ความมั่งคั่ง: Wealth 2010

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 23

Wealth 2010

ความมั่งคั่ง 2010
ยก 5 :1-6
1 นี่แน่ะท่านผู้มั่งมี จงร้องไห้โอดครวญเพราะความวิบัติซึ่งจะเกิดกับท่าน
2 ทรัพย์สมบัติของท่านก็ผุพังไปแล้ว และตัวแมลงก็กัดกินเสื้อผ้าของท่าน
3 ทองและเงินของท่านก็เกิดสนิม และสนิมนั้นก็จะเป็นพยานหลักฐานการกระทําของท่าน และจะเผาผลาญเลือดเนื้อท่านดุจไฟ ท่านได้
ส่ําสมสมบัติไว้แล้วสําหรับอวสานกาล
4 นี่แน่ะ ค่าจ้างของคนที่ได้เกี่ยวข้าวในนาของท่านซึ่งท่านได้ฉ้อโกงไว้นั้น ก็ร้องฟ้องขึ้น และเสียงร้องทุกข์ของคนที่เกี่ยวข้าวนั้น ได้ทรง
ทราบถึงพระกรรณขององค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาแล้ว
5 ท่านมีชีวิตอยู่ในโลกอย่างฟุ่มเฟือยและสนุกสนาน ท่านได้บําเรอจิตใจของท่านไว้รอวันประหาร
6 ท่านได้ตัดสินลงโทษ และได้ฆ่าคนชอบธรรม เขาก็ไม่ได้ต่อต้านท่าน

James 5: 1-6
1 Now listen, you rich people, weep and wail because of the misery that is coming upon you.
2 Your wealth has rotted, and moths have eaten your clothes.
3 Your gold and silver are corroded. Their corrosion will testify against you and eat your flesh like fire. You have hoarded wealth in the
last days.
4 Look! The wages you failed to pay the workmen who mowed your fields are crying out against you. The cries of the harvesters have
reached the ears of the Lord Almighty.
5 You have lived on earth in luxury and self-indulgence. You have fattened yourselves in the day of slaughter.
6 You have condemned and murdered innocent men, who were not opposing you.

--------------------------------------------------------------------------------------------------

1
 ใน BB มีการพูดถึง 2,350 ข้อที่พูดเรื่องเงิน
 จาก 30 คําอุปมาของพระเยซู มีกว่า ครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ พูดเรื่องทรัพย์สมบัติ
 และแม้จริง พระเยซูดูเหมือนพูดเรื่องเกี่ยวกับการเงิน มากกว่า สวรรค์ และนรกรวมกันเสียอีก
 ดาวิด
 หลายคนเชื่อแบบผิดๆว่า..พระคัมภีร์สอนว่าความร่ํารวยเป็นสิ่งที่ผิด
 เพราะ เขาเข้าใจผิด ว่า “เงิน”เป็นมูลรากแห่งความชั่วร้ายทั้งมวล "Money is the root of all evil"
 แต่ความจริงคือ “การรักเงิน” ต่างหาก..ที่เป็นรากแห่งความชั่วร้ายทั้งมวล "The love of money is the root of all evil"

 พระเจ้าไม่ได้ต่อต้านความร่ํารวย ความจริงคนในพระคัมภีร์หลายคนก็ร่ํารวยมาก
 หนึ่งในนั้นคือ อับราฮัม / โยบ / ดาวิด /ซาโลมอน /บารนาบัส และ
 Clip ความรวยของดาวิด
 โยเซฟเป็นชาวอาริมาเธีย เป็นสมาชิกสภา ผู้ให้อุโมงค์เก็บพระศพพระเยซู ก็ร่ํารวยมาก

 พระเจ้าจึงไม่ได้ต่อต้านความร่ํารวย แต่พระเจ้าต่อต้านการนําเอาความร่ํารวยไปใช้ในทางที่ผิดต่างหาก
 พระองค์ต้องการให้เราใช้ความร่ํารวยในทางที่ถูกต้องและมีสติปัญญา ไม่ว่าเราจะมีมาก หรือมีน้อยก็ตาม

 ในช่วงเวลาของพระคัมภีร์ใหม่ คนสมัยนั้นไม่มีชนชั้นกลาง มีแต่รวยไปเลย กับจนไปเลย


 ดังนัน
้ ระบบจึงเป็นเหตุให้คนรวยก็จะรวยขึ้นเรื่อยๆ และคนจนก็ยากจนก็ร่ําไป
 คนรวยมักจะกดขี่และเอาเปรียบคนจน ยากอบบอกว่า มีมากหรือมีน้อยก็ต้องใช้อย่างมีปัญญา

 เราจะมาดูการใช้ความมั่งคั่งทั้งด้านถูกและด้านผิดกัน
 เชื่อหรือไม่ว่า เพียงแค่
 ทุกคนที่นี่ร่ํารวยตามมาตรฐานของโลกนี้ เช่น ถ้าคุณมีรถ คุณรวย ถ้าคุณมีเสื้อผ้าเปลี่ยนมากกว่า 1 ชุด คุณก็ได้ชื่อว่ารวย..
 ถ้าคุณมีบ้านของคุณเอง คุณก็รวยติดท็อป 5% ของโลกแล้ว เพราะมีคนเพียง 5% ที่มีบ้านเป็นของตนเอง ให้ยกมือในห้องว่า ใครมี
บ้านเป็นของตนเอง
 ถ้าตื่นมาพร้อมกับ มีอาหารนิดหน่อยในตู้เย็น
2
 มีพ่อ แม่ให้ไปเยี่ยม หายากยิ่งโดยเฉพาะในอเมริกา

 เราต้องมาถึงจุดที่ต้องระวังในความจริงที่พระเจ้าได้อวยพรเรา
 เราต้องขอบคุณในพระคุณของพระเจ้า

ยากอบบอกถึงการใช้ความมั่งคั่งในทางที่ผิด ว่าเราจะหลีกเลี่ยงได้อย่างไร?
และทําอย่างไรจึงจะถูกต้อง?

1. รวยแบบผิด ๆ : THE WRONG USES OF WEALTH


1.1 การสะสมที่ผิด
THE Wrong ACCUMULATION
ในข้อ 3 บอก “ท่านได้ส่ําสมสมบัติไว้แล้วสําหรับอวสานกาล”
V. 3, "You have hoarded wealth in the last days

 พระเจ้าบอกว่า เงินทองไม่ได้มีไว้เพื่อกักตุนหรือสะสมไว้
 หรือสะสมด้วยท่าทีที่อยากมีไว้เพื่อความมั่งมีของตนเอง

 พระเจ้าต้องการให้เงินทองนั้นหมุนเวียนหรือไหลเวียน : Cash Flow


 พระองค์ไม่ได้พูดถึงการสะสม พระเจ้าสนับสนุนเราให้ออมทรัพย์ก็จริง
 แต่พระองค์อ้างอิงถึงคนที่พระเจ้าจะอวยพร..คือ..คนที่มีไว้..เพื่อให้ออกไป

 มีอยู่ครั้งหนึ่งนานมาแล้วนสพ.ลงข่าวคุณลุงคนหนึ่งได้ตายไป เขาดูเหมือนยากจนมาก
 แต่เมื่อมีการเคลื่อนย้ายที่นอนของเขาออกจากเตียง ก็พบเงินมากมายหลายแสนดอลล่าร์อยู่ใต้ที่นอนของเขา
 นี่เป็นตัวอย่างของคนที่ไม่ได้ออมทรัพย์ แต่เป็นการกักตุนทรัพย์มากกว่า
 ทําไมเขาถึงทําอย่างนั้น? เพราะเขากลัวว่าเขาจะสูญเสียเงินไป เขาจึงไม่ยอมใช้มัน
3
ในพระคัมภีร์พูดเรื่องการสะสมอยู่ 3 อย่างคือ
1. อาหาร
2. เสื้อผ้า
3. เพชรนิลจินดา

 นี่คือสิ่งที่คนในพระคัมภีร์สมัยนั้นแสดงความร่ํารวยของเขา
 ถ้าคุณมีเงินคุณจะแสดงออกมาในรูปของอาหารมากมาย เสื้อผ้า และเพชรนิลจินดา

ในข้อ 2 ทรัพย์สมบัติของท่านก็ผุพังไปแล้ว และตัวแมลงก็กัดกินเสื้อผ้าของท่าน


3 ทองและเงินของท่านก็เกิดสนิม และสนิมนั้นก็จะเป็นพยานหลักฐานการกระทําของท่าน
และจะเผาผลาญเลือดเนื้อท่านดุจไฟ ท่านได้ส่ําสมสมบัติไว้แล้วสําหรับอวสานกาล

2 Your wealth has rotted, and moths have eaten your clothes.
3 Your gold and silver are corroded. Their corrosion will testify against you and eat your flesh like fire. You have hoarded wealth in the
last days.

• มธ 6:19 บอกวา “อยาส่ำสมทรัพยสมบัติไวสำหรับตัวในโลก ที่อาจจะเปนสนิมและที่แมลงจะกัดกินไดและที่ขโมยอาจขุดชองลักเอาไปได แตจงส่ำสมทรัพยสมบัติไวในสวรรคที่


ไมมีแมลงจะกิน และไมมีสนิมจะกัด และไมมีขโมยขุดชองลักเอาไปได”

 แท้จริงประเด็นคือ การสะสมจะทําให้เสื่อมโทรมไป
 ไม่ว่าเราจะสะสมอะไร มันจะเสื่อมโทรมไป พระคัมภีร์บอก
 พระเจ้าไม่ต้องการให้เราร่ํารวยเพราะอยากรวย แต่พระเจ้าต้องการให้เกิดการหมุนเวียน
 พระคัมภีร์บอกว่าเสื้อผ้าจะถูกแมลงกัดกิน เสื้อผ้าที่ไหนครับ
 เสื้อผ้าที่เราใส่ทุกวันหรือเสื้อผ้าที่ถูกเก็บสะสมไว้ในตู้ ?
 อาหารที่เราทานกันทุกวันหรืออาหารที่กักตุนไว้ในตู้เย็น3เดือนมาแล้ว
 ความมั่งคั่งไม่ได้มาจากการสะสม แต่มาจากการสร้างสรรค์ การแพร่ออกไป การขยายออกไป การปลูก​,การหว่าน ,​การถูกกระจาย
ออกไป, กระจายรายได้

4
 แม้แต่นโยบายรัฐบาลที่ประสบความสําเร็จ คิดรัฐบาลสามารถบริหารประเทศ และกระจายความเจริญสู่ทุกภาคในประเทศ และเจริญ
สู่ทุก ๆ ด้านของประเทศ
 ตัวอย่างเมืองน่าอยู่จาก MErser Index ประเทศที่เจริญนั้นต้อกระจายทุกด้าน อาทิ
Vienna score 108.6, and Baghdad 14.4. Cities are ranked against New York as the base city with an index score of 100. Mercer’s Quality of Living ranking covers 215 cities
1. governments
2. major companies place employees
3. international assignments.
4. best infrastructure
5. electricity supply
6. water availability
7. telephone
8. mail services
9. public transport provision
10.traffic congestion
11.International flights from local airports. Singapore is at the top of this index (score 109.1)
12.quality of living
13.social environment
14.telecommunication services
15.public transport
16.security and stability
 ในลูกา 12 บอกเขาจะสร้างยุ้งฉางที่ใหญ่โตขึ้นเพื่อเก็บข้าวของเขา
 เขาไม่ได้คิดว่า เขาจะแจกจ่ายข้าวนั้นออกไป
 เขาไม่ได้คิดถึงการหมุนเวียน
 เรียกว่าเป็นความมั่งคั่งที่เห็นแก่ประโยชน์ฝ่ายเดียว

แบบนี้ยากอบเรียกว่าเป็นการใช้ความมั่งคั่งในทางที่ผิดข้อที่ 1 นั่นคือ อย่ากักตุนหรือสะสมด้วยท่าทีที่ผิด

5
1.2 ร่ํารวยจากการเก็บกักไว้ (​กั๊กไว้)
THE Wrong APPROPRIATION

 พระเจ้าไม่ได้ห่วงในสิ่งที่เรามีหรือเราจะมีได้อย่างไร
 แต่พระองค์สั่งว่า “อย่าขโมย” อย่าใช้ความไม่สัตย์ซื่อของเราเองทําร้ายคนอื่น
 มันมีช่องทางมากมายที่จะซิกแซกไม่ซื่อสัตย์
 ช่องทางหนึ่งคือ การไม่จ่ายหนี้สิน หรือเพิกเฉยต่อภาระหนี้สิน

 เจ้านายที่เอาเปรียบลูกจ้าง หรือ กินแรงโดยซิกแซกในการจ่ายค่าแรงให้นั้น


 ในข้อ4 กล่าวว่า “นี่แน่ะ ค่าจ้างของคนที่ได้เกี่ยวข้าวในนาของท่านซึ่งท่านได้ฉ้อโกงไว้นั้น ก็ร้องฟ้องขึ้น …. ”

v.4 "The wages you have failed to pay the workmen who mowed your fields are crying out against you."

 ยากอบบอกในการสะสมเงินทองนั้นไม่ผิด
 แต่อย่ากักตุน อย่าขโมย อย่าขี้โกง อย่าโกงภาษี อย่าเอาเปรียบ
 เราไม่ได้ให้ ในสิ่งที่สมควรจะให้
 โกงลูกน้อง, ไม่แชร์กันตอนกินข้าว เฉยไว้ ปวดท้องทุกทีตอนเช็คบิล หรือ ลืมกระเป๋าไว้ที่รถทุกที
 ถ้าเราไม่เคยเลี้ยงใคร พระเจ้าก็คงไม่ให้ได้เรามากกว่านี้ ชอบอยู่กับคนที่มีเงิน เพราะเราจะได้ไม่ต้องจ่าย
 บางครั้งพระเจ้าก็ให้เราอยู่ในภาวะที่ต้องออกเงินตลอด อาจเพื่อสร้างใจแก่เรา ไม่ให้เราขี้เหนียว
 ตอนเหตุการณ์ซินามิ มีคนหนึ่งที่ที่ช่วยเหลือคนอื่น แม้ภรรยา และลูกตนเองเพิ่งตาย ขณะที่อีกคนหนึ่ง เก็บอาหารไว้ในห้องคนเดียว
ไม่แบ่งให้ใคร
 โลกปัจจุบันเต็มไปด้วยคนที่ตัวใครตัวมัน เราไม่อยากยุ่งกับคนที่ไม่มีอะไร แต่อย่าลืมว่าคนที่มีอะไร ๆ นั้น เกิดจากการไม่มีอะไรมา
ก่อน ถ้าเรารอไปคบคนที่เขามีอะไร ๆ แล้ว เราจะไม่มีทางสนิทกับใคร
 เพราะคนที่เขาช่วยกันนั้น ได้ร่วมทุกลําบากมาก่อน
 บางครั้งไม่ใช้แค่เงินแต่ เป็นเวลา​,เป็นกําลัง แรงกาย
 อย่ามางานปาตีร์ หลังเขาตกแต่ง ถ้าเราอยากได้ใจ หรือมาตอนที่งานเสร็จแล้ว ให้มาก่อนงาน และอยู่จนเลิก
6
 ถ้าเราไม่ช่วยเหลือคนอื่น ๆ ตอนนี้ ตอนที่เราจัดงานอะไรบ้าง ก็อาจต้องทําคนเดียวก็ได้
 และอย่านึกว่าเราจะไม่ต้องการ การช่วยเหลือใด ๆ
 ในชีวิตของคนเราต้องมีบางช่วงที่เราต้องการ การช่วยเหลือ,การพาไปส่งโรงพยาบาล, การมาช่วยเข็นรถ, การติวหนังสือ,​การ
แนะนําให้รู้จักคนต่าง ๆ ,​การพาไปส่ง หรือแม้แต่การเดินไปเป็นเพื่อน, คนช่วยงานแต่งงาน,ช่วยเล้ียงลูก
 ถ้าเราไม่ช่วยเลี้ยงลูกคนอื่น ๆ บ้าง อาจไม่มีใครอุ้มลูกของเรา, ถ้าเราไม่ช่วยแนะนําหนังสือแก่น้อง ๆ ถึงเวลาอาจไม่มีใครส่งงาน
ลูกค้าให้เรา,​ถ้าเราไม่ไปช่วยงานศพคนที่ต้องเสียคนรักไป ถึงเวลาเรา อาจไม่มีใครมางานศพเรา ภรรยาเราต้องทําอย่างเดียว

1.3 การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย
THE Wrong ALLOCATION

วิธีการใช้เงินเป็นสิ่งสําคัญ
5 ท่านมีชีวิตอยู่ในโลกอย่างฟุ่มเฟือยและสนุกสนาน ท่านได้บําเรอจิตใจของท่านไว้รอวันประหาร
v. 5 "You have lived on earth in luxury and self-indulgence."

• ถ้าเราใช้เงินอย่างเห็นแก่ตัวหรือเพื่อตัวเราเองเท่านั้น เรากําลังถูกหลอกแล้ว
• ยิง่ หาเงินได้มากเท่าไรยิ่งง่ายต่อการถูกหลอกมากเท่านั้น
• เรามักจะถูกเหตุผลจอมปลอมมาหลอกเรา เช่น ก็เราซื้อได้นี่นา.. คนอย่างเรามันต้อง
ชาแนล หรือ หลุย วิดตอง เท่านั้น
• การที่เราซื้อบางอย่างได้..ไม่ได้หมายความว่า เราสมควรต้องซื้อมัน
• ยากอบบอกยิ่งมีเงินมาก ยิ่งใช้จ่ายอย่างผิดๆได้ง่ายเช่นกัน
• น่าจะเสนอรายการที่เอาสภาพความเป็นอยู่ของคนยากจนจริงๆมาตีแผ่บ้าง
• ตัวอย่างของ คานธี มีทรัพย์สินเพียง 5 อย่างคือ
1. ขัน
2. ถาด
3. รองเท้าหนัง
7
4. นาฬิกา
5. แว่นตา

• วันคริสมาสก็เป็นวันที่พิเศษอีกวันหนึ่งของปี ซึ่งก็เป็นการบริโภคนิยมอีกวันหนึ่งในรอบปี
• ตั้งแต่เดือน สิงหาคม พ่อค้าได้เริ่มวางแผนในเรื่องทํายังไงให้คนใช้สอยเยอะๆ
• เฉลี่ยในช่วงคริสมาส คนใช้จ่าย 2 ปอนด์ หรือประมาณ 150 บาท ต่อคนเป็นอย่างน้อย
• ยากอบบอก นอกจากจะไม่ควรสะสมแล้ว ไม่ควรขโมยแล้ว ไม่ควรฟุ่มเฟือย หรือใช้จ่าย
อย่างไร้สาระ
• อย่าใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่ได้เสริมสร้างชีวิตเรา
• มีห้างดังในเท็กซัสห้างหนึ่ง..ลงทุนทําแคตตาล็อกสินค้าฟุ่มเฟือยสําหรับคนที่มีครบทุกอย่าง
แล้ว
• ล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าที่หาสาระไม่ได้จริงๆ
• การที่เรามีกําลังซื้อได้นั้น.. ไม่ได้หมายความว่าเราควรจะซื้อมันนะครับ

เราชอบสะสมของที่ ฟุ่มเฟือย อาทิ


- ตุ๊กตา Teddy Bare ราคาเพียง 2.9 ล้าน
‐ แต่เมื่อเทียบกับ Bugutti

‐ บางครั้งก็ทําให้เกิดความมันส์ และเพลินไปเหมือนกัน
ข้อ 5 “ท่านมีชีวิตอยู่ในโลกอย่างฟุ่มเฟือยและสนุกสนาน ท่านได้บําเรอจิตใจของท่านไว้รอวัน
ประหาร”
v. 5 "You have fattened yourself for the slaughter."

8
1.4 การใช้อิทธิพลจากความร่ํารวย
THE Wrong APPLICATION
• การใช้เงินเพื่อสร้างอิทธิพลเหนือผู้อื่น ลักษณะการใช้จ่ายของเราสามารถส่งผลกระทบถึงชีวิตเราได้ ฉะนั้นระวังตัวให้ดี
• Richard Foster เขียนหนังสือชื่อว่า Money, Sex and Power
• เป็นหนังสือดีอีกเล่มหนึ่ง บอกว่า
• อํานาจเงินนั้น..มีพลังมากกว่า..อํานาจการซื้อเสียอีก
• และเสียงของคนรวย..มักจะดังกว่าเสียงคนจนเสมอ

6 ท่านได้ตัดสินลงโทษ และได้ฆ่าคนชอบธรรม เขาก็ไม่ได้ต่อต้านท่าน


v. 6 "You have condemned and ruined innocent men, and they are powerless to stop you."

• ในพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า “เงินมีอิทธิพล”
• โลกนี้ใช้เงินเพื่อส่งอิทธิพลต่อคน บ้างก็ในทางทุจริต
• แต่พระเจ้าต้องการให้คริสเตียนใช้ความมั่งคั่งในทางสร้างสรรค์
• ส่งอิทธิพลในทางที่ดี
• เงินมีอํานาจ.. จงใช้ในทางที่ถูก ใช้ในทางที่ดี

• ในNT ช่วงเวลาของยากอบ คนรวยใช้อิทธิพลทั้งในการตัดสินคดี


• จนกระทั่งปัจจุบันนี้ มนุษย์ก็ยังใช้เงินในการมีอิทธิพลต่างๆ
• มีหัวหน้าครอบครัวหนึ่ง..ขู่ลูกหลานว่า.. ถ้าไม่ยอมอยู่ภายใต้..จะถูกตัดออกจากกองมรดก..
• นั่นคือการใช้ความมั่งคั่งในทางที่ผิด

• การพาคนนั้น คนนี้ไปเลี้ยงเพื่อหวัง

9
• มีบริษัทหนึ่งยอมให้พนักงานกู้ยืมเงิน โดยมีแผนการเบื้องหลัง ให้พนักงานไม่สามารถลาออกได้ ซึ่งส่งผลทําให้พนักงานลาออกไม่ได้
แม้ในเวลาที่เขาอยากจะออกก็ตาม
• นี่ก็คือการใช้เงินผิด
• หรือใช้เงินในการซื้อเสียงเพื่อการเลือกตั้งทั้งทางตรง และทางอ้อม อาทิ ถ้าคุณช่วยเรา เราจะอนุมัติให้มีการสร้างสะพาน และบริษัท
คุณจะได้รับสัมปทาน หรือ คุณจะคุมคิวรถตู้สายนี้ต่อไป อื่น ๆ

• การสะสมแบบผิดคือการกักตุนซึ่งทําให้ลดคุณค่าไป
• หรือความไม่สัตย์ซื่อก็จะถูกพิพากษาในวันสุดท้าย พระคัมภีร์เน้นย้ําเรื่องนี้มากจริงๆ

2. รวยอย่างฉลาด : The right uses of wealth


สิ่งแรกคือ

2.1 การสะสมอย่างถูกต้อง
THE RIGHT ACCUMULATION

สภษ 21:20 คลังทรัพย์ประเสริฐและน้ํามันมีอยู่ในที่อาศัยของคนฉลาด แต่คนโง่กินมันหมด


Proverbs 21:20 "The wise man saves for the future, but the foolish
man spends whatever he gets."

สภษ 30:25 มด เป็นประชากรที่ไม่แข็งแรง แต่มันยังเตรียมอาหารของมันไว้ในฤดูแล้ง


Proverbs 30:25 "Consider the ant how it stores up in the winter."

• หลักการในพระคัมภีร์คือ เราต้องออมทรัพย์อย่างสม่ําเสมอ
• เฉลีย
่ คนอเมริกันที่เก็บเงินออมทรัพย์มีเพียง 4 %จากรายได้
• คนยุโรป16 %

10
• คนญี่ปุ่น 25 %
• คนไทย 6.3%
• เพราะอะไรหรือ? ก็เพราะคนเรามักคิดเพียงว่า เขาอยู่เพียงเพื่อวันนี้
• หรือฉันจะซื้อมัน..ไม่ว่าฉันจะจ่ายได้หรือไม่ก็ตาม .. ก็ใช้บัตรเครดิตไง

• พระเยซูเองก็สอนเกี่ยวกับการลงทุน ว่าคนฉลาดคือคนที่เก็บออมและเอาเงินไปลงทุน แต่คนโง่นั้นไม่ลงทุนเงินของตนเอง จากอุปมา
เรื่องเงินตะลันต์
• เพราะเมื่อเรารู้จักเก็บเงิน เงินจะทํางานให้เรา
• แต่ถ้าเราไม่เก็บเงิน หรือลงทุน เราจะต้องทํางานเพื่อเงินตลอดเวลา
• “ใช้เงินทํางาน ดีกว่า ทํางานเพื่อใช้เงิน”
• การที่จะเปลี่ยนนิสัยเราในการออมเงินเราต้องทําสิ่งนี้คือ
• เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ระหว่างส่วนต่าง
• นั่นคือ “ใช้จ่ายให้น้อยกว่า..ที่คุณหามาได้” เพื่อสามารถเก็บส่วนที่เหลือเอาไว้

• หลักการของมหาเศรษฐีของโลก จอห์น ดี ร็อกกี้เฟลเลอร์ บอกว่า


• ออม 10% สิบลด 10% และใช้ได้ 80%
• หลักการแค่นี้เองก็สามารถทําให้เขามั่งคั่ง และส่งอิทธิพลต่อโลกนี้ได้
• เช่าวันนี้ ถ้าเรามีได้รายได้ 10,000 บาท ให้เราถวาย 1000 และ ออม 1000 บาท การทําแบบนี้ หากเราเริ่มที่อายุ 25 ปี เราจะเป็น
เศรษฐีเงินล้าน ตอนอายุ 58 ปี ถ้าเรา
• และถ้าเราเก็บตั้งแต่ตอนอายุ 20 ปี

• หลักการการอยู่แบบเผื่อเหลือเผื่อขาดนี้ ใช้ได้กับเรื่องการบริหารเวลาด้วย
• บ่อยครั้งเรามาสายเพราะเราวางแผนจะมาตรงเวลาเป๊ะ
• ความจริงคือ ถ้าเราอยากจะมาตรงเวลา เราน่าจะวางแผนมาก่อนเวลาตะหาก
• เมื่อเกิดเหตุการณ์เฉพาะหน้าไม่คาดคิด เราจะได้มีเวลาเผื่อ โดยไม่ต้องมาสาย
• เราต้องหัดเป็นคนพอเพียง เราต้องรู้ว่าเรามีมากแค่ไหน
11
• ถ้าเราไม่วางแผน เราจะใช้เงินจนหมดอย่างรวดเร็ว

• มีชายคนหนึ่งมักพูดว่า “มีอะไรก็ใช้อย่างนั้น ใช่เท่าที่มี ไม่มีก็หา หรือไม่ก็ไม่ต้องใช้”


• ปัจจุบันชายคนนี้เป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว
• ศัตรูตัวฉกาจของการอยู่อย่างพอเพียงคือ การโฆษณา
• เราเห็น แล้วเราก็คิด และเราก็รู้สึกว่า เราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมัน
• อะไรคือวัตถุประสงค์ของความพอเพียง เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างเพียงพอ อยู่เท่าที่เรามี ซื้อของเท่าทีเรามีจ่ายหลังจากถวาย และ
ออม อย่างละ 10%
• แต่พระคัมภีร์ให้เราสะสมเงินเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่การเติบโตฝ่ายวิญญาณของเราและผู้อื่นด้วย
• โลกบอกให้เราสะสมเพื่อความปลอดภัย ถ่้าเราสะสมไว้มากพอเราจะมั่นคง แต่ปัญหาคือ ไม่มีอะไรที่มั่นคงแน่นอน
• เพราะไม่ว่าเราจะมีเงินมากแค่ไหน เราก็ไม่สามารถมั่นคงได้ และก็สามารถสูญเสียมันไปโดยไม่คาดฝันได้

• บังเกอร์ ฮันท์ อภิมหาเศรษฐี ในปี 1986


• นิตยสาร Time Magazine ลงข่าวว่า เขาสูญเสียเงินมากกว่าพันล้านดอลล่าร์ในชั่วพริบตา
• เขาบอกว่า ไม่ว่าคุณจะหาเงินได้มากแค่ไหน ไม่ว่างานคุณจะดีเพียงใด
• แต่ถ้าวันไหนคุณขาหัก หรือล้มป่วยกะทันหัน เศรษฐกิจคุณก็สามารถแย่ลงได้ทันที
• สถานการณ์ชีวิตคุณอาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้โดยฉับพลัน ถ้าลองเกิดอุบัติเหตุขึ้นอย่างไม่คาดคิด
• คุณอาจต้องเสียค่ารักษาพยาบาลแบบประกันสังคมก็เอาไม่อยู่ ประกันชีวิตก็หมดโควต้า เพราะใช้สิทธิครบแล้ว มัน over แล้ว
• ทุกสิ่งในชีวิตเรามีสิทธิที่จะสูญหายไปจากชีวิตเราได้ในบัดดลทั้งนั้น
• ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวเรา ต้องมีการล้มหายตายจาก
• เงินของเรา ชื่อเสียงของเรา ทุกสิ่งทุกอย่าง

• แต่มีอยู่สิ่งเดียวที่ไม่มีทางที่จะสูญหายไปจากชีวิตเราได้เลย นั่นก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระคริสต์


• ฉะนั้นเราจึงฝากความมั่นคงไว้ที่พระองค์
• ไม่ใช่สมุดบัญชีธนาคาร ไม่ใช่ในหุ้น
• เราต้องไม่ใช้ระบบการรักษาความปลอดภัยของโลก
12
อ.เปาโลบอกว่า ฟป 4:19 และพระเจ้าของข้าพเจ้าจะประทานสิ่งสารพัดที่พวกท่านขาดอยู่นั้น จากทรัพย์อันรุ่งเรืองของพระองค์ในพระเยซู
คริสต์
Phil. 4:19 "My God shall supply all your needs."

• นั่นตะหากคือความมั่งคง
• การเตรียมตัวรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ํา ก็คือการแสวงหาความมั่นคงในพระเจ้าต่างหาก
• คริสเตียนเราจึงสะสมเพื่อเหตุผลคือ..การอารักขา ไม่ใช่ความมั่นคง

3 เหตุผลเพื่อการสะสมคือ

1. เพื่อปกป้องเราจากแรงกระตุ้นในการใช้จ่าย หรือเรียกว่า ธรรมชาติของการใช้จ่าย


It prevents us from impulse buying.
• เราไม่ควรจ่ายเงิน จากแรงกระตุ้นที่โง่เขลา
• ถ้าเราไม่สะสม หรืออดออม เราจะใช้ไปเรื่อยเท่าที่เราหามาได้
• เราเห็นของต่าง ๆ และเราก็ซื้อมา ในที่สุดเราพบว่าเราไม่ได้ใช้
• บางครั้งบ้านของคนฐานะปานกลาง กลับมีอะไร ต่ออะไรมากว่า บ้านคนที่มีฐานะมั่งคั่ง เพราะคนฐานะปานกลาง ไม่สะสม และมักซื้อ
สิ่งต่าง ๆ มาได้โดยง่าย และพบว่าไม่ได้ใช้
• ที่บ้านเราเต็มไปด้วย แจกัน, แก้วกาแฟ,กระโปรง, เครื่องสําอางค์ที่ใช้ไม่หมด, เตาอบขนม,ช้อนเกินจํานวน
• จะเห็นได้จาก มีสิ่งของในบ้านเราหลายสิ่งที่เราซื้อไว้ แต่ไม่ได้ใช้มันเลย

สภษ 21:20 คลังทรัพย์ประเสริฐและน้ํามันมีอยู่ในที่อาศัยของคนฉลาด แต่คนโง่กินมันหมด


Proverbs 21:20 "The wise man saves for the future, but the foolish man spends whatever he gets."

• ฉะนั้น ถ้าไม่เก็บ เราจะใช้หมด

13
2. เพื่อเราจะได้มีไว้สําหรับช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อจําเป็น
It allows us to be able to help other people when they have a need

• เราออมเพื่อจะช่วยผู้อื่นได้ นี่ไปในไมล์ที่ 2 แล้ว


• พระเจ้าจะทรงอวยพระพรเราแน่นอน ถ้าเรามีท่าทีแบบนี้
• แล้วคนที่เราได้ช่วยไป เขาก็ได้รับพระพรเช่นกัน นี่คือน้ําพระทัยพระเจ้าที่พระองค์อยากจะเห็นในชุมชนคริสเตียน

3. ใช้ให้เงินทํางาน ดีกว่า มัวแต่ทํางานหาเงิน


It gets your money working for you rather than you working for your money
• นั่นคือหลักการของการลงทุนในพระคัมภีร์
• เพราะเมื่อเราออมทรัพย์ กําลังหมายถึงเราได้ลงทุนแล้วอย่างชาญฉลาด
• นัน่ คือการสะสมตามหลักการพระเจ้า

14
2.2 การจัดสรรที่ถูกต้อง
THE RIGHT APPROPRIATION

สภษ 13:11 ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลงแต่บุคคลที่ส่ําสมทีละเล็กทีละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น

Proverbs 13:11 "Wealth from gambling quickly disappears; wealth from hard work grows."

• ในสภษ. อย่างน้อย 6 หรือ 7 ครั้ง ที่พระคัมภีร์เตือนเราให้ห่างไกลท่าทีที่อยากรวยทางลัด มาเร็วก็ไปเร็วเคลมเร็ว..

สภษ 14:23 มีกําไรอยู่ในงานทุกอย่าง การเพียงแต่พูดนั้นโน้มไปทางความขาดแคลน

Proverbs 14:23 "Hard work brings a profit; mere talk leads to poverty."

• ครั้งแล้วครั้งเล่าที่พระคัมภีร์สอนเราเรื่องคุณค่าของการทํางานหนัก
• หนทางเดียวที่จะทําให้เรามั่งคั่งขึ้นคือการทํางานหนักด้วยความสัตย์ซื่อ
• ไม่ใช่แค่การพูด พูด ฝัน.. ฝันถึงการที่จะทํายังไงที่รวยเร็วๆ เราไม่มีทางที่จะสําเร็จแน่
• พระเจ้ารับรองความร่ํารวยด้วยการทํางานหนักต่างหาก

สภษ 11:16 สตรีงามสง่าย่อมได้รับเกียรติ และชายหน้าเลือดย่อมมั่งคั่ง

Proverbs 11:16 "A lazy man will never have money but an aggressive man will get rich."

สภษ 12:27 คนเกียจคร้านจะจับเหยื่อของเขาไม่ได้ แต่คนขยันขันแข็งจะได้ทรัพย์ศฤงคารประเสริฐ

Proverbs 12:27 "If you're lazy you'll never get what you're after. But if you work hard, you can get a
fortune."

15
“พระเจ้าไม่สนใจว่าเราจะสามารถหาเงินได้เท่าไร แต่พระเจ้าสนใจว่าเราหาเงินได้ยังไงต่างหาก”

4 ลักษณะของการทํางานหนักที่ถูกต้อง

1. ตราบใดที่ไม่ทําลายสุขภาพเรา :
As long as it doesn't hurt your own health.
• หลายคนทํางานเหมือนกับกําลังฆ่าตัวตาย
• พยายามที่จะสะสมอํานาจบารมีให้ตัวเอง แต่ในที่สุดก็หัวใจวายตายเสียก่อน
• สังคมปัจจุบันมองคนบ้างานว่าเป็นฮีโร่
• แต่พระคัมภีร์สอนเราว่าสุขภาพควรมาก่อนความมั่งคั่ง

สภษ 23:4 อย่าทํางานเพื่อเห็นแก่ทรัพย์ศฤงคาร จงฉลาดพอที่จะยับยั้งไว้


Proverbs 23:4 "Do not wear yourselves out to get rich. Have the wisdom to show restraint."

• หลายคนทํางานหนักเพื่อพยายามที่จะมีในสิ่งที่เขาไม่ได้ต้องการจริงๆ
• อย่าพยายามที่จะร่ํารวยโดยไม่ได้เห็นแก่สุขภาพเลย

2. ตราบเท่าที่ไม่ทําร้ายต่อครอบครัว :
As long as it doesn't hurt my family.
• กี่ครอบครัวที่ต้องแตกแยกเพราะว่าลูกๆไม่ได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่
• เพราะว่าท่านยุ่งกับการทํางานเพียงเพื่อจะได้มีพอที่จะซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ลูก..
• เราต่างรู้ว่า ลูก ๆ ไม่ได้ต้องการสิ่งของไปมากกว่าตัวเรา ลูกต้องการรอยยิ้มจากเรา มากกว่า รอยยิ้มของตุ๊กตาหมี ตัวละ 500 บาท,
ต้องการดูหน้าเรา มากกว่า ดูหน้าจอ TV ต้องการให้เราป้อนข้าวมากกว่า คนเลี้ยงจากคนเลี้ยงเด็ก และต้องการเรากล่อมนอน
มากกว่า ฟังจากเครื่อง Ipod
• เชื่อว่าลูกๆไม่ได้ต้องการสิ่งของมากมาย..แต่เด็กๆต้องการเวลาที่อบอุ่นในครอบครัวต่างหาก
• ในคริสตจักรก็เป็นครอบครัวฝ่ายวิญญาญ ที่คนจํานวนหนึ่ง อาจยุ่งกับการหาเงิน มากกว่าการใช้ชีวิตร่วมกัน
16
• เรามัวยุ่งดําเนินชีวิต อาจทําให้เราลืม การใช้ชีวิตอย่างถูกต้องได้

3. ตราบเท่าที่ไม่ทําร้ายผู้อื่น :
As long as it doesn't hurt other people.
• ตรงข้ามกับหลักการในโลกนี้ที่ว่า “มือใครยาว..สาวได้สาวเอา”
• get all you can, can all you get
• พระเจ้าสั่งให้เราหาเงินด้วยความซื่อสัตย์และยุติธรรม
• เราหว่านสิ่งใดก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น..

สภษ 21:20 คลังทรัพย์ประเสริฐและน้ํามันมีอยู่ในที่อาศัยของคนฉลาด แต่คนโง่กินมันหมด


Proverbs 21:20 "A fortune can be made from cheating but there's a curse that goes with it."

สภษ 16:8 มีแต่น้อยแต่มีความชอบธรรม ก็ดีกว่ามีรายได้มากด้วยอยุติธรรม


Proverbs 16:8 "It's better to have a little, honestly earned, than a large income dishonestly gained."

4. ตราบเท่าที่จะสามารถรักษาระดับคุณภาพชีวิตฝ่ายวิญญาณของเรา :
As long as I keep my spiritual life on the same level

• คือหลักการความสมดุลนั่นเอง
• ถ้าเราสามารถร่ํารวยขึ้นไปพร้อม ๆ กับการเจริญเติบโตฝ่ายจิตวิญญาณ เมื่อนั้นแหล่ะเรามาถูกทิศแล้ว
• หลักการนี้ยังใช้ได้กับ การทํางาน, การเลื่อนตําแหน่ง,​การเรียนต่อ หรือการย้ายที่ทํางาน คืออะไรก็ตามต้องรักษาสมดุลย์ระหว่าง
สุขภาพ,ครอบครัว,ผู้อื่น และสําคัญที่สุดคือ ชีวิตฝ่ายวิญญาณของเรา
• เพราะแท้ที่จริง การเติบโตฝ่ายวิญญาณของเรา เป็นกระบวนการของระดับความมั่งคั่งของฐานะการเงินของเราด้วย
• เรามีเงินเยอะ ที่เก็บต้องใหญ่ และแข็งแรงไปพร้อมกัน
• คุณคิดว่า ต้องใช้การเติบโตต่างกันไหม ระหว่างการบริหารเงิน 10,000 บาท กับ 100 ล้านบาท
• อันที่จริง เราจะไม่สามารถดูแล หรือครอบครองเงินจํานวนมากได้ ถ้าชีวิตด้านอื่น ๆ เราไม่เติบโตไปพร้อม ๆ กัน

17
• การฝึกกีฬา แม้การแข่งขัน 1 อย่าง แต่ต้องฝึกทั้งร่างกายให้แข็งแรง นี้เรียกหลักแห่งการสมดุลย์

3 ยน 1:2 ท่านที่รัก ข้าพเจ้าอธิษฐานขอให้ท่านมีพลานามัยสมบูรณ์ และเจริญสุขทุกประการ อย่างจิตวิญญาณของท่านจําเริญอยู่นั้น

3 John 1:2 "Beloved I wish that you may prosper and be in health even as your soul prospers."

• ภาษาอังกฤษใช้คําว่า พลานามัยสมบูรย์ ว่า prosper ซึ่ง แปลได้ ความสําเร็จ; ความเจริญรุ่งเรือง, ความรุ่งโรจน์, ความ
เจริญ,ความมั่งคั่ง,ความเฟื่องฟู, ความรุ่งเรือง,ความร่ํารวย
• ยอห์นบอกว่า เขาอธ.กับพระเจ้าให้เราได้รับการอวยพระพรด้านการเงินเท่าๆกับการอวยพรด้านฝ่ายวิญญาณ
• พระเจ้าอยากให้เราสมดุล
• ถ้ารายได้ของเราอยู่ระดับเดียวกันกับการเดินติดตามพระเจ้าก็คงดี
• เราจะเป็นเศรษฐีหรือยาจกหรือพอเพียง ก็ขอให้สมดุล
• พระเจ้าบอกว่า ถ้าเราจะตั้งเป้าเรื่องการเงิน..เราต้องตั้งเป้าฝ่ายวิญญาณด้วย
• ถ้าคิดแต่เรื่องเงินอย่างเดียว เรากําลังเสียสมดุล พระคัมภีร์บอกว่าเป็นสิ่งผิด

2.3 การใช้เงินอย่างดี : THE RIGHT ALLOCATION


• พระคัมภีร์ให้เราใช้เงินอย่างมีสติปัญญา

สภษ 21:5 แผนงานของคนขยันขันแข็งนําสู่ความอุดมแน่นอน แต่ทุกคนที่เร่งร้อนก็มาสู่ความขัดสนเท่านั้น


Proverbs 21:5 "The plans of the diligent lead to profit as sure as haste leads to poverty."

• เราใช้เวลาถึง 16 ปีในโรงเรียน เพื่อที่จะสามารถทํางานหาเงินได้


• ไม่ใช่ เรียนการใช้เงินอย่างฉลาดใน 6 สัปดาห์

“การทําให้มีหนี้นั้นง่ายกว่า..การทําให้ไม่มีหนี้” ซื้อก่อน..ผ่อนทีหลัง
18
“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เราหาเงินไม่พอ.. แต่อยู่ที่เราใช้มันอย่างไม่มีสติปัญญาต่างหาก”

• ทุกครั้งที่มีรายได้มากขึ้น ดูเหมือนรายจ่ายก็จะมากขึ้นด้วย .. รสนิยมสูง..รายได้ต่ํา..


• การใช้เงินอย่างฉลาดคือการตั้งงบประมาณไว้
• คือการวางแผนการใช้จ่ายนั่นเอง

• บอกกับเงินของเรา..ให้เงินมันรู้ว่า..มันกําลังจะไปที่ไหน..ดีกว่า..การที่เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า..เงินมันไปไหนหมดหว่า?
• เพราะ แผนงานของคนขยันขันแข็งนําไปสู่ความอุดมแน่นอน
• เราน่าจะจดบันทึกทุกบาทที่เราหามาและได้จ่ายไป..เอาไว้..
• เพื่อจะวิเคราะห์และวางแผนได้อย่างที่พระคัมภีร์สอนเรา

2.4 การใช้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด : THE RIGHT APPLICATION


สภษ 11:24-25 บางคนยิ่งจําหน่ายยิ่งมั่งคั่ง บางคนยิ่งยึดสิ่งที่ควรจําหน่ายไว้ยิ่งขัดสนก็มี บุคคลที่ใจกว้างขวางย่อมได้รับความมั่งคั่ง
บุคคลที่รดน้ํา เขาเองจะรับการรดน้ํา

Proverbs 11:24-25 "It is possible to give away and become richer. It's also possible to hold on too tightly
and loose everything. Yes the generous man shall be rich. By watering others, he waters himself."

• พระคัมภีร์สอนเราครั้งแล้วครั้งเล่าถึงการแบ่งปันให้กันและกันอย่างมีน้ําใจ
• เหมือนกับการหว่าน..หว่านมากเก็บเกี่ยวมาก..
• พระคัมภีร์พูดถึง “การให้” บ่อยมากกว่าประเด็นอื่นๆ
• แล้วพระเจ้าก็สัญญาจะอวยพรเราเมื่อเราเรียนรู้ที่จะ “ให้” ออกไป
• พระเจ้าอยากให้เราเป็นผู้ให้ เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าผู้ให้เราเช่นกัน
19
• ถ้าเราอยากมั่งคั่ง เราต้อง “ให้” แบบมั่งคั่งเช่นเดียวกัน
• พระเจ้าสัญญาว่า เราจะไม่มีวันมีอิสรภาพทางการเงิน ถ้าเราไม่ได้เรียนรู้ที่จะให้ออกไป

• เมื่อถึงเวลาคืนสิบลด บางคนก็รู้สึกเครียด เพราะความตระหนี่


• รากศัพท์ของคําว่า “ความทุกข์ยาก” Miserable มาจากคําว่า “คนขี้เหนียว” Miser
• เมื่อเราใจแคบ..เราจะได้รับความทุกข์ยาก
• แต่ถ้าเราเรียนรู้ที่จะให้ออกไป..เราจะเป็นคนที่มีความสุข
• เป็นความจริงที่ว่า ตายแล้วก็เอาไปด้วยไม่ได้..แต่เราสามารถส่งต่อไปได้..ให้ออกไปได้

มธ 6:20 แต่จงส่ําสมทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์ ที่ไม่มีแมลงจะกินและไม่มีสนิมจะกัด และที่ไม่มีขโมยขุดช่องลักเอาไปได้


Mat 6:20 "Store up for yourselves treasure in Heaven."

• ทรัพย์อยู่ที่ไหน..ใจก็อยู่ที่นั่นด้วย
• มีชายคนหนึ่งตายและขึ้นสวรรค์ไป เขาเห็นคฤหาสหลังใหญ่ และกระท่อมเล็กๆอยู่หลังหนึ่ง เขาพูดว่า
• หลังไหนนะที่ฉันจะได้อาศัยอยู่? หลังไหนน่ะหรือ? ก็ดูจากสิ่งที่คุณได้หว่านไว้ในแผ่นดินโลกนะสิ
• เคล็ดไม่ลับในการสะสมทรัพย์สมบัติไว้ในแผ่นดินสวรรค์คือ “คน” หรือ จิตวิญญาณคน

มี 2 สิ่งเท่านั้น..ที่จะอยู่ชั่วนิรันดร์ คือ “พระวจนะพระเจ้า” และ “จิตวิญญาณคน”


• ฉะนั้น..จงประกาศพาคนรับความรอดเถิด
• เพราะทุกสิ่งจะถูกเผาในวันสุดท้ายของการพิพากษา
• ลงทุนเวลาและเงินทองของท่าน..ในพระวจนะพระเจ้าและจิตวิญญาณคนดีกว่า
• แล้วเราจะลงทุนจิตวิญญาณคนได้อย่างไร? ก็โดยการประกาศเป็นพยานอย่างธรรมชาติ
• และเราต้องรู้พระคัมภีร์ รู้หลักการด้วย จึงจะรู้วิธีภาคปฎิบั้ติได้
• เมื่อเราลงทุนด้วยสองสิ่งนี้ เรากําลังสะสั่งทรัพย์สมบัติไว้ในแผ่นดินสวรรค์แล้ว

20
ในพระธรรมลูกา16:9-13 บอกว่า

9 เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงกระทําตัวให้มีมิตรสหายด้วยทรัพย์สมบัติอธรรม เพื่อเมื่อทรัพย์นั้นเสียไปแล้ว เขาจะได้ต้อนรับท่านไว้ในที่


อาศัยอันถาวรเป็นนิตย์
10 "คนที่สัตย์ซื่อในของเล็กน้อยจะสัตย์ซื่อในของมากด้วย และคนที่อสัตย์ในของเล็กน้อย จะอสัตย์ในของมากเช่นกัน
11 เหตุฉะนั้นถ้าท่านทั้งหลายไม่สัตย์ซื่อในทรัพย์สมบัติอธรรรม ใครจะมอบทรัพย์สมบัติอันแท้ให้แก่ท่านเล่า
12 และถ้าท่านทั้งหลายมิได้สัตย์ซื่อในของของคนอื่น ใครจะมอบทรัพย์อันแท้ให้เป็นของของท่านเล่า
13 ไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เพราะว่าจะชังนายข้างหนึ่ง และจะรักนายอีกข้างหนึ่ง หรือจะนับถือนายฝ่ายหนึ่ง และจะดู
หมิ่นนายอีกฝ่ายหนึ่ง ท่านจะปฏิบัติพระเจ้าและจะปฏิบัติเงินทองพร้อมกันไม่ได้"

• พระเยซูเล่าเรื่องโดยยกตัวอย่างเรื่องของคนขี้โกง
• เมื่อเราพาคนมารู้จักพระเจ้า เมื่อเราพบเขาบนแผ่นดินสวรรค์ ที่ๆเราจะอยู่ที่นั่นนิรันดร
• แล้วเขาจะขอบคุณ..คุณ..ที่เป็นคนประกาศเรื่องความรอดให้กับพวกเขา

• จะมีกี่คนมาบอกเราว่า “ฉันมาที่นี่ได้ก็เพราะคุณนะ” เราพาคนมารู้จักพระเจ้ากี่คนแล้ว? และชั่วชีวิตนี้ เราจะนําคนกี่คนมารับความ


รอด?

• ทุกสิ่งที่เราให้ออกไป..ในโลกนี้.. จะกลับเข้ามาสู่บัญชีในสวรรค์ของเรา
• ถ้าเราใช้เงินอย่างมีน้ําใจงดงามด้วยการให้ออกไป
• การให้ออกไปอาจดูธรรมดา แต่ผลของมันคือรางวัลที่คงทนนิรันดร์

1 คร 16:2 ทุกวันต้นสัปดาห์ ให้พวกท่านทุกคนเก็บเงินผลประโยชน์ที่ได้รับไว้บ้าง เพื่อจะไม่ต้องเก็บเรี่ยไรเมื่อข้าพเจ้ามา


I Corinthians 16:2 "On every Sunday, put aside something from what you have earned during the
week, and use it for the offering. The amount depends on how much the Lord has helped you to
earn."

21
ฉธบ 14:23 ท่านจงรับประทานทศางค์ที่ได้จากข้าว หรือเหล้าองุ่นของท่าน หรือน้ํามันของท่าน และผลรุ่นแรกจากฝูงวัวและฝูงแพะแกะ
ของท่าน ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านในสถานที่ซึ่งพระองค์ทรงเลือกไว้ เพื่อให้พระนามของพระองค์สถิตที่นั่นเพื่อท่านทั้ง
หลายจะได้เรียนรู้ที่จะยําเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายเสมอ

• พระธรรมตอนนี้กําลังบอกเราให้พระเจ้าเป็นเอกเป็นหนึ่งในชีวิตเราเสมอ
• พระเจ้าไม่ได้ต้องการเงินเรา พระองค์เป็นเจ้าของทุกสิ่งอยู่แล้ว
• แต่พระองค์ต้องการเราต่างหาก
• พระองค์ต้องการสิ่งที่เงินจะแปรเปลี่ยนมาเป็นต่างหาก พระเจ้าต้องการชีวิตเรา

• พระคัมภีร์ปรารถนาอยากให้เรามีอิสรภาพทางการเงิน
• พระเจ้าไม่ได้ต้องการเห็นเราเป็นหนี้
• พระเจ้าสัญญาครั้งแล้วครั้งเล่าที่จะปลดปล่อยเราจากพันธนาการภาระหนี้สิน
• ด้วยการยึดหลักการของพระองค์ในการดําเนินชีวิต
• การไม่ได้บริหารจัดการการเงินนั้นคือ..อาการของปัญหาที่ลึกจริงๆ
• ชีวิตที่ไม่ได้บริหารจัดการก็เช่นกัน
• เพราะนั่นคือ..การดําเนินชีวิตที่ไม่ยอมให้พระเจ้านํานั่นเอง
• ถ้าเราพยายามอยู่ในโลกนี้แบบปราศจากหลักการของพระเจ้า
• เรากําลังลําบากแน่
• ไม่ว่าจะเป็นการเงิน..เวลา..ความสัมพันธ์..สุขภาพ และด้านอื่นๆในชีวิต
• การไม่บริหารจัดการวางแผนการเงิน..ซึ่งควรจะเป็นการจัดลําดับความสําคัญต้นๆในชีวิตด้วยซ้ําไป

• การที่เราให้ความสําคัญกับปัจจัยฝ่ายกายภาพมากกว่าความสัมพันธ์ฝ่ายวิญญาณกับพระเจ้า..
• จุดเริ่มต้นของการได้รับการปลดปล่อยจากภาระหนี้สินคือ ด้วยการยอมให้พระองค์เข้ามาในชีวิตเราก่อน
• ยอมให้พระเยซูมาเป็นผู้จัดการชีวิตเราก่อน
• ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน..แต่เรื่องของเวลาด้วย.. บ้าน.. ครอบครัว..
• ด้วยการให้พระองค์เป็นเบอร์หนึ่งในชีวิตของเราก่อน
22
ความมั่งคั่ง 2010
1. รวยแบบผิด ๆ : THE WRONG USES OF WEALTH
1.1 การเก็บสะสมความร่ํารวย/การไม่รู้จักพอ :THE Wrong ACCUMULATION
1.2 ร่ํารวยจากการเก็บกักไว้ (​กั๊กไว้): THE Wrong APPROPRIATION
1.3 การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย: THE Wrong ALLOCATION
1.4 การใช้อิทธิพลจากความร่ํารวย : THE Wrong APPLICATION

2. รวยอย่างฉลาด : The right uses of wealth


2.1 การสะสมอย่างถูกต้อง THE RIGHT ACCUMULATION
3 เหตุผลเพื่อการสะสมคือ
ก. เพื่อปกป้องเราจากแรงกระตุ้นในการใช้จ่าย หรือเรียกว่า ธรรมชาติของการใช้จ่าย
ข. เพื่อเราจะได้มีไว้สําหรับช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อจําเป็น
ค. ใช้ให้เงินทํางาน ดีกว่า มัวแต่ทํางานหาเงิน
2.2 การจัดสรรที่ถูกต้อง : THE RIGHT APPROPRIATION
4 ลักษณะของการทํางานหนักที่ถูกต้อง
ก. ตราบใดที่ไม่ทําลายสุขภาพเรา
ข. ตราบเท่าที่ไม่ทําร้ายต่อครอบครัว
ค. ตราบเท่าที่ไม่ทําร้ายผู้อื่น
ง. ตราบเท่าที่จะสามารถรักษาระดับคุณภาพชีวิตฝ่ายวิญญาณของเรา
2.3 การใช้เงินอย่างดี : THE RIGHT ALLOCATION
2.4 การใช้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด : THE RIGHT APPLICATION

23

You might also like