Professional Documents
Culture Documents
หน่วยที่ 2 การกำหนดปัญหาและวัตถุประสงค์ของการวิจัย
หน่วยที่ 2 การกำหนดปัญหาและวัตถุประสงค์ของการวิจัย
การกําหนดปญหาและวัตถุประสงคของการวิจัย
ในการวิจัยไมวาจะเปนสาขาใดก็ตามจุดเริม่ ตนของการวิจัยคือการกําหนดปญหาเพราะ
ปญหาวิจยั จะเปนประเด็นหรือขอสงสัยหรือคําถามที่ผูวิจัยตองการเพือ่ หาคําตอบให ถูกตอง
และจะแตกตางไปตามสาขาวิชานั้น ซึ่งจะมีลักษณะทีแ่ ตกตางกันไปจากปญหาทั่ว ๆ ไปคือ
ปญหาวิจยั ควรจะเขียนในรูปของคําถามที่แสดงถึงความสัมพันธระหวางปรากฏการณหรือตัว
แปรตั้งแตสองตัวขึ้นไป ดังนั้นปญหาวิจยั ตองแสดงใหเห็นชัดวาสามารถหาคําตอบไดโดยวิธี
เชิงประจักษ (นงลักษณ วิรชั ชัย, 2537) ที่ผูวิจัยสามารถแสวงหาขอมูลหรือหลักฐานตาง ๆ ได
เพื่อใหขอสรุปที่เปนคําตอบที่เชื่อถือได ซึ่งในบทนี้จะเปนการกลาวถึงการกําหนดปญหา
วัตถุประสงคของการวิจยั และการศึกษาเอกสารงานวิจยั ที่เกีย่ วของ ดังตอไปนี้
1. แหลงทีม่ าของปญหาวิจัย
2. การเลือกปญหาในการวิจัย
ตอบปญหาวิจยั ผลการวิจัย
เวลาที่ทํา
การเลือกปญหา ดําเนินการวิจยั
g มีเวลามาก –
นอย
งบประมาณ
ในการวิจัย
g ทุนในการทําวิจัย
g เพียงพอหรือไม
- มาจากความสนใจ
ตองมองเห็นแนว
- เปนประโยชน
ทางในการดําเนินการ
- ทันตอเหตุการณ
- อยูในความสนใจของคนทัว่ ไป
- อยูในสาขาที่ศกึ ษา g จะทําอยางไร
- ไมซ้ําผูอื่น g ใชระเบียบวิจยั แบบใด
- เปนสิ่งใหม
- ไมกวาง - ไมแคบเกินไป
3. การกําหนดปญหาการวิจัย
สภาพปญหา
หัวขอปญหาวิจัยคราว ๆ
หรือหัวขอที่สนใจ
ปญหาวิจยั
หัวขอปญหา / หัวขอวิจยั ที่แนนอน
สภาพปญหา กวาง
ปญหาการวิจัย
หลักการ / ทฤษฎี
คําถามวิจัย
ชื่อหัวขอวิจัยที่สนใจ
แคบ
แนวทางการเขียนความเปนมาของการวิจยั
ขอเสนอแนะกอนที่จะไปเขียนความเปนมาของการเขียนความเปนมาของการวิจยั
ผูวิจัยควรจะตอบตัวเองใหชดั เจนดวยคําตอบสั้น ๆ ในประเด็นปญหา คําถามการวิจัยและชื่อ
หัวขอที่จะศึกษา ดังตัวอยางในภาพที่ 2.4
ปญหา ภาชนะบรรจุภณ
ั ฑที่ใชโฟม พลาสติก ยอยสลายทําลายยาก
ชื่อเรื่อง ศึกษาการบรรจุภณ
ั ฑจากกาบกลวย
คําถาม จะนําเอาชีวะมาบําบัดปญหาของกลุมผูสูงอายุนี้อยางไร
การวิเคราะหองคประกอบ เพื่อสรางหลักสูตรอาชีวะบําบัด
ชื่อเรื่อง
สําหรับผูสูงอายุ
ตอไปนี้เปนการนํากรอบการเขียนความเปนมาของการวิจัยมาขยายขอความ (ยุทธ
พงษ กัยวรรณ, 2543, หนา 45-46) ดังตัวอยางการขยายกรอบการเขียนความเปนมาของการ
วิจัยตอไปนี้
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับปจจุบนั
สภาพปจจุบนั (2540-2544) ไดกลาวถึง การเสริมสรางโอกาสใหกับ
ประชาขนผูดอ ยโอกาสกลุมใหญ ๆ อยางทัว่ ถึงกัน ใน
จํานวนกลุมผูดอยโอกาสนี้ กลุมผูสูงอายุที่ยากจน ไมมี
ญาติ ขาดคนดูแล เปนอีกกลุมหนึ่งที่ตองไดรับความ
ชวยเหลือ คุมครองและไดรบั บริการทุกดานอยางทั่วถึงและ
เปนธรรม สงเสริมใหเห็นความสําคัญและตองเอาใจใส
ดูแลผูสูงอายุอยางถูกตองในประเทศไทยมีบานพักคนชรา
6 แหง แตละแหงนี้มีผูสูงอายุรวมกันประมาณ 1,800 คน
และมีแนวโนมจะเพิ่มขึน้ ทุกป
ผูสูงอายุซึ่งเปนวันที่ผานการทํางานหนักมาแลวเกือบ
อุดมการณ / หลักการ
ตลอดชั่วอายุ ควรจะไดรับการเอาใจใสดแู ลจากสังคมเปน
อยางดี ใหมีความสุขทั้งทางดานรางกายและจิตใจ
ผูสูงอายุที่อาศัยในบานพักคนชราแตละวันไมมกี ิจกรรม
ปญหาวิจยั /
ทําแตละวันมีแตนั่ง ๆ นอน ๆ เพราะคนสวนใหญคิดวา
กําหนดปญหาวิจัย
ผูสูงอายุวัยทํางาน คนเหลานั้นจึงไมไดทํากิจกรรมอะไรใน
แตละวัน ทําใหวางมาก คิดมาก เกิดความกลัดกลุม ขาด
ความอบอุน เกิดความเครียด ซึ่งเปนปญหาทางดานจิตใจ
ซึ่งจะสงผลตอสุขภาพดานรางกาย
คําถามวิจัย จะนําเอาชีวะมาบําบัดปญหาของกลุมวันสูงอายุ ใหมี
ความสุขคลายความเครียดและเพื่อเพิ่มผลผลิตไดอยางไร
อาจตั้งไดหลายชื่อ เชน
1. การวิเคราะหองคประกอบ เพื่อสรางหลักสูตรอาชีวบําบัด
หัวขอวิจัย
สําหรับคนชราที่อาศัยอยูในบานพักคนชรา หรือ
หรือหัวขอปญหา
2. การสรางหลักสูตรอาชีวบําบัดที่เหมาะสม สําหรับคนชราที่
อาศัยอยูในบานพันคนชรา หรือ
3. การสรางหลักสูตรอาชีวบําบัด สําหรับผูสูงอายุ เพื่อใหเพิ่ม
ผลผลิตเฉพาะผูที่อาศัยอยูในบานพักคนชรา เปนตน
4. ลักษณะของปญหาการวิจัยที่ดี
5. ขอบกพรองในการเลือกปญหาการวิจัย
6. หลักในการเขียนปญหาการวิจัย
การเขียนปญหาการวิจยั เปนการแสดงใหเห็นถึงประเด็นปญหาที่ตองการคนหาคําตอบ
จึงตองใหมีความครอบคลุมและชัดเจน ซึง่ อาจเขียนได 4 รูปแบบ ดังนี้
6.1 การเขียนในรูปประโยคคําถาม การเขียนตามแบบนี้เปนการเขียนปญหาวิจยั เปน
ประโยคคําถามที่ใหชัดเจนและเขาใจงาย เขียนได 3 ลักษณะคือ
6.1.1 การเขียนเปนประโยคคําถามเดียว
6.1.2 การเขียนเปนประโยคคําถามหลายประโยค โดยการเขียนเปนประโยค
คําถามยอยหลาย ๆ ประโยค
6.1.3 การเขียนเปนประโยคคําถามหลักแลวตามดวยประโยคคําถามยอย
7. การกําหนดวัตถุประสงคของการวิจัย
ในการวิจัยการกําหนดวัตถุประสงคของการวิจัยเปนขั้นตอนที่มีความสําคัญขั้นตอน
หนึ่ง เพราะจะเปนการบอกวาในการวิจยั ในเรื่องนั้นเราตองการศึกษาเรื่องใด ดังนั้นในการ
กําหนดวัตถุประสงคจะตองสอดคลองกับเรื่องที่เราจะศึกษา โดยจะตองกําหนดใหชัดเจนและ
ตองสัมพันธกับขอบเขตของปญหาที่จะศึกษาดวย เพื่อเปนแนวทางในดําเนินการวิจยั ตอไป ใน
การกําหนดวัตถุประสงคของงานวิจยั สิ่งที่ควรคํานึงมีดังนี้
7.1 วัตถุประสงคของการวิจัยตองสอดคลองกับปญหาวิจัยหรือคําถามวิจัย
7.2 การเขียนวัตถุประสงคของการวิจยั จะตองกําหนดในลักษณะของสิ่งที่จะ
กระทําเพื่อใหไดมาในสิ่งที่อยากรูอยากเห็น หรือตอบคําถามมากกวาจะไดผลลัพธของสิ่งที่
อยากรูอยากเห็นมาตั้งเปนวัตถุประสงค
7.3 การเขียนวัตถุประสงคของการวิจัยตองสอดคลองกับรูปแบบของการวิจยั
7.4 การเขียนวัตถุประสงคของการวิจัยตองระบุใหชดั เจน ครอบคลุมปญหาการ
วิจัยหรือคําถามการวิจยั ครบทุกขอในรูปของประโยคบอกเลา
8. การศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวของ
ภายหลังจากการที่ผูวิจัยสามารถระบุปญหาการวิจยั แลวขั้นตอนที่มีความสําคัญอีก
ขั้นตอนหนึ่งก็คือการศึกษาเอกสาร ทฤษฎีและงานวิจยั ที่เกี่ยวของ เพราะในขั้นนี้จะทําใหผูวจิ ัย
เห็นแนวทางในการดําเนินการวิจัย โดยจะทราบวาเรื่องที่เราจะทําวิจยั นั้นมีใครทําไว อยางไร
มีตัวแปรเปนอยางไร ระเบียบวิธีวจิ ัยทําอยางไร พบอะไรบาง และมีขอเสนอแนะอยางไร
ดังนั้นการศึกษาเอกสารอางอิงและงานวิจยั ที่เกีย่ วของก็คือการที่ผูวิจัยไดอานหรือศึกษาเก็บ
ประเด็นตาง ๆ แนวคิดและทฤษฎี วิธีการ จากตํารา งานวิจัย ตลอดจนเอกสารตาง ๆ ที่
สามารถนํามาอางอิงได ซึ่งในหัวขอนี้จะกลาวถึงพอสังเขปดังนี้
8.1 ประโยชนของการศึกษาเอกสารและงานวิจยั ที่เกีย่ วของ ในการศึกษาเอกสารและ
งานวิจยั ที่เกีย่ วของ มีประโยชนดังนี้ (พิชิต ฤทธิ์จรูญ, 2543, หนา 65)
8.1.1 สําหรับผูที่ไมไดหวั ขอวิจยั เมือ่ อานเอกสารและงานวิจยั ทีเ่ กี่ยวของ
แลว จะชวยใหสามารถเลือกปญหาและหัวของานวิจัยทีไ่ มซ้ําซอนกับผูอื่น
8.1.2 สําหรับผูที่ไดหัวของานวิจยั แลว จะทําใหไมเกิดสภาพตายตอน
จบ กลาวคือนักวิจัยบางทานไมสนใจอานเอกสารและงานวิจยั ที่เกีย่ วของ เมื่อดําเนินการวิจัย
ไปเเลวพบวางานวิจยั ที่ทํานัน้ มีคําตอบเปนที่รูจักกันอยูแ ลว เนื่องจากมีผูวิจยั แลว ดังนัน้
การศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกีย่ วของจึงมีความสําคัญและเปนประโยชนตอผูว ิจยั พอสรุปได
ดังนี้
1) ชวยใหมองปญหาที่จะทําวิจัยใหเเจมชัดขึ้น
2) ชวยใหไดแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวของกับตัวแปรที่จะ
ศึกษา
3) ชวยใหกําหนดวิธีการวิจัยไดเหมาะสมกับปญหาวิจยั
4) ชวยใหนยิ ามปญหา นิยามตัวแปร และกําหนดขอบเขตของงานวิจยั
ไดแจมชัดและเหมาะสมมากขึ้น
5) ชวยสรางกรอบความคิดในการวิจยั
6) ชวยใหตั้งสมมุติฐานไดสมเหตุสมผล
7) ชวยใหเลือกเทคนิคตัวอยางไดเหมาะสม
8) ชวยใหเลือกเครื่องมือเก็บรวบรวมขอมูลไดอยางเหมาะสม
9) ชวยใหใชสถิติวิเคราะหขอมูลไดอยางถูกตองเหมาะสม
10) ชวยใหไดแนวทางในการแปลผลและอภิปรายผล
11) ชวยใหไดแนวทางในการเขียนรายงานการวิจัย
8.2 แหลงของเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวของ แหลงที่ใชประโยชนมากทีส่ ุด
สําหรับการศึกษาคนควาก็คือหองสมุดของทุกสถาบันการศึกษา ที่เปนทั้งเอกสารและบริการ
สืบคนขอมูลโดยผานทางเครือขายคอมพิวเตอร สําหรับเอกสาร หนังสือที่มขี อมูลอยูใน
หองสมุดมีดังนี้
8.2.1 บทคัดยองานวิจยั
8.2.2 รายงานการวิจยั หรือวิทยานิพนธ การใชวิทยานิพนธ ผูใชจะตอง
เลือกใชอยางระมัดระวัง ทั้งนี้เพราะคุณภาพของวิทยานิพนธแตกตางกัน เนื่องจากอาจารยแตละ
คณะ แตละสถาบัน มีนโยบายเกี่ยวกับการทําวิทยานิพนธไมเหมือนกัน คุณภาพของ
วิทยานิพนธจงึ แตกตางกัน หากผูวจิ ัยนําวิทยานิพนธที่มีคุณภาพต่ํามาเปนตัวอยาง มาศึกษาอาจ
พบกับอุปสรรคและปญหาตาง ๆ ในการทําวิจัยได
8.2.3 วารสารที่เกี่ยวของกับสาขาที่ทําการวิจัย
8.2.4 หนังสือหรือตําราที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับระเบียบวิธวี ิจัย
8.2.5. พจนานุกรม ศัพทานุกรมและปทานุกรม ที่รวบรวมศัพทเพื่ออธิบาย
ความหมายของศัพททางดานตาง ๆ ไว เชนทางการศึกษา ทางวิทยาศาสตร เปนตน
8.2.6 คูมือที่จัดทําขึ้นเปนครั้งคราว เพื่อเสนอหรือสังเคราะหงานวิจัยหรือ
บทความทางวิชาการในสาขาใดสาขาหนึ่งที่เขียนโดยผูทรงคุณวุฒิ
8.2.7 รายงานประจําป เปนเอกสารที่หนวยงานตาง ๆ ทั้งภาครัฐเเละเอกชน
จัดทําขึ้นเพื่อรวบรวมขาวสาร เหตุการณตา ง ๆ ที่เปนความกาวหนาของหนวยงานนัน้ ในรอบป
ที่ผานมา
8.2.8 การสืบคนจากสื่ออิเล็กทรอนิกส เชน ซีดีรอม อินเทอรเนต เปนตน
8.3 หลักเกณฑในการเลือกเอกสารและงานวิจยั ที่เกีย่ วของ ในการเลือกเอกสารและ
งานวิจยั ที่เกีย่ วของมีขอที่ควรคํานึงถึงดังนี้
8.3.1 พยายามเลือกเอกสารที่มีเนื้อหาสาระที่เกีย่ วของกับปญหาวิจัย และ
หัวขอในการวิจัย และประโยชนตองานวิจัยของตนเอง
8.3.2 พิจารณาเนื้อหาสาระของเอกสารในแงที่ทันสมัย ความถูกตอง ความ
ชัดเจนและความเชื่อถือได
8.3.3 วางแผนการคัดเลือกเอกสาร โดยพยายามเริม่ ศึกษาเอกสารที่เปน
ผลงานวิจัยที่ศกึ ษาตัวแปร หรือปญหาเดียวกันกอนทีละตัวแปร เพื่อจัดระบบเอกสารใหงายใน
การ คนควาเพิม่ เติมและงายตอการอาน
9. สรุป
งานวิจยั จะเริ่มตนไดหรือไมนั้นสิ่งที่สําคัญคือปญหาการวิจัยและการกําหนดหัวขอวิจัย
ซึ่งในการที่จะไดมาของปญหานั้นผูว ิจัยจะตองทราบที่มาของแหลงปญหาการวิจัย วิธีการเลือก
ปญหา ลักษณะของปญหาที่ดี แลวเลือกปญหาที่สนใจ และสามารถดําเนินการวิจัยใหเกิด
ประโยชนไดอยางคุมคา และจะตองกําหนดวัตถุประสงคของการวิจัยใหชัดเจน สอดคลองกับ
ปญหาวิจยั หรือคําถามวิจัย ตองกําหนดในลักษณะของสิ่งที่จะกระทําเพื่อใหไดมาในสิ่งที่อยาก
รูอยากเห็นหรือตอบคําถามมากกวาจะไดผลลัพธของสิ่งที่อยากรูอยากเห็นตอง สอดคลอง
กับรูปแบบของการวิจยั ครอบคลุมปญหาการวิจยั หรือคําถามการวิจัยครบทุกขอในรูปของ
ประโยคบอกเลา และสามารถตอบคําถามของปญหาได
การศึกษาจากเอกสารและงานวิจยั ที่เกีย่ วของ นั้นศึกษาไดจากสื่อตาง ๆ ที่อยูใ น
หองสมุด ดังนี้
9.1 บทคัดยองานวิจยั
9.2 รายงานการวิจยั หรือวิทยานิพนธ
9.3 วารสารที่เกี่ยวของกับสาขาที่ทําการวิจัย
9.4 หนังสือหรือตําราที่มีเนื้อหาเกีย่ วกับระเบียบวิธีวิจยั
9.5 พจนานุกรม ศัพทานุกรมและปทานุกรม
9.6 คูมือ
9.7 รายงานประจําป
9.8 การสืบคนจากสื่ออิเล็กทรอนิกส
แบบฝกหัดทายบท
1. จงบอกถึงแหลงที่มาของการวิจัย
2. จงอธิบายถึงวิธีการเลือกปญหาการวิจัย
3. จงเขียนแผนภูมิในการกําหนดปญหาการวิจัย พรอมทั้งอธิบายมาพอสังเขป
4. ใหเขียนและอธิบายกรอบความเปนมาของการวิจยั ในเรื่องที่สนใจหรือในสาขาวิชาที่กาํ ลัง
ศึกษาอยู โดยใหอางอิงที่มาของขอมูลใหชัดเจนและสามารถตรวจสอบได
5. จงบอกถึงหลักการของปญหาที่จะนําไปสูการวิจัยได
6. ในการกําหนดวัตถุประสงคของงานวิจยั ควรคํานึงถึงอะไรบาง
7. การศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกีย่ วของมีผลตอการวิจยั อยางไรบาง
8. หลักเกณฑในการเลือกเอกสารและงานวิจยั ที่เกีย่ วของเปนอยางไร อธิบายมาพอสังเขป
9. จงเขียนตัวอยางการขยายกรอบการเขียนความเปนมาของการวิจยั จากแนวคิด หรือปญหาที่
เห็นในชีวิตประจําวันมาสัก 1 ตัวอยาง
เอกสารอางอิง