Professional Documents
Culture Documents
ดัชนีชี้วัดความเข้มแข็งวิทยุชุมุชน
ดัชนีชี้วัดความเข้มแข็งวิทยุชุมุชน
ในระบบหลักประกันสุขภาพ
บทนำ า
ด้วยปรัชญำและภำรกิจของวิทยุชุมชนได้ผลักดันให้
วิทยุชุมชนกลำยสภำพเป็ นสื่อที่มีควำมสำำคัญอยุำงยิ่งตุอกำร
พัฒนำและเสริมสร้ำงควำมเข็มแข็งให้กับชุมชน ในฐำนะ
เป็ นสื่อกลำงเชื่อมโยงควำมสัมพันธ์และควำมเป็ นไปของ
ชุมชนท้องถิ่นกับสังคมภำยนอกชุมชนเข้ำด้วยกัน โดยมี
หลักกำรสำำคัญคือ กำรเป็ น “สื่อของชุมชน” ที่ดำำเนินกำร
“โดยชุมชนเพื่อชุมชน” อันเป็ นลักษณะเฉพำะที่โดดเดุน
แตกตุำงไปจำกกำรดำำเนิ นงำนของสื่อมวลชนโดยทัว
่ ไป
กระบวนการศึกษาและพัฒนาดัชนี ชี ้วัดฯ
กำรจัดทำำดัชนี ชี้วัดควำมเข้มแข็งวิทยุชุมชนในระบบ
หลักประกันสุขภำพ เป็ นกำรพัฒนำชุดตัวชี้วัดควำมเข็มแข็ง
ของวิทยุชุมชน 9 ดัชนี ซึ่งประกอบด้วยดัชนี ที่มีที่มำจำกกำร
ประมวลแนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับหลักกำรวิทยุ
ชุมชน 3 ดัชนี ได้แกุ ระดับกำรมีสุวนรุวม (participation)
จำกนั น
้ ทำำกำรวิเครำะห์ควำมสัมพันธ์ของดัชนี ที่มี
ที่มำตุำงกัน (ดัชนี จำกกำรประมวลแนวคิดและทฤษฎี กับ
ดัชนี จำกกำรวิเครำะห์ควำมเป็ นมำของวิทยุชุมชน) เพื่อ
กำำหนดเป็ นมำตรฐำนของดัชนี ชี้วัดควำมเข้มแข็งวิทยุชุมชน
แล้วจึงพัฒนำชุดตัวตัวชี้วัดให้สอดคล้องกับดัชนี แตุละด้ำน
เมื่อได้ดัชนี ชี้วัดที่สมบร้ณ์แล้วจึงนำ ำไปประยุกต์เข้ำกับ
ปรัชญำและหลักกำรของระบบหลักประกันสุขภำพ ที่นำำมำ
ใช้เป็ นดัชนี ชี้วัดควำมเข็มแข็งของวิทยุชุมชนในระบบหลัก
ประกันสุขภำพในกำรศึกษำครัง้ นี้
หลักการวิทยุชุมชน
วิทยุชุมชนแม้วุำเป็ นสื่อกระจำยเสียงในลักษณะเดียว
กับวิทยุมวลชน แตุทวุำวิทยุชุมชนมีลักษณะเฉพำะที่แตก
ตุำงไปวิทยุมวลชนหลำยประกำรด้วยกัน ทัง้ ในด้ำนกำร
บริหำร กำรจัดกำร กำรสุงกระจำยเสียง เนื่ องจำกสภำพ
แวดล้อมในกำรดำำเนิ นกำรเป็ นไปอยุำงไร้เอกภำพ บำงสถำนี
ทำำกำรสุงกระจำยเสียงเพื่อชุมชนโดยปรำศจำกกำรเปิ ด
โอกำสให้ชุมชนได้เข้ำมีสุวนรุวม ขณะที่บำงสถำนี เน้ นยำ้ำ
ควำมเป็ นวิทยุชุมชนแคุเพียงกำรที่ชุมชนเข้ำไปมีสุวนรุวม
ในกำรดำำเนิ นกำร หำกแตุเนื้ อหำกำรกระจำยเสียงไมุได้เป็ น
ไปในทำงที่สร้ำงสรรค์หรือเป็ นประโยชน์ ตุอชุมชน
ด้วยควำมไมุชัดเจนดังกลุำวนำ ำไปสุ้ปัญหำในกำร
นิ ยำมควำมหมำยของวิทยุชุมชน ซึ่ง Librero (1993, p. 218-223) ได้
เสนอทัศนะที่นุำสนใจเกี่ยวกับหลักในกำรนิ ยำม “วิทยุ
ชุมชน” ไว้วุำ กำรนิ ยำมควำมหมำยของวิทยุชุมชนพึง
กระทำำได้หลำกหลำย ไมุวุำจะเป็ นกำรนิ ยำมโดยให้ควำม
สำำคัญกับบทบำทของวิทยุชุมชนในระบบสื่อสำรของชำตินัน
้
หรือจะนิ ยำมเฉพำะในเชิงเทคนิ คที่พิจำรณำจำกควำม
สำมำรถในกำรสุงกระจำยเสียงกำำลังตำ่ำเพื่อชำวบ้ำนหรือ
ประชำชนในพื้นที่เฉพำะ ก็ได้เชุน หรืออำจจะนิ ยำมในเชิงที่
มุุงหมำยไปถึงกำรมีสุวนรุวมก็สำมำรถทำำได้ ไมุวุำจะ
เป็ นกำรนิ ยำมในขอบเขตของกำรเข้ำรุวมบริหำรสถำนี หรือ
ผลิตรำยกำรได้ทัง้ สิ้น หรือจะนิ ยำมในเชิงเป้ ำประสงค์แหุง
กำรดำำเนิ นกำรก็ได้ ซึ่งในลักษณะเชุนนี้วิทยุชุมชน หมำยถึง
ระบบที่ใช้วิทยุเป็ นเครื่องมือสร้ำงจิตสำำนึ กในกำรพัฒนำของ
ประชำชนในพื้นที่ ภ้มิภำคที่กำำหนดชัดเจนทัง้ ทำงด้ำนสังคม
จิตวิทยำ และทำงด้ำนกำยภำพ
ในขณะที่กำรประชุมองค์กำรย้เนสโก (UNESCO) ที่กรุง
เบลเกรด ประเทศย้โกสลำเวีย ในปี 1977 ได้นิยำมควำม
หมำยของวิทยุชุมชนหลังที่ประชุมใหญุได้พิจำรณำรำยงำน
กำรดำำเนิ นงำนวิทยุชุมชนในสหรัฐอเมริกำ (จุมพล รอดคำำดี,
2542, หน้ ำ 22-24) โดยลงควำมเห็นวุำ เป็ นกำรใช้วิทยุเพื่อ
ชุมชนอันเป็ นสุวนหนึ่ งที่อยุ้ในกระบวนกำรสื่อสำรแบบมี
สุวนรุวม (participatory communication) ซึ่งกำรสื่อสำรในแนวนี้เน้ น
หลัก 3 ประกำร คือ กำรเข้ำถึงสื่อ (access) เข้ำถึงงุำย ควบคุม
กันงุำย เปลี่ยนแปลงได้ กำรมีสุวนรุวม (participation) รุวมทุก
ระดับตัง้ แตุคิด ผลิต กำรจัดกำรด้วยตนเอง (self management)
หรืออำจสรุปคุณลักษณะขององค์ประกอบควำมเป็ นวิทยุ
ชุมชนไว้ดังนี้
เกิดจำกควำมต้องกำรของชุมชน โดยถือหลักคนสุวนใหญุ
1. ต้องได้รับกำรยอมรับของกลุุมตุำงๆ ในชุมชน
ครอบคลุมเฉพำะพื้นที่เทุำนั น
้ ไมุใชุกระจำยเสียงวงกว้ำง
(broadcasting)
สำำหรับวิทยุชุมชนของไทยมีพัฒนำกำรที่นุำสนใจ
เนื่ องจำกมีกำรเคลื่อนไหวตุอส้้โดยภำคประชำชนมำอยุำงตุอ
เนื่ อง เมื่อมำตรำ 40 ของรัฐธรรมน้ญฉบับใหมุรองรับสิทธิแกุ
ภำคประชำชนในกำรเป็ นเจ้ำของสื่อร้อยละ 20 ซึ่งกำรเกิดขึ้น
ของวิทยุชุมชนเป็ นร้ปธรรมอยุำงหนึ่ งของสื่อภำคประชำชน
โดยกลุุมประชำสังคมจังหวัดกำญจนบุรีได้ทำำกำรสุงกระ
เสียงออกอำกำศเป็ นครัง้ แรกเมื่อวันที่ 19 ธันวำคม 2544 จนนำ ำ
ไปสุ้กระแสกำรกุอตัง้ วิทยุชุมชนทัว
่ ประเทศกุอนมีกำรรวม
ตัวจัดตัง้ เป็ นสหพันธ์วิทยุชุมชนแหุงชำติข้ ึนเมื่อวันที่ 10
ดังนั น
้ ท้ายที่สุดแล้ววิทยุชุมชนย่อมมีทัง้ เข้มแข็งได้เกรดเอ
บวก และวิทยุชุมชนที่สอบไม่ผ่านติดลบ” (สุภิญญำ กลำง
ณรงค์, 2547, หน้ ำ 16)
ข้อสรุปดังกลุำวด้จะเป็ นภำพสะท้อนของวิทยุชุมชน
ไทยได้เป็ นอยุำงดีและชัดเจนอยุำงยิ่ง เพรำะหำกพิจำรณำ
เพียงแคุแหลุงที่มำของเงินสนั บสนุนกับควำมยัง่ ยืนของ
วิทยุชุมชน สังคมไทยคงจะเหลือวิทยุชุมชนตำมหลักเกณฑ์
ดังกลุำวน้ อยเต็มที่ ซึ่งในควำมเป็ นจริงแล้ววิทยุชุมชนมี
กระจำยอยุ้ทัว
่ ไป ทัง้ ที่เติบโตรุดหน้ ำแตุไร้จิตวิญญำณแหุง
ควำมเป็ นสื่อสำธำรณะที่แท้จริง และแบบที่กำำลังทรงๆ ทรุด
แตุเปี่ ยมไปด้วยหลักกำรอยุำงแท้จริง ด้วยเหตุนี้ผ้วจ
ิ ัยจึง
ใครุขอเสนอเกณฑ์กำรประเมินกำรธำำรงอยุ้ของวิทยุชุมชน
ในบริบทของควำมเข้มแข็งแทนที่บริบทของกำรเป็ นหรือไมุ
เป็ นสื่อสำธำรณะ ซึ่งกำรประเมินควำมเข้มแข็งจำำเป็ นต้อง
พัฒนำตัวชี้วัดควำมเข้มแข็งของวิทยุชุมชนขึ้น โดยพึงเริ่ม
จำกกำรทำำควำมเข้ำใจเกี่ยวกับแนวคิด และหลักกำรตุำงๆ
ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำ ำมำประมวลวิเครำะห์ออกเป็ นองค์ประกอบ
และพันธกิจของวิทยุชุมชนเพื่อสร้ำงเป็ นตัวชี้วัดควำมเข้ม
แข็งของวิทยุชุมชนสำำหรับใช้ในกำรประเมินผลตุอไป
แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
กำรจัดทำำดัชนี ชี้วัดควำมเข็มแข็งของวิทยุชุมชนมุุง
สร้ำงตัวชี้วัดเพื่อเป็ นแนวทำงหนุนเสริมในกำรพัฒนำและสุง
เสริมกำรเรียนร้้ของภำคประชำชนในกำรโน้ มนำ ำวิทยุชุมชน
ไปสุ้กำรเป็ นองค์กรที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภำพอยุำง
แท้จริงตำมเจตนำรมณ์ และหลักปรัชญำของวิทยุชุมชน
โดยมีแนวคิดและองค์ควำมร้้ที่สำำคัญที่เกี่ยวข้องดังนี้
1. แนวคิดกำรสื่อสำรชุมชน
2. แนวคิดกำรมีสุวนรุวม
3. แนวคิดบทบำทสื่อมวลชน
4. แนวคิดกำรแพรุกระจำยนวัตกรรม
5. แนวคิดลีลำกำรจัดรำยกำรวิทยุ
6. แนวคิดพื้นที่สำธำรณะและสื่อกระจำยเสียงเพื่อ
สำธำรณะ
7. แนวคิดวุำด้วยวิทยุชุมชน
แนวคิดการสื่อสารชุมชน
แนวคิดด้ำนกำรสื่อสำรชุมชนได้ให้ควำมสำำคัญกับ
กระบวนกำรสื่อสำรของชุมชนหนึ่ งๆ โดยนิ ยำมควำมหมำย
ของชุมชนในลักษณะที่กินควำมครอบคลุมไปถึงควำมเป็ น
ชุมชน ทัง้ ในเชิงชุมชนพื้นที่ ชุมชนผุำนคลื่น และชุมชนใน
ลักษณะอื่นๆ ที่คนกลุุมตุำงๆ มีควำมร้้สึกรุวมกันในด้ำนหนึ่ ง
ด้ำนใด และมีกำรติดตุอสื่อสำรกันด้วยชุองทำงตุำงๆ ดังเชุน
แนวคิดที่มองวุำ “ชุมชนเป็ นเรื่องของกำรสื่อสำร”
(community is communication) (ปำริชำต สถำปิ ตำนนท์
สโรบล. 2544, ไมุมีเลขหน้ ำ) ซึ่งแนวคิดนี้มองควำมเป็ น
ชุมชนเกิดขึ้นจำกกำรที่สมำชิกตุำงๆ ต้องเข้ำมำติดตุอ
สื่อสำรและแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นตุำงๆ กัน ตลอดจนรุวม
มือทำำกิจกรรมตุำงๆ ให้บรรลุเป้ ำหมำย แนวคิดดังกลุำวจึง
เป็ นกำรปฏิเสธควำมหมำยของชุมชนที่ให้ควำมสำำคัญเฉพำะ
เพียงควำมหมำยในเชิงภ้มิศำสตร์
นอกจำกนั น
้ แนวคิดของไพบ้ลย์ วัฒนศิริธรรม นัก
พัฒนำชนบทและชุมชนที่นิยำมควำมหมำยของคำำวุำ
“ชุมชน” ไว้วุำ กลุุมคนที่มีวิถีชีวิตเกี่ยวพันกัน และมีกำร
ติดตุอสื่อสำรเกี่ยวข้องกันอยุำงเป็ นปกติตุอเนื่ อง อันเนื่ องมำ
จำกกำรอยุ้ในพื้นที่รุวมกันหรือมีอำชีพรุวมกันหรือกำร
ประกอบกิจกำรซึ่งมีวัตถุประสงค์รุวมกัน หรือกำรมี
วัฒนธรรม ควำมเชื่อ หรือควำมสนใจรุวมกัน เชุนเดียวกับ
ที่ทำงศำสตรำจำรย์ นำยแพทย์ประเวศ วะสี ได้เน้ นถึงควำม
เป็ นชุมชนวุำอำจหมำยถึงกำรที่คนจำำนวนหนึ่ งเทุำใดก็ได้มี
วัตถุประสงค์รุวมกัน มีกำรติดตุอสื่อสำรหรือรวมกลุุมกัน มี
ควำมเอื้ออำทรตุอกัน มีกำรเรียนร้้รุวมกัน ในกำรกระทำำ มี
กำรจัดกำร เพื่อให้เกิดควำมสำำเร็จตำมวัตถุประสงค์รุวมกัน
(บริษัทย้ไนเต็ด คอมมิวนิ เกชัน
่ จำำกัด (มหำชน), 2005,
ออนไลน์ )
แนวทำงดังกลุำวสอดคล้องกับแนวคิดของ กำญจนำ
แก้วเทพ (2545, หน้ ำ 5) ที่กลุำววุำ ชุมชนมิได้ผ้กขำดวุำหมำย
ถึงแตุชำวบ้ำนในชนบท หรือชุมชนที่ต้องอยุ้ในพื้นที่
เดียวกันเทุำนั น
้ แตุเมื่อกลุำวถึงชุมชนต้องหมำยถึงชุมชน
ทุกประเภท ทัง้ ชุมชนพื้นที่และชุมชนผุำนคลื่น เชุน
รำยกำรวิทยุ ชุมชนผุำนสำย เชุน กลุุมเพจเจอร์ ชุมชนสำย
เดียว ชุมชนไร้สำย ชุมชนเสมือนจริง ซึ่งควำมเป็ นชุมชนจะ
ต้องมีเป้ ำหมำยรวมกัน (common goals) ในทำงหนึ่ งทำงใด อันนำ ำ
ไปสุ้กำรหนุนให้เกิดปฏิบัติกำรกำรสื่อสำรรุวมกัน (communicative
สำำหรับตัวอยุำงที่ชัดเจนของวิทยุชุมชนที่กุอกำำเนิ ด
ขึ้นมำภำยใต้แนวคิดของกำรสื่อสำรชุมชนได้แกุ Sidama Radio
แนวคิดและตัวอยุำงของวิทยุชุมชนดังกลุำว
สอดคล้องกับกำรประมวลองค์ควำมร้้ที่เกี่ยวข้องกับกำร
สื่อสำรชุมชนในประเทศไทยที่พบวุำ กำรสื่อสำรชุมชนพึงมี
คุณลักษณะสำำคัญ (กำญจนำ แก้วเทพ, 2543, หน้ ำ 48-51)
ดังนี้
แนวคิดการมีส่วนร่วม
แนวคิดกำรมีสุวนรุวมเป็ นแนวคิดที่สอดคล้องกับ
หลักกำรประชำธิปไตยที่มุงเน้ นกำรเปิ ดกว้ำงให้ประชำชน
เข้ำมำมีสุวนรุวมในกำรในระดับตุำงๆ เพื่อกำรพัฒนำสังคม
ซึ่ง White, Nair and Croft (1994, p.16) ได้แบุงกำรมีสุวนรุวมไว้ 2
ประเภท คือ
1. กำรมีสุวนรุวมเทียม (Pseudo - participation) หมำย
ถึง กำรมีสุวนรุวมที่อำำนำจในกำรควบคุมโครงกำร หรือ
อำำนำจในกำรตัดสินใจอยุ้ที่ผว
้ ำงแผน ผ้้บริหำร และชนชัน
้
ส้งในชุมชน ประชำชนมีสุวนรุวมเพียงรับฟั งวุำมีกำร
วำงแผนโครงกำร และประชำชนต้องปฏิบัติตำม กำรมีสุวน
รุวมในลักษณะเชุนนี้ถือวุำไมุมีสุวนรุวม (nonparticipation) หรือ
เป็ นกำรมีสุวนรุวมเทียม ซึ่งแนวทำงดังกลุำวมักเป็ นไปใน
ลักษณะของ “กำรกำำหนดกรอบหรือขอบเขตของกำรมีสุวน
รุวม (domestication)” เชุน กำรแจ้งให้ทรำบ และ “กำรมีสุวนรุวม
ในเชิงรับ (assistencialism)” เชุน กำรขอรับควำมชุวยเหลือหรือคำำ
ปรึกษำ
นอกเหนื อจำกกำรมีสุวนรุวมอยุำงแท้จริงแล้ว
ประเด็นสำำคัญที่พึงให้ควำมสนใจคือ ระดับของกำรมีสุวนใน
กระบวนกำรสื่อสำร ซึ่ง กำญจนำ แก้วเทพ (2543, หน้ ำ 57-
61) ได้แบุงระดับกำรมีสุวนรุวมในกำรสื่อสำรไว้ดังนี้
1. กำรมีสุวนรุวมในฐำนะผ้้รับสำร และผ้้ใช้สำร
3. กำรมีสุวนรุวมในฐำนะผ้้วำงแผน และกำำหนด
นโยบำย (policy maker and planner) นับเป็ นร้ปแบบที่สำำคัญที่สุดของ
กำรมีสุวนรุวม ซึ่งหมำยถึง กำรเปิ ดโอกำสให้ประชำชน
เข้ำไปมีสุวนรุวมในกำรวำงแผนและกำำหนดนโยบำยทิศทำง
กำรดำำเนิ นงำนของสื่อนั น
้
เมื่อประมวลสรุปแนวคิดวุำด้วยกำรมีสุวนรุวมจะเห็น
ได้วุำ หำกพิจำรณำในแงุของปรัชญำวิทยุชุมชนแล้ว หัวใจ
หลักของกำรคงอยุ้ของสื่อประเภทนี้มิใชุเป็ นเรื่องของ “สื่อ”
แตุเพียงอยุำงเดียวหำกแตุเป็ นเรื่องของ “สิทธิ” กลุำวคือ
วิทยุชุมชนตุำงไปจำกสื่อวิทยุภำคเอกชนตรงที่ไมุได้เป็ น
"
เพียงแคุชุองทำงขยำยผลเพื่อถุำยทอดซำ้ำเรื่องหรือต้นเรื่อง
ที่เป็ นนโยบำย ควำมต้องกำรของภำครัฐ และหนุ วยงำน
ตุำงๆ ที่มุงหวังให้ชุมชนเป็ นเพียงผ้้ฟัง" แตุเป็ นภำพสะท้อน
ของ "สิทธิ” และ “เสรีภำพ” ในกำรกำำหนดเนื้ อหำ วิธีกำร
และวำระ กำรสื่อสำรตำมควำมต้องกำร ควำมสนใจ ควำม
พร้อม และควำมเป็ นตัวตน (identity) ของชุมชน บนพื้นฐำน
ควำมคิดที่วุำ เป็ นสื่อแหุงสิทธิโอกำสที่เทุำเทียมของสมำชิก
ทุกกลุุมในชุมชน โดยเฉพำะผ้้ด้อยสิทธิด้อยเสียง ในกำร
สื่อสำรควำมคิด และเรื่องรำว (voices of the voiceless) และสมำชิก
ชุมชนที่มีสิทธิที่จะเป็ นได้ทัง้ ผ้้ผลิต หรือนำ ำเสนอ และผ้้ฟัง
ด้วยกลไกกำรจัดกำรที่ทำำให้ทุกกลุุมในชุมชนเข้ำถึง และใช้
ประโยชน์ จำกวิทยุชุมชนได้อยุำงงุำยและสะดวก (accessibility)
แนวคิดดังกลุำวเป็ นกำรยำ้ำจุดยืนของวิทยุชุมชนที่
ตุำงไปจำกสื่อธุรกิจอื่นๆ ตรงที่วิทยุชุมชนไมุได้คงอยุ้เพื่อ
แขุงขันชุวงชิงและสร้ำงคุำควำมนิ ยมแหุงสื่อ (ratings) แตุเป็ น
เรื่องของกำรเสริมสร้ำงคุณคุำ (value) แหุงควำมเป็ นคน และ
ควำมเป็ นชุมชน พร้อมๆ กับไมุได้เป็ นเรื่องของ "ชุองทำงใน
กำรแสวงอำำนำจ ชื่อเสียง ผลประโยชน์ ของปั จเจกชนหรือ
กลุุมคน" แตุเป็ นเรื่องของ "ชุองทำงแหุงกำรแบุงทุกข์ ปั นสุข
สร้ำงควำมรัก ควำมเข้ำใจ และควำมรุวมมือเพื่อประโยชน์
สุขของชุมชน (media for life)” ด้วยเหตุนี้วิทยุชุมชนจึงมิใชุเป็ น
เรื่องของกำร "กำรจัดกำรอยุำงพึ่งพิงหนุ วยสนั บสนุนที่มี
อำำนำจทำงกำรบังคับบัญชำ หรือกำรเงิน" แตุเป็ นเรื่องของ
สิทธิอำำนำจในกำรเป็ นเจ้ำของ
" (Community self-manage) และรุวม
กันรับผิดชอบในกำรใช้ กำรจัดกำร กำรได้ประโยชน์
(community participation) ด้วยฐำนทุกชุมชน (community resources) และ
ภ้มิปัญญำแหุงชุมชน (community wisdom) และประสำนกำร
สนั บสนุนจำกพันธมิตร โดยคำำนึ งถึงกำรพัฒนำประสิทธิภำพ
หรือศักยภำพ อำสำสมัครผ้้ทำำงำนวิทยุชุมชนอยุำงตุอเนื่ อง
เพื่อให้บุคลำกรชุมชนเป็ นผ้้ร้ในเนื้ อหำ ในวิธีกำร ในกำร
จัดกำร และในกำรนำ ำเสนอ (capacity building in content, management and
แนวคิดบทบาทสื่อมวลชน
สื่อมวลชนโดยทัว
่ ไป หมำยถึง กำรนำ ำเสนอข้อม้ล
ขุำวสำรจำกผ้้สุงสำร (sender) น้ อยรำยผุำนไปยังชุองทำง
(channel) หนึ่ งทำงใด ไปยังผ้้รับสำร (receivers) จำำนวนมำก หรือ
มักกลุำวกันวุำเป็ นกำรสุงสำรผุำนสื่อ (medium) จำกคนหนึ่ งคน
ไปยังคนหลำยคน (one to many) หรือจำกคนกลุุมหนึ่ งไปยัง
มวลชน (few senders to mass)
จำกแนวคิดวุำด้วยบทบำทสื่อมวลชนพบวุำ วิทยุ
ชุมชนได้เข้ำมำทำำหน้ ำที่เป็ นผ้้รักษำประต้ขุำวสำร คัดกรอง
นำ ำเสนอ ข้อม้ลขุำวสำรสุ้ประชำชน ซึ่งบทบำทดังกลุำวเป็ น
บทบำทที่โดดเดุนที่สุดของวิทยุชุมชนสุวนใหญุสำมำรถ
ปฏิบัติได้ อยุำงไรก็ตำม มิได้หมำยควำมวุำ วิทยุชุมชนจะ
ทุุมเททำำหน้ ำที่ผ้รักษำประต้ขุำวสำรแตุเพียงอยุำงเดียว
หน้ ำทีอ
่ ่ ืนๆ ก็ได้รับควำมสำำคัญและตระหนั กถึงไมุด้อยไป
กวุำกัน ดังเชุน บทบำทหน้ ำที่ในกำรสุงผุำนคุำนิ ยมซึ่งสถำนี
วิทยุชุมชนในรัฐ Ceará ( ประกอบด้วยเมือง Fortaleza, Sobral และ
Juazeiro) ของประเทศบรำซิล ได้พยำยำมทำำหน้ ำที่เป็ นสื่อกลำง
ในกำรสุงผุำนคุำนิ ยมของกำรปกครองระบอบประชำธิปไตย
ผุำนกำรรณรงค์กำรไปใช้สิทธิเลือกตัง้ คณะผ้้แทน (Electoral)
เพื่อเข้ำไปทำำหน้ ำที่เลือกประธำนำธิบดี (Nunes, 2004,
online)
นอกจำกนั น
้ แล้ว ด้ำนกำรนำ ำเสนอเนื้ อหำในกำร
สื่อสำรกับชุมชนของสื่อนั กวิชำกำรไทยได้รวบรวม
คุณลักษณะที่สำำคัญขององค์ประกอบตุำงๆ ที่ชุวยให้กำร
สื่อสำรดำำเนิ นไปอยุำงมีประสิทธิภำพ ซึ่งได้แกุ กำรคำำนึ งถึง
ระดับควำมยำกงุำยของเนื้ อหำที่จะนำ ำเสนอวุำต้องเหมำะกับ
ระดับควำมสำมำรถในกำรรับสำรของชำวบ้ำน โดยเนื้ อหำ
ควรเป็ นเรื่องเกี่ยวกับปั ญหำเรุงดุวนหรือปั ญหำชีวิตประจำำ
วันของคนในสังคมนั น
้ ๆ และมีควำมสอดคล้องกับเป้ ำหมำย
เฉพำะกลุุม และควรมีกำรนำ ำเสนอทัง้ ด้ำนสำเหตุ สภำพ
ปั ญหำ และเสนอทำงออกด้วย เพื่อกระตุ้นให้ผ้รับสำรชุวย
กันคิดแก้ไขปั ญหำดังกลุำว และสื่อต้องมีสุวนผลักดันให้เกิด
กำรเปลี่ยนแปลงทำงควำมคิด ประสบกำรณ์ และมีกิจกรรม
ตุอเนื่ อง (กำญจนำ แก้วเทพ, 2544, หน้ ำ 41)
แนวคิดเกี่ยวกับการแพร่กระจายนวัตกรรม
แนวคิดเกี่ยวกับกำรแพรุกระจำยเป็ นเรื่องที่มีกำร
กลุำวถึงในเรื่องกำรแพรุกระจำยนวัตกรรมเป็ นสำำคัญ ซึ่ง
หมำยถึงกำรเผยแพรุ ควำมคิด กำรปฏิบัติใหมุ หรือสิ่งใหมุ
ที่สำมำชิกในระบบสังคมเห็นวุำเป็ นของใหมุ ซึ่งอำจเป็ น
เรื่องที่เคยได้ยินหรือเห็นมำกุอน แตุยังไมุเกิดทัศนคติชอบ
หรือไมุชอบ เป็ นกำรศึกษำถึงชุองทำง (channel) ในกำรเผย
แพรุสิ่งใหมุจำกผ้้สุงสำรถึงผ้้รับสำรในชุวงเวลำหนึ่ งๆ เพื่อให้
ผ้้รับสำรยอมรับนวัตกรรมใหมุนัน
้ (เสถียร เชยประทับ, 2529,
หน้ ำ 18-19)
ดังนั น
้ ประสิทธิภำพของกำรแพรุกระจำยจึงขึ้นกับ
ชุองทำงในกำรสุงสำรไปยังผ้้รับสำร โดยประสิทธิภำพของ
ชุองทำงขึ้นกับควำมนุ ำเชื่อถือของชุองทำง (channel credibility)
จำกกำรทบทวนงำนวิจย
ั ในรอบสองทศวรรษพบวุำ
สื่อที่มีขนำดยิ่งเล็ก กระจำยอำำนำจไปใกล้ชิดประชำชนยิ่งมี
คุณประโยชน์ ตุอชำวบ้ำนในชนบทมำกยิ่งขึ้นสื่อมวลชนใหญุ
เกินไปที่จะชุวยกระตุ้นหรือหนุนนำ ำให้เกิดควำม
เปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรมของคนในชุมชนได้เป็ นอยุำงดี
( กำญจนำ แก้วเทพ, 2543, หน้ ำ 28-29) เพรำะสื่อขนำดเล็กที่ใกล้
ชิดในชุมชนสำมำรถเข้ำถึงทัศนคติ ควำมต้องกำรและมีมี
ฐำนควำมคิด ควำมเชื่อ วัฒนธรรม ประสบกำรณ์ที่ใกล้เคียง
กันระหวุำงผ้้สุงสำร และผ้้รับสำรในชุมชน
ขณะเดียวกันชุองทำงกำรแพรุกระจำยในด้ำนกำร
กำรสุงกระจำยเสียงเองก็มีลักษณะเชุนเดียวกัน กลุำวคือ
หำกสื่อที่สุงกระจำยเสียงไปในรัศมีที่จำำกัดชัดเจนเป็ น
(narrowcasting) ยุอมทำำให้ผ้สุงสำรสำมำรถร้้กลุุมเป้ ำหมำยที่
ชัดเจน และเลือกเนื้ อหำ ลีลำ และร้ปแบบกำรสุงกระจำยได้
สอดคล้องกับกลุุมเป้ ำหมำย (กำญจนำ แก้วเทพ, กิตติ
กันภัย และ ปำริชำติ สถำปิ ตำนนท์ สโรบล, 2544, หน้ ำ 41)
ลักษณะดังกลุำวสอดคล้องกับแนวคิดของวิทยุชุมชน
ที่ต้องกำรกำำลังสุงในระดับตำ่ำเพื่อกลุุมเป้ ำหมำยที่แคบลง
และเฉพำะเจำะจงมำกขึ้น เพื่อให้สำมำรถจัดเนื้ อหำรำยกำร
ให้สอดคล้องกับควำมต้องกำรที่แท้จริงของผ้้ฟังในชุมชนเป้ ำ
หมำย (มหำวิทยำลัยสุโขทัยธรรมำธิรำช, 2546, หน้ ำ 273) ตรง
ข้ำมกับในระบบกำรสุงกระจำยเสียงที่กว้ำงไกล (broadcasting)
แนวคิดลีลาการจัดรายการวิทยุ
กำรจัดรำยกำรวิทยุเป็ นกำรกระจำยเสียงที่ใช้เสียง
ของผ้้จัดรำยกำรผุำนสื่อวิทยุกระจำยออกไปยังผ้้ฟัง ดังนั น
้
วิธีกำรนำ ำเสนอ (presentation technique) ของผ้้จัดรำยกำรจึงเป็ น
หัวใจสำำคัญของกำรกระจำยเสียงที่มีประสิทธิภำพ ผ้จ
้ ัด
รำยกำรจะต้อง ทำำให้ผ้ฟังได้รับขุำวสำรควำมบันเทิง ควำม
ร้้ โดยต้องสำมำรถกระตุ้นให้ผ้ฟังเกิดจินตนำกำรตำมไป
ด้วย
องค์ประกอบสำำคัญๆ โดยทัว
่ ไปของกำรจัดรำยกำร
วิทยุกระจำยเสียงประกอบไปด้วย “ภำษำพ้ด (language)” กำร
ใช้คำำพ้ดต้องให้เหมำะสมกับวัย และระดับกำรศึกษำ ภำษำ
ใช้ควรเป็ นภำษำที่เข้ำใจงุำย ใช้ประโยคสัน
้ ๆ กระชับเหมำะ
สมกับสภำพของกำรฟั งวิทยุของผ้้ฟังโดยทัว
่ ไป สำำหรับ
“ลีลำกำรพ้ด (style)” ผุำนทำงวิทยุกระจำยเสียงพึงมีลักษณะที่
เป็ นแบบฉบับของตนเอง และมีควำมเป็ นกันเองกับผ้้ฟัง นำ้ ำ
เสียงที่ใช้ควรแสดงควำมจริงใจและเป็ นมิตรกับผ้้ฟัง
จำกกำรศึกษำของศรีประภัสสร์ สุทธิเสวันต์ (2535,
แนวคิดพืน
้ ที่สาธารณะและสื่อกระจายเสียงเพื่อ
สาธารณะ
แนวคิดพื้นที่สำธำรณะ (public sphere) เป็ นแนวคิดที่ Jurgen
ในขณะที่หนุ วยงำนวิจัยด้ำนกำรกระจำยเสียงของ
อังกฤษ (Broadcasting Research Unit: BRU) ให้แนวคิดของกำรเป็ นสื่อ
กระจำยเสียงเพื่อสำธำรณะไว้ในมิติเชิงอุดมกำรณ์ โดย
พิจำรณำจำกเจตนำรมณ์ขององค์กรกระจำยเสียงเป็ นที่ตัง้
ใน 8 ประเด็น (วิภำ อุตมฉันท์, 2544, หน้ ำ 242-243) คือ 1) ต้อง
เข้ำถึงคนทุกคน (ในควำมหมำยเชิงภ้มิศำสตร์) 2) นำ ำเสนอ
เนื้ อหำที่เป็ นรสนิ ยมและควำมสนใจของทุกคน 3) ให้ควำม
สนใจกับชนกลุุมน้ อยเป็ นพิเศษ 4) ชุวยสร้ำงควำมร้้สึกหรือ
เอกลักษณ์ของชุมชนหรือชำติ 5) ปลอดจำกผลประโยชน์ 6)
รับเงินอุดหนุนโดยตรงจำกภำคประชำชน 7) แขุงขันในเชิง
คุณภำพของรำยกำร ไมุวัดหรือแยุงจำำนวนผ้้ฟัง และ 8) มี
แนวทำงกำรทำำงำนที่ให้อิสรภำพแกุผ้ผลิตมำกกวุำควบคุมผ้้
ผลิต
ของญี่ปุนเทุำนั น
้ (วิภำ อุตมฉันท์, 2544, หน้ ำ 242) ที่มีรำยได้
จำกคุำธรรมเนี ยม (licensee fee) จำกประชำชนโดยตรง ซึ่ง Brants
& Siune (วิภำ อุตมฉันท์, 2544, 242) เห็นวุำ เป็ นกำรจำำกัดขอบเขต
ที่ไมุถ้กต้องนั กตำมสภำพควำมจริงของกำรกระจำยเสียง
จึงได้กำำหนดเกณฑ์กำรเป็ นองค์กรกระจำยเสียงเพื่อ
สำธำรณะขึ้นใหมุที่พิจำรณำเฉพำะในมิติเชิงโครงสร้ำง
เทุำนั น
้ โดยแบุงออกเป็ น 5 หลักเกณฑ์ คือ 1) มีหน้ ำที่ต้อง
รำยงำนตรง (accountability) ตุอตัวแทนทำงกำรเมืองของ
ประชำชน ผุำนองค์กรบริหำรของระบบเพื่อสำธำรณะ 2) มี
รำยได้บำงสุวนจำกสำธำรณะ 3) มีกำรควบคุมด้ำนเนื้อหำ 4)
ให้บริกำรที่ทัว
่ ถึง มุุงเพื่อพลเมืองของสังคม และ 5) มีควำม
สำมำรถในกำรป้ องกันตัวเองจำกกำรแขุงขันได้ในระดับหนึ่ ง
ซึ่งเกณฑ์ดังกลุำวมีลักษณะที่ผุอนปรนและยืดหยุุนกวุำ โดย
ยินยอมให้ส่ ือกระจำยเสียงสำมำรถรับเงินอุดหนุนจำกแหลุง
อื่นได้ เพียงแตุต้องมีควำมเป็ นอิสระจำกแรงบีบคัน
้ ในระดับ
หนึ่ ง ซึ่งแนวทำงดังกลุำวสอดคล้องกับแนวคิดของ Raboy
จำกแนวคิดและหลักกำรของพื้นที่สำธำรณะดังกลุำว
สรุปได้วุำ หัวใจของกำรกำำเนิ ดขึ้นและดำำรงอยุ้ของพื้นที่
สำธำรณะก็คือ กำรติดตุอสื่อสำรระหวุำงคนกลุุมตุำงๆ ดังนั น
้
ชุองทำงแหุงกำรสื่อสำรสำธำรณะ หรือตัวสื่อสำธำรณะ (public
แนวคิดวิทยุชุมชน
ภำยหลังกำรกำำเนิ ดขึ้นของวิทยุชุมชน ได้นำำไปสุ้กำร
ตระหนั กถึงกำรมีอยุ้และควำมสำำคัญของสื่อร้ปแบบใหมุของ
สังคม จึงได้มีกำรจัดกำรประชุมวิทยุชุมชนระดับชำติ (The
กำรประชุมดังกลุำวเป็ นเสมือนกำรรับรองสิทธิกำรมี
อยุ้ของสื่อภำคประชำชน ซึ่งภำยหลังจำกที่วิทยุชุมชนได้ถือ
กำำเนิ ดขึ้นในประเทศตะวันตกได้ระยะหนึ่ ง กลุุมสื่อสำร
ชุมชน (Community Communication Group) ในประเทศอังกฤษ ทำำกำร
ได้ยกรุำงกฎของกำรกระจำยเสียงชุมชนขึ้นเพื่อเป็ นกฎบัตร
หรือปรัชญำกำรดำำเนิ นงำนของวิทยุชุมชนขึ้นเมื่อปี 1979
โดยมีสำระสำำคัญ 10 ข้อ (กำญจนำ แก้วเทพ, 2547, หน้ ำ
14) ดังนี้
1. สนองตอบชุมชนท้องถิ่น และ/หรือควำมสนใจ
ของชุมชนเป็ นหลัก
2. ร้ปแบบของกำรไมุแสวงหำกำำไร
3. มีกำรบริหำร และนโยบำยรำยกำรที่จัดทำำขึ้นโดย
คณะกรรมกำรบริหำร ซึ่งเป็ นตัวแทนจำกกลุุมสนใจตุำงๆ
ในชุมชนรุวมกับพนั กงำนกำรกระจำยเสียงซึ่งเป็ นล้กจ้ำง
หรืออำสำสมัคร
4. ให้บริกำรขุำวสำร กำรศึกษำ และควำมบันเทิง
รวมทัง้ ทำำให้เกิดกำรสื่อสำร 2 ทำง สำำหรับควำมคิดเห็นที่
ขัดแย้ง
5. ได้รับกำรสนั บสนุนงบประมำณจำกแหลุงตุำงๆ
ซึ่งรวมทัง้ เงินยืมจำกท้องถิ่น จำกสปอตโฆษณำที่กำำหนดไว้
อยุำงชัดเจนในชุวงเวลำที่จำำกัดและเงินกองทุนทัง้ จำกสุวน
กลำงและท้องถิ่น
6. ยอมรับให้พนั กงำนกระจำยเสียงที่จ้ำงไว้รุวมใน
สหภำพ มีควำมคลุองตัวในกำรทำำงำนและอนุญำตให้ใช้
อำสำสมัครในที่ที่เหมำะสม
7. พยำยำมกระทำำให้เกิดควำมเสมอภำค ในโอกำส
กำรจ้ำงงำน สำำหรับผ้้หญิงและกลุุมเชื้อชำติ หรือชนกลุุม
น้ อยในสังคม
8. ต้องเตรียมให้ประชำชนได้ร้ถึงสิ่งอำำนวยควำม
สะดวกในกำรฝึ กอบรมในกำรผลิต และกำรสุงเผยแพรุ
ขุำวสำร
9. เนื้ อหำรำยกำรที่สุงกระจำยเสียงต้องเป็ นเนื้ อหำ
หลักจำกสิ่งที่มีอยุ้ในท้องถิ่น
10. มีนโยบำยรำยกำรที่กระตุ้นให้เกิดกำรพัฒนำกำร
มีสุวนรุวมในระบอบประชำธิปไตย ตุอต้ำนปั ญหำชำตินิยม
เพศนิ ยม และทัศนคติที่แตกแยกอื่นๆ
วิทยุกระจำยเสียงชุมชนในสวีเดน ได้เริ่มทดลองออก
อำกำศเมื่อปี พ.ศ. 2522 ในพื้นที่ 15 แหุง ซึ่งแตกตุำงกันตัง้ แตุ
สถำนี ที่เป็ นชุมชนชนหนำแนุ นในเมืองใหญุๆ ชำนเมืองและ
เขตชนบท โดยมีเป้ ำหมำยให้ชุมชนท้องถิ่นในรัศมี 2.5 ไมล์
มำออกอำกำศรำยกำรของตนเอง ได้แกุ สหภำพกำรค้ำ
พรรคกำรเมือง องค์กรทำงศำสนำ สโมสรกีฬำ กลุุมศิลป
วัฒนธรรม สมำคมคุ้มครองผ้้บริโภค นักสิ่งแวดล้อมและ
วิทยำลัยชุมชน โดยกำรบริหำรนั น
้ จะไมุแสวงหำกำำไรและไมุ
อนุญำตให้มีกำรโฆษณำ
ในกำรประเมินผลหลังจำกดำำเนิ นกำรไปแล้ว 1 ปี พบ
วุำ มีผ้ให้ทัศนะควำมจำำเป็ นทีต
่ ้องมีวิทยุกระจำยเสียงชุมชน
นอกเหนื อจำกวิทยุชุมชน 24 สถำนี โดยผ้้ฟัง ร้อยละ 12.6
ชื่นชอบลักษณะของวิทยุชุมชน และเห็นวุำวิทยุชุมชนมี
คุณคุำตุอองค์กรของเขำมำกกวุำวิทยุท้องถิ่น ในขณะที่ผ้ฟัง
บำงรำยเห็นวุำ เป็ นร้ปแบบกำรดำำเนิ นงำนที่ใกล้ชิดกับผ้้ฟัง
กวุำวิทยุท้องถิ่น ทัง้ นี้ผ้ฟังร้อยละ 55 กลุำววุำ สำมำรถเลือก
เวลำที่เหมำะสมสำำหรับตนเองในกำรเปิ ดรับวิทยุชุมชน ใน
ขณะที่บำงสุวนให้เหตุผลกำรเปิ ดรับวุำ เพื่อทำำลำยระบบ
ผ้กขำดทำงวิทยุ สุวนบำงรำยให้เหตุผลวุำวิทยุกระจำยเสียง
ชุมชนเป็ นสื่อที่ดี เพรำะมีควำมเป็ นอิสระไมุถ้กควบคุม (ทิวำ
พร แสนเมืองชิน, 2543, หน้ ำ 12-13)
ญี่ปุุน : วิทยุชุมชนนาพาสะ
1
นำที
1
ตัดตอนจำก นำฎยำ ตนำนนท์. วิทยุชุมชน: ทาง
เลือกของคนในท้องถิ่น กรณีศึกษาในประเทศญี่ปุ่น. มนุษย
ศำสตรสำร. 3, 1 (มกรำคม-มิถุนำยน 2545), หน้ ำ 89-
94.
คุำโฆษณำเพียง 2,000 เยน สำำหรับสปอตโฆษณำควำมยำว 20
40 ปี ได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติมำตระหนั กรับร้้และเข้ำใจคุณคุำ
ของท้องถิ่นมำกขึ้นจำกเดิมที่มองโตเกียวเป็ นศ้นย์กลำง
ควำมเจริญเป็ นเมืองแหุงต้นแบบหรืออุดมคติ เนื่ องจำกกำร
เปิ ดโอกำสให้คนกลุุมนี้เข้ำมีสุวนรุวมในกำรผลิตรำยกำร
กลำยเป็ นชุองทำงให้พวกเขำได้มีโอกำสสัมผัสกับเรื่องรำว
สถำนที่ ตลอดจนผ้้คนภำยในท้องถิ่นของตนอยุำงแท้จริง
นอกจำกนั น
้ ยังเปิ ดกว้ำงให้คนพิกำรได้มีโอกำสเข้ำรุวมเป็ น
อำสำสมัครได้ด้วย
วิทยุชุมชนลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
ในด้ำนกำรจัดกำรมีกำรจัดเวรให้ตัวแทนกลุุมตุำงๆ
เข้ำมำประจำำสถำนี คอยชุวยด้แลด้ำนตุำงๆ รวมถึงกำรผลัด
เปลี่ยนกันจัดรำยกำร และรับโทรศัพท์จำกผ้้ฟัง สุวนกำรเงิน
ทุนขอรับเงินบริจำคจำกทำงวัดเป็ นหลัก และอีกสุวนหนึ่ งได้
จำกเงินบริจำคจำกคนในชุมชน สุวนชุวงเวลำกำรออก
อำกำศเริ่มตัง้ แตุเวลำ 05.00–15.00 น. ซึ่งเป็ นรำยกำรธรรมะ
สำำหรับกลุุมผ้้ฟังที่เป็ นผ้้ส้งอำยุ ภำคเช้ำเป็ นกำรเลุำขุำวจำก
หนั งสือพิมพ์สุวนกลำง และหนั งสือพิมพ์ท้องถิ่น ชุวงสำย
กำำหนดให้เป็ นรำยกำรนำยอำำเภอพบประชำชน ตุอเนื่ องด้วย
รำยกำรเกษตรท้องถิ่น ชุวงบุำยเป็ นรำยกำรด้ำนสุขภำพและ
สิ่งแวดล้อมชุมชน นอกจำกนั น
้ ยังมีกำรประสำนงำนขอรับ
ขุำวทำงสถำนี ตำำรวจในพื้นที่มำแจ้งให้ประชำชนได้ทรำบกัน
เป็ นระยะสลับกับกำรเปิ ดเพลงทัว
่ ไป ซึ่งปั จจุบน
ั มีบริษัทเทป
ตุำงๆ สุงเทปมำให้เปิ ดมำกขึ้น แตุทำงสถำนี จะเปิ ดตำม
ควำมต้องกำรของผ้้ฟังเป็ นหลัก
จำกประสบกำรณ์กำรเรียนร้้ และกำรตุอส้้ของวิทยุ
ชุมชน ประกอบเข้ำกับแนวคิด หลักกำรตุำงๆ ที่เกี่ยวข้อง
กับวิทยุชุมชน จึงสำมำรถกลุำวได้วุำ วิทยุชุมชนมี
คุณลักษณะรุวมที่สำำคัญคือเป็ นวิทยุที่กระจำยเสียงโดยใช้
กำำลังสุงตำ่ำด้วยเทคโนโลยีอยุำงงุำย เป็ นกำรกระจำยเสียง
เพื่อชุมชน ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อชุมชนนั น
้ โดยสมำชิกของ
ชุมชนเอง โดยนั กกระจำยเสียงชุมชนเป็ นสมำชิกอำศัยอยุ้
ในชุมชนนั น
้ พ้ดภำษำเดียวกัน ร้้สึกและเข้ำใจปั ญหำของ
ชุมชน สำมำรถแสดงควำมร้้สึกตุอปั ญหำ ตลอดจนควำม
คำดหวังของสมำชิกของชุมชนและสำมำรถนำ ำไปสัมพันธ์กับ
ชีวิตภำยนอกชุมชน วิทยุชุมชนจึงสะท้อนภำพของชุมชน
และทำำกำรกระจำยเสียงไปตำมควำมต้องกำรของชุมชน
โดยต้องชุวยรักษำวัฒนธรรมประเพณีในชุมชนให้ดำำเนิ นไป
อยุำงตุอเนื่ อง และต้องให้ทัศนคติชุมชนผุำนกำรรำยงำน
ขุำวเหตุกำรณ์ ถกปั ญหำสังคมในรำยกำรเพื่อสำธำรณะ มี
กำรแสดงออกทำงด้ำนธรรมเนี ยมประเพณีของชุมชนผุำน
รำยกำรตุำงๆ เน้ นควำมร้้และกำรเรียนผุำนรำยกำรด้วยกัน
ด้วยพันธกิจแหุงควำมเป็ นสื่อมวลชน วิทยุชุมชนพึง
จัดร้ปองค์กรในแนวทำงที่ใกล้เคียงกับองค์กรสื่อมวลชน ซึ่ง
ได้แกุกำรจัดฝุ ำยผลิต ฝุ ำยหำข้อม้ล ฝุ ำยเผยแพรุและจัด
รำยกำร ให้สอดคล้องกับควำมหลำกหลำยภำยในชุมชน
ขณะเดียวกันเนื้ อหำในกำรจัดรำยกำรพึงมีเนื้ อหำในด้ำนกำร
ให้ขุำวสำร ควำมร้้ ควำมบันเทิง ในแนวทำงเดียวกับ
สื่อมวลชนเพียงแตุต้องมุุงให้เนื้ อหำเหลุำนั น
้ สอดคล้องกับ
ควำมต้องกำรของคนในชุมชนเป็ นสำำคัญ หรืออำจก้ำวไป
ไกลถึงขัน
้ เป็ นทำงเลือกสำำหรับสิ่งที่ส่ ือมวลชนไมุสนใจนำ ำ
เสนอหรือไมุสำมำรถนำ ำเสนอได้เนื่ องจำกผิดหรือขัดกับ
กฎหมำย ตัวอยุำงเชุน วิทยุโจรสลัด (pirate station) ซึ่งถือเป็ น
อีกร้ปแบบหนึ่ งของพัฒนำกำรวิทยุชุมชน กำำเนิ ดขึ้นจำก
กระแส “กำรแสวงหำทำงเข้ำถึงคลื่น” (access seeking) เมื่อ
คลื่นวิทยุถ้กผ้กขำดโดยคนกลุุมเล็กๆ ด้วยกำรลักลอบออก
อำกำศจำกเรือหรือเกำะกลำงทะเลในเขตนุ ำนนำ้ ำสำกลสุง
กระจำยเสียงเพลงจังหวะร็อคแอนด์โรล์ของเอลวิส เพรสลี่ย์
เนื่ องจำกวิทยุถ้กกฎหมำยในบำงประเทศไมุอนุญำตให้เปิ ด
เพลงประเภทนี้ (วิภำ อุตมฉันท์, 2544, หน้ ำ 273)
ภำยใต้หลักกำรสื่อสำรชุมชน และประสิทธิภำพของ
สื่อวิทยุชุมชนต้องสำมำรถเข้ำมำเป็ นสื่อกลำงที่เชื่อม
ประสำนให้คนในชุมชนได้มีโอกำสแลกเปลี่ยนเรียนร้้ซึงกัน
และกันได้มำกกวุำสื่อขนำดใหญุ ชุมชนแตุละแหุงสำมำรถ
จัดตัง้ วิทยุชุมชนของตนเองได้ตำมควำมหลำกหลำยทำง
วัฒนธรรมและวิถีกำรดำำรงชีวิต วิทยุชุมชนสำมำรถเข้ำมำมี
บทบำทสำำคัญในกำรทำำหน้ ำที่เป็ นตัวกลำงระหวุำงบุคคลกับ
สังคม อันจะกุอชุวยให้มนุษย์ได้เรียนร้้ควำมเป็ นตนเอง
(identity) จนสำมำรถกำำหนดบทบำทและตำำแหนุ งของตัวเองที่
สัมพันธ์กับสังคม เชุนเดียวกับต้องทำำหน้ ำที่คด
ั กรองข้อม้ล
ขุำวสำรจำกภำยนอกเข้ำสุ้กำรรับร้้ของคนในชุมชน พร้อม
กับสุงขุำวสำรควำมเป็ นไปภำยในชุมชนสุ้สังคมภำยนอก ซึ่ง
วิทยุชุมชนได้นำำมำสุ้กำรเปิ ดพื้นที่ให้ประชำชนเป็ นทัง้ ผ้้รับ
สำรและผ้้สุงสำร
จำกภำระหน้ ำทีด
่ ังกลุำว วิทยุชุมชนจึงเป็ นเสมือนสื่อ
กลำงที่กุอให้เกิดกำรเชื่อมประสำนคนในชุมชนเข้ำด้วยกัน
ด้วยกำรนำ ำเสนอขุำวสำรที่ใกล้ตัวสอดคล้องกับวิถีกำรรับร้้
และควำมต้องกำรของชุมชน หำกแตุวิทยุชุมชนด้จะมีควำม
ได้เปรียบมำกกวุำในแงุของควำมสำมำรถในกำรหยิบและ
เชื่อมโยงประเด็นนโยบำยสำธำรณะที่มีอยุ้ทัว
่ ไปมำรุวมกัน
คิดวิเครำะห์ระหวุำงผ้้จัดรำยกำรและผ้้ฟังได้งุำยกวุำและมี
ประสิทธิภำพกวุำสื่อมวลชนขนำดใหญุทัว
่ ไปดังแผนภำพ
สังคมเศรษฐกิจ
สังคมการเมือง
(Economic
(Political)
Society)
วิทยุชุมชน
Public
สื่อมวล
น
สื่อมวลช
ชน
Sphere
ประชาชนในชุมชน
ในฐานะ พลเมืองและผ้่
บริโภค
ภาพที่ 1 แสดงควำมสัมพันธ์ของวิทยุชุมชนกับสังคม
แตุกำรที่จะปฏิบัติตำมพันธกิจที่กลุำวมำได้นัน
้ วิทยุ
ชุมชนจำำเป็ นต้องมุุงทำำหน้ ำที่ (function) ทัง้ ในฐำนะของควำม
สื่อ ควำมเป็ นพื้นที่สำธำรณะ และควำมเป็ นชุมชน โดยมุุง
พัฒนำกำรผลิตงำนหรือทำำงำน (work) เพื่อสุงเสริมกำรมีสุวน
รุวมของคนในชุมชน (participation) ด้วยกำรสร้ำงและพัฒนำ
สมรรถนะในแพรุกระจำย (diffusion competence) ในร้ปแบบตุำงๆ
ขึ้นเสียกุอน เชุน กำรสร้ำงระบบกำรสื่อสำรสองทำง หรือ
กำรสื่อสำรกันโดยตรงระหวุำงคนในชุมชนด้วยกันเองผุำน
กิจกรรมตุำงๆ ตำมสภำพที่สอดคล้องกับวัฒนธรรม และวิถี
แหุงท้องถิ่นเป็ นสำำคัญเพื่อให้คนในชุมชนได้มีปฏิสัมพันธ์
และมีสุวนรุวมกับวิทยุชุมชน อันจะทำำให้คนในชุมชนทัง้
ภำครัฐและภำคประชำชนเคลื่อนเข้ำมำใกล้กันเสียกุอน
กุอนขยำยเชื่อมโยงกับวิทยุชุมชนอื่นๆ เพื่อเพิ่มขีดควำม
สำมำรถในกำรสื่อสำรกับสังคมภำยนอก และรุวมแลก
เปลี่ยนเรียนร้้ ถุำยทอดประสบกำรณ์ระหวุำงกัน
ดัชนี ชี้วัดควำมเข็มแข็งของวิทยุชุมชนในที่นี้หมำย
ถึง ข้อบุงชี้ที่นำำไปสุ้กำรพัฒนำตัวชี้วัดที่แสดงถึง
ประสิทธิภำพในกำรดำำเนิ นงำนของวิทยุชุมชนได้สอดคล้อง
ตรงกับปรัชญำ และหลักกำรของวิทยุชุมชนซึ่งแตกตุำงไป
จำกสถำบันสื่อมวลชน หรือกิจกำรกระจำยเสียงของสถำนี
วิทยุทว
ั ่ ไปที่มุงเน้ นกำรกระจำยเสียงสุ้สังคมวงกว้ำง ซึ่งจำก
ที่ได้กลุำวถึงหลักกำรของวิทยุชุมชนมำแล้วจะเห็นได้วุำ
วิทยุชุมชนนั น
้ มีองค์ประกอบ (components) และพันธกิจ (mission)
ที่แตกตุำงจำกสื่อมวลชน หรือวิทยุกระจำยเสียงทัว
่ ไปอยุำง
มำกภำยใต้แนวคิดและหลักกำรของวิทยุชุมชน พอสรุปได้
ดังนี้
องค์ประกอบของวิทยุชุมชนไทย
เมื่อนำ ำเอำต้นกำำเนิ ดและพัฒนำกำรอันตุอเนื่ องของ
ภำคประชำชนมำผนวกเข้ำกับแนวควำมคิด และหลักกำร
ของวิทยุชุมชนแล้ว สำมำรถกำำหนดองค์ประกอบของวิทยุ
ชุมชนได้ดังนี้
1. ความเป็ นพืน
้ ที่สาธารณะ (public sphere) วิทยุ
ชุมชนไทยมีจุดเริ่มต้นจำกบทบัญญัติในรัฐธรรมน้ญมำตรำ
40 ดังได้กลุำวมำแล้ว ดังนั น
้ วิทยุชุมชนจึงมีคุณลักษณะของ
ควำมเป็ นพื้นที่สำธำรณะ (public sphere) อันเป็ นสุวนหนึ่ งของ
ทรัพยำกรชำติที่คนหนึ่ งคนใดจะครอบครอง หรือครอบงำำไมุ
ได้แตุเป็ นพื้นที่ที่เปิ ดกว้ำงสำำหรับทุกคนในชุมชนโดยต้องไมุ
เป็ นพื้นที่ที่ไปละเมิดสิทธิผ้อ่ ืน หรือสร้ำงควำมเสียหำยให้กับ
สังคมในทำงหนึ่ งทำงใด ขณะเดียวกันกำรเป็ นพื้นที่
สำธำรณะตำมหลักกำรที่กลุำวมำต้องเป็ นพื้นที่เอื้อประโยชน์
ให้กับสำธำรณะมิใชุเอื้อประโยชน์ ให้กับสุวนบุคคล ประกอบ
กันบุคคลผ้้เข้ำรุวมในพื้นที่เป็ นกำรเข้ำรุวมในฐำนะของ
พลเมือง (citizen) เป็ นสำำคัญ มิใชุเข้ำรุวมในฐำนะผ้้ผลิตหรือผ้้
บริโภค (consumer) เพื่อกำรแลกเปลี่ยนเรียนร้้และกำรชุวย
เหลือเกื้อหนุนในเรื่องที่เกี่ยวกับสำธำรณะ
ดังนั น
้ องค์ประกอบของควำมเป็ นวิทยุชุมชนประกำรหนึ่ งก็
คือ มีควำมเป็ นสื่อภำคประชำชน พร้อมกับๆ ที่เป็ นสื่อวิทยุ
กระจำยเสียงเพื่อมวลชน ซึ่งเทุำกับวุำ วิทยุชุมชนนั บเป็ น
เป็ นสื่อมวลชนแขนงหนึ่ ง เป็ นชุองทำงในกำรสุงกระจำย
เสียง และทำำกำรสื่อสำรจำกผ้้สุงสำรไปยังผ้้สำร เชุนเดียวกับ
สื่อมวลชนประเภทวิทยุกระจำยเสียงทัว
่ ไป โดยมีองค์
ประกอบยุอยทีป
่ ระกอบด้วยผ้้สุงสำร (sender) ซึ่งได้แกุ ผ้้
บริหำรและผ้้จัดรำยกำรของวิทยุชุมชนผุำนชุองทำง (channel)
ซึ่งได้แกุ คลื่นควำมถี่วิทยุกระจำยเสียงนั น
้ เอง และเมื่อเป็ น
สื่อมวลชนแล้วจำำเป็ นต้องมีกำรจัดร้ปองค์กรที่เหมำะสม
สอดคล้องกับผ้้ที่เกี่ยวข้องและตอบสนองตุอสภำพแวดล้อม
ได้อยุำงมีประสิทธิภำพด้วย
พันธกิจของวิทยุชุมชน
จำกหลักกำรและคุณลักษณะของวิทยุชุมชนที่เข้ม
แข็งดังที่กลุำวแล้ว เมื่อนำ ำมำสังเครำะห์ในภำพรวมแล้วพบ
วุำ วิทยุชุมชนมีพันธกิจหลักใน 3 ด้ำน ได้แกุ
แนวทางการพัฒนาดัชนี ชี ้วัดความเข้มแข็งของวิทยุ
ชุมชน
จำกองค์ประกอบและพันธกิจดังกลุำว กำรที่วิทยุ
ชุมชนจะมีควำมเข็มแข็งหรือไมุยุอมต้องขึ้นกับกำรพัฒนำ
ให้เกิดองค์ประกอบให้ครบถ้วน ตลอดจนปฏิบัติตำมพันธกิจ
ที่มีให้สอดคล้องกับองค์ประกอบหลักๆ ของวิทยุชุมชน หำก
วิทยุชุมชนสำมำรถพัฒนำให้มีองค์ประกอบทีค
่ รบถ้วน และ
มีกำรดำำเนิ นกำรตำมพันธกิจข้ำงต้นอยุำงสัมพันธ์กันยุอมสุง
ผลในวิทยุชุมชนเกิดควำมเข้มแข็ง มีประสิทธิภำพในกำร
ดำำเนิ นงำนได้ตรงตำมหลักกำรแหุงควำมเป็ นวิทยุชุมชน ซึ่ง
ต้องนำ ำผนวกกันเพื่อศึกษำควำมสัมพันธ์ขององค์ประกอบ
และพันธกิจ โดยผู้วิจัยไดูจัดทำำตำรำงสรุป Matrix องค์ประกอบ
และพันธกิจของวิทยุชุมชนไทยขึ้นดังนี้
ตารางที่ 1 Matrix องค์ประกอบและพันธกิจของวิทยุชุมชนไทย
ความเป็ น ความเป็ น ความเป็ น
ตัวชี ้วัด
สื่อมวลชน พืน
้ ที่สาธารณะ ชุมชน
1. ระดับการมีส่วนร่วมของวิทยุชุมชน
กำรมีสุวนรุวมในองค์ประกอบตุำงๆ ของวิทยุชุมชนนั น
้ หลักสำำคัญมุุง
เน้ นไปที่กำรมีสุวนรุวมแท้ ซึ่งเริ่มตัง้ แตุกำรรุวมคิด รุวมวำงแผน รุวมบริหำร
จัดกำร อยุำงตุอเนื่ องจริงจัง โดยเกิดขึ้นอยุำงกว้ำงขวำง มิใชุเพียงกำรมีสุวน
รุวมเทียมที่มีสมำชิกในชุมชนเป็ นเพียงผ้้ฟัง หรือผ้้แสดงควำมคิดเห็นบำงสุวน
ตำมแตุผ้หนึ่ งผ้้ใด หรือคณะหนึ่ งคณะใดกำำหนดขึ้นมำเทุำนั น
้ หำกวิทยุชุมชนใด
มีระดับกำรมีสุวนรุวมจำกประชำชนกลุุมตุำงๆ อยุำงกว้ำงขวำง ตุอเนื่ องในทุกๆ
ด้ำน วิทยุชุมชนแหุงนั น
้ ยุอมมีควำมเข้มแข็งมำกกวุำวิทยุชุมชนที่มีประชำชน
เข้ำรุวมในระดับตำ่ำ ซึ่งกำำหนดเป็ นดัชนี ชี้วัดได้ดังนี้
2. ประสิทธิภาพในการทำาหน้ าที่ของวิทยุชุมชน
3. สมรรถนะการแพร่กระจายของวิทยุชุมชน
2
ปั จจุบัน ร้ปแบบกำรดำำเนินกำรของวิทยุชุมชนยึดตำมมติคณะรัฐมนตรี เดือน
มิถุนำยน พ.ศ. 2546 ระบุให้กำรสุงกระจำยเสียงของวิทยุชุมชนต้องใช้เครื่องไมุเกิน 30 วัตต์
ในระบบ เอฟ.เอ็ม. เสำอำกำศส้งไมุเกิน 30 เมตรจำกพื้นดินและมีรัศมีกระจำยเสียงไมุเกิน 15
กิโลเมตร โดยกำรดำำเนินงำนของวิทยุชุมชนต้องไมุขัดกับพระรำชบัญญัติวิทยุกระจำยเสียง
และวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2498 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2530