Professional Documents
Culture Documents
วิจารณ์งานวิจัย:ทัศนคติและพฤติกรรมของวัยรุ่นตอนกลางที่มีต่อหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศและความรุนแรง
วิจารณ์งานวิจัย:ทัศนคติและพฤติกรรมของวัยรุ่นตอนกลางที่มีต่อหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศและความรุนแรง
ส่ วนที่ 1 รายละเอียดโดยย่อของงานวิจัย
งานวิจัย “ทัศนคติและพฤติกรรมของวัยรุ่ นตอนกลางที่มีต่อหนังสื อการ์ ตูนญี่ปนที ุ่ ่มีเนือ้ หาเกีย่ วกับเพศ
และความรุนแรง” มีแนวคิดว่าการ์ตูนญี่ปุ่นเป็ นสื่ อที่เป็ นตัวกลางผ่านวัฒนธรรมของญี่ปุ่นสู่ เป้ าหมาย ที่
ครอบคลุมกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย โดยการ์ตูนญี่ปนที ุ่ ่เข้ามาในประเทศไทยนั้นมีเนื้อหาค่อนข้างรุ นแรงและเกี่ยว
กับเรื่ องเพศ กลุ่มที่อ่านการ์ตูนญี่ปนนี ุ่ ้ ส่วนใหญ่เป็ นวัยรุ่ น ผูว้ ิจยั จึงแนวแนวความคิดว่าวัยรุ่ นที่บริ โภคการ์ตูนนั้น
มีส่วนในการสร้างเสริ มพฤติกรรม การแสดงออก และทัศนคติ ของวัยรุ่ นหรื อไม่ โดยผูว้ ิจยั ได้สร้าง
วัตถุประสงค์ของงานวิจยั ดังนี้ เพื่อศึกษาถึงการรับรู ้ พฤติกรรมการอ่าน และทัศนคติของวัยรุ่ นตอนกลางชาย
หญิงที่อ่านหนังสื อการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีเนื้ อหาเกี่ยวกับเรื่ องเพศและความรุ นแรง โดยการจำกัดขอบเขตของการวิจยั
ด้านประชากรและพื้นที่ คือวัยรุ่ นตอนกลาง อายุ 15-18 ปี ที่อาศัยอยูใ่ นเขตกรุ งเทพมหานคร ผูว้ ิจยั ได้กล่าวว่า
สาเหตุที่กำหนดกลุ่มประชากรไว้เพียงวัยรุ่ นตอนกลางเนื่องจากวัยรุ่ นเป็ นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่ างกาย
และจิตใจอย่างรวดเร็ ว ผูว้ ิจยั ใช้ทฤษฏีการเลือกรับข่าวสาร (Selective Processes) ในการมองการ์ตูนญี่ปนว่ ุ่ าเป็ น
เครื่ องมืออย่างหนึ่งที่ทำให้ ผูบ้ ริ โภคมีพฤติกรรม ทัศนคติที่เปลี่ยนไป ตามที่สื่อนำเสนอ โดยเรื่ องพฤติกรรมและ
ทัศนคติน้ นั มีการยกแนวคิดจิตวิทยาเรื่ องเพศของวัยรุ่ น ทฤษฏีการใช้ประโยชน์และความพึงพอใจ (The Uses
and Gratification) และแนวคิดเกี่ยวกับ ความรู ้ ทัศนคติและพฤติกรรม นำมาอธิ บายวัยรุ่ นหรื อกลุ่มประชากรที่ผู ้
วิจยั ได้ทำหนดกลุ่มเป้ าหมายไว้ และยังได้ยกแนวคิดเกี่ยวกับการ์ตูนในการวิเคราะห์ลกั ษณะสำคัญของการ์ตูน
ด้านระเบียบวิธีการวิจยั ผูว้ ิจยั ศึกษาวิจยั เป็ นเชิงปริ มาณ โดยใช้เทคนิควิธีวิจยั เชิงสำรวจ (Survey
Research) ในการศึกษาผูว้ ิจยั ได้ใช้แบบสอบถามชนิดปลายปิ ด (Close-ended Questions) เป็ นเครื่ องมือในการ
ทำการวิจยั โดยใช้กลุ่มประชากรวัยรุ่ นชาย-หญิงอายุระหว่าง 15-18 ปี ทั้งสิ้ น 304,041 คน ซึ่ งสามารถนำมา
คำนวณตามสูตรของยามาเน (Taro Yamane) ได้จำนวน 277.52 คนหรื อประมาณ 300 คนเพื่อป้ องกันความผิด
พลาด การศึกษาวิจยั ครั้งนี้ผวู้ ิจยั ได้ใช้วธิ ีการสุ่ มตัวอย่างแบบไม่ทราบโอกาส (Non-Probability Sampling) ผสม
กับวิธีการแบบโควต้า (Quota Sampling) ด้วย โดยแบ่งเป็ นเป็ นประชากรชาย 150 คนและประชากรหญิง 150
คน และเก็บรวบรวมข้อมูลภายในช่วงเวลาเดียว (Cross Selection ฟส Approach) และมีวิธีการวิเคราะห์ผลเชิง
สถิติ
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่ วนใหญ่กำลังศึกษาในระดับมัธยมปลายมากที่สุดโดยเป็ นชายมากกว่า
หญิง (จำนวนใกล้เคียงกัน) มีรายได้ของครอบครัวต่อเดือนระหว่าง 200,001-300,000 บาท และได้รับเงินใช้จ่าย
ในแต่ละวัยจำนวน 50-100 บาท ขณะที่หนังสื อการ์ตูนส่ วนใหญ่มีราคา 46-50 บาท กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการ
อ่านหนังสื อการ์ตูนช่วงตอนกลางคืนและชอบอ่านคนเดียว โดยเนื้ อหาส่ วนใหญ่เกี่ยวกับอาชญากรรม ลึกลับ
สอบสวน รองลงมาคือเรื่ องรักโรแมนติกในสถาบันการเรี ยน ซึ่ งเหตุผลที่เลือกอ่านคือ เนื้อเรื่ องมีความ
สนุกสนาน อ่านแล้วเพลิดเพลิน ช่วยผ่อนคลายความตึงเครี ยด และปั จจัยที่สำคัญที่ทำให้เลือกอ่านหนังสื อคือ
เพื่อน ส่ วนเรื่ องการรับรู้พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่ วนใหญ่มีการรับรู ้เกี่ยวกับหนังสื อการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีเนื้ อหาเกี่ยวกับ
เพศและความรุ นแรงอย่างถูกต้อง และมีทศั นคติเป็ นกลางต่อหนังสื อการ์ตูนประเภทนี้ และผลการวิจยั พบว่า
กลุ่มตัวอย่างคิดว่า การอ่านหนังสื อการ์ตูนเกี่ยวกับเพศและความรุ นแรง ช่วยกระตุน้ ให้เกิดความอยากรู ้อยาก
เห็นในเรื่ องเพศมากขึ้นและกระตุน้ ให้เกิดความอยากมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรี ยนด้วย
การศึกษาวิจยั เรื่ องนี้ ผูว้ ิจยั ได้คาดว่า จะสร้างประโยชน์ได้หลายประการดังนี้ เพื่อทราบถึงพฤติกรรม
การอ่าน การรับรู้ ทัศนคติของวัยรุ่ นตอนกลางในเขตกรุ งเทพมหานครที่อ่านหนังสื อการ์ตูนญี่ปุ่น ที่มีเนื้ อหา
เกี่ยวกับเพศและความรุ นแรง และนำข้อมูลที่ได้มาประกอบการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านกฎหมาย
ในการจัดระดับเนื้ อหาหนังสื อการ์ตูนที่มีเนื้ อหาเกี่ยวกับเพศและความรุ นแรง และเพื่อเป็ นข้อมูลเบื้องต้นในการ
ศึกษาค้นคว้าถึงผลกระทบของการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีต่อสังคมไทย
ส่ วนที่ 3 ข้ อเสนอแนะ
ผูว้ จิ ยั ได้เสนอแนะสำหรับการวิจยั ครั้งต่อไปว่า ควรจะศึกษาร่ วมกันทั้งเชิงประมาณและเชิงคุณภาพทั้ง
เนื่องจากจะทำให้ได้ขอ้ มูลเชิงวัฒนธรรมและบริ บทของสังคมที่กลุ่มประชากรอาศัยอยู่ ผูว้ ิจารณ์มีขอ้ เสนอแนะ
ต่องานวิจยั เกี่ยวกับการเขียนรายงานการวิจยั ภาษาที่ใช้ บางคำ เช่นเรื่ องรักๆ ใคร่ ๆ ชกต่อย ฯลฯ ไม่เหมาะสมกับ
การเขียนงานวิชาการ และอีกประการหนึ่งคือผูว้ ิจารณ์มีความเห็นว่างานวิจยั ชิ้นนี้มีขอ้ บกพร่ อง ค่อนข้างมากใน
ข้อมูล เช่น Manga อ่านว่า มังงะ ในงานงิจยั อ่านว่า มันงะ ซึ่ งเป็ นเรื่ องที่ตอ้ งให้ความสำคัญอย่างมาก