Professional Documents
Culture Documents
การก่อตัวของนโยบายสาธารณะ PDF
การก่อตัวของนโยบายสาธารณะ PDF
การก่ อตัวของนโยบายสาธารณะ
1
Thomas R. Dye, Understanding Public Policy 6thed (Englewood Cliffs, NJ: Prentice Hall, 1987),p.23 .
2
Charles L. Cochran and Eloise F Malone, Public Policy Perspectives and Choices (Me Graw - Hill, New
York, 1995), p. 39.
3
William N. Dunn, Public Policy Analysis an Introduction, 2nded. (Englewood Clifs, NJ: Prentice Hall, 1994)
pp.12-15.
4
ทศพร ศิริสัมพันธ์ “กรอบการวิเคราะห์นโยบายสาธารณะ” ใน เทคนิคการวิเคราะห์นโยบาย บรรณาธิการโดย
ทศพร ศิริสัมพันธ์ (กรุ งเทพฯ: สํานักพิมพ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2539), หน้า 2
5
อ่านรายละเอียดได้ในพฤทธิ สาน ชุมพล ,ระบบการเมืองความรู้เบื้องต้น (กรุ งเทพฯ: สํานักพิมพ์จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย, 2535) ,หน้า 32 - 44.
2
ภาพที่ 1 ตัวแบบเชิงระบบ
สภาพแวดล้ อม สภาพแวดล้ อม
ผลกระทบย้ อนกลับ
สภาพแวดล้ อม สภาพแวดล้ อม
1 ปัญหานโยบายสาธารณะ
นโยบายสาธารณะ ถูกกําหนดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการ และแก้ไขปั ญหาของสาธารณชน ดังนั้น
ก่อนจะมีการกําหนดเป็ นนโยบายจึงจําเป็ นต้องพิจารณาและกําหนดเสี ยก่อนว่าปั ญหาที่แท้จริ งนั้นคืออะไร เพื่อที่หลังจาก
นโยบายนั้นได้ถูกนําไปปฏิ บตั ิ แล้ว จะได้สามารถแก้ปัญหาที่ เกิ ดขึ้ นนั้น ได้ และเรามักจะพบอยู่เสมอว่า การวิเคราะห์
3
6
William N. Dunn, Op, cit, P. 138
7
ทศพร ศิริสัมพันธ์ “ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ” (กรุ งเทพฯ: สํานักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2539) หน้า 122.
8
Charles E Lindblom, The Policy-Making Process อ้างใน โกวิทย์ กังสนันท์ “นักวิเคราะห์นโยบายและการ
เลือกปัญหานโยบายสาธารณะ,”วารสารพัฒนบริ หารศาสตร์ 30(ตุลาคม - ธันวาคม 2533), หน้า 130
9
เรื่ องเดียวกัน หน้า 132
10
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับปั ญหาสังคมได้ใน พิทยา สายหู กลไกของสังคม (กรุ งเทพฯ: สํานักพิมพ์จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย ,2538) ,บทที่ 13.
4
2 คุณลักษณะของปัญหานโยบาย
การกําหนดปัญหานโยบายนั้นมีความสําคัญมาก เนื่องจากเมื่อระบุปัญหาที่แน่ชดั แล้ว สาเหตุแห่งปั ญหาจะ
ถูกกําหนดเป็ นแนวทางในการแก้ปัญหา ซึ่ งมี อยู่บ่อยครั้ งมากที่ มีการกําหนดนโยบายที่ ผิด และไม่สามารถแก้ไขสภาพ
ปั ญหาที่แท้จริ งได้ และซํ้าร้ายยังก่อให้เกิดปั ญหาเลวร้ายต่าง ๆ ตามมาอีก ซึ่ งความผิดพลาดนี้ เรี ยกว่า ความผิดพลาดแบบที่
สาม (Type III Error) คือการพยายามหาคําตอบที่ถูกต้องให้กบั คําถามที่ผิด นโยบายต่าง ๆ ที่ถูกกําหนดขึ้น มุ่งแก้สิ่งที่มิใช่
ปั ญหาสิ่ งที่เป็ นปั ญหาจึงไม่ได้รับการแก้ไข และยังคงเป็ นปั ญหาอยูเ่ รื่ อยไป11 เช่นกรณี ที่ป่าไม้ถูกทําลาย และถูกบุกรุ กจาก
ประชาชน โดยพิจารณาว่าการที่ประชาชนบุกรุ กป่ าสงวนเนื่ องจากขาดที่ทาํ กิน ดังนั้น รัฐบาลจึงได้กาํ หนดโครงการสิ ทธิ ที่
ทํากินของราษฎร โดยมีการออกเอกสารสิ ทธิ์ ที่ทาํ กิน (สทก.) ให้แก่ประชาชน โดยมีเงื่อนไข 2 ประการ คือ ห้ามจําหน่าย
โอน หรื อให้เช่า ยกเว้นโอนให้ทายาท และถ้าไม่ได้ทาํ ประโยชน์ในพื้นที่น้ นั เป็ นระยะเวลาต่อเนื่อง 2 ปี สิ ทธิ น้ นั จะถูกถอน
คืนโดยทางราชการ ปรากฏว่าโครงการนี้ ช่วยทําให้ราษฎรมีที่ทาํ กินในป่ าสงวนเสื่ อมโทรม แต่ไม่สามารถอนุรักษ์พ้ืนที่ป่า
ไว้ได้ เนื่ องจากปรากฏว่า มีอยูเ่ หลือไม่ถึงร้อยละ 50 ของผูท้ ี่ได้รับ สทก.1 ที่ยงั คงทํากิ นในที่ดินเดิม ส่ วนใหญ่จะขาย
กรรมสิ ทธิ์ ในการทํากินให้แก่ผอู้ ื่นโดยมิได้โอนกันทางเอกสาร แต่เป็ นวิธีที่ยอมรับกันในชุมชน ซึ่ งก็เพียงแต่ผซู้ ้ื อเข้ามาทํา
กิ นในพื้นที่ ดงั กล่าวแทนเจ้าของเดิ มและเจ้าของเดิ ม ก็เข้าไปบุกเบิ กหาที่ ทาํ กิ นในป่ าแห่ งใหม่ต่อไป ดังนั้น โครงการนี้
นอกจากไม่สามารถป้ องกันการทําลายป่ าไม้ได้ ยังเสริ มให้มีการเร่ งทําลายพื้นที่ป่ารวดเร็ วยิ่งขึ้นไปอีก12 ดังนั้นปั ญหาที่
แท้จริ งของชาวบ้านเหล่านี้ คืออะไร มิใช่เรื่ องสิ ทธิ ในที่ทาํ กินเพราะกรณี สิทธิ ที่ทาํ กินเป็ นเพียงสาเหตุแห่งปั ญหาเท่านั้น แต่
ปัญหาที่แท้จริ งคือประชาชนกลุ่มเหล่านี้ ยากจนขาดแคลนอาชีพเสริ มเพื่อเลี้ยงดูชีวติ และครอบครัวให้อยูร่ อดและมีความสุ ข
ได้ ดังนั้น โครงการสิ ทธิ ที่ทาํ กิน จึงเป็ นลักษณะของการกําหนดปั ญหาที่ผิดพลาด นอกจากไม่สามารถแก้ไขปั ญหาได้แล้ว
ยัง ก่ อ ให้เ กิ ด ปั ญ หาอื่ นๆ ตามมาอี ก ดัง นั้น ในการระบุ ป ระเด็น ปั ญ หานโยบายควรจะได้มี ก ารทํา ความเข้า ใจเกี่ ย วกับ
11
ความผิดพลาดแบบที่หนึ่ง คือ การปฏิเสธสมมติฐานที่ถกู และความผิดพลาดแบบที่สอง คือการยืนยันหรื อ
ยอมรับสมมติฐานที่ผดิ ใน ศุภชัย ยาวะประภาษ, นโยบายสาธารณะ (กรุ งเทพฯ: สํานักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,
2538) ,หน้า 38.
12
อ่านรายละเอียดได้ใน สถาบันนโยบายศึกษา ,นโยบายข้อเสนอในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่ าไม้ ศึกษาจาก
ประสบการณ์ของโครงการ คจก.,” เรื่ องเดิม
5
13
William N. Dunn, Op.,cit, pp40 - 142 .ละใน ศุภชัย ยาวะประภาษ, เรื่ องเดิม หน้า 39-40.
14
อ่านรายละเอียดได้ใน เตียง ผาดไธสง ,การล่มสลายของสังคมไทยเนื่องจากการวางแผนครอบครัว (กรุ งเทพฯ:
เคล็ดไทย , 2539)
6
โครงสร้ างปัญหาสาธารณะ
องค์ ประกอบ ค่ อนข้ างดี ปานกลาง ไม่ ดี
ผูก้ าํ หนดนโยบาย น้อยมาก น้อยมาก มาก
ทางเลือก จํากัด จํากัด ไม่จาํ กัด
อรรถประโยชน์ เป็ นเอกฉันท์ เป็ นเอกฉันท์ ไม่เป็ นเอกฉันท์
ผลกระทบ แน่นอน ไม่แน่นอน ไม่ทราบแน่ชดั
โอกาสความเป็ นไปได้ คํานวณได้ คํานวณไม่ได้ คํานวณไม่ได้
ที่มา: William N Dunn, Public Policy Analysis an Introduction, 2 nd ed (Englewood, NJ: Prentice Hall, 1994) P. 146.
3 การก่ อตัวนโยบายสาธารณะ
นโยบายสาธารณะจะเริ่ มขึ้น เมื่อมีความรู ้สึกถึงปั ญหาโดยคุณลักษณะนั้นต้องเป็ นลักษณะปั ญหาสังคม หรื อ
ปั ญหานโยบาย อันเป็ นปัญหาของสาธารณชนโดยส่ วนรวม บทบาทของผูว้ เิ คราะห์นโยบายคือ การวิเคราะห์และพิจารณาว่า
สภาพปั ญหาที่ แท้จริ งคืออะไร และอะไรคือสาเหตุแห่ งปั ญหานั้น แต่ผวู้ ิเคราะห์นโยบายไม่ได้มีบทบาทในการตัดสิ นใจ
กําหนดนโยบาย ดังนั้น ในขณะที่ ในสังคมปั จจุ บนั มี ปัญหามากมาย ซึ่ งบางปั ญหาจะได้รับความสนใจกําหนดออกเป็ น
นโยบายสาธารณะ บางปั ญหาไม่ได้รับความสนใจที่จะถูกนําเข้าวาระนโยบายจากผูม้ ีอาํ นาจกําหนดนโยบาย ดังนั้น คําถาม
คือทําอย่างไรปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น จึงจะถูกนําเข้า วาระนโยบาย (policy agenda) และใครมีบทบาทเกี่ยวข้องบ้าง
15
ปุระชัย เปี่ ยมสมบูรณ์ ,การวิจยั ประเมินผลหลักการและกระบวนการ (กรุ งเทพฯ: การพิมพ์พระนคร,
2529), หน้า 158.
7
16
ทศพร ศิริสัมพันธ์ เรื่ องเดิม หน้า 127.
17
Charles L. Cochran and Eloise F. Malone., OP. Cit., pp 40-41 .
18
แก้วสรร อติโพธิ์ , “การมีส่วนร่ วมของประชาชน: กุญแจสําคัญในการพัฒนาระบอบประชาธิ ปไตย,”ใน
ประเทศไทยมุ่งเข้าสู่ ศตวรรษที่ 21 ประเด็นสําคัญในนโยบายสาธารณะและต่างประเทศของประเทศไทยในทศวรรษหน้า
บรรณาธิ การโดย อภิญญา รัตนมงคลมาศ และฐิ นินนั ท์ พงษ์ทธิ์ รักษ์(กรุ งเทพฯ:สถาบันศึกษาความมัน่ คงและนานาชาติ
ร่ วมกับสถาบันนโยบายศึกษา, 2537) ,หน้า 18.
8
ภาพที่ 2 แสดงบทบาทพรรคการเมืองกับการกําหนดนโยบายสาธารณะ
บริ หารบ้านเมืองและ
พรรคร่ วมรัฐบาล
กําหนดนโยบาย
พรรคการเมือง สาธารณะ
ประชาชน เลือกตั้ง
ควบคุมตรวจสอบ
พรรคฝ่ ายค้าน
19
อ่านรายละเอียดลักษณะของนโยบายพรรคในการเลือกตั้ง ได้ใน กีรติพงศ์ แนวมาลี และคณะ, นโยบายพรรค
การเมืองไทยในการเลือกตั้ง 2538(กรุ งเทพฯ:สถาบันนโยบายศึกษา ,2538)
9
จริ ง หรื อแม้กระทัง่ กลุ่มผลประโยชน์ ที่มีความสัมพันธ์กบั ผูม้ ีอาํ นาจตัดสิ นใจกําหนดนโยบายสาธารณะก็ตาม ต่างมีส่วนใน
การริ เริ่ มและผลักดันให้เกิดเป็ นนโยบายสาธารณะ โดยผ่านทางคณะรัฐมนตรี ท้ งั สิ้ น
3.2 ระบบราชการ ระบบราชการนี้ จดั เป็ นส่ วนประกอบที่สําคัญในการริ เริ่ มนโยบายหรื อทําให้ปัญหา
สาธารณะหรื อปั ญหาสังคมได้รับการพิจารณา บทบาทของระบบราชการนี้ ดงั จะเห็ นได้ว่า ระบบราชการที่อยู่ในองค์กร
ส่ วนกลาง เช่น กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สํานักงบประมาณ ธนาคารแห่งประเทศไทย และ
ในคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้น จะมีบทบาทเป็ นอย่างมากในการเสนอนโยบาย และพิจารณาผลักดันนโยบายให้
ออกมาเป็ นรู ปธรรมจนอาจกล่าวได้วา่ การริ เริ่ มนโยบายแทบทุกอย่างจะมาจากข้าราชการทุกระดับในกระทรวงมากกว่าจาก
กลุ่มพลังภายนอก20
3.3 สถาบันการศึกษา นักวิชาการอิสระและสถาบันทางการเมืองที่ไม่เป็ นทางการ องค์ประกอบส่ วนนี้
ถึงแม้วา่ จะไม่มีบทบาทในการกําหนดนโยบายหรื อตัดสิ นนโยบายโดยตรง แต่ในปั จจุบนั จะเห็นว่าได้มีบทบาทเพิ่มมากขึ้น
ในการชี้ ประเด็นปั ญหาที่ เกิ ดขึ้ นในสังคม ดังเช่ นมี การศึ กษาวิจยั ถึงสภาพปั ญหาเชิ งวิชาการและเสนอให้เป็ นที่ รับรู้ ใน
สาธารณชน มีการทําโพลสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนต่อประเด็นสาธารณะต่างๆ โดยเฉพาะนักวิชาการที่มีความ
ชํานาญ เฉพาะสาขาวิชาตน จะให้ขอ้ คิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นสาธารณะได้ดีและน่าเชื่อถือ อีกทั้งนักวิชาการต่าง ๆ มักจะได้
มีโอกาสเข้าเป็ นที่ปรึ กษากับคณะรัฐมนตรี และผูม้ ีอาํ นาจในการกําหนดนโยบายสาธารณะ ทําให้มีโอกาสผลักดันให้ปัญหา
สังคมถูกบรรจุในวาระนโยบายจนสามารถกําหนดเป็ นนโยบาย
3.4 สรุป
การก่ อตัวเป็ นนโยบายสาธารณะ จะเริ่ มที่กระบวนการในการพิจารณาสภาพแห่งปั ญหาโดยปั ญหาที่จะได้รับ
การกําหนดเป็ นนโยบายนั้นจะต้องมีลกั ษณะที่เป็ นปั ญหาสังคม อันหมายถึง สภาพปั ญหาที่เกิดขึ้นกับกลุ่มคนในสังคม
จํานวนมากและต้องการให้มี การแก้ไขให้มีส ภาพที่ ดีข้ ึ นโดยรั ฐบาลต้องเข้ามาช่ วยโดยการนําทรั พยากรส่ วนรวมของ
ประเทศมาดําเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
คุณลักษณะของปั ญหานโยบายกล่าวคือ มีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กนั (interdependence) ความเป็ นอัตนัยของ
ปั ญหา (subjectivity) ความไม่มีตวั ตนแท้จริ งของปั ญหา (artificiality) ความเป็ นพลวัตของปั ญหา (dynamism) ถ้าจะ
พิจารณาให้ดีแล้วจะพบว่าที่แท้จริ งในสังคมจะมีปัญหาที่เข้าสู่ ปัญหาสังคมมากมาย แต่ปัญหาบางปั ญหาได้รับการกําหนด
เป็ นนโยบาย ปั ญหาบางปั ญหาไม่ได้รับการกําหนดเป็ นนโยบาย ปั ญหาใดจะได้รับการผลักดันออกมาเป็ นนโยบายได้
หรื อไม่น้ นั ขึ้นอยูก่ บั คณะรัฐมนตรี ระบบราชการ สถาบันการศึกษา นักวิชาการอิสระ และสถาบันทางการเมืองที่ไม่เป็ น
ทางการ เป็ นสําคัญ
20
ชัยอนันต์ สมุทวณิ ช, ไตรลักษณ์กบั การเมืองไทย (กรุ งเทพฯ: สถาบันนโยบายศึกษา,2538) ,หน้า 259.