Professional Documents
Culture Documents
Respiratory Tract Problem
Respiratory Tract Problem
การพยาบาลทารกและเด็กป่ วย ระบบทางหายใจ
ระบบทางเดินหายใจและครอบครัว ¾ ระบบทางเดินหายใจส่ วนบน (upper respiratory tract) tract)
เป็ นระบบทางเดินหายใจส่ วนบนเหนือระดับกล่องเสี ยงขึ้นมา ตั้งแต่
จมูกถึงกล่องเสี ยง
ความแตกต่ างของระบบทางเดินหายใจในเด็ก
¾ ลิ้นของเด็กมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับขากรรไกรล่าง
¾ กล่องเสี ยง (Larynx)ในเด็กอยูค่ ่อนมาทางข้างหน้า กระดูกอ่อนยัง
เจริ ญไม่ดี
¾ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของทางเดินหายใจมีขนาดเล็ก
¾ จํานวนถุงลมมีนอ้ ย
¾ ขนาดทรวงอก และกล้ามเนื้อกระบังลม
¾ ความต้องการออกซิ เจน เด็กจะมีเมตาบอลิซึมสู งกว่าผูใ้ หญ่ถึง 2 เท่า
กลไกการหายใจ ร่ างกายนําออกซิเจนไปใช้ได้อย่างไร
¾ 1. การหายใจเข้า (Inspiration ) กล้ามเนื้อกระบังลม และ ¾ การนําอากาศผ่านท่อทางเดินหายใจ (ventilation
ventilation))
กล้ามเนื้อระหว่างช่องกระดูกซี่ โครงชั้นนอก หดตัว
¾ การดูดซึ มออกซิ เจนสู่ ร่างกาย(
งกาย( diffusion))
diffusion
¾ 2. การหายใจออก
ใ E i ti ) การคลายตัวั ของกล้า้ มเนื้ือกระบังั
(Expiration
ลม และกล้ามเนื้อระหว่างซี่ โครงด้านนอก
¾ การดูดซึ มออกซิ เจนเข้าสู่ เส้นเลือด (perfusion
perfusion))
1
1/22/2009
หลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
ต่ อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis)
¾ ไวรั ส
การรักษา ¾ Streptococcus pneumonia
¾ ตามอาการ โดยให้ ยาปฏิชีวนะ ยาลดไข้ ยาแก้ ปวด Staphylococcus aureus
H. influenza
¾ ผ่ าตัดต่ อมทอนซิล ในกรณีที่เป็ นเรื้อรั งมากกว่ า 4 ครั้ งต่ อปี
¾ พยาธิิสภาพ หลอดลมมีกี ารอักั เสบ บวม
เซลที่สร้ างมูกมีขนาดใหญ่ เพิม่ จํานวนขึน้
ทําให้ มกี ารสร้ างมูกเพิม่ มากขึน้
ทําให้ อุดกั้นทางเดินหายใจ
2
1/22/2009
z อาจมีอาการหายใจลําบากหน้าอกบุ๋ม(Suprasternal retraction)
3
1/22/2009
ษาตามอาการ
¾ การรั กษาตามอาการ ¾ ภาวะแทรกซ้ อน
z โดยให้ออกซิ เจนในรายที่หายใจลําบาก z การอักเสบของหูช้ันกลาง
z ให้ยาลดการบวมของทางเดินหายใจ z ปอดอักเสบ
z (adrenaline) (corticosteriod)
z ให้ยาปฏิชีวนะ
z ให้ความชื้นให้เพียงพอในรายที่ดื่มนํ้าไม่ได้
z อาจต้องให้สารนํ้ าทางหลอดเลือดดํา
4
1/22/2009
พยาธิสภาพ
หอบหืด (Asthma)
ความผิดปกติที่มกี ารอักเสบเรื้อรังของทางเดินหายใจ ¾ ภาวะหลอดลมหดตัว (acute broncho constriction
ซึ่งเกิดจากเซลล์ และสารที่เกีย่ วข้ องหลายชนิด ¾ การบวมของผนังหลอดลม (swelling of the airway wall)
เป็ นผลทําให้ เกิดภาวะหลอดลมไวเกิน ¾ การสร้างเสมหะมากขึ้นในหลอดลม (chronic mucous plug
(hyperresponsiveness)
h i ) formation)
¾ airway wall remodeling (fibrosis)
มีการบีบเกร็งของหลอดลม (bronchospasm)
ทําให้ ทางเดินหายใจตีบแคบ
ก่ อให้ เกิดภาวะอุดกั้นทางเดินหมายใจ
ปั จจัยเสี่ ยงในการเกิดโรค
¾ ปั จจัยภายในตัวผูป
้ ่ วยเอง
¾ ปั จจัยด้านสิ่ งแวดล้อม
z สารก่อภูมิแพ้ในบ้าน
z สารก่อภููมิแพ้นอกบ้าน เช่น ละอองเกสร เชื้อรา
z มลพิษทางอากาศ
z ควันบุหรี่
z การติดเชื้อในทางเดินหายใจ
z ขนาดครอบครัว และความแออัดของที่อยูอ่ าศัย
5
1/22/2009
อาการ
การวินิจฉัย
¾ หายใจมีเสี ยงวี้ด
(wheeze)
¾ หายใจไม่สะดวก (breathlessness) ¾ การวินิจฉัยได้จากข้อมูลประวัติ
อาการทางคลินิก การตรวจร่ างกาย
¾ แน่ นหน้าอก (chest tightness) และ/หรื อ การทดสอบสมรรถภาพปอดที่เข้าได้กบั
และ/
¾ อาการไอ โ
โรคหอบหื ืด
การรักษา
PEF or FEV1
ระดับความรุนแรง อาการชวงกลางวัน อาการชวงกลางคืน PEF variability
ไอกรน((Pertussis)
ไอกรน ไอกรน((Pertussis)
ไอกรน
¾ การติดเชื้อแบคทีเรี ย bordetella pertussis อาการและอาการแสดง
¾ ระยะติดต่อคือระยะ 3 สัปดาห์แรกที่เป็ นโรคนี้ มีระยะฟั กตัว
7-10 วัน ¾ catarrhal stage 1-2 สัปดาห์ มีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ
¾ จะสร้างท็อกชิ นไปเกาะติดที่ cillated epitheliumของทางเดินหายใจ ส่ วนบนที่ไม่รุนแรง
¾ ทําให้เกิดการอักเสบและการตายของเยือ่ บุ epithelium ¾ spasmodic cough 2-4สัปดาห์์ ไอมากๆเป็็ นชุดจนอาเจียน หลัง
ที่ small bronchi ทําให้เกิด bronchopneumonia ไอมีเสี ยงหายใจเข้ายาวๆดังวูป๊ (woop cough)
และการคัง่ ของสารคัดหลัง่ ทําให้เกิด bronchiolar obstruction ปอด ¾ convalescent stage นาน 1-2 สัปดาห์
แฟบ
6
1/22/2009
ไอกรน((Pertussis)
ไอกรน คอตีบ(Diphtheria)
¾ ภาวะแทรกซ้ อน ¾ เชื้ อ corynebacterium diphtheria ระยะฟักตัว 1-6 วัน
ปอดอักเสบ emphysema pneumothorax ¾ พยาธิสภาพ
otitis media z เชื ้อจะปล่ อยท็อกซิ นออกมาทําลาย การตายของ epithelial cell
¾ การรั
การรกษา
กษา z ไฟบริ
ไฟบรนน นํนาเหลองเขามาในบรเวณน
้ าเหลืองเข้ามาในบริ เวณนี้ และเกิ
และเกดเปนแผนเยอสขาวปนเทา
ดเป็ นแผ่นเยือ่ สี ขาวปนเทา เรีเรยก
ยก patch
เกาะที่บริ เวณต่อมทอนซิล หลอด กล่องเสี ยง
z ให้ erythromycin 50 มก มก././กก
กก././วัวัน นาน 14 วัน
z ถ้ามีจาํ นวนมากอาจอุดกั้นทางเดิ นหายใจ
z แยกเด็ก 5 วัน เพือ
่ ป้องกันการแพร่ กระจายเชื้อ
z ท็อกซิ นเข้ากระแสเลือดและระบบนํ้าเหลืองและกระจายไปทัว ่ ร่ างกาย
z รั กษาตามอาการ โดยเฉพาะหลีกเลีย ่ งการไอ การกําจัดเสมหะ
z ทําให้เกิดการทําลายเนื้ อเยื่อและอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะกล้ามเนื้ อหัวใจ
การให้ ออกซิเจน เส้นประสาท ทําให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
คอตีบ(Diphtheria) คอตีบ(Diphtheria)
อาการและอาการแสดง ¾ การวินิจฉัย ขูดแผ่นไปย้อมสี พบรู ปร่ างเหมือนตัวหนังสื อจีนติดสี น้ าํ เงิน
¾ จะมีอาการเป็ นหวัดและไอ ประมาณ 2-3วัน - Acute streptococcal pharyngotonsillitis
¾ พิษจากท๊อกซิ น:ไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อย ปวดศีรษะ
มีแผ่นสี ขาวที่เขี่ยหลุดง่าย
- Infectious mononucleosis
¾ หายใจลําบาก หายใจเสี ยงดัง
แผ่นเยือ่ สี ขาวคล้ายนม ลอกออกง่ายมักอยูบ่ นทอนซิ ล
¾ คอตีบบริ เวณจมูก (nasal diphtheria)
diphtheria)
¾ ภาวะแทรกซ้ อน ทางเดินหายใจอุดตัน
¾ คอตีบบริ เวณคอหอยหรื อต่อมทอนซิ ล: bull neck
กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
¾ คอตีบบริ เวณกล่องเสี ยง (laryngeal diphtheria)
diphtheria) ประสาทอักเสบ(
เสบ(neuritis
neuritis))
คอตีบ(Diphtheria) การพยาบาล
¾ การรักษา ¾ ตรวจวัด และบันทึกสั ญญาณชีพ
- aqueous procain penicillin G เข้ ากล้ ามเนือ้ ในขนาด ¾ ประเมินภาวะพร่ องออกซิเจน
300,,000 ยูนิตวันละครั้งในเด็กนํา้ หนักน้ อยกว่ า 10 กก
300 กก.. ¾ ประเมินเสี ยงลมหายใจเข้าออกจากปอด
¾ การดแลทางเดิ
การดูแลทางเดนหายใจ
นหายใจ
6000,,000 ยูนิตในเด็กนํ้าหนักมากกว่ า 10 กก
6000 กก..
¾ การดูแลให้ได้รับออกซิ เจนตามแผนการรักษา
antitoxin:DAT)ถ้ ามีอาการ
- แอนตีท้ ๊ อกซิ น(diphtheria antitoxin:DAT)
¾ ดูแลลดการใช้ออกซิ เจนของผูป้ ่ วย
¾ ส่ งเสริ มการได้รับออกซิ เจนของผูป้ ่ วย
¾ ดูแลให้ได้รับอาหารอย่างเพียงพอ
7
1/22/2009
8
1/22/2009
¾ Peak inspiratory pressure(PIP) คือค่าสู งสุ ดของ ¾ ค่าความเข้มข้นของออกซิ เจนในก๊าซที่ให้กบั ผูป้ ่ วย (FiO
(FiO22)
แรงดันอากาศในช่วงหายใจเข้า ¾ control หมายถึง การที่เครื่ องควบคุมตัวแปรนั้นๆให้คงที่ระยะ
¾ Positive end expiratory pressure (PEEP) หายใจเข้า เช่น pressure control, volume control
คือค่าความดันตํ่าสุ ดในช่วงหายใจออก ปกติจะปรับไว้ 2-3 ซม ซม..นํ้า ¾ cycle คือ การสิ้ นสุ ดการหายใจเข้าเมื่อถึงค่าที่กาํ หนดไว้ เช่น
¾ Mean airway pressure (MAP) คือค่าเฉลี่ยของ time cycle, pressure cycle , flow cycle
ความดันในระบบหายใจทั้ งช่วงเข้า้ และช่วงออก
¾ ค่าความเข้มข้นของออกซิ เจนในก๊าซที่ให้กบั ผูป้ ่ วย (FiO
(FiO22)
9
1/22/2009
ที่ใช้บ่อยๆได้แก่ ที่ใช้บ่อยๆได้แก่
¾ Controlled mechanical ventilation (CMV) ¾ Synchronize intermittent mandatory ventilation
เครื่ องช่วยหายใจทําหน้าที่การหายใจทั้งหมด :pressure (SIMV) เป็ น IMV ที่ถูกปรับให้ตรงกับจังหวะที่ผปู้ ่ วยเริ่ มหายใจ ทําให้มี
control และ volume control โอกาสเกิดการต้านน้อยลง
¾ Assist control ventilation เครื่ องช่วยหายใจ ทํางานโดยการ ¾ Pressure support ventilation ( PSV) นิยมใช้ในการหย่า
กระตุน้ การหายใจของผูป้ ่ วย ถ้าผูป้ ่ วยหายใจน้อยกว่าที่ต้ งั ไว้เครื่ องจะ เครื่ องช่วยหายใจเพราะผูป้ ่ วยจะสุ ขสบายมากกว่าวิธีอื่น เนื่องจากผูป้ ่ วยสามารถ
ช่วยหายใจ กําหนดอัตราการหายใจ inspiratory time และ volume ได้ดว้ ย
¾ Intermittent mandatory ventilation (IMV IMV)) เครื่ องช่วย ตนเอง เพียงตั้ งระดับ pressure ให้เหมาะสม เมื่อผูป้ ่ วยหายใจเข้าเครื่ องจะดัน
อากาศเข้าปอดจนกระทัง่ ได้รับความดันเทากับที่ต้ งั ไว้ จากนั้นการไหลของก๊าซ
หายใจทํางานสลับกับจังหวะการหายใจของผูป้ ่ วย นิยมใช้ในการเตรี ยมผุ ้
ขึ้นอยุก่ บั แรงดันผูป้ ่ วยและแรงต้านภายในปอด หากการไหลเวียนของก๊าซลดลงถึง
ป่ วยหยุดใช้เครื่ องช่วยหายใจ
จุดที่กาํ หนดเครื่ องจะหยุดช่วยและปล่อยให้ผปู้ ่ วยหายใจเอง
10
1/22/2009
11