Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 52

พาตัวใจกลับบ้าน

ตอน
เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจ







ศุภวรรณ พิพัฒพรรณวงศ์ กรีน


พาตัวใจกลับบ้าน คำนำ
ตอน

เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจ เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจ
ศุภวรรณ พิพัฒพรรณวงศ์ กรีน
ISBN 978-974-8092-07-2 เนื่องจากดิฉันมักได้รับเมล์จากผู้ปฏิบัต ิ

พิมพ์ครั้งที่ ๑ : ๒๕๕๐ สติปัฏฐานสี่ที่เขียนมาถามปัญหาเรื่องความ
จำนวน ๓,๐๐๐ เล่ม สับสนในการกำหนดสติของแต่ละฐาน ดิฉันจึง
ตัดสินใจนำเรื่องนี้ขึ้นมาพูดในตอนที่ ๓ ของ
ภาพประกอบ : ชลิตา สมบุญเรืองศรี หนังสือชุดพาตัวใจกลับบ้านนี้ โดยตั้งชื่อเรื่องว่า
จัดรูปเล่ม : อุทุมพร สว่างเมฆ, ภมรมาศ ตันฑุลทุกุล
เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจ
ราคา บาท เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ นอกจากการ
ชี ้ แ นะแนวทางการกำหนดเพื ่ อ พาตั ว ใจกลั บ
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามตัดตอน ต่อเติม แก้ไข
บ้านที่ ๑ และ ๒ แล้ว ดิฉันยังได้พูดพัวพันไป
จัดจำหน่ายโดย บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด ถึงปัญหาสังคมที่ตกอยู่ในสภาวะของวงจรอัน
โทร. ๐-๒๔๒๓-๙๙๙๙ โทรสาร ๐-๒๔๓๔-๑๓๘๒

เลวร้าย โดยเฉพาะปัญหาเรื่องความไม่พอใจ
พิมพ์ที่ : บริษัท คิว พริ้นท์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ในงานประจำที ่ ต นกำลั ง ทำอยู ่ ซ ึ ่ ง เกิ ด กั บ คน
โทร. ๐-๒๘๐๐-๒๒๙๒, ๐๘-๔๙๑๓-๘๖๐๐
หมู่มากของสังคม แต่ไม่มีทางเลือก เพราะทุกคน ดิฉันจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเนื้อหาของ
จำเป็นต้องมีอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว หนังสือเล่มนี้จะสามารถช่วยท่านผู้อ่านเข้าใจ
ทำให้ เ กิ ด ความทุ ก ข์ ท ี ่ ส ร้ า งวงจรอั น เลวร้ า ย ปั ญ หาชี ว ิ ต ประจำวั น ของตนเองได้ ช ั ด เจน
กีดกันให้คนปฏิบัติธรรมได้ยากยิ่งขึ้น จึงกลาย มากขึ ้ น และสามารถนำปั ญ ญาพร้ อ มคำ
เป็ น ปั ญ หาวนที ่ อ อกได้ ย ากยิ ่ ง ซึ ่ ง ดิ ฉ ั น ก็ ไ ด้ แนะนำในการปฏิ บ ั ต ิ จ ากหนั ง สื อ เล่ ม นี ้ ม าใช้
อธิ บ ายให้ เ ห็ น อย่ า งชั ด เจนว่ า ปั ญ หาเช่ น นี ้ แก้ปัญหาชีวิตให้ลุล่วงได้
จำเป็นต้องมาแก้ไขที่ต้นตอโดยเริ่มที่ลมหายใจ ดิ ฉ ั น ขอถื อ โอกาสขอบพระคุ ณ และ
ของตนเองก่ อ น อั น เป็ น บ่ อ เกิ ด ของชื ่ อ เรื ่ อ ง อนุ โ มทนาในกุ ศ ลจิ ต ของท่ า นผู ้ อ ่ า นและคณะ
หนังสือเล่มนี้ นอกจากนั้น ดิฉันยังได้กล่าวถึง ทำงานของดิ ฉ ั น ที ่ ไ ด้ ช ่ ว ยเหลื อ กั น สนั บ สนุ น
เรื ่ อ งการออกกำลั ง กายไท้ เ ก็ ก ชี ่ ก ง ซึ ่ ง ดิ ฉ ั น ให้งานกวาดต้อนเพื่อนมนุษย์ออกจากคุกชีวิต
เห็นว่าเป็นเรื่องสติปัฏฐานโดยตรงดังที่ได้เคย ของดิฉันก้าวเดินไปข้างหน้าได้ ไม่ว่าจะเป็น
กล่ า วไว้ แ ล้ ว เมื ่ อ พู ด ถึ ง วั ฒ นธรรมสติ ป ั ฏ ฐาน การบริ จ าคเพื ่ อ ช่ ว ยการพิ ม พ์ ห นั ง สื อ หรื อ
ในหนั ง สื อ เรื ่ อ ง ใบไม้ ก ำมื อ เดี ย ว จึ ง อยาก การบอกกล่าวคนรู้จักให้อ่านหนังสือของดิฉัน
สนั บ สนุ น ให้ ท ่ า นผู ้ อ ่ า นใช้ ก ารออกกำลั ง กาย ตลอดจนการเข้ามาช่วยเหลืองานของดิฉันอย่าง
ชนิดนี้เป็นเครื่องมือช่วยทำลายวงจรอันเลวร้าย จริงจัง ขอบุญกุศลนี้เป็นเหตุปัจจัยช่วยให้ท่าน
ของชี ว ิ ต หากคนส่ ว นมากสามารถทำได้ ทั ้ ง หลายมี ค วามเจริ ญ ก้ า วหน้ า ในธรรมยิ ่ ง ๆ
ปัญหาสังคมก็จะค่อยๆ น้อยลงเอง ขึ ้ น ไป มี ค วามเพี ย บพร้ อ มด้ ว ย ศี ล สมาธิ
ปัญญา พบความสุขสงบในจิตใจ และสามารถ พาตัวใจกลับบ้าน
เดินทางออกจากคุกชีวิตในปัจจุบันชาตินี้ด้วย ตอน เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจ
เทอญ

ศุภวรรณ พิพัฒพรรณวงศ์ กรีน
ชาวอิ น เดี ย และชาวจี น มี ค วามรู้ เ รื่ อ ง

ลมหายใจมานานนับพันปีแล้ว โยคะเป็นมรดก
ของชาวอินเดีย ชาวจีนก็มีเรื่องชี่กง หรือ การ
เดินพลังลมปราณ ซึ่งสามารถพัฒนาไปสู่เรื่อง
การดู แ ลสุ ข ภาพให้ แ ข็ ง แรง มี อ ายุ ยื น นาน
longevity ไปถึ ง เรื่ อ งใช้ ก ำลั ง ภายในในวิ ช า
ป้องกันตัว self defense หรือ การถ่ายพลังงาน
เพื่อรักษาโรคให้ผู้อื่น ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับลมหายใจ
ทั้งสิ้น ทุกวันนี้ การหายใจที่ถูกต้องถือว่าเป็น

การรั ก ษาโรคชนิ ด หนึ่ ง ฝรั่ ง เรี ย ก breathing
therapy ใครที่มีอาการตกใจ ช็อค คุมสติตัวเอง
ไม่ อ ยู่ หากมี ค นมาบอกเตื อ นว่ า หายใจลึ ก ๆ


ช้าๆ และคนที่กำลังตกใจสามารถทำได้ด้วยละก็ ของคนๆ นั้นจะถูกกระทบและทรุดโทรมได้
เขาจะรู้สึกดีขึ้นอย่างรวดเร็ว จะคุมสติตัวเองอยู่ คนจีนจะมีคำว่า ขี่ฮวย ที่แปลตรงตัวว่า
หัวใจจะเต้นช้าลงได้ ฉะนั้น เรื่องลมหายใจและ เลือดลม หมายความว่า เลือดจะไหลเดินไปใน
วิธีการหายใจจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก หากทำให้ ร่างกายได้ ต้องอาศัยลม หรือ ชี่ นั่นเอง ฉะนั้น
ถูกต้องแล้ว ความทุกข์ใจจะน้อยลงได้ จำเป็น ลมกั บ เลื อ ดจึ ง ไปด้ ว ยกั น เมื่ อ พลั ง ชี่ ห รื อ ลม

ต้องเรียนรู้ อุ ด ตั น ที่ ต รงไหน เลื อ ดย่ อ มอุ ด ตั น ที่ ต รงนั้ น

เช่ น กั น ใครที่ ผิ ว พรรณผ่ อ งใส เขาจึ ง บอกว่ า

ตันเถียน มีเลือดลมดี
ชาวจี น เชื่ อ ว่ า ร่ า งกายของคนเรานี้ หากพูดเรื่องชี่แล้ว ต้องรู้จักคำว่า ตังชั้ง
สามารถอยู่ได้ด้วยพลังงานที่เขาเรียกว่า ขี่ หรือ (แต้จิ๋ว) หรือ ตันเถียน (จีนกลาง) The field

ชี่ chi energy เมื่อพูดถึงเรื่องพลังงานแล้ว ย่อมมี of energy เป็ น คำศั พ ท์ จี น ที่ ฝ รั่ ง ใช้ กั น อย่ า ง

ธรรมชาติ ข องการเคลื่อนไหล วนเวียนที่ครบ แพร่ ห ลาย ซึ่ ง อยู่ บ ริ เวณท้ อ งน้ อ ย ใต้ ส ะดื อ

วงจร พลั ง ชี่ ที่ เ คลื่ อ นอยู่ ใ นร่ า งกายของเรา


ตันเถียนเป็นบริเวณที่ร่างกายแจกจ่ายพลังงานชี่
ก็เช่นกัน มันต้องสามารถเคลื่อน หมุนเวียนได้ ออกไปตามร่องพลังงานต่างๆ ซึ่งมี ๑๒ ร่อง
อย่างครบวงจร ถ้าไม่สามารถหมุนเวียนอย่าง ฝรั่ ง เรี ย ก meridian lines หรื อ channel

ครบวงจรแล้ว แสดงว่ามีการอุดตันของพลังงาน เลือดและลมจะเดินตามร่องพลังงานเหล่านี้ไปสู่


อยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง เมื่อพลังงานชี่อุดตัน สุขภาพ อวัยวะภายในอันมี หัวใจ ปอด ตับ ไต ไส้พุง

๘ ๙
วิธีการหายใจที่ถูกต้อง
ถามว่ า พลั ง ชี่ ม าจากไหน ก็ ม าจากลม

ที่เราหายใจเข้าไปนั่นเอง แต่ต้องเป็นการหายใจ
อย่างถูกต้อง คือ ต้องพยายามเอาลมที่เราสูด
เข้าไป ให้ถึงบริเวณตันเถียนที่อยู่ใต้ท้องน้อย เพื่อ
ร่างกายจะได้แจกจ่ายเลือดลมออกไปตามร่อง
พลังงาน หากลมที่หายใจเข้าไปไม่ถึงตันเถียน
ร่างกายก็แจกจ่ายพลังงานไม่ได้ ฉะนั้น จะทำ
อย่ า งไรจึ ง ให้ แ น่ ใจว่ า พลั ง ชี่ ที่ เราสู ด เข้ า ไป
สามารถเดินทางไปถึงบริเวณตันเถียนได้ คำตอบ
คื อ คุ ณ ต้ อ งฝึ ก ฝนการหายใจอย่ า งช้ า ๆ และ
ลึกๆ หากคุณไม่เคยทำมาก่อนเลย ขอให้ลอง
ถ้าเลือดลมดี การทำงานของอวัยวะภายในเหล่า หายใจตามวิธีการที่ดิฉันจะแนะให้ ตอนแรกอาจ
นี้ก็จะดีด้วย ทำให้สุขภาพแข็งแรง ถ้าเลือดลม
จะยากหน่อย แต่เมื่อคุณหัดทำบ่อยๆ จะง่ายขึ้น
ไม่ดี อวัยวะเหล่านี้ก็จะถูกกระทบไปด้วย เพราะ เอง วิธีการหายใจที่ถูกต้อง คือ
เลือดลมไปไม่ถึง ๑) หายใจเข้าช้าๆ ให้ลึกเท่าที่ทำได้โดย
ไม่ ต้ อ งฝื น มาก แม้ ไ ม่ ถึ ง ท้ อ งน้ อ ยใต้ ส ะดื อ ก็

๑๐ ๑๑
ไม่เป็นไร ทำลายเลือดลมที่อุดตัน
๒) เมื่ อ หายใจเข้ า จนสุ ด แล้ ว กลั้ น ลม การหายใจอย่ า งถู ก ต้ อ งเช่ น นี้ จะสร้ า ง
หายใจสักครู่หนึ่ง ประมาณ ๓-๕ วินาทีก่อน แรงกดดัน หรือ แรงกระแทกในท่อพลังงาน หาก
๓) แล้วค่อยผ่อนลมหายใจออกอย่างช้าๆ มีการอุดตันของเลือดลมในท่อพลังงานแล้ว แรง
๔) ยังไม่ต้องหายใจเข้าทันที กลั้นสักครู่ กระแทกจากการหายใจเช่ น นี้ จ ะช่ ว ยลอกเอา
แล้วค่อยหายใจเข้าช้าๆ อีก ก้อนเลือดที่อุดตันออกไป เหมือนที่เราต้องทำกับ
ขอให้ ฝึ ก การหายใจเช่ น นี้ อ ย่ า งจริ ง จั ง ท่ อ น้ ำ ประปา หรื อ ท่ อ อะไรสั ก อย่ า งที่ มี ข อง

ประมาณ ๑๐-๑๕ นาที หากทำไปพร้อมกับการ อุ ด ตั น สิ่ ง ที่ คุ ณ ต้ อ งทำ คื อ อั ด แรงลมเข้ า ไป
ออกกำลังกายไท้เก็กชี่กงได้ ก็จะยิ่งดี เมื่อทำไป มากๆ เพื่ อ กระแทกให้ สิ่ ง อุ ด ตั น ออกมา ท่ อ
เรื่ อ ยๆ ต่ อ ไปจะสามารถหายใจได้ ลึ ก มากขึ้ น พลังงานในร่างกายของเราก็ต้องรับการแก้ไข
และจะกลั้นลมหายใจได้นานขึ้นด้วย พอกลั้นได้ เช่นนั้นหากมีการอุดตันขึ้นมา แต่เมื่อท่อพลังงาน
นานขึ้ น การหายใจจะยิ่ ง ช้ า และลึ ก มากขึ้ น ๑๒ ท่อเหล่านี้มันอยู่ในร่างกายของเรา แล้วเรา
สามารถนำลมเข้าถึงบริเวณตันเถียนได้ง่ายขึ้น จะเป่ า ลมเพื่ อ ให้ เ กิ ด แรงกระแทกได้ อ ย่ า งไร

เมื่ อ ฝึ ก บ่ อ ยๆ การหายใจอย่ า งถู ก วิ ธี เ ช่ น นี
้ คำตอบคือ คุณต้องหายใจอย่างถูกต้องนั่นเอง
จะกลายเป็ น นิ สั ย จะสามารถทำได้ อ ย่ า งเป็ น ฝรั่งเรียก dredge the channels ซึ่งนอกจากช่วย
ธรรมชาติมากขึ้นแม้ไม่ได้ตั้งใจทำก็ตาม แก้ปัญหาเรื่องการอุดตันของพลังงานในท่อแล้ว
ยั ง เป็ น การป้ อ งกั น ไม่ ใ ห้ เ กิ ด การอุ ด ตั น ของ
๑๒ ๑๓
พลั ง งานในท่ อ พลั ง งานอี ก ด้ ว ย ซึ่ ง ข้ อ หลั ง นี่ ต่างๆ ของร่างกาย
สำคั ญ มากกว่ า เพราะมั น หมายถึ ง การดู แ ล
รักษาสุ ข ภาพของตนเองโดยการหายใจอย่าง
หายใจป้องกันโรค
ถูกต้องจนเป็นนิสัยนั่นเอง คนที่ไม่เคยหัดหายใจอย่างถูกต้องเช่นนี้
มักหายใจตื้นๆ สูดลมเข้าถึงหน้าอกแล้วก็ปล่อย
ไท้เก็ก ชี่กง ออกทันที การหายใจอย่างรีบเร่ง สั้นๆ ตื้นๆ
การออกกำลังกายแบบไท้เก็ก ชี่กง ล้วน เช่ น นี้ ใ นระยะยาว จะมี ผ ลกระทบต่ อ ร่ า งกาย
เป็นเรื่ อ งที่ เ น้ น การหายใจอย่างถูกต้อง ท่ารำ
เหตุผลง่ายๆ ข้อแรกคือ ออกซิเจนเป็นสิ่งจำเป็น
ไท้เก็กและชี่กงเป็นการบังคับให้พลังชี่เดินไปตาม ต่ อ การฟอกเลื อ ดให้ แ ดงเพื่ อ เอาไปใช้ ง านต่ อ
ร่ อ งต่ า งๆ ของพลั ง งาน การยกมื อ คว่ ำ มื อ การหายใจสั้ น ๆ ตื้ น ๆ เช่ น นี้ ไม่ ไ ด้ ช่ ว ยนำ
หงายมือ ตั้งมือให้นิ้วชี้ขึ้นฟ้า การถ่ายน้ำหนัก ออกซิ เจนเข้ า ไปในร่ า งกายอย่ า งเต็ ม ที่ การ
ของขาเหล่านี้ล้วนเป็นรายละเอียดของการส่ง หายใจอย่างผิดวิธีเช่นนี้ พลังชี่ก็ไปไม่ถึงบริเวณ
พลังงานจากตันเถียนไปตามท่อพลังงานต่างๆ ตั น เถี ย นที่ ใ ต้ ท้ อ งน้ อ ย ร่ า งกายจึ ง ไม่ ส ามารถ
ทั้งสิ้น ถ้าผู้ฝึกสามารถหายใจอย่างถูกต้องคือ แจกจ่ายพลังงานออกไปตามร่องพลังงาน การ
ช้าๆ ลึกๆ แล้ว ลมที่เดินไปตามท่อนั้นจะมีแรง อุดตันของเลือดลมจะเกิดตามมา อวัยวะภายใน
เพียงพอที่จะนวดอวัยวะภายในของเราด้วย เพื่อ ของเรา เช่น หัวใจ ปอด ตับ ไต ไส้พุง ทุกอย่าง

เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของอวัยวะส่วน ก็จะถูกกระทบไปหมด
๑๔ ๑๕
ถ้ า เราหายใจถู ก ต้ อ ง ช้ า ๆ ลึ ก ๆ แล้ ว
นาน จึงขอให้เข้าใจก่อนว่า ในส่วนปัจเจกชน

ตันเถียนจะสามารถส่งทั้งพลังชี่และเลือดอันมี คนหนึ่ ง ๆ แล้ ว ต้ อ งพยายามสร้ า งหรื อ หา

ออกซิเจนในระดับสูงเข้าไปในร่างกาย ซ่อมแซม สิ่งแวดล้อมที่ดีให้ตนเองเพื่อง่ายต่อการหายใจ
ส่ ว นที่ สึ ก หรอได้ ดี ขึ้ น ฉะนั้ น โรคหลายอย่ า ง อย่างถูกต้องได้
สามารถป้องกันไม่ให้เกิดได้โดยการหายใจอย่าง
ถูกต้องเท่านั้น การรำไท้เก็ก ชี่กงจึงนับเป็นการ
ออกกำลังกายที่ป้องกันโรคได้ โดยการทำบ่อยๆ
ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า
นี่ ไ ม่ ใช่ เ ป็ น การรั ก ษาโรคที่ เ กิ ด แล้ ว ให้ ห ายไป

แต่เป็นการป้องกันโรคร้ายต่างๆ ไม่ให้เกิดขึ้น

อั น เนื่ อ งจากหายใจอย่ า งถู ก ต้ อ งกั บ การออก


กำลังกายเป็นประจำ
ฉะนั้ น การอยู่ อ าศั ย ในท่ า มกลางสิ่ ง
แวดล้อมที่ดี มีมลภาวะน้อย จึงเป็นปัจจัยสำคัญ โรคเครียด
ที่จะทำให้การหายใจได้ออกซิเจนในระดับสูงหรือ โรคเครียดเป็นผลโดยตรงของการหายใจ
ได้ รั บ พลั ง ชี่ ที่ บ ริ สุ ท ธิ์ นี่ เ ป็ น เรื่ อ งใหญ่ ปั ญ หา ไม่ ถู ก ต้ อ ง โดยเฉพาะคนทำงานนั่ ง โต๊ ะ ที่ ต้ อ ง
ใหญ่ที่มีเรื่องสังคมเข้ามาพัวพันมาก ต้องพูดกัน ครุ่ น คิ ด เรื่ อ งหนั ก สมอง และเพราะอยู่ อ าศั ย

๑๖ ๑๗
ในสังคมที่เต็มไปด้วยปัญหารอบข้างที่แก้ไขไม่ได้
โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบงานของตนเอง แต่ไม่รู้

จะไปทำอะไร ต้ อ งจำยอมเพราะมี ภ าระต้ อ ง

เลี้ยงดูครอบครัว
โรคเครียดนี้ ถ้าสังเกตให้ดีแล้ว เกิดจาก

ความคิดในสมองที่มีมากจนวุ่นวายอันเนื่องจาก
ความกดดันของงานและสภาพสังคมที่ยุ่งเหยิง
จึงพยายามคิดแก้ปัญหาต่างๆ ของชีวิตและงาน เกิ ด อาการเกร็ ง โดยเฉพาะส่ ว นคอ หั ว ไหล่

พอใจยุ่ ง เหยิ ง เพราะคิ ด มากแล้ ว เวลาหายใจ
ต้นแขน กระดูกสันหลัง ส่วนของศีรษะนี่ไม่ต้อง
ก็ ไ ม่ รู้ สึ ก ตั ว ปล่ อ ยให้ ก ารหายใจเป็ น ไปตาม พู ด ถึ ง ทั้ ง หนั ก ทั้ ง ปวดตรงขมั บ โรคปวดหั ว
ธรรมชาติ เหมือนหายใจเป็นเองอยู่แล้ว ก็ทำ
อย่างรุนแรงที่เรียกไมเกรน มาจากความเครียด
ไปเองสิ ไม่ เ ห็ น ต้ อ งเข้ า ไปยุ่ ง กั บ มั น เลย การ ทั้งสิ้น ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการเอาหนังยางเส้น
หายใจแบบตามบุญตามกรรมเช่นนี้จึงเป็นการ ใหญ่ๆ พันรอบกายของเราจนอวัยวะภายในไม่มี
หายใจที่ ตื้ น และเร็ ว เข้ า ๆ ออกๆ แค่ ห น้ า อก ความคล่ อ งตั ว ในการทำงานอย่ า งอิ ส ระ แต่
เท่านั้น ร่างกายจึงไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอ เจ้าของตัวกายก็ไม่รู้ จึงใช้ชีวิตไปโดยมีหนังยาง
พลังชีท่ สี่ ะอาดบริสทุ ธิท์ สี่ ภาพแวดล้อมธรรมชาติ เส้นใหญ่ๆ พันรอบตัวในขณะที่เดินเหิน หรือทำ
ให้ออกมาจึงเข้าไปในร่างกายได้น้อย ร่างกายจึง โน่นนี่
๑๘ ๑๙
การใช้ชีวิตเช่นนี้ เป็นการทรมานร่างกาย
ตนเองโดยไม่รู้ตัว ร่างกายมนุษย์ก็มีความอดทน
สูงมาก แต่ก็อดทนได้ถึงจุดหนึ่งเท่านั้น

โรคเครี ย ด stress ต้ อ งนั บ ว่ า เป็ น โรค


ระบาดโรคหนึ่ ง ของคนเมื อ ง เป็ น โรคของยุ ค

สมัยนี้ที่นำไปสู่โรคอื่นๆ ได้ง่ายมาก คนอยู่ชนบท


คนอยู่ป่า คนที่ใช้ชีวิตอย่างโนมาด nomad ไม่

ติ ด ถิ่ น เคลื่ อ นที่ ไ ปเรื่ อ ย คนเหล่ า นี้ ไ ม่ รู้ ว่ า


ความเครียดเป็นอย่างไร

หนีไม่พ้น
เมื่อร่างกายทนการถูกทรมานไม่ไหวอีก คนที่ อ ยากจะคลายเครี ย ด ไม่ ใ ช่ ต้ อ ง
ต่อไป มันจึงล้มพับ โรคภัยไข้เจ็บก็ตามมา ล้วนมี พยายามหาเงิ น มากๆ เพื่ อ จะได้ ไ ปพั ก ผ่ อ นที่
สาเหตุมาจากความเครียดนี่เอง ชายทะเล นั่งตากลม หรือไปเมืองนอก อะไร
๒๐ ๒๑
ทำนองนั้ น ต่ อ ให้ ไ ปอยู่ เ กาะกลางมหาสมุ ท ร

ที่ไม่มีใครไปยุ่งเลย หากยังเอาโทรศัพท์มือถือ
คอมพิวเตอร์ หรือแฟ้มเอกสารงานติดไปด้วย
แล้ว ความเครียดก็ตามไปถึงจนได้ หรือแม้ไม่ได้
เอาวัตถุเหล่านี้ไป ปัญหาชีวิต การงาน และอื่นๆ
ก็ ไ ด้ ถู ก เก็ บ ไว้ เ รี ย บร้ อ ยแล้ ว ในส่ ว นที่ เ รี ย ก

สั ญ ญาขั น ธ์ หรื อ ความทรงจำ ซึ่ ง เป็ น เจอรี่



ตัวหนึ่งที่อยู่ในหัวของเรา เป็นเจอรี่ที่สามารถ
ขยายตั ว อย่ า งรวดเร็ ว เหมื อ นเชื้ อ แบคที เรี ย
นอนก่ า ยหน้ า ผากอยู่ ต ามรี ส อร์ ท หรู ห ราแถว
เมื่อทำงานร่วมกับเจอรี่ตัวสังขาร แม้ไปอยู่ใน ชายทะเลได้เช่นกัน ถ้าไม่เจอคลื่นสึนามิมาทับถม
สภาพแวดล้อมที่ไม่ควรต้องคิดมาก แต่ถ้าไม่เคย ก็รอดตัวไป แต่ถ้าไปเจอปัญหาใหม่เช่นอุบัติเหตุ
ฝึ ก ฝนเรื่ อ งการปล่ อ ยวางเลย ไม่ เ คยรู้ เรื่ อ ง
ภัยธรรมชาติซึ่งจะเกิดกับใครเมื่อไรก็ได้ ปัญหา
เป้าหมายชีวิต ไม่รู้ว่าตอนตายจะเอาอะไรติดตัว ก็ ยิ่ ง ทั บ ถมไม่ จ บไม่ สิ้ น หนี ค วามเครี ย ดไม่ พ้ น
ไปไม่ ไ ด้ จึ ง อดไม่ ไ ด้ ที่ จ ะต้ อ งคิ ด สร้ า งอนาคต
อยู่ดี
เจอรี่จึงยังสามารถผุดขึ้นมาในหัวเหมือนดอก
เห็ดที่เป็นพิษ ขยายตัวออกลูกเต็มบ้านหลานเต็ม วงจรอันเลวร้าย
เมือง แม้ไปอยู่เกาะ ก็หนีปัญหาไม่พ้นอยู่ดี ยัง พอร่างกายเกร็ง เครียด ไม่สบายเช่นนีแ้ ล้ว
๒๒ ๒๓
วงจรอันเลวร้าย the vicious circle จึงเกิด พอ ทำลายวงจรอันเลวร้ายได้อย่างไร
กายไม่ ส บาย ใจก็ เริ่ ม รวน ทำให้ ค วามคิ ด
ทีนี้ลองมาดูซิว่า เราจะออกจากวงกลม
ปั่ น ป่ ว น เปิ ด โอกาสให้ ห นู เจอรี่ เข้ า มาเต็ ม หั ว
อันเลวร้ายนี้ได้อย่างไร หรือ จะทำอย่างไรจึงจะ
ตั ว ใจหรื อ แมวทอมจึ ง ถู ก หนู เจอรี่ ถ ล่ ม อย่ า ง
หายเครี ย ดได้ ควรแก้ ต รงไหนก่ อ น จะเริ่ ม ที ่

ไม่ ห ยุ ด ยั้ ง ฉะนั้ น จากการหายใจที่ ผิ ด หลั ก ข้อ ๑ โดยทำให้สังคมมีปัญหาน้อยลง เพื่อความ


ธรรมชาติเท่านั้น วงจรอันเลวร้ายก็จะเกิดใน กดดันในชีวิตครอบครัวและการงานจะได้น้อยลง
ลักษณะเช่นนี้ ออกได้ยากมาก ตามด้ ว ย ทุ ก คนสามารถหางานที่ ต นรั ก ทำ
ทำให้ไม่เครียด ไม่ต้องคิดมาก ร่างกายจะได้

ไม่เกร็ง ซึ่งการแก้ปัญหาโดยเริ่มที่สังคมเช่นนี้
ทุกคนล้วนทราบดีว่า ทำไม่ได้ นั่นเป็นการแก้
ปั ญ หาที่ ป ลายเหตุ แ ล้ ว ปั ญ หาสั ง คมยุ่ ง เหยิ ง
เพราะจิตใจของคนยุ่งมาก่อน จึงเป็นสาเหตุที่
ทำให้สังคมปั่นป่วน เต็มไปด้วยความกดดันเช่นนี้
ฉะนั้ น การแก้ ปั ญ หาที่ สั ง คม จุ ด นี้ อ ย่ า ไปรอ

ดีกว่า ตายแล้วมาเกิดอีก ปัญหาก็อาจจะยังแก้
ไม่ตก
วงจรอันเลวร้ายทีเ่ กิดจากการหายใจทีไ่ ม่ถกู ต้อง หากมาเน้นการแก้ปัญหาข้อที่ ๓ โดยการ

๒๔ ๒๕
เอาความเกร็งเครียดของร่างกายออกไป ก็ทำ หายใจแบบตามบุญตามกรรมจนเป็นนิสัย มา
ตรงๆ ไม่ได้ เพราะเห็นอยู่โต้งๆ แล้วว่า ความ เปลี่ยนวิธีการหายใจให้ถูกต้องนั้น ย่อมเป็นเรื่อง
เกร็งเครียดของร่างกายมีต้นตอมาจากข้อที่ ๒ ยาก คนที่ไม่เคยรู้เรื่องการฝึกสติมาก่อน จะไม่รู้
คื อ การหายใจแบบตามบุ ญ ตามกรรม ตื้ น ๆ ด้ ว ยซ้ ำ ไปว่ า ตนเองกำลั ง หายใจอยู่ ความคิ ด
เร็วๆ นั่นเอง ฉะนั้น ในจำนวนปัญหาทั้งสามข้อ หรือเจอรี่ในหัวของเขาจะบดบังสิ่งที่เกิดขึ้นกับ
ที่ไล่กวดเหมือนงูกินหางนี้ ข้อที่แก้ไขได้จริงๆ ร่างกายหมด จะเริ่มสังเกตเห็นก็ต่อเมื่อร่างกาย
คือ ข้อที่สอง การหายใจ นั่นคือ เราสามารถ ทนความโหดร้ายทารุณของเจ้าของไม่ได้อีกแล้ว
เปลี่ ย นวิ ธี ก ารหายใจแบบตามบุ ญ ตามกรรม จนล้มเจ็บ ไม่สบายกาย เมื่อนั้นแหละ เจ้าของ
แบบไม่รู้ไม่ชี้ ให้มาเป็นการหายใจอย่างถูกต้อง ร่ า งกายจึ ง ค่ อ ยรู้ สึ ก ตั ว ว่ า ร่ า งกายไม่ ป กติ
ได้ เป็นตัวแปรที่เราเปลี่ยนแปลงได้ง่ายหน่อย เหมือนเดิม จึงค่อยเห็นว่าการหายใจของตนเอง
เพราะลมหายใจอยู่ที่ตัวเรา ย่อมแก้ได้ง่ายกว่า ติดขัดอย่างไร
การไปแก้ปัญหาสังคมแน่นอน ฉะนั้ น เราจะแก้ ไขเรื่ อ งการหายใจแบบ
ตามบุญตามกรรมได้อย่างไร คำตอบคือ ต้องฝึก
อานาปานสติ การหายใจอย่างมีสตินั่นเอง คือ เมื่อหายใจ ก็
ตรงนี้แหละที่ภูมิปัญญาของพระพุทธเจ้า ต้องรู้ตัวทั่วพร้อมว่าตนเองกำลังหายใจอยู่ คนที่
ในเรื่องสติปัฏฐาน ๔ หรือ การพาตัวใจกลับ หายใจด้ ว ยความรู้ สึ ก ตั ว ว่ า ตนเองหายใจอยู่

บ้ า นจะช่ ว ยได้ เพราะจู่ ๆ จะให้ ค นเครี ย ดที่ จะสามารถเปลี่ ย นตั ว แปรเรื่ อ งลมหายใจได้

๒๖ ๒๗
จะสามารถควบคุ ม การหายใจให้ ช้ า ๆ ลึ ก ๆ

ได้ คื อ หายใจอย่ า งถู ก ต้ อ งได้ นั่ น เอง จึ ง จะ
สามารถนำพลั ง ชี่ เ ข้ า ถึ ง บริ เ วณตั น เถี ย น

ที่ ท้ อ งน้ อ ยได้ ตั น เถี ย นจึ ง สามารถทำหน้ า ที่

แจกจ่ายพลังชี่พาเลือดลมไปตามร่องพลังงาน
เลื อ ดลมที่ อุ ด ตั น ก็ จ ะถู ก กระแทก ทะลุ ท ะลวง

ออกไป ทำให้ ร่ า งกายสบายขึ้ น หนั ง ยางเส้ น
ใหญ่ๆ ที่รัดตัวกายไว้ก็จะค่อยๆ ถูกปลดออก
เมื่อร่างกายไม่เกร็งมาก จิตใจและสมองก็ค่อย
ลมหายใจ การหายใจอย่ า งมี ค วามรู้ สึ ก ตั ว

เบาลง ความคิ ด จะน้ อ ยลง รู้ สึ ก ปลอดโปร่ ง
ทั่ ว พร้ อ มนั้ น ก็ คื อ การเอาตาใจมามองที่ ล ม
มากขึ้น หายใจของเรา เมื่อตาใจมองลม ก็ย่อมเห็นลม

ฉะนั้ น จะเห็ น ได้ ว่ า เคล็ ด ลั บ ของการ ที่สูดเข้าและพ่นออก ตรงนี้แหละ ผู้ฝึกพาตัวใจ
หายใจที่ ถู ก ต้ อ งจึ ง อยู่ ที่ ก ารมี ค วามรู้ สึ ก ตั ว
กลับบ้านที่ ๑๑ จะสามารถบังคับลมหายใจของ
ทั่วพร้อมในขณะที่กำลังหายใจอยู่ จะทำอย่างไร ตนเองให้เข้าออกอย่างช้าๆ และลึกๆ ได้ตาม

จึงจะมีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมได้ทุกครั้งที่หายใจ ที่ต้องการ การหายใจเช่นนี้จึงเรียกว่า หายใจ
คำตอบคือ คุณต้องฝึกเรื่องสติปัฏฐานสี่ หรือ ๑
อ่านเรื่อง “ทำอย่างไรให้หายกลุ้มใจ หนังสือเล่มที่ ๒ ของโครงการ
พาตั ว ใจกลั บ บ้ า น หน้ า ตาของบ้ า นที่ ๑ คื อ
หนังสือชุด พาตัวใจกลับบ้าน เขียนโดย ศุภวรรณ กรีน

๒๘ ๒๙
อย่างรู้สึกตัว หายใจอย่างมีสติ พระพุทธเจ้ามี สามารถหาทางกลับบ้านได้ทันทีที่หายใจอย่าง
ศัพท์โดยเฉพาะว่า อานาปานสติ แปลตรงตัวว่า ถูกต้อง ความตกใจกลัวจากการหลงทางจึงหาย
การมีสติอยู่กับลมหายใจนั่นเอง ไป ทำให้รู้สึกดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ตรงนี้แหละ หากใครรู้เรื่องสติปัฏฐานสี่
วงจรอันดีเลิศ หรื อ การพาตั ว ใจกลั บ บ้ า น จะได้ เ ปรี ย บมาก

การหายใจอย่างมีสติไม่เพียงแต่ช่วยให้ ที เ ดี ย ว จะรู้ วิ ธี ก ารหายใจอย่ า งถู ก ต้ อ งเสมอ

ร่างกายรับออกซิเจนและทำให้มีเลือดลมดีขึ้น โดยการปฏิบัติ เมื่อหายใจถูกต้องบ่อยๆ ย่อม
เท่ า นั้ น ความลึ ก ซึ้ ง ยั ง มี ม ากกว่ า นั้ น อี ก ดั ง หมายความว่า ตัวใจอยู่ติดบ้าน เจอรี่เข้าบ้านเรา
ตัว อย่ า งที่ ดิ ฉั น ได้ เ กริ่ นไว้แต่ ต้น ว่า คนที่ ตกใจ ไม่ได้ ความคิดในหัวก็จะค่อยๆ น้อยลง ไม่ถูก
สุดขีด เกิดอาการช็อคนั้น หากมีคนเตือนให้เขา เจอรี่ ถ ล่ ม ปั ญ ญาจึ ง เกิ ด สามารถคิ ด อย่ า ง

หายใจช้าๆ และลึกๆ แล้ว ความตกใจกลัวของ ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ความกลัวตาย
เขาจะค่ อยๆ หายไป หากพูดภาษาของตัวใจ
จะน้อยลง เมื่อไม่กลัวตายสักอย่าง ความกลัว
และบ้านของใจแล้ว ย่อมหมายความว่า ความ อย่ า งอื่ น ๆ ก็ ค่ อ ยๆ หายไป เช่ น ไม่ ก ลั ว จน

ตกใจกลัวคือ สภาวะที่ตัวใจหลงทาง หาทาง พอไม่กลัวจนแล้ว จะสามารถมองปัญหารอบ


กลับบ้านของใจไม่ได้ การถูกเตือนให้หายใจลึกๆ ข้างจากอีกแง่มุมหนึ่ง งานที่ไม่เคยชอบมาก่อน
ช้าๆ นั้น เป็นการปลุกความรู้สึกตัวทั่วพร้อม อาจจะเริ่ ม ชอบก็ ไ ด้ เมื่ อ คิ ด อย่ า งมี ปั ญ ญา ก็
เปรี ย บเหมื อ นตั ว ใจที่ ห ลงทางอยู่ น อกบ้ า น เหมือนทำใจได้ สิ่งที่เคยเป็นปัญหา จะไม่เป็น
๓๐ ๓๑
ปัญหาอีกต่อไป ความอดทนจะมีมากขึ้น พอคิด รู้อย่างรู้ กับ รู้อย่างไม่รู้
ได้ อ ย่ า งถู ก ต้ อ งตามทำนองคลองธรรมแล้ ว
คุณอาจจะสงสัยว่า แล้วคนที่ออกกำลัง
ใจจะเบาขึ้น ความคิดที่วุ่นวายสับสนจะมีน้อยลง กายแบบไท้เก็ก ชี่กง หรือ โยคะ นั้น เขากำลัง
ความรู้สึกทุกข์ก็น้อยลง ใจไม่เครียด ร่างกาย
ฝึกวิปัสสนาหรือปฏิบัติเรื่องพาตัวใจกลับบ้าน

ไม่ เ กร็ ง ทำให้ ก ารหายใจดี ขึ้ น อี ก ร่ า งกายก็ ทุกคนเช่นนั้นหรือ คำตอบคือไม่ใช่
สบายอีก ฉะนั้น จากการเปลี่ยนวิธีการหายใจ คนฝึ ก ไท้ เ ก็ ก ชี่ ก งที่ ส วนลุ ม มี ม ากมาย
คุณก็สามารถเปลี่ยนวงจรอันเลวร้ายให้กลาย พวกเขาก็ รู้ ล มหายใจทั้ ง นั้ น แหละ แต่ ค นฝึ ก
เป็นวงจรอันดีเลิศแทน ดังนี้คือ วิปัสสนาเท่านั้นที่จะรู้ลมหายใจอย่างรู้จริงๆ คน
ไม่ได้ฝึกวิปัสสนา ไม่รู้เรื่องสติปัฏฐาน ยังไม่ได้
พบกัลยาณมิตรแล้ว แม้เขาจะหายใจช้าๆ ลึกๆ
สบาย ไม่เครียด แต่เขารู้อย่างไม่รู้ เพราะตาใจ
ของเขายังไม่ได้เปิดเต็มที่ ยังมืดอยู่
แต่ แ ม้ เ ขารู้ ล มหายใจอย่ า งไม่ รู้ หรื อ
เคลื่อนช้าๆ ไปตามกระบวนท่าของไท้เก็ก ชี่กง
หรือ โยคะ อันเป็นการรู้อย่างไม่รู้ก็ตาม พวกเขา
วงจรอันดีเลิศ ก็ ยั ง ได้ รั บ ประโยชน์ จ ากการหายใจอย่ า ง

อันเป็นผลจากการหายใจอย่างถูกต้อง ถูกต้อง และการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ อยู่นั่นเอง

๓๒ ๓๓
ตัวใจของเขาจะถูกลากให้กลับบ้านของใจโดย หากมีโอกาสได้พบกัลยาณมิตรที่พาเขาไปฝึก
อัตโนมัติ ทำให้ความคิดในหัวน้อยลง ร่างกาย วิปัสสนา พาตัวใจกลับบ้านแล้วละก็ ตาใจของ
ของเขาก็เริ่มผ่อนคลายเพราะไม่มีหนูตัวใหญ่ๆ เขาจะเปิดได้เร็ว เขาจะรู้ลมหายใจแบบรู้ทันที
คอยตะปบเขาอยู่ หนังยางเส้นใหญ่ๆ ที่รัดตัว การรู้ แ บบไม่ รู้ อั น เป็ น สภาวะมื ด ตอนก่ อ นพบ
กายอยู่ก็ถูกคลายออกเองอย่างเป็นธรรมชาติ กัลยาณมิตรจะหายไปทันที แต่เขายังคงทำทุก
จึงไม่รู้สึกเครียดทั้งกายและใจ อย่างเหมือนเดิม หายใจช้าๆ ลึกๆ เคลื่อนไหว
หากมี โ อกาสได้ ไ ปพู ด คุ ย ถามสารทุ ก ข์ ช้ า ๆ คนกลุ่ ม นี้ จ ะสามารถพาตั ว ใจกลั บ บ้ า น

สุกดิบจากกลุ่มคนที่ออกกำลังกายเหล่านี้แล้ว ที่ ๑ ได้เก่งทีเดียว ทำได้ลิ่ว เพราะเขาทำอยู่แล้ว
จะเห็ น ว่ า คนกลุ่ ม นี้ มั ก ไม่ ติ ด อบายมุ ข ไม่ ดื่ ม เขาได้ ฝึ ก ที่ จ ะอยู่ กั บ นิ พ พานแล้ ว จากการออก
เหล้ า มาก จะมี ร ะดั บ ศี ล ธรรมในตนเองสู ง พอ กำลังกายไท้เก็ก ชี่กงนั่นเอง
สมควร จะเป็ น พวกที่ ชอบดู แลสุ ขภาพตนเอง
ชีวิตจะไปเรียบๆ ความเรียบง่ายเช่นนี้ก็เป็นการ วัฒนธรรมสติปัฏฐาน
ดำรงชี วิ ต ในกรอบแห่ ง ธรรมโดยธรรมชาติ
ฉะนั้น จะเห็นได้ว่าการออกกำลังกายแบบ
อยู่แล้ว เพียงแต่เขาไม่รู้เท่านั้น ไท้เก็ก ชี่กง โยคะนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรง
ถ้าคนเหล่านี้มีโอกาสได้อ่านหนังสือคู่มือ กั บ เรื่ อ งสติ ปั ฏ ฐานโดยเฉพาะอานาปานสติ

ชี วิ ต ทั้ ง สองเล่ ม ของดิ ฉั น แล้ ว เขาจะสามารถ
(มีสติกับลมหายใจ) เป็นเรื่องการยังความสมดุล
ทำตามได้ง่ายๆ โดยมีแรงเสียดทานน้อยมาก
ให้ แ ก่ ร่ า งกายและจิ ต ใจอย่ า งเป็ น ธรรมชาติ
๓๔ ๓๕
ธรรมดาที่สุด ไม่ใช่เป็นเรื่องของชาวพุทธเท่านั้น จะเปลี่ ย นไปในทางที่ ดี ขึ้ น ทั น ที ปั ญ หาสั ง คม

การออกกำลั ง กายเหล่ า นี้ จึ ง เป็ น สื่ อ หรื อ จะน้อยลง
กุ ศ โลบายที่ ดี ที่ สุ ด ที่ จ ะช่ ว ยให้ ค นหมู่ ม าก
เป้ า หมายที่ อ ยู่ เ บื้ อ งหลั ง ของวั ฒ นธรรม

มีความทุกข์น้อยลงได้ และเป็นสื่อที่ไม่อิงศาสนา สติปัฏฐานคือ ต้องการหลอกล่อให้คนหมู่มาก
ด้วย เป็นเรื่องกลางๆ ที่เป็นสากลมาก ต้องจัด มาปฏิบัติสติปัฏฐานโดยที่เขาไม่รู้ตัวนั่นเอง
ว่ า เป็ น วั ฒ นธรรมสติ ปั ฏ ฐานอย่ า งหนึ่ ง ที่ ต้ อ ง

ช่วยกันส่งเสริม การใช้ชีวิตอย่างมีรากแก้ว
นี่ เ ป็ น เรื่ อ งการมองการณ์ ไ กล การมี คนที่ออกกำลังกายประเภทนี้ หากฝึกจน
vision แล้ ว การจะเข็ น ให้ ค นทุ ก คนมาปฏิ บั ติ ติดเป็นนิสัย วันไหนไม่ทำ จะรู้สึกเหมือนชีวิต

วิปัสสนาย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะแต่ละคนล้วน ยังไม่ตื่น ไม่เต็ม แสดงว่าเขาได้เปลี่ยนแปลงนิสัย


สร้างบารมีมามากน้อยต่างกัน ตรงนี้แหละ หาก ของใจไปในทางที่ดีแล้ว การได้ออกกำลังกาย
ผู้นำรัฐสามารถทำงานร่วมกับผู้รู้ รับคำแนะนำ เป็นกิจวัตร ใจของเขาจะเริ่มเป็นอิสระมากขึ้น

จากผู้รู้ และพยายามสร้างวัฒนธรรมสติปัฏฐาน ไม่ ถู ก ความคิ ด เร่ า ร้ อ นคุ ก คามเอา เป็ น การ

ให้มากที่สุด เช่น ส่งเสริมให้ประชาชน รำไท้เก็ก ฝึกใช้ชีวิตอย่างมีรากแก้วแล้ว
ชี่ ก ง เล่ น โยคะ ให้ เขามี โ อกาสได้ ห ายใจลึ ก ๆ แม้ บ างครั้ ง จะประสบปั ญ หาทางใจ

ช้าๆ เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ โดยทำให้เป็นการ ถูก หนูเจอรี่คุ กคาม เขาจะไม่ ล้มครืนทัน ที จะ


ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเท่านั้น สภาพสังคม รู้สึกว่าตนเองมีหลักเกาะ จะรู้เองว่า หากเขา
๓๖ ๓๗
สามารถกลับมาสู่การหายใจที่ลึกๆ ช้าๆ โดย
การรำไท้เก็กได้แล้ว เขาจะรู้สึกดีขึ้นเอง ที่เป็น
เช่ น นั้ น เพราะตั ว ใจที่ ห ลงทางอยู่ น อกบ้ า น

จะถู ก ผลั ก เข้ า บ้ า นของใจทั น ที ที่ เขาได้ ห ายใจ
ลึกๆ ซึ่งจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นได้เร็วพอสมควร

นี่แหละคือ การใช้ชีวิตอย่างมีรากแก้วแล้วโดยที่
เจ้ า ตั ว ไม่ รู้ นี่ คื อ ผลกระทบอั น วิ เ ศษสุ ด หาก
วัฒนธรรมสติปัฏฐานเหล่านี้สามารถแพร่หลาย
ออกไปในวงกว้าง
ตรงนี้สำคัญมาก หากผู้นำรัฐ หรือ ผู้นำ
ทางการศึกษาสามารถนำไท้เก็ก ชี่กง โยคะ เข้า
สู่ ร ะบบการศึ ก ษา โดยให้ เ ป็ น วิ ช าพละศึ ก ษา

ชนิดหนึ่ง บังคับให้เด็กๆ ทำแล้ว เด็กๆ จะเริ่มใช้
ชีวิตอย่างมีรากแก้ว พอเข้าวัยหนุ่มสาว อันเป็น สติ ปั ฏ ฐานแล้ ว ไซร้ เขาจะไม่ ใ ช้ ชี วิ ต อย่ า ง

วัยทีม่ กั ถูกฮอร์โมนถล่ม รวมทัง้ ขาดประสบการณ์
ลมพัดลมเพตามคำสั่งของเจอรี่ถ่ายเดียว หรือ
ชีวิต จึงทำให้ชีวิตหนุ่มสาวทั่วไปปั่นป่วนได้มาก ใช้ ชี วิ ต ไปตามยถากรรม แม้ เขาจะไม่ รู้ เรื่ อ ง
แต่หากหนุ่มสาวเหล่านี้มีพื้นฐานจากวัฒนธรรม วิปัสสนาเลยก็ตาม ก็ยังไม่เป็นไร ชีวิตของเขาจะ
๓๘ ๓๙
ไม่เตลิดไกลจากหลัก หรือรากแก้วของเขา

วงจรแห่งความสวยงาม
หากผู้ น ำรั ฐ สามารถสร้ า งนโยบายของ
ชาติโดยฝึกหัดให้คนหายใจอย่างถูกต้องเท่านั้น
การแก้ปัญหาสังคมจะเกิดขึ้นทันที นี่เป็นโดมิโน่
ตัวแรกที่ต้องล้ม เมื่อสมาชิกหมู่มากของสังคม
หายใจอย่างถูกต้อง ปัญหาสังคมอื่นๆ จะล้ม

ตามอย่างระเนระนาด ปัญหาบางอย่างจะไม่เกิด
เลย การสร้างวัฒนธรรมสติปัฏฐานจึงเป็นสิ่ง

ที่ รั ฐ สามารถทำได้ ดี ที่ สุ ด เพื่ อ รั บ ประกั น ว่ า วงจรอันสวยงาม อันเป็นผลจาก
ประชาชนในรัฐจะอยู่อย่างเป็นสุขและเป็นทุกข์ สมาชิกในสังคมหายใจอย่างถูกต้อง
น้อยที่สุด
ถ้ารัฐทำได้เช่นนี้ ปัญหาสังคมจะน้อยลง แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
เอง คนก็มีกำลังใจอยากออกจากบ้านไปทำงาน ถ้ารัฐไม่เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจโดยการ
เพราะรู้ว่า เขากำลังช่วยแก้ปัญหาอย่างแท้จริง สร้างวัฒนธรรมสติปัฏฐานแล้วไซร้ รับประกันได้
เกิดเป็นวงจรแห่งความสวยงามอีกวงหนึ่ง ว่า ทุกอย่างที่รัฐทำ ล้วนแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

๔๐ ๔๑
ชำเรา ข่ ม ขื น เด็ ก ๆ เหล่ า นี้ อ อกจากคุ ก ก่ อ น
กำหนด อาชญากรรมทางเพศซึ่งมีมากอยู่แล้ว
จนแก้ไม่ตกจะต้องมีมากขึ้น แม้การแก้ปัญหา
เรื่ อ งบรรยากาศของโลกในขณะนี้ ตามที่ คุ ณ
อั ล กอร์ แ นะนำให้ ท ำในภาพยนตร์ ส ารคดี ที่

หวือหวามากเรื่อง An Inconvenient Truth นั้น
ล้ ว นเป็ น เรื่ อ งการแก้ ปั ญ หาที่ ป ลายเหตุ ทั้ ง สิ้ น
ทั้งสิ้น เท่ากับเผาผลาญทรัพยากร ธรรมชาติ และต้องนับว่าสายเกินแก้แล้วก็ได้ มนุษย์จะเอา
และบุคคลโดยใช่เหตุ ให้เวลาอีก ๑๐-๑๐๐ ชาติ น้ ำ ยาอะไรไปหยุ ด การละลายของก้ อ นน้ ำ แข็ ง
ก็ยังแก้ปัญหาสังคมไม่หมด เพราะการแก้ปัญหา มหึมาเหล่านั้นได้
ที่ ป ลายเหตุ เ ท่ า กั บ การเพิ่ ม ปั ญ หาให้ สั ง คม

เป็ น ทวี คู ณ การทำงานของกรมตำรวจ กรม วงจรอันเลวร้าย
ประชาสงเคราะห์ เช่น เรื่องการจับผู้ร้ายล้วน อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
เป็ น เรื่ อ งแก้ ปั ญ หาที่ ป ลายเหตุ ทั้ ง สิ้ น ข่ า วที่ นี่ เ องที่ ท ำให้ ค นทำงานกลุ่ ม ใหญ่ ข องโลก
อั ง กฤษอาทิ ต ย์ นี้ ล้ ว นเป็ น เรื่ อ งคุ ก เต็ ม ไม่ มี ที่
หมดอาลัยตายอยากในชีวิต ไม่อยากไปทำงาน
แม้ให้กับนักโทษอีก ๑ คน จนศาลต้องปล่อยให้ เพราะรู้ ว่ า งานที่ ท ำนั้ น ไม่ ไ ด้ ช่ ว ยเหลื อ ให้ ค น
อาชญากรทางเพศ paedophile ที่ชอบกระทำ อยู่เย็นเป็นสุขอย่างแท้จริง ไม่เกิดความภูมิใจใน
๔๒ ๔๓
งานที่ทำอยู่ จึงกลายเป็นความกดดันและความ
ควรร้องไห้หรือหัวเราะดี
เครี ย ด เกิ ด โรคภั ย ไข้ เ จ็ บ หรื อ ไม่ ก็ ไ ปทำผิ ด
ประมาณ ๓ ปีก่อน รัฐบาลอังกฤษของ

ศีลธรรมเพื่อคลายเครียด ซึ่งป้อนกลับมาเป็น โทนี่ แบลร์ คิดจะส่งหนังสือเล่มเล็กๆ จำนวน
ปัญหาสังคมอีก และรัฐบาลก็แก้ปัญหาที่ปลาย ๒๕ ล้ า นเล่ ม ให้ กั บ ทุ ก ครอบครั ว ในอั ง กฤษ

เหตุอีก จึงเกิดวงจรแห่งความเลวร้ายอีกวงหนึ่ง เพื่ อ บอกวิ ธี ก ารให้ ค นเตรี ย มตั ว เองหากเกิ ด
อย่างเห็นได้ชัด นั่นคือ เหตุการณ์ผู้การการร้ายโจมตี เช่น ให้ตุนน้ำดื่ม
อาหารกระป๋องไม้ขีด เทียนไข ไฟฉาย เทปกาว
เพื่ อ ปิ ด ช่ อ งหน้ า ต่ า งหากมี ก ารใช้ อ าวุ ธ เคมี
เป็นต้น ขณะนั้น ลูกชายคนเล็กของดิฉันกำลัง
ทำงานอยู่ ใ นห้ า งสรรพสิ น ค้ า ที่ เ ปิ ด ใหม่ ข อง

เมืองเบอร์มิ่งแฮมชื่อ The Bull Ring (สมัยก่อน
เป็นตลาดขายวัว) ซึ่งสถานที่นี้เป็นเป้าหนึ่งที่ผู้
ก่อการร้ายเพ่งเล็งอยู่เพราะเป็นสัญลักษณ์ของ
นายทุนอเมริกันและอังกฤษ
ดิฉันฟังพ่อลูกเขาคุยกัน พ่อห่วงลูกชาย
วงจรอันเลวร้าย มาก พยายามให้คำแนะนำลูกว่าควรทำอะไร
เนื่องจากการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ อย่างไร หากมีคนมาวางระเบิดในห้างสรรพ-

๔๔ ๔๕
สินค้านี้ ดิฉันฟังเรื่องเหล่านี้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าอยาก ผู้นำรัฐต้องเป็นนักบุญ
จะร้องไห้หรือหัวเราะดี นี่ต้องเรียกว่าเลยกลียุค แน่นอน ผู้นำที่จะนำประเทศชาติไปสู่จุดที่
แล้ว และโลกกำลังเดินเข้าสู่มิคสัญญียุคจริงๆ ช่วยให้ประชาชนมีทุกข์น้อยที่สุดได้นั้น ต้องมี
ดิ ฉั น เห็ น ความกลั ว ตายของคนแล้ ว ก็ ส งสาร
องค์ ป ระกอบอื่ น ด้ ว ย คื อ ต้ อ งเป็ น ผู้ น ำรั ฐ ที่ มี
แต่ครั้นมาบอกให้คนป้องกันตัวเองเช่นนั้นเช่นนี้ คุณสมบัติไม่น้อยกว่าการเป็นนักบุญ saint คือ
มันจะช่วยอะไรได้ คิดบอกลูกอยู่ในใจว่า มาฝึก ต้องไม่กลัวว่าจะไปขัดผลประโยชน์ของคนรวย
วิปัสสนากับแม่ไม่ดีกว่าหรือ ต้องไม่กลัวตาย ต้องกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ

ในขณะที่บ้านเมืองมีเหตุการณ์คับขันนั้น ในสิ่งที่ถูกต้องจริงๆ ต้องรู้ว่าเรื่องถูกต้องมีเรื่อง
สิ่งดีที่สุดที่แต่ละคนทำได้ คือ การไม่กลัวตาย เดียวคือ เรื่องออกจากคุกชีวิตเพื่อไปนิพพาน
ถ้าเกิดเหตุการณ์คับขัน ถึงเวลาต้องตาย ก็ต้อง หรือรู้จักสภาวะสัจธรรมอันสูงสุด และพยายาม
รู้จักการเตรียมตัวตายอย่างสงบ อย่างที่ดิฉัน จั ด องค์ ก ร ทำทุ ก อย่ า งให้ ส อดคล้ อ งกั น เพื่ อ
แนะนำให้ทำในคู่มือชีวิต ซึ่งก็วกกลับมาสู่เรื่อง บรรลุ เ ป้ า หมายอั น สู ง สุ ด นั้ น ไม่ ใช่ พู ด อย่ า ง

การทำความรู้สึกตัวที่ลมหายใจอีกเช่นกัน ใครที่ ทำอีกอย่าง
มีสติอยู่กับลมหายใจได้ จะไม่กลัวตาย ขอให้ ดู ค วามแตกต่ า งของสองวงจรนี้

ซึ่ ง ขึ้ น อยู่ ที่ ว่ า มี ผู้ น ำรั ฐ ประเภทไหน หากมี ผู้

นำรัฐที่ถนัดการแก้ปัญหาปลายเหตุ วงจรอัน
เลวร้ายนี้ย่อมเกิด

๔๖ ๔๗
วงจรอันเลวร้าย วงจรอันสวยงาม

เมื่อมีผู้นำรัฐที่มืดบอด มีอวิชชา เมื่อมีผู้นำรัฐที่มีสัมมาทิฏฐิ รู้เรื่องการ

ออกจากคุกชีวิต
แต่หากผู้นำรัฐสามารถฝึกให้คนหมู่มาก
หายใจอย่างถูกต้อง ก็จะเกิดวงจรอันสวยงาม
ในระดับสังคมส่วนกว้าง ระดับประเทศนั้น
อีกวงหนึ่งคือ ตัวแปรอยู่ที่ผู้นำรัฐกับผู้รู้ความถูกต้อง หรือ คน

๔๘ ๔๙
รู้ เรื่ อ งนิ พ พาน หากทั้ ง สององค์ ก รสามารถ ยาสูบ เพราะเห็นว่าการสูบบุหรี่ไม่ดี เป็นเรื่อง

ทำงานร่วมกันได้แล้ว นี่จะเป็นตัวแปรที่สามารถ ผิ ด ศี ล ธรรม การกี ฬ าของประเทศนี้ คื อ การ

ช่วยเหลือคนหมู่มากให้แหวกออกจากวงจรอัน ยิงธนู เขาจะจำกัดการเข้าเมืองของนักท่องเที่ยว
เลวร้าย หรือ ช่วยกวาดต้อนให้ผู้คนออกจาก ปี ล ะ ๒๐๐ คน ทำนองนั้ น สิ บ ปี แรกที่ ม าอยู่
สังสารวัฏได้อย่างแท้จริง อังกฤษ ดิฉันมักติดตามสารคดีที่เกี่ยวข้องกับ
แต่ ใ นส่ ว นของปั จ เจกชนแล้ ว ตั ว แปร
ประเทศภูฏาน ตอนเขียนเรื่องใบไม้กำมือเดียว
ที่ ส ำคั ญ ก็ ยั ง คงอยู่ ที่ ก ารบั ง คั บ ลมหายใจของ ยั ง ปลื้ ม ใจต่ อ ความเข้ ม ข้ น ของวั ฒ นธรรม

ตนเอง แปรตัวนี้ได้แล้ว เจ้าของชีวิตก็จะแหวก สติ ปั ฏ ฐานของประเทศนี้ จนกระทั่ ง เมื่ อ ไม่ กี่

ออกจากวงกลมอันเลวร้ายได้ หรือ แหวกออก สิบวันนี่เอง ได้ดูข่าวเรื่องของภูฏานอีก ระบบ
จากสังสารวัฏได้ โลกาภิวัฒน์ globalization ได้ทำให้สังคมของ
ภูานเปลี่ยนไปมากอย่างน่าใจหาย และเปลี่ยน
วัฒนธรรมสติปัฏฐานของภูฏาน อย่ า งรวดเร็ ว มากด้ ว ย โดยเริ่ ม จากผู้ น ำรั ฐ

ได้ จั ง หวะพู ด เรื่ อ งประเทศภู ฏ านที่ อ ยู ่
ยอมให้ มี ก ารติ ด ตั้ ง โทรทั ศ น์ ผ่ า นดาวเที ย ม
ในเทื อ กเขาหิ ม าลั ย คนส่ ว นมากนั บ ถื อ พุ ท ธ จำนวน ๔๘ ช่องได้ทันที เขาบอกว่า เด็กๆ ที่
ศาสนา ดิ ฉั น รู้ จั ก ประเทศนี้ ก็ เ พราะได้ อ่ า น เคยวิ่ ง เล่ น ไปมาอย่ า งไร้ เ ดี ย งสานั้ น เดี๋ ย วนี ้

หนังสือของอาจารย์สุลักษณ์ ศิวลักษณ์ จำได้ ไม่ค่อยชอบเล่นแล้ว ล้วนนั่งหน้าจอดูโทรทัศน์


แม่นยำ ท่านบอกว่า คนภูฏานไม่ยอมปลูกต้น กั น หลายๆ ชั่ ว โมงเหมื อ นเด็ ก และผู้ ใ หญ่ ข อง
๕๐ ๕๑
ประเทศที่ ถู ก ลั ท ธิ บ ริ โ ภคนิ ย มครอบงำเต็ ม ที่ เป็ น เรื่ อ งน่ า เสี ย ดายและน่ า เศร้ า มาก เพราะ
พ่อค้าสามารถนำสินค้าจากตะวันตกเข้าไปได้ วัฒนธรรมสติปัฏฐานไม่ใช่เรื่องที่จะสร้างสรรค์
เขาบอกว่า สินค้าที่ขายดีมากอย่างทันทีทันควัน กันได้ง่ายๆ ต้องใช้เวลาหลายร้อยปีหรือพันปี
หลังจากการมีโทรทัศน์คือ ครีมทาผิว ของหอม ภูฏานนี้อาจจะเป็นประเทศสุดท้ายในโลกที่ถูก
ต่างๆ คุณแม่ที่มีลูกเล็กเริ่มใช้แพมเพอร์สแทน
เงื้อมมือของลัทธิบริโภคนิยมตะปบเอา เมื่อคน
ผ้ า อ้ อ ม เด็ ก ๆ วั ย รุ่ น เริ่ ม ใส่ ร องเท้ า ยี่ ห้ อ ไนกี้ รู้จักอำนาจเงินแล้ว ก็เท่ากับพลัดเข้าไปสู่วงจร
ปรากฏการณ์ใหม่ทางสังคมที่ร้ายที่สุดคือเริ่มมี อันเลวร้ายแล้ว จะหลุดออกมายากมาก
ปัญหายาเสพติด และโสเภณี รายงานข่าวบอก ที่จริงแล้ว วัฒนธรรมสติปัฏฐานเคยมีมา
ว่ า เด็ ก สาวเริ่ ม ขายตั ว เพื่ อ เอาเงิ น มาซื้ อ ของ แล้วในบ้านเมืองไทยเรา แม้ได้ถูกลัทธิบริโภค
ฟุ่มเฟือยต่างๆ ที่เห็นโฆษณาในโทรทัศน์ นิยมกัดกินไปมากแล้วก็ตาม เชื้อของมันยังมีอยู่
ผู้ สื่ อ ข่ า วไปสั ม ภาษณ์ ผู้ น ำของประเทศ เพราะสถาบันพุทธก็ยังคงอยู่ จึงเปิดโอกาสให้
ภูฏาน ซึ่งเขาอธิบายว่า การมีโทรทัศน์เท่ากับ คนไทยเราเรียนรู้เรื่องราวเหล่านี้ได้ง่ายกว่าชาว
การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสวงหาความรู้ ตะวันตก
อันเป็นบันไดไปสู่การมีอำนาจ
เรื่ อ งภู ฏ านนี่ เ ป็ น ตั ว อย่ า งชั ด เจนที่ ผู้ น ำ
สรุป
รั ฐ พยายามทำลายวงจรอั น สวยงามของ
หากคุณคิดว่า เรื่องการสร้างวัฒนธรรม
ชาวภู ฏ านเพื่ อ แลกกั บ วงจรอั น เลวร้ า ยแทน
สติปัฏฐานยังเป็นอุดมคติที่ไกลมากแล้ว สิ่งที่คุณ
๕๒ ๕๓
สามารถทำได้ดีที่สุดในขณะนี้คือ เริ่มที่ตนเอง ชีวิตได้ ขอให้มีความอดทน พากเพียรพยายาม
ก่อน ทำในสิ่งที่สามารถทำได้ดีก่อน โดยการล้ม และทำให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง
โดมิโน่ตัวแรก นั่นคือ เริ่มที่ลมหายใจของคุณเอง
สร้างนิสัยใหม่ที่จะหายใจช้าๆ ลึกๆ โดยทำไป ศุภวรรณ พิพัฒพรรณวงศ์ กรีน
พร้อมๆ กับการรำไท้เก็กชี่กง ๑๘ ท่า โดยจะ
๒๖ มกราคม ๒๕๕๐
ไปทำร่วมกับคนกลุ่มใหญ่ที่สวนสาธารณะก็ได้
หากมีเวลา หรือ ถ้าไม่มีเวลามากนักก็สามารถ
ทำเองอยู่ ที่ บ้ า น โดยตื่ น เช้ า หน่ อ ย และออก

ไปสวนหลั ง บ้ า น (หากมี ) เพื่ อ ออกกำลั ง กาย

สูดอากาศบริสุทธิ์เพื่อเอาพลังชี่ที่สดๆ เข้าไป

ในร่างกาย
ดิฉันได้ทำดีวีดีชุด พาตัวใจกลับบ้านกับ
การรำไท้เก็กชี่กงไว้แล้ว พร้อมกับบทสัมภาษณ์

ที่ได้อธิบายให้ผู้ชมเข้าใจเรื่องการใช้ ตาใจ ของ
ตนเอง
จึ ง หวั ง เป็ น อย่ า งยิ่ ง ว่ า บทความนี้ จ ะ
สามารถช่วยให้คุณทำลายวงจรอันเลวร้ายของ
๕๔ ๕๕
บทที่ ๒
เริ่มแก้ปัญหาที่ลมหายใจ


๑๓ กรกฎาคม ๒๕๔๗

สวัสดีครับคุณศุภวรรณ
ผมชือ่ สัญญาครับ เป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่ดีดพิมพ์ภาษาอังกฤษได้เร็วกว่าดีดภาษาไทย
ครับ จึงต้องเขียนมาเป็นภาษาอังกฤษ หวังว่า
คุณคงไม่รังเกียจนะครับ
ผมเริ่ ม สนใจพุ ท ธศาสนาตั้ ง แต่ ผ มเป็ น

นั ก ศึ ก ษาอยู่ ม หาวิ ท ยาลั ย แล้ ว ครั บ ได้ เรี ย นรู ้

แนวการปฏิบัติของหลวงพ่อเทียนมาหลายปีอยู่
แต่ผมคิดว่า ผมยังไม่ได้เดินถูกทางเท่าไร ผมได้
อ่ า นเรื่ อ ง “คู่ มื อ ชี วิ ต ” ของคุ ณ แล้ ว ให้ แรง
บั น ดาลใจแก่ ผ มได้ ม ากครั บ คุ ณ ใช้ ภ าษาที่

๕๗
คนธรรมดาเข้าใจได้ และมีความกล้าหาญที่จะ ฅถูกต้องครับ
พูดความจริง ๒) บางครั้ ง ผมพยายามดู ล มหายใจใน
ห ลั ง จ า ก อ่ า น ห นั ง สื อ ข อ ง คุ ณ แ ล้ ว
ขณะที่อยู่ในที่ชุมนุมชน เช่น บนรถเมล์ ทำแล้ว
ผมอยากคุ ย กั บ คุ ณ มากครั บ แต่ คุ ณ อยู่ ไ กล
ก็ไม่เห็นรู้สึกผ่อนคลายเลยครับ กลับรู้สึกแน่น

เหลือเกิน ผมจึงต้องเขียนมาแทน ผมอยากถาม ที่หน้าอกในขณะที่ตามดูลมหายใจ จนผมต้อง


เกี่ยวกับการปฏิบัติและปัญหาชีวิตทั่วไปนะครับ เลิ ก ทำ จึ ง อยากถามว่ า ผมควรทำอย่ า งไรใน
๑) เวลาที่ผมปฏิบัติ ซึ่งส่วนมากจะเป็น ขณะที่อยู่ต่อหน้าคนหมู่มาก โดยที่คนอื่นไม่มอง
การเดินจงกรม ผมไม่สามารถ “รู้สึก” อาการ เราว่า “เพี้ยน”
เคลื่อนได้ชัดเจนเท่าที่ควร ผมสับสนมาก ไม่รู้ว่า ๓) เวลาที่ผมปฏิบัตินั้น ความคิดของผม
ควรกำหนดรู้ตรงไหนดี ควรจะรู้ที่เท้า หรือ ที่ จะมีมาก มักมาบอกให้ผมไปทำโน่นทำนี่เสมอ
กายทั้งหมดในขณะที่เดินอยู่ หรือ ควรรู้เฉพาะ ผมรู้สึกว่ามี “ตัวผม” ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้

จุดที่รับรู้ได้เพราะมันเด่น หนังสือบางเล่มก็บอก แต่ ท ำไมหนั ง สื อ ธรรมะทุ ก เล่ ม บอกว่ า “ไม่ มี

ว่ า ไม่ ต้ อ งไปเพ่ ง มากจนเกิ น ไป ทำตั ว เองให้ ตัวตน” ละครับ ผมรู้สึกเช่นนั้นไม่ได้
เหมื อ นกระจก ผมก็ ไ ม่ รู้ ว่ า จะทำตั ว เองเป็ น ๔) คำถามนี้คงซับซ้อนหน่อย แต่เป็นเรื่อง
กระจกได้อย่างไร บางคนบอกว่า หากเราเพ่ง ที่ ส ร้ า งความเจ็ บ ปวดให้ ผ มตลอด ๑๐ ปี ท ี่

มากเกินไป ก็จะกลายเป็นสมถะ ไม่ใช่วิปัสสนา ผ่านมา คือ ผมไม่ชอบงานของผมเลยครับ ผม


ผมงงมากครั บ อะไรควรจะเป็ น การปฏิ บั ติ ที่
อยู่ฝ่ายบริหารบุคคล ซึ่งเป็นงานที่ผมทำมาตั้ง
๕๘ ๕๙
แต่ เรี ย นจบ มั น เป็ น งานที่ เ ครี ย ดมาก ต้ อ ง ผมสับสนมากครับ ไม่รู้ควรเชื่อใครดี คุณคิดว่า
พยายามดู แ ลความต้ อ งการและการบ่ น ของ
ผมควรทำอย่างไร ผมกำลังถูกความคิดของผม
ทั้ ง เจ้ า นาย และเพื่ อ นร่ ว มงานในปั ญ หาทุ ก ๆ หลอกอยู่หรือเปล่า หากผมปฏิบัติธรรมได้ดีใน
เรื่อง โดยเฉพาะเมื่อเจ้านายระดับสูงสั่งงานบาง ระดับหนึ่ง คุณคิดว่าผมจะสามารถแก้ปัญหาเรื่อง
อย่าง ผมมีความรู้สึกว่าผมทำไม่ได้ครับ ผมยัง การรักงานโดยทีไ่ ม่ตอ้ งเปลีย่ นงานได้หรือไม่ครับ
ไม่เคยเจอวันไหนที่ผมตื่นขึ้นมาแล้วบอกตัวเอง ๕) ผมจะซื้อหนังสือเรื่อง ใบไม้กำมือเดียว
ได้ว่า “วันนี้อยากไปทำงาน” ยังไม่เคยมีวันนั้น ได้ที่ไหนครับ หาแล้ว ไม่มีขาย
ครับ เหตุผลเดียวที่ผมยังต้องเดินเข้าไปที่ทำงาน ผมหวังว่า คงไม่ได้รบกวนเวลาของคุณ
ทุกวันคือ ผมมีภาระต้องรับผิดชอบครอบครัว มากเกินไปนะครับ เดาว่า คุณคงยุ่งมาก แต่จะ
และลูกสาว ๒ คน ผมอายุ ๔๓ ครับ ผมเคย
เป็นพระคุณมากครับหากคุณกรุณาหาเวลาตอบ
คิดลาออก และหางานที่เรารักทำ เช่น เป็นครู คำถามของผมได้
แต่ผมก็มาติดที่เงินเดือนครับ เพราะอย่างน้อย ท้ า ยที่ สุ ด นี้ ขอผลบุ ญ ที่ คุ ณ ศุ ภ วรรณ

งานปั จ จุ บั น นี้ ก็ ใ ห้ เงิ น เดื อ นที่ ดี พ อให้ ผ มดู แ ล ได้ทำมาทั้งหมดจงกลับมาคุ้มครองให้คุณและ
ครอบครั ว ได้ ผมจึ ง รู้ สึ ก ว่ า ตั ว เองกำลั ง ติ ด ครอบครัวมีแต่ความสุขและความสงบนะครับ

ร่างแหอยู่ บางคนก็บอกว่า เราควรทำงานในสิ่ง
ด้วยความนับถือ
ที่ตัวเองรักดีกว่า เรื่องเงินจะตามมาทีหลัง แต่
สัญญา
บางคนก็บอกว่า เราควรพยายามรักสิง่ ทีเ่ ราทำอยู่

๖๐ ๖๑
เบอร์มิ่งแฮม อังกฤษ ให้เหมือนกระจก ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำตัวเองเป็น
๒๔ มกราคม ๒๕๕๐ กระจกได้อย่างไร บางคนบอกว่า หากเราเพ่ง
มากเกินไป ก็จะกลายเป็นสมถะ ไม่ใช่วิปัสสนา
สวัสดีค่ะ คุณสัญญา ผมงงมากครับ อะไรควรจะเป็นการปฏิบัติที่ถูก
ดิ ฉั น ไม่ รั ง เกี ย จที่ คุ ณ เขี ย นเป็ น ภาษา ต้องครับ”
อั ง กฤษค่ ะ ที่ จ ริ ง แล้ ว คุ ณ ไม่ ใช่ เ ป็ น คนไทย
ส า เ ห ตุ ที่ คุ ณ ไ ม่ ส า ม า ร ถ รู้ สึ ก ก า ร
คนแรกที่ บ อกดิ ฉั น ว่ าพิมพ์ดีดภาษาไทยไม่เก่ง เคลื่ อ นไหวได้ ชั ด เจนเพราะคุ ณ ยั ง กำหนด

เท่าภาษาอังกฤษ และคุณเขียนภาษาอังกฤษได้ดี “ตาใจของตัวใจ” ไม่ได้นั่นเอง ขอให้คุณกลับไป


ที เ ดี ย วค่ ะ ดิ ฉั น ขอตอบเป็ น ภาษาไทยดี ก ว่ า
อ่านเรื่อง “ทำอย่างไรให้หายกลุ้มใจ”๒ ดิฉันได้
นะคะ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วย แนะนำให้เพื่อนของดิฉันที่ชื่ออ้อมให้รู้จักตาใจ
ถามว่ า “เวลาที่ ผ มปฏิ บั ติ ซึ่ ง ส่ ว นมาก
และการใช้ ต าใจ ขอให้ คุ ณ ทำตามคำแนะนำ
จะเป็ น การเดิ น จงกรม ผมไม่ ส ามารถ “รู้ สึ ก ” เหล่ า นั้ น จนสามารถพาตั ว ใจกลั บ บ้ า นที่ ๑

อาการเคลื่อนได้ชัดเจนเท่าที่ควร ผมสับสนมาก และ ๒ ให้ได้
ไม่ รู้ ว่ า ควรกำหนดรู้ ต รงไหนดี ควรจะรู้ ที่ เ ท้ า การเดิ น จงกรมเป็ น อาการที่ เ คลื่ อ น

หรือ ที่กายทั้งหมดในขณะที่เดินอยู่ หรือ ควรรู้ ตลอดเวลาเหมือนเข็มวินาที ขอให้คุณมองไป

เฉพาะจุดที่รับรู้ได้เพราะมันเด่น หนังสือบางเล่ม ๒
ทำอย่ า งไรให้ ห ายกลุ้ ม ใจ เป็ น หนั ง สื อ เล่ ม ที่ ๒ ของโครงการ
ก็บอกว่า ไม่ต้องไปเพ่งมากจนเกินไป ทำตัวเอง หนังสือชุด พาตัวใจกลับบ้าน มีจำหน่ายที่ร้านนายอินทร์ทุกแห่ง

๖๒ ๖๓
ที่ น าฬิ ก าเรื อ นใหญ่ ที่ มี เข็ ม วิ น าที ถ้ า เป็ น แบบ เช่นนั้น ซึ่งมีทั้งอาการเคลื่อนอันเป็นหน้าตาของ
กวาดตลอดเวลาได้จะยิ่งดีค่ะ สมมุติให้ตาเนื้อ บ้านที่ ๑ และความรู้สึกของมือที่แตะพื้นอันเป็น
ของคุณเป็นตาใจ และเข็มวินาทีที่เคลื่อนตลอด
หน้าตาของบ้านที่ ๒ ขอให้คุณหัดดูตามอาการ
เป็นอาการที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินจงกรม คุณ เคลื่ อ นและความรู้ สึ ก ในขณะที่ มั น เกิ ด จริ ง ๆ
เห็นหรือไม่ว่า การจะรับรู้การเคลื่อนของเข็ม อะไรที่เห็นชัดเจน ก็ดูเข้าไป อะไรที่ผ่านไปแล้ว

วิ น าที คุ ณ ต้ อ งดู ต ามอาการเคลื่ อ นทั้ ง หมด
ก็ผ่านไปเลย คุณไม่ต้องไปตอแยว่า เมื่อกี้นี้ไม่ได้
ในขณะที่ มั น เกิ ด ขึ้ น อะไรที่ คุ ณ เห็ น ได้ ชั ด ก็ ดู เห็นตรงนั้นตรงนี้ เพราะนี่ล้วนเป็นหลุมพราง

เข้าไปตรงนั้น แต่มันจะเคลื่อนไปเรื่อยๆ คุณก็ ที่เจอรี่จะหาทางเข้ามาหลอกล่อคุณ และไม่ต้อง
ต้องตามดูมันไปเรื่อยๆ ไปเพ่งอะไรมากด้วย ดูอย่างสบายๆ เหมือนดู
จะให้ ดี แ ล้ ว ขอให้ คุ ณ หลั บ ตาเนื้ อ ก่ อ น เข็มนาฬิกาเคลื่อนไปเรื่อยๆ ตราบใดที่มือหรือ
และฝึกเคลื่อนมือขึ้นลงช้าๆ ก่อน ทำให้เหมือน เท้าเคลื่อน ตาใจของเราจะมีสิ่งที่ให้มองตลอด
อาการของการเดิน โดยที่มีการยกมือขึ้นช้าๆ เวลา จึ ง ไม่ ต้ อ งไปเสี ย ดายสิ่ ง ที่ เราไม่ ไ ด้ เ ห็ น

และค่อยๆ หย่อนลง พอสุดแล้ว ก็เอามือมาแตะ เมื่อกี้นี้ ดูของใหม่ที่อยู่เบื้องหน้าทันที
ที่ตัก กดลงไปเหมือนที่เรากดเท้าลงพื้น จะเอา เมื่ อ ฝึ ก การดู ก ารเคลื่ อ นไหวกั บ มื อ แบบ
สันมือลงก่อน หรือ นิ้วลงก่อน แล้วต่อด้วยมือ หลั บ ตาแล้ ว ก็ ล องทำแบบลื ม ตาด้ ว ย โดยที่

ส่วนกลางก็ได้ ทำอาการเลียนแบบเท้าแตะพื้น ตามองไปข้างหน้า ไม่ต้องดูมือ แต่ตาใจยังจับ
เข้าใจนะคะ แล้วคุณก็ฝึกดูอาการเคลื่อนของมือ อาการเคลื่อนของมือและความรู้สึกได้ชัดเจนอยู่
๖๔ ๖๕
เมื่อทำได้แล้ว คุณก็นำวิธีการนั้นมาใช้กับการ เรื่ อ งอาจารย์ กั บ ลู ก ศิ ษ ย์ เ ป็ น เรื่ อ งของ
เดิน ในการเดินนั้น คุณไม่ควรหลับตา เพราะจะ เกลี ย วสลั ก สองเกลี ย วที่ ต้ อ งเข้ า กั น ได้ อ ย่ า ง

ทำให้เสียสมดุล พอดิบพอดี เมื่อคุณปฏิบัติตามเช่นนี้แล้ว มีความ
คุ ณ ไม่ ต้ อ งไปสนใจเรื่ อ งทำตั ว เองให้ รู้สึกว่าทำได้ และทุกข์น้อยลง คุณก็ต้องเริ่มเชื่อ
เหมือนกระจกนะคะ ดิฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ในประสบการณ์ของตนเองแล้วค่ะ เอาผลที่ได้
ทำอย่างไร ขอให้ทำตามที่แนะนำเช่นนี้ คุณจะไม่ จากการปฏิ บั ติ ข องตนเองเป็ น หลั ก อาจจะมี

พลัดไปสู่เรื่องสมถะแน่นอน นี่เป็นเรื่องวิปัสสนา คนอื่นที่มาบอกคุณว่า วิธีการของคุณผิด เพราะ


การเดิ น จงกรมเช่ น นี้ จ ะดี ม าก เป็ น การฝึ ก ฝน
สอนไม่ เ หมื อ นอาจารย์ ข องเขา คุ ณ ต้ อ งอย่ า
ตัวใจให้มีทักษะในการเข้าๆ ออกๆ ระหว่างบ้าน สับสน ทุกอาจารย์จะมีเทคนิคของตนเองที่ต่าง
๑ และ ๒ ได้ดีมาก จึงเป็นสมถะไม่ได้แน่นอน
กันไปเพื่อรองรับความหลากหลายของจริตของ
ในทางตรงกันข้าม นี่เป็นการฝึกฝนที่จะเดินเคียง ลูกศิษย์แต่ละคน ซึ่งเป็นเรื่องดี แม้วิธีการจะแตก
ข้างสัจธรรมแล้ว นี่เป็นวิธีการโดยตรงที่จะฝึก ต่ า งกั น บ้ า ง แต่ เ ป้ า หมายล้ ว นช่ ว ยคนให้ ทุ ก ข์
การขับรถไฟชีวิตให้ได้ระดับเดียวกับรถไฟขบวน น้อยลงทั้งสิ้น
ที่นี่ เดี๋ยวนี้แล้ว เป็นทางลัดไปนิพพานจริงๆ๓ ถามว่า บางครั้งผมพยายามดูลมหายใจ

การเปรียบเทียบเรื่องการขับรถไฟชีวิตให้ได้ระดับเดียวกับรถไฟ
ในขณะที่อยู่ในที่ชุมนุมชน เช่น บนรถเมล์ ทำ
ขบวนที่นี่ เดี๋ยวนี้ เป็นเนื้อหาที่ดิฉันได้เขียนไว้แล้วในหนังสือเรื่อง แล้ว ก็ไม่เห็นรู้สึกผ่อนคลายเลยครับ กลับรู้สึก
“ ไอน์ ส ไตน์ ถ าม พระพุ ท ธเจ้ า ตอบ” พิ ม พ์ โ ดยสำนั ก พิ ม พ์
แน่นที่หน้าอกในขณะที่ตามดูลมหายใจ จนผม
ฟรีมายด์ จัดจำหน่ายโดย ศูนย์หนังสือจุฬาฯ

๖๖ ๖๗
ต้องเลิกทำ จึงอยากถามว่าผมควรทำอย่างไรใน
ขณะที่อยู่ต่อหน้าคนหมู่มาก โดยที่คนอื่นไม่มอง
เราว่า “เพี้ยน”
ในขณะที่ อ ยู่ ต่ อ หน้ า คนหมู่ ม าก ถ้ า ดู

ลมหายใจแล้ ว ไม่ ผ่ อ นคลาย รู้ สึ ก อึ ด อั ด ก็

ไม่ต้องดู หายใจไปตามปกติก่อน แล้วค่อยมา


ฝึ ก ฝนเรื่ อ งการหายใจอย่ า งถู ก ต้ อ งในขณะที ่

อยู่คนเดียวและมีเวลา การคุ ย กั บ คนนั้ น คนนี้ เ ป็ น เรื่ อ งเชื้ อ เชิ ญ

เมื่ออยู่ต่อหน้าคนหมู่มาก หากเป็นผู้ชาย เจอรี่เข้าบ้านโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคุย


อยากแนะนำให้เอานิ้วขูดที่หัวปากกา หากเป็น กั บ คนที่ ยั ง ไม่ รู้ เรื่ อ งธรรมะและไม่ เ คยฝึ ก ฝน
หญิ ง ควรใส่ ลู ก ประคำข้ อ มื อ แบบทำด้ ว ยไม้
วิปัสสนา คนกลุ่มนี้จะพูด “เพ้อเจ้อ” เก่ง จะอยู่
ไม้แกะสลักได้ยิ่งดี หรือหินสวยๆ ที่เป็นเครื่อง ในโลกแห่งมายา หรือ โลกแห่งความฝัน ซึ่งเขาก็
ประดับก็ได้ มีเหลี่ยมๆ ได้ก็ยิ่งดี เวลานั่งเฉยๆ ไม่ รู้ ตั ว และเป็ น คนกลุ่ ม ใหญ่ ข องสั ง คมด้ ว ย
หรื อ แม้ คุ ย กั บ คนนั้ น ควรเอาปากกาหรื อ ลู ก ฉะนั้น เวลาที่คุณคุยกับคนกลุ่มนี้ คุณยิ่งจำเป็น
ประคำมาจับไว้ที่มือ และก็ทำความรู้สึกตัวไป ต้องฝึกทักษะพาตัวใจกลับบ้านให้ดี ไม่เช่นนั้น
ด้ ว ย การทำเช่ น นี้ จะช่ ว ยให้ ตั ว ใจของเราอยู ่
แล้ว เมื่อคุยเสร็จ บ้านของใจคุณจะเต็มไปด้วย
ติดบ้าน คืออยู่กับบ้าน ๑-๒ ได้ เจอรี่ ทำให้สับสนเพิ่มขึ้น และรู้สึกไม่สบายทั้ง
๖๘ ๖๙
กายและใจ
ฉะนั้น คุณควรต้องฝึกพาตัวใจกลับบ้าน
ในขณะที่ คุ ย กั บ คนอยู่ โดยการเอานิ้ ว ขู ด หั ว

ปากกาหรื อ ทำความรู้ สึ ก ตั ว กั บ ลู ก ประคำ

ลูกประคำนั้นไม่จำเป็นต้องเอามานั่งนับนะคะ แค่
เอามาใส่ในอุ้งมือและบีบมันเบาๆ หรือเคลื่อน

การทำเช่นนี้ เหมือนเอาเท้าข้างหนึ่งออก
นอกบ้าน แต่อีกข้างหนึ่งอยู่ในบ้าน ตัวใจของคุณ
จะไม่สามารถเตลิดไปไกลจากตัวบ้าน เวลาที่ฟัง
คู่สนทนาแล้ว ไม่สบอารมณ์ คำพูดของเขาทำให้
เราเขว หวั่นไหว หรือ ขาดความมั่นใจในตัวเอง
แล้ว เราจะสามารถพาตัวใจกลับบ้านได้เร็วกว่า
ไปมาระหว่างสองมือก็ยังได้ ถ้าหากไม่ใช้วัสดุ การไม่ได้ทำ พอใจสั่น ใจตก หรือเสียดุล รีบ
เลย ก็ควรเอาสองมือมาลูบเข้าหากันช้าๆ หรือ ทำความรู้สึกตัวที่ลมหายใจ การเกานิ้ว หรือ
เอามื อ ลู บ ต้ น ขาขึ้ น ลงช้ า ๆ อั น เป็ น ลั ก ษณะ ลูบที่ลูกประคำให้ชัดเจนมากขึ้น เปรียบเหมือน
อาการที่คนทั่วไปทำอยู่แล้ว การรีบหดเท้าที่อยู่ข้างนอกเข้าบ้านทันที ก็จะ

๗๐ ๗๑
ปลอดภัย อันตรายมาไม่ถึงตัว
จากนั้น ก็ฟังคู่สนทนาไปแบบเข้าหูซ้าย
ทะลุหูขวา ไม่ต้องตอบโต้ ไม่ต้องเพ้อเจ้อตามเขา
ทำตัวใจของคุณให้อยู่ติดบ้าน ๑-๒ ทำเช่นนี้
แล้ ว รั บ รองว่ า จะไม่ มี ใ ครรู้ ว่ า คุ ณ กำลั ง ทำ
วิปัสสนาอยู่ และไม่มีอาการเพี้ยนแน่นอน แม้

ทุกวันนี้ ดิฉันก็ยังทำความรู้สึกตัวกับลูกประคำ
เวลาคุยกับคนอื่นอยู่ เท่ากับการพยายามหยั่งรากแก้วให้ชีวิตตนเอง
คุณต้องหาวิธีการที่จะพาตัวใจกลับบ้าน สร้างนิสัยแห่งใจที่ดี จะปรับตัวใจให้เป็นปกติได้
เอาเอง ดิฉันจะมีก้อนหินขนาดต่างๆ วางอยู่ตรง เร็วมาก ทำให้ความมั่นใจในตนเองกลับมาได้เร็ว
ม้านั่ง เวลานั่งในสวนคุยกับสามี ลูก ญาติ หรือ เพราะไม่ถูกมายาของความคิดและความรู้สึก
เพื่ อ นก็ ต าม คุ ย ไป ดิ ฉั น จะนั่ ง ลู บ ก้ อ นหิ น นั้ น
หวั่นไหวหลอกลวงเอา
ไปด้วย ยิ่งมีตรงไหนขรุขระ ก็ยิ่งดี รู้สึกตัวได้ ถามว่า เวลาที่ผมปฏิบัตินั้น ความคิดของ
ชัดเจนมากขึ้น ทำให้ตัวใจไม่เสียสมดุล ไม่เสีย ผมจะมีมาก มักมาบอกให้ผมไปทำโน่นทำนี่เสมอ
ศู น ย์ คนก็ เ ห็ น เพี ย งว่ า ดิ ฉั น ลู บ ก้ อ นหิ น แต่
ผมรู้สึกว่ามี “ตัวผม” ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้

ที่จริงดิฉันทำวิปัสสนาอยู่ แต่ ท ำไมหนั ง สื อ ธรรมะทุ ก เล่ ม บอกว่ า “ไม่ มี

การฝึ ก วิ ปั ส สนาต่ อ หน้ า คนอื่ น เช่ น นั้ น ตัวตน” ละครับ ผมรู้สึกเช่นนั้นไม่ได้
๗๒ ๗๓
คำสอนเรื่อง “ไม่มีตัวตน” ที่จริงเป็นคำ ผลที่เกิดจากการปฏิบัติอย่างถูกต้องในเบื้องต้น
สอนที่ลึกซึ้ง เป็นขั้นตอนช่วงท้ายๆ ซึ่งจะเข้าใจ และท่ า มกลาง เมื่ อ ปฏิ บั ติ ถู ก ต้ อ งแล้ ว จะมี
ได้ก็ต่อ เมื่ อ เกิ ด ปั ญ ญาจากการได้ปฏิบัติในขั้น ปฏิเวธ ปัญญาจะเกิด ทำให้มองเห็นสภาวะของ
เบื้ อ งต้ น แล้ ว ปั ญ หาเรื่ อ งความสั บ สนของ
ความไม่มีตัวตนได้ ซึ่งเป็นสภาวะที่พูดหรือเขียน
คนใฝ่ ห าธรรมนี่ คงต้ อ งไล่ จ ากการสอนตาม เป็ น ตั ว หนั ง สื อ ไม่ ไ ด้ เมื่ อ เขี ย นหรื อ พู ด ออกมา

ประเพณี และการสอนตามตำรา เพราะผู้สอน
ก็ไม่ใช่สภาวะไม่มีตัวตนเสียแล้ว จึงเพิ่มความ
ที่ยังไม่ได้บรรลุธรรมนั้นจำเป็นต้องพูดสอนตาม ยากเข้าไปอีก
พระพุทธเจ้า และครูบาอาจารย์ในอดีตที่ส่งทอด ฉะนั้ น คนที่ เ พิ่ ง เข้ า มาปลุ ก ปล้ ำ กั บ การ
กันมา เมือ่ มาถึงยุคพวกเรา คำสอนทีถ่ กู แยกแยะ
ปฏิบัติวิปัสสนาใหม่ๆ นั้น จะให้เข้าใจเรื่องความ
ว่ามีทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และบั้นปลาย หรือ ไม่มีตัวตนนั้นย่อมไม่ได้ ประสบการณ์ของคุณ

ปริ ยั ติ ปฏิ บั ติ ปฏิ เวธ จึ ง คละเคล้ า กลายเป็ น
ที่ รู้ สึ ก ว่ า มี “ตั ว ผม” ที่ สั่ ง ให้ “ผมทำโน่ น นี่ ”

รวมมิตรกันไปหมด นั้ น ถู ก ต้ อ งแล้ ว นั่ น เป็ น การสั่ ง งานของเจอรี่



คนมาปฏิบัติใหม่ๆ ไม่สามารถแยกออกได้ หรือความคิดของคุณ เจอรี่ทำให้คุณรู้สึกว่ามี

ว่าคำสอนส่วนไหนควรอยู่ต้น ส่วนไหนอยู่กลาง “ตัวตน” ต่อเมื่อคุณสามารถเอาเจอรี่ออกจากหัว
และส่วนไหนอยู่ปลาย จึงเกิดความสับสนมาก ของคุณได้โดยการพาตัวใจกลับบ้านบ่อยๆ และ
โดยเฉพาะเรื่อง ความไม่มีตัวตนนี่ เป็นคำสอนที่ จนสามารถเข้าบ้านที่ ๔ ได้ สามารถรับ “ผัสสะ
จัดอยู่ในชั้นก้าวหน้า อยู่ส่วนปลาย เป็นเรื่องของ บริสุทธิ์” ได้ เมื่อนั้นแหละ คุณจึงเข้าใกล้สภาวะ
๗๔ ๗๕
“ไม่มีตัวตน” คุณจึงจะเห็นสภาวะที่ “ว่างจากตัว อธิบายง่ายขึ้นด้วย
ตน” ได้ชัดเจนขึ้น หากคุณยังเข้าบ้านที่ ๔ ไม่ได้ ตัวใจตัวนี้คือ วิญญาณขันธ์อันเป็นขันธ์
คุ ณ จะไม่ ส ามารถเห็ น สภาวะที่ ตั ว ตนหายไป หนึ่ ง ใน ๕ ขั น ธ์ นั่ น เอง แม้ ค นไทยเราที่ เ ป็ น
ปัญญาจะไม่เกิด จำเป็นต้องมีสภาวะของการรับ ปัญญาชนอย่างคุณก็จะเข้าใจวิธีการนี้ได้ดีกว่า
ผัสสะอย่างบริสุทธิ์ให้ได้เสียก่อน ปัญญาในขั้น ทำให้ ไ ม่ ง งและสั บ สน คื อ เริ่ ม ต้ น จากการ

ลึกซึ้งที่จะช่วยให้เห็นความไม่มีตัวตนจึงจะเกิด ทำความรู้ จั ก “ตั ว ใจ” ของเราไปก่ อ นว่ า มี ตั ว

นี่เป็นสาเหตุที่ดิฉันไม่ได้เน้นคำสอนเรื่อง เราจริ ง ๆ เมื่ อ ใช้ “ตาใจของตั ว ใจ” เป็ น แล้ ว
“ไม่มีตัวตน” มากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาว สามารถเข้ า บ้ า นที่ ๔ รั บ ผั ส สะบริ สุ ท ธิ์ ไ ด้ ใ น

ตะวันตกจะเข้าใจเรื่อง non-self หรือ void ได้ ภายหลัง “ตัวใจ” นั้นก็จะค่อยๆ หายไป เกิด
ยากมาก ฝรั่ ง ถู ก สอนให้ เชื่ อ เรื่ อ งการมี ตั ว ตน
สภาวะของการ “หลอมรวม” กั บ ธรรมชาติ

มี ego คำสอนเรื่องไม่มีตัวตนของพระพุทธเจ้า รอบข้าง กลมกลืนกับพระนิพพาน ถึงจุดนั้นแล้ว


จึงเรียกว่า สวนทางกับความเชื่อของฝรั่งอย่าง
ตั ว ใจหรื อ ตั ว ตนก็ จ ะหายไปเอง เข้ า สู่ ส ภาวะ
สิ้ น เชิ ง ดิ ฉั น จึ ง ใช้ จุ ด เด่ น ของฝรั่ ง นี้ เ ป็ น ช่ อ ง
“ความไม่มีตัวตน” ดังที่พระพุทธเจ้าสอนไว้
เปิดทางให้เขารู้จักภูมิปัญญาของพระพุทธเจ้า การสอนด้วยวิธีการนี้ ดิฉันจึงสามารถ
ภายหลัง โดยเน้นเรื่องการมีตัวตนไปเสียเลย คือ แนะนำคำศัพท์ที่เป็นรูปธรรมเช่น ตัวจริงของเรา
ให้ เขารู้ จั ก ตั ว กาย physical self กั บ ตั ว ใจ true self, real self ได้ด้วย จะช่วยให้คนปฏิบัติ
mental self ไปก่อน เขาจะได้ไม่งงเป็นไก่ตาแตก เข้าใจชัดเจนมากขึ้น ไม่ข้ามขั้นตอน
๗๖ ๗๗
ฉะนัน้ การทีค่ ณ ุ รูส้ กึ ว่ามีตวั ตนนัน้ ถูกต้อง
เรื่องเบื่องาน เกลียดงาน เครียดเพราะงานของ
แล้วค่ะ เจอรี่ทำให้คุณรู้สึกเช่นนั้น คุณก็ต้องพา สามีจนหูยานแล้ว และคนที่รู้สึกเช่นคุณนี่มีนับ
ตัวใจกลับบ้านไปเรื่อยๆ แล้วเจอรี่ก็จะค่อยๆ ลด ล้านๆ คน มีน้อยคนมากในยุคนี้ที่กระตื้อรือร้น
น้อยลงเอง และตัวตนจะหายไปเองด้วย อยากออกไปทำงาน แต่จำเป็นต้องไป เพราะอยู่
ผมจึ ง รู้ สึ ก ว่ า ตั ว เองกำลั ง ติ ด ร่ า งแหอยู่ โลกมนุษย์นี่ เราไม่สามารถเนรมิตอาหารทิพย์
บางคนก็บอกว่า เราควรทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก อย่างเทวดา หรือไม่มีต้นกัลปพฤกษ์ที่มีอาหาร
ดีกว่า เรื่องเงินจะตามมาทีหลัง แต่บางคนก็บอก และเครื่องใช้ สามารถไปสอยมาใช้ได้ หากไป
ว่า เราควรพยายามรักสิ่งที่เราทำอยู่ ผมสับสน เกิดในยุคของพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ อาจจะทำ
มากครับ ไม่รู้ควรเชื่อใครดี คุณคิดว่าผมควรทำ เช่นนั้นได้ ประชาชนไม่ต้องทำไร่ไถนา ไม่ต้อง
อย่างไร ผมกำลังถูกความคิดของผมหลอกอยู่ ค้าขาย อยากได้อะไรก็ไปสอยเอาจากต้นกัลป
หรือเปล่า พฤกษ์ อยู่ เ ป็ น สุ ข ถ้ ว นหน้ า ได้ พระพุ ท ธเจ้ า

เรื่องไม่อยากไปทำงานและติดร่างแหนั้น โคตมะของเรามาเกิ ด ในยุ ค ที่ ค นยากเข็ ญ มาก
เป็นปัญหาของสังคมโลกที่คุณต้องทำใจแล้วค่ะ ต้องทำงานกันอย่างหนักหน่วงเพื่อประทังชีวิต

เพราะคุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่มีปัญหาเช่นนี้ ดิฉัน นี่จึงเป็นปัญหาที่คนหมู่มากประสบอยู่ เป็นเรื่อง


ก็เคยเป็นมาก่อน ตอนนี้สามีตกงานอยู่ แต่เท่าที่ ชะตากรรมร่วมของมนุษย์ในยุคนี้ค่ะ
จำได้ในช่วง ๒๔ ปีที่เขาทำงานอยู่นั้น ไม่เคยมี ดิ ฉั น จึ ง ขอแนะนำให้ คุ ณ หลั บ หู ห ลั บ ตา

วันไหนที่เขาอยากไปทำงานเลย ดิฉันฟังปัญหา พาตัวใจกลับบ้านไปก่อน เมื่อคุณทำได้ดีขึ้นแล้ว
๗๘ ๗๙
ก็ จ ะทำลายความเครี ย ดจากงานได้ เ หมื อ นที่
น้ อ ยลงแล้ ว ปั ญ ญาและความกล้ า หาญทาง
คุณส้มได้เขียนให้ดิฉันดังนี้นะคะ จริยธรรมจะเกิดตามมาเอง เมื่ออยากออกจาก
ส้ ม สบายดี ค่ ะ งานยุ่ ง มากๆ อย่ า งที่ งานเพื่อหางานอื่น ก็อาจจะมีความกล้าหาญ
อาจารย์ทราบ แต่ดีที่พาตัวใจกลับบ้านทุกวัน ทำได้ แต่ในขณะเดียวกัน หากทุกข์น้อยลงเพราะ
ชี วิ ต จึ ง ไม่ เ ครี ย ดมาก ช่ ว งที่ ปั ญ หาเรื่ อ งงาน
พาตัวใจกลับบ้านได้แล้ว แม้งานปัจจุบันที่ทำอยู่
เข้ า มาเยอะๆ นี่ เห็ น เจอรี่ เ ครี ย ด เจอรี่ กั ง วล
ก็ ส ามารถทำให้ มั น สนุ ก ได้ เช่ น กั น เรื่ อ งนี้ คุ ณ
ชัดมากเลยค่ะ ส้มก็เข้าบ้านหนึ่ง บ้านสอง ทู่ซี้อยู่ เท่านั้นที่จะตอบตัวเองได้ ทุกอย่างเป็นอนิจจัง
อย่างนี้แหละ ก็ช่วยได้เยอะค่ะ ไม่โดนเจอรี่ถล่ม เหตุ ก ารณ์ เ ปลี่ ย นไปเรื่ อ ยๆ ไม่ มี อ ะไรแน่ น อน

มากจนเกินไป คุณอดทนดูจิตใจของตัวเองไปเรื่อยๆ ก่อนดีกว่า
คุ ณ ต้ อ งเชื่ อ ตั ว เองว่ า คุ ณ จะทำได้ ห าก ค่ะ
พยายาม เมื่อคุณสามารถเอาชนะเจอรี่ได้บ้าง ในช่ ว งที่ ล้ ม ลุ ก คลุ ก คลานนี้ พยายาม
แล้ ว ปั ญ ญาของคุ ณ จะเกิ ด เองค่ ะ ว่ า คุ ณ ควร
“แปรขยะให้เป็นทอง” ด้วยนะคะ พยายามเอา
จะอยู่กับงานนี้ต่อไป หรือหางานอื่นที่ใจรักทำ ความทุกข์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน เข็นให้ตนเองพา
เรื่ อ งเช่ น นี้ ตั ว คุ ณ เท่ า นั้ น ที่ จ ะรู้ ดี ว่ า คุ ณ ควร ตัวใจกลับบ้านอยู่เสมอ เฝ้าบอกตัวเองว่า หาก
ตัดสินใจอย่างไร เพราะคุณมีภาระรับผิดชอบ
เราไม่ทำแล้ว จะยิ่งทุกข์มากกว่านี้อีกสักแค่ไหน
ต่อครอบครัว จึงควรเริ่มที่การเคี่ยวตัวเองใน จึ ง ไม่ ต้ อ งกลั ว ความทุ ก ข์ ห รื อ ความเจ็ บ ปวดที่

เรื่องการปฏิบัติไปก่อน หากทำได้ดี เจอรี่ในหัว
เกิ ด ขึ้ น ยิ่ ง มี ม ากเท่ า ไร เราก็ ส ามารถนำขยะ
๘๐ ๘๑
เหล่านั้นมาแปรเป็นทองได้มากขึ้นเท่านั้น แล้ว บทที่ ๓
คุณจะรู้สึกว่าร่ำรวยด้วยอริยทรัพย์ ค่ะ พาตัวใจกลับบ้านกับไท้เก็กชี่กง
หนั ง สื อ เรื่ อ ง ใบไม้ ก ำมื อ เดี ย ว คงหา

ไม่ยากแล้วนะคะ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่ตอบไปคงช่วยให้
คุ ณ เข้ า ใจตนเองและการปฏิ บั ติ ไ ด้ ดี ม ากขึ้ น
เบอร์มิ่งแฮม อังกฤษ
ขอให้อดทนทำไปให้ดีที่สุด ดิฉันขอเป็นกำลังใจ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๐
ให้คุณค่ะ
คุณกำธรคะ,
ศุภวรรณ กรีน ดิฉันต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ตอบเมล์ของ
คุณให้เร็วกว่านี้ งานเขียนดิฉันก็มีมากเหลือเกิน
จนเมล์บางฉบับก็ลืมไป
คุณอยากทราบว่า เวลารำไท้เก็กอย่าง

ต่อเนื่องนั้น คุณควรจะกำหนดอะไร กำหนดที่
ลมหายใจ หรือ ท่ารำที่มือ หรือที่การก้าวเท้า

ดีค่ะ นี่เป็นคำถามเรื่องสติปัฏฐานโดยตรง

๘๒ ๘๓
สติธรรมชาติ เคลื่อนมือเร็วๆ กับเคลื่อนมือช้าๆ จะเห็นชัดเจน
ท่ า รำไท้ เ ก็ ก อย่ า งต่ อ เนื่ อ งหรื อ ท่ า รำ
ว่ า เวลาเคลื่ อ นมื อ ช้ า ๆ คุ ณ จะมี ส ติ มี ค วาม

ไท้เก็กชี่กง ๑๘ ท่าที่ดิฉันสอนนักศึกษานั้น หาก รู้สึกตัวชัดเจนมากกว่าการเคลื่อนแบบเร็วๆ
คุณรำอย่างช้าๆ คุณจะมีสติอยู่กับท่ารำอย่าง
เป็นธรรมชาติแล้ว คุณลองสังเกตโดยการยกมือ ฝึกไท้เก็กแล้วจะไม่หลงทางง่ายๆ
อย่างช้าๆ ขึ้นๆ ลงๆ โดยที่ไม่ต้องตั้งใจว่าจะ ดิฉันเข้าใจว่าคุณได้ฝึกสติปัฏฐานมาแล้ว
กำหนดอะไรทั้งสิ้น คุณจะเห็นว่า คุณมีความ แต่ ค งจะกำหนดสิ่ ง ใดสิ่ ง หนึ่ ง เช่ น ลมหายใจ
รู้สึกตัวต่อการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ การนั่งหลับตากำหนดลมหายใจนี่ เรียกว่าเป็น
มาก ซึ่งแตกต่างจากการเคลื่อนไหวแบบเร็วๆ structured meditation แต่การมีสติอยู่กับท่ารำ
ใครที่ทำอะไรเร็วๆ นี่ มักไม่รู้สึกตัว หรือ ไม่มีสติ ไท้เก็กชี่กงนี่ ต้องเรียกว่าเป็น non-structured
นั่นเอง แต่เมื่อสามารถเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ได้ หรื อ dynamic meditation ซึ่ ง จุ ด ที่ เราต้ อ ง
สติจะตามมาเอง ฉะนั้น คุณลองฝึกเคลื่อนมือ
กำหนดเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้เป็นเรื่อง
ขึ้นลงสองแบบดูนะคะ เคลื่อนมือขึ้นลงแบบเร็วๆ วิปัสสนาได้ดีทีเดียว เพราะไม่เปิดโอกาสให้เพ่ง
ก่ อ น แล้ ว ก็ สั ง เกตความรู้ สึ ก ภายในใจดู และ จุดใดจุดหนึ่งโดยเฉพาะเป็นเวลานานๆ ซึ่งการ
เคลื่อนไหวแบบช้าๆ ดู สังเกตความรู้สึกภายใน เพ่งอะไรนานๆ โดยไม่เปลี่ยนจุดเพ่ง จะพลัดไปสู่
ใจอีกที ทำสลับกันเช่นนี้หลายๆ ครั้ง แล้วคุณจะ เรื่องสมถะได้ง่าย การดูลมหายใจที่จริงเป็นเรื่อง
เห็นความแตกต่างของความรู้สึกระหว่างการ วิปัสสนาโดยตรง เพราะลมหายใจของคนเรา

๘๔ ๘๕
ไม่ได้อยู่นิ่ง มันเคลื่อนตลอดเวลา แต่การหลับตา กับท่ารำเหล่านี้ได้ดีละก็ จะสามารถนำวิปัสสนา
ดู ล มหายใจเช่ น นั้ น หากคนทำไม่ มี แ ผนที่ ก าร
มาปฏิบัติในกิจกรรมต่างๆ ของชีวิตประจำวัน

เดินทางที่ชัดเจนว่าจะต้องเดินหน้าอย่างไร จะ ได้ดีและง่ายขึ้นด้วย นี่คือ อานิสงส์ของการฝึก


ต้องเจออะไร ทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะหากยังไม่รู้ ไท้เก็กชี่กง ๑๘ ท่า
ว่าฐานที่ ๔ คืออะไร เมื่อความสงบของใจเกิด
และไม่รู้เรื่องการรับผัสสะบริสุทธิ์อันเป็นตัวเพ่ง ต้องทำอย่างไร
ของฐานที่ ๔ แล้ว การหลงทางจะเกิดสามารถ สิ่งที่คุณต้องทำคือ
พลัดไปสู่เรื่องสมถะได้ง่าย๔ ๑. กำหนด “ตาใจ” ให้ ชั ด เจน และใช้

ฉะนั้น การทำวิปัสสนากับการรำไท้เก็ก
ตาใจให้ เ ป็ น อ่ า นเรื่ อ ง “ทำอย่ า งไรจึ ง หาย

ชี่ ก ง ๑๘ ท่ า นี่ ดิ ฉั น เห็ น ว่ า มี ค วามปลอดภั ย
กลุ้มใจ”๕
มากกว่ า ไม่ ท ำให้ ห ลงทางได้ ง่ า ยเหมื อ นการ
๒. ปิด ๒ ตาเนื้อก่อน แล้วเอาตาใจมอง
นั่งหลับตาทำสมาธิ และหากใครฝึกให้รู้สึกตัว ไปที่ลมหายใจ โดยหายใจให้ลึกๆ ช้าๆ ทำให้

ชัดเจนว่า มีตาใจเป็นผู้มอง และลมหายใจเป็นสิ่ง
เรื่องตัวเพ่งของฐานที่ ๔ หรือผัสสะบริสุทธิ์ นั้นดิฉันได้พูดไว้แล้ว
อย่างชัดเจนในหนังสือเรื่อง “ไอน์สไตน์ถาม พระพุทธเจ้าตอบ” ที่ถูกมอง เมื่อตาใจมองเห็นลมหายใจได้ชัดเจน
และได้เกริ่นไว้บ้างแล้วในเรื่อง “จดหมายถึงขวัญ” ซึ่งเป็นหนังสือ แล้ ว ที นี้ เ ปิ ด ๒ ตาเนื้ อ และฝึ ก ดู ล มหายใจ

เล่ ม แรกของโครงการหนั ง สื อ ชุ ด พาตั ว ใจกลั บ บ้ า น รวมทั้ ง
หนังสือเรื่อง “รู้เท่านี้ก็พอแล้ว” หากท่านผู้อ่านยังไม่เข้าใจเรื่อง ๕
ทำอย่างไรจึงหายกลุ้มใจ เป็นหนังสือเล่มที่ ๒ ของโครงการ
ผัสสะบริสุทธิ์ แล้ว ขอความกรุณาหาหนังสือเล่มนั้นอ่านได้ หนังสือชุด พาตัวใจกลับบ้าน เขียนโดย ศุภวรรณ กรีน

๘๖ ๘๗
ในขณะที่เปิดตาเนื้ออยู่ ซึ่งที่จริงตาใจกำลังมอง
กำลังทำงานร่วมไปด้วย พยายามกำหนดเช่นนั้น
ลมหายใจอยู่ เพราะตาเนื้อมองลมไม่เห็น จนชิน คือ เอาตาเนื้อมองตามการเคลื่อนไหว
๓. เปิดตาเนื้อ นั่งอยู่กับที่ก่อน แล้วเคลื่อน ของมือ
มืออย่างช้าๆ ขึ้นลงแบบท่ารำไท้เก็ก เอาตาเนื้อ ๔. ที นี้ ลุ ก ขึ้ น ยื น และหั ด เคลื่ อ นเท้ า

จ่อตามการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องคิดหรือ แบบท่ า รำไท้ เ ก็ ก ซึ่ ง ต้ อ งมี ก ารย่ อ หั ว เข่ า และ

พูดอะไรในหัวเลย เวลาที่คุณเอาตาเนื้อมองตาม ตั้ ง กระดู ก สั น หลั ง ให้ ต รง ถ่ า ยน้ ำ หนั ก ไปมา

ท่ารำไท้เก็กนั้น ที่จริง ตาใจของคุณกำลังมอง ระหว่ า ง ๒ ขา เวลารำไท้ เ ก็ ก นั้ น คนรำจะ

การเคลื่ อ นไหวของมื อ อยู่ ตาเนื้ อ ทำงานได้ ไม่ก้มหัวลงมองที่เท้า ฉะนั้น คุณต้องใช้ตาใจ

เพราะตาใจเปิดอยู่๖ ฉะนั้น การที่คุณเอาตาเนื้อ จับการเคลื่อนไหวของเท้า เวลายกเท้า ก้าวเท้า
มองการเคลื่อนไหวของมืออยู่นั้น ตาใจของคุณ ออกไป ตาใจต้องมองตามการเคลื่อนของเท้า
เท้ า เหยี ย บพื้ น ก็ ท ำความรู้ สึ ก ตั ว ที่ ค วามรู้ สึ ก


ถ้าตาใจเปิด หมายถึงคุณจะต้องอยู่ในเหตุการณ์ ๔ อย่างนี้คือ ในเท้ า สั ก หน่ อ ย ซึ่ ง ที่ จ ริ ง เป็ น เรื่ อ งการเดิ น
นอนหลับสนิท หมดสติ unconscious อยู่ในโคม่า หรือ ตายสนิท จงกรมนี่เอง แต่เราเดินแบบไท้เก็ก พยายามจับ
เมื่อมีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งในสี่อย่างนั้นแล้ว ตา หู จมูก ลิ้น
กาย ของคุณจะไม่ทำงาน รับสัมผัสไม่ได้ มีตาก็มองไม่เห็น มีหูก็
สภาวะให้ได้ ทำให้ชิน๗
ไม่ได้ยิน เพราะตาใจไม่ทำงาน เวลาคนนอนหลับสนิท คุณ ไปเปิด

ตาเขาสิ เขามองอะไรไม่ เ ห็ น เลย พู ด ข้ า งหู เขาก็ ไ ม่ ไ ด้ ยิ น เอา คำอธิบายของข้อนี้ มุ่งไปยังท่ารำไท้เก็กอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการ
น้ำหอมให้ดม เขาก็ไม่ได้กลิ่น เพราะตาใจหลับ ไม่ทำงาน แต่พอ เคลื่อนไหวไปมา ซึ่งเป็นท่ารำที่ต่างจากไท้เก็กชี่กง ๑๘ ท่า ผู้รำ
ตาใจตื่นปุ๊บ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ทำงานรับสัมผัสได้ทันที สามารถยืนอยู่กับที่ มีเพียงบางท่าเท่านั้นที่ต้องยกเท้า

๘๘ ๘๙
๕. เมื่อคุณทำสิ่งเหล่านั้นได้หมดแล้ว ก็ เคลื่อนมาอยู่ตรงหน้า ก็มองตามมันไป ถ้ารู้สึก
เอาทักษะทั้ง ๔ ข้อเบื้องต้นมารวมกันหมดโดย ว่ า การก้ า วเท้ า ถ่ า ยน้ ำ หนั ก ชั ด มากกว่ า ก็
การเริ่มรำไท้เก็กอย่างช้ามากๆ ก่อน ควรจะ กำหนดตรงการถ่ายน้ำหนักที่กำลังเกิดขึ้นอยู่
กำหนดอะไรนั้น คำตอบคือ กำหนดสิ่งที่ชัดเจน ถ้าเปรียบเทียบสิ่งที่เด่นที่สุดที่เราต้องการ
มากที่สุดในขณะนั้นๆ กำหนดเหมื อ นจุ ด โฟกั ส ตรงกลางของกล้ อ ง

ถ่ า ยรู ป ๘ สิ่ ง ที่ อ ยู่ ห ลั ง ฉากนั้ น คุ ณ ก็ ยั ง เห็ น อยู่
เน้นที่จุดโฟกัส เพียงแต่เห็นไม่ชัดเท่ากับจุดที่คุณโฟกัสเท่านั้น
ใครที่ ส ามารถกำหนดสติ อ ยู่ ที่ ท่ า รำ
ฉะนั้น ถึงแม้คุณกำลังมองตามมือที่เคลื่อนอยู่
ไท้เก็กได้ ก็หมายความว่ากำลังฝึกวิปัสสนาหรือ ข้างหน้าก็ตาม คุณก็ยังรู้ลมหายใจอยู่ รู้การก้าว
พาตัวใจกลับบ้านอยู่ในขณะนั้นๆ จะช่วยพัฒนา เท้ า การถ่ า ยน้ ำ หนั ก ก็ ยั ง รู้ อ ยู่ เช่ น กั น ถ้ า คุ ณ
ให้ตัวใจอยู่ติดบ้านได้ดี เพราะที่จริงทำยากกว่า สามารถรู้สองอย่างชัดเจนพร้อมๆ กัน ได้ก็ยิ่งดี
อันเนื่องจากจุดที่ต้องกำหนดเคลื่อนและเปลี่ยน เช่ น ลมหายใจก็ รู้ การเคลื่ อ นไหวของมื อ ก็ รู้

ตลอดเวลา เหมือนต้องพาตัวใจเข้าบ้านนั้นออก จับหลักให้ได้ว่า อะไรที่เด่นที่สุดในขณะนั้น ตาใจ


บ้านนี้ตลอดเวลา ใครทำได้ แสดงว่าทักษะต้องดี ก็มองไปที่ตรงนั้นเสมอ แล้วก็เปลี่ยนไปเรื่อย ถ้า
ฉะนั้ น คุ ณ ต้ อ งกำหนดปรากฏการณ์ ที่
เด่ น ๆ ของขณะนั้ น ๆ เช่ น ขณะนี้ มี ล มหายใจ ๘
กล้องถ่ายรูปชนิดที่ปรับโฟกัสได้ค่อยๆ หายไปแล้ว เพราะมีกล้อง
ลึกๆ ที่เด่นออกมา ก็กำหนดให้ชัดเข้าไป เมื่อมือ ดิจิตอลเข้ามาแทน เด็กๆ อาจจะไม่รู้จักแล้ว

๙๐ ๙๑
คุณรำอย่างช้ามากๆ แล้ว จะกำหนดได้ไม่ยาก เข้ า คอร์ ส อบรมกรรมฐานเหล่ า นั้ น หากคุ ณ

นัก ทำไป แล้วคุณจะชินและชำนาญเอง มีเวลาไปได้ ก็ไป ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเวลาไป
ปลี ก วิ เวก คุ ณ ต้ อ งเข้ า ใจว่ า การไปเข้ า คอร์ ส
ช่วยให้มีสติกับชีวิตประจำวัน อบรมธรรมเป็ น การไปเพื่ อ เรี ย นรู้ เ ท่ า นั้ น เมื่ อ
หากคุ ณ สามารถกำหนดสติ อ ยู่ ที่ ท่ า รำ
เรียนเสร็จ คุณต้องหอบเอาความรู้กลับมาทำ

ไท้เก็กชี่กงได้เช่นนี้ ทักษะการอยู่ติดบ้านของคุณ ที่บ้านให้ได้ ไม่ใช่คิดว่า หากต้องทำวิปัสสนา ก็
จะพั ฒ นาได้ เร็ ว จะช่ ว ยให้ คุ ณ มี ส ติ อ ยู่ กั บ การ ต้องไปวัด ทำที่วัดเท่านั้น นี่คิดผิด การเข้าคอร์ส
เคลื่อนไหวไปมา ก้มๆ เงยๆ หยิบโน่นจับนี่ของ อบรมเหมื อ นการไปขอแผนที่ ชี วิ ต จากครู บ า
ชีวิตประจำวันได้ดี ทำให้คุณสามารถฝึกพาตัว อาจารย์ ท่านชี้ทางเดินในแผนที่ให้ เมื่อคุณได้
ใจกลับบ้านกับกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน แผนที่มาแล้ว อ่านเป็นแล้ว รู้แล้วว่าจะต้องเดิน
ได้ อ ย่ า งสม่ ำ เสมอโดยไม่ ต้ อ งปลี ก ตั ว ไปอยู่
ไปทางเส้นไหน อย่างไร คุณต้องวางแผนที่ลง
คนเดียวเพื่อทำสมาธิ เมื่อคุณชำนาญแล้ว คุณ และเริ่มเดินทางจริงๆ เพราะการอ่านแผนที่กับ
จะรู้ สึ ก ภายหลั ง ว่ า ทุ ก ครั้ ง ที่ เ ดิ น ทุ ก ครั้ ง ที่
การเดินทางเป็น ๒ ขั้นตอนที่แตกต่างกันอย่าง
หยิบของ คุณจะรู้สึกตัวอย่างเป็นธรรมชาติมาก สิ้นเชิง นั่นคือ คุณต้องนำวิปัสสนามาฝีกฝนกับ
จะเกิดขึ้นเอง นั่นเป็นสัญลักษณ์ที่ดีมาก กิจกรรมทุกอย่างในชีวิตประจำวันของคุณให้ได้
ที่พูดนี้ไม่ได้บอกคุณว่า คุณไม่ต้องไปเข้า โดยการทำอย่างที่ดิฉันบอกคุณอยู่นี้ พาตัวใจ
วัดทำสมาธินะคะ เรื่องการปลีกวิเวกหรือการไป กลับบ้านในทุกขณะที่คุณตื่น ซึ่งคุณจะทำได้ดีขึ้น
๙๒ ๙๓
หากคุณสามารถฝึกสติอยู่กับท่ารำไท้เก็กชี่กง การเคลื่อนไหวของมือก็จริง การก้าวเท้าก็จริง
๑๘ ท่าที่ดิฉันสอนอยู่ หากเกาะยึดอยู่กับแผนที่ ความรู้สึกของการถ่ายน้ำหนัก และความรู้สึก

โดยไม่ยอมวางแผนที่ลงและเคลื่อนบั้นท้ายเพื่อ ที่เท้าก็จริง เมื่อตัวใจของคุณอยู่กับของจริงๆ


เดิ น ทางจริ ง ๆ การเดิ น ทางก็ ไ ม่ เ กิ ด แม้ จ ะรู้
เหล่ า นี้ แ ล้ ว ไซร้ คุ ณ ก็ เข้ า ถึ ง สั จ จะแล้ ว เห็ น

ข้อธรรมมากเพียงใดก็ตาม สั จ ธรรมแล้ ว ดิ ฉั น จึ ง ใช้ ว ลี ว่ า “พาตั ว ใจกลั บ


บ้าน” บ้านในความหมายนี้คือ สัจธรรม คือ พระ
ความลึกซึ้งของการรำไท้เก็กชี่กง นิพพาน คือ การพาตัวใจกลับมาสู่สัจธรรม สู่
คนที่รำไท้เก็กชี่กงเสร็จแล้ว มักจะรู้สึก
พระนิพพานนั่นเอง เห็นหรือไม่ว่า เรื่องสัจธรรม
ดีขึ้น เบากาย และจิตใจก็ปลอดโปร่ง สาเหตุที่ นี่ เ ป็ น เรื่ อ งหญ้ า ปากคอกจริ ง ๆ อยู่ ต รงหน้ า

เป็นเช่นนั้นเพราะ ในขณะที่รำช้าๆ และหายใจ เราแท้ ๆ ของจริ ง ๆ ทั้ ง นั้ น ไม่ ต้ อ งไปหาไกล
ลึ ก ๆ นั้ น ตั ว ใจถู ก ผลั ก เข้ า บ้ า นของใจโดย ที่ ไ หนเลย เพี ย งการอยู่ กั บ ลมหายใจและการ
อั ต โนมั ติ นั่ น เอง เมื่ อ ตั ว ใจอยู่ ติ ด บ้ า นได้ ไม่ เคลื่อนไหวของกายอย่างจริงๆ เท่านั้น ชีวิตใน
ตะลอนอยู่นอกบ้านจนหลงทางไปกับความคิด ขณะนั้นๆ ก็จะสมบูรณ์ เต็มเปี่ยมทันที จบเรื่อง
แล้ว ย่อมรู้สึกสบาย นี่คือเหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง ทันที ความสงสัยในข้อธรรมต่างๆ จะหายไป
การรำไท้เก็กชี่กงซึ่งมีความลึกซึ้งมากโขอยู่ ถ้าทำได้บ่อยๆ ก็จะเก่งเอง กำลังทำกิจในเรื่อง
ความลึ ก ซึ้ ง ในขั้ น สู ง สุ ด หรื อ ขั้ น อั น ติ ม ะ
หลุดพ้นแล้ว
ก็คือ ต้องรู้ว่า ลมหายใจของคุณเป็นของจริง
๙๔ ๙๕
จึ ง เห็ น ได้ ว่ า เรื่ อ งพาตั ว ใจกลั บ บ้ า นกั บ ผลงานการเขียนของ
การรำไท้เก็กชี่กง ๑๘ ท่าเป็นเรื่องลึกซึ้งมาก ศุภวรรณ พ.พรรณวงศ์ กรีน
เป็นวัฒนธรรมสติปัฏฐานที่ควรรับการส่งเสริม ภาษาไทย
อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในวงการศึกษา ควร ๑. จำนรรจาประสาคนไกลบ้าน
ปลูกฝังเด็กๆ ให้มีความรู้ในเรื่องนี้ เพื่อเขาจะได้ สำนักพิมพ์โกมลคีมทอง
เติบโตขึ้นมาโดยที่ชีวิตมีรากแก้ว ไม่ล้มง่ายๆ ๒. ใบไม้กำมือเดียว (พิมพ์ครั้งที่ ๓)
เมื่อเจอปัญหากลุ้มรุมใจ ปัญหาสังคมจะน้อยลง สำนักพิมพ์อมรินทร์
เพราะสมาชิกในสังคมมีรากแก้วของชีวิต สังคม ๓. คู่มือชีวิตภาคศีลธรรม (พิมพ์ครั้งที่ ๓)
ส่วนรวมก็จะอยู่เย็นเป็นสุข สำนักพิมพ์สกายบุ๊กส์
๔. คูม่ อื ชีวติ ภาคกฏแห่งกรรม (พิมพ์ครัง้ ที่ ๕)
หวังว่าคำตอบนี้คงช่วยให้คุณเข้าใจเรื่อง จัดจำหน่ายโดยอมรินทร์
การฝึกวิปัสสนากับไท้เก็กได้ชัดเจนมากขึ้นนะคะ ๕. อวดอุตริมนุสธรรมทีม่ ใี นตน (พิมพ์ครัง้ ที่ ๔)
ขอให้อดทน ฝึกฝนตนเองให้ดีที่สุด จัดจำหน่ายโดยอมรินทร์
๖. ใครกลัวตาย ฟังทางนี้
ศุภวรรณ กรีน สำนักพิมพ์สกายบุ๊กส์
๗. ไอน์สไตน์ถาม พระพุทธเจ้าตอบ
(พิมพ์ครั้งที่ ๔) สำนักพิมพ์ฟรีมายด์
๘. รูเ้ ท่านี้ ก็พอแล้ว! (พาตัวใจกลับบ้านกันเถิด)
พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน
๙๖
๙. พาตัวใจกลับบ้าน ตอน จดหมายถึงขวัญ 4. The User Guide to Life...The Moral Diet
พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน Distributed by Amarin
๑๐. พาตัวใจกลับบ้าน ตอน 5. The User Guide to Life...The Law of Karma
ทำอย่างไรให้หายกลุ้มใจ (พิมพ์ครัง้ ที่ ๒) Distributed by Amarin
จัดจำหน่ายโดยอมรินทร์ 6. Do You Know What A Normal Mind Is?
๑๑. พาตัวใจกลับบ้าน ตอน เริม่ แก้ปญ
ั หาทีล่ มหายใจ Skybook
จัดจำหน่ายโดยอมรินทร์ 7. Einstein Questions, Buddha Answers
๑๒. พาตัวใจกลับบ้าน ตอน ฆ่าตัวตายไปทำไม Skybook
ฆ่าความทุกข์ใจไม่ดีกว่าหรือ 8. Buddha Answers, Einstein Questions
จัดจำหน่ายโดยอมรินทร์ (the collection of title no. 6 and no.7 put together)
๑๓. พรมแดนข้ามโคตร อยู่ระหว่างการจัดพิมพ์ Released soon, distributed by Amarin
9. Understanding Buddhism and the 6th sense
ภาษาอังกฤษ Free distribution (visit website for more details)
1. Dear Colin : What is the Meaning of Life? 10. Many more unpublished articles and mail
Minerva Press answering in the website forum, please visit
2. Can A Caterpillar be Perfect? www.supawangreen.in.th
Mental Health Publication
3. A Handful of Leaves (2nd Edition) ซีดีเสียง
Release soon, distributed by Amarin จดหมายถึงขวัญ แจกเป็นธรรมทาน
ทำอย่างไรจึงหายกลุ้มใจ แจกเป็นธรรมทาน พาตัวใจกลับบ้านกับการรำไท้เก็กชีก่ ง ๑๘ ท่า
พาตัวใจกลับบ้านกันเถิด แจกเป็นธรรมทาน (๑ แผ่น) ๒๐๐ บาท
การอบรมขั้นพื้นฐาน ๒๕๐ บาท
ท่านที่สนใจซีดีเสียง และ วีซีดี ของอาจารย์
เป็นเสียงจริงของอาจารย์ศุภวรรณ
ศุภวรรณ กรีน สามารถสั่งซื้อได้โดยการโอนเงิน
การอบรมขั้นก้าวหน้า ๒๕๐ บาท
เข้าบัญชี
เป็นเสียงจริงของอาจารย์ศุภวรรณ
การอบรมรอบพิเศษ ๔๐๐ บาท บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ
เป็นเสียงจริงของอาจารย์ศุภวรรณ สาขาสุขุมวิท ๔๓
อวดอุตริมนุสธรรมที่มีในตน ชื่อบัญชี ศุภวรรณ กรีน
สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ เลขที่บัญชี ๑๗๒-๐-๘๕๘๒๙-๗

The User Guide To Life เมื ่ อ ท่ า นโอนเงิ น เข้ า บั ญ ชี แ ล้ ว กรุ ณ าแจ้ ง ชื ่ อ
(can be downloaded from website) และหลักฐานการโอนเงิน โดยส่งสำเนาทางแฟ็กซ์ ที่
วีซีดี การอบรมธรรม คุณพัชรี นัทธีศรี
การอบรมธรรมขั้นพื้นฐาน ๑,๐๐๐ บาท หมายเลขแฟ็กซ์ ๐๒-๑๒๑-๑๒๐๓
(๖ แผ่น) อีเมล์ : innocentperception@gmail.com
การอบรมธรรมขั้นก้าวหน้า ๑,๐๐๐ บาท
(๖ แผ่น) ถ้ามีข้อสงสัย ติดต่อได้ที่คุณพัชรี
การอบรมธรรมภาคภาษาอังกฤษ ๑,๐๐๐ บาท เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๑-๘๕๕-๔๑๑๙
(๙ แผ่น) (นอกเวลาราชการเท่านั้น)
รายละเอียดของ บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย
ชมรมพาตัวใจกลับบ้าน สาขาเอกมัย
ชื่อบัญชี เอกลักษณ์ หมั่นศึกษา
ขอเชิญท่านที่สนใจติดตามข่าวการอบรมธรรม
และ มยุรี มนูญชัย
หนังสือเล่มใหม่ ซีดีเสียง ดีวีดีการอบรมธรรม บทความ
เลขที่บัญชี ๐๕๙-๒-๓๘๘๘๐-๖
และจดหมายโดยอาจารย์ศุภวรรณได้ดังนี้
เมื ่ อ ท่ า นโอนเงิ น เข้ า บั ญ ชี แ ล้ ว กรุ ณ าแจ้ ง ชมรม
เว็บไซต์ : www.supawangreen.in.th
พาตัวใจกลับบ้านตามช่องทางต่างๆ ดังกล่าว
www.hereandnowholiday.com
อีเมล์ : supawanpg@gmail.com
innocentperception@gmail.com
ไปรษณีย์ : ตู้ ป.ณ. ๒๐๓๔
ปณฝ. จุฬาลงกรณ์ ๑๐๓๓๒
โทรศัพท์ (เบอร์กลาง) : ๐๘๙-๐๑๙-๕๖๕๖,
๐๘๖-๖๑๐-๐๐๐๑, ๐๘๖-๕๖๓-๙๐๓๑,
๐๘๑-๘๐๖-๖๐๐๙ (นอกเวลาราชการ)
โทรสาร : ๐๒-๖๓๑-๖๙๗๔
ท่านสามารถร่วมสมทบทุนเพื่อพิมพ์หนังสือแจก
เป็นธรรมทานได้ที่บัญชีของชมรมพาตัวใจกลับบ้าน

You might also like