Professional Documents
Culture Documents
พาตัวใจกลับบ้าน ตอน-เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจ
พาตัวใจกลับบ้าน ตอน-เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจ
ตอน
เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจ
ศุภวรรณ พิพัฒพรรณวงศ์ กรีน
พาตัวใจกลับบ้าน
คำนำ
ตอน
เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจ
เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจ
ศุภวรรณ พิพัฒพรรณวงศ์ กรีน
ISBN 978-974-8092-07-2
เนื่องจากดิฉันมักได้รับเมล์จากผู้ปฏิบัต
ิ
พิมพ์ครั้งที่ ๑ : ๒๕๕๐
สติปัฏฐานสี่ที่เขียนมาถามปัญหาเรื่องความ
จำนวน ๓,๐๐๐ เล่ม
สับสนในการกำหนดสติของแต่ละฐาน ดิฉันจึง
ตัดสินใจนำเรื่องนี้ขึ้นมาพูดในตอนที่ ๓ ของ
ภาพประกอบ : ชลิตา สมบุญเรืองศรี
หนังสือชุดพาตัวใจกลับบ้านนี้ โดยตั้งชื่อเรื่องว่า
จัดรูปเล่ม : อุทุมพร สว่างเมฆ, ภมรมาศ ตันฑุลทุกุล
เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจ
ราคา บาท
เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ นอกจากการ
ชี ้ แ นะแนวทางการกำหนดเพื ่ อ พาตั ว ใจกลั บ
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามตัดตอน ต่อเติม แก้ไข
บ้านที่ ๑ และ ๒ แล้ว ดิฉันยังได้พูดพัวพันไป
จัดจำหน่ายโดย บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด
ถึงปัญหาสังคมที่ตกอยู่ในสภาวะของวงจรอัน
โทร. ๐-๒๔๒๓-๙๙๙๙ โทรสาร ๐-๒๔๓๔-๑๓๘๒
เลวร้าย โดยเฉพาะปัญหาเรื่องความไม่พอใจ
พิมพ์ที่ : บริษัท คิว พริ้นท์ แมเนจเม้นท์ จำกัด
ในงานประจำที ่ ต นกำลั ง ทำอยู ่ ซ ึ ่ ง เกิ ด กั บ คน
โทร. ๐-๒๘๐๐-๒๒๙๒, ๐๘-๔๙๑๓-๘๖๐๐
หมู่มากของสังคม แต่ไม่มีทางเลือก เพราะทุกคน
ดิฉันจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเนื้อหาของ
จำเป็นต้องมีอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว หนังสือเล่มนี้จะสามารถช่วยท่านผู้อ่านเข้าใจ
ทำให้ เ กิ ด ความทุ ก ข์ ท ี ่ ส ร้ า งวงจรอั น เลวร้ า ย
ปั ญ หาชี ว ิ ต ประจำวั น ของตนเองได้ ช ั ด เจน
กีดกันให้คนปฏิบัติธรรมได้ยากยิ่งขึ้น จึงกลาย
มากขึ ้ น และสามารถนำปั ญ ญาพร้ อ มคำ
เป็ น ปั ญ หาวนที ่ อ อกได้ ย ากยิ ่ ง ซึ ่ ง ดิ ฉ ั น ก็ ไ ด้
แนะนำในการปฏิ บ ั ต ิ จ ากหนั ง สื อ เล่ ม นี ้ ม าใช้
อธิ บ ายให้ เ ห็ น อย่ า งชั ด เจนว่ า ปั ญ หาเช่ น นี ้
แก้ปัญหาชีวิตให้ลุล่วงได้
จำเป็นต้องมาแก้ไขที่ต้นตอโดยเริ่มที่ลมหายใจ
ดิ ฉ ั น ขอถื อ โอกาสขอบพระคุ ณ และ
ของตนเองก่ อ น อั น เป็ น บ่ อ เกิ ด ของชื ่ อ เรื ่ อ ง
อนุ โ มทนาในกุ ศ ลจิ ต ของท่ า นผู ้ อ ่ า นและคณะ
หนังสือเล่มนี้ นอกจากนั้น ดิฉันยังได้กล่าวถึง
ทำงานของดิ ฉ ั น ที ่ ไ ด้ ช ่ ว ยเหลื อ กั น สนั บ สนุ น
เรื ่ อ งการออกกำลั ง กายไท้ เ ก็ ก ชี ่ ก ง ซึ ่ ง ดิ ฉ ั น
ให้งานกวาดต้อนเพื่อนมนุษย์ออกจากคุกชีวิต
เห็นว่าเป็นเรื่องสติปัฏฐานโดยตรงดังที่ได้เคย
ของดิฉันก้าวเดินไปข้างหน้าได้ ไม่ว่าจะเป็น
กล่ า วไว้ แ ล้ ว เมื ่ อ พู ด ถึ ง วั ฒ นธรรมสติ ป ั ฏ ฐาน
การบริ จ าคเพื ่ อ ช่ ว ยการพิ ม พ์ ห นั ง สื อ หรื อ
ในหนั ง สื อ เรื ่ อ ง ใบไม้ ก ำมื อ เดี ย ว จึ ง อยาก
การบอกกล่าวคนรู้จักให้อ่านหนังสือของดิฉัน
สนั บ สนุ น ให้ ท ่ า นผู ้ อ ่ า นใช้ ก ารออกกำลั ง กาย
ตลอดจนการเข้ามาช่วยเหลืองานของดิฉันอย่าง
ชนิดนี้เป็นเครื่องมือช่วยทำลายวงจรอันเลวร้าย
จริงจัง ขอบุญกุศลนี้เป็นเหตุปัจจัยช่วยให้ท่าน
ของชี ว ิ ต หากคนส่ ว นมากสามารถทำได้ ทั ้ ง หลายมี ค วามเจริ ญ ก้ า วหน้ า ในธรรมยิ ่ ง ๆ
ปัญหาสังคมก็จะค่อยๆ น้อยลงเอง ขึ ้ น ไป มี ค วามเพี ย บพร้ อ มด้ ว ย ศี ล สมาธิ
ปัญญา พบความสุขสงบในจิตใจ และสามารถ พาตัวใจกลับบ้าน
เดินทางออกจากคุกชีวิตในปัจจุบันชาตินี้ด้วย
ตอน เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจ
เทอญ
ศุภวรรณ พิพัฒพรรณวงศ์ กรีน
ชาวอิ น เดี ย และชาวจี น มี ค วามรู้ เ รื่ อ ง
ลมหายใจมานานนับพันปีแล้ว โยคะเป็นมรดก
ของชาวอินเดีย ชาวจีนก็มีเรื่องชี่กง หรือ การ
เดินพลังลมปราณ ซึ่งสามารถพัฒนาไปสู่เรื่อง
การดู แ ลสุ ข ภาพให้ แ ข็ ง แรง มี อ ายุ ยื น นาน
longevity ไปถึ ง เรื่ อ งใช้ ก ำลั ง ภายในในวิ ช า
ป้องกันตัว self defense หรือ การถ่ายพลังงาน
เพื่อรักษาโรคให้ผู้อื่น ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับลมหายใจ
ทั้งสิ้น ทุกวันนี้ การหายใจที่ถูกต้องถือว่าเป็น
การรั ก ษาโรคชนิ ด หนึ่ ง ฝรั่ ง เรี ย ก breathing
therapy ใครที่มีอาการตกใจ ช็อค คุมสติตัวเอง
ไม่ อ ยู่ หากมี ค นมาบอกเตื อ นว่ า หายใจลึ ก ๆ
๗
ช้าๆ และคนที่กำลังตกใจสามารถทำได้ด้วยละก็ ของคนๆ นั้นจะถูกกระทบและทรุดโทรมได้
เขาจะรู้สึกดีขึ้นอย่างรวดเร็ว จะคุมสติตัวเองอยู่ คนจีนจะมีคำว่า ขี่ฮวย ที่แปลตรงตัวว่า
หัวใจจะเต้นช้าลงได้ ฉะนั้น เรื่องลมหายใจและ เลือดลม หมายความว่า เลือดจะไหลเดินไปใน
วิธีการหายใจจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก หากทำให้ ร่างกายได้ ต้องอาศัยลม หรือ ชี่ นั่นเอง ฉะนั้น
ถูกต้องแล้ว ความทุกข์ใจจะน้อยลงได้ จำเป็น ลมกั บ เลื อ ดจึ ง ไปด้ ว ยกั น เมื่ อ พลั ง ชี่ ห รื อ ลม
ต้องเรียนรู้
อุ ด ตั น ที่ ต รงไหน เลื อ ดย่ อ มอุ ด ตั น ที่ ต รงนั้ น
ตันเถียน
มีเลือดลมดี
ชาวจี น เชื่ อ ว่ า ร่ า งกายของคนเรานี้ หากพูดเรื่องชี่แล้ว ต้องรู้จักคำว่า ตังชั้ง
สามารถอยู่ได้ด้วยพลังงานที่เขาเรียกว่า ขี่ หรือ (แต้จิ๋ว) หรือ ตันเถียน (จีนกลาง) The field
ชี่ chi energy เมื่อพูดถึงเรื่องพลังงานแล้ว ย่อมมี of energy เป็ น คำศั พ ท์ จี น ที่ ฝ รั่ ง ใช้ กั น อย่ า ง
ธรรมชาติ ข องการเคลื่อนไหล วนเวียนที่ครบ แพร่ ห ลาย ซึ่ ง อยู่ บ ริ เวณท้ อ งน้ อ ย ใต้ ส ะดื อ
๘
๙
วิธีการหายใจที่ถูกต้อง
ถามว่ า พลั ง ชี่ ม าจากไหน ก็ ม าจากลม
ที่เราหายใจเข้าไปนั่นเอง แต่ต้องเป็นการหายใจ
อย่างถูกต้อง คือ ต้องพยายามเอาลมที่เราสูด
เข้าไป ให้ถึงบริเวณตันเถียนที่อยู่ใต้ท้องน้อย เพื่อ
ร่างกายจะได้แจกจ่ายเลือดลมออกไปตามร่อง
พลังงาน หากลมที่หายใจเข้าไปไม่ถึงตันเถียน
ร่างกายก็แจกจ่ายพลังงานไม่ได้ ฉะนั้น จะทำ
อย่ า งไรจึ ง ให้ แ น่ ใจว่ า พลั ง ชี่ ที่ เราสู ด เข้ า ไป
สามารถเดินทางไปถึงบริเวณตันเถียนได้ คำตอบ
คื อ คุ ณ ต้ อ งฝึ ก ฝนการหายใจอย่ า งช้ า ๆ และ
ลึกๆ หากคุณไม่เคยทำมาก่อนเลย ขอให้ลอง
ถ้าเลือดลมดี การทำงานของอวัยวะภายในเหล่า หายใจตามวิธีการที่ดิฉันจะแนะให้ ตอนแรกอาจ
นี้ก็จะดีด้วย ทำให้สุขภาพแข็งแรง ถ้าเลือดลม
จะยากหน่อย แต่เมื่อคุณหัดทำบ่อยๆ จะง่ายขึ้น
ไม่ดี อวัยวะเหล่านี้ก็จะถูกกระทบไปด้วย เพราะ เอง วิธีการหายใจที่ถูกต้อง คือ
เลือดลมไปไม่ถึง
๑) หายใจเข้าช้าๆ ให้ลึกเท่าที่ทำได้โดย
ไม่ ต้ อ งฝื น มาก แม้ ไ ม่ ถึ ง ท้ อ งน้ อ ยใต้ ส ะดื อ ก็
๑๐
๑๑
ไม่เป็นไร
ทำลายเลือดลมที่อุดตัน
๒) เมื่ อ หายใจเข้ า จนสุ ด แล้ ว กลั้ น ลม การหายใจอย่ า งถู ก ต้ อ งเช่ น นี้ จะสร้ า ง
หายใจสักครู่หนึ่ง ประมาณ ๓-๕ วินาทีก่อน
แรงกดดัน หรือ แรงกระแทกในท่อพลังงาน หาก
๓) แล้วค่อยผ่อนลมหายใจออกอย่างช้าๆ
มีการอุดตันของเลือดลมในท่อพลังงานแล้ว แรง
๔) ยังไม่ต้องหายใจเข้าทันที กลั้นสักครู่ กระแทกจากการหายใจเช่ น นี้ จ ะช่ ว ยลอกเอา
แล้วค่อยหายใจเข้าช้าๆ อีก
ก้อนเลือดที่อุดตันออกไป เหมือนที่เราต้องทำกับ
ขอให้ ฝึ ก การหายใจเช่ น นี้ อ ย่ า งจริ ง จั ง ท่ อ น้ ำ ประปา หรื อ ท่ อ อะไรสั ก อย่ า งที่ มี ข อง
ประมาณ ๑๐-๑๕ นาที หากทำไปพร้อมกับการ อุ ด ตั น สิ่ ง ที่ คุ ณ ต้ อ งทำ คื อ อั ด แรงลมเข้ า ไป
ออกกำลังกายไท้เก็กชี่กงได้ ก็จะยิ่งดี เมื่อทำไป มากๆ เพื่ อ กระแทกให้ สิ่ ง อุ ด ตั น ออกมา ท่ อ
เรื่ อ ยๆ ต่ อ ไปจะสามารถหายใจได้ ลึ ก มากขึ้ น พลังงานในร่างกายของเราก็ต้องรับการแก้ไข
และจะกลั้นลมหายใจได้นานขึ้นด้วย พอกลั้นได้ เช่นนั้นหากมีการอุดตันขึ้นมา แต่เมื่อท่อพลังงาน
นานขึ้ น การหายใจจะยิ่ ง ช้ า และลึ ก มากขึ้ น ๑๒ ท่อเหล่านี้มันอยู่ในร่างกายของเรา แล้วเรา
สามารถนำลมเข้าถึงบริเวณตันเถียนได้ง่ายขึ้น จะเป่ า ลมเพื่ อ ให้ เ กิ ด แรงกระแทกได้ อ ย่ า งไร
เมื่ อ ฝึ ก บ่ อ ยๆ การหายใจอย่ า งถู ก วิ ธี เ ช่ น นี
้ คำตอบคือ คุณต้องหายใจอย่างถูกต้องนั่นเอง
จะกลายเป็ น นิ สั ย จะสามารถทำได้ อ ย่ า งเป็ น ฝรั่งเรียก dredge the channels ซึ่งนอกจากช่วย
ธรรมชาติมากขึ้นแม้ไม่ได้ตั้งใจทำก็ตาม
แก้ปัญหาเรื่องการอุดตันของพลังงานในท่อแล้ว
ยั ง เป็ น การป้ อ งกั น ไม่ ใ ห้ เ กิ ด การอุ ด ตั น ของ
๑๒
๑๓
พลั ง งานในท่ อ พลั ง งานอี ก ด้ ว ย ซึ่ ง ข้ อ หลั ง นี่ ต่างๆ ของร่างกาย
สำคั ญ มากกว่ า เพราะมั น หมายถึ ง การดู แ ล
รักษาสุ ข ภาพของตนเองโดยการหายใจอย่าง
หายใจป้องกันโรค
ถูกต้องจนเป็นนิสัยนั่นเอง
คนที่ไม่เคยหัดหายใจอย่างถูกต้องเช่นนี้
มักหายใจตื้นๆ สูดลมเข้าถึงหน้าอกแล้วก็ปล่อย
ไท้เก็ก ชี่กง
ออกทันที การหายใจอย่างรีบเร่ง สั้นๆ ตื้นๆ
การออกกำลังกายแบบไท้เก็ก ชี่กง ล้วน เช่ น นี้ ใ นระยะยาว จะมี ผ ลกระทบต่ อ ร่ า งกาย
เป็นเรื่ อ งที่ เ น้ น การหายใจอย่างถูกต้อง ท่ารำ
เหตุผลง่ายๆ ข้อแรกคือ ออกซิเจนเป็นสิ่งจำเป็น
ไท้เก็กและชี่กงเป็นการบังคับให้พลังชี่เดินไปตาม ต่ อ การฟอกเลื อ ดให้ แ ดงเพื่ อ เอาไปใช้ ง านต่ อ
ร่ อ งต่ า งๆ ของพลั ง งาน การยกมื อ คว่ ำ มื อ การหายใจสั้ น ๆ ตื้ น ๆ เช่ น นี้ ไม่ ไ ด้ ช่ ว ยนำ
หงายมือ ตั้งมือให้นิ้วชี้ขึ้นฟ้า การถ่ายน้ำหนัก ออกซิ เจนเข้ า ไปในร่ า งกายอย่ า งเต็ ม ที่ การ
ของขาเหล่านี้ล้วนเป็นรายละเอียดของการส่ง หายใจอย่างผิดวิธีเช่นนี้ พลังชี่ก็ไปไม่ถึงบริเวณ
พลังงานจากตันเถียนไปตามท่อพลังงานต่างๆ ตั น เถี ย นที่ ใ ต้ ท้ อ งน้ อ ย ร่ า งกายจึ ง ไม่ ส ามารถ
ทั้งสิ้น ถ้าผู้ฝึกสามารถหายใจอย่างถูกต้องคือ แจกจ่ายพลังงานออกไปตามร่องพลังงาน การ
ช้าๆ ลึกๆ แล้ว ลมที่เดินไปตามท่อนั้นจะมีแรง อุดตันของเลือดลมจะเกิดตามมา อวัยวะภายใน
เพียงพอที่จะนวดอวัยวะภายในของเราด้วย เพื่อ ของเรา เช่น หัวใจ ปอด ตับ ไต ไส้พุง ทุกอย่าง
เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของอวัยวะส่วน ก็จะถูกกระทบไปหมด
๑๔
๑๕
ถ้ า เราหายใจถู ก ต้ อ ง ช้ า ๆ ลึ ก ๆ แล้ ว
นาน จึงขอให้เข้าใจก่อนว่า ในส่วนปัจเจกชน
ตันเถียนจะสามารถส่งทั้งพลังชี่และเลือดอันมี คนหนึ่ ง ๆ แล้ ว ต้ อ งพยายามสร้ า งหรื อ หา
ออกซิเจนในระดับสูงเข้าไปในร่างกาย ซ่อมแซม สิ่งแวดล้อมที่ดีให้ตนเองเพื่อง่ายต่อการหายใจ
ส่ ว นที่ สึ ก หรอได้ ดี ขึ้ น ฉะนั้ น โรคหลายอย่ า ง อย่างถูกต้องได้
สามารถป้องกันไม่ให้เกิดได้โดยการหายใจอย่าง
ถูกต้องเท่านั้น การรำไท้เก็ก ชี่กงจึงนับเป็นการ
ออกกำลังกายที่ป้องกันโรคได้ โดยการทำบ่อยๆ
ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า
นี่ ไ ม่ ใช่ เ ป็ น การรั ก ษาโรคที่ เ กิ ด แล้ ว ให้ ห ายไป
แต่เป็นการป้องกันโรคร้ายต่างๆ ไม่ให้เกิดขึ้น
๒๖
๒๗
จะสามารถควบคุ ม การหายใจให้ ช้ า ๆ ลึ ก ๆ
ได้ คื อ หายใจอย่ า งถู ก ต้ อ งได้ นั่ น เอง จึ ง จะ
สามารถนำพลั ง ชี่ เ ข้ า ถึ ง บริ เ วณตั น เถี ย น
ที่ ท้ อ งน้ อ ยได้ ตั น เถี ย นจึ ง สามารถทำหน้ า ที่
แจกจ่ายพลังชี่พาเลือดลมไปตามร่องพลังงาน
เลื อ ดลมที่ อุ ด ตั น ก็ จ ะถู ก กระแทก ทะลุ ท ะลวง
ออกไป ทำให้ ร่ า งกายสบายขึ้ น หนั ง ยางเส้ น
ใหญ่ๆ ที่รัดตัวกายไว้ก็จะค่อยๆ ถูกปลดออก
เมื่อร่างกายไม่เกร็งมาก จิตใจและสมองก็ค่อย
ลมหายใจ การหายใจอย่ า งมี ค วามรู้ สึ ก ตั ว
เบาลง ความคิ ด จะน้ อ ยลง รู้ สึ ก ปลอดโปร่ ง
ทั่ ว พร้ อ มนั้ น ก็ คื อ การเอาตาใจมามองที่ ล ม
มากขึ้น
หายใจของเรา เมื่อตาใจมองลม ก็ย่อมเห็นลม
ฉะนั้ น จะเห็ น ได้ ว่ า เคล็ ด ลั บ ของการ ที่สูดเข้าและพ่นออก ตรงนี้แหละ ผู้ฝึกพาตัวใจ
หายใจที่ ถู ก ต้ อ งจึ ง อยู่ ที่ ก ารมี ค วามรู้ สึ ก ตั ว
กลับบ้านที่ ๑๑ จะสามารถบังคับลมหายใจของ
ทั่วพร้อมในขณะที่กำลังหายใจอยู่ จะทำอย่างไร ตนเองให้เข้าออกอย่างช้าๆ และลึกๆ ได้ตาม
จึงจะมีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมได้ทุกครั้งที่หายใจ ที่ต้องการ การหายใจเช่นนี้จึงเรียกว่า หายใจ
คำตอบคือ คุณต้องฝึกเรื่องสติปัฏฐานสี่ หรือ ๑
อ่านเรื่อง “ทำอย่างไรให้หายกลุ้มใจ หนังสือเล่มที่ ๒ ของโครงการ
พาตั ว ใจกลั บ บ้ า น หน้ า ตาของบ้ า นที่ ๑ คื อ
หนังสือชุด พาตัวใจกลับบ้าน เขียนโดย ศุภวรรณ กรีน
๒๘
๒๙
อย่างรู้สึกตัว หายใจอย่างมีสติ พระพุทธเจ้ามี สามารถหาทางกลับบ้านได้ทันทีที่หายใจอย่าง
ศัพท์โดยเฉพาะว่า อานาปานสติ แปลตรงตัวว่า ถูกต้อง ความตกใจกลัวจากการหลงทางจึงหาย
การมีสติอยู่กับลมหายใจนั่นเอง
ไป ทำให้รู้สึกดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ตรงนี้แหละ หากใครรู้เรื่องสติปัฏฐานสี่
วงจรอันดีเลิศ
หรื อ การพาตั ว ใจกลั บ บ้ า น จะได้ เ ปรี ย บมาก
การหายใจอย่างมีสติไม่เพียงแต่ช่วยให้ ที เ ดี ย ว จะรู้ วิ ธี ก ารหายใจอย่ า งถู ก ต้ อ งเสมอ
ร่างกายรับออกซิเจนและทำให้มีเลือดลมดีขึ้น โดยการปฏิบัติ เมื่อหายใจถูกต้องบ่อยๆ ย่อม
เท่ า นั้ น ความลึ ก ซึ้ ง ยั ง มี ม ากกว่ า นั้ น อี ก ดั ง หมายความว่า ตัวใจอยู่ติดบ้าน เจอรี่เข้าบ้านเรา
ตัว อย่ า งที่ ดิ ฉั น ได้ เ กริ่ นไว้แต่ ต้น ว่า คนที่ ตกใจ ไม่ได้ ความคิดในหัวก็จะค่อยๆ น้อยลง ไม่ถูก
สุดขีด เกิดอาการช็อคนั้น หากมีคนเตือนให้เขา เจอรี่ ถ ล่ ม ปั ญ ญาจึ ง เกิ ด สามารถคิ ด อย่ า ง
หายใจช้าๆ และลึกๆ แล้ว ความตกใจกลัวของ ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ความกลัวตาย
เขาจะค่ อยๆ หายไป หากพูดภาษาของตัวใจ
จะน้อยลง เมื่อไม่กลัวตายสักอย่าง ความกลัว
และบ้านของใจแล้ว ย่อมหมายความว่า ความ อย่ า งอื่ น ๆ ก็ ค่ อ ยๆ หายไป เช่ น ไม่ ก ลั ว จน
นี่แหละคือ การใช้ชีวิตอย่างมีรากแก้วแล้วโดยที่
เจ้ า ตั ว ไม่ รู้ นี่ คื อ ผลกระทบอั น วิ เ ศษสุ ด หาก
วัฒนธรรมสติปัฏฐานเหล่านี้สามารถแพร่หลาย
ออกไปในวงกว้าง
ตรงนี้สำคัญมาก หากผู้นำรัฐ หรือ ผู้นำ
ทางการศึกษาสามารถนำไท้เก็ก ชี่กง โยคะ เข้า
สู่ ร ะบบการศึ ก ษา โดยให้ เ ป็ น วิ ช าพละศึ ก ษา
ชนิดหนึ่ง บังคับให้เด็กๆ ทำแล้ว เด็กๆ จะเริ่มใช้
ชีวิตอย่างมีรากแก้ว พอเข้าวัยหนุ่มสาว อันเป็น สติ ปั ฏ ฐานแล้ ว ไซร้ เขาจะไม่ ใ ช้ ชี วิ ต อย่ า ง
วัยทีม่ กั ถูกฮอร์โมนถล่ม รวมทัง้ ขาดประสบการณ์
ลมพัดลมเพตามคำสั่งของเจอรี่ถ่ายเดียว หรือ
ชีวิต จึงทำให้ชีวิตหนุ่มสาวทั่วไปปั่นป่วนได้มาก ใช้ ชี วิ ต ไปตามยถากรรม แม้ เขาจะไม่ รู้ เรื่ อ ง
แต่หากหนุ่มสาวเหล่านี้มีพื้นฐานจากวัฒนธรรม วิปัสสนาเลยก็ตาม ก็ยังไม่เป็นไร ชีวิตของเขาจะ
๓๘
๓๙
ไม่เตลิดไกลจากหลัก หรือรากแก้วของเขา
วงจรแห่งความสวยงาม
หากผู้ น ำรั ฐ สามารถสร้ า งนโยบายของ
ชาติโดยฝึกหัดให้คนหายใจอย่างถูกต้องเท่านั้น
การแก้ปัญหาสังคมจะเกิดขึ้นทันที นี่เป็นโดมิโน่
ตัวแรกที่ต้องล้ม เมื่อสมาชิกหมู่มากของสังคม
หายใจอย่างถูกต้อง ปัญหาสังคมอื่นๆ จะล้ม
ตามอย่างระเนระนาด ปัญหาบางอย่างจะไม่เกิด
เลย การสร้างวัฒนธรรมสติปัฏฐานจึงเป็นสิ่ง
ที่ รั ฐ สามารถทำได้ ดี ที่ สุ ด เพื่ อ รั บ ประกั น ว่ า วงจรอันสวยงาม อันเป็นผลจาก
ประชาชนในรัฐจะอยู่อย่างเป็นสุขและเป็นทุกข์ สมาชิกในสังคมหายใจอย่างถูกต้อง
น้อยที่สุด
ถ้ารัฐทำได้เช่นนี้ ปัญหาสังคมจะน้อยลง แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
เอง คนก็มีกำลังใจอยากออกจากบ้านไปทำงาน ถ้ารัฐไม่เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจโดยการ
เพราะรู้ว่า เขากำลังช่วยแก้ปัญหาอย่างแท้จริง สร้างวัฒนธรรมสติปัฏฐานแล้วไซร้ รับประกันได้
เกิดเป็นวงจรแห่งความสวยงามอีกวงหนึ่ง
ว่า ทุกอย่างที่รัฐทำ ล้วนแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
๔๐
๔๑
ชำเรา ข่ ม ขื น เด็ ก ๆ เหล่ า นี้ อ อกจากคุ ก ก่ อ น
กำหนด อาชญากรรมทางเพศซึ่งมีมากอยู่แล้ว
จนแก้ไม่ตกจะต้องมีมากขึ้น แม้การแก้ปัญหา
เรื่ อ งบรรยากาศของโลกในขณะนี้ ตามที่ คุ ณ
อั ล กอร์ แ นะนำให้ ท ำในภาพยนตร์ ส ารคดี ที่
หวือหวามากเรื่อง An Inconvenient Truth นั้น
ล้ ว นเป็ น เรื่ อ งการแก้ ปั ญ หาที่ ป ลายเหตุ ทั้ ง สิ้ น
ทั้งสิ้น เท่ากับเผาผลาญทรัพยากร ธรรมชาติ และต้องนับว่าสายเกินแก้แล้วก็ได้ มนุษย์จะเอา
และบุคคลโดยใช่เหตุ ให้เวลาอีก ๑๐-๑๐๐ ชาติ น้ ำ ยาอะไรไปหยุ ด การละลายของก้ อ นน้ ำ แข็ ง
ก็ยังแก้ปัญหาสังคมไม่หมด เพราะการแก้ปัญหา มหึมาเหล่านั้นได้
ที่ ป ลายเหตุ เ ท่ า กั บ การเพิ่ ม ปั ญ หาให้ สั ง คม
เป็ น ทวี คู ณ การทำงานของกรมตำรวจ กรม วงจรอันเลวร้าย
ประชาสงเคราะห์ เช่น เรื่องการจับผู้ร้ายล้วน อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
เป็ น เรื่ อ งแก้ ปั ญ หาที่ ป ลายเหตุ ทั้ ง สิ้ น ข่ า วที่ นี่ เ องที่ ท ำให้ ค นทำงานกลุ่ ม ใหญ่ ข องโลก
อั ง กฤษอาทิ ต ย์ นี้ ล้ ว นเป็ น เรื่ อ งคุ ก เต็ ม ไม่ มี ที่
หมดอาลัยตายอยากในชีวิต ไม่อยากไปทำงาน
แม้ให้กับนักโทษอีก ๑ คน จนศาลต้องปล่อยให้ เพราะรู้ ว่ า งานที่ ท ำนั้ น ไม่ ไ ด้ ช่ ว ยเหลื อ ให้ ค น
อาชญากรทางเพศ paedophile ที่ชอบกระทำ อยู่เย็นเป็นสุขอย่างแท้จริง ไม่เกิดความภูมิใจใน
๔๒
๔๓
งานที่ทำอยู่ จึงกลายเป็นความกดดันและความ
ควรร้องไห้หรือหัวเราะดี
เครี ย ด เกิ ด โรคภั ย ไข้ เ จ็ บ หรื อ ไม่ ก็ ไ ปทำผิ ด
ประมาณ ๓ ปีก่อน รัฐบาลอังกฤษของ
ศีลธรรมเพื่อคลายเครียด ซึ่งป้อนกลับมาเป็น โทนี่ แบลร์ คิดจะส่งหนังสือเล่มเล็กๆ จำนวน
ปัญหาสังคมอีก และรัฐบาลก็แก้ปัญหาที่ปลาย ๒๕ ล้ า นเล่ ม ให้ กั บ ทุ ก ครอบครั ว ในอั ง กฤษ
เหตุอีก จึงเกิดวงจรแห่งความเลวร้ายอีกวงหนึ่ง เพื่ อ บอกวิ ธี ก ารให้ ค นเตรี ย มตั ว เองหากเกิ ด
อย่างเห็นได้ชัด นั่นคือ
เหตุการณ์ผู้การการร้ายโจมตี เช่น ให้ตุนน้ำดื่ม
อาหารกระป๋องไม้ขีด เทียนไข ไฟฉาย เทปกาว
เพื่ อ ปิ ด ช่ อ งหน้ า ต่ า งหากมี ก ารใช้ อ าวุ ธ เคมี
เป็นต้น ขณะนั้น ลูกชายคนเล็กของดิฉันกำลัง
ทำงานอยู่ ใ นห้ า งสรรพสิ น ค้ า ที่ เ ปิ ด ใหม่ ข อง
เมืองเบอร์มิ่งแฮมชื่อ The Bull Ring (สมัยก่อน
เป็นตลาดขายวัว) ซึ่งสถานที่นี้เป็นเป้าหนึ่งที่ผู้
ก่อการร้ายเพ่งเล็งอยู่เพราะเป็นสัญลักษณ์ของ
นายทุนอเมริกันและอังกฤษ
ดิฉันฟังพ่อลูกเขาคุยกัน พ่อห่วงลูกชาย
วงจรอันเลวร้าย
มาก พยายามให้คำแนะนำลูกว่าควรทำอะไร
เนื่องจากการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
อย่างไร หากมีคนมาวางระเบิดในห้างสรรพ-
๔๔
๔๕
สินค้านี้ ดิฉันฟังเรื่องเหล่านี้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าอยาก ผู้นำรัฐต้องเป็นนักบุญ
จะร้องไห้หรือหัวเราะดี นี่ต้องเรียกว่าเลยกลียุค แน่นอน ผู้นำที่จะนำประเทศชาติไปสู่จุดที่
แล้ว และโลกกำลังเดินเข้าสู่มิคสัญญียุคจริงๆ ช่วยให้ประชาชนมีทุกข์น้อยที่สุดได้นั้น ต้องมี
ดิ ฉั น เห็ น ความกลั ว ตายของคนแล้ ว ก็ ส งสาร
องค์ ป ระกอบอื่ น ด้ ว ย คื อ ต้ อ งเป็ น ผู้ น ำรั ฐ ที่ มี
แต่ครั้นมาบอกให้คนป้องกันตัวเองเช่นนั้นเช่นนี้ คุณสมบัติไม่น้อยกว่าการเป็นนักบุญ saint คือ
มันจะช่วยอะไรได้ คิดบอกลูกอยู่ในใจว่า มาฝึก ต้องไม่กลัวว่าจะไปขัดผลประโยชน์ของคนรวย
วิปัสสนากับแม่ไม่ดีกว่าหรือ
ต้องไม่กลัวตาย ต้องกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ
ในขณะที่บ้านเมืองมีเหตุการณ์คับขันนั้น ในสิ่งที่ถูกต้องจริงๆ ต้องรู้ว่าเรื่องถูกต้องมีเรื่อง
สิ่งดีที่สุดที่แต่ละคนทำได้ คือ การไม่กลัวตาย เดียวคือ เรื่องออกจากคุกชีวิตเพื่อไปนิพพาน
ถ้าเกิดเหตุการณ์คับขัน ถึงเวลาต้องตาย ก็ต้อง หรือรู้จักสภาวะสัจธรรมอันสูงสุด และพยายาม
รู้จักการเตรียมตัวตายอย่างสงบ อย่างที่ดิฉัน จั ด องค์ ก ร ทำทุ ก อย่ า งให้ ส อดคล้ อ งกั น เพื่ อ
แนะนำให้ทำในคู่มือชีวิต ซึ่งก็วกกลับมาสู่เรื่อง บรรลุ เ ป้ า หมายอั น สู ง สุ ด นั้ น ไม่ ใช่ พู ด อย่ า ง
การทำความรู้สึกตัวที่ลมหายใจอีกเช่นกัน ใครที่ ทำอีกอย่าง
มีสติอยู่กับลมหายใจได้ จะไม่กลัวตาย
ขอให้ ดู ค วามแตกต่ า งของสองวงจรนี้
ซึ่ ง ขึ้ น อยู่ ที่ ว่ า มี ผู้ น ำรั ฐ ประเภทไหน หากมี ผู้
นำรัฐที่ถนัดการแก้ปัญหาปลายเหตุ วงจรอัน
เลวร้ายนี้ย่อมเกิด
๔๖
๔๗
วงจรอันเลวร้าย
วงจรอันสวยงาม
เมื่อมีผู้นำรัฐที่มืดบอด มีอวิชชา
เมื่อมีผู้นำรัฐที่มีสัมมาทิฏฐิ รู้เรื่องการ
ออกจากคุกชีวิต
แต่หากผู้นำรัฐสามารถฝึกให้คนหมู่มาก
หายใจอย่างถูกต้อง ก็จะเกิดวงจรอันสวยงาม
ในระดับสังคมส่วนกว้าง ระดับประเทศนั้น
อีกวงหนึ่งคือ
ตัวแปรอยู่ที่ผู้นำรัฐกับผู้รู้ความถูกต้อง หรือ คน
๔๘
๔๙
รู้ เรื่ อ งนิ พ พาน หากทั้ ง สององค์ ก รสามารถ ยาสูบ เพราะเห็นว่าการสูบบุหรี่ไม่ดี เป็นเรื่อง
ทำงานร่วมกันได้แล้ว นี่จะเป็นตัวแปรที่สามารถ ผิ ด ศี ล ธรรม การกี ฬ าของประเทศนี้ คื อ การ
ช่วยเหลือคนหมู่มากให้แหวกออกจากวงจรอัน ยิงธนู เขาจะจำกัดการเข้าเมืองของนักท่องเที่ยว
เลวร้าย หรือ ช่วยกวาดต้อนให้ผู้คนออกจาก ปี ล ะ ๒๐๐ คน ทำนองนั้ น สิ บ ปี แรกที่ ม าอยู่
สังสารวัฏได้อย่างแท้จริง
อังกฤษ ดิฉันมักติดตามสารคดีที่เกี่ยวข้องกับ
แต่ ใ นส่ ว นของปั จ เจกชนแล้ ว ตั ว แปร
ประเทศภูฏาน ตอนเขียนเรื่องใบไม้กำมือเดียว
ที่ ส ำคั ญ ก็ ยั ง คงอยู่ ที่ ก ารบั ง คั บ ลมหายใจของ ยั ง ปลื้ ม ใจต่ อ ความเข้ ม ข้ น ของวั ฒ นธรรม
ตนเอง แปรตัวนี้ได้แล้ว เจ้าของชีวิตก็จะแหวก สติ ปั ฏ ฐานของประเทศนี้ จนกระทั่ ง เมื่ อ ไม่ กี่
ออกจากวงกลมอันเลวร้ายได้ หรือ แหวกออก สิบวันนี่เอง ได้ดูข่าวเรื่องของภูฏานอีก ระบบ
จากสังสารวัฏได้
โลกาภิวัฒน์ globalization ได้ทำให้สังคมของ
ภูานเปลี่ยนไปมากอย่างน่าใจหาย และเปลี่ยน
วัฒนธรรมสติปัฏฐานของภูฏาน
อย่ า งรวดเร็ ว มากด้ ว ย โดยเริ่ ม จากผู้ น ำรั ฐ
ได้ จั ง หวะพู ด เรื่ อ งประเทศภู ฏ านที่ อ ยู
่
ยอมให้ มี ก ารติ ด ตั้ ง โทรทั ศ น์ ผ่ า นดาวเที ย ม
ในเทื อ กเขาหิ ม าลั ย คนส่ ว นมากนั บ ถื อ พุ ท ธ จำนวน ๔๘ ช่องได้ทันที เขาบอกว่า เด็กๆ ที่
ศาสนา ดิ ฉั น รู้ จั ก ประเทศนี้ ก็ เ พราะได้ อ่ า น เคยวิ่ ง เล่ น ไปมาอย่ า งไร้ เ ดี ย งสานั้ น เดี๋ ย วนี
้
สูดอากาศบริสุทธิ์เพื่อเอาพลังชี่ที่สดๆ เข้าไป
ในร่างกาย
ดิฉันได้ทำดีวีดีชุด พาตัวใจกลับบ้านกับ
การรำไท้เก็กชี่กงไว้แล้ว พร้อมกับบทสัมภาษณ์
ที่ได้อธิบายให้ผู้ชมเข้าใจเรื่องการใช้ ตาใจ ของ
ตนเอง
จึ ง หวั ง เป็ น อย่ า งยิ่ ง ว่ า บทความนี้ จ ะ
สามารถช่วยให้คุณทำลายวงจรอันเลวร้ายของ
๕๔
๕๕
บทที่ ๒
เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจ
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๔๗
สวัสดีครับคุณศุภวรรณ
ผมชือ่ สัญญาครับ เป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่ดีดพิมพ์ภาษาอังกฤษได้เร็วกว่าดีดภาษาไทย
ครับ จึงต้องเขียนมาเป็นภาษาอังกฤษ หวังว่า
คุณคงไม่รังเกียจนะครับ
ผมเริ่ ม สนใจพุ ท ธศาสนาตั้ ง แต่ ผ มเป็ น
นั ก ศึ ก ษาอยู่ ม หาวิ ท ยาลั ย แล้ ว ครั บ ได้ เรี ย นรู
้
แนวการปฏิบัติของหลวงพ่อเทียนมาหลายปีอยู่
แต่ผมคิดว่า ผมยังไม่ได้เดินถูกทางเท่าไร ผมได้
อ่ า นเรื่ อ ง “คู่ มื อ ชี วิ ต ” ของคุ ณ แล้ ว ให้ แรง
บั น ดาลใจแก่ ผ มได้ ม ากครั บ คุ ณ ใช้ ภ าษาที่
๕๗
คนธรรมดาเข้าใจได้ และมีความกล้าหาญที่จะ ฅถูกต้องครับ
พูดความจริง
๒) บางครั้ ง ผมพยายามดู ล มหายใจใน
ห ลั ง จ า ก อ่ า น ห นั ง สื อ ข อ ง คุ ณ แ ล้ ว
ขณะที่อยู่ในที่ชุมนุมชน เช่น บนรถเมล์ ทำแล้ว
ผมอยากคุ ย กั บ คุ ณ มากครั บ แต่ คุ ณ อยู่ ไ กล
ก็ไม่เห็นรู้สึกผ่อนคลายเลยครับ กลับรู้สึกแน่น
๖๒
๖๓
ที่ น าฬิ ก าเรื อ นใหญ่ ที่ มี เข็ ม วิ น าที ถ้ า เป็ น แบบ เช่นนั้น ซึ่งมีทั้งอาการเคลื่อนอันเป็นหน้าตาของ
กวาดตลอดเวลาได้จะยิ่งดีค่ะ สมมุติให้ตาเนื้อ บ้านที่ ๑ และความรู้สึกของมือที่แตะพื้นอันเป็น
ของคุณเป็นตาใจ และเข็มวินาทีที่เคลื่อนตลอด
หน้าตาของบ้านที่ ๒ ขอให้คุณหัดดูตามอาการ
เป็นอาการที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินจงกรม คุณ เคลื่ อ นและความรู้ สึ ก ในขณะที่ มั น เกิ ด จริ ง ๆ
เห็นหรือไม่ว่า การจะรับรู้การเคลื่อนของเข็ม อะไรที่เห็นชัดเจน ก็ดูเข้าไป อะไรที่ผ่านไปแล้ว
วิ น าที คุ ณ ต้ อ งดู ต ามอาการเคลื่ อ นทั้ ง หมด
ก็ผ่านไปเลย คุณไม่ต้องไปตอแยว่า เมื่อกี้นี้ไม่ได้
ในขณะที่ มั น เกิ ด ขึ้ น อะไรที่ คุ ณ เห็ น ได้ ชั ด ก็ ดู เห็นตรงนั้นตรงนี้ เพราะนี่ล้วนเป็นหลุมพราง
เข้าไปตรงนั้น แต่มันจะเคลื่อนไปเรื่อยๆ คุณก็ ที่เจอรี่จะหาทางเข้ามาหลอกล่อคุณ และไม่ต้อง
ต้องตามดูมันไปเรื่อยๆ
ไปเพ่งอะไรมากด้วย ดูอย่างสบายๆ เหมือนดู
จะให้ ดี แ ล้ ว ขอให้ คุ ณ หลั บ ตาเนื้ อ ก่ อ น เข็มนาฬิกาเคลื่อนไปเรื่อยๆ ตราบใดที่มือหรือ
และฝึกเคลื่อนมือขึ้นลงช้าๆ ก่อน ทำให้เหมือน เท้าเคลื่อน ตาใจของเราจะมีสิ่งที่ให้มองตลอด
อาการของการเดิน โดยที่มีการยกมือขึ้นช้าๆ เวลา จึ ง ไม่ ต้ อ งไปเสี ย ดายสิ่ ง ที่ เราไม่ ไ ด้ เ ห็ น
และค่อยๆ หย่อนลง พอสุดแล้ว ก็เอามือมาแตะ เมื่อกี้นี้ ดูของใหม่ที่อยู่เบื้องหน้าทันที
ที่ตัก กดลงไปเหมือนที่เรากดเท้าลงพื้น จะเอา เมื่ อ ฝึ ก การดู ก ารเคลื่ อ นไหวกั บ มื อ แบบ
สันมือลงก่อน หรือ นิ้วลงก่อน แล้วต่อด้วยมือ หลั บ ตาแล้ ว ก็ ล องทำแบบลื ม ตาด้ ว ย โดยที่
ส่วนกลางก็ได้ ทำอาการเลียนแบบเท้าแตะพื้น ตามองไปข้างหน้า ไม่ต้องดูมือ แต่ตาใจยังจับ
เข้าใจนะคะ แล้วคุณก็ฝึกดูอาการเคลื่อนของมือ อาการเคลื่อนของมือและความรู้สึกได้ชัดเจนอยู่
๖๔
๖๕
เมื่อทำได้แล้ว คุณก็นำวิธีการนั้นมาใช้กับการ เรื่ อ งอาจารย์ กั บ ลู ก ศิ ษ ย์ เ ป็ น เรื่ อ งของ
เดิน ในการเดินนั้น คุณไม่ควรหลับตา เพราะจะ เกลี ย วสลั ก สองเกลี ย วที่ ต้ อ งเข้ า กั น ได้ อ ย่ า ง
ทำให้เสียสมดุล
พอดิบพอดี เมื่อคุณปฏิบัติตามเช่นนี้แล้ว มีความ
คุ ณ ไม่ ต้ อ งไปสนใจเรื่ อ งทำตั ว เองให้ รู้สึกว่าทำได้ และทุกข์น้อยลง คุณก็ต้องเริ่มเชื่อ
เหมือนกระจกนะคะ ดิฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ในประสบการณ์ของตนเองแล้วค่ะ เอาผลที่ได้
ทำอย่างไร ขอให้ทำตามที่แนะนำเช่นนี้ คุณจะไม่ จากการปฏิ บั ติ ข องตนเองเป็ น หลั ก อาจจะมี
๖๖
๖๗
ต้องเลิกทำ จึงอยากถามว่าผมควรทำอย่างไรใน
ขณะที่อยู่ต่อหน้าคนหมู่มาก โดยที่คนอื่นไม่มอง
เราว่า “เพี้ยน”
ในขณะที่ อ ยู่ ต่ อ หน้ า คนหมู่ ม าก ถ้ า ดู
๗๐
๗๑
ปลอดภัย อันตรายมาไม่ถึงตัว
จากนั้น ก็ฟังคู่สนทนาไปแบบเข้าหูซ้าย
ทะลุหูขวา ไม่ต้องตอบโต้ ไม่ต้องเพ้อเจ้อตามเขา
ทำตัวใจของคุณให้อยู่ติดบ้าน ๑-๒ ทำเช่นนี้
แล้ ว รั บ รองว่ า จะไม่ มี ใ ครรู้ ว่ า คุ ณ กำลั ง ทำ
วิปัสสนาอยู่ และไม่มีอาการเพี้ยนแน่นอน แม้
ทุกวันนี้ ดิฉันก็ยังทำความรู้สึกตัวกับลูกประคำ
เวลาคุยกับคนอื่นอยู่
เท่ากับการพยายามหยั่งรากแก้วให้ชีวิตตนเอง
คุณต้องหาวิธีการที่จะพาตัวใจกลับบ้าน สร้างนิสัยแห่งใจที่ดี จะปรับตัวใจให้เป็นปกติได้
เอาเอง ดิฉันจะมีก้อนหินขนาดต่างๆ วางอยู่ตรง เร็วมาก ทำให้ความมั่นใจในตนเองกลับมาได้เร็ว
ม้านั่ง เวลานั่งในสวนคุยกับสามี ลูก ญาติ หรือ เพราะไม่ถูกมายาของความคิดและความรู้สึก
เพื่ อ นก็ ต าม คุ ย ไป ดิ ฉั น จะนั่ ง ลู บ ก้ อ นหิ น นั้ น
หวั่นไหวหลอกลวงเอา
ไปด้วย ยิ่งมีตรงไหนขรุขระ ก็ยิ่งดี รู้สึกตัวได้ ถามว่า เวลาที่ผมปฏิบัตินั้น ความคิดของ
ชัดเจนมากขึ้น ทำให้ตัวใจไม่เสียสมดุล ไม่เสีย ผมจะมีมาก มักมาบอกให้ผมไปทำโน่นทำนี่เสมอ
ศู น ย์ คนก็ เ ห็ น เพี ย งว่ า ดิ ฉั น ลู บ ก้ อ นหิ น แต่
ผมรู้สึกว่ามี “ตัวผม” ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้
ที่จริงดิฉันทำวิปัสสนาอยู่
แต่ ท ำไมหนั ง สื อ ธรรมะทุ ก เล่ ม บอกว่ า “ไม่ มี
การฝึ ก วิ ปั ส สนาต่ อ หน้ า คนอื่ น เช่ น นั้ น ตัวตน” ละครับ ผมรู้สึกเช่นนั้นไม่ได้
๗๒
๗๓
คำสอนเรื่อง “ไม่มีตัวตน” ที่จริงเป็นคำ ผลที่เกิดจากการปฏิบัติอย่างถูกต้องในเบื้องต้น
สอนที่ลึกซึ้ง เป็นขั้นตอนช่วงท้ายๆ ซึ่งจะเข้าใจ และท่ า มกลาง เมื่ อ ปฏิ บั ติ ถู ก ต้ อ งแล้ ว จะมี
ได้ก็ต่อ เมื่ อ เกิ ด ปั ญ ญาจากการได้ปฏิบัติในขั้น ปฏิเวธ ปัญญาจะเกิด ทำให้มองเห็นสภาวะของ
เบื้ อ งต้ น แล้ ว ปั ญ หาเรื่ อ งความสั บ สนของ
ความไม่มีตัวตนได้ ซึ่งเป็นสภาวะที่พูดหรือเขียน
คนใฝ่ ห าธรรมนี่ คงต้ อ งไล่ จ ากการสอนตาม เป็ น ตั ว หนั ง สื อ ไม่ ไ ด้ เมื่ อ เขี ย นหรื อ พู ด ออกมา
ประเพณี และการสอนตามตำรา เพราะผู้สอน
ก็ไม่ใช่สภาวะไม่มีตัวตนเสียแล้ว จึงเพิ่มความ
ที่ยังไม่ได้บรรลุธรรมนั้นจำเป็นต้องพูดสอนตาม ยากเข้าไปอีก
พระพุทธเจ้า และครูบาอาจารย์ในอดีตที่ส่งทอด ฉะนั้ น คนที่ เ พิ่ ง เข้ า มาปลุ ก ปล้ ำ กั บ การ
กันมา เมือ่ มาถึงยุคพวกเรา คำสอนทีถ่ กู แยกแยะ
ปฏิบัติวิปัสสนาใหม่ๆ นั้น จะให้เข้าใจเรื่องความ
ว่ามีทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และบั้นปลาย หรือ ไม่มีตัวตนนั้นย่อมไม่ได้ ประสบการณ์ของคุณ
ปริ ยั ติ ปฏิ บั ติ ปฏิ เวธ จึ ง คละเคล้ า กลายเป็ น
ที่ รู้ สึ ก ว่ า มี “ตั ว ผม” ที่ สั่ ง ให้ “ผมทำโน่ น นี่ ”
ดีค่ะ นี่เป็นคำถามเรื่องสติปัฏฐานโดยตรง
๘๒
๘๓
สติธรรมชาติ
เคลื่อนมือเร็วๆ กับเคลื่อนมือช้าๆ จะเห็นชัดเจน
ท่ า รำไท้ เ ก็ ก อย่ า งต่ อ เนื่ อ งหรื อ ท่ า รำ
ว่ า เวลาเคลื่ อ นมื อ ช้ า ๆ คุ ณ จะมี ส ติ มี ค วาม
ไท้เก็กชี่กง ๑๘ ท่าที่ดิฉันสอนนักศึกษานั้น หาก รู้สึกตัวชัดเจนมากกว่าการเคลื่อนแบบเร็วๆ
คุณรำอย่างช้าๆ คุณจะมีสติอยู่กับท่ารำอย่าง
เป็นธรรมชาติแล้ว คุณลองสังเกตโดยการยกมือ ฝึกไท้เก็กแล้วจะไม่หลงทางง่ายๆ
อย่างช้าๆ ขึ้นๆ ลงๆ โดยที่ไม่ต้องตั้งใจว่าจะ ดิฉันเข้าใจว่าคุณได้ฝึกสติปัฏฐานมาแล้ว
กำหนดอะไรทั้งสิ้น คุณจะเห็นว่า คุณมีความ แต่ ค งจะกำหนดสิ่ ง ใดสิ่ ง หนึ่ ง เช่ น ลมหายใจ
รู้สึกตัวต่อการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ การนั่งหลับตากำหนดลมหายใจนี่ เรียกว่าเป็น
มาก ซึ่งแตกต่างจากการเคลื่อนไหวแบบเร็วๆ structured meditation แต่การมีสติอยู่กับท่ารำ
ใครที่ทำอะไรเร็วๆ นี่ มักไม่รู้สึกตัว หรือ ไม่มีสติ ไท้เก็กชี่กงนี่ ต้องเรียกว่าเป็น non-structured
นั่นเอง แต่เมื่อสามารถเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ได้ หรื อ dynamic meditation ซึ่ ง จุ ด ที่ เราต้ อ ง
สติจะตามมาเอง ฉะนั้น คุณลองฝึกเคลื่อนมือ
กำหนดเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้เป็นเรื่อง
ขึ้นลงสองแบบดูนะคะ เคลื่อนมือขึ้นลงแบบเร็วๆ วิปัสสนาได้ดีทีเดียว เพราะไม่เปิดโอกาสให้เพ่ง
ก่ อ น แล้ ว ก็ สั ง เกตความรู้ สึ ก ภายในใจดู และ จุดใดจุดหนึ่งโดยเฉพาะเป็นเวลานานๆ ซึ่งการ
เคลื่อนไหวแบบช้าๆ ดู สังเกตความรู้สึกภายใน เพ่งอะไรนานๆ โดยไม่เปลี่ยนจุดเพ่ง จะพลัดไปสู่
ใจอีกที ทำสลับกันเช่นนี้หลายๆ ครั้ง แล้วคุณจะ เรื่องสมถะได้ง่าย การดูลมหายใจที่จริงเป็นเรื่อง
เห็นความแตกต่างของความรู้สึกระหว่างการ วิปัสสนาโดยตรง เพราะลมหายใจของคนเรา
๘๔
๘๕
ไม่ได้อยู่นิ่ง มันเคลื่อนตลอดเวลา แต่การหลับตา กับท่ารำเหล่านี้ได้ดีละก็ จะสามารถนำวิปัสสนา
ดู ล มหายใจเช่ น นั้ น หากคนทำไม่ มี แ ผนที่ ก าร
มาปฏิบัติในกิจกรรมต่างๆ ของชีวิตประจำวัน
๘๖
๘๗
ในขณะที่เปิดตาเนื้ออยู่ ซึ่งที่จริงตาใจกำลังมอง
กำลังทำงานร่วมไปด้วย พยายามกำหนดเช่นนั้น
ลมหายใจอยู่ เพราะตาเนื้อมองลมไม่เห็น
จนชิน คือ เอาตาเนื้อมองตามการเคลื่อนไหว
๓. เปิดตาเนื้อ นั่งอยู่กับที่ก่อน แล้วเคลื่อน ของมือ
มืออย่างช้าๆ ขึ้นลงแบบท่ารำไท้เก็ก เอาตาเนื้อ ๔. ที นี้ ลุ ก ขึ้ น ยื น และหั ด เคลื่ อ นเท้ า
จ่อตามการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องคิดหรือ แบบท่ า รำไท้ เ ก็ ก ซึ่ ง ต้ อ งมี ก ารย่ อ หั ว เข่ า และ
พูดอะไรในหัวเลย เวลาที่คุณเอาตาเนื้อมองตาม ตั้ ง กระดู ก สั น หลั ง ให้ ต รง ถ่ า ยน้ ำ หนั ก ไปมา
ท่ารำไท้เก็กนั้น ที่จริง ตาใจของคุณกำลังมอง ระหว่ า ง ๒ ขา เวลารำไท้ เ ก็ ก นั้ น คนรำจะ
การเคลื่ อ นไหวของมื อ อยู่ ตาเนื้ อ ทำงานได้ ไม่ก้มหัวลงมองที่เท้า ฉะนั้น คุณต้องใช้ตาใจ
เพราะตาใจเปิดอยู่๖ ฉะนั้น การที่คุณเอาตาเนื้อ จับการเคลื่อนไหวของเท้า เวลายกเท้า ก้าวเท้า
มองการเคลื่อนไหวของมืออยู่นั้น ตาใจของคุณ ออกไป ตาใจต้องมองตามการเคลื่อนของเท้า
เท้ า เหยี ย บพื้ น ก็ ท ำความรู้ สึ ก ตั ว ที่ ค วามรู้ สึ ก
๖
ถ้าตาใจเปิด หมายถึงคุณจะต้องอยู่ในเหตุการณ์ ๔ อย่างนี้คือ ในเท้ า สั ก หน่ อ ย ซึ่ ง ที่ จ ริ ง เป็ น เรื่ อ งการเดิ น
นอนหลับสนิท หมดสติ unconscious อยู่ในโคม่า หรือ ตายสนิท จงกรมนี่เอง แต่เราเดินแบบไท้เก็ก พยายามจับ
เมื่อมีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งในสี่อย่างนั้นแล้ว ตา หู จมูก ลิ้น
กาย ของคุณจะไม่ทำงาน รับสัมผัสไม่ได้ มีตาก็มองไม่เห็น มีหูก็
สภาวะให้ได้ ทำให้ชิน๗
ไม่ได้ยิน เพราะตาใจไม่ทำงาน เวลาคนนอนหลับสนิท คุณ ไปเปิด
๗
ตาเขาสิ เขามองอะไรไม่ เ ห็ น เลย พู ด ข้ า งหู เขาก็ ไ ม่ ไ ด้ ยิ น เอา คำอธิบายของข้อนี้ มุ่งไปยังท่ารำไท้เก็กอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการ
น้ำหอมให้ดม เขาก็ไม่ได้กลิ่น เพราะตาใจหลับ ไม่ทำงาน แต่พอ เคลื่อนไหวไปมา ซึ่งเป็นท่ารำที่ต่างจากไท้เก็กชี่กง ๑๘ ท่า ผู้รำ
ตาใจตื่นปุ๊บ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ทำงานรับสัมผัสได้ทันที
สามารถยืนอยู่กับที่ มีเพียงบางท่าเท่านั้นที่ต้องยกเท้า
๘๘
๘๙
๕. เมื่อคุณทำสิ่งเหล่านั้นได้หมดแล้ว ก็ เคลื่อนมาอยู่ตรงหน้า ก็มองตามมันไป ถ้ารู้สึก
เอาทักษะทั้ง ๔ ข้อเบื้องต้นมารวมกันหมดโดย ว่ า การก้ า วเท้ า ถ่ า ยน้ ำ หนั ก ชั ด มากกว่ า ก็
การเริ่มรำไท้เก็กอย่างช้ามากๆ ก่อน ควรจะ กำหนดตรงการถ่ายน้ำหนักที่กำลังเกิดขึ้นอยู่
กำหนดอะไรนั้น คำตอบคือ กำหนดสิ่งที่ชัดเจน ถ้าเปรียบเทียบสิ่งที่เด่นที่สุดที่เราต้องการ
มากที่สุดในขณะนั้นๆ
กำหนดเหมื อ นจุ ด โฟกั ส ตรงกลางของกล้ อ ง
ถ่ า ยรู ป ๘ สิ่ ง ที่ อ ยู่ ห ลั ง ฉากนั้ น คุ ณ ก็ ยั ง เห็ น อยู่
เน้นที่จุดโฟกัส
เพียงแต่เห็นไม่ชัดเท่ากับจุดที่คุณโฟกัสเท่านั้น
ใครที่ ส ามารถกำหนดสติ อ ยู่ ที่ ท่ า รำ
ฉะนั้น ถึงแม้คุณกำลังมองตามมือที่เคลื่อนอยู่
ไท้เก็กได้ ก็หมายความว่ากำลังฝึกวิปัสสนาหรือ ข้างหน้าก็ตาม คุณก็ยังรู้ลมหายใจอยู่ รู้การก้าว
พาตัวใจกลับบ้านอยู่ในขณะนั้นๆ จะช่วยพัฒนา เท้ า การถ่ า ยน้ ำ หนั ก ก็ ยั ง รู้ อ ยู่ เช่ น กั น ถ้ า คุ ณ
ให้ตัวใจอยู่ติดบ้านได้ดี เพราะที่จริงทำยากกว่า สามารถรู้สองอย่างชัดเจนพร้อมๆ กัน ได้ก็ยิ่งดี
อันเนื่องจากจุดที่ต้องกำหนดเคลื่อนและเปลี่ยน เช่ น ลมหายใจก็ รู้ การเคลื่ อ นไหวของมื อ ก็ รู้
๙๐
๙๑
คุณรำอย่างช้ามากๆ แล้ว จะกำหนดได้ไม่ยาก เข้ า คอร์ ส อบรมกรรมฐานเหล่ า นั้ น หากคุ ณ
นัก ทำไป แล้วคุณจะชินและชำนาญเอง
มีเวลาไปได้ ก็ไป ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเวลาไป
ปลี ก วิ เวก คุ ณ ต้ อ งเข้ า ใจว่ า การไปเข้ า คอร์ ส
ช่วยให้มีสติกับชีวิตประจำวัน
อบรมธรรมเป็ น การไปเพื่ อ เรี ย นรู้ เ ท่ า นั้ น เมื่ อ
หากคุ ณ สามารถกำหนดสติ อ ยู่ ที่ ท่ า รำ
เรียนเสร็จ คุณต้องหอบเอาความรู้กลับมาทำ
ไท้เก็กชี่กงได้เช่นนี้ ทักษะการอยู่ติดบ้านของคุณ ที่บ้านให้ได้ ไม่ใช่คิดว่า หากต้องทำวิปัสสนา ก็
จะพั ฒ นาได้ เร็ ว จะช่ ว ยให้ คุ ณ มี ส ติ อ ยู่ กั บ การ ต้องไปวัด ทำที่วัดเท่านั้น นี่คิดผิด การเข้าคอร์ส
เคลื่อนไหวไปมา ก้มๆ เงยๆ หยิบโน่นจับนี่ของ อบรมเหมื อ นการไปขอแผนที่ ชี วิ ต จากครู บ า
ชีวิตประจำวันได้ดี ทำให้คุณสามารถฝึกพาตัว อาจารย์ ท่านชี้ทางเดินในแผนที่ให้ เมื่อคุณได้
ใจกลับบ้านกับกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน แผนที่มาแล้ว อ่านเป็นแล้ว รู้แล้วว่าจะต้องเดิน
ได้ อ ย่ า งสม่ ำ เสมอโดยไม่ ต้ อ งปลี ก ตั ว ไปอยู่
ไปทางเส้นไหน อย่างไร คุณต้องวางแผนที่ลง
คนเดียวเพื่อทำสมาธิ เมื่อคุณชำนาญแล้ว คุณ และเริ่มเดินทางจริงๆ เพราะการอ่านแผนที่กับ
จะรู้ สึ ก ภายหลั ง ว่ า ทุ ก ครั้ ง ที่ เ ดิ น ทุ ก ครั้ ง ที่
การเดินทางเป็น ๒ ขั้นตอนที่แตกต่างกันอย่าง
หยิบของ คุณจะรู้สึกตัวอย่างเป็นธรรมชาติมาก สิ้นเชิง นั่นคือ คุณต้องนำวิปัสสนามาฝีกฝนกับ
จะเกิดขึ้นเอง นั่นเป็นสัญลักษณ์ที่ดีมาก
กิจกรรมทุกอย่างในชีวิตประจำวันของคุณให้ได้
ที่พูดนี้ไม่ได้บอกคุณว่า คุณไม่ต้องไปเข้า โดยการทำอย่างที่ดิฉันบอกคุณอยู่นี้ พาตัวใจ
วัดทำสมาธินะคะ เรื่องการปลีกวิเวกหรือการไป กลับบ้านในทุกขณะที่คุณตื่น ซึ่งคุณจะทำได้ดีขึ้น
๙๒
๙๓
หากคุณสามารถฝึกสติอยู่กับท่ารำไท้เก็กชี่กง การเคลื่อนไหวของมือก็จริง การก้าวเท้าก็จริง
๑๘ ท่าที่ดิฉันสอนอยู่ หากเกาะยึดอยู่กับแผนที่ ความรู้สึกของการถ่ายน้ำหนัก และความรู้สึก