การจองเวร

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 169

www.kalyanamitra.

org
www.kalyanamitra.org
ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge การจองเวร
ISBN : 978-616-8103-04-3
ผู้ค้นคว้าและเรียบเรียง : สิริปุณฺโณ
ภาพประกอบ : www.dmc.tv
ออกแบบปก : จิรพัฒน์ ยังโป้ย
รูปเล่ม/จัดอาร์ต : สุกัญญา บุญทัน
พิมพ์ครั้งที่ ๑ : พ.ศ. ๒๕๖๐

ลิขสิทธิ์และจัดพิมพ์โดย :
สมาคมสมาธิเพื่อการพัฒนาศีลธรรมโลก
โทร. ๐๓๘-๔๒๐๐๔๓
พิมพ์ที่ : บริษัท พิมพ์ดี จ�ำกัด
โทร. ๐-๒๔๐๑-๙๔๐๑

ข้อมูลทางบรรณานุกรมของส�ำนักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloguing in Publication Data
สิ ริปุณฺโณ.
ธรรมะจาก SiripunnoFanp@ge-การจองเวร.-, นนทบุรี :
สมาคมสมาธิเพื่อการพัฒนาศีลธรรมโลก, 2560.
168 หน้า.
1. การจองเวร 2.ชาดก 3. คาถาธรรมบท,
I. สิ ริปุณฺโณ เรี ยบเรี ยง II. ชื่อเรื่ อง
294.315

www.kalyanamitra.org
ค�ำน�ำ
ผลงานหนังสือชุด ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
เล่มนี้ใช้ชื่อตอนว่า “การจองเวร”
เป็นเรื่องราวการผูกเวรกันข้ามชาติ ที่มีปรากฏอยู่
ในชาดก, คาถาธรรมบท ในตอนท้ายเป็นเรื่องราวการ
จองเวรข้ามชาติในอดีต ระหว่างพระเทวทัตกับพระโพธิสตั ว์
ที่มีปรากฏในชาดกโดยเฉพาะ จ�ำนวน ๑๐ ตอน
การเขียนธรรมะสั้นๆ เป็นตอนๆ สามารถตัดทอน
เรือ่ งราวทีจ่ ะน�ำเสนอเท่าทีจ่ ำ� เป็น อีกทัง้ สามารถน�ำเนือ้ หา
ชาดก, คาถาธรรมบทและอรรถกถาพระสูตร มาอ้างอิง
ตามสมควร
หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้รับความรู้ มุมมอง ความ
เชื่อมโยงในเนื้อหา และสาระจากเรื่องที่เรียบเรียงขึ้น
ทั้งหมดในเล่มนี้

เจริญสุข สวัสดี
สิริปุณฺโณ
พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐
Line ID : Siripunno
Facebook : Siripunno
E-mail : siripunno072@gmail.com

www.kalyanamitra.org
สารบัญ

๗ ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๑ (บทน�ำ)


๑๑ ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๒
(๑.๑ เสรีววาณิชชาดก)
๑๗ ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๓
(๑.๒ ฉัททันตชาดก)
๒๓ ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๔
(๒.๑ ผันทนชาดก)
๒๙ ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๕
(๓.๑ อุรคชาดก)
๓๔ ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๖
(๓.๒ นกุลชาดก)
๓๙ ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๗
(๓.๓ กัจฉปชาดก)
๔๔ ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๘
(๔.๑ อุลูกชาดก)
๕๐ ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๙
(๕. คาถาธรรมบทเรื่องความเกิดขึ้นของนางกาลียักษิณี)
๖๓ ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๑๐
(๖. คาถาธรรมบทเรื่องกุมาริกากินไข่ไก่)

www.kalyanamitra.org
๖๗ ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๑๑
(บทวิเคราะห์ สาเหตุของการจองเวร)
๗๓ ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๑ บทน�ำ
๘๒ ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๒
(รูปแบบวิธีจองเวรของอดีตชาติของพระเทวทัต)
๙๓ ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๓
(๖.๑ จุลลนันทิยชาดก ว่าด้วยผลของกรรมดีและกรรมชั่ว)
๑๐๐ ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๔
(๖.๒ มหากปิชาดก ว่าด้วย ผลบาปของผู้ท�ำร้ายผู้มีคุณ)
๑๑๑ ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๕
(๖.๓ สีลวนาคชาดก ว่าด้วย คนอกตัญญูหาช่องเนรคุณอยู่ทุขณะ)
๑๑๙ ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๖
(๖.๔ เจติยราชชาดก ว่าด้วย เชฏฐาปจายนธรรม)
๑๓๖ ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๗
(๖.๕ ขันติวาทิชาดก ว่าด้วย โทษที่ทำ� ร้ายพระสมณะ)
๑๔๓ ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๘
(๖.๖ จุลลธรรมปาลชาดก ว่าด้วยความรักของแม่ที่มีต่อลูก)
๑๕๑ ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๙
(๖.๗ ธรรมเทวปุตตชาดก ว่าด้วย เรื่องธรรมชนะอธรรม)
๑๕๗ ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๑๐
(บทวิเคราะห์)

www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๑
(อา ๑๙ ก.พ. ๖๐ แรม ๘ ค�ำ่ เดือน ๓)

การจองเวร ๑
ในยุคไหนก็ตาม เวรทั้งหลาย
ไม่เคยระงับได้ด้วยการผูกเวรเลย
แต่ระงับได้ด้วยการไม่มีการผูกเวร
ธรรมนี้เป็นของเก่าใช้ได้ตลอด
อุปริ. ม.๑๔ ๒๙๕/๔๔๐

จองเวร หมายถึง ก. ผูกอาฆาตพยาบาท.


บางคนเจอกันครั้งแรก ก็รู้สึกไม่ค่อยชอบกัน โดย
ไม่ทราบสาเหตุ เป็นเรื่องผูกพยาบาทมาข้ามชาติ
สาเหตุของพยาบาท

การจองเวร 7
www.kalyanamitra.org
แค่ท�ำผิดศีลข้อ ๓ ถ้าท�ำไม่มาก ไม่บ่อย ไม่นาน
วิบากคือ จะเป็นไปเพื่อการก่อเวรด้วยศัตรู (มีศัตรูมาก)
มี ค นเกลี ย ดชั ง และปองร้ า ยมาก ถ้ า ท� ำ มาก ท� ำ บ่ อ ย
ท�ำนาน จะเป็นไปเพือ่ นรก ก�ำเนิดเดรัจฉาน หรือเปรตวิสยั
เท่าทีน่ กึ ได้ จ�ำได้ และเคยอ่านมามีในชาดก ๗ เรือ่ ง
ในคาถาธรรมบท ๒ เรื่องที่คล้ายๆ กัน
๑. พระโพธิสัตว์ ถูกจองเวรข้ามชาติ
๑.๑ เสรีววาณิชชาดก ว่าด้วยเสรีววาณิช (ปฐม
เหตุแห่งการอาฆาตจองเวร) พระเทวทัตเกิดร่วมสมัยกับ
พระโพธิสตั ว์ทปี่ รากฏในชาดก ๗๘ เรือ่ งจากชาดกทัง้ หมด
๕๔๗ เรื่อง (๑๔%)
ทรงปรารภพระเทวทัตทั้งโดยตรงและโดยอ้อม
จ�ำนวน ๗๙ ชาดก เป็นปฏิปักษ์และมุ่งปลงพระชนม์
พระองค์ ๔๐ เรื่อง (ประมาณ ๕๐.๖ % ของพระชาติที่
เจอกัน)
๑.๒ ฉัททันตชาดก ว่าด้วย พระโพธิสัตว์เสวย
พระชาติเป็นพญาช้างฉัททันต์. ถูกไฟริษยาอาฆาตจาก
ฝ่ า ยหญิ ง จองเวรข้ า มชาติ สมั ย เสวยพระชาติ เ ป็ น
พญาช้าง

8 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
๒. พระญาติ ๒ ฝ่ายทะเลาะกัน
๒.๑ ผันทนชาดก ว่าด้วยการผูกเวรของหมีและ
ไม้ตะคร้อ
๓. มหาอ�ำมาตย์ ๒ คน จองเวรข้ามชาติ

การจองเวร ๑
๓.๑ อุรคชาดก ว่าด้วยงูผู้มีคุณธรรมสูง
(นาคกับครุฑ)
๓.๒ นกุลชาดก ว่าด้วยอย่าวางใจมิตร
(งูกับพังพอน)
๓.๓ กัจฉปชาดก ว่าด้วยลิงสัปดน (ลิงกับเต่า)
๔. กากับนกเค้า จองเวรกันข้ามชาติ
๔.๑ อุลูกชาดก ว่าด้วยหน้าตาไม่ดี
ไม่ควรให้เป็นใหญ่
๕. เมียน้อยกับเมียหลวง จองเวรกันข้ามชาติ
๕.๑ คาถาธรรมบทเรื่องความเกิดขึ้น
ของนางกาลียักษิณี
๖. แม่ไก่กับเด็กหญิง จองเวรกันข้ามชาติ
๖.๑ คาถาธรรมบทเรื่องกุมาริกากินไข่ไก่
รวมทั้งหมด ๑๑ ตอน ก็ค่อยๆ อ่าน ศึกษากันไป

การจองเวร 9
www.kalyanamitra.org
พุทธภาษิต
“ก็ชนเหล่าใดเข้าไปผูกความโกรธนั้นไว้ว่า ‘คนโน้น
ด่าเรา คนโน้นได้ตีเรา คนโน้นได้ช�ำนะเรา คนโน้นได้
ลักของๆ เรา’ เวรของชนเหล่านั้นย่อมไม่ระงับเลย.
ส่วนชนเหล่าใดไม่เข้าไปผูกความโกรธนั้นไว้ว่า
‘คนโน้นด่าเรา คนโน้นได้ตเี รา คนโน้นได้ชำ� นะเรา คนโน้น
ได้ลักของๆ เรา’ เวรของชนเหล่านั้นย่อมระงับไป.”
“ในกาลไหนๆ เวรทัง้ หลายในโลกนีย้ อ่ มไม่ระงับด้วย
เวรเลย ก็แต่ย่อมระงับได้ด้วยความไม่มีเวร, ธรรมนี้เป็น
ของเก่า.”
“ก็เวรย่อมระงับด้วยความไม่มีเวร, ย่อมไม่ระงับ
ด้วยเวร,”
“ผู้ใด ย่อมปรารถนาสุขเพื่อตน เพราะก่อทุกข์ใน
ผู้อื่น, ผู้นั้นเป็นผู้ระคนด้วยเครื่องระคนคือเวร ย่อมไม่พ้น
จากเวรได้.”

10 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๒
(จ ๒๐ ก.พ. ๖๐)

การจองเวร ๒
๑. พระโพธิสัตว์ ถูกจองเวรข้ามชาติ
๑.๑ เสรีววาณิชชาดก๑ ว่าด้วยเสรีววาณิช
สถานที่ตรัส เมืองสาวัตถี
ทรงปรารภ ภิกษุรูปหนึ่งผู้ละความเพียร
สาเหตุที่ตรัสชาดก
ในสมัยพุทธกาล มีพระภิกษุรูปหนึ่งเมื่อเข้ามาบวช
เรียนในพระพุทธศาสนาใหม่ ๆ ได้ตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่าง
๑ ต้นฉบับชาตกัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก, ล.๕๕,
น.๑๗๘, มมร.
การจองเวร 11
www.kalyanamitra.org
เคร่งครัดด้วยความพากเพียร แต่ยังไม่เห็นผลก็บังเกิด
ความท้อแท้ หมดก�ำลังใจคลายความเพียรลง เพื่อนภิกษุ
ด้วยกันปรารถนาจะสงเคราะห์ภิกษุรูปนี้ จึงพากันไปเฝ้า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระพุทธองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคณ ุ จะอนุเคราะห์
ภิกษุรูปนี้ จึงทรงระลึกชาติด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณ
แล้วตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุ เธอบวชในศาสนาที่มีแก่นสาร
ให้มรรคผลเห็นปานนี้ เมื่อละความเพียรเสียแล้ว จะต้อง
โศกเศร้าตลอดกาลนานเหมือนดังเสรีววาณิช ที่ไม่ได้
ถาดทองมีค่านับแสนนั่นทีเดียว”
ภิกษุทั้งหลายได้ฟังดังนั้น จึงกราบทูลอาราธนา
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเรื่องของเสรีววาณิช

เนื้อหาชาดก
ในอดีตกาลย้อนไป ๕ กัป จากภัทรกัปนี้ มีพ่อค้าเร่
อยูส่ องคน อาศัยอยูใ่ นเมืองเสรีวะ มีชอื่ ตรงกันกับชือ่ เมือง
ที่อาศัย คือ เสรีวะ วันหนึ่ง พ่อค้าทั้งสอง ได้นั่งเรือข้าม
แม่น�้ำเพื่อน�ำสินค้าไปขายยังเมืองอัฐปุระ

12 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
แม้ว่าพ่อค้าทั้งสองจะมีชื่อเหมือนกัน แต่ทั้งสองมี
นิ สั ย ใจคอที่ แ ตกต่ า งกั น มาก เพราะอี ก คนมี นิ สั ย เป็ น
คนพาล ส่วนอีกคนมีนิสัยเป็นบัณทิตที่เมืองอัฐปุระเป็น
เมืองของเศรษฐีตระกูลหนึ่ง แต่ต่อมาตระกูลนี้เสื่อมลง
เหลือแต่เพียงยายหลานสองคนตรากตร�ำรับจ้างเขาเลี้ยง
ชีพพอประทังชีวิตไปวันๆ

การจองเวร ๒
วันหนึ่งพ่อค้าที่มีนิสัยพาล ได้ผ่านมายังบ้านของ
ยายหลานคูน่ ี้ เมื่อหลานสาวทายาทตระกูลเศรษฐี ได้เห็น
เครือ่ งประดับจึงนึกอยากได้ เลยวิง่ กลับไปยังบ้านของตน
เพื่อขอเงินกับยายมาซื้อเครื่องประดับ แต่ยายกลับบอก
ปฏิเสธไปเพราะเงินนั้นได้ร่อยหรอลงทุกที
พ่อค้าที่เป็นคนพาล ได้เดินทางผ่านมายังบ้านของ
สองยายหลาน ทั้งสองคนจึงน�ำเอาถาดมาแลกเครื่อง
ประดับ
เมื่อพ่อค้ารับถาดมาแล้ว จึงพิจารณาดูก็ทราบว่า
‘เป็นถาดทองค�ำ’ จึงคิดอุบายเพื่อจะแลกถาดทองค�ำกับ
สิน ค้ า ตนในราคาถูก คิดว่า ‘เราจะต้องหลอกว่ า ถาด
ทองค�ำนี้ ไม่มรี าคา แล้วค่อยย้อนกลับมารับซือ้ ถาดนีใ้ หม่
รวยแน่เรา’

การจองเวร 13
www.kalyanamitra.org
พอตกบ่าย พ่อค้าที่เป็นบัณฑิตเดินผ่านมายังบ้าน
ของสองคนยายหลาน หลานสาวจึงได้อ้อนวอนยายให้
ซือ้ สินค้าจากพ่อค้าบัณฑิตนัน้ ด้วยความรักหลาน ยายจึง
ตามใจ ท�ำตามที่หลานสาวบอก สองยายหลานจึงได้เรียก
พ่อค้าบัณฑิต เพื่อน�ำถาดมาแลกสินค้า
เมื่อพ่อค้าที่เป็นบัณฑิตหยิบถาดขึ้นมาดู พิจารณา
จึงรู้ว่า ‘เป็นถาดทองค�ำมีมูลค่ามหาศาล’ พ่อค้าที่เป็น
บัณฑิตจึงได้บอกกับสองยายหลานตามความเป็นจริง
เมื่อได้รับการยืนยันว่าเป็นถาดทองค�ำ พ่อค้าจึง
เสนอราคาโดยขอแลกกับสินค้าของตนทัง้ หมด ซึง่ เป็นเงิน
จ�ำนวนมาก ส่วนตัวเองเหลือแค่เงินค่าข้ามฟากเท่านั้น
หลังจากนัน้ เวลาผ่านไปได้ไม่นาน พ่อค้าทีเ่ ป็นพาล
ได้กลับมาหาสองยายหลานเพื่อจะเอาถาดทอง
เมื่อยายเปิดประตูออกมาพบพ่อค้าที่เป็นคนพาล
จึงท�ำการต่อว่า และเล่าความจริงให้ทราบว่า ‘ตนได้ขาย
ถาดทองค�ำใหักับพ่อค้าที่เป็นบัณฑิตไปแล้วด้วยราคาที่
สูงมาก’
เมื่อพ่อค้าที่เป็นพาลได้ยินว่ามีคนซื้อถาดไปแล้ว
จึงเสียใจถึงกับเป็นลมหมดสติ เมื่อฟื้นขึ้นมาก็นำ� ข้าวของ

14 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ทั้งหมดเทกระจัดกระจายพูดพร�่ำเพ้อเหมือนคนเสียสติ
“จะเอาข้าวของสักเท่าไหร่ ฉันจะยกให้ทั้งหมดเลย”
เมือ่ เหลือบไปเห็นตาชัง่ ก็เกิดอารมณ์พลุง่ พล่านด้วย
ความเสียดายถาดทองค�ำ จึงวิ่งไปที่ท่าเรือ “ข้าจะไปเอา
ถาดคืน จากเจ้าคนฉวยโอกาส”

การจองเวร ๒
ณ ท่าเรือข้ามฟาก พ่อค้าที่เป็นบัณฑิต ได้นั่งเรือ
ข้ามฟากไปยังอีกฝัง่ หนึง่ พ่อค้าพาลจึงตะโกนเรียก “หยุด
ก่อนอย่าเพิ่งไปรับข้าไปด้วย”
พ่อค้าที่เป็นบัณฑิต เห็นท่าไม่ดี จึงให้เจ้าของเรือ
รีบพายไปยังอีกฟากหนึ่งโดยเร็ว
เมื่อพ่อค้าพาลเห็นเรือไม่หวนกลับมารับตน จึงเกิด
ความอาฆาตพยาบาท และได้กม้ ลงเอามือก�ำเม็ดทรายไว้
แล้วตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดัง เพื่อขอจองเวรกับ
พ่อค้าบัณฑิต เท่ากับจ�ำนวนเม็ดทรายในก�ำมือ ด้วยจิตที่
เร่าร้อนแผดเผาด้วยเพลิงโทสะอันรุนแรง บีบคัน้ หัวใจพ่อค้า
ผู้นี้แตกสลาย กระอักเลือดขาดใจตายอยู่ตรงนั้นเอง
เมือ่ พ่อค้าทีเ่ ป็นคนพาลได้สนิ้ ชีวติ แล้ว ก็ดำ� ดิง่ สูน่ รก
เพราะมีจติ ทีเ่ ต็มไปด้วยความอาฆาตและพยาบาทจึงต้อง
ทนทุกข์ทรมานอยู่หลายกัป

การจองเวร 15
www.kalyanamitra.org
ส่วนพ่อค้าที่เป็นบัณฑิตได้กลับบ้านตน น�ำถาด
ทองค�ำไปขาย ตั้งตัวท�ำการค้าร�่ำรวยเป็นเศรษฐี และได้
ท�ำบุญจนตลอดชีวิต
นับตั้งแต่นั้นมา พ่อค้าทั้งสองหากเกิดมาพบกัน
ชาติใด ไม่ว่าจะเกิดเป็นสัตว์ เป็นมนุษย์ หรือแม้แต่เกิด
เป็นญาติกนั พ่อค้าทีเ่ ป็นพาลก็ตามล้างผลาญ พ่อค้าทีเ่ ป็น
บัณฑิตตลอดมาทุกชาติ
เมื่อพระศาสดาตรัสเล่าจบ ทรงประกาสอริยสัจ ๔
เมื่อจบ ภิกษุผู้ละความเพียรด�ำรงอยู่ในพระอรหัต

l ประชุมชาดก l

วาณิชพาลในกาลนั้น ได้เป็น พระเทวทัต ในบัดนี้


นายวาณิชผู้เป็นบัณฑิตในกาลนั้น ได้เป็น ตถาคตเจ้า

16 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๓
(อ. ๒๑ ก.พ. ๖๐)

การจองเวร ๓
๑. พระโพธิสัตว์ ถูกจองเวรข้ามชาติ
๑.๒ ฉัททันตชาดก๒ ว่าด้วย พระโพธิสัตว์เสวย
พระชาติ เป็น พญาช้างฉัททันต์. ถูกไฟริษยาอาฆาต
จากฝ่ายหญิง จองเวรข้ามชาติ สมัยเสวยพระชาติเป็น
พญาช้าง
๒ ต้นฉบับชาตกัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก, ล.๖๑,
น.๓๗๗, มมร.

การจองเวร 17
www.kalyanamitra.org
สถานที่ตรัส พระเชตวันมหาวิหาร
ทรงปรารภ ภิกษุณีสาวรูปหนึ่ง
สาเหตุที่ตรัส
มีผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างหน้าตาดี อยู่ในนครสาวัตถี
เห็นว่า ‘การใช้ชีวิตในฆราวาส ไม่เห็นมีอะไรเป็นเรื่อง
น่าเบือ่ ’ สุดท้ายจึงออกบวช และได้มีโอกาสตามภิกษุณี
รูปอื่น ๆ ไปฟังเทศน์และก็ได้เจอพระพุทธเจ้า เมื่อเห็น
รูปโฉมพระองค์ ที่เกิดด้วยบุญญานุภาพ จึงนั่งคิดว่า
‘พระพุทธเจ้าท่านมีบุญเหลือเกิน จนคิดว่าในอดีตชาติ
เราเคยมีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าองค์นี้บ้างหรือ
ไม่ ?’ นึกไปก็เกิดระลึกชาติได้ว่า ‘เคยได้เกิดเป็นภรรยา
ของพระองค์ โดยเกิ ด เป็ น ช้ า งตั ว เมี ย และโพธิ สั ต ว์
เคยเป็นช้างตัวผู้’ ก็เกิดอาการดีใจหัวเราะอยู่คนเดียว
จึงท�ำให้พวกที่นั่งฟังเทศน์ต่างพากันมองและสงสัยว่า
‘พระนางภิกษุณีผู้นี้เป็นอะไร ?’ และนางก็คิดต่อไปอีกว่า
‘เราดีกับท่านหรือเปล่า ? แต่ระลึกได้ว่าเราไม่ดี หึงหวง
โมโหร้ายมาก ๆ เพราะพระยาช้างรักเมียหลวงมากกว่า
ตนเองจึ ง โกรธและน้ อ ยใจ แล้ ว ก็ ท� ำ บุ ญ อธิ ษ ฐานว่ า
จะจองล้างจองผลาญพระยาช้างไปทุกภพทุกชาติ’

18 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
เมื่ อ ภิ ก ษุ ณี รู ้ ค วามเช่ น นั้ น ก็ เ กิ ด ร้ อ งไห้ เ สี ย ใจ
จึงท�ำให้พวกที่นั่งฟังเทศน์ต่างพากันมองและสงสัยว่า
‘นางภิกษุณีผู้นี้เป็นอะไร ? อีกแล้ว’
พระพุทธเจ้าก็ได้เห็นจึงแย้มพระโอษฐ์ เมือ่ พระภิกษุ
รูปหนึ่งเห็นจึงได้ถามว่า “เหตุที่พระองค์ยิ้มคงต้องมีอะไร
เป็นแน่” พระพุทธเจ้าจึงชี้ไปที่ภิกษุณีรูปนั้น ให้ท่าน
ทั้ ง หลายได้ ดู ว ่ า “นางรู ป นี้ ซึ่ ง นุ ่ ง ห่ ม ผ้ า กาสาวพั ส ตร์

การจองเวร ๓
ประพฤติอนาคาริกวัตร คือ เพศของนักบวช พระนางกุมารี
คนนั้นได้เคยเกิดเป็นพระนางสุภัทราในกาลนั้น ส่วน
พระองค์ก็เป็นพระยาช้างในกาลนั้นเช่นกัน” พระพุทธเจ้า
จึงเล่าให้ฟังถึงในอดีตชาติว่า

เนื้อหาชาดก
ป่าหิมพานต์ในอดีตชาติสมัยนัน้ ยังไม่มพี ระพุทธเจ้า
ก็มีพระยาช้างนามว่า ‘ฉัททันต์’ มีมเหสี ๒ พระนาง คือ
พระนางมหาสุภัททา ซึ่งเป็นเมียหลวง และพระนาง-
จุลสุภัททา ซึ่งเป็นเมียน้อย
วันหนึ่งเป็นเวลาที่เหล่าช้างจะร่วมกันไปเล่นสนุก
ในป่า แต่ก็เคารพพระปัจเจกพระพุทธเจ้ามาก เวลา
ไปเที่ยวก็จะหักผลไม้มาถวายพระปัจเจกพระพุทธเจ้า

การจองเวร 19
www.kalyanamitra.org
วันนี้ก็เช่นเดียวกัน เหล่าช้างก็พากันออกมาเที่ยว
เล่น จนถึงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ซึ่งก�ำลังออกดอกออกผล
เหล่าช้าง จึงช่วยกันกระแทกเกสรจึงร่วงลงมาที่ตัวของ
ช้างเมียหลวงซึ่งเป็นภาพที่สวยงดงามยิ่งนัก แต่ช้าง
เมียน้อยเจอแต่ดอกไม้แห้งใบไม้แห้งร่วงลงใส่ตวั อีกทัง้ ยัง
เจอมดแดงหล่นลงมากัดอีก ดังนั้นช้างเมียน้อยจึงโกรธ
แค้นพระยาช้างยิ่งนัก กล่าวหาว่า “พระยาช้างล�ำเอียง”
อยูม่ าวันหนึง่ ลูกน้องของพระยาช้างได้ไปเทีย่ วเล่น
ในป่าและเกิดไปพบดอกบัวหนึ่งดอก เป็นดอกบัวใหญ่
สวยงามมาก จึงน�ำมาถวายพระยาช้าง ดังนั้นพระยาช้าง
จึงยื่นให้ช้างเมียหลวง
เหตุนเี้ องช้างเมียน้อยได้โกรธแค้นยิง่ กว่าเดิม จึงน�ำ
ผลไม้ได้ถวายพระปัจเจกพระพุทธเจ้าและอธิษฐานว่า
‘ขอให้ตนเกิดเป็นมนุษย์ผู้มีอ�ำนาจ เพื่อจะได้มาจองเวร
พระยาช้าง’ และสุดท้ายพระนางก็อดข้าวอดน�้ำตรอมใจ
ตายไปในทีส่ ดุ และในชาติตอ่ มาพระนางก็ได้เกิดในตระกูล
กษัตริย์ มีชื่อว่า ‘พระนางสุภัทรา’ และได้เป็นมเหสีของ
เจ้าเมืองพาราณสี ผู้มีอ�ำนาจมาก
วันหนึ่งพระนางก็ตั้งครรภ์ จึงรู้ว่าถึงแก่เวลาที่จะได้
แก้แค้นแล้ว ก็ทำ� ทีเป็นนอนซม เมือ่ พระเจ้าพาราณสีถาม
ก่อนจะบอกว่า ‘พระนางแพ้พระครรภ์ และได้ฝนั ไปว่าเห็น
20 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
www.kalyanamitra.org
พระยาช้างเชือกหนึ่ง มีงาที่สวยงดงามมาก พระนางใคร่
อยากจะได้งาคู่นั้น เพื่อจะไม่ได้แพ้พระครรภ์อีก’
เมือ่ เป็นเช่นนัน้ พระเจ้าพาราณสีจงึ ส่งให้พรานชือ่ ว่า
‘โสณุดร’ นั่นไปเอางาของพระยาช้างมาถวายพระนาง
สุภัททา เมื่อพรานได้เข้าไปในป่า ก็ได้เห็นช้างเหล่านั้น
ให้ความเคารพต่อพระปัจเจกพระพุทธเจ้า จึงได้ไปขโมย
ผ้ากาสาวพัตร์มาห่มตัวไว้

การจองเวร ๓
เมื่อพระยาช้างผ่านมาจึงยิงด้วยลูกศร พระยาช้าง
โกรธมาก จึงจับนายพรานขึ้นหมายจะกระแทกให้ตายคา
ต้นไม้ใหญ่ ทันใดนั้น นายพรานจึงชูผ้ากาสาวพัตร์ขึ้นมา
เมื่อพระยาช้างเห็นดังนั้นก็ชั่งใจเอาไว้ ไม่ท�ำร้าย
พราน เพราะให้ความเคารพแก่พระปัจเจกพระพุทธเจ้า
พระยาช้างจึงถามนายพรานว่า “เหตุไฉนท่านจึงคิด
ท�ำร้ายเรา เราเคยมีเรื่องบาดหมางกันหรือไร ?”
พรานโสณุดรจึงตอบไปว่า “หาได้ไม่เพราะพระนาง
สุภัททาส่งข้ามา พระนางฝันว่าเห็นพระยาช้างและอยาก
ได้งาของช้างเชือกนั้นซึ่งก็เป็นท่านพระยาช้าง”
เมื่อพระยาช้างได้ฟังจึงพูดว่า “พระนางยังมีความ
อาฆาตอยู่”
พระยาช้างจึงสั่งให้พรานเลื่อยงาไปถวายพระนาง
แล้วบอกพระนางว่า “บัดนี้พระยาช้างได้ตายแล้ว ขอ
การจองเวร 21
www.kalyanamitra.org
พระนางรับงาคู่นี้ไปเถิด แล้วบอกพระนางอีกว่า ‘งาคู่นี้
ไม่ใช่เราไม่รัก แต่เรามุ่งหวังโพธิญาณการบริจาคงาคู่นี้
เป็นเสมือนชีวติ และหัวใจของเรา ขอให้เราบรรลุความเป็น
พระพุทธเจ้าในอนาคตกาลด้วยเถิด’ ”
พรานจึงได้น�ำเอางาที่มีรัศมีดุจสีทองอร่ามไปถวาย
พระนางสุภัทรา เมื่อพระนางได้เห็นงาของผู้ที่เคยเป็น
สามี ก็ระลึกได้ จึงเศร้าโศกเสียใจอย่างมากและก็หัวใจ
แตกสลาย ในที่สุด
คนเป็นอันมากฟังพระธรรมเทศนานี้แล้วได้ส�ำเร็จ
เป็นพระโสดาบันเป็นต้น.
ส่วนนางภิกษุณีนั้นเจริญวิปัสสนาแล้ว ภายหลังได้
บรรลุพระอรหัตผลฉะนี้แล.
ประชุมชาดก
l l

กุมารีสาวคนนั้น นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ ประพฤติ


อนาคาริยวัตร นางกุมารีคนนั้นแลเป็นนางสุภัททา
ในกาลนั้น
เราตถาคตเป็นพญาช้างในกาลนั้น
นายพรานผูถ้ อื เอางาทัง้ คูข่ องพญาคชสารอันอุดม
กลับมายังพระนครกาสีในกาลนั้น เป็นพระเทวทัต.

22 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๔
(พ. ๒๒ ก.พ. ๖๐)

การจองเวร ๔
๒. พระญาติ ๒ ฝ่ายทะเลาะกัน
๒.๑ ผันทนชาดก๓ ว่าด้วยการผูกเวรของหมีและ
ไม้ตะคร้อ
สถานที่ตรัส ณ ฝั่งแม่นำ�้ โรหิณี
ทรงปรารภ การทะเลาะแห่งพระญาติ
๑ ต้นฉบับชาตกัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก, ล.๖๐,
น.๒๒๕, มมร.

การจองเวร 23
www.kalyanamitra.org
สาเหตุที่ตรัส
มีเรือ่ งเล่าว่า เมือ่ พระญาติทงั้ ๒ ฝ่ายของพระพุทธเจ้า
เตรียมการเพื่อจะรบกันในเพราะการแย่งน�้ำท�ำนา
เมื่ อ พระพุ ท ธเจ้ า ทรงทราบเรื่ อ งจึ ง เสด็ จ ไปห้ า ม
พร้อมตรัสโทษของการทะเลาะผูกเวร อันพระญาติเหล่านัน้
กราบทูลอาราธนาแล้ว ได้ทรงน�ำเรื่องในอดีตชาติมาตรัส
เล่าให้ฟัง ดังต่อไปนี้

เนื้อหาชาดก
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ
ณ กรุงพาราณสี ได้มีบ้านช่างไม้อยู่ภายนอกพระนคร
ในบ้านนั้น มีพราหมณ์ช่างไม้คนหนึ่งหาไม้จากป่ามา
ท�ำรถเลี้ยงชีวิต
ครั้งนั้น ในป่าหิมพานต์ มีต้นตะคร้อใหญ่ต้นหนึ่ง
วันหนึ่ง มีหมีตัวหนึ่งเที่ยวหากินแล้ว มานอนที่โคนไม้
ตะคร้อนั้น ในขณะนั้น มีลมแรงพัดกิ่งแห้งกิ่งหนึ่งของต้น
ตะคร้อหักตกลงมา ถูกคอหมีท�ำให้มันสะดุ้งตกใจลุกขึ้น
วิ่งไป เมื่อหายตกใจจึงได้ย้อนกลับมาใหม่ ก็ไม่เห็นอะไร
มันจึงเกิดความสงสัยว่า ‘เทวดาที่เกิดตรงต้นไม้นี้คงจะ
ไม่พอใจทีเ่ รามานอนตรงนี้ เราจะได้เห็นดีกนั ’ คิดดังนัน้ แล้ว
24 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
www.kalyanamitra.org
มันจึงผูกโกรธ ทุบฉีกต้นไม้นั้นและตะคอกรุกขเทวดาว่า
“ข้าไม่ได้กินใบของเจ้าเลย ไม่ได้หักกิ่งของเจ้า ทีสัตว์อื่น
พากันนอนที่ตรงนี้ เจ้าทนได้ แต่ทีข้าละก็ เจ้าทนไม่ได้
รออีกหน่อย ข้าจักให้เขาขุดต้นไม้ของเจ้าถอนรากทัง้ โคน
ท�ำให้เป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่”
หมีจงึ ได้เทีย่ วสอดส่องหาคนตัดฟืนเรือ่ ยไป วันหนึง่
มันได้เจอพราหมณ์ช่างไม้คนหนึ่งที่ก�ำลังเดินไปแถวนั้น
หมีแสยะยิ้มด้วยความดีใจคิดว่า ‘วันนี้ เราคงจะได้
แก้แค้นศัตรูของเราแล้ว.’ จึงมายืนอยู่ที่โคนต้นไม้ตะคร้อ

การจองเวร ๔
หมีจึงเดินตรงไปหาเขาแล้วกล่าวถามด้วยคาถาที่ ๑ ว่า
ท่านเป็นบุรุษถือขวานมาสู่ป่ายืนอยู่ ดูก่อนสหาย
เราขอถามท่าน ท่านจงบอกแก่เรามาเถิด ท่านต้องการ
จะตัดไม้หรือ ?
เขาฟังค�ำค�ำพูดของหมีกร็ สู้ กึ อัศจรรย์ใจทีเ่ ห็นมันพูด
ภาษามนุษย์ได้และคิดว่ามันคงจะรู้จักไม้ที่เหมาะแก่การ
ท�ำรถ จึงกล่าวถามมันด้วย ๒ คาถาเหล่านี้ว่า
เจ้าเป็นหมีเที่ยวอยู่ทั่วไปทั้งที่ทึบและที่โปร่ง ดูก่อน
สหาย เราขอถามเจ้าหน่อย ขอเจ้าจงบอกแก่เรา ไม้อะไร
ที่จะท�ำเป็นกงรถได้มั่นคงดี
การจองเวร 25
www.kalyanamitra.org
หมีได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกสมใจ จึงกล่าวบอกไปด้วย
คาถาที่ ๓ ว่า
ไม้รังก็ไม่มั่นคง ไม้ตะเคียนก็ไม่มั่นคง ไม้หูกวาง
จะมัน่ คงทีไ่ หนเล่า แต่วา่ ต้นไม้ชอื่ ว่า ‘ต้นตะคร้อ’ นัน่ แหละ
ท�ำเป็นกงรถมั่นคงดีนัก
เขาฟังค�ำของมันนั้นแล้วดีใจว่า ‘วันนี้ ช่างเป็นวันที่
ดีจริง ๆ เข้าป่าหาไม้และได้สัตว์ดิรัจฉานแนะน�ำให้หา
ไม้ที่เหมาะสม.’ ได้กล่าวถามด้วยคาถาที่ ๔ ว่า
ต้นตะคร้อนั้น มีใบเป็นอย่างไร ? อนึ่ง ล�ำต้นเป็น
อย่างไร ดูกอ่ นสหาย เราขอถามเจ้า ได้โปรดบอกเราหน่อย
เราจะรู้จักไม้ตะคร้อได้อย่างไร ?

หมีได้บอกเขาด้วย ๒ คาถาว่า
กิ่งทั้งหลายแห่งต้นไม้ใดย่อมห้อยและน้อมลงด้วย
แต่ไม่หัก ต้นไม้นั้นแหละชื่อว่า ‘ต้นตะคร้อ’ เรายืนอยู่ใกล้
โคนต้นนี่ ต้นไม้นี้แหละชื่อว่า ‘ต้นตะคร้อ’ เป็นต้นไม้ควร
แก่การงานของท่านทุกอย่าง คือ ควรแก่กำ� ล้อ ดุม งอน
และกงรถ

26 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
หมี ดี ใ จมาก ฝ่ า ยช่ า งไม้ ก็ เ ตรี ย มที่ จ ะตั ด ต้ น ไม้
รุกขเทวดาแค้นใจมากว่า ‘เราไม่ได้แกล้งท�ำกิง่ ไม้ใส่ไอ้หมี
ตัวนี้เลย มันผูกอาฆาตในเรื่องไม่เป็นเรื่อง มาหาเรื่อง
ท�ำลายวิมานของเราและตัวเราก็จักต้องพลอยย่อยยับ
ไปด้วย เราจะต้องใช้อุบายล้างผลาญไอ้หมีตัวนี้ให้ได้’
จึงจ�ำแลงตัวเป็นคนท�ำงานในป่าบอกอุบายที่จะท�ำกงรถ
ให้คงทน ด้วยวิธีการจะต้องใช้หนังหมีมาหุ้มด้วยการฆ่า
หมีตัวนั้นและถลกหนัง กินเนื้อที่ดี ๆ แล้วค่อยตัดต้นไม้
เป็นอันว่ารุกขเทวดาได้ใช้วิธีการจองเวรส�ำเร็จ

การจองเวร ๔
เทวดาผู้สิงอยู่ที่ต้นตะคร้อได้กล่าวดังนี้ว่า “ดูก่อน
ภารทวาชะ แม้ค�ำพูดของเรามีอยู่ ขอเชิญท่านฟังถ้อยค�ำ
ของเราบ้าง ท่านจงลอกหนังประมาณ ๔ นิ้วจากคอแห่ง
หมีตัวนี้แล้ว จงเอาหนังหุ้มกงรถ เมื่อท�ำได้อย่างนั้น
กงรถของท่านก็จะกลายเป็นของมั่นคง”
เทวดาผู้สิงอยู่ต้นตะคร้อจองเวรได้ส�ำเร็จ น�ำความ
ทุกข์มาให้แก่หมีทั้งหลายที่เกิดแล้ว และยังไม่เกิด ด้วย
ประการฉะนี้.
ช่างไม้ฟังค�ำของรุกขเทวดาก็ดีใจมาก จึงได้ฆ่าหมี
และตัดต้นไม้แล้วกลับบ้านด้วยความสุข

การจองเวร 27
www.kalyanamitra.org
ไม้ตะคร้อฆ่าหมีและหมีก็ฆ่าไม้ตะคร้อ ต่างก็ฆ่ากัน
และกันด้วยการวิวาทกัน ดังนี้
ในหมู่มนุษย์ ความวิวาทเกิดขึ้น ณ ที่ใด มนุษย์
ทัง้ หลายในทีน่ นั้ ย่อมฟ้อนร�ำดังนกยูงร�ำแพนหาง เหมือน
หมีและไม้ตะคร้อ ฉะนั้น
เพราะเหตุนั้น อาตมภาพขอถวายพระพรแก่บพิตร
ทั้งหลาย ขอความเจริญจงมีแก่บพิตรทั้งหลาย เท่าที่มา
ประชุมกันอยู่ ณ ที่นี้ ขอบพิตรทั้งหลายจงร่วมบันเทิงใจ
อย่าวิวาทกัน อย่าเป็นดังหมีและไม้ตะคร้อเลย
ขอบพิ ต รทั้ ง หลายจงศึ ก ษาความสามั ค คี ความ
สามัคคีนั้นแหละพระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงสรรเสริญแล้ว
บุคคลผู้ยินดีในสามัคคีธรรม ตั้งอยู่ในธรรม ย่อมไม่คลาด
จากธรรมอันเป็นแดนเกษมจากโยคะ

ประชุมชาดก
l l

เทวดาผู้สิงอยู่ในราวป่าและได้ฟังเรื่องราวนั้น
คือ เราตถาคต

28 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๕
(พฤ. ๒๓ ก.พ. ๖๐)

การจองเวร ๕
๓. มหาอ�ำมาตย์ ๒ คน จองเวรข้ามชาติ
๓.๑. อุรคชาดก๔ ว่าด้วยงูผู้มีคุณธรรมสูง (นาคกับ
ครุฑ)
สถานที่ตรัส วัดพระเชตวัน
ทรงปรารภ การผูกเวรของคนมีเวรกัน
๔ ต้นฉบับ ชาตกัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก ทุกนิบาต,
ล.๕๗, น.๒๒, มมร.

การจองเวร 29
www.kalyanamitra.org
สาเหตุที่ตรัส
มหาอ�ำมาตย์สองคนเป็นหัวหน้าทหารของพระเจ้า
โกศล แต่ทั้งคู่ไม่ถูกกัน ความเป็นศัตรูของคนคู่นี้เป็น
ที่รับรู้กันไปทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่ว่าจะเป็นพระราชา ญาติ
และมิตรก็ไม่มีใครที่จะสามารถท�ำทั้งคู่ ให้หันมาจับมือ
สามัคคีกันได้เลย
วั น หนึ่ ง ในเวลาใกล้ รุ่ ง พระศาสดาทรงแผ่ ข ่ า ย
พระญาณออกไป ได้ทอดพระเนตรเห็นการจะได้บรรลุธรรม
ของบุคคลคู่นี้ เช้าตรู่ จึงเสด็จแต่เพียงผู้เดียวเข้าไปยัง
กรุงสาวัตถี ประทับยืนอยูท่ ปี่ ระตูเรือนของอ�ำมาตย์คนหนึง่
เขาได้นิมนต์ให้พระพุทธองค์เข้าไปยังบ้าน ต่อมา
พระพุทธองค์ได้เทศนาอานิสงส์แห่งการเจริญเมตตา ทรง
ทราบว่าเขามีจิตอ่อนโยนแล้ว จึงทรงแสดงอริยสัจท�ำให้
เขาได้บรรลุโสดาบัน ให้เขาถือบาตรพาเดินไปยังบ้าน
อ�ำมาตย์ซึ่งเป็นศัตรูกับเขา จากนั้น ได้ทรงพรรณนา
อานิสงส์เมตตา ๑๑ ประการแก่เขา ประกาศอริยสัจ ๔
ท�ำให้เขาบรรลุโสดาบันอีกเหมือนกัน
เมื่ออ�ำมาตย์ทั้งคู่ได้เป็นอริยบุคคลแล้ว ทั้งคู่ต่าง
ก็พากันขอขมาโทษกัน มีความสามัคคีจนถึงทานอาหาร
ร่วมกันเฉพาะพระพักตร์ของพระบรมศาสดา

30 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
เวลาเย็น ภิกษุทั้งหลายนั่งคุยกันปรารภคุณของ
พระศาสดาในโรงธรรมสภาว่า “ดูก่อนผู้มีอายุทั้งหลาย
พระศาสดาทรงฝึกคนที่ใคร ๆ ก็ไม่สามารถจะฝึกได้ ทรง
ท�ำบุคคลที่เป็นศัตรูกันให้กลายเป็นรักสามัคคีกันได้”
ในขณะนั้น พระศาสดาเสด็จผ่านมาเมื่อทรงทราบ
เรือ่ งจึงตรัสว่า “ดูกอ่ นภิกษุทงั้ หลาย เราได้ทำ� ให้บคุ คลคูน่ ี้
สามัคคีกันมิใช่เฉพาะแต่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ในปางก่อน
เราก็เคยท�ำให้รักใคร่กลมเกลียวกันมาแล้ว” จากนั้น ทรง
น�ำเรื่องอดีตชาดกมาสาธกยกอธิบายให้ฟัง ดังต่อไปนี้

การจองเวร ๕
เนื้อหาชาดก
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัต เสวยราชสมบัติ
อยู่ในกรุงพาราณสี ในเมืองหลวงได้มีงานมหรสพใหญ่
พวกมนุษย์ เทวดา นาคและครุฑ เป็นต้น ต่างได้พากัน
จ�ำแลงตนเป็นมนุษย์เพื่อชมการแสดงเหล่านั้น
ขณะที่ก�ำลังสนุกชมการแสดงอยู่นั้น พระยานาค
ไม่ รู ้ ว ่ า ‘คนที่ ยืน อยู่ข ้างหน้าเป็น พระยาครุ ฑ ’ จึ งเอา
มือ ไปแตะที่ บ ่ า เมื่อถูกแตะบ่าพระยาครุ ฑ จึ งหั นหน้ า
กลับมา พระยานาคเห็นหน้าก็สะดุ้งจ�ำได้ว่า ‘เป็นพระยา
ครุฑ’ จึงรีบหนีออกจากเมือง หนีไปยังท่าน�้ำทันทีโดยมี
พระยาครุฑตามไปติด ๆ
การจองเวร 31
www.kalyanamitra.org
ในเวลานั้น เป็นเวลาเดียวกับที่ดาบสรูปหนึ่งอาศัย
อยู่ที่บรรณศาลาใกล้ฝั่งแม่น�้ำก�ำลังอาบน�้ำอยู่ โดยท่าน
ได้ถอดชุดผ้าเปลือกไม้วางไว้บนฝั่ง
พระยานาคนึกว่า ‘คราวนี้ เราคงจะรอดตายเพราะ
อาศัยบรรพชิตรูปนี้เป็นแน่’ จึงแปลงเพศเป็นก้อนมณี
เข้าไปซุกอยู่ในผ้าเปลือกไม้นั้นทันที พระยาครุฑเห็น
เหตุการณ์ดังนั้น ด้วยความเคารพในเพศบรรพชิตจึง
กล่าวกะพระดาบสว่า “ท่านขอรับ ข้าพเจ้าหิวเหลือเกิน
ขอท่านจงเอาผ้าเปลือกไม้ของท่านไปเถิด ข้าพเจ้าจักกิน
พระยานาคนี”้ เพือ่ จะประกาศความนีจ้ งึ กล่าวคาถาแรกว่า
“พระยานาคผู้ประเสริฐกว่างูทั้งหลาย ต้องการจะ
พ้นไปจากเงื้อมมือของข้าพเจ้าจึงแปลงเพศเป็นแก้วมณี
เข้าไปซ่อนอยู่ในผ้าเปลือกไม้นี้ ข้าพเจ้าเคารพย�ำเกรง
เพศของพระคุณเจ้า ซึ่งเป็นเพศที่ประเสริฐนัก แม้จะหิว
ก็ไม่อาจจะจับพระยานาค ซึ่งเข้าไปอยู่ในผ้าเปลือกไม้นั้น
ออกมากินได้”
พระดาบสผู้ยืนอยู่ในน�้ำเมื่อได้ฟังเหตุผลที่พระยา
ครุฑกล่าวให้ฟงั เช่นนัน้ จึงนึกชืน่ ชมและได้กล่าวสรรเสริญ
พระยาครุฑด้วยคาถาที่สองนี้ว่า
32 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
www.kalyanamitra.org
“ท่านเคารพย�ำเกรงผู้มีเพศอันประเสริฐ แม้จะหิว
ก็ไม่อาจจะจับนาคซึง่ เข้าไปอยูใ่ นผ้าเปลือกไม้นนั้ ออกมา
กินได้ ขอท่านเป็นผู้อันพรหมคุ้มครองแล้ว ด�ำรงชีวิตอยู่
สิน้ กาลนานเถิด อนึง่ ขอภักษาหารอันเป็นทิพย์จงปรากฏ
แก่ท่านเถิด”
พระดาบสจึงพอใจในกิริยาย�ำเกรงของพระยาครุฑ
จึงได้อ�ำนวยพรให้แก่พระยาครุฑตามคาถาดังกล่าว ให้
ปลอดภัย มีพรหมคุ้มครองและมีอาหารทิพย์กินอย่าง
สบายเหมือนพวกทวยเทพทั้งหลาย ไม่ต้องล�ำบากด้วย

การจองเวร ๕
การท�ำปาณาติบาตมีการต้องฆ่าพระยานาคกินเนื้อเลย
พระดาบสยืนอยู่ในน�้ำกระท�ำอนุโมทนาแล้ว ขึ้นนุ่ง
ผ้าเปลือกไม้ พาสัตว์ทงั้ สองไปอาศรมบท แสดงถึงคุณของ
การเจริญเมตตาแล้ว ได้ทำ� สัตว์ทงั้ สองให้สมัครสมานสามัคคี
กันแล้ว ตั้งแต่นั้นมา สัตว์ทั้งสองก็อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข

lประชุมชาดก l

พระยานาค และพระยาครุฑ ในครั้งนั้นได้เป็น


อ�ำมาตย์ผู้ใหญ่ทั้งสองในบัดนี้
ส่วนดาบสได้มาเป็นเราตถาคต

การจองเวร 33
www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๖
(พฤ. ๒๓ ก.พ. ๖๐)

๓. มหาอ�ำมาตย์ ๒ คน จองเวรข้ามชาติ
๓.๒. นกุลชาดก๕ ว่าด้วยอย่าวางใจมิตร (งูกบั พังพอน)
สถานที่ตรัส วัดพระเชตวัน
ทรงปรารภ การทะเลาะกันของมหาอ�ำมาตย์ทั้ง ๒ คน
ของพระเจ้าปเสนทิโกศล
๔ ต้นฉบับ ชาตกัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก ทุกนิบาต,
ล.๕๗, น.๙๙, มมร.

34 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
สาเหตุที่ตรัส
อ�ำมาตย์สองคนเป็นนายทหารผู้ใหญ่ของพระเจ้า
โกศล แต่ ทั้ ง คู ่ มี นิ สั ย ไม่ ค ่ อ ยจะลงรอยกั น ใคร ๆ ก็
ไม่สามารถท�ำทั้งคู่ให้หันมาจับมือรักใคร่กันได้เลย
วั น หนึ่ ง ในเวลาใกล้ รุ่ ง พระศาสดาทรงแผ่ ข ่ า ย
พระญาณออกไป ได้ทอดพระเนตรเห็นการจะได้บรรลุ
ธรรมของบุ ค คลคู ่ นี้ ในเวลาเช้ า ตรู ่ จึ ง เสด็ จ แต่ เ พี ย ง
ผู้เดียวเข้าไปกรุงสาวัตถีประทับยืนอยู่ที่ประตูเรือนของ
อ�ำมาตย์คนหนึ่ง
เขาได้นิมนต์ให้พระพุทธองค์เข้าไปยังบ้าน ได้ฟัง
เทศนาอานิสงส์แห่งการเจริญเมตตา

การจองเวร ๖
พระพุทธองค์ทรงทราบว่า ‘เขามีจิตอ่อนโยนแล้ว’
จึงทรงแสดงอริยสัจท�ำให้เขาได้บรรลุโสดาบัน
ต่อจากนั้น ได้ให้เขาถือบาตรทรงเดินน�ำพาเขา
ไปยังบ้านอ�ำมาตย์ซึ่งเป็นศัตรูกับเขา ได้ทรงพรรณนา
อานิสงส์เมตตา ๑๑ ประการแก่อ�ำมาตย์คนนั้น ประกาศ
อริยสัจ ๔ ท�ำให้เขาได้บรรลุโสดาบันอีกเหมือนกัน
เมื่ออ�ำมาตย์ทั้งคู่ได้บรรลุความเป็นอริยบุคคลแล้ว
ทั้งคู่ต่างก็พากันขอขมาโทษในความผิดที่ล่วงไปแล้ว

การจองเวร 35
www.kalyanamitra.org
มีความสามัคคีรักใคร่กันจนถึงทานอาหารร่วมกันเฉพาะ
พระพักตร์ของพระบรมศาสดา
ในเวลาเย็น ภิกษุทั้งหลายนั่งคุยกันปรารภคุณของ
พระศาสดาในโรงธรรมสภาว่า “ดูก่อนผู้มีอายุทั้งหลาย
พระบรมศาสดาทรงฝึกคนที่ใคร ๆ ก็ไม่สามารถจะฝึกได้
ทรงท�ำบุคคลที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตกันให้กลายเป็นคนที่รัก
สามัคคีกันได้”
ในขณะนั้น พระศาสดาเสด็จผ่านมาตรัสถามว่า
“ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอก�ำลังคุยกันด้วยเรื่องอะไร ?”
เมือ่ ภิกษุทงั้ หลายกราบทูลเรือ่ งทีค่ ยุ กันให้ทรงทราบ
แล้ว จึงตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราได้ท�ำให้บุคคล
คู ่ นี้ ส ามั ค คี กั น มิ ใ ช่ เ ฉพาะแต่ ใ นบั ด นี้ เ ท่ า นั้ น แม้ ใ น
ปางก่อน เราก็เคยท�ำให้รักใคร่กลมเกลียวกันมาแล้ว”
จากนั้น ทรงน�ำเรื่องอดีตชาดกมาสาธกยกอธิบาย
ให้ฟัง ดังต่อไปนี้

เนื้อหาชาดก
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ
ในกรุงพาราณสี มีพราหมณ์คนหนึ่ง เมื่อเจริญวัยได้เรียน
ศิลปะทุกแขนงในกรุงตักกสิลา ต่อมาเกิดความเบื่อหน่าย
36 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
www.kalyanamitra.org
จึง สละเพศฆราวาสออกไปบวชเป็น ฤาษี สามารถท� ำ
ฌานและอภิญญาให้บังเกิด พักอยู่ที่หิมวันตประเทศ
ในที่สุดแห่งที่จงกรมของพระฤาษีนั้น มีพังพอน
ตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในจอมปลวกแห่งหนึ่ง ใกล้จอมปลวก
มีงูอาศัยอยู่ที่โคนไม้แห่งหนึ่ง งูและพังพอนทะเลาะกัน
เสมอ พระฤาษีจึงท�ำการสั่งสอนสัตว์ทั้ง ๒ โดยชี้ให้เห็น
โทษของการทะเลาะกันและอานิสงส์ในการเจริญเมตตา
แก่สัตว์ทั้ง ๒ นั้นแล้วสอนให้รักสามัคคีกัน
ครั้ น ถึ ง เวลาที่ งู อ อกไปข้ า งนอก พั ง พอนก็ น อน
อ้าปากหันหัวไปทางโพลงจอมปลวก หายใจเข้าออก
หลับไป พระฤาษีเห็นอาการนั้นของพังพอนจึงถามว่า

การจองเวร ๖
“เจ้ากลัวอะไร ?” จึงกล่าวคาถาแรกว่า
ดูกอ่ นพังพอน เจ้าได้ทำ� มิตรภาพกับงูผเู้ ป็นศัตรูแล้ว
ไฉนจึงยังมานอนแยกเขีย้ วอยูอ่ กี เล่า ภัยทีไ่ หนจะมาถึงแก่
ท่านได้อีกเล่า ?
พระโพธิสัตว์ครั้นกล่าวอย่างนั้นแล้ว พังพอนจึงได้
ให้เหตุผลว่า “พระคุณเจ้า ขึ้นชื่อว่าศัตรูนั้น อย่าดูหมิ่น
ประมาท แต่ควรจะระแวงเอาไว้เสมอ” แล้วกล่าวคาถา
ที่ ๒ ว่า

การจองเวร 37
www.kalyanamitra.org
บุคคลพึงระแวงภัยในศัตรูไว้ แม้ในมิตรก็ไม่ควร
ไว้วางใจ ภัยเกิดขึ้นแล้วจากมิตร ย่อมตัดมูลรากทั้งหลาย
เสีย
พระฤาษีเมื่อได้ฟังเช่นนั้นจึงกล่าวสอนพังพอนว่า
“เจ้าอย่าได้กลัวไปเลย เราจะท�ำให้งู ไม่ท�ำร้ายเจ้าอีก
ต่อไป ตั้งแต่นี้ไปเจ้าอย่าได้ระแวงงูนั้นอีกเลย” แล้วสอน
ให้สัตว์ทั้ง ๒ ตัวได้เจริญพรหมวิหาร ๔ แล้ว

ประชุมชาดก
l l

งู แ ละพั ง พอนในครั้ ง นั้ น ได้ เ ป็ น มหาอ� ำ มาตย์


สองคนในบัดนี้
ส่วนดาบสคือเราตถาคตในบัดนี้

38 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๗

การจองเวร ๗
๓. มหาอ�ำมาตย์ ๒ คน ทะเลาะกันข้ามชาติ
๓.๓ กัจฉปชาดก๖ ว่าด้วย ลิงสัปดน
สถานที่ตรัส พระวิหารเชตวัน
ทรงปรารภ การสงบระงับความทะเลาะแห่งอ�ำมาตย์
ทั้งสองของพระเจ้าโกศล
๖ ต้นฉบับ ชาตกัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก ติกนิบาต,
ล.๕๘, น.๑๗๕, มมร.

การจองเวร 39
www.kalyanamitra.org
สาเหตุที่ตรัส
ก็เรือ่ งทีเ่ กิดขึน้ ในปัจจุบนั ได้กล่าวไว้แล้วในทุกนิบาต
นั่นแล (๓.๑ อุรคชาดก, ๓.๒ นกุลชาดก).

เนื้อหาชาดก
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติ
อยู่ในพระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูล
พราหมณ์ ในแคว้นกาสิกรัฐ พอเจริญวัยแล้ว เล่าเรียน
ศิลปศาสตร์ทกุ อย่างในเมืองตักกสิลา แล้วละกามทัง้ หลาย
ออกบวชเป็นฤาษี สร้างอาศรมบทอยู่ที่ฝั่งแม่น�้ำคงคา
ใกล้หิมวันตประเทศ ท�ำอภิญญาและสมาบัติให้บังเกิด
ในที่นั้นแล้ว เล่นฌานส�ำเร็จการอยู่ในที่นั้น.
พระโพธิ สั ต ว์ เ ป็ น ผู ้ มี ต นเป็ น กลางอย่ า งยิ่ ง ทรง
บ�ำเพ็ญอุเบกขาบารมี เมื่อพระโพธิสัตว์นั้นนั่งอยู่ที่ประตู
บรรณศาลา ลิงทุศีลซุกซนตัวหนึ่งมาถึงก็เอาองคชาต
สอดเข้าในช่องหูทั้งสองข้าง ฝ่ายพระโพธิสัตว์ก็ไม่ได้
ห้าม วางเฉยอยู่นั่นแหละ.
อยู่มาวันหนึ่ง เต่าตัวหนึ่งขึ้นมาจากน�้ำนอนผิงแดด
อ้าปากอยูท่ ฝี่ ง่ั แม่นำ�้ คงคา. ลิงโลเลตัวนัน้ เห็นดังนัน้ จึงได้
สอดองคชาตเข้าในปากของเต่านั้น.
40 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
www.kalyanamitra.org
ล�ำดับนั้น เต่าตื่นขึ้นจึงงับองคชาตของลิงนั้นไว้
เหมือนกับใส่ไว้ในสมุคฉะนั้น เวทนามีก�ำลังเกิดขึ้นแก่
ลิ ง นั้ น มั น ไม่ ส ามารถจะอดกลั้ น เวทนาได้ จึ ง คิ ด ว่ า
‘ใครหนอจะปลดเปลื้องเราจากทุกข์นี้ เราจะไปหาใครดี
แล้ ว มาคิ ด ว่ า คนอื่ น ชื่ อ ว่ า ผู ้ ส ามารถปลดเปลื้ อ งเรา
จากทุกข์นี้ ยกเว้นพระดาบสเสียย่อมไม่มี เราควรจะ
ไปหาพระดาบสเท่านั้น’ คิดแล้วจึงเอามือทั้งสองอุ้มเต่า
ไปหาพระโพธิสัตว์.
พระโพธิสัตว์ เมื่อจะท�ำการเยาะเย้ยลิงทุศีลตัวนั้น
จึงกล่าวคาถาที่ ๑ ว่า :-
ใครหนอเดินมา เหมือนบุคคลผู้รวยอาหาร เหมือน
พราหมณ์ผไู้ ด้ลาภมาเต็มมือ ท่านไปเทีย่ วภิกขาจารทีไ่ หน

การจองเวร ๗
หนอ หรือท่านเข้าไปหาผู้มีศรัทธาคนไรมา.
วานรทุศีลได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-
ดูกอ่ นท่านผูเ้ จริญ ข้าพเจ้าเป็นลิงทรามปัญญา จับต้อง
สิ่งที่ไม่ควรจับต้อง ขอพระคุณเจ้าโปรดเปลื้องข้าพเจ้า
ให้ พ้นทุกข์ด้วยเถิด ขอความเจริญจงมีแก่พระคุณเจ้า
ข้าพเจ้าพ้นจากความฉิบหายนี้แล้วจะไปอยู่ที่ภูเขา.

การจองเวร 41
www.kalyanamitra.org
พระโพธิสัตว์ เพราะความกรุณาในลิง เมื่อจะเจรจา
กับเต่า จึงกล่าวคาถาที่ ๓ ว่า :-
เต่าทั้งหลายเป็นสัตว์สืบเนื่องมาจากกัสสปโคตร
ลิงทั้งหลายเป็นสัตว์สืบเนื่องมาจากโกณฑัญญโคตร
ดูก่อนเต่าผู้เทือกแถวกัสสปโคตร ท่านจงปล่อยลิง
ผู ้ เ ทื อ กแถวโกณฑั ญ ญโคตรเสี ย เถิ ด ท่ า นคงเคยท� ำ
เมถุนธรรมกันแล้ว.
คาถานั้นมีใจความว่า
ธรรมดาเต่าทัง้ หลายเป็นกัสสปโคตร ส่วนลิงทัง้ หลาย
เป็นโกณฑัญญโคตร ก็กัสสปโคตรกับโกณฑัญญโคตร
ต่างมีความสัมพันธ์กันและกันโดยอาวาหะและวิวาหะ
คือน�ำเจ้าสาวมาบ้านเจ้าบ่าว และน�ำเจ้าบ่าวไปบ้าน
เจ้าสาว ลิงโลเลกับท่าน หรือท่านกับลิงทุศีลตัวนี้ คงจะ
ได้กระท�ำเมถุนธรรม กล่าวคือกรรมของผูท้ ศุ ลี อันสมควร
แก่เมถุนธรรม คือที่เหมือนกับโคตรท�ำมาแล้วเป็นแน่
เพราะฉะนัน้ ดูกอ่ นเต่าผูเ้ ป็นกัสสปโคตร ท่านจงปล่อยลิง
ผู้เป็นโกณฑัญญโคตรเสียเถิด.

42 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
เต่าได้ฟังค�ำของพระโพธิสัตว์มีความเลื่อมใส ใน
เหตุผล จึงปล่อยองคชาตของลิง.
ฝ่ายลิงพอหลุดพ้นเท่านั้นได้ไหว้พระโพธิสัตว์แล้ว
หนีไป ทั้งไม่กลับมามองดูสถานที่นั้นอีก.
ฝ่ายเต่าไหว้พระโพธิสัตว์แล้ว ได้ไปยังที่อยู่ของตน
ทันที.
แม้พระโพธิสตั ว์กม็ ไิ ด้เสือ่ มจากฌาน ได้มพี รหมโลก
เป็นที่ไปในเบื้องหน้า.
พระศาสดา ครั้นทรงน�ำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว
ทรงประกาศอริยสัจ ๔

การจองเวร ๗
l ประชุมชาดก l

เต่าและลิงในครัง้ นัน้ ได้เป็น อ�ำมาตย์ ๒ คนในบัดนี้


ส่วนดาบสในครัง้ นัน้ ได้เป็น เราตถาคต

การจองเวร 43
www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๘
(ศ. ๒๔ ก.พ. ๖๐)

๔. กากับนกเค้า จองเวรกันข้ามชาติ
๔.๑ อุลกู ชาดก๗ ว่าด้วยหน้าตาไม่ดไี ม่ควรให้เป็นใหญ่

สถานที่ตรัส พระวิหารเชตวัน
ทรงปรารภ การทะเลาะกันของ กาและนกเค้า

๗ ต้นฉบับ ชาตกัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก ติกนิบาต,


ล.๕๘, น.๑๕๖, มมร.

44 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
สาเหตุที่ตรัส
เล่ากันว่า ในวัดพระเชตวัน บรรดาฝูงกาทั้งหลาย
จะพากันบินท�ำร้ายพวกนกเค้าในตอนกลางวัน ฝ่ายนกเค้า
รวมตัวพากันรุมแก้แค้นท�ำร้ายฝูงกาในเวลากลางคืน
ท�ำให้พวกกาและพวกนกเค้าต้องตายไปเพราะการยก
พวกท�ำร้ายกันเป็นจ�ำนวนมาก
มีภกิ ษุรปู หนึง่ จ�ำวัดอยูท่ า้ ยวัดพระเชตะวัน ต้องคอย
เก็บซากนกกาและนกเค้าไปทิ้งอยู่เสมอ ท่านจึงได้น�ำ
เรือ่ งไปเล่าให้เพือ่ นพระภิกษุได้ฟงั พวกภิกษุได้นงั่ คุยกัน
ปรารภเรื่องที่กาและนกเค้าทะเลาะกัน
ในขณะนั้น พระพุทธองค์เสด็จผ่านมา เมื่อทรง
ทราบเรื่องจึงตรัสเล่าให้ภิกษุเหล่านั้นฟังว่า “ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลายไม่ใช่เฉพาะแต่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อน
นก ๒ ประเภทเหล่านี้ ก็เคยทะเลาะกันมาแล้ว”
การจองเวร ๘
จากนั้ น ได้ทรงน�ำเรื่องในอดีตมาตรั สเล่ า ให้ ฟั ง
ดังต่อไปนี้

เนื้อหาชาดก
ในอดี ต กาล สมั ย ปฐมกั ป พวกมนุ ษ ย์ ทั้ ง หลาย
มาประชุมกันเพื่อคัดเลือกบุรุษคนหนึ่งผู้มีรูปงาม ฉลาด

การจองเวร 45
www.kalyanamitra.org
ด้วยสติปัญญาและได้แต่งตั้งให้เป็นพระราชา ฝ่ายสัตว์
๔ เท้าก็ประชุมกันตั้งราชสีห์ให้เป็นพระราชา พวกปลา
ในมหาสมุทรก็ได้ตั้งปลาอานนท์ให้เป็นพระราชา
ล�ำดับนัน้ ฝูงวิหคได้พากันประชุมทีห่ นิ ดาดแห่งหนึง่
ในป่าหิมวันต์ปรึกษากันว่า “หมู่มนุษย์และสัตว์เหล่าอื่น
ต่างก็มีผู้น�ำกันหมดแล้ว แต่ในระหว่างพวกเรายังไม่มี
ผู้น�ำเลย ธรรมดาว่าการอยู่โดยไม่มีที่พึ่งพิงคงไม่ดีแน่
แม้พวกเรา ก็ควรจะได้เลือกผู้น�ำของพวกเราขึ้นเป็น
พระราชาในฝูงสกุณากันเสียที”
ฝูงนกทัง้ หลายพิจารณากันอย่างละเอียดเห็นนกเค้า
ตัวหนึ่งก็ชอบใจกล่าวว่า “พวกเราพอใจท่านนกเค้าตัวนี้
ขอเลือกให้นกตัวนี้เป็นผู้น�ำของเราก็แล้วกัน”
ล�ำดับนัน้ นกตัวหนึง่ ทีท่ ำ� หน้าทีเ่ ป็นประธานชัว่ คราว
จึ ง ประกาศขึ้ น ด้ ว ยเสี ย งดั ง ๓ ครั้ ง เพื่ อ ต้ อ งการจะ
หยั่งเสียงดูความเห็นของนกทั้งหมด “พวกเราขอลงมติ
เลือกนกเค้าผู้นี้ให้เป็นผู้น�ำของเรา มีใครจะคัดค้านบ้าง
หรือไม่ ?”
ในขณะที่นกท่านประธานเฉพาะกิจร้องประกาศอยู่
๒ ครัง้ หมูฝ่ งู นกก็สงบเงียบไม่มใี ครคัดค้าน แต่ประการใด
46 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
www.kalyanamitra.org
แต่ในขณะทีม่ นั ก�ำลังจะประกาศเป็นครัง้ ที่ ๓ ซึง่ เป็น
ครัง้ สุดท้ายอยูน่ นั่ เอง กาตัวหนึง่ ก็ลกุ ขึน้ แล้วกล่าวคัดค้าน
ขึ้ น ทั น ที ว ่ า “ข้ า พเจ้ า ขอคั ด ค้ า นไม่ เ ห็ น ด้ ว ยอย่ า งยิ่ ง
พวกท่านลองไตร่ตรองให้ดี ในเวลายังไม่ได้อภิเษกขึ้น
เป็นพระราชา หน้าของนกเค้าผู้ยังไม่โกรธ ยังน่ากลัว
ขนาดนี้ ถ้าเขาได้เป็นราชาขึ้นมา แล้วโกรธขึ้นมาหน้าตา
จะน่ากลัวขนาดไหน ? พวกเราสงสัยคงตกใจเป็นลม
ตายกันเป็นแน่ คงเป็นเหมือนเกลือที่ใส่ลงไปในกระเบื้อง
ร้อนแน่ ๆ ข้าพเจ้าไม่สนับสนุนอย่างเด็ดขาด”
เมื่อจะประกาศความในใจของตนเองจึงได้กล่าว
คาถาที่ ๑ ว่า
ได้ทราบ พวกญาติจะตั้งนกเค้าให้เป็นใหญ่
ถ้าพวกญาติอนุญาต ฉันจะขอพูดสักค�ำหนึ่ง
การจองเวร ๘
ล�ำดับนั้น นกทั้งหลายจึงได้อนุญาต กาตัวนั้นจึงได้
กล่าวคาถาที่ ๒ ว่า
ดูกอ่ นสหาย เราทัง้ หมดอนุญาตให้ทา่ นพูด แต่จงพูด
แต่ ถ ้ อ ยค� ำ ที่ เ ป็ น อรรถและธรรมอย่ า งเดี ย ว เพราะว่ า
นกหนุ่ม ๆ ที่มีปัญญาและความฉลาดเฉลียวก็ยังมีอยู่

การจองเวร 47
www.kalyanamitra.org
กาตัวนั้นอันพวกนกอนุญาตอย่างนั้นแล้วจึงกล่าว
คาถาที่ ๓ ว่า
ขอความเจริญ จงบังเกิดมีแก่ท่านทั้งหลาย การตั้ง
นกเค้าให้เป็นใหญ่ ข้าพเจ้าไม่ชอบใจเลย ท่านลองเพ่งมอง
ดูหน้าของนกเค้าผู้ไม่โกรธเถิด หากนกเค้าโกรธแล้ว
หน้าตาจักเป็นอย่างไรกันหนอ
กานั้นเมื่อแสดงความในใจเสร็จแล้ว ก็บินขึ้นไป
ในอากาศคัดค้านว่า
“ข้าพเจ้าขอคัดค้าน ไม่เห็นด้วยเด็ดขาดทีต่ งั้ นกเค้า
เป็นผู้น�ำ”
ฝ่ายนกเค้าได้ฟังก็โกรธ บินขึ้นไปไล่จิกตีกาทันที
ตั้งแต่นั้นมา กากับนกเค้าจึงได้ผูกเวรกันและกัน เจอหน้า
กันทีไ่ หนต้องทะเลาะท�ำร้ายกันทุกที เมือ่ เหตุการณ์วนุ่ วาย
อย่างนั้น พวกนกทั้งหลายจึงพากันตั้งหงส์ทองให้เป็น
พระราชา
พระบรมศาสดาครั้ น ทรงน� ำ พระธรรมเทศนานี้
มาแล้วทรงประกาศสัจจะ แล้วประชุมชาดก ในเวลา
จบสัจจะ คนเป็นอันมากได้บรรลุธรรมมีโสดาบันเป็นต้น
48 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
www.kalyanamitra.org
l ประชุมชาดก l

หังสโปดกผูไ้ ด้รบั การแต่งตัง้ จากฝูงสกุณาให้เป็น


พระราชาในครัง้ นัน้ คือตัวเราตถาคต

การจองเวร ๘

การจองเวร 49
www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๙
(ศ. ๒๔ ก.พ. ๖๐)

๕. เมียน้อยกับเมียหลวง จองเวรกันข้ามชาติ
๕.๑ คาถาธรรมบท เรือ่ งความเกิดขึน้ ของนางกาลี
ยักษิณ๘ี
สถานที่ตรัส พระเชตวัน
ดังได้สดับมา บุตรกุฎุมพีคนหนึ่ง เมื่อบิดาละโลก
แล้ว ท�ำการงานทัง้ ปวง ทัง้ ทีน่ า ทัง้ ทีบ่ า้ น ด้วยตนเอง ดูแล
๘ ต้นฉบับ ธัมมปทัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย คาถาธรรมบท,
ยมกวรรควรรณนา, ล.๔๐, น.๖๘, มมร.

50 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
มารดาอยู่. ต่อมามารดาได้บอกแก่เขาว่า “ลูก แม่จะน�ำ
นางกุมารีมาให้เจ้า.”
บุตร. “แม่ อย่าพูดอย่างนี้เลย, ฉันจะดูแลแม่ไป
จนตลอดชีวิต.”
แม่. “ลูก เจ้าคนเดียวท�ำการงานอยู่ ทั้งที่นาและ
ที่บ้าน, เพราะเหตุนั้น แม่จึงไม่สบายใจเลย,
แม่จะน�ำนางกุมารีมาให้เจ้า.”
เขาแม้ห้ามมารดาหลายครั้งแล้วได้นิ่งเสีย. มารดา
นั้นออกจากเรือน เพื่อไปที่ตระกูลหนึ่ง.
บุตรถามมารดาว่า “แม่จะไปตระกูลไหน ?”
เมือ่ มารดาบอกว่า “จะไปตระกูลโน้น” ดังนีแ้ ล้ว ห้าม
การทีจ่ ะไปตระกูลนัน้ เสียแล้ว บอกตระกูลทีต่ นชอบใจให้.
มารดาได้ไปตระกูลนั้น และหมั้นนางกุมารีไว้แล้ว
ก�ำหนดวันแต่ง งาน น�ำนางกุมารีคนนั้นมาไว้ใ นเรือน
ของบุตร. นางกุมารีนั้นเป็นหมัน.
การจองเวร ๙

มารดาจึงพูดกับบุตรว่า “ลูก เจ้าให้แม่นำ� นางกุมารี


มาตามที่เจ้าชอบใจแล้ว บัดนี้ นางกุมารีนั้นเป็นหมัน,
ก็ธรรมดาตระกูลที่ไม่มีบุตรย่อมเสียหาย, ประเพณีย่อม
ไม่สืบเนื่องไป, เพราะฉะนั้นแม่จะน�ำนางกุมารีคนอื่นมา
ให้เจ้า”
การจองเวร 51
www.kalyanamitra.org
แม้บุตรนั้นกล่าวห้ามอยู่ว่า “อย่าเลย แม่” ก็ยังได้
กล่าวอย่างนั้นบ่อย ๆ.
หญิ ง หมั น ได้ ยิ น ค� ำ นั้ น จึ ง คิ ด ว่ า ‘ธรรมดาบุ ต ร
ย่อมไม่อาจฝืนค�ำมารดาบิดาไปได้, บัดนี้ แม่ผัวคิดจะน�ำ
หญิ ง อื่ น ที่ ไ ม่ เ ป็ น หมั น มาแล้ ว ก็ จ ะใช้ เ ราอย่ า งทาสี ,
ถ้าอย่างไรเราพึงน�ำนางกุมารีคนหนึ่งมาเสียเอง’ ดังนี้
แล้วจึงไปยังตระกูลหนึ่ง ขอนางกุมารี เพื่อประโยชน์แก่
สามี, ถูกคนในตระกูลนั้นห้ามว่า “หล่อนพูดอะไรเช่นนั้น”
ดังนี้แล้ว
จึงอ้อนวอนว่า “ฉันเป็นหมัน ตระกูลทีไ่ ม่มบี ตุ ร ย่อม
เสียหาย บุตรีของท่านได้บตุ รแล้ว จะได้เป็นเจ้าของสมบัต,ิ
ขอท่านโปรดยกบุตรีนั้นให้แก่สามีของฉันเถิด” ดังนี้แล้ว
ท�ำให้ตระกูลนั้นยอมรับแล้ว จึงน�ำมาไว้ในเรือน
ของสามี.
ต่อมา หญิงหมันนั้น ได้มีความวิตกว่า ‘ถ้านางคนนี้
จะได้บุตรหรือบุตรีไซร้ จะเป็นเจ้าของสมบัติแต่ผู้เดียว,
เราควรจะท�ำให้นางอย่าตั้งครรภ์เลย.’
ล�ำดับนั้น หญิงหมันจึงพูดกับนางนั้นว่า “หล่อน
ตั้งครรภ์เมื่อใด ขอให้หล่อนบอกแก่ฉันเมื่อนั้น.”
นางนั้นรับว่า “จ้ะ”

52 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
เมื่อตั้งครรภ์แล้ว ได้บอกแก่หญิงหมันนั้น. ส่วน
หญิงหมันนั้นให้ข้าวต้มและข้าวสวยแก่นางนั้นเป็นนิตย์.
ภายหลัง นางได้ให้ยาส�ำหรับท�ำให้ครรภ์ตก ปนกับ
อาหารแก่นางนั้น. ครรภ์ก็ตก (แท้ง).
เมือ่ ตัง้ ครรภ์เป็นครัง้ ที่ ๒ นางก็ได้บอกแก่หญิงหมัน
นั้น. แม้หญิงหมันก็ได้ท�ำครรภ์ให้ตก ด้วยอุบายอย่างนั้น
นั่นแล เป็นครั้งที่ ๒.
ต่อมา พวกหญิงที่คุ้นเคยกัน ได้ถามนางนั้นว่า
“หญิงร่วมสามีท�ำอันตรายหล่อนบ้างหรือไม่ ?” นางเล่า
ความนัน้ แล้ว ถูกหญิงเหล่านัน้ กล่าวว่า “หญิงโง่งม เหตุไร
หล่อนจึงได้ท�ำอย่างนั้นเล่า ? หญิงหมันนี้ ได้ประกอบยา
ส�ำหรับท�ำให้ครรภ์ตกแก่หล่อน เพราะกลัวหล่อนจะเป็น
ใหญ่, เพราะฉะนั้น ครรภ์ของหล่อนจึงตก, หล่อนอย่าได้
ท�ำอย่างนี้อีก.”
ในครั้งที่ ๓ นางจึงมิได้บอก. ต่อมาฝ่ายหญิงหมัน
การจองเวร ๙

เห็นท้องของนางนัน้ แล้วจึงกล่าวว่า “เหตุไร ? หล่อนจึงไม่


บอกความที่ตั้งครรภ์แก่ฉัน”
เมื่อนางนั้นกล่าวว่า “หล่อนน�ำฉันมาแล้ว ท�ำให้
ครรภ์ตกไปเสียถึง ๒ ครั้งแล้ว, ฉันจะบอกแก่หล่อน
ท�ำไม ?”

การจองเวร 53
www.kalyanamitra.org
จึงคิดว่า ‘บัดนี้ เราแย่แล้ว’ คอยดูความประมาท
ของนางกุมารีนั้นอยู่, เมื่อครรภ์แก่เต็มที่แล้ว, จึงได้ช่อง
ได้ประกอบยาให้แล้ว ครรภ์ไม่อาจตก เพราะครรภ์แก่
จึงนอนขวางทวาร. เวทนากล้าแข็งขึ้น. นางถึงแก่ชีวิต.

นางตั้ ง ความปรารถนาว่ า ‘เราถู ก นางแกล้ ง ให้


เสียหายแล้ว, นางเองน�ำเรามา ท�ำทารกให้ตายถึง ๓
คนแล้ว, บัดนี้ เราเองก็จะตายด้วย. เราตายจากชาตินี้
ขอเกิดเป็นนางยักษิณี จะเคีย้ วกินทารกของมันเถิด” ดังนี้
แล้ว ตายไปเกิดเป็นแม่แมวในเรือนนั้นเอง.
ฝ่ายสามี จับหญิงหมันแล้ว กล่าวว่า “เจ้าได้ท�ำ
ตระกูลของเราให้ขาดสูญ” ดังนี้แล้ว ทุบด้วยศอกและเข่า
เป็นต้น ให้บอบช�้ำแล้ว. หญิงหมันนั้นตายเพราะความ
เจ็บนั้นแล แล้วได้เกิดเป็นแม่ไก่ในเรือนนั้นเหมือนกัน.

ในเวลาไม่นาน แม่ไก่ได้ตกฟองไข่หลายฟอง. แม่แมว


มากินฟองไข่เหล่านั้นเสีย. ถึงครั้งที่ ๒ ครั้งที่ ๓ มันก็ได้
กินเสียเหมือนกัน.
แม่ไก่ท�ำความปรารถนาว่า ‘มันกินฟองไข่ของเรา
ถึง ๓ ครั้งแล้ว เดี๋ยวนี้มันก็อยากกินตัวเราด้วย. เดี๋ยวนี้

54 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
เราตายจากชาตินี้แล้ว พึงได้กินมันกับลูกของมัน’ ดังนี้
แล้วตายจากชาตินนั้ ได้เกิดเป็นแม่เสือเหลือง. ฝ่ายแม่แมว
ได้เกิดเป็นแม่เนื้อ.
ในเวลาแม่เนื้อนั้นคลอดลูกแล้ว แม่เสือเหลือง ก็ได้
มากินลูกทั้งหลายเสียถึง ๓ ครั้ง.
เมื่อเวลาจะตาย แม่เนื้อท�ำความปรารถนาว่า ‘พวก
ลู ก ของเรา แม่ เ สื อ เหลื อ งตั ว นี้ กิ น เสี ย ถึ ง ๓ ครั้ ง แล้ ว
เดีย๋ วนีม้ นั จะกินตัวเราด้วย. เดีย๋ วนีเ้ ราตายจากชาตินแี้ ล้ว
พึงได้กินมันกับลูกของมันเถิด ‘ดังนี้แล้วได้ตายไปเกิด
เป็นนางยักษิณี.
ฝ่ายแม่เสือเหลือง ตายจากชาตินั้นแล้วได้เกิดเป็น
กุลธิดา ในเมืองสาวัตถี.
นางเติบโตแล้ว แต่งงานไปสู่ตระกูลสามีในบ้านริม
ประตูเมือง.
ในเวลาต่อมา นางได้คลอดบุตรคนหนึง่ . นางยักษิณี
การจองเวร ๙

จ�ำแลงตั ว เป็ น หญิง สหายที่รักของเขามาแล้ ว ถามว่ า


“หญิงสหายของฉันอยู่ที่ไหน ?”
ชาวบ้านได้บอกว่า “เขาคลอดบุตรอยู่ภายในห้อง.”
นางยักษิณฟี งั ค�ำนัน้ แสร้งพูดว่า “หญิงสหายของฉัน
คลอดลูกเป็นชายหรือหญิงหนอ, ฉันจะดูเด็กนั้น” ดังนี้

การจองเวร 55
www.kalyanamitra.org
แล้วเข้าไปท�ำเป็นแลดูอยู่ จับทารกกินแล้วก็ไป. ในหนที่ ๒
ก็ได้กินเสียเหมือนกัน.
ในหนที่ ๓ นางกุลธิดามีครรภ์แก่ เรียกสามีมาแล้ว
บอกว่า “นาย นางยักษิณีตนหนึ่งกินบุตรของฉันเสีย
ในที่นี้ ๒ คนแล้วไป, เดี๋ยวนี้ ฉันจะไปสู่เรือนแห่งตระกูล
ของฉันคลอดบุตร” ดังนี้แล้วไปสู่เรือนแห่งตระกูลคลอด
บุตรที่นั่น.
ในเวลานั้น นางยักษิณีนั้นถึงคราวส่งน�้ำ. ด้วยว่า
นางยักษิณีทั้งหลายต้องตักน�้ำ จากสระอโนดาตทูนบน
ศีรษะมา เพือ่ ท้าวเวสสวัณ ตามวาระ เมือ่ ล่วง ๔ เดือนบ้าง
๕ เดือนบ้างจึงพ้นจากเวรได้. นางยักษิณีเหล่าอื่นมีกาย
บอบช�ำ ้ ถึงแก่ชีวิตบ้างก็มี.
ส่วนนางยักษิณีนั้น พอพ้นจากเวรส่งน�ำ้ แล้วเท่านั้น
ก็รีบไปสู่เรือนนั้นถามว่า “หญิงสหายของฉันอยู่ที่ไหน ?”
พวกชาวบ้านบอกว่า “ท่านจะพบหล่อนที่ไหน ?
นางยักษิณตี นหนึง่ กินทารกของเขาทีค่ ลอดในทีน่ ,ี้ เพราะ
ฉะนั้น นางจึงไปสู่เรือนแห่งตระกูล.”
นางยักษิณีนั้นคิดว่า ‘หล่อนไปในที่ไหน ๆ ก็ตาม
เถิด จะไม่พ้นเราได้ ‘ดังนี้ ด้วยก�ำลังเวรให้อุตสาหะแล้ว
วิ่งบ่ายหน้าไปสู่เมือง.

56 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ฝ่ายนางกุลธิดา ในวันตัง้ ชือ่ ให้ทารกนัน้ อาบน�ำ
้ ตัง้ ชือ่
แล้ว กล่าวกับสามีว่า “นาย เดี๋ยวนี้ เราพากันไปสู่เรือน
ของเราเถิด” อุ้มบุตรไปกับสามี ตามทางอันตัดไปใน
ท่ามกลางวิหาร มอบบุตรให้สามีแล้ว ลงอาบน�้ำในสระ
โบกขรณีข้างวิหารแล้ว ขึ้นมารับเอาบุตร, เมื่อสามีก�ำลัง
อาบน�้ำอยู่, ยืนให้บุตรดื่มนมมองเห็นนางยักษิณีมาอยู่
จ�ำได้แล้ว ร้องด้วยเสียงอันดังว่า “นาย มาเร็วๆ เถิด
นี้นางยักษิณีตนนั้น” ดังนี้แล้ว ไม่อาจยืนรออยู่จนสามีนั้น
มาได้วิ่งกลับบ่ายหน้าไปสู่ภายในวิหารแล้ว.
เวลานัน้ พระศาสดาทรงแสดงธรรมอยูใ่ นท่ามกลาง
บริษัท. นางกุลธิดานั้นให้บุตรนอนลงเคียงหลังพระบาท
แห่งพระตถาคตเจ้าแล้วกราบทูลว่า “บุตรคนนี้ ข้าพระองค์
ถวายแด่พระองค์แล้ว ขอพระองค์ประทานชีวิตแก่บุตร
ข้าพระองค์เถิด.”
สุมนเทพ ผู้สิงอยู่ที่ซุ้มประตูไม่ยอมให้นางยักษิณี
การจองเวร ๙

เข้าไปข้างใน.
พระศาสดารับสั่งเรียกพระอานนทเถระมาแล้ว ตรัส
ว่า
“อานนท์ เธอจงไปเรียกนางยักษิณีนั้นมา.”

การจองเวร 57
www.kalyanamitra.org
พระเถระเรียกนางยักษิณีนั้นมาแล้ว.
นางกุลธิดา กราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
นางยักษิณีนี้มา.”
พระศาสดาตรัสว่า “นางยักษิณี จงมาเถิด, เจ้าอย่า
ได้ร้องไปเลย” ดังนี้แล้ว ได้ตรัสกับนางยักษิณีผู้มายืนอยู่
แล้วว่า
“เหตุไร ? เจ้าจึงท�ำอย่างนั้น ถ้าพวกเจ้าไม่มาสู่
เฉพาะหน้าพระพุทธเจ้าผู้เช่นเราแล้ว เวรของพวกเจ้า
จะได้เป็นกรรมตัง้ อยูช่ วั่ กัลป์ เหมือนเวรของงูกบั พังพอน,
ของหมีกับไม้สะคร้อ และของกากับนกเค้า, เหตุไฉน
พวกเจ้าจึงท�ำเวรและเวรตอบแก่กัน ? เพราะเวรย่อม
ระงับได้ดว้ ยความไม่มเี วร หาระงับได้ดว้ ยเวรไม่ “ดังนีแ้ ล้ว
ได้ตรัส พระคาถานี้ว่า
“ในกาลไหน ๆ เวรทั้งหลายในโลกนี้ ย่อมไม่ระงับ
ด้วยเวรเลย ก็แต่ย่อมระงับได้ ด้วยความไม่มีเวร, ธรรมนี้
เป็นของเก่า.”
เมือ่ จบพระคาถา นางยักษิณนี นั้ ตัง้ อยูใ่ นพระโสดา-
ปัตติผลแล้ว. เทศนาได้เป็นกถามีประโยชน์ แม้แก่บริษัท
ผู้ประชุมกันแล้ว.
58 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
www.kalyanamitra.org
พระศาสดา ได้ตรัสกับหญิงนั้นว่า “เจ้าจงให้บุตร
ของเจ้าแก่นางยักษิณีเถิด.”
หญิงนั้น. “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์กลัว.”
พระศาสดา. “เจ้าอย่ากลัวเลย, อันตรายย่อมไม่มี
แก่เจ้า เพราะอาศัยนางยักษิณีนี้.”
นางได้ให้บตุ รแก่นางยักษิณนี นั้ แล้ว. นางยักษิณนี นั้
อุ้มทารกนั้นจูบกอดแล้ว คืนให้แก่มารดาอีก ก็เริ่มร้องไห้.
พระศาสดา ตรัสถามนางยักษิณีนั้นว่า “อะไรนั่น ?”
นางยักษิณีนั้นกราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
เมือ่ ก่อนข้าพระองค์ แม้สำ� เร็จการเลีย้ งชีพด้วยไม่เลือกทาง
ยังไม่ได้อาหารพอเต็มท้อง, บัดนี้ ข้าพระองค์จะเลี้ยงชีพ
ได้อย่างไร ?.”
พระศาสดา ตรัสปลอบนางยักษิณีนั้นว่า” เจ้าอย่า
วิตกเลย” ดังนีแ้ ล้ว ตรัสกับหญิงนัน้ ว่า “เจ้าจงน�ำนางยักษิณี
ไปให้ อ ยู ่ ในเรื อนของตนแล้ว จงดูแลด้ว ยข้ า วต้ มและ
การจองเวร ๙

ข้าวสวยอย่างดี.” หญิงนั้นน�ำนางยักษิณีไปแล้ว ให้พักอยู่


ในโรงกระเดื่อง๙ ได้ดูแลด้วยข้าวต้มและข้าวสวยอย่าง
ดีแล้ว.
๙ น. เครื่องต�ำข้าวที่ใช้ก�ำลังเท้า.

การจองเวร 59
www.kalyanamitra.org
ในเวลาซ้อมข้าวเปลือก สากปรากฏแก่นางยักษิณี
นั้นดุจต่อยศีรษะ. เขาจึงเรียกนางกุลธิดาผู้สหายมาแล้ว
พูดว่า “ฉันจะไม่อาจอยู่ในที่นี้ได้ ขอท่านจงได้ฉันพักอยู่
ในที่อื่นเถิด”
แม้หญิงสหายนัน้ ให้พกั อยูใ่ นทีเ่ หล่านี้ คือในโรงสาก
ข้างตุ่มน�้ำ ริมเตาไฟ ริมชายคา ริมกองหยากเยื่อ ริม
ประตูบ้าน, นางก็กล่าวว่า “ในโรงสากนี้ สากย่อมปรากฏ
ดุจต่อยศีรษะฉันอยู่, ที่ข้างตุ่มน�้ำนี้ พวกเด็กย่อมราดน�้ำ
เป็นเดนลงไป, ที่ริมเตาไฟนี้ ฝูงสุนัขย่อมมานอน, ที่ริม
ชายคานี้ พวกเด็กย่อมท�ำสกปรก, ที่ริมกองหยากเยื่อนี้
คนทั้งหลายย่อมเทหยากเยื่อ, ที่ริมประตูบ้านนี้ เด็กชาว
บ้านย่อมเล่นการพนันกันด้วยคะแนน” ดังนี้แล้ว ได้ห้าม
ที่ทั้งปวงนั้นเสีย.
ครั้งนั้น หญิงสหาย จึงให้นางยักษิณีนั้นพักอยู่ในที่
อันสงัดภายนอกบ้านแล้ว น�ำอาหารมีขา้ วต้มและข้าวสวย
เป็นต้นอย่างดีไปเพื่อนางยักษิณีนั้น แล้วดูแลในที่นั้น.
นางยักษิณีนั้น คิดอย่างนี้ว่า ‘เดี๋ยวนี้หญิงสหาย
ของเรานี้ มีอุปการะแก่เรามาก, เอาเถอะเราจะท�ำความ
แทนคุณสักอย่างหนึ่ง’ ดังนี้แล้ว ได้บอกแก่หญิงสหายว่า

60 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
“ในปีนี้จะมีฝนดี, ท่านจงท�ำข้าวกล้าในที่ดอนเถิด, ในปีนี้
ฝนจะแล้ง ท่านจงท�ำข้าวกล้าในที่ลุ่มเถิด.”
ข้าวกล้าอันพวกคนอื่นท�ำแล้ว ย่อมเสียหายด้วย
น�้ำมากเกินไปบ้าง ด้วยน�้ำน้อยบ้าง. ส่วนข้าวกล้าของ
นางกุลธิดานั้นย่อมสมบูรณ์เหลือเกิน.
ชาวบ้ า นเหล่ า นั้ น พากั น ถามนางว่ า “แม่ น าง
ข้า วกล้ า ที่ ห ล่ อนท�ำ แล้ว ย่อมไม่เสีย หายด้ ว ยน�้ำ มาก
เกินไป ย่อมไม่เสียหายด้วยน�้ำน้อยไป, หล่อนรู้ความที่
ฝนดี แ ละฝนแล้ ง แล้ ว จึ ง ท� ำ การงานหรื อ ? ข้ อ นี้ เ ป็ น
อย่างไรหนอแล ?”
นางบอกว่า “นางยักษิณี ผู้เป็นหญิงสหายของฉัน
บอกความทีฝ่ นดีและฝนแล้งแก่ฉนั , ฉันท�ำข้าวกล้าทัง้ หลาย
ในทีด่ อนและทีล่ มุ่ ตามค�ำของยักษิณนี นั้ , เหตุนนั้ ข้าวกล้า
ของฉันจึงสมบูรณ์ดี, พวกท่านไม่เห็นอาหารมีข้าวต้ม
และข้าวสวยเป็นต้น ทีฉ่ นั น�ำไปจากเรือนเนืองนิตย์หรือ ?
การจองเวร ๙

สิ่งของเหล่านั้น ฉันน�ำไปให้นางยักษิณีนั้น, แม้พวกท่าน


ก็จงน�ำอาหารมีข้าวต้มและข้าวสวยเป็นต้นอย่างดี ไปให้
นางยั ก ษิ ณี บ ้ า งซิ , นางยั ก ษิ ณี ก็ จ ะแลดู ก ารงานของ
พวกท่านบ้าง.” ชาวเมืองทั้งหมด พากันท�ำสักการะแก่
นางยักษิณีนั้นแล้ว.

การจองเวร 61
www.kalyanamitra.org
ตัง้ แต่นนั้ มา นางยักษิณแี ม้นนั้ แลดูการงานทัง้ หลาย
ของคนทั้งปวงอยู่ ได้เป็นผู้ถึงลาภอันเลิศ และมีบริวาร
มากแล้ว.
ในเวลาต่อมา นางยักษิณีนั้นเริ่มตั้งสลากภัต ๘
ทีแ่ ล้ว. สลากภัตนัน้ คนทัง้ หลายยังถวายอยูจ่ นกาลทุกวัน
นี้แล.

จบ เรือ่ งความเกิดขึน้ ของนางกาลียกั ษิณี

62 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๑๐
(ส. ๒๕ ก.พ. ๖๐ วันพระแรม ๑๔ ค�ำ่ เดือน ๓)

๖. แม่ไก่กับเด็กหญิง จองเวรกันข้ามชาติ
๖.๑ คาถาธรรมบท เรื่องกุมาริกากินไข่ไก่๑๐

สถานที่ตรัส พระเชตวัน
เล่ากันว่าหมู่บ้านหนึ่งชื่อ ‘ปัณฑุระ’ อยู่ไม่ไกลเมือง
การจองเวร ๑๐

สาวัตถี, ในหมู่บ้านนั้น มีชาวประมงอยู่คนหนึ่ง. เมื่อเขา


เดินทางไปยังเมืองสาวัตถี เห็นไข่เต่าริมฝั่งแม่น�้ำอจิรวดี
๑๐ ต้นฉบับ ธัมมปทัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย คาถาธรรมบท,
ปกิณณกวรรควรรณนา, ล.๔๓, น.๑๕๙, มมร.
การจองเวร 63
www.kalyanamitra.org
แล้ว ถือเอาไข่เต่าเหล่านั้นไปเมืองสาวัตถี ให้ต้มในเรือน
หลังหนึ่งแล้วเคี้ยวกิน ได้ให้ไข่ฟองหนึ่งแก่กุมาริกาใน
เรือนนั้น. นางเคี้ยวกินไข่เต่านั้นแล้ว
ตั้งแต่นั้น ไม่ปรารถนาซึ่งของอย่างอื่น. ครั้งนั้น
มารดาของนาง ถือเอาไข่ฟองหนึ่งจากที่แม่ไก่ไข่แล้ว ได้
ให้แก่นาง.
นางเคีย้ วกินไข่ฟองนัน้ แล้ว เกิดความอยากในรสแล้ว
ตั้งแต่นั้น ก็เอาไข่ไก่มาเคี้ยวกินเองทีเดียว.
ในเวลาตกฟอง แม่ไก่เห็นกุมาริกานั้นถือเอาไข่
ของตนเคี้ยวกินอยู่ ถูกกุมาริกานั้นเบียดเบียนแล้วผูก
อาฆาต ตัง้ ความปรารถนาว่า ‘บัดนีเ้ ราตายจากชาตินแี้ ล้ว
พึงเกิดเป็นยักษิณี เป็นผูส้ ามารถจะเคีย้ วกินทารกของเจ้า’
ตายแล้วบังเกิดเป็นนางแมวในเรือนนั้นนั่นเอง.
แม้นางกุมาริกานี้ ละโลกแล้ว บังเกิดเป็นแม่ไก่
ในเรือนนั้นเหมือนกัน. แม่ไก่ออกไข่ทั้งหลายแล้ว.
นางแมวมาเคีย้ วกินฟองไข่เหล่านัน้ แล้ว แม้ครัง้ ที่ ๒
แม้ครั้งที่ ๓ ก็เคี้ยวกินแล้วเหมือนกัน.
แม่ไก่ ท�ำความปรารถนาว่า ‘เจ้าเคี้ยวกินฟองไข่
ทั้งหลายของเราตลอด ๓ คราว บัดนี้ ยังปรารถนาจะ
เคี้ยวกินเรา, เราตายจากชาตินี้แล้ว พึงได้เพื่อเคี้ยวกิน

64 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
เจ้าพร้อมทั้งลูก’ ตายจากชาตินั้นแล้ว บังเกิดเป็นนาง
เสือเหลือง.
ฝ่ายนางแมว ตายแล้วบังเกิดเป็นนางเนื้อ. เมื่อนาง
เนือ้ นัน้ คลอดแล้ว นางเสือเหลืองก็มาเคีย้ วกินนางเนือ้ นัน้
พร้อมด้วยลูกทั้งหลาย.
สองสัตว์นนั้ เคีย้ วกินอยูอ่ ย่างนี้ ยังทุกข์ให้เกิดขึน้ แก่
กันและกันใน ๕๐๐ ชาติ ในที่สุดนางหนึ่งเกิดเป็นยักษิณี,
นางหนึ่งเกิดเป็นกุลธิดาในเมืองสาวัตถี.
ในเรื่องนี้ พระศาสดาตรัสว่า “ก็เวรย่อมระงับด้วย
ความไม่มเี วร, ย่อมไม่ระงับด้วยเวร, “ ดังนีแ้ ล้ว เมือ่ จะทรง
แสดงธรรมแก่ชนแม้ทั้งสองจึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
“ผูใ้ ด ย่อมปรารถนาสุขเพือ่ ตน เพราะก่อทุกข์ในผูอ้ นื่ ,
ผู้นั้น เป็นผู้ระคนด้วยเครื่องระคนคือเวรย่อมไม่พ้นจาก
เวรได้.”
เมื่อจบเทศนา นางยักษิณีตั้งอยู่ในสรณะทั้งหลาย
สมาทานศีล ๕ พ้นแล้วจากเวร, ฝ่ายกุลธิดานอกนี้ตั้งอยู่
การจองเวร ๑๐

ในโสดาปัตติผลแล้ว, เทศนาได้มปี ระโยชน์แม้แก่ผปู้ ระชุม


กันแล้ว ดังนี้แล.
จบ เรื่องกุมาริกากินไข่ไก่.
การจองเวร 65
www.kalyanamitra.org
ความคล้ายที่แตกต่างของ
๕.๑) เรื่องความเกิดขึ้นของนางกาลียักษิณี
สาเหตุ เมียหลวงเป็นหมัน กลัวเมียน้อยมีลูกแล้ว
จะเป็นเจ้าของสมบัติคนเดียว
เมียน้อย เป็นแม่แมว แม่เนื้อ นางยักษิณี
(บริวารท้าวเวสสวัณ)
เมียหลวง เป็นแม่ไก่ แม่เสือเหลือง กุลธิดา
เมืองสาวัตถี
นางยักษิณี บรรลุพระโสดาปัตติผล

๖.๑) เรื่องกุมาริกากินไข่ไก่
สาเหตุ กุมาริกาติดในรสไข่ไก่ แม่ไก่ผูกอาฆาต
กุมาริกา
แม่ไก่ เป็นแม่แมว แม่เนื้อ นางยักษิณี
กุมาริกา เป็นแม่ไก่ แม่เสือเหลือง กุลธิดา
เมืองสาวัตถี
จองเวรกันและกัน ๕๐๐ ชาติ ชาติสดุ ท้าย นางยักษิณี
ตั้งอยู่ในสรณะทั้งหลาย สมาทานศีล ๕ พ้นแล้วจากเวร
ฝ่ายกุลธิดาตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล

66 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องการจองเวร ตอนที่ ๑๑
(อ. ๒๘ ก.พ. ๖๐)

บทวิเคราะห์ สาเหตุของการจองเวร
๑. ขัดผลประโยชน์กัน ไม่ว่าเรื่องค้าขาย หรือการ
ไม่ได้รับประโยชน์จากอีกฝ่ายหนึ่ง ยิ่งเจอประเภทคิดเอง
เออเอง เข้าใจผิดเองเลยพาลโกรธคนอืน่ แทนทีจ่ ะพิจารณา
ว่าเป็นความผิดของตนเองที่โลภ ที่ไม่คิดเอาแต่ได้
การจองเวร ๑๑

๑.๑ เสรีววาณิชชาดก ว่าด้วยเสรีววาณิช


๑.๒ ผันทนชาดก ว่าด้วยการผูกเวรของหมีและ
ไม้ตะคร้อ
การจองเวร 67
www.kalyanamitra.org
๒. อิจฉาริษยากันของฝ่ายหญิง เมื่อผิดหวังเลย
อาฆาตแค้นฝ่ายชาย
๒.๑ ฉัททันตชาดก ว่าด้วย พระโพธิสัตว์เสวย
พระชาติเป็น พญาช้างฉัททันต์.
๓. ความระแวงกัน กลัวอีกฝ่ายท�ำร้าย, รังเกียจกัน
ติดมาข้ามชาติ เจอกันเลยไม่ค่อยถูกชะตากัน
๓.๑ อุรคชาดก ว่าด้วยงูผู้มีคุณธรรมสูง
(นาคกับครุฑ)
๓.๒ นกุลชาดก ว่าด้วยอย่าวางใจมิตร
(งูกับพังพอน)
๓.๓ กัจฉปชาดก ว่าด้วยลิงสัปดน
(เต่ากับลิง)
๓.๔ อุลูกชาดก ว่าด้วยหน้าตาไม่ดีไม่ควรให้
เป็นใหญ่ (กากับนกเค้า)
๔. ความแค้นของฝ่ายหญิง ที่ถูกท�ำร้ายคนที่รัก
เลยโกรธแค้นอาฆาต ตั้งจิตที่จะจองเวร
๔.๑ คาถาธรรมบทเรือ่ งความเกิดขึน้ ของนางกาลี
ยักษิณี
๔.๒ คาถาธรรมบทเรื่องกุมาริกากินไข่ไก่

68 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
สักกปัญหสูตร๑๑
ท้ า วสั ก กะจอมเทพ อั น พระผู ้ มี พ ระภาคทรงให้
โอกาสแล้ว ได้ทูลถามปัญหาข้อแรกกับพระผู้มีพระภาค
อย่างนี้ว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ พวกเทวดา มนุษย์ อสูร
นาค คนธรรพ์ มีอะไรเป็นเครื่องผูกพันใจไว้ อนึ่งชนเป็น
อันมากเหล่าอื่นนั้น เป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีอาชญา ไม่มีศัตรู
ไม่มีความพยาบาท ย่อมปรารถนาว่า ‘ขอพวกเราจงเป็น
ผู้ไม่มีเวรอยู่เถิด’ ก็และพวกเขามีความปรารถนาอยู่ดังนี้
ก็ไฉน เขายังเป็นผูม้ เี วร มีอาชญา มีศตั รู มีความพยาบาท
ยังจองเวรกันอยู่ ?”
ท้ า วสั ก กะจอมเทพได้ ทู ล ถามปั ญ หากั บ พระผู ้ มี
พระภาคด้วยประการฉะนี้ ฯ
พระผู ้ มี พ ระภาคอั น ท้ า วสั ก กะจอมเทพทู ล ถาม
ปัญหาแล้ว ทรงพยากรณ์ว่า
“ดู ก รจอมเทพ พวกเทวดา มนุ ษ ย์ อสู ร นาค
คนธรรพ์ มีความริษยาและความตระหนีเ่ ป็นเครือ่ งผูกพัน
ใจไว้ อนึ่ง ชนเป็นอันมากเหล่าอื่นนั้น เป็นผู้ไม่มีเวร
การจองเวร ๑๑

๑๑ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย


มหาวรรค, มมร

การจองเวร 69
www.kalyanamitra.org
ไม่มีอาชญา ไม่มีศัตรู ไม่มีความพยาบาท ย่อมปรารถนา
ว่า ‘ขอพวกเราจงเป็น ผู้ไม่มีเวรอยู่เถิด’ ก็และพวกเขา
มีความปรารถนาอยู่ดังนี้ ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเป็นผู้มีเวร
มีอาชญา มีศัตรู มีความพยาบาท ยังจองเวรกันอยู่.”
พระผู ้ มี พ ระภาคอั น ท้ า วสั ก กะจอมเทพทู ล ถาม
ปัญหาแล้ว ทรงพยากรณ์ด้วยประการฉะนี้ ฯ
ท้าวสักกะจอมเทพทรงดีพระทัย ชื่นชมอนุโมทนา
ภาษิตของพระผู้มีพระภาคว่า “ข้าแต่พระผู้มีพระภาค
ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ข้าแต่พระสุคต ข้อนี้เป็นอย่างนั้น
ในข้ อ นี้ ข้ า พระองค์ ข ้ า มความสงสั ย แล้ ว ปราศจาก
ถ้อยค�ำที่จะพูดว่าอย่างไรแล้ว เพราะได้ฟังการพยากรณ์
ปัญหาของพระผู้มีพระภาค ฯ”
จากเนื้อหาในสักกปัญหสูตรในตอนนี้ ก็พอจะบอก
ได้ว่าตราบใดที่คนยังมีกิเลส มีความอิจฉา ริษยากัน ก็คง
มีการจองเวร พยาบาทกันต่อไป ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด
เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์.
พระผูม้ พี ระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ
ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล
พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย... แล้วได้ตรัสว่า
70 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
www.kalyanamitra.org
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้ก�ำหนดที่สุดเบื้องต้น
เบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ
สัตว์ที่ไม่เคยเป็นมารดา โดยกาลนานนี้
มิใช่หาได้ง่ายเลย (มาตุสูตร)
สัตว์ที่ไม่เคยเป็นบิดา โดยกาลนานนี้
มิใช่หาได้ง่ายเลย (ปิตุสูตร)
สัตว์ที่ไม่เคยเป็นพี่ชายน้องชาย โดยกาลนานนี้
มิใช่หาได้ง่ายเลย (ภาตุสูตร)
สัตว์ที่ไม่เคยเป็นพี่หญิงน้องหญิง โดยกาลนานนี้
มิใช่หาได้ง่ายเลย (ภคินีสูตร)
สัตว์ที่ไม่เคยเป็นบุตร โดยกาลนานนี้
มิใช่หาได้ง่ายเลย (ปุตตสูตร)
สัตว์ที่ไม่เคยเป็นธิดา โดยกาลนานนี้
มิใช่หาได้ง่ายเลย (ธีตุสูตร)
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าสงสารนี้ก�ำหนดที่สุด
เบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็น
การจองเวร ๑๑

ที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมา


อยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ
การจองเวร 71
www.kalyanamitra.org
ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอได้เสวยทุกข์ ความเผ็ดร้อน
ความพินาศ ได้เพิ่มพูนปฐพีที่เป็นป่าช้าตลอดกาลนาน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียว
เพือ่ จะเบือ่ หน่ายในสังขารทัง้ ปวง พอเพือ่ จะคลายก�ำหนัด
พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ
คุ ณ ยายอาจารย์ ม หารั ต นอุ บ าสิ ก าจั น ทร์ ท่ า น
อธิษฐานจิตว่า
“เกิดไปอีกกี่ภพกี่ชาติอย่าได้เจอคนพาล
ไม่ว่าศัตรูจะยกมาเป็นกองทัพแค่ไหน
ก็อย่าให้มาท�ำร้ายยายและบริวารได้
ตัวยายเองและบริวารก็อย่าได้มีจิตคิดท�ำร้ายใคร
แม้แต่มดแต่ปลวก ก็ขออย่าให้คิดฆ่าเลย”

ถ้าเรามีความรักและเมตตาต่อคนที่เรารัก ดุจคน
ในครอบครัวเดียวกันหมัน่ แผ่เมตตาจิต ทีพ่ ร้อมจะให้อภัย
ต่อกันเสมอ ความคิดผูกพยาบาทอาฆาตก็จะไม่เกิดขึ้น
การจองเวรก็จะไม่มีแก่เรา

72 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต บทน�ำ
(อ. ๗ มี.ค. ๖๐)

พระเทวทัต ๑
จากเรื่องการจองเวร ที่พระโพธิสัตว์ถูกพระเทวทัต
ติดตามจองเวรมาหลายชาติ ที่น�ำเสนอไปใน ธรรมะ
วันนี้ ชุดเรื่องการจองเวร ตอนที่ ๑ (น.๑๑) วันนี้จะมา
ขยายความเรื่องราวให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
พระเทวทัตเกิดร่วมสมัยกับพระโพธิสัตว์ที่ปรากฏ
ในชาดก ๗๙ เรื่อง๑๒ จากชาดกทั้งหมด ๕๔๗ เรื่อง
(๑๔%)
ทรงปรารภพระเทวทัต ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม
จ�ำนวน ๗๙ ชาดก เป็นปฏิปักษ์และมุ่งปลงพระชนม์
พระองค์ ๔๐ เรื่อง (ประมาณ ๕๐.๖% ของพระชาติที่
เจอกัน)
๑๒ พระมหาไกรวรรณ ชินทตฺติโย (ปุณขันธ์), วิทยานิพนธ์
การศึกษาวิเคราะห์บทบาทของพระเทวทัตที่ปรากฏ ใน
คัมภีร์พระพุทธศาสนา, พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา
พระพุทธศาสนา, มจร., พ.ศ. ๒๕๔๖

การจองเวร 73
www.kalyanamitra.org
74 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
www.kalyanamitra.org
• ทรงปรารภเรื่ อ งที่ พ ระเทวทั ต เกิ ด ความริ ษ ยา
พระองค์ จึงได้ตรัสทุมเมธชาดก
• ทรงปรารภเรื่องที่พระเทวทัตตะเกียกตะกายเพื่อ
ปลงพระชนม์พระองค์ ที่มีปรากฎเป็นเรื่องปรารภเพียง

พระเทวทัต ๑
๖ เรื่อง แต่ถ้ารวมพฤติกรรมเรื่องอื่นด้วยมี ๔๐ เรื่อง
กุรุงคมิคชาดก (๒ เรื่อง ว่าด้วย การร่วมมือกัน,
กวางกุรงุ คะ), รุรมุ คิ ชาดก, วานรินทชาดก, สุงสุมารชาดก,
วานรชาดก, นฬปานชาดก, กุกกุฏชาดก, สกุณัคฆิชาดก,
โรมชาดก, ทัททรชาดก, สิคาลชาดก, กาสาวชาดก,
ฉัททันตชาดก, จัมเปยยชาดก, ภูริทัตชาดก, มหาสีลว-
ชาดก, จันทกุมารชาดก, จุลลปทุมชาดก, โสมนัสสชาดก,
มหากปิชาดก (ว่าด้วย คุณธรรมของหัวหน้า, ผลกรรม
ของผู้ที่ท�ำร้ายผู้มีคุณ), ธัมมัทธชชาดก, มโหสถชาดก,
โคธชาดก, มณิโจรชาดก, สัจจังกิรชาดก, จันทกินนร-
ชาดก, ทุมเมธชาดก, ปรันตปชาดก, มหาปทุมชาดก,
ตโยธรรมชาดก, จุ ล ลนั น ทิ ย ชาดก, สี ล วนาคชาดก,
มหากปิชาดก (ว่าด้วย ผลกรรมของผู้ที่ท�ำร้ายผู้มีคุณ),
ขันติวาทิชาดก, เจติยราชชาดก, จุลลธรรมปาลชาดก
ธรรมเทวปุตตชาดก, มหาเวสสันตรชาดก, สาลิยชาดก

การจองเวร 75
www.kalyanamitra.org
• ทรงปรารภเรื่องที่พระเทวทัตพยายามเพื่อฆ่าชน
เป็นอันมาก เพราะจิตก่อเวรในพระตถาคตเจ้าผู้เดียว
จึงได้ตรัส จันทชาดก
ในทศชาติชาดก ๑๐ เรื่อง
๑. เตมิยชาดก บ�ำเพ็ญเนกขัมมบารมี
(อธิษฐานปรมัตถบารมี)
๒. มหาชนกชาดก บ�ำเพ็ญวิริยบารมี
(ปรมัตถบารมี)
๓. สุวรรณสามชาดก บ�ำเพ็ญเมตตาบารมี
(บารมี)
๔. เนมิราชชาดก บ�ำเพ็ญอธิษฐานบารมี
๕. มโหสถชาดก บ�ำเพ็ญปัญญาบารมี (อุปบารมี)
๖. ภูริทัตชาดก บ�ำเพ็ญศีลบารมี (อุปบารมี)
๗. จันทชาดก บ�ำเพ็ญขันติบารมี (อุปบารมี)
๘. มหานารทกัสสปะชาดก บ�ำเพ็ญอุเบกขาบารมี
๙. วิธุรชาดก บ�ำเพ็ญสัจจบารมี (ปัญญาบารมี)
๑๐. มหาเวสสันตรชาดก บ�ำเพ็ญทานบารมี
(อุปบารมี)

76 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ทศชาติ ช าดก ชาติ ที่ เ จอพระเทวทั ต มี ๕ ชาติ
ช่วยท�ำให้เกิดอุปบารมี ๔ ชาติ ๔ อย่าง ปัญญา, ศีล,
ขันติ, ทาน ตามล�ำดับ
๕. มโหสถชาดก (พระเทวทัต เป็น พราหมณ์-

พระเทวทัต ๑
เกวัฏ)
๖. ภูริทัตชาดก (พระเทวทัต - พราหมณ์เนสาท),
๗. จันทชาดก (พระเทวทัต - กัณฑหาลพราหมณ์),
๑๐. มหาเวสสันตรชาดก
(พระเทวทัต - พราหมณ์ชูชก)
๘. มหานารทกัสสปะชาดก
(พระเทวทัต - อลาตเสนาบดี), เป็นอุเบกขาบารมี

ช่วยท�ำให้เกิดอุปบารมี ๓ ชาติ ๓ อย่าง ศีล, สัจจะ,


วิริยะ ตามล�ำดับในชาติอื่นๆ
เรื่องจัมเปยยชาดก (ศีลอุปบารมี),
เรื่องวานรินทชาดก (สัจจะอุปบารมี)
เรื่องมหาสีลวชาดก (วิริยะอุปบารมี)
ชาติ ที่ เ จอพระเทวทั ต มี ๓ ชาติ ช่ ว ยท� ำ ให้ เ กิ ด
ปรมัตถบารมี ๑ ชาติ คือ ขันติปรมัตถบารมี เรือ่ งขันติวาที
ชาดก
การจองเวร 77
www.kalyanamitra.org
ช่วยท�ำให้เกิดบารมี ๒ ชาติ คือ
ขันติบารมี เรื่อง จุลลธัมมปาลชาดก
วิริยะบารมี เรื่อง กปิชาดก

ในชาดกทั้งหมดนั้น พบว่าพระเทวทัตได้เกิดมา
ร่วมชาติกับพระโพธิสัตว์เพื่อมุ่งจองเวรโดยมาก ที่เป็น
เช่นนัน้ เพราะท่านมีจติ ใจเต็มด้วยโทสะ อาศัยความโกรธ
ซึง่ เกิดขึน้ ในพระโพธิสตั ว์ จึงได้ผกู อาฆาตในพระโพธิสตั ว์
และส่งผลให้ตนเองได้ประสบกับความเสื่อมในกาลต่อมา
อนึ่ง ส�ำหรับในชาติสุดท้ายของพระพุทธองค์ การที่
พระองค์ทรงถูกพระเทวทัตพยายามปลงพระชนม์นั้น
ก็เนื่องมาจากบุพพกรรมในอดีตชาติของพระองค์ด้วย
ดังที่พระองค์ทรงเล่าไว้ในคัมภีร์ ขุททกนิกาย อปทาน
พอสรุปได้ว่า
ในชาติก่อน พระองค์สมัยที่ยังเป็นเด็กเล่นกันอยู่
ที่หนทางใหญ่ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าเดินมา จึงหว่าน
ก้อนกรวดไว้ในหนทาง เพราะผลกรรมนัน้ ในชาติสดุ ท้ายนี้
พระเทวทัตจึงชักชวนนักแม่นธนูผู้เป็นนักฆ่า มาให้ปลง
พระชนม์พระองค์

78 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
พระเทวทัต ๑
ในชาติก่อน พระองค์เป็นนายควาญช้าง ได้ไสช้าง
ไล่พระปัจเจกพุทธเจ้า ซึ่งก�ำลังเที่ยวบิณฑบาต เพราะ
ผลกรรมนั้น พระเทวทัตจึงไปยุยงนายควาญช้าง ปล่อย
ช้างนาฬาคีรีที่ดุร้ายวิ่งไล่พระองค์

การจองเวร 79
www.kalyanamitra.org
ในชาติกอ่ น พระองค์หวังจะได้ทรัพย์ คิดฆ่าน้องชาย
ต่างมารดาโดยจับโยนลงซอกภูเขา แล้วกลิ้งก้อนหินให้
ตกทับ เพราะผลกรรมนัน้ พระเทวทัตจึงกลิง้ ก้อนหินลงมา
หวังจะให้ตกทับ สะเก็ดหินแตกมากระทบนิ้วพระบาท
จนห้อพระโลหิต

• คาถาธรรมบทที่เกี่ยวกับพระเทวทัตมี ๕ เรื่อง
ได้แก่ เรื่องพระเทวทัต ๓ เรื่อง (ยมกวรรคเรื่องที่ ๗
กับ ๑๒, อัตตวรรคเรื่องที่ ๖), เรื่องความพยายามเพื่อ
ท�ำลายสงฆ์, เรื่องภิกษุผู้คบฝ่ายผิดรูปใดรูปหนึ่ง

80 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
• พระสูตร ๑๕ สูตร
๑. มหาสาโรปมสูตร,
๒. จังกมสูตร,
๓. ภินทิสูตร,

พระเทวทัต ๑
๔. กุสลมูลสูตร,
๕. กุสลธัมมสูตร,
๖. สุกกธัมมสูตร,
๗. อจิรปักกันตสูตร,
๘. ปัญจรถสตสูตร,
๙. เทวทัตตสูตร
๑๐. กกุธเถรสูตร,
๑๑. ปุริสินทริยญาณสูตร
๑๒. เทวทัตต วิปัตติสูตร
๑๓. สังฆเภทสูตร,
๑๔. เทวทัตตสูตร
๑๕. สิลายูปสูตร

การจองเวร 81
www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๒
(พ. ๘ มี.ค. ๖๐)

รูปแบบวิธจี องเวรในอดีตชาติของพระเทวทัตทีม่ ตี อ่
พระโพธิสัตว์ รวม ๔๐ ชาติ
๑. ตนเองเกิดเป็นผูล้ า่ เช่น นายพราน, จระเข้, ผีเสือ้ น�ำ้ ,
เหยี่ยว, หมองู, ชฎิลโกง, ดาบส
พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นผู้ถูกล่า เช่น กวาง,
ลิ ง , ไก่ , นก, พญานาค, พญาช้ า ง, นกกระทา
มี ๑๖ เรื่อง

82 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
๑.๑ - ๑.๒ กุรุงคมิคชาดก (๒ เรื่อง ว่าด้วย การร่วม
มือกัน, กวางกุรุงคะ)
- พระเทวทัตเกิดเป็นนายพราน,
- พระโพธิสัตว์เกิดเป็นกวาง
๑.๓ รุรุมิคชาดก ว่าด้วย น�้ำใจของพญาเนื้อรุรุ

พระเทวทัต ๒
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นบุตรของเศรษฐี
ในกรุงพาราณสี ซึ่งไม่รู้กตัญญู,
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นพญากวาง
ชื่อว่า ‘รุรุ’
๑.๔ กุกกุฏชาดก ว่าด้วย ผลของการไม่เชื่อง่าย
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นเหยี่ยว,
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นไก่
๑.๕ สกุณัคฆิชาดก ว่าด้วย เหยี่ยวนกเขา
- พระเทวทัตถือก�ำเนิดเป็นนกเหยี่ยวเขา,
- พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นนกมูลไถ
๑.๖ นฬปานชาดก ว่าด้วย การพิจารณา
- พระเทวทัตก�ำเนิดเป็นผีเสื้อน�ำ้ ,
- พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพญาลิง

การจองเวร 83
www.kalyanamitra.org
๑.๗ วานรินทชาดก ว่าด้วย ธรรมของผู้ที่ล่วงพ้นศัตรู
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นจระเข้,
- พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นลิง
๑.๘ สุงสุมารชาดก ว่าด้วย ผู้มีปัญญาไม่สมกับตัว
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นจระเข้,
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติวานร
๑.๙ วานรชาดก ว่าด้วย ผูร้ เู้ ท่าถึงเหตุการณ์เอาตัวรอดได้
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นจระเข้,
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นลิง
๑.๑๐ โรมชาดก ว่าด้วย อาชีวกเจ้าเล่ห์
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นชฎิลโกง,
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นนกพิราบ
๑.๑๑ ทัททรชาดก ว่าด้วย คนอกตัญญูไม่รจู้ กั บุญคุณคนอืน่
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นดาบสผู้เลวทราม,
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นนกกระทา
๑.๑๒ สิคาลชาดก ว่าด้วย แสร้งท�ำเป็นตาย
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นนักเลงสุรา,
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นสุนัขจิ้งจอก

84 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
๑.๑๓ กาสาวชาดก ว่าด้วย ผู้ควรนุ่งห่มผ้ากาสาวะ
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นนายพราน,
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นพญาช้าง
๑.๑๔ ฉัททันตชาดก ว่าด้วย พญาช้างฉัททันต์
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นนายพรานชื่อ
‘โสณุดร’,

พระเทวทัต ๒
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นพญาช้าง
ฉัททันต์
๑.๑๕ จัมเปยยชาดก ว่าด้วย สังขปาลนาคราชบ�ำเพ็ญตบะ
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นหมองู,
- พระโพธิสตั ว์ได้เสวยพระชาติเป็นจัมเปยยนาคราช
๑.๑๖ ภูริทัตชาดก ว่าด้วย พระเจ้าภูริทัตทรงบ�ำเพ็ญ
ศีลบารมี
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นนายพราน,
- พระโพธิสตั ว์ได้เสวยพระชาติเป็นภูรทิ ตั พญานาค

๒. ตนเองเกิดเป็นผูม้ อี ำ� นาจน้อยกว่าพระโพธิสตั ว์ เช่น


อ�ำมาตย์, ลิงบริวาร ส่วนพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติ
เป็นพระราชา, พญาลิง มี ๕ เรื่อง

การจองเวร 85
www.kalyanamitra.org
๒.๑ มหาสีลวชาดก ว่าด้วยความส�ำเร็จเกิดจากความ
พยายาม
- พระเทวทัตได้ถอื ก�ำเนิดเป็นอ�ำมาตย์ชวั่ ในนครนัน้ ,
- พระโพธิสตั ว์ได้เสวยพระชาติเป็นพระเจ้ามหาสีลว-
ราช
๒.๒ จุลลปทุมชาดก ว่าด้วยการลงโทษหญิงชายท�ำชู้กัน
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นโจรผู้อกตัญญู,
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นปทุมราชกุมาร
๒.๓ จันทกุมารชาดก ว่าด้วยพระจันทกุมารทรงบ�ำเพ็ญ
ขันติบารมี
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นปุโรหิต ชื่อว่า
‘กัณฑหาละ’,
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นจันทกุมารโอรส
ของพระเจ้าเอกราชในกรุงปุปผวดี
๒.๔ โสมนัสสชาดก ว่าด้วยการใคร่ครวญเสียก่อนแล้ว
จึงค่อยท�ำ
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นชฎิลโกง,
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นโสมนัสสกุมาร
ผู้เป็นโอรสของพระเจ้าเรณุราช

86 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
๒.๕ มหากปิชาดก ว่าด้วยคุณธรรมของหัวหน้า
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นลิงบริวารตัวหนึ่ง
ซึง่ มีความริษยา,
- พระโพธิสตั ว์ได้เสวยพระชาติเป็นพญาลิง

๓. ตนเองเกิดเป็นผู้มีอ�ำนาจพอๆ กับพระโพธิสัตว์

พระเทวทัต ๒
เช่น เสนาบดี, ส่วนพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติ เป็น
ปุโรหิต มี ๓ เรื่อง
๓.๑ ธัมมัทธชชาดก ว่าด้วยผูถ้ งึ ธรรมของสัตบุรษุ
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นเสนาบดี ชื่อ
‘กาฬกะ’,
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นปุโรหิตของ
พระเจ้ากรุงพาราณสี ชือ่ ‘ธรรมธัช’
๓.๒ มโหสถชาดก ว่าด้วยพระมโหสถบัณฑิต ทรง
บ�ำเพ็ญปัญญาบารมี
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นพราหมณ์เกวัฏ
ปุโรหิตของพระเจ้าจุลนีพรหมทัตในอุตตรปัญ-
จาลนคร
- พระโพธิสตั ว์ได้เสวยพระชาติเป็นมโหสถบัณฑิต
ซึง่ เป็นปุโรหิตของพระเจ้าวิเทหราชในกรุงมิถลิ า
การจองเวร 87
www.kalyanamitra.org
๓.๓ โคธชาดก ว่าด้วยคบคนชั่ว ไม่มีความสุข
- พระเทวทัตได้ก�ำเนิดเป็นกิ้งก่า,
- พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพญาเหี้ย

๔. ตนเองเกิดเป็นผู้มีอ�ำนาจเหนือกว่าพระโพธิสัตว์
เช่น พระราชา, ส่วนพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็น
ผูถ้ กู อยูใ่ ต้อำ� นาจ เช่น คหบดี,ดาบส, กินนร, ช้างเผือก
มี ๔ เรื่อง
๔.๑ มณิโจรชาดก ว่าด้วย พระเจ้าอธัมมิกราช
- พระเทวทัตได้ถอื ก�ำเนิดเป็นพระเจ้าพาราณสี,
- พระโพธิสตั ว์เสวยพระชาติเป็นคหบดี
๔.๒ สัจจังกิรชาดก ว่าด้วย ไม้ลอยน�ำ้ ดีกว่าคนอกตัญญู
- พระเทวทัตได้ถอื ก�ำเนิดเป็นทุฏฐกุมาร
ต่อมาเป็นพระราชา,
- พระโพธิสตั ว์เสวยพระชาติเป็นฤๅษี
๔.๓ จันทกินนรชาดก ว่าด้วย นางจันทกินนรี
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นพระเจ้าพรหมทัต
ในกรุงพาราณสี,
- พระโพธิสตั ว์เสวยพระชาติเป็นกินนร

88 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
๔.๔ ทุมเมธชาดก ว่าด้วย คนโง่ได้ยศก็ไม่เกิดประโยชน์
- พระเทวทัตได้ถอื ก�ำเนิดเป็นพระราชาครองราชย์
ในกรุงราชคฤห์,
- พระโพธิสตั ว์เสวยพระชาติเป็นพญาช้างเผือก
๕. ตนเองเกิ ด เป็ น บิ ด า เช่ น พระราชา, พญาลิ ง

พระเทวทัต ๒
พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นบุตร เช่น พระโอรส,
ลูกพญาลิง มี ๓ เรื่อง
๕.๑ มหาปทุมชาดก ว่าด้วย มหาปทุมกุมาร
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นพระเจ้าพรหมทัต
ในกรุงพาราณสี,
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นปทุมกุมาร
พระโอรส ต่อมาบวชเป็นฤๅษีทปี่ า่ หิมพานต์
๕.๒ ปรันตปชาดก ว่าด้วย ลางบอกความชั่วและภัย
ทีจ่ ะมาถึง
- พระเทวทัตได้ถอื ก�ำเนิดเป็นพระเจ้าพรหมทัต,
- พระโพธิสตั ว์ได้เสวยพระชาติเป็นพระโอรส
๕.๓ ตโยธรรมชาดก ว่าด้วย ธรรมของผูล้ ว่ งพ้นศัตรู
- พระเทวทัตถือก�ำเนิดเป็นพญาลิง
- พระโพธิสตั ว์เสวยพระชาติเป็นลูกของพญาลิง
การจองเวร 89
www.kalyanamitra.org
๖. ตนเองเกิดฐานะทีเ่ หนือกว่า กรณี ๑ - ๕ แต่กอ่ กรรม
ท�ำเข็ญ จนตนเองต้องตกอเวจีมหานรก มี ๗ เรื่อง
๖.๑ จุลลนันทิยชาดก ว่าด้วยผลของกรรมดีและกรรมชัว่
- พระเทวทัตได้ถอื ก�ำเนิดเป็นนายพรานผูก้ กั ขฬะ
หยาบช้า,
- พระโพธิสตั ว์ได้เสวยพระชาติเป็นวานรชือ่
‘นันทิยะ’ (กรณีที่ ๑)
๖.๒ มหากปิชาดก ว่าด้วยผลกรรมของผู้ที่ท�ำร้าย
ผู้มีคุณ
- พระเทวทัตถือก�ำเนิดเป็นพราหมณ์ผู้อกตัญญู,
- พระโพธิสตั ว์ได้เสวยพระชาติเป็นลิง (กรณีที่ ๑)
๖.๓ สีลวนาคชาดก ว่าด้วยคนอกตัญญูหาช่องเนรคุณ
อยู่ทุกขณะ
- พระเทวทัตได้ถอื ก�ำเนิดเป็นนายพรานผูอ้ กตัญญู,
- พระโพธิสตั ว์เสวยพระชาติเป็นพญาช้างสีลวนา-
คราช (กรณีที่ ๑)
๖.๔ ขันติวาทิชาดก ว่าด้วย โทษที่ท�ำร้ายพระสมณะ
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นพระราชาพระนาม
ว่า ‘กลาปุ’,

90 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
- พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นขันติวาทิดาบส
(กรณีที่ ๔)
๖.๕ เจติยราชชาดก ว่าด้วย เชฏฐาปจายนธรรม
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นพระเจ้าอุปจิรราช,
(กรณีที่ ๔)
- พระโพธิ สั ต ว์ เ สวยพระชาติ เ ป็ น กปิ ล ปุ โ รหิ ต

พระเทวทัต ๒
ต่อมาได้ลาออกบวชเป็นฤๅษี
๖.๖ จุลลธรรมปาลชาดก ว่าด้วย ความรักของแม่
ที่มีต่อลูก
- พระเทวทัตได้ถอื ก�ำเนิดเป็นพระเจ้ามหาปตาปะ
ในกรุงพาราณสี,
- พระโพธิสตั ว์ได้เสวยพระชาติเป็นพระธรรมปาล
กุมาร (กรณีที่ ๕)
๖.๗ ธรรมเทวปุตตชาดก ว่าด้วยเรือ่ งธรรมชนะอธรรม
- พระเทวทัตได้บังเกิดเป็นอธรรมเทพบุตร,
- พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นธรรมเทพบุตร

๗. กรณีอื่นๆ มี ๒ เรื่อง
๗.๑ มหาเวสสันตรชาดก ว่าด้วย พระเวสสันดร
ทรงบ�ำเพ็ญทานบารมี
การจองเวร 91
www.kalyanamitra.org
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นพราหมณ์ชูชก
อยู่ในแคว้นกาลิงคะ,
- พระโพธิสตั ว์ได้เสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร
อยู่ในกรุงเชตุดรแคว้นสีพี
๗.๒ สาลิยชาดก ว่าด้วย ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว
- พระเทวทัตได้ถือก�ำเนิดเป็นหมอ,
- พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นเด็ก
ในตระกูลกุฎุมพี

92 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๓
(พฤ. ๙ มี.ค. ๖๐)

เนือ่ งจากมีเรือ่ งราวมาก อ่านกันได้อกี นาน แต่จะมุง่


น�ำเสนอเพียงแค่หัวข้อที่ ๖
๖. ตนเองเกิดฐานะที่เหนือกว่า กรณี ๑ - ๕ แต่

พระเทวทัต ๓
ก่อกรรมท�ำเข็ญ จนตนเองต้องตกอเวจีมหานรก มี ๗
เรื่อง อดีตชาติของพระเทวทัต กระท�ำกรรมหนักอย่างไร
ผลกรรมจึงเกิดแก่เขา แบบปัจจุบันทันด่วน
๖.๑ จุลลนันทิยชาดก
ว่าด้วยผลของกรรมดีและกรรมชั่ว

๑๓ ต้นฉบับ
ชาตกัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก, ล.๕๗,
น.๓๘๙, มมร.
การจองเวร 93
www.kalyanamitra.org
สถานที่ตรัส ณ พระเวฬุวันมหาวิหาร
ทรงปรารภ พระเทวทัต
สาเหตุที่ตรัส
ความย่อว่า วันหนึ่ง พวกเหล่าภิกษุได้นั่งประชุม
สนทนากันในโรงธรรมว่า “ดูกอ่ นอาวุโสทัง้ หลาย พระเทวทัต
เป็นคนหยาบช้า มุ่งปลงพระชนม์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ได้กลิ้งศิลา ปล่อยช้างนาฬาคิรี มิได้มีแม้แต่ขันติเมตตา
และความเห็นอกเห็นใจในพระตถาคตแม้แต่น้อยนิดเลย”
พระศาสดาเสด็ จ มา ตรั ส ถามว่ า “ดู ก ่ อ นภิ ก ษุ
ทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอนั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไร ?”
เมือ่ ภิกษุทงั้ หลายกราบทูลให้ทรงทราบแล้วจึงตรัสว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เทวทัตนั้น จะเป็นผู้กักขฬะ
หยาบคาย ไร้กรุณามิใช่เฉพาะแต่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ใน
สมัยก่อน เทวทัตก็เป็นคนหยาบคายไร้กรุณาเหมือนกัน”
จากนั้ น ได้ทรงน�ำเรื่องในอดีตมาตรั สเล่ า ให้ ฟั ง
ดังต่อไปนี้

เนื้อหาชาดก
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ
อยู่ในกรุงพาราณสี มีวานรตัวหนึ่ง ชื่อว่า ‘นันทิยะ’ อยู่ใน

94 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
หิมวันตประเทศ มีน้องชายชื่อว่า ‘จุลลนันทิยะ’ มีฝูงลิง
จ�ำนวนมากเป็นบริวาร
สองลิ ง พี่ น ้ อ งปรนนิ บั ติ ม ารดาซึ่ ง ตาบอดโดยให้
มารดาพักนอนที่พุ่มไม้ เข้าไปป่าหาผลไม้ที่มีรสอร่อย
ได้ฝากลูกน้องส่งไปให้มารดาของตนเอง ฝ่ายลูกน้อง
ก็แอบกินเสี ยท�ำให้มารดาต้องหิว จนซูบผอมซีดเหลือ
แต่หนังหุ้มกระดูก

พระเทวทัต ๓
ต่อมา เมือ่ ลิงพีช่ ายคนโตกลับมาเห็นมารดาซูบผอม
เมื่ อ สอบถามได้ ค วามว่ า ‘มารดาไม่ ไ ด้ กิ น ผลไม้ เ ลย’
จึงเสียใจมากที่ขนาดตนเองเป็นจ่าฝูงแม่ยังอดอาหาร
จึ ง ขอร้ อ งให้ น ้ อ งชายเป็ น จ่ า ฝู ง แทน ตนเองจะพาแม่
ไปปรนนิบัติ ส่วนน้องชายมีความเห็นเหมือนพี่ ทั้งคู่
จึงพามารดาออกจากหิมวันตประเทศไปอาศัยอยู่ที่ต้นไม้
ชายแดนและปรนนิบัติมารดาอยู่ ณ ที่นั้น
ครั้งนั้น มีพราหมณ์มาณพชาวกรุงพาราณสีผู้หนึ่ง
เรียนจบวิชาในส�ำนักอาจารย์ทศิ าปาโมกข์ ในเมืองตักกสิลา
อ�ำลาอาจารย์ ท่านจึงสัง่ สอนว่า “เจ้าเป็นคนอารมณ์รนุ แรง
ถ้ายังขืนเป็นอยู่อย่างนี้จะต้องพบความพินาศความทุกข์
อย่างใหญ่หลวง อย่าได้ทำ� กรรมอันให้เดือดร้อนในภายหลัง
เลย”

การจองเวร 95
www.kalyanamitra.org
เขาไหว้อาจารย์แล้วกลับไปสูก่ รุงพาราณสีมคี รอบครัว
แล้ว ต่อมา จึงประกอบอาชีพเป็นนายพรานแล้วออกจาก
เมืองไปอยู่ที่บ้านชายแดนเข้าป่าล่าเนื้อเลี้ยงชีพด้วยการ
ขายเนื้อ
วันหนึง่ เขาไม่ได้อะไรในป่าเลย จึงกลับมายังต้นไทร
ที่ริมเนิน คิดว่า ‘น่าจะมีอะไรอยู่ที่ต้นไทรนี้บ้าง’ จึงเดิน
มุ่งหน้าตรงไปยังต้นไทร
ขณะนั้น วานร ๒ พี่น้องนั่งอยู่ระหว่างค่าคบก�ำลัง
ปรนนิบัติให้มารดาเคี้ยวกินผลไม้ เห็นพรานก�ำลังเดินมา
จึงแอบอยู่ระหว่างกิ่งไม้ ฝ่ายบุรุษนั้นมาถึงโคนต้นไม้
เห็นมารดาของวานรนั้นผู้ตาบอดจึงคิดว่า ‘เราจะไม่ยอม
กลับบ้านมือเปล่า จักยิงนางลิงแก่ตัวนี้เอาไปท�ำอาหาร
จะดีกว่า’ คิดดังนั้นแล้ว จึงหยิบธนูเล็งยิงนางลิงตาบอด
นั้นทันที
นันทิยวานรเห็นดังนัน้ จึงสัง่ น้องชายว่า “จุลลนันทิยะ
น้องรัก พรานผู้นี้จะยิงแม่ของเรา พี่จะสละชีวิตของพี่
ทดแทนบุญคุณแม่ เมื่อพี่ตายไปแล้ว ขอน้องจงเลี้ยงดู
แม่ของเราให้ดีเถิด”
ครั้ น สั่ ง เสี ย เสร็ จ แล้ ว วานรกตั ญ ญู จึ ง ออกจาก
ระหว่างกิง่ ไม้ไปเผชิญหน้ากับนายพรานผูใ้ จร้ายพร้อมกับ

96 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
วิงวอนด้วยเสียงที่น่าสงสารว่า “ท่านนายพรานผู้เจริญ
ขอท่านได้อย่าได้ยิงแม่ผู้ชราตาบอดของเราเลย เราจะ
สละชีวิตของเราแทนคุณมารดา ขอท่านจงฆ่าเราเถิด”
เมื่ อ พู ด เสร็ จ ก็ ห ลั บ ตารอคอยการประหาร บุ รุ ษ
ไร้ซึ่งความกรุณาผู้นั้นจึงยิงวานรนั้นตกลงมาตายทันที
จากนั้น ก็แสดงความเป็นคนไร้สัจจะด้วยการจะยิงแม่
ของมันอีก

พระเทวทัต ๓
จุลลนันทิยะเห็นดังนั้น จึงคิดว่า ‘แม่ของเราแม้จะมี
ชีวิตอยู่วันเดียว ก็ยังได้ชื่อว่ารอดชีวิตแล้ว เราจักสละ
ชีวิตของเราให้แม่’ จึงออกจากระหว่างกิ่งไม้มาวิงวอนว่า
“ท่านผู้เจริญ ขอท่านอย่าได้ยิงแม่ของเราเลย เราจักสละ
ชีวิตให้แม่ของเรา เชิญท่านมาเอาชีวิตของเรา ๒ พี่น้อง
ไปเถิด แต่ขอให้ท่านจงไว้ชีวิตแม่ของเราเถิด”
บุรษุ นัน้ จึงยิงจุลลนันทิยะนัน้ ตกลงมาตายอีกศพหนึง่
จากนั้น ก็ยิงแม่ลิงตาบอดตกมาตายเป็นศพที่ ๓ และได้
หาบศพลิง ๓ ตัว มุ่งหน้าตรงไปยังบ้าน

ครัง้ นัน้ สายฟ้าได้ฟาดลงมาถูกทีบ่ า้ นของบุรษุ ชัว่ นัน้


ท�ำให้ไฟได้ไหม้ภรรยาและลูกสองคนพร้อมกับบ้าน เหลือ
แค่เพียงเสากับขื่อ

การจองเวร 97
www.kalyanamitra.org
ขณะนั้น ได้มีบุรุษผู้หนึ่งไปพบพรานชั่วนั้นที่ประตู
บ้านนั่นเองและได้แจ้งข่าวร้ายให้เขาได้ทราบ เขาถึงกับ
ช็อกทิ้งศพลิง ๓ ตัวไว้ตรงนั้นเอง ปล่อยผ้าเปลือยกาย
ร้องไห้เข้าไปที่บ้านทันที
ทันใดนั้น ขื่อได้หักตกลงมาถูกศีรษะแตก แผ่นดิน
แยกออกเป็นช่อง เปลวไฟแลบขึ้นมาจากอเวจีมหานรก
ในขณะทีเ่ ขาก�ำลังถูกแผ่นดินสูบ จึงได้หวนระลึกถึงโอวาท
ของอาจารย์ได้กล่าว ๒ คาถาร�ำพันว่า
ปาราสริยพราหมณ์ได้กล่าวค�ำใดไว้ว่า ท่านอย่าได้
กระท�ำกรรมชั่วอันจะท�ำตัวท่านให้ต้องเดือดร้อนในภาย
หลังนะ
ค�ำนี้นั้นเป็นถ้อยค�ำของท่านอาจารย์ บุรุษท�ำกรรม
เหล่าใดไว้ เขาย่อมเห็นกรรมเหล่านั้นในตน ผู้ท�ำกรรมดี
ย่อมได้รบั ผลดี ผูท้ ำ� กรรมชัว่ ย่อมได้รบั ผลชัว่ บุคคลหว่าน
พืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น
เขาร�ำพึงด้วยความตระหนักในค�ำสอนของอาจารย์
ได้ไปบังเกิดในอเวจีมหานรกแล้ว

98 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
l ประชุมชาดก l

บุรุษนายพรานในครั้งนั้น ได้เป็น เทวทัตในบัดนี้


อาจารย์ทิศาปาโมกข์ ได้เป็น สารีบุตร
จุลลนันทิยวานร ได้เป็น อานนท์
มารดาวานร ได้เป็น มหาปชาบดีโคตมี
ส่วนมหานันทิยวานร คือตัวเราตถาคตนั่นเอง

พระเทวทัต ๓

การจองเวร 99
www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๔
(ศ. ๑๐ มี.ค. ๖๐)

๖.๒ มหากปิชาดก๑๔
ว่าด้วย ผลบาปของผู้ทำ� ร้ายผู้มีคุณ
สถานที่ตรัส พระเชตวันมหาวิหาร
ทรงพระปรารภ การกลิ้งศิลาของพระเทวทัต
สาเหตุที่ตรัส
ความโดยย่ อ ว่ า เมื่ อ ภิ ก ษุ ทั้ ง หลายพากั น กล่ า ว
ติเตียนพระเทวทัต เพราะใช้นายขมังธนู เพราะกลิ้งศิลา
๑๔ ต้นฉบับ
ชาตกัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก, ล.๖๑,
น.๔๔๑, มมร.

100 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ในเวลาต่อมา พระศาสดาจึงตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ใช่แต่ในบัดนีเ้ ท่านัน้ ก็หามิได้ แม้ในชาติกอ่ น พระเทวทัต
ก็กลิ้งศิลาเพื่อฆ่าเราเหมือนกัน” แล้วทรงน�ำอดีตนิทาน
มาตรัส ดังต่อไปนี้.

เนื้อหาชาดก
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ
ในพระนครพาราณสี
ในหมู่บ้านกาสิกคาม พราหมณ์ชาวนาผู้หนึ่งไถนา

พระเทวทัต ๔
เสร็จแล้วปล่อยโคไป เริ่มท�ำการงานขุดหญ้าพรวนดิน
ด้วยจอบ. ฝูงโคเคี้ยวกินใบไม้ที่พุ่มไม้แห่งหนึ่งพลาง
พากันหนีเข้าไปสู่ดงโดยล�ำดับ พราหมณ์นั้นคะเนว่า
‘ถึงเวลาแล้ว’ ก็วางจอบเหลียวหาฝูงโคไม่พบ เกิดความ
โทมนัส จึงเที่ยวค้นหาในดงเข้าไปจนถึงป่าหิมพานต์.
พราหมณ์นั้นหลงทิศทางในป่าหิมพานต์ อดอาหาร
ถึงเจ็ดวัน เดินไปพบต้นมะพลับต้นหนึ่ง จึงขึ้นไปเก็บผล
รับประทาน พลัดตกลงมาจากต้นมะพลับ เลยตกลงไป
ในเหวดุจขุมนรกลึกตั้ง ๖๐ ศอก.
พราหมณ์ตกอยู่ในเหวล่วงไปได้สิบวัน. คราวนั้น
พระโพธิสัตว์บังเกิดในก�ำเนิดวานร ก�ำลังเคี้ยวกินผลาผล

การจองเวร 101
www.kalyanamitra.org
เหลือบเห็นบุรุษนั้นเข้าจึงผูกเชือกเข้าที่หิน ช่วยบุรุษนั้น
ขึ้นมาได้. เมื่อวานรโพธิสัตว์ก�ำลังหลับ พราหมณ์ได้เอา
หินมาทุ่มลงที่ศีรษะ
พระมหาสัตว์เจ้ารูก้ ารกระท�ำของเขาแล้วจึงกระโดด
ขึ้นไปบนกิ่งไม้ กล่าวว่า “แน่ะบุรุษผู้เจริญ ท่านจงเดินไป
ตามพื้นดิน ข้าพเจ้าจักเดินบอกหนทางแก่ท่าน” ไปทาง
กิ่งไม้ แล้วพาบุรุษนั้นออกจากป่าจนถึงหนทาง จึงเข้าไป
สู่บรรพตตามเดิม.
บุรุษนั้นล่วงเกินพระมหาสัตว์เจ้าแล้วเกิดโรคเรื้อน
กลายเป็นมนุษย์เปรตในปัจจุบนั ทันตาเห็นทีเดียว. เขาถูก
ความทุกข์เบียดเบียนอยู่เจ็ดปี เที่ยวเร่ร่อนไปถึงมิคาชิน
อุทยาน เขตพระนครพาราณสี ลาดใบตองลงภายใน
ก�ำแพงนอนเสวยทุกขเวทนา.
คราวนั้น พระเจ้าพาราณสีเสด็จประพาสพระราช-
อุทยาน เสด็จเที่ยวไปพบเขา ณ ที่นั้น แล้วด�ำรัสถามว่า
“เจ้าเป็นใคร ? ท�ำกรรมอะไรไว้ จึงต้องรับทุกข์เช่นนี้ ?”
ฝ่ายเปรตนั้นได้กราบทูลเรื่องราวทั้งมวลโดยพิสดาร.
พระบรมศาสดา เมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนั้น
ตรัสพระคาถาความว่า

102 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
พระราชาแห่งชนชาวกาสีผู้ทรงยังรัฐสีมามณฑล
ให้เจริญ ในพระนครพาราณสี ทรงแวดล้อมไปด้วยมิตร
และอ� ำ มาตย์ ผู ้ มี ค วามภั ก ดี มั่ น คง เสด็ จ ไปยั ง มิ ค าชิ น
อุทยาน.
ณ ที่นั้นได้ทอดพระเนตรเห็นพราหมณ์ ซึ่งเป็นโรค
เรือ้ น ขาวพราวเป็นจุดๆ ตามตัว มากไปด้วยกลากเกลือ้ น
เรี่ ย ราดด้ ว ยเนื้ อ ที่ ห ลุ ด ออกมาจากปากแผล เช่ น กั บ
ดอกทองกวาวที่บาน ในเรือนร่างทุกแห่ง มีเพียงกระดูก
ซูบผอม สะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น.

พระเทวทัต ๔
ครัน้ ทอดพระเนตรเห็นคนทีต่ กยาก ถึงความล�ำบาก
น่าสงสารยิง่ นักแล้ว ทรงหวัน่ หวาดพระทัย จึงตรัสถามว่า
“ท่านเป็นยักษ์ประเภทไหน ? ในจ�ำพวกยักษ์ทั้งหลาย.
อนึ่ง มือและเท้าของท่านขาว ศีรษะยิ่งขาวกว่านั้น
ตัวของท่านก็ดา่ งพร้อย มากไปด้วยเกลือ้ นกลาก. หลังของ
ท่านก็เป็นปุ่มเป็นปม ดุจเถาวัลย์อันยุ่งอวัยวะของท่าน
บ้างก็ดำ � บ้างก็หงิกงอ คล้ายเถาวัลย์มีข้อด�ำ ดูไม่เหมือน
คนอื่นๆ.
เท้าเปรอะเปื้อนด้วยธุลี น่าหวาดเสียว ซูบผอม
สะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น หิวระหาย ร่างกายซูบซีด ท่านมา
จากไหน และจะไปไหน ?.

การจองเวร 103
www.kalyanamitra.org
แลดูน่าเกลียด รูปร่างก็อัปลักษณ์ ผิวพรรณชั่วช้า
ดูน่ากลัว แม้มารดาบังเกิดเกล้าของท่าน ก็ไม่ปรารถนา
จะดูแลเจ้าเลย.
ในชาติก่อน ท่านท�ำกรรมอะไรไว้ ? ได้เบียดเบียน
ผู้ที่ไม่ควรเบียดเบียนไว้อย่างไร ? ได้เข้าถึงทุกข์นี้ เพราะ
ท�ำกรรมอันหยาบช้าอันใดไว้ ?”.

ต่อจากนั้น พราหมณ์จึงกล่าวคาถากราบทูลว่า
“ขอเดชะ ขอเชิญพระองค์ทรงสดับ ข้าพระองค์
จักกราบทูลอย่างคนทีฉ่ ลาดทูล เพราะว่าบัณฑิตทัง้ หลาย
ในโลกนี้ ย่อมสรรเสริญคนที่พูดจริง.
เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเที่ยวตามโคที่หายไปคนเดียว
ได้หลงทางเข้าไปในป่าหิมพานต์ อันแสนจะกันดาร เงียบ
สงัด อันหมู่กุญชรชาติท่องเที่ยวไปมา.
ข้าพระองค์หลงทางเข้าไปในป่าทึบ อันหมู่มฤค
ร้ายกาจท่องเที่ยวไปมา ต้องทนหิวระหาย เที่ยวไปในป่า
นั้นตลอด ๗ วัน.
ณ ป่านั้น ข้าพระพุทธเจ้าก�ำลังหิวจัด ได้เห็นต้น
มะพลั บ ต้ น หนึ่ ง ตั้ ง อยู ่ ห มิ่ น เหม่ เอนไปทางปากเหว
มีผลดกดื่น.

104 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ทีแรก ข้าพระพุทธเจ้าเก็บผลที่ลมพัดหล่นมากิน
ก่อน เมื่อข้าพระพุทธเจ้ากินผลที่หล่นมาเหล่านั้น รู้สึก
พอใจ ยังไม่อิ่มจึงปีนขึ้นไปบนต้น ด้วยหวังใจว่าจะกินให้
สบายบนต้นนั้น.
ข้าพระพุทธเจ้ากินผลที่หนึ่งเสร็จแล้ว ปรารถนา
จะกินผลที่สองต่อไป เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเหยียดมือคว้า
เอาผลที่ต้องการ ทันใดนั้น กิ่งไม้ที่ขึ้นเหยียบอยู่นั้นก็หัก
ขาดลง ดุจถูกตัดด้วยขวานฉะนั้น.
ข้าพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยกิ่งไม้นั้น ตีนชี้ฟ้าหัวหก

พระเทวทัต ๔
ตกลงไปในห้วงเหวภูเขาอันขรุขระ ซึ่งไม่มีที่ยึดที่เหนี่ยว
เลย.
ข้าพระพุทธเจ้าหยั่งไม่ถึงเพราะน�้ำลึก ต้องไปนอน
ไร้ความเพลิดเพลิน ไร้ที่พึ่งอยู่ในเหวนั้น ๑๐ ราตรีเต็มๆ.
ภายหลังมีลิงตัวหนึ่งมีหางดังหางโค เที่ยวไปตาม
ซอกเขา เที่ยวไต่ไปตามกิ่งไม้หาผลไม้กิน ได้มาถึงที่นั้น
มันเห็นข้าพระพุทธเจ้าผอมเหลือง ได้กระท�ำความเอ็นดู
กรุณาในข้าพระพุทธเจ้า.
จึงถามว่า ‘พ่อชื่ออะไร ?’ ท�ำไมจึงมาทนทุกข์อยู่ที่นี่
อย่างนี้ เป็นมนุษย์หรืออมนุษย์ ขอได้โปรดแนะน�ำตนให้
ข้าพเจ้าทราบด้วย’.

การจองเวร 105
www.kalyanamitra.org
ข้าพระพุทธเจ้าจึงได้ประนมอัญชลีไหว้ลิงตัวนั้น
แล้วกล่าวว่า ‘เราเป็นมนุษย์ถึงแล้วซึ่งหายนะ เราไม่มี
หนทาง ที่จะไปจากที่นี่ได้ เพราะเหตุนั้น เราจึงบอกให้
ท่านทราบไว้ ขอท่านจงมีความเจริญ อนึ่ง ขอท่านโปรด
เป็นที่พ�ำนักของข้าพเจ้าด้วย’.
ลิงตัวองอาจเทีย่ วไปหาก้อนหินก้อนใหญ่ในภูเขามา
แล้วผูกเชือกไว้ที่ก้อนหิน ร้องบอกข้าพระพุทธเจ้าว่า
‘มาเถิดท่าน จงขึ้นมาเกาะหลังข้าพเจ้า เอามือทั้งสอง
กอดคอไว้ เราจักพาท่านกระโดดขึน้ จากเหวโดยเต็มก�ำลัง.’
ข้ า พระพุ ท ธเจ้ า ได้ ฟ ั ง ค� ำ ของพญาพานริ น ทร์ ตั ว
มีสิรินั้นแล้ว จึงขึ้นเกาะหลัง เอามือทั้งสองโอบคอไว้.

ล�ำดับนั้น พญาวานรตัวมีเดชมีก�ำลังก็พาข้าพระ-
พุทธเจ้ากระโดดขึ้นจากเหว โดยความยากล�ำบากทันที.
ครั้นขึ้นมาได้แล้ว พญาวานรตัวองอาจได้ขอร้อง
ข้ า พระพุ ท ธเจ้ า ว่ า ‘แน่ ะ สหาย ขอท่ า นจงคุ ้ ม ครอง
ข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าจะงีบสักหน่อย. ราชสีห์ เสือโคร่ง
เสือเหลือง หมี และเสือดาว สัตว์เหล่านั้นพึงเบียดเบียน
ข้าพเจ้าซึ่งหลับไปแล้ว ท่านเห็นพวกมันจงป้องกันไว้.’

106 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
เพราะข้าพระพุทธเจ้าช่วยป้องกันให้อย่างนั้น พญา
วานรจึงหลับไปสักครูห่ นึง่ คราวนัน้ โดยทีข่ า้ พระพุทธเจ้า
ขาดความคิด กลับได้ความเห็นอันลามกว่า ‘ลิ ง นี้ ก็ เ ป็ น
อาหารของมนุษย์ทั้งหลาย เท่ากับมฤคอื่นๆ ในป่านี้
เหมือนกัน อย่ากระนั้นเลย เราควรฆ่าวานรนี้กินแก้หิว
เถิด.
อนึ่ง อิ่มแล้ว จักถือเอาเนื้อไปเป็นเสบียงเดินทาง
เราจักต้องผ่านทางกันดาร เนือ้ ก็จกั ได้เป็นเสบียงของเรา.’
ทันใดนั้น ข้าพระพุทธเจ้าจึงได้หยิบเอาหินมาทุ่ม

พระเทวทัต ๔
ศีรษะลิง การประหารของข้าพระพุทธเจ้าผู้ล�ำบากเพราะ
อดอาหาร จึงมีกำ� ลังน้อย.
ด้วยก�ำลังก้อนหินที่ข้าพระพุทธเจ้าทุ่มลง ลิงนั้น
ผุ ด ลุ ก ขึ้ น ทั้ ง ๆ ที่ ตั ว อาบไปด้ ว ยเลื อ ด ร�่ ำ ไห้ ม องดู
ข้าพระพุทธเจ้าด้วยตาอันเต็มไปด้วยน�ำ้ ตา พลางกล่าวว่า
‘นาย อย่าท�ำข้าพเจ้าเลย ขอท่านจงมีความเจริญ
แต่ท่านได้ท�ำกรรมอันหยาบช้าเช่นนี้ และท่านก็รอดตาย
มีอ ายุ ยืนมาได้ สมควรจะห้ามปรามคนอื่ น แน่ ะท่ า น
ผู้กระท�ำกรรมอันยากที่บุคคลจะท�ำลงได้ น่าอดสูใจจริงๆ
ข้าพเจ้าช่วยให้ท่านขึ้นจากเหวลึก ซึ่งยากที่จะขึ้นได้
เช่นนี้.

การจองเวร 107
www.kalyanamitra.org
ท่านเป็ นดุจข้าพเจ้าน�ำ มาจากปรโลก ยังส�ำ คั ญ
ตัวข้าพเจ้าว่า ควรจะฆ่าเสียด้วยจิตอันเป็นบาปธรรม
ซึ่งเป็นเหตุให้ท่านคิดชั่ว.
ถึงท่านจะไร้ธรรม เวทนาอันเผ็ดร้อนก็อย่าได้ถกู ต้อง
ท่านเลย และบาปกรรมก็อย่าได้ตามฆ่าท่านอย่างขุยไผ่
ฆ่าไม้ไผ่เลย.
แน่ะท่านผูม้ ธี รรมอันเลว หาความส�ำรวมมิได้ ความ
คุ้นเคยของข้าพเจ้าจะไม่มีอยู่ในท่านเลย มาเถิดท่าน
จงเดินไปห่างๆ เรา พอมองเห็นหลังกันเท่านั้น.
ท่านพ้นจากเงื้อมมือแห่งสัตว์ร้าย ถึงทางเดินของ
มนุษย์แล้ว ท่านผู้ไร้ธรรม นี่หนทาง ท่านจงไปตามสบาย
โดยทางนั้นเถิด.’
วานรนั้น ครั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว ก็ล้างเลือดที่ศีรษะ
เช็ดน�ำ้ ตาเสร็จแล้วก็กระโดดขึน้ ไปยังภูเขา. ข้าพระพุทธเจ้า
เป็นผูอ้ นั วานรนัน้ อนุเคราะห์แล้ว ถูกความกระวนกระวาย
เบียดเบียน ร้อนเนือ้ ตัว ได้ลงไปยังห้วงน�ำ้ แห่งหนึง่ เพือ่ จะ
ดื่มกินน�้ำ.
ห้วงน�้ำก็เดือดพล่าน เหมือนถูกต้มด้วยไฟ นองไป
ด้วยเลือด คล้ายกับน�ำ้ เลือดน�ำ้ หนองฉะนัน้ ทุกสิง่ ทุกอย่าง
ปรากฏแก่ข้าพระพุทธเจ้าอย่างเห็นชัด.

108 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
หยาดน�้ำตกต้องกายของข้าพระพุทธเจ้ามีเท่าใด
ฝีก็ผุดขึ้นเท่านั้น มีสัณฐานเหมือนมะตูมครึ่งลูก. ฝีก็แตก
ในวันนั้นเอง น�้ำเลือดน�้ำหนองของข้าพระพุทธเจ้าก็ไหล
ออกมา มีกลิ่นเหม็นดุจซากศพ อนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้า
จะเดินไปทางไหน ในบ้านและนิคมทั้งหลาย พวกมนุษย์
ทั้งหญิงแลชาย พากันถือท่อนไม้ห้ามกันข้าพระองค์ผู้
ฟุ้งไปด้วยกลิ่นเหม็นว่า ‘อย่าเข้ามาข้างนี้นะ’.
บัดนี้ ข้าพระพุทธเจ้าได้เสวยทุกขเวทนา เห็นปานนี้

พระเทวทัต ๔
อยู่ ๗ ปี ซึ่งเป็นผลกรรมชั่วของตนในปางก่อน.
เพราะเหตุนั้น ข้าพระองค์จึงกราบทูลให้พระองค์
ทรงทราบ ขอความเจริญจงมีแก่ทา่ นทัง้ หลายทีม่ าประชุม
กันอยู่ในที่นี้ ขอพระองค์อย่าได้ประทุษร้ายมิตร เพราะว่า
ผู ้ ป ระทุ ษ ร้ า ยมิ ต รจั ด เป็ น คนเลวทราม. ในโลกนี้ ผู ้ ที่
ประทุษร้ายมิตรย่อมเป็นโรคเรื้อนเกลื้อนกลาก เมื่อตาย
ไปแล้วย่อมเข้าถึงนรก.”

พระบรมศาสดาตรัสอภิสัมพุทธคาถานี้ไว้ ความว่า
ในโลกนี้ ผูป้ ระทุษร้ายมิตรย่อมเป็นโรคเรือ้ น เกลือ้ น
กลาก เมื่อตายไปแล้วย่อมเข้าถึงนรก.

การจองเวร 109
www.kalyanamitra.org
เมื่อบุรุษนั้นก�ำลังกราบทูลพระราชาอยู่ แผ่นดิน
ก็ แ ยกช่ อ งให้ . เขาก็ จุ ติ ไ ปบั ง เกิ ด ในอเวจี ม หานรก
ในขณะนั้นเอง. พระราชาก็เสด็จออกจากพระราชอุทยาน
เสด็จสู่พระนคร.
พระบรมศาสดา ครัน้ ทรงน�ำอดีตนิทานนีม้ าแสดงจบ
แล้ว ตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย ใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้นก็หามิได้
แม้ในชาติก่อน พระเทวทัตก็กลิ้งศิลา ประทุษร้ายเรา
เหมือนกัน.”

l ประชุมชาดก l

บุรษุ ผูป้ ระทุษร้ายมิตรในครัง้ นัน้ ได้มาเป็น พระเทวทัต


พญาวานร ได้มาเป็น พระตถาคตเจ้า

110 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๕
(ส. ๑๑ มี.ค. ๖๐)

พระเทวทัต ๕
๖.๓ สีลวนาคชาดก
ว่าด้วย คนอกตัญญูหาช่องเนรคุณอยู่ทุกขณะ
สถานที่ตรัส ณ พระเวฬุวันมหาวิหาร
ทรงปรารภ พระเทวทัต
สาเหตุที่ตรัส
ความย่อว่า ภิกษุทงั้ หลายนัง่ สนทนากันในโรงธรรม
ว่า “อาวุโสทั้งหลาย พระเทวทัตเป็นคนอกตัญญู ไม่รู้คุณ
ของพระตถาคต.”
๑๕ ต้นฉบับ
ชาตกัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก, ล.๕๖,
น.๑๘๒, มมร.
การจองเวร 111
www.kalyanamitra.org
พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า “ดูกอ่ นภิกษุทงั้ หลาย
พวกเธอประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไร ?”
เมือ่ ภิกษุทงั้ หลายกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว ตรัสว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้นที่พระเทวทัต
เป็นคนอกตัญญู แม้ในครัง้ ก่อนก็เคยเป็นผูอ้ กตัญญูมาแล้ว
ไม่เคยรู้คุณของเรา ไม่ว่าในกาลไหนๆ แล้ว”
ทรงน�ำเอาเรื่องในอดีตมาสาธกดังต่อไปนี้ :-

เนื้อหาชาดก
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ
อยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในก�ำเนิดช้าง
ในหิมวันตประเทศ พอคลอดจากครรภ์มารดา ก็มีอวัยวะ
ขาวปลอด มี สี เ ปล่ ง ปลั่ ง ดั ง เงิ น ยวง นั ย น์ ต าทั้ ง คู ่ ข อง
พระยาช้างนั้น ปรากฏเหมือนกับแก้วมณี มีประสาทครบ
๕ ส่วนปากเช่นกับผ้ากัมพลแดง งวงเช่นกับพวงเงิน
ที่ประดับระยับด้วยทอง เท้าทั้ง ๔ เป็นเหมือนย้อมด้วย
น�ำ้ ครั่ง อัตภาพอันบารมีทั้ง ๑๐ ตกแต่งของพระโพธิสัตว์
นั้น ถึงความงามเลิศด้วยรูปอย่างนี้.
ครัง้ นัน้ ฝูงช้างในป่าหิมพานต์ทงั้ สิน้ มาประชุมกันแล้ว
พากันบ�ำรุงพระโพธิสัตว์ผู้ถึงความเป็นผู้รู้เดียงสาแล้ว

112 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
พระโพธิสัตว์จึงมีช้างแปดหมื่นเป็นบริวาร อยู่อาศัยใน
หิ ม วั น ตประเทศด้ ว ยประการฉะนี้ ภายหลั ง เห็ น โทษ
ในหมู่คณะ จึงหลีกออกจากหมู่ สู่ที่สงบสงัดกาย พ�ำนัก
อาศัยอยูใ่ นป่าแต่ลำ� พังผูเ้ ดียวเท่านัน้ และเพราะเหตุทชี่ า้ ง
ผูพ้ ระโพธิสตั ว์นนั้ เป็นสัตว์มศี ลี จึงได้นามว่า ‘สีลวนาคราช’
พญาช้างผู้มีศีล.
ครั้งนั้น พรานป่าชาวเมืองพาราณสีผู้หนึ่งเข้าสู่ป่า
หิมพานต์ เสาะแสวงหาสิง่ ของอันเป็นเครือ่ งยังชีพของตน
ไม่อาจก�ำหนดทิศทางได้หลงทาง เป็นผู้กลัวแต่มรณภัย
ยกแขนทั้งคู่ร�่ำร้องคร�ำ่ ครวญไป.

พระเทวทัต ๕
พระโพธิสัตว์ได้ยินเสียงร้องคร�่ำครวญของพราน
ผู้นั้นแล้ว อันความกรุณาเข้ามาตักเตือนว่า ‘เราจักช่วย
บุรุษผู้นี้ให้พ้นจากทุกข์’ ก็เดินไปหาเขาใกล้ๆ เขาเห็น
พระโพธิสัตว์แล้ววิ่งหนีไป.
พระโพธิสตั ว์เมื่อเห็นเขาวิ่งหนี ก็หยุดยืนอยูต่ รงนั้น
บุรุษนั้นเห็นพระโพธิสัตว์หยุดจึงหยุดยืน พระโพธิสัตว์
ก็เดินใกล้เข้าไปอีก เขาก็วิ่งหนีอีก เวลาพระโพธิสัตว์
หยุด เขาก็หยุด แล้วด�ำริว่า ‘ช้างนี้เวลาเราหนีก็หยุดยืน
เดินมาหาเวลาที่เราหยุด เห็นทีจะไม่มุ่งร้ายเรา แต่คง

การจองเวร 113
www.kalyanamitra.org
ปรารถนาจะช่วยเราให้พ้นจากทุกข์นี้เป็นแน่ เขาจึงกล้า
ยืนอยู่.’
พระโพธิสัตว์เข้าไปใกล้เขา ถามว่า “ดูก่อนบุรุษ
ผู้เจริญ เหตุไรท่านจึงเที่ยวร�่ำร้องคร�่ำครวญไป ?”
เขาตอบว่า “ท่านช้างผู้จ่าโขลง ข้าพเจ้าก�ำหนด
ทิศทางไม่ถูก หลงทาง จึงเที่ยวร�่ำร้องไปเพราะกลัวตาย.”
ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์จึงพาเขาไปยังที่อยู่ของตน
เลี้ยงดูจนอิ่มหน�ำด้วยผลาผล ๒-๓ วัน แล้วกล่าวว่า
“อย่ากลัวเลย ข้าพเจ้าจักพาท่านไปสู่ถิ่นมนุษย์” แล้วให้
นั่งหลังตน พาไปส่งถึงถิ่นมนุษย์.

ครั้งนั้นแล พรานป่าเป็นคนมีสันดานท�ำลายมิตร
จึงคิดมาตลอดทางว่า ‘ถ้ามีใครถามต้องบอกได้ ดังนี้
นัง่ มาบนหลังพระโพธิสตั ว์ วางแผนก�ำหนดทีห่ มายต้นไม้
ที่หมายภูเขาไว้ถ้วนถี่ทีเดียว.’
ครั้นพระโพธิสัตว์พาเขาออกไปจนพ้นป่าแล้ว หยุด
ที่ทางใหญ่อันเป็นทางเดินไปสู่พระนครพาราณสี สั่งว่า
“ดูก่อนท่านผู้เจริญ ท่านจงไปทางนี้เถิด แต่ถ้ามีใครถาม
ถึงที่อยู่ของเรา ท่านอย่าบอกนะ” ดังนี้ ส่งเขาไปแล้ว
ก็กลับไปสู่ที่อยู่ของตน.

114 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ครัง้ นัน้ บุรษุ นัน้ ไปถึงพระนครพาราณสีแล้ว ก็ไปถึง
ถนนช่างสลักงา เห็นพวกช่างสลักงาก�ำลังท�ำเครื่องงา
หลายชนิด จึงถามว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ถ้าได้งาช้าง
ที่ยังเป็นๆ ท่านทั้งหลายจะซื้อหรือไม่ ?”
พวกช่ า งสลั ก งาตอบว่ า “ท่ า นผู ้ เ จริ ญ ท่ า นพู ด
อะไร ธรรมดางาช้างเป็นมีค่ามากกว่างาช้างที่ตายแล้ว
หลายเท่า.”
เขากล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าจักน�ำงาช้างเป็น
มาให้พวกท่าน” แล้ว จัดเสบียงคือเลื่อยไปสู่ที่อยู่ของ
พระโพธิสัตว์.

พระเทวทัต ๕
พระโพธิ สั ต ว์ เ ห็ น เขามาจึ ง ถามว่ า “ท่ า นมาเพื่ อ
ประสงค์อะไร ?”
เขาตอบว่า “ดูก่อนท่านผู้เป็นจ่าโขลง ข้าพเจ้า
เป็นคนยากจนก�ำพร้า ไม่อาจด�ำรงชีวิตอยู่ได้ มาขอตัด
งาท่าน ถ้าท่านจะให้ ก็จะถืองานั้นไปขายเลี้ยงชีวิตด้วย
ทุนทรัพย์นั้น.”
พระโพธิสัตว์กล่าวว่า “เอาเถิดพ่อคุณ เราจะให้งา
ท่าน ถ้ามีเลื่อยส�ำหรับตัดงา.”
เขากล่าวว่า “ท่านผูเ้ ป็นจ่าโขลง ข้าพเจ้าถือเอาเลือ่ ย
เตรียมมาแล้ว.”

การจองเวร 115
www.kalyanamitra.org
พระโพธิสัตว์กล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านจงเอาเลื่อย
ตัดงาเถิด” แล้วคุกเท้าหมอบลงเหมือนโคหมอบ เขาก็ตัด
ปลายงาทั้งคู่ของพระโพธิสัตว์
พระโพธิสตั ว์จบั งาเหล่านัน้ ด้วยงวง พลางตัง้ ปณิธาน
เพื่อพระสัพพัญญุตญาณว่า “ดูก่อนบุรุษผู้เจริญ ใช่ว่า
เราจะให้งาคู่นี้ด้วยคิดว่า ‘งาเหล่านี้ไม่เป็นที่รักไม่เป็น
ทีช่ อบใจของเราดังนีก้ ห็ ามิได้’ แต่วา่ พระสัพพัญญุตญาณ
อันสามารถจะตรัสรู้ธรรมทั้งปวง เป็นที่รักของเรายิ่งกว่า
งาเหล่านีต้ งั้ ร้อยเท่า พันเท่า แสนเท่า การให้งานีเ้ ป็นทาน
ของเรานั้น จงเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การตรัสรู้พระสัพ-
พัญญุตญาณเถิด” แล้วสละงาทั้งคู่ให้ไป.
เขาถืองานัน้ ไปขาย ครัน้ สิน้ ทุนทรัพย์นนั้ ก็ไปสูส่ ำ� นัก
พระโพธิ สั ตว์ อี ก กล่าวว่า “ดูก่อนท่านผู ้ เ ป็ นจ่ า โขลง
ทุนทรัพย์ที่ได้เพราะขายงาของท่าน เพียงพอแค่ช�ำระหนี้
ของข้าพเจ้าเท่านัน้ โปรดให้งาส่วนทีเ่ หลือแก่ขา้ พเจ้าเถิด.”
พระโพธิ สั ต ว์ ก็ รั บ ค� ำ แล้ ว ยอมให้ เ ขาตั ด ยกงา
ส่วนที่เหลือให้โดยนัยเดียวกับครั้งก่อน.
ถึงเขาจะขายงาเหล่านั้นแล้วก็ยังย้อนมาอีก กล่าว
ขอว่า “ดูก่อนท่านผู้เป็นจ่าโขลง ข้าพเจ้าไม่สามารถ
ด�ำเนินชีวิตอยู่ได้ โปรดให้โคนงาแก่ข้าพเจ้าเถิด.”

116 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
พระโพธิสัตว์รับค�ำแล้ว ก็หมอบลงโดยนัยก่อน.
คนใจบาปนั้นก็เหยียบงวงอันเปรียบเหมือนพวงเงินของ
มหาสั ต ว์ ก้ า วขึ้ น สู ่ ก ระพองอั น เปรี ย บได้ กั บ ยอดเขา
ไกรลาส เอาส้นกระทืบพลายงาทัง้ สอง ฉีกเนือ้ ตรงสนับงา
ลงมาจากกระพอง เอาเลื่อยตัดโคนงาแล้ว ก็หลีกไป.
เมื่อคนใจบาปนั้น เดินพ้นไปจากคลองจักษุของ
พระโพธิสตั ว์เท่านัน้ แผ่นดินอันทึบหนาได้สองแสนสีห่ มืน่
โยชน์ถึงจะสามารถทรงไว้ซึ่งของหนักแสนหนัก มีขุนเขา
สิเนรุ และยุคนธรเป็นต้น และถึงจะทรงไว้ซงึ่ สิง่ ทีน่ า่ เกลียด
มีกลิน่ เหม็น มีคถู และมูตรเป็นต้น ก็เป็นเสมือนไม่สามารถ

พระเทวทัต ๕
จะทานไว้ได้ ซึ่งกองแห่งโทษมิใช่คุณของบุรุษนั้น จึงแยก
ให้ช่อง ทันใดนั้นเอง เปลวไฟแลบออกจากมหานรกอเวจี
ห่อหุ้มคลุมบุรุษ ผู้ท�ำลายมิตรนั้น เป็นเหมือนคลุมด้วย
ผ้ากัมพลสีแดงอันเป็นของที่ตระกูลให้ก็ปานกัน.
เวลาที่คนใจบาปเข้าไปสู่แผ่นดินอย่างนี้แล้ว รุกข-
เทวดาผู้สิงสถิตอยู่ที่ราวป่านั้น ก�ำหนดเหตุว่า ‘ถึงจะให้
จักรพรรดิราชสมบัติ ก็ไม่อาจให้บุรุษผู้อกตัญญูนี้ ซึ่งเป็น
ผู้ท�ำลายมิตร พอใจได้’.
เมือ่ จะแสดงธรรมให้กกึ ก้องไปทัว่ ป่า จึงกล่าวคาถานี้
ความว่า :-

การจองเวร 117
www.kalyanamitra.org
“ถึงหากจะให้แผ่นดินทัง้ หมด แก่คนอกตัญญู ผูค้ อย
มองหาช่องอยู่เป็นนิตย์ ก็ไม่ทำ� ท�ำให้เขาพอใจได้”
เทวดานัน้ แสดงธรรมสนัน่ ไปทัว่ ป่าด้วยประการฉะนี.้
พระโพธิสัตว์ด�ำรงอยู่ตราบสิ้นอายุขัยได้ไปตาม
ยถากรรม.

l ประชุมชาดก l

บุรษุ ผูท้ ำ� ลายมิตรในครัง้ นัน้ ได้มาเป็น พระเทวทัต


รุกขเทวดา ได้มาเป็น พระสารีบุตร
ส่วนพญาช้างผู้มีศีล ได้มาเป็น พระตถาคตเจ้า

118 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๖
(อา. ๑๒ มี.ค. ๖๐ วันพระขึ้น ๑๕ ค�ำ่ เดือน ๔)

๖.๔ เจติยราชชาดก
ว่าด้วย เชฏฐาปจายนธรรม

พระเทวทัต ๖
สถานที่ตรัส พระวิหารเชตวัน
ทรงปรารภ พระเทวทัตตอนถูกแผ่นดินสูบ
สาเหตุที่ตรัส
ความย่ อ มี ว ่ า วั น นี้ ภิ ก ษุ ทั้ ง หลายสนทนากั น
ในโรงธรรมสภาว่า “ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย พระเทวทัต
ท�ำมุสาวาท ถูกแผ่นดินสูบมีอเวจีเป็นที่ไปในเบื้องหน้า”
๑๕ ต้นฉบับ
ชาตกัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก, ล.๕๖,
น.๕๓๕, มมร.
การจองเวร 119
www.kalyanamitra.org
พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า “ดูกอ่ นภิกษุทงั้ หลาย
บัดนี้ พวกเธอนั่งสนทนากันถึงเรื่องอะไร ?”
เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว ตรัสว่า
“ดูกอ่ นภิกษุทงั้ หลาย มิใช่แต่ในบัดนีเ้ ท่านัน้ ทีพ่ ระเทวทัต
ท�ำมุสาวาทแล้วถูกแผ่นดินสูบ แม้ในกาลก่อน พระเทวทัต
ก็ท�ำมุสาวาท แล้วถูกแผ่นดินสูบเหมือนกัน.” ดังนี้
แล้วทรงน�ำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้:-

เนื้อหาชาดก
ในอดีตกาล ครัง้ ปฐมกัป มีพระราชาทรงพระนามว่า
‘มหาสัมมตะ’ ทรงมีพระชนมายุได้หนึ่งอสงไขย.
พระโอรสของพระองค์มีพระนามว่า ‘โรชะ’
พระโอรสของพระเจ้าโรชะ มีพระนามว่า ‘วรโรชะ.’
โอรสของพระเจ้าวรโรชะ มีพระนามว่า ‘กัลยาณะ.’
โอรสของพระเจ้ากัลยาณะ มีพระนามว่า ‘วรกัล-
ยาณะ.’
โอรสของพระเจ้าวรกัลยาณะ มีพระนามว่า ‘อุโบสถ.’
โอรสของพระเจ้าอุโบสถ มีพระนามว่า ‘วรอุโบสถ.’
โอรสของพระเจ้าวรอุโบสถ มีพระนามว่า ‘มันธาตุ.’
โอรสของพระเจ้ามันธาตุ มีพระนามว่า ‘วรมันธาตุ.’

120 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
โอรสของพระเจ้าวรมันธาตุ มีพระนามว่า ‘วระ.’
โอรสของพระเจ้ า วระ มี พ ระนามว่ า ‘อุ ป วระ.’
แต่บางคนก็เรียกว่า ‘อุปริจระ.’
พระเจ้าอุปจิรราชนัน้ ครองราชสมบัตอิ ยู่ ณ โสตถิย-
นคร ในเจติยรัฐ พระองค์ประกอบด้วยฤทธิ์ ๔ อย่าง
มักเสด็จไปเบื้องบน คือเสด็จไปโดยอากาศ มีเทพบุตร ๔
องค์ถือพระขรรค์รักษาอยู่ทั้ง ๔ ทิศ มีกลิ่นจันทน์หอมฟุ้ง
ออกจากพระวรกาย มีกลิน่ อุบลหอมฟุง้ ออกจากพระโอษฐ์.
พระองค์ มี พ ราหมณ์ ชื่ อ ว่ า ‘กปิ ล ’ เป็ น ปุ โ รหิ ต .
กปิลพราหมณ์มีน้องชายชื่อ ‘โกรกลัมพกะ’ เป็นพาล
สหาย เคยเล่าเรียนศิลปะในส�ำนักอาจารย์เดียวกันกับ

พระเทวทัต ๖
พระราชา.
ในสมัยทีพ่ ระราชายังเป็นพระราชกุมาร พระองค์ได้
ทรงปฏิญญากับโกรกลัมพกพราหมณ์ไว้ว่า ‘เมื่อเราได้
ครองราชสมบัติแล้ว จะให้ตำ� แหน่งปุโรหิตกับท่าน.’
ครั้นพระองค์ขึ้นครองราชสมบัติแล้ว ก็ไม่อาจถอด
กปิลพราหมณ์ ซึ่งเป็นปุโรหิตของพระชนก ออกจาก
ต�ำแหน่งปุโรหิตได้.
เมื่อกปิลปุโรหิตเข้าเฝ้า พระองค์ก็ทรงแสดงความ
ย�ำเกรง ด้วยความเคารพในปุโรหิตนั้น.

การจองเวร 121
www.kalyanamitra.org
พราหมณ์สังเกตอาการนั้นแล้วคิดว่า ‘ธรรมดาการ
ครองราชสมบัติ ต้องบริหารกับผู้ที่มีวัยเสมอกันจึงจะดี
เราจะทูลลาพระราชาบวช’ ดังนี้แล้วจึงกราบทูลว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ ข้าพระองค์เป็นคนแก่
ทีเ่ รือนมีกมุ ารอยูค่ นหนึง่ ขอพระองค์จงตัง้ กุมารนัน้ ให้เป็น
ปุโรหิต ข้าพระองค์จะบวช” พระราชทานพระบรมราชา-
นุญาตแล้ว ตั้งบุตรไว้ในต�ำแหน่งปุโรหิต เข้าสู่พระราช-
อุทยาน บวชเป็นฤๅษี ยังฌานและอภิญญาให้เกิดแล้ว
อยู่ในพระราชอุทยานนั้นเอง โดยอาศัยบุตรเป็นผู้บ�ำรุง.
โกรกลัมพกพราหมณ์ผูกอาฆาตพี่ชายว่า ‘พี่ชาย
ของเรานี้แม้บวช ก็ยังไม่ให้ฐานันดรแก่เรา.’
วั น หนึ่ ง ขณะที่ ส นทนากั น พระราชาตรั ส ถามว่ า
“โกรกลัมพกะ ท่านไม่ได้ต�ำแหน่งปุโรหิตดอกหรือ ?”
เขากราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ พระเจ้าข้า
ข้าพระองค์ไม่ได้ท�ำ พี่ชายของข้าพระองค์ท�ำ”.
พระราชารับสั่งว่า “ก็พี่ชายของท่านบวชแล้ว มิใช่
หรือ ?”
เขาทูลว่า “พระเจ้าข้า เขาบวชแล้ว แต่เขาได้ให้
พระองค์ประทานฐานันดรแก่บุตรของเขา.”
“ถ้าเช่นนั้น ท่านจะให้เราท�ำอย่างไร ?”

122 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
“ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ ข้าพระองค์ไม่อาจให้
พระองค์ถอดพี่ชายเสียจากฐานันดร อันสืบเนื่องมาตาม
ประเพณี แล้วแต่งตั้งข้าพระองค์เป็นปุโรหิต.”
“เมื่อเป็นเช่นนั้น เราจะแต่งตั้งท่านให้เป็นใหญ่ แล้ว
ท�ำพี่ชายของท่านให้เป็นน้องชาย.”
“พระองค์จะท�ำได้อย่างไร ?”
“เราท�ำได้โดยมุสาวาท.”
“ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ พระองค์ไม่ทรงทราบ
หรอกหรือ ? แต่ไรมา พีช่ ายของข้าพระองค์มวี ชิ าประกอบ
ด้วยธรรมน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก เขาจะลวงพระองค์ด้วยอุบาย
ที่ไม่จริง เช่น จะท�ำเป็นเทพบุตรสี่องค์หายตัว จะท�ำ

พระเทวทัต ๖
กลิน่ หอมทีฟ่ งุ้ จากพระวรกาย และพระโอษฐ์ให้เป็นเหมือน
กลิน่ เหม็น จะท�ำพระองค์ให้เป็นเหมือนพลัดตกจากอากาศ
ยืนอยู่บนพื้นดิน พระองค์จะเป็นเหมือนถูกแผ่นดินสูบ
ที่นั้น พระองค์จะไม่อาจด�ำรงพระวาจาอยู่ได้.”
“ท่านอย่าได้เข้าใจอย่างนั้น เลย เราสามารถท�ำ
เช่นนั้นได้.”
“ข้ า แต่ พ ระองค์ ผู ้ ส มมติ เ ทพ พระองค์ จ ะทรงท� ำ
เมื่อไร ?”
“นับแต่นี้ไปเจ็ดวัน.”

การจองเวร 123
www.kalyanamitra.org
พระราชด�ำรัสนั้นได้แพร่สะพัดไปทั่วพระนคร.
มหาชนเกิดปริวติ กขึน้ อย่างนีว้ า่ ‘ได้ยนิ ว่าพระราชา
จะทรงท�ำมุสาวาท ท�ำเด็กให้เป็นใหญ่ จักให้ผู้ใหญ่คืน
ฐานันดรให้แก่เด็ก ขึ้นชื่อว่ามุสาวาทเป็นอย่างไรหนอ ?
มีสีเขียว หรือสีเหลืองเป็นต้น สีอะไรกันแน่.’
เขาว่ากันว่า ในครัง้ นัน้ เป็นเวลาทีโ่ ลกพูดความสัตย์
คนทั้งหลายจึงไม่รู้ว่า มุสาวาทนี้เป็นอย่างนี้

แม้บุตรปุโรหิต พอได้ฟังค�ำนั้นแล้ว ก็ไปบอกบิดา


ว่า “พ่อ เขาว่าพระราชาจะท�ำมุสาวาท ท�ำพ่อให้เป็นเด็ก
แล้วพระราชทานฐานันดรของฉันให้แก่อา”.
ปุโรหิตกล่าวว่า “ลูกรัก ถึงพระราชาทรงท�ำมุสาวาท
ก็ ไ ม่ อ าจพระราชทานฐานั น ดรของเราแก่ อ าเจ้ า ได้ .
ก็พระราชาจะกระท�ำมุสาวาทในวันไหน ?”
“ได้ยินว่า แต่วันนี้ไปเจ็ดวัน.”
“ถ้าเช่นนั้น เมื่อถึงวันนั้น เจ้าพึงบอกแก่เรา.”

ครั้นถึงวันที่เจ็ด มหาชนคิดว่า ‘จะดูมุสาวาท’ จึงไป


ประชุมกันที่พระลานหลวง ผูกเตียงซ้อนๆ กันขึ้นยืนดู.
กุมารก็ได้ไปบอกแก่บิดา.

124 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
พระราชาแต่งพระองค์แล้ว เสด็จออกประทับอยู่ใน
อากาศหน้าพระลานหลวงท่ามกลางมหาชน.
พระดาบสได้ เ หาะมาแล้ ว ลาดหนั ง รองนั่ ง ตรง
พระพักตร์พ ระราชา นั่ง บัลลัง ก์ในอากาศ ทูล ถามว่า
“ดูกอ่ นมหาบพิตร ได้ยนิ ว่าพระองค์ประสงค์จะท�ำมุสาวาท
ท�ำเด็กให้เป็นผู้ใหญ่ แล้วพระราชทานฐานันดรแก่เขา
จริงหรือ ?”
พระราชาตรัสว่า “ถูกแล้ว ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าได้
กล่าวอย่างนี้จริง.”

ล�ำดับนั้น พระดาบส เมื่อจะกล่าวสอนพระราชา


ได้กล่าวว่า “ดูก่อนมหาบพิตร ขึ้นชื่อว่ามุสาวาทเป็น

พระเทวทัต ๖
บาปหนัก ก�ำจัดคุณความดี ท�ำให้เกิดในอบายทั้ง ๔
ธรรมดาพระราชา เมื่อทรงท�ำมุสาวาท ย่อมชื่อว่าท�ำลาย
ธรรม ครั้นท�ำลายธรรมเสียแล้ว ย่อมได้ชื่อว่าท�ำลายตน
นั่นเอง” ดังนี้
แล้วกล่าวคาถาที่ ๑ ความว่า :-
เชฏฐาปจายนธรรมอันบุคคลใดท�ำลายแล้ว ย่อม
ท�ำลายบุคคลนั้นเสียโดยแท้

การจองเวร 125
www.kalyanamitra.org
เชฏฐาปจายนธรรมอั น บุ ค คลใดไม่ ท� ำ ลายแล้ ว
ย่อมไม่ท�ำลายบุคคลนั้นสักน้อยหนึ่ง
เพราะเหตุ นั้ น แล พระองค์ ไ ม่ ค วรท� ำ ลายเชฏฐา
ปจายนธรรมเลย
เชฏฐาปจายนธรรมที่พระองค์ท�ำลายแล้ว อย่าได้
กลับมาท�ำลายพระองค์เลย.

พระดาบส เมือ่ จะกล่าวสอนพระราชาให้ยงิ่ ขึน้ ไปอีก


จึงกล่ า วว่ า “ดู ก่อนมหาบพิต ร ถ้าพระองค์ จะทรงท� ำ
มุสาวาทไซร้ ฤทธิ์ ๔ อย่างของพระองค์กจ็ กั อันตรธานไป”
ดังนี้แล้ว
กล่าวคาถาที่ ๒ ความว่า :-
เมือ่ พระองค์ยงั ตรัสค�ำกลับกลอกอยู่ เทวดาทัง้ หลาย
ก็จะพากันหลีกหนีไปเสีย พระโอษฐ์จกั มีกลิน่ บูดเน่าเหม็น
ฟุ้งไป ผู้ใดรู้อยู่ เมื่อถูกถามปัญหาแล้ว แกล้งแก้ปัญหานั้น
ไปเสียอย่างอื่น ผู้นั้นย่อมพลัดพรากจากฐานะของตน
แล้วถูกแผ่นดินสูบ.
พระเจ้าอุปริจรราชได้สดับโอวาทแล้วมีพระหทัยกลัว
ทอดพระเนตรดูโกรกลัมพกพราหมณ์.

126 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ล�ำดับนัน้ โกรกลัมพกพราหมณ์จงึ กราบทูลว่า “ข้าแต่
มหาราชเจ้า ขอพระองค์อย่าทรงกลัวเลย ข้าพระองค์ได้
กราบทูลเรื่องนี้แก่พระองค์ไว้ก่อนแล้ว มิใช่หรือ ?”
พระราชาถึงจะได้ทรงสดับค�ำของกปิลปุโรหิตแล้ว
ก็ตาม แต่เพื่อจะรักษาพระด�ำรัสของพระองค์ไว้ จึงได้
ตรัสว่า “ข้าแต่ทา่ นผูเ้ จริญ ท่านเป็นน้องชาย โกรกลัมพกะ
เป็นพี่ชาย.”
ทันใดนั้น เทพบุตรทั้ง ๔ องค์กล่าวว่า “พวกเราจะ
ไม่อารักขาคนมุสาวาทเช่นท่าน” แล้วได้ทิ้งพระขรรค์ไว้
ใกล้บาทพระราชา อันตรธานไปพร้อมกันทีพ่ ระราชาได้ตรัส
มุสาวาท. พระโอฐก็มีกลิ่นเหม็นเหมือนฟองไข่เน่าแตก

พระเทวทัต ๖
พระวรกายก็มกี ลิน่ เหม็นเหมือนเวจกุฎที เี่ ปิดไว้ ฟุง้ ตลบไป.
พระราชาก็ตกจากอากาศ ประทับอยู่บนแผ่นดิน
ฤทธิ์ทั้ง ๔ ได้เสื่อมไปแล้ว.

ล� ำ ดั บ นั้ น มหาปุ โ รหิ ต ได้ ก ราบทู ล พระราชาว่ า


“ข้าแต่พระราชาผู้เป็นใหญ่ ขอพระองค์อย่าได้ทรงกลัว
เลย ถ้าพระองค์ตรัสสัจวาจาไซร้ ข้าพระองค์จักท�ำสิ่ง
ทั้งปวงให้กลับเป็นปกติแด่พระองค์.” แล้วกล่าวคาถาที่ ๓
ความว่า :-

การจองเวร 127
www.kalyanamitra.org
ข้าแต่พระเจ้าเจติยราช ถ้าพระองค์ตรัสสัจจวาจา
พระองค์ก็จะประทับอยู่ในพระราชวังตามเดิมได้ ถ้ายัง
ตรัสมุสาวาทอยู่ พระองค์ก็จะด�ำรงอยู่ได้เพียงบนพื้นดิน
ไม่สามารถจะลอยขึ้นสู่อากาศได้อีก.

แม้กปิลดาบสได้ทลู เตือนว่า “จงดูเอาเถิดมหาบพิตร


เพียงมุสาวาทครั้งแรกเท่านั้น ฤทธิ์ ๔ อย่างของพระองค์
ก็อันตรธานไปแล้ว พระองค์จงก�ำหนดดูเถิด แม้บัดนี้
ข้าพระองค์ก็อาจท�ำให้กลับเป็นปกติได้ ดังนี้”
พระเจ้าอุปริจรราชนั้นตรัสว่า “กปิลดาบส กล่าว
อย่างนี้ ประสงค์จะลวงท่านทั้งหลาย” แล้วกล่าวมุสาวาท
เป็นครั้งที่สอง ได้ถูกแผ่นดินสูบลงไปแค่ข้อพระบาท.

ล� ำ ดั บ นั้ น พราหมณ์ ไ ด้ ก ราบทู ล พระราชาอี ก ว่ า


“ขอพระองค์จงทรงก�ำหนดดูเถิด แม้บัดนี้ ข้าพระองค์
ก็อาจท�ำให้กลับเป็นปกติได้ พระเจ้าข้า” ดังนี้แล้ว กล่าว
คาถาที่ ๔ ความว่า :-

พระราชาพระองค์ใดทรงทราบอยู่ ถูกเขาถามปัญหา
แล้ว แกล้งท�ำมุสาวาท พยากรณ์ปญ
ั หานัน้ ไปเสียอย่างอืน่

128 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ในแว่นแคว้นของพระราชาพระองค์นนั้ ฝนย่อมตกในเวลา
ไม่ใช่ฤดูกาล ย่อมไม่ตกต้องตามฤดูกาล.

ล�ำดับนัน้ กปิลดาบสทูลเตือนต่อไปอีกว่า “มหาบพิตร


ด้วยผลแห่งมุสาวาท พระองค์ถกู แผ่นดินสูบไปแค่พระชงฆ์
แล้ว ขอพระองค์จงทรงก�ำหนดดูเถิด” แล้วกล่าวคาถาที่ ๕
ความว่า :-

ข้าแต่พระเจ้าเจติยราช ถ้าพระองค์ตรัสสัจจวาจา
พระองค์กจ็ ะประทับอยูใ่ นพระราชวังตามเดิมได้ ถ้าพระองค์
ตรัสมุสาวาทอยู่ ก็จะถูกแผ่นดินสูบลงไปอีก.

พระเทวทัต ๖
พระเจ้าอุปริจรราชได้ทรงท�ำมุสาวาทเป็นครัง้ ทีส่ าม
ว่า “ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ท่านเป็นน้องชาย โกรกลัมพกะ
เป็นพี่ชาย” ดังนี้แล้ว ถูกแผ่นดินสูบลงไปแค่พระชานุ.

ล� ำ ดั บ นั้ น กปิ ล ดาบสได้ ทู ล พระราชาอี ก ว่ า


“ขอพระองค์จงทรงก�ำหนดดูเถิด มหาบพิตร ”
แล้วกล่าวคาถา ๒ คาถาความว่า :-

การจองเวร 129
www.kalyanamitra.org
ข้าแต่พระองค์ผเู้ ป็นใหญ่ในทิศ พระราชาพระองค์ใด
ทรงทราบอยู่ ถูกเขาถามปัญหาแล้ว แกล้งตรัสแก้ปัญหา
นั้นไปเสียอย่างอื่น พระชิวหาของพระราชาพระองค์นั้น
จะแตกเป็นสองแฉกเหมือนลิ้นงู.
ข้าแต่พระเจ้าเจติยราช ถ้าพระองค์ตรัสสัจจวาจา
พระองค์กจ็ ะประทับอยูใ่ นพระราชวังตามเดิมได้ ถ้าพระองค์
ยังตรัสมุสาวาทอยู่ ก็จะถูกแผ่นดินสูบลึกยิ่งลงไปอีก.
พระดาบส ครั้นกล่าวคาถาสองคาถานี้แล้วทูลว่า
“แม้จนบัดนี้ พระองค์ก็ยังไม่อาจที่จะกลับท�ำให้เป็นปกติ
ได้.”
พระราชามิได้ถอื เอาถ้อยค�ำของพระดาบสนัน้ ยังทรง
ท�ำมุสาวาทเป็นครั้งที่ ๔ ว่า “ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ท่านเป็น
น้องชาย โกรกลัมพกะเป็นพีช่ าย” ดังนีแ้ ล้ว ถูกแผ่นดินสูบ
ลงไปแค่บั้นพระองค์.

ล� ำ ดั บ นั้ น กปิ ล พราหมณ์ ไ ด้ ทู ล พระราชาว่ า


“ขอพระองค์จงทรงก�ำหนดดูเถิด มหาบพิตร”
แล้วกล่าวคาถา ๒ คาถา ความว่า :-

130 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ข้าแต่พระราชาผูเ้ ป็นใหญ่ในทิศ พระราชาพระองค์ใด
ทรงทราบอยู่ เมื่อถูกถามปัญหาแล้ว แกล้งตรัสแก้ปัญหา
นั้นไปเสียอย่างอื่น พระชิวหาของพระราชาพระองค์นั้น
จะไม่มีเหมือนปลาฉะนั้น.
ข้าแต่พระเจ้าเจติยราช ถ้าพระองค์ตรัสสัจจวาจา
พระองค์กจ็ ะประทับอยูใ่ นพระราชวังตามเดิมได้ ถ้าพระองค์
ยังตรัสมุสาวาทอยู่ ก็จะถูกแผ่นดินสูบลึกยิง่ ลงไปกว่านีอ้ กี .
พระเจ้าอุปริจราชได้ท�ำมุสาวาทเป็นครั้งที่ ๕ ว่า
“ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ท่านเป็นน้องชาย โกรกลัมพกะ
เป็นพี่ชาย”

พระเทวทัต ๖
ดังนี้ แล้วถูกแผ่นดินสูบละไปแค่พระนาภี.
ล� ำ ดั บ นั้ น กปิ ล ดาบสได้ ทู ล พระราชาอี ก ว่ า
“ขอพระองค์จงทรงก�ำหนดดูเถิด มหาบพิตร”
แล้วกล่าวคาถา ๒ คาถาความว่า :-
พระราชาพระองค์ใดทรงทราบอยู่ เมือ่ ถูกถามปัญหา
แล้ว แกล้งตรัสแก้ปัญหานั้นไปเสียอย่างอื่น พระราชา
พระองค์นั้นจะมีแต่พระธิดาเท่านั้นมาเกิด หามีพระราช-
โอรสมาเกิดในราชสกุลไม่.
การจองเวร 131
www.kalyanamitra.org
ข้าแต่พระเจ้าเจติยราช ถ้าพระองค์ตรัสสัจจวาจา
พระองค์กจ็ ะประทับอยูใ่ นพระราชวังตามเดิมได้ ถ้าพระองค์
ยังตรัสมุสาวาทอยู่ ก็จะถูกแผ่นดินสูบลึกไปยิ่งกว่านี้อีก.
พระราชามิได้ทรงเชื่อถ้อยค�ำ ตรัสมุสาวาทเช่นนั้น
อีกเป็นครั้งที่ ๖ ถูกแผ่นดินสูบลงไปแค่พระถัน.
กปิลดาบสได้ทลู พระราชาอีกว่า “ขอพระองค์จงทรง
ก�ำหนดดูเถิด มหาบพิตร.”
แล้วกล่าวคาถา ๒ คาถาความว่า :-
พระราชาพระองค์ใดทรงทราบอยู่ เมือ่ ถูกถามปัญหา
แล้ว แกล้งตรัสแก้ปัญหานั้นไปเสียอย่างอื่น พระราชา
พระองค์นั้นจะไม่มีพระราชโอรส ถ้ามีก็จะพากันหลีกหนี
ไปยังทิศน้อยทิศใหญ่.
ข้าแต่พระเจ้าเจติยราช ถ้าพระองค์ตรัสสัจจวาจา
พระองค์กจ็ ะประทับอยูใ่ นพระราชวังตามเดิมได้ ถ้าพระองค์
ยังตรัสมุสาวาทอยู่ ก็จะถูกแผ่นสูบลึกยิ่งกว่านั้นลงไปอีก.
พระเจ้ า อุ ป ริ จ รราช มิ ไ ด้ ท รงเชื่ อ ถื อ ถ้ อ ยค� ำ ของ
พระดาบส เพราะโทษคือการคบคนชั่วเป็นมิตร ได้ทรง
ค�ำมุสาวาทเช่นนั้นอีกเป็นครั้งที่ ๗.

132 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ทันใดนั้น แผ่นดินได้แยกออกเป็นสองช่อง มีเปลว
ไฟจากอเวจีพลุ่งขึ้นไหม้พระราชา.
มีสัมพุทธคาถา ๒ คาถา ดังต่อไปนี้ :-
พระเจ้าเจติยราชนั้น แต่ก่อนเคยเสด็จเที่ยวไปได้
ในอากาศ ภายหลังถูกพระฤๅษีสาบแล้ว เสื่อมจากอ�ำนาจ
ถึงก�ำหนดเวลาของตนแล้ว ก็ถูกแผ่นดินสูบ.
เพราะเหตุนนั้ แหละ บัณฑิตทัง้ หลายจึงไม่สรรเสริญ
ฉันทาคติ บุคคลไม่พึงเป็นผู้มีจิตถูกฉันทาคติเป็นต้น
ประทุษร้าย พึงกล่าวแต่ค�ำสัตย์เท่านั้น.
มหาชนพากันตกใจกลัวว่า ‘พระเจติยราชด่า พระฤๅษี

พระเทวทัต ๖
กล่าวมุสาวาท ตกนรกอเวจีแล้ว.’
พระโอรส ๕ องค์ของพระเจ้าเจติยราชพากันหมอบ
ลงที่เท้าของพระดาบสกล่าวว่า “ขอท่านจงเป็นที่พึ่งของ
พวกข้าพเจ้าเถิด.”
พระดาบสทูลว่า “พระชนกของพระองค์ยังธรรมให้
พินาศ กล่าวมุสาวาท ด่าพระฤๅษี จึงตกนรกอเวจี ขึ้นชื่อ
ว่าธรรมนี้ อันบุคคลท�ำลายแล้ว ย่อมท�ำลายบุคคลนั้น
พวกพระองค์ไม่สามารถจะพากันอยู่ในที่นี้ได้” ดังนี้แล้ว

การจองเวร 133
www.kalyanamitra.org
เรียกพระโอรสองค์ใหญ่มาทูลว่า “ขอพระองค์ จงออก
ทางประตูด้านทิศปราจีน เสด็จตรงไปนั่นแหละ เมื่อเสด็จ
ไปจักพบช้างแก้วเผือกล้วน พระองค์จงสร้างพระนคร
อยู่ ณ ที่นั้น ตามสัญญาณนั้น พระนครนั้นจักมีชื่อว่า
‘หัตถิปุระ.’ ”
เรียกพระโอรสที่สองมาทูลว่า “พระองค์ จงออกทาง
ประตูด้านทิศทักษิณ เสด็จตรงไปนั่นแหละ เมื่อเสด็จไป
จะพบม้าแก้วขาวล้วน พระองค์จงสร้างพระนครอยู่ ณ ที่
นั้น ตามสัญญาณนั้น พระนครนั้นจักมีชื่อว่า ‘อัสสปุระ.’ ”
แล้วเรียกพระโอรสองค์ที่สามมาทูลว่า “พระองค์
จงเสด็จออกทางประตูดา้ นทิศปัจฉิม เสด็จตรงไปนัน่ แหละ
เมือ่ เสด็จไปจักพบไกรสรราชสีห์ พระองค์จงสร้างพระนคร
อยู่ ณ ที่นั้น ตามสัญญาณนั้น พระนครนั้นจักมีชื่อว่า
‘สีหปุระ.’ ”
แล้ ว เรี ย กพระโอรสองค์ ที่ สี่ ม าทู ล ว่ า “พระองค์
จงเสด็จออกทางประตูด้านทิศอุดร เสด็จตรงไปนั่นแหละ
เมื่อเสด็จไปจักพบจักรบัญชรที่ทำ� ด้วยแก้วล้วน พระองค์
จงสร้างพระนครอยู่ ณ ที่นั้น ตามสัญญาณนั้น พระนคร
นั้น จะมีชื่อว่า ‘อุตตรบัญชร.’ ”

134 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
แล้วเรียกพระโอรสองค์ทหี่ า้ มาทูลว่า “พระองค์ ไม่อาจ
จะอยู่ในที่นี้ได้ จงสร้างพระสถูปใหญ่ไว้ในพระนครนี้
แล้วเสด็จออกตรงไปทางทิศพายัพ เมื่อเสด็จไปจักพบ
ภูเขาสองลูกโอนยอดเข้ากระทบกัน ส่งเสียงดังว่า ‘ทัทธะ’
พระองค์ จงสร้างพระนครอยู่ ณ ที่นั้น ตามสัญญาณนั้น
พระนครนั้น จะมีชื่อว่า ‘ทัทธปุระ.’ ”
พระราชโอรสทัง้ ห้าองค์ได้ไปสร้างนครอยูใ่ นทีน่ นั้ ๆ
ตามสัญญาณนั้น.
พระบรมศาสดา ครั้ น ทรงน� ำ พระธรรมเทศนานี้
มาแสดงแล้ว ตรัสว่า
“ดู ก่ อ นภิ ก ษุทั้ง หลาย มิใ ช่แ ต่ใ นบั ด นี้ เ ท่ า นั้ น ที่

พระเทวทัต ๖
พระเทวทัตท�ำมุสาวาทแล้วถูกแผ่นดินสูบ แม้ในกาลก่อน
พระเทวทัตก็ท�ำมุสาวาท แล้วถูกแผ่นดินสูบเหมือนกัน”

l ประชุมชาดก l

พระเจ้าเจติยราชในครัง้ นัน้ ได้มาเป็น พระเทวทัต


ส่วนกปิลพราหมณ์ ได้มาเป็น พระตถาคตเจ้า

การจองเวร 135
www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๗
(พ. ๑๕ มี.ค. ๖๐)

๖.๕ ขันติวาทิชาดก๑๗
ว่าด้วย โทษที่ท�ำร้ายพระสมณะ
สถานที่ตรัส ณ พระเชตวันมหาวิหาร
ทรงปรารภ ภิกษุผู้มักโกรธรูปหนึ่ง
สาเหตุที่ตรัส
พระศาสดาตรัสกับภิกษุนนั้ ว่า “เธอบวชในพระศาสนา
ของพระพุทธเจ้าผูไ้ ม่โกรธ เพราะเหตุไร ? จึงกระท�ำความ
๑๗ ต้นฉบับ
ชาตกัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก, ล.๕๘,
น.๔๕๘, มมร.
136 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
www.kalyanamitra.org
โกรธเล่า โบราณกบัณฑิตทั้งหลาย เมื่อเครื่องประหาร
ตั้งพันตกลงบนร่างกาย เมื่อถูกเขาตัดมือ เท้า หูและ
จมูก ก็ยังไม่กระท�ำความโกรธแก่คนอื่น.” แล้วทรงน�ำเอา
เรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :-

เนื้อหาชาดก
ในอดีตกาล พระเจ้ากาสีพระนามว่า ‘กลาปุ’ ครอง
ราชสมบัติอยู่ในนครพาราณสี
ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลพราหมณ์
มหาศาล มีนามว่า ‘กุณฑลกุมาร’ เล่าเรียนสรรพวิชาจาก
ส�ำนักตักศิลา เมื่อบิดามารดาล่วงลับไป กุณฑลมาณพ
ก็พจิ ารณาว่า ‘ทรัพย์ทงั้ หลายตายแล้วไม่สามารถน�ำติดตัว
ไปได้’ จึงได้น�ำทรัพย์ทั้งหมดออกบริจาคเป็นทาน แล้ว
พระเทวทัต ๗
ออกบวชเป็นดาบส บ�ำเพ็ญพรตในป่าหิมพานต์
พระดาบสอยู่ในป่า มีผลไม้เป็นอาหาร นานวันเข้า
ก็ตอ้ งการเสพรสเค็มและรสเปรีย้ วบ้าง จึงได้จาริกออกจาก
ป่ามายังนครพาราณสี แล้วเข้าไปอยู่ในราชอุทยาน
วันรุง่ ขึน้ พระดาบสเทีย่ วภิกขาจารไปในนคร เสนาบดี
เลื่อมใสในอิริยาบถของพระฤๅษี จึงเชิญให้มาฉันในเรือน
และให้พักอยู่ในราชอุทยานนั้น

การจองเวร 137
www.kalyanamitra.org
วันหนึ่ง พระเจ้ากลาปุทรงมึนเมาน�้ำจัณฑ์ เสด็จไป
ราชอุทยานห้อมล้อมด้วยสนมนางใน พระองค์ให้ปทู บี่ รรทม
บนแผ่นหิน แล้วบรรทมเหนือตักนางสนมคนโปรด ให้สนม
นางอื่นขับร้องและฟ้อนร�ำจนบรรทมหลับไป
ล�ำดับนั้น เหล่านางสนมก็พากันกล่าวว่า “พระราชา
หลับแล้ว พวกเราขับร้องและฟ้อนร�ำเพื่อประโยชน์อะไร”
จึงทิ้งเครื่องดนตรีแล้วหลีกไปเที่ยวชมราชอุทยาน
พวกนางสนมไปพบพระดาบสนั่งบ�ำเพ็ญพรตอยู่
โคนไม้ จึ ง เข้ า ไปกราบไหว้ ข อฟั ง ธรรม พระดาบส
จึงแสดงธรรมแก่หญิงเหล่านั้น
ฝ่ า ยพระราชาตื่ น บรรทมขึ้ น มาไม่ เ ห็ น พระสนม
นางอื่น จึงตรัสว่า “พวกหญิงถ่อยไปไหน ?”
พระสนมคนโปรดกราบทูลว่า “หญิงเหล่านั้นไป
นั่งล้อมดาบสรูปหนึ่ง”
พระราชาทรงกริ้ ว ถื อ พระขรรค์ รี บ เสด็ จ ไปด้ ว ย
ตั้งพระทัยว่าจักตัดหัวของพระดาบสนั้น
ฝ่ายพระสนมคนโปรดก็ไปแย่งเอาพระแสงดาบจาก
พระหัตถ์ของพระราชาไปเสีย และกล่าววาจาให้พระราชา
สงบพระทัย

138 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
พระราชาเสด็จไปยืนหน้าพระดาบส ตรัสถามว่า
“สมณะ แกมีวาทะว่ากระไร ?”
พระดาบสทูลว่า “มหาบพิตรอาตมามีขันติวาทะ
กล่าวยกย่องขันติ”
พระราชาตรัสว่า “ที่ชื่อว่าขันตินั้น คืออะไร ?”
พระดาบสทูลว่า “คือความไม่โกรธในเมื่อเขาด่าอยู่
ประหารอยู่ เย้ยหยันอยู่”
พระราชาตรัสว่า “ประเดี๋ยวเราจะเห็นความมีขันติ
ของแก” แล้วพระราชาก็รับสั่งให้เรียกเพชฌฆาตมาจับ
พระดาบสเฆี่ยนด้วยแส้หนามสองพันครั้ง ทั้งข้างหน้า
ข้างหลัง และด้านข้างทัง้ สอง จนผิวพระฤๅษีขาดพระโลหิต
ไหลนอง

พระเทวทัต ๗
พระราชาตรัสถามอีกว่า “เจ้ามีวาทะว่ากระไร ?”
พระดาบสทูลว่า “มหาบพิตรอาตมา มีวาทะยกย่อง
ขันติ ก็ พ ระองค์ส�ำ คัญว่า ‘ขัน ติมีในระหว่ า งหนั งของ
อาตมา’ ขันติไม่ได้มใี นระหว่างหนังของอาตมา มหาบพิตร
ก็ขันติของอาตมาตั้งอยู่เฉพาะภายในหทัย ซึ่งพระองค์
ไม่อาจแลเห็น.”

การจองเวร 139
www.kalyanamitra.org
พระราชาได้ฟัง จึงตรัสสั่งให้เพชฌฆาตตัดมือและ
เท้าทั้งสองข้างของพระดาบส จนโลหิตของพระดาบส
ไหลพุ่งออกมาเหมือนน�้ำไหลออกจากหม้อทะลุ
พระราชาตรัสถามอีกว่า “เจ้ามีวาทะว่ากระไร ?”
พระดาบสทูลว่า “มหาบพิตร อาตมามีวาทะยกย่อง
ขันติ ก็พระองค์ส�ำคัญว่า ‘ขันติมีอยู่ที่ปลายมือปลายเท้า
ของอาตมา’ ขันตินั่นไม่มีอยู่ที่นี้ เพราะขันติของอาตมา
ตั้งอยู่เฉพาะภายในหทัย อันสถานที่ลึกซึ้ง”
พระราชาจึงสัง่ ให้เพชฌฆาตตัดหูและจมูกพระดาบส
อีก พระราชาตรัสถามอีกว่า “เจ้ามีวาทะกระไร ?”
พระโพธิ สัต ว์ทูลว่า “มหาบพิต ร อาตมามี ว าทะ
ยกย่องขันติ แต่พระองค์ได้สำ� คัญว่า ‘ขันติตั้งอยู่เฉพาะที่
ปลายหู ปลายจมูก’ ขันติของอาตมาตั้งอยู่เฉพาะภายใน
หทัยอันลึก.”
พระราชาตรัสว่า “เจ้าดาบสโกง เจ้าจงนั่งเชิดชูขันติ
ของเจ้าอยูท่ นี่ เี้ ถิด” แล้วพระองค์กก็ ระทืบยอดอกพระดาบส
แล้วเสด็จจากไป

เมื่อพระราชาเสด็จไปแล้ว เสนาบดีเช็ดโลหิตจาก
ร่างกายของพระดาบส เก็บรวบรวมปลายมือ ปลายเท้า

140 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ปลายหู และปลายจมูกไว้ที่ชายผ้า ค่อยๆ ประคองให้
พระดาบสนัง่ กราบไหว้แล้วกล่าวว่า “ท่านผูเ้ จริญ ถ้าท่าน
จะโกรธ ควรโกรธพระราชาผูท้ ำ� ผิดในท่านนัน้ เถิด อย่าได้
ท�ำรัฐนี้ให้พินาศเสียเลย”
พระดาบสจึงกล่าวว่า “พระราชาพระองค์ใดรับสัง่ ให้
ตัดมื อ เท้ า หู และจมูกของอาตมภาพ ขอพระราชา
พระองค์นั้นจงทรงพระชนม์ยืน นาน บัณ ฑิ ต ทั้ งหลาย
เช่นกับอาตมภาพ ย่อมไม่โกรธเคือง แล้วพระดาบส
ก็สิ้นชีวิตลงในวันนั้น”
ฝ่ายพระราชา เมื่อเสด็จออกจากพระราชอุทยาน
ลับคลองจักษุของดาบสเท่านั้น มหาปฐพีหนาสองแสน

พระเทวทัต ๗
สี่หมื่นโยชน์ก็แยกออก มีเปลวไฟจากนรกแลบออกมา
กระชากจับพระราชาเข้าสู่อเวจีนรกที่หน้าประตูพระราช-
อุทยานนั่นเอง

การจองเวร 141
www.kalyanamitra.org
lประชุมชาดก l

ในเวลาจบสัจจะ ภิกษุผขู้ โี้ กรธบรรลุพระอนาคามิผล.


พระเจ้ากาสีพระนามว่า ‘กลาปุ’ ในครั้งนั้น
ได้เป็น พระเทวทัต
เสนาบดีในครั้งนั้น ได้เป็น พระสารีบุตร
ส่วนดาบสผู้มีวาทะยกย่องขันติในครั้งนั้น
ได้เป็นพระตถาคตเจ้า

142 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๘
(พ. ๑๕ มี.ค. ๖๐)

๖.๖ จุลลธรรมปาลชาดก๑๘
ว่าด้วย ความรักของแม่ที่มีต่อลูก
สถานที่ตรัส ณ วัดพระเวฬุวัน พระเทวทัต ๘
ทรงพระปรารภ การพยายามของพระเทวทัต๑๙ ในการ
ปลงพระชนม์ชีพพระองค์
๑๘ ต้นฉบับ ชาตกัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก, ล.๕๘,
น.๗๖๖, มมร.
๑๙ ชาตินี้เป็นชาติที่ ๓๘ พระราชาพระนามว่า ‘มหาปตาปะ’ คือ
เทวทัต ส่วนพระราชกุมารพระนามว่า ‘ธรรมบาล’ ผู้เป็น
พระราชโอรสคือพระโพธิสัตว์ ฯ
การจองเวร 143
www.kalyanamitra.org
สาเหตุที่ตรัส
วันหนึง่ ภิกษุทงั้ หลายนัง่ สนทนากันในโรงธรรมสภา
ว่า “อาวุโสทั้งหลาย พระเทวทัตใช้อุบายต่างๆ เพื่อมุ่ง
ปลงพระชนม์ชีพพระพุทธเจ้าอย่างเดียวเท่านั้น”
ในขณะนั้น พระพุทธเจ้าเสด็จผ่านมาถึง เมื่อทราบ
เรื่องจึงตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในบัดนี้ เทวทัต
ไม่สามารถท�ำให้เราสะดุ้งตกใจกลัวได้เลยแม้แต่นิดเดียว
แต่ในกาลก่อน เทวทัตเคยฆ่าโอรสของตนเอง ชื่อว่า
‘ธรรมปาลกุมาร’ ให้ถึงความตายมาแล้วด้วยการสั่งให้ลง
กรรมกรณ์ชื่อว่า ‘อสิมาลกะ’๒๐”
จากนั้น ได้ทรงน�ำเอาเรื่องในอดีตชาติมาตรัสเล่า
ให้ฟัง ดังต่อไปนี้
เนื้อหาชาดก๒๑
ในอดีตกาล พระเจ้ามหาปตาปะครองราชย์สมบัติ
อยู่ในนครพาราณสี พระองค์มีพระราชโอรสผู้ประสูติจาก
๒๐ คือการฆ่าด้วยดาบมีการโยนซากศพขึ้นบนอากาศแล้วรับด้วย
ปลายดาบ ส่วนในคัมภีร์ฎีกาอธิบายเพิ่มเติมว่า การเอาดาบ
สับให้เนื้อละเอียด ฯ
๒๑ ในชาดกนีจ้ ะมีการสรุปให้ทราบว่า ในการพยาบาทของพระเทวทัต
ทีม่ ตี อ่ พระพุทธเจ้านัน้ มีการท�ำลายล้างในแต่ละชาติอย่างไรบ้าง
มีทั้งไม่สามารถฆ่าได้บ้าง ท�ำให้บาดเจ็บบ้าง จนถึงฆ่าให้ตาย ฯ
144 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
www.kalyanamitra.org
พระครรภ์ของพระนางจันทาเทวีอัครมเหสี บรรดาเหล่า
พระประยู ร ญาติ พ ากั น ชื่ น ชมโสมนั ส และพากั น ขนาน
พระนามว่า ‘ธรรมปาลกุมาร’
ครั้ ง หนึ่ ง ในขณะที่ พ ระราชโอรสมี พ ระชนมายุ
ได้เพียง ๗ เดือนเท่านั้น พระมารดาสรงสนานธรรมปาล
กุมารด้วยน�้ำผสมน�้ำหอม แต่งพระองค์พระราชโอรส
และทรงหยอกล้ออยู่กับพระโอรส
ในขณะนัน้ นัน่ เอง พระราชาเสด็จมาถึงยังห้องบรรทม
ฝ่ายพระมเหสีแม้จะทอดพระเนตรเห็นพระราชาก็ไม่ได้
เสด็จลุกขึ้นรับเพราะมัวเพลิดเพลินอยู่กับพระราชโอรส
พระราชากริ้วด�ำริว่า ‘มเหสีของเรามีมานะถือตัว
เพราะอาศัยโอรส จึงไม่เห็นความส�ำคัญของเรา เมือ่ ลูกเรา
โตขึ้น นางจักไม่ให้ความส�ำคัญในคุณค่าความเป็นมนุษย์
ของเรา เราจักฆ่าลูกชายคนนี้เสีย’
พระเทวทัต ๘
ท้าวเธอจึงเสด็จกลับไปประทับนัง่ บนราชอาสน์แล้ว
รับสั่งให้เพชฌฆาตไปแต่งตัวตามธรรมเนียมนิยมแบก
ขวานมาเข้าเฝ้า พระราชาจึงมีรับสั่งให้เขาไปน�ำพระราช-
โอรสมาทันที
ฝ่ายพระอัครมเหสีทรงทราบว่า ‘พระราชากริว้ เสด็จ
จากไป’ จึงเหมือนทรงมีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น

การจองเวร 145
www.kalyanamitra.org
แก่พระองค์และพระราชโอรส จึงทรงอุ้มพระโอรสให้นอน
แนบพระอุระ ประทับนั่งกรรแสงอยู่
เพชฌฆาตเข้ามาถึงก็เอามือตบไปทีพ่ ระปฤษฎางค์
ของพระอั ครมเหสี แล้ว ชิง พระกุมารไปจากพระหั ต ถ์
พามาเข้าเฝ้าพระราชาทันที พระอัครมเหสีทรงคร�่ำครวญ
ตามหลังเพชฌฆาตไป
ขณะนั้น พระราชารับสั่งให้เพชฌฆาตน�ำพระกุมาร
นั้นนอนบนแผ่นกระดานแล้วมีรับสั่งให้ตัดพระหัตถ์ทั้ง ๒
ข้างของธรรมปาลกุมารทันที
พระนางจันทาเทวีกราบทูลวิงวอนอย่างน่าสงสาร
ปานพระทั ย แทบสลายว่ า “ข้ า แต่ ม หาราช โอรสของ
หม่ อ มฉั น เพิ่ ง มี อ ายุ ไ ด้ แ ค่ เ พี ย ง ๗ เดื อ น ยั ง บริ สุ ท ธ์
ไร้เดียงสา ถ้าความผิดจะมีก็เป็นความผิดของหม่อมฉัน
เอง ขอพระองค์จงรับสั่งให้ตัดมือทั้ง ๒ ข้างของหม่อมฉัน
แทนเถิด” จากนั้น ได้กราบทูลด้วยคาถาที่ ๑ ว่า
หม่อมฉันคนเดียวสร้างเรือ่ งนีข้ นึ้ มา ได้กระท�ำความ
ผิดขึน้ ต่อพระเจ้ามหาปตาปะ ข้าแต่สมมติเทพ ขอพระองค์
ได้ทรงพระกรุณาปล่อยธรรมปาลกุมารนี้เถิด โปรดรับสั่ง
ให้ตัดมือทั้งสองของหม่อมฉันเถิด

146 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ขณะนั้น เพชฌฆาตได้ใช้ขวานอันคมกริบตัดลงไป
ที่พระหัตถ์ทั้ง ๒ ของพระกุมารเหมือนตัดหน่อไม้อ่อน
ธรรมปาลกุมารนัน้ ไม่รอ้ งไห้แสดงอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด
ทรงอดกลั้นอยู่ กระท�ำความอดทนและความรักให้มุ่งไป
ในเบื้องหน้าต่อพระราชบิดา
ส่วนพระนางจันทาเทวีถือเอาปลายพระหัตถ์ที่ขาด
มีโลหิตไหลอาบทั้ง ๒ ใส่ไว้ในชายพกพระองค์ทรงเที่ยว
คร�่ำครวญปานจะขาดใจ
พระราชามีรับสั่งให้ตัดพระบาททั้ง ๒ ของพระราช-
โอรสอีก
ฝ่ายพระนางจันทาเทวีได้สดับพระราชโองการนั้น
จึงกราบทูลต่อไปด้วยคาถาที่ ๒ ว่า
หม่ อ มฉั น ผู ้ เ ดี ย วที่ ส ร้ า งเรื่ อ งนี้ ขึ้ น มา ได้ ก ระท� ำ
ความผิ ด ขึ้ น ต่ อ พระเจ้ า มหาปตาปะ ข้ า แต่ ส มมติ เ ทพ พระเทวทัต ๘
ขอพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดปล่อยธรรมปาลกุมารนี้
เสียเถิด โปรดรับสั่งให้ตัดเท้าของหม่อมฉันเถิด
เมือ่ เพชฌฆาตตัดพระบาททัง้ ๒ พระนางจันทาเทวี
ได้ทรงถือเอาปลายเท้าใส่ไว้ในพกมีโลหิตของพระโอรส
เปื้อนพระวรกายทรงร�่ำไห้กราบทูลว่า
การจองเวร 147
www.kalyanamitra.org
“ข้าแต่พระสวามี ลูกของหม่อมฉันถูกตัดมือและเท้า
แล้ว หม่อมฉันจะเลี้ยงดูลูกที่พิการเอง ขอพระองค์โปรด
ประทานบุตรนั่นแก่หม่อมฉันเถิด”
ในขณะนั้น พระราชาตรัสสั่งให้ตัดศีรษะพระราช-
โอรสอีก พระนางจันทาเทวีจึงกล่าวทูลวิงวอนด้วยคาถา
ที่ ๓ ว่า
หม่อมฉันผู้เดียวที่เป็นต้นเรื่องปัญหานี้ ได้กระท�ำ
ความผิ ด ขึ้ น ต่ อ พระเจ้ า มหาปตาปะ ข้ า แต่ ส มมติ เ ทพ
ขอพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดปล่อยธรรมปาลกุมารนี้
เสี ย เถิ ด ขอพระองค์ ไ ด้ โ ปรดรั บ สั่ ง ให้ ตั ด ศี ร ษะของ
หม่อมฉันเถิด
ครั้นตรัสทูลวิงวอนแล้ว พระนางจึงน้อมพระเศียร
ของพระนางเข้าไปแทน แต่เพชฌฆาตได้ตดั พระเศียรของ
พระโอรสแล้วโยนร่างธรรมปาลกุมารขึน้ ไปในอากาศแล้ว
เอาปลายดาบรับร่างของเขาจนร่างแหลกเหลวเป็นเศษ
เนื้อแล้วโยนลงที่ท้องพระโรง
พระนางจันทาเทวีทรงตามเก็บเนื้อของพระโอรส
ไว้ในชายพก ทรงร้องไห้คร�่ำครวญได้ทูลคาถาที่ ๓ และ
ที่ ๔ ว่า
148 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
www.kalyanamitra.org
ใครๆ ผูเ้ ป็นมิตรและอ�ำมาตย์ของพระราชานีท้ มี่ ใี จดี
คงจะไม่มีแล้วอย่างแน่นอน ผู้ที่จะทูลห้ามพระราชาไม่ให้
ปลงพระชนม์พระราชโอรสผู้เกิดแล้วแต่พระอุระเสียเลย
จึ ง ไม่ มี ใ ครๆ ผู ้ เ ป็ น มิ ต รและพระญาติ ข องพระราชานี้
ที่มีใจดีคงจะไม่มีแน่นอน ผู้ที่จะทูลห้ามพระราชาไม่ให้
ปลงพระชนม์บุตรที่เกิดจากพระองค์เสียเลยจึงไม่มี
จากนั้น พระนางจันทาเทวีจึงทูลคร�่ำครวญคาถาที่
๕ อันเป็นคาถาสุดท้ายว่า
แขนของธรรมปาลกุมารผู้เป็นทายาทแห่งแผ่นดิน
อันลูบไล้ด้วยแก่นจันทน์แดงมาขาดลงไปเสียแล้ว ข้าแต่
สมมติเทพเอ๋ย ชีวิตของหม่อมฉันก็คงจะดับตามไปอีก
ไม่นาน
ขณะทีพ่ ระนางทรงร�ำ่ ไห้คร�ำ่ ครวญกราบทูลอยูอ่ ย่าง พระเทวทัต ๘
นัน้ เอง พระหทัยก็แตกเหมือนไม้ไผ่ถกู ไฟไหม้อยู่ พระนาง
สิ้นพระชนม์ลงตรงนั้นทันที
ฝ่ายพระราชาได้พลัดตกลงจากบัลลังก์ไปที่ท้อง
พระโรง พื้นที่อันเรียบสนิทแยกออกเป็น ๒ ส่วน แผ่นดิน
ทึบหนาถึง ๒ แสน ๔ หมืน่ โยชน์ไม่อาจรองรับโทษผิดของ
พระองค์ได้
การจองเวร 149
www.kalyanamitra.org
เปลวไฟจากอเวจีมหานรกได้หอบเอาพระเจ้ามหา
ปตาปะลงไปในนรกใหญ่นั้น ไม่ต่างอะไรกับการคลุม
พระองค์ไว้ด้วยผ้ากัมพล
ส่วนพระนางจันทาเทวีและพระราชโอรส บรรดา
อ�ำมาตย์และประชาชนได้พากันถวายพระเพลิงพระศพ
ด้วยความโสกาอาดูรยิ่งนัก

ประชุมชาดก
l l

พระราชา คือ เทวทัต


พระนางจันทาเทวี คือ มหาปชาบดีโคตมี๒๒
ส่วนธรรมปาลกุมาร คือ พระตถาคตเจ้า

๒๒ โดยมากพระราชมารดาจะกลับชาติมาเกิดเป็นพระนางสิริ-
มหามายา แต่ในชาตินี้พระนางจันทาเทวีเป็นพระน้านาง
(พระมาตุจฉาในชาติปัจจุบัน)

150 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๙
(พฤ. ๑๖ มี.ค. ๖๐)

๖.๗ ธรรมเทวปุตตชาดก๒๓
ว่าด้วย เรื่องธรรมชนะอธรรม

สถานที่ตรัส วัดพระเชตวัน
ทรงพระปรารภ การที่แผ่นดินสูบพระเทวทัต
พระเทวทัต ๙

สาเหตุที่ตรัส
มีเรื่องย่อว่า ครั้งหนึ่ง พวกภิกษุทั้งหลายได้พากัน
สนทนาในโรงธรรมสภาว่า “อาวุโสทั้งหลาย พระเทวทัต
๒๒ ต้นฉบับ
ชาตกัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก, ล.๖๐,
น.๒๕, มมร.
การจองเวร 151
www.kalyanamitra.org
มี ค วามอาฆาตพยาบาทหาทางท� ำ ร้ า ยพระพุ ท ธเจ้ า
ในที่สุด ตนเองกลับถูกแผ่นดินสูบเสียแล้ว”
ในขณะนัน้ พระพุทธเจ้าเสด็จผ่านมา เมือ่ ทรงทราบ
เรื่อง จึงได้ตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไม่ใช่จะมีแต่
ในบั ด นี้ เ ท่ า นั้ น ที่ เ ทวทั ต ท� ำ ลายชิ น จั ก ร (ธรรมจั ก ร)
ของเราแล้ ว ถู ก แผ่ น ดิ น สู บ แม้ ใ นกาลก่ อ น เธอก็ เ คย
ท�ำลายชินจักรของเราและถูกแผ่นดินสูบไปบังเกิดในอเวจี
มหานรกมาแล้วเหมือนกัน”
จากนั้น ได้ทรงน�ำเรื่องราวในอดีตชาติมาตรัสเล่า
ให้ฟัง ดังต่อไปนี้

เนื้อหาชาดก
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชย์สมบัติ
ในกรุงพาราณสี มีเทพบุตร ๒ องค์ องค์ที่ ๑ มีนามว่า
‘ธรรมะ’ อีกองค์หนึ่งชื่อว่า ‘อธรรมะ’
ธรรมเทพบุตรมักชอบมาในโลกมนุษย์ในเวลาเย็น
โดยจะยื น อยู ่ ใ นอากาศในวั น เพ็ ญ อั น เป็ น วั น อุ โ บสถ
ชักชวนชาวบ้านให้สมาทานยึดมั่นในกุศลกรรมบถ ๑๐
ประการว่า

152 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
“ท่ า นทั้ ง หลายจงงดเว้ น จากอกุ ศ ลกรรมบถ ๑๐
ประการ มีปาณาติบาตเป็นต้น จงพากันบ�ำเพ็ญธรรมคือ
การบ�ำรุงมารดาบิดาและประพฤติสุจริตธรรม ๓ ประการ
เถิด เมือ่ บ�ำเพ็ญอยูอ่ ย่างนี้ จักมีสวรรค์เป็นทีไ่ ปในเบือ้ งหน้า
และได้เสวยยศอันยิ่งใหญ่”
ส่วนอธรรมเทพบุตรชักชวนให้ชาวบ้านประพฤติชวั่
ในอกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ มีการให้ฆ่าสัตว์และการ
ลักทรัพย์ เป็นต้น
องค์แรกท�ำการเวียนขวาของชมพูทวีป ส่วนองค์หลัง
กระท�ำการเวียนซ้ายชมพูทวีปและรถทีน่ งั่ ของทัง้ คูไ่ ด้โคจร
มาพบกันในอากาศ
ฝ่ายธรรมเทพบุตรได้เรียกอธรรมเทพบุตรมากล่าว
ว่า “สหายเอ๋ย เธอเป็นฝ่ายอธรรม ฉันเป็นฝ่ายธรรม
หนทางนี้สมควรแก่ฉัน เธอจงขับรถของเธอหลีกไปและ
จงให้ทางแก่ฉันเถิด”
พระเทวทัต ๙

จากนั้น ได้กล่าวคาถาที่ ๑ ว่า


ดูก่อนอธรรมเทพบุตร เราเป็นผู้สร้างยศ สร้างบุญ
สมณะและพราหมณ์พากันสรรเสริญ ทุกเมื่อ อธรรมเอ๋ย
เราได้ชื่อว่าเป็นฝ่ายธรรม เป็นผู้สมควรแก่หนทาง เป็นผู้

การจองเวร 153
www.kalyanamitra.org
อันเทวดาและมนุษย์พากันบูชาแล้ว ท่านจงให้หนทาง
แก่เราเถิด
อธรรมเทพบุตรได้ฟังจึงกล่าวโต้ตอบว่า “ดูก่อน
ธรรมเทพบุตร เราเป็นผู้ได้ชื่อว่า ‘อธรรม’ ขึ้นสู่ยานแห่ง
อธรรมอั น มั่ น คง ไม่ เ คยกลั ว ใครเลย มี ก� ำ ลั ง เข้ ม แข็ ง
ธรรมเอ๋ย ท�ำไมเราจะต้องให้ทางที่ไม่เคยให้ใครแก่ท่าน
ในวันนี้ด้วยเล่า ?”
ธรรมเทพบุ ต รตอบว่ า “ธรรมนั่ น แหละปรากฏ
ขึน้ มาก่อน ภายหลัง อธรรมจึงได้เกิดขึน้ ในโลก เราจึงเป็น
ผู้เจริญกว่า ประเสริฐกว่า ทั้งเก่ากว่า ขอจงให้ทางแก่เรา
เถิด น้องเอ๋ย”
อธรรมเทพบุตรไม่ยอมเชื่อฟังกล่าวโต้ตอบว่า “เรา
จะไม่ให้หนทางแก่ท่าน เพราะการขอร้องหรือเพราะ
ความเป็นผู้เหมาะสม ในวันนี้ เราทั้งสองจงมารบกันเถิด
หนทางจะเป็นของผู้ชนะในการรบเท่านั้น”
ธรรมเทพบุตรจึงกล่าวว่า “เราผู้ชื่อว่า ‘ธรรมะ’ เป็น
ผู้ปรากฏไปทั่วทุกทิศ มีก�ำลังมากมาย มียศนับประมาณ
ไม่ได้เลย ไม่มีผู้ใดจะเสมอเหมือน ประกอบด้วยคุณ
ความดีทั้งปวง อธรรมเอ๋ย ท่านจะชนะเราได้อย่างไร ?”

154 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
อธรรมเทพบุตรกล่าวว่า “เขาเอาค้อนเหล็กตีทอง
อย่างเดียว ไม่ได้เอาทองไปตีเหล็ก ถ้าหากว่าเราผู้ชื่อว่า
‘อธรรม’ ฆ่าท่านผู้ชื่อว่า ‘ธรรม’ ได้ในวันนี้ได้แล้วละก็
เหล็กจะน่าดู น่าชมเหมือนทองค�ำ ฉะนั้น.”
ธรรมเทพบุตรจึงตอบไปว่า “ดูก่อนอธรรมเทพบุตร
ถ้าหากว่า ท่านเป็นผู้มีก�ำลังในการรบแล้วละก็ ผู้หลัก
ผู้ใหญ่และครูของท่านก็ไม่ได้มี เราจะยอมให้หนทาง
อันเป็นที่รักด้วยอาการอันไม่เป็นที่รักของท่าน ทั้งจะขอ
อดทนถ้อยค�ำชั่ว ๆ ของท่าน”
ในขณะที่ ธรรมเทพบุตรกล่าวคาถาจบลงนั่ นเอง
อธรรมก็ไม่อาจจะด�ำรงอยูบ่ นรถได้ ได้เกิดอาการหกคะเมน
ตีลังกาตกลงมาที่แผ่นดิน ครั้นแล้วแผ่นดินได้เปิดช่องให้
ไปบังเกิดในอเวจีมหานรกแล้ว
พระพุทธเจ้าครั้นตรัสรู้แล้ว ได้ตรัสคาถาที่เหลือว่า พระเทวทัต ๙
อธรรมเทพบุตรได้ฟงั ค�ำนีแ้ ล้ว ก็เป็นผูม้ ศี รี ษะตกลง
เบื้องต�่ำ มีเท้าขึ้นเบื้องสูง ตกลงจากรถ ร�ำพึงว่า ‘เรา
ปรารถนาจะรบก็ไม่ได้รบ อธรรมเทพบุต รถู กตั ดรอน
เสียแล้วด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้’

การจองเวร 155
www.kalyanamitra.org
ธรรมเทพบุ ต รผู ้ มี ขั น ติ เ ป็ น ก� ำ ลั ง มี จิ ต เที่ ย งตรง
มีก�ำลังมาก มีความบากบั่นอย่างแท้จริง ชนะก�ำลังรบ
ได้ฆ่าอธรรมเทพบุตร ฝังเสียในแผ่นดินแล้ว ขึ้นสู่รถ
ของตนไป โดยหนทางนั่นเอง
มารดา บิดาและสมณพราหมณ์ไม่ได้รบั ความนับถือ
ในเรือนของชนเหล่าใด ชนเหล่านั้น ครั้นทอดทิ้งร่างกาย
ไว้ในโลกนีแ้ ล้ว ตายไปแล้วย่อมต้องพากันไปสูน่ รก เหมือน
อธรรมเทพบุตรผู้มี ศีรษะลงในเบื้องต�ำ่ ตกไปแล้ว ฉะนั้น
มารดา บิดา และสมณพราหมณ์ ได้รับความนับถือ
เป็นอย่างดีในเรือนของชนเหล่าใด ชนเหล่านัน้ ครัน้ ทอดทิง้
ร่างกายไว้ในโลกนี้ ตายไปแล้วย่อมพากันไปสุคติ เหมือน
ธรรมเทพบุตรขึ้นสู่รถของตนไปสู่เทวโลก ฉะนั้น

ประชุมชาดก
l l

อธรรมเทพบุตร คือ เทวทัต


แม้บริษัทของอธรรมเทพบุตร คือ บริษทั ของพระเทวทัต
ส่วนบริษัทของธรรมเทพบุตร คือ พุทธบริษัท
ส่วนธรรมเทพบุตร คือ ตัวเราตถาคต

156 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ธรรมะวันนี้ เรื่องพระเทวทัต ตอนที่ ๑๐
(ส. ๑๗ มี.ค. ๖๐)

ข้อมูลทัง้ หมดทีใ่ ช้ในการเขียนเรียบเรียงขึน้ ก็มที มี่ า


จาก ๒ แหล่งหลัก คือ
๑. วิทยานิพนธ์ เรื่อง การศึกษาวิเคราะห์บทบาท
ของพระเทวทัตทีป่ รากฏ ในคัมภีรพ์ ระพุทธศาสนา, พุทธ-
พระเทวทัต ๑๐

ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา, มจร., พ.ศ.


๒๕๔๖ ของ พระมหาไกรวรรณ ชินทตฺติโย (ปุณขันธ์)
ที่มีเผยแผ่ในเวบไซด์ ก็ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

การจองเวร 157
www.kalyanamitra.org
๒. ข้อมูลตารางชาดก ๕๔๗ เรื่อง ชื่อเรื่อง, ว่าด้วย,
ทรงปรารภ, เนือ้ เรือ่ งย่อ และการเสวยพระชาติในชาตินนั้
หลายๆ เรื่อง มีชื่อเรื่องซ�ำ้ กัน แต่เหตุปรารภและเนื้อเรื่อง
ต่างกัน ถ้าขาดข้อมูลมาตรวจสอบ ก็จะเกิดความสับสน
ได้ง่าย
การน�ำข้อมูลมาศึกษา ตรวจสอบ และหาประเด็นที่
น่าสนใจในการน�ำเสนอ ก็ใช้เวลาเป็นสัปดาห์ จากที่
น�ำเสนอมา ๑๐ ตอน (รวมบทน�ำ) ก็อาจพอสรุปได้ว่า
การจองเวรในชาติอดีตของพระเทวทัต ทีม่ ตี อ่ พระโพธิสตั ว์
จะท�ำได้มากและร้ายแรงต่อเมื่อตนเองอยู่ในฐานะที่เหนือ
กว่า เช่น
หัวข้อ ๖. ตนเองเกิดฐานะ ๑-๕ (ดูรายละเอียด
ตอนที่ ๒ หน้า ๙๐) แต่ก่อกรรมท�ำเข็ญ จนตนเอง ต้องตก
อเวจีมหานรก มี ๗ เรื่อง
กรณีที่ ๑ ตนเองเกิดเป็นผู้ล่า เช่น นายพราน ฯลฯ
มี ๓ เรื่อง ๖.๑ จุลลนันทิยชาดก, ๖.๒ มหากปิชาดก,
๖.๓ สีลวนาคชาดก,
กรณีที่ ๔ ตนเองเกิดเป็นผู้มีอำ� นาจเหนือกว่า เช่น
พระราชา มี ๒ เรื่อง ๖.๔ ขันติวาทิชาดก, ๖.๕ เจติยราช
ชาดก
158 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge
www.kalyanamitra.org
กรณีที่ ๕. ตนเองเกิดเป็นบิดา มี ๑ เรื่อง
๖.๖ จุลลธรรมปาลชาดก
กรณีอื่นๆ ๑ เรื่อง ๖.๗ ธรรมเทวปุตตชาดก สาเหตุ
ที่ผู้กระท�ำต้องตกนรกอเวจีในชาตินั้นๆ เพราะ
๑. ท� ำ ร้ า ยผู ้ บ ริ สุ ท ธิ์ ผู ้ ไ ม่ ป ระทุ ษ ร้ า ยจนถึ ง ตาย
โดยไม่มีความเมตตาปราณี คือเห็นแต่ผลประโยชน์ของ
ตนเองเป็นที่ตั้ง
๒. กล่าวมุสาทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่จริง
๓. มีโทสาจริตเป็นพื้นฐาน
ต้องการเอาชนะด้วยการท�ำลายล้าง
การหลีกเลี่ยงไม่ให้เป็นผู้ถูกกระท�ำ คือ ต้องสั่งสม
บุญให้มาก ต้องเป็นผู้อยู่ในฐานะที่เหนือกว่า แผ่เมตตา
ไม่คิดจองเวรกับใคร
อเวจีมหานรก หมายถึง มหานรกที่ปราศจากคลื่น
คือ ความเบาบางแห่งความทุกข์ ระหว่างแห่งเปลวไฟ
พระเทวทัต ๑๐

และ ความทุกข์ไม่มีว่างเว้นเลย เป็นมหานรกขุมสุดท้าย


ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีโทษแห่งการกระท�ำหนักที่สุด และ
มีอายุขัยนานที่สุด

การจองเวร 159
www.kalyanamitra.org
ชีวิตในอเวจีมหานรก สัตว์นรกในขุมนี้ จะได้รับ
ความทุกข์แสนสาหัส เป็นนรกที่ขุมใหญ่ที่สุด ราวกับ
เมืองใหญ่ทลี่ อ้ มรอบ ด้วยก�ำแพงเหล็กอันรุง่ โรจน์ ภายใน
มีเปลวไฟร้อนระอุ ไหม้สัตว์นรกอยู่ตลอดเวลา ทั้งกลาง
คืนกลางวันไม่มีว่างเว้น
สัตว์ที่ต้องไปอุบัติในอเวจีมหานรกนี้ มีมากกว่าขุม
อื่นๆ แออัดยัดเยียดเบียดเสียดกันอยู่ ทั้งการเสวยทุกข์
โทษ ในมหานรกขุมนี้ก็แตกต่างกันไปหลายอิริยาบถ
หลายท่าหลายทาง เช่น ถ้าเคยยืนท�ำบาปอกุศลกรรมไว้
ก็ต้องมาทนทุกข์อยู่ในอิริยาบถยืน เคยเดินท�ำบาปไว้
ก็ต้องเดินทนทุกข์อยู่ เคยนั่งเคยนอนท�ำบาปไว้ ก็ต้องมา
นั่งมานอนเสวยทุกข์อยู่ในอเวจีมหานรกนี้
เป็นสถานที่ส�ำหรับพวกที่ท�ำอนันตริยกรรม เช่น
ฆ่าบิดา ฆ่ามารดา ฆ่าพระอรหันต์ ท�ำสงฆ์ให้แตกกัน หรือ
ท�ำพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต (ถึงแม้จะท�ำเพียงครั้ง
เดียว ไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ก็ถือเป็นกรรมที่หนัก
มาก ต้องตกอเวจีมหานรก ได้รับโทษทัณฑ์ทรมานที่แสน
สาหัส มีอายุยาวนานกว่านรกขุมอื่นๆ) โดยมีอายุขัยของ
สัตว์นรกขุมนี้มีประมาณ ๑ อันตรกัป

160 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ชาดกทั้ง ๗ เรื่อง พระเทวทัตก็ไม่ได้ท�ำอนันตริย-
กรรมแต่ท�ำร้าย ฆ่าพระโพธิสัตว์ผู้ไม่มีความผิด แบบขาด
ความเมตตา
ผลกรรมท�ำให้ถกู ธรณีสบู ลงอเวจีมหานรกในชาตินนั้
ตกนรกขุมนี้จนชิน แม้ชาติที่เกิดเป็นพระเทวทัต เจอ
พระศาสดาก็ยงั จองเวร จนตกนรกขุมเดิมทีค่ นุ้ เคย
แผ่นดินอันทึบหนาได้สองแสนสีห่ มืน่ โยชน์ (๒๔๐,๐๐๐
โยชน์ = ๓,๘๔๐,๐๐๐ กม.) ถึงจะสามารถทรงไว้ซึ่งของ
หนักแสนหนัก มีขนุ เขาสิเนรุและยุคนธรเป็นต้น และถึงจะ
ทรงไว้ซงึ่ สิง่ ทีน่ า่ เกลียดมีกลิน่ เหม็น มีคถู และมูตรเป็นต้น
พระเทวทัต ๑๐

ก็เป็นเสมือนไม่สามารถจะทานไว้ได้ เรียกว่า “คนหนัก


แผ่นดิน” ก็ว่าได้

การจองเวร 161
www.kalyanamitra.org
ใครมีพฤติกรรมเข้าข่าย กรณีตัวอย่างทั้ง ๗ เรื่อง
ก็ระวังตัวไว้ให้ดี กรรมชั่วก�ำลังรอส่งผล
ธรรมทั้ ง หลาย มี ใ จเป็ น หั ว หน้ า มี ใ จเป็ น ใหญ่
ส� ำ เร็ จ แล้ ว ด้ ว ยใจ ถ้ า บุ ค คลมี ใ จร้ า ยแล้ ว พู ด อยู ่ ก็ ดี
ท�ำอยู่ก็ดี ทุกข์ย่อมไปตามเขา เพราะเหตุนั้น ดุจล้อ
อันหมุนไปตามรอยเท้าโคผู้นำ� แอกไปอยู่ฉะนั้น
(คาถาธรรมบทเรื่องพระจักขุบาล)
คนพาลย่อมส�ำคัญบาปประดุจน�้ำผึ้ง ตราบเท่าที่
บาปยังไม่ให้ผล, ก็เมื่อใด บาปให้ผล, เมื่อนั้น คนพาล
ย่อมประสบทุกข์ (คาถาธรรมบทเรือ่ ง พระอุบลวรรณาเถรี)

162 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
แนะน�ำหนังสือธรรมะ
ของสมาคมสมาธิเพื่อการพัฒนาศีลธรรมโลก

๑) ประเภท คาถาธรรมบท
อุบาสิกาฉบับราชนิกูล-พระเถรี
(เฉพาะ e-book)
ISBN : 978-616-8103-00-5
ผู้เรียบเรียง : สิริปุณฺโณ
จ�ำนวนหน้า : ๑๗๖
ส�ำนักพิมพ์ : บริษัท พิมพ์ดี จ�ำกัด
ปีที่พิมพ์ : -
ค�ำบรรยาย : ต้นฉบับเรื่องธรรมบทเกี่ยวกับอุบาสิกาที่จัดท�ำขึ้น
ปลายปี พ.ศ.๒๕๕๓ ต่อมาจัดท�ำเป็นเล่มเมื่อต้นปี
พ.ศ. ๒๕๕๔ บั ด นี้ ล ่ ว งเลยเวลามาเกื อ บ ๖ ปี
จึงคิดว่าจะท�ำการปรับปรุงเป็นรูปเล่มให้น่าอ่าน
ยิง่ ขึน้ เรียบเรียงความต่อเนือ่ งของเนือ้ หาแต่ละเรือ่ ง
ให้มากขึ้น ในเล่มนี้มี ๑๕ เรื่อง ใช้ชื่อว่า ‘อุบาสิกา
ฉบับราชนิกูล-พระเถรี’

การจองเวร 163
www.kalyanamitra.org
อุบาสิกา ฉบับสามัญชน
(มีเฉพาะ e-book)
ISBN : 978-616-8103-01-2
ผู้เรียบเรียง : สิริปุณฺโณ
จ�ำนวนหน้า : ๑๘๔
ส�ำนักพิมพ์ : บริษัท พิมพ์ดี จ�ำกัด
ปีที่พิมพ์ : -
ค�ำบรรยาย : เล่มนี้มีคาถาธรรมบทจ�ำนวน ๑๙ เรื่องใช้ชื่อว่า
‘อุ บ าสิ ก า ฉบั บ สามั ญ ชน’ หลายเรื่ อ งที่ ไ ม่ มี ใ น
เล่มนีเ้ พราะได้รวบรวมไว้ในเล่มอืน่ ๆ ก่อนหน้าเช่น
เรือ่ งนางจูฬสุภทั ทา, (ภรรยา) นายพรานกุกกุฏมิตร
รวบรวมไว้ในหนังสือทายาทเศรษฐี, เรือ่ งนางสุมนา
เทวี, ธิดาช่างหูก, ปรากฏอยู่ในหนังสือดุสิตบุรี

๒) ประเภท ชาดก
ปัญญาบารมี หนทางสร้างปัญญา
ISBN : 978-616-91637-1-8
ผู้เรียบเรียง : สิริปุณฺโณ
จ�ำนวนหน้า : ๑๔๔
ส�ำนักพิมพ์ : บริษัท พิมพ์ดี จ�ำกัด
ปีที่พิมพ์ : ๒๕๕๖

164 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
ค�ำบรรยาย : น�ำเสนอธรรมะดัง้ เดิมด้วยมุมมองใหม่ เพือ่ แบ่งปัน
ธรรมะประเภทมีตวั ละครเป็นตัวเดินเรือ่ ง ทีเ่ รียกว่า
‘ท้ อ งนิ ท าน’ ให้ อ ่ า นได้ ส บายๆ ทุ ก เพศทุ ก วั ย
โดยเน้นเนื้อหาในนิทานชาดกเป็นหลัก
ชาดกเรื่องปัญญา
(มีเฉพาะ e-book)
ISBN : 978-616-8103-02-9
ผู้เรียบเรียง : สิริปุณฺโณ
จ�ำนวนหน้า : ๙๖
ส�ำนักพิมพ์ : บริษัท พิมพ์ดี จ�ำกัด
ปีที่พิมพ์ : -
ค�ำบรรยาย : เล่มนี้เป็นการขยายความต่อจากเล่มแรกที่ชื่อว่า
“ปั ญ ญาบารมี หนทางแห่ ง การสร้ า งปั ญ ญา”,
เล่ ม นี้ มี ๘ เรื่ อ งที่ พ ระศาสดาทรงปรารภพระ-
ปั ญ ญาบารมี ข องพระองค์ มี พ ระชาติ ที่ เ ป็ น
พญาวานร ๑ เรือ่ งแถมอีก ๑ เรือ่ งทีม่ เี นือ้ หาต่อจาก
ตจสารชาดกชื่อ “สาลิยชาดก” ไว้ที่ท้ายเรื่องด้วย
พระชาติที่เป็นเด็กฉลาดมีปัญญามีอยู่ ๕ เรื่อง
สัมภวชาดก, มโหสถชาดก (เรือ่ งที่ ๒, ๓ ในหนังสือ
ปัญญาบารมี) อีก ๓ เรื่อง ได้แก่ ตจสารชาดก,
(รวมสาลิยชาดก), คามณิจันทชาดก (เรื่องที่ ๗, ๘
ในเล่มนี้)

การจองเวร 165
www.kalyanamitra.org
ชาดกเรื่องโปรด (ฉบับ ๒ ภาษา)
The Favorite Jakatas
ISBN : 978-616-91637-5-6
ผู้เรียบเรียง : สิริปุณฺโณ
จ�ำนวนหน้า : ๑๓๐
ส�ำนักพิมพ์ : บริษัท พิมพ์ดี จ�ำกัด
ปีที่พิมพ์ : พ.ศ. ๒๕๕๙๘
ค�ำบรรยาย : พระโพธิสัตว์ ลูกนางยักษิณี นักสะกดรอยเท้า
(ปทกุสลมาณวชาดก) ม้าบินพูดได้ (วลาหกัสส
ชาดก) ทั้งสองเรื่องมียักษิณีปรากฏอยู่ในท้องเรื่อง
ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ออกจะอภินิหารอยู่มาก ส�ำหรับ
ยุคนี้ พญานกพูดได้ (ฆตาสนชาดก), ช้างแสนรู้
เหาะได้ (ทุมเมธชาดก) ส่วนทั้งสี่เรื่องสัมพันธ์กัน
อย่างไร ติดตามได้จากบทวิเคราะห์ ภาคผนวก
แผนภูมิสรุป รวมชาดก ๕๔๗ เรื่อง

166 ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge


www.kalyanamitra.org
e-book Free download
ผลงานหนังสือธรรมะ ของ สมาคมสมาธิเพื่อการพัฒนาศีลธรรมโลก

ประเภท คาถาธรรมบท
• อุบาสิกาฉบับราชนิกูล-พระเถรี https://goo.gl/2xFWS1
• อุบาสิกา ฉบับสามัญชน https://goo.gl/iwhkCA
ประเภท ชาดก
• ปัญญาบารมี หนทางการสร้างปัญญา http://goo.gl/LX9xYJ
• ชาดกเรื่องปัญญา https://goo.gl/nktWh5
• ชาดกเรื่องโปรด https://goo.gl/gWZyTT
ประเภท พระสูตร
• ภพนี้ภพหน้า ฉบับเติมเต็ม http://goo.gl/KQrxIt
• ทานบารมี สูตรลัดแห่งความสุข http://goo.gl/TfPejV
ประเภท เรียบเรียง
• ธรรมะจาก Siripunno Fanp@ge https://goo.gl/b7kiCb

การจองเวร 167
www.kalyanamitra.org
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
การให้ธรรมทาน ชนะการให้ทั้งปวง

www.kalyanamitra.org

You might also like