Professional Documents
Culture Documents
ข้อสอบภาคีวิศวกรเครื่องกล 204 ภาคีเครื่องกล Refrigeration-CH 4.Component and piping
ข้อสอบภาคีวิศวกรเครื่องกล 204 ภาคีเครื่องกล Refrigeration-CH 4.Component and piping
ข้อสอบภาคีวิศวกรเครื่องกล 204 ภาคีเครื่องกล Refrigeration-CH 4.Component and piping
ตั วเลือ ก :
1 : เครื่องระเหย (evaporator)
2 : เครื่องอัดไอ (compressor)
3 : เครื่องระเหย (evaporator) และวาล์วระเหยสารทำาความเย็น (expansion valve)
4 : เคร ื่องอ ัดไอ (c ompr es so r) แล ะเ คร ื่อง ระ เหย (ev ap orat or)
ตั วเลือ ก :
1 : ภาระการทำาความเย็น
2 : อุณหภูมิห้องเย็น
3 : ขน าดเ คร ื่อง ควบ แน่น (co nd en ser)
4 : ชนิดสารทำาความเย็น
ตั วเลือ ก :
1 : R-22
2 : R-134a
3 : R-7 17
4 : R-11
ตั วเลือ ก :
1 : ความดันลดในท่อ
2 : นำ้ามันหล่อลื่นกลับเครื่องอัดไอ
3 : ความเร็วของสารทำาความเย็นภายในท่อ
4 : ชน ิดเ คร ื่องอั ดไอ
ตั วเลือ ก :
1 : แบบเปิ ด (o pe n ty pe)
2 : แบบปิด (hermetic type)
3 : แบบกึ่งเปิด (semi-open type)
4 : แบบกึ่งปิด (semi-hermetic)
ตั วเลือ ก :
1 : ระบาย คว าม ร้ อนออกจ ากเ คร ื่อ งควบ แน่น (co nd en ser)
2 : ระบายความร้อนออกจากเครื่องระเหย (evaporator)
3 : รักษาความดันทางด้านดูด
4 : ระบายความร้อนออกจากเครื่องอัดไอ (compressor)
ตั วเลือ ก :
1 : เครื่องอัดไอ (compressor) - เครื่องควบแน่น (condenser)
2 : เครื่องควบแน่น (condenser) - ถังพักนำ้ายาเหลว (receiver)
3 : ถังพักนำ้ายาเหลว (receiver) - วาล์วระเหยสารทำาความเย็น (expansion valve)
4 : เคร ื่อง ระ เหย (ev ap orat or) - เค รื ่องอัด ไอ (com pre ss or)
ตั วเลือ ก :
1 : เครื่องระเหย (evaporator)
2 : เคร ื่องอ ัดไอ (c ompr es so r)
3 : ถังพักนำ้ายาเหลว (receiver)
4 : เครื่องควบแน่น (condenser)
ตั วเลือ ก :
1 : R-134a
2 : R-404A
3 : R-12
4 : R-7 17
ตั วเลือ ก :
1 : เพื่อลดการเกิด OXIDE ชิ้นส่วนภายในระบบทำาความเย็น
2 : เพื่อลดกำาลังในการขับคอมเพรสเซอร์
3 : เพื ่อใ ห้ มั ่นใจ ว่า ไม ่ม ีส ารท ำาค วา มเย ็นเหลวไหลเ ข้ าเค รื ่องอัด ไอ
4 : เพื่อเพิ่มอุณหภูมิของเครื่องอัดไอให้มีอุณหภูมิที่เหมาะแก่การทำางาน
ตั วเลือ ก :
1 : เครื่องทำาความเย็นมี COP ลดลง
2 : ความร้อนที่ต้องระบายทิ้ง (Heat reject) เพิ่มขึ้น
3 : คอม เพร สเซอร ์ใ ช้พลั งงานลดล ง
4 : อุณหภูมิของสารทำาความเย็นด้านทางส่งของคอมเพรสเซอร์สูงขึ้น
ตั วเลือ ก :
1 : เพิ ่ม อัต รา การ ไหล ของส าร ทำา คว าม เย็น
2 : ลดอัตราการไหลของสารทำาความเย็น
3 : คงอัตราการไหลของสารทำาความเย็นไว้เท่าเดิม
4 : ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อ Cooling load เปลี่ยนแปลง
ตั วเลือ ก :
1 : R-507
2 : R-134a
3 : R-2 2
4 : R-404A
ตั วเลือ ก :
1 : เพื ่อลด คว ามเ ข้ มข ้นของนำ้า
2 : เพื่อลดอุณหภูมิของนำ้าในอ่างนำ้า
3 : เพื่อลดขนาดของปั๊มนำ้า
4 : เพื่อเพิ่ม Capacity ให้ Evaporative condenser
ตั วเลือ ก :
1 : ท่อทอง แด ง ค รี บอลูม ิเนีย ม
2 : ท่อสเตนเลส ครีบอลูมิเนียม
3 : ท่อเหล็กชุบสังกะสี ครีบเหล็กชุบสังกะสี
4 : ท่อสเตนเลส ครีบสเตนเลส
ตั วเลือ ก :
1 : วันที่อากาศมีอุณหภูมิกระเปาะแห้งสูง
2 : วันที่อากาศมีอุณหภูมิกระเปาะแห้งตำ่า
3 : วันที่อากาศมีอุณหภูมิกระเปาะเปียกสูง
4 : วันที่อ าก าศ มีอุณ หภ ูม ิก ระ เปา ะเปี ยก ตำ่า
คำาถ ามข ้อที ่ 18
สาเหตุใดที่ทำาให้ระบบทำาความเย็นมีความดันด้านส่ง (Discharge Pressure) สูงมากเกินไป
ตั วเลือ ก :
1 : มีป ริ มา ณส าร ทำา คว ามเย็น ในร ะบบ สู งม ากเ กิน ไป
2 : คอนเดนเซอร์มีขนาดใหญ่เกินไป
3 : มีปริมาณนำ้าหล่อเย็นของคอนเดนเซอร์มากเกินไป
4 : ความดันด้านดูด (Suction Presure) ตำ่าเกินไป
ตั วเลือ ก :
1 : มี su ctio n su pe rh eat มาก ขึ ้น
2 : มี Suction Superheat น้อยลง
3 : ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
4 : Liquid Flooded ลงคอมเพรสเซอร์
ตั วเลือ ก :
1 : ต้อง มี ขนา ดเพียงพอที ่จ ะร ับภ าร ะคว าม ร้อนจา กร ะบบได ้
2 : ต้องมีขนาดเพียงพอที่จะใช้สำาหรับเพิ่มความดันของสารทำาความเย็นให้เพียงพอที่จะนำาไปใช้งานได้
3 : ต้องมีขนาดเพียงพอที่จะถ่ายเทความร้อนออกจากระบบได้
4 : ต้องมีขนาดเพียงพอที่จะรองรับปริมาณสารทำาความเย็นในระบบได้
ตั วเลือ ก :
1 : ต้องมีขนาดเพียงพอที่จะรับภาระความร้อนจากระบบได้
2 : ต้องมีขนาดเพียงพอที่จะใช้สำาหรับเพิ่มความดันของสารทำาความเย็นให้เพียงพอที่จะนำาไปใช้งานได้
3 : ต้อง มี ขนา ดเพียงพอที ่จ ะถ ่า ยเทคว าม ร้ อนออกจ าก ระบบไ ด้
4 : ต้องมีขนาดเพียงพอที่จะรองรับปริมาณสารทำาความเย็นในระบบได้
คำาถ ามข ้อที ่ 22
หลักในการเลือกขนาดของอีแวปโพเรเตอร์เพื่อมาใช้งานในระบบทำาความเย็นคือข้อใด
ตั วเลือ ก :
1 : ต้อง มี ขนา ดเพียงพอที ่จ ะร ับภ าร ะคว าม ร้อนจา กร ะบบได ้
2 : ต้องมีขนาดเพียงพอที่จะใช้สำาหรับเพิ่มความดันของสารทำาความเย็นให้เพียงพอที่จะนำาไปใช้งานได้
3 : ต้องมีขนาดเพียงพอที่จะถ่ายเทความร้อนออกจากระบบได้
4 : ต้องมีขนาดเพียงพอที่จะรองรับปริมาณสารทำาความเย็นในระบบได้
ตั วเลือ ก :
1 : ต้องมีขนาดเพียงพอที่จะรับภาระความร้อนจากระบบได้
2 : ต้องมีขนาดเพียงพอที่จะใช้สำาหรับเพิ่มความดันของสารทำาความเย็นให้เพียงพอที่จะนำาไปใช้งานได้
3 : ต้องมีขนาดเพียงพอที่จะถ่ายเทความร้อนออกจากระบบได้
4 : ต้อง มี ขนา ดเพียงพอที ่จ ะร องร ับปร ิม าณ สา รท ำาค วา มเย ็นใน ระ บบได ้
ตั วเลือ ก :
1 : อีแวป โพเรเ ตอร ์
2 : คอมเพรสเซอร์
3 : คอนเดนเซอร์
4 : รีซีฟเวอร์
ตั วเลือ ก :
1 : 8 oC
2 : 8.5oC
3 : 9o C
4 : 9.5oC
คำาถ ามข ้อที ่ 26
ตั วเลือ ก :
1 : 3 m2
2 : 30 m 2
3 : 300 m2
4 : 3,000 m2
ตั วเลือ ก :
1 : R-11
2 : R-12
3 : R-13
4 : R-2 2
ตั วเลือ ก :
1 : ควา มด ันที ่ส าร ทำา คว าม เย็น กลั่น ตัว จะ สู งขึ ้น
2 : ความดันที่สารทำาความเย็นระเหยจะลดลง
3 : ผลทำาความเย็น (Refrigerating Effect) มากขึ้น
4 : คอมเพรสเซอร์ใช้พลังงานลดลง
ตั วเลือ ก :
1 : ความดันที่สารทำาความเย็นกลั่นตัวจะสูงขึ้น
2 : ความดันที่สารทำาความเย็นระเหยจะสูงขึ้น
3 : สารท ำาค วา มเย ็นจะ ไหลเข ้าเ คร ื่อง ระ เหย (E va po rat or) น้อยห รือ มา กเ กินไป สลับ
กัน ไป (Hu ntin g)
4 : มีสารทำาความเย็นเหลวไหลเข้าคอมเพรสเซอร์เป็นจำานวนมากตลอดการทำางาน
ตั วเลือ ก :
1 : Semi-hermetic Compressor
2 : Screw Compressor
3 : Open Type Compressor
4 : Herm etic Co mpre ss or
ตั วเลือ ก :
1 : Cap illar y Tu be , T he rmo stati c E xp an si on Va lv e, Ha nd E xp an si on V al ve
2 : Automatic Expansion Valve, Hand Expansion Valve, Solenoid Valve
3 : Capillary Tube, High Pressure Switch, Thermostatic Expansion Valve
4 : Thermostat, Globe Regulating Valve, Automatic Expansion Valve
ตั วเลือ ก :
1 : จำานวนชนิดสารทำาความเย็นที่นำามาผสม
2 : จำานวนโมเลกุลของฟลูออรีน
3 : Tem per atur e Gli de
4 : ค่า GWP
ตั วเลือ ก :
1 : Dr op-i n ไม่ จำา เป็น ต้องเปลี ่ยนส าร หล่อลื ่นที่ ใช ้อยู่ ในร ะบบเ ดิ ม
2 : Retrofitting ไม่จำาเป็นต้องเปลี่ยนสารหล่อลื่นที่ใช้อยู่ในระบบเดิม
3 : Retrofitting มีความหมายเดียวกับ Recovery
4 : Drop-in จำาเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์บางอย่างในระบบ
คำาถ ามข ้อที ่ 34
สารทำาความเย็นใดไม่สามารถเติมเข้าระบบในสถานะก๊าซ
ตั วเลือ ก :
1 : R717
2 : R22
3 : R134a
4 : R40 4a
ตั วเลือ ก :
1 : เลือกวาล์ว Nominal Size 10 มิลลิเมตร
2 : เลือ กว าล์ว No min al Si ze 13 มิ ลลิเ มต ร
3 : เลือกวาล์ว Nominal Size 20 มิลลิเมตร
4 : เลือกวาล์ว Nominal Size 25 มิลลิเมตร
คำาถ ามข ้อที ่ 36
ตั วเลือ ก :
1 : 0.0 36 8 ลู กบา ศก ์เม ตรต ่อช ั่ว โม ง
2 : 0.0347 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
3 : 0.01 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
4 : 0.0224 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
คำาถ ามข ้อที ่ 37
ตั วเลือ ก :
1 : SDC-U50BS.BSG
2 : SDC-U 75 BS.B SG
3 : SDC-U85BS.BSG
4 : SDC-U100BS.BSG
ตั วเลือ ก :
1 : R717
2 : R22
3 : R502
4 : Pr op yl en e Gl yc ol
ตั วเลือ ก :
1 : คาปาซิตี้ของคอล์ยเย็นต้องใหญ่กว่าเดิม
2 : คาป าซิ ตี ้ของค อนเดนเซอร์ ต้อ งใ หญ ่กว ่าเ ดิม
3 : คาปาซิตี้ของคอล์ยเย็นต้องเล็กกว่าเดิม
4 : คอมเพรสเซอร์ต้องมีคาปาซิตี้มากกว่าเดิม
คำาถ ามข ้อที ่ 40
ข้อใดไม่มีผลต่อขนาดของคอล์ยเย็นในห้องเย็น
ตั วเลือ ก :
1 : ปริมาณสินค้า
2 : จำานวนหลอดไฟในห้อง
3 : จำานวนรถ Forklift
4 : ขน าด ของคอ มเพ รส เซอร์
ตั วเลือ ก :
1 : CFC
2 : HFC
3 : HCF C
4 : HFFC
ตั วเลือ ก :
1 : CFC
2 : HFC
3 : HCFC
4 : HFFC
ตั วเลือ ก :
1 : CFC
2 : HFC
3 : HCFC
4 : HFFC
ตั วเลือ ก :
1 : ควา มด ันท างส ่งส ูงก ว่ าปก ติ
2 : สารทำาความเย็นมีคุณสมบัติทำาความเย็นได้น้อยลงเพราะมีอากาศผสมอยู่
3 : สารทำาความเย็นไหลเข้าคอล์ยเย็นได้ยากเพราะอากาศขวางอยู่
4 : คอมเพรสเซอร์ดูดสารทำาความเย็นได้น้อยลงเพราะอากาศขวางอยู่ในท่อทางดูด
ตั วเลือ ก :
1 : ป้อ งกัน ไม ่ใ ห้ สา รท ำาค วา มเย ็นละล าย ผส มก ับน ำ้าม ันหล ่อลื่น ในเค รื ่องอั ดนำ้า ยา มา ก
เก ินไปใน ขณะ หยุ ดเค รื ่อง
2 : ป้องกันไม่ให้นำ้ามันหล่อลื่นมีอุณหภูมิเย็นเกินไปในขณะที่เครื่องทำางาน
3 : รักษาให้ข้อเหวี่ยงมีอุณหภูมิที่เหมาะสมในขณะทำางานเพื่อให้การหล่อลื่นมีประสิทธิภาพ
4 : รักษาลิ้นทางดูดทางส่งให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสมในขณะทำางานเพือ่ ให้การดูดสารทำาความเย็นมี
ประสิทธิภาพ
ตั วเลือ ก :
1 : 50 o C
2 : 40oC
3 : 30oC
4 : 20oC
ตั วเลือ ก :
1 : นำ้า มัน หล่อลื ่นจา กคอล ์ยเย็น ไม ่ส าม ารถ ไหล กลับ ไปเค รื่อ งอัดน ำ้าย า
2 : สิน้ เปลืองสารทำาความเย็นในระบบมากขึ้น
3 : สูญเสียความร้อนผ่านผนังท่อทางดูดที่มีพื้นที่ผิวมากขึ้น
4 : สิน้ เปลืองค่าฉนวนหุ้มท่อทางดูดมากขึ้น
ตั วเลือ ก :
1 : 42. 8
2 : 1,920
3 : 0.0234
4 : 27.75
ตั วเลือ ก :
1:
ประกอบปิด(Semi-hermetic)
2:
หุ ้มป ิด (H erm etic)
3:
เปิด(Open-type)
4:
ประกอบปิด(Semi-hermetic)หรือแบบเปิด(Open-type)
ตั วเลือ ก :
1 : 0. 18 6 m3 / s
2 : 0.00116 m3 / s
3 : 0.186 m3
4 : ไม่สามารถหาคำาตอบได้ เพราะไม่ทราบค่าปริมาตรช่องว่างที่หัวสูบ (clearance Volume)
ตั วเลือ ก :
1 : 1.6 mm
2 : 0.20 mm
3 : 6 mm
4 : ไม่สามารถหาคำาตอบได้เพราะไม่ทราบค่าความหนาของครีบอลูมิเนียม
คำาถ ามข ้อที ่ 68
ในการเลือกขนาดอัตราระบายความร้อนของคอนเดนเซอร์ ตำาราบางเล่มจะใช้หลักจากประสบการณ์
(Thumb’s Rule) เรียกว่า อัตราการระบายความร้อนที่คอนเดนเซอร์ต่ออัตราทำาความเย็น(HRR=Ratio of
Heat Rejected at the condenser to the refrigerating capacity) ถ้า HRR = 1.25 อาจจะกล่าวได้ว่า ระบบ
ทำาความเย็นมีประสิทธิภาพวัฏจักรหรือสัมประสิทธ์สมรรถนะ(COP)ประมาณ
ตั วเลือ ก :
1 : 1.25
2 : 0.8
3: 4
4 : ไม่สามารถหาคำาตอบได้เพราะไม่ทราบค่ากำาลังของคอมเพรสเซอร์
ตั วเลือ ก :
1 : 5 kW
2 : 10 kW
3 : 15 kW
4 : 20 k W
ตั วเลือ ก :
1 : 0.1
2: 1
3: 3
4: 5
คำาถ ามข ้อที ่ 71
ในระบบทำาความเย็นแบบธรรมดา(Single stage) การออกแบบท่อทางเดินของสารทำาความเย็น(นำ้ายา)
ข้อความต่อไปนี้ข้อใดถูกต้องที่สุด
ตั วเลือ ก :
1 : ท่อทองแดงเหมาะสมที่สุดไม่ว่าจะใช้กับสารทำาความเย็นชนิดใดเช่น แอมโมเนีย R-22 R-134a เป็นต้น
เพราะท่อทองแดงผิวจะเรียบความเสียดทานจึงน้อย
2 : ท่อสารทำาความเย็นเหลวหรือท่อที่ต่อระหว่างคอนเดนเซอร์และอุปกรณ์ลดความดัน ต้องระวังเรื่องความ
เสียดทานและการวนกลับของนำ้ามันหล่อลื่น(Oil Return)
3 : ท่อทุกท่อต้องคำานึงถึงความเสียดทานและการวนกลับของนำ้ามันหล่อลื่น(Oil Return)เสมอ
4 : ท่อท ี่เข ้า และ ออก จา กคอ มเพ รส เซอร์ ต้อ งค ำานึง ถึง คว าม เส ียดท านแล ะก ารวน กลับ
ของน ำ้า มันหล ่อลื่น (Oil Ret urn)
ตั วเลือ ก :
1 : เป็นกระบวนการคายความร้อนที่ความดันตำ่า อุณหภูมิตำ่า
2 : สารทำาความเย็นจะเกิดการควบแน่นที่ Evaporator
3 : สารทำาความเย็นจะถูกเพิ่มความดันก่อนเข้า Evaporator
4 : สารท ำาค วา มเย ็นได ้ร ับคว าม ร้อนแล ะร ะเหย กลายเป ็นไอ
ตั วเลือ ก :
1 : ความสามารถในการถ่ายเทความร้อนที่เครื่องควบแน่นเพิ่มขึ้น
2 : ความหนืดของนำ้ามันที่ผสมกับสารความเย็นเพิ่มขึ้น
3 : การร วม ตั วของน ำ้า มัน หล่อลื ่นกับ สา รคว าม เย็น ท ำาใ ห้ คว าม สา มารถ ใน กา รหล ่อลื่น
ลดลง
4 : การผสมกันระหว่างนำ้ามันหล่อลื่นกับสารทำาความเย็นทำาให้การหล่อลื่นดีขึ้น
คำาถ ามข ้อที ่ 74
ตั วเลือ ก :
1 : 0.1 8 k g/ s
2 : 0.21kg/s
3 : 0.25kg/s
4 : 0.29kg/s
คำาถ ามข ้อที ่ 75
ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์พื้นฐานของระบบทำาความเย็น
ตั วเลือ ก :
1 : compressor
2 : fl as h t an k
3 : evaporator
4 : condenser
ตั วเลือ ก :
1 : อากาศ
2 : นำ้า
3 : นำ้าเ กลือ
4 : นำ้าและอากาศ
ตั วเลือ ก :
1 : เพิ่มความดันของสารความเย็นจากเครื่องควบแน่น (Condenser) มายังเครื่องระเหย (Evaporator)
2 : เป็น กร ะบวน กา ร Thr ottlin g
3 : เป็นกระบวนการเพิ่มอุณหภูมิให้กับสารทำาความเย็น
4 : เป็นการเพิ่มความดันของสารทำาความเย็น โดยให้งานกับระบบ
ตั วเลือ ก :
1 : HFC
2 : CFC
3 : CO2
4 : NH3
ตั วเลือ ก :
1 : ทำาใ ห้เ คร ื่องอ ัดไอพ ัง
2 : ทำาให้ความดันด้านดูดลดลง
3 : ประสิทธิภาพการอัดเพิ่มขึ้น
4 : ทำาให้นำ้ามันซึ่งรั่วออกมาปนกับสารทำาความเย็นมากขึ้น
ตั วเลือ ก :
1 : Exp an si on va lv e
2 : Shut – off – valve
3 : Evaporator
4 : Condenser
ตั วเลือ ก :
1 : อัต รา ส่ วนก ำาลั งอัด (Co mpr es sio n r atio) ลดลง
2 : อุณหภูมิอิ่มตัวที่คอนเดนเซอร์สูงขึ้น
3 : อุณหภูมิอิ่มตัวที่เครื่องระเหยลดลง
4 : สารทำาความเย็นที่ออกจากเครื่องระเหยมี degree of superheat สูงขึ้น
ตั วเลือ ก :
1 : เพื ่อลด คว ามเ ข้ มข ้นของนำ้า
2 : เพื่อลดอุณหภูมิของนำ้า
3 : เพือ่ ลดขนาดของปั๊มนำ้า
4 : เพือ่ เพิ่มอัตราการถ่ายเทความร้อน
ตั วเลือ ก :
1 : 10.2 m3/h
2 : 21.7 m3/h
3 : 39 .4 m3/ h
4 : 48.5 m3/h
ตั วเลือ ก :
1 : แบบท่อซ้อนท่อ (double pipe)
2 : แบบเปลือ กแล ะท ่อ (s hell an d t ub e)
3 : แบบท่อครีบระบายความร้อนด้วนอากาศ (finned tube, air-cooled type)
4 : แบบระบายความร้อนโดยธรรมชาติ
ตั วเลือ ก :
1 : 0.2 kW
2 : 4 kW
3 : 5 kW
4 : 6 .67kW
ตั วเลือ ก :
1 : 25 kW
2 : 28 k W
3 : 30 kW
4 : 33 kW
ตั วเลือ ก :
1 : 3.0
2 : 3.5
3 : 4.0
4 : 4.5
ตั วเลือ ก :
1 : ทำาให้ห้องเย็นจัดมากขึ้น
2 : อัต รา กา รถ่ ายเท ควา มร ้อนลดล ง
3 : ทำาให้ลมหมุนเวียนดีเพราะผิวนำ้าแข็งลื่น
4 : ทำาความสะอาดคอล์ยเย็นง่าย
ตั วเลือ ก :
1 : นำ้า
2 : อากาศ
3 : สารทำาความเย็น
4 : นำ้ามันหล่อลื่น
ตั วเลือ ก :
1 : คอมเพรสเซอร์
2 : คอนเดนเซอร์
3 : เครื่องระเหย (Evaporator)
4 : วาล์วล ดค วา มด ัน (Ex pa ns io n v al ve)
คำาถ ามข ้อที ่ 92
ข้อใดคือคุณสมบัติของสารทำาความเย็น
ตั วเลือ ก :
1 : กัดกร่อนโลหะ
2 : ติดไฟ
3 : ไม่ เป็นวั ตถ ุร ะเบ ิด
4 : มีค่าความร้อนแฝงต่อหน่วยนำ้าหนักตำ่า
ตั วเลือ ก :
1 : นำ้าเ กลือ
2 : แอมโมเนีย
3 : R-22
4 : R-134a
ตั วเลือ ก :
1 : R-1 2
2 : R-134a
3:
4:
ตั วเลือ ก :
1 : คอมเพรสเซอร์
2 : คอนเดนเซอร์
3 : เครื่องระเหย (Evaporator)
4 : วาล์วล ดค วา มด ัน (Ex pa ns io n v al ve)
คำาถ ามข ้อที ่ 96
ขณะที่ระบบทำาความเย็นทำางาน สารทำาความเย็นภายในเครื่องระเหย (Evaporator) เป็นอย่างไร
ตั วเลือ ก :
1 : รับความร้อนและเปลี่ยนสถานะจากไอเป็นของเหลว
2 : คายความร้อนและเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นไอ
3 : เดือดและเปลี่ยนสถานะจากไอเป็นของเหลว
4 : เดือด แล ะเปลี่ ยนส ถาน ะจ าก ของเหลวเป็น ไอ
ตั วเลือ ก :
1 : คอนเดนเซอร์มีขนาดใหญ่เกินไป
2 : เติ มส ารทำา ควา มเย ็นเข้า ไปใน ระ บบม าก เก ินไป
3 : หอทำาความเย็น (Cooling tower) มีขนาดใหญ่เกินไป
4 : ปั๊มนำ้าคอนเดนเซอร์มีขนาดใหญ่เกินไป
ตั วเลือ ก :
1 : คอมเพรสเซอร์ทำางานน้อยลง
2 : คอม เพร สเซอร ์ทำา งาน มา กข ึ้น
3 : คอมเพรสเซอร์มสี มรรถนะดีขึ้น
4 : คอมเพรสเซอร์มีอัตราส่วนกำาลังอัดลดลง
ตั วเลือ ก :
1 : คอมเพรสเซอร์ทำางานน้อยลง
2 : คอม เพร สเซอร ์ทำา งาน มา กข ึ้น
3 : คอมเพรสเซอร์มสี มรรถนะดีขึ้น
4 : คอมเพรสเซอร์มีอัตราส่วนกำาลังอัดลดลง
ตั วเลือ ก :
1 : ลดอัตราการไหลของสารทำาความเย็น
2 : คงอัตราการไหลของสารทำาความเย็น
3 : เพิ ่ม อัต รา การ ไหล ของส าร ทำา คว าม เย็น
4 : ไม่มอี ะไรเกิดขึ้นเมื่อภาระการทำาความเย็นเปลี่ยนแปลง
ตั วเลือ ก :
1 : การละลายนำ้าแข็งด้วยนำ้า
2 : การละลายนำ้าแข็งด้วยไฟฟ้า
3 : การละลายนำ้าแข็งด้วยไอสารทำาความเย็นอุณภูมสิ ูง (Hot gas)
4 : การล ะลา ยนำ้า แข ็ง ด้วยว ิธีธ รร มช าติ โดย กา รห ยุดเ คร ื่องท ำาค วา มเย ็น
ตั วเลือ ก :
1 : นำามาใช้ไม่ได้เพราะใช้สารทำาความเย็นต่างชนิดกัน
2 : ใช้ ได ้แ ต่ ต้ องเพิ่ มขน าด (กำา ลัง )มอเต อร ์ขับ
3 : ใช้ได้แต่ต้องเปลีย่ นอุปกรณ์ลดความดันเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์
4 : ใช้ได้โดยไม่มีข้อแม้
ตั วเลือ ก :
1:
2:
3:
4 : ไม่สามารถหาคำาตอบได้เพราะไม่ทราบค่าประสิทธิภาพเชิงปริมาตร
ตั วเลือ ก :
1 : คอยล์ของเครื่องปรับอากาศจะเล็กยาวกว่า
2 : คอยล์ของเครื่องทำาความเย็นมักทำาด้วยเหล็ก
3 : คอยล์ ของเค รื ่องทำา คว าม เย็นจ ะมี ระ ยะ ระห ว่ างค รีบ โลห ะห่ าง กัน มา กก ว่า
4 : คอยล์ของเครื่องปรับอากาศจะมีระยะระหว่างครีบโลหะห่างกันมากกว่า
ตั วเลือ ก :
1 : คอมเพรสเซอร์จะต้องทำางานหนักขึ้นเพราะต้องอัดสารทำาความเย็นเข้ามากขึ้น
2 : นำ้ามันจะค้างอยู่ในคอนเด็นเซอร์เพราะความเร็วของสารทำาความเย็นลดลง
3 : ไม่ควรทำาอย่างยิ่งเพราะไอบางส่วนอาจเล็ดลอดออกไปยังอุปกรณ์ลดความดัน
4 : สั มป ระ สิ ทธิ์ สม รรถ นะ (CO P) ของร ะบบท ำาค วา มเย ็นจะเพ ิ่ มข ึ้น
ตั วเลือ ก :
1 : 14 k W
2 : 28.6 kW
3 : 30 kW
4 : 3 kW
ตั วเลือ ก :
1 : อุณหภูมิกระเปาะเปียกของอากาศภายนอก อัตราการไหลของนำ้า ขนาดทำาความเย็นของเครื่องทำาความ
เย็น อุณหภูมินำ้าเข้า และอุณหภูมินำ้าออก
2 : อุณห ภู มิ กร ะเป าะเป ียก ของอา กา ศภา ยนอก อัต รา การ ไหล ของนำ้า อุ ณหภ ูม ิน ำ้าเข ้า
แล ะอ ุณห ภู มิน ำ้าออ ก
3 : อัตราการไหลของนำ้า ขนาดทำาความเย็นของเครื่องทำาความเย็น อุณหภูมินำ้าเข้า และอุณหภูมินำ้าออก
4 : อุณหภูมิอากาศภายนอก อัตราการไหลของนำ้า ขนาดทำาความเย็นของเครื่องทำาความเย็น อุณหภูมินำ้าเข้า
และอุณหภูมินำ้าออก
คำาถ ามข ้อที ่ 10 8
ตั วเลือ ก :
1 : สำาหรับชุดควบแน่น ให้อุณหภูมิอากาศที่ใช้ระบายความร้อนคงที่ ถ้าอุณหภูมิอิ่มตัวด้านดูดลดลง ขนาด
ความสามารถในการทำาความเย็นจะเพิ่มขึ้น
2 : สำาหรับชุดควบแน่น ให้อุณหภูมิอากาศที่ใช้ระบายความร้อนลดลง และให้อุณหภูมิอิ่มตัวด้านดูดลดลง
ขนาดความสามารถในการทำาความเย็นจะลดลง
3 : สำา หร ับหน ่วยแ ฟนคอยล ์ ให ้อ ุณห ภู มิอ าก าศ เข้ าหน่ วยแฟน คอยล์ คงที ่ แ ละ ให ้
อุณ หภ ูม ิอิ่ มต ัว ด้ านดู ดลดลง ขนา ดค วา มส ามา รถใ นก ารท ำาค วา มเ ย็นจ ะเพิ่ มข ึ้น
4 : สำาหรับหน่วยแฟนคอยล์ ให้อุณหภูมิอากาศเข้าหน่วยแฟนคอยล์คงที่ และให้อุณหภูมิอิ่มตัวด้านดูดลดลง
ขนาดความสามารถในการทำาความเย็นจะลดลง
ตั วเลือ ก :
1 : ท่อสารทำาความเย็นด้านดูดหรือท่อที่ต่อระหว่างคอมเพรสเซอร์และเครื่องระเหย(Evaporator) ถ้า
ออกแบบมีขนาดเล็กเกินไป จะมีผลทำาให้ความดันด้านสูง(High Pressure Side) สูงขึ้น
2 : ท่อ สา รท ำาค วา มเ ย็นด ้านด ูดห รือท ่อที่ ต่อ ระ หว ่าง คอม เพร สเซอร ์แ ละเ คร ื่อง
ระเห ย(Ev ap or ator) ถ้า ออก แบบ มี ขนาดเล ็กเ กินไป จ ะมี ผลท ำาใ ห้ ขนา ดทำา คว าม เย็นลด
ลงไ ด้
3 : ท่อทุกท่อต้องคำานึงถึงความเสียดทานและการวนกลับของนำ้ามันหล่อลื่น(Oil Return)เสมอ
4 : ท่อสารทำาความเย็นเหลวหรือท่อที่ต่อระหว่างคอนเดนเซอร์และอุปกรณ์ลดความดัน ต้องออกแบบให้
Superheat เล็กน้อย จึงจะไม่เกิดการกลายเป็นไอบางส่วน(Flash gas)
คำาถ ามข ้อที ่ 11 0
หน้าที่ของ Thermostatic Expansion Valve
ตั วเลือ ก :
1 : ลดคว าม ดัน โดย ควบ คุ มใ ห้ De gre e S up erh eat คงท ี่
2 : ลดความดันโดยความคุมให้ Evaporating Pressure คงที่
3 : ลดความดันพร้อมควบคุมอัตราการไหลให้คง
4 : ลดความดันโดยอาศัยเทอร์มอสแตตช่วยปรับอัตราการไหลให้เปลี่ยนตามภาระการทำาความเย็น
ตั วเลือ ก :
1:
2:
3:
4:
ตั วเลือ ก :
1 : ระยะห่างระหว่างครีบของคอยล์ที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศจะมากที่สุด
2 : อัตราอากาศไหลและอื่นๆคงเดิม ถ้าเพิ่มจำานวนแถวตามแนวลึก(Rows Deep) ขนาดทำาความเย็นจะเพิ่ม
ขึ้น และสภาวะของอากาศที่ผ่านคอยล์ออกมาจะมีอุณหภูมิตำ่าลง แต่อัตราส่วนความชื้น(Humidity Ratio)จะ
เพิ่มขึ้น
3 : ทุ กอย ่าง คงเด ิม ถ้ าเพ ิ่ม อั ตร าไ หลหร ือค วา มเ ร็วล มผ ่าน คอยล์ ขนา ดทำา คว าม เย็นจ ะ
เพิ่ มแ ต่ส ภา วะ ของอ าก าศ ที ่ผ่ านคอ ยล์ออก มา จะม ีอ ุณห ภู มิ และ อั ตร าส ่วน คว าม ชื้น (H um
idit y R atio) เพิ ่ม ขึ ้น
4 : ทุกอย่างคงเดิม ถ้าเพิ่มอัตราไหลหรือความเร็วลมผ่านคอยล์ ขนาดทำาความเย็นจะเพิ่ม และสภาวะของ
อากาศที่ผ่านคอยล์ออกมาจะมีอุณหภูมติ ำ่าลง แต่อัตราส่วนความชื้น(Humidity Ratio)เพิ่มขึ้น
ตั วเลือ ก :
1 : เท่าเดิม
2 : 50%
3 : 25%
4 : 12. 5%
ตั วเลือ ก :
1 : 1000 + 500 kW
2 : 1000 + 500 + 200 kW
3 : 10 00 + 5 00 + 5 0 kW
4 : 1000 + 500 + 200 + 50 kW
คำาถ ามข ้อที ่ 11 5
ตั วเลือ ก :
1 : 10 00 + 5 00 k W
2 : 1000 + 500 + 200 kW
3 : 1000 + 500 + 50 kW
4 : 1000 + 500 + 200 + 50 kW
ตั วเลือ ก :
1
:
2:
3
:
4
:
ตั วเลือ ก :
1 : ถ้าชุดควบแน่น (Condensing Unit) ตัง้ อยู่บนพื้นดิน ส่วนหน่วยแฟนคอยล์(Fan Coil Unit) แขวนบนชัน้
ที่ 5 ท่อสารทำาความเย็นด้านดูดหรือท่อที่ต่อระหว่างคอมเพรสเซอร์และเครื่องระเหย(Evaporator) ต้องระวัง
เรื่องการกลับของนำ้ามันหล่อลื่น
2 : ท่อสารทำาความเย็นเหลว (Liquid Line) คือ ท่อที่ต่อระหว่างคอมเพรสเซอร์และคอนเดนเซอร์
3 : เครื่องขนาดทำาความเย็น 100 kW ความเสียดทานในท่อสารทำาความเย็นด้านส่งที่ออกจาก
คอมเพรสเซอร์(Discharge Line)เท่ากับ 10 kPa ท่อขนาดและความยาวเดิมนี้ ถ้านำามาใช้กับเครื่องทำาความ
เย็นขนาด 200 kW โดยสภาวะทุกอย่างเหมือนเดิม ความเสียดทานจะเปลี่ยนเป็นประมาณ 20 kPa
4 : ถ้า ชุ ดค วบแน ่น (Co nd en si ng U nit) ตั้ งอยู ่บนพื้นด ิน ส่ วนหน่ว ยแฟน คอยล์ (F an
Co il Un it) แข วนบนชั ้นที่ 3 ท่อส าร ทำา คว ามเย็น ด้ านดู ดหร ือท่อที ่ต ่อร ะห ว่ าง
คอ มเพ รสเซอ ร์ แล ะเค รื ่องร ะเ หย (Ev ap or ator) ส่วนท ี่ออก มา จา กเ คร ื่อง ระ เหย ควร
ออก แบบ ให้เป ็นรูป ตั วยู คว ำ่าลง โ ดย ส่ วนบนต้อง สู งกว ่า คอยล์เ ย็นของหน ่วยแ ฟนคอยล ์
เพื่อ ไม ่ใ ห้ขอ งเหลวไหล โดยน ำ้าห นัก หร ือแ รง โน้ม ถ่ วงกล ับเข้ าด ้านด ูด ของ
คอ มเพ รสเซอ ร์ ขณะ ที่ คอม เพร สเซอ ร์หย ุดท ำางาน
ตั วเลือ ก :
1 : ใช้เทอร์มอสแตตควบคุมอุณหภูมิโดยการตัดต่อหรือหยุด-เดินพัดลม
2 : ใช้โซลีนอยด์วาล์วควบคุมอัตราไหลของสารทำาความเย็น เช่นในเวลากลางคืนก็ให้อัตราไหลตำ่าลง
3 : ใช้เทอ ร์ มอ สแ ตท ควบ คุ มก าร ตัด ต่อ หร ือหยุ ด-เดิน คอม เพร สเซอร ์
4 : ใช้ Thermostatic Expansion Valve ควบคุมการไหลของสารทำาความเย็นตามภาระความเย็นที่ตู้เย็น
ต้องการ
ตั วเลือ ก :
1 : มอเต อร ์ขับ 25 0 k W และ คอ มเพ รส เซอร์ หม ุน 40 0 รอบ /นาที
2 : มอเตอร์ขับ 125 kW และคอมเพรสเซอร์หมุน 400 รอบ/นาที
3 : มอเตอร์ขับ 62.5 kW และคอมเพรสเซอร์หมุน 400 รอบ/นาที
4 : มอเตอร์ขับ 12.5 kW และคอมเพรสเซอร์หมุน 400 รอบ/นาที
ตั วเลือ ก :
1 : ควา มสา มาร ถใน กา รทำา คว ามเย็นเหล ือปร ะมา ณ 83%
2 : กำาลังขับกลายเป็น 415/380 เท่าของเดิม
3 : ไม่สามารถใช้งาน
4 : ความสามารถในการทำาความเย็นเหลือประมาณ 91%
ตั วเลือ ก :
1 : 81 ลิตร/วินาที
2 : 72 ลิต ร/วิน าที
3 : 48 ลิตร/วินาที
4 : หาไม่ได้ข้อมูลยังไม่พอ หรือไม่มีข้อใดใกล้เคียงเลย
ตั วเลือ ก :
1 : คือค่าการนำาความร้อนของคอนเดนเซอร์อันเกิดจากสิ่งสกปรก
2 : คือค่าความหนาของท่อทองแดงที่จะทำาคอนเดนเซอร์
3 : คือค่าอัตราการเกิดตะไคร่นำ้าและตะกรันด้านนอกของคอนเดนเซอร์
4 : คือ ค่ าค วา มต ้า นทาน ควา มร ้อนอันเ กิด จา กต ะก รัน
ตั วเลือ ก :
1 : 14. 5 ตาร างเ มต ร
2 : 0.015 ตารางเมตร
3 : 49.6 ตารางเมตร
4 : 52.3 ตารางเมตร
คำาถ ามข ้อที ่ 12 7
เครื่องทำาความเย็นขนาด 17.58 kW-R ใช้สารทำาความเย็น R22 อุณหภูมิไอระเหยอยู่ที่ 1.7 deg.C อุณหภูมิ
ควบแน่นที่คอนเดนเซอร์ 48.9 deg.C ท่อระหว่างคอมเพรสเซอร์กับคอนเดนเซอร์มีความยาวรวม 9.14 m
ต้องเลือกใช้ท่อขนาดเท่าใด เมื่อต้องการให้ Pressure Drop ไม่เกิน 41.4 kPa กำาหนดให้ใช้ตารางด้านล่าง
ตั วเลือ ก :
1 : 13 mm
2 : 16 mm
3 : 19 m m
4 : 22 mm
ตั วเลือ ก :
1 : 4.34 kW
2 : 4.5 k W
3 : 4.64 kW
4 : 63 kW
ตั วเลือ ก :
1 : ให้ อุณห ภู มิ อา กา ศที ่ใ ช้ ระ บาย คว าม ร้ อนคงที ่ ถ้ าอุณห ภู มิ อิ่ มต ัว ด้ านดู ดลดลง
ขนา ดค วา มส ามา รถใ นก าร ทำา คว าม เย็นจ ะลดล ง
2 : ให้อุณหภูมิอากาศที่ใช้ระบายความร้อนคงที่ ถ้าอุณหภูมิอิ่มตัวด้านดูดลดลง ขนาดความสามารถในการ
ทำาความเย็นจะเพิ่มขึ้น
3 : ให้อุณหภูมิอากาศที่ใช้ระบายความร้อนลดลง และให้อุณหภูมิอิ่มตัวด้านดูดลดลง ขนาดความสามารถใน
การทำาความเย็นจะลดลง
4 : ให้อุณหภูมิอากาศที่ใช้ระบายความร้อนเพิ่มขึ้น แต่ให้อุณหภูมิอมิ่ ตัวด้านดูดลดลง ขนาดความสามารถใน
การทำาความเย็นจะเพิ่มขึ้น