Professional Documents
Culture Documents
รปท.เตรียมสอบ ภาคซ่อม ห้ามส่งต่อครับ ข้อมูลในนี้อาจผิดพลาดได้
รปท.เตรียมสอบ ภาคซ่อม ห้ามส่งต่อครับ ข้อมูลในนี้อาจผิดพลาดได้
การบ้านกฎหมายระหว่างประเทศข้อ 2
การบ้านกฎหมายระหว่างประเทศข้อ 3
3. รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ออกกฎหมายห้ามการจำาหน่ายกุ้งที่มีขนาดเล็ก เนื่องจากกุ้งขนาดเล็กยังไม่เจริญพันธุ์
อย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันการสูญพันธุ์ของกุ้งที่อาศัยอยู่ในทะเลที่อาจจะถูกจับไปก่อนที่จะเติบโตและขยายพันธุ์
นอกจากนี้สหรัฐยังออกกฎหมายห้ามการนำาเข้ากุ้งที่จับโดยชาวประมงที่ไม่ได้ติดตั้งเครื่องคัดกรองเต่า เพื่อ
ป้องกันการสูญพันธุ์ของเต่าที่อาจจะติดมากับเครื่องมือในการจับกุ้ง คืออวนที่มีตาข่ายถี่ และไม่มีอุปกรณ์คัดกรอง
เต่าดังกล่าว ส่วนทางด้านการประมงและสินค้าอื่นๆ สหรัฐมีกฎหมายต่อต้านการทุ่มตลาด และหากมีสินค้านำาเข้า
ใดที่ถูกสหรัฐอเมริกาพิจารณาว่ามีการทุ่มตลาด ก็จะถูกเรียกเก็บภาษีชดเชยการทุ่มตลาด ส่วนสินค้าที่นำาเข้าตลาด
สหรัฐ หากสหรัฐพบว่ามีการอุดหนุนสินค้าจากประเทศที่ส่งออก ก็จะถูกรัฐบาลสหรัฐเรียกเก็บภาษีชดเชยการ
อุดหนุน การบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐอเมริกาจะมีผลต่อการส่งออกสินค้าของประเทศไทยในกรณีใดบ้าง หาก
ปรากฏว่ากุ้งไทยเป็นสายพันธุ์กุ้งที่มีขนาดเล็กแม้จะเติบโตเต็มที่แล้ว นอกจากนั้นชาวประมงไทยก็ใช้เรือจับกุ้งที่มี
ขนาดเล็ก และไม่มีการติดตั้งเครื่องคัดกรองเต่าแต่ประการใด ส่วนสินค้าต่างๆของไทยก็มีราคาถูกมากเนื่องจาก
ปัจจัยการผลิตของไทยมีต้นทุนที่ตำ่ากว่าทำาให้ราคาของสินค้าที่นำาเข้าตลาดอเมริกาจากไทยมีราคาตำ่ามากด้วย
นอกจากนั้นสินค้าเกษตรไทยยังได้รับการอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทย หากท่านเป็นผูจ้ ัดการบริษัทส่งออก
สินค้าดังกล่าวท่านจะมีวิธีการอย่างไรในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะสามารถส่งสินค้าทั้งหมดเข้าสู่ตลาด
อเมริกาได้ในราคาที่เหมาะสม
(กฎหมายองค์การการค้าโลก องค์การระหว่างประเทศ อำานาจอธิปไตยของรัฐ เขตแดน เขตอำานาจรัฐ
การบังคับใช้กฎหมายภายใน ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายภายในและกฎหมายระหว่างประเทศ
ประกอบหลักเศรษฐศาสตร์ Comparative advantages)
การบ้านกฎหมายระหว่างประเทศข้อ 4
การบ้านกฎหมายระหว่างประเทศข้อ 5
การบ้านกฎหมายระหว่างประเทศข้อ 6
หลักกฎหมาย
มาตรา 7 บุคคลดังต่อไปนี้ย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิด
(4) คนในครอบครัวซึ่งเป็นญาติอยู่ในความอุปการะหรือคนใช้ซึ่งเดินทางจากต่างประเทศมาอยู่กับ
บุคคลใน (1) (2) หรือ (3)
หลักกฎหมาย
1.ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 4 เว้นแต่จะมีบทบัญญัติเป็นอย่างอื่น
(1) คำาฟ้อง ให้เสนอต่อศาลที่จำาเลยมีภูมิลำาเนาอยู่ในเขตศาล หรือต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลไม่ว่าจำาเลย
จะมีภูมิลำาเนาอยู่ในราชอาณาจักรหรือไม่
(2) คำาร้องขอ ให้เสนอต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาล หรือ ต่อศาลที่ผู้ร้องมีภูมิลำาเนาอยู่ในเขตศาล"
มาตรา 4 ทวิ คำาฟ้องเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ หรือสิทธิหรือ ประโยชน์อันเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ให้เสนอต่อ
ศาลที่อสังหาริมทรัพย์ นั้นตั้งอยู่ในเขตศาล ไม่ว่าจำาเลยจะมีภูมิลำาเนาในราชอาณาจักรหรือไม่ หรือต่อศาลที่จำาเลย
มีภูมิลำาเนาอยู่เขตศาล
มาตรา 4 ตรี คำาฟ้องอื่นนอกจากที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 4 ทวิ ซึ่งจำาเลยมิได้มีภูมิลำาเนาอยู่ในราชอาณาจักรและ
มูลคดีมิได้เกิดขึ้นใน ราชอาณาจักร ถ้าโจทก์เป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือมีภูมิลำาเนาอยู่ใน ราชอาณาจักรให้เสนอต่อ
ศาลแพ่งหรือต่อศาลที่โจทก์มีภูมิลำาเนาอยู่ในเขตศาล
คำา ฟ้องตามวรรคหนึ่ง ถ้าจำาเลยมีทรัพย์ที่อาจถูกบังคับคดีได้อยู่ ในราชอาณาจักร ไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราวหรือ
ถาวรโจทก์จะเสนอคำาฟ้องต่อศาลที่ทรัพย์สินนั้นอยู่ในเขตศาลก็ได้
มาตรา 4 จัตวา คำาร้องขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ให้เสนอต่อศาลที่ เจ้ามรดกมีภูมิลำาเนาอยู่ในเขตศาลในขณะถึงแก่
ความตาย ในกรณีทเี่ จ้ามรดกไม่มีภมู ิลำาเนาอยู่ในราชอาณาจักร ให้เสนอต่อ ศาลที่ทรัพย์มรดกอยู่ในเขตศาล
มาตรา 4 เบญจ คำา ร้องขอเบิกถอนมติของที่ประชุมหรือที่ประชุม ใหญ่ของนิติบุคคล คำา ร้องขอเลิกนิติบุคคล
คำา ร้องขอตั้งหรือ ถอนผู้ ชำา ระ บัญชี ข องนิติบุค คล หรือคำา ร้องขออื่ นใดเกี่ยวกับ นิติบุค คล ให้เ สนอ ต่อศาลที่
นิติบุคคลนั้นมีสำานักงานแห่งใหญ่อยู่ในเขตศาล
มาตรา 4 ฉ คำาร้องขอเกี่ยวกับทรัพย์สินที่อยู่ในราชอาณาจักรก็ดี คำาร้องขอที่หากศาลมีคำาสั่งตามคำาร้องขอนั้นจะ
เป็นผลให้ต้องจัดการ หรือเลิกจัดการทรัพย์สินที่อยู่ในราชอาณาจักรก็ดี ซึ่งมูลคดีมิได้เกิดขึ้น ในราชอาณาจักร
และผู้ร้องไม่มีภูมิลำาเนาอยู่ในราชอาณาจักร ให้เสนอต่อ ศาลที่ทรัพย์สินดังกล่าวอยู่ในเขตศาล"
2. พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
“คนต่างด้าว” หมายความว่า
(๑) บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
(๒) นิติบุคคลซึ่งไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย
(๓) นิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย และมีลักษณะดังต่อไปนี้
(ก) นิติบุคคล ซึง่ มีหุ้นอันเป็นทุนตั้งแต่กึ่งหนึ่งของนิติบุคคลนั้นถือโดยบุคคลตาม (๑)
หรือ (๒) หรือนิติบุคคลซึ่งมีบุคคลตาม (๑) หรือ (๒) ลงทุนมีมูลค่าตั้งแต่กึ่งหนึ่งของทุนทั้งหมดใน
นิติบุคคลนั้น
(ข) ห้างหุ้นส่วนจำากัดหรือห้างหุ้นส่วนสามัญ ที่จดทะเบียน ซึ่งหุ้นส่วนผู้จัดการหรือผู้
จัดการเป็นบุคคลตาม (๑)
(๔) นิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย ซึง่ มีหุ้นอันเป็นทุนตั้งแต่กึ่งหนึ่งของนิตบิ ุคคล
นั้นถือโดยบุคคลตาม (๑) (๒) หรือ (๓) หรือนิติบุคคลซึ่งมีบุคคลตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ลงทุนมีมูลค่า
ตั้งแต่กึ่งหนึ่งของทุนทั้งหมดในนิติบุคคลนั้น
เพื่อประโยชน์แห่งคำานิยามนี้ให้ถือว่าหุ้นของบริษัทจำากัดที่มีใบหุ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถือเป็นหุ้น
ของคนต่างด้าว เว้นแต่จะได้มีกฎกระทรวงกำาหนดไว้เป็นอย่างอื่น
“ทุน” หมายความว่า ทุนจดทะเบียนของบริษัทจำากัด หรือทุนชำาระแล้วของบริษัทมหาชนจำากัด
หรือเงินที่ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือสมาชิกนำามาลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคลนั้น
“ทุนขั้นตำ่า” หมายความว่า ทุนของคนต่างด้าวในกรณีที่คนต่างด้าวเป็นนิติบุคคลซึ่ง จด
ทะเบียนในประเทศไทย และในกรณีที่คนต่างด้าวเป็นนิติบุคคลซึ่งไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย หรือเป็น
บุคคลธรรมดาให้หมายถึงเงินตราต่างประเทศที่คนต่างด้าวนำามาใช้เมื่อเริ่มต้นประกอบธุรกิจในประเทศไทย
“ธุรกิจ” หมายความว่า การประกอบกิจการในทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม หัตถกรรม
พาณิชยกรรม การบริการ หรือกิจการอย่างอื่น อันเป็นการค้า
……………………….
พระราชบัญญัติกฎหมายขัดกัน พ.ศ. 2481 มาตรา 15 หนี้ซึ่งเกิดจากการละเมิด ให้บังคับตามกฎหมาย
แห่งถิ่นที่ข้อเท็จจริงซึ่งทำาให้เป็นการละเมิดนั้นได้เกิดขึ้น
รวมปัญหาที่นักศึกษายังไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิด
1. หลักอำานาจอธิปไตยเด็ดขาดเหนือเขตแดนนั้นมีมูลฐานมาจากหลักดินแดนเท่านั้น ส่วนหลักอื่นๆ
ล้วนแต่เกิดจากการที่รัฐขยายอำานาจรัฐไปใช้นอกดิ นแดน โดยอาศัยจุดเกาะเกี่ยวที่ทำาให้รัฐมีอธิปไตย ไป
เกี่ยวข้อง เช่น หลักสัญชาติ หลักป้องกัน หลักผู้กระทำา หลักผู้ถูกกระทำา หลักผลของการกระทำา จะเห็น
ได้ว่าทุกหลักเหล่านี้ขยายอำานาจรัฐไปบังคับกับเหตุการรณ์ที่เกิดขึ้นนอกเขตแดนทั้งสิ้น ดังนั้นหลัก
สัญชาติ หลักผู้กระทำา หลักผู้ถูกกระทำา หลักผลของการกระทำาล้วนแล้วแต่เกิดนอกดินแดนของรัฐทั้งสิ้น
เพราะหากเกิดในเขตแดนแล้วเพียงใช้หลักดินแดนก็เพียงพอแล้ว เพราะเหตุ การณ์ใดๆ การกระทำาใด
บุคคลใด สิ่งของใด ที่อยู่ภายในขอบเขตของเขตแดน ย่อมอยู่ภายใต้อธิปไตยของดินแดนนั้น รวมไปถึง
เรื่อง เรือ หรือ อากาศยาน ทีข่ ยายเขตอำานาจรัฐไปยังเรือ หรือ อากาศยานที่อยู่ที่ใดๆนอกเขตแดน โดย
อาศัยสัญชาติมาเป็นจุดเกาะเกี่ยว เพราะว่าเรือ หรือ อากาศยานนั้นๆ อยู่นอกเขตแดน หรือ อาณาจักร ทั้ง
สิ้น หาก เรือ หรือ อากาศยาน อยู่ภายในเขตแดน ย่อมไม่ต้องอาศัยสัญชาติของเรือ หรือ อากาศยานนั้นๆ
เพราะอยู่ในดินแดนรัฐนั้นๆ อยู่แล้วสามารถอ้างเอาหลักดินแดนได้เลย และ นี่คือ ความสำาคัญของ
เขตแดน เพราะเป็นขอบเขตของการใช้อำานาจอธิปไตยเด็ดขาดเหนือเขตแดนของรัฐ การที่จะต้องอาศัย
สัญชาติ ของเรือ หรือ สัญชาติอากาศยานก็เพราะว่า เรือ และ อากาศยานนั้น อยู่นอกเขตแดน นั่นเอง
2. มาตรา 7 ทวิ และ มาตรา 8 บิดา มารดา ทั้งสองกรณีตอ้ งเป็นต่างด้าวทั้งคู่ หากกรณีใด ทีม่ ี บิดา
หรือ มารดา เป็นไทยเสียแล้ว มาตรา 7 ทวิ และ มาตรา 8 ก็ไม่ต้องพิจารณาเลย
3. คนในครอบครัว และ คนรับใช้ตามมาตรา 8 (4) นัน้ แม้เป็นคนใช้ก็ต้องเป็นคนใช้ในฐานะที่
เป็นบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูตเท่านั้น กล่าว คือ แม้เป็นคนใช้ หรือ คนในครอบครัวก็ตอ้ งเป็น
บุคคลที่รัฐผู้ส่งแจ้งการมา และ การกลับของคนใช้ และ คนในครอบครัว ด้วย มาตรา 8(4) จึงไม่รวม
คนใช้ทูต คนใช้กงสุล คนใช้คนทำางานในองค์การระหว่างประเทศ ที่เป็นคนชาติในรัฐผู้รับ หรือ แม้เป็น
คนใช้ทเี่ ดินทางมาจากต่างประเทศก็ตาม แต่ หากไม่ได้เป็นบุคคลในคณะทูต ก็ไม่ใช่บุคคลตามมาตรา
8(4)
4. คนไร้สัญชาติ ไม่ใช่บุคคลในมาตรา 7 ทวิ แต่หากคนไร้สัญชาติ มีคุณสมบัติตาม 7 ทวิด้วยจึง
ถือว่าเป็นบุคคลตามมาตรา 7 ทวิ
5. คนต่างด้าวที่แปลงชาติเป็นไทย หากมีบุตร บุตรทีเ่ กิดมาย่อมได้สัญชาติไทยตามหลักสืบสาย
โลหิตได้ แม้เกิดนอกราชอาณาจักรไทย
6. กฎหมายสนธิสัญญา และ กฎหมายทะเลล้วนเป็นกฎหมายที่วิวัฒนาการมาจาก กฎหมายจารีต
ประเพณีระหว่างประเทศทั้งสิ้น ส่วนในสนธิสัญญาว่าด้วยกฎหมายทะเล และ ว่าด้วยสนธิสัญญา ก็
เป็นการประมวลกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศมาเป็นลายลักษณ์อักษร
7. เขตเศรษฐกิจจำาเพาะก็เป็นหลักที่วิวัฒนาการมาจากกฎหมายจารีตประเพณี และ ทางปฏิบัติ
แนวตอบ
หลักกฎหมาย
1. การยุติข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศโดยวิธีอนุญาโตตุลาการเป็นไปตามหลักกฎหมายของ
การอนุญาโตตุลาการดังนี้
1. การนำาข้อพิพาทเสนอต่ออนุญาโตตุลาการเพื่อการระงับข้อพิพาทนั้น เป็นลักษณะของความสมัคร
ใจทีจ่ ะใช้อนุญาโตตุลาการ วิธีการดังกล่าวเป็นผลของความยินยอมของฝ่ายที่พิพาทกัน โดยการแสดงความ
ยินยอมที่ต้องมีลักษณะที่ชัดเจนและแน่นอนที่ก่อให้เกิดพันธกรณีระหว่างคู่พิพาทอย่างแท้จริง
3. อนุญาโตตุลาการภาคบังคับ
1) รูปแบบของการแสดงเจตนาให้ใช้อนุญาโตตุลาการภาคบังคับ อนุญาโตตุลาการประเภทนี้เกิดจาก
การยอมรับล่วงหน้าก่อนจะมีข้อพิพาท อันเป็นผลจากการตกลงกันล่วงหน้าในสัญญา และทำาให้สามารถเริ่ม
กระบวนการได้โดยการกระทำาฝ่ายเดียวของฝ่ายที่พิพาทกัน อย่างไรก็ดีในทางปฏิบัติแล้ว ก็มักจะมีการทำาข้อตกลง
แห่งการอนุญาโตตุลาการขึ้นเพื่อระบุกระบวนการและวัตถุที่ประสงค์ให้ชัดเจน รวมไปถึงเพื่อการยืนยันลักษณะ
บังคับของการอนุญาโตตุลาการด้วย
2) การตกลงให้มีการอนุญาโตตุลาการหลังจากเกิดข้อพิพาทแล้ว เป็นการแสดงเจตนารมณ์ของคู่
พิพาทว่าจะนำาข้อพิพาทสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ หลังจากเกิดข้อพิพาทแล้ว (Submission to
arbitration)
ยิ่งกว่านั้นในสนธิสัญญาที่ทำากันระหว่างรัฐ เช่นในความตกลงการค้าเสรี อาจจะกำาหนดกลไกการยุติข้อ
พิพาท ระหว่างรัฐกับเอกชนได้ โดยอาจมีการบัญญัติข้อบททั้งสองประเภทไว้ด้วยกัน เช่น ในสนธิสัญญาทวิภาคี
ว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมการลงทุนต่างชาติ กล่าวคือใช้ข้อบทพิเศษสำาหรับข้อพิพาทระดับรัฐบาล และข้อ
บททั่วไปสำาหรับข้อพิพาทระหว่างรัฐผู้รับการลงทุนกับนักลงทุนเอกชนต่างชาติ
3) เทคนิคของการทำาสนธิสัญญาแห่งการอนุญาโตตุลาการ การแสดงเจตนาในสนธิสัญญาที่มุ่งให้มี
การใช้อนุญาโตตุลาการมีผลทางกฎหมายที่กว้างกว่าโดยเกี่ยวพันกับข้อพิพาทที่มีลักษณะกว้างกว่าเทคนิคก่อน
หน้านี้ ส่วนมากเป็นผลของสนธิสัญญาทวิภาคี
4) ขอบเขตการใช้ของการอนุญาโตตุลาการ อนุญาโตตุลาการอาจใช้ได้กับข้อพิพาททุกประเภทซึ่ง
ฝ่ายที่พิพาทกันต้องการ แต่ข้อพิพาทนั้นต้องเป็นข้อพิพาท ที่อาจจะตกลงกันระหว่างคู่พิพาทได้ หากเป็นข้อพิพาท
ที่ไม่อาจจะตกลงกันอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย หรือ ที่เป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ เช่น เกี่ยวกับ
6. อำานาจขององค์กรอนุญาโตตุลาการ
1) อำานาจในการกำาหนดเขตอำานาจของอนุญาโตตุลาการอำานาจขององค์กรเกิดจากข้อตกลง
ยกเว้นอาจให้อนุญาโตตุลาการวางกฎเกณฑ์แห่งกฎหมายที่ใช้บังคับในอนาคต โดยมุ่งป้องกันการ
ค้นพบข้อเท็จจริงใหม่ที่ยังไม่เป็นที่ล่วงรู้ในขณะที่มีการทำาคำาชี้ขาดซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อ
คำาชีข้ าด สำาหรับการอุทธรณ์หรือการโต้แย้งเพื่อให้เปลี่ยนแปลงคำาชีข้ าดอาจเกิดขึ้นได้เมื่อพิจารณาคำาชี้ขาดใน
ฐานะเป็นนิติกรรมซึ่งความสมบูรณ์ย่อมตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย
เพราะฉะนั้นฝ่ายที่พิพาทอาจยกอ้างความไม่สมบูรณ์ขึ้นกล่าวคือ การเป็นโมฆะของข้อตกลงแห่ง
อนุญาโตตุลาการ และการใช้อำานาจเกินขอบเขตโดยอนุญาโตตุลาการอันสืบเนื่องจากการไม่เคารพเงื่อนไขในข้อ
ตกลงแห่งอนุญาโตตุลาการ เช่น การตัดสินปัญหาที่มิได้กำาหนดไว้ในข้อตกลง หรือมิได้ใช้กฎหมายที่ระบุให้ใช้
บังคับ หรือการละเมิดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการพิจารณาคดี และเหตุที่ทำาให้คำาชี้ขาดเป็นโมฆะอีกประเภทหนึ่งคือ
การทุจริตประพฤติมชิ อบของอนุญาโตตุลาการ
มีการรวบรวมกม.ประเพณีรปท.การฑูตให้อยู่ในรูปอนุสัญญา เพื่อให้ชัดเจนแน่นอนกว่าในรูปกม.ไม่ลาย
ลักษณ์(จารีต) ปัจจุบันคกก.กม.รปท.ได้รวบรวมทางปฏิบัติ จารีตฯ สำาเร็จลง ในรูป อนุสญกรุงเวียนนาฑูต
๑๙๖๑ เปิดให้มีการลงนามหลายปท.เป็นภาคีอนุสญฉบับนี้รวมปท.ไทยด้วย ได้ตรากม.ภายใน พรบ.อนุวัติการ
อนุสญ.นี้แล้วเมื่อปี ๒๗ สถานะของอนุสญกรุงเวียนนาฑูตฯ มีสองสถานะ ๑.จารีตฯ ผูกพันทุกรัฐ เป็นจารีตฯ
ระดับสากลไม่ใช่ภูมิภาคจึงผูกพันทุกรัฐเลย ไม่ว่าเกิดก่อนหรือหลัง ๒.คืออนุสญ ผูกพันเฉพาะรัฐภาคีของ
อนุสัญญา
ในชั้ น เอกอัค ร หรือ อัค ร เป็ น การแต่ง ตั้ง ระหว่ า งประมุ ข ไปประมุ ข ส่ ว นรัฐ ฑู ต เป็ นจาก รมต.ตปท. ไป
รมต.ตปท.
รัฐผูส้ งมีอำานาจสละความคุ้มกัน
ตามขอบข่ายอำานาจคือองคืการที่มีอำานาจเหนือรัฐ และที่ไม่มีอำานาจเหนือรัฐ
การระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีเป็นพันธะกรณีทุกปท.เลือกก่อนโดยคำานึงเสรีภาพของรัฐในการเลือกวิธีการระงับ
ข้อพิพาทอย่างสันติวิธี ส่วนการระงับข้อพิพาททางการเมืองเป็นระหว่างรัฐ คือรัฐต่อรัฐจะนำามาซึ่งการระงับข้อ
พิพาทด้วยกันเองหรือมีรัฐอื่นมาเกี่ยว กับการระงับโดยผ่านองค์การ รปท.
อาจเป็นทวิภาคี หรือพหุภาคีเจรจา
ในกรณีของคณะมนตรีฯ รัฐภาคีสมาชิกร้องขอให้คม.ตรวจสอบหรือมีอำานาจผ่านทางสมัชชาใหญ่หรือเลขาธิการ
สหประชาชาติก็เป็นกลไกในการมีสิทธิร้องขอ ผลของการร้องขอ นำาเรื่องขึ้น คม. เพื่อตรวจสอบดูสถานการณ์
ก่อนที่จะมีผลก็อาจมีคำาสั่งชั่วคราว หลังเข้าไปตรวจสอบแล้วมีผลสองประการคือยันยัน หรือตกไป แต่หากมูล
การร้องขอจริงก็ดำาเนินการต่อไปในขั้นของการ boycott sanction หรือตักเตือน ขอให้ยุติการกระ
ทำาที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสันติภาพของโลก อาจเพิ่มระดับจนถึงขั้นใช้กองกำาลังสหประชาชาติ เป็นกลไกที่เราอาจต้อง
เข้าไปเกี่ยวข้องหากระดับความร้อนแรงไม่ลดลง เลย ก่อนสู่ขั้นศาล
แต่ละศาลก็กำาหนดไว้ในตราศาลธรรมนูญที่กอตั้งเอง
ศาลอาญารปท.มีวิวัฒนาการมาหลังสงครามจากความโหดร้ายทารุนตระหนักกันว่าควรมีศาลมาดำา เนินคดีใน
อาชญากรรมที่โหดร้าย เขตอำานาจของศาลอาญาฯแบ่งเป็นทางด้านเวลา ภูมิศาสตร์ และสารัตถะ ที่สำาคัญในเรื่อง
อาชญากรรมไม่ใช่ทุกชนิดที่สามมารถนำาขึ้นศาลอาญารปท.ต้องเป็นอาชญากรรมเฉพาะที่กน.ไว้ในธรรมนูญ
เท่านั้น และศาลอาญารปท.เป็นเพียงหลักการเสริมเขตอำานาจศาลภายในเป็นเรื่องขอความร่วมมือของรัฐต่อศาล
อาญารปท.มีกลไกพัฒนากมงช่วยให้ผู้กระทำา ความผิดต้องรับโทษ เกิดจากความโหดร้ายทารุนของอาชญากร
รมรปท.ใต้สงคราม เดิมทีมีศาลเฉพาะกิจ ได้แก่ศาลทหารรปท. พิพากษาอาชญากรสงคราม ต่อมาธรรมนูญกรุง
โรมได้จัดตั้งศาลอาญารปท.ขึ้นเริ่มจากสหประชาติ ศาลอาญาฯ เป็นองค์กรอิสระไม่ขึ้นกับ un เลยแต่ก็สัมพัน์
กัน สหประชาชาติมีสว่นนำาคดีขึ้นศาลอาญารปท.แต่ศาลฯไม่ได้คุมโดย uj
ด้านเวลาจำากัดเฉพาะอาชญากรรมหลังการบังคบใช้ธรรมนูญศาล ด้านสถานที่คือขอบเขตอำานาจเหนือเขตแดนใด
บ้างดูช่องทาง คมนตรีun ส่งเรื่องหรืออัยการหรือรัฐภาคีดำาเนินการเอง ด้านสาระต้องเป็นอาชญากรรมร้ายแรง
การกำา หนดเขตอำา นาจฯ กน.ไว้ในธรรมนูญฯ มีการแก้ไขปห.ของศาลยุตธรรมรปท. กำา หนดว่ารัฐสมาชิกจะ
กำาหนดข้อสงวนไม่ได้ ทุกรัฐสมาชิกต้องยอมรับเขตอำานาจศาลไม่เหมือนกับศาลยุติธรรมรปท นอกจากนั้นรัฐที่
มิใช่ภาคีก็ยอมรับได้
ศาลอาญาฯ มีการพัฒนาระบบศาลทำาให้ทุกปท.นั้นซึ่งจะเคยมีปัญหาเร่องการลงโทษผู้กระทำาความผิดโดยไม่อาจ
มีศาลใดลงโทษได้ เมื่อมีกลไกศาลอาญาฯ ช่วยให้ปห.หมดสิ้นไป อย่างไรก็ตามปัญหาการจัดต้งศาลอาญารปท.
ไม่หมดสิ้นไป ในไทยนั้น เป็นปท.ที่ได้รับรองธรรมนูญกรุงโรม แต่ยังไม่ได้ให้สัตยาบันด้ว ย มีปห.คือเรามี
พันธกรณีกับสหรัฐอเมริกา ไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดงมันขัดกัน เพราะรัฐสมาชิกของศาลอาญาฯต้องให้ความรวมมือ
โดยไม่มีข้อสงวนขณะเดียวกันเรามีพันธะกรณีกับสหรัฐอเมริกาไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนขึ้นศาล ยังมีปห.ทางเทคนิต
โทษทางอาญาของปอ.ไทยสูงกว่าศาลอายารปท. และโทษความผิดของศาลอาญาฯ ไม่ใช่โทษทางอาญของศาล
ไทยเรา
ขยายอำานาจสมัชชาญ
ปรับใช้เฉพาะภาวะเกิดสงคราม
ทะเลอาณาเขตเป็นหลักดินแดน
ทะเลหลวงทำาบนเรือหรือทำาในทะเล ต้องให้ความสนใจในรายละเอียดเป็นพิเศษ
จากบอร์ดตอนท้าย
เขตแดน เขตอำานาจรัฐ
ต่อไปดูอปก.ของดินแดน ประกอบด้วยสามส่วน ดิน นำ้า อากาศ ส่วนที่เป็นแผ่นดิน คือ เขตแดน ดินแดน พื้นนำ้า
ใต้ผิวดิน ส่วนที่เป็นพื้นนำ้า มีแม่นำ้าลำาคลองหนองบึงทะเลสาบในดินแดน เลยออกไปเป็นทะเลอาณาเขต คำา ว่า
ทะเลอาณาเขตต่างจากเขตทางทะเล ทะเลอาณาเขตคืออาณาเขตของรัฐที่ล่วงออกไปนอกชายฝั่งเป็นอาณาเขตของ
รัฐที่อยู่ในทะเล ก็คือ ถัดจากเส้นฐานไป ๑๒ ไมล์ทะเล ถ้าเราดูชายฝั่งหน้าตัด เวลานำ้าขึ้นก็จะถึงระดับนึง เวลานำ้า
ลดก็ระดับนึง จะมีความต่างกันเท่านี้ เวลาจะกำาหนดจุดเพื่อลากเส้นฐานในทางกม.ทะเลจะใช้จุดนำ้าลดตำ่าสุดซึ่ง
เป็น average อาจเป็นร้อยปี สมมติได้จุดนำ้าลดตำ่าสุดแล้ว แล้วก็ลากเรียบชายฝั่ง มองจากบนอากาศฝั่งเป็น
แบบนี้ นำ้าขึ้นสูงสุดตรงนี้ ลดตำ่าสุดตรงนี้ นึกออกไหม นี่คือหาด เสร็จแล้วจุดนี้ก็ลาดเส้นฐาน จากเส้นฐานกลาก
ออกไป สิบสองไมล์ อันนี้คือทะเลาอณาเขต ขนานกับชายฝั่ง สิบสองไมล์ทะเล อันนี้คือเขตนอกสุดของอาณาเขต
แต่เนื่องจากอยู่ในทะเล เลยเรียกว่าทะเลอาณาเขต teriterial sea แต่หลังจากนั้นรัฐอาจมีบางปท.มี
ไหล่ท วี ป มี เ ขตเศรษฐกิจ จำา เพาะสองร้อ ยไมล์ ท ะเล อั น นี้ เ ป็ น eez (exclusive economic
zone) สองร้อยวัดจากฝั่ง ตัวมันเท่ากับ ๑๘๘ ไมล์ ตรงนี้อาจมีเขตประมง เขตต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้เรียกว่า
maritime zone หรือ เขตทางทะเล ก็คือเขตแต่ละเขตทางทะเล ไม่ใช่อาณาเขต เพราะงั้น อาณาเขต
กับเขตทางทะเลไม่เหมือนกัน อาณาเขตทางทะเลหรือทะเลอาณาเขตเท่านั้นจึงมีอำานาจอธิปไตยเด็ดขาด แต่หลัง
จากนั้นมีแค่เพียง “สิทธิอธิปไตย” ส่วนของสิทธิอธิปไตยเกิดตามกม.จารีตประเพณีระหว่างประเทศในฐานะเขต
เหล่านี้อยู่ประชิดชายฝั่ง งั้นรัฐชายฝั่งก็มีสิทธิอธิปไตยเหนือเขตดังกล่าวที่เรียกร้อง บางปท.ก็ได้ บางปท.ก็ไม่ได้
อย่า งปท.ไทยเราจะเรียกร้องเขตเศรษฐกิจจำา เพาะสองร้อยไมล์ทะเล ไม่ ได้ เพราะเรียกร้องไปทางใต้ไปชน
มาเลเซีย ทางตะวันออกชนเขมรเวียดนาม ทางตะวันตกก็ไปขนกันพม่า อินเดีย เพราะดันมีเกาะนิโคบา มีรมฝั่ง
ทะเลอั น ดามั น ทำา ให้ เ กิ ด ทะเลอาณาเขต ปท.ไทยเลยไม่ ย อมรั บ (unclos) united nation
convention on the law of the sea อนุสญ กม.ทะเลแห่งสหประชาชาติ เพราะมัน
กำาหนดเขตเศรษฐกิจจำาเพาะ เมื่อไทยเราไม่มีก็ไม่ยอมรับของคนอื่นเราจะได้จับปลาไปทั่วโลก
ทีนี้ น่า นนำ้า ภายในถ้า เป็น แผ่ นดิ น ก็ป ก.ด้ว ยทะเลสาบแม่ นำ้า ลำา คลองในแผ่ น ดิ นทั้ ง หมด เป็ นน่ า นนำ้า ภายใน
state land ต่อไปแมนำ้า แม่นำ้ามีหลายชนิด แม่นำ้าทั้งสาย อยู่ปท.เดียว ก็เป็นดินแดนของปท.นั้นเลย เป็น
แม่นำ้าของปท.นั้น แต่ถ้า แม่นำ้าแบ่งแยกดินแดนเรียก boundery river แม่นำ้าแบ่งอาณาเขต ใช้ร่องนำ้า
ลึก อาจมีแม่นำ้าผ่านหลายปท. Multinational rivers ผ่านสองปท.ขึ้นไป บางสาย นอกจากผ่าน
หลายปท.ยงออกสู่ทะเลหลวงได้ใช้เดินเรือได้ เรียก international river เพราะมีเดินเรือได้ ต้อง
อนุญาตให้หลายปท.เดินเรือผ่านได้ ตอนนี้แม่นำ้าโขงเราก็กำาลังมีปัญหาเพราะมาจากจีน ทีนี้ผ่านจีนด้วย ตั้งเขื่อน
กักนำ้าไว้ที่จีน นำ้าโขงเลยแห้ง อันนี้ผิดหลักกม.เพราะกม.ภายในของเรานำ้าต้องปล่อยจากที่สูงลงที่ตำ่า ใครกักไว้ไม่
ได้ แม่นำ้าโขงมีปห.มากพอจีนปิดเขื่อนนำ้าแห้ง พอหน้านำ้าจีนเปิดนำ้าท่วมชายฝั่ง
ช่ องแคบก็มี ทั้ง ระหว่ า งปท.ที่กั้ นระหว่ า งรัฐ ชายฝั่ งสองรั ฐ กั บช่ องแคบในปท.เดียวกัน อำา นาจอธิ ปไตยใน
ช่องแคบ ถ้ากั้นรปท.มีปห.การเดินเรือแต่จารีตให้ innocent passage ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
เพื่อปย.ทางการค้า ไม่มีสิทธิไปยับยั้งการเดินผ่านโดยสุจริตของการเดินเรือต่างชาติ
คำา ว่ า corpus หมายถึ ง ตั ว ร่ า งตั ว แก่ น ของมั น หรื อ ตั ว โครงร่ า งของสั ญ ญา มี ก ารแสดงเจตจำา นง มี
taking possession จำา ไปใช้ได้ แล้วก็การละทิ้งต้องเป็น actual abandonment
มีเจตนาสละอำานาจอธิปไตย แต่ถ้าถอยไปชัว่ คราวไม่ใช่
อำา นาจรั ฐ แนวคิ ดเขตอำา นาจ รั ฐ คื อ รั ฐ มี แ ค่ ไ หน อำา นาจอธิ ป ไตยก็ มี แ ค่ นั้ น มี มู ล ฐานหลั ก ดิ น แดน สช ผู้ ถู
กกท.ป้องกั น สากล อำา นาจรัฐคื ออำา นาจอธิปไตยของรัฐ ในการควบคุ ม ความประพฤติข อง บุค คลกิจ กรรม
ทรัพย์สินเหตุการณ์แบ่งเป็น อานาจในการสร้างหรือบญกม. อำานาจในการพิจารณาพิพากษาคดี อำานาจในการ
บังคับการตามกม. อันนี้เรียกว่า เป็น substantive jurisdiction เป็นเขตอำานาจรัฐโดยเนื้อหา
สาระต้อ งรู้ เ ลย บางที ค นบางคนอยู่ ใ นตำา แหน่ ง ไม่ รู้ว่ า เขตอำา นาจรัฐ มี ห ลายอย่ า งเป็ น substantive
jurisdiction เ ข ต อำา น า จ รั ฐ ใ น แ ง่ ส า รั ต ถ ะ ส่ ว น ตั ว ข อ ง แ ข อ บ เ ข ต เ ป็ น territorial
jurisdiction
หลัก๑ หลักดินแดน นศ.เข้าใจมาทราบซี่งว่ารัฐย่อมมีอำานาจอธิปไตยเหนือดินแดนไม่ว่าอะไรก็อยู่ในดินแดนรัฐ
ใดย่อมอยู่ในเขตอำานาจรัฐนั้นตามหลักดินแดน ประเด็นหลักดินแดนคือดินแดนนั้นมันแค่ไหน ตรงไหนใช่ไม่ใช่
เริ่มต้องสังเกต นึกถึงการบ้านที่ให้ไว้ด้วย อย่างเช่นทำาความผิดในดินแดน ตรงไหนเป็นดินแดน แค่ไหนเป็นดิน
แดน คือส่วนตรงไหนถ้าทำาบนเรือ ทำาบนอากาศยาน อากาศยานและเรือจอดที่ไหน ถ้าจอดอยู่ที่แหลมฉบัง อันนี้
หลักอะไร? หลักดินแดน ไม่ต้องไปคิดถึงเรือ จะใช้การขยายดินแดนโดยอาศัยสัญาติเป็นจุดเกาะเกี่ยวเมื่อเรือ
หรืออากาศยานไม่ได้อยู่ในดินแดนเหมือนตอนเรียนอาญา ๑ การกทความผิดบนเรือไทยหรืออากาศยานใดไม่ว่า
จอด ณ ที่ใด... เพราะงั้นถ้ากระทำา ความผิดบนเรือสิงคโปร์ที่จอดที่คลองเตยถือ่าทำา ความผิดในดินแดนของ
ประเทศอะไร ประเทศไทยเพราะเรือสิงคโปรืจอดในประเทศไทยส่วนว่าสิงคโปร์จมีอำานาจรัฐอาศัยหลักสช.มา
เกาะก็ป็นเรื่องของสิงคโปร์แต่ไม่ใช่กระทำา บนดินแดนสิงคโปร์เพราะเรือหรืออากาศยานไม่ใช่ดินแดน แต่ให้
ถือว่าเป็นดินแดน เช่นเดียวกับกระทำา ควาผิดในสถานฑูต ถือว่าทำา ความผิดที่ไหน เอาวุ้นเส้นมาตีเลย... ส่วน
สถานฑูตได้รับเอกสิทธิความคุ้ม กันเฉพาะทางการฑูต ตัวสถานฑูตย่อมเป็นดินแดนไทยใครเกิดในสถานฑู
ตอังกฤษถเป็นการเกิดในราชอาณาจักรไทย ทีน้ถ้าทำาความผิดบนเรือไทยที่จอดในทะเลหลวงล่ะ ? เพราะเรือไทย
ไม่ ว่ า จอด ณ ที่ ใ ด ให้ ถื อ่ า กระทำา ความผิ ด ในราชอาณจั ก ร แต่ ถ้ า ทำา ความผิ ด ในทะเลหลวง เป็ น ไง???
ทะเลหลวงเป็นเขตแดนปท.ใดไม่มี ต้องทำาไง? หา? เอาเรือไปจับได้ไหม? ได้ไม่ได้? อย่าลืมนา อ.อุตส่าห์
บอกว่าให้กระโดดลงไปแทงในนำ้า ดูให้ดี ๆ เอาล่ะ ประเด็นคือดินแดนอยู่แค่ไหน นายตูรู้ดชาวฝรั่งเศสจีเ้ ครื่องบิน
สวิส ที่บินเหนือน่านฟ้าเวียดนาม แล้วฆ่านายฟิลลิปส์ ชาวอเมริกัน และนางสาวมิชิโกะชาวญี่ปุ่น แล้วก็เอาเครื่อง
บินร่อนลงไปจอดที่อุลานบาตอร์ ถามว่า ประเทศไทยมีเขตอำานาจเหนือคดีนี้ไหม?
วันท่บ
ี รรยายไม่แน่ใจนะครับ ประมาณ ๓ ชม.
ข้อต่อไปข้อท่ี๓ แต่ไม่ตรงกับโจทย์ โจทย์เป็ นข้อท่ี ๔ ในเร่ ืองของ การรับผิดชอบ
ของรัฐ นศ.ต้องเข้าใจโดยภาพรวมว่า ความรับผิดชอบของรัฐเป็ นกลไกหน่ึงของ
การบังคับการให้เป็ นไปตามกม.รปท. อย่างท่ีเราทราบกันแล้วว่า กม.รปท.ไม่มี
องค์กรเหนือรัฐ ไม่มีศาลโลกในความหมายอย่างศาลภายในประเทศ ไม่มีตำารวจ
โลกไม่มีฝ่ายราชฑัณฑ์โลก เพราะงัน ้ เวลา กม.รปท.จะได้รับการปฏิบัติหรือ
บังคับการให้เป็ นไปตามกม.รปท.จึงขึ้นกับกลไกเจตจำานงของรัฐ อันนีส ้ ำาคัญ
ท่ีสุด คือเจตจำานงของรัฐสมัครใจจะผูกพันตามกม.รปท.
เร่ิมตัง้แต่ขัน
้ ท่ี ๑ คือปฏิบัติเองไม่ต้องมีใครมาบังคับ รู้ว่า กม.รปท.มีพันธะมี
กรอบมีเกณฑ์มีกฎระเบียบอะไร รัฐในประชาคมโลกก็ปฏิบัติไปตามกรอบเกณฑ์
ในการปฏิสัมพันะระหว่างกัน ส่วนใหญ่ในประชาคมโลกเป็ นบ.ภายใต้กม.
รปท.ท่ีเป็ นพลเมืองดีของโลก ก็คือ รัฐส่วนใหญ๋จะปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ขัน
้ ท่ี๒ คือความรับผิดชอบของรัฐ หากรัฐกระทำาการใดท่ีผิดกม.ละเมิดพันธะ
กรณีของกม.รปท.ก่อความเสียหายแก่รัฐอ่ ืน รัฐก็จะเกิดสำานึกแห่งความรนับผิด
ชอบท่ีจะชดเชย เยียวยา แก้ไข ให้รัฐท่ีได้รับความเสียหายกลับคืนสภาพดีดังเดิม
น่คี ือขัน
้ ท่ี๒ น่ีคือกลไกหน่ึงในการบังคับการให้เป็ นไปตามกม.รปท.
นัน
้ คือขัน
้ ๑ คือเจตจำานงอิสระของรัฐ ขัน
้ ๒ คือผ่านกรอบกฎหมายความรับผิด
ชอบของรัฐ
ขัน
้ ท่ี๓ คือการตอบโต้แก้เผ็ดคือ retorsion / reprisol ทัง้สองเป็ นมาตรการ
ตอบโต้การกระทำาท่ีรัฐใดรัฐหน่ึงไปละเมิดรัฐอ่ ืนแล้วรัฐท่ีถูกละเมิดได้มีการบอก
กล่าวให้หยุดการกระทำานัน ้ และก็ให้เขาเยียวยา แต่รัฐท่ีละเมิดเพิกเฉย อีกรัฐ
หน่ึงท่ีเสียหายก็มีสิทธิไปตอบโต้ สองแบบ คือ retorsion (ไม่ใช้กำาลัง เช่น
boycott sanction ไม่ติดต่อทางฑูตไม่คบค้าสมาคม เรียกฑูตกลับ) อีกอัน
คือ reprisol (ใช้กำาลังในสัดส่วนท่ีเหมาะสม ปกติแล้วไม่ชอบด้วยกม.รปท.)
อาจะเร่ิมด้วย ตอบโต้ก่อน(โดยไม่ใช้กำาลัง) หรือไม่กน ็ ำาเข้าสู่ การพิจารณาของ
สหประชาชาติ (peace keeping) หรือจะไปสู่การยุติข้อพิพาทโดยสันติวิธี
ทัง้ทางการฑูต ทางศาล โดยการเจรา จัดเจรจา ไกลเกล่ีย ประนีประนอม นำาขึน ้
อนุญาโตฯ ศาล หรือไม่ก็หน ั ไปเสนอเร่ ืองให้คณะมนตรี UN ดำาเนินการ ใน
ฐานะสมาชิกองค์การสหประชาชาติ เม่ ือคณะมนตรีฯ ให้ความสนใจก็เข้ามาดูแล
ก่อนเข้ามาดูแลก็สามารถออกคำาสัง่ชัว่คราว provisional measure เป็ น
มาตราการชัว่คราวสัง่ให้จำาเลยหยุดการกระทำา จากนัน ้ ก็ไปตรวจสอบ ถ้าไม่เป็ น
ความจริงก็จบ แต่ถ้าจริง ก็นำามาสู่กลไกของ สหประชาชาติในเร่ ืองการ
boycott sanction ถ้าไม่หยุดอีกก็รน ุ แรงไปเรือยๆ
ซ่ึงชัน
้ นี ถ ้ ้ าฝ่ ายท่ีละเมิดไม่ปฏิบัต
เช่ิตนามกลไกยุ
ขึน
้ ติข้อพิพาทโดยส
ศาลแล้วไม่ปฏิบัติตามคำาพิพากษษหรือไม่ปฏิบัติตามคำาชีข้าออนุญาโตฯ หรือ
คณะมนตรีฯ UN มีมติแล้วไม่ปฏิบต ั ิตามมติ ก็จึงก่อให้เกิดสิทธิในการใช้กำาลัง
แก่รัฐท่ีเสียหาย พอมีสิทธิใช้กำาลังก็ต้องต่อไปอีก ... เกิดกฎในการสงคราม jus
in bello แต่ก่อนหน้าสงครามนีเ้ป็ นกฎ jus ad bellum คือฝั่ งไม่ใช่กำาลัง
พอรัฐมีสิทธใช้กำาลังก็ต้องหันมาดู jus in bello ประกอบด้วยกฎหมายหลาย
ชุด ตัง้แต่ กฎหมายอนุสัญญากรุงเจนีวา อนุสัญญากรุงเฮกว่าด้วยการห้ามการ
ใช้กำาลังท่ีผิดกฎหมายมนุษยธรรม เยอะแยะชุดใหญ่เลย เห็นไหมว่าทุกอ่ย่างต่อ
เน่ ืองเช่ ือมโยงไปหมด เป็ นการแสดงภาพให้เห็นว่าจริงๆ กม.รปท.เป็ นส่ิงท่ีเก่ียว
เน่ ืองเช่ ือมโยงกันไปหมด
ว่ากันตัง้แต่ภาคสันติ ไปภาคสงคราม
ในประชาคมโลกจะอยู่กันยังไงก็มาดูเร่ ืองของปั ญหาเขตแดน อำานาจรัฐ
กม.ทะเล ขอบเขตของทะเล
ปท.ต้องปฏิบัติทางการฑตระหว่างกันเกิดกฎหมายการฑูต กงสุล มีองค์การ
รปท. ขึ้นมา มี UN UNTAD WTO WHO worldbank IMF NATO
SETO มี space law มาอีก เป็ นกลุ่มกม. แผนกคดีเมืองว่า รัฐปฏิบต
ั ิต่อรัฐ
ยังไง
ในทางตรงกันข้าม .... ส่วนของปั จเจก เอกชน ในประชาคมโลกแต่ละรัฐก็มี
ปั จเจก อาจเป็ น บ.ธรรมดา หรือนิติบ. ปั จเจกก็ติดต่อระหว่างกัน ไม่ใช่กม.
รปท.แผนกคดีเมือง เพราะเป็ นเรือ่ง ปั จเจก กับปั จเจก เช่น นายเดวิดคน
อังกฤษ ขาย เคร่ ืองจักร ให้กบ
ั นายดำารงค์คนไทย เพราะงัน ้ นายเดวิดเป็ นพสก
ของอังกฤษ ดำารงค์ของไทย เดวิดก็อยู่ใต้กรอบอำานาจของปท.อังกฤษ ดำารงค์ก็
ภายใต้กรอบอำานาจของไทย
ถ้าเดวิดส่งเคร่ ืองจักรมาให้ดำารง เวลาส่งมาก็ขนใส่เรือมา เคร่ ืองจักรจมน้ำา
ระหว่างทาง เวลาเกิดข้อพิพาท จะเอากม.ใดมาบังคับ กม.ไทย หรืออังกฤษ
หรือนายโตชิ ชาวญ่ีป่นุ ส่งม้า มาขายนายสมชาย คนไทย ทำาสัญญากันเป็ นลา
ยลักษณ์ฯ ท่ีปท.ไทย นายโตชิขายม้า ย่ีสิบตัวให้นายสมชาย ราคาย่ีสิบล้าน ทำา
สัญญษลายลักษณ์ท่ีปท.ไทย โตชิก็ขนม้าลงเรือจากท่าเรือโตเกียวจะมาส่งท่ี
ท่าเรือแหลมฉบังปรากฎเรือล่ม ม้าตายหม ดอย่างนี โ้ตชิก็เรียกร้องให้สมชาย
ชำาระเงิน สมชายบอกยังไม่ได้ม้าไม่ยอมชำาระเงิน เกิดโตชิบอกว่า กม.ญ่ีปุ่นักบ
ไทยเหมือนกัน อย่างนี้ เพราะงัน ้ การส่งมากทรัพย์ส่งมอบไม่ได้เพราะม้าตาย
หมดแล้วเป็ นพ้นวิสัยเหมือน ม.๒๑๙ไทยเป็ นพับแก่เจ้าหนีเ้พราะลูกหนีห ้ ลุด
พ้น งี้ สมชายต้องจ่ายเงินย่ีสิบล้านให้โตชิ เป็ นต้น
อย่างนีจ้ะใช้กม.ไทยหรือกม.ญ่ีป่น ุ แล้วต้องไปฟ้ องท่ีศาลไหน กลายเป็ นกม.
รปท.แผนกคดีบค ุ คล (หน่วยท่ี๑๒ ๑๓ ๑๔)
มีปัญหาว่าจะเลือกศาล ท่ีฟ้อง ประเทศใด จะเลือก กม.ประเทศใดมาบังคับ
เพราะว่า คดีนีเ้ป็ นคดีท่ีมีองค์ประกอบต่างชาติ เป็ นเร่ ืองพิพาทระหว่างเอกชนท่ีมี
องค์ประกอบต่างชาติ เม่ ือเห็นภาพแล้ว เห็นว่ากม.รปท.เป็ นเช่นนีน ้ ่ีเอง (อ.
บอกว่ไม่ยากเลย)
สมมติโตชิฟ้องสมชาย ท่ีศาลแพ่ง ประการแรกสุด ศาลต้องพิจารณาอะไรก่อน
เพ่ ือน ต้องพิจารณาว่าศาลไทยมีเขตอำานาจศาลไหม รับฟ้ องได้ไหม ศาลต้องไปดู
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ว่าศาลมีเขตอำานาจหรือไม่ แล้วพิจารณา
มูลคดีว่าเป็ นคดีเกียวกับอะไร ฟ้ องอะไร โตชิฟ้องให้สมชายชำาระราคา เป็ นฟ้ อง
เรียกด้วยมูลหนี เ ้ ป็ นหนีท
้ ่ีเกิดจากนิตก
ิ รรมแต่โตชิกับสมชายคนละสัญ
เรียกว่า คดีพิพาทนีเ้ป็ นคดีท่ีมีองค์ประกอบต่างชาติ จะเอากม.ไทยไปบังคับทันที
ไม่ได้ ต้องไปดูพรบ.ขัดกัน เพราะมีองค์ประกอบต่างชาติ
ไปดูม.อะไร ก็ตอ ้ งดูจากการให้ลักษณะกม.กับข้อเท็จจริง คดีนีพ้พาทกันด้วย
เร่ ืองหนี ใ้นพรบ.ขัดกันก็แบ่งว่า หนีจ้ากมูลละเมิด จากมูลนิตก
ิ รรมสัญญา จาก
จัดการงานฯลาภมิควรได้
หนีท้ ่ีเกิดจากมูลสัญญา ศาลก็ไปดูพรบ.กม.ขัดกันว่าด้วยการพิพาทกันด้วยหนี้
อันเกิดจากมูลสัญญา กม.ขัดกันบอกว่า อันดับแรกสุดให้ดูเจตนารมณ์ว่า
เจตนารมณ์ของคู่สัญญาได้เขียนไว้ชัดแจ้งไหมว่าประสงค์เลือกศาลเลือกกม.ของ
ปท.ใด ถ้ามี ก็ให้เป็ นไปตามท่ีเลือกไว้ เว้นแต่ไปเข้ากม.เด็ดขาดท่ีเลือกไม่ได้เช่น
แบบของนิตก ิ รรม หากไม่มีเจตนาไว้ก็ให้ใช้กม.สัญชาติถ้าสช.เดียวกัน หากไม่ใช่
สช.เดียวกัน ก็ให้ใช้กม.ของปท.ท่ีทำาสัญญา ปรากฎว่าเป็ นปท.ไทย ก็รู้แล้วว่า
กม.ขัดกัน ให้ใช้กม.ของประเทศท่ีสำาสัญญา คดีนี ส ้ ัญญาทำาท่ีประเทศไทย
เพราะงัน ้ ศาลก็มาดูกม.ภายในของ ปท.ไทย การซ้ือขายม้า เป็ น ?? ไปดูกม.ว่า
ด้วยซ้ือขาย
กม.ซ้ือขายดูม.๔๕๓ ทรัพย์อันเป็ นวัตถุแห่งนิติกรรมสัญญาคือม้า ซ้ือขายม้าจัด
ว่าเป็ นการซ้ือขายทรัพย์ชนิดใด? ม้าเป็ นทรัพย์ชนิดใด? เป็ นสัตว์พาหนะ เป็ น
สังหาริมทรัพย์พิเศษ ต้องทำาเป็ นหนังสือและจดทะเบียน แต่หากทำาเป็ น นส.
อย่างเดียว ไม่เป็ นซ้ือขายเสร็จเด็ดขาด กรรมสิทธิไ์ม่โอน เม่ ือยังไม่โอน สญ .ซ้ือ
ขายเป็ นแค่สญ จะซ้ือจะขาย กรรมสิทธิไ์ม่โอน เพราะงัน ้ โตชิบอกว่าซ้ือขายสัง
หาฯกรรมสโอนนัน ้ ส่งมอบทรัพย์พ้นวิสัยบาปตกแก่ผู้ซ้ืองีไ้ม่ถูก ศาลจะตัดสินว่า
สญซ้ือขายฉบับนีย ้ ังไม่เป็ น สญซ้ือขายเสร็จเด็ดขาดเพราะไม่ได้จดทะเบียน แต่
เน่ ืองจากเข้า ลักษณะสมบูรณ์เป็ น สญจะซ้ือจะขายก็ให้บังคับไปตามนัน ้ ส่ิงท่ีโต
ชิกบ ั สมชายจะบังคับต่อไปได้คือบังคับให้คู่สัญญษไปทำาเป็ นหนังสือและจด
ทะเบียนกันซะ ขัน ้ นัน ้ โตชิต้องส่งมอบม้าใหม่ ส่วนอันแรกท่ีส่งมา มันยังไม่เสร็จ
เด็ดขาด กรรมส ไม่โอน ทรัพย์ก็ยังไม่ได้มอบเป็ นเพียงจะซ้ือจะขาย นายสมชาย
จึงไม่เกิดหน้าท่ีต้องชำาระราคาเพราเป็ นแค่จะซ้ือจะขาย
ศาลจะตัดสินว่าโตชิบังคับให้สมชายจ่ายย่ีสิบล้านไม่ได้ แต่บังคับให้คู่สญ ไปทำา
หนังสือจดทะเบียน ต่อเม่ ือนัน
้ โตชิจึงมีหน้าท่ีส่งมอบม้าและสมชายมีหน้าท่ช ี ำาระ
ราคา
น่ีเป็ นเร่ ืองของกม.ขัดกัน
ถ้ามีประกันภัยทางทะเลก็ตอ ้ งไปว่ากันอีกว่าสญประกันภัยทางทะเล สมมติว่า
ขายกันในเทอม cif cost insurance frade ไปดูกม.ประกันภัยทางทะเล
ขนส่งทางทะเล ถ้าเป็ นขนส่งทางทะเลต้องดูเรือมี sea worthiness/ port
worthiness ถ้าไม่มี ประกันภัยไม่จ่าย เป็ นสมุทรภัยรึเปล่า ถ้าไม่ใช่ ประกัน
ภัยก็ไม่จ่ย ภัยเกิดจากมนุษย์ไหม เกิดจากกัปตันลูกเรือ ประกันภัยไม่จ่าย ถ้ามี
พายุมา เรือจะออกจากท่า กรมอุตุฯได้แจ้งไว้แล้ว แล้วยังออกไหม ถ้าออกแม้จะ
จมด้วยพายุก็ไม่ถือเป็ นสมุทรภัยเพราะเกิดจากการกระทำาของมนุษย์ ในแง่ของ
ขนส่งเรือพร้อมขนส่งไหม คาร์โก้พร้อมไหม สมบูรณ์ดีไหม ท่าเรือดีไหม เกิด
จากการกระทำาของกัปตันเรือและลูกเรือไหม ถ้าเป็ น ก็ไม่จ่าย
แต่ถ้าทัง้สองอย่างเกิดขึ้นเพราะเหตุสุดวิสัย ซ้ือในเทอม cif ความเส่ียงส่งผ่าน
ตัง้แต่เรือสินค้าโหลดขึ้นลำาเรือ ความเส่ียงจะผ่านมือจากผู้ขายไปยังผู้ซ้ือ แต่ผู้ซ้ือ
มีความรับผิดในความเส่ียง ผู้ขายมีแค่ชำาระค่าประกันภัยเท่านัน ้ เพราะงัน ้ บ.นี้
จะรับผิดรึเปล่าต้องดูเป็ นสมุทรภัยรึเปล่า? เป็ นภัยท่ีปรากฎในกรมธรรม์รึเปล่า
ใน policy(กรมธรรม์) รึเปล่า เป็ นกม.การค้าระหว่างปะรเทศ ในเร่ ืองของ
incoterms ก็ต้องรู้อีก ว่าขนส่งทางทะเล ต้องรูป ้ ระกันภัยทางทะเล แต่วิชานี้
ไม่อยู่ในกม.รปท.เพราะ วิชากม.รปท. นัน ้ มีตอ
่ เฉพาะทางอีก อยากรู้ก็ไปต่อย
อดอีกที
ทัง้หมดนีเ้ปนกม.รปท.แผนกคดีบค ุ คล เพราะเป็ นเร่ ืองพิพาทระหว่างบูคคล
เฉพาะคดีแพ่งและพาณิชย์ท่ีมีองค์ประกอบต่างชาต มาเลือกศาลท่ีจะฟ้ อง ปท.
ไทยเป็ นปท.ท่ีใช้หลัก lex forae จึงมาดูตรงไปยังวิแพ่ง เพราะใช้กม.ของ
ปท.ท่ีศาลตัง้อยู่ในการพิจารณาเขตอำานาจศาล ต่างจาก lex gosae คือกม.
ของปท.ท่ีจะปรับใช้แก่คดี
ในคดีนี ก้ ต
็ ้องใช้กม.ไทย เพราะพอไปดูกม.ขัดกันมันเป็ นหนีจ้ากสัญญาซ่ึงเป็ น
สญท่ีทำาโดยไม่มีการกำาหนดเจตนารมณ์เลือกศาลไว้ และเป็ น สญ.ทีเกิดจากคน
ต่างสช.ต้องใช้กม.ของปท.ท่ีศาลตัง้อยู่ ถ้า lex gosae ก็ต้องไปดูกม.ของ
ปท.ท่ท
ี ำาสัญญาซ่ึงก็กม.ไทยอยู่ดี
ถ้าเอกชนพิพาทกัน ไม่ใช่หน่วยท่ี๓ เป็ นเร่ ืองกม.ขัดกัน จำาไว้ให้ดี
แต่ถ้าพิพาทกันด้วยเร่ ืองรปท.หรืออาญา จึงไปดูหน่วยท่ี๓ เป็ นเร่ ืองอำานาจรัฐ
ส่วนหน่วย ๑๒ ถึง ๑๔ ระหว่งเอกชน เป็ นเร่ ืองเขตอำานาจศาล เป็ นกม.ภายใน
แต่จะใช้กม.ของปท.ใดให้ไปดูกม.ขัดกัน ทุกปท.ในโลกมีกม.สองชุด คือขัดกัน
กับภายใน มีสามชัน้
ชัน
้ ท่ี๑ ทฤษฎีกม.รปท.คือแนวคิดท่ีรออยู่ด้านบน พวกโรมัน อิตาเลียน
ฮอลันดา ฝรัง่เศส ท่ค ี ิดกัน สรุปได้เป็ นกม.ติดตามตัว กม.เก่ียวกับทรัพย์ กม.ท่ี
เก่ียวกับภูมิลำาเนา ยกตย.เช่น โรมัน อิตาเลียนปั จจุบัน สำานัก สตาทิวอิตาเลียน
สำานักนีม ้ าจากโรมัน เม่ ือก่อนโรมันถือเป็ นอาณาจักรท่ีรุ่งเรืองสุด พระเจ้าจัส
ติเนียน กำาหนดกม ไว้สำาหรับชาวโรมัน แยกจากพวกไม่ใช่โรมัน jus
shontium แนวคิดสำานักนีว้่า ชาวโรมันไปท่ีไหนๆก็ต้องใช้กม.โรมัน นำามาสู่
แนวคิดเก่ียวกับเร่ ืองกม.ติดตามตัว แนวนีน ้ ำามาบรรจุในกม.ขัดกันของแต่
ละปท.ว่า ถ้าเป็ นเร่ ืองเง่ ือนไขการสมรส ความสามารถ เร่ ืองเก่ียวกับสถานภาพ
อันนีก ้ ็ให้ใช้กม.ติดตามตัว นัน ่ คือกม.สัญชาติ เช่น ถ้านายอ่ึงอ่างจะสมรสกับ
นางสาวอิเหล่สะบัด อ่ึงอ่าง สช.ไทย อิเหล่สะบัดสัญชาติจีน ปั ญหาท่ีจะพิพาทคือ
สมรสกันได้หรือไม่ อันนีเ้รียกว่าเง่ ือนไขการสมรส ถ้าเง่ ือนไขการสมรสก็ใช้
กม.สัญชาติ(ตามพรบ.ขัดกัน)มาจากแนวคิดกม.ติดตามตัว
แนวคิดท่ีสอง กม.เก่ียวกับทรัพย์ ทรัพย์ตัง้อยู่ท่ีไหนจะใช้กม.ของปท.อ่ ืนม
บังคับไม่ได้ ต้องใช้กม.ของปท.ท่ีทรัพย์ตัง้อยู่ เห็นได้ว่า พรบ.ขัดกันทัง้หมดถ้า
เก่ียวกับทรัพย์โดยเฉพาะอสังหาฯ พิพาทกันด้วยอสังฯ ก็จะใช้กม.ของปท.ท่ี
ทรัพย์ตัง้อยู่ แต่ถ้าเป็ นเร่ ืองภูมิลำาเนา เช่น คนตาย คนจะเป็ นสช.อะไรแล้วแต่
แต่ถ้าตายอีกปท.ก็ต้องใช้เก่ียวกับปท.ของปท.ท่ีบุคคลนัน ้ มีภูมิลำาเนา แนวคิดมี
สำานักอิตาเลียน ฮอลันดา ฝรัง่เศส แตละสำานักก็เกิดมาจากวิวัฒนาการทาง
idiology สังคมจารีตวัฒนธรรมความย่ิงใหญ่ของประทเศก็ก่อให้เกิดแนวคิด
น้น ๆ ขึ้นมา
แล้วทฤษฎีกม.ตรงนี ป ้ ท.ต่ง ๆในโลกก็ดึงเอาหลักนัน้ มาใส่ในกม.ขัดกัน อย่าง
ไทยเราก็ดึงมาหมด เก่ียวกับคุณสมบัติเง่ ือนไขก็ใช้กม.สัญชาติ ถ้าเก่ียวกับบ.ไป
ทำานิติกรรมก็ใช้กม.ภูมิลำาเนา อังกฤษก็ไปดึงของเขามา ทุกปท.ในโลกนีม ้ ีกม.
ขัดกันแล้วจึงมีกม.ภายใน
ทีนีว้ิธใี ช้ ถ้านายอ่ึงอ่าง สมรสกับอิเหล่สะบัด สองคนนีจ้ะสมรสได้ไหม มาฟ้ อง
ศาลไทย ศาลไทยอันดับแรกดูว่ารับฟ้ องได้ไหม พอรับฟ้ องได้ก็พิจารณาต่อไปว่า
จะใช้กม.ใดบังคับ มาดูสองคนนี้ สัญชาติต่างกันถือว่าเป็ นคดีแพ่งท่ีมีองค์
ประกอบต่างชาติจะมุ่งมาใช้กม.ภายในบังคับทันทีไม่ได้ต้องไปดูกม.ขัดกัน สอง
คนนีจ้ะสมรสกันได้ไหมก็ต้องให้ลักษณะกม.แก่ข้อเท็จจริงว่าเป็ นประเด็นเร่ ือง
เง่ ือนไขการสมรส พอเป็ นเร่ ืองเง่ ือนไขฯ ก็พลิก พรบ.ขัดกัน มาเจอเง่ ือนไขการ
สมรส พรบ.บอกว่าให้ใช้กม.สัญชาติ พอใช้กม.สัญชาติก็มาดู ว่าอ่ึงอ่าง สช.ไทย
ก็ใช้กม.ไทย เพราะพรบ.ขัดกันบอกให้ใช้กม.สช. ส่ววนอิเหล่สะบัดชาวจีน เวลา
กม.ของเราบอกให้ไปดูกม.สช.ก็ต้อไปดูกม.จีน ไปดูกม.อะไรของจีน ก็ต้องไปดู
กม.ขัดกัน ของจีน ไปดูก่อนว่ กม.ขัดกันของจีน เง่ ือนไขการสมรสให้ใช้
กม.อะไร ขอให้จงจำาไว้เลยว่า ต้องไปดูกม.ขัดกัน ก่อน ขีดเส้นใต้หา้ ร้อยเส้น
กม.ขัดกันของจีนบอกว่าเง่ ือนไขการสมรสให้ใช้กม
.สัญชาติอย่างนีจ้ึงไปดูกม.ภายใน เพราะสัญชาติจีนบอกว่าให้ดูกม.สัญชาติ
เหมือนไทย เรียกว่าขัดกันเชิงบวก
แต่ถ้ากม.ขัดกันของจีนบอกให้ไปดูกม.ภูมิลำาเนา อันนีเ้รียกว่าขัดกันเชิงลบ ก็จะ
ดูกม.ภายในของจีนไม่ได้ ขึ้นกับว่าอิเหล่สะบัดอยู่ท่ีจีนหรือไม่ หรืออยูท่ีญ่ีปุ่น ก็
ไปดูของญ่ีป่นุ ดูกม.ขัดกันของญ่ีปุ่นก่อน ว่ายังไง กม.ขัดกันญ๊ป่น ุ บอกให้เป็ น
ไปตามกม.ภูมิลำาเนาก็ดูกม.ภายใน แต่ถา้ อิเหล่ฯอยูป ่ ท.ไทย เกิดย้อนส่งเพราะ
อยู่เมืองไทยต้องมาดูกม.ภูมิลำาเนา ดังนี้ ปท.ไทยก็มาดูกม.ขัดกันของไทยอีก ดู
ว่า เอ?? เราบอกให้ใช้กม.ตปท. แล้ว ตปท.ส่งกลับมาให้ดูกม.ไทย มาตรา ๔
ของพรบ.ขัดกันบอกว่า เราไม่ดูกม.ขัดกันอีกแล้ว แต่ให้ไปดูกม.ภายใน แสดงว่า
เราไม่ส่งต่อ เราย้อนส่งแล้วดูกม.ภายใน ถ้าเป็ นกรณีนีท ้ ัง้คูต
่ ้องไปดูม.๑๔๔๘
อ่ึงอ่างอายุ ๑๙ อิเหล่ฯ อายุ๑๖ แต่งงานไม่ได้ แต่ถ้าอิเหล่ฯอยู่จีน จีนบอก๑๕
แต่งได้แล้ว อันนีแ้ ต่งได้
ถ้าเป็ นคดีแพ่งและพาณิชย์ระหว่างเอกชนท่ีมีองค์ประกอบต่างชาติ ให้มาท่ี กม.
ขัดกัน เลย เราต้องดูทีละขัน
้ อันดับแรกมีองค์ประกอบต่างชาติ เป็ นเอกชน แล้ว
ก็พิพาทด้วยทางแพ่ง
หลัก แม้ว่าหน่วยท่ี ๑๓ ๑๔ เขตอำานาจศาลจะต้องสอดคล้องกับอำานาจรัฐก็จริง
ถ้าไม่มีอำานาจรัฐเลยย่อมไม่มีอำานาจศาล เพราะว่ามีอำานาจรัฐไม่ว่าหลักดินแดน
หรืออะไรๆ ศาลจึงมีอำานาจ ถ้านางโซฟี ถูกนายอันโตนิโอ ฆ่าตาย โซฟี เป็ นสเปน
อันโตนิโอเป็ นอิตาเลียน ท่ีประเทศอินโดนีเซีย ศาลไทยรับฟ้ องได้ไหม? ฆ่าตาย
มันเป็ น อะไรด้วย?? ??ฆ่า นอกจากเป็ นอาญายังเป็ นแพ่ง ละเมิดต่อชีวิต
ร่างกายอีกด้วย
มันมีละเมิดด้วย อย่างนีแ้ ล้ว ญาติพ่ีน้องของโซฟี จะมาฟ้ องท่ีศาลไทยได้หรือไม่?
ตอบว่า ไม่ได้เพราะไม่มีเขตอำานาจรัฐ จึงไม่มีเขตอำานาจศาล เพราะอำานาจรัฐยัง
ไม่มีเลย โซฟี เป็ นสเปน อันโตนิโอเป็ นอิตาเลียนไปฆ่าตายท่ีอน ิ โดนฯ ปท.ไทย
ไม่มีทัง้หลักดินแดน หลักบุคคล หลักสากล อำานาจรัฐไม่มีเขตอำานาจศาลก็ไม่มี
อย่งนีเ้ป็ นต้น เขตอำานาจศาลจึงสอดคล้องกับเขตอำานาจรัฐด้วยเหตุนี้
ถ้ามีสองสัญชาติ สัญชาติท่ีพรบ.ขัดกันของไทยยึดถือ? ในพรบ.สัญชาติเราก็
เขียนไว้ ถ้ากม.ขัดกันเน่ีย ให้ลักษณะกม.แก่ข้อเท็จจริงแล้วให้ใช้กม.สัญชาติ
ทีนีก
้ ารใช้กม.สัญชาติแก่บ.ท่ีมีสช.มากกว่า ๑ สช. อันดับแรกดูกอ ่ นว่า บ.หลาย
สช. ถ้าได้รบั สช.มาโดยลำาดับให้ใช้กม.สช.ท่ีได้รับครัง้สุดท้า ย เช่น นส.แดงคน
ไทยแต่งงานกับนายหมูตู้ ชาวแอฟริกัน แล้วก็ได้ สช.แอฟริกน ั อย่างนีเ้รียก
นส.แดงมีสองสช. หรือหลายสช.ทีได้มาโดยลำาดับ หากมีคดีพิพาทท่ีพรบ.ขัดกัน
บอกให้ใช้กม.สช. ต้องถือ่วา่ นางแดงมี สช.แอฟริกัน ต้องไปดูกม.แอฟริกา ไปดู
พรบ.ขัดกันของแอฟริกา
นางแอนนาอังกฤษ สมรสนายฟรองซัวฝรัง่เศส ถ้าใช้กม.สช.ให้ใช้ ฝรังเศส แต่
ถ้าได้รบ ั สช.ในคราวเดียวกัน นางแอนนาคนอังกฤษเกิดท่ีอังกฤษ แต่มีพ่อแม่
เป็ นอิสราเอล จึงมีสช.อิสราเอล และสช.อังกฤษ แต่นางแอนนาอยู่ท่ีปท.
อังกฤษจึงให้ใช้กม.อังกฟษเพราะเป็ นปท.ท่ีมีภูมิลำาเนา แต่ถ้ามีภูมิลำาเนา
ในปท.อ่ ืน มีทัง้อังกฤษ และอิสราเอลแต่ไปอยูท
่ ่ีวันูวาตู ให้ใช้กม.ภูมิลำาเนาขณะ
ย่ ืนฟ้ อง
ทหารเป็ นตัวแทนของรัฐ รัฐต้องรับผิด ตามจารีตฯ สนธิสญ หลักกม.ทป. ทำาให้
อีกรัฐเสียหาย เกิดความรับผิดชอบของรัฐ
ขัน
้ ขอให้แสดงความรับผิดชอบ "เอ็งยิงเข้ามาทำาไม"
ขออภัย เข้าใจผิด ก็ต้องรับผิด รับผิดชดใช้ยังไง ทำาให้กลับคืนดีดังเดิม ทำาให้
พอใจ ปท.ไทยขอ แค่คำาว่า "ขอโทษ" ก็ได้
หากยิงมาแล้ว ขอให้แสดงความรับผิดชอบแล้วเพิกเฉย ก็เกิดสิทธิในการตอบโต้
แต่ยังทำาไม่ได้เพราะเขาอ้างว่าเราไปรุกล้ำาก่อน จะตอบโต้ทน
ั ทีไม่ได้ จะกลายเป็ น
ว่าเราใช้กำาลังโดยไม่ชอบ ก็ต้องเจรจา เรียกฑูตมาแล้ว รบ.ไม่แสดงความรัผบิด
ชอบต้องจัดเจรจาสองฝ่ ายบอกว่าท่ีทำาใครผิดกันแน่ แล้วลงไปตรวจสอบ สอง
ฝ่ ายไม่รู้เร่ ืองก็อาจต้องใช้ asean เข้ามาจัด มีคนกลางมาจัดเจรจา แล้วไม่รู้เรือง
อีกก็ไป คณะมนตรีความมัน ่ คงให้เขามาตรวจสอบ ระหว่างนัน ้ ก็สามารถมี
มาตรการชัว่คราวให้สองฝ่ ายหยุดยิงเด็ดขาดให้เขาตรวจสอบก่อน พอ UN ตวจ
สอบแล้วว่าใครผิด คนนัน ้ ก็ต้องปฏิบัติตามมติ UN ถ้าไม่ปฏิบัติตามคราวนีล
้ ะ่
ไทย reprisol / retorsion ได้ ไม่ติดต่อไม่คา้ ขายเรียฑูตกลับ หาก
retorsion แล้วยังไม่สำานึกอีก ก็ใช้กำาลังก่อนใช้กำาลังก็ฟ้อง UN นิดหน่อยให้
เกิดความชอบธรรม
อันดับแรก ไอ่ขัน
้ บันได้นัน
้ การกระทำาใดท่ีรัฐต้องรับผิดชอบ การกระทำานัน
้ ต้อง
เป็ นกกท.ของรับ ต้องผิดกม. ละเมิด ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐอ่ ืน
ใครรับผิดชอบ ก็รฐ ั ท่ีทำาให้เกิดคสห.รับผิดชอบอย่างไรรับผิดชอบในการท่ีเจ้า
หน้าท่ีของรัฐ คนชาติ หรือฝ่ ายนิติฯ บริหารฯ ตุลการฯ ทำา รับผิดชอบต่อจนท.
ทรัพ์สินของชาติท่ีเขาได้รบ ั คามเสียหาย เช่นรับผิดชอบต่อเจ้าหน้าท่ีไทยยท่ีถูกยิง
ต่อทรัพย์สิน
เร่ ืองความรับผิดชอบของรัฐคือเร่ ือง compensatio เพราะงีน ้ ไม่ต้องรับผิดใน
การกระททางอาญา ปล่อยให้เป็ นเร่ ืองอำานาจรัฐ จึงชดใช้เฉพาะความเสียหาย
ทางแพ่งเท่านัน้ ให้สถานการณ์ดีดังเดิม โดยทำาให้อีกฝ่ ายแค่พอใจ หรอชดใช้เป็ น
ตัวเงิน ถ้าพอใจก้ satistaction restitution compensation ยกเว้นป้ อ
งกันนตัว reprisol เหตุสุดวิสัย ป้ องกันตัวเป็ นสิทธิโดยชอบธรรมไม่ว่าเป็ น
กม.ภายในหรือกม.รปท.ทุกรัฐมีสิทธิป้องกัน เม่ ืออีกรัฐละเมิดก่อนเ ราบอก
กล่าวยังเพิกเฉย เราตอบโต้ในสัดส่วนทีเหมาะสม แม้จะก่อเสียหายก็ไม่ต้องรับ
ผิดเพราะเป็ นขัน้ ตอบโต้
เหตุสุดวิสัยเป็ นเหตุภายนอกทีเกิดขึ้นไม่มีใครห้ามได้
ขัน
้ ท่ี๑ รัฐในฐานะก่อให้เกิดคสห รัฐเปรียบเหมือนนิติบคุ คลทางรปท.ต้อง
กระทำาผ่านตัวแทนของรัฐ ผูก ้ ระทำาแทนรัฐได้แก่ จนท.ในระดับต่าง ๆ ซ่ึงกระทำา
ในนามของรัฐ ทำาอะไรผิดก็ต้องรับผิดชอบต่อคสห.ในรัฐผู้เสียหายไม่ว่า คนชาติ
ของเขา ทรัพย์สินของเขา
รัฐท่ีได้รับคามสห. รัฐท่ีถูกกระทำา ถูกกระทำาต่อจนท.ทรัพย์สินของรัฐของ
เอกชน หรือกระทำาต่อคนชาติของรัฐผู้สเยหาย(ภาครัฐ ภาคเอกชน) ทำาไมความ
รรับผิดชอบจึงเกิดเป็ นกม.รปท.มาจากแนวคิด้ด้านศีลธรรม การจำาเป็ นอยู่ร่วม
กัน และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ความรู้สึกในห้วงลึกของจิตสำานึกของความเป็ นคนท่ีมีอารยธรรม รัฐก็เช่นกัน ้ ก็
ต้องสำานึกว่าหากทำาให้คนอ่ ืนเสียหายก็ต้องรับผิดชอบอ ย่างไรก็ตามการอยู่ร่วม
กัน ทำาให้รบ
ั ผิดชอบเป็ นเร่ ืองถ้อยทีถอ
้ ยปฏิบัติแต่ละคนต้องรู้จักหน้าท่ี กระทบ
กระทัง่ก้นต้องเกิดความรับผิดชอบ ส่วนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ไม่มี
เจตนาเลยแต่ต้องการได้ปย.ทางเทคโนโลยี ก็ต้องรับผิดหากเสียหายแก่คนอ่ ืน
คือ strict liability
เป็ นหลักเดียวกับความรับผิใดนทงละเมิดตามกม.ภายใน โดยสรุป ผู้ใดได้ปย.
จากส่ิงท่ีทำาให้เกิดเสียหายต้องรับผิด
การทีรัฐต้องรับผิดต้องมีความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำาและผล เช่นเดียวกับ
อาญา
นอกจาก กกท.ของรัฐท่ีฝ่าฝื นกม.รปท. หากว่รัฐมีอำานาจทำาแม้ก่อเสียหายแก่รัฐ
อ่ ืน ก็ไม่ผิด คืออปก.ต้องครบหมด เป็ นกกท.รัฐ ก่อเสียหาย ละเมิด และรัฐท่ีได้
รับการกระทำานัน ้ มีความเสียหาย หากทำาโดยชอบแต่เขาเสียหายก็ไม่ผิด
การกระทำาหมายถึงการงดเว้นด้วย ไม่บอกว่าช่องแคบมีทุ่นระเบิด แม้จะเป็ น
เรือรบไม่ใช่ innocent passage ก็ต้องรับผิดฐานงดเว้นกระทำา
ละเมิด คือ ฝ่ าฝื นพันธะกรณี ตามกม.รปท. จารีตฯ สนธิสญ. ก็ได้ สนธิสญท่ี
เราไปทำาน่ีล่ะ คำาว่าละเมิดนี ใ้นทางรปท. อาจไม่ต้องพิสูจน์ความบกพร่องในการ
ท่ีจะกระทำาการ แต่ในหลกักม.ภายใน เช่นของ common law ผู้ละเมิดต้อง
พิสูจน์การไม่ปฏิบัติละเลยหรือบกพร่อง แต่รปท.ไม่ต้องพิสูจน์ ยกตย. ฑูต เข้า
มาในปท.ไทย ฑูตเยอรมัน แต่ว่าปกติไปไหนมาไหนก็ไม่ได้เขียนว่าฑูตไว้ท่ีหน้า
ผาก อาจเดินแถวชายหาดบางแสนแล้วไปทำาอะไรผิดเข้า ตำารวจก็จับ ตำารวจไม่รู้
ว่าเป็ นฑูต แต่ก็จับไม่ได้หรอก จะเป็ นละเมิดกม.จารีตฯรปท. แม้การกระทำา
เข้าใจผิด บริสุทธิใจก็ต้องรับผิด การใช้สิทธิโดยมิชอบก็ถือละเมิดพันธะกรณี
จารีตฯ ทุกปท.ต้องคุ้มครอบคนต่างด้าวตามมาตรฐานขัน ้ ต่ำา หรือตามสนธิ
สัญญา เช่นคุ้มครองทรัพย์สินทางปั ญญา เช่น พวกยา CL ไปทำาความตกลงกับ
อเมริกาไม่ให้ใช้ CL แล้วยาต้นแบบต้องผลิตจากต่างประเทศ ผลิตจากเมืองไทย
เม็ดละแปดบาท พอไปซ้ือ amoxyclav เม็ดละส่ีสิบ ยาเอดส์เม็ดละสามพัน
เข็มละสามแสน อันนี ก ้ ม.ทรัพย์สินทางปั ญญา จะเป็ นอาวุธอันร้ายท่ีทำาให้เรา
ต้องสูญเสียเงินทองมากมายแต่ไปละเมิดเขาไม่ได้
CL คือบังคับใช้สิทธิ ปกติผู้ทรงสิทธิบัตรมีเอกสิทธิ ม
์ ี exclusivity ท่ีจะใช้
สิทธิของตัวเองผู้เดียว แต่ CL compulsory licensing รัฐบาลเป็ นผู้ให้ แต่
ถ้าเอกชนไปผลิตเองไม่ได้ หมายความว่า รบ.ต้องคุ้มครองสิทธิบัตร แต่รัฐบาล
อนุญาต ให้ โลโก้ manufacture ไปผลิตยา แล้วไปบังคับให้คา่ ตอบแทนเขา
มีการยกเลิก CL แล้วได้กลับมาใหม่ อยูท
่ ่ีว่าใครเป็ นผู้ทรงสิทธิบัตร
เสียหายตีเป็ นเงินตราได้ กับเป็ นเงินตราไม่ได้ ก็มี ไม่ต้องตีค่าเป็ นเงินก็ได้ เช่น
กองทัพข่มขืนหญิง อีกประเทศหน่ึง
ความเสียหายท่ีได้รับต้องเกิดจากผลการละเมิด ถ้าไม่ละเมิดก็ไม่เป็ นเสียหาย ส่ิง
ท่รี ัฐทำา คำาว่า imputibility หมายความว่าเป็ นการกระทำาท่ีโอนมาเป็ นการ
กระทำาของรัฐได้ บางอย่างโอนมาไม่ได้เช่น เอกชน หรือผู้ปฏิวัตริ ัฐประหาร
รับผิดชอบคนชาติ เจ้าหน้าท่ี พวกกบฏปฏิวัติรัฐประหาร
ยกเว้น ป้ องกันตัว reprisol เหตุสุดวิสัย
หลักปฏิบัตต ิ ่อคนต่างด้า วคำาว่า hostage คือรัฐเจ้าบ้านท่ีรับคนต่างด้าวเข้ามา
อยู่ อันนีต้ ้องให้ความคุ้มครองสิทธิแก่คนต่างด้าวอย่างน้อยสุดตามมาตรฐานขัน ้
ต่ำาซ่ึงถือปฏิบัติทางระหว่างประเทศ รัฐไหนไม่ให้ความคุ้มครองตามมาตรฐานชัน ้
ต่ำา หรือสนธิสัญญา ก็ถือว่าผิดพันธะกรณีต้องรับผิดชอบต่อคนต่างด้าว
รัฐท่ีคนต่างด้าวสังกัดอยู่ก็ก่อให้เกิดสิทธิในการคุ้มครองทางการฑูตแก่คนชาติ
ของตน คำาว่า diplomatic protection ต้องใช้มาก คือการท่ีรัฐชาติคุ้มครอง
คนชาติของตนท่ีอยู่ในต่างประเทศในนฐานะท่ีเขาไปเป็ นคนต่างด้าวรัฐอ่ ืนแล้ว
ไม่ได้รบ
ั การคุ้มครองภายใต้
รัฐต้องรับผิดแม้นเป็ นการกระทำาทีเกินหรือขัดกม.ภายใน ถ้าหากว่า ในสายตาผู้
อ่ ืน จนท.น้นถือว่าทำาในนามของรัฐ หรือการกระทำาท่ท ี ำาไปโดยใช้เคร่ ืองหมายตำา
แหน่งนห้าท่ีโดยมีอาวุธ จับคนต่างด้าวยัดยาบ้า เป็ นการกระทส่วนตัวเพราะ
ตำารวจไม่มีหน้าทียัดยาบ้าแต่ถา้ ไปทำาต่อคนต่างด้าวรัฐต้องรับผิดชอบ หรือละเลย
มาตรการจะป้ องกันไม่ให้เกิดเหตุนัน ้ เช่นไม่มีมาตรการดูแลนักท่องเทียวทำาให้
นักท่องเท่ียวเสียหายต่อทรัพย์สิน ก็ต้องรับผิดชอบ
ต่อไป เอกชน ปกติถ้าเอกชนทำารัฐไม่ต้องรับผิดเพระเอกชนไม่ใช่รัฐแต่ท่ีรัฐต้อง
รับผิดมีสองประการคื อหน่ึงรัฐงดเว้นไม่ปราบปรามเอกชน สองรัฐไม่ได้ใช้กำาลัง
ความสามารถในการไม่ให้เอกชนก่อให้เกิดความเสียหายแก่คนต่างชาติ
เอกชนต่อรัฐ เผาสถานฑูต
เอกชนเผาโรงแรม (เอกชนต่อเอกชน)
คณะปฏิวัติรัฐประหาร ไม่ใช่รัฐบาลเพราะฉะนัน ้ คณะฯ ทำาอะไรไป รบ.ไม่ต้อง
รับผิดโดยตรงแต่ต้องรับผิดโดยเพราะละเว้นไม่ปราบปรามคณะปฏิวัติหรือไม่ใช่
กำาลังความสามารถสูงสุดในการปรามปรามคตณะปฏิวัติป้องกันเหตุร้าย หาก
คณะฯ ปฏิวัติสำาเร็จ รบ.ใหม่ต้องรับผิดชอบกกท.ของคณะปฏิวัติท่ีตนเอง แต่ถ้า
แพ้ รบ.ไม่ต้องรับผิดชอบเว้นแต่ไม่ได้ใช้ความสามารถในการปราบปราม
รับรองรัฐ (ประกาศ เง่ ือนไข) รับรองรัฐบาล ?
การกระทำาในนามของรัฐ นิตบิ ญ บริหาร ตุลาการ นิติบญ ส่ิงท่ท
ี ำาแล้วต้องรับ
ผิดคือ ออกกฎหมายซ่ึงขัดหรือแย้งพันธะกรณีระหว่างประเทศ ปฏิเสธการให้ใช้
สิทธิทางศาล ไม่ออกกม.อนุวัติการให้เป็ นไปตามพันธกรณี ออกกม.ไปแย้ง
หรือไม่ออกกม.ไปรับรอง
ฝ่ ายบริหารคือ ดำาเนนิการจับกุมกักขังคนต่างด้าวโดยไม่ชอบ ยัดยาบ้าน รีดค่าไถ่
ขาดความรอบคอบระมัดระวังในการคุ้มครองคนต่างด้าว ไม่ดูแลทรัพย์สินของ
คนต่างด้าว เวนคืนยึดทรัพย์โดยมิชอบ หมายความว่า ทุกปทในโลกมีอธิปไตย
เวนคืนยึดทรัพย์คนต่างด้าวได้ถ้ากระทำาโดยชอบคือ เวนคืนยึดทรัพย์โดยชอบ
ด้วยกฎหมาย โปร่งใส มีกม.เวนคืนอย่งชัดเจน เรียกว่า due procedur
เวนคืนเพ่ ือประโยชน์สาธารณะ for public interest เวนคืนโดยไม่เลือก
ปฏิบัติ non discrimination เวนคืนแล้วต้องชดเชยอย่างเป็ นธรรม fair
competition
เพ่ ือปย.สาธารณะ มีการออกกม.โดยชอบ ไม่เลือกปฏิบัติใช่แต่เฉพาะของคน
ต่างด้าวของคนชาติเว้นไป ชดเชยอย่างเป็ นธรรม
ประติบัติ treatment ปฏิบัติ practice
promt adequate effective
เน้นคนต่างด้าวเพราะในสมัยก่อนเวลาเวนคืนยึดทรัพย์ รบ.ไม่ชดเชย หรือไม่ก็
ชดเชยในราคาท่ีต่ำามาก แต่นค่ี ือคนชาติ ถ้าเราปฏิบัติตาม national
treatment เราปฏิบัติต่อต่างชาติอย่างนัน ้ ต่างชาติก็จะไม่ได้รับความชดเชย
เหมือนกัน เขาถึงเน้นว่ากับคนต่างด้าวทำากับเขาไม่ได้
รบ.ไทยเวนคืนไม่ชดเชยคนไทย แต่คนต่างด้าวต้องชดเชย บางคนถึงเรียกว่า
discriminate against naitonal คนชาติไม่ได้ แตคนต่างด้าวได้ เป็ น
positve national treatment
คนชาติ ไม่ได้อย่างไร คนต่างด้าวไม่ได้อย่างน้นด้วยเป็ น negative national
treatment
ปั จจุบันคนชาติได้อะไรคนต่างด้าวได้ส่ิงน้น
เม่ ือเกิดข้อพิพาทระหว่างคนต่างด้าวกับคนชาติ ต้องให้ความเป็ นธรรรม ไม่งัน
้
อีกฝ่ ายมีสิทธิใช้ diplomatic protection
ฝ่ ายตุลาการผิดได้คือ กระบวนการยุติธรรมไม่ชอบ ปฏิเสธให้ควมคุ้มครองคน
ต่างด้าว กระบวนการล่าช้าโดยไม่มีเหตุผ หรือปฏิเสธบังคับคดีเพ่ ือประโยชน์คน
ต่างด้าวหรือตัดสินไม่เป็ นธรรม เลือกปฏิบัติ ฝ่ ายุตล
ุ าการผิด ส่วนท่ียกเว้นไม่
ต้องรับผิดชอบคือเร่ ืองของการป้ องกันตัว เป็ นจารีตฯ และกฎบัตร un รับรองไว้
ข้อท่ี๕๑ ถ้าเป้ นการกระทำาของรัฐถ้าเกิดเสียหายแต่ถ้าเป็ นเรืองการป้ องกันก็ไม่
ต้องรับผิด
reprisol คือการตอบโต้หรือ sanction โดยเรียกร้องให้ใช้มาตรการ
reprisol และอีกฝ่ ายน่ิงเฉย การกระทำาตอบโต้ต้องเป็ นสัดสว่นท่ีเหมาะสม
เหตุสุดวิสัย ก็ ไม่ต้องรบผิด เช่น แผ่นดินไหว เป็ นปั จจัยภายนอก ซึนามิ หาก
คนต่างด้าวมาเจอเหตุนีใ้นปท.ไทยเป็ นเหตุสุดวิสัย แต่หากไม่ได้ใช้มาตรการ
เตือนภัยเราก็ต้องรับผิด ดังนัน้ เหตุสุดวิสัยคือไม่อาจป้ องกันได้เลย
มาตรการเรียกร้อง ให้ใช้ทางการฑูตหรือฟ้ องศาลหรือนำาขึ้นสู่การพิจารณา
อนุญาโตตุลาการ แต่ถ้าเอกชนเป็ นผู้เสียหาย เอกชนไม่ใช่บ.ภายใต้กม.รปท.จะ
ใช้สิทธิได้ต่อเม่ ือผ่านรัฐ รำฐจึงต้องมี diplomatic protection ในคนชาติ
ยกเว้นใน สหภาพยุโรปท่ีเอกชนมีอำานาจใช้สิทธิโดยตรง เรียกว่า direct
effect คือการมีอำานาจในการใช้สิทธิโดยตรงไม่ต้องผ่นศาล เพราะ eu มีการ
รวมตัวทางศก. ไม่มีพรหมแดน มีการเคล่ ือนย้ายปั จจัยการผลิต ทุนแรงงาน
สินค้าบริการโดยไม่มีพรหมแดน ดังนัน
้ อำานาจอธิปไตยบางส่นลดลงคือพรหม
แดนไม่มี eu มี ๒๗ ประเทศไม่มีพรหมแดนระหว่างกัน กำาลังจะกลาเป็ น ๒๙
ประเทศฯ แต่เพระการรวมตัวทางศก. พรหมแดนจึงถูกเอาออกหมด
๑.ต้องเป็ นพรหมชาติรัฐนัน
้
๒.คนท่ีจะให้รัฐคุ้มครองได้ต้องดำาเนินคดีในรรัฐนัน้ จนถึงท่ีสุดแล้ว หมดหนทาง
เยียวยาตามกระบวนการกฎหมายภายนใน ต้องเน้นเลยเพราะว่าไม่ว่าใคร คน
ชาติคนต่างด้าว เม่ ือไปอยู่ใต้อธิปไตยของรัฐใดต้องปฏิบต ั ิตามกม.ของปท.นัส ้ น
ต้องถึงท่ีสุดแล้ว แต่ถ้าทิง้ฟ้ อง ขาดนัดสืบพยาน ไม่อุทธรณ์ ไม่ฏีกา ยังไม่ถือ่า
หมดหนทางเยวยา รัฐมาคุ้มครองไม่ได้
๓.คนนัน้ ต้องสุจริต หมายความว่าผิดไม่ได้ หากกระทำาความผิดไม่มีรัฐไหนมา
คุ้มครองได้ ต้องครบทัง้สามเง่ ือนไข
คสพ.มีหลายกรณี คนนัน ้ ขาดจากการมีสัญชาติของรัฐนัน
้ หรือยัง? สละสช.ไทย
แล้ว รบซไทยช่วยไม่ได้ เพราะขาดไปได้ หากมีหลายสัญชาติต้องหา master
nationality ใครเป็ นชาติท่ีคุณมีสัญชาติแล้วผูกพันมากท่ีสุด ส่วนคนไร้
สัญชาติไม่มีใครดูแล ส่วนนิติบคุ คล ปท.ต่าง ๆ ในโลกจะมีหลักในการกำาหนด
สัญชาติใหญ่ ๆสามหลัก
๑.หลักจดทะเบียน cooperate principle นิติบ.นัน
้ จดทะเบียนปท.ไหนก็
มีสช.ประเทศนัน
้
๒. princle of situ (site) ภูมิลำาเนาของสนง.ใหญ่
๓. control principle สำานักงานใหญ่ควบคุมโดยพฤตินัย เช่น เทมาเสก
ท่ีมา overtake shincorp เทมาเสกจดทะเบียนเป็ นบ.ไทย เพราะซ้ือหุ้นผ่าน
กุหลาบแก้ว บ.พวกนีเ้ป็ น บ. holding company ของ เทมาเสก ปท.ไทยมี
ปั ญหากม.รปท.คือไม่มีหลักเกณฑ์ในการกำาหนดสช.นิติบ.ท่ีแน่นอน มีเกณฑ์
หลายอย่างขึ้นกับกม.หลายฉบับย เช่น ถ้ากม.ขัดกันก็หลักจดทะเบียน กม.แพ่ง
เอาหลักภูมิลำาเนา กม.ธุรกิจคนต่างด้าวเอาสัดส่วนผู้ถือหุ้นจดทะเบียน ก็เป็ น
ช่องว่า เพราะงัน ้ บ.ต่างด้าวพอมาจดทบ.ในปท.ไทยก็จะมีสถานภาพเป็ นบ.ไทย
ดำารงสัดส่วนการถือครองหุ้นให้ได้ ๔๙ ๕๑ ก็เป็ น บ.ไทยแล้ว แต่ปพพ.ก็
อนุญาตให้มีการจดทะเบียนหุน ้ บุริมฯ กับหุ้นด้อยสิทธิ เราะงัน ้ ผู้ถือหุ้น ๔๙%
จึงจดทบ.หุน ้ บุริมฯให้มีสิทธิในการออกเสียงได้ ๙๙ % ในขณะผู้ถือหุ้นอีก ๕๑
เป็ นหุ้นด้อยสิทธิมีสทิ ธิออกเสียงเพียง ๑ % เรียกว่า ควบคุมบ.โดยผู้ถอ ื หุ้น
เราะงัน
้ เจ้าของบ.ท่ีแท้จริงคือคนต่างด้าว กิจการของ บ.ควบคุมกำากับโดยท่ี
ปช.ญ.ผู้ถือหุ้นเพราะงัน ้ ๙๙ % เป็ นคนต่างด้าว อย่างนีถ ้ า้ ปท.ไทยยึดหลัก
ควบคุม เทมาเสกท่ีถือหุน ้ ผ่านกุหลาบแก้วก็จะเป็ นบ.ต่างด้าว ก็จะซ้ือหุ้นชิน
คอปไม่ได้ เพราะชินคอปประกอบธุรกิจต้องห้าม สายการบิน สถาบันการเงิน
สถานีวท ิ ยุโทรทัศน์ แต่น่ีทำาได้เพราะเขา circumvent เล่ียงกม.จากช่องโหว่
กม.ไทย เป็ นจุดอ่อนของกม.ไทย เพราะงัน ้ เวลาเรียกม.รปท.ก็เอาไปใช้ซะ มี
ผลกระทบต่อไปอีกตัง้แต่ พรบ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าวไม่ได้ใช้เลย พอจด
ทบ.เป็ นไทย สามบช.ก็ไม่ต้องใช้ ยัง ป.ทีดิน พรบ.อาคารชุดอีก ยกเว้นหมด
เพราะเป็ นไทยไปเสียแล้ว น่ค ี ือจุดอ่อนของกม.ไทย ท่ีถา้ ไม่รู้กม.รปท.ก็ดูแลชาติ
ไม่ได้ส่ิงเหล่านีต
้ อ
้ งแก้หมดย่ิงกว้านัน ้ เวลาทำา FTA มี negative list คือ
รายการอุตสาหกรรมท่ีเราไม่เปิ ดท่ีเราไม่พร้อมแข่งขัน บ.พวกนีท ้ ำาได้หมดไม่อยู่
ใต้ negative list
ปท.ในโลกนีย
้ ึดถือหลักแตกต่างกัน แต่ศาลจะถือเอาสำานักงานใหญ่เป็ นเกณฑ์
(ข้อ๒)
พอเป็ น บ.ไทยป๊ บุ ปท.ไทยเกิดความรับผิดในการดูแลบริษัทพวกนี้ แต่จริงๆ
เป็ นต่งด้าวแต่ไทยมีหน้าท่ี diplomatic protection เวลาเขาไปปก.ธุรกิจ
ปท.อ่ ืนเราต้องตามไปคุ้มครอง มีสิทธิได้รับสิทธทัง้มหาชน เอกชนใต้กม.ภายใน
รัฐต้องดูแลคนชาติสองกรณี คือ อยูในปท.และท่ีต่างปท. คนต่างด้าวท่ีเป็ นคน
ไทย อยูใ่ นปท.ไทย รบ.ไทยก็ต้องดูแลคนเหล่านีไ้ปอยู่ตปท.เราก็ต้องตามดูแล
ในฐานะพสกของแผ่นดิน
พวกนีไ้ด้รับการส่งเสริมการลงทุน boi ก็ส่งเสริม กรมสรรพากรเดือดร้อนมาก
เพราะยกเว้นภาษีเงินได้นิติบ. ก่ีปี ๆ มี tax holiday / tax examtion
/capital ไม่เสียสินค้าทุนท่ีนำาเข้า แต่คนไทยธรรมดา ไม่ได้ เพราะเกณฑ์ไม่ถึง
ปท.ไทยมี sme สองล้านสองแสนเจ็ดหม่ ืนส่ีพันสามห้าสองวิสาหกิจทัว่ปท.คิด
เป็ น ๙๕ % ของธุรกิจไทยทัง้ปท. แต่มีสัดส่วนส่งออกเพียง ๒๙ % อีก ๕ %
เป็ นต่างด้าวหมด แต่ได้เงินจากการส่งออก ๗๑ % คนไทยจึงจน
เหมืองหิน ๙๐กว่า % ต่างด้าวได้สัมปทาน
bacelona traction นิติบ.เป็ นสช.ใด
เบลเย่ียมไปขุดแร่สเปน ต่อมา สเปน เวนคืนเอาเหมืองแร่ไปหมด เบลเย่ียม
ฐานะผู้ถอ ื หุ้น รูส
้ ึกสูญเสีย เลยให้ รฐเบลเย่ียมฟ้ องร้อง ศาลโลกยกฟ้ อง เพราะ
ผู้เสียหายในทางกม.คือตัวบ.ไม่ใช่ผถ ู้ ือหุ้น เพราะ บ.จดทะเบียนแล้วความเป็ นนิ
ติบ.แยกจากผู้ถือหุ้น ทรัพย์สินของบ.ไม่ใช่ของผู้ถือหุ้นตราบ บ.ไม่เลิก ผู้ถือหุ้น
ไม่มีกรรมส.ในทรัพย์สิน เว้นแต่บ.เลิกจึงชำาระบช.ได้ทรัพย์สินขายคืน ตรา
บท่ีบ.ไม่เลิก ผู้ถือหุ้นมีสิทธิประการเดียวคือได้รับเงินปั นผล ผูเ้ สียหายคือบ.
เม่ ือบ.มีสัญชาติแคนาดา ปท.ท่ีจะฟ้ องได้คือแคนาดาไม่ใช่เบลเยียม ก็เลย
ยกฟ้ อง
===================================
====================
มนุษย์ทุกคนเกิดมาแล้วควรมีสัญชาติยึดโยงระหว่างคนกับชาติ ท่ีเขาเกิดมา
ส่วนเกณฑ์ในการให้สัญชาติขึ้นกับกม.ภายในของปท.น้นๆ พรบ.สัญชาติของ
ไทยให้สช.โดยการเกิดและหลังเกิด เก่ียวกับการเสีย สช.ก็มีสามวิธี สละ แปลง
เป็ นไปตามเจตจำานงของเอกชน
หรืออาจถูกถอนสช.เพราะรบ.ถอน
กม.สช.ให้สิทธิบ.ท่ีเสียสช.ไปแล้วต่อมาอยากได้สช.ไทยกลับคืนก็สามารถกลับ
คืนมามี สช.ไทยได้ เป็ นกลุ่มการคืน สช.ไทย การได้สช.ไทยโดยการเกิดมีสอง
หลักคือหลักสืบสายโลหิต jus sanguinis กับหลักดินแดน jus solae หลัก
สืบสายโลหิตแบ่งเป็ นสองสายคือสายบิดา paterfamilius สายมาดา
motherfamilius ส่วนหลักดินแดนนัน ้ คือทุกคนท่ีเกิดในดินแดงประเทศใด
ก็ได้สัญชาติปท.นัน ้ แต่อาจตกภายใต้ข้อยกเว้น สมัยก่อนมีข้อยกเว้นตาม ปอ.
๓๓๗ แต่ปว.นีย ้ กเลิกไปแล้วปี ๒๕๓๕ แทนท่ีด้วย ม.๗ ทวิ แทน เพราะงัน ้
ก่อนปี ๓๕ การได้สช.ไทยตามหลักดินแดนจะถูกถอนโดยปว.๓๓๗ พอยกเลิก
ปว.๓๓๗ ก็เลยแปลงให้มาเป็ น ๗ทวิ จึงกลายเป็ นข้อยกเว้น หลักเกณฑสองอัน
นีเ้หมือนกัน คือ บ.ท่ีเกิดในปท.ไทยโดยไม่คำานึงว่าบิดามารดาสช.อะไร ก็จได้
สช.ไทยแต่ถา้ บิดามารดาท่ีทัง้คู่เป็ นคนต่งด้าวแล้วล่ะก็ บิดาก็ดี มารดาก็ดี หรือ
บิดาซ่ึงแม้จะไม่ได้สมรสกับมารดาเป็ นบุคคลสามกลุ่ม คือ ๑.เข้าเมืองไม่ชอบ
๒.เข้าเมืองชัว่คราว ๓.เข้ามาอยู่ในปท.ไทยโดยได้รบ ั ยกเว้นเป็ นกรณ๊พิเศษ หาก
เข้าลักษณะนี แ ้ ม้จะเกิดในปท.ไทยก็จะไม่ได้สัญชาติไทย ข้อความนีเ้หมือนกับ
ใน ๗ ทวิ แต่ ปว.๓๓๗ นัน ้ ออกเพ่ ือถอนคนท่ีได้ สช.ไทย คือ เกิดแล้วได้ไทย
มาก่อน แล้วถูกถอน โดย ปว.๓๓๗
เม่ ือมี ๗ ทวิ จึงกลายเป็ นข้อยกเว้นของม.๗(๒) คือ พ่อแม่เป็ นคนเข้าเมืองโดย
ไม่ชอบชัว่คราวหรืออยู่เป็ นกรณีพิเศษก็จะไม่เคยได้สัญชาติไทยเลย ไม่ใช่ถูก
ถอนเหมือน ปว.๓๓๗
เดิมคนได้สช.ไทยโดยหลักสืบสายฯ ต้องมี อปก.ครบ เรียกว่า condicio
sinquenum คือต้องมีบิดาท่ีชอบด้วยกม.ขณะเกิด(ปั จจุบันพ่อก็ได้แม่ก็ได้)
สมัยก่อนอาศัยหลักบิดา คนท่ีมีพ่อเป็ นไทยแล้วจะได้ สัญชาติไทยต้องมีพ่อท่ี
ชอบด้วยกม. เพราะงันถ้าพ่อไม่ได้แต่งงานกับแม่แล้วแม่ไม่ใช่คนแทน เข้า ๗ทวิ
ลูกก็จะไม่ได้สัญชาติไทยเพราะพ่อไม่ได้แต่งงานกับแม่ แต่ปัจจุบันกม.ออกใหม่ปี
๕๑ แม้พ่อไม่ได้แต่งงานกับแม่แต่เป็ นพ่อท่ีแท้จริงกม.ก็อนุญาตให้พิสูจน์ความ
เป็ นพ่อทางสายโลหิตได้เช่นตรวจ DNA แม้ลูกท่ีมีพ่อเป็ นไทยแม้ไม่ชอบด้วย
กม.(ไม่แต่งงาน)แต่ลูกก็สามารถมีสัญชาติไทยโดยหลักสืบสายโลหิตทางบิดาได้
เม่ ือก่อนนีไ้ม่ได้ ถ้าแม่เป็ นไทยแล้วไปได้ตามหลักแม่ แต่หากแม่ไม่ใช่ไทย หลัก
สืบสายโลหิตตามสายโลหิตก็จะไม่ด้เลยเพราะพ่อไม่ได้แต่งงานกับแม่ แต่อาจได้
โดยหลักดินแดน แต่ถ้าแม่เกิดเป็ นบ.ใน ๗ ทวิ ก็หลุดทัง้พ่อทัง้แม่ เพราะงัน ้ ใน
สมัย ้ ก่อนต้องเป็ นพ่อท่ีชอบด้วยกม.พ่อต้องม่ีสช.ไทยก่อนหรือขณะท่ีลูกเกิดมา
ทีนีค ้ ำาว่เกิดคือตาม ม.๑๕ ปพพ.คือ อยู่รอดเป็ นทารกขณะนัน ้ ต้องมีพ่อโดย
ชอบด้วยกม.และพ่อเป็ นไทย
คำาว่าบิดาท่ีชอบด้วยกม. ก่อนมี กม.สช.แก้ไขฉบับท่ี๔ ปี ๕๑ แนวคิดก็ต่างกัน
ระหว่างศาลกับกระทรวงตปท. และกฤษฎีกากับกระทรวงมหาดไทย
ฝ่ ายศาลกับกระทรงตปท. ยึดตัวบท ท่ีถือว่ต้องมีบิดาโดยชอบด้วยกม.ขณะเกิด
ขณะเกิดพ่อไม่ได้แต่งงานกับแม่ ก็ไม่ได้สช.ไทยต่อมาเกิดแล้วพ่อมาสมรสกับแม่
ลูกก็ไม่ได้สช.ไทยเพราะขณะเกิดไม่มีพ่อเป็ นไทย
แต่ทางฝ่ ายกฤษฎีกากับทางฝ่ ายกระทรวงมหาดไทยถือ่าถ้ามีพ่อแท้จริงก็ใช้ได้
แล้ว เป็ นเหตุให้เปล่ียนแปลงกม.ฉบับท่ี๔ ในพรบ.สัญชาติ เพราะมีปัญหาว่า
เด็กเกิดในไทยแต่ไม่มได้สช.ไทย
หลักสืบสายโลหิตทางมารดา สมัยก่อน ไม่ได้ทางพ่อก็มาดูทางแม่ การท่ีแม่เกิด
ลูกแล้วได้ สช.ไทย เดิมลูกจากแม่ไทย ได้ สช.ไทยเม่ ือไม่มีพ่อ หรือพ่อไม่มีสช .
นัน
่ ปี ๒๔๕๖ ต่อมา ๒๕๐๘ ซับซ้อนขึ้นว่า ลูกจากแม่ไทยได้สช.ไทยเม่ ือเด็ก
เกิดนอกฯ และแม่เป็ นไทยขณะเกิดและไม่มีพ่อหรือพ่อไม่มีสช. จึงจะได้สช.ไทย
ในปี ๒๕๐๘นี้ เพราะแม่ไทยเกิดลูกในไทยไม่ได้สช.ไทย เช่นลูกครูประทีบ อึ้ง
ทรงธรรม หรือจักรพรรณ์ อาบครบุรน ี ักร้องเสียงดี ช่ ือคุณก๊อต เสียงอย่างนีเ้ลย
โห ชอบมาก เส่ียงนุ่มละมุนหู ไม่ได้สช.ไทย แม่ไทยแต่เกิดในราชฯ ไม่ได้
สช.ไทย เอ?แปลกนะ
ปี ๒๕๓๕ เปล่ียนใหม่ เพราะมีปห.มากเลยเปล่ียนใหม่ว่า พ่อก้ได้แม่ก็ได้ขอให้
เป็ นไทย ไม่ว่าเกิดในหรือนอกฯ ก็ได้สช.ไทย
พ่อ แม่ไม่ได้แต่งงาน แต่ถ้ามีแม่ไทย ใช้ได้ เพราะเป็ นบุตรโดยชอบด้วยกม.ของ
แม่
พ่อไทยไม่แต่งแม่ แม่ต่างด้าว เข้า ๗ ทวิ ลูกไม่ใช่ไทย นำามาสู่แก้ไขฉบับท่ี๔ ปี
๒๕๕๑
แม้กระทัง่ปี ๓๕ หลักเกณฑ์ท่ีว่า ผู้เกิดโดยบิดาหรือมารดาไทย ไม่ว่าเกิดในนอก
ให้มีผลย้อนหลังไปเพราะกม.เป็ นคุณ นับแต่นัน ้ มาคุณก๊อตก็ได้สช.ไทย ลูกครู
ประทีปก้ได้สช.ไทย
หลักท่ีสอง jus sole หลักดินแดน พ่อแม่จะเป็ น สช.อะไรก็ได้ พ่อแม่เป็ น
ต่างด้าวทัง้คู่ได้ ขอให้เกิดในปท.ไทย แต่ไม่ใช่ทุกคน พ่อแม่เป็ นต่างด้าวแล้วลูก
จะได้สช.ไทยต่อเม่ ือไม่เข้า ๗ ทวิ และไม่เข้า ๘
กรณีท่ีหน่ึงคือ ม.๘ กับ ๗ ทวิไม่เหมือนกัน ๗ทวิเป็ นข้อยกเว้นคือควรได้แต่เข้า
ข้อยกเว้นเลยไม่ได้ สวนม. ๘คือไม่ได้เลยเพราะมูลฐานของกม.ไม่เหมือนกัน ม.
๘ คนท่ีเกิดในไทย พ่อแม่ทัง้คู่ต้องไม่ใช่คนไทย จำาไว้ เพราะถ้าพ่อแม่คนใดเป็ น
ไทยก็จะไปเข้า ๗(๑) เพราะงัน ้ ม.๘ น่ี พ่อแม่ทัง้คู่ต้องไม่ใช่ไทยแล้วพ่อหรือแม่
หรือพ่อแม่เป็ นฑูต กงสุล ทำางานในองค์การระหว่างประเทศ หรือเป็ นคนใน
ครอบครัวของฑูต กงสุล คนทำางานในองค์การฯ และคนรับใช้ พวกนีแ ้ ม้จะเกิด
ลูกในไทย ก็ไม่ด้สช.ไทย กมใช้คำาว่าไม่ได้ ไม่ใช่ข้อยกเว้น เพราะ เรียมารู้แล้วง่า
ฑูต กลสุล คนทำางานองค์การรปท. เป็ นบ.พิเศษซ่ึงบริโภคเอกสิทธิแ์ละความคุ้ม
กันจึงไม่ถูกกม.ภายในบังคับ พรบ.สัญชาติกเ็ ป็ นกม.ภายในจึงไม่ปรับกับบ.กลุ่ม
นีจ้ึงไม่ได้สช.ไทยเลย
เพราะการได้สช.ไม่ใช่แต่สิทธิ การมีสช.ไทยมีหน้าท่ีด้วย ลูกฑูตต้องไปเกณฑ์
ทหารตอนอายุ๒๐??
(๑) (๒) (๓) ไม่มีปัญหา แต่ (๔) ท่ีว่า บุคคลในครอบครัวก็ดี คนใช้ก็ดี ต้อง
เป็ นบุคคลในคณะผู้แทนทางการฑูตหมายความว่า เป็ นบ.ท่ีมากับคณะฑูต เป็ น
บ.ซ่ึงประเทศผู้ส่งแจ้งประเทศผู้รับว่าน่ีเป็ นบ.ในคณะฑูตไม่ใช่คนใช้ฑูตทีได้
ในปท.ไทยหรือมาจากตปท.แต่ไม่ได้ส่งโดยประเทศทีส่งฑูต ถ้าเป็ นชนิดนัน ้
แล้วไม่เข้า ๗ทวิ ลูกเขาย่อมได้สช.ไทย
ต่อไป อันท่ี ๒ คือ ๗ ทวิ บิดาและมารดาต้องเป็ นต่างด้าวทัง้คู่ จำาไว้ว่า ๗ทวิ ๘
ทัง้คู่พ่อแม่ต้องเป็ นต่างด้าวเท่านัน
้ ถ้าพ่อไทยแม่ต่างด้าว แม่ไทยพ่อต่างด้าว ไม่
เข้าเลย แม้พ่อเป็ นฑูตแต่แม่เป็ นไทย ลูกย่อมได้ สช.ไทย เพราะได่ตามหลักสืบ
สายโลหหิตทางมารดา แต่ถ้าพ่อกับแม่ไม่ได้แต่งงานกัน เป็ นไง? พ่อฑูต ไม่ต้อง
พูดถึงเลยเพราะไม่ใช่พ่อโดยชอบด้วยกม. แล้วท่ีกม.เปล่ียนแปลงในเร่ ืองพิสูจน์
สายเลือดนัน ้ เฉพาะพ่อไทย
๗ ทวิใช้คำาท่ีชัดเจนว่า พ่อแม่ พ่อหรือแม่ หรือพ่อท่ีไม่ได้แต่งงานกับแม่ คือ ๗
ทวินัน
้ คิดหมดไม่ว่าพ่อแม่จะแต่งงานกันหรือไม่ เพราะงัน ้ ถ้าแม่เป็ นไทยแต่พ่อ
เป็ นยวนอพยพลูกเกิดมาก็ได้เพราะแม่เป็ นไทย แต่ถ้าแม่เป็ นแม่เม้ยมะลิกเป็ น
คนใช้ฑูต แล้ว พ่อเป็ นชนกลุมน้อยชาวกะเหร่ียงท่ีลักลอบเข้ามาในไทย พ่อกับ
แม่เกิดปิ ๊งกันแต่ไม่ได้แต่งงานกันลูกท่ีเกิดมาได้สช.ไทยไหม?
เกิดลูกออกมาช่ ือนายบุเรงนอง ลัน
่ กลองรบ ในสถานฑูตฝรัง่เศสใน
ประเทศไทย เพระอะไรไม่ได้สช.ไทย อันดับแรง วางมาตรา ๗ ก่อนเพ่ ือนเลย
ทำาไม? เพราะเด็กคนนีเ้กิดท่ีไหน? เกิดในสถานฑูตฝรัง่เศสในประเทศไทย
เป็ นการเกิดในแผ่นดินไทย
มีพ่อแม่เป็ นไทย? ไม่มีนิ ก็เลยเอา ๗ (๒) มา เพราะเกิดในแผ่นดินไทย วางไว้
ก่อน แล้วเด็กคนนีค้ วรได้สช.ไทย? ดูข้อยกเว้น ดูโดยลำาดับ เข้า ๗ ทวิไหม
๘ไหม? อ๊ะ
พ่อเป็ นใคร? พ่อเป็ นกะเหร่ียงต่างด้าวลักลอบเข้ามา ดู ๘ด้วยว่าพ่อแม่ สช.ใด
พม่ากับกะเหร่ียง อาจเข้า ๗ ทวิ หรือ ๘ ดูทีละขา ดู ๗ ทวิก่อน ๗ ทวิบอกว่า มี
พ่อมีแม่หรือพ่อท่ีไม่ได้แต่งงานกับแม่เป็ นเข้าเมืองโดยไม่ชอบ เข้าเมืองชัว่คราว
อยู่ในปท.ไทยเป็ นกรณีพิเศษ
แม่? เข้าไหม? ไม่เข้า พ่อเข้าไหม? เข้า ทีนีพ
้ ่อกับแม่ไม่ได้แต่งงานกัน คิดไม่
คิด? บิดาท่ีไม่ได้สมรสกับมารดา เพราะงัน ้ คิดหรือไม่? ตอบ .. คิดสิ คือพ่อท่ีไม่
ได้แต่งงานกับแม่ ถึงพ่อไม่ได้แต่งงานกับแม่แต่เป็ นกะเหร่ียงเข้าเมืองมาไม่ชอบ
ก็เข้า ๗ ทวิ ลูกจึงไม่ได้สช.ไทย
แม่ไม่เข้า ๗ทวิ แม่เข้า ๘ ไหม? ทำาไมไม่เข้า แม่มาจากตปท.ก็จริงแต่มาจากพม่า
ไม่ได้มาจากฝรัง่เศส แม่มามีภูมิลำาเนาในประเทศไทยแล้ว ฑูตจ้างมา เพราะงัน้
แม่เม้ยมะลิกไม่ใช่บุคคลในขณะผู้แทนทางการฑูต ฝั่ งแม่ไม่เข้า ๘ แต่ไงก็ตาม
เด็กก็ไม่ได้สช.ไทย เพราะพ่อเข้า ๗ ทวิ(๑)
ไหนใครยังเบบลอๆ??
เม้ยมะลิกถ้ามาจากฝรัง่เศส หรือปท.ฝรัง่เศสแจ้งไทยว่าเม้ยมะลิกเป็ นคนใช้ฑูต
อย่างนีเ้ข้า ๘(๔)
ม. ๘มีมูลฐานมาจาก หลักเอกสิทธิแ์ละความคุ้มกันทางการฑูต
อีกคำานึงท่ีต้องรู้ คือคำาว่า?? เข้าเมอืงมาชัว่คราวหมายถึง พวกท่ีเป็ น non-
immigrant ไม่ใช่พวก immigrant คืออะไร? เวลาคนต่างด้าวเข้ามาอยู่
ในปท.ไทยพวกนีเ้ป็ น immigrant คือต้องมีภูมิลำาเนาหรือถ่ินท่ีอยุ่ในปท.ไทย
แต่พวกมาท่องเท่ียวมาประชุมสัมนาสามวันเจ้ดวัน เป็ น non-immigrant มา
ท่องเท่ียงมาประชุมสัมนาดูงาน เข้ามาชัว่คราวสรุปว่า ไม่มีภูมิลำาเนาหรือถ่ินท่ีอยู่
ในประเทสไทย พวกฝรัง่ท่ีมานอนสมุยสามเดือนแล้วออกไป แม้มาเกิดลูกในไท
ยก้ไม่ได้สช.ไทยเพราะไม่เป็ น immigrant ไม่ได้มีภูมิลำาเนาหรือถ่ินท่ีอยุใน
ประเทศไทย
พวกมาเรียนต่อโท เอก มีภูมิลำาเนาในปท.ไทย ไม่ resident (ถ่ินท่ีอยู)่ ก้
domicile (ภูมิลำาเนา) พวกนีเ้ป็ น immigrant
ส่วนเข้าเมืองแล้วมีสิทธิอยูเ่ ป็ นพิเศา เข้ามาเป็ นกรณีพิเศา เช่นดาไลลามะ ออง
ซานซูจี เกิดลูกมาก้ไม่ด้สช.ไทยเพราะจะได้สช.ไทยต้องเก่ียวกับกับปท.ไทยพอ
สมควร หรือคนเข้าเมืองมาโดยไม่ชอบก็ไม่ควรมีสช.ไทยเพราะมาก็ผิดกม.แล้ว
พวกเข้าเมืองมาเป็ นกรณีพิเศษก้ไม่ได้มีความประสงค์จะอยู่ถาวรก็ไม่ควร
มีสช.ไทย
พวกแรงงานพม่า ถือว่ามีถ่ินท่ีอยู่ ในปท.ไทย คือเข้ามาทำางานมาอยู่ถาวร มี
work permit เป็ นลูกจ้างมีใบอนุญาตให้ทำางานพวกนีเ้กิดลูกในปท.ไทย ได้
สช.ไทย
ขอ visa ประเภทไหน ถ้าขอชนิด immigrant จะได้สช.ไทย
พ่อถูกต้องแม่ลักลอบ ลูกไม่ได้สช.ไทย ***เร่ ืองได้สช.ตามหลักดินแดนก็
เหมือนเร่ ืองเขตอำานาจรัฐ คือตรงไหนเป็ นดินแดนไทย แผ่นดิน ผืนดิน พ้ืนน้ำา
เกิดในเรือไทยท่ีจอดท่ีอ่าวไทยได้สช.ไทยไหม?
เกิดบนเคร่ ืองบินไทยเหนือทะเลหลวง ได้สช.ไทย?
คนลาวเกิดลูกบนเคร่ ืองบินไทยแต่จอดอยู่ท่ีอ่าวตัวเก๋ย
ี ได้สช.ไทย?
คนลาวเกิดลูกบนเรือล่องธาราจอดทีเกาะสีชังได้ไหม?
เกิดบนเคร่ ืองบินสวิส ท่ีบน
ิ เหนือน่านฟ้ าไทย ?
อาณาเขตไทยมันแค่ไหนล่ะ?
แผ่นดินแผ่นน้ำาน่านฟ้ าเหนือแผ่นดิน อันนีไ้ม่ต้องอาศัยเคร่ ืองบินเลย มันเกิด
ในราชอาณาจักรไทยอยู่แล้ว ใช้คำาว่า ราชอาณาจักรไทย หรือใช้คำาว่า ถือว่าราช
อาณาจักรไทย
ผู้เกิดโดยบิดาหรือมารดาเป็ นผู้มีสช.ไทยไม่ว่าจะเกิดในหรือนอกราชอาณาจักร
"ราชอาณาจักร"
มีปัญหาว่าตรงไหนเป็ นเขตแดน บกน้ำาทะลอากาศ ยึดหลักอาณาเขต ทีนีถ ้ ้าเกิด
บนเรือไม่ว่าเรือไทย อากาศยานไทย ถ้าจอดในแผนดินไทยก็ไม่ต้องอาศัยเรือ
หรืออากาศยาน เป็ นเร่ ืองของเกิดในราชอาณาจักรไทย เรือกับอากาศยานไม่ใช่
ราชอาณาจักร แต่ถือว่า เพ่ ือขยานเขตแดนตามหลักอำานาจรัฐ เพราะงัน ้ เกิดบน
เคร่ ืองบินสวิสท่ีบินเหนือน่านฟ้ าไทย ไม่ต้องดูเคร่ ืองบินเลย เพราะอยู่บนราช
อาณาจักรไทยอยู่แล้ว แต่ลาวไม่ได้สช.ไทย ไม่ใชว่าไม่ได้เกิดในฯ แต่ไม่ใช่ บ.ท่ี
อยู่ในปท.ไทย
สถานฑูตก็ไม่ใช่ดินแดน ไม่ได้เป็ นดินแดนของปท.ท่ีส่งฑูตมา แต่เป็ นดินแดนข
องปท.ท่ีสถานฑูตตัง้อยู่ สถานฑูตฝรัง่เศสในปท.ไทยเป็ นดินแดนไทย
กรณีหญิงขอป๊ บ
ุ ต้องได้ปั๊บ กรณีอ่ืนต้องอยู่ในดุลยพินิจ เป็ นอันว่าจบเร่ ือสช.
ทีนี ต
้ ่างด้าว!!
for public interest due procedure prompt adequate
effective
คนต่างด้าวมาอยู่ในราชอาณาจักรไทยต้องมาอยูใ่ ต้อำานาจอธิปไตยไทยเวลา
ทำางานต้องขอใบอนุญาต ถือครองท่ีดินห้องชุด ต้องเป็ นไปตามพ รบ.แต่หลีกได้
หมด จะทำาอาชีพก็ต้องไปดูสามบช. ๑ ไม่อนุญาต ๒ สามหมวด ๓ ไม่พร้อม
แข่งขัน
เร่ ืองสิทธิ ปท.ไทยให้สิทธิทัง้เอกชนและมหาชนแต่ไม่เข้าคนไทย เลือกตัง้ไม่ได้
สามสิบบาทรักษาทุกโรคไม่ได้ สิทธิในการใช้ถนนใช้ได้ แต่ถา้ เข้ามาแล้ว
ประพฤติมิชอบแล้วอาจถูกเนรเทศได้
นิตบ
ิ .ถือสช.อะไร? อธิบายไปแล้ว
คนต่างด้าวทำาอาชีพบางอย่างในปท.ไทยไม่ได้ ห้ามเข้าด้วยเหตุผล ความมัน ่ คง
อนามัย เศรษบกิจ เป็ นโรคซาร์ ไข้เหลือง ท่ีแพร่หลายได้ก็ไม่ให้เข้า
immigrant / non-immigrant ต้องมี immigrant visa เพ่ ือมีภมิ
ลำาเนาหรือถ่ินท่ีอยู่ นอกจาก กม.ตม.ทัว่ไปก็อาจเข้ามาภายใต้การส่งเสริมการ
ลงทุน BOI อันนีอ ้ ยูน่ านอยูท
่ นอยู่เกิน หรือเข้ามาภายใต้ bit สนธิสญทวิภาคี
ใครท่ีเข้ามาแล้วอยู่ไม่ชอบหรือลักลอบเข้ามา รบ.จะส่งกลับโดยกักขังไม่เกิน ๔๘
ต่อ ๗ ขอ ๑๒ ส่งออกนอกปท. ถ้า overstay มีทุกระดับรวมทัง้พวกฑูต พอ
หมดหน้าท่ีแล้วไม่มีเอกสิทธิ หากอยูเ่ กินอาจถูก exile หรือ deport ได้
ต้องไม่ปก.อาชีพเว้นแต่ได้ work permit คนต่างด้าวมีโควต้าปี ละร้อยคน ไร้
สช.รับได้ไม่เกิน๕๐ คน คนท่ีเข้าเมืองมาไม่ได้ เคยรับโทษ คนท่ีทำามาหากินไม่
ได้เราก็ไม่รับเข้ามา การมีถ่ินท่ีอยูถ
่ าวรต้องขอใบปจต.คนต่างด้าวมี resident
หรือ domicile ต้องขอหมด พวกนีเ้ข้ามาแล้วอยู่ไม่ชอบ หรือเข้ามาค้าประเวณี
ค้ายาเสพติด หนีภาษี เป็ น contra bronose arest การทำางานมีสท ิ ธิ
ทำางานได้แต่ต้องขออนุญาตโดยอาชีพส่ีกลุ่มห้ามทำา กม.มัคคุเทศน์ ภูมิปัญญา
ศิลปะ กรรมกร ก็ทำาไม่ได้ ตัดผม ถีบสามล้อ ทำาไร่ ทำานา ทำาสวน คนไทยสงวน
ไว้โดยเฉพาะ
อีกอันต้องทราบสำาคัญ คนต่างด้าวแม่เข้ามาขอทำางานในปท.ไทยได้แต่ต้องมี
work permit แม้เป็ นอาชีไม่ต้องห้ามแต่ทำาเองไม่ได้ เช่นจะเข้ามาขายลูกชิน ้
แต่ถ้ายังไม่มีใบอนุญาตก็ขายไมได้ อีกอันขออันนีก ้ ็ต้องทำาอันนีไ้ม่ใช่ไปทำาอัน
อ่ ืน แล้วก็ การออกใบอนุญาตต้องไม่เป็ นอาชีพต้องห้าม ไม่ใช่งานเร่งดว่นสิบห้า
วัน ต้องมีภูมิฯ ในราชอาณาจักร เพราะว่า ถ้าคนต่างด้าวสามารถมาทำางานชนิด
นีไ้ด้คนไทยก็ไม่มีงานทำา น่ีเข้ามาเท่ียวย่ีสิบวันทำางานสิบวัน เก็บเงินแล้วเท่ียว
ต่อ งีไ้ม่ได้
ไปดู พรบ.สัญชาติ ส่ีฉบับ ๐๘ ๓๕ ๕๑ ส่วน๒๔๕๒ไม่ต้องไปดูแล้ว พรบ.ขัด
กัน พรบ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว รวมถึง implementing regulation
เช่นกฎกระทรวง ประมวลท่ีดิน พรบ.อาคารชุด วิแพ่ง
คนต่างด้าวจะถือท่ีดินได้ต้องลงทุนไม่นอ
้ ยกว่าส่ีสิบล้านมีได้๑ ไร่สร้างโรงเจ
สุเหร่าโบสถ์คริสต์ได้๕ไร่ อุตสาหกรรมได้๑๐ไร่ หรือได้มาโดยทายาทโดยธรรม
ถ้าเป็ นคนไทย แล้ สูญเสีย สช.ต้องจำาหน่ายทีด่นใน ๑ ปี
ธุรกิจต้องห้าม นสพ.ส่ ือมวลชน มัคคุเทศก์ นักกม. สำาหรับคนตางด้าวไม่ได้
mutual recognition ตอนนี้ asean เปิ ดแล้วยอมรับปริญญาบัตรซ่ึงกัน
และกัน จบหมอทีไหนก็ทำางานได้ทัว่โลก เป็ นต้น
diplomatic protection การท่ีคนต่างด้าวได้รบ
ั การคุ้มครองจากรัฐท่ีตน
สังกัดอยู่เม่ ือมาเป็ นคนต่างด้าว
กม.ขัดกัน ก็อธิบายไปพอสมควรแล้ว ให้ดู พรบ.ขัดกันปี ๔๑ เช่น เร่ ืองพรบ.
ขัดกัน มีตัง้แต่ ขัดกันในเร่ ืองหนี ด้ ูว่าเป็ นหนีจ้ากมูลอะไร ถ้าขัดกันด้วยหนีท
้ ่ีมา
จากมูลนิตก ิ รรมดูเร่ ืองแบบ เด็ดขาดไหม ถ้าเด็ดขาดก็ต้องใช้ถ้าปท.ไทยเก่ียวข้อง
ถ้าแบบไม่เด็ดขาด คู่สญเลือกได้ เกียวกับสาระหรือผลให้ดูการแสดงเจตนาถ้าไม่
ทราบเจตนาดูกม.สช.ถ้าต่างสช.ให้ดูกม.แห่งถ่ินท่ท ี ำาสญ. ปกติให้ใช้แบบของ
ถ่ินท่ีทำาสญ. ทีนีถ้ า้ เป็ นแบบเด็ดขาดทีเก่ียวกับไทยก็ให้ใช้กม.ไทยเช้น ๔๕๖
วรรคหน่ึง กม.แห่งถ่ินใช้ จัดการงาน/ลาภมิควรได้ จะฟ้ องศาลไทยเม่ ือ กม./ทย
ถือเป็ นละเมิด แล้วละเมิดเกิดในปท.ไทย
เวลาสัง่ค่าสินไหมทดแทนก็สัง่ได้ไม่เกินเกณฑ์กม.ไทย ถ้าละเมิดในทะเลหลวง
ทะเลอาณาเขตใช้กม.ของปท.เจ้าของอาณาเขตตามหลักดินแดน ถ้าใน
ทะเลหลวงต้องดูว่าบนเรือต้องใช้กม.ชองปท.เรือัชก ั ธง ถ้านอกเรือดูกม.ทะเลพา
ริชย์นาวี ถ้าเกียวกับอสังฯใช้กม.ท่ีอสังฯตัง้อยู่ ต้องรู้เป็ นเร่ ืองทรัพยสิทธิ ไม่ใช่
เก่ียวกับหนี้ ถ้าเป็ นเร่ ืองหนีจไม่ใช้กม.ปท.ท่ีทรัพย์ตัง้ ต้องดูว่าเป็ นทรัพย์สิน
ไหม กรรมส.โอนยัง? สิน ้ สุดแห่งทรัพย์สิน ขอบเขตการใช้ทรัพย์สิน สิทธิครอบ
ครอง ส่วนควบ แบบสัญญานิติกรรม คสม.บ.ในการทำานิติกรรมเก่ียวกับอสังฯ
ใช้กม.ปท.ท่ีทรัพย์ต้ง ผลคำาสัง่สาบสูญ ทรัพย์ระหว่างสามีภรรยาท่ีเปนอสังฯ
อะไรก็แล้วแต่ท่ีเป็ นอสังฯ ใช้กม.ท่ีสังฯตัง้อยู่แตต้องเป็ นทรัพยสิทธิไม่ใช่บุคคล
สิทธิ
ถ้าเป็ นสังฯให้ใช้กม.ถ่ินสำงฯตัง้เว้นแต่เป็ นทรัพย์ท่ีส่งออกให้ใช้กม.ของปท.
เจ้าของทรัพย์ แต่ถา้ ทรัพย์เคล่ ือนขณะฟ้ องให้ใช้กม.ท่ีทรัพย์ตัง้ขณะฟ้ อง
เร่ ืองครอบครัว คสม.ในการหมัน้ ถอนหมัน
้ ใช้กม.สช. ผลการหมัน
้ กม.ของ
ประเทศท่ีศาลพจารณาคดี เง่ ือนไขการสมรสใช้กม.สช
แบบของการสมรส?
ตอนจะสมรสใช้กม.สช.ตอนเพิกถอนต้องดูว่าเพิกถอนเร่ ืองอะไร อายุสำาคัญผิด
กลฉ้อฉลข่มขู่ใช้กม.ถ่ินท่ีสมรส
ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมรปท.
๑.extradition
๒.ให้ความร่วมมือทางอาญา ขอให้ดำาเนินกระบวนการยุติธรรม mutual
cooperation เช่นการ สืบเก่ียวกับสถานท่ีเกิดเหตุ พยานบุคคล พยาน
แวดล้อม
๓.การแลกเปล่ียนโดยการโอนตัวนักโทษ บ.ผู้ถก ู แลกเปล่ียน ให้เป็ นนักโทษ
เรียบร้อยแล้ว กรณีข้อ๑ เป็ นแต่เพียงถูกกล่าวหา
๔.การร่วมมือปราบปรามอาชญากรรม รปท.โดยองค์การตำารวจสากล
๕.ศาลอาญาระหว่างประเทศ
หลักเกณฑ์เพ่ ือดำาเนินการความร่วมมือในการปราบอาชญากรรมรปท.นัน ้
เป็ นการหลีกเล่ียงไม่ให้เกิดช่องว่างเร่ ืองอำานาจพิจารณาคดีของศาลให้ ผู้กระทำา
ผิดรอดพ้นอาญา เพระแต่ละปท.มีเขตอำานาจศาล กระบวนพิจารณา แตกต่งกัน
ในแต่ละประเทศ หากผู้กท.ผิดรอดพ้นจากการถูกดำาเนินคดีในปท.หน่ึง อาจ
เดินทางหลบหนีออกนอกปท.แล้วไม่ต้องโดยดำาเนินคดี เป็ นเหตุผลไม่ให้ผู้
กระทำาความผิดรอดพ้นจากการดำาเนินคดี
ประการสองคือป้ องกัน doube jeopardy เพราะบ.กระทำาความผิดควรถูก
ลงโทษเพียงครัง้เดียว การร่วมมือกันทำาให้แน่ใจว่าคนท่ีกระทำาความผิด ไม่โดน
ลงโทษซ้ำา
ความเป็ นมาเร่ ืองการส่งผู้ร้ายข้ามแดน มีความเป็ นมาว่า การท่ีสมัยโบราณนัน
การท่ีบค
ุ คลคนหน่ึงทำาความผิดในรัฐหน่ึงจะหลบหนีไปอีกรัฐหน่ึงยาก ต่อมา
การคมนาคมสบาย จึงมีผู้ร้ายหลบหนีจากปท.ไปอีกปท.ง่ายขึ้น จึงจำาเป็ นต้องมี
เร่ ืองส่งผู้ร้ายข้ามแดน
การส่งผู้รา้ ยข้ามแดน ส่งนักโทษข้ามแดน คือรัฐหน่ึงส่ง บ.ผู้ต้องหาว่ากระทำา
ความผิดให้รัฐทีจะพิจารณาพิพากษาลงโทษ คือรัฐหน่ึงเรียกรัฐผู้ร้องขอ อีกรัฐ
เรียกผู้รับคำาขอส่งตัวผู้ร้ายไปยังรัฐท่ีรอ
้ งขอ
การส่งตัวผู้ต้องหาไปยังรัฐนัน
้ ต้องปรากฎแน่ชัดว่า บ.นัน ้ ได้ปรากฎตัวในดิน
แดนรัฐผู้รบ
ั คำาขอด้วย เพียงแต่คาดว่าเช่ ือว่าจะปรากฎตัว ก็ไม่อาจร้องขอให้
ส่งตัวได้
หลักการพิจารณาเก่ียวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดน พิจารณา ประเภทของบ.ท่ีจะส่ง
ผู้ร้ายข้ามแดน และประเภทของความผิด
ประเภทบุคคลมี๓ กลุ่ม ด้วยกัน ๑.เป็ นของคนสัญชาติปท.ท่รี ้องขอ หลบหนีไป
ยังปท.รับคำาขอ ๒.ส่งตัวบุคคลของรัฐผูร้ ับคำาขอ เช่น นายแดงคนไทยฆ่านายปี
เตอร์คนอังกฤษท่ีปท.อังกฤษแล้วนายแดงหนีกลับมาปท.ไทย รบ.อังกฤษร้อง
ขอให้ปท.ไทยส่งตัวแดงไปให้รบ.อังกฤษดำาเนินคดี เรียกเป็ นการส่งตัวคนของ
รัฐผูร้ ับคำาขอ โดยทัว่ไปรัฐท่ีรับคำาขอมักไม่ส่งเพราะมีเหตุผลหลายประการ ปท.
ของตนไม่ควรส่งคนสัญชาติตนเนรเทศออกนอกปท.เพือรับผิดในปท.อ่ ืนเป็ น
หลักทัว่ไป เว้นแต่มีการทำาสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไว้ยกเว้นก็อาจกระทำาได้
ตามเง่ ือนไขในสนธิสัญญา ๓.การส่งคนรัฐท่ีสามไปยังรัฐผู้ร้องขอ ก็ทำาได้
การส่งผู้รา้ ยข้ามแดนเป็ นอำานาจอธิปไตยเด็ดขาดของรัฐผู้รบ
ั คำาขอ
ปท.อังกฤษจะส่งผู้ร้ายข้ามแดนมายังไทยตามท่ีร้องขอไหม? เป็ นอำานาจ
อธิปไตยเด็ดขาดของปท.อังกฤษจะส่งหรือไม่ส่งก็ได้ มีเหตุผลบนพ้ืนฐานของ
ความผิดท่ใี ช้ในการดำาเนินคดี ซ่ึงก็เป็ นประเด็นสำาคัญ คือเร่ ืองของประเภทของ
ความผิดท่ีจะมีการร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนกันได้
เร่ ืองของประเภทความผิดต้องเป็ นกรณีความผิดทางอาญา ต้องไม่เป็ นความผิด
ทางการเมือง เหตุผลท่ีไม่มีการส่งผู้ร้ายฯ กรณีความผิดทางการเมือง เน่ ืองจาก
ว่าความเห็นของมนุษย์ในระบอบทางการเมืองท่ีแตกต่างกันย่อมแตกต่างกันได้
คือปรัชญาเบ้ืองหลังของการไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนทางการเมือง
การกระทำาอย่างไรถึงจะพิจารณาว่าเป็ นความผิดทางการเมือง ปท.ผูร้ ับคำาขออาจ
ไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้ไทยโดยเหตุผลว่าเป็ นคดีทางการเมือง การพิจารณาเป็ น
ดุลยพินิจของศาลของปท.ท่รี ับคำาขอ ในกรณีคุณทักษิณไม่อาจคาดคะเนได้ล่วง
หน้าว่าศาลของปท.อังกฤษจะพิจารณาว่าเป็ นคดีทางการเมืองหรือไม่
การส่งผู้รา้ ยข้ามแดนอยู่บนหลัก
๑.บุคคลท่ีถูกขอให้ส่งตัวต้องกท.ผิดทางอาญา ในเขตปท.ผูร้ ้องขอ หรือมีมล ู นำา
ตัวผู้ต้องหาขึ้นฟ้ องร้องต่อศาลได้ คือกท.ผิดจริงและเป็ นผิดอาญาไม่ใช่ทางแพ่ง
๒.คดีนัน
้ ต้องไม่ใช่เป็ นคดีขาดอายุความหรือคดีท่ีศาลปท.ใดได้พิจารณาหรือได้
พิพากษาปล่อยตัวในความผิดท่ีพิจารณาแล้ว เน่ ืงอจากไปขัดหลัก double
jeopardy
๓.บุคคลท่ีจะถูกขอให้ส่งตัว อาจเป็ นพลเมืองของปท.ผู้ร้องขอ ผูร้ ับคำาขอ ปท.ที
สามก็ได้ แตเป็ นอำานาจอธิปไตยเด็ดขาดของปท.ผู้รับคำาขอ
๔.principle of double criminality ต้องเป็ นคผ.อาญาของทัง้สอง
ประเทศ เพราะควาผิดหากว่าบุคคลไม่ได้กระทำาการในความผิ ดในปท.ท่รี ับคำา
ขอก็ไม่สามารถส่งตัวผู้นัน้ ไปดำาเนินคดีได้ เช่น คผ.ท่ีปีเตอร์ทำา ไม่เป็ นความผิด
ตามกม.ไทย ดังนีก ้ ็แม้ไทยก็ดำาเนินคดีกับปี เตอร์ไม่ได้ จะจับส่งไปยังไง ในทาง
ตรงข้ามก็เช่นกัน จึงต้องผิดทัง้ในสองประเทศ
๕.ต้องเป็ นความผิดซ่ึงกม.กำาหนดโทษจำาคุกไม่ต่ำากว่าหน่ึงปี หากต่ำากว่านัน
้ ช่วง
ระยะเวลาดำาเนินการส่งตัวผู้รายฯ อาจพ้นเวลาการลงโทษไม่คุ้มกับการดำาเนิน
การระหว่างประเทศ
๖.บุคคลผู้ถก
ู ขอต้องได้ปรากฎตัวในปท.ท่รี ้องขอให้ส่งตัวแล้วจึงส่งตัวแล้ว
ปท.เจ้าของท้องท่ีเกิดเหตุเป็ นผูดำาเนินการร้องขอให้ส่งตัว ปฏิบัติตามสนธิ
สัญญาหรือ พรบ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนในปท.นัน ้ ๆ
ผู้ถูกส่งตัวต้องถูกฟ้ องเฉพาะความผิดท่ีระบุมาในคำาขอให้ส่งตัว ในกรณีปท.ผูร้ ้
งอขอ ขอตัวให้ส้งผู้ร้ายไป แต่จะไปลงโทษความผิดอ่ ืนนัน้ ไม่ได้ ปฏิ เสธไม่ส่งได้
ดูเจตนารณ์เบ้ืองหลังแล้วไม่ส่ง
ความผิดท่ีส่งตัวต้องไม่ใช่ความผิดทางการเมือง อยูท
่ ่ีดุลยพินิจของศาลในปท.ท่ี
รับคำาขอว่าอย่างใดเป็ นความผิดทางการเมือง
การโอนตัวนักโทษต่างจากการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เพราะเป็ นการโอนตัวท่ีถูก
พิพากษาแล้ว การลงโทษเป็ นการใช้อำานาจอธิปไตยของปท.นัน ้ การรับตัวไป
อาจเป็ นการแลกเปลียนหรือโอนตัวนักโทษ ปท.ท่รี ับตัวนักโทษไปจะไปแก้ไข
โทษลดโทษไม่ได้เลย จะเป็ นการละเมิดอธิปไตยของปท.ท่ีได้รับคำาขอ
ดังนัน
้ การโอนตัวนักโทษต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ในสนธิสัญญา และบังคับ
ให้เป็ นไปตามคำาพิพากษาของปท.ท่รี ับคำาขอด้วย
ในส่วนองค์การตำารวจสากลเป็ นเร่ ืองท่ที ำาให้ความร่วมมือปราบอาชญากรรมฯ
ดำาเนินไปได้ด้วยดี เพราะหน่วยนีร้ว่ มมือกันทัว่โลก จะทำางานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ นักโทษหนีไม่ได้ ทัวโลก ความร่วมมือลักษณะนีส ้ ่ิงสำาคัญท่ีสุดคือ
ประเภทความผิด ส่วนใหญ่คล้ายกับความผิดในหลักการร่วมมือในเร่ ืองของหลัก
สากล คือส่วนใหญ่เป็ นประเภทความผิดซ่ึงกระทบต่อความมัน ่ คงหรือกระทบ
ประเทศต่าง ๆ ทัว่โลก เช่น ค้าทาส ค้ามนุย์ และเป็ นความผิดทางอาญา ไม่ใช่
ทางแพ่ง
คำาว่า การค้าทาส ค้าหญิงนัน
้ รวมใน การค้ามนุษย์ หรือ human sales ดัง
นัน
้ ความผิดฐานค้าประเวณีจึงไม่ใช่ความผิดภายในความร่วมมือขององค์การ
ตำารวจสากลเพราะเป็ นเพียงความผิดอาญาธรรมดาซ่ึงแต่ละประเทศลงโทได้อยู่
แล้ว ส่วน human sales นัน ้ ไม่จำากัดแต่หญิง แต่เป็ นการค้า หลังจากขาย
แล้วจะนำาไปค้าประเวณีก็เป็ นอีกเร่ ืองหน่ึง ไม่เก่ียวกัน
ประเภทความผิดลักทรัพย์หรือยานพาหนะสัญจร เพราะยานพาหนะสัญจรมัน
เคล่ ือนย้ายง่าย เป็ นเร่ ืองของความร่วมมือในการปราบฯโดยองค์การตำารวจสากล
ศาลอาญาระห่างประเทศมีสาระสำาคัญตัง้แต่ ท่ีมา เหตุท่ีมีการตัง้ศาลอาญาระ
ห่างประเทศเกิดจากความทารุณต่อมวลมนุษย์ มีความล้มเหลวของการนำาตัวผู้
นำาท่ีสังการรบให้กระทำาทารุณ มาลงโทษ ก็เลยเกิดความคิดท่ีจะทำาให้มก ี ารแต่ง
ตัง้ศาลอาญาระหว่างประเทศอันเป็ นศาลท่ีมีลก ั ษณะอิสระ เร่ิมมาจากการท่คี ณะ
กรรมการกฎหมายระห่างประเทศได้เร่ิมท่ีจะร่างเอาตัว ธรรมนูญเพ่ ือตัง้ศาล
อาญาระห่วางประเทศขึ้นมา เพราะมีการล้มเหลวในการจับตัวผู้กระทำาความผิด
ถ้าปท.ใดหน่ึง บุกไปจับตัวผู้ร้ายจะเป็ นการละเมิดอธิปไตยของปท.อ่ ืน
ศาลทหารถูกตัง้มาแล้วสองสาร คือศาลทหารระหว่างปท.ท่ีนูเรมเบิร์ก และท่ี
โตเกียว เป็ นศาลเฉพาะกิจ
คกก.กม.รปท.ได้ยกร่างธรรมนูญศาล และมีปท.ต่างๆรับรองธรรมนูญกรุงโรม
ขึ้น ๑๖๐ ประเทศ ๑๒๔ ngo ท้ายท่ีสุดมีการรับรอง ๑๒๐ รัฐ รับรอง โดยมี
๗ประเทศไม่รับรอง ๒๑ ประเทศงดออกเสียง
ส่วนของศาลอาญาระห่างประเทศ เน้นเร่ ืองความผิดในเขตอำานาจศาบอาญา
ระหว่างประเทศ ซ่ึงมีหลายลักษณะคือ เหนือบุคคล เฉพาะบุคคลธรมดาอายุ๑๘
up เท่านัน
้ ไม่อาจลงโทษนิติบค
ุ คล
ทางด้านเวลา ดำาเนินคดีได้เฉพาะคดีเกิดหลังศาลอาญารปท.เร่ิมบังคับใช้แล้ว
เหนือคดีความผิด ต้องเป็ นความผิดร้ายแรงส่ีประเภทคือ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ ความ
ผิดต่อมนุษยชาติ(ทารุณร้ายแรง ข่มขืนหมู่ บังคับตัง้ครรภ์) ความผิด
อาชญากรสงคราม(ผิด jus in bello ผิดต่อกม.การใช้กำาลังระห่วางประเทศผิด
กม.สงคราม เช่นทำาลายพลเรือน โรงพยาบาล) ความผิดอาชญากรรมรุกราน (มี
การนิยามว่าอย่างไรเรียกว่าเป็ นความผิด)
เขตอำานาจเหนือดินแดน ปท.ท่ีอยู่ในเขตอำานาจศาลอาญารปท.มีสามช่องทาง
คือ
๑.ปท.ภาคีสมาชิกของศาลอาญารปท. กรณีนี ต ้ ามธรรมนูญกรุงโรมบังคับไว้
เลยว่า ปท.สมาชิกทุกปท.ต้องยอมรับอำานาจเขตศาลอาญารปท.จึงจะตกอยูใ่ ต้
เขตอำานาจศาลอาญาระห่างประเทศ ดังนัน้ หากปท.ท่ีไม่ยอมรับเขตอำานาจศาล
อาญาระห่วางประเทศ ศาลฯก็ไม่มีอำานาจเหนือ
๒.ปท.ท่ีไม่ใช่สมาชิกแต่แสดงเจตจำานงยอมรับเขตอำานาจ
๓.ผ่านช่องทางกลไกธำารงรักษาสันติภาพของโลกโดยคณะมนตรีความมัน ่ คง
UN นัน้ คือ ปท.สมาชิก UN ทุกปท.ต้องอยู่ใต้ หาก คณะมนตรีฯ ได้เสนอ
๔.supplementary court เป็ นศาลท่ีเสริมอำานาจศาลอาญาภายใน คดี
อาญาของศาลอาญารปท.ต้อง ตกอยู่ในศาลภายในเสียก่อน หากไม่อาจดำาเนิน
คดี หรือไม่จริงจังดำาเนินคดีก็ต้อง มาหาศาลอาญาระห่างประเทศ
การขัดกันแห่งเขตอำานาจศาล และ การยอมรับและบังคับตามคำาพิพาษาของศาลต่างประเทศ
กม.ขัดกันเขตอำานาจฯ คดีองค์ประกอบต่างชาติจะฟ้องร้องที่ศาลปท.ใด?
การขัดกันเขตอำานาจ
ปท.ใดปท.หนึ่งอาจมีการร่วมมือกันทางด้านศาล และเราจำาเป็นต้องหาศาลที่สามารถดำาเนินคดีในคดีนั้นแต่เพียง
ศาลเดียว หาดำาเนินคดีหลายศาล คำาพิพาษาคดีเดียวกันอาจไม่เหมือนกัน เกิดความลักลั่นได้
การขัดกันเขตอำานาจศาลจะไม่ก้าวก่ายคดีอาญาเลย มีแต่แพ่งพาณิชย์เท่านัน
ข้อตกลงระหว่างประเทศได้แก่อนุสัญญาว่าด้วยการปรับใช้กมและการยอมรับคำาพิพากษาของศาลมีหลาย
อนุสัญญา
หลักการสำาคัญในการบัญญัติกฎเกณฑ์ว่าด้วยการขัดกันแห่งเขตอำานาจศาล
เราจะเห็นว่าหลักดินแดนเป็นหลักหนึ่งในการกำาหนดเขตอำานาจศาล หรือหลักสัญชาติก็เอามูลฐานของอำานาจรัฐ
มากำาหนดเขตอำานาจศาลเช่นกัน
เขตอำานาจศาลเป็นเรื่องการใช้อำานาจฝ่ายตุลาการ ซึ่งเป็นการใช้อำานาจอธิปไตยลักษณะหนึ่งในทางศาลทาง
ระหว่างประเทศ
การใช้อำานาจรัฐ หรือ state jurisdiction คือการใช้อำานาจรัฐภายในและภายนอกใน คสพ.รปท.
เช่นกรณีหลักเขตแดน เขตอำานาจฯภายในหลักเขตแดนมีข้อยกเว้น ไม่ใช้กับบุคคลบางประเภท เช่นฑูต หรือกล
สุง หรือบุคคลที่ทำางานในองค์การระหว่างประเทศ แต่ยังคงต้องปฏิบัติตามและเคารพกม.ภายในเพียงแต่ได้รับ
เอกสิทธิและความคุ้มกัน เพราะเขาบริโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน
การขัดันแห่งเขตอำานาจศาลมีวัตถุประสงคกำาหนดเขตอำานาจศาลในคดีแพ่ง ที่พิพาทระหว่างปัจเจก
ไม่ใช่เป็นเรื่องของรัฐ หรือในคดีอาญา ซึ่งต้องเน้นขีดเส้นใต้ไว้ห้าร้อยเส้น ว่า นศ.มักสับสน
ระหว่างเขตอำานาจรัฐตามหน่วยที่๓ ซึ่งเป็นเรื่องของภาคมหาชน (คดีเมือง) มาสับลสนกับเขต
อำานาจศาลในคดีบุคคลหน่วยที่๑๔ หน่วย๑๔ นีเ้ ป็นเรื่องคดีแพ่งระหว่าง ปัจเจกชนไม่ใช่ระหว่างรัฐ
สว่นสเขตอำานาจรัฐในหน่วยที่๓ เป็นเรื่องคสพ.ระดับรัฐ
การขัดันเขตอำานาจศาลจะไม่ก้าวก่ายคดีอาญาเลย มีแต่แพ่งพาริชย์เท่านัน
คสพ.ในเรื่องการร่วมมือยอมรับคำาพิพากษาศาล ในทางรปท.ได้มีการตกลงหลายอนุสัญญา ข้อตก
ลงได้แ ก่อนุสัญญาว่าด้วยการปรับใช้กมและการยอมรับคำาพิพากษาของศาลมีหลายอนุสัญญา
ดังนั้น ต้องสรุปอีกครั้งว่าเรื่องของารขัดกันแห่งเขตอำานาจศาลกับการขัดกันแห่งกม.แตกต่างกัน
การขัดกันแห่ง กม. นัน้ หากม.มาบังคับคดี ส่วนการขัดกันเขตอำานาจศาลเป็นเรื่องหาศาลที่มีอำานาจ
พิจารณาคดี
เช่น ดำารงขับรถชนนายคำาอ้วนที่ลาว นี่มีทั้งเรื่องเขตอำานาจและเรื่องของกม.ขัดกัน คือเรื่องเขต
อำานาจ ต้องดูวา่ จะฟ้องดำารงที่ศาลไทยหรือศาลลาว หากว่านายดำารงถูกฟ้องที่ศาลไทย ศ.ไทยก็จะ
พิจารณาตามปวพ. ว่าศาลไทยมีเขตฯเหนือไหม? เกณฑ์ในการกำาหนดเขตอำานาจศาลมีไงบ้าง
เนื่องจากดำารงสัญชาติไทย ศาลก็มีเขตอำานาจรับฟ้องคดีนี้ แล้วจะเอากม.อะไรมาบังคับ เพราะคดี
ชนกันเป็นละเมิด การเรียกร้องให้รับผิดความเสียหาย เรื่องกม.ขัดกันบอกว่า หนี้ อันนี้ ในทางแพ่ง
จากการทำาละเมิด มูลละเมิดเกิดที่ลาว กม.ที่จะบังคับใช้ก็เป็นกม.ของปท.ที่ความผิดเกิด
อันนึงเป็นเรื่องการกำาหนดเขตอำานาจศาลที่บังคับเหนือคดี อีกกรณีคือการนำากม.ที่บังคับแก่คดีมา
ปรับใช้ ต้องดูให้ดีอย่าสับสนเพราะสับสนระหว่างเขตอำานาจขัดกัน และหลักกฎหมายขัดกัน
หลักการสำาคัญในการบัญญัติกฎเกณฑ์ว่าด้วยการขัดกันแห่งเขตอำานาจศาล
๑.การกำาหนดเขตฯ ต้องสอดคล้องกับหลักเขตอำานาจรัฐ และเขตอำานาจในคดีแพ่ง ที่พัวพันกับองค์
ประกอบต่างชาติที่มีจุดเกาะเกี่ยวใกล้ชิดกับรัฐนัน้ ๆ
ทำาไมเขตอำานาจศาลในคดีแพ่งต้องสัมพันธ์กับเขตอำานาจรัฐทางคดีเมือง รัฐมีอำานาจเหนือเขตแดน
เหนืออธิปไตยตามหลักดินแดน ดังนัน้ เขตอำานาจรัฐต้องสอดคล้องกับเขตแดน เช่น เขตอำานาจรัฐ
ตามหลักสัญชาติ เขตอำานาจรัฐตามหลักดินแดน เอาสัญชาติมาเกาะเกี่ยวให้สัมพันธ์กับรัฐ
หลักเกณฑ์ภูมิลำาเนาจำาเลยนั้นสมเหตุสมผลมากเพราะย่อมบังคับเอากับจำาเลย ง่ายต่อการบังคับยึด
ทรัพย์ ยอมรับกันทั่วโลก