Professional Documents
Culture Documents
ทำไมต้องอิสติฆฟาร ?
ทำไมต้องอิสติฆฟาร ?
ทำำไมต้องอิสติฆฟำร
[ ] ไทย
لماذا نستغفر ؟
[ باللغة التايلندية ]
ซุฟอัม อุษมาน
صافي عثمان
2
อัลลอฮฺจะไม่ลงโทษพวกเขาทั้งๆ ที่พวกเขานั้นได้อิสติฆฟาร" การอิสติฆฟารของพวกเขาเป็น
เหตุ ป้ อ งกั น ไม่ ใ ห้ อั ล ลอฮฺ ส่ ง การลงโทษของพระองค์ ล งมา (ดู ตั ฟ ซี ร อั ส -สะอฺ ดี ย์ หน้ า 297)
มีรายงานจากเศาะหาบะฮฺบางท่านกล่าวว่า มนุษย์ทั้งหลายมีมูลเหตุแห่งความปลอดภัย
จากการลงโทษอยู่สองประการ นั่นคือ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม และการอิสติฆฟาร
ท่านนบีนั้นได้จากไปแล้ว ในขณะที่อิสติฆฟารจะยังคงอยู่จนถึงวันกิยามะฮฺ (ดู ตัฟซีร อัต-เฏาะบะ
รี ย์ 2:381)
3
ماء َّ ل ال
َ س ِ س ِ م ُتوبُواْ إِلَ ْي
ِ ه ُيْر َّ م ُث ْ ُفُروا ْ َر َّبكِ غ ْ س َت ْ وم ِ ا َ ويَا
ْ ق َ «
ْوا َ ّ َ ً
ْ ول َ
َ ول تَ َتَ م ُ
ْ وتِك ُ ة إِلى
َّ ق ً و ُ م
َّ ق ُ
ْ ز ْدك
ِ و َي
َ دَرارا ْ مِّ علَيْكم
ُ َ
) 52 : ن» (هود َ مي ِ ر ِ ج
ْ م ُ
ความว่ า (นบี ฮู ด ได้ ก ล่ า วว่ า ) โอ้ เผ่ า ของฉั น จงอิ ส ติ ฆ ฟารต่ อ พระผู้
อภิบาลของพวกท่าน แล้วจงเตาบะฮฺต่อพระองค์เถิด แล้วพระองค์จะ
ประทานให้มีฝนชุกแก่พวกท่าน และจะทำาให้ความแข็งแกร่งของพวก
ท่ า นเพิ่ ม ขึ้ น จากเดิ ม อี ก และอย่ า ได้ เ มิ น หลั ง ให้ พ ระองค์ เ ช่ น เหล่ า
อ า ช ญ า ก ร
4
แค่ไหนก็ตำม) โอ้ มนุษย์ผู้เป็นลูกแห่งอำดัม หำกบำปของเจ้ำมำกมำยก่ำยกองจนเกือบ
ล้นฟ้ำ แล้วเจ้ำก็วอนขออภัยต่อข้ำ ข้ำก็จะอภัยให้โดยไม่สนใจเลย(ว่ำมันจะมำกมำยแค่
ไหน) โอ้ มนุษย์ผู้เป็นลูกแห่งอำดัม หำกเจ้ำมำหำข้ำด้วยบำปที่เต็มเกือบเท่ำพื้นปฐพี แล้ว
เจ้ำเข้ำพบข้ำโดยที่ไม่มีกำรตั้งภำคีใดๆ กับข้ำ ข้ำก็จะเข้ำหำเจ้ำด้วยกำรอภัยโทษที่เต็ม
เท่ำพื้นแผ่นดินนี้เช่นเดียวกัน" (อัต-ติรมิซีย์ : 3540, อิบนุ เราะญับกล่าวว่า หะดีษนี้ไม่มีปัญหา
เกี่ ย วกั บ สายรายงาน กล่ า วคื อ เป็ น หะดี ษ ที่ ใ ช้ ไ ด้ ดู ญามิ อฺ อั ล -อุ ลู ม วั ล -หิ กั ม 2:400)
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า "ขอสำบำนด้วยอัลลอฮฺผู้ซึ่งชีวิตข้ำ
อยู่ในพระหัตถ์แห่งพระองค์ หำกพวกเจ้ำไม่มีกำรพลำดพลั้งทำำบำปเลย แน่แท้อัลลอฮฺจะ
ทรงให้พวกเจ้ำสูญสิ้นไป และพระองค์ก็จะทรงนำำชนกลุ่มอื่นที่ทำำบำปให้มำสืบทอดแทน
พวกเจ้ำ พวกเขำจะกล่ำวอภัยโทษต่ออัลลอฮฺและพระองค์ก็จะทรงอภัยให้เขำ" (มุสลิม :
2749)
เพราะอิสติฆฟารมีความสำาคัญเยี่ยงนี้ อัลลอฮฺจึงสอนให้บรรดานบีรู้จักการอิสติฆฟาร นับ
ตั้งแต่นบีอาดัม อะลัยฮิสสลาม จนถึงท่านนบี มุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ทั้งหมดล้วน
ได้ ทำา แบบอย่ า งที่ ดี ยิ่ ง ในการอิ ส ติ ฆ ฟารขออภั ย โทษจากพระผู้ อ ภิ บ าลของพวกเขา
ดั ช นี ต่ อไปนี้ แ สดงให้ เ ห็ น ตัว อย่ า งเกี่ ย วกั บการอิ สติ ฆ ฟารของนบีบางท่ า น ที่ มี ร ะบุใ น
อั ล กุ ร อ า น :
- อิสติฆฟารของนบีอาดัม อะลัยฮิสสลาม (อัล-บะเราะเราะฮฺ : 37, อัล-อะอฺ รอฟ : 23)
- น บี นู หฺ อ ะ ลั ย ฮิ ส ส ล า ม (ฮู ด : 47)
- น บี อิ บ ร อ ฮี ม อ ะ ลั ย ฮิ ส ส ล า ม (อั ล -บ ะ เ ก า ะ เ ร า ะ ฮฺ : 128, อิ บ ร อ ฮี ม : 41)
- น บี มู ซ า อ ะ ลั ย ฮิ ส ส ล า ม (อั ล -อ ะ อฺ ร อ ฟ : 151, 155, อั ล -เ ก า ะ ศ็ อ ศ : 16)
- น บี ด า วู ด อ ะ ลั ย ฮิ ส ส ล า ม (ศ อ ด : 24)
- น บี สุ ลั ย ม า น อ ะ ลั ย ฮิ ส ส ล า ม (ศ อ ด : 35)
- น บี ยู นุ ส อ ะ ลั ย ฮิ ส ส ล า ม (อั ล -อั น บิ ย า อ์ : 87)
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เองได้ทำา แบบอย่างที่สมบูรณ์เกี่ยวกับอิสติฆฟาร
ท่านจะกล่าวอิสติฆฟารมากที่สุดกว่าคนอื่นๆ (อัน-นะสาอีย์ ใน อะมัล เยาม์ วัล ลัยละฮฺ : 10215)
โดยจะกล่าวอิสติฆฟารไม่น้อยกว่า 70-100 ครั้งในแต่ละวัน (อัล-บุคอรีย์ : 6307, อัน-นะสาอีย์ ใน
อะมัล เยาม์ วัล ลั ย ละฮฺ : 10205) บางที เ ศาะหาบะฮฺ ไ ด้นั บจำา นวนการกล่า วอิ ส ติ ฆ ฟารในวง
สนทนาแต่ละครั้งของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ถึงหนึ่งร้อยครั้ง (อบู ดาวูด : 1516,
อั ต -ติ ร มิ ซี ย์ : 3434, อิ บ นุ ม า ญ ะ ฮฺ : 3814, เ ศ า ะ ฮี หฺ อั ล -ญ า มิ อฺ : 3486)
ข้อเท็จจริงทางหลักฐานเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสำา คัญของอิสติฆฟาร และไม่ควร
อย่างยิ่งที่ผู้เป็นมุสลิมจะเฉยเมยและไม่มีอาการตอบสนองต่อความสำา คัญของมัน ด้วยการนิ่ง
5
ดูดายไม่สนต่อความผิดบาปที่ก่อตัวและพอกพูนขึ้นทุกวันๆ โดยมิพักจะนึกถึงอัลลอฮฺและกล่าว
ขออภัย โทษต่ อ พระองค์ ทั้ ง ๆ ที่ การอิ ส ติ ฆ ฟารนั้ น ไม่ ใ ช่ สิ่ ง ที่ ย ากเย็ น แสนเข็ ญ แต่ อ ย่ า งใดเลย
َ فر الل ه َ
อย่ า งน้ อ ยสำา นวนอิ ส ติ ฆ ฟารเช่ น ه ِ ْ ب إِلَيُ و ْ ُ وأت َ َ ُ ِ غ ْ َ ست ْ " أอั ส ตัฆ ฟิ
รุ ล ล อ ฮฺ ว ะ อ ะ ตู บุ
อิลัยฮิ" (หมายความว่า ฉันขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺและฉันขอกลับตัวสู่พระองค์) ควรจะเป็นสิ่งที่
ติดปากของพวกเราทุกคนทุกที่ทุกเวลา และหากเป็นไปได้ควรศึกษาและท่องจำาสำานวนอิสติฆฟาร
ที่ มี ร ะ บุ ใ น ห ะ ดี ษ ต่ า ง ๆ ซึ่ ง ท่ า น น บี ไ ด้ ส อ น ใ ห้ เ ร า ก ล่ า ว ต า ม ว า ร ะ ต่ า ง ๆ เ ช่ น
(1) สำา น ว น ที่ ใ ช้ ก ล่ า ว ก่ อ น ใ ห้ ส ล า ม ใ น ล ะ ห ม า ด (อั ล -บุ ค อ รี ย์ : 799)
وَل
َ ،ما كَثِيًرا ً ْ سي ظُل ِ ف ْ َت ن ُ م ْ َ ظَل م إِنِّي َّ ه ّٰ
ُُ «الل
َ َ
نْ مِ ًفَرة ِ غْ مَ فْر لِي ْ فا
ِ غ َ ،ت َ ْ ب إ ِ ّل أن َ فُر الذُّنُو ِ غ
ْ َي
َ
»م ُ حيِ فوُر الَّر ُ غَ ْ ت ال َ ْ منِي إِنَّك أن ْ حَ واْر َ ،ك َ د ِ ْ عن ِ
ในคัมภีร์อัลกุรอานเองก็มีสำานวนต่างๆ ของอิสติฆฟารให้เราได้เลือกปฏิบัติหรือสับเปลี่ยน
สำานวนได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นไม่ให้เบื่อหน่ายกับสำานวนที่ใช้กล่าวเพียงอันเดียว (ดู สูเราะฮฺ อาล
6
อิมรอน : 16, 147, 193, อัล-อะอฺรอฟ : 23, อิบรอฮีม : 41, อัล-อันบิยาอ์ : 87, อัล-มุมินูน : 109,
118, อั ล -เ ก า ะ ศ็ อ ศ : 16, อั ล -หั ช ร์ : 10)
อย่ า งไรก็ต าม สิ่ง ที่ สำา คั ญ ที่ สุ ด คื อ การกล่ า วอิ ส ติ ฆ ฟารให้ ติ ด ปากเสมอ ไม่ว่ า จะด้ ว ย
สำา นวนใดก็ตาม หากไม่สามารถที่จะท่องจำา สำา นวนที่ยาวๆ ก็เป็นการเพียงพอด้วยการกล่าวสั้น
َ فر الل ه َُ
ِ ُْ ب إِلَي
ว่ า ๆ ه ُُ و
ْ ُ وأت
َ َُ ُ ِ غ ْ َ ستْ " أอั ส ตั ฆ ฟิ รุ ล ล อ ฮฺ ว ะ อ ะ ตู บุ อิ ลั ย ฮิ "
นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ง่ายมากๆ อีกประการหนึ่ง แต่น้อยคนที่สามารถปฏิบัติอย่างสมำ่าเสมอได้
จึงควรอย่างยิ่งที่เราต้องมุ่งมั่นฝึกฝนและเอาจริงเอาจังเพื่อแบบฉบับแห่งคำาสอนของพระผู้เป็นเจ้า
อันงดงามนี้ได้กลายเป็นเสมือนเครื่องประดับติดกายเราอยู่ตลอดเวลา เพื่อการยกย่องจากอัลลอฮฺ
และการอภั ย โทษต่ อ ความผิ ด บาปที่ เ กิ ด ขึ้ น กั บ เราทุ ก คนโดยยากที่ จ ะหลี ก เลี่ ย งได้ พ้ น แม้ จ ะ
พ ย า ย า ม สุ ด ค ว า ม ส า ม า ร ถ แ ค่ ไ ห น ก็ ต า ม
ท่ามกลางโลกอันวุ่นวายและเต็มไปด้วยสิ่งยั่วยวนให้หลงผิดและกระทำาบาปต่อพระผู้เป็น
เจ้า มนุษย์ยังมีอิสติฆฟารเป็นของขวัญจากอัลลอฮฺ ที่จะใช้เป็นเครื่องป้องกันไม่ให้บาปมาปกคลุม
หัวใจจนมิด ทั้งยังเป็นปัจจัยสำาคัญที่จะยับยั้งการลงโทษจากพระองค์ผู้ทรงเกรียงไกรตามที่ได้ทรง
สั ญ ญ า ไ ว้ กั บ เ ร า
ข อ อั ล ล อ ฮฺ ป ร ะ ท า น ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลื อ อ า มี น