้ ที่ 3

แนวข้อสอบมาตรฐานช่วงชัน
มัธยมศึกษาปี ท่ี 1-3 ชุดที่ 4
กลุุมสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (จำานวน 100

ขูอ)

คำาชีแ
้ จง ใหูนักเรียนเลือกคำาตอบที่ถ้กตูอง หรือเหมาะสมที่สุด
เพียงคำาตอบเดียว

1. สุวนใดของเซลล์ท่ีทำาหนู าที่ควบคุมการผุานเขูาออกของนำ้ า
อาหาร อากาศ
และสารละลายตุางๆ
1) ผนั งเซลล์ 2) เยื่อหูุมเซลล์
3) เซลล์คุม 4) นิ วเคลียส

2. เราสามารถพบโครโมโซมของเซลล์ไดูในขูอใด
1) แวคิวโอล 2) ไซโทพลาซึม
3) เยื่อหูุมเซลล์ 4) นิ วเคลียส

3. คลอโรพลาสต์ท่พ
ี บในพืชที่มส
ี ีเขียวมีลักษณะเป็ นเนื้ อเยื่อ
2 ชัน
้ ชัน
้ นอกทำาหนู าที่ อยุางไร
1) ควบคุมปริมาณของสารที่เขูาและออก
2) ควบคุมชนิ ดของสารที่เขูาและออก
3) ควบคุมนำ้ าที่เขูาและออก
4) ควบคุมเกลือแรุท่ีเขูาและออก
 2

4. ขูอใดคือธาตุซ่ ึงเป็ นอาหารหลักของพืช

1) ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม
2) คาร์บอน ไนโตรเจน ออกซิเจน
3) ฟอสฟอรัส ออกซิเจน แมกนี เซียม
4) คาร์บอน โพแทสเซียม แมกนี เซียม

5. เพราะเหตุใดเวลานำ าตูนไมูไปปล้กในที่ท่ีเตรียมไวู จึงนิ ยม

ที่จะตัดใบบางสุวนออก
1) สะดวกในการขนยูาย 2) ลดพื้นที่ท่ีใชูในการปล้ก
3) ลดการคายนำ้ าของพืช 4) ลดการลำาเลียงอาหารของ

พืช

6. ขูอใดอธิบายเกี่ยวกับกระบวนการออสโมซิสไดูถ้กตูอง
1) การเคลื่อนที่ของอนุภาคจากที่มีความเขูมขูนส้งไปยังที่มี
ความเขูมขูนตำ่า
2) การเคลื่อนที่ของโมเลกุลของนำ้ าจากสารละลายที่เจือจาง
กวุา แพรุเขูาสุ้ สารละลายที่เขูมขูนกวุา ผุานเนื้ อเยื่อที่
ยอมใหูสารเพียงบางอยุางที่ผุานไดู
3) การเคลื่อนที่ของนำ้ าจากบริเวณที่นำ้านู อยผุานเนื้ อเยื่อที่
ยอมใหูสารเพียง บางอยุางที่ผุานไดูไปยังบริเวณนำ้ ามาก

4) การเคลื่อนที่ของโมเลกุลของนำ้ าจากสารละลายที่เขูมขูน
กวุา แพรุเขูาสุ้
สารละลายที่เจือจางกวุา ผุานเนื้ อเยื่อที่ยอมใหูสารเพียง
บางอยุางที่ผุานไดู
 3

7 . กระบวนการเปลี่ยนสารอนิ นทรีย์ใหูเป็ นสารอินทรีย์

ของพืชโดยใชูพลังงานแสง
คือขูอใด
1) กระบวนการหายใจ 2) เมแทบอลิซึม
3) การสังเคราะห์ดูวยแสง 4) การคายนำ้ า

8. ขูอใดที่มีทัง้ ในเซลล์สัตว์และเซลล์พืช
1) เยื่อหูุมเซลล์และผนั งเซลล์ 2) เยื่อหูุมเซลล์และ
นิ วเคลียส
3) เยื่อหูุมเซลล์และคลอโรพลาสต์ 4) ผนั งเซลล์และ

นิ วเคลียส

9. สิ่งที่มีลักษณะเป็ นเสูนใยเล็กๆ พันกันเป็ นรุางแห กุอนจะ

เป็ นโครโมโซม คือขูอใด
1) นิ วคลีโอลัส 2) นิ วเคลียส
3) โครมาทิน 4) ไซโตพลาซึม

10. ขูอใดไม่เกี่ยวขูองกับกระบวนการสังเคราะห์ดูวยแสง
1) นำ้ าและแสง 2) คลอโรฟิ ลล์
3) คาร์บอนไดออกไซด์ 4) ออกซิเจน

11. ปั จจัยในขูอใดที่สุงผลถึงอัตราการคายนำ้ าของพืชมากที่สุด

1) แสง 2) ความชื้นสัมพัทธ์
3) อุณหภ้มิ 4) กระแสลม
 4

12. แสงอาทิตย์มีผลตุอการงอกของเมล็ดถัว่ หรือไมุ ตัวแปร

ตูนคือขูอใด
1) การงอกของเมล็ด 2) แสงอาทิตย์
3) เมล็ดถัว่ 4) นำ้ า

13. ขูอใดเป็ นหนู าที่ของเซลล์คุมในพืช

1) ควบคุมการสังเคราะห์ดูวยแสง 2) ควบคุมการ
ปรุงอาหารของพืช
3) ควบคุมอุณหภ้มิของพืช 4) ควบคุมการคายนำ้ าของพืช

14. ขูอใดเป็ นผลที่พืชไดูจากกระบวนการสังเคราะห์ดูวยแสง

1) นำ้ าตาลกล้โคส 2) คาร์บอนไดออกไซด์
3) ออกซิเจน 4) นำ้ า

15. เมื่อหยดสารละลายไอโอดีนลงไปในสารในขูอใดจึงจะ
เปลี่ยนเป็ นสีนำ้าเงิน
1) นม 2) นำ้ าผลไมู
3) ขูาวเหนี ยวสุก 4) นำ้ าตาลปี บ

16. ขูอใดไม่ใช่การปรับตัวของพืชเมื่ออยุ้ในสภาพที่แหูงแลูง
เชุน ทะเลทราย
1) เปลี่ยนใบเป็ นหนาม 2) มีใบขนาดใหญุ
3) ลำาตูนอวบนำ้ า 4) มีปากใบจมลึก

17. ขูอใดคือหนู าที่ท่ีสำาคัญที่สุดของดอกไมู

1) ใชูประดับ 2) ลุอแมลง
3) สืบพันธ์ุ 4) สุงกลิ่นหอม
 5

18. ขูอใดไม่ใช่การเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต
1) การแปรสภาพเซลล์
2) การเพิ่มขนาดและเพิ่มความยาวของเซลล์
3) การสรูางอวัยวะเพื่อจัดระบบการทำางาน
4) การไดูรับอาหารและแรุธาตุ

19. ในสภาวะใดที่พืชคายนำ้ าออกมาในลักษณะหยดนำ้ า

1) หลังฝนตกใหมุๆ 2) อากาศชื้น
3) อากาศรูอน 4) มีความชื้นสัมพัทธ์ส้ง

20. สิ่งใดที่ทำาใหูแมลงสนใจดอกไมูมากที่สุด
1) สีสวยงาม 2) มีกลิ่นหอม
3) มีดอกใหญุ 4) มีเกสรใหูนำ้าหวาน

21. ถูาทิงเจอร์ไอโอดีนสำาหรับใสุแผลสด หกใสุขูาวผลจะเป็ น

ตามขูอใด
1) ขูาวจะเป็ นสีชมพ้ 2) ขูาวจะเป็ นสีขาวตามเดิม
3) ขูาวจะเป็ นสีเหลือง 4) ขูาวจะเป็ นสีนำ้าเงินแกุ

22. ขูอใดเกิดจากดอกไมุสมบ้รณ์เพศทัง้ หมด

1) ขนุน ฟั กทอง ขูาวโพด 2) มะละกอ ฝั กบัว หมาก
 6

3) มะพรูาว มะมุวง ตาล 4) แตงโม ทุเรียน มะมุวง

23. ในวงจรชีวิตผีเสื้อไหม ชุวงใดมีการเจริญเติบโตมากที่สุด

1) ไขุ 2) ตัวหนอน
3) ดักแดู 4) ตัวเต็มวัย

24. ขูอใดมีการปฏิสนธิภายในรุางกาย
1) มูานำ้ า คางคก 2) ปลาหางนกย้ง ปลาวาฬ
3) ปลาฉลาม อึ่งอุาง 4) ปลาหมอ มูานำ้ า

25. ในลำาไสูเล็กมีนำ้ายุอยที่มีสภาวะเป็ นเบสเนื่ องจากสาเหตุใด

1) ไดูรับนำ้ ายุอยจากตับ 2) ไดูรับนำ้ ายุอยจากลำาไสูเล็ก
3) ไดูรับนำ้ ายุอยจากตับอุอน 4) ไดูรับนำ้ ายุอยจากถุงนำ้ าดี

26. ควรบริโภคนำ้ ามันในขูอใดเพื่อหลีกเลี่ยงสารคอเลสเท

อรอล
1) นำ้ ามันจากสัตว์ 2) นำ้ ามันจากถัว่ เหลือง
3) นำ้ ามันจากเนย 4) นำ้ ามันจากมะพรูาว

27. ในกรณี ใดที่ทำาใหูเกล็ดเลือดแข็งตัว

1) โลหิตจาง 2) มะเร็งเม็ดเลือด
3) เลือดขาดวิตามินเค 4) เลือดออกมีบาดแผล
 7

28. สารในขูอใดที่ลำาไสูเล็กไดูรับจากตับอุอนทำาใหูเกิดสภาวะ
เป็ นเบส
1) โซเดียมไบคาร์บอเนต 2) แคลเซียมคลอไรด์
3) โซเดียมคลอไรด์ 4) แคลเซียมคาร์บอเนต

29. การยุอยที่สมบ้รณ์เกิดขึ้นบริเวณใด
1) ปาก 2) กระเพาะอาหาร
3) ลำาไสูเล็ก 4) ลำาไสูใหญุ

30. ขูอใดเป็ นตัวกำาหนดอัตราการหายใจ

1) ไอนำ้ าในอากาศ
2) ความเขูมขูนของก๊าซออกซิเจนในเลือด
3) ความเขูมขูนของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด
4) ปริมาณออกซิเจนในอากาศ

31. เมื่อตูองการตรวจสอบผงช้รส ควรเลือกใชูวัสดุใด

1) กระดาษขมิน
้ 2) กระดาษลิตมัส
3) กระดาษธรรมดา 4) สารเจนเชียนไวโอเลต

32. อวัยวะในขูอใดที่ไม่เกี่ยวขูองกับการยุอยไขมัน
1) ตับ 2) ตับอุอน
3) นำ้ าดี 4) กระเพาะอาหาร

33. อวัยวะที่ชุวยยุอยอาหารแตุไมุใชุทางเดินอาหารคือขูอใด
1) คอหอย ตับ 2) ตับอุอน ถุงนำ้ าดี
3) หลอดอาหาร ตับอุอน 4) ถุงนำ้ าดี ลำาไสูใหญุ
 8

34. ขูอใดไม่ใช่สาเหตุท่ีคนไทยมักขาดสารอาหาร
1) เศรษฐกิจและการดำารงชีพ
2) ขาดความรู้วุา อาหารแพงไมุจำาเป็ นตูองมีคุณคุา
3) ความเคยชินที่จะรับประทานอาหารที่ชอบเพียงอยุาง
เดียว
4) กลัวความอูวนเลยกินยาลดความอูวน

35. ขูอใดคือผลของการยุอยไขมันจากเอนไซม์ของตับอุอน
1) กรดอะมิโน 2) กรดแลกติก
3) กรดไขมัน 4) นำ้ าตาลกล้โคส

36. สารในขูอใดที่ชุวยใหูเลือดแข็งตัว
1) ไฟบริโนเจน 2) โกลบิน
3) วิตามิน 4) โกลค้บิน

37. ขูอใดคือจังหวะของการหายใจออกของคน
1) กะบังลมลดตำ่าลงและกระด้กซี่โครงยกส้งขึ้น
2) กะบังลมลดตำ่าลงและกระด้กซี่โครงลดตำ่าลง
3) กะบังลมยกตัวขึ้นและกระด้กซี่โครงลดตำ่าลง
4) กะบังลมยกตัวขึ้นและกระด้กซี่โครงยกตัวขึ้น
 9

38. เพราะเหตุใดแฝดจึงมีอวัยวะติดกัน
1) ไขุใบเดียวอสุจิสองตัว
2) อสุจิคนละตัวและไขุคนละใบ
3) อสุจิหนึ่ งตัวและไขุหนึ่ งใบ แตุมีการแบุงตัว 2 ครัง้
4) อสุจิหนึ่ งตัวและไขุหนึ่ งใบ แตุมีการแบุงตัวไมุสมบ้รณ์

39. ขูอใดมีการปฏิสนธิตุางไปจากพวก
1) กบ คางคก 2) ปลาเข็ม ปลาฉลาม
3) ปลาดุก เขียด 4) อึ่งอุาง ปลาหมอ

40. ขูอใดคือการทำากิฟต์
1) การนำ าเซลล์สืบพันธ์ุไปใสุในทุอนำ าไขุ
2) การผสมเชื้อและไขุในหลอดแกูวแลูวถุายฝากตัวอุอน
3) การเอาตัวอุอนที่ไดูรับการผสมแลูวไปฝากไวูกับผู้อ่ ืน
4) การเอาตัวอุอนที่ไดูรับการผสมแลูวไปเก็บไวู

41. สารในขูอใดที่ใชูเติมในนำ้ าเชื้อเพื่อเก็บรักษานำ้ าเชื้อของการ

ผสมเทียมไวูนานๆ
1) โซเดียมไบคาร์บอเนต 2) โซเดียมคลอไรด์
3) โซเดียมไฮดรอกไซด์ 4) โซเดียมซิเตต

42. ขูอใดตุอไปนี้ คือความหมายของผู้ผลิต

 10

1) สัตว์ทุกชนิ ด เนื่ องจากหาอาหารเองไดู

2) พืชสีเขียว เนื่ องจากสามารถสังเคราะห์ดูวยแสงไดู
3) มนุษย์ เนื่ องจากสามารถสรูาง ปรับเปลี่ยน และสามารถ
ปรุงอาหารเองไดู
4) พืชทุกชนิ ด เนื่ องจากสามารถปรุงอาหารเองไดูจาก
กระบวนการสังเคราะห์
ดูวยแสง

43. ขูอใดเป็ นผู้รับการถุายทอดพลังงานจากอาหารเป็ นอันดับ

สุดทูาย
1) ผู้ผลิต 2) ผูบ
้ ริโภคพืช
3) ผูบ
้ ริโภคสัตว์ 4) ผูย
้ ุอยสลาย

44. สิ่งมีชีวิตในระยะตุางๆ มีการกินกันเป็ นทอดๆ เรียกวุา

อยุางไร
1) ระบบนิ เวศ 2) ผูบ
้ ริโภค
3) หุวงโซุอาหาร 4) สายใยอาหาร

45. ขูอใดมีความสัมพันธ์กันแบบภาวะอิงอาศัย
1) นกที่ทำารังบนตูนไมู
2) ตูนกาฝากที่ขึ้นบนตูนไมูใหญุ
3) ไลเคน
4) เสือกินกบ

46. ขูอใดไม่ใช่ประโยชน์ทางอูอมของปุ าไมู

 11

1) เป็ นแหลุงที่พักผุอนหยุอนใจ 2) ชุวยปู องกันการกัด

ชะลูางหนู าดิน
3) เป็ นยารักษาโรค 4) ชุวยปรับอุณหภ้มิอากาศใหู

สมำ่าเสมอ

47. ขูอใดคือสิ่งแวดลูอมทางธรรมชาติ
1) สิ่งมีชีวิตกับตูนไมู 2) สิ่งมีชีวิตกับสัตว์ปุา
3) สิ่งมีชีวิตกับสิ่งไมุมีชีวิต 4) ดินและแสงสวุาง

48. ขูอใดคือผู้ผลิต
1) สาหรุาย รา 2) เห็ด ไลเคน
3) จุลินทรีย์ รา 4) สาหรุาย แพลงก์ตอนพืช

49. สาเหตุท่ีทำาใหูส่ิงมีชีวิตมีการปรับตัวคือขูอใด
1) เพื่อถนอมอาหาร 2) เพื่อความอยุ้รอด
3) เพื่อการขยายพันธ์ุ 4) เพื่อรักษาสภาพ

50. ขูอใดไม่ใช่โรคที่เกิดจากการผิดปกติทางพันธุกรรม
1) โรคฮีโมฟี เลีย 2) โรคธารัสซีเมีย
3) โรคปั ญญาอุอนบางชนิ ด 4) โรคผิวหนั ง

51. ขูอใดเป็ นสารเนื้ อเดียวทัง้ หมด

1) นาก นำ้ าเชื่อม ก๊าซออกซิเจน
2) ก๊าซไฮโดรเจน นำ้ ากะทิ นำ้ าเชื่อม
3) ถนนคอนกรีต ปรอท นำ้ าเกลือ
4) ทองเหลือง นำ้ ากะทิ นำ้ าเกลือ
 12

52. ขูอใดคือสมบัติของเบส
1) มีรสเปรีย
้ วและมีฤทธิก
์ ัดกรุอน
2) ตูมกับไขมันจะไดูสบุ้
3) นำ าไฟฟู าเป็ นอิเล็กโทรไลต์ท่ีดี
4) มีคุา pH นู อยกวุา 7

53. การที่มีก๊าซออกซิเจนหมุนเวียนไดูในบรรยากาศเพราะเหตุ
ใด
1) การหายใจของสิ่งมีชีวิต 2) การหายใจของพืช
3) การสังเคราะห์ดูวยแสงของพืช 4) การคายนำ้ าของ

พืช

54. หนุ วยที่เล็กที่สุดของธาตุและเป็ นหนุ วยที่เขูาไปทำา

ปฏิกิริยา คือขูอใด
1) โมเลกุล 2) อะตอม
3) อนุภาค 4) ไอออน

55. ในปั จจุบันเราไดูรับสารพิษจากขูอใดมากที่สุด

1) สารที่ใชูทำาความสะอาดภายในบูาน
2) เครื่องสำาอาง
3) สารที่ใชูในการปรุงแตุงอาหาร
4) สารตกคูางในพืช

56. ขูอใดไม่ใช่ประโยชน์ของป้นขาว (แคลเซียมไฮดรอกไซด์)

 13

1) ใชูในการตกตะกอนของนำ้ า
2) ใชูทำาป้นซีเมนต์
3) ใชูแกูความกระดูางของนำ้ า
4) ใชูปรับสภาพความเป็ นกรดของดิน

57. ขูอที่สามารถใชูบุงชีค
้ วามเป็ นกรด - เบสไดู คือขูอใด
1) กระดาษขมิน
้ 2) สารเจนเชียนไวโอเลต
3) อินดิเคเตอร์ 4) กระดาษลิตมัส

58. ขูอใดไม่ใช่ปัจจัยที่สุงผลตุอการละลาย
1) อุณหภ้มิ 2) แสงสวุาง
3) การคนสาร 4) ขนาดของสาร
59. สารในขูอใดที่มีคุา pH ตำ่ากวุา 7
1) นำ้ าอัดลม 2) ยาสีฟัน
3) นำ้ าสบุ้ 4) สารละลายผงซักฟอก

60. สารในขูอใดที่มีคุา pH มากกวุา 7

1) นำ้ าสูมสายช้ 2) นำ้ ายาลูางหูองนำ้ า
3) นมเปรีย
้ ว 4) นำ้ าสบุ้

61. สารละลายชนิ ดหนึ่ งมีสาร X และสาร Y เป็ นของเหลว

ละลายปนกันอยุ้และมี
คุณสมบัติคือ
 14

สา จุดเดื การนำ า การ สีของกระดาษ

ร อด ไฟฟู า ละลาย ลิตมัส
นำ้ า
X 107 ไดู ไดู นำ้ าเงินเป็ น
แดง
Y 111 ไดู ไดู แดงเป็ น
นำ้ าเงิน

จากขูอม้ลดังกลุาว ถูาตูองการแยกสาร X และ Y ออกจาก

กัน ควรเลือกวิธีการใด
1) โครมาโทกราฟี 2) การระเหยแหูง
3) ใชูกรวยแยก 4) การกลัน
่ ลำาดับสุวน

62. ขูอใดเป็ นการเปลี่ยนแปลงทางเคมี

1) ไสไมู 2) นำ้ าเดือด
3) เผาไมู 4) แกูวทำาใหูรูอน

63. วิธีการตุอไปนี้ เป็ นการแยกสารใหูบริสุทธิ ์ ยกเวูนขูอใด

1) โครมาโทกราฟี 2) การตกผลึก
3) การทำาละลาย 4) การกลัน
่

64. นำ้ าอัดลมจัดเป็ นสารในขูอใด

1) อิมัลชัน 2) สารละลาย
3) สารแขวนลอย 4) คอลลอยด์

65. ขูอใดเป็ นปริมาณเวกเตอร์

1) อัตราเร็ว 2) พลังงาน
3) โมเมนต์ 4) ปริมาตร
 15

66. ขูอใดกลุาวถ้กตูอง
1) วัตถุผิวเรียบจะมีแรงเสียดทานมากกวุาวัตถุผิวหยาบ
2) วัตถุท่ีมีมวลนู อยจะมีแรงเสียดทานมากกวุาวัตถุท่ีมีมวล
มาก
3) รถที่ใชูลูอยางจะมีแรงเสียดทานนู อยกวุาลูอโลหะ
4) ยางมีแรงเสียดทานมากกวุาไมู

67. ขูอใดกลุาวถ้กตูอง
1) การปลุอยหรือทิง้ วัตถุลงมา u ≠ 0
2) ความเร็วที่จุดส้งสุด = 0 เสมอ
3) ในระยะทางที่เทุากัน เวลาที่ใชูในตอนขึ้น  เวลาที่ใชู
ในตอนลง
4) การขวูางจะมีคุาของความเร็วตูน u = 0

68. ขูอดีของแรงเสียดทานคือขูอใด
1) ชุวยในการทำางานของเบรก
2) ทำาใหูสิน
้ เปลืองพลังงาน
3) เกิดการสึกหรอ
4) วัตถุเคลื่อนที่ไดูชูาลง กรณี ตูองการความคลุองตัว
 16

69. ชายคนหนึ่ งออกแรงดันวัตถุชิน

้ หนึ่ งดูวยแรง 30 นิ วตัน
ทำาใหูวัตถุเคลื่อนที่ไปไดู 15 เมตร ชายคนนี้ทำางานไดู
เทุาใด
1) 300 จ้ล 2) 450 จ้ล
3) 500 จ้ล 4) 550 จ้ล

70. ออกแรงขนาด 30 นิ วตัน กระทำากับวัตถุบนพื้นราบที่มี

ความฝื ดทำามุม 30 องศา กับแนวระดับ (ดังร้ป) ทำาใหูวัตถุ
เคลื่อนที่ไดู คุาของแรงเสียดทานระหวุางพื้นกับวัตถุ คือขูอ
ใด

1) 25.98 นิ วตัน 2) 90 นิ วตัน

3) 1 นิ วตัน 4) 3.30 นิ วตัน

71. รถบรรทุกมีมวล 800 กิโลกรัม สามารถเรุงเครื่องเมื่อจาก

รถที่หยุดอยุ้กับที่ ใหูมี
อัตราเร็ว 30 เมตร/วินาที ในเวลา 5 วินาที ขูอใดคือคุาของ
ความเร็วเฉลี่ย
1) 10 เมตร/วินาที 2) 15 เมตร/วินาที
3) 20 เมตร/วินาที 4) 25 เมตร/วินาที

72. จากขูอ 71 คุาความเรุงเฉลี่ยคือขูอใด

1) 9 เมตร/วินาที 2) 8 เมตร/วินาที
2 2

3) 7 เมตร/วินาที 4) 6 เมตร/วินาที
2 2
 17

73. เหตุการณ์ในขูอใดไม่เกิดแรงเสียดทาน
1) ผลักวัตถุใหูเคลื่อนที่
2) วัตถุวางนิ่ งบนพื้นที่เอียง
3) วางวัตถุบนชัน
้ วางของ
4) วัตถุบนรถที่กำาลังแลุน

74. ล้กมะพรูาวหนั ก 1.5 กิโลกรัม หลุนจากตูนซึ่งส้งจากพื้น 5

เมตร ขูอใดคืองานที่เกิดขึ้น (กำาหนดใหู 9.8 นิ วตัน = 1
กิโลกรัม)
1) 17.4 จ้ล 2) 49 จ้ล
3) 63.7 จ้ล 4) 73.5 จ้ล

75. หลักของเครื่องกลคือขูอใด
1) ผุอนแรงและผุอนงาน
2) ผุอนแรงแตุไมุผุอนงาน
3) แรงที่กระทำากับวัตถุมากกวุาแรงพยายาม วัตถุจะผุอน
งาน
4) ถูาแรงที่กระทำากับวัตถุเทุากับแรงพยายาม วัตถุจะผุอน
แรง

76. ถูานั กเรียนใชูไมูงัดกูอนหิน เปรียบไดูกับคานในขูอใด

1) คีมตัดลวด 2) ชะแลง
3) ตะเกียบ 4) ที่เปิ ดขวดนำ้ าอัดลม
 18

77. ขูอใดไม่เกี่ยวขูองกับแรงเฉื่ อย
1) นั่ งบนรถที่กำาลังวิ่ง และหยุดกะทันหัน
2) รถบรรทุกซุงจะมีโซุรัดอยุางแนุ นหนา
3) ขณะนั่ งบนเกูาอี้ เมื่อเอนตัวไปขูางหลังจะทำาใหูลูมไป
ขูางหลัง
4) รถกระบะและรถบรรทุกวิ่งดูวยความเร็ว 80 กิโลเมตร/
ชัว่ โมง
รถกระบะจะหยุดไดูงุายกวุา

78. ขูอใดไม่ชุวยผุอนแรง
1) ที่เปิ ดขวด 2) คีมคีบนำ้ าแข็ง
3) เครื่องตัดกระดาษ 4) ครกกระเดื่อง

79. ขูอใดคือพลังงานที่สะสมอยุ้ในวัตถุ
1) พลังงานไฟฟู า 2) พลังงานจลน์
3) พลังงานศักย์ 4) พลังงานความรูอน

80. ขูอใดถุายโอนความรูอนโดยการนำ าความรูอน

1) การเผาเสูนลวด การยุางอาหาร
2) การนั่ งผิงไฟขูางกองไฟ การปิ้ ง
3) ชูอนโลหะจุุมนำ้ ารูอน การเผาเสูนลวด
4) เกล็ดดุางทับทิมในนำ้ ารูอน การนึ่ ง
 19

81. เมื่อหยดนำ้ าลงบนแคลเซียมคาร์ไบด์ จะไดูสารใหมุเกิดขึ้น

เป็ นก๊าซที่มีกลิ่นและ
ติดไฟ เป็ นการเกิดปฏิกิริยาตามขูอใด
1) ปฏิกิริยาคายความรูอน 2) ปฏิกิริยาด้ดความรูอน
3) ปฏิกิริยาทางกายภาพ 4) ปฏิกิริยาความรูอนแฝง

82. สิ่งประดิษฐ์ทางอิเล็กทรอนิ กส์ท่ีสามารถเปลี่ยนพลังงาน

แสงอาทิตย์เป็ นพลังงาน ไฟฟู าโดยตรง คือขูอใด
1) เซลล์ไฟฟู าเคมี 2) เซลล์สุริยะ
3) ตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ 4) เครื่องกลัน
่ นำ้ าพลังแสง

อาทิตย์

83. ขูอใดเป็ นสาเหตุท่ีทำาใหูเราไมุนิยมตุอเครื่องใชูไฟฟู า

หลายๆ เครื่องแบบอนุกรม
1) สิน
้ เปลืองพลังงานไฟฟู ามาก
2) ไฟจะดับบุอยๆ เพราะใชูไฟมากเกินไป
3) เครื่องใชูไฟฟู าจะชำารุดเร็วมากขึ้น
4) เครื่องใชูไฟฟู าจะใชูไดูเพียงเครื่องเดียว

84. หลอดไฟฟู ามีความตูานทาน 256 โอห์ม ใชูกับไฟฟู า 220

โวลต์ จะมีกระแสไฟฟู า ผุานหลอดเทุาใด
1) 0.45 แอมแปร์ 2) 1.16 แอมแปร์
3) 0.85 แอมแปร์ 4) 2.20 แอมแปร์
 20

85.

จากร้ป ความตูานทานจากจุด A ถึงจุด D คือขูอใด

1) 16 2) 20
3) 31 4) 51

86. ถูาในบูานใชูหลอดไฟขนาด 40 วัตต์ 10 หลอด เตารีด

ขนาด 1000 วัตต์ และกาตูมนำ้ าไฟฟู าขนาด 800 วัตต์ จะ
ตูองใชูฟิวส์ในขูอใด
1) 9 แอมแปร์ 2) 10 แอมแปร์
3) 11 แอมแปร์ 4) 12 แอมแปร์

87. อุปกรณ์ในขูอใดที่ชุวยตัดวงจรไฟฟู าเมื่อเกิดไฟฟู าลัดวงจร

1) สะพานไฟ 2) ฟิ วส์
3) สวิตช์ 4) สายไฟ

88. ขูอใดคือสาเหตุท่ีตูองเลือกใชูสายไฟฟู าที่มข

ี นาดตุางกัน
1) จำานวนเครื่องใชูไฟฟู า 2) ความตุางศักย์ไฟฟู า
3) พลังงานความรูอน 4) ปริมาณกระแสไฟฟู า

89. ฟิ วส์คือสุวนผสมของโลหะในขูอใด
 21

1) นิ เกิล เงิน ตะกัว่ 2) บิสมัส เงิน ดีบุก

3) บิสมัส ตะกัว่ ดีบุก 4) ดีบุก เงิน นิ เกิล

90. ก๊าซโซฮอล์ เป็ นสารที่เกิดจากพืชในขูอใด

1) ขูาว ถัว่ เหลือง 2) ปาล์ม อูอย
3) มันสำาปะหลัง อูอย 4) ถัว่ เหลือง ปาล์ม

91. เลนส์มีความยาวโฟกัส 20 เซนติเมตร วางวัตถุหุางเลนส์

30 เซนติเมตร จะไดูภาพ
และระยะภาพในขูอใด
1) ภาพจริง ระยะ 30 เซนติเมตร
2) ภาพจริง ระยะ 60 เซนติเมตร
3) ภาพเสมือน ระยะ 30 เซนติเมตร
4) ภาพเสมือน ระยะ 60 เซนติเมตร

92. กลูองโทรทรรศน์ใชูเลนส์ใกลูวัตถุมีความยาวโฟกัส 80
เซนติเมตร และเลนส์
ใกลูตาที่มีความยาวโฟกัส 20 เซนติเมตร กลูองนี้มีกำาลัง
ขนาดเทุาใด
1) 2 เทุา 2) 4 เทุา
3) 5 เทุา 4) 8 เทุา

93. พระบาทสมเด็จพระเจูาอยุ้หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกลูาฯ

พระราชทานชื่อดาวเทียม
ดวงแรกของไทยวุาอะไร
1) ดาวเทียมแลนด์แซท 2) ดาวเทียมสปอต
3) ไทยคม 4) ดาวเทียมปาลาปา
 22

94. ดาวฤกษ์ท่ีอยุ้ใกลูโลกเรามากที่สุดคือขูอใด
1) ดาวซีรีอุส 2) ดวงอาทิตย์
3) ดาวอังคาร 4) ดาวศุกร์

95. ดาวเคราะห์ท่ีไดูช่ ือวุาเป็ นดาวฝาแฝดกับโลกคือขูอใด

1) ดาวอังคาร 2) ดาวพุธ
3) ดาวพฤหัส 4) ดาวศุกร์

96. ดาวเคราะห์ดวงใดเป็ นดาวเคราะห์ท่ีสวย เนื่ องจากมี

วงแหวนถึง 7 ชัน
้
1) ดาวพฤหัส 2) ดาวศุกร์
3) ดาวเสาร์ 4) ดาวอังคาร

97. ดาวเทียมไทยคม เป็ นดาวเทียมที่ถ้กสุงออกไปอวกาศ เพื่อ

ประโยชน์ในขูอใด
1) การสื่อสาร
2) อุตุนิยมวิทยา
3) สำารวจทรัพยากรธรรมชาติ
4) สำารวจอวกาศ

98. ดาวเคราะห์ในขูอใดที่สามารถมองเห็นไดูดูวยตาเปลุา
1) ดาวอังคาร ดาวพฤหัส
2) ดาวพุธ ดาวย้เรนั ส
3) ดาวศุกร์ ดาวพล้โต
 23

4) ดาวอังคาร ดาวเนปจ้น

99. แรงโนู มถุวงของโลกที่มีตุอวัตถุจะเปลี่ยนแปลงไปตามขูอ

ใด
1) ความหนาแนุ น 2) มวลสาร
3) นำ้ าหนั ก 4) ปริมาตรของสาร

100. ความเร็วในขูอใดที่ทำาใหูวัตถุเคลื่อนที่รอบโลกเป็ นแนววิถี

โคูง ไมุตกลงสุ้พ้ืน
1) ความเร็วเริ่มตูน 2) ความเร็วสุดทูาย
3) ความเร็วผละหนี 4) ความเร็วโคจร