Professional Documents
Culture Documents
บทที่6
บทที่6
3. TPM คือ ระบบการบํารุ งรักษาของทุกคนที่มีส่วนได้ส่วนเสี ยกับเครื่ องจักรอุปกรณ์ ได้แก่ ผูว้ างแผนการผลิต ผูใ้ ช้เครื่ อง
และฝ่ ายซ่อมบํารุ ง
4. TPM คือ ระบบการบํารุ งรักษาที่อยูบ่ นพื้นฐานของการมีส่วนร่ วมตั้งแต่ผบู ้ ริ หารระดับสูงจนถึงผูใ้ ช้เครื่ อง
ขั้นตอนที่ 1 : ประกาศการตัดสิ นใจของผูบ้ ริ หารสู งสุ ดในการนํา TPM มาใช้การประกาศการตัดสิ นใจของผูบ้ ริ หารสามารถ
ทําได้โดยผ่านการสื่ อสารรู ปแบบต่างๆ ที่มีการใช้กนั ภายในบริ ษทั เช่น การประชุม การจัดบอร์ดเผยแพร่
หนังสื อและนิตยสารภายใน
ขั้นตอนที่ 4 : กําหนดปรัชญา นโยบาย และเป้ าหมาย TPM การกําหนดปรัชญา นโยบาย และเป้ าหมายของ TPM สามารถ
ทําได้โดยเทียบเคียงกับอุตสาหกรรมใกล้เคียง หรื อกําหนดขึ้นเองโดยพิจารณาจากสภาพแวดล้อมใน
ปั จจุบนั
ขั้นตอนที่ 6 : จัดพิธีเปิ ด TPM อย่างเป็ นทางการ จัดพิธีเปิ ดโดยการเชิญลูกค้า บริ ษทั ในเครื อ หรื อบริ ษทั พันธมิตรเข้าร่ วมพิธีดว้ ย
ขั้นปฏิบัติการ
ขั้นตอนที่ 7 : การเพิม่ ประสิ ทธิภาพการผลิต
ขั้นตอนที่ 7.1 : การปรับปรุ งเฉพาะเรื่ อง (เสาหลักที่ 1)
โดยทีมเฉพาะกิจและทีมกิจกรรมกลุ่มบํารุ งรักษา
ขั้นตอนที่ 7.2 : การบํารุ งรักษาด้วยตนเอง (เสาหลักที่ 2)
ดําเนินการ 7 ขั้นตอนของการบํารุ งรักษาด้วยตนเอง และการประกวดกิจกรรมกลุ่มบํารุ งรักษาด้วยตนเอง
ขั้นตอนที่ 7.3 : การบํารุ งรักษาตามแผน (เสาหลักที่ 3)
การเตรี ยมพร้อมรับความความเสี ยหาย การป้องกันความเสี ยหาย การพัฒนาและปรับปรุ งเครื่ องจักร
ขั้นตอนที่ 7.4 : การฝึ กการอบรม
ขั้นตอนที่ 8 : การคํานึงถึงการบํารุงรักษาตั้งแต่ ข้นั การออกแบบ (เสาหลักที่ 5)
พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ดีข้ ึน ให้เร็วขึ้น ให้ผลิตได้ง่าย และให้บาํ รุ งรักษาได้ง่าย
ขั้นปรับปรุงและยกระดับ TPM
ขั้นตอนที่ 9 : จัดทําระบบการบํารุงรักษาเพื่อคุณภาพ (เสาหลักที่ 6)
สร้างเงื่อนไขการผลิตที่จะไม่ทาํ ให้เกิดของเสี ย และการบํารุ งรักษาเพื่อรักษาสภาพเงื่อนไขดังกล่าวไว้
การบํารุงรักษาด้วยตนเองเป็ นการทํากิจกรรมบํารุงรักษาในลักษณะของกิจกรรมกลุ่มย่อย
โดยแต่ละกลุ่มมีหน้าทีด่ แู ลรักษาเครือ่ งจักรของตนเอง ภายใต้ความคิดทีว่ า่ "ไม่มใี ครเข้าใจ
เครือ่ งจักรได้ดเี ท่ากับผูใ้ ช้เครือ่ ง" "ไม่มใี ครคอยสังเกตสิง่ ผิดปกติได้ดเี ท่ากับผูใ้ ช้เครือ่ ง" "ไม่ม ี
ใครคอยดูแลรักษาเครือ่ งจักรได้ดเี ท่ากับผูใ้ ช้เครือ่ ง" และทีส่ าํ คัญหากเครือ่ งจักรเกิดความ
เสียหายขึน้ "ไม่มใี ครได้รบั ผลกระทบมากเท่ากับผูใ้ ช้เครือ่ ง"
การบํารุงรักษาด้วยตนเองคืออะไร
1. การบํารุงรักษาด้วยตนเอง คือ การปกป้ องเครื่องจักรของตนเอง
คําว่า "บํารุงรักษาเครื่องจักรด้วยตนเอง" หมายถึง ผูใ้ ช้เครื่องแต่ละคนสามารถทําการตรวจสอบประจําวัน หล่อลืน่
เปลีย่ นชิน้ ส่วนอะไหล่ ซ่อมแซมเบือ้ งต้น สังเกตความผิดปกติของเครื่อง และตรวจสอบอุปกรณ์หรือเครื่องจักรทีต่ น
เป็ นผูใ้ ช้งานอย่างละเอียดในบางครัง้ โดยมีวตั ถุประสงค์เพื่อ "ปกป้ องเครื่องจักรของตนเอง"
แต่สาํ หรับในบางอุตสาหกรรมทีท่ าํ การผลิตด้วยเครื่องจักรทีม่ คี วามซับซ้อนสูง หรือบริษทั ทีม่ กี ารขยายกําลังการผลิต
เป็ นไปได้วา่ บริษทั จะมีนโยบายให้ผใู้ ช้เครื่องมีหน้าทีแ่ ค่ทาํ การผลิตอย่างเดียว ในขณะทีฝ่ ่ ายซ่อมบํารุงจะเป็ นผูค้ อย
ดูแลบํารุงรักษาเครื่องทัง้ หมด ซึง่ นัน่ ก็คอื แนวความคิดทีว่ า่ "ผูม้ หี น้าทีใ่ ช้...ใช้ ผูม้ หี น้าทีซ่ ่อม....ซ่อม" แนวคิดเช่นนี้จะ
ทําให้ผใู้ ช้เครื่องคอยจับตาดูเฉพาะชิน้ งานทีอ่ อกมาโดยไม่สนใจสภาพของเครื่องจักร โดยฝ่ ายซ่อมบํารุงก็จะไม่
สามารถเข้าไปดูแลอะไรได้จนกว่าเครื่องจักรจะเสีย
ยิง่ ไปกว่านัน้ เมือ่ เครื่องจักรเกิดการเสียหาย ผูใ้ ช้เครื่องจะรูส้ กึ ว่า "ฝ่ ายซ่อมบํารุงไม่คอยดูแลให้ด"ี หรือ "เครื่องจักรไม่
ดี" ซึง่ ความคิดดังกล่าวเป็ นความคิดทีผ่ ดิ เนื่องจากว่า จริงๆ แล้ว ความเสียหายของเครื่องจักรสามารถป้ องกันได้
เพียงแค่ผใู้ ช้เครื่องคอยสอดส่องดูแลในเรื่องของการขันแน่ น การหล่อลืน่ และการทําความสะอาด นอกจากนัน้ ในขณะ
ทีเ่ ครื่องเริม่ แสดงอาการว่าจะเสีย ผูท้ ป่ี ระสบเป็ นคนแรกก็คอื ผูใ้ ช้เครื่องนัน่ เอง
ดังนัน้ ไม่วา่ จะเป็ นอุตสาหกรรมประเภทใด เครื่องจักรซับซ้อนเพียงใด ผูใ้ ช้เครื่องยังคงมีบทบาทสําคัญในการ
"บํารุงรักษาเครื่องจักรด้วยตนเอง"
2. การบํารุงรักษาด้วยตนเอง คือ การเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญในการใช้เครื่องจักรของตนเอง
เพือ่ ให้สามารถบํารุงรักษาเครือ่ งจักรของตนเองได้ ผูใ้ ช้เครือ่ งต้องเป็ นผูท้ เ่ี ชีย่ วชาญในการใช้
เครือ่ งจักรของตนเอง กล่าวคือ ผูใ้ ช้เครือ่ งต้องสามารถทําการปรับปรุงเครือ่ งจักรประจําวันได้
เช่น การทําความสะอาด การหล่อลื่น และการตรวจสอบ การพิจารณาออกแบบ หรือการหา
ระบบอัตโนมัตเิ ข้ามาช่วยในการผลิต ซึง่ ถือเป็ นความจําเป็ นทีผ่ ใู้ ช้เครือ่ งต้องพัฒนาต่อไป
ความจําเป็ นขันพื
้ น้ ฐานในการบํารุงรักษาเพือ่ คุณภาพ คือ การทําให้เครือ่ งจักร
อุปกรณ์ และเครือ่ งมือ อยูใ่ นสภาพทีด่ ี มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่นเดียวกับ
สภาพแวดล้อม ทักษะ และวิธกี ารทํางาน ทีต่ อ้ งเอือ้ อํานวยต่อการเกิดคุณภาพ และเพือ่ ให้
บรรลุความจําเป็ นขันพื ้ น้ ฐานดังกล่าว จึงมีความจําเป็ นอย่างยิง่ ทีต่ อ้ งเพิม่ วัตถุประสงค์ในการ
มุง่ มั ่นไม่ให้เกิดของเสียเข้าไปใน 5 เสาหลักของ กิจกรรม TPM อันประกอบไปด้วย การ
ปรับปรุงเฉพาะเรือ่ ง การบํารุงรักษาด้วยตนเอง การบํารุงรักษาตามแผน การคํานึงถึงการ
บํารุงรักษาตัง้ แต่ขนตอนของการออกแบบ
ั้ การพัฒนาทักษะการปฏิบตั งิ านและการ
บํารุงรักษา
ในภาพจะเห็นได้วา่ การปรับปรุงเฉพาะเรื่อง จะเพิม่ เติมเรือ่ งของการปรับปรุงและการแก้ปัญหา
ทางด้านคุณภาพเข้าไปด้วย ในขณะที่ การบํารุงรักษาด้วยตนเอง จะเพิม่ เติมทักษะในเรือ่ งของการ
สังเกตและแก้ไขปั ญหาทางด้านคุณภาพเข้าไป ในส่วนของ การบํารุงรักษาตามแผน จะเพิม่ เรือ่ งของการ
ตรวจสอบเงือ่ นไขทางด้านคุณภาพเข้าไปในแผนการบํารุงรักษาตามคาบเวลา เพือ่ เป็ นการติดตามความ
เบีย่ งแบนของเงือ่ นไขต่างๆ ว่าอยูใ่ นระดับทีย่ อมรับได้หรือไม่ สําหรับการ คํานึ งถึงการบํารุงรักษาตัง้ แต่
ขัน้ ตอนของการออกแบบ จําเป็ นทีจ่ ะต้องสร้างเงือ่ นไขต่างๆ ทีค่ ดิ ว่า จะทําให้เกิดการผลิตได้อย่างมี
คุณภาพ ทัง้ การออกแบบเครือ่ งจักรและการออกแบบผลิตภัณฑ์
Pillar 7 - กิจกรรม TPM ในสํานักงาน
(TPM in Office)
หน่วยงานทีไ่ ม่ได้ทาํ การผลิตโดยตรง เช่น ฝ่ ายบริหาร ฝ่ ายวิจยั และพัฒนา ฝ่ าย
จัดซือ้ ควรจะให้การสนับสนุ นงานในส่วนของการผลิตให้สาํ เร็จลุลว่ งไปด้วยดีโดยการ
นําแนวคิดกิจกรรม TPM มาประยุกต์ใช้ในงานเพือ่ ลดความสูญเสียในงานสํานักงาน