Download as pptx, pdf, or txt
Download as pptx, pdf, or txt
You are on page 1of 12

โครงงาน

เร่ื อง แก่งหิ นงามสามพันโบก


จัดทำโดย
น.ส. ชลธิดา ผสม
พื ช
ม.6/1 เลขที
่ ่ 17
อาจารยทีปรึกษา

อ. คเชนทร์ กองพิ ลา
โรงเรียนฝางวิทยายน
แกรนด์ แคนยอนเมืองสยาม คือแก่งหินงามสามพันโบก
(จ.อุบลราชธานี)

                นายเรืองประทิน  เขียวสด  ครู โรงเรียนบ้ านสองคอน  ซึ่งเป็ นในผู้ส่งเสริมการท่ องเทีย่ วใน


บริเวณดังกล่ าว  ระบุว่า  สามพันโบก  ถือว่ าเป็ นแหล่ งเพาะพันธุ์ปลาตามธรรมชาติทใี่ หญ่ ทสี่ ุ ดใน
ลำน้ำโขงเท่ าทีท่ ราบกันมา  ซึ่งในบริเวณเดียวกัน  มีสถานทีท่ ชี่ าวบ้ านเรียกว่ า  แกรนแคนยอนน้ำ
โขง  อันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำหลายพันปี   เป็ นร่ องน้ำขนาดใหญ่   สู งประมาณ  3-7  เมตร  กว้ าง
ประมาณ  20  เมตร  
                แก่ งหินสามพันโบก เป็ นกลุ่มหินทรายแนวเทือกเขาภูพานตอนปลายทีท
่ อดตัวยาวริมฝั่ง
โขงไทยและลาว  สายน้ำแคบและเป็ นคุ้งน้ำ  ณ เส้ นรุ้งที่ N.15 องศา 47.472 ลิปดา และเส้ นแวงที่
E.105 องศา  23.983 ลิปดา ริมฝั่งโขงบริเวณนีเ้ ป็ นกลุ่มหินทีเ่ รียงตัวทอดยาว เป็ นสั นดอนขนาด
ใหญ่ พนื้ ทีก่ ว่ า 30 ตารางกิโลเมตร ผาหินบริเวณโค้ งด้ านหน้ ารับแรงน้ำทีไ่ หลจากตอนบน  ก่ อเกิด
ประติมากรรมธรรมชาติทงี่ ดงาม 
                จุ ดเด่นที่ น่า
สนใจ
คือ โบก อันเกิดจากกระแสน้ำได้ พดั พาก้ อนกรวด หิน  ทราย  และเศษไม้   กัดเซาะขัดแผ่ น
หินทรายให้ เกิดเป็ นหลุมแอ่ ง  มีขนาดเล็กๆจนถึงขนาดใหญ่ จำนวนมากมาย หินบางก้ อนถูก
กัดกร่ อนคล้ ายงานแกะสลักเป็ นรู ปสั ตว์ รู ปหัวใจ รู ปมิกกีเ้ มาส์ จากโบกจำนวนมากมาย   จน
สถานทีแ่ ห่ งนีถ้ ูกขนานนามว่ า  สามพันโบก 

                แก่ งสามพันโบก  เป็ นแก่ งหินทีอ


่ ยู่ใต้ ลำน้ำโขงในช่ วงฤดูน้ำหลาก  ประมาณเดือนกรกฏา
คม – เดือนตุลาคม  และโผล่ พ้นน้ำอวดความงามให้ นักท่ องเทีย่ วมาเยีย่ มชมได้   ตั้งแต่ เดือน
พฤศจิกายน – มิถุนายน ทุกปี
เปิ ดตำนานสามพันโบก
จากประติมากรรมหินทรายทีม่ ีรูปร่ างงดงามแปลกตา ก่ อเกิดตำนานเรื่องเล่ าตำนาน
พญานาคชุดแม่ น้ำโขง  ทุ่งหินเหลือ่ ม  หินหัวสุ นัข  และปู่ จกปู

                ตำนานหินหัวสุ นัข   


ทางเข้ าของแกรนด์ แคนยอนแม่ น้ำโขง  มีหินสวยงามลักษณะคล้ ายหัวสุ นัข  ซึ่งมี
ตำนานเล่ าขานกันต่ างๆ นานา  บ้ างก็ว่า แต่ ก่อนมีเจ้ าเมืองเป็ นผู้เรืองอำนาจประทับใจความ
งามของสามพันโบก  จึงได้ ส่งเสนามาศึกษาเพิม่ เติม  เมื่อมาแล้ วพบขุมทรัพย์ เป็ นทองคำ  จึง
ให้ สุนัข เฝ้ าทางเข้ าจนกว่ าเจ้ าเมืองจะออกมา  เมื่อเจ้ าเมืองได้ เห็นสมบัติเกิดความโลภ  กลัว
เสนาจะได้ ส่วนแบ่ งจึงได้ ออกไปทางอืน่   สุ นัขผู้ภักดีกเ็ ฝ้ ารออยู่ตรงนั้นจนตายในทีส่ ุ ด  บาง
ตำนานก็ว่าลูกพญานาคในลำน้ำโขงเป็ นผู้ขุดเพือ่ ให้ เกิดลำน้ำอีกสายหนึ่งและได้ มอบหมายให้
สุ นัขเป็ นผู้เฝ้ าทางระหว่ างการขุดจนกระทัง่ สุ นัขได้ ตายลงกลายเป็ นหินรู ปสุ นัขในทีส่ ุ ด
                ตำนานหาดหินสี   หรือทุ่งหินเหลือ่ ม 

ทุ่งหินเหลือ่ มอยู่ในพืน้ ทีบ่ ้ านคำจ้ าว  ตำบลเหล่ างาม  อำเภอโพธิ์ไทร  เป็ นกลุ่มหินสี ทมี่ ี
ลักษณะแปลกตา  คือหินแต่ ละก้ อน  จะมีผวิ เรียบเป็ นมันประกอบด้ วยสี เหลือง เขียว ม่ วง
น้ำเงิน  มีขนาดตั้งแต่ ก้อนเล็กเท่ ากำปั้นและก้ อนใหญ่ สุดมีขนาดใหญ่ กว่ า 3 เมตร  กระจาย
เป็ นกลุ่ม 3 กลุ่มใหญ่   หินแต่ ละก้ อนถ้ านำมาเรียงต่ อกันจะเชื่อมกันได้ สนิทคล้ ายจิ๊กซอว์ หินสี  
จากตำนานชาวบ้ านทีเ่ ล่ าขานต่ อกันว่ ากลุ่มหินสี ดงั กล่ าวคือทองคำพญานาค  ซึ่งเกิดจากการ
ขุดสร้ างแม่ น้ำโขงของพญานาคตัวพ่อและตัวแม่   ส่ วนร่ องน้ำเล็กทีค่ ู่ขนานกับแม่ น้ำโขงเป็ นผล
งานของลูกพญานาคทีข่ ุดเล่ น  จนเกือบทะลุกบั แม่ น้ำโขง  ลูกพญานาคพบหินเหมือนทองคำ 
จึงขุดขึน้ กองไว้ เป็ นบริเวณกว้ างประมาณ 2 ไร่

ทุ่งหินเหลือ่ ม  ยังไม่ มีหน่ วยงานใดเข้ ามาศึกษาอย่ างเป็ นทางการ  จึงมีคำถามทีร่ อคำ


ตอบมากมาย  ว่ าหินกลุ่มนีม้ ากจากไหน หรือเกิดขึน้ อย่ างไร  และคำตอบจากนักท่ องเทีย่ วทุก
คนคือ  ความมหัศจรรย์ ของธรรมชาตินั่นเอง
ตำนานปู่ จกปู 

หลุมโบกทีเ่ กิดขึน้ มากมาย  ก่ อเกิดเรื่องเล่ า  ปู่ พาหลานมาจับปลาบริเวณกว้ าง ต้ อน  (ต้ อนเป็ น


เครื่องมือดักปลาของคนอีสาน)  บังเอิญไม่ สามารถจับปลาได้ จึงใช้ มือล้ วงปูหินริมน้ำโขงจนเกิด
โบกจำนวนมาก

สามพันโบกในอดีต   เป็ นแหล่ งทีช่ าวบ้ านมาจับปลาในหน้ าแล้ งตามหลุมแอ่ ง  โบก และสระ
บุ่ง  เนื่องจากลุ่มแอ่ งจำนวนมากมายเหล่ านีเ้ ป็ นแหล่ งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดจำนวนมากทีช่ าว
บ้ านในพืน้ ทีใ่ กล้ เคียงใช้ สำหรับการดำรงชีพ
สามพันโบกเริ่มเป็ นทีร่ ู้ จัก  และปรากฏสู่ สายตานักท่ องเทีย่ ว  เมื่อนายเรืองประทิน  เขียวสด  
ครู โรงเรียนบ้ านสองคอน  ผู้บุกเบิกได้ พบความงามของสามพันโบก  จึงได้ ชวน  นายสมชาติ  เบญจ
ถาวรอนันท์   เว็บมาสเตอร์ ไกด์ อุบลดอทคอม  นายชาย  บุดดีวนั   ผู้ใหญ่ บ้านโป่ งเป้ าและ อบต.เหล่ า
งาม  จัดกิจกรรม  แคมปิ้ ง  เพือ่ การประชาสั มพันธ์   ผ่ านสื่ อเว็บไซต์   ชุดกิจกรรมนอนกลางโขงชม
ทะเลดาว  เมื่อเดือน 15-16 ธันวาคม 2549  ได้ รับความสนใจจากกลุ่มคนชอบท่ องเทีย่ วทาง
ธรรมชาติ  และการท่ องเทีย่ วแห่ งประเทศไทย  สำนักงานอุบลราชธานี  เขต 2 (ปัจจุบันเป็ น
ททท.สำนักงานอุบลราชธานี)  ได้ นำแหล่ งท่ องเทีย่ วนี ้ เข้ าในกิจกรรมท่ องเทีย่ วแม่ น้ำโขงรับตะวัน
ใหม่ ก่อนใครในสยามมาตลอด

สามพันโบกได้ รับความสนใจอย่ างมากเมื่อโฆษณาของ ททท. ชุด เทีย่ วไทยครึกครื้นเศรษฐกิจ


ไทยคึกคัก  เริ่มออกฉายภาพ  สถานทีท่ ่ องเทีย่ วซึงเป็ นฉากจบของโฆษณาชุดนีจ้ ึงกลายเป็ นคำถาม
ว่ า  ทีไ่ หนกัน  เมืองไทยมีทแี่ ห่ งนีด้ ้ วยหรือ นับตั้งแต่ น้ันมา  แก่ งสามพันโบก  จึงกลายเป็ นสถานที่
ท่ องเทีย่ วแห่ งใหม่   ทีกำ
่ ลังเป็ นทีร่ ู้ จักและได้ รับความนิยมจากนักท่ องเทีย่ วติดอันดับประดับ
ประเทศ
การเทีย่ วสามพันโบก 
                การเดินทางไปเทีย่ วชมสามพันโบก อยู่ห่างจากจังหวัดอุบลราชธานีประมาณ 120
กม. ตามทางหลวงอุบล - ตระการ - โพธิ์ไทร  ทำได้ 2 ทางคือ

1. เดินทางท่ องเทีย่ วทางเรือ   ไปยังแก่ งสามพันโบก  นิยมนั่งเรือจากหาดสลึงทีบ่ ้ านปากกะกลาง 


ต.สองคอน  ล่ องตามลำน้ำโขงระยะทาง 4 กิโลเมตร  ระกว่ างทางจะผ่ าน “ปากบ้ อง” จุดแคบทีส่ ุ ด
ของแม่ น้ำโขง  หาดสลึง หินหัวพะเนียง  เป็ นแก่ งหินกลางแม่ น้ำทีทำ่ ให้ แม่ น้ำโขงแยกออกเป็ นสอง
สาย  หรือสองคอนในภาษาท้ องถิน่   จึงเป็ นทีม่ าของชื่อบ้ านสองคอนและสามพันโบก  ศิลาเลข  หาด
หงส์ รายละเอียดเส้ นทางเทีย่ วทางเรือ

                ปากบ้ อง  เป็ นจุดชมวิวทีห


่ มู่บ้านสองคอน  ตำบลสองคอน  อำเภอโพธิ์ไทร  จังหวัด
อุบลราชธานี  เป็ นจุดทีแ่ ม่ น้ำโขงไหลพาดปะทะแนวเทือกเขาภูพานตอนปลาย การปะทะกันของพลัง
ธรรมชาติอนั ยิง่ ใหญ่   ก่ อให้ เกิดภูมิประเทศทีม่ หัศจรรย์ มากมาย  ซึ่งจะสั มผัสได้ ยามทีแ่ ม่ น้ำโขงลด
ระดับลงได้ ทใี่ นยามฤดูแล้ งราวเดือนพฤศจิกายน -  มิถุนายน  ตลอดระยะทางทีไ่ หลผ่ านประเทศไทย 
ยาวกว่ า 700 กิโลเมตร  เป็ นจุดทีแ่ ม่ น้ำโขง  แคบทีส่ ุ ด  “ปากบ้ อง” เป็ นหน้ าผาหินทีเ่ กิดจากรอยแยกตัว
ของแผ่ นหินทรายเปลือกโลก  ลักษณะเหมือนคอขวด  ส่ วนทีแ่ คบทีส่ ุ ดวัดได้ 56 เมตร
หินหัวพะเนียง  อยู่ในพืน้ ทีห่ มู่บ้านสองคอน  ตำบลสองคอน  อำเภอโพธิ์ไทย จังหวัดอุบลราชธานี 
ลักษณะทางภูมิศาสตร์   เป็ น เกาะหินขนาดใหญ่ กลางแม่ น้ำโขงรู ปร่ างคล้ ายอุปกรณ์ ประกอบคันไถ 
อยู่ถดั จากบริเวณปากบ้ องขึน้ ไปทางเหนือประมาณ 500 เมตร  เกาะหินใหญ่ โผล่ ขวางกลางลำน้ำ
โขง  หินหัวพะเนียง  มีรูปร่ างคล้ ายใบไถไม้ (ในภาษาถิน่ พะเนียงคือแท่ นไม้ ทใี่ ช้ สวมใบไถเหล็ก) 
ชาวบ้ านจึงเรียกว่ า  หินหัวพะเนียง  แต่ ลกั ษณะหินในบริเวณนีบ้ างกลุ่มจะเป็ นช่ อแหลมคม  ซึ่งเกิด
จากการปะทุขนึ้ มาของหินทรายร้ อนคล้ ายหินภูเขาไฟ  แต่ ไม่ ใช่ แมกมาหรือลาวา  เมื่อปะทุขนึ้ มา
ปะทะกับกระแสน้ำเย็นจึงแข็งตัวกลายเป็ นหินทีม่ ีลกั ษณะเป็ นช่ อเรียกว่ า “หินหัวพะเนียง” เป็ น
เกาะกลางแก่ งหินกลางแม่ น้ำทีทำ ่ ให้ แม่ น้ำโขงแยกออกเป็ นสองสาย

แก่ งสองคอน   เกิดจากการเกาะหินหัวพะเนียงกลางลำน้ำโขงซึ่งเป็ นเกาะหินขนาดใหญ่ รูป


ลักษณ์ แปลกตาทีข่ นาบข้ างด้ วย 2 แก่ งน้ำโขง  ทำให้ แม่ น้ำโขงแยกออกเป็ นสองสายหรือสอง
คอน (ในภาษาถิน่ คอนแปลว่ าแก่ ง) จึงเป็ นทีม่ าของชื่อ บ้ านสองคอน
                หาดสลึง  เป็ นหาดทรายริมฝั่งแม่ น้ำมูล  ตั้งอยู่บ้านสองคอน  ตำบลสองคอน  อำเภอ
โพธิ์ไทร  ห่ างจากตัวจังหวัดประมาณ 115 กิโลเมตร  ตามทางหลวงหมายเลข 2050 (อุบลฯ –
ตระการพืชผล – โพธิ์ไทร)  ในฤดูแล้ ง  ประมาณมกราคม – มิถุนายน เมื่อน้ำในแม่ น้ำโขงลด
ระดับลง  จะมีหาดทรายทีส่ วยงาม  เหมาะแก่ การพักผ่ อนหย่ อนใจเป็ นอย่ างยิง่   จากตำนาน
เชื่อกันว่ า  ชื่อหาดสลึง  เกิดจากการทีค่ นมาเล่ นน้ำช่ วงสงกรานต์ นานมาแล้ ว  ในสมัยทีใ่ ช้
เหรียญสลึง 1 สลึงสมัยนั้น  มีค่าสามารถซื้อควายได้ 1 ตัว  ตามนิสัยของคนไทยบางคนเมื่อ
มารวมกันมาก  มักจะมีการพนันเข้ ามาเกีย่ วข้ องอยู่เสมอ  ผู้ทมี่ าเล่ นน้ำทีห่ าดแห่ งนีไ้ ด้ ต้ังคำ
ท้ าทายความสามารถโดยมีเดิมพันว่ า  ณ  กลางเดือนเมษายน เวลาเทีย่ งวันถ้ าใครสามารถเดิน
หรือวิง่ บนหาดได้ ตลอดแนว (ยาว 860 เมตร) โดยไม่ แวะพักระหว่ างวิง่   จะได้ รับเงินเดิมพัน
1 สลึง  นับตั้งแต่ มีการเดิมพันมาไม่ เคยมีใครได้ รับรางวัลนีเ้ ลย  ชาวบ้ านจึงขนานนามหาด
แห่ งนีว้ ่ า “หาดสลึง”
                ผาหินศิลาเลข   ร่ องรอยประวัติศาสตร์ สมัยฝรั่งเศสเรืองอำนาจ ในแถบอินโด
จีน  ฝรั่งเศสได้ นำเรือกลจักรไอน้ำขนส่ งสิ นค้ าระหว่ าง หลีผ่  ี เวียงจันทน์ อยู่ก่อนถึง
หาดหงส์   ทีฝ่ รั่งเศสแกะสลักตัวเลขทีห่ น้ าผาหิน  สำหรับบอกระดับน้ำในแม่ น้ำโขง 
เพือ่ ความปลอดภัยในการเดินเรือ  เนื่องจากหน้ าทีน่ ้ำหลากบริเวณนีจ้ ะมีแนวหิน
โสโครกจำนวนมาก

                หาดหงส์ เนินทรายแม่ น้ำโขงขนาดมหึมาเกิดจากการพัดพาของน้ำและนำตะกอน


ทรายมาทับถมกันจนลักษณะพืน้ ทีเ่ ป็ นพืน้ ทรายกว้ างใหญ่   มีลกั ษณะคล้ ายกับทะเลทราย
ทีก่ ว้ างใหญ่   ช่ วงเวลาทีน่ ิยมมาเทีย่ วหาดหงส์ จะเป็ นช่ วงเวลาในยามบ่ ายแก่ ๆ  ช่ วงที่
พระอาทิตย์ ใกล้ ลบั ขอบฟ้ า  ซึ่งจะเป็ นช่ วงเวลาทีส่ วยงามมาก  เพราะแสงทองของดวง
อาทิตย์ จะกระทบกับทรายสี ขาวระยิบระยับสวยงามยิง่ นัก
2. ขับรถเทีย่ ว  คือ หากต้ องการไปชมสามพันโบกอย่ างเดียวก็สามารถขับรถไปทีน่ ั่นเพือ่ ชม
ความงามได้ เลย  เพราะทีส่ ามพันโบกรถสามารถเข้ าไปจอดทีน่ ั่นได้ เลย
         
สามพันโบก เป็ นแก่ งหินทีอ่ ยู่ใต้ ลำน้ำโขง เนื่องจากในช่ วงฤดูน้ำหลากแก่ งหินดังกล่ าว
จะจมอยู่ใต้ บาดาล  และด้ วยแรงน้ำวนกัดเซาะ  ทำให้ แก่ งหินกลายเป็ นแอ่ งเล็ก  ใหญ่  จำนวน
มากกว่ า 3,000  แอ่ ง หรือ  3 พันโบก  โบก หรือแอ่ ง หมายถึง บ่ อน้ำลึกในแก่ งหินใต้ ลำน้ำ
โขง  และคำว่ า “โบก” เป็ นภาษาของลาวทีม่ ักนิยมเรียกกัน และ สามพันโบก  กลายเป็ นที่
เพาะพันธุ์สัตว์ น้ำจืด ในลำน้ำโขงตามธรรมชาติ   แหล่ งใหญ่ ทสี่ ุ ด  รักษาระบบนิเวศน์ และ
การขยายพันธุ์ของสั ตว์ น้ำในลำน้ำโขง ให้ อยุ่ได้ อย่ างสมดุล

สำหรับในช่ วงหน้ าแล้ ง  สามพันโบก  จะโผล่ พ้นน้ำให้ เห็นเป็ นคล้ ายภูเขากลางลำน้ำ


โขง  ความสวยงามวิจิตรของหินทีถ่ ูกน้ำเซาะมองเห็นเป็ นภาพศิลปะ  บางแห่ งใหญ่ ขนาด
เป็ นสระว่ ายน้ำ  บางแอ่ งขนาดเล็ก  มีรูปร่ างลักษณะทีแ่ ตกต่ างกันออกไปเช่ น  รู ป
ดาว  วงรี  และหินทีถ่ ูกน้ำกัดเซาะจนดูคล้ ายรู ปหัวสุ นัขพุดเดิล้   มีความสวยงาม

You might also like