Download as doc, pdf, or txt
Download as doc, pdf, or txt
You are on page 1of 24

สาระที่ 3 นาฏศิลป์

1.การแสดงนาฏศิลป์ ไทย นิ ยมอยู่เพียงเรื่องเดียว คือเรื่อง


รามเกียรติ ์ ซึ้งได้เค้าเดิมมาจากเรื่องรามายณของอินเดียคือ
อะไร
ก.ละคร ข.ลิเก ค.โขน
ง.ระบำา

2.ละครที่ถือเป็ นต้นแบบของละครรำาทุกชนิ ด คือ ละคร


อะไร
ก.ละครใน ข.ละครนอก ค.ละครเสภา
ง.ละครชาตรี

3.ละครที่ปรับปรุงขึ้นใหมู มีลักษณะการแสดงคล้ายละคร
โอเปรูาแบบตะวันตก คือ ตัวละครพ่ดเองร้องเอง และ
เปลี่ยนฉากไปตามเนื้ อเรื่อง คือ ละครอะไร
ก.ละครพันทาง ข.ละครดึกดำาบรรพ์ ค.ละครเสภา
ง.ละครนอก

4.ระบำาชนิ ดที่ถือเป็ นมาตรฐาน แสดงประกอบละคร


ดึกดำาบรรพ์ เรื่องสังข์ทอง คือระบำาอะไร
ก.ระบำาไกู ข.ระบำาดาวดึงส์ ค.ระบำา
เทพบันเทิง ง.ระบำากฤษดาภินิหาร
5.การแสดง โขน ที่ไมูมีการสร้างโรง แสดงกับพื้นดินกลาง
สนาม นิ ยมเลูนตอนที่เกี่ยวกับ การรบ การยกทัพ คือข้อ
ใด
ก.โขนกลางแปลง ข.โขนโรงใน
ค.โขนหน้ าขอ ง.โขนโรงนอกหรือโขน
นั่ งราว

6.นาฏยศัพท์ คือ ศัพท์ท่ีใช้เกี่ยวกับทูารำา การยกแขนให้


ได้สูวนยกส่ง ตัง้ ข้อมือ ฝู ามือเหยียดตรงทัง้ สี่นิ้ว นิ้วหัวแมู
มืองอเข้าหาฝู ามือเล็กน้ อย หักข้อมือเข้าหาลำาแขน หมาย
ถึงข้อใด
ก.กันวง ข.ตัง้ วง ค.จีบหงาย ง.จีบวง

7.การตัดตอนจากวรรณคดีเอกเรื่องรามเกียรติ ์ เพื่อใช้
แสดงในข้อใด
ก.ละครนอก ข.ละครใน ค.โขน ง.ระบำา

8.ภาษาทางนาฏศิลป์ ใช้เรียกการแสดงทูาทางในการพ่ดของ
ตัวละครวูาอยูางไร
ก.นาฏยศัพท์ ข.การตีบท ค.บทของละคร ง.ภาษา
ของการแสดง

9.การละครและการฟ้ อนรำาของไทยที่ปรากฏอยู่จนทุกวันนี้
ได้แบบแผนมาจากชนชาติใด
ก.จีน ข.เขมร ค.ลาว ง.อินเดีย
10.การละครที่ใช้ผ้่แสดงเป็ นชายล้วน และมีตัวแสดงเพียง
3 ตัว คือละครในข้อใด
ก.ละครใน ข.ละครนอก ค.ละครชาตรี
ง.ละครดึกดำาบรรพ์

11.การละครของไทยที่แสดงทูาทางเหมือนอยูางสามัญชน
และเปลี่ยนฉากไปตามท้องเรื่อง คือละครในข้อใด
ก.ละครพูดกับละครพันทาง ข.ละครพ่ดกับละคร
ดึกดำาบรรพ์
ค.ละครพ่ดกับละครเสภา ง.ละครพ่ด
กับละครร้อง

12.ต้นกำาเนิ ดของการแสดงละคร มาจากอะไร


ก.การสวดอ้อนวอน ข.การร้องเพลงพื้นบ้าน
ค.การร่ายรำาบูชาเทพเจ้า ง.การแสดงทางศาสนา

13.ศิลปะการแสดงละคร ประกอบด้วยบุคคลหลายฝู ายเข้าด้วย


กัน จึงได้ช่ ือวูาอยูางไร
ก.รำาแมูบท ข.รำาอวยพร ค.พระลอตามไกู
ง.ฉุยฉายพราหมณ์
15.ละครนอกแสดงได้ทุกเรื่อง สูวนการแสดงละครในแสดง
เรื่องใดในตูอไปนี้
ก.อิเหนา รามเกียรติ ์ และมณี พิชัย ข.อิเหนา
รามเกียรติ ์ และอุณรุท
ค.อิเหนา รามเกียรติ ์ และราชาธิราช ง.อิเหนา
รามเกียรติ ์ และสกุลตลา

16.การแสดงของภาคใต้ คือข้อใด
ก.มโนราห์-ลำากลอน ข.มโนราห์-ลำาหมู่
ค.มโนราห์-หนั งตะลุง ง.มโนราห์-ลำาตัด

17.บ้องไฟ คือการละเลูนพื้นเมืองของภาคใด
ก.เหนื อ ข.กลาง ค.อีสาน ง.ใต้

18.ลำาตัด คือการแสดงพื้นเมืองของภาคใด
ก.เหนื อ ข.กลาง ค.อีสาน ง.ใต้

19. ฟ้ อนเล็บ คือการแสดงพื้นเมืองของภาคใด


ก.เหนื อ ข.กลาง ค.อีสาน ง.ใต้

20.การแสดงของภาคอีสาน คือข้อใด
ก.ลำาตัด ข.ฟ้ อนเล็บ ค.มโนราห์ ง.ลำา
เพลิน
21. กูอนจะมีการแสดงละคร ผ้่แสดงจะต้องกระทำาสิ่งใดกูอน
ก. ไหว้ครู ข. บรรเลงดนตรี ค. ร้องเพลงนำ า ง.
ร้องเพลงโชว์

22. “เถิดเทิง หรือ เทิ่งบอง” เรียกตามเสียงกลองที่ได้ยินิ


ใช้ประกอบการรำาพื้นเมืองของไทยภาคใด
ก. ภาคเหนื อ ข. ภาคกลาง ค. ภาคอีสาน ง.
ภาคใต้

23. บทบาทของตัวละครบนเวที ที่ปรากฎตูอผ้่ชมในด้าน


ตูางๆ เชูน สีหน้ า ทูาทาง จังหวะ การเคลื่อนไหวคืออะไร
ก. การใช้ภาษา ข. ภาพ ค. ความคิด
ง. ตัวละคร

24. บทพ่ดร้องที่ดี จะต้องเป็ นอยูางไร


ก. เหมาะสมกับลักษณะของผ้่แสดงแตูละคราว
ข. ปรับปรุงไปตามความเหมาะสมกับเวลาและโอกาส
ค. เหมาะสมกับลักษณะของการละครและนิ สัยของตัว
ละคร
ง. เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพและเหตุการณ์ของบ้านเมือง

25. ควรใช้ภาษาพ่ดในข้อใดเมื่อแสดงละคร
ก. คำาพ่ดที่ใช้กันอยู่ปกติ ข. คำาพ่ด
ที่ใช้ต้องประหยัดถ้อยคำา
ค. จะต้องพ่ดให้เกินความเป็ นจริง ง. คำาพูด
ต้องให้กินใจอย่างลึกกซึง้

26. การประพันธ์ท่ีเป็ นศิลปะของการถูายทอดทางด้าน


บทเพลงที่ตัวละครจะต้องขับร้องหรือความเงียบจของชูวง
การเจรจา ควรมีจังหวะลีลา มีนำ้าเสียงส่งตำ่า ในคำาพ่ดของ
บทละคร เรียกวูาอยูางไร
ก. บทร้อง ข. ภาษา ค. เพลง ง.
บทร้องประกอบ

27. ผ้่วางนโยบายหลักการแสดง รับผิดชอบทางด้านการเงิน


งานธุรการและประชาสัมพัน์ คือใคร
ก. นายทุน ข. ผู้อำานวยการสร้าง ค. ผ้่กำากับการ
แสดง ง. ผ้ป
่ ระสานงาน

28. ผ้ท
่ ่ีคิดบทและวิธีเลูนละครดึกดำาบรรพ์ คือใคร
ก. อาจารย์มนตรี ตราโมท ข. ดร.อุทิศ นาง
สวัสดิ ์
ค. หลวงประดิษฐ์ไพเราะ ง. สมเด็จเจ้าฟ้ ากรม
พระยานริศรานุวัดติวงศ์
29. การแสดง การเต้น หรือการรำา ที่มีจังหวะคูอนข้างเร็ว
และมีลีลาทูาเต้นกลมกลืนไปกับดนตรีพ้ืนเมือง เพลงที่ใช้
ประกอบการเต้น ไมูนิยมใสูเนื้ อร้อง คือข้อใด
ก. ระบำาปาเต๊ะ ข. เซิง้ กระติบ ค. ระบำา
รองเง็ง ง. ระบำาเก็บใบชา

30. มีคุณธรรมส่ง รับผิดชอบตูอสังคม เป็ นนั กบริหาร นั ก


ธุรกิจที่ดี คือคุณสมบัติสูวนหนึ่ งของใคร
ก. นายทุน ข. แมูยก ค. ผู้อำานวยการสร้าง
ง. ผ้่กำากับการแสดง

31. ศึกษาบทละครเป็ นอยูางดี คัดเลือกผ้่แสดง กำาหนด


แผนการฝึ กซ้อม และการแสดง และรับผิดชอบงานทุกด้าน
ที่เกี่ยวกับการแสดงละคร คือหน้ าที่ของใคร
ก. เจ้าภาพ ข. นายทุน ค. ผ้่อำานวยการสร้าง
ง. ผู้กำากับการแสดง

32. ข้อใดมิใชูคุณสมบัติท่ีดีของผ้่กำากับการแสดง
ก. มีความร้่และประสบการณ์ด้านการแสดงส่ง
ข. มีจิตวิทยาส่ง
ค. ผู้กำากับเวที
ง. ผ้่แสดง
33. ผ้่มีหน้ าที่เป็ นผ้่ประสานงาน ควบคุมบท ในระหวูางการ
ฝึ กซ้อมและการแสดงคือใคร
ก. ผ้่วูาการสร้าง ข. ผ้่กำากับการ
แสดง
ค. ผู้กำากับเวที ง. ผ้่แสดง

34. ผ้ท
่ ่ีสวมบทบาทของตัวละคร ในการถูายทอดเรื่องราว
ความร้่สึกนึ กคิดในบทละครไปสู่ผ้่ชม คือใคร
ก. ผู้แสดง ข. ผ้่กำากับเวที
ค. ผ้่กำากับการแสดง ง. ผ้่อำานวยการสร้าง

35. หัวหน้ าควบคุมการออกแบบทุกด้านคือ ข้อใด


ก. ผ้่กำากับการแสดง ข. ผ้่กำากับเวที
ค. ผ้่อำานวยการสร้าง ง. ผู้กำากับฝ่ ายศิลป์

36. คุณสมบัติท่ส
ี ำาคัญที่สุดของผ้่ออกแบบเครื่องแตูงกายตัว
ละคร คือข้อใด
ก. ศึกษารสนิ ยมของผ้่ชมเป็ นอยูางดี
ข. เข้าใจลักษณะเดูนของเครื่องแตูงกาย
ค. ศึกษาความเป็ นมาของบทละครและตัวละครเป็ นอย่าง
ดี
ง. มีประสบการณ์ทางการออกแบบ
37. การทำาพิธี “แหูขา้ วเมูา” มีการฟ้ อนรำาถวายพระธาตุ ผ้่
หญิงแตูงตัวแบบพื้นเมืองใสูเล็บมือยาว ผ้ช ่ ายเลูนดนตรี
คือการแสดงในข้อใด
ก. ฟ้ อนภูไท ภาคอีสาน ข. ฟ้ อนแพน ภาคเหนื อ
ค. ฟ้ อนเทียน ภาคเหนื อ ง. เซิง้ กระติบ ภาคอีสาน

38. ข้อใดไมูใชูคุณสมบัติของผ้่ออกแบบแตูงหน้ าตัวละคร


ก. มีความร้่เรื่องเครื่องสำาอาง
ข. ศึกษาเรื่องเชื้อชาติและความเป็ นจริงของผู้แสดง
ค. ศึกษาเรื่องเชื้อชาติและความเป็ นจริงของตัวละคร
ง. มีความสามารถแตูงหน้ าได้ตรงตามที่ผ้่ประพันธ์ต้องการ

39. มีความร้่ทางด้านทฤษฎีสีและแสงเป็ นอยูางดี คือ


คุณสมบัติของใคร
ก. ผ้่ออกแบบแตูงหน้ า ข. ผู้ออกแบบแสง
ค. ผ้่ออกแบบตกแตูงเวที ง. ผ้่ออกแบบฉาก

40. การละครของกรีกเกิดขึ้นจากอะไร
ก. การูชาเทพเข้าเหล้าองุ่น ข. การบ่ชาเทพเจ้า
ค. การเลูนพื้นเมือง ง. การเชื่อ
ดึกดำาบรรพ์

41. เทพเจ้าแหูงเหล้าองูุนคือเทพเจ้าในข้อใด
ก. เธสพิส ข. ไดโอนี ซัส ค. ดิธธีแรมบ์ ง. วีนัส

42. การแสดงของกรีกในการบ่ชาเทพเจ้า ผ้่แสดงจะได้อะไร


เป็ นรางวัล
ก. องูุน ข. แกะ ค. แพะ ง. กวาง

43. ละครดึกดำาบรรพ์ เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลใด


ก. ราชกาลที่ 5 ข. รัชกาลที่ 6 ค. รัชกาลที่
7 ง. รัชกาลที่ 9

44. ละครดึกดำาบรรพ์ ดัดแปลงมาจากอะไร


ก. สังคีตรัตนากร ข. เบญจดุรย
ิ างค์ ค.
ละครชาตรี ง. ละครโอเปล่า

45. ศิลปะการรำาวง ที่เรียกวูา “รำาวงมาตรฐาน” นั ้น เพลงใน


ข้อใดที่ ไม่ใช่ เพลงประกอบทูารำาวงดังกลูาว
ก. งามแสงเดือน ข. ดอกไม้ของชาติ ค. ดวงจันทร์
ขวัญฟ้ า ง. ล้นเกล้าเผ่าไทย

46. ละครพันทาง เกิดขึ้นในสมัยรัชการใด


ก. รัชการที่ 3 ข. รัชการที่ 4
ค. รัชการที่ 5 ง. รัชการที่6
47. การละครที่มีบท หูา การตูอส้่ เพื่อให้เกิดความตื่นเต้น
หวาดเสียว คือสมัยใด
ก. กรีก ข. โรมัน ค. สมัย
กลาง ง. ฟื้ นฟ่วิททยา

48. การละครเพื่อศาสนาที่เรียกวูา ลิเทอร์จิคัลดรามูา


(Liturgical Drama) เริ่มเกิดขึ้นในสมัยใด
ก. กรีก ข. โรมัน ค. สมัย
กลาง ง. สมัยใหมู

49. การแสดงละครที่ใช้ผ้่แสดงใสูหน้ าและสวมหัว คล้ายกับ


หัวโขนนองไทย คือสมัยใด
ก. สมัยใหมู ข. สมัยกลาง ค.
โรมัน ง. กรีก

50. การละครลิเทอร์จิคัลดรามูา (Liturgical Drama) ใครเป็ น


ผ้่แสดง
ก. ศิลปิ น ข. นั กโทษ ค. ชาว
บ้าน ง. พระ

51. ละครอุปรากร หรือละครโอเปรูา (Opera) กำาเนิ ดขึ้นใน


สมัยใด
ก. ฟื้ นฟูวิททยา ข. สมัยใหมู
ค.สมัยกลาง ง. สมัยโรมัน

52. ละครอุปรากร หรือละครโอเปรูา (Opera) เรื่องแรก คือข้อ


ใด
ก. แอคเตอรื (Actoe)
ข. ลิเทอร์จิคัลดรามูา (Liturgical Drama)
ค. โอเปรูา (Opera)
ง. ดาฟเน่ (Dafne)

53. “ยืนเครื่องพระยืนเครื่องนาง” หมายถึง การแตูงกาย


ละครตามแบบแผนของกษั ตริย์ คือ ละครในข้อใด
ก. ละครใน ข. ละครนอก ค. ละคร
ชาตรี ง. ละครดึกดำาบรรพ์

54. ผ้ป
ุ ระพันธ์บทร้อง ละครเรื่อง ดาฟเนู (Dafne) คือใคร
ก. อเมริกา ข. ฝรัง่ เศส ค.
อังกฤษ ง. อิตาเลียน

55. จินตกวีในข้อ 54 เป็ นชาวอะไร


ก. อเมริกา ข. ฝรัง่ เศส ค.
อังกฤษ ง. อิตาเลียน
56. ละครแบบ Realism และ Naturalism อยู่ในสมัยใด
ก. ฟื้ นฟ่วิททยา ข. สมัยใหม่
ค.สมัยกลาง ง. กรีก

57. ละครที่มีความเชื่อตามหลักของวิทยาศาสตร์ ยึดหลัก


ความเป็ นจริงผ้่มีช่ ือเสียงที่สุดคือใคร
ก. จอร์จ เบอร์นาร์ดเชอว์ ข.
ฟรานซ์ เวเดคายนต์
ค. เบอร์โทลท์ ง.
ไชคอฟสกี้

58. ตูอต้านละครแบบเหมือนจริง ยึดหลังความร้่สึกนึ กคิดจาก


จิตใจ คือละครแบบใด
ก. Realism ข. Expressionism
ค. Epic Theatre ง. Absurd Theatre

59. ละครในข้อ 58 นั กเขียนที่มีช่ ือเสียงคือใคร


ก. จอร์จ เบอร์นาร์ดเชอว์ ข.
ฟรานซ์ เวเดคายนต์
ค. เยอร์โทลท์ ง.
โชแปง
60. ละครแบบ เอพิค (Epic Theatre) นั กการละครที่มีช่ ือ
เสียงที่สุดคือใคร
ก. ฟรานซ์ เวเดคายนต์
ข. จอร์จ เบอร์นาร์ดเชอว์
ค. เบอร์โทลท์
ง. ออตตาริโอ รินนุชชินี

61. แสดงเหตุการณ์แปลกจากอดีตมาก โดยแยกอดีตจาก


ปั จจุบันต้องการชีแ
้ นะให้คนพิจารณาและวิจารณ์และตัดสินใจ
อยูางมีเหตุผล คือละครแบบใด
ก. เซอเรียลิสม์
ข. แอ๊ปเสิร์ด
ค. เอกซ์เพรสชัน
่ นิ สม์
ง. เอพิค

62. ละครร้อง เข้ามาเลูนในกรุงเทพมหานคร ครัง้ แรก ณ ที่ใด


ก. สนามหลวง
ข. โรงละครข้างวังบูรพา
ค. โรงละครแหูงชาติ
ง. พระบรมมหาราชวัง

63. ไทรบุรี เป็ นเมืองที่มีการแสดงละครในข้อใดครัง้ แรก


ก. ละครใน ข. ละครนอก ค.
ละครเสภา ง. ละครร้อง

64. ละครรำาของไทยได้กว้างไปสู่สายตาของชาวตะวันตก คือ


ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็ นครัง้ แรกเมื่อใด
ก. รัชกาลที่ 4 ข. รัชกาลที่ 6
ค. รัชกาลที่ 8 ง. รัชกาลที่ 9

65. ทรงห้ามใช้รัดเกล้ากับละครนอก ในสมัยรัชกาลใด


ก.รัชกาลที่ 1 ข. รัชกาลที่ 2
ค. รัชกาลที่ 3 ง. รัชกาลที่ 4

66. มีความเชื่อวูา ความจริงนั ้นอยู่ในจิตใต้สำานึ ก เป็ นอิสระใน


ความฝั น ทุกอยูางเป็ นภาพลวงตา คือการละครในข้อใด
ก. เซอเรียลิสม์
ข. แอ๊ปเสิร์ด
ค. เอกซ์เพรสชัน
่ นิ ลม์ ง.
เอพิค

67. มีความคิดวูาโลกเป็ นกลาง ไมูดี ไมูเลว ความจริงที่เกิดขึ้น


มีความหมายในตัวเอง มนุษย์เป็ นผ้่กำาหนดความหมายให้ ไมูมี
อะไรแนู นอน คือละครแบบใด
ก. เซอเรียลิสม์
ข. แอ๊ปเสิร์ด
ค. เอกซ์เพรสชัน
่ นิ ลม์ ง.
เอพิค

68. ละครร้องเกิดขึ้นในสมัยใด
ก. รัชกาลที่ 5
ข. รัชกาลที่ 5 ตอนปลาย
ค. รัชกาลที่ 6
ง. รัชกาลที่ 6 ตอนต้น

69. ละครร้องกำาเนิ ดมาจากการละครของชาติใด


ก. จีน ข. มาเลเซีย ค.
พมูา ง. เขมร

70. รัชการใดที่ไมูโปรดละครหลวง และมีการทรงตัวของละคร


ของเอกชน
ก.รัชการที่ 1 ข.รัชการที่ 2 ค.รัช
การที่ 3 ง.รัชการที่ 4

71. เกิดภาษี ละครขึ้นในสมัยรัชการใด


ก.รัชการที่ 8 ข.รัชการที่ 7 ค.รัชการ
ที่ 4 ง.รัชการที่ 3

72.บทละครเรื่อง เงาะปู า อิเหนา ตอนอิเหนาเข้าเมือง เป็ นบท


พระราชนิ พนธ์ของรัชการใด
ก.รัชการที่ 3 ข.รัชการที่ 4 ค.รัชการ
ที่ 5 ง.ไมูประกฎแนู ชัด

73.เลิกการเก็บภาษี ละครในสมัยรัชการใด
ก.รัชการที่ 3 ข.รัชการที่ 4 ค.รัชการ
ที่ 5 ง.ไมูมีการยกเลิก

74.ทรงเห็นความสำาคัญของละครเป็ นอยูางมาก และถือเป็ น


ยุคทองของการละคร คือรัชการใด
ก.รัชการที่ 3 ข.รัชการที่ 4 ค.รัชการ
ที่ 5 ง.รัชการที่ 6

75.ละครร้อง ที่เรียกวูา Operatic Libretto เรียกอีกอยูางหนึ่ ง


วูาละครแบบใด
ก.แบบยุโรป ข.แบบผสม ค.แบบปรีดาลัย
ง.แบบพระมงกุฎ
76.ละครหลวงนฤมิตร หมายถึง ละครข้อใด
ก.ละครนอก ข.ละครร้อง ค.ละครใน
ง.ละครเสภา

77.พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรง
แก้ไขปรับปรุงละครร้องเลูนที่โรงใด
ก.โรงปรีดาลัย ข.โรงช้างวังบ่รพา ค.โรงละครแหูง
ชาติ ง.สนามหลวง

78.ละครร้องตูอมาเรียกวูาละครในข้อใด
ก.ละครพ่ด ข.ละครหลวง
นฤมิตร
ค.ละครร้องสลับการพ่ด ง.ไมูมีข้อใดถ่ก
ต้อง

79.ละครในสมัยรัชการที่ 6 ได้นำาการแสดงละครของข้อใดมา
ดัดแปลง
ก.ตะวันตก ข.อินเดีย
ค.จีน ง.ทางใต้ของ
ประเทศไทย

80.ละครร้องที่เลียนแบบ อุปรากร หรือที่เรียกวูา Operatic


Libretto คือละครในข้อใด
ก.ละครร้องสลับพ่ด ข.ละครพ่ดอยูาง
เดียว
ค.ละครร้องอย่างเดียว ง.ถ่กทุกข้อ

81.การแตูงกายแตูงตามละครพันทางหรือตามลักษณะของตัว
ละคร แตูงหน้ าแบบ Stagemake-up ของตะวันตกคือละครใด
ก.ละครร้อง ข.ละครร้องแบบ
พระมงกุฎ
ค.ละครร้องสลับการพ่ด ง.ละครร้องแบบ
ปรีดาลัย

82.การละครในข้อ 81 ใช้ดนตรีประเภทใดบรรเลงประกอบ
การแสดง
ก.วงปี่ พาทย์ไม้นวม ข.วงปี่ พาทย์ไม้
แข็ง
ค.วงมโหรีเครื่องเล็ก ง.วงเครื่องสาย
ผสม

83.ละครที่ใช้ผ้่แสดงหญิงล้วนๆยกเว้นตัวตลกนั ้น คือละครใน
ข้อใด
ก.ละครพ่ดแบบร้อยกรอง ข. ละครพ่ดสลับ
ลำา
ค.ละครร้องแบบพระมงกุฎ ง.ละครร้องแบบ
ปรีดาลัย
84.ตัวตลก หรือ ตัวจำาอวด เรียกอีกอยูางหนึ่ งวูาอะไร
ก.ตัวประกอบชาย ข.ตัวผ้่ชูวยพระเอก ค.ตัวตลก
บริโภค ง.ตัวตลกตามพระ

85.สมัยรัตนโกสินทร์ ยุคที่จัดวูารูุงโรจน์ของละครตรงกับรัช
การเทูาใด
ก.รัชการที่ 1 ข.รัชการที่ 2 ค.รัชการ
ที่ 3 ง.รัชการที่ 4

86.บทละครเรื่อง สังข์ทอง ไชยเชษฐ์ มณี พิไชย ไกรทองและ


คาวี เป็ นพระราชนิ พนธ์ของรัชการใด
ก.รัชการที่ 1 ข.รัชการที่ 2 ค.รัชการ
ที่ 3 ง.รัชการที่ 4

87.ละครร้องหมดความนิ ยม เพราะมีหน้ าฝรัง่ เจ้ามาจนต้องยุบ


กรมมหรสพ ตรงกับสมัยรัชการใด
ก.รัชการที่ 7 ข.รัชการที่ 6 ค.รัชการที่
5 ง.รัชการที่ 4

88.สมัยรัตนโกสินทร์ ได้นำาละครชาตรีมาจากนครราชศรี
ธรรมราช ซึ้งชาวเมืองนครเรียกวูาอยูางไร
ก.ละครชาตรี ข.ละครดึกดำาบรรพ์ ค.ละครชาวใต้
ง.ละครโนรา

89.เสากลางโรงละครชาตรี 1 เสา นั ้นมีช่ ือวูาอยูางไร


ก.เสาเอก ข.เสามหาชัย ค.เสาคร่ละคร
ง.ไมูมีช่ ือเรียกเฉพาะ

90.เสากลางโรงละคร 1 เ สานั ้นมีความสำาคัญอยูางไร


ก.ให้ผ้่ชมทราบวูาเป็ นการแสดงละครชาตรี
ข.หมายถึง คร่ของการละคร
ค.หมายถึง ความสุข ความเจริญของละคร
ง.หมายถึง แทนองค์พระวิษณุกรรมที่มาค้ม
ุ ครองผู้
แสดง

91.การแตูงกายของละครชาตรี ตัวตลกจะต้องมีและต้องใช้ทุก
ครัง้ ที่แสดง คืออะไร
ก.ผ้าโพกหัว ข.ผ้าขาวม้า ค.หน้ ากาก ง.หมวก
แดง

92.พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแสดงละคร
รูวมกับข้าราชบริพารในละครข้อใด
ก.ละครพ่ดแบบร้อยกรอง ข.ละครพ่ด
แบบร้อยแก้ว
ค.ละครพูดสลับลำา ง.ละครร้อง
แบบพระมงกุฎ

93.ละครพ่ดสลับลำา เรื่องที่ใช้แสดงได้แกูเรื่องในข้อใด
ก.พระรูวง ข.ปล่อยแก่ ชิงนาง ค.มัทนะพาธา ง.สี่
นาฬิกา

94.ละครสังคีต ใช้ช่ ือแสดงในข้อใด


ก.พระรูวง ข.ปลูอยแกู
ชิงนาง
ค.หนามยอกหนามบ่ง วิวาหพระสมุทร ง.สี่นาฬิกา
มัทนะพาธา

95. ละครสังคีต ใช้ดนตรีในข้อใดบรรเลง


ก. วงปี่ พาทย์ไม้นวม ข. วงปี่ พาทย์ไม้แข็ง
ค. วงปี่ พาทย์ดึกดำาบรรพ์ ง. วงมโหรีย์เครื่องใหญู

96. ละครพ่ด ตอนแรกมีช่ ือวูาอยูางไร


ก. ละครทวีปัญญา ข. ละคร
ศรีอยุธยา
ค. ละครใน ง. ละครพันทาง
97. ละครพ่ด ตูอมาได้เปลี่ยนชื่อ เรียกตามนามปากกาของ
รัชกาลที่ 6 วูาอยูางไร
ก. ละครทวีปัญญา ข. ละคร
ศรีอยุธยา
ค. ละครใน ง. ละครพันทาง

98. ในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ยกทัพไปปราบปรามเมือง
นครได้นำาละครชนิ ดใดมาเลูนในกรุงเทพฯ
ก. ละครร้อง ข. ละครพ่ด ค. ละครนอก ง. ละคร
ชาตรี

99. ละครร้องที่ในขณะร้องใช้ซออ้่คลอเบาๆ เรียกวูา “ร้อง


คลอ” บางโอกาสใช้มโหรี ในสมัยตูอมาใช้วงปี่ พาย์ไม้นวม
คลอ ได้แกูละครแบบใด
ก. ละครหลวงนฤมิตร ข. ละครร้องลับการพ่ด
ค. ละครร้องแบบปรีดาลัย ง. ละครร้องแบบพระมงกุฎฯ

100. ละครพ่ด มีลักษณะพิเศษทางการแสดงอยูางไร


ก. ตัวละครพ่ดแทนคำาบรรยายตลอดเรื่อง
ข. ตัวละครพ่ดสลับคำาบรรยายตลอดเรื่อง
ค. ตัวละครนึ กคิดอะไรอยู่ในใจ จะพูด สมมติว่าไม่มีใคร
ได้ยิน
ง. ตัวละครนึ กคิดอะไรอยู่ในใจ จะแสดงที่สีหน้ า และ
ทูาทางประกอบ

You might also like