Scribd Logo
Upload

Welcome to Scribd!

  • เรื่องของพระโสดาบัน (คุณดังตฤณ)

    Uploaded by

    ณชเล
    183 views6 pages
    "ก่อนอื่นลองคิดดูว่าพระโสดาบันเป็นคนๆ หนึ่ง มีร่างกาย มีจิตสำนึก มีความคิดอ่านอย่างคนๆ หนึ่ง คนๆ หนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากราคะ โทสะ โมหะ มีชีวิตอยู่บนพื้นยืนของราคะ โทสะ โมหะ อย่ามองว่าพอเป็นอริยบุคคลแล้ว หมายถึงบุคคลอีกประเภทที่เลิกเป็นมนุษย์ ทำอะไรต้องดีพร้อม ไม่มีกิเลสเลยเหมือนพระอรหันต์ แล้วลองพิจารณาดูตลอดสายเป็นข้อๆ ว่าสังโยชน์ 10 มีอะไรอยู่บ้าง การบรรลุมรรคผลแต่ละขั้นประหารอะไรได้บ้าง โดยไล่ทวนแบบย้อนศร ไม่ใช่ไปตามศรเหมือนอย่างที่เคยๆ ทำกันมา โดยนัยของศีล สมาธิ ปัญญาก็เช่นกัน สามัญบุคคลย่อมประพฤติยาก เพราะสักกายทิฏฐิยังครอบงำอยู่เต็มหัวจิตหัวใจ แต่สักกายทิฏฐิไม่อาจครอบงำหัวใจพระโสดาบันได้ถนัด ต่อให้ท่านไม่ภาวนาเลย ก็ต้องมีกิริยาจิตโน้มไปในทางกุศล มีสักช่วงที่จิตถอยเข้ามารู้ตัวเอง แล้วสักแต่เห็นรูป สักแต่เห็นนามเข้าบ้าง ซึ่งกิริยาจิตเช่นนั้นเอง ที่สอดคล้องกับศีล สมาธิ ปัญญา เรียกว่าการขาดสักกายทิฏฐิเสียได้ ย่อมนำมาซึ่งอัตโนมัติของศีล สมาธิ ปัญญา ไม่มีวันขาดสายหายหนเป็นแรมเดือนแรมปีเหมือนอย่างบุคคลธรรมดาเลย ลืมกล่าวถึงสังโยชน์ข้อสองและสาม ซึ่งหลายคนยังเข้าใจคลุมเครือ ความจริงสังโยชน์ข้อสองและสาม เป็นผลที่สักกายทิฏฐิขาดสิ้นลง พลอยทำให้ความลังเลสงสัยว่านิพพานมีจริงหรือไม่มีจริงดับหาย เพราะไปเห็นนิพพานเสียแล้วนับแต่เกิดมรรคจิตและผลจิต กับทั้งรู้ทางไปนิพพาน ว่าต้องเห็นไตรลักษณ์ของรูปนามจนจิตทิ้ง ไม่ใช่แค่ถือศีลพรตแบบลูบๆ คลำๆ" "คุณดังตฤณ"

    Copyright

    © © All Rights Reserved

    Available Formats

    PDF, TXT or read online from Scribd

    Did you find this document useful?

    Is this content inappropriate?

    Report this Document
    "ก่อนอื่นลองคิดดูว่าพระโสดาบันเป็นคนๆ หนึ่ง มีร่างกาย มีจิตสำนึก มีความคิดอ่านอย่างคนๆ หนึ่ง คนๆ หนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากราคะ โทสะ โมหะ มีชีวิตอยู่บนพื้นยืนของราคะ โทสะ โมหะ อย่ามองว่าพอเป็นอริยบุคคลแล้ว หมายถึงบุคคลอีกประเภทที่เลิกเป็นมนุษย์ ทำอะไรต้องดีพร้อม ไม่มีกิเลสเลยเหมือนพระอรหันต์ แล้วลองพิจารณาดูตลอดสายเป็นข้อๆ ว่าสังโยชน์ 10 มีอะไรอยู่บ้าง การบรรลุมรรคผลแต่ละขั้นประหารอะไรได้บ้าง โดยไล่ทวนแบบย้อนศร ไม่ใช่ไปตามศรเหมือนอย่างที่เคยๆ ทำกันมา โดยนัยของศีล สมาธิ ปัญญาก็เช่นกัน สามัญบุคคลย่อมประพฤติยาก เพราะสักกายทิฏฐิยังครอบงำอยู่เต็มหัวจิตหัวใจ แต่สักกายทิฏฐิไม่อาจครอบงำหัวใจพระโสดาบันได้ถนัด ต่อให้ท่านไม่ภาวนาเลย ก็ต้องมีกิริยาจิตโน้มไปในทางกุศล มีสักช่วงที่จิตถอยเข้ามารู้ตัวเอง แล้วสักแต่เห็นรูป สักแต่เห็นนามเข้าบ้าง ซึ่งกิริยาจิตเช่นนั้นเอง ที่สอดคล้องกับศีล สมาธิ ปัญญา เรียกว่าการขาดสักกายทิฏฐิเสียได้ ย่อมนำมาซึ่งอัตโนมัติของศีล สมาธิ ปัญญา ไม่มีวันขาดสายหายหนเป็นแรมเดือนแรมปีเหมือนอย่างบุคคลธรรมดาเลย ลืมกล่าวถึงสังโยชน์ข้อสองและสาม ซึ่งหลายคนยังเข้าใจคลุมเครือ ความจริงสังโยชน์ข้อสองและสาม เป็นผลที่สักกายทิฏฐิขาดสิ้นลง พลอยทำให้ความลังเลสงสัยว่านิพพานมีจริงหรือไม่มีจริงดับหาย เพราะไปเห็นนิพพานเสียแล้วนับแต่เกิดมรรคจิตและผลจิต กับทั้งรู้ทางไปนิพพาน ว่าต้องเห็นไตรลักษณ์ของรูปนามจนจิตทิ้ง ไม่ใช่แค่ถือศีลพรตแบบลูบๆ คลำๆ" "คุณดังตฤณ"

    Copyright:

    © All Rights Reserved
    Download as PDF, TXT or read online from Scribd
    Flag for inappropriate content
    Download as pdf or txt
    183 views6 pages

    เรื่องของพระโสดาบัน (คุณดังตฤณ)

    Uploaded by

    ณชเล
    "ก่อนอื่นลองคิดดูว่าพระโสดาบันเป็นคนๆ หนึ่ง มีร่างกาย มีจิตสำนึก มีความคิดอ่านอย่างคนๆ หนึ่ง คนๆ หนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากราคะ โทสะ โมหะ มีชีวิตอยู่บนพื้นยืนของราคะ โทสะ โมหะ อย่ามองว่าพอเป็นอริยบุคคลแล้ว หมายถึงบุคคลอีกประเภทที่เลิกเป็นมนุษย์ ทำอะไรต้องดีพร้อม ไม่มีกิเลสเลยเหมือนพระอรหันต์ แล้วลองพิจารณาดูตลอดสายเป็นข้อๆ ว่าสังโยชน์ 10 มีอะไรอยู่บ้าง การบรรลุมรรคผลแต่ละขั้นประหารอะไรได้บ้าง โดยไล่ทวนแบบย้อนศร ไม่ใช่ไปตามศรเหมือนอย่างที่เคยๆ ทำกันมา โดยนัยของศีล สมาธิ ปัญญาก็เช่นกัน สามัญบุคคลย่อมประพฤติยาก เพราะสักกายทิฏฐิยังครอบงำอยู่เต็มหัวจิตหัวใจ แต่สักกายทิฏฐิไม่อาจครอบงำหัวใจพระโสดาบันได้ถนัด ต่อให้ท่านไม่ภาวนาเลย ก็ต้องมีกิริยาจิตโน้มไปในทางกุศล มีสักช่วงที่จิตถอยเข้ามารู้ตัวเอง แล้วสักแต่เห็นรูป สักแต่เห็นนามเข้าบ้าง ซึ่งกิริยาจิตเช่นนั้นเอง ที่สอดคล้องกับศีล สมาธิ ปัญญา เรียกว่าการขาดสักกายทิฏฐิเสียได้ ย่อมนำมาซึ่งอัตโนมัติของศีล สมาธิ ปัญญา ไม่มีวันขาดสายหายหนเป็นแรมเดือนแรมปีเหมือนอย่างบุคคลธรรมดาเลย ลืมกล่าวถึงสังโยชน์ข้อสองและสาม ซึ่งหลายคนยังเข้าใจคลุมเครือ ความจริงสังโยชน์ข้อสองและสาม เป็นผลที่สักกายทิฏฐิขาดสิ้นลง พลอยทำให้ความลังเลสงสัยว่านิพพานมีจริงหรือไม่มีจริงดับหาย เพราะไปเห็นนิพพานเสียแล้วนับแต่เกิดมรรคจิตและผลจิต กับทั้งรู้ทางไปนิพพาน ว่าต้องเห็นไตรลักษณ์ของรูปนามจนจิตทิ้ง ไม่ใช่แค่ถือศีลพรตแบบลูบๆ คลำๆ" "คุณดังตฤณ"

    Copyright:

    © All Rights Reserved
    Download as PDF, TXT or read online from Scribd
    Flag for inappropriate content
    Download as pdf or txt
    of 6

    ()

    10







    5







    , , , ( )


    ?



    ()
    ()















    - -

    ?











    5












    : [ 15 .. 2542 ]
    : http://www.dharma-gateway.com/ubasok/dangtrin/dangtrin-10.htm

    :
    "



    10





    "
    ""

    /
    :
    nachale.s@gmail.com

    You might also like