Professional Documents
Culture Documents
9. หนทางสู่การมีครอบครัวที่มั่นคง โดยการพูดความจริง
9. หนทางสู่การมีครอบครัวที่มั่นคง โดยการพูดความจริง
9. หนทางสู่การมีครอบครัวที่มั่นคง โดยการพูดความจริง
หนทางสู่ชีวิตที่มั่นคง โดยการพูดความจริง
TELLING THE TRUTH
Ten Values That Build Strong Families
Exodus 20:16 Thou shalt not bear false witness against thy neighbor.
อพย 20:16 อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน
เล่าเรื่องข่าวสาร
o ประชุมผู้นําที่ระยองมา
o ตอนนี้งานพระเจ้า
บนหน้าปกนิตยสาร Time magazine ฉบับหนึ่งเขียนถึงคอลัมน์หนึ่งไว้ว่า “ใครๆก็โกหกกันทั้งนั้น” :
"Lying,Everybody's Doing It
การโฆษณาหาเสียงของนักการเมืองมักถูกมองว่า ไม่ซื่อสัตย์และหลอกลวง
จึงมีคําถามขึ้นว่า “แล้วใครบ้างล่ะที่พูดความจริง”
มีการสํารวจว่า คนอเมริกันกว่า 66% แสดงความคิดเห็นว่า “การโกหกไม่ผิด !!”
31% เห็นว่า “ความซื่อสัตย์นั้นดีที่สุด”
Dr. Leonarde Keeler ในปี 1935 , 75 ปีที่แล้ว
ผู้ผลิตเครื่องจับเท็จ ได้สรุป หลังจากที่ทําการทดลอง จับเท็จคนรายบุคคลถึง 25,000 คน
ผลออกมาว่า ทั้ง 25,000 คน โกหกทุกคน
“โดยพื้นฐานธรรมชาติของมนุษย์นั้น เป็นจอมโกหกหลอกลวง” และทุกคนนั้นโกหกทั้งสิ้น
เป็นเรื่องจริง ไม่ได้โกหกนะครับ..
ตัวอย่างหนังเรื่อง Liar
พ่อของเด็กชายคนหนึ่งจับโกหกลูกได้ เขาพูดกับลูกชายว่า
“ลูกรู้ใช่มั้ยว่า บนสวรรค์ไม่มีคนโกหก”
แต่ลูกก็ย้อน ถามว่า
“แล้วพ่อล่ะ พ่อเคยโกหกมั้ยครับ” แล้วแม่ล่ะ? อ.ริก (วอเรน) ล่ะ?
ทุกคนตอบว่า “ใช่ เราเคย” ลูกจึงพูดต่อว่า
1
ถ้างั้นบนสวรรค์คงมีแต่ พระเจ้า กับทูตสวรรค์ ละมัง
ทําอย่างไรเราจะสามารถอยู่อย่างซื่อสัตย์ในโลกที่ไม่ซื่อสัตย์ใบนี้ได้??
เราจะพูดความจริงกันได้อย่างไร? มันจะเป็นไปได้ไหมที่เราจะพูดความจริง
พระเจ้าบอกว่า การโกหกคือ การตั้งใจที่จะทําให้เข้าใจผิดไป
God says lying is an intention to mislead.
ถ้าเราพูดความจริงแค่ครึ่งเดียว คุณก็กําลังโกหกทั้งเรื่อง
คุณสามารถโกหกแบบ ทําให้คนเข้าใจผิดไป หรือ กําลังปกปิดคน
เราต้องพูดความจริงทั้งหมด ถึงจะถูกต้อง ถ้าเราพูดความจริงไม่หมด เราก็กําลังหลอกลวงคนอยู่
มีเด็กวัยรุ่นที่ควรจะกลับถึงบ้านตั้งแต่เที่ยงคืนแล้ว
แต่เขากลับมาตอนตี 2 แทน และทุกคนก็หลับอยู่ เขาค่อยๆเดินอย่างเงียบเชียบ แต่เผอิญมือไปปัด แไปเตะบันไดเข้า จน
พ่อเขาตื่น และได้ตะโกนถามว่า “นั่น Tony ใช่มั้ยลูก”
ใช่ครับพ่อ.. / พ่อ : นั่นมันกี่โมงแล้วล่ะ?
2
II. เราจะพูดความจริงได้อย่างไร? HOW TO TELL THE TRUTH
Proverbs 10:10 "Someone who holds back the truth causes trouble."
พูดให้หมดเปลือกแบบไม่มีอะไรปิดบัง
จะเกิดอะไรถ้าพูดไม่หมด - ความสงสัย / ความไม่ไว้ใจ / พูดแบบผิวเผินๆ ไม่กล้าลงชัดเจน
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าสามี หรือภรรยาเรา ไม่ได้หมายความตามที่พูดกับเรา
หรือไม่พูดอย่างที่ต้องการจะบอก
เราบอกว่า ไว้ค่อยคุยกัน , เลื่อนไปก่อน นัดใหม่อีกที
และวันนั้นก็ไม่เคยมาถึง แล้วเราก็เก็บเอาไว้ จนเนิ่นนาน
คนปัจุบันพูดความเท็จ จนเป็นนิสัย จนเรากลายเป็นคนที่งง มาก เมื่อมีคนหนึ่งมาบอกเราว่า ต้องพูดความจริง และอย่า
โกหก
และเราก็ค้านอยู่ในใจว่า มันเป็นไปไม่ได้
นี้คือภาวะที่เราถูกหล่อหลอมมาคนเราไม่รู้ตัว
3
ปัญหาเรื่องชีวิตคู่มักจะมองข้าม แบบกวาดฝุ่นไว้ใต้พรมก่อน ค่อยจัดการทีหลัง
ค่อยคุยกันทีหลัง จนพรมโป่งขึ้นๆ เพราะฝุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าเราไม่เผชิญหน้าแก้ปัญหาอย่างซื่อสัตย์ สักวันระเบิดเวลาจะระเบิด
ถ้าคุณไม่พูดความจริงทั้งหมด คุณกําลังทําให้ชีวิตคู่ของคุณสึกกร่อนลงเรื่อยๆ
เป็นเหมือนน้ําหยดลงหิน วันหนึ่งหินก็จะผุ และกร่อนในที่สุด
หลักการพระเจ้าคือ กล้าที่พูดความจริงด้วยใจรัก
5Wherefore, putting away falsehood, speak ye truth each one with his neighbor: for we are members one of another.
Provers 28:23 "In the end people appreciate frankness more than flattery."
มันอาจจะดูรุนแรงในตอนแรก แต่มันจะส่งผลในระยะยาว
ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่ดีเสมอ แม้จะต้องเผชิญหน้ากัน แต่มันจะดีอย่างแน่นอน
การพูดความจริงต่อกัน แม้เริ่มต้นอย่างไม่ดีนัก แต่จะทําให้สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ
คนพูดความจริง ในที่สุดแล้ว จะมีเพื่อนมากที่สุด แม้ตอนแรกมีน้อยก็ตาม
ต่างจากการพูดความจริงไม่ครบ จะทําให้เรามีแต่จะต้องระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา
4
2. พูดความจริงให้เป็นนิสัย ( อย่างสม่ําเสมอ) TELL THE TRUTH CONSISTENTLY.
Eph 4:15 "Let our lives lovingly express the truth in all things speaking truly, dealing truly, living truly."
ไม่มีใครมีหน่วยความจําเหลือมากพอที่จะเป็นนักโกหกระดับชาติ
เพราะถ้าคุณโกหก คุณต้องจําสิ่งที่คุณโกหกไปแล้ว
แต่ถ้าเราพูดความจริง เราไม่ต้องมานั่งจํา
การโกหกจึงทําให้เราใช้ชีวิตได้ ยากกว่าการพูดความจริง
การโกหกจึงทําลายความสําเร็จ เพราะจะทําลายความสัมพันธ์ ทําลายบุคลิกของเรา เมื่อความจริงถูกเปิดโปง
5
พระเจ้าบอกว่า อย่าทําเลย
ทุกความสัมพันธ์สร้างขึ้นจากคําพูดเพียงคําเดียว นั่นคือคําว่า “ไว้ใจกัน”
การพูดโกหก ไม่สามารถทําให้เราเป็นคนที่ไว้ใจได้
แต่การพูดความจริงสามารถสร้างความไว้วางใจได้
การหลอกลวงทําลายความไว้วางใจ
ถ้าเราเป็นคนไม่สัตย์ซื่อ และพูดโกหกกับคนโน้นที คนนี่ที สักวันเราจะไม่มีเพื่อนเหลือเลย
ในชีวิตแต่งงานมีปัญหามากมาย สาเหตุมาจากการไม่ยอมพูดความจริงต่อกัน
บางทีอาจจะทั้งสองคนเลย
หรืออาจจะไม่ยอมเผชิญหน้า
บางคนบอกว่า แต่งงานมา 10 ปีแล้ว ไม่ก้าวหน้าเลย
Saleman ที่ไม่พูดความจริง ก็จะไม่ไปไหน
ถ้าคุณยืนหยัดในความจริงในชีวิตสมรส คุณก็กําลังก้าวหน้าแล้ว
พูดความจริงทั้งหมดเสมอ ความซื่อสัตย์ไม่ใช่ความโหดร้ายเลย
6
3. พูดความจริงโดยมีความรักเป็นพื้นฐาน : TELL THE TRUTH LOVINGLY.
อย่าตีหัวคนด้วยความจริง
ถ้าอยากช่วยคนจริงๆ ต้องจําไว้ 2 สิ่งดังนี้คือ
3.2 คนที่พูดความจริงโดยปราศจากความรักก็เหมือนการทําร้ายคนอื่น
People always perceive truth without love as an attack.
จะรู้ได้อย่างไรว่า เรากําลังพูดความจริงด้วยใจรัก?
ให้ถามคําถามตัวเองว่า ใครจะได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้
เราจะเปลี่ยนเขา เพื่อช่วยให้เราเองได้รับผลดีใช่หรือไม่?
หรือว่าอยากจะช่วยเขาจริงๆให้เขาได้รับสิ่งที่ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อเราเอง
ความเจ็บปวดทางอารมณ์ รักษายากกว่าทางกายภาพ
เราต้องรู้จักกาลเทศะ และผ่อนหนักผ่อนเบา แล้วเมื่อนั้นเรากําลังสร้างมิตรภาพ มากกว่าสร้างศัตรู
นี่คือสิ่งสําคัญสําหรับชีวิตแต่งงาน สําคัญต่อลูกหลาน และคนที่คุณทํางานด้วย
คิดพิจารณา และไตรตรองให้ดีก่อนที่จะสื่อสารออกไป
Contemplate before you communicate.
9
พระเยซูบอกว่า ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ใจ ไม่ใช่ที่ปาก
สิ่งที่ออกมาจากปาก คําโกหกต่างๆ คือสิ่งที่อยู่ภายในเรานั่นเอง
ฉะนั้นสิ่งที่พูดออกมายังไม่น่ากลัวเท่ากับสิ่งที่อยู่ในใจ
Matthew 15:19 "For out of the heart comes evil thoughts, murder, adultery, fornication, lying and slander."
อะไรคือแรงจูงใจภายในลึกๆ
การโกหกไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง แต่เป็นอาการของปัญหาลึกๆข้างใน
เราต้องรู้แรงจูงใจก่อน
ออกัสติน บอกว่า มีการโกหก 8 แบบด้วยกัน
มาร์ค ทเวน บอกว่า มี 869 แบบต่างหาก
เขารู้ได้อย่างไร เราไม่รู้ แต่เราจะมาดูแรงจูงใจ 5 อย่างที่ทําให้มนุษย์โกหกคือ
10
อะไรคือแรงจูงใจขั้นต้น ของแต่ละคําโกหกเหล่านี้?
What are the primary motivations for each of these lies?
1. ความเกลียดชัง
- โกหกแบบโหดร้ายมาก The cruel lie. : เพราะความเกลียดชัง มาจากจิตใจที่เกลียดชัง
ครอบครัวที่แตกแยก และแย่งสมบัติ
เมื่อเราเกลียดใครสักคน เราจะมีโอกาศพูดโกหก ในเรื่องคน ๆ นั้น
นี่คือคําโกหกที่มีเจตนาทํารายล้างและผูกพยาบาท
This is the kind of lie that is intentionally destructive and malicious. You tell it to get revenge.
อะไรคือแรงจูงใจเบื้องหลังการโกหกแบบนี้?
ความอิจฉา หึงหวง การล้างแค้น ความเจ็บปวด ความเกลียดชัง อารมณ์โกรธ ความไม่พอใจ
แค่ความไม่พอใจเล็กน้อย ก็อาจส่งผลให้เกิดความขมขื่นต่อต้านขึ้นมาได้
จากนั้นก็สามารถเกิดการโกหกอย่างร้ายแรงนี้ขึ้นได้
11
2. ความกลัว
: โกหกแบบขลาดเขลา The cowardly lie. : เพราะความกลัว
เด็กๆมักจะทําแบบนี้
หรือบางครั้งออกมาแบบ ชอบโอ้อวดในสิ่งที่ไม่ได้ทําจริง
12
กลัวคนจะมองว่าไม่เท่ห์ เรียกว่า “ความกดดันที่อยากมีหน้ามีตา”
บางทีก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธคน เลยต้องโกหกไปเรื่อย เช่น
เวลามีคนให้คุณทําอะไรสักอย่าง แทนที่ความจริงคุณไม่อยากทํา
แต่คุณกลับตอบว่า “ฉันทําไม่ได้”
“ฉันทําไม่ได้” กับ “ฉันไม่อยากทํา” มันคนละเรื่องกันเลย
นั่นคุณกําลังโกหก เรียกว่าโกหกแบบขลาดกลัว
โกหกว่าเราเคยไปที่โน้นที่นี้ ,เรามีสิ่งนั้นสิ่งนี้ , บ้านเราหลังใหญ่
13
3. โกหกแบบโอ้อวดทะนงตน The conceited lie. : เพราะขาดความมั่นคงใจจิตใจ
4. ความโลภ :
โกหกเพื่อหวังโกงคนอื่น The calculated lie. : ความโลภ
14
นี่เป็นอีกโกหกหนึ่งที่ชอบโกงคนอื่น เกิดจากความโลภมากและเห็นแก่ตัว
คนรักเงินมักจะโกหกแบบนี้ โกหกเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาเป็นของตน
This is the kind of lie used to manipulate other people.
5. ขี้เกียจ
โกหกเพราะอยากสบาย และไม่อยากมีความยุ่งยาก The convenient lie. : ขี้เกียจ
โกหกแบบนี้เป็นชั้นเชิงเพื่อให้ดูดีในสังคม และเพื่อเอาใจคนอื่น
พระเยซูบอกว่า อะไรที่อยู่ในใจจะออกมาทางปาก
สรุปว่า เราควรหยุดโกหกทุกชนิด
ขอพระเจ้าช่วยให้เรามีใจใหม่
พระเจ้าบอกว่า ให้ความรักของพระเจ้ามาเติมเต็มหัวใจของเรา แทนความเห็นแก่ตัว
ให้ความชื่นชมยินดีและสันติสุข มาแทนความเกลียดชัง
15
ให้ความเชื่อมั่น มาแทนการขาดความมั่นคง
ให้กําลังและพลังมาแทนความเกียจคร้าน
พระเยซูบอกว่า พระองค์เป็นความจริง ยิ่งเราใกล้พระองค์มากเท่าใด
เราก็จะรักความจริงมากเท่านั้น แล้วเราจะเริ่มพูดความจริง อยู่กับความจริง
เราจะเริ่มต้นอย่างไรดี
เริ่มจากการสารภาพบาปที่ไม่เราเคยไม่สัตย์ซื่อก่อน
ยอมรับกับพระเจ้าก่อนว่า “เราเป็นคนโกหก”
ต้องโกหกกี่ครั้งจึงจะถูกเรียกว่า “คนโกหก”
o แค่ครั้งเดียวก็เรียกได้แล้ว ขอพระเจ้าชําระเราก่อน`
จากนั้นขอพระเจ้าเปลี่ยนนิสัยเรา ให้เป็นลักษณะชีวิตใหม่
ชื่อเสียงดี อาจทําให้มนุษย์ประทับใจ แต่พระเจ้าประทับใจลักษณะชีวิตต่างหาก
ลักษณะชีวิตที่ดีเท่านั้นที่จะถูกนับไว้บนแผ่นดินสวรรค์ตลอดไป
16