ
ิ ว
าว
คําตอบ 2 : 14.16 %
ภ
คําตอบ 3 : 28.32 %
ส
คําตอบ 4 : 42.00 %
ขอที่ : 327
ขอใดเปนขั้นตอนในการทํานายการเคลื่อนที่แบบไมแนนอน
คําตอบ 1 : เลือกสเปกตรัมคลื่นที่เหมาะสมกับพื้นน้ําที่ตองการ
คําตอบ 2 : แปลงสเปกตรัมคลื่นใหเปนฟงกชั่นความถี่ของการปะทะ
คําตอบ 3 : พล็อตสเปกตรัมตอบสนองการเคลื่อนที่ของเรือ
151 of 189
ขอที่ : 328
่ า ย
หน
ำ
คําตอบ 1 : ระดับพลังงานรวมคงเดิมเสมอ
จ
คําตอบ 2 : แอมปลิจูดเทากัน
า้ ม
คําตอบ 3 : ความถี่คลื่นเทากัน
ิธ์ ห
ิท
329
นส
ง ว
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 1 : Response Amplitude Operators (ROA)
คําตอบ 2 : สเปกตรัมการแปลง (Transform Spectrum)
คําตอบ 3 : ถูกทั้งสองขอ
คําตอบ 4 : ผิดทั้งสองขอ
152 of 189
ขอที่ : 330
การหา ROA ดวยการทดลองดวยเรือจําลองทําไดอยางไร
คําตอบ 1 : ทดลองในคลื่นแบบปกติ (Regular Waves) ที่มีขนาดแอมปลิจูดคงที่ แตความยาวคลื่นตางกัน
คําตอบ 2 : ทดลองในคลื่นแบบปกติ (Regular Waves) ที่มีขนาดแอมปลิจูดตางกัน แตความยาวคลื่นคงที่
คําตอบ 3 : ทดลองในคลื่นแบบไมแนนอน (Irregular Waves) ที่มีขนาดแอมปลิจูดคงที่ แตความยาวคลื่นตางกัน
่ า ย
น
คําตอบ 4 : ทดลองในคลื่นแบบไมแนนอน (Irregular Waves) ที่มีขนาดแอมปลิจูดตางกัน แตความยาวคลื่นคงที่
ขอที่ : 331
จ ำ ห
ม
อะไรคือประโยชนของการทํานายขนาดสูงสุดของแอมปลิจูดการเคลื่อนที่ในคลื่นแบบไมแนนอน ภายในชวงเวลาจํากัดหนึ่ง ๆ
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : ใชในขั้นตอนการออกแบบเรือ
คําตอบ 2 : ศึกษาเกี่ยวกับแรงจากคลื่นที่มีผลตอสมรรถนะของเรือ
คําตอบ 3 : ศึกษาผลกระทบที่มีตอโครงสรางเรือ
ิท
นส
ว
ขอที่ : 332
ส ง
ขอ
ว กร
าว ศ
ิ
ส ภ
คําตอบ 1 : 127 ครั้ง
ขอที่ : 333 153 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
น
คําตอบ 1 : 6.872
ว
คําตอบ 2 : 8.035
ง
ส
10.861
อ
คําตอบ 4 : 12.456
ขอที่ : 334
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 1 : แอมปลิจูดคลื่น
คําตอบ 3 : ความสูงแบบมีนัยสําคัญ 154 of 189
ขอที่ : 335
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : คาบเวลาเฉลี่ยคลื่น
ส ิท
น
ง ว
คําตอบ 3 : คาบเวลาแบบ Zero Crossing
ส
คําตอบ 4 : คาบเวลาแบบ Crest to Crest
ขอ
กร
ขอที่ : 336
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 3 : คาบเวลาแบบ Zero Crossing
คําตอบ 4 : คาบเวลาแบบ Crest to Crest 155 of 189
ขอที่ : 337
หนวยวัดสถานะความเร็วลมในทะเลคือ
ย
Fathom
่ า
คําตอบ 2 : Point
น
คําตอบ 3 : Beaufort
ห
คําตอบ 4 : Wave Spectrum
จ ำ
ม
า้
338
หนวยวัดสภาพผิวหนาทะเลคือ
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : Fathom
คําตอบ 2 : Point
ิท
คําตอบ 3 : Wave Spectrum
ส
คําตอบ 4 : Sea State
ง ว น
ส
ขอที่ : 339
ขอ
ว กร
าว ศ
ิ
ส ภ
156 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ขอที่ : 340
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
คําตอบ 3 : อานจาก Bretschneider Spectrum
คําตอบ 4 : อานจาก Normalized Bretschneider Spectrum 157 of 189
ขอที่ : 341
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
ส
ขอ
ว กร
าว ศ
ิ
ส
คําตอบ 4 :ภ ไมมีขอใดถูก
ขอที่ : 342
ถา Histogram ของขอมูลความสูงคลื่นกระจายแบบ Rayleigh Distribution ในการนําไปใชงานจะตองปรับแกดวยคา Correction Factor (CF) เทาใด
158 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
ส
343
อ
ถา Histogram ของขอมูลความสูงคลื่นจํานวน n คลื่น ที่ไมกระจายแบบ Rayleigh Distribution ในการนําไปใชงานจะตองปรับแกดวยคา Correction Factor (CF) เทาใด
กร ข
ว
าว ศ
ิ
ส
ภ
159 of 189
่ า ย
น
ขอที่ : 344
ห
ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับการหาความสูงคลื่นแบบมีนัยสําคัญของคลื่นจํานวนหนึ่ง
ำ
คําตอบ 1 : คาเฉลี่ยความสูงคลื่นแบบนัยสําคัญ 1 ใน 3 สูงกวาแบบ 1 ใน 10
จ
คําตอบ 2 : คาเฉลี่ยความสูงคลื่นแบบนัยสําคัญ 1 ใน 3 นอยกวาแบบ 1 ใน 10
คําตอบ 3 : คาเฉลี่ยความสูงคลื่นแบบนัยสําคัญตางๆ ลวนเทากัน
า้ ม
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : ในการหาคาเฉลี่ยความสูงแบบนัยสําคัญ 1 ใน 10 ตองมีคลื่นสมบูรณอยางนอย 10 ลูก
ิท
ขอที่ : 345
ส
ขอใดกลาวถูกตอง เกี่ยวกับการหาความถี่คลื่นแบบมีนัยสําคัญของคลื่นจํานวนหนึ่ง
น
คําตอบ 1 : ความถี่เฉลี่ยแบบมีนัยสําคัญ 1 ใน 3 สูงกวา แบบ 1 ใน 10
ง ว
คําตอบ 2 : ความถี่เฉลี่ยแบบมีนัยสําคัญ 1 ใน 3 ต่ํากวา แบบ 1 ใน 10
ส
คําตอบ 3 : ความถี่เฉลี่ยแบบมีนัยสําคัญ 1 ใน 3 ตองเทากับแบบ 1 ใน 10
อ
คําตอบ 4 : ความถี่เฉลี่ยแบบมีนัยสําคัญ 1 ใน 10 มีคาสูงสุด
กร ข
ว
346
ศ
ิ
เมื่อเปรียบเทียบความสูงเฉลี่ยแบบมีนัยสําคัญของคลื่นกลุมเดียวกันจะพบวา
าว
คําตอบ 1 : ความสูงเฉลี่ยแบบมีนัยสําคัญ 1 ใน 3 สูงกวาแบบ 1 ใน 10 เล็กนอย
คําตอบ 2 : ความสูงเฉลี่ยแบบมีนัยสําคัญ 1 ใน 3 สูงกวาแบบ 1 ใน 10 มาก
ส
ภ ความสูงเฉลี่ยแบบมีนัยสําคัญ 1 ใน 100 สูงกวาแบบ 1 ใน 10 และ 1 ใน 3 ตามลําดับ
ความสูงเฉลี่ยแบบมีนัยสําคัญ 1 ใน 100 นอยกวาแบบ 1 ใน 10 และ 1 ใน 3 ตามลําดับ
ขอที่ : 347
ในการหาความสูงเฉลี่ยของคลื่นสมบูรณจํานวน 149 ลูก ขอใดกระทําถูกตอง
คําตอบ 1 : ความสูงเฉลี่ยแบบไมมีนัยสําคัญจะคํานวณจากคลื่น 100 ลูก
คําตอบ 2 : ความสูงเฉลี่ยแบบมีนัยสําคัญ 1 ใน 3 จะคํานวณจากคลื่น 49 ลูก
คําตอบ 3 : ความสูงเฉลี่ยแบบมีนัยสําคัญ 1 ใน 10 จะคํานวณจากคลื่น 14.9 ลูก
คําตอบ 4 : ความสูงเฉลี่ยแบบมีนัยสําคัญ 1 ใน 100 จะคํานวณจากคลื่น 1 ลูก
160 of 189
ขอที่ : 348
ถาพลอตแอมปลิจูดคลื่นที่เกิดขึ้นตรงจุดหนึ่งในทะเลชวงเวลาหนึ่ง จะพบวา
คําตอบ 1 : ระยะในกราฟระหวางยอดคลื่นสมบูรณถึงยอดคลื่นสมบูรณลูกถัดไป คือความยาวคลื่น
คําตอบ 2 : ระยะในกราฟจากยอดคลื่นหนึ่งถึงแนวระดับคือความสูงคลื่นลูกนั้น
คําตอบ 3 : ระยะในกราฟระหวางยอดคลื่นสมบูรณถึงยอดคลื่นสมบูรณลูกถัดไปคือคาบเวลา
่ า ย
น
ขอที่ : 349
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
ความยาวคลื่น
ความยาวเฉลี่ยคลื่น
กร ข
ศ
ิ ว
คําตอบ 3 : คาบเวลาคลื่น
าว
ขอที่ : 350
ส ภ
161 of 189
่ า ย
หน
ำ
คําตอบ 1 : คาบเวลาคลื่น
จ
ม
คาบเวลาเฉลี่ยคลื่น
า้
ิธ์ ห
ิท
ขอที่ : 351
นส
ง ว
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ
1 ครั้ง
าว
ส
ขอที่ : 352
162 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
ม
า้
ขอที่ : 353
ิธ์ ห
ส ิท
ง ว น
อ ส
กร ข
ศ
ิ ว
ภ าว
ส
ระยะ A คือ Extreme Value ของแอมปลิจูดคลื่น
ระยะ B คือ Extreme Value ของบรรดาคลื่น
คําตอบ 3 : ระยะ C คือ Extreme Value ของความเร็วคลื่น
คําตอบ 4 : ระยะ D คือ Extreme Value ของความยาวคลื่น
ขอที่ : 354
163 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : เปนคลื่นแบบ Irregular Waves
คําตอบ 2 : มีคลื่นสมบูรณ 2 ลูก
ิท
คําตอบ 3 : มีคลื่นไมสมบูรณ 5 ลูก
ส
คําตอบ 4 : ระยะ A คือขนาด Amplitude ของคลื่นชุดนี้
ง ว น
ส
ขอที่ : 355
ขอ
ว กร
าว ศ
ิ
ส ภ
คําตอบ 1 : เปนคลื่นแบบ Regular Waves
คําตอบ 3 : มีคลื่นไมสมบูรณ 5 ลูก
คําตอบ 4 : ระยะ C คือคาบเวลาเฉลี่ยของคลื่นชุดนี้ 164 of 189
ขอที่ : 356
่ า ย
หน
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ส ิท
น
คําตอบ 1 : เปนคลื่นแบบ Irregular Waves
ง ว
ส
คําตอบ 3 : จุด B คือ Extreme Value ของความสูงคลื่นชุดนี้
อ
กร ข
ว
357
าว ศ
ิ
ส ภ
165 of 189
่ า ย
หน
จ ำ
คําตอบ 1 : ความสูงเฉลี่ยคลื่นคิดเฉลี่ยจากคลื่นสมบูรณ จํานวน 6 ลูก
า้ ม
ิธ์ ห
คําตอบ 2 : ความสูงเฉลี่ยคลื่นคิดเฉลี่ยจากคลื่นสมบูรณ จํานวน 3 ลูก
คําตอบ 3 : คาบเวลาเฉลี่ยคลื่นคิดเฉลี่ยจากคลื่นสมบูรณ จํานวน 3 ลูก
ส ิท
น
ขอที่ : 358
ง ว
ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับการการหา Response Amplitude Operator (ROA) ดวยการทดลองดวยเรือจําลอง
ส
คําตอบ 1 : ทดลองเรือจําลองในคลื่นแบบปกติ (Regular Waves) ที่มีความยาวคลื่นตางกัน
อ
คําตอบ 2 : ทดลองเรือจําลองในคลื่นแบบปกติ (Regular Waves) ที่มี Amplitude คงที่ แตความยาวคลื่นตางกัน
กร ข
คําตอบ 3 : ทดลองเรือจําลองในคลื่นแบบไมแนนอน (Irregular Waves) ที่มี Amplitude คงที่ แตความยาวคลื่นตางกัน
คําตอบ 4 : ไมสามารถกระทําไดโดยการทดลองเรือจําลอง
ศ
ิ ว
าว
ขอที่ : 359
ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับ Response Amplitude Operator (ROA) ของเรือตอคลื่นแบบไมแนนอน
ส
ภ คืออัตราสวนระหวางความถี่ปะทะ (Encountering Frequency) กับ ความถี่คลื่น (Wave Frequency)
คืออัตราสวนระหวางความถี่ปะทะ (Encountering Frequency) ยกกําลังสองกับ ความถี่คลื่น (Wave Frequency) ยกกําลังสอง
คืออัตราสวนกําลังสองระหวางขนาด Amplitude ตอบสนองการเคลื่อนที่ใด ๆ กับ Amplitude คลื่น
ขอที่ : 360
ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับ Response Amplitude Operator (ROA) ของเรือตอคลื่นแบบไมแนนอน
คําตอบ 1 : คืออัตราสวนระหวางความถี่ปะทะ (Encountering Frequency) กับ ความถี่คลื่น (Wave Frequency)
คําตอบ 2 : คืออัตราสวนระหวางความถี่ปะทะ (Encountering Frequency) ยกกําลังสองกับ ความถี่คลื่น (Wave Frequency) ยกกําลังสอง
คําตอบ 3 : คืออัตราสวนระหวาง Amplitude ตอบสนองการเคลื่อนที่ใด ๆ กับ Amplitude คลื่น 166 of 189
ขอที่ : 361
เราจะหา Response Amplitude Operator (ROA) ที่ใชทํานายการเคลื่อนที่ของเรือในทะเลแบบคลื่นไมแนนอน (Irregular Seaway) ไดอยางไร
คําตอบ 1 : ทดลองเรือจําลองในคลื่นแบบปกติ (Regular Waves) ที่มีความยาวคลื่นตางกัน
่ า ย
น
คําตอบ 2 : ทดลองเรือจําลองในคลื่นแบบปกติ (Regular Waves) ที่มี Amplitude คงที่ แตความยาวคลื่นตางกัน
ห
คําตอบ 3 : ทดลองเรือจําลองในคลื่นแบบไมแนนอน (Irregular Waves) ที่มี Amplitude คงที่ แตความยาวคลื่นตางกัน
จ ำ
คําตอบ 4 : สามารถกระทําไดโดยการทดลองเรือจําลองแตตองจําลองคลื่นแบบไมแนนนอน (Irregular Waves) ใหเหมือนสภาพจริงมากที่สุด
า้ ม
ิธ์ ห
362
ถาทราบ Response Amplitude Operator (ROA) ตอบสนองของการเคลื่อนที่ของเรือตอคลื่นแบบปกติ (Regular Wave) จะทํานายการเคลื่อนที่ของเรือในทะเลแบบคลื่นไมแน
นอน (Irregular Seaway) ไดอยางไร
ิท
คําตอบ 1 : นํา RAO ที่ไดคูณกับ สเปกตรัมคลื่นในฟงกชั่นความถี่ปะทะ (Encountering Wave Spectrum)
ส
คําตอบ 2 : นํา RAO ที่ไดคูณกับ สเปกตรัมคลื่น (Wave Spectrum)
น
คําตอบ 3 : แปลง RAO ใหเปนสเปกตรัมในฟงกชั่นความถี่ปะทะ (Encountering Spectrum) แลวคูณกับ สเปกตรัมคลื่น (Wave Spectrum)
ง ว
ไมสามารถกระทําไดเพราะเปน ROA ตอบสนองของการเคลื่อนที่ของเรือตอคลื่นแบบปกติ (Regular Wave)
อ ส
ข
ขอที่ : 363
กร
ถาทราบ สเปกตรัมคลื่นในฟงกชั่นความถี่ปะทะ (Encountering Wave Spectrum) และ Response Amplitude Operator (ROA) ตอบสนองของการเคลื่อนที่ของเรือตอคลื่นแบบ
ปกติ (Regular Wave) จะทํานายการเคลื่อนที่ของเรือในทะเลแบบคลื่นไมแนนอน (Irregular Seaway) ไดอยางไร
ศ
ิ ว
นํา RAO ที่ไดคูณกับ สเปกตรัมคลื่น (Wave Spectrum)
าว
คําตอบ 2 : นํา RAO คูณกับ สเปกตรัมคลื่นในฟงกชั่นความถี่ปะทะ (Encountering Wave Spectrum)
แปลง RAO ใหเปนสเปกตรัมในฟงกชั่นความถี่ปะทะ (Encountering Spectrum) แลวคูณกับ สเปกตรัมคลื่นในฟงกชั่นความถี่ปะทะ (Encountering Wave
ภ
ส
Spectrum)
คําตอบ 4 : ไมสามารถกระทําไดเพราะเปน ROA ตอบสนองของการเคลื่อนที่ของเรือตอคลื่นแบบปกติ (Regular Wave)
ขอที่ : 364
ถาทราบ สเปกตรัมคลื่น (Wave Spectrum) และ Response Amplitude Operator (ROA) ตอบสนองของการเคลื่อนที่ของเรือตอคลื่นแบบปกติ (Regular Wave) จะทํานายการ
เคลื่อนที่ของเรือในทะเลแบบคลื่นไมแนนอน (Irregular Seaway) ไดอยางไร
คําตอบ 1 : นํา RAO ที่ไดคูณกับ สเปกตรัมคลื่น (Wave Spectrum)
คําตอบ 2 : แปลง RAO ใหเปนสเปกตรัมในฟงกชั่นความถี่ปะทะ (Encountering Spectrum) แลวคูณกับ สเปกตรัมคลื่นในฟงกชั่นความถี่ปะทะ (Encountering Wave
Spectrum)
คําตอบ 3 : แปลงสเปกตรัมคลื่น (Wave Spectrum) ใหเปนสเปกตรัมคลื่นในฟงกชั่นความถี่ปะทะ (Encountering Wave Spectrum) แลวคูณกับ RAO 167 of 189
ขอที่ : 365
ถาไมทราบ สเปกตรัมคลื่น (Wave Spectrum) แตมี Response Amplitude Operator (ROA) ตอบสนองของการเคลื่อนที่ของเรือตอคลื่นแบบปกติ (Regular Wave) จะทํานาย
ย
การเคลื่อนที่ของเรือในทะเลแบบคลื่นไมแนนอน (Irregular Seaway) ไดอยางไร
คําตอบ 1 : นํา RAO ที่มีไปใชแทนได
น่ า
ห
คําตอบ 2 : แปลง RAO ใหเปนสเปกตรัมในฟงกชั่นความถี่ปะทะ (Encountering Spectrum) แลวนําไปใชแทนได
ำ
เลือกสเปกตรัมคลื่น จากสเปกตรัมคลื่นมาตรฐาน(Standard Spectrum) ที่เหมาะสม แปลงใหเปนสเปกตรัมคลื่นในฟงกชั่นความถี่ปะทะ (Encountering Wave
จ
Spectrum) แลวคูณกับ RAO
า้ ม
ิธ์ ห
ขอที่ : 366
ิท
ขอใดตอไปนี้ไมใชลักษณะการเคลื่อนที่แบบแกวงไปมา
ส
น
ง ว
คําตอบ 3 : Heaving, Rolling, Pitching
ส
คําตอบ 4 : Yawing, Swaying, Surging
ขอ
กร
ขอที่ : 367
ขอใดตอไปนี้เปนลักษณะการเคลื่อนที่แบบแกวงไปมา
ศ
ิ ว
Surging, Swaying, Heaving
าว
ภ
Heaving, Rolling, Pitching
ส
ขอที่ : 368
การที่เรือเคลื่อนที่ในลักษณะ Heaving นั้น จะประกอบดวยแรงหลัก ๆ ที่กระทํากับตัวเรือ กลาวคือ
คําตอบ 1 : แรงกระทําจากภายนอก (Exciting Force), แรง Damping
คําตอบ 2 : แรงกระทําจากภายนอก (Exciting Force), แรง Damping, แรง Inertia
คําตอบ 3 : แรงกระทําจากภายนอก (Exciting Force), แรง Inertia, แรง Restoring
คําตอบ 4 : แรงกระทําจากภายนอก (Exciting Force), แรง Damping, แรง Inertia, แรง Restoring
ขอที่ : 369 168 of 189
ย
น่ า
ห
ขอที่ : 370
ำ
จงหาขนาดความยาวของเรือจริง ถาหากการเคลื่อนที่แบบ Heaving ของเรือจริงและเรือจําลองขนาด 2 เมตร มี คาบเวลาเทากับ 15 วินาที และ 1 วินาที ตามลําดับ
มจ
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 371
ส ิท
ว น
การที่เรือเคลื่อนที่ในลักษณะ Pitching นั้น จะประกอบดวยโมเมนตหลัก ๆ ที่กระทํากับตัวเรือ กลาวคือ
ง
คําตอบ 1 : Inertial Moment, Damping Moment
ส
คําตอบ 2 : Inertial Moment, Damping Moment, Restoring Moment
อ
ข
Inertial Moment, Damping Moment, Exciting Moment
กร
คําตอบ 4 : Inertial Moment, Damping Moment, Restoring Moment, Exciting Moment
ขอที่ : 372
ศ
ิ ว
าว
ยานความเร็วการใชงานของเรือ แบงออกเปน 3 ยาน กลาวคือ ยานกอนวิกฤต (Subcritical Zone) ยานวิกฤต (Critical Zone) และยานเหนือวิกฤต (Supercritical Zone) การที่เรือ
จะปฏิบัติการในยานใดยานหนึ่งขึ้นอยูกับตัวแปรอะไรบาง
ส
ภ ความเร็วและลักษณะที่เรือแลนเขาหาคลื่น
Froude Number และลักษณะที่เรือแลนเขาหาคลื่น
Froude Number และแอมปลิจูดของคลื่น
คําตอบ 4 : แอมปลิจูดของคลื่นและลักษณะที่เรือแลนเขาหาคลื่น
ขอที่ : 373
ความสูงนัยสําคัญ (Significant wave height) ชนิด 1 ใน 3 มีความหมายอยางไร
คําตอบ 1 : คาเฉลี่ยความสูงของคลื่นจาก 1 ใน 3 ของคลื่นที่มีขนาดต่ําสุดทั้งหมดโดยไมรวมคลื่นที่มีขนาดเล็กกวา 1 ฟุต มาคิด
คําตอบ 2 : คาเฉลี่ยความสูงของคลื่นจาก 1 ใน 3 ของคลื่นที่มีขนาดสูงสุดทั้งหมดโดยไมรวมคลื่นที่มีขนาดเล็กกวา 1 ฟุต มาคิด
คําตอบ 3 : คาเฉลี่ยความสูงของคลื่นจาก 1 ใน 3 ของคลื่นที่มีขนาดต่ําสุดทั้งหมด 169 of 189
คําตอบ 4 : คาเฉลี่ยความสูงของคลื่นจาก 1 ใน 3 ของคลื่นที่มีขนาดสูงสุดทั้งหมด
ขอที่ : 374
การทํานายขนาดสูงสุดของแอมปลิจูดการเคลื่อนที่ในคลื่นแบบไมแนนอน สามารถนําไปใชประโยชนในการคํานวณดานใดมากที่สุด
คําตอบ 1 : การศึกษาเกี่ยวกับแรงจากคลื่น ที่มีผลตอโครงสรางของเรือ
่ า ย
น
คําตอบ 2 : การทรงตัวของเรือ
ห
คําตอบ 3 : ความคงทนทะเล
จ ำ
คําตอบ 4 : ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเรือและผลกระทบ
า้ ม
ิธ์ ห
375
การเคลื่อนที่ของเรือในลักษณะใด ที่ไมมี Restoring Force หรือ Moment
คําตอบ 1 : Swaying, Yawing
ิท
คําตอบ 2 : Heaving, Swaying, Yawing
ส
ว น
คําตอบ 4 : Swaying, Surging
ส ง
อ
ขอที่ : 376
ข
การศึกษาการเคลื่อนที่ของเรือ ที่มีรูปทรงตัวเรือคลายกันทั้งสองกราบ ในการพิจารณาความคงทนทะเล (Seakeeping) การเคลื่อนที่ในลักษณะใด ที่ไมถูกนํามาพิจารณา
กร
ว
ศ
ิ
าว
ขอที่ : 377
ส ภ
การศึกษาการเคลื่อนที่ของเรือ ในเรื่อง Manoeuvering and Control เปนการศึกษาการเคลื่อนที่ของเรือในลักษณะใด
คําตอบ 1 : Swaying, Surging
คําตอบ 2 : Yawing, Swaying
คําตอบ 3 : Yawing, Surging
ขอที่ : 378
ขอใดอธิบายความหมายของคําวา Resonance Regionไดดีที่สุด 170 of 189
คําตอบ 1 : เปนยานเมื่อ Exciting Frequency มีคาเทากับความถี่ธรรมชาติของระบบ (Natural Frequency)
คําตอบ 2 : เปนยานเมื่ออัตราสวนระหวาง Exciting Frequency กับ ความถี่ธรรมชาติของระบบ (Natural Frequency) มีคาเทากับ 1
คําตอบ 3 : เปนยานเมื่อ Tuning Factor มีคาเทากับ 1
่ า ย
น
ขอที่ : 379
ห
ในการทํานายลักษณะการเคลื่อนที่ของเรือโดยทั่วไปจะแตกตางกัน เนื่องจากใชสเปกตรัมของคลื่นที่แตกตางกัน ขึ้นอยูกับบริเวณพื้นที่ที่ตองการคํานวณ อยางไรก็ตาม การเคลื่อนที่
ำ
ของเรือจะไมแตกตางกันมาก หากขนาดความยาวของเรือมีมากกวาเทาใด แมวาจะใชสเปกตรัมของคลื่นที่แตกตางกัน
มจ
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 380
ส ิท
น
การทํานายการตอบสนองการเคลื่อนที่ของเรือในคลื่นแบบไมแนนอนดวยการใชฟงกชั่น RAO จะถูกตองและมีความมั่นยําก็ตอเมื่อ RAO นั้นหามาจาก
คําตอบ 1 : ขอมูลทางสถิติ
ง ว
ส
คําตอบ 2 : การทดลองเรือจําลองในคลื่นแบบปกติที่มีขนาดไมใหญ
อ
คําตอบ 3 : การกระจายขอมูลแบบ Rayleigh
กร ข
คําตอบ 4 : Spectral Method
ขอที่ : 381
ศ
ิ ว
าว
ผลของไดนามิก (Dynamic Effects) ที่มีตอเรือในการเคลื่อนที่ทางดิ่ง (Vertical Effects) เกี่ยวของโดยตรงกับการเคลื่อนที่แบบใด
ภ
คําตอบ 1 : Heaving, Pitching
ส
คําตอบ 2 : Rolling, Yawing
คําตอบ 3 : Heaving, Yawing
คําตอบ 4 : Rolling, Pitching
ขอที่ : 382
ผลของไดนามิก (Dynamic Effects) ที่มีตอเรือในการโคลงของเรือ (Rolling Effects) เกี่ยวของโดยตรงกับการเคลื่อนที่แบบใด
คําตอบ 1 : Heaving, Pitching
คําตอบ 2 : Rolling, Yawing
คําตอบ 3 : Heaving, Yawing
คําตอบ 4 : Rolling, Heaving 171 of 189
ขอที่ : 383
ในการศึกษาพลศาสตรการเคลื่อนที่ของเรือในคลื่นแบบไมแนนอน (Motion in Irregular Seaway) จะตองพิจารณาสิ่งใด
คําตอบ 1 : ความถี่ของการเกิดดาดฟาเปยก (Deck Wetness) และการกระแทกระหวางเรือกับคลื่น (Slamming)
คําตอบ 2 : ขนาดของแรงกดที่เกิดจากการกระแทกแบบฉับพลัน (Impact Pressure Caused by Slamming)
่ า ย
น
คําตอบ 3 : ระดับความรุนแรงของการที่น้ําเปยกดาดฟา
ห
จ ำ
ม
า้
384
ความเร็วในการเคลื่อนที่ทางดิ่งที่บริเวณใดๆของเรือ มักคํานวณสัมพันธกับจุดอางอิงใดของเรือ
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : จุดCG
คําตอบ 2 : จุดLCB
ิท
คําตอบ 3 : จุดทองเรือที่หัว
ส
คําตอบ 4 : จุดที่เกิด Slamming สูงสุด
ง ว น
ส
385
อ
ความเร็วการเคลื่อนที่ทางดิ่งตรงจุดใด ๆ ของเรือ มีความเร็วการเคลื่อนที่อิสระแบบใดเปนองคประกอบหลัก
ข
คําตอบ 1 : การเคลื่อนที่ แบบ Heaving และ Slamming
กร
คําตอบ 2 : การเคลื่อนที่ แบบ Heaving และ Pitching
ว
คําตอบ 3 : การเคลื่อนที่ แบบ Heaving และ Yawing
ศ
ิ
คําตอบ 4 : การเคลื่อนที่ แบบ Surging และ Slamming
ขอที่ : 386
ภ าว
ส
อัตราเรงของจุดใดๆที่บริเวณหัวเรือ มักคํานวณสัมพันธกับสิ่งใด
คําตอบ 1 : จุดต่ําสุดของเรือที่หัวเรือ
คําตอบ 2 : จุดสูงสุดของเรือที่หัวเรือ
คําตอบ 3 : ระดับผิวหนาน้ําแตละขณะ
คําตอบ 4 : จุด CG ของเรือ
ขอที่ : 387
172 of 189
่ า ย
น
คําตอบ 1 : 2 เทาของแอมปลิจูดการเคลื่อนที,่ ความเร็ว และอัตราเรง
ำ ห
คําตอบ 2 : ความสูงคลื่นและ 2 เทาแอมปลิจูดการเคลื่อนที่
จ
คําตอบ 3 : แอมปลิจูดคลื่น และ 2 เทาแอมปลิจูดอัตราเรง
ม
คําตอบ 4 : ความสูงคลื่น และ 2 เทาแอมปลิจูดอัตราเรง
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 388
การศึกษาการเคลื่อนที่สัมพันธที่หัวเรือ (Relative Bow Motion) จะใหความสนใจ 2 ลักษณะการเคลื่อนที่ใดเปนพิเศษ
ิท
คําตอบ 1 : Deck Wetness และ Surging
ส
คําตอบ 2 : Slamming และ ความเร็วทางดิ่งของหัวเรือ
Fore Deck Immersion และ Forefoot Emergence
Swell-up ของผิวหนาน้ํา และอัตราเรงทางดิ่งของหัวเรือ
ง ว น
อ ส
ข
กร
389
ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับความเปยกของดาดฟา (Deck Wetness)
ว
คําตอบ 1 : สาเหตุสําคัญที่ทําใหดาดฟาเปยก เพราะเรือมีระยะ Freeboard นอยเกินไป
ศ
ิ
คําตอบ 2 : ถาเฟสการเคลื่อนที่ระหวางหัวเรือกับคลื่นแตกตางกันบอยครั้ง ดาดฟาบริเวณหัวเรือจะมีโอกาสเปยกบอยครั้งขึ้น
าว
คําตอบ 3 : ความเปยกดาดฟามักวัดเปนชวงเวลาที่ชวงความยาวหนึ่ง ๆ จากหัวเรือเปยกน้ําตลอดเวลานั้นๆ
ภ
ขอที่ : 390
ส
ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับการกระแทกแบบ Slamming ของหัวเรือ
คําตอบ 1 : ชวงเวลาเกิดกระแทกแบบ Slamming มักสั้นกวา การกระแทกแบบ Impact
คําตอบ 2 : หลังจากเกิด Slamming แรงจะเริ่มแผจากดานขางตัวเรือเขาสูแนวกลางลําเรือ
คําตอบ 3 : ความลาดเอียงของทองเรือและความเร็วสัมพันธของหัวเรือมีความสําคัญตอการพิจารณาการเกิด Slamming มากกวาคาอัตราเรงของหัวเรือเพียงอยางเดียว
ขอที่ : 391 173 of 189
การศึกษาการเกิดการกระแทกแบบ Slamming ของหัวเรือใหความสนใจองคประกอบหลักอะไรบาง
คําตอบ 1 : จุดกระแทกหัวเรือ, ความตางมุมเฟสของการเคลื่อนที่ระหวางเรือกับคลื่น, ความเร็วสัมพันธของหัวเรือ
คําตอบ 2 : จุดกระแทกหัวเรือ ความตางมุมเฟสของการเคลื่อนที่ระหวางเรือกับคลื่น, อัตราเรงสัมพันธของหัวเรือ
คําตอบ 3 : ความเร็วสัมพันธและอัตราเรงสัมพันธของหัวเรือ
ย
คําตอบ 4 : ความเร็วสัมพันธของหัวเรือและเวลาในการกระแทก
น่ า
ห
ขอที่ : 392
ำ
ขอใดคือสิ่งที่จะตองนํามาพิจารณาในการศึกษาพลศาสตรการเคลื่อนที่ของเรือ
คําตอบ 1 : ความตานทานที่เพิ่มขึ้น (Added Resistance) เมื่อเรือแลนในคลื่น
มจ
า้
คําตอบ 2 : ความสูงของ Free Board ที่เหลือและความเปยกของดาดฟา (Deck Wetness)
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : การตอบสนองการเคลื่อนที่ของแผนทองเรือตอการกระแทกแบบ Slamming
ขอที่ : 393
ส ิท
ว น
ขอใดคือผลทางไดนามิกที่เกี่ยวของกับการเคลื่อนที่ของเรือ
ง
คําตอบ 1 : การกระแทกอยางฉับพลัน (Slamming) ของทองเรือบริเวณหัวเรือ
ส
คําตอบ 2 : ผลจากอัตราเรงโดยเฉพาะทางดิ่งอันเนื่องมาจากการเคลื่อนที่แบบ pitching และ heaving
อ
คําตอบ 3 : การลดลงของความเร็วเรือเมื่อเรือแลนในคลื่น ทําใหตองเพิ่มกําลังเรือเพื่อคงความเร็วเดิม
กร ข
ขอที่ : 394
ศ
ิ ว
าว
ผลเสียจากการที่หัวเรือเคลื่อนที่ขึ้นลงในชวงเวลาหนึ่งๆ บอยมากคือ
ภ
คําตอบ 1 : มีโอกาสเกิด Slamming รุนแรงสูง
ส
คําตอบ 2 : ผูปฏิบัติงานในเรืออาจเมาคลื่นไดงาย
คําตอบ 3 : Deck Wetness มักมีคาสูง
ขอที่ : 395
มนุษยทั่วไปจะเริ่มรูสึกอึดอัดจนมีอาการเมาคลื่น (เมาเรือ) เมื่อตองเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอัตราเรงทางดิ่งของเรือ ชวงใดเปนเวลานาน
คําตอบ 1 : 0 - 0.05 g
คําตอบ 2 : 0.05 - 0.10 g
คําตอบ 3 : 0.10 - 0.15 g 174 of 189
คําตอบ 4 : 0.15 - 0.20 g
ขอที่ : 396
เมื่อเปรียบเทียบกันแลวการเคลื่อนที่ของเรือแบบใด ทําใหมนุษยทั่วไปรูสึกอึดอัดจนเมาคลื่นไดงายกวา
่ า ย
น
ห
คําตอบ 3 : Pitching และ Heaving
จ ำ
คําตอบ 4 : Swaying และ Surging
า้ ม
ิธ์ ห
397
การประเมินขีดความสามารถในการคงทนทะเลของเรือ (Seakeeping) จะพิจารณาผลจากพลศาสตรการเคลื่อนที่ใน 2 ลักษณะ คือ
คําตอบ 1 : Free racing และ Rolling
ิท
คําตอบ 2 : Deck Wetness และ Slamming
ส
คําตอบ 3 : Bow Sinkage และ Bow Swell-up
ว น
คําตอบ 4 : Deck Wetness และ Seasickness
ส ง
อ
ขอที่ : 398
ข
ผลของพลศาสตรการเคลื่อนที่ซึ่งเกิดขึ้นกับเรือสามารถแยกออกเปน 2 ลักษณะคือ
กร
คําตอบ 1 : ผลจาการเคลื่อนที่ทางขวาง (Horizontal Effects) และผลจากการโคลง (Rolling Effects)
ว
คําตอบ 2 : ผลจาการเคลื่อนที่ทางดิ่ง (Vertical Effects) และผลจากการเคลื่อนที่ทางขวาง (Horizontal Effects)
ศ
ิ
คําตอบ 3 : ผลจาการเคลื่อนที่ทางดิ่ง (Vertical Effects) และผลจากการโคลง (Rolling Effects)
าว
ขอที่ : 399
ส ภ
สาเหตุใดที่ทําใหเกิดอาการการเมาคลื่น (Sea Sickness) เมื่อเรือเคลื่อนที่ในทะเล
คําตอบ 1 : การเปลี่ยนแปลงของอัตราเรงในทางดิ่งมากกวา 0,1g
คําตอบ 2 : การเปลี่ยนแปลงของอัตราเรงในทางดิ่งและทางขวางมากกวา 0,1g
คําตอบ 3 : การเปลี่ยนแปลงของอัตราเรงในทางดิ่งมากกวา 0,2g
คําตอบ 4 : การเปลี่ยนแปลงของอัตราเรงในทางดิ่งและทางขวางมากกวา 0,2g
ขอที่ : 400
วิธีใดตอไปนี้ เปนวิธีที่งายที่สุดในการลดการ Slaming และ Wetness เมื่อเรือปฏิบัติงานในทะเล 175 of 189
คําตอบ 1 : เปลี่ยนทิศทางในการเดินเรือ
คําตอบ 2 : ลดความเร็วเรือ
คําตอบ 3 : หันหัวเรือวิ่งสูคลื่น
คําตอบ 4 : วิ่งตามคลื่น
่ า ย
น
ขอที่ : 401
ห
ขอใดเปนปจจัยที่มีอิทธิพลตอความเร็วคลื่น
ความยาวคลื่น
จ ำ
ม
า้
คําตอบ 2 : อัตราเรงเนื่องจากแรงโนมถวงของโลก
ิธ์ ห
ิท
นส
ว
ง
402
ส
จงคํานวณหาตัวเลขคลื่น (Wave number) ของคลื่นฮารโมนิคที่มีคาบเทากับ 2 วินาที ในทะเลลึกมาก (Deep Water)
ขอ
กร
ว
1.75
ศ
ิ
ขอที่ : 403
ภ าว
ส
จงคํานวณหาความยาวคลื่นของคลื่นฮารโมนิคที่มีคาบเทากับ 2 วินาที ในทะเลลึกมาก (Deep Water)
คําตอบ 3 : 3.125
ขอที่ : 404
จงคํานวณหาความเร็วคลื่นของคลื่นฮารโมนิคที่มีคาบเทากับ 2 วินาที ในทะเลลึกมาก (Deep Water)
176 of 189
คําตอบ 3 : 3.125
ขอที่ : 405
่ า ย
จงคํานวณหาความเร็วคลื่นของคลื่นฮารโมนิคที่มีความยาวคลื่นเทากับ 120 เมตร ในทะเลลึก 5 เมตร
หน
จ ำ
ม
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : 13.69
ิท
ขอที่ : 406
ส
ขอใดไมใชตัวแปรในการหาแรง Restoring ของการเคลื่อนที่แบบ Heaving
คําตอบ 1 : ความหนาแนนของน้ํา
ง ว น
อ ส
พื้นที่หนาตัดกลางลํา (Midship Area)
ข
ระยะการเคลื่อนที่แบบ Heaving
กร
อัตราเรงเนื่องจากแรงโนมถวง
ว
ขอที่ : 407
าว ศ
ิ
ส ภ
แรง Damping ที่กระทํากับเรือในระหวางที่เรือเคลื่อนที่แบบ Rolling มีที่มาจากองคประกอบขอใด
ก. อุณหภูมิน้ํา
ข. ความฝดขางตัวเรือหรือจากคลื่นกระแสน้ําวน
ค. ความตานทานระหวางเรือกับพื้นน้ํา
ง. พลังงานที่หายไปเนื่องจากความรอนที่เกิดขึ้นในระหวางเกิด Rolling
จ. ความตึงของผิวหนาน้ํา
177 of 189
ฉ. อัตราเรงเนื่องจากแรงโนมถวง
คําตอบ 1 : ขอ ก. ค. จ. ฉ.
คําตอบ 2 : ขอ ก. ข. ค. จ.
ย
คําตอบ 3 : ขอ ก. ข. ง. ฉ.
คําตอบ 4 : ขอ ข. ง. จ. ฉ.
น่ า
จ ำ ห
ม
408
า้
ขอใดกลาวถูกตอง เกี่ยวกับแรงที่ทําใหเกิดการเคลื่อนที่แบบ Heaving
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : แรง Heaving มีคานอยเมื่อคลื่นประสิทธิผล มีความยาวมากกวาครึ่งหนึ่งของความยาวเรือ
แรง Heaving มีคาประมาณเทากับศูนย เมื่ออัตราสวนระหวางความยาวคลื่นประสิทธิผลตอความยาวเรือมีคาเทากับ สัมประสิทธิ์พื้นที่หนาตัดกลางลํา
ิท
ส
คําตอบ 3 : แรง Heaving จะมีคานอยหรือปานกลางเมื่อความยาวคลื่นประสิทธิผลมีขนาดใกลเคียงกับความยาวเรือ
ง ว น
อ ส
ข
ขอที่ : 409
กร
คาบเวลาของการเคลื่อนที่แบบใดที่มีความสําคัญที่สุดในการศึกษาความเปยกของดาดฟา
ศ
ิ ว
คาบเวลาของการเคลื่อนที่แบบ Pitching
าว
คําตอบ 2 : คาบเวลาของการเคลื่อนที่แบบ Rolling
ส
คําตอบ 4 : ภ คาบเวลาของการเคลื่อนที่แบบ Heaving

คาบเวลาของการเคลื่อนที่แบบ Surging
ขอที่ : 410
อิทธิพลของน้ําตื้นสงผลตอการเคลื่อนที่แบบใดมากที่สุด
คําตอบ 1 : Pitching และ Heaving
คําตอบ 2 : Pitching และ Rolling
178 of 189
คําตอบ 3 : Rolling และ Heaving
คําตอบ 4 : Surging และ Swaying
ย
ขอที่ : 411
ที่ความเร็วลมระดับพายุเฮอริเคน คา Sea State มีคาเทาไร
น่ า
ห
ำ
7
จ
ม
า้
ขอที่ : 412
ิธ์ ห
ิท
จากขอมูลการบันทึกคลื่นแบบไมแนนอนจํานวน 100 ลูก ดังนี้ ความสูงคลื่น 1 เมตร จํานวน 10 ลูก ความสูงคลื่น 2 เมตร จํานวน 25 ลูก ความสูงคลื่น 3 เมตร จํานวน 30 ลูก ความสูง
นส
คลื่น 4 เมตร จํานวน 25 ลูก และความสูงคลื่น 5 เมตร จํานวน 10 ลูก จงคํานวณหาคาความสูงเฉลี่ย
ง ว
ส
อ
กร ข
ขอที่ : 413
ศ
ิ ว
าว
ภ
คลื่น 4 เมตร จํานวน 25 ลูก และความสูงคลื่น 5 เมตร จํานวน 20 ลูก จงคํานวณหาคาเฉลี่ยความสูงนัยสําคัญชนิด 1 ใน 3
ส
2.8 เมตร
3.0 เมตร
4.3 เมตร
ขอที่ : 414
คลื่น 4 เมตร จํานวน 25 ลูก และความสูงคลื่น 5 เมตร จํานวน 20 ลูก จงคํานวณหาคาเฉลี่ยความสูงนัยสําคัญชนิด 1 ใน 10 179 of 189

ย
น่ า
ห
ขอที่ : 415
ำ
คลื่น 4 เมตร จํานวน 25 ลูก และความสูงคลื่น 5 เมตร จํานวน 20 ลูก จงคํานวณหาคาเฉลี่ยความสูงนัยสําคัญชนิด 1 ใน 100
มจ
า้
ิธ์ ห
ิท
นส
ง ว
ขอที่ : 416
ส
ขอใดไมใชตัวแปรสําคัญที่มีผลตอรูปรางลักษณะของสเปกตรัมคลื่น
ขอ
กร
คําตอบ 2 : ทิศทางที่ลมพัด
ศ
ิ ว
ระยะทางที่ลมพัดผานผิวหนาน้ํา
าว
คําตอบ 4 : ตําแหนงของพายุที่อยูใกลเคียง
ขอที่ : 417
ส ภ
สเปกตรัมคลื่นชนิดใดเหมาะสําหรับการนําไปใชแทนสเปกตรัมของคลื่นในมหาสมุทรเปด
คําตอบ 1 : สเปกตรัมคลื่นของ Bretschneider
คําตอบ 3 : สเปกตรัมคลื่นของ JONSWAP
คําตอบ 4 : สเปกตรัมคลื่นของ Rayleigh
180 of 189
ขอที่ : 418
สเปกตรัมคลื่นชนิดใดเหมาะที่จะใชเปนมาตรฐานสําหรับนานน้ําซึ่งสนามลมไดรับอิทธิพลจากสภาพทางภูมิศาสตร
ย
คําตอบ 1 : สเปกตรัมคลื่นของ Bretschneider
น่ า
ห
สเปกตรัมคลื่นของ JONSWAP
ำ
จ
สเปกตรัมคลื่นของ Rayleigh
ม
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 419
สเปกตรัมตอบสนอง (Response Spectrum) คืออะไร
คําตอบ 1 : เสนโคงสเปกตรัมที่สรางขึ้นจากทิศทางตอบสนองการเคลื่อนที่
ส ิท
ว น
เสนโคงสเปกตรัมที่สรางขึ้นจากความเร็วตอบสนองการเคลื่อนที่
ง
ส
คําตอบ 3 : เสนโคงสเปกตรัมที่สรางขึ้นจากขนาดแอมปลิจูดตอบสนองการเคลื่อนที่
ขอ
เสนโคงสเปกตรัมที่สรางขึ้นจากความถี่ตอบสนองการเคลื่อนที่
ว กร
ศ
ิ
420
าว
ภ
องศา จํานวน 5 ครั้ง มุมเอียง 2 องศา จํานวน 30 ครั้ง มุมเอียง 3 องศา จํานวน 20 ครั้ง มุมเอียง 4 องศา จํานวน 25 ครั้ง มุมเอียง 5 องศา จํานวน 20 ครั้ง จงหาขนาดมุมโคลงเฉลี่ย
ส
(Average Roll)
ขอที่ : 421
องศา จํานวน 5 ครั้ง มุมเอียง 2 องศา จํานวน 30 ครั้ง มุมเอียง 3 องศา จํานวน 20 ครั้ง มุมเอียง 4 องศา จํานวน 25 ครั้ง มุมเอียง 5 องศา จํานวน 20 ครั้ง จงหาขนาดมุ มโคลงนัยสําคัญ
181 of 189
(Significant Roll)
ย
่ า
หน
ำ
ขอที่ : 422
จ
า้ ม
องศา จํานวน 5 ครั้ง มุมเอียง 2 องศา จํานวน 30 ครั้ง มุมเอียง 3 องศา จํานวน 20 ครั้ง มุมเอียง 4 องศา จํานวน 25 ครั้ง มุมเอียง 5 องศา จํานวน 20 ครั้ง จงหาขนาดมุมโคลงนัยสําคัญ
ิธ์ ห
แบบ1 ใน 10 (One-Tenth Highest)
ส ิท
น
ว
ส ง
อ
ขอที่ : 423
กร ข
องศา จํานวน 5 ครั้ง มุมเอียง 2 องศา จํานวน 30 ครั้ง มุมเอียง 3 องศา จํานวน 20 ครั้ง มุมเอียง 4 องศา จํานวน 25 ครั้ง มุมเอียง 5 องศา จํานวน 20 ครั้ง จงหาขนาดมุมโคลงนัยสําคัญ
ศ
ิ ว
แบบ1 ใน 100 (One-Hundredth Highest)
าว
ภ
ส
4.60 องศา
5.00 องศา
ขอที่ : 424
ขอใดไมใชขั้นตอนในการทํานายการเคลื่อนที่แบบไมแนนอน
คําตอบ 1 : เลือกสเปกตรัมคลื่นที่เหมาะสมกับพื้นน้ําที่ตองการ
คําตอบ 2 : แปลงสเปกตรัมคลื่นใหเปนฟงกชั่นทิศทางของการปะทะ
182 of 189
คําตอบ 3 : พล็อตสเปกตรัมตอบสนองการเคลื่อนที่ของเรือ
คําตอบ 4 : สรางสเปกตรัมตอบสนองการเคลื่อนที่ของเรือ
ย
ขอที่ : 425
ถาทราบความหนาแนนสเปกตรัมคลื่น และ RAO ของเรือ จะสามารถคํานวณหาคาใดได
น่ า
ห
ROA ของคลื่น
ำ
จ
ฟงกชั่นทิศทางของการปะทะ
ม
า้
คําตอบ 3 : มุมโคลงนัยสําคัญ
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : ความหนาแนนสเปกตรัมตอบสนองการเคลื่อนที่ของเรือ
ขอที่ : 426
ส ิท
ว น
ง
ส
อ
ข
กร
ศ
ิ ว
าว
ขอที่ : 427
จงหาขนาดความยาวของเรือจริง ถาหากการเคลื่อนที่แบบ Heaving ของเรือจริงและเรือจําลองขนาด 1.6 เมตร มี คาบเวลาเทากับ 20 วินาที และ 2 วินาที ตามลําดับ
ส
ภ 64 เมตร
128 เมตร
160 เมตร
ขอที่ : 428
การเคลื่อนที่แบบ Heaving และ Pitching มีผลของไดนามิก (Dynamic Effects) ตอเรือในการเคลื่อนที่แบบใด
คําตอบ 1 : ทางระดับ
183 of 189
คําตอบ 2 : ทางดิ่ง
คําตอบ 3 : ทางขวาง
คําตอบ 4 : ทุกทิศทาง
่ า ย
น
ขอที่ : 429
ห
การเคลื่อนที่แบบใดที่ไมมีผลของไดนามิก (Dynamic Effects) ตอการโคลงของเรือ (Rolling Effects)
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
ขอที่ : 430
ส ิท
น
หากความเร็วเรือลดลงอันเนื่องมาจากคลื่น ถาตองการเพิ่มความเร็วเพื่อรักษาความเร็วเดิม ตองคํานึงถึงสิ่งใดบาง
คําตอบ 1 : กําลังเครื่องยนต
ง ว
คําตอบ 2 : ความเปยกของดาดฟา
อ ส
คําตอบ 3 : การกระแทก
กร ข
ว
าว ศ
ิ
ภ
ขอที่ : 431
ส
ขอใดคือสิ่งที่จะตองนํามาพิจารณาในการศึกษาพลศาสตรการเคลื่อนที่ของเรือ
คําตอบ 1 : ความถี่ของการเกิดดาดฟาเปยก (Deck Wetness)
คําตอบ 2 : ขนาดของแรงกดที่เกิดจากการกระแทกแบบฉับพลัน
คําตอบ 3 : การตอบสนองการเคลื่อนที่ของตัวเรือ ในรูปแรงเคนและอัตราเรง เนื่องจากการกระแทกแบบ Slamming
ขอที่ : 432 184 of 189
จุดใดใชเปนจุดอางอิงในการพิจารณาพลศาสตรการเคลื่อนที่ของเรือ
คําตอบ 1 : Longitudinal Center of Buoyancy
คําตอบ 2 : Longitudinal Center of Flotation
ย
คําตอบ 3 : จุดหัวเรือ
น่ า
ขอที่ : 433
จ ำ ห
ม
ความเร็วสัมพันธในทางดิ่ง คืออะไร
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : ความเร็วที่ทําใหเกิด Slamming รุนแรงสูง
คําตอบ 2 : ความเร็วในทางดิ่งของหัวเรือที่สัมพันธกับจุด CG
คําตอบ 3 : ความเร็วในทางดิ่งของหัวเรือที่สัมพันธกับระดับผิวหนาน้ํา
ส ิท
คําตอบ 4 : ความเร็วในทางดิ่งของหัวเรือที่สัมพันธกับระดับกินน้ําลึก
ง ว น
อ ส
ข
434
กร
อัตราเรงสัมพันธของหัวเรือคืออะไร
ว
คําตอบ 1 : อัตราเรงที่ทําใหเกิด Slamming รุนแรงสูง
าว ศ
ิ
อัตราเรงของหัวเรือที่สัมพันธกับจุด CG
ภ
คําตอบ 3 : อัตราเรงของหัวเรือที่สัมพันธกับระดับผิวหนาน้ํา
ส
คําตอบ 4 : อัตราเรงของหัวเรือที่สัมพันธกับระดับกินน้ําลึก
ขอที่ : 435
การเคลื่อนที่ของเรือลักษณะใดที่นํามาใชในการพิจารณาความคงทนของเรือขณะเคลื่อนที่ในคลื่น
คําตอบ 1 : การจมลงในน้ําของดาดฟายก
คําตอบ 2 : การโผลพนน้ําของทองเรือบริเวณหัวเรือ
185 of 189
คําตอบ 3 : การโผลพนน้ําของใบจักร
คําตอบ 4 : มุมเอียงขางกราบของเรือ
ย
ขอที่ : 436
ปจจัยใดที่นํามาใชพิจารณาโอกาสที่หัวเรือโผลพนน้ํา
น่ า
ห
คา Froude Number
ำ
จ
อัตราสวนระดับกินน้ําลึกของเรือตอความสูงคลื่น
ม
า้
คําตอบ 3 : อัตราสวนความยาวคลื่นตอความยาวเรือ
ิธ์ ห
ขอที่ : 437
ส ิท
ขอใดเปนวิธีการลดโอกาสที่ทองเรือบริเวณหัวเรือโผลพนนํา
ง ว น
ส
คําตอบ 1 : ลดระดับกินน้ําลึกของเรือ
คําตอบ 2 : ลดความเร็วเรือ
ขอ
กร
คําตอบ 3 : ลดระยะฟรีบอรด
ศ
ิ ว
ติดตั้ง Fin Stabilizer
ภ าว
ส
438
ขอใดไมใชตัวแปรที่นํามาพิจารณาหาคา Freeboard ประสิทธิผล
คําตอบ 1 : ระยะ Freeboard ในน้ํานิ่ง ไมรวมพลศาสตรการเออนูนผิวหนาน้ํา
คําตอบ 2 : ระดับกินน้ําลึกของเรือ
คําตอบ 3 : ความสูงที่เกิดจากการกระทําของคลื่นที่หัวเรือสรางขึ้น
คําตอบ 4 : การจม (Sinkage) อันเนื่องจากเรือมีความเร็ว
ขอที่ : 439 186 of 189
คาใดที่นํามาใชในการคํานวณหาจํานวนครั้งที่ดาดฟาจมลงน้ําในหนึ่งชั่วโมง
คําตอบ 1 : คาบเวลาเฉลี่ยของการโคลงแบบ Pitching
คําตอบ 2 : คาบเวลาเฉลี่ยของการโคลงแบบ Heaving
คําตอบ 3 : คาบเวลาเฉลี่ยของการโคลงแบบ Rolling
่ า ย
คําตอบ 4 : คาบเวลาเฉลี่ยของการโคลงแบบ Yawing
หน
จ ำ
ม
า้
440
ิธ์ ห
ขอใดกลาวผิด เกี่ยวกับการเกิด Pitching และ Heaving อยางรุนแรงในสภาพคลื่นลมจัด
คําตอบ 1 : เรือขนาดใหญไดรับความเสียหายจากการกระแทกแบบ Slamming มากกวาเรือขนาดเล็ก
ิท
เรือขนาดเล็กความเร็วลดลงมาก
ส
น
เรือขนาดใหญความเร็วลดลงมาก
ว
ง
ผิดทุกขอ
ส
ขอ
กร
ขอที่ : 441
ขอใดไมใชองคประกอบทาง Kinematic ในการศึกษาการกระแทกแบบ Slamming
ศ
ิ ว
จุดกระแทกที่หัวเรือ
าว
จุดกระแทกที่ทายเรือ
ภ
ส
คําตอบ 3 : ความตางมุมเฟสระหวางการเคลื่อนที่ของคลื่นกับหัวเรือ
คําตอบ 4 : ขนาดความเร็วสัมพันธของหัวเรือ
ขอที่ : 442
ขอใดกลาวถูก เกี่ยวกับการกระแทกแบบ Slamming
คําตอบ 1 : อาจทําใหผูปฏิบัติงานเกิดอาการเมาคลื่น
187 of 189
คําตอบ 2 : ความลาดเอียงของหนาตัดหัวเรือและความเร็วสัมพันธของหัวเรือ มีผลตอขนาดสูงสุดของแรงกระแทก
คําตอบ 3 : ตําแหนงที่เกิดการกระแทกจะเลื่อนไปทางทายเรือมากขึ้น เมื่อเรือมีความเร็วมากขึ้น
่ า ย
น
ขอที่ : 443
ห
Threshold Velocity คืออะไร
คาเริ่มตนของความเร็วสัมพันธหัวเรือ ที่เรือจะเริ่มการกระแทกแบบ Slamming

จ ำ
ม
า้
คําตอบ 2 : คาสูงสุดของความเร็วสัมพันธหัวเรือ ที่เรือมีการกระแทกแบบ Slamming
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : คาเฉลี่ยของความเร็วสัมพันธหัวเรือ ที่เรือมีการกระแทกแบบ Slamming
ิท
คําตอบ 4 : คาจํากัดต่ําสุดของความเร็วสัมพันธหัวเรือ ที่เรือมีการกระแทกแบบ Slamming
นส
ว
ง
444
ส
จะเกิดอะไร ถาเรือเพิ่มความเร็วขณะแลนสวนคลื่น
คําตอบ 1 : มีโอกาสเกิด Slamming มากขึ้น
ขอ
กร
คําตอบ 2 : มีโอกาสเกิด Slamming นอยลง
ศ
ิ ว
มีโอกาสเกิด Deck Wetness นอยลง
าว
คําตอบ 4 : ไมมีผลใด ๆ
ขอที่ : 445
ส ภ
Strip Theory ใชในการพิจารณาการเคลื่อนที่แบบใด
คําตอบ 1 : Rolling and Yawing
คําตอบ 2 : Swaying and Surging
คําตอบ 3 : Heaving and Rolling
คําตอบ 4 : Pitching and Heaving
ขอที่ : 446 188 of 189
การเคลื่อนที่ของเรือแบบใดที่เปนสาเหตุหลักที่ทําใหเกิดอาการเมาคลื่นไดงาย
คําตอบ 1 : Rolling and Yawing
คําตอบ 2 : Swaying and Surging
ย
คําตอบ 3 : Heaving and Rolling
่ า
คําตอบ 4 : Pitching and Heaving
หน
ำ
ขอที่ : 447
จ
กรณีเรือโคลงแบบใดที่ผูนําเรือมักเปลี่ยนเข็ม เพื่อหลีกเลี่ยงปญหาการกําธร
า้ ม
ิธ์ ห
ิท
นส
ว
ขอที่ : 448
ง
เรือจะมีประสิทธิภาพการทรงตัวสถิตยสูงสุดเมื่อถูกกระทําดวยโมเมนตดัดชนิดใด
คําตอบ 1 : Hogging
อ ส
ข
กร
Sagging
ว
ขอที่ : 449
าว ศ
ิ
ส ภ
ขอใดกลาวผิด เกี่ยวกับผลของพลศาสตรการเคลื่อนที่ของเรือ
การพิจารณาจุดสูงสุดในการตอบสนองการเคลื่อนที่ทางดิ่งของเรือจะใชResponse Amplitude Operator (RAO) เปนตัวพิจารณา
คําตอบ 2 : ผลของพลศาสตรการเคลื่อนที่ซึ่งเกิดขึ้นกับเรือ แยกไดเปนผลจากการเคลื่อนที่ทางดิ่งและผลจากการโคลง
คําตอบ 3 : ตัวแปรที่ตองนํามาพิจารณาพลศาสตรการเคลื่อนที่ของเรือ ไดแก อัตราเรงเนื่องจากการเกิดการกระแทก
คําตอบ 4 : การที่หัวเรือโผลพนน้ําทั้งหมดนั้น เกี่ยวของโดยตรงกับความเร็วสัมพันธปริมาณมาก ๆ ที่หัวเรือ
ขอที่ : 450
ตัวแปรใดที่จะตองนํามาพิจารณาผลของการเคลื่อนที่ทางดิ่งและผลของการโคลง 189 of 189
ก. ความถี่ของการปะทะกับคลี่นที่ทําใหเกิดดาดฟาเปยก
ข. กําลังดันที่กระทํากับตัวเรือและการตอบสนองของเรือเมื่อเกิดการกระแทกฉับพลัน
่ า ย
น
ค. ความสูงของ Superstructure
ง. พลศาสตรความเออนูนของผิวหนาน้ํา
จ ำ ห
า้ ม
ิธ์ ห
จ. การโผลของใบจักร
คําตอบ 1 : ขอ ก. ข. จ.
ิท
ขอ ข. ค. ง.
ส
น
ขอ ค. ง. จ.
ว
ง
ขอ ก. ข. ง.
ส
ขอ
ว กร
าว ศ
ิ
ส ภ

ข้อสอบภาคีวิศวกรเครื่องกล วิชา 2221 Ship Dynamics

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

You might also like

ข้อสอบภาคีวิศวกรเครื่องกล วิชา 2221 Ship Dynamics

Uploaded by

Document Information

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

ข้อสอบภาคีวิศวกรเครื่องกล วิชา 2221 Ship Dynamics

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

สาขา: เครื่องกล วิชา: ME12 Ship Dynamics

คําตอบ 1 : ความสูงที่ตําแหนงใดๆ ของคลื่นเมื่อเทียบกับแกนอางอิงหรือระดับเฉลี่ย

คําตอบ 1 : 3.42 m/s

คําตอบ 1 : 1.26 Sec.

คําตอบ 3 : ตรงที่ Tuning Factor = 1.0

คําตอบ 1 : 0.35 Sec.

คําตอบ 4 : ภ คาบเวลาของการเคลื่อนที่แบบ Heaving

คําตอบ 4 : Surging และ Swaying

คําตอบ 1 : 2.8 เมตร

คาเริ่มตนของความเร็วสัมพันธหัวเรือ ที่เรือจะเริ่มการกระแทกแบบ Slamming

You might also like