Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 24

The Foundation for Strong Family

ตอนที่ 5 : การให้เกียรติบิดามารดา

อพยพ 20:12 จง ให้ เกียรติ แก่ บิดา มารดา ของ เจ้าเพื่อ อายุ ของ เจ้า จะ ได้ ยืน นาน บน
แผ่นดิน ซึ่ง พระเจ้า ของเจ้า ประทาน ให้ แก่ เจ้า ..

- รากฐานสําคัญของความเจริญทาง เศรษฐกิจ , สังคม และความเป็นอยู่ของเรา กําลังสั่น


คลอนอย่างยิ่ง และแสดงปัญหาในสภาพที่รุนแรงที่สุด หรือเรียกว่า อาการโคม่า นั้นคือ
- สถาบันครอบครัว
- ปัจจุบันพบว่าสถาบันครอบครัวมีอัตราความเสี่ยงเป็นที่น่าตกใจ ในอเมริกาค่าเฉลี่ยของชีวิต
สมรส จะอยู่ที่ 7 ปีครึ่ง
- 60% ของการแต่งงานครั้งที่สองก็ยังเกิดความล้มเหลวอีกเช่นกัน
- นั้นหมายความว่าการแต่งงานที่ประสพความสําเร็จมีอัตราที่น้อยมาก แม้จะต้องแต่งงานอีก
2-3 ครั้ง
- นั่นหมายถึงว่ามีการหย่าร้างกันในทุกๆ 30 วินาทีในอเมริกา

1
- และการหย่าร้าง ณ เวลานี้ ไม่ได้จํากัดเพียง การหย่าร้างระหว่าง สามี และภรรยา แต่ที่เรา
คาดไม่ถึงคือ การหย่าร้างเลยไปถึง เด็ก ๆ แล้ว เดี๋ยวนี้เด็กๆ ก็สามารถหย่าร้างจากพ่อแม่ได้
เช่นกัน
- ลูก ๆ ของเราที่เติบโตขึ้น ไม่มีแม้แต่จะคิดว่า จะมีส่วนในการดูแล พ่อแม่ได้อย่างไร
- เราทุกคนในห้องนี้ แทบจะหมดโอกาสในการรับการดูแล และให้เกียรติอย่างเพียงพอ ต่อลูก
ๆ ของเราที่ เราดูแลเขาจนเติบใหญ่มา
- กลอน เรื่องลูกต่อพ่อ
- และสําหรับลูก การที่เราดูแลพ่อแม้ เกี่ยวข้องอย่างไร ต่ออนาคตของเรา ต่อเงินเดือนของเรา
หรือต่อธุรกิจที่เรากําลังทําอยู่
- มันเกี่ยวอย่างมาทีเดียว เพราะ BB บอกว่า
- หากเราดูแลอย่างดี อายุเราจะยาวนานขึ้น
- ในภาษาเดิม ให้ความเข้าใจว่า เราจะอยู่อย่างยั่งยืน ไม่ตายโหง หรืออายุยืน มีความสุขแม้
ยามแก่เฒ่า ปราศจากภัย อันตราย
-
- ตัวอย่างของ ลูกที่ ฆาตรกรรมพ่อ แม่
-
- เพราะพระเจ้าบอกว่า ถ้าเราให้เกียรติพ่อ แม่เรา พระเจ้าจะให้เรามีอายุยืนนาน
- พูดง่าย ๆ คือ ถ้าอยากมีความสุขตอนแก่ ต้องดูแล และให้เกียรติพ่อ แม่ตั้งแต่ตอนนี้

2
- ใน อพยพ 20:12 ไม่ได้เจาะจงหรือบังคับว่าต้องเป็นเวลาไหนหรืออายุเท่าไหร่ แค่เพียงบอก
ให้เราให้เกียรติบิดามารดาโดยที่ไม่ได้พูดอะไรหรือหมายความถึงเด็กๆ เลย แม้ว่าคุณจะอายุ
แปดสิบ แล้วพ่อแม่คุณอายุร้อยปีก็ตามยังไงก็ต้องให้เกียรติท่านอยู่ดี

3
ทําไมพระเจ้าสั่งให้เราให้เกียรติบิดามารดา
WHY DID GOD GIVE THIS COMMANDMENT?

1.ไม่มีบิดามารดาคนไหนสมบูรณ์แบบ
1.There are no perfect parents.
- วันหนึ่ง เราหลายคนในที่นี้ อาจได้เป็น พ่อ หรือแม่ ของใครคนใดคนหนึ่ง
- ถ้าเรารู้ว่า เราเองก็ยังไม่สมบูรณ์ ก็ให้รู้เถิดว่า พ่อแม่เรา ก็ไม่ต่างจากเราเหมือนกัน
- ทุกคนเป็นคนบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า จึงไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ
- เราจะเป็นคนที่มีความทุกข์ที่สุด ถ้าเราคาดหวังให้คนปฎิบัติต่อเราอย่างไร
- ทําตามที่รับปากเอาไว้
- ส่งงานตามเวลา
- ช่วยปกป้องเรา เวลาคนมาว่าเราลับหลัง
- ตักข้าวให้เราก่อน
- หรือพูดกับเราดี ๆ
- ไม่มีใครสมบูรณ์แบบมานานแล้ว แม้เราพยายามเพียงไหนก็ตาม
- และหลักการนี้ ก็ไม่เว้นสําหรับ ความเป็นพ่อ แม่ก็ตาม
- ไม่มีทางที่พ่อ แม่จะสมบูรณ์แบบ

4
- พ่อแม่ เรา อาจจะดีด้านหนึ่ง แต่ก็อาจจะอ่อนแอในอีกด้านหนึ่ง
- พอ่แม่บางคน มีความรักต่อลูกอย่างมาก และมากเสียจนทําให้ลูกตนเองเสียนิสัย หรือพ่อ
แม่บางคน ก็เคร่งครัดในตัวลูกอย่างมาก จนลูกก็เก็บกด และโตมาเป็นคนทีต่อต้านสังคม
อาจกลายเป็นคนหัวรุนแรง ก็เป็นได้
- พ่อแม่ เราแต่ละคน ก็เป็นลูกมา ก่อน และถ้าลูกเคยผิดพลาด พ่อแม่ ก็ผิดพลาดเช่น กัน
- ทุกคนต่างมีข้อเสีย มีจุดอ่อนและต่างก็เคยทําผิดด้วยกันทั้งนั้น
- ถ้าจะมีก็แต่พระเจ้าเท่านั้นที่เป็นพ่อที่สมบูรณ์แบบ
- แต่พ่อแม่ที่ทําตัวไม่น่าให้เกียติก็มีอยู่มากเช่นกัน อาจจะประพฤติตัวไม่เหมาะสม ละเลยใน
หน้าที่ของพ่อแม่
- แต่พระเจ้าบอกว่ายังไงเราก็ต้องเคารพท่านในฐานะที่ท่านเป็นพ่อแม่ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะอยู่
ในสถานการณ์ไหน หรือสถานที่ไหน ที่บ้าน ที่คจ. หรือว่าที่ทํางาน และไม่ว่าจะเป็นที่ไหนเรา
ก็ต้องเคารพท่านด้วยความจริงใจของเรา
-
- หาตัวอย่าง เรื่อง ลูกที่มีพ่อแม่ ปัญญาอ่อน
- จึงไม่มีประโยชน์ ที่เรา จะมาเกลียดพ่อแม่ และมาจองล้างจองผลาญผู้ที่ให้กําเนิดเรา หน้าที่
เราคือ

5
- แม้โนอาห์ พ่อที่สมบูรณ์ ที่สุดในโลกสมัยนั้น หลังน้ําท่วมโลก ก็ฉลองน้ําลดมากไปหน่อย
จนนอนเปลีอยกาย ในเต้นท์​ของตนเองด้วยซ้ํา ไม่ใช่ตรงฟุตบาท ที่คูเมือง หลังเล่น
สงกรานต์ แต่ เชม ฮาม และยาเฟท ก็มาพบ
- ผลก็คือ ฮามถูกสาป กลายเป็นต้นตระกูลทาส ของทั้ง เชม และยาเฟท
-

6
2.การเคารพเริ่มต้นจากที่บ้าน
- Respect for authority begins at home
-
- นี่ถือว่าเป็นบทเรียนที่สําคัญที่เด็กๆ ทุกคนต้องเรียนรู้ เพราะมันจะส่งผลถึงความสัมพันธ์
กับผู้อื่นทั้งในที่โรงเรียน และในที่ทํางาน
- เด็กที่เติบโตขึ้น อาจจะพูดว่า ไม่เห็นมีใครบอกฉันเลยว่าจะต้องทํายังไง
- แต่จริงๆ แล้วคุณรู้แล้วว่าต้องทําอะไรบ้างเพียงแต่ว่าคุณจะทํามันหรือไม่เท่านั้นเอง ดังนั้น
พระเจ้าต้องการให้เราเรียนรู้ในการเคารพ
- พระเจ้าวางพ่อแม่ไว้ในตําแหน่งที่เราควรให้การเคารพนับถือ ดังนั้นเราก็ควรที่จะต้องให้
ความเคารพแก่ท่านเช่นกัน
- พ่อแม่ เป็นผู้ให้กําเนิด, เป็นครูคนแรก เป็นเพื่อนคนแรก ,​เป็นแม่บ้านคนแรก, เป็นพ่อครัว
และแม่ครัวคนแรก, เป็นโคชคนแรก, และเป็นทุกอย่างสําหรับเรา แม้จําสมบูรณ์หรือไม่
ก็ตาม
- เราจึงต้องเคารพ
- ถ้าเราเคารพเจ้านายในที่ทํางาน, ลูกค้า, หรือผู้ใหญ่ในบ้านเมืองฉันใด เราควรเรารพ พ่อ
แม่เราฉันนั้น
- เราสามารถแสดงความเคารพ ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องราวต่าง ๆในชีวิต
ของเราให้ท่านฟัง, ถามการตัดสินใจ, ถามความคิดเห็น,ปรึกษาเรื่องราวต่าง ๆต่อท่าน

7
- พ่อ แม่เต็มไปด้วยประสพการณ์ และที่มากกว่านั้น คือความจริงใจต่อเราอย่างไม่มีใคร
เสมอเหมือน ที่จะให้คําแนะนําต่อเรา อย่างดีที่สุด , จริงใจที่สุด พร้อมที่จะช่วยเราอย่าง
ไม่มีขีดจํากัด เท่าที่เราจะหาได้ในจากใคร ๆ ในโลกนี้
- ผมเอง ก็ถามคุณแม่อยู่เสมอ ว่าคจ เป็นอย่างไร, ผมเทศนาเป็นอย่างไรบ้าง​, เราต้องทํา
เรื่องนั้น เรื่องนี้อย่างไร

8
3.ความสัมพันธ์ที่เรามีต่อพ่อแม่จะส่งผลถึงความสัมพันธ์ของ
เรากับผู้อื่น : How I relate to my parents will affect every other
relationship?
- การสร้างชีวิตที่จริงนั้นแท้จริงเริ่มต้นที่บ้าน
- ประวัติของ คนประสบความสําเร็จที่ เกิดจากการสร้างที่บ้าน
-
- อะไร ๆ ที่เกิดขึ้นที่ บ้าน จะเป็นรากฐานหลักของอุปนิสัยของเรา ที่จะส่งผลถึงคนอื่นทั้วหมด
ไม่ว่าที่โรงเรียน,​ที่ทํางาน คริสตจักร และในทุกที่ ที่เราไป ที่เราปรากฏตัว หรือที่เรา
- วิธีการที่เราอยู่ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น:
- การแบ่งความรับผิดชอบ, วิธีการให้รางวัล,การลงโทษ, สิ่งที่เป็นค่านิยม , ความกลัว,
ความชอบ ความไฝ่ฝัน, ความทะเยอทะยาน,
- การมาอยู่ใน คจ. มีครอบครัวใหม่ จึงเป็นเหมือนโอกาสใหม่ สําหรับทุกคน ในการวาง
รากฐานชีวิตใหม่ เพื่อเราสามารถมั่นใจได้ว่า
- ชีวิตที่เหลืออยู่ จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดสําหรับเราเอง และคนที่เกี่ยวข้องกับเรา, สังคม
และโลกใบนี้

9
- ความสัมพันธ์จริงๆ แล้วถูกสร้างขึ้นจากที่บ้าน และการที่คุณแสดงออกถึงความไม่เข้าใจ
และไม่เข้าใจแม้แต่การกระทําของตัวเอง อาจเป็นเพราะว่าคุณยังไม่ได้เคารพพ่อแม่ของ
คุณเอง
- และในชีวิตแต่งงานของหลายคู่ต้องล้มเหลวเพราะไม่ได้ให้เกียรติพ่อแม่สามีหรือภรรยา
- ผลจากการสํารวจแสดงให้เห็นว่าคนที่เข้ากับพ่อแม่ได้ดี จะมีชีวิตที่ราบรื่น และสามารถ
เผชิญความความเครียด และแรงกดดันได้ดี

10
จะให้เกียรติพ่อแม่ของฉันได้อย่างไร
HOW AM I TO HONOR MY PARENTS?
ซึ่งขึ้นอยู่กับช่วงชีวิตในแต่ละวัย เพราะในแต่ละวัยก็จะแตกต่างกันออกไป

1. ในฐานะที่เป็นเด็ก :จะให้เกียรติพ่อแม่ด้วยการเชื่อฟัง และการเคารพนับถือ


AS A CHILD, I HONOR MY PARENTS BY OBEYING AND RESPECTING
THEM.
เอเฟซัส 6:1 // ฝ่าย บุตร จง นบนอบ เชื่อฟัง บิดา มารดา ของ ตน ใน องค์ พระผู้ เป็น
เจ้า เพราะ กระทํา อย่าง นั้น เป็น การ ถูก ..

- การเชื่อฟัง คือ ทําตามที่ท่านพูด ทําด้วยความตั้งใจ ด้วยความพอใจ และทําทันที


ในbbกล่าวไว้ว่าตราบใดที่คุณยังอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ และยังต้องพึ่งพาอาศัยท่าน
- ลูกมาในครัวก่อน มาช่วยหยิบกะทะให้แม่ที ... เดี่ยวก่อน
คุณต้องเชื่อฟังท่าน
การเชื่อฟัง โดยทั่วไปประกอบด้วย 3 อย่าง
1.Willfully : สมัครใจ
2.Pleasantly : มีความสุข และยินดี
3.Immediately : โดยทันที รวดเร็ว

11
สรุป การเชื่อฟัง ก็คือ: การสมัครใจ และปรารถนาที่จะกระทําตามด้วยความยินดีทําอย่าง
ทันทีด้วยความรวดเร็วรีบด่วน

12
2. ในฐานะที่เป็นวัยรุ่น
จะให้เกียรติพ่อแม่ด้วยการยอมรับและชื่นชมพวกท่าน
AS A YOUNG PERSON, I HONOR MY PARENTS BY ACCEPTING AND
APPRECIATING THEM.

- ยิ่งคุณโตขึ้นมากเท่าไหร่คุณก็จะเริ่มเห็นข้อเสียของพ่อแม่มากขึ้นเท่านั้น
- แต่สิ่งสําคัญอยู่ที่ว่าคุณต้องยอมรับมันให้ได้แม้กระทั่งความอ่อนแอของท่าน
- แต่การยอมรับไม่ได้หมายถึงการจําใจทํา เสแสร้ง
- แต่ก็ไม่ได้หมายถึงการละเลยหรือเมินเฉยต่อความผิด
- และก็ไม่ได้หมายความว่าให้เห็นด้วยกับทุกอย่างที่ท่านให้เราทํา
แล้วการยอมรับหมายถึงอะไร
การยอมรับ หมายถึง มี 3 ประการ(ฐานะวัยรุ่น)
1.การตระหนักว่าพระเจ้าใช้ท่านให้นําฉันมายังโลกนี้ : Realizing that God
used them to bring me into the world
- บางทีพ่อแม่ท่านอาจจะเป็นคนที่ดีมาก หรือไม่ดีเลยหรือไม่ว่าท่านจะเลี้ยงคุณมาแบบ
ไหนก็ตาม คุณควรจะตระหนักว่าท่านได้ให้ชีวิตแก่คุณ คุณเป็นหนี้ท่านและพระเจ้าเลือกท่าน
เพื่อให้กําเนิดแก่เราในโลกนี้

13
- ไม่มีท่าน เราก็ไม่มีทางเกิดมาได้

2.การฟังในสิ่งที่ท่านพูด : Listening to what they have to say


- เราแสดงการยอมรับคนใด คนหนึ่ง โดยการฟังเขา
สุภาษิต 23:22 // จงฟังบิดาของเจ้าผู้ ให้กําเนิดเจ้าและอย่าดูหมิ่น มารดาของเจ้าเมื่อ
นางแก่

- แม้เราอาจไม่เห็นด้วย นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ฟัง
- เราสามารถฟัง และนํามาพิจารณาดูได้ ไม่เสียหายอะไร
เมื่อคุณแยกครอบครัวออกมา ถึงแม้ว่าคุณไม่ต้องทําตามคําแนะนําของท่านหรืออาจจะมี
บางอย่างที่คุณไม่เห็นด้วยแต่ถึงยังไงคุณก็ยังต้องให้เกียรติท่านด้วยการรับฟังท่าน

3.การยอมรับ และการให้อภัย: Acceptance includes


forgiveness
- จริงๆ แล้วเราเองที่มักทําให้คนที่เรารักเจ็บปวดมากที่สุดทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ
- ถ้าทุกครั้งที่เราทําผิด เราต้องการคนให้อภัยเราฉันใด คนอื่น ๆ ก็ต้องการ การให้อภัยคน
ฉันนั้น

14
- และหากเราไม่ให้อภัย คนที่ทําผิดต่อเรา หรือ แม้พ่อแม่ที่ปฎิบัติต่อเราอย่างไม่ถูกต้อง
พระเจ้าก็จะไม่ให้อภัยเราเช่นกัน
- ฉะนั้นในครอบครัวต้องเริ่มสร้างรากฐานมาจากการให้อภัยเพราะยังไงเราก็ทําให้คนอื่น
เจ็บปวดอยู่แล้ว
ปัจจุบันเราอาจจะไม่นิยมให้เกียรติบิดามารดา

สุภาษิต 20:20 // ถ้า คน หนึ่ง คน ใด แช่ง บิดา หรือ มารดาของ ตน ประทีป ของ เขา
จะ ดับ มืดมิด

- ความขมขื่นเป็นสิ่งที่ทําลายตัวเอง และมันจะทําร้ายคุณมากกว่าคนที่ทําให้คุณรู้สึกขมขื่น
ด้วยซ้ําไป
- และไม่ว่าคุณจะรู้สึกขมขื่นต่อการกระทําของพ่อแม่คุณที่ผ่านมาในอดีตก็ตามแต่ยังไงคุณก็
ต้องยอมให้ท่านมาควบคุมชีวิตของคุณอยู่ดี
- ถึงแม้ว่าท่านจะทําผิดมากแค่ไหนเราก็ต้องให้อภัยท่าน เพราะพ่อแม่เราก็มาจากพระ
ประสงค์ของพระเจ้าและไม่ว่าเราจะได้รับความเจ็บปวดมากขนาดไหนแต่ถ้าเราตอบสนอง
อย่างถูกต้อง พระเจ้าก็จะเปลี่ยนความเจ็บปวดของเราให้กลายเป็นสิ่งดีและความชื่นชม
ยินดีแทน

15
- คนที่มีความสุขไม่ใช่ คนที่มีอะไรพร้อม แต่เป็นคนที่มีความสุขได้กับสิ่งที่มี ไม่ว่ามากหรือ
น้อย

เฉลยธรรมบัญญัติ 26:11 ท่าน จง ปีติ ร่าเริง ด้วย ของดี ทุก สิ่งซึ่ง พระเยโฮวาห์ พระเจ้า
ของ ท่าน ประทาน แก่ ท่าน แก่ ครอบครัว ของท่าน แก่ ตัว ท่าน เอง และ คน เลวี และ คน
ต่างด้าว ที่ อาศัย อยู่ใน หมู่ พวก ท่าน

- พระเจ้าไม่ได้บอกให้เรายอมรับเพียงแต่สิ่งที่ดีและไม่ดีของท่านเท่านั้น แต่เรายังต้องชื่นชม
ในตัวท่านอีกด้วย บางคนอาจจะคิดว่ามันยากที่จะทําแบบนั้นแต่มีอยู่สองสิ่งที่เราสามารถ
ชื่นชมได้ในตัวท่านชื่นชมในสิ่งที่ท่านเป็น
นอกจากยอมรับแล้ว ยังต้องชื่นชม

2 สิ่งที่ีเราควรชื่นชม

1. ชื่นชมในความพยายามของท่าน : You can appreciate their effort

การเลี้ยงลูกเป็นสิ่งที่ยากต้องอาศัยเวลา และพลังอย่างมาก

16
- คุณเคยคิดบ้างไหมว่า ชีวิตของพ่อแม่จะดีมากขนาดไหนถ้าไม่ต้องมัวแต่เอาเวลามาเลี้ยง
ดูคุณ
- พวกท่านสามารถอธิบายได้ถึงความเครียด ซึ่งคุณอาจจะสังเกตเห็นได้จากผมหงอกของ
ท่าน
- คุณจําได้ไหมว่าว่าข้อสุดท้าย ที่คุณได้ขอบคุณพ่อแม่ที่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูมา คือเมื่อไหร่ และ
มีใครอีกบ้างที่คุณควรจะทําอย่างนี้

2. ชื่นชมในความเสียสละของท่าน : You can appreciate their sacrifice

การเลี้ยงดูลูกเป็นสิ่งที่ต้องใช้เงินอย่างมาก เมื่อคู่รักเลือกที่จะมีลูก เขาก็เลือกก็แสดงว่าเขา


เลือกที่จะหยุดทําสิ่งอื่น ดังนั้น เราจึงควรชื่นชมในความเสียสละของท่าน
สุภาษิต 23:22 // จง ฟัง บิดา ของ เจ้า ผู้ ให้ กําเนิด เจ้าและ อย่า ดูหมิ่น มารดา
ของ เจ้า เมื่อ นาง แก่ ..

17
3. ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่

จะให้เกียรติโดยการรับรองและไม่ทอดทิ้งท่าน : AS AN ADULT, I HONOR


MY PARENTS BY AFFIRMING AND NOT ABANDONING THEM.

- ปัจจุบันผู้สูงอายุในเชียงใหม่ มีเพิ่มขึ้นกว่า 2553 ประชากรสูงอายุของประเทศไทยจะเพิ่มเป็น


7.6 ล้านคนหรือร้อยละ 11.4 โดยในจํานวนนี้ จะมีจํานวนผู้หญิงมากกว่า จากเหตุผลว่า ผู้หญิง
อาจตายช้ากว่า จาก กองวางแผนทรัพยากรมนุษย์
- นั้นคือทุก 10 คน จะมีผู้สูงอายุ 1 คน
- คนเราส่วนใหญ่เมื่อแก่ตัวลง ความเคารพ และคุณค่าในตัวยิ่งลดน้อยลง
- จากคนที่มีอิทธิพล มีพลังวังชา มีความสามารถ ก็ค่อยลดหายไป และสิ่งนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะพ่อ
แม่เรา แต่เกิดขึ้นกับเราทุกคน
- เราจึงดูแล กันเป็นทอด ๆ
- เมื่อท่านอยู่ที่นี้ เราจึงปรารถนาจะดูแลกันและกัน จนแก่กันไปข้างหนึ่ง
- เราอยากจะสร้างที่พักสําหรับ ผู้ใหญ่ใน คริสตจักร ให้สามารถอยู่ด้่วยกันอย่างมีความสุข มี
กิจกรรมดี ๆ ,​มีการตรวจสุขภาพเสมอ

18
- คจ.เรามีภาระใจเราจะสร้้าง 50+ Club ที่จะเป็นสโมสรสําหรับ คนอายุ 50-90 ปี สามารถใช้
เวลา ในการทํากิจกรรมด้วยกันหลากหลาย อาทิ การเล่่นกีฬายอมเช้า พร้อมอาหารสุขภาพ,
ช่วงบ่าย
- Keep fit ด้วยอาหารเพื่อสุขภาพ, น้ําผักปั่น, น้ําเต้าหู้ พร้อมรําไทเก็ก
- ว่ายน้ําเพื่อสร้างปอดให้แข็งแรง และเป็นกีฬาที่ลดแรงกระแทก
- บ่าย ๆ มาอ่านหนังสือ, ฟังเพลง, แบ่งปันความรู้ตามประสพการณ์ และความถนัดแก่ลูก ๆ
หลาน ๆ
- เย็นมา ก็ออกกําลังกาย เดินเร็ว, ฝึกเต้น Hip Hop,
- และสังสรรค์ เข้ากลุ่มแคร์
- เสาร ทํางานเพื่อสังคม เยี่ยมเยียนคนป่วย
- อาทิตย์ มานมัสการที่ คจ อาจมาทํากับข้าวให้ทาน
- โดย ท่าสามารถสมัครเข้า 50+ ได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อสะสมเงิน เพื่อพร้อมสําหรับชีวิตที่มีความสุข
ในวัยเกษียร โดยการสะสมเงินตั้งแต่อายุ 30 ปี เพียงเดือนละ 500 บาท ทํานองนี้
-
- พ่อแม่หลายๆคนยิ่งแก่ตัวลงก็จะยิ่งไม่มีใครให้ความเคารพ เพื่อนที่เคยมีก็เริ่มล้มหายตาย
จาก ทักษะและความสามารถต่างๆก็เริ่มหายไปด้วย ลูกๆที่เจริญเติบโตขึ้นก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับ
ครอบครัวใหม่ที่แยกออกไป แต่เราหารู้ไม่ว่า สิ่งที่ท่านต้องการก็คือการรับรอง การยอมรับ
และพระเจ้าต้องการให้เรารับรองท่านในชีวิตที่เหลืออยู่ของท่านิตราบที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
-

19
- คุณสามารถรับรองพ่อแม่ ได้ด้วยการติดต่อสื่อสารกับท่านอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเขียน
จดหมาย เขียนการด์หรือโทรศัพท์ อาจจะเป็นการให้กําลังใจหรือแบ่งปันเรื่องราวต่างๆ ใน
ชีวิตของคุณซึ่งเป็นสิ่งที่ท่านสนใจอยู่แล้ว
สุภาษิต 3:27 // อย่า ยึด ความ ดี ไว้ จาก ผู้ ที่ สมควร จะได้ รับ ใน เมื่อ สิ่ง นี้ อยู่
ใน อํานาจ ของ เจ้า ที่ จะ กระทํา ได้..

เราควรทําในสิ่งถูกต้องในขณะที่เรามีชีวิตอยู่ก็คือการรับรองพ่อแม่ของเรา เพราะว่าใน
งานศพของท่าน ไม่ว่าเราจะเอาดอกไม้ทั้งโลกมาจัดไว้ในงาน ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับท่าน
เลย มันเป็นแต่ประโยชน์ของท่านเท่านั้น แต่ถ้าคุณอยากจะให้ดอกไม้แก่ท่าน ก็จงให้เสียตั้งแต่
วันนี้

- การรับรองพ่อแม่หมายถึงการรับฟังปัญหาและให้คําปรึกษา เมื่อท่านต้องการ ถึงแม้ว่าคุณจะ


ช่วยแก้ปัญหาไม่ได้ แต่อย่างน้อยคุณก็สามารถช่วยท่านได้ด้วยวิธีการรับฟัง ดัง
- ตัวอย่างของโมเสสที่ฟังพ่อตาและนางรูธ ที่เชื่อฟังแม่สามีในพระคัมภีร์ได้กล่าวไว้ว่า การดูแล
ผู้สูงอายุแต่ละคนในครอบครัวของท่าน จะเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเชื่อของท่านด้วย ว่าจะมี
ความเป็นคริสเตียนหรือไม่
-

20
- 1 ทิโมธี 5:8 // ถ้า แม้ ผู้ ใด ไม่ เลี้ยงดู วงศ์ญาติ ของ ตน และ โดย เฉพาะ อย่าง ยิ่ง คน
ใน บ้านเรือน ของ ตน ผู้ นั้น ก็ ได้ ปฏิเสธ พระศาสนา เสีย แล้ว และ ชั่ว ยิ่งกว่า คน ที่ ไม่ ได้
เชื่อ เสีย อีก ..
-
- สังคมในปัจจุบันจะเป็นครอบครัวที่เต็มเป็นด้วยความยุ่งเหยิงตลอดเวลาและทอดทิ้งผู้สูงอายุ
ไปตามลําพัง ในพระคัมภีร์สอนเราว่าเมื่อพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายแก่เกินไปที่จะดูแลตัวเองได้
มันไม่ใช่ความรับผิดชอบของรัฐบาลแต่เป็นความรับผิดชอบของคุณเอง และมันก็เป็นวัฎจักร
ของชีวิตแต่เมื่อเวลาผ่านไปบทบาทนี้ก็จะย้อนกลับเมื่อคุณยังเด็กๆพ่อแม่เลี้ยงดูคุณป้อนข้าว
ป้อนน้ําอาบน้ําให้ เป็นห่วงเป็นใยและดูแลคุณแต่เมื่อคุณโตขึ้นพวกท่านก็จะแก่ลง และ
บทบาทก็จะกลับกันกลายเป็นคุณที่จะต้องดูแลท่านป้อนข้าวท่านอาบน้ํา และเป็นห่วงเป็นใย
ท่าน และพระเจ้าก็ได้บอกไว้ว่าการกระทําเรานี้เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นคริสเตียน
นั้นอาจจะหมายถึงความแตกต่างของหลายๆสิ่งหลายๆอย่างอาจจะหมายถึงการเปลี่ยน
น้ํามันในรถ การเชิญชวนให้พ่อแม่มาเยี่ยมที่บ้าน หรือการจ้างพยาบาลมาดูแลท่านเมื่อท่านไม่
สามารถดูแลตัวเองได้ แต่ประเด็นก็คือ ความรับผิดชอบของคุณที่จะต้องแน่ใจว่าท่านจะได้รับ
การดูแลเป็นอย่างดี
พวกคุณหลายๆคนคงเจอกับปัญหานี้อยู่แต่พระเจ้าก็บอกให้เราให้เกียรติพ่อแม่

21
1 ทิโมธี 5:4 // ถ้า แม่ม่าย คน ใด มี ลูกหลาน ก็ ให้ ลูกหลาน นั้น หัด ปฏิบัติ หน้าที่ ทาง
ศาสนา โดย ปฏิบัติ กับ ครอบครัว ของ ตน ก่อน และ ให้ ตอบแทน คุณ บิดา มารดา เพราะ ว่า
การ กระทํา เช่นนี้ เป็น ที่ พอพระทัย พระเจ้า ..

มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเราบนกางเขน เพื่อไถ่บาปให้กับคนทั้งโลก
นี้ แต่สิ่งหนึ่งที่พระองค์ไม่เคยลืมก็คือ การเป็นห่วงเป็นใยพระมารดาก่อนที่จะสิ้นพระชนม์
สําหรับพ่อแม่ถ้าคุณต้องการได้รับการให้เกียรติคุณจะต้องให้เกียรติคนอื่นด้วย อย่าบ่น
ว่าลูกหรือทําให้เขาโกรธแต่เลี้ยงดูให้เขาเติบโตอย่างมีหลักการด้วยความรัก อ.เปาโลได้บอก
ว่าอย่ากวนใจลูกหรือทําให้ลูกรู้สึกรําคาญ อย่าพยายามทําให้ลูกเป็นเหมือนตัวเองแค่คุณคน
เดียวก็เพียงพอแล้วบนโลกนี้ หัวใจสําคัญแห่งการเลี้ยงลูกก็คือ หลักการของความรักเด็กทุก
คนต้องเรียนรู้ 2 สิ่งด้วยกันคือ
1. การไม่เชื่อฟังจะนํามาซึ่งความเจ็บปวด
2. แต่การเชื่อฟังนํามาซึ่งอิสระเสรีภาพคุณจะเป็นคนที่ไว้วางใจได้และมีความรับผิดชอบ
มากขึ้น
- ในฐานะของพ่อแม่ที่เป็นคริสเตียนเป้าหมายหลักในชีวิตของคุณควรจะให้ลูกได้มารู้จักกับ
พระเจ้าเมื่อเขาโตขึ้นก็จะสามารถเข้าใจได้
- เพราะถึงแม้ว่าเราจะตายไปแต่เราก็จะแน่ใจได้ว่าเราจะไปเจอกันอีกครั้งบนสวรรค์ เพราะทุก
คนได้รู้จักกับพระเจ้าแล้ว

22
- เพราะฉะนั้นมันเป็นสิ่งที่ง่ายมากที่จะให้เกียรติพ่อแม่ เมื่อเรารู้สึกว่าเขาเป็นคนดีแต่สําหรับคน
ที่ได้รับความเจ็บปวดจากพ่อแม่
- ในพระคัมภีร์ได้กล่าวไว้ว่ามีการพิพากษาสําหรับคนที่ทําร้ายลูกของตัวเองและดูแลเขาในทาง
ที่ผิด หรือละเลยในการดูแลลูกเขาจะต้องได้รับการพิพากษา
- พระเจ้าไม่ได้บอกให้คุณปฎิเสธและไม่ได้ให้คุณกล่าวหาพ่อแม่ของคุณในข้อผิดพลาดต่างๆ
และพระเจ้าไม่ต้องการให้คุณเสแสร้งแกล้งทําแต่ในความเป็นจริงแล้วในพวกเราหลายๆคนก็
ยังคงแบกสิ่งเรานี้ไว้ทําให้ไม่สามารถจบสิ้นกันได้สักที เพียงแค่คิดถึงก็สามารถทําให้คุณ
ร้องไห้และรู้สึกเจ็บปวด
- ถ้าคุณยังโกรธพ่อแม่แต่ก็ยังเชื่อฟังพวกท่านถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่จะทําให้เกิดสันติสุข
- เพียงแต่คนต้องปลดปล่อยความโกรธนั้นออกไปยอมรับมันไม่ต้องเก็บซ่อนมันไว้ เป็นการ
ตัดสินใจที่จะตําหนิติเตียน และเริ่มที่จะซื่อสัตย์สิ่งที่จําเป็นจะต้องทําก็คือการอธิษฐานร่วมกัน
กับพ่อแม่ จนกว่าคุณจะสามารถก้าวข้ามผ่านมันไปได้
- ถ้าคุณไม่สามารถพูดกับพ่อแม่อาจเป็นเพราะท่านไม่ยอมฟัง หรือว่าท่านลืม หรือแม้แต่ว่าคุณ
ไม่สามารถจะพูดคุยกับท่านได้ผมขอหนุนใจให้คุณแบ่งปันความเจ็บปวดนี้กับพี่น้องคริสเตียน
หรือพี่เลี้ยงแต่เพื่อประโยชน์ของลูกคุณเองคุณต้องหยุดวัฎจักรนี้ให้ได้ และจบมันตรงนี้
- และพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับความเจ็บปวดนั้น และพระเจ้าก็ห่วงใยและ
สามารถช่วยเยียวยาความเจ็บปวดของคุณได้ถ้าคุณยอมให้พระเจ้าเข้ามาจัดการเรื่องนี้
-

23
- แต่อีกกลุ่มหนึ่งของพวกคุณอาจจะถูกพ่อแม่ทอดทิ้งไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ หรือทั้งพ่อและแม่ ยัง
ไงในพระคัมภีร์ก็ได้บอกให้เรายังคงต้องให้เกียรติบิดามารดาอยู่ดี
- ในการหย่าร้างกันนั้นมีเด็กๆหลายคนที่ถูกบังคับให้ต้องเลือกว่าจะอยู่กับพ่อหรือแม่ และไม่ว่า
เราจะอยุ่กับใครแต่ในพระคัมภีร์ก็ยังบอกให้เราให้เกียรติทั้งสองคน
- แต่สําหรับลูกๆที่ถูกทอดทิ้งพระเจ้าถือว่าคุณเป็นคนที่พิเศษ คุณจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
จากพระเจ้าและพระเจ้าจะทรงรับผิดชอบเด็กๆที่ถูกทอดทิ้ง
- และไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดคุณก็จะมีพระเจ้าผู้ที่รักคุณอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่เคยทอด
ทิ้งคุณและพระองค์ทรงต้องการให้คุณอยู่ในครอบครัวของพระองค์ ต้องการให้คุณได้รู้จัก
พระองค์ผ่านทางพระเยซูคริสต์ พระเจ้าทรงรักคุณมากเกินกว่าที่คุณคิด
- ฉะนั้นให้เรามาทําความรู้จักกับพระเจ้าของเราพระคัมภีร์ได้กล่าวไว้ว่าคริสตจักรก็คือ
ครอบครัว และมันจะอยู่ตราบนานกว่าครอบครัวในฝ่ายร่างกายของท่านจะมีแค่ครอบครัว
ของพระเจ้าและมีพวกเราซึ่งเป็นของพระเจ้า และจะอยู่ด้วยกันตลอดไปและพี่น้องในพระ
คริสต์และคุณก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวซึ่งจะไม่มีวันแตกสลา
- เพราะว่าเราจะอยุ่ด้วยกันตราบชั่วนิรันดร์
- ฉะนั้นให้เราระมัดระวังและมั่นคงมีความเป็นห่วงเป็นใยในความสัมพันธ์ในร่างกายของพระ
คริสต์ซึ่งเป็นครอบครัวของพระเจ้า

24

You might also like