Professional Documents
Culture Documents
Okuribito
Okuribito
Okuribito
กาจร หลุยยะพงศ์2
เกริ่นนา
1
“โอคุริบโิ ตะ” : คาตอบของชีวติ ในสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ 2010
ภาพยนตร์ ในกลุม่ สตรี นิยม (feminism) เป็ นต้ น สาหรับในที่นี ้จะ ขยายการต่อสู้ตอ่ รอง ทางการเมือง ใน
ภาพยนตร์ ออกไปสูป่ ระเด็นเรื่ อง “ความเชื่อเรื่ องการตาย”
ในด้ านหนึง่ ภาพยนตร์ กบั ความเชื่อเป็ นเหรี ยญคนละด้ าน เพราะด้ วยเหตุที่ว่า การถือกาเนิดของ
ภาพยนตร์ เป็ นวิทยาศาสตร์ ซงึ่ อยู่คนละด้ านกับความเชื่อเรื่ องการตายอันเป็ นฝั่ งของศาสนา ทว่า ในอีกด้ าน
หนึง่ ก่อนการถือกาเนิดภาพยนตร์ ความเชื่ อกลับเป็ นสิง่ ที่ปรากฏอยู่แล้ วและผสมผสานอยู่ในตัวของ
ภาพยนตร์ อย่างไม่ร้ ู ตวั ดังเช่น การไหว้ เจ้ าที่เจ้ าทางก่อนการถ่ายทา หรื อ การนาเสนอมิตคิ วามเชื่อเรื่ องผี ๆ
สาง ๆ ในภาพยนตร์ ผีทงในภาพยนตร์
ั้ ผีไทยและเทศ อย่างไรก็ดี ความเชื่อเรื่ องการตาย ในภาพยนตร์ ก็ยงั
จากัดอยู่ในภาวะเมื่อกลายสภาพเป็ นผีหรื อวิญญาณแล้ วเท่านัน้ อันอาจส่งผลให้ ผ้ ชู มตกอยู่ในภาวะของ
การกลัวตาย และมองว่าความตายเป็ นสิง่ น่ากลัว แต่ภาพยนตร์ ที่จะนาเสนอภาวะหลังการตายกลับมี
ค่อนข้ างน้ อย ส่วนหนึง่ อาจเนื่องจากโลกทางวิทยาศาสตร์ ยงั หา คาตอบไม่ได้ และอีกส่วนหนึง่ อาจเนื่องมาก
จากภาวะหลังการตาย ยังอาจมิใช่ปัญหาหรื อเป็ นข้ อถกเถียงในสังคมที่จะทาให้ ภาพยนตร์ หนั มาให้ ความ
สนใจก็เป็ นได้
โอคุริบิโตะ เป็ นหนังที่ว่าด้ วยเรื่ องราวของ ไดโกะ โคบายาชิ (นาแสดงโดยมาซาฮิโระ โมโตกิ ) หนุ่ม
นักเซลโลในวงออร์ เคสตร้ าในกรุ งโตเกียววัย 30 กว่า ๆ ที่ดเู หมือนจะรุ่ งโรจน์ในหน้ าที่การงานจึงตัดสินใจซื ้อ
เซลโลอันใหม่ราคาแพงเกินตัวเพราะคิดว่า “มืออาชีพ ” เขาก็ใช้ กนั อย่างนัน้ โดยไม่ได้ ปรึกษามิกะ ผู้เป็ น
ภรรยา (นาแสดงโดยเรี ยวโกะ ฮิโรสุเอะ) แต่แล้ วกาลกลับไม่เป็ นดังคิด เพราะวงออร์ เคสตร้ าที่เข าทางานอยู่
กลับเลิกจ้ างและยุบวงก ะทันหัน ทาให้ เขากลายเป็ นคนตกงานอย่างไม่คาดคิด (และดูเหมือนว่า จะเป็ น
เรื่ องไม่คาดคิดของคนญี่ปนที ุ่ ่ค้ นุ ชินกับการจ้ างงานตลอดชีวิต (สนใจโปรดดูอรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ 2548)
หลังจากนัน้ ชีวิตของเข าและภรรยาก็ต้องพลิกผันไป โดยการเลิก เป็ นนักดนตรี และตัดสินใจกลับบ้ านเกิด
ของไดโกะที่เมือง ยะมะงะตะ ทางตอนเหนือของประเทศ เพราะอย่างน้ อยก็มีบ้านแม่ที่เสียไปแล้ วกว่า 2 ปี
ที่เหลือเป็ นสมบัตชิ ิ ้นสุดท้ ายให้ กบั เขา
3
“โอคุริบโิ ตะ” : คาตอบของชีวติ ในสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ 2010
Sasaki) (นาแสดงโดยซึโตมุ ยามาซากิ) เจ้ าของบริ ษัท NK เอเยนต์ ก็ทาให้ เริ่ มเรี ยนรู้ บทบาทที่สาคัญของผู้
ส่งศพผู้ตายว่า เป็ นบทบาทสาคัญที่ช่วยให้ ผ้ ตู ายเดินทางไปยังโลกหน้ า
กระนันก็
้ ดี เนื่องจากการทางานกับความตายในโลกสมัยใหม่เป็ นเรื่ องที่แปลกและน่ารังเกียจส่วน
หนึง่ อาจเนื่องมาจากวิทยาศาสตร์ การแพทย์สมัยใหม่ที่สนใจเฉพาะเรื่ องความเป็ นมากกว่าความตายและ
มองว่า ความตายคือความล้ มเหลวทางการแพทย์ (โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ และราตรี ปิ่ นแก้ ว 2550)
รวมถึงอาจเนื่องมาจากการการกลัวตาย และไม่ร้ ู ว่าตายแล้ วจะไปไหน จึงทาให้ ทศั นะของคนสมัยใหม่มอง
อาชีพคนส่งศพในด้ านลบไม่ว่าจะเป็ นตัวไดโกะในช่วงแรก เพื่อนของเขา ภรรยา และผู้คนรอบข้ าง โดย
ปรากฏจากคาพูด และการกระทา ดังที่มิกะภรรยาของเขาแสดงท่าทีรังเกียจเมื่อทราบว่าไดโกะมีอาชีพเป็ น
คนส่งศพตลอดจนพยายามให้ เขาเลิกอาชีพนี ้ให้ ได้
แต่แล้ วในที่สดุ ในช่วงฤดูใบไม้ ผลิ ไดโกะและคนรอบข้ างก็เริ่ มเรี ยนรู้ ว่า ความตายเป็ นเรื่ องธรรมดา
โลก ไม่แตกต่างจากการเกิด การกิน การนอน และแม้ แต่เซ็ก ส์ ยิ่งไปกว่านัน้ เขาและคนรอบข้ างยังเริ่ ม
ตระหนักว่า การส่งศพคนตายเป็ นอาชีพหนึง่ ที่มีเกียรติ เพราะเป็ นอาชีพที่ต้องให้ เกียรติกบั ร่ างกายของ
ผู้เสียชีวิตและเตรี ยมพร้ อมให้ ผ้ เู สียชีวิตสามารถก้ าวเดินผ่านไปสูอ่ ีกโลกหนึง่ ที่สาคัญยิ่งคือ ไม่ว่าวันใดวัน
4
“โอคุริบโิ ตะ” : คาตอบของชีวติ ในสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ 2010
หนึง่ เรา ท่าน คนรอบข้ างไม่ว่าจะเป็ นเด็ก ผู้หญิง ผู้ชาย คนชรา ก็ต้องกลายเป็ นคนตาย หากไม่มีคนส่งศพ
แล้ วใครจะทาหน้ าที่นี ้
5
“โอคุริบโิ ตะ” : คาตอบของชีวติ ในสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ 2010
หากย้ อนกลับไปสูค่ าถามเบื ้องต้ นว่า เหตุใดภาพยนตร์ ญี่ปนเรื ุ่ ่ องนี ้จึงให้ ความส นใจเรื่ องความเชื่อ
เรื่ องการตายและนามาเสนอบนแผ่นฟิ ล์ม และข้ อสังเกตเบื ้องต้ นที่วางไว้ ก็คือ อาจเป็ นเพราะคนในปั จจุบนั
ตระหนักถึงปั ญหาเรื่ องการตายใช่หรื อไม่?
ข้ อสังเกตที่ว่า คนปั จจุบนั ตระหนักถึงปั ญหาเรื่ องการตาย นัน้ มิได้ หมายความว่า คนในอดีตไม่ได้
ตระหนักและตระเตรี ยมเรื่ องความตาย ความตายของคนในอดีตเป็ นเรื่ องปกติและต่างคนต่างตระหนัก ดัง
ปรากฏหลักฐานเด่นชัดในความเชื่อ พระคัมภีร์ทางศาสนา และพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการตาย
และข้ อสรุ ปที่ได้ ก็คือ ความตายเป็ นเรื่ อง รอบตัว และเป็ น “ธรรมชาติ ” ไม่มีใครหลีกหนีความตาย ได้
(พระไพศาล วิส าโล และคณะ 2546) ในศาสนาพุทธมองว่า การตายเป็ นหนึง่ ในก ฏไตรลักษณ์ และเมื่อ
ตายแล้ วหากทาความดีก็จะเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดีกว่า หากทาความชัว่ ก็จะตกต่าลง เช่น กลายเป็ นผี เปรต
เป็ นต้ น ตามทัศนะเรื่ องสังสารวัฏและไตรภูมิ (ราตรี ปิ่ นแก้ ว และมธุรส ศิริสถิตย์กลุ 2550) ส่วนในศาสนา
คริ สต์จะพิจารณาว่า หลังจากการตายแล้ วผู้ตายก็ต้อง รอจนถึงวันตัดสินบาป นัน่ ก็หมายความว่า ในเชิง
ความเชื่อและศาสนาจะไม่เชื่อว่า เมื่อร่ างกายตายไปแล้ วทุกสิง่ ทุกอย่างจะจบสิ ้นลง ยังคงมีโลกที่จะรออยู่
ภายหน้ า
6
“โอคุริบโิ ตะ” : คาตอบของชีวติ ในสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ 2010
เมื่อประเทศญี่ปนเปิ ุ่ ดประเทศนับตังแต่
้ ยคุ ของสมัยเมจิ ซึง่ ตรงกับรัชกาลที่ห้าของไทย หลังจากนัน้
ประเทศญี่ปนก็ ุ่ เปิ ดประเทศอีกครัง้ ภายหลังการพ่ายแพ้ สงครามโลกครัง้ ที่สอง ความทันสมัยที่มาจาก
ประเทศสหรัฐฯ ก็ก้าวเข้ ามาในประเทศญี่ปนอย่ ุ่ างทวีคณ
ู อันทาให้ การเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม
เจริ ญรอยตามโลกตะวันตก แต่ก็มีการวิพากษ์ วิจารณ์ความทันสมัยและวัฒนธรรมที่รับจากตะวันตกอยู่
ตลอด และพื ้นที่แห่งการวิพากษ์ วิจารณ์ก็คือ “ภาพยนตร์ ” ดังเช่น ภาพยนตร์ เรื่ องเยี่ยมของญี่ปนคื ุ่ อ
Tokyo Story (1953) ของปรมาจารย์ภาพยนตร์ ชาวญี่ปนนามยาสุ
ุ่ จิโร โอสุ ซึง่ เป็ นเรื่ องราวของสามีภรรยา
สูงอายุที่เดินทางเยี่ยมลูกของตนในโตเกียว แต่กลับพบว่า ลูกต่างพากันมองว่า พ่อแม่คือภาระของตน
บุญรักษ์ บุญญะเขตมาลา (2552) นักวิชาการด้ านภาพยนตร์ ญี่ปนคนส
ุ่ าคัญตังข้
้ อสังเกตว่า หนังเรื่ องนี ้
แสดงให้ เห็นถึง “ราคาของการพัฒนา ” ที่ญี่ปนต้ ุ่ องจ่ายไปให้ กบั การพัฒนาประเทศและผลที่ได้ ก็คือการ
หลงลืมวัฒนธรรมความเป็ นญี่ปนุ่
7
“โอคุริบโิ ตะ” : คาตอบของชีวติ ในสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ 2010
ในทานองเดียวกัน ภาพยนตร์ ผีญี่ปนุ่ เช่น จูออน (Ju-on, 2000) ริ ง (Ringu, 1998) เนื ้อหา
ภาพยนตร์ สว่ นใหญ่จะวนเวียนเรื่ องของปั ญหาเรื่ องสตรี ผู้ ชายเกเร ฆาตกรโรคจิตต่อเนื่อง อิทธิพลของ
เทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็ นต้ น (Alastair Phillips and Julian Stringer, 2007: 241) ส่วนนี ้อาจแสดงให้ เห็นถึง
ความกังวลต่อ ปั ญหาของสังคม ในยุคสมัยใหม่ ที่ไม่อาจแก้ ไขได้ และอาจบอกกล่าวได้ ในโลกความจริ ง จึง
ปรากฏแฝงอยู่ในภาพยนตร์ ผี ไม่ตา่ งจากกรณีของภาพยนตร์ ผีไทย (สนใจโปรดดู กาจร หลุ ยยะพงศ์ และ
สมสุข หินวิมาน 2552)
8
“โอคุริบโิ ตะ” : คาตอบของชีวติ ในสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ 2010
การก้ าวไปข้ างหน้ าแบบตะวันตกเป็ นสิง่ ที่อาจไม่ถกู ต้ องเสมอไป ทางออกที่จะทาได้ คืออะไร และนัน่ ก็คือ
การย้ อนสูอ่ ดีตหรื อวิธีคดิ แบบสังคมญี่ปนุ่ ไดโกะ พระเอกนักเซลโลจึงต้ องตกงานและต้ องขายเซลโลทิ ้งเพื่อ
ย้ อนกลับไป สูบ่ ้ านเกิดของตน ปรากกฎการณ์ที่ เกิดขึ ้นไม่ตา่ งจากภาพยนตร์ ไทยในยุค 2540 ที่เริ่ มตัง้
คาถามต่อสังคมและหันสูค่ วามพอเพียง ดังปรากฏในหนั งเรื่ อง “มนต์รักทรานซิสเตอร์ ” แต่จดุ ที่ตา่ งจาก
หนังไทยก็คือ โอคุริบิโตะ มิได้ หนั สูแ่ ค่ความพอเพียงแต่หนั ไปสูก่ ารตังค
้ าถามเรื่ องชีวิตโดยเฉพาะเรื่ องการ
ตาย อันถือเป็ นสุดยอดของปรัชญาชีวิต หากเข้ าใจความตายและวัฏจักรแห่งชีวิตก็จะทาให้ สามารถเรี ยนรู้
การดาเนินชีวิตเรื่ องอื่น ๆ ได้ โดยง่าย
มีชีวิต ตาย
ดี ไม่ดี
ทันสมัย ไม่พฒ
ั นา
วิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ/ความเชื่อ
แต่นนั่ ก็มิได้ หมายความว่า ทุกคนจะเข้ าใจเรื่ องการตาย จุดที่น่าสนใจก็คือ โอคุริบิโตะ ให้ ตวั เอก
เป็ นนักดนตรี เซลโล เป็ นตัวละครที่ค้นหาชีวิตและความตายและพบเจอได้ ในที่สดุ อาจแสดงให้ เห็นว่าการ
เล่นดนตรี และผู้เล่นดนตรี อาจเป็ นผู้คนด่านหน้ าที่สามารถเชื่อมโยงกับมิติ เรื่ องจิตวิญญาณได้ ง่าย (หากไม่
9
“โอคุริบโิ ตะ” : คาตอบของชีวติ ในสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ 2010
ท่าทีของหนังที่โต้ แย้ งเรื่ องความตายไม่เลือกที่จะใช้ “การแพทย์” เป็ นคูต่ รงกันข้ ามกับความเชื่อ แต่
กลับ ใช้ เทคนิคที่ หลากหลายเพื่อสื่อความหมาย โดย การเล่าเรื่ องผ่าน จุดยืน ของผู้ ที่ไ ม่เข้ าใจ “ความตาย ”
และใช้ เทคนิค การแนะนาให้ ร้ ู จกั พิธีกรรม ที่สง่ คนตายไปสูอ่ ีกโลกหนึง่ พร้ อมทัง้ “อธิบาย” ให้ เห็นขันตอน
้
ของการส่งคนตาย เช่น การชาระล้ างกายของคนตายด้ วยน ้าสะอาด เพื่อปลด ภาระอันหนักอึ ้งของคนตาย
ในโลกนี ้และเตรี ยมคนตายสูโ่ ลกหน้ า การแต่งหน้ า การแต่งตัวผู้ตาย เป็ นต้ น
นอกเหนือจากการอธิบาย หนังใช้ เทคนิค “การสาธิต” ให้ เห็นว่า หากเราเป็ นคนตายแล้ วจะเป็ นเช่น
ไร ผ่านการให้ ตวั ละครพระเอกเป็ น “แบบ” ที่แสดงเป็ นผู้ตายต้ องเจออะไรบ้ าง และ ฉากหนึง่ ที่น่าสนใจก็คือ
การใช้ มมุ กล้ องที่หงายขึ ้นประหนึง่ เป็ น ผู้ตายที่นอนอยู่ในโลงและเห็นฝาโลงที่กาลังเคลื่อนปิ ด อันเป็ น
เทคนิคที่ทาให้ ผ้ ชู มกลายเป็ น “ผู้ตาย” หรื อทดลองเป็ นผู้ตายแล้ วก็จะรู้ ว่า การตายเป็ นเช่นไร
ทังหมดนี
้ ้ ก็เพื่อแสดงให้ เห็นว่า การตายเป็ นเรื่ องธรรมชาติที่ไม่ว่าใครก็ต้องตาย เพียงแต่ว่าเราอาจ
หลงลืมไปชัว่ วูบและคิดว่า ความตายเป็ นเรื่ องไกลตัว ภาพยนตร์ จงึ กลายเป็ นสื่ อภาพและเสียงที่สามารถ สัง่
สอนให้ เห็นและรู้ จกั การตายมากกว่าการอ่านผ่านตัวอักษร กล่าวอีกนัย หนึง่ ก็คือ การเรี ยนรู้ การตายผ่าน
หนังนัน่ เอง
10
“โอคุริบโิ ตะ” : คาตอบของชีวติ ในสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ 2010
หนังใช้ สญ
ั ลักษณ์ของ “ก้ อนหิน ” สองก้ อน ที่เป็ น “สื่อหรื อช่องทาง ” ความรักระหว่างพ่อลูกในวัย
เด็ก ก้ อนหินก้ อนใหญ่เป็ นตัวแทนความรักที่พ่อมอบให้ กบั ลูกอย่างไดโกะ เขาจึงเก็บก้ อนหินก้ อนนันไว้
้ แม้
อาจจะหลงลืมไปบ้ าง แต่เมื่อกลับมาที่บ้านเกิดเขาก็หยิบมันกลับมาและระลึกถึงพ่อ ส่วนก้ อนหินก้ อนเล็กที่
ปรากฏในฉากเกือบสุดท้ าย ก็คือ ตัวแทนความรักที่ไดโกะให้ พ่อ ที่ตวั เขาคิดว่า พ่อจะหลงลืมมันไปแต่มนั
กลับอยู่ในอุ้งมือของพ่อแม้ ตอนตาย อันแสดงให้ เห็นความรักที่พ่อยังคงระลึกถึงเขาอยู่แม้ จะหมดลมหายใจ
11
“โอคุริบโิ ตะ” : คาตอบของชีวติ ในสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ 2010
12
“โอคุริบโิ ตะ” : คาตอบของชีวติ ในสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ 2010
ภาพยนตร์ ญี่ปนยั
ุ่ งได้ รับการยกย่องในระดับเวทีโลกอยู่บ่อยครัง้ นับตังแต่
้ ภาพยนตร์ เรื่ อง รา
โชมอน ได้ รับรางวัลเวนิสในปี 1950 อันถือเป็ นการเปิ ดตัวศิลปะของภาพยนตร์ ที่ใช้ ฉากอดีตและความงาม
แบบญี่ปนหรื ุ่ อที่เรี ยกว่า ภาพยนตร์ พีเรี ยด (jidaigeki) และสืบเนื่องต่อมาถึงภาพยนตร์ เรื่ อง โอคุริบิโตะ ที่
ได้ รับรางวัลอคาเดมี ปี 2009 ยิ่งไปกว่านัน้ ภาพยนตร์ ญี่ปนหลายเรื
ุ่ ่ องยังได้ รับการผลิตซ ้าเป็ นภา พยนตร์
ฮอลลีว้ ดู อีกหลายเรื่ อง เช่น ภาพยนตร์ ของปรมาจารย์ด้านภาพยนตร์ หรื อที่เรารู้ จกั ในนามจักรพรรดิแห่ง
ภาพยนตร์ ญี่ปนอากิ
ุ่ ระ คุโรซาวะ ที่ผลิตผลงานดี ๆ เช่น ราโชมอน และแม้ กระทัง่ หนังตระกูลผี ๆ ของญี่ปนุ่
เช่น ริ ง จูออน เป็ นต้ น
ภาพยนตร์ ญี่ปนยั
ุ่ งทาหน้ าที่ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็ นความบันเทิง การทาหน้ าที่โฆษณาชวนเชื่อ
ในยุคของสงคราม และการเป็ นเวทีแห่งการโต้ แย้ งและต่อสู้ความหมายต่าง ๆ ในสังคม โดยเฉพาะปั ญหา
การเติบโตของเมืองใหญ่ เพศ และครอบครัว ดังที่จะเห็นเด่นชัดในภาพยนตร์ ตระกูล J-horror / Anime
และภาพยนตร์ ดรามา โดยเฉพาะในตระกูลย่อยของดรามาญี่ปนที ุ่ ่นกั วิชาการด้ านภาพยนตร์ ญี่ปนใช้ ุ่ คาว่า
“Shomin-geki” (home drama) หรื อภาพยนตร์ ที่เกี่ยวข้ องกับปั ญหาของครอบครัว อันมีรากฐานจากอดีต
ผู้กากับผู้ยิ่งใหญ่ของญี่ปนนาม
ุ่ โยสุชิโร โอสุ (Yasujirō Ozu) (Ronald Bergan 2006: 236) โอสุ มักจะใช้
ลีลาภาษาและศิลปะแบบญี่ปนที ุ่ ่เนิบนาบเชื่องช้ าอ้ างว้ าง (ประหนึง่ กลอนไฮคุ การชงชา และการจัด
ั ลักษณ์นาฬิกา ควัน รถไฟ
ดอกไม้ ) (Paul Schrader อ้ างถึงใน Feda Freiberg 1998: 563) เช่น การใช้ สญ
ฤดูกาล (Kathe Geist 2007: 238) ทังหมดนี
้ ้เชื่อมโยงกับความรู้ สึกและอารมณ์ของชาวญี่ปนและท
ุ่ าให้ คน
ญี่ปนทั
ุ่ งประทั
้ บใจ และทาให้ กลับไปขบคิดถึงปมปั ญหาที่เกิดขึ ้นในครอบครัวของชาวญี่ปนุ่ ดังตัวอย่างใน
หนังเรื่ อง โอคุริบิโตะ ที่กล่าวถึงความตายและความสัมพันธ์ในครอบครัว
13
“โอคุริบโิ ตะ” : คาตอบของชีวติ ในสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ 2010
และประการที่สอง การเรี ยนรู้ เรื่ องชีวิต ผ่านหนัง อันหมายความว่า การเรี ยนรู้ เรื่ องการตายและ
ครอบครัวไม่อาจต้ องเรี ยนรู้ ผ่านการตายจริ ง แต่สามารถเรี ยนรู้ ผ่านภาพยนตร์ ได้ หากนาภาพยนตร์ เป็ นสื่อ
ที่ให้ บรรดานักวิชาชีพด้ านสาธารณสุขได้ ดเู พื่อที่จะทาความเข้ าใจมิตดิ ้ านจิตวิญญาณที่ศาสตร์ ด้าน
การแพทย์ทที่ าหล่นหายและเติมเต็มขึ ้นมา
14
“โอคุริบโิ ตะ” : คาตอบของชีวติ ในสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ 2010
บรรณานุกรม
กาจร หลุยยะพงศ์ และสมสุข หินวิมาน 2552 หลอน รั ก สับสนในหนังไทย กรุ งเทพฯ ศยาม
Freiberg, Freda. 1998. “Japanese Cinema.” In Hill, John and Gibson, Pamela Church (eds.) The
Oxford Guide to Film Studies. pp. 562-567. New York: Oxford.
Geist, Kate. 2007. “Japanese Cinema.” In Cook, Pam (ed.) The Cinema Book. pp.238-239.
London: BFI.
Phillips, Alastair and Stringer, Julian. 2007. “Contemporary Japanese Cinema.” In Cook, Pam
(ed.) The Cinema Book. pp.239-242. London: BFI.
15