Download as doc, pdf, or txt
Download as doc, pdf, or txt
You are on page 1of 22

4

(
(
)

(

1. พืน้ ฐานร้อยกรอง
1.1 ตระหนักในคุณค่าของคำาประพันธ์ 1.เอกลักษณ์ทางด้าน 1. รวบรวม 1. ความ
ไทยซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควร ศิลปวัฒนธรรมแขนง 2. แปล ตระหนัก
ค่าแก่ การหวงแหน อนุรักษ์และ ต่าง ๆ
ความ 2. ความ
พัฒนาให้ยั่งยืนสืบไป 2. วรรคทองจาก
วรรณกรรมและ 3. จำาแนก ภาคภูมิใจ
1.2 มีความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของ
วรรณคดีทม ี่ ีชื่อเสียง 4. อธิบาย 3. ความมุ่ง
บรรพชนไทยที่ได้สร้างความเจริญ
3. ลักษณะเด่นของคำา 5. การ มัน่
งอกงามทางภาษาจนกลั่นกรองมาเป็น
ประพันธ์ไทยจาก แสดง 4. ความ
คำาประพันธ์ไทยที่เป็นความงดงามเป็น
วรรณคดีที่เป็นที่นิยม ความคิด หวงแหน
เครื่องจรรโลงใจให้กับชาติไทย
เช่น การเล่นคำา การ สร้างสรรค์ 5. การ
1.3 มีความมุ่งมั่นทีจ ่ ะเรียนรู้
เลียนเสียงธรรมชาติและ 6. ตอบ อนุรักษ์
และฝึกฝนให้เกิดทักษะใน การใช้โวหารภาพพจน์
การแต่งคำาประพันธ์เพื่อ คำาถาม 6. การ
และการแสดงความคิด
ผดุงไว้และสืบสานงาน 7. การนำา พัฒนา
สร้างสรรค์
3

ด้านวรรณศิลป์แขนงนี้ให้ 4. จำาแนกชนิดของคำา เสนอ 7. ความ


คงอยู่อย่างยั่งยืนสืบไป ประพันธ์ที่ใช้แต่ง ตัง้ ใจ
1.4 นำาความรู้ที่ได้จากการ วรรณคดีเรือ ่ งต่าง ๆที่ 8. ความ
เรียนรู้และฝึกฝนจนเกิด ได้รับการยกย่องจาก เอาใจใส่
เป็นทักษะการแต่งคำา วรรณคดีสโมสรหรือ 9. ความรับ
ประพันธ์มาใช้เป็นเครื่อง จากหนังสือเรียน ผิดชอบ
มือในการศึกษาค้นคว้า 5. คำาขวัญ สุภาษิต คำา 10. ความ
หาความรูจ ้ ากวรรณคดี พังเพย บทอาเศียรวาท ซื่อสัตย์
ต่าง ๆของชาติไทยได้ บทร้อยกรองที่ชนะการ 11. การตรง
1.5 นำาความรู้ความเข้าใจ ประกวด
ต่อเวลา
และทักษะการแต่งคำา 6. ความรูเ้ บื้องต้นเกี่ยว
8. ความคิด
ประพันธ์มาประยุกต์ใช้ใน กับคำาประพันธ์ไทย
ชีวิตประจำาวันทั้งด้านการ สร้างสรรค์
ศึกษาและการ

/
/ (
(
)

(

งานอาชีพได้อย่างกลมกลืน 7. ลักษณะบังคับของคำา
เหมาะสม ประพันธ์ไทย( เนาว
1.6 ให้คำาจำากัดความคำาว่า รัตน์) 7.1 คณะ
4

คำาประพันธ์ และคำาที่มี 7.2 พยางค์


ความหมายเดียวกับคำา 7.3 เสียงวรรณยุกต์
ประพันธ์ได้ 7.4 สัมผัส
1.7 จำาแนกประเภทและชนิด
7.5 คำานำา
ย่อยของคำาประพันธ์แต่ละ
7.6 คำาเป็นคำาตาย
ประเภทได้
1.8 อธิบายลักษณะของคำา 7.7 คำาเอกคำาโท
ประพันธ์ไทยชนิดต่าง ๆใน 7.8 คำาครุคำาลหุ
แต่ละประเภทได้ 7.9 คำาสร้อย
1.9 อธิบายเรื่องคณะของคำา
ประพันธ์ชนิดต่าง ๆใน
แต่ละประเภทได้
1.10 จำาแนกประเภทของ
สัมผัสและอธิบายสัมผัส
ของคำาประพันธ์ชนิดต่าง ๆ
ในแต่ละประเภทได้
1.11 บอกลักษณะและ
จำาแนกคำาเป็นคำาตายได้
1.12 บอกลักษณะและ
จำาแนกคำาเอกคำาโทได้
1.13 บอกลักษณะและ
จำาแนกคำาครุคำาลหุได้
5

/
/ (
(
)

(

2.
1. เรื่องความคิดหรือแนวคิด 1. อธิบาย 1. ความ
2. ความสัมพันธ์ระหว่างความคิด 2. จำาแนก ตัง้ ใจ
กับงานประพันธ์ 2. ความ
3. บอก
2.1 ให้คำาจำากัดความของคำา 2.1 แนวคิดเกี่ยวข้องกับอารมณ์ต่าง
ความ เอาใจใส่
ว่า คิด แนวคิด ความคิด ๆ
สัมพันธ์ 3. ความมุ่ง
ได้ 2.2 คติธรรม
มัน่
2.2 อธิบายกระบวนการคิด 2.3 ปรัชญาชีวิต
4. ความรับ
และทิศทางในการคิดได้2.3 2.4 อุดมคติ
2.5 ธรรมชาติ ผิดชอบ
อธิบายและจำาแนกความ 5. ความ
2.6 ความรู้สึกและจินตนาการ
คิดซึ่งเป็นเนื้อหาสาระของ ซื่อสัตย์
2.7 สัจธรรม
คำาประพันธ์ได้ 6. การตรง
2.8 การเปรียบเทียบ
2.4 อธิบายและจำาแนก
2.9 สิ่งที่เกินจริงหรือเป็นไปไม่ได้ ต่อเวลา
โวหารแต่ละชนิดทีท ่ ำาให้ 8. ความคิด
2.10 การเชิดชู ยกย่อง สดุดี
เกิดภาพพจน์ซึ่งเป็นความ
3. ความสามารถในการสร้าง สร้างสรรค์
งดงามทางวรรณศิลป์ได้
คำา(โวหาร) ที่ทำาให้เกิด
2.5 บอกความสัมพันธ์
ภาพพจน์(Figure of speech)
6

ระหว่างความคิดกับงาน 3.1 อุปลักษณ์(Metaphor )


ประพันธ์และวิเคราะห์ 3.2 ปฏิพากย์( Paradox )
ความคิดที่ปรากฏในงาน 3.3 อติพจน์(Hyperbole)
ประพันธ์นั้น ๆได้ 3.4 บุคลาธิษฐาน( Personification )
2.6 บอกความสัมพันธ์ 3.5 สัญลักษณ์ (Symbol )
ระหว่างโวหารภาพพจน์ 3.6 นามนัย (Metonymy )
กับงานประพันธ์และ 3.7 สัทพจน์(Onematoboeia)
วิเคราะห์โวหารภาพพจน์ที่
ปรากฏในงานประพันธ์นั้น
ๆได้

/
/ (
(
)

(

3.
1. ประวัติความเป็นมา 1. บอก 1. ความ
ของกาพย์ ประวัติ ตัง้ ใจ
3.1 บอกประวัติความเป็นมา 2. การแบ่งชนิดของ 2. จำาแนก 2. ความ
และจำาแนกชนิดของกาพย์ กาพย์ตามความนิยม ชนิด เอาใจใส่
ได้
7

3.2 บอกลักษณะบังคับทาง 3. กาพย์ยานี 11 ลักษณะ 3. บอก 3. ความมุ่ง


ฉันทลักษณ์ ของกาพย์ยานี บังคับ ลักษณะ มัน่
11 ได้ แผนผัง ข้อบังคับ 4. วิเคราะห์ 4. ความรับ
3.3 วิเคราะห์วรรคหรือบาท สัมผัส วรรค/บาท ผิดชอบ
ต่าง ๆของกาพย์ยานี 11 ที่ 4. สัมผัสซึ่งแบ่งเป็น 5. แต่ง 5. ความ
วางสลับที่หรือขาดหายไป 4.1 สัมผัสบังคับ กาพย์ยานี1 ซื่อสัตย์
แล้วสังเคราะห์ให้เป็น 4.2 สัมผัสระหว่างบท 1 6. การตรง
กาพย์ยานี 11 ที่ถูกต้องได้ 4.3 สัมผัสพิเศษ ต่อเวลา
3.4 แต่งกาพย์ยานี 11 โดย 4.3.1 เพิม
่ สัมผัสระหว่าง 8. ความคิด
คำานึงถึงลักษณะบังคับทาง คำาสุดท้ายของวรรคหน้า สร้างสรรค์
ฉันทลักษณ์ เนือ
้ หาสาระ และคำาที่ 1, 2 หรือ 3
แนวคิด การใช้โวหาร 4.3.2 เล่นสัมผัสในทั้ง
ภาพพจน์ตา่ ง ๆ และ สัมผัสสระและอักษร
ความคิดสร้างสรรค์ได้ 4.3.3 คำาสุดท้ายของบาท
เอก ควรใช้คำาที่มีเสียง
จัตวา
5. ด้านการนำาไปใช้
8

/
/ (
(
)

(

4.
1. กาพย์ฉบัง 16 ลักษณะ 1. บอก 1. ความ
ั บังคับ แผนผัง คณะ ลักษณะ ตัง้ ใจ
4.1 บอกลักษณะบังคับทาง สัมผัส 2. วิเคราะห์ 2. ความ
ฉันทลักษณ์ ของกาพย์ 2. สัมผัส ซึ่งแบ่งเป็น วรรค/บาท เอาใจใส่
ฉบัง 16 ได้ 2.1 สัมผัสบังคับ 3. แต่ง 3. ความมุ่ง
4.2 วิเคราะห์วรรคหรือบาท 2.2 สัมผัสระหว่างบท กาพย์ฉบัง มัน่
ต่าง ของกาพย์ฉบัง 16 ที่ 2.3 สัมผัสเพิ่มเติม 16 4. ความรับ
วางสลับที่หรือขาดหายไป 2.3.1 สัมผัสระหว่างคำา ผิดชอบ
แล้วสังเคราะห์ให้เป็น สุดท้ายวรรคที่ 2 หรือ 5. ความ
กาพย์ฉบัง 16 ที่ถูกต้องได้ ซื่อสัตย์
วรรคกลางส่งสัมผัสสระ
4.3 แต่งกาพย์ฉบัง 16 โดย ไปยังคำาที่ 2 ในวรรคหลัง 6. การตรง
คำานึงถึงลักษณะบังคับทาง 2.3.2 สัมผัสในเป็นคู่คู่ละ 2 ต่อเวลา
ฉันทลักษณ์ เนือ
้ หาสาระ 8. ความคิด
คำาทุกวรรค
แนวคิด การใช้โวหาร สร้างสรรค์
3. ด้านการนำาไปใช้
ภาพพจน์ตา่ ง ๆ และ
ความคิดสร้างสรรค์ได้
9

/
/ (
(
)

(

5.
1. ประวัติความเป็นมา 1. บอก 1. ความ
5.1 บอกประวัติความเป็นมา ของกลอน ประวัติ ตัง้ ใจ
และจำาแนกชนิดของกลอน 2. การแบ่งชนิดของ 2. จำาแนก 2. ความ
ได้
10

5.2 บอกลักษณะบังคับทาง กลอน และคำาประพันธ์ ชนิด เอาใจใส่


ฉันทลักษณ์ ของกลอน ทีเ่ กิดจากการประยุกต์ 3. บอก 3. ความมุ่ง
แปดได้ กลอน ลักษณะ มัน่
5.3 วิเคราะห์วรรคหรือบาท 3. กลอนแปดหรือกลอน บังคับ 4. ความรับ
ต่าง ๆ ของกลอนแปดที่วาง ตลาด ลักษณะบังคับ 4. วิเคราะห์ ผิดชอบ
สลับที่หรือขาดหายไปแล้ว แผนผัง คณะ สัมผัส วรรค/บาท 5. ความ
สังเคราะห์ให้เป็นกลอน 4. สัมผัสซึ่งแบ่งเป็น 5. แต่ง ซื่อสัตย์
แปด ที่ถูกต้องได้ 4.1 สัมผัสบังคับ กลอนแปด 6. การตรง
5.4 แต่งกลอนแปด โดย 4.2 สัมผัสระหว่างบท ต่อเวลา
คำานึงถึงลักษณะบังคับทาง 4.3 สัมผัสเพิ่มเติม ได้แก่ 8. ความคิด
ฉันทลักษณ์ เนือ
้ หาสาระ สัมผัสในเป็นคู่ ๆ สร้างสรรค์
แนวคิด การใช้โวหาร
5. เสียงวรรณยุกต์ท้าย
ภาพพจน์ตา่ ง ๆ และ
วรรค
ความคิดสร้างสรรค์ได้
11

/
/ (
(
)

(

6.
1. ประวัติความเป็นมา 1. บอก 1. ความ
6.1 บอกประวัติความเป็นมา ของโคลง ประวัติ ตัง้ ใจ
และจำาแนกชนิดของโคลง 2. การแบ่งชนิดของโคลง 2. จำาแนก 2. ความ
ได้ ชนิด เอาใจใส่
6.2 บอกลักษณะบังคับทาง 3. โคลงสีส
่ ุภาพ ลักษณะ 3. บอก 3. ความมุ่ง
ฉันทลักษณ์ของโคลงสี่ บังคับ แผนผัง สัมผัส ลักษณะ มัน่
สุภาพ ได้ คำาเอกคำาโท 2. วิเคราะห์ 4. ความรับ
6.3 วิเคราะห์วรรคหรือบาท 4. ลักษณะพิเศษที่จะ วรรค/บาท ผิดชอบ
ต่าง ๆ ของโคลงสีส ่ ุภาพที่ ทำาให้โคลงมีความ 3. แต่งโคลง 5. ความ
วางสลับที่หรือขาดหายไป ไพเราะ ซื่อสัตย์
สีส
่ ุภาพ
แล้วสังเคราะห์ให้เป็นโคลง 6. การตรง
สีส
่ ุภาพที่ถูกต้องได้
ต่อเวลา
6.4 แต่งโคลงสี่สุภาพ โดย
8. ความคิด
คำานึงถึงลักษณะบังคับทาง
สร้างสรรค์
ฉันทลักษณ์ เนือ
้ หาสาระ
แนวคิด การใช้โวหาร
12

ภาพพจน์ตา่ ง ๆ และ
ความคิดสร้างสรรค์ได้

30203
4

1.0
40

รวบรวม แปลความ จำาแนก อธิบาย แสดงความคิด


สร้างสรรค์ ตอบคำาถาม นำาเสนอ
บอกความสัมพันธ์ บอกประวัติ บอกลักษณะ วิเคราะห์วรรค/
บาท และแต่งคำาประพันธ์
คำาประพันธ์ประเภท กาพย์ กลอน และโคลง บางชนิด โดย
คำานึงถึงลักษณะบังคับ เนือ้ หาสาระ แนวคิด การใช้โวหาร
ภาพพจน์ต่าง ๆ และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้มีความรู้พื้นฐาน
เกี่ยวกับฉันทลักษณ์ของคำาประพันธ์ชนิดนั้น ๆ อันเป็นแนวทาง
ในการแต่งคำาประพันธ์ประเภทอื่น ๆต่อไป
เพื่อให้เกิด ความตระหนัก ความภาคภูมิใจ ความมุ่งมั่น
ความหวงแหน การอนุรักษ์
การพัฒนา ความตั้งใจ ความเอาใจใส่ ความรับผิดชอบ ความ
13

ซื่อสัตย์ การตรงต่อเวลา และ


ความคิดสร้างสรรค์ ต่อคุณค่าของงานประพันธ์ประเภทร้อยกรอง
อันเป็นภูมิปัญญาของบรรพชน

/ 1/1.1 –
1.13 2/2.1 – 2.6 3/3.1 – 3.4 4/4.1 – 4.3
5/5.1 – 5.4 6/6.1 – 6.4

34 /

หน่วยที่ 1 พื้นฐานร้อยกรอง
1.เอกลักษณ์ทางด้านศิลปวัฒนธรรมแขนงต่าง ๆ
2. วรรคทองจากวรรณกรรมและวรรณคดีที่มช ี ื่อเสียง
3. ลักษณะเด่นของคำาประพันธ์ไทยจากวรรณคดีที่เป็นที่
นิยมเช่น การเล่นคำา
การเลียนเสียงธรรมชาติและการใช้โวหารภาพพจน์
และการแสดงความคิดสร้างสรรค์
4. จำาแนกชนิดของคำาประพันธ์ที่ใช้แต่งวรรณคดีเรื่อง
ต่าง ๆที่ได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรหรือจาก
หนังสือเรียน
14

5. คำาขวัญ สุภาษิต คำาพังเพย บทอาเศียรวาท บทร้อย


กรองทีช่ นะการประกวด
6. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคำาประพันธ์ไทย
7. ลักษณะบังคับของคำาประพันธ์ไทย( เนาวรัตน์)
7.1 คณะ
7.2 พยางค์
7.3 เสียงวรรณยุกต์
7.4 สัมผัส
7.5 คำานำา
7.6 คำาเป็นคำาตาย
7.7 คำาเอกคำาโท
7.8 คำาครุคำาลหุ
7.9 คำาสร้อย

หน่วยที่ 2 ผองความคิดและวิจิตรโวหาร
1. เรื่องความคิดหรือแนวคิด
2. ความสัมพันธ์ระหว่างความคิดกับงานประพันธ์
2.1 แนวคิดเกี่ยวข้องกับอารมณ์ต่าง ๆ
2.2 คติธรรม
2.3 ปรัชญาชีวิต
2.4 อุดมคติ
2.5 ธรรมชาติ
2.6 ความรู้สึกและจินตนาการ
2.7 สัจธรรม
2.8 การเปรียบเทียบ
2.9 สิ่งที่เกินจริงหรือเป็นไปไม่ได้
2.10 การเชิดชู ยกย่อง สดุดี
3. ความสามารถในการสร้างคำา(โวหาร) ที่ทำาให้เกิดภาพพจน์(Figure of speech)
3.1 อุปลักษณ์(Metaphor )
3.2 ปฏิพากย์( Paradox )
15

3.3 อติพจน์(Hyperbole)
3.4 บุคลาธิษฐาน( Personification )
3.5 สัญลักษณ์ (Symbol )
3.6 นามนัย (Metonymy )
3.7 สัทพจน์(Onematoboeia)

หน่วยที่ 3 ตระการกาพย์ยานี
1. ประวัติความเป็นมาของกาพย์
2. การแบ่งชนิดของกาพย์ตามความนิยม
3. กาพย์ยานี 11 ลักษณะบังคับ แผนผัง ข้อบังคับ สัมผัส
4. สัมผัสซึ่งแบ่งเป็น
4.1 สัมผัสบังคับ
4.2 สัมผัสระหว่างบท
4.3 สัมผัสพิเศษ
4.3.1 เพิม
่ สัมผัสระหว่างคำาสุดท้ายของวรรคหน้า
และคำาที่ 1, 2 หรือ 3
4.3.2 เล่นสัมผัสในทั้งสัมผัสสระและอักษร
4.3.3 คำาสุดท้ายของบาทเอก ควรใช้คำาที่มี
เสียงจัตวา
5. ด้านการนำาไปใช้

หน่วยที่ 4 ศักดิศ
์ รีกาพย์ฉบัง
1. กาพย์ฉบัง 16 ลักษณะบังคับ แผนผัง คณะ สัมผัส
2. สัมผัส ซึ่งแบ่งเป็น
2.1 สัมผัสบังคับ
2.2 สัมผัสระหว่างบท
2.3 สัมผัสเพิ่มเติม
2.3.1 สัมผัสระหว่างคำาสุดท้ายวรรคที่ 2 หรือวรรค
16

กลางส่งสัมผัสสระไปยัง
คำาที่ 2 ในวรรคหลัง
2.3.2 สัมผัสในเป็นคู่คู่ละ 2 คำาทุกวรรค
3. ด้านการนำาไปใช้

หน่วยที่ 5 โด่งดังกลอนตลาด
1. ประวัติความเป็นมาของกลอน
2. การแบ่งชนิดของกลอน และคำาประพันธ์ที่เกิดจากการ
ประยุกต์กลอน
3. กลอนแปดหรือกลอนตลาด ลักษณะบังคับ แผนผัง
คณะ สัมผัส
4. สัมผัสซึ่งแบ่งเป็น
4.1 สัมผัสบังคับ
4.2 สัมผัสระหว่างบท
4.3 สัมผัสเพิ่มเติม ได้แก่สม
ั ผัสในเป็นคู่ ๆ
5. เสียงวรรณยุกต์ท้ายวรรค

หน่วยที่ 6 แพรวพิลาศโคลงสี่
1. ประวัติความเป็นมาของโคลง
2. การแบ่งชนิดของโคลง
3. โคลงสีส
่ ุภาพ ลักษณะบังคับ แผนผัง สัมผัส คำาเอกคำาโท
4. ลักษณะพิเศษที่จะทำาให้โคลงมีความไพเราะ

ั ั
/

17


(100
ั ั
ั (
)
)

1 1/1.1 – 1.13 1.เอกลักษณ์ทางด้านศิลป พื้นฐานร้อย 6 15


วัฒนธรรมแขนงต่าง ๆ กรอง
2. วรรคทองจากวรรณกรรม
และวรรณคดีทม ี่ ีชื่อเสียง
3. ลักษณะเด่นของคำา
ประพันธ์ไทยจากวรรณคดี
ทีเ่ ป็นที่นิยมเช่น การ
เล่นคำา
การเลียนเสียงธรรมชาติ
และการใช้โวหารภาพพจน์
และการแสดงความคิด
สร้างสรรค์
4. จำาแนกชนิดของคำา
ประพันธ์ที่ใช้แต่งวรรณคดี
เรื่องต่าง ๆที่ได้รับการ
ยกย่องจากวรรณคดีสโมสร
หรือจากหนังสือเรียน
5. คำาขวัญ สุภาษิต คำา
พังเพย บทอาเศียรวาท บท
ร้อยกรองที่ชนะการ
ประกวด
6. ความรูเ้ บื้องต้นเกี่ยวกับคำา
ประพันธ์ไทย
7. ลักษณะบังคับของคำา
ประพันธ์ไทย( เนาวรัตน์)
18

7.1 คณะ
7.2 พยางค์



/


(100
ั ั
ั (
)
)

1/1.1 – 1.13 7.3 เสียงวรรณยุกต์


7.4 สัมผัส
7.5 คำานำา
7.6 คำาเป็นคำาตาย
7.7 คำาเอกคำาโท
7.8 คำาครุคำาลหุ
7.9 คำาสร้อย

2 2/2.1 – 2.6 1. เรื่องความคิดหรือแนวคิด ผองความ 4 10


2. ความสัมพันธ์ระหว่างความคิดกับงาน คิด
ประพันธ์ และวิจิตร
2.1 แนวคิดเกี่ยวข้องกับอารมณ์ต่าง ๆ โวหาร
2.2 คติธรรม
2.3 ปรัชญาชีวิต
2.4 อุดมคติ
19

2.5 ธรรมชาติ
2.6 ความรู้สึกและจินตนาการ
2.7 สัจธรรม
2.8 การเปรียบเทียบ
2.9 สิ่งที่เกินจริงหรือเป็นไปไม่ได้
2.10 การเชิดชู ยกย่อง สดุดี
3. ความสามารถในการสร้างคำา(โวหาร)
ทีท่ ำาให้เกิดภาพพจน์(Figure of speech)
3.1 อุปลักษณ์(Metaphor )
3.2 ปฏิพากย์( Paradox )



/


(100
ั ั
ั (
)
)

2/2.1 – 2.6 3.3 อติพจน์(Hyperbole)


3.4 บุคลาธิษฐาน( Personification )
3.5 สัญลักษณ์ (Symbol )
3.6 นามนัย (Metonymy )
3.7 สัทพจน์(Onematoboeia)
3 3/3.1 – 3.4 1. ประวัติความเป็นมาของ ตระการ 4 10
กาพย์ กาพย์ยานี
2. การแบ่งชนิดของกาพย์
ตามความนิยม
3. กาพย์ยานี 11 ลักษณะ
20

บังคับ แผนผัง ข้อบังคับ


สัมผัส
4. สัมผัสซึ่งแบ่งเป็น
4.1 สัมผัสบังคับ
4.2 สัมผัสระหว่างบท
4.3 สัมผัสพิเศษ
4.3.1 เพิม
่ สัมผัสระหว่างคำา
สุดท้ายของวรรคหน้าและ
คำาที่ 1, 2 หรือ 3
4.3.2 เล่นสัมผัสในทั้งสัมผัส
สระและอักษร
4.3.3 คำาสุดท้ายของบาทเอก
ควรใช้คำาที่มเี สียงจัตวา
5. ด้านการนำาไปใช้



/


(100
ั ั
ั (
)
)
21

4 4/4.1 – 4.3 1. กาพย์ฉบัง 16 ลักษณะ ศักดิศ


์ รี 4 10
บังคับ แผนผัง คณะ กาพย์ฉบัง
สัมผัส
2. สัมผัส ซึ่งแบ่งเป็น
2.1 สัมผัสบังคับ
2.2 สัมผัสระหว่างบท
2.3 สัมผัสเพิ่มเติม
2.3.1 สัมผัสระหว่างคำาสุดท้าย
วรรคที่ 2 หรือวรรคกลางส่ง
สัมผัสสระไปยังคำาที่ 2 ใน
วรรคหลัง
2.3.2 สัมผัสในเป็นคู่คู่ละ 2 คำา
ทุกวรรค
3. ด้านการนำาไปใช้

5 5/5.1 – 5.4 1. ประวัติความเป็นมาของ โด่งดังกลอน 10 25


กลอน ตลาด
2. การแบ่งชนิดของกลอน
และคำาประพันธ์ที่เกิดจาก
การประยุกต์กลอน
3. กลอนแปดหรือกลอน
ตลาด ลักษณะบังคับ
แผนผัง คณะ สัมผัส
4. สัมผัสซึ่งแบ่งเป็น
4.1 สัมผัสบังคับ
4.2 สัมผัสระหว่างบท
4.3 สัมผัสเพิ่มเติมได้แก่
สัมผัสในเป็นคู่ ๆ
5. เสียงวรรณยุกต์ท้ายวรรค
22



/


(100
ั ั
ั (
)
)

6 6/6.1 – 6.4 1. ประวัติความเป็นมาของ แพรวพิลาศ 12 25


โคลง โคลงสี่
2. การแบ่งชนิดของโคลง
3. โคลงสีส
่ ุภาพ ลักษณะ
บังคับ แผนผัง สัมผัส คำา
เอกคำาโท
4. ลักษณะพิเศษที่จะทำาให้
โคลงมีความไพเราะ

You might also like