Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 18

ลักษณะสรวงสวรรค (ตอนที่ 1)

﴾١ ‫﴿ﺻﻔﺔ اﺠﻟﻨﺔ ـ‬
[ ไทย – Thai – ‫] ﺗﺎﻳﻼﻧﺪي‬

มุหัมมัด อิบรอฮีม อัตตุวัยญิรีย

แปลโดย : สุกรี นูร จงรักสัตย


ผูตรวจทาน : อัสรัน นิยมเดชา
ที่มา : มุคตะศ็อรฺ อัลฟกฮิล อิสลามีย

2009 - 1430
‫﴿ﺻﻔﺔ اﺠﻟﻨﺔ ـ ‪﴾١‬‬
‫» ﺑﺎﻟﻠﻐﺔ اﺤﻛﺎﻳﻼﻧﺪﻳﺔ «‬

‫ﺤﻣﻤﺪ ﺑﻦ إﺑﺮاﻫﻴﻢ اﺤﻛﻮﺠﻳﺮي‬

‫ﺗﺮﻤﺟﺔ‪ :‬ﺷﻜﺮي ﻧﻮر‬

‫ﻣﺮاﺟﻌﺔ‪ :‬ﻋﺮﺼان إﺑﺮاﻫﻴﻢ‬

‫اﻤﻟﺼﺪر‪ :‬ﻛﺘﺎب ﺨﻣﺘﺮﺼ اﻟﻔﻘﻪ اﻹﺳﻼﻲﻣ‬

‫‪2009 - 1430‬‬
ดวยพระนามของอัลลอฮฺ ผูท รงเมตตา ปรานียงิ่ เสมอ

ลักษณะสรวงสวรรค ตอนที่ 1
สรวงสวรรค คือ ดินแดนแหงสันติสุขที่อัลลอฮฺไดจัดเตรียมไวแกบรรดาศรัทธาชนชายหญิง
ในโลกอาคีเราะฮฺ
เนื้ อ หาของสรวงสวรรค ที่ เ รากํ า ลั ง จะเจาะลึ ก ต อ ไปนี้ อิ น ชาอั ล ลอฮฺ จะเป น เรื่ อ งของ
ลักษณะสรวงสวรรค รูปแบบความสุขในสรวงสวรรค และลักษณะของชาวสวรรค ซึ่งถอดมาจาก
คัมภีรอัลกุรอานของอัลลอฮฺผูทรงสรางสวรรคเองและจากคําบอกเลาของผูที่เคยเขาและเหยียบย่ํา
สวรรคมาแลว นั้นคือทานนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม

ชื่อของสรวงสวรรค
สรวงสวรรคนั้นมีเพียงแหงเดียว แตมีลักษณะหลากหลาย โดยมีชื่อตาง ๆ ตามลักษณะที่
หลากหลาย ดังตอไปนี้
1. อัล-ญันนะฮฺ (สวน) : อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

;M≈¨Ζy_ ã&ù#Åzô‰ãƒ …ã&s!θß™u‘uρ ©!$# ÆìÏÜム∅tΒuρ 4 «!$# ߊρ߉ãm šù=Ï?

šÏ9≡sŒuρ 4 $yγŠÏù š⎥⎪Ï$Î#≈yz ã≈yγ÷ΡF{$# $yγÏFóss? ⎯ÏΒ ”Ìôfs?

(١٣ : ‫)اﻟﻨﺴﺎء‬ ∩⊇⊂∪ ÞΟŠÏàyèø9$# ã—öθxø9$#


ความวา : สิ่งดังกลาวนั้น คือ กฏบัญญัติของอัลลอฮฺ โดยผูใดที่ภักดีตออัลลอฮฺ
และเราะสูลของพระองคนั้น พระองคจะใหเขาไดเ ขาในญัน นาตที่ มีแมน้ํ า
หลายสายไหลผานอยูเบื้องลางของมัน โดยพวกเขาจะพํานักอยูในนั้นไปตลอด
กาล และนั้นคือชัยชนะอันใหญหลวง (อัล-นิสาอ : ๑๓)

2. ญันนะฮฺ อัล-ฟรเดาสฺ (สวนฟรเดาสฺ) : อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

àM≈¨Ζy_ öΝçλm; ôMtΡ%x. ÏM≈ysÎ=≈¢Á9$# (#θè=ÏΗxåuρ (#θãΖtΒ#u™ t⎦⎪Ï%©!$# ¨βÎ)

(١٠٧ : ‫» ∪∠⊃⊇∩ )اﻟﻜﻬﻒ‬ωâ“çΡ Ä¨÷ρyŠöÏø9$#


ความวา : แทจริง สําหรับบรรดาผูศรัทธาและปฏิบัติความดีนั้น พวกเขาจะ
ไดรับญันนาตอัล-ฟรเดาสฺ (สวนสวรรคชั้นอัลฟรเดาสฺ) เปนที่พํานัก (อัล-กะฮฺฟ:
๑๐๗)

1
3. ญันนะตุ อัดนฺ (สวนสถาพร) : อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

5βô‰tã ÏM≈¨Ψy_ ∩⊆®∪ 5>$t↔tΒ z⎯ó¡ßss9 t⎦⎫É)−Fßϑù=Ï9 ¨βÎ)uρ 4 Öø.ÏŒ #x‹≈yδ

∩∈⊃∪ Ü>≡uθö/F{$# ãΝçλ°; Zπys−Gx•Β


ความวา : นี่คือขอตักเตือน และแทจริงสําหรับบรรดาผูยําเกรงนั้น แนนอนพวก
เขาจะไดรับที่หวนกลับอันดียิ่ง คือญันนาตุอัดนฺ ที่ประตูตาง ๆ ของมันไดถูก
เปดไวแลวสําหรับพวกเขา (ศอด : ๔๙-๕๐)

4. ญันนะฮฺ อัลคุลดฺ (สวนนิรันดร) อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

ôMtΡ%x. 4 šχθà)−Gßϑø9$# y‰Ïããρ ©ÉL©9$# Ï$ù#èƒø:$# èπ¨Ψy_ ôΘr& îöyz y7Ï9≡sŒr& ö≅è%

∩⊇∈∪ #ZÅÁtΒuρ [™!#t“y_ öΝçλm;


ความวา : จงกลาวเถิด (มุหัมมัด) วาสิ่งนั้น (บรรดากุฟฟาร เจว็ด และสิ่งตาง
ๆ ที่ถูกบูชานอกเหนื่อจากอัลลอฮฺ เชน ภูตผี มะลาอิกะฮฺ อีซา และอุไซร เปน
ตน) ดีกวา หรือวาญันนะตุลคุลดฺ (สวรรคนิรันดร) ที่ถูกสัญญาไวใหแกบรรดาผู
ยําเกรง ซึ่งมันเปนสิ่งตอบแทนและที่หวนกลับสําหรับพวกเขา (อัล-ฟุรกอน :
๑๕)

5. ญันนะฮฺ อัล-นะอีม (สวนแหงความสุข) : อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

ËΛ⎧Ïè¨Ζ9$# àM≈¨Ζy_ öΝçλm; ÏM≈ysÎ=≈¢Á9$# (#θè=Ïϑtãuρ (#θãΖtΒ#u™ š⎥⎪Ï%©!$# ¨βÎ)

∩∇∪
ความวา : แทจริงบรรดาผูศรัทธาและกระทําความดีทั้งหลาย พวกเขาจะ
ไดรับญันนาตุนนะอีม (สวนสวรรคแหงความสุข) (ลุกมาน : ๘)

6. ญันนะฮฺ อัล-มะวา (สวนที่พํานัก) : อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

3“uρù'yϑø9$# àM≈¨Ζy_ öΝßγn=sù ÏM≈ysÎ=≈¢Á9$# (#θè=ÏΗxåuρ (#θãΖtΒ#u™ t⎦⎪Ï%©!$# $¨Βr&

∩⊇®∪ tβθè=yϑ÷ètƒ (#θçΡ%x. $yϑÎ/ Kωâ“çΡ

2
ความวา : สวนสําหรับบรรดาผูศรัทธาและกระทําความดีนั้น พวกเขาจะ
ไดรับญันนาตุลมะวา (สวนสวรรคถิ่นพํานัก) เปนที่พํานักอันเนื่องมาจากสิ่งที่
พวกเขาไดปฏิบัติมา (อัล-สัจญะดะฮฺ : ๑๙)
7. ดารุสสลาม (ดินแดนศานติสุข) : อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

tβθè=yϑ÷ètƒ (#θçΡ%x. $yϑÎ/ Οßγ•‹Ï9uρ uθèδuρ ( öΝÍκÍh5u‘ y‰ΖÏã ÉΟ≈n=¡¡9$# â‘#yŠ öΝçλm; *

∩⊇⊄∠∪
ความวา : พวกเขาไดรับดารุสสลาม (ดินแดนศานติสุข) ณ ที่พระผูเปนเจาของ
พวกเขา ซึ่ ง พระองค คื อ ผู คุ ม ครองพวกเขาอั น เนื่ อ งมาจากสิ่ ง ที่ พ วกเขาได
กระทํามา (อัล-อันอาม : ๑๒๗)

ที่ตั้งของสรวงสวรรค
1. อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

[٢٢/‫ ∪⊄⊄∩ ]ا ارﻳﺎت‬tβρ߉tãθè? $tΒuρ ö/ä3è%ø—Í‘ Ï™!$uΚ¡¡9$# ’Îûuρ


ความวา : และ ณ เบื้องฟานั้นมีปจจัยยังชีพของสูเจาและสิ่งที่สูเจาถูกสัญญา
ไว (หมายถึงสรวงสวรรค) (อัซ-ซาริยาด : 22)

๒. อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

$yδy‰ΨÏã ∩⊇⊆∪ 4‘yγtFΖçRùQ$# Íοu‘ô‰Å™ y‰ΖÏã ∩⊇⊂∪ 3“t÷zé& »'s!÷“tΡ çν#u™u‘ ô‰s)s9uρ

[١٥-١٣/‫ ∪∈⊇∩ ]اﺠﺠﻢ‬#“uρù'pRùQ$# èπ¨Ζy_


ความวา : (แลวพวกเจา-ชาวมุชริกกีน-ยังจะโตเถียงกับเขา (นบีมุหัมมัด) ใน
เรื่องการพบปะของเขากับมลาอิกกะฮฺญิบรีลในคืนอิสรออฺมิรอจฺอีกหรือ?) ทัง้
ๆ ที่เขา (นบีมุหัมมัด) ไดเห็นเขา (มลาอิกะฮฺญิบรีล) อีกครั้งหนึ่ง ณ ตนสิด
เราะตุลมุนตะฮา (ตนพุทราที่เปนจุดสิ้นสุด) ซึ่ง ณ ที่นั้นแหละคือญันนะตุลมะ
วา (อัน-นัจญ: 13-15)

3. และอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ไดรายงานจากทานนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะ


ลัยฮิ วะสัลลัม วา :
ََ ًّ َ َ َ َ َ َ َ َ َ َ َ َ َ ،‫ورﺳﻮﻟـﻪ‬
‫ ﺎﻛن َﺣﻘﺎ ﺒﻟ‬،‫رﻣﻀﺎن‬ ‫ وﺻﺎم‬،‫وأﻗﺎم اﻟﺼﻼة‬ َُ َ َ ْ َ
ِ ِ َ ِ‫»ﻣﻦ آﻣﻦ ﺑِﺎﷲ‬
ْ
َ ‫أرﺿﻪ اﻟﻲﺘ ُو‬ َ َ َ ْ َ ‫ﻫﺎﺟﺮ ﻲﻓ‬ َ َ ُ َ ُْ ْ
َ َ َ ،‫اﺠﻟﻨﺔ‬
ِ ِ ِ ِ ‫ أو ﺟﻠﺲ ِﻲﻓ‬،‫اﷲ‬ ِ ‫ﺳﺒﻴﻞ‬
ِ ِ ِ ‫ﻳﺪﺧﻠـﻪ‬
ِ ‫اﷲ أن‬ِ

3
َ َ َ ُ ِّ َ ُ َ َ َُ َ ُ َ َ
ِ َ ‫ »إن ِﻲﻓ‬:‫ﺑﺬﻟﻚ؟ ﻗﺎل‬
‫اﺠﻟﻨﺔ‬ ِ ِ ‫ أﻓﻼ ﻧﻨﺒﺊ اﺠﺎس‬،‫اﷲ‬ ِ ‫ ﻳﺎ رﺳﻮل‬:‫ ﻗﺎﻟﻮا‬.«‫ِﻓﻴﻬﺎ‬
ْ َ َ َ َ ُّ ُ
َ‫درﺟﺘﻦﻴ ﻣﺎ‬ َ َ َ ُ ْ ُ َ َ َ َ ََ ََ
ِ ‫ ﻞﻛ‬،‫ﺳﺒﻴﻠـﻪ‬
ِ ِ ِ ‫ﻟﻠـﻤـﺠﺎﻫﺪﻳﻦ ِﻲﻓ‬ ِ ِ ِ ‫ أﻋﺪﻫﺎ اﷲ‬،‫درﺟﺔ‬ ٍ ‫ِﻣﺎﺋﺔ‬
َ ْ َ ْ ‫ﻓﺴﻠﻮه‬ ُ ُ َ َ ‫اﷲ‬ ْ
ُ ُ َ ‫ﻓﺈذا‬ َ َ ْ َ ‫اﻟﺴﻤﺎء‬ َ َ ‫ﺑﻴﻨـﻬـﻤﺎ‬
َ ْ َ ‫ﻛﻤﺎ‬ َ ُ ََْ
،‫اﻟﻔﺮدوس‬ ِ
َ ‫ﺳﺄﺤﻛـﻢ‬ ،‫واﻷرض‬ِ ِ َ ‫ﻧﻦﻴ‬
ُ َ َ ‫وﻣﻨـﻪ‬ ُ ْ َ ،‫اﻟﺮﺣـﻤﻦ‬ َ ْ ُ َْ َََُْ َ َْ َ َ ‫أوﺳﻂ‬ ُ َ
ُ َ ْ ‫ﻓﺈﻧﻪ‬
‫ﻳﻔﺠﺮ‬ ِ ِ ‫ﻋﺮش‬ ‫وﻓﻮﻗﻪ‬ ،‫اﺠﻟﻨﺔ‬
ِ ‫وأﺒﻟ‬ ،‫اﺠﻟﻨﺔ‬
ِ
ُ َ ْ
٧٤٣٣ : ‫ أﺧﺮﺟﻪ اﻛﺨﺎري رﻗﻢ‬.«‫اﺠﻟﻨﺔ‬ ِ َ ‫أﻧـﻬﺎر‬
ความวา : “ผูใดที่ศรัทธาตออัลลอฮฺและเราะสูลของพระองค ดํารงการนมาซ
และถือศีลอดในเดือนรอมฎอนแลว อัลลอฮฺก็จะใหเขาไดเขาสรวงสวรรคอยาง
แนนอน ไมวาเขาจะอพยพไปในหนทางของอัลลอฮฺหรือวาจะปกหลังอาศัยอยู
ในถิ่นฐานเดิมที่เขาเกิดมาก็ตาม” พวกเขาถามวา โอ ทานเราะสูลัลลอฮฺ แลว
พวกเราจะไมบอกสิ่งนั้นใหผูอื่นทราบหรือ? ทานกลาววา “แทจริงแลว ในสรวง
สวรรคนั้นมีหนึ่งรอยชั้น ซึ่งอัลลอฮฺไดเตรียมไวสําหรับผูที่ตอสูในหนทางของ
พระองค โดยระยะระหวางสองชั้นนั้นหางกันเหมือนทองฟากับแผนดิน และ
เมื่อพวกทานจะขอ (สวรรค) จากอัลลอฮฺ พวกทานจงขอสวรรคอัล-ฟรเดาสฺเถิด
เพราะมันคือสวรรคที่อยูตรงกลางที่สุด เปนสวรรคชั้นสูงสุด เบื้องบนของมัน
คือบรรลังคของพระเจาผูทรงกรุณา และจากที่นั้นเองที่แมน้ําสายตาง ๆ ของ
สวรรคพุงกําเนิดออกมา” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย : ๗๔๓๓)

๔. มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ วาทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะ


ลัยฮิ วะสัลลัม ไดกลาววา:
ْ َ ُ َ َ َ ْ ُ َ ُ ْ َ َ َ ‫اﻟﻤﻮت‬
َ ‫ﺣﺮﻀﺗـﻪ‬ ُ ْ َ ‫ﺣﺮﻀه‬ َ َ ُْ
ُ َ َ َ ‫إذا‬
‫ﻗﺒﻀﺖ‬ ِ ‫ ﻓﺈذا‬،‫اﻟﺮﺣـﻤﺔ‬
ِ ‫ﻣﻼﺋﻜﺔ‬ ِ ‫اﻟﻤﺆﻣﻦ‬
ِ ‫»إن‬
َ ُ ُ ََ َ
‫ﻓﻴـﻘﻮﻟﻮن‬ ،‫اﻟﺴﻤﺎء‬ َ ‫ﺑـﻬﺎ َإﻰﻟ‬
‫ﺑﺎب‬ ُ َ َ ْ ُ َ ‫ﻧﻴﻀﺎء‬
َ ‫ﻓﻴﻨﻄﻠﻖ‬ َ َ ْ َ ‫ﺣﺮﻳﺮة‬ ْ َ ُ ُ ُ َْ
َ ‫ﺟﻌﻠﺖ ﻲﻓ‬
ِ ِ ِ ٍ ِ َ ِ ‫ﻏﻔﺴﻪ‬
َ ْ َ َ ْ ً ْ َْ َ َ
‫ أﺧﺮﺟﻪ اﺤﻟﺎﻛﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬/ ‫ )ﺻﺤﻴﺢ‬.«..‫ﻫﺬه‬ ِ ِ ‫ﻣﺎ َوﺟﺪﻧﺎ ِرﻳـﺤﺎ أﻃﻴﺐ ِﻣﻦ‬
‫ إﺳﻨﺎده‬:‫ وﻗﺎل اﻻرﻧﺆوط‬،(٣٠١٣) ‫ وأﺧﺮﺟﻪ اﺑﻦ ﺣﺒﺎن ﺑﺮﻗﻢ‬،(١٣٠٤)
.‫ﺻﺤﻴﺢ‬
ความวา : “คนมุมินนั้น เมื่อความตายยางกรายมาถึง มะลาอิกะฮฺเราะมัตก็จะ
มาหาเขา โดยเมื่อวิญญาณของเขาถูกปลิดลง มันจะถูกเก็บไวในเสนไหมสีขาว
แลว (มะลาอิกะฮฺ) ก็จะนํามันไปยังประตุทองฟา แลวพวกเขา (เหลามะลาอิ
กะฮฺชาวฟา) ตางก็พากันกลาววา “เราไมเคยไดกลิ่นหอมใด ๆ ที่หอมกวานี้
เลย” (เศาะฮีหฺ บันทึกโดยอัลหากีม หมายเลข ๑๓๐๔ และบันทึกโดยอิบนุหิ
บบาน หมายเลข ๓๐๑๓ และอัลอัรนะอูฏกลาววา “อิสนาดเศาะฮีหฺ”)

4
ชื่อประตูตาง ๆ ของสรวงสวรรค
มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ วาทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะ
ลัยฮิ วะสัลลัม ไดกลาววา :
َ َ ََْ َ َ َ ْ َ ْ َ ُ ْ َ َ ْ َ َ ََْ ْ َ
‫ ﻳﺎ ﻗﺒﺪ اﷲ ﻫﺬا‬.‫اﺠﻟﻨﺔ‬ ِ ‫أﺑﻮاب‬
ِ ‫ﻧﻮدي ِﻣﻦ‬ ِ ‫ﺳﺒﻴﻞ اﷲ‬ ِ ِ َ ‫زوﺟﻦﻴ ِﻲﻓ‬
ِ ‫»ﻣﻦ أﻏﻔﻖ‬
ْ ‫ﺎﻛن‬ َ َ ْ ََ َ ْ َ ِ ُ ‫أﻫﻞ اﻟﺼﻼة‬ ْ ْ َ َ ْ َ َ ٌْ َ
‫ﻣﻦ‬ ِ ‫ وﻣﻦ‬،‫اﻟﺼﻼة‬
ِ ‫ﺑﺎب‬ ِ ‫دﻲﻋ ِﻣﻦ‬ ِ ِ ‫ ﻓﻤﻦ ﺎﻛن ِﻣﻦ‬،‫ﺧﺮﻴ‬
ْ ‫دﻲﻋ‬ ُ َ ِّ َْ ْ َ َ ْ ََ َ ‫ﺑﺎب‬ َ َ ‫ﻣﻦ‬ ْ ‫دﻲﻋ‬ َ ِ ُ ‫اﺠﻟﻬﺎد‬ َ ‫أﻫﻞ‬ َْ
‫ﻣﻦ‬ ِ َ ِ ‫اﻟﺼﻴﺎم‬
ِ ‫أﻫﻞ‬ِ ‫ﻣﻦ‬ ِ ‫ﺎﻛن‬ ‫وﻣﻦ‬ ،‫اﺠﻟﻬﺎد‬
ِ ِ ِ ِ ِ ِ
َ َ َ ْ َ ِ ُ ‫اﻟﺼﺪﻗﺔ‬ َ َ َ
ْ ْ َ ْ ََ َ َ
.«‫ﻟﺼﺪﻗﺔ‬
ِ ‫ﺑﺎب ا‬ِ ‫دﻲﻋ ِﻣﻦ‬ ِ ‫أﻫﻞ‬
ِ ‫ وﻣﻦ ﺎﻛن ِﻣﻦ‬،‫اﻟﺮﻳﺎن‬ ِ ‫ﺑﺎب‬
ِ
‫ﻣﻦ‬ ْ َ ‫ ﻣﺎ ﺒﻟ‬،‫ ﺑﺄ أﻧﺖ وأﻲﻣ ﻳﺎ رﺳﻮل اﷲ‬:‫ﻓﻘﺎل أﺑﻮ ﺑﻜﺮ ر اﷲ ﻋﻨﻪ‬

‫ ﻓﻬﻞ ُﻳﺪﻰﻋ أﺣﺪ ﻣﻦ ﺗﻠﻚ اﻷﺑﻮاب‬،‫دﻲﻋ ﻣﻦ ﺗﻠﻚ اﻷﺑﻮاب ﻣﻦ ﺮﺿورة‬ َ ُِ


ْ ُ ْ ‫ﺗـﻜﻮن‬ َ ُ َ ْ َ ُ ْ ََ ْ َ َ
‫ أﺧﺮﺟﻪ‬.‫ ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬.«‫ﻣﻨـﻬـﻢ‬ ِ ‫ »ﻏﻌﻢ؛ وأرﺟﻮ أن‬:‫ﻠﻛﻬﺎ؟ ﻗﺎل‬
..(١٠٢٧) ‫ وﻣﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬، ‫ واﻟﻠﻔﻆ‬،(١٨٩٧) ‫اﻛﺨﺎري ﺑﺮﻗﻢ‬
ความวา : “ผูใดที่บริจาคทรัพยสินสองอยางในหนทางของอัลลอฮฺ เขาจะถูก
เรียกจากประตูตาง ๆ วา “โอทานผูเปนบาวของอัลลอฮฺ นี่แหละคือสิ่งที่ดี”
โดยผูที่เปนนักละหมาดก็จะถูกเรียกจากประตูละหมาด ผูที่เปนนักญิฮาดก็จะ
ถูกเรียกจากประตูญิฮาด ผูที่เปนนักถือศีลอดก็จะถูกเรียกจากประตูอัล-ร็อย
ยาน และผูที่เปนนักบริจาคก็จะถูกเรียกจากประตูบริจาค
แลวอบูบักรฺ ก็ถามวา โอ ทานเราะสูลุลลอฮฺ มีความจําเปนแกผูที่ถูกเรียกจาก
ประตูตาง ๆ เหลานั้นประการใดหรือ? และมีไหมที่คนหนึ่งคนจะถูกเรียกจาก
ประตูตาง ๆ เหลานั้นทั้งหมด? ทานตอบวา “มี และฉันหวังวา ทานคงเปนคน
หนึ่งในจํานวนนั้น” (มุตตะฟก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรียตามสํานวนนี้
หมายเลข ๑๘๙๗ และมุสลิม หมายเลข ๑๐๒๗)

ความกวางของประตูสวรรค
1.จากอุตบะฮฺ บินฆ็อซฺวาน เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวา :
ْ َ َ ْ ََْ َ َ ََ َ ُ
‫ﻣﺮﺼاﻗﻦﻴ‬
ِ ِ ‫ذﻛﺮ ﺠﺎ أن ﻣﺎ ﻧﻦﻴ‬ ِ :‫ﻋﻦ ﻋﺘﺒﺔ ﺑﻦ ﻏﺰوان ر اﷲ ﻋﻨﻪ ﻗﺎل‬
ْ
ُ َ ٌ َْ َ َْ َ َ َََ ًَ َ َ َْ َ َُْ َ َ َ َ ‫ﻣﻦ‬ ْ
َ‫وﻫﻮ‬ ‫ﺄﻳﻦﻴ ﻋﻠﻴـﻬﺎ ﻳﻮم‬ ِ ‫ و‬،‫أرﺑـﻌﻦﻴ ﺳﻨﺔ‬
ِ ‫ﻣﺴﺮﻴة‬
ِ ‫اﺠﻟﻨﺔ‬
ِ ‫ﻣﺼﺎرﻳﻊ‬
ِ ِ ِ
ٌْ َ
ِ َ ِّ ‫ﻣﻦ‬
.(٢٩٦٧) ‫ أﺧﺮﺟﻪ ﻣﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬.‫اﻟﺰﺣﺎم‬ َ ِ ‫ﻛﻈﻴﻆ‬
ِ
ความว า : “เราได รั บ รายงานว า ระหว า งสองบานของประตู ส วรรค นั้ น มี
ระยะหางกันถึงสี่สิบป และจะมีวันหนึ่งที่มันเต็มลนดวยความแออัด” (บันทึก
โดยมุสลิม หมายเลข ๒๙๖๗)

5
๒. จากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวา :
ُ
‫ أ َ رﺳﻮل اﷲ ﺻﻲﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ‬:‫وﻋﻦ أ ﻫﺮﻳﺮة ر اﷲ ﻋﻨﻪ ﻗﺎل‬
َ ْ َ ‫ﻧﻴﺪه َإن َﻣﺎ‬
‫ﻧﻦﻴ‬ َ ُ ْ َ ‫ » َوا ِ ي‬:‫ و آﺧﺮه ﻗﺎل‬...‫ﻳﻮﻣﺎ ً ﺑﻠﺤﻢ‬
َ ُ ‫ﻏﻔﺲ‬
ِ ِ ِ ‫ﻣـﺤـﻤﺪ‬
ٍ
َ َ ََْ َ َ َْ َ ََ َ َ ََْ َ َ َ ‫ﻣﺼﺎرﻳﻊ‬َ َ ‫ﻣﻦ‬ َْ َ ْ
ْ ‫اﻤﻟﺮﺼاﻗﻦﻴ‬
‫وﻫﺠﺮ أو ﻛﻤﺎ ﻧﻦﻴ ﻣﻜﺔ‬ ٍ ‫ﻣﻜﺔ‬ ‫ﻧﻦﻴ‬ ‫ﻟﻜﻤﺎ‬ ‫اﺠﻟﻨﺔ‬
ِ ِ ِ ِ ِ
‫ وﻣﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬،(٤٧١٢) ‫ أﺧﺮﺟﻪ اﻛﺨﺎري ﺑﺮﻗﻢ‬،‫ ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬.«‫وﺑﺮﺼى‬ َ ْ َُ

. ‫ واﻟﻠﻔﻆ‬،(١٩٤)
ความวา : “วันหนึ่ง ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัยลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดรบั เนือ้
... และในตอนทาย ทานไดกลาววา “ขอสาบานตอพระเจาผูซึ่งชีวิตของมุหัม
มัดอยูในพระหัตถของพระองควา ชวงระหวางสองบานประตูสวรรคนั้น เหมือน
ชวงระหวางเมืองมักกะฮฺกับเมืองฮะญัร หรือ เหมือนชวงระหวางเมืองมักกะฮฺ
กับเมืองบุศรอ (มุตตะฟก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย หมายเลข ๔๗๑๒
และมุสลิมตามสํานวนนี้ หมายเลข ๑๙๔)

จํานวนประตูทางเขาของสรวงสวรรค
1. อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

#sŒÎ) #©¨Lym ( #·tΒã— Ïπ¨Ζyfø9$# ’n<Î) öΝåκ®5u‘ (#öθs)¨?$# š⎥⎪Ï%©!$# t,‹Å™uρ

öΝà6ø‹n=tæ íΝ≈n=y™ $pκçJtΡt“yz óΟçλm; tΑ$s%uρ $yγç/≡uθö/r& ôMysÏGèùuρ $yδρâ™!%y`

[٧٣/‫ ∪⊂∠∩ ]اﻟﺰﻣﺮ‬t⎦⎪Ï$Î#≈yz $yδθè=äz÷Š$$sù óΟçFö7ÏÛ


ความวา : และบรรดาผูยําเกรงตอพระเจาของพวกเขาจะถูกนําไปยังสวรรค
เปนกลุม ๆ จนกระทั่งเมื่อพวกไดมาถึงมัน (สวรรค) ในสภาพที่ประตูทั้งหลาย
ของมันจะถูกเปดไวแลว และเจาหนาที่สวรรคก็จะกลาวแกพวกเขาวา “ศานติ
สุขจงมีแดทาน พวกทานเปนผูบริสุทธิ์แลว ขอเชิญเขาไปพํานักอยางนิรันดร
เถิด” (อัซซุมัร : ๗๓)

๒. จากสะฮฺล บินสะอฺด เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวา ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัยลอฮุ อะลัยฮิ


วะสัลลัม ไดกลาววา :
:‫وﻋﻦ ﺳﻬﻞ ﺑﻦ ﺳﻌﺪ ر اﷲ ﻋﻨﻪ ﻋﻦ اﺠﻲﺒ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ ﻗﺎل‬
ُ ُ ُ ْ َ ‫اﻟﺮﻳﺎن ﻻ‬
َ ْ َ ُ َ َ َ ‫اﺠﻟﻨﺔ‬
َ ْ ،‫أﺑﻮاب‬
ٌ َ ‫ﻓﻴـﻬﺎ‬
َ ُ ‫ﺑﺎب‬
‫ﻳﺪﺧﻠـﻪ إﻻ‬ ‫ﻳﺴﻰﻤ‬ ِ ٍ َ ‫ﻋﻤﺎﻏﻴﺔ‬ِ ِ َ ‫» ِﻲﻓ‬

6
َ ُ
، ‫ واﻟﻠﻔﻆ‬،(٣٢٥٧) ‫ أﺧﺮﺟﻪ اﻛﺨﺎري ﺑﺮﻗﻢ‬،‫ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬ .«‫اﻟﺼﺎﺋﻤﻮن‬
ِ
..(١١٥٢) ‫وﻣﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬
ความวา : “ในสรวงสวรรคนั้นมีแปดประตูดวยกัน ในจํานวนนั้น มีประตูหนึ่ง
ชื่อวา “อัรร็อยยาน” ซึ่งผูที่ถือศีลอดเทานั้นที่จะไดเขาทางประตูนี้” (มุตตะ
ฟก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรียตามสํานวนนี้ หมายเลข ๓๒๕๗ และมุสลิม
หมายเลข ๑๑๕๒)

ประตูสรวงสวรรคเปดอาตอนรับชาวสวรรค
อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

5βô‰tã ÏM≈¨Ψy_ ∩⊆®∪ 5>$t↔tΒ z⎯ó¡ßss9 t⎦⎫É)−Fßϑù=Ï9 ¨βÎ)uρ 4 Öø.ÏŒ #x‹≈yδ

.[٥٠-٤٩/‫]ص‬ ∩∈⊃∪ Ü>≡uθö/F{$# ãΝçλ°; Zπys−Gx•Β


ความวา : นี่คือขอตักเตือน และแทจริงสําหรับบรรดาผูยําเกรงนั้น แนนอน
พวกเขายอมไดรับที่หวนกลับอันดียิ่ง คือ สรวงสวรรคอันสถาพรซึ่งประตูของ
มันทุกบานจะถูกเปดอาไวเพื่อตอนรับพวกเขา (ศ็อด : ๔๙-๕๐)

เวลาเปดประตูสวรรคในปจจุบัน
1. มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ วาทานเราะสูลุลลอฮฺ-ศ็อลลัลลอฮฺ อะ
ลัยฮิ วะสัลลัม ไดกลาววา
:‫ﻋﻦ أ ﻫﺮﻳﺮة ر اﷲ ﻋﻨﻪ أن رﺳﻮل اﷲ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ ﻗﺎل‬
ْ َ ِّ ُ ُ َ ْ ُ َ ْ َ َ َ َْْ َ َ َ ُ ََْ ُ َُْ
‫ﻗﺒﺪ ﻻ‬
ٍ ‫اﺨﻟـﻤﻴﺲ ﻓﻴـﻐﻔﺮ ِﻟﻞﻜ‬ ِ ِ ‫ وﻳﻮم‬،‫اﻹﺛﻨﻦﻴ‬
ِ ‫اﺠﻟﻨﺔ ﻳﻮم‬
ِ ‫»ﻳﻔﺘـﺢ أﺑﻮاب‬
ُ َ َُ ُ َْ َ َ َ َْ ُ ََْ ْ َ َ ً ُ َ ً ْ َ ُ ُْ
‫ﻓﻴـﻘﺎل‬ ،‫أﺧﻴﻪ ﺷﺤﻨﺎء‬ ِ ِ ‫ﻳﺮﺸك ِﺑﺎﷲ ﺷﻴﺌﺎ إﻻ رﺟﻼ ﺎﻛﻧﺖ ﺑﻴﻨـﻪ َوﺑﻦﻴ‬ ِ
ً َ َ َ ْ َ َ ْ َ َ ُ َْ
.(٢٥٦٥) ‫ أﺧﺮﺟﻪ ﻣﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬.«-‫ﺛﻼﺛﺎ‬- ‫ﻳﺼﻄﻠـﺤﺎ‬ ِ ‫ﻫﺬﻳﻦ ﺣ‬
ِ ‫أﻧﻈﺮوا‬ ِ
ความวา : “ประตูตาง ๆ ของสรวงสวรรคจะถูกเปดออกในวันจันทรและวัน
พฤหั ส บดี แล ว บ า วทุ ก คนที่ ไ ม ตั้ ง ภาคี เ ที ย บเคี ย งกั บ อั ล ลอฮฺ ก็ จ ะได รั บ การ
ประทานอภัยโทษ ยกเวนชายที่มีความเคืองแคนตอพี่นองของเขา ซึ่งเขาจะถูก
กลาววา “ประวิงสองคนนี้ไวกอนจนกวาทั้งสองจะคืนดี” สามครั้ง (หมายถึง
อยาเพิ่งยกโทษใหจนกวาเขาจะคืนดี) (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข ๒๕๖๕)

2. อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวาทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ


วะสัลลัม ไดกลาววา

7
‫ ﻗﺎل رﺳﻮل اﷲ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ‬:‫وﻋﻦ أ ﻫﺮﻳﺮة ر اﷲ ﻋﻨﻪ ﻗﺎل‬
َ،‫ﺟﻬﻨﻢ‬ ُ َ ْ َ ‫وﻏﻠﻘﺖ‬
َ َ ‫أﺑﻮاب‬ ْ َ ِّ ُ َ َ
،‫اﺠﻟﻨﺔ‬ ُ َ ْ َ ْ َ ِّ ُ ُ َ َ َ َ َ َ َ
‫ »إذا دﺧـﻞ رﻣﻀﺎن ﻓﺘﺤﺖ أﺑﻮاب‬:
ِ
ُ َ َ ْ ُ
،(٣٢٧٧) ‫ أﺧﺮﺟﻪ اﻛﺨﺎري ﺑﺮﻗﻢ‬،‫ ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬.«‫اﻟﺸﻴﺎﻃﻦﻴ‬ ِ ِ ِ َ
‫وﺳﻠﺴﻠﺖ‬
.(١٠٧٩) ‫ وﻣﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬، ‫واﻟﻠﻔﻆ‬
ความวา : “เมื่อเดือนรอมฎอนมาถึง ประตูสวรรคก็จะถูกเปด ประตูนรกจะถูก
ปด และบรรดามารรายชัยฏอนจะถูกลามโซ” (มุตตะฟก อะลัยฮฺ บันทึก
โดยอัลบุคอรียตามสํานวนนี้ หมายเลข ๓๒๗๗ และมุสลิม หมายเลข ๑๐๗๙)

3. อุมัร บินอัลค็อฏฏ็อบ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวาทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ


วะสัลลัม ไดกลาววา
‫ ﻗﺎل رﺳﻮل اﷲ ﺻﻰﻠ اﷲ‬:‫وﻋﻦ ﻋﻤﺮ ﺑﻦ اﺨﻟﻄﺎب ر اﷲ ﻋﻨﻪ ﻗﺎل‬
َ،‫اﻟﻮ ُﺿﻮء‬ ُ ْ ُ َْ ُ َُْ ُ َََ َ َ ْ ْ ُ ْ َ
ُ (‫ﻓﻴﺴﺒـﻎ‬
ِ ‫ﻓﻴﺒﻠﻎ )أو‬
ِ ‫أﺣﺪ ﻓﺘﻮﺿﺄ‬ ٍ ‫ »ﻣﺎ ِﻣﻨﻜﻢ ِﻣﻦ‬: ‫ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ‬
ُ ُ َُ َ ُ َْ ً َ ُ َ َ ُ َ َ ْ َ ُ َ َْ ُ ُ َ ُ
‫ﻋﻢ ﻳـﻘﻮل أﺷﻬﺪ أن ﻻ إﻟـﻪ إﻻ اﷲ وأن ﻣـﺤـﻤﺪا ﻗﺒﺪ اﷲ ورﺳﻮﻟـﻪ إﻻ‬
‫ أﺧﺮﺟﻪ ﻣﺴﻠﻢ‬.«‫ﺷﺎء‬ َ ِّ َ ‫ﻣﻦ‬
َ َ ‫ﻛﻓﻬﺎ‬ ْ ‫ﻳﺪﺧﻞ‬ ُ ُ َْ َُ َ
‫اﺨﻛﻤﺎﻏﻴﺔ‬ َ
‫اﺠﻟﻨﺔ‬ ُ َ ْ َ ‫ﻟـﻪ‬
‫أﺑﻮاب‬ ُ َ ‫ﻓﺘـﺤﺖ‬
ْ َ ُ
ِ ِ ِ ِ
.(٢٣٤) ‫ﺑﺮﻗﻢ‬
ความวา : “ทุก ๆ คนในหมูพวกทานที่อาบน้ําละหมาดอยางดี แลวกลาววา
“อัชฮะดุ อัลลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮฺ วะอันนะ มุหัมมะดัน อับดุลลอฮิ วะเราะสู
ลุฮฺ” (แปลวา ฉันขอปฏิญาณวาอัลลอฮฺเทานั้นคือพระเจาผูสมควรแกการกราบ
ไหวอยางแทจริง และมุหัมมัดนั้นเปนบาวและศาสนทูตของพระองค) เขาจะ
ไดรับการเป ดประตู สวรรค ทั้ งแปดให ซึ่งเขาสามารถจะเขา ทางประตู ใด ๆ
แลวแตเขาประสงค (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข ๒๓๔)

บุคคลแรกที่จะไดเขาสวรรค
ทานอนัส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวา ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัมได
กลาววา :
ِ ‫ »آ‬: ‫ ﻗﺎل رﺳﻮل اﷲ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ‬:‫ﻋﻦ أﻧﺲ ر اﷲ ﻋﻨﻪ ﻗﺎل‬
ُ ََُ َ َْ ْ َ ُ َ ُ ُ ََ ُ َْ ْ ََ َ َ َ َ َ َ َ
:‫ ﻓﺄﻗﻮل‬،‫ ﻣﻦ أﻧﺖ؟‬:‫اﺨﻟﺎزن‬
ِ ‫ ﻓﻴـﻘﻮل‬،‫ﻓﺄﺳﺘﻔﺘـﺢ‬
ِ ‫اﻟﻘﻴﺎﻣﺔ‬
ِ ِ ‫اﺠﻟﻨﺔ ﻳﻮم‬ِ ‫ﺑﺎب‬
َ
َ ََْ َ ُ َْ َ َ ُ
ُ ْ ‫ﺑﻚ‬ َ ُ ُ ََ ٌ َ ُ
‫ أﺧﺮﺟﻪ ﻣﺴﻠﻢ‬.«‫ﻷﺣﺪ ﻗﺒﻠﻚ‬ ٍ ‫أﻣﺮت ﻻ أﻓﺘـﺢ‬ ِ ِ :‫ ﻓﻴـﻘﻮل‬،‫ﻣـﺤـﻤﺪ‬
.(١٩٧) ‫ﺑﺮﻗﻢ‬
ความวา : “ฉันมาถึงประตูสวรรคในวันกิยามะฮฺแลวฉันก็ขอใหเปด ผูรักษา
ประตูจึงถามวา “ทานคือใคร? ฉันตอบวา “มุหัมมัด” เขากลาววา “ฉันไดรับ
8
คํ า สั่ ง ให เ ป ด ประตุ แ ก ท า น โดยฉั น จะไม เ ป ด ให แ ก ผู ใ ดก อ นหน า ท า น”
(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข ๑๙๗)

ประชาชาติแรกที่จะไดเขาสวรรค
มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ วาทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะ
ลัยฮิ วะสัลลัม ไดกลาววา :
‫ ﻗﺎل رﺳﻮل اﷲ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ‬:‫ﻋﻦ أ ﻫﺮﻳﺮة ر اﷲ ﻋﻨﻪ ﻗﺎل‬
َ َ ُ ُ َْ ْ َ ُ َ ُ َْ َ َ َ َ َ َ ُ َ ُ ُ َْ»:
.«‫اﺠﻟﻨﺔ‬ ‫ وﺤﻧﻦ أول ﻣﻦ ﻳﺪﺧﻞ‬،‫اﻟﻘﻴﺎﻣﺔ‬
ِ ِ ‫اﻵﺧﺮون اﻷوﻟﻮن ﻳﻮم‬
ِ ‫ﺤﻧﻦ‬
،(٨٥٥) ‫ وﻣﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬،(٨٧٦) ‫ أﺧﺮﺟﻪ اﻛﺨﺎري ﺑﺮﻗﻢ‬،‫ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬
. ‫واﻟﻠﻔﻆ‬
ความวา : “พวกเราคือพวกสุดทายที่อยูในลําดับแรกในวันกิยามะฮฺ และพวก
เราคือพวกแรกที่ไดเขาสวรรค ” (มุตตะฟก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย
หมายเลข ๘๗๖ และมุสลิมตามสํานวนนี้ หมายเลข ๘๕๕)

คนกลุมแรกที่ไดเขาสวรรค
1.มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ วาทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะ
ลัยฮิ วะสัลลัม ไดกลาววา :
:‫ ﻗﺎل رﺳﻮل اﷲ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ‬:‫ﻋﻦ أ ﻫﺮﻳﺮة ر اﷲ ﻋﻨﻪ ﻗﺎل‬
َ‫ ُﻋﻢ ا ِ ﻳﻦ‬،‫اﻛﺪر‬ ْ َ َََْ َ َ َ ُ ََ َ َ َ ُ ُ ْ َ َ ْ ُ َ َ ّ
ِ ‫اﻟﻘﻤﺮ ﻠﺔ‬
ِ ‫ﺻﻮرة‬
ِ ‫زﻣﺮة ﻳﺪﺧﻠﻮن اﺠﻟﻨﺔ ﺒﻟ‬ ٍ ‫»إن أول‬
َ ُ َُ ًَ َ ِّ ُ ‫ﻛﻮﻛﺐ‬ َ ْ َ ِّ َ َ َ َ ْ ُ َ َُ
‫ َوﻻ‬،‫ﻓﺒﻮﻟﻮن‬ ‫ ﻻ‬،‫إﺿﺎءة‬ ِ َ
‫اﻟﺴﻤﺎء‬ ‫دري ِﻲﻓ‬ ٍ ‫ﻳﻠﻮﻧـﻬـﻢ ﺒﻟ أﺷﺪ‬
،‫ﻫﺐ‬ ُ ُ ُ َ ْ َ ،‫ﻳـﻤﺘـﺨﻄﻮن‬
ُ َ ‫أﻣﺸﺎﻃﻬـﻢ ا‬ َ ُ َْ َ
‫وﻻ‬ َ َ ُ َْ
،‫ﻓﺘﻔﻠﻮن‬ ‫ َوﻻ‬،‫ﻓﺘﻐﻮﻃﻮن‬
َ ُ َََ
ِ ِ
ََ ُ ُ ُ ُ ُ َ ْ ََ ُ ُ ُ ُ َ َ َ ُ ْ ُ ُ ُ َْ
‫ ﺒﻟ‬،‫اﻟﻌﻦﻴ‬ ُ
ِ ‫ وأزواﺟﻬـﻢ اﺤﻟﻮر‬،‫وﻣـﺠﺎﻣﺮﻫـﻢ اﻷﻟﻮة‬ ُِ ،‫اﻟﻤﺴﻚ‬ ِ ‫َورﺷﺤﻬـﻢ‬
َ ً َ َ ُّ َ َ ْ ْ َ َ ُ َ َ َ ‫رﺟﻞ‬ ُ َ ‫ﺧﻠﻖ‬ْ َ
.«‫اﻟﺴﻤﺎء‬
ِ ‫أﻧﻴـﻬـﻢ آدم ِﺳﺘﻮن ِذراﺨ ِﻲﻓ‬ ِ ِ ‫ﺻﻮرة‬
ِ ‫ﺒﻟ‬ ،‫واﺣﺪ‬
ٍ ِ ٍ ِ
‫ وﻣﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬، ‫ واﻟﻠﻔﻆ‬،(٣٣٢٧) ‫ أﺧﺮﺟﻪ اﻛﺨﺎري ﺑﺮﻗﻢ‬،‫ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬
.(٢٨٣٤)
ความวา : “กลุมคนแรกที่ไดเขาสวรรคนั้น (มีความงดงาม) ดั่งดวงเดือนในคืน
จั น ทร เ พ็ ญ จากนั้ น ผู ถั ด จากพวกเขา (จะมี ค วามงดงาม) เจิ ด จรั ส ยิ่ ง กว า
ดวงดาวที่ทอแสงประกายบนทองฟา พวกเขาไมถายปสสาวะ ไมถายอุจจาระ
ไมถมน้ําลาย ไมสั่งน้ํามูก หวีของพวกเขาเปนหวีทอง เหงื่อของพวกเขาเปน
ชะมดเชียง ไมหอมที่พวกเขาจุดเปนควันคือไมอุลวะฮฺ (ไมหอมอินเดีย) คูครอง
ของพวกเขาคือนางงามแหงแดนสวรรค สัดสวนเรือนรางพวกเขาเปนสัดสวน

9
ของชายคนเดียว คืออยูในรูปทรงเรือนรางของอาดัม บิดาของพวกเขา สูงหก
สิบศอก” (มุตตะฟก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรียตามสํานวนนี้ หมายเลข
๓๓๒๗ และมุสลิม หมายเลข ๓๘๔๓)

2. มีรายงานจากสะฮฺล บินสะอฺด เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ วาทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ


อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดกลาววา :
‫وﻋﻦ ﺳﻬﻞ ﺑﻦ ﺳﻌﺪ ر اﷲ ﻋﻨﻪ أن رﺳﻮل اﷲ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ‬
َْ َ ُْ َ َْ ً َْ ُ ْ َ ُ ْ َ َ ُ ْ ََ
َ ‫ﺪﺧﻠﻦ‬
‫أﻟﻒ‬ٍ ‫ﺳﺒﻌﻤﺎﺋﺔ‬
ِ ِ ‫أﻣﻲﺘ ﺳﺒﻌﻮن أﻟﻔﺎ أو‬ ِ ‫ﻣﻦ‬
ِ ‫اﺠﻟﻨﺔ‬ » :‫ﻗﺎل‬
َ ُ ْ َ
ْ ُ ُ ‫ﻳﺪﺧﻞ‬ ُ ُ َْ ً ْ ْ ُ ُ ْ َ ٌ َ ُ َ َُ
‫أوﻟـﻬـﻢ َﺣ َﻳﺪﺧﻞ‬ ‫ ﻻ‬،‫ﺑـﻌﻀﻬـﻢ َﺑـﻌﻀﺎ‬ ‫آﺧﺬ‬
ِ ‫ﻣﺘـﻤﺎﺳﻜﻮن‬ِ
َ َ
ْ َ ََْ َ َ َ ُ َ ْ ُُ ُ ُ ْ ُ ُ
‫ أﺧﺮﺟﻪ‬،‫ ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬.«‫اﻛﺪر‬ ِ ‫اﻟﻘﻤﺮ ﻠﺔ‬ِ ‫ﺻﻮرة‬
ِ ‫ وﺟﻮﻫﻬـﻢ ﺒﻟ‬،‫آﺧﺮﻫـﻢ‬ ِ
. ‫ واﻟﻠﻔﻆ‬،(٢١٩) ‫ وﻣﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬،(٦٥٤٣) ‫اﻛﺨﺎري ﺑﺮﻗﻢ‬
ความวา : “ประชาชาติของฉันจะไดเขาสวรรคอยางแนนอนเปนจํานวนเจ็ด
หมื่นหรือเจ็ดแสนคน พวกเขาจะไดเขาไปดวยความสุขุมเรียบรอย ตางเกาะ
เกี่ยวซึ่งกันและกัน คนลําดับแรกจะไมไดเขาจนกวาคนลําดับสุดทายจะเขาไป
(หมายถึงทุกคนตางเขาประตูสวรรคเปนแถวเดียวแบบเรียงหนากระดานไมมี
ใครอยูขางหลังคนอื่น – ผูแปล) ใบหนาของพวกเขางดงามคลายกับดวงจันทร
ในคืนจันทรเพ็ญ” (มุตตะฟก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย หมายเลข ๓๕๔๓
และมุสลิมตามสํานวนนี้ หมายเลข ๒๑๙)

3. อับดุลลอฮฺ บินอัมรฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา กลาววา ฉันเคยไดยินทานเราะสูลุลลอ


ฮฺศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กลาววา :
‫ ﺳﻤﻌﺖ رﺳﻮل اﷲ ﺻﻰﻠ‬:‫وﻋﻦ ﻋﺒﺪاﷲ ﺑﻦ ﻋﻤﺮو ر اﷲ ﻋﻨﻬﻤﺎ ﻗﺎل‬
َ َ ُ َْ َْ
َ َِْ
َ‫اﻷﻏﻨﻴﺎء َﻳﻮم‬ ‫ﻳﺴﺒﻘﻮن‬ َ َ َ ُ ‫ »إن‬:‫اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ ﻳﻘﻮل‬
َ ُ ‫ﻓﻘﺮاء‬
ِ ‫اﻟﻤﻬﺎﺟﺮﻳﻦ‬
ِ ِ
ً َ َ ََْ َ َ َ َ
..(٢٩٧٩) ‫ أﺧﺮﺟﻪ ﻣﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬.«‫ﺧﺮﻳﻔﺎ‬ ِ ‫ﺑﺄرﺑـﻌﻦﻴ‬
ِ ِ ‫اﺠﻟﻨﺔ‬
ِ ِ ِ ‫اﻟ‬
‫ﻘﻴﺎﻣﺔ إﻰﻟ‬
ความวา : “แทจริงแลว ชาวมุฮาญิรินที่ยากจนจะไดเขาสวรรคกอนคนที่ร่ํารวย
ในวันกิยามะฮฺเปนเวลาสี่สิบเคาะรีฟ(ระยะเวลาที่ใชนับฤดูกาล)” (บันทึกโดย
มุสลิม หมายเลข ๒๙๗๙) (ในอีกหะดีษหนึ่งระบุวาชาวมุฮาญิรินที่ยากจนจะ
ไดเขาสวรรคกอนคนที่ร่ํารวยในวันกิยามะฮฺครึ่งวันอาคีเราะฮฺหรือหารอยปของ
โลกดุนยา ดูอิหมามอะหมัด ๒/๓๔๓ –ผูแปล)

อายุของชาวสวรรค
มีรายงานจากมุอาซ บินญะบัล เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ วาทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะ
10
ลัยฮิ วะสัลลัม ไดกลาววา :
:‫ﻋﻦ ﻣﻌﺎذ ﺑﻦ ﺟﺒﻞ ر اﷲ ﻋﻨﻪ أن اﺠﻲﺒ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ ﻗﺎل‬
َ َْ َ َ َ ََْ َ َ ُ ً ُْ ً ْ ُ َ َ َ َُْ ُُ َْ
‫ﺛﻼث‬
ٍ ‫أو‬ ،‫ﺛﻼﻋﻦﻴ‬
ِ ‫أﻧﻨﺎء‬ ‫ﻣﻜﺤﻠﻦﻴ‬
ِ ‫ﻣﺮدا‬ ‫ﺟﺮدا‬ ‫اﺠﻟﻨﺔ‬ ‫اﺠﻟﻨﺔ‬
ِ ‫أﻫﻞ‬ ‫»ﻳﺪﺧﻞ‬
ًَ َ َ
‫ أﺧﺮﺟﻪ أﻤﺣﺪ ﺑﺮﻗﻢ‬/ ‫ أﺧﺮﺟﻪ أﻤﺣﺪ واﻟﺮﺘﻣﺬي ﺣﺴﻦ‬.«‫وﺛﻼﻋﻦﻴ َﺳﻨﺔ‬ ِ َ
.‫ وﻫﺬا ﻟﻔﻈﻪ‬،(٢٥٤٥) ‫ وأﺧﺮﺟﻪ اﻟﺮﺘﻣﺬي ﺑﺮﻗﻢ‬،(٧٩٢٠)
ความวา : “ชาวสวรรคจะไดเขาสวรรคในสภาพคนเพิ่งแตกเนื้อหนุมที่หนวด
เริ่มงอก ไมมีเครา ไมมีขนตามลําตัว เบาตาดํา วัยสามสิบหรือสามสิบสามป”
(หะสัน บันทึกโดยอะหมัด หมายเลข ๗๙๒๐ และบันทึกโดยอัตติรมิซียตาม
สํานวนนี้ หมายเลข ๒๕๔๕)

ลักษณะใบหนาของชาวสวรรค
1.อัลลอฮฺตะอาลาไดตรัสวา :

∩⊄⊂∪ tβρãÝàΖtƒ Å7Í←!#u‘F{$# ’n?tã ∩⊄⊄∪ AΟ‹ÏètΡ ’Å∀s9 u‘#tö/F{$# ¨βÎ) ®

.[٢٤-٢٢/‫ ∪⊆⊄∩ 〈 ]اﻤﻟﻄﻔﻔﻦﻴ‬ÉΟŠÏè¨Ζ9$# nοuôØtΡ óΟÎγÏδθã_ãρ ’Îû ß∃Í÷è?s


ความวา : แทจริงบรรดาคนดีนั้นยอมไดอยูในความสุขสบายอยางแนนอน
พวกเขาตางพากันมอง (ความโปรดปรานที่อัลลอฮฺประทานให) บนที่นั่งอันโอ
อ า เจ า จะเห็น ประกายแหง ความเบิ ก บานฉายเดน บนใบหนา ของพวกเขา
(อัล-มุฏ็อฟฟฟน : ๒๒-๒๔)

2.อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

〈 ∩⊄⊂∪ ×οtÏß$tΡ $pκÍh5u‘ 4’n<Î) ∩⊄⊄∪ îοuÅÑ$¯Ρ 7‹Í×tΒöθtƒ ×νθã_ãρ ®

.[٢٣-٢٢/‫]اﻟﻘﻴﺎﻣﺔ‬
ความวา : หลายใบหนาในวันนั้นจะเปลงปลั่งเบิกบานยิ่ง ที่ไดมองเห็นพระ
เจาของเขา (อัล-กิยามะฮฺ : ๒๒-๒๓)

3.อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

7πu‹Ï9%tæ >π¨Ζy_ ’Îû ∩®∪ ×πu‹ÅÊ#u‘ $pκÈ÷è|¡Ïj9 ∩∇∪ ×πuΗ¿å$¯Ρ 7‹Í×tΒöθtƒ ×νθã_ãρ ®

.[١٠-٨ /‫∪⊃⊇∩ 〈 ]اﻟﻐﺎﺷﻴﺔ‬

11
ความวา : หลายใบหนาในวันนั้นจะมีความสุขอันเนื่องมาจากกิจการงานของ
เขา (ที่กระทําไวครั้งอยูในโลกดุนยา) มีความพึงพอใจ (ในผลตอบแทนที่ไดรับ
ในโลกอาคิเราะฮฺ และพวกเขาไดอยู) ในสวรรคอันสูงสง (อัล-ฆอชิยะฮฺ : ๘-
๑๐)

๔. อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

〈 ∩⊂®∪ ×οuųö6tFó¡•Β ×πs3Ïm$|Ê ∩⊂∇∪ ×οtÏó¡•Β 7‹Í×tΒöθtƒ ×νθã_ãρ ®

.[٣٩-٣٨/‫]ﻋﺒﺲ‬
ความวา : หลายใบหนาในวันนั้นแจมใส หัวเราะดีใจราเริง (อะบะซะ : ๓๙-
๔๐)

5. อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

$pκÏù öΝèδ «!$# ÏπuΗ÷qu‘ ’Å∀sù öΝßγèδθã_ãρ ôMÒu‹ö/$# t⎦⎪Ï%©!$# $¨Βr&uρ ®

.[١٠٧/‫ ∪∠⊃⊇∩ 〈 ]آل ﻋﻤﺮان‬tβρà$Î#≈yz


ความวา : และสวนบรรดาผูที่ใบหนาของเขาขาวผองนั้น พวกเขาจะอยูใน
ความเมตตาของอัลลอฮฺ โดยพวกเขาจะอยู ณ ที่นั้นไปตลอดกาล (อาลิอิ
มรอน : ๑๐๗)

6. มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ วาทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ


อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดกลาววา :
ُ َ
‫ »أول‬: ‫وﻋﻦ أ ﻫﺮﻳﺮة ر اﷲ ﻋﻨﻪ ﻋﻦ اﺠﻲﺒ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ‬
ْ َ ََ َ ْ َ َََْ َ َ َ ُ ََ َ َ ُ ُ َْ َ ْ ُ
ِ ِ ‫ َوا ِ ﻳﻦ ﺒﻟ‬،‫اﻛﺪر‬
‫آﺛﺎرﻫـﻢ‬ ِ ‫اﻟﻘﻤﺮ ﻠﺔ‬
ِ ‫ﺻﻮرة‬
ِ ‫زﻣﺮة ﺗﺪﺧﻞ اﺠﻟﻨﺔ ﺒﻟ‬
ٍ
َ ْ َ ْ ُ ُ ُ ُ ‫إﺿﺎءة‬
ُ َ ‫ﻗﻠﻮﺑـﻬـﻢ َﺒﻟ َﻗﻠﺐ‬ ًَ َ َ َ َْ َ ْ ََ
ِّ ُ ‫ﻛﻮﻛﺐ‬
،‫واﺣﺪ‬
ٍ ِ ٍ ‫رﺟﻞ‬ ِ ‫اﻟﺴﻤﺎء‬
ِ ‫ﻲﻓ‬
ِ ‫دري‬ ٍ ِ ‫ﻛﺄﺣ‬
‫ﺴﻦ‬
َ ُ َ َ َ ْ ُ َ َ َ ُ َ َ
‫ أﺧﺮﺟﻪ اﻛﺨﺎري ﺑﺮﻗﻢ‬،‫ ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬.«‫ﺗـﺤﺎﺳﺪ‬ ‫ﻻ ﺗـﺒﺎﻏﺾ ﺑﻴﻨـﻬـﻢ وﻻ‬
.(٢٨٣٤) ‫ وﻣﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬، ‫ واﻟﻠﻔﻆ‬،(٣٢٥٤)
ความวา : “กลุมคนแรกที่ไดเขาสวรรคนั้นมีความงดงามดั่งดวงจันทรในคืน
จันทรเพ็ญ และคนถัดจากพวกเขางดงามเหมือนดวงดาวที่สวยงามที่สุดที่ทอ
แสงระยิบระยับอยูบนทองฟา หัวใจของพวกเขาทั้งหมดอยูในสภาพหัวใจของ
คน ๆ เดี ย ว ไม มี ก ารโกรธเคื อ งและไม มี ก ารอิ จ ฉาริ ษ ยาระหว า งกั น ”

12
(มุตตะฟก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรียตามสํานวนนี้ หมายเลข ๓๓๕๔ และ
มุสลิม หมายเลข ๒๘๓๔)

การตอนรับชาวสวรรค
1.อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

#sŒÎ) #©¨Lym ( #·tΒã— Ïπ¨Ζyfø9$# ’n<Î) öΝåκ®5u‘ (#öθs)¨?$# š⎥⎪Ï%©!$# t,‹Å™uρ ®

öΝà6ø‹n=tæ íΝ≈n=y™ $pκçJtΡt“yz óΟçλm; tΑ$s%uρ $yγç/≡uθö/r& ôMysÏGèùuρ $yδρâ™!%y`

.[٧٣/‫ ∪⊂∠∩ 〈 ]اﻟﺰﻣﺮ‬t⎦⎪Ï$Î#≈yz $yδθè=äz÷Š$$sù óΟçFö7ÏÛ


ความวา : และบรรดาผูยําเกรงตอพระเจาของพวกเขาจะถูกนําไปยังสวรรค
เปนกลุม ๆ จนกระทั่งเมื่อพวกเขาไดมาถึงที่นั้นและประตูของมันก็ไดเปดไว
แลว ผูรักษาประตูสวรรคจะกลาวแกพวกเขาวา ความศานติจงมีแดพวกทาน
พวกทานเปนผูบริสุทธิ์ ดังนั้น จงเขาไปอยูในนั้นอยางถาวรตลอดกาล (อัซซุมัร
: ๗๓)

2. อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

öΝÎγÅ_≡uρø—r&uρ öΝÍκÉ″!$t/#u™ ô⎯ÏΒ yxn=|¹ ⎯tΒuρ $pκtΞθè=äzô‰tƒ 5βô‰tã àM≈¨Ζy_ ®

íΝ≈n=y™ ∩⊄⊂∪ 5>$t/ Èe≅ä. ⎯ÏiΒ ΝÍκön=tã tβθè=äzô‰tƒ èπs3Íׯ≈n=yϑø9$#uρ ( öΝÍκÉJ≈−ƒÍh‘èŒuρ

.[٢٤-٢٣/‫ ∪⊆⊄∩ 〈 ]اﻟﺮﻋﺪ‬Í‘#¤$!$# ©t<ø)ãã zΝ÷èÏΨsù 4 ÷Λän÷y9|¹ $yϑÎ/ /ä3ø‹n=tæ


ความวา : สวนสวรรคอันสถาพรที่พวกเขาไดเขาไปอยูพรอมกับคนดี ๆ ในหมู
พอแมบรรพบุรุษ คูครอง และลูกหลานของพวกเขา ซึ่งบรรดามลาอิกะฮฺจะเขา
มาหาพวกเขาจากทุก ๆ ประตูพรอมกลาวอวยพรวา “ความศานติจงมีแดพวก
ทาน ดวยเหตุที่พวกทานไดอดทนมา มันจึงชางเปนที่พํานักสุดทายอันดีเลิศ
เสียเหลือเกิน” (อัรเราะอฺด : ๒๓-๒๔)

3.อัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา :

#x‹≈yδ èπx6Íׯ≈n=yϑø9$# ÞΟßγ9¤)n=tGs?uρ çy9ò2F{$# äít“xø9$# ãΝßγçΡâ“øts† Ÿω ®

.[١٠٣/‫ ∪⊂⊃⊇∩ 〈 ]اﻷﻧﺒﻴﺎء‬šχρ߉tãθè? óΟçGΨà2 “Ï%©!$# ãΝä3ãΒöθtƒ

13
ความวา : ความตื่นตระหนกโกลาหลครั้งยิ่งใหญไมไดทําใหพวกเขาเศราหมอง
เลย และบรรดามลาอิกะฮฺจะมาพบปะอวยพรใหแกพวกเขาวา “นี่แหละ คือวัน
ของพวกทานที่พวกทานไดถูกสัญญาไว” (อัลอัมบิยาอฺ : ๑๐๓)

ผูที่ไดเขาสรวงสวรรคโดยไมตองถูกสอบสวน หรือลงโทษ
1.อิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา เลาวาทานนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได
กลาววา :
: ‫ ﻗﺎل اﺠﻲﺒ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ‬:‫ﻋﻦ اﺑﻦ ﻋﺒﺎس ر اﷲ ﻋﻨﻬﻤﺎ ﻗﺎل‬
ُ‫ﻣﻌﻪ‬ َ َ ‫ﻳـﻤﺮ‬ُّ ُ َ ‫واﺠﻲﺒ‬ ُ ُ ُ َ َ ُّ ُ َ ُ ََ ُ َُ َ َ ْ َ ُ
ُّ َ ،‫اﻷﻣﺔ‬ ‫اﺠﻲﺒ ﻳـﻤﺮ ﻣﻌﻪ‬
ِ ِ ‫ﻓﺄﺟﺪ‬ ِ ،‫ﻋﺮﺿﺖ ﻋﻲﻠ اﻷﻣـﻢ‬ ِ »
ُّ ُ َ ‫واﺠﻲﺒ‬ ُّ َ ،‫اﺨﻟـﻤﺴﺔ‬ ُ َ ْ َ ُ َ َ ُّ ُ َ ُّ َ ُ َ َ َ ُ َ َ ُّ ُ َ ُّ َ ُ َ
‫ﻳـﻤﺮ‬ ِ ‫واﺠﻲﺒ ﻳـﻤﺮ ﻣﻌﻪ‬ ِ ،‫واﺠﻲﺒ ﻳـﻤﺮ ﻣﻌﻪ اﻟﻌﺮﺸة‬ ِ ،‫اﺠﻔﺮ‬
َ َ ُ ُ َ ،‫ﺟﺮﺒﻳﻞ‬ُ ْ َ ُ ُْ ٌ َ ٌ َ َ َ َ ُ ْ َََ َُ ْ َ
،‫ ﻻ‬:‫أﻣﻲﺘ؟ ﻗﺎل‬ ِ ‫ﻫﺆﻻء‬
ِ ِ ‫ ﻳﺎ‬:‫ ﻗﻠﺖ‬،‫ﻛﺜﺮﻴ‬ ِ ‫ ﻓﻨﻈﺮت ﻓﺈذا ﺳﻮاد‬،‫وﺣﺪه‬
َ ُ ُ ُ َ َ َ ٌ َ ٌ َ َ َ ُ ْ َََ ُُ َ ْ ُْ ََ
،‫أﻣﺘﻚ‬ ‫ﻫﺆﻻء‬
ِ :‫ ﻗﺎل‬.‫ﻛﺜﺮﻴ‬ ِ ‫ﺳﻮاد‬ ‫ﻓﺈذا‬ ‫ﻓﻨﻈﺮت‬ ،‫اﻷﻓﻖ‬
ِ ‫إﻰﻟ‬ ‫اﻏﻈﺮ‬ ‫وﻟﻜﻦ‬
ِ
ْ
ُ ُ .‫ﻋﺬاب‬ َ َ َ ‫ﻋﻠﻴـﻬـﻢ َوﻻ‬ َ
ْ ْ َ ‫ﺣﺴﺎب‬ ً ْ َ
ْ ُ َ ُ ‫ﺳﺒﻌﻮن أﻟﻔﺎ‬
َ َ ‫ﻗﺪاﻣﻬـﻢ ﻻ‬ َ ُْ َ ََُ
:‫ﻗﻠﺖ‬ ِ ِ ‫وﻫﺆﻻء‬
ِ
ْ ِّ َ ‫وﺒﻟ‬ ََ َ ُ َ َ َ ‫ َوﻻ‬،‫ﻳﺴﺮﺘﻗﻮن‬
َ َْ َْ َ َْ َ ُ َ َ َ َ َ
‫رﺑﻬـﻢ‬ ِ ،‫ﻓﺘﻄﺮﻴون‬ ‫وﻻ‬ ،‫ﻳﻜﺘﻮون‬ ‫ﻻ‬ ‫ﺎﻛﻧﻮا‬ :‫وﻟـﻢ؟ ﻗﺎل‬ ِ
َ َََُ
، ‫ واﻟﻠﻔﻆ‬،(٦٥٤١) ‫ أﺧﺮﺟﻪ اﻛﺨﺎري ﺑﺮﻗﻢ‬،‫ ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬.«‫ﻓﺘﻮ ﻮن‬
.(٢٢٠) ‫وﻣﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬
ความวา : “ประชาชาติตาง ๆ ไดถูกแสดงใหฉันเห็น (ในคืนอิสรออฺ) ซึ่งฉันได
พบวามีนบีที่ผานไปพรอม ๆ กับผูติดตามจํานวนมาก มีนบีที่ผานไปพรอม ๆ
ผูติดตามไมกี่คน มีนบีที่ผานไปพรอมกับผูติดตามสิบคน มีนบีที่ผานไปพรอม
กับผูติดตามหาคน และมีนบีที่ผานไปอยางโดดเดี่ยวเพียงคนเดียว แลวฉันก็
เพงมองไป อยู ๆ ก็ปรากฏฝูงชนจํานวนมาก ฉันเลยถามวา “โอ ญิบรีล คน
เหลานี้คือประชาชาติของฉันหรือ?” เขาตอบวา “ไมใชหรอก แตทานลองมอง
ไปยังที่ๆไกลลิบสุ ดขอบฟา นั่น ซิ” ฉันเลยเพงมองไป ปรากฏว า มีฝูง ชนเป น
จํานวนมาก เขากลาววา “นั่นแหละคือประชาชาติของทาน และนั่นอีกเจ็ดหมืน่
กอนหนาคนเหลานั้น จะไมมีการตรวจสอบและการลงโทษใด ๆ ตอพวกเขา”
ฉันถามวา “เปนเพราะเหตุอันใดหรือ?” เขาตอบวา “เปนเพราะพวกเขาไมเคย
รักษาโรคดวยวิธีที่ตองหาม ไมเคยเปาปดบําบัดโรคดวยคาถาที่ตองหาม และ
ไมเคยเชื่อในลางรายตาง ๆ และพวกเขาตางมอบตนตอพระผูเปนเจาของพวก
เขา” (มุตตะฟก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรียตามสํานวนนี้ หมายเลข
๖๕๔๑ และมุสลิม หมายเลข ๒๒๐)

๒. อบูอุมามะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวา ฉันไดยินทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะ


14
ลัยฮิ วะสัลลัม กลาววา :
‫ ﺳﻤﻌﺖ رﺳﻮل اﷲ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ‬:‫وﻋﻦ أ أﻣﺎﻣﺔ ر اﷲ ﻋﻨﻪ ﻗﺎل‬
َ ْ َ ‫ﻣﻦ ُأﻣﻲﺘ‬ َ َ َ ْ ُ ْ َ ُ َ َ ْ ُ ِّ َ َ َ َ
ْ ‫اﺠﻟﻨﺔ‬
‫ﺳﺒﻌـﻦﻴ‬ ِ ِ ِ ‫ﻳﺪﺧﻞ‬
ِ ‫ »وﻋﺪ ِ ر ﺳﺒـﺤﺎﻧـﻪ أن‬:‫وﺳﻠﻢ ﻳﻘﻮل‬
َ
ً ْ َ ُْ َ َ
ْ ِّ ُ َ َ َ َ َ َ ْ ْ َ َ َ َ ً َْ
،‫أﻟﻒ ﺳﺒﻌـﻮن أﻟﻔﺎ‬ٍ ‫ ﻣﻊ ﻞﻛ‬،‫ وﻻ ﻋـﺬاب‬،‫ﻋﻠﻴـﻬـﻢ‬ ِ ‫أﻟﻔﺎ ﻻ ِﺣﺴﺎب‬
َ َ ‫ﺣﺜﻴﺎت َر ِّ َﻋﺰ‬
َ َ َ ‫ﻣﻦ‬ ُ ََ
َ َ َ ‫وﺛﻼث‬
ْ ‫ﺣﺜﻴﺎت‬
‫ أﺧﺮﺟﻪ اﻟﺮﺘﻣﺬي‬/ ‫ ﺻﺤﻴﺢ‬.«‫وﺟﻞ‬ ِ ِ ٍ
‫ وﻫﺬا ﻟﻔﻈﻪ‬،(٤٢٨٦) ‫ وأﺧﺮﺟﻪ اﺑﻦ ﻣﺎﺟﻪ ﺑﺮﻗﻢ‬،(٢٤٣٧) ‫ﺑﺮﻗﻢ‬
ความวา : “พระเจาผูมหาบริสุทธิ์ยิ่งของฉันไดสัญญาตอฉันวาพระองคจะให
ประชาชาติของฉันจํานวนเจ็ดหมื่นคนไดเขาสรวงสวรรคโดยไมมีการสอบสวน
และการลงโทษใด ๆ ตอพวกเขา โดยแตละหนึ่งพันคนนั้นจะสมทบดวยคนอื่น
อีกเจ็ดหมื่นคน และสามกําจากกําของพระเจาของฉันผูสูงสง” (เศาะฮีห
บั น ทึก โดยอั ตติ รมิ ซีย หมายเลข ๒๔๓๗ และบั น ทึ ก โดยอิบ นุ ม าญะฮฺ ตาม
สํานวนนี้ หมายเลข ๔๒๘๖)

ลักษณะพื้นดินและสิ่งปลูกสรางในสรวงสวรรค
1.อนัส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวา :
‫ﻋﻦ أﻧﺲ ر اﷲ ﻋﻨﻪ أن اﺠﻲﺒ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ ﻤﻟﺎ ُﻋﺮج ﺑﻪ إﻰﻟ‬
ٌ َ ْ َ َ َ َ َ َ َ ْ َ َ ْ ِّ ََ َ ََ َْ ُ
‫أﻟﻮان‬ ‫ﻓﻐﺸﻴـﻬﺎ‬ ِ ،‫اﻤﻟﻨﺘـﻰﻬ‬ ‫اﻟﺴﺪرة‬ ِ ‫ ﻋﻢ ُاﻏﻄﻠﻖ ﺣ أ‬...» :‫اﻟﺴﻤﺎء ﻗﺎل‬
ُ ْ ُّ ُ َ َ َ ْ َ َ َ َ ُ ْ ْ ُ َ َ
ُ َ ُ ‫ َو َذا‬،‫اﻟﻠﺆﻟﺆ‬ َْ
‫ﺗﺮاﺑـﻬﺎ‬ ِ ‫ﺟﻨﺎﺑﺬ‬
ِ ‫ﻓﻴـﻬﺎ‬
ِ ‫ﻓﺈذا‬ ،‫اﺠﻟﻨﺔ‬ ‫أدﺧﻠﺖ‬
ِ ‫ﻋﻢ‬ ،‫ﻲﻫ‬
ِ ‫ﻣﺎ‬ ‫أدري‬
ِ ‫ﻻ‬
ُ ْ
، ‫ واﻟﻠﻔﻆ‬،(٣٣٤٢) ‫ أﺧﺮﺟﻪ اﻛﺨﺎري ﺑﺮﻗﻢ‬،‫ ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬.«‫اﻟﻤﺴﻚ‬ ِ
.(١٦٣) ‫وﻣﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬
ความวา : “ทานนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เมื่อครั้งที่ทานไดถูกนําตัว
ขึ้นสูฟากฟานั้น ทานไดเลาวา “...แลวเขา (ญิบรีล) ก็มุงหนาไป จนกระทั่งเขา
ไดนําฉันมาถึงตนสิดเราะตุลมุนตะฮา (ตนพุทราที่เปนจุดรวบรวมการงานของ
ปวงมนุษย) แลวก็ปรากฏสีตาง ๆ มาปกคลุมมันซึ่งฉันเองก็ไมรูจะบอกวามัน
ชางสวยงามอยางไร จากนั้นฉันไดถูกนําเขาไปในสวรรค ซึ่งไดพบวาในนัน้ มีตกึ
ไข มุ ก กลม ๆ สู ง ตระหง า น และได พ บว า พื้ น ดิ น ของมั น นั้ น คื อ น้ํ า หอม
ชะมดเชียง” (มุตตะฟก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรียตามสํานวนนี้ หมายเลข
๓๓๔๒ และมุสลิม หมายเลข ๑๖๓)

2.อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวา :

15
‫ اﺠﻟﻨﺔ ﻣﺎ ﺑﻨﺎؤﻫﺎ؟‬...‫ ﻗﻠﻨﺎ ﻳﺎ رﺳﻮل اﷲ‬:‫وﻋﻦ أ ﻫﺮﻳﺮة ر اﷲ ﻋﻨﻪ ﻗﺎل‬
ََْ
ُ،‫اﻷذﻓﺮ‬ ُ ْ َ ُ َ ،‫ذﻫﺐ‬ َ َ ْ ٌَ ََ ْ ‫ﻛﻨﺔ‬ ٌَ َ
‫اﻤﻟﺴﻚ‬ ‫وﻣﻼﻃﻬﺎ‬ ِ ٍ ‫ﻣﻦ‬ ِ ‫وﻛﻨﺔ‬
ِ ،‫ﻓﻀﺔ‬
ٍ ِ ‫ﻣﻦ‬ ِ ِ » :‫ﻗﺎل‬
‫ﻓﻨﻌﻢ َوﻻ‬ َ َ َ َ ‫ﻣﻦ‬
ُ َ ْ َ ‫دﺧﻠـﻬﺎ‬ ُ ََْ
ْ َ ،‫اﻟﺰﻗﻔﺮان‬ َ ُ َ ْ ُ َ ،‫ﺎﻗﻮت‬
‫وﺗﺮﺑﺘـﻬﺎ‬ ُ ُ ْ ُّ ‫وﺣﺼﺒﺎؤﻫﺎ‬
ُ ُ َ ‫اﻟﻠﺆﻟﺆ َوا‬ َُ َ ْ َ َ
ْ ُ ُ َ َ ‫ﻓﻔﻰﻨ‬
.«‫ﺷﺒﺎﺑـﻬـﻢ‬ َ ْ َ ‫ﻋﻴﺎﺑـﻬـﻢ َوﻻ‬
ْ ُ ُ َ ‫ﻳﺒﻰﻠ‬ ََْ
‫ﻻ‬ ُ ُ َ ‫وﻳـﺨﺘ َوﻻ‬
،‫ﻳـﻤﻮت‬ ُ َ ُ َ ،‫ﻓﺒﺄس‬ُ َْ َ
ِ
،(٢٥٢٦) ‫ أﺧﺮﺟﻪ اﻟﺮﺘﻣﺬي ﺑﺮﻗﻢ‬/ ‫ﺻﺤﻴﺢ‬. ‫أﺧﺮﺟﻪ اﻟﺮﺘﻣﺬي وا ارﻲﻣ‬
.(٢٧١٧) ‫ وأﺧﺮﺟﻪ ا ارﻲﻣ ﺑﺮﻗﻢ‬،‫وﻫﺬا ﻟﻔﻈﻪ‬
ความวา : “พวกเราไดถามวา โอ ทานเราะสูลัลลอฮฺ ... สรวงสวรรคนั้น อาคาร
สิ่งกอสรางของมันทําจากอะไร?” ทานตอบวา “อิฐกอนหนึ่งทําจากเงิน และอีก
กอนหนึ่งทําจากทองคํา (สลับกันไป) ปูนฉาบของมันคือน้ําหอมชะมดเชียงอัน
หอมกรุน กอนกรวดคือไขมุกและพลอย และพื้นดินคือหญาฝรั่นเหลืองอราม ผู
ที่ไดเขาไปในนั้นจะมีความสุขไมเศราโศก จะคงอยูไปตลอดไมเสียชีวิต เสื้อผา
ของพวกเขาจะไมหมองเกา และความหนุมความสาวของเขาจะไมสิ้นสลาย”
(เศาะฮีห บันทึกโดยอัตติรมิซียตามสํานวนนี้ หมายเลข ๒๕๒๖ และบันทึกโดย
อัดดาริมีย หมายเลข ๒๗๑๗ )

3.อบูสะอีด เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เลาวา :


‫وﻋﻦ أ ﺳﻌﻴﺪ ر اﷲ ﻋﻨﻪ أن اﺑﻦ ﺻﻴﺎد ﺳﺄل اﺠﻲﺒ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ‬
ٌ ْ ُ َ َْ ٌَ ََْ
ٌ َ ‫ﻣﺴﻚ‬
‫ أﺧﺮﺟﻪ‬.«‫ﺧﺎﻟﺺ‬
ِ ِ ،‫ »درﻣﻜﺔ ﻧﻴﻀﺎء‬:‫وﺳﻠﻢ ﻋﻦ ﺗﺮﺑﺔ اﺠﻟﻨﺔ؟ ﻓﻘﺎل‬
.(٢٩٢٨) ‫ﻣﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬
ความว า : “อิ บ นุ ศ็ อ ยยาดได ถ ามท า นนบี ศ็ อ ลลั ล ลอฮฺ อะลั ย ฮิ วะสั ล ลั ม
เกี่ ย วกั บพื้ น ดิ น ของสวรรค ว า เป น เช น ไร? ทา นเลยตอบวา มั น เปน ดิ น ที่นุ ม
ละเอียดมาก เปนน้ําหอมชะมดเชียงบริสุทธิ์" (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข
๒๙๒๘)

16

You might also like