Professional Documents
Culture Documents
งานนำเสนอจิตวิทยาการเรียนรู้
งานนำเสนอจิตวิทยาการเรียนรู้
ทฤษฏีการเรียนรู้
จุดมุุงหมายของการเรียนรู้
การนำาความรู้ไปใชู
จิตวิทยาการเรียนรู้
องค์ประกอบสำาคัญของการเรียน
การถุายโยงการเรียนรู้
ธรรมชาติการเรียนรู้
นั กจิตวิทยาหลายท่านให้ความหมายของการเรียนร้้ไว้ เช่น
คิมเบิล ( Kimble , 1964 ) "การเรียนร้้
เป็ นการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างถาวรในพฤติกรรม อันเป็ น
ผลมาจากการฝึ กที่ได้รบ ั การเสริมแรง"
ฮิลการ์ด และ เบาเวอร์ (Hilgard & Bower, 1981)
"การเรียนร้้ เป็ นกระบวนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม อัน
เป็ นผลมาจากประสบการณ์และการฝึ ก ทั้งนี้ ไม่รวมการ
เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เกิดจากการตอบสนองตาม
สัญชาตญาณ ฤทธิข ์ องยา หรือสารเคมี หรือปฏิกิรย
ิ า
สะท้อนตามธรรมชาติของมนุ ษย์ "
คอนบาค ( Cronbach ) "การเรียนร้้
เป็ นการแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่มีการ
เปลี่ยนแปลง อันเป็ นผลเนื่ องมาจากประสบการณ์
ที่แต่ละบุคคลประสบมา “
๑. กุอนการวางเงื่อนไข
UCS (อาหาร) UCR (นำ้าลายไหล)
สิ่งเรูาที่เป็ นกลาง (เสียงกระดิ่ง) นำ้าลายไมุไหล
๒. ขณะวางเงื่อนไข
CS (เสียงกระดิง่ ) + UCS (อาหาร) UCR (นำ้าลายไหล
๓. หลังการวางเงื่อนไข
CS (เสียงกระดิง่ ) CR (นำ้าลายไหล)
John B. Watson
นั กจิตวิทยาชาวอเมริกัน ทำาการทดลองการวางเงื่อนไข
ทางอารมณ์กับเด็กชายอายุประมาณ ๑๑ เดือน
โดยใช้หลักการเดียวกับ Pavlovหลังการทดลองเขา
สรุปหลักเกณฑ์การเรียนร้้ได้ ดังนี้
๑. การแผ่ขยายพฤติกรรม (Generalization) มีการ
แผ่ขยายการตอบสนองที่วางเงื่อนไขต่อสิ่งเร้า
ที่คล้ายคลึงกับสิ่งเร้าที่วางเงื่อนไข
๒. การลดภาวะ หรือการดับส้ญการตอบสนอง
(Extinction) ทำาได้ยากต้องให้ส่ิงเร้าใหม่ (UCS )
ที่มีผลตรงข้ามกับสิ่งเร้าเดิม จึงจะได้ผลซึ่งเรียกว่า
Counter - Conditioning
ในกระบวนการเรียนร้ข ้ องคนเรานั้ น จะ
ประกอบด้วยลำาดับขั้นตอนพื้ นฐานที่สำาคัญ
3 ขั้นตอนด้วยกัน คือ
(1) ประสบการณ์
(2) ความเข้าใจ
(3) ความนึ กคิด
กลุ่มพุทธินิยม หรือกลุ่มความร้้ความเข้าใจ หรือ
กลุ่มที่เน้นกระบวนการทางปั ญญาหรือความคิด
ทฤษฎีในกลุ่มนี้ ทีสำาคัญ ๆ มี 5 ทฤษฎี คือ
1. ทฤษฎีเกสตอลท์(Gestalt’s Theory)
2. ทฤษฎีสนาม (Field Theory)
3. ทฤษฎีเครื่องหมาย (Sign Theory)
4. ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญา (Intellectual
Development Theory)
5. ทฤษฎีการเรียนร้้อย่างมีความหมาย (A Theory
of Meaningful Verbal Learning)
Theory)ใชูในการออกแบบและพัฒนาบทเรียนโดยใชู
ทฤษฎีของกาเยุ ( Gagne ) ทฤษฎีการเรียนรู้ 8 ขั้น
ดังนี้
- สรูางแรงจ้งใจใหูผู้เรียนเกิดความสนใจในบท
เรียน
- แจูงจุดประสงค์ บอกใหูผเู้ รียนทราบถึงผลการ
เรียน เห็นประโยชน์ในการเรียน ใหูแนวทางการจัด
กิจกรรมการเรียน
- กระตูน ุ ใหูผเู้ รียนทบทวนความรู้เดิมที่จำาเป็ นตุอ
การเชื่อมโยงไปหาความรู้ใหมุ เสนอบทเรียนใหมุๆ ดูวย
สื่อตุางๆ ที่เหมาะสม
- ใหูแนวทางการเรียนรู้ ผู้เรียนสามารถทำากิจกรรม
ดูวยตนเอง ผูส ้ อนแนะนำาวิธก ี ารทำากิจกรรม แนะนำา
แหลุงคูนควูาตุางๆ
- กระตูน ุ ใหูผเู้ รียนลงมือทำาแบบฝึ กปฏิบต ั ิ
- ใหูขอ ู ม้ลยูอนกลับ ผูเ้ รียนทราบถึงผลการปฏิบต ั ิ
จิตวิทยากลุมุ มนุษยนิ ยม มาใชูในการจัดร้ปแบบการเรียน
การสอนโดยใชูทฤษฎีของ เลวิน (Lawin) ทฤษฎีสนาม
มาใชูโดยการใหูนก ั เรียนไดูทำากิจกรรมกลุุม ไดูเรียนรูใ้ น
กลุุม เป็ นการเรียนแบบรุวมมือเพื่อใหูเกิดการเรียนรู้รุวม
กัน สามารถสรุปใจความสำาคัญของทฤษฎีสนามในการจัด
กิจกรรมกลุุมไดูดังนี้
1. พฤติกรรมเป็ นผลจากพลังความสัมพันธ์ของสมาชิก
กลุุม
2. โครงสรูางกลุุมเกิดจากการรวมกลุุมของบุคคลที่มี
ลักษณะแตกตุางกัน
3. การรวมกลุุมแตุละครั้งจะตูองมีปฏิสม ั พันธ์ระหวุาง
สมาชิกในกลุุมเชุน ในร้ปการกระทำา (act) ความรู้สก ึ และ
ความคิด
4. องค์ประกอบตุางๆ ดังกลุาว จะกุอใหูเกิดโครงสรูาง
ของกลุุม แตุละครั้งที่มลี ักษณะแตกตุางกันออกไปตาม
ลักษณะของสมาชิกกลุุม
5. สมาชิกกลุุมจะมีการปรับตัวเขูาหากันและพยายาม