Professional Documents
Culture Documents
ข้อสอบสามัญเครื่องกล Main Group 2/2547
ข้อสอบสามัญเครื่องกล Main Group 2/2547
ข้อสอบสามัญเครื่องกล Main Group 2/2547
THERMODYNAMICS
ข้อ 1. (20 คะแนน)
1.1 หม้อต้มเปื่อยคือหม้อที่ฝาหม้อเป็นเกลียวขันให้แน่นได้ โดยทีฝ
่ าหม้อมีรูเล็กๆสำาหรับระบายความ
ดัน เพื่อควบคุมความดันให้คงที่ตามต้องการ ถ้าต้องการให้นำาในหม้อมีอุณหภูมิ 300°C ความดันที่
ควบคุมคือเท่าไร?
ตอบ จากตารางนำำาที่อุณหภูมิ 300°C ความดันอิ่มตัวคือ 8581 kPa นัน่ คือต้องควบคุมความดันไว้ที่
8581 kPa
•
W = –1x 19,900 = –19,900 kW
ประสิทธิภาพปั๊ม = 19,900/25,000 = 0.796=79.6%
ถ้าไม่มีการถ่ายเทความร้อนกำาลังจริงที่เพลาคือ
2
• •
W = – m (v∆P + C∆T) = – V ∆P– m C∆T
• •
ซึ่ง W• = –25,000 kW, V• ∆P=19,900 kW, C =4.186 kJ/kg.K, m• = 1/0.001002 =998 kg/s จะได้
–25,000 = –19,900–998x4.186∆T
∆T = 5,100/ (1000x4.186) =1.22oC
นำำาจะมีอุณหภูมิ = 20+1.22 =21.22 oC
2.3 H2O อุณหภูมิ 100 OC ความดัน 10,000 kPa ไหลเข้าหม้อนำำาในอัตรา 1 กิโลกรัม/วินาที ไหลออกที่
อุณหภูมิ 500 OC ความดัน 10,000 kPa จงหาอัตราความร้อนที่นำาได้รับ
3
FLUID MECHANICS
ข้อ 3. ชุดท่อดังแสดงไว้ในรูปนัำนที่ปลายด้านหนึ่งจะติดหัวฉีดและอีกข้างยึดติดกับหน้าแปลน ท่อดัง
กล่าวมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากับ 40 เซนติเมตร และหัวฉีดมีปลายออกมีขนาดเส้นผ่าน
ศูนย์กลางเท่ากับ 20 เซนติเมตร เปิดสู่บรรยากาศ นำำาไหลเข้าสู่ชุดท่อผ่านตำาแหน่งที่หน้าแปลน
มีความเร็วเท่ากับ 2 เมตร/วินาที และมีความดันเท่ากับ 100 กิโลปาสกาลเกจ ปริมาตรภายใน
ของชุดท่อและหัวฉีดมีคา่ เท่ากับ 0.15 ลูกบาศก์เมตร จงหาแรงที่ยึดชุดท่อและหัวฉีดให้อยู่กับที่
D = 0.4 เมตร
ต อ บ
กำาหนดให้ D1 0.4 เมตร D2 0.2 เมตร V1 2 เมตร/วินาที
p1 100 kPag p2 101.3 kPa 101.3 101.3 0 kPag
0.15 ลูกบาศก์เมตร
จงหา จงหาแรงที่ยึดชุดท่อและหัวฉีดให้อยู่กับที่
4
เฉลยข้อสอบกลุ่มวิชาบังคับ ครั้งที่ 2/2547
CV
Ry
Rx
y
v v v v v v v
สมการพืนำ ฐาน F FB FS V d V V dA
t cv cs
v v
t cv
d V dA = 0
cs
ข้อสมมุติฐาน 1. เป็นของไหลอัดไม่ได้
2. เป็นการไหลแบบคงตัว
3. คุณสมบัติของของไหลสมำ่าเสมอตลอดหน้าตัดของปริมาตรควบคุมที่ของไหล
ไหลผ่าน
4. ละทิำงแรงจากมวลในทิศ x, FB 0 x
2
A1 D1 0.42
V2 V1 V1 2 (2) 2 8 เมตร/วินาที
A2 D2 0.2
จากนัำนจึงพิจารณาแรงจากสมการโมเมนตัม
v v
ในทิศ x FS x u V dA
cs
103 8 0.2 103 2 0.4 0 100 103 0.4
2 2 2 2 2
4 4 4
15079.63 นิวตัน
v v
ในทิศ y FSy FBy V dA
cs
ตอบ
CV 2
CV 1
3 1 2
จงหา จงหาค่าการสูญเสียของนำำามันที่ไหลอยู่ในระบบท่อระหว่างสถานีส่งนำำามันสองสถานี
และจงหาค่ากำาลังงานที่ต้องใช้ในการส่งนำำามันจากสถานีหนึ่งไปยังอีกสถานีหนึ่ง
p1 V12 p2 V22
สมการพืนำ ฐาน 1 gz1 2 gz2 hl T
2 2
L V2 V2 L V2
hl T f , hl m K f e
D 2 2 D 2
Q W shaft W shear W other p V
2
r r
e d (u gz ) V d
dt dt dt dt t cv cs
2
2
เมื่อ e u V gz
2
สำาหรับปริมาตรควบคุมที่ 1 (CV 1)
ข้อสมมุติฐาน 1. เป็นการไหลแบบพัฒนาเต็มที่แล้ว
2
V2 V
2. 1 1 2 2 เนื่องจากท่อไม่ได้เปลี่ยนขนาด
2 2
3. ท่ออยู่ในแนวนอน z1 z2
4. ความหนืดมีค่าคงที่
5. เป็นการไหลแบบคงตัว
6. มีแต่การสูญเสียหลัก
L V2
ค่าการสูญเสียรวมเท่ากับ hl T f
D 2
2
A D (0.76) 2 0.454 m2
4 4
เนื่องจาก f f ReD , e D
VD VD 1.1 0.76
ReD 1.229 105
6.8 10 6
จากสมการพลังงานที่ใช้กับท่อระหว่างสองสถานี จะถูกลดรูปลงเหลือ
L V2
p1 p2 f
D 2
DYNAMICS
ข้อ 5. นักกระโดดร่มนายหนึ่งกระโดดร่มลงมาจากเครื่องบินที่บินอยู่ที่ระดับความสูง 1,600 เมตร ด้วย
ความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยในช่วงแรกยังไม่ได้กางร่ม ซึ่งเมื่อกางร่มแล้วเขาทราบดีว่า
จะเป็นการตกลงในแนวดิ่ง เมื่อเริ่มกระโดดเขาอยู่ห่างจากเป้าหมาย 500 เมตรตามระยะบนพืำนดิน
จงหาว่านักกระโดดร่มจะต้องเริ่มกางร่มเมื่อกระโดดลงมาเป็นเวลาเท่าไร และอยู่สูงจากพืำนดิน
เป็นระยะทางเท่าไร
8
เฉลยข้อสอบกลุ่มวิชาบังคับ ครั้งที่ 2/2547
ตอบ
km m
¤ÇÒÁàÃçÇàÃÔèÁµé¹ã¹á¹ÇÃÒº
u ox := 200
hr
¤ÇÒÁàÃçÇàÃÔèÁµé¹ã¹á¹Ç´Ôè§
u oy := 0
s
x
àÇÅÒ·Õèãªé㹡ÒÃà´Ô¹·Ò§à»ç¹ÃÐÂÐ
x := 500m ; t :=
u ox
àÇÅÒ·Õèãªé¡è͹¡ÃеءÃèÁ t = 9 ÇÔ¹Ò·Õ
1
ÃÐÂзҧ·Õ赡ŧÁÒã¹àÇÅÒ
y := u oy ⋅ t + 9
2
g ⋅ ÇÔ¹Ò·Õ
t
2
¤ÇÒÁÊÙ§¨Ò¡¾×é¹
h := 1600m − y ; h = 1203m
ตอบ
ÁÇŢͧ·Ã§¡ÅÁ
m2 := 10kg ÁØÁ¢Í§àª×Í¡
θ := 60deg
áç´Ö§ÊÙ§ÊØ´·ÕèÂÍÁä´é
Tm := 100N
¾Ô¨ÒóÒÊÁ´ØÅã¹á¹Ç´Ôè§
Tm ⋅ cos ( 60deg ) − T1 ⋅ cos ( 60deg ) a ⋅ m2
m2 ⋅ g − Tm ⋅ sin ( θ )
T1 := T1 = 13.237N
sin ( θ )
¾Ô¨ÒóÒÊÁ´ØÅã¹á¹ÇÃдѺ
Tm ⋅ sin ( 60deg ) + T1 ⋅ sin ( 60deg ) m2 ⋅ g
m
¤ÇÒÁàÃè§ÊÙ§ÊØ´·ÕèÂÍÁä´éâ´Âàª×Í¡äÁè¢Ò´¤×Í
a = 4.338
2
s
9
STRENGTH OF MATERIAL
ข้อ 7. จงใช้หลักการทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ตอบคำาถามต่อไปนีำ (20 คะแนน)
1.1 มอดุลัสภาคตัด (section modulus) คืออะไร หาค่าได้อย่างไร
ตอบ มอดุลัสภาคตัด คือ สมบัติเชิงเรขาคณิตของภาคตัด มีหน่วยเป็น m m 3 ถ้าภาคตัดสมมาตร
แกนสะเทินผ่านกึ่งกลางภาคตัด มอดุลัสภาคตัดมีเพียงค่าเดียว แต่ถ้าภาคตัดไม่สมมาตร มอดุลัสภาคตัด
จะมีสองค่า มอดุลัสภาคตัดหาค่Iาได้จากสมการ
z =Y
max
1.5 มอดุลัสยืดหยุน
่ (modulus of elasticity) มอดุลัสเฉือน (shear modulus) และ อัตราส่วนของ
ปัวส์ซอง (Poisson’s ratio) มีความสัมพันธ์กันอย่างไร
ตอบ มอดุลัสยืดหยุน่ (modulus of elasticity) มอดุลัสเฉือน (shear modulus) และอัตราส่วนของปัวส์
ซอง (Poisson’s ratio) มีความสัมพันธ์กันดังนีำคือ
E = 2G(1+υ)
10
1.9 ความเค้นเฉือนบนภาคตัดคานเกิดขึำนได้อย่างไร
ตอบ บนภาคตัดคานที่อยู่ภายใต้การดัด จะมีแรงเฉือนในแนวดิ่งกระทำาบนภาคตัดเสมอ แรงเฉือนนีำ
พยายามทำาให้เกิดการ slide ระหว่างภาคตัดในแนวดิ่งที่อยู่ติดกันบนคาน และขณะเดียวกันก็จะทำาให้
เกิด complementary shear stresses ขึนำ ในแนวระดับ เพื่อป้องกันไม่ให้ภาคตัดหมุน
ตอบ
MANUFACTURING
ข้อ 9. จงอธิบายประเภทและองค์ประกอบที่สำาคัญของการแปรรูปวัสดุโดยวิธี Machining และยก
ตัวอย่างความสำาคัญของงาน machining ในการผลิตผลิตภัณฑ์สำาเร็จรูปที่มีการจำาหน่ายในท้อง
ตลาด
ตอบ
1. ประเภทของแปรรูปวัสดุโดยการ machining แบ่งเป็น
1.1 กระบวนการแปรรูปแบบคายเศษ ซึ่งได้แก่
- การกลึง (Turning) ซึงเป็นการขึำนรูปโดยขึำนงานหมุน Cutting Tool อยู่กับที่เป็นลักษณะการขึำน
รูปแบบทรงกลม
- การคว้าน (Boring) เป็นการขึำนรูปโดย การทำาให้รูของชัำนงานโตกว่าเดิมซึ่งจะใช้การกลึงหรือเจาะ
คว้านก็ได้
- การเจาะ (Drilling) เป็นการทำาให้ชิำนงานมีรูตามที่ต้องการ
- การทำาเกลียว (Threading / Tapping) เป็นการทำาให้รูหรือผิวภายนอกของ ชินำ งานเป็นเกลียวสำาหรับ
ยึด Bolt หรือ Nut
12
2. ความสำาคัญของงาน Machining
งาน Machining ใช้ในการผลิตชิำนส่วนที่ใช้ในสินค้าต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำาวันจำานวนมาก
เช่น รถยนต์ คอมเพรสเซอร์ของตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ปั๊มนำำา เครื่องซักผ้า รวมทัำงเครื่องจักรอุปกรณ์
ต่างๆ
งานที่ผ่านขบวนการหล่อส่วนใหญ่จะต้องนำามา Machine จึงจะสามารถนำาไปใช้ประกอบเป็น
อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ได้ โลหะที่ผา่ นขบวนการทุบขึำนรูป (Forging) ก็มักจะต้องนำาไป Machine
ต่อจึงจะเป็นชิำนส่วนที่นำาไปใช้ประโยชน์ตามที่ออกแบบไว้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเช่น เฟืองเกียร์
ประเภทต่างๆ ชิำนส่วนช่วงล่างของรถยนต์เป็นต้น
งาน Machining เป็นขบวนการซึ่งเพิ่มคุณค่าของวัสดุทัำงโลหะและอโลหะ เนื่องจากปัจจุบัน
ความละเอียดของงาน Machining สามารถทำาได้ในระดับไมครอน จึงส่งผลให้ชิำนส่วนหรือผลิตภัณฑ์
ต่างๆมีคุณภาพและความคงทนสูงขึนำ ตัวอย่างเช่นการผลิตนาฬิกา ซึ่งมีชิำนส่วนซึ่งผ่านงาน
Machining ชนิดละเอียด สามารถผลิตเป็นนาฬิกาที่มีคุณภาพสูงและมีความคงทนในการใช้งานเป็น
อย่างดี
13
ตอบ
1. หลักในการบริหารงานของผู้จัดการหน่วยงานบริหารคุณภาพ
1) สำาหรับโรงงานที่มีพลังงาน 500 คน และมีขบวนการทัำงผลิตชิำนส่วนและประกอบ
สินค้าสำาเร็จรูป จำาเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ด้านควบคุมและประกันคุณภาพประมาณ 25
คน โดยอาจแบ่งเป็นหน่วยงานควบคุมคุณภาพ 20 คน และหน่วยงานประกัน
คุณภาพ 5 คน ดังนีำ
1.1 หน่วยงานตรวจสอบชิำนส่วนและวัตถุดิบ ทำาหน้าที่ควบคุมคุณภาพชิำนส่วนและ
วัตถุดิบที่สั่งซืำอจากหน่วยงานนอกบริษัท
1.2 หน่วยงานควบคุมคุณภาพสายการผลิตชิำนส่วน ทำาหน้าที่สุ่มตรวจชิำนงานใน
ขบวนการผลิตรวมทัำงการประสานงานกับฝ่ายผลิตเพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพรวมทัำง
การพัฒนาและปรับปรุงให้ชิำนส่วนต่างๆ มีคุณภาพดีขึำน
1.3 หน่วยงานควบคุมคุณภาพสายการประกอบ Compressor ทำาหน้าที่ตรวจสอบคุณ-
ภาพผลิตภัณฑ์สำาเร็จรูป รวมทัำงการสุ่มตรวจจุดสำาคัญๆ ในขบวนการประกอบ เช่น
จุดที่ต้องมีการตรวจสอบแรงขัน Nut Screw รวมทัำงการสุ่มตรวจผลิตภัณฑ์สำาเร็จรูป
ให้เป็นไปตามข้อกำาหนดเป็นต้น
2) หลักการบริหารงานทั่วไป ซึ่งจะส่งเสริมให้มีการพัฒนาระดับคุณภาพของการทำางาน
และสินค้าให้ดียิ่งขึำน เช่น
2.1 การส่งเสริมการทำากิจกรรม 5 ส Safety ควบคู่ไปกับการทำากิจกรรม QC Circle
รวมทัำงการกำาหนดให้มีการเสนอข้อเสนอแนะ โดยมีการปรับปรุงงานอย่างเป็นรูป
แบบโดยมีการกำาหนดรางวัลเพื่อเป็นการส่งเสริมและสร้างกำาลังใจ
2.2 มีการทำาให้ทุกฝ่ายตัำงแต่ Top Management จนถึงพนักงานประจำาเครื่องทุกคน
ตระหนักในความสำาคัญของคุณภาพและร่วมลงมือ ในการสร้างให้เกิดคุณภาพที่ดีใน
ทุกขัำนตอนของการทำางานใช้หลัก PDCA อย่างต่อเนื่อง ในการดำาเนินงานเพื่อให้เกิด
14
ผลที่ดีขึำนเป็นลำาดับ รวมทัำงมีการเก็บข้อมูลเพื่อนำาไปวิเคราะห์หาวิธีแก้ไขปัญหาได้
อย่างถูกต้องและมี ประสิทธิผล
3) มีการพัฒนาบุคลากรโดยจัดให้มีการอบรมในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพ
เช่น QC , 7 Tools หลักการใช้สถิติต่างๆ รวมทัำงการฝึกทักษะต่างๆ เช่น การใช้
เครื่องมือวัดอย่างถูกวิธี
2. แผนงานในการทำางานที่สำาคัญ คือการวางแผนและดำาเนินการให้ได้รับการรับรองระบบ
คุณภาพ เช่นระบบ ISO – 9002 โดยรับหน้าที่เป็น QMR และปฏิบัติตามขัำนตอนดังนีำ
1. ศึกษาและเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับระบบคุณภาพ ISO-9002 เพื่อให้มีความรู้และความเข้าใจ
โดยละเอียด
2. ดำาเนินการให้มีการแต่งตั้งทีม ISO-9002 โดยเป็นหัวหน้างานในแต่ละแผนกแต่ละหน่วยงานที่
มีความเกี่ยวข้องกับระบบ ISO-9002 ประมาณ 15-20 คน
3. จัดอบรมหลักสูตร ISO-9002 ให้แก่ทีมงาน
4. วางนโยบายบริษัทและจัดทำาแผนงาน ISO-9002 ในระยะเวลา 1.5 ปี
5. ประกาศและประชาสัมพันธ์ให้พนักงานและองค์กรรับทราบ
6. จากนัำนให้ผู้รับผิดชอบข้อกำาหนดต่างๆ จัดทำาเอกสารตามข้อกำาหนดที่ระบุไว้ให้มีความสัมพันธ์
กับกระบวนการผลิต
7. แต่งตั้งผู้ช่วย QMR และทีมงานคณะกรรมการ ISO-9002 ของบริษัทตามผังองค์กรของ
บริษัท
8. เมื่อจัดทำาเอกสารคู่มือคุณภาพ (QM), เอกสารระเบียบปฏิบัติ (QP), เอกสารวิธีปฏิบัติงาน
(WI), เอกสารแบบฟอร์มต่างๆ (FM) รวมทั้งเอกสารสนับสนุนอื่นๆ เช่น มาตรฐานงาน
ผลิต เมื่อจัดทำาเอกสารเหล่านี้เสร็จแล้วตรวจสอบอีกครั้ง
9. จัดอบรมแก่พนักงานทั้งหมดโดยให้ทีมงานเป็นผู้อบรมตามเอกสาร QM, QP, WI, FM. หลัง
จากนั้นประกาศใช้เอกสารดังกล่าวและทดลองทำางานตามระบบที่จัดทำาไว้ระยะหนึ่ง
10. กำาหนดแผนงานตรวจติดตามคุณภาพภายใน (Internal Audit) และจัดทีมงานตรวจติดตาม
คุณภาพภายใน โดยทีมงานดังกล่าวต้องผ่านการฝึกอบรมผู้ตรวจติดตามคุณภาพภายในก่อน
11. จัดให้มีการประชุมตรวจติดตามคุณภาพภายในโดย QMR เป็นประธาน แจ้งให้พนักงาน
ทุกในบริษัททราบ
12. ตรวจติดตามคุณภาพภายในเพื่อทราบปัญหาการดำาเนินการตามระบบ ISO-9002 ในกรณีถ้า
พบปัญหาให้ออกใบขอแก้ไขปัญหา (ใบ Corrective Action Requirement) โดยวิเคราะห์
15
ว่าปัญหาของระบุเกิดจากอะไรเช่น เกิดจากผู้ปฏิบัติหรือเกิดจากเอกสารที่จัดทำาขึ้นมา ถ้าเกิด
จากผู้ปฏิบัติงานให้จัดอบรมใหม่ ถ้าเกิดจากเอกสารให้ออกใบ CAR เพื่อแก้ไขเอกสาร
13. QMR สรุปจำานวนใบ CAR และแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาโดยด่วน