Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 44

จุดประสงค์ การเรี ยนรู้

1. เพื่อให้ผเู้ รี ยนมีความรู้ความทราบถึงความหมาย ความสาคัญ คุณค่าของดอกไม้


2. เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของดอกไม้และใบไม้
3. เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกซื้ อดอกไม้สด
4. เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลรักษาดอกไม้สด
5. เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้ความเข้าใจการฟื้ นตัวของดอกไม้
ประวัติความเป็ นมาของการจัดดอกไม้::
เพื่อเป็ นแนวทางการศึ กษาค้นคว้าหาข้ออ้างอิง เพื่ อใช้ประกอบเป็ น
หลักฐานทางด้านประวัติผปู้ ระดิษฐ์คิดนาดอกไม้สด มาใช้ในพิธีเป็ นครั้งแรกหรื อ
บุคคลแรก เพื่อไว้เ ป็ นหลัก ฐานเรื่ องราวให้ชนรุ่ นหลัง ได้ทราบประวัติความ
เป็ นมารวมทั้งข้อสันนิ ษฐานว่าบรรพบุ รุษได้นาดอกไม้ ที่มีความสวยงามตาม
ธรรมชาติมาใช้อย่างเป็ นพิธีการ เช่ น นามาจัดบูชาพระรัตนตรัย นามาจัดประดับ
ตกแต่ ง สถานที่ ใ นงานทัว่ ไปและในพิ ธี ส าคัญ เพื่ อ ให้ มี ค วามสดชื่ น สวยงาม
หรู หราและตื่นตา และเป็ นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสี สันหลากหลายของดอกไม้
และได้สืบทอดมาจนถึงปั จจุบนั นี้
ตามหลัก ฐานที่ ไ ด้ศึ ก ษาค้น คว้า ในหนัง สื อ พระราชพิ ธี สิ บ สองเดื อ นในพระบาทสมเด็ จ พระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระนิ พนธ์ไว้ เมื่อปี ชวด พ.ศ.2431 ได้ทรงบันทึกเหตุการณ์ ที่เกิ ดขึ้นในสมัยกรุ ง
สุ โขทัย ได้กล่าว ถึงนางนพมาศ หรื อท้าวศรี จุฬาลักษณ์ ได้ตกแต่งโคมลอย เพื่อใช้ในพิธีสิบสองเดือนและพระ
ราชพิธีการลอยพระประทีป ซึ่ งได้ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สด ผลไม้แกะสลัก มาประดับตกแต่งโคมลอยให้มี
ความสวยงามยิ่งและได้ทรงกล่าวไว้วา่ ท้าวศรี จุฬาลักษณ์ ซึ่ งเป็ นพระสนมเอกแต่ครั้งพระเจ้าอรุ ณมหาราช คือ
พระร่ วงเจ้าเป็ นพระเจ้าแผ่นดินสยามตั้งแต่อยู่ ณ เมืองสุ โขทัย ในพระราชนิ พนธ์ได้กล่าวว่า นางนพมาศได้เข้า
รับราชการได้คิดอ่านทากระทงดอกไม้พระเจ้าแผ่นดิน ประดิษฐ์เป็ นรู ปดอกบัว
จากหลักฐานอ้างอิงได้กล่าวมา น่าจะเป็ นหลักฐานที่เชื่ อถือได้ว่า นางนพมาศหรื อท้าวศรี จุฬาลักษณ์
เป็ นสตรี ไทยท่านแรกที่เป็ นผูร้ ิ เริ่ มนาเอาดอกไม้สดมาใช้ในพิธีการตั้งแต่กรุ งสุ โขทัยเป็ นครั้งแรก และได้สืบ
ทอดกันมาจนถึงปั จจุบนั นี้
ข้อความในประวัติการร้อยลัย (จันทนา สุ วรรณมาลี , 2529) ได้เขียนไว้ในหนังสื อตอนหนึ่ งว่า “บรรพ
บุ รุ ษ ของไทยเรามี ชื่ อ สี ย งในงานด้า นศิ ล ป์ อย่า งมากมาย โดยเฉพาะการน าดอกไม้ส ดมาประดิ ษ ฐ์เ ป็ น
พวงดอกไม้และนามาประดิษฐ์ตกแต่งโคมลอย ได้สวยงามของนางนพมาศแล้ว ” ยังมีหลักฐานได้กล่าวไว้ตอน
หนึ่งว่า “ในเดือนเมษายน มีพระราชพิธีสนามใหญ่ บรรดาเจ้าเมือง เศรษฐี คหบดี เข้าเฝ้ าบังคมพระร่ วงเจ้า เพื่อ
ถวายเป็ นเครื่ องบรรณาการ พระสนมกานัลต่างๆ ก็ร้อยกรองดอกไม้เป็ นรู ปสัตว์ต่างๆ และในครั้งนั้นนางนพ
มาศก็ร้อยดอกไม้สีเหลืองเป็ นรู ปพานทองสองชั้นเป็ นระย้าสองชั้น งดงามใส่ ลงในพานขันหมากเมี่ยงแล้วร้อย
ดอกไม้เป็ นตาข่ายคลุมขันอีกชั้นหนึ่ ง ดูเป็ นที่เจริ ญตาและถูกฤดูกาลเทศะอีก สมเด็จพระร่ วงเจ้าทรงบัญญัติวา่
ถ้าชาวไทยทาการรั บสนามใหญ่ มี อาวาหมงคลหรื อลิ ลาหมงคล เป็ นต้น ในการกรองดอกไม้เป็ นรู ปพาน
ขันหมาก ดังนี้เรี ยกว่า พานขันหมาก”

ในสมัยรัตนโกสิ นทร์ เริ่ มต้นรัชกาลสื บมา งานฝี มือด้านประดิษฐ์ดอกไม้สดเป็ นที่ยอมรับในฝี มือและมี


ชื่อเสี ยงมาก เป็ นที่นิยมประดิษฐ์ จัดดอกไม้สดในงานต่างๆ ทัว่ ไป โดยเฉพาะในพระราชพิธีต่างๆ ในสมัย
รัชกาลที่ 5ทรงมีพระราชนิยมการทาดอกไม้มากมาย จัดดอกไม้มากมาย จัดถวายให้ทรงใช้ในงานนั้นๆ เสมอ
พระมเหสี เทวีทุกตาหนัก ใฝ่ พระทัยในการจัดดอกไม้ไปตามๆกัน แต่ละพระองค์ต่างก็มีชื่อเสี ยงในด้านต่างๆ
ตามๆกัน สมเด็ จ พระศรี พ ชั ริ น ทรา พระบรมราชิ นีน าถ (พระพัน ปี หลวง) ครั้ งด ารงพระอิ ส ริ ย ยศเป็ น
พระบรมราชิ นีนาถ ได้โปรดเกล้าฯให้ฝึกอบรมข้าหลวงและครู โรงเรี ยนราชิ นีให้รู้จกั ทาดอกไม้แห้งแทน
ดอกไม้สดด้วย ทรงส่ งเสริ มฟื้ นฟูการทาดอกไม้เป็ นอันมาก พระองค์เองก็ใช้เวลาว่างประดิษฐ์ดดั แปลงการทา
ดอกไม้แบบเก่าๆ ให้แปลกพิสดารไปอีกมีพระนามเลื่องลือในการร้อยมาลัยมะลิเป็ นมาลัยสี ขาวกลม ซึ่ งเป็ น
มาลัยธรรมดาไม่มีลวดลายและต่อมาได้พลิกแพลงมาเป็ นมาลัยสลับสี เป็ นมาลัยเกลียว ซึ่ งมีความสวยงามและ
เป็ นลวดลายสี สันขึ้น
หนังสื อชุดมรดกไทย “สัญลักษณ์วนั แม่ ชื่ อมะลิ” (มณี รัตน์ จันทนะผะลิน, 2526)ได้เขียนประวัติและ
ที่มาได้นามาเป็ นข้ออ้างอิงโดยได้กล่าวถึงประวัติเริ่ มต้นของคนไทย ที่รู้จกั การนาดอกไม้มาร้อยเป็ นพวงมาลัย
ไว้ตอนหนึ่งในหนังสื อ พระราชพิธีสิบสองเดือน ดังนี้ “แต่โบราณสมัยก่อนกรุ งสุ โขทัย บรรพบุรุษของไทยได้
คิดประดิษฐ์ ใบไม้ เป็ นแบบต่างๆ มากมายแต่ไม่ผใู ้ ดจดบันทึกไว้ในอนุ ชนรุ่ นหลังได้คน้ คว้า จนถึงสมัยสมเด็จ
พระร่ วงเจ้ามีนางนพมาศซึ่ งเป็ นพระสนมเอกในสมัยนั้น ได้จดบันทึกเรื่ องราวของตนเองไว้ นางเองเป็ นหญิง
นักปราชญ์ มีความรอบรู ้ในพิธีการต่างๆ งานประดิษฐ์ งานฝี มือและอื่นๆ ตลอดจนมีความรู้ทางหนังสื อ ด้วย
ความปรี ชาสามารถของนางนพมาศ เราจึงได้มีโอกาสทราบว่า การจัดดอกไม้ของไทยมีจุดเริ่ มต้นแต่สมัยนั้น
เป็ นต้นมา”
การจัดดอกไม้คือ ::
การนาทุกส่ วนของต้นไม้ ตั้งแต่ดอกใบ ก้าน ลาต้น หน่ อ เป็ นต้น มาจัดแต่งให้
สวยงาม แต่ใหญ่เราใช้ใบและดอกเท่านั้น การจัดดอกไม้ให้สวยงามยิ่งขึ้น บางครั้งจะต้อง
นาสิ่ งอื่นมาร่ วมจัดด้วย เช่น กระดาษ ริ บบิ้น โบ ผ้า ตัวสัตว์ มาแต่งประดับ แต่สิ่งเหล่านั้น
จะต้องถูกเคลือบด้วยน้ ายากันเปี ยกก่อนนามาใช้ การจัดดอกไม้จึงประกอบไปด้วยวัสดุ -
อุปกรณ์ในการจัดดอกไม้ ผูจ้ ดั ดอกไม้จึงควรเรี ยนรู้องค์ประกอบของการจัดดอกไม้
1 เพื่อให้ผเู้ รี ยนมีความรู้ความทราบถึงความหมาย ความสาคัญ คุณค่าของดอกไม้

2 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของดอกไม้และใบไม้

3 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกซื้ อดอกไม้สด

4 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลรักษาดอกไม้สด

5 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้ความเข้าใจการฟื้ นตัวของดอกไม้

1 การจัดดอกไม้ทุกครั้งต้องใส่ น้ า เพราะน้ าเป็ นอาหารของดอกไม้ ทาให้อายุการใช้งานอยูไ่ ด้นาน


2 ภาชนะที่ใช้จดั ดอกไม้ตอ้ งเก็บน้ าได้ ไม่รั่ว ไม่มีรอยร้าว ไม่มีรู้
3 การจัดดอกไม้ตอ้ งประกอบด้วยดอกและใบหรื อกิ่งเสมอ
4 ก่อนจัดจะต้องทาความสะอาดของที่นามาจัดทุกชิ้นให้สะอาด เพื่อยืดอายุการใช้งาน
5 ฟรอร่ าโฟม เป็ นอุปกรณ์ที่ใช้เป็ นที่ยดึ ดอกไม้ ก่อนนาไปใช้จะต้องแช่น้ าให้อิ่มตัวก่อนจะนาไปใช้จดั
การเลือกดอกไม้เพื่อจัดดอกที่เด่นที่สุดปั กตรงตรงจุดสนใจ ดอกที่มีความเด่นน้อยลงหลัน่ ลงไปปั กที่
6
อื่นๆที่ไม่ใช่จดั สนใจ ดอกยอดหรื อแนวข้างมักใช้ดอกเล็ก ดอกตูมหรื อแย้ม
7 หลักการจัดดอกไม้แบ่งออกเป็ นหลักใหญ่ๆได้ 2 แบบ คือ
การจัดจากด้านนอกเข้าสู่ ดา้ นในของแจกัน
การจัดดอกไม้จากจุดเด่นของแจกันสู่ เส้นรอบด้านของการจัดดอกไม้

8 การจัดดอกไม้จากจุดเด่นของแจกัน ถ้าอยูส่ ู งเกินไปจะทาให้เห็นก้านดอกไม้ เมื่อปักดอกไม้เสร็ จแล้วจะ


ไม่ค่อยสวย
9 มีดกรรไกรที่ใช้ในงานดอกไม้จะต้องคม สะดวกในการใช้ มิฉะนั้นทาให้ดอกไม้ใบไม้ซ้ าได้

10 วัสดุ-อุปกรณ์ทุกชนิดที่นามาใช้กบั งานดอกไม้ ควรเน้นสิ่ งที่ถูกน้ าได้ไม่เสี ยหาย เพราะงานที่ใช้กบั


ดอกไม้สดจะต้องฉี ดน้ าอยูเ่ สมอ
ดอกไม้เป็ นสื่ อแสดงความรู ้สึกของผูใ้ ห้ต่อผูร้ ับ ดอกไม้มีความสวยงาม มีเสน่ห์ บอกถึงความหมายอยูใ่ นตัว
ของดอกไม้เอง ดังนั้น การจัดดอกไม้จึงควรใช้ดอกไม้ให้เหมาะสมกันโอกาส
ดอกบัว (Lotus) ดอกบัวจัดเป็ นราชินีแห่งไม้น้ า ดอกบัวเกิดในน้ า เติบโตใน
น้ า แน่น้ าไม่เกติดดอกบัว เปรี ยบกับผูป้ ฏิบตั ิธรรม ไม่ติดอยูใ่ นตระกูล ในหมู่คณะ
ในลาภยศ สรรเสริ ญ สุ ข และในปั จจัยเครื่ องบริ โภคทั้งหลาย ตลอดจนไม่ติดอยูใ่ น
กิเลสทั้งมวล
ดอกกุหลาบ (Rose) ดอกกุหลาบจัดเป็ นราชินีแห่งดอกไม้บนบก ดอก
กุหลาบใช้แทนความรักที่เด็ดเดี่ยว ทรนง หนามกุหลาบ หมายถึง อุปสรรคขัดขวาง
ซึ่ งผูม้ ีความรักจะต้องฟันฝ่ าอุปสรรคทั้งมวล เพื่อให้ได้ดอกกุหลาบที่งดงามนั้นมาไว้
ในครอบครองด้วยความภาคภูมิ
สี ของดอกกุหลาบแต่ละสี ให้ความหมายที่แตกต่างกันไป
ซึ่ งผูม้ อบให้ควรจะได้เลือกใช้สีเหมาะสมกับโอกาส
ดอกกุหลาบสี แดง หมายถึง ความรักที่บริ สุทธิ์ เปรี ยบเสมือนเลือดเนื้อที่
อยูใ่ นกายของผูม้ อบให้ ต่อผูท้ ี่ตนรัก จึงนิยมใช้ในโอกาสครบรอบวันแต่งงาน วัน
แห่งความรัก ซึ่ งกันและกัน
ดอกกุหลาบสี เหลือง หมายถึง ความรักที่ห่วงหาอาทรซึ่ งกันและกัน
แสดงถึงความปรารถนาดี ต้องการให้สุขภาพแข็งแรง มีความสุ ขสดชื่น จึงนิยมใช้
เยีย่ มเยียนผูช้ ่วย
ดอกกุหลาบสี ขาว หมายถึง ความรักที่ซื่อ สดใส สะอาด บริ สุทธิ์ นิยมใช้
เพื่อแสดงความรักที่จริ งใจของตนเอง เช่น ผูใ้ ต้บงั คับบัญชามอบให้เจ้านาย ศิษย์
มอบให้ครู บาอาจารย์ ลูกมอบให้พอ่ แม่
ดอกมะลิ (Jasmine) หมายถึง ความบริ สุทธิ์ และสู งส่ ง เหมาะสาหรับผูท้ ี่ควร
บูชาหรื อใช้บูชาสิ่ งศักดิ์สิทธิ์ ที่น่านับถือ

ดอกทิวลิป (Tulip) หมายถึง ความสง่างาม เหมาะสาหรับมอบให้กบั ผูท้ ี่อยู่


ในฐานะแห่งการยกย่อง

ดอกซ่อนกลิ่น(Tuberose) ดอกซ่อนกลิ่นเป็ นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมรุ นแรง


และเป็ นดอกไม้ที่คนไทยในสมัยโบราณนิยมใช้จดั หน้าศพ เนื่องจากสมัยก่อน ยังไม่
มีการฉี ดยาศพกัน ดังนั้น เพื่อเป็ นการอาพรางกลิ่น จึงจาเป็ นต้องเสาะหาดอกไม้ที่มี
กลิ่นหอมรุ นแรงมากๆมาจัด เพื่อซุ กซ่อนกลิ่นอันไม่พึงปรารถนา

ดอกเบญมาศ (Chrysanthemum) ดอกเบญมาศเป็ นดอกไม้ที่มีสีสันสดใส


และมีความแข็งแรงทนทาน เหมาะสาหรับนาไปใช้ในงานที่ตอ้ งการความทนทาน
เป็ นพิเศษ เช่น การนาไปตกแต่งรถบุพชาติ หรื อประดับหน้างานพิธีการต่างๆ

ดอกคาร์ เนชัน่ (Carnation) จัดเป็ นดอกไม้ที่มีสีคราสสิ คซึ่งเป็ นสี ที่ชาว


ต่างประเทศชื่ นชอบ ดังนั้นจึงเห็นได้วา่ ช่อดอกไม้มือถือ และเข็มกลัดติดเสื้ อจะ
นิยมใช้ดอกคาร์ เนชัน่ กันมาก
ดอกเยอบีร่า (Yerbira) ดอกเยอบีร่าเป็ นดอกไม้ที่มีสัญลักษณ์ชูช่อโดเด่น
ปราดเปรี ยวและสง่างาม แต่มีสีสันอ่อนหวาน เปรี ยบเสมือนสาวงามที่มีความมัน่ ใจ
ในตัวเอง ดอกเยอบีร่า จึงมักนามาใช้ประดับในสถานที่ ที่มีบรรยากาศเป็ นแบบ
สมัยใหม่และสง่างาม หรื ออาจนามาประดับผมเจ้าสาว หรื อมวยผมของหญิงสาวใน
ชุดราตรี

ดอกแกลดิโอลัส (Gladiolus) ดอกแกลดิโอลัสเป็ นสัญลักษณ์ของ ความลุ่ม


หลง ถ้าได้รับดอกแกลดิโอลัส จากใคร แสดงว่าเขาคนนั้นต้องการ สารภาพว่ากาลัง
หลงใหลคลัง่ ไคล้คุณอยู่ อย่างจริ งจัง

ดอกทานตะวัน (Sunflower) ดอกทานตะวันเป็ นดอกไม้แทนความ หยิง่


ทะนง ไม่นิยมมอบดอกไม้น้ ี ให้แก่กนั

ดอกการ์ดิเนีย (Gardenia) ดอกการ์ ดิเนียหรื อดอกพุดฝรั่ง เป็ น ดอกไม้แห่ง


ความโชคดีมีชยั หากต้องการแสดงความปราถนาดี หรื อ อยากอวยพรให้ผใู้ ด
ประสบโชคดี ก็ควร มอบดอกไม้น้ ีให้แก่เขา
การที่คนเราจะจัดดอกไม้ได้อย่างสวยงามนั้น ควรจะศึกษาเรื่ องของลักษณะของดอกไม้ แต่ละแบบสามารถ
แบ่งได้เป็ น 4 ชนิดด้วยกัน คือ
1. ดอกไม้เป็ นช่อเป็ นแนว (Line Flower) คือ ดอกไม้ซ่ ึ งเป็ นดอกหรื อกลุ่มช่อดอก ที่เรี ยงขึ้นไปตาม
ความยาวของก้านดอก มักจะมีรูปทรงที่ดูเป็ นเส้นแนว เช่น ดอกประทุมมา แกลดิออลัส ลิ้นมังกร ฯลฯ

2. ดอกไม้กลีบซ้อน (Mass Flowers) คือดอกไม้ดอกเดี่ยวมีกลีบดอกมากและดูมีน้ าหนัก ดอกไม้


ประเภทนี้สามารถจัดวางเพื่อสร้างความสมดุลให้น้ าหนักสายตา และเมื่อนามาจับกลุ่มรวมกันก็จะเป็ นจุดอ่อน
ของการจัดได้เช่น ดอกเบญจมาศชนิดกลีบลา และชนิดกลีบซ้อน
3. ดอกไม้ที่มีรูปทรงเด่นชัด (Form Flowers) ดอกไม้พวกนี้มกั มีกลีบไม้มาก แต่เห็นรู ปทรงได้ชดั เจน
เช่น ลิลลี่ ทิวลิป กุหลาบ คาร์ เนชัน่ ดอกกระเจียว เบิร์ดออฟพาราไดซ์ กล้วยไม้คทั รี ยา หน้าวัว เป็ นต้น และด้วย
ลักษณะดอกเด่นของฟอร์ มฟลาวเวอร์ จึงมักจะถูกวางให้เป็ นจุดเด่นของการจัด

4. ดอกไม้แต่งเติม (Filler Flowers) คือดอกไม้กลีบที่มีรูปลักษณะเป็ นดอกเล็กๆ แระรายเป็ นกลุ่มช่อ


เช่น ยิบโซฟิ ลล่า แอสเตอร์ คัตเตอร์ เดซี่ สแตตีส แคสเปี ยร์ สร้องทอง ฯลฯ ใช้สาหรับแต่งเติมในการจัดเพื่อ
เพิ่มรายละเอียดในการจัด แต่หากใช้มากเกินไปจะทาให้ดูรกรุ งรัง
ลักษณะของใบไม้ ::

ใบไม้ที่ใช้ในการจัดดอกไม้ ถือได้วา่ เป็ นส่ วนสาคัญเช่นกันจะช่วยเสริ มแต่งแจกันดอกไม้สมบูรณ์


ยิง่ ขึ้น ใบไม้ที่นามาใช้ในการจัดดอกไม้ ซึ่ งมีอยูก่ ลายชนิดด้วยกัน เช่น กิ่งหลิว ทางหมาก ใบซานาดู ใบหมากผู้
หมากเมีย ใบเฟิ ร์ นมะขาม ใบโปร่ งฟ้ า
การเลือกดอกไม้ใบไม้ได้ลกั ษณะที่ดีเหมาะสมกับแบบการจัดและประโยชน์ใช้สอยเป็ นการลดภาระ
การเตรี ยม และการดูแลรักษาที่ตอ้ งพิถีพิถนั มาก ช่วยให้ช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และเงิน
กล่าวโดยสรุ ปว่า การเลือกซื้อดอกไม้ ใบไม้ตอ้ งดูให้ดอกไม้ ใบไม้มีลกั ษณะของดอกสดและแข็งแรง
ดอกไม้ที่เราได้ซ้ื อมาใช้กนั นั้นจะตัดจากต้นในเวลาเช้า และนามาแช่น้ าให้อิ่มตัว บางชนิดจะต้องเพิ่มความ
ยืดหยุน่ ขณะขนส่ ง โดยการทาให้สลดลง หลังจากนั้นจะนามามัดรวมเป็ นกาหุ ม้ ห่ อด้วยกระดาษหรื อพลาสติก
และสุ ดท้ายคือการนาจัดส่ งตลาดเพื่อกระจายสู่ ร้านค้าย่อยต่อไป
จะเห็นได้วา่ กว่าดอกไม้จะมาถึงมือของผูจ้ ดั จริ งๆนั้น จะผ่านมาหลายขั้นตอนจึงมักจะเกิดความบอบช้ า
ฉะนั้นเราจึงจาเป็ นต้องทาความเข้าใจถึงสภาพดอกไม้วา่ ถ้าเราต้องการซื้ อดอกไม้เราจะต้องสังเกตจากอะไรบ้าง
ก้าน จะต้องไม่เน่า โดยก้านจะต้องไม่ผา่ นการแช่น้ า มาเป็ นเวลานานจนกระทัง่ มีกลิ่นเหม็น
ใบ จะต้องไม่เหี่ ยวช้ าและเน่า จะต้องมีความแข็งแรงตามสภาพของใบไม้ชนิดนั้นๆ
กระเปาะดอก จะต้องไม่ลีบและแห้ง เมื่อใช้มือบีบดูจะรู ้สึกว่ากระเปาะจะแข็ง
กลีบดอก จะต้องไม่ช้ า ไม่เหี่ ยว และเน่า

โดยทัว่ ไปดอกไม้ที่เราจะเลือกซื้ อนั้นจะต้องเลือกที่ความสดให้มากที่สุด


ฉะนั้นจะต้องมีความรู ้สึกและความเข้าใจในสภาพของดอกไม้แต่ละชนิด ซึ่ งย่อมจะต้องมีความแตกต่าง
กันออกไป นอกจากนั้นควรดูเหตุผลอื่นๆ มาใช้เป็ นองค์ประกอบในการเลือกซื้ อด้วย เช่น สภาพดินฟ้ าอากาศ
แหล่งเพาะปลูก และความเหมาะสมกับสภาพการใช้งาน เป็ นต้น
ปั จจุบนั ดอกไม้เป็ นสิ่ งสาคัญต่อการจัดงานต่างๆ เป็ นอย่างมาก ฉะนั้นควร มีความรู ้เกี่ยวกับการดูแลดอกไม้ให้มี
ความสด และสมบูรณ์มากที่สุดก่อนที่เราจะนาเอามาใช้จดั ตกแต่งให้สวยงามต่อไป
1. Cleaning คือการดูแลก่อนการแช่น้ า จะต้องทาความสะอาดก้านบริ เวณช่วงล่างที่จะต้องแช่ลงในถัง
น้ าโดยการปลิดใบช่วงล่างของช่อออกให้หมด ซึ่ งใบไม้เหล่านี้เมื่ออัดกันแน่นๆ จะทาให้เกิดก๊าซเอทธิ ลีนที่ มีผล
ทาให้กา้ นดอกไม้และน้ าที่แช่ดอกไม้เกิดการเน่าเสี ยได้ง่าย
2. Cutting under water คือการตัดก้านดอกไม้ดว้ ยมีดมีคมๆ ใต้น้ า นะไปแช่ในถังน้ าที่จดั เตรี ยมไว้ให้
ส่ วนน้ าที่ใช้แช่ดอกไม้น้ ี จะมีปริ มาณ และลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
ถ้าต้องการให้บานเร็ ว ให้แช่น้ าอุ่น และมีปริ มาณน้ ามาก เช่น ดอกลิลลี่ ดอกกุหลาบ ดอกยิปโซฟิ ลลา
เป็ นต้น
ถ้าต้องการให้บานช้า ให้แช่น้ าธรรมดาและมีปริ มาณน้ าน้อย
ถ้าต้องการให้บานสมบูรณ์ และมีกา้ นที่แข็งแรงมากๆ ควรแช่น้ าอุ่นที่ผสมอาหารดอกไม้ในปริ มาณ
0.5 ช้อนชาต่อน้ า 5 ลิตร

3. Conditioning out of refrigeration คือเมื่อเราแช่ดอกไม้ในถังน้ าเรี ยบร้อยแล้ว ควรนาถังดอกไม้วางไว้


ในบริ เวณที่มี อุณหภูมิปรกติประมาณ 1-3 ชัว่ โมง เพื่อให้ดอกไม้มีการปรับสภาพตัวเองเสี ยก่อนจากนั้นจึงนาเอา
ไปแช่ในตูเ้ ย็นสาหรับแช่
ดอกไม้หรื อใบไม้ที่จดั ส่ งมาตามร้านค้าต่างๆ ที่จะนาไปใช้งานต่อไป ต้องผ่านการบรรจุหีบห่ อ ที่มกั จะขาดน้ า
เพื่อเพิม่ ความสะดวกในการขนส่ ง เมื่อต้องการจะใช้งานต้องช่วยให้ดอกไม้ฟ้ื นตัวเร็ ว และมีการเจริ ญเติบโตอย่าง
สมบูรณ์ต่อไป
1. กล้วยไม้ช่อชนิดต่างๆ จะต้องตัดก้านและนาไปแช่น้ าทั้งช่อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นให้นา
ขึ้นไปแช่ในน้ าปรกติ แต่ถา้ ดอกของกล้วยไม้แช่อยูใ่ นน้ านานจนเกินไป จะทาให้กลีบดอกมีสภาพช้ าน้ าซึ่ งจะลด
ปริ มาณความทนลงมาก

2. ดอกบัว ในสมัยก่อนมีการช่วยให้ดอกบัวฟื้ นตัวเร็ วด้วยกรรมวิธีต่างๆ มากมายหลายวิธีดว้ ยกันแต่ใน


ปั จจุบนั ปริ มาณการใช้ดอกบัวมีเพิ่มมากขึ้น แต่ดอกบัวเป็ นดอกที่ค่อนข้างเหี่ ยวเร็ ว และจะดูดน้ าขึ้นไปเลี้ยงดอก
ได้ค่อนข้างช้า ฉะนั้นเมื่อซื้ อดอกบัวมาแล้ว ให้ตดั ก้านแช่ในน้ าเย็นหรื อน้ าที่ผสมน้ าแข็ง แต่จะต้องใช้น้ าปริ มาณ
มากๆ หลังจากนั้นให้ใช้พลาสติกคลุมดอกบัวไว้ให้มิดชิด เพื่อป้ องกันลมที่จะมากระทบดอกทาให้เกิดการดาเร็ ว
กว่าปกติ
บางท่านอาจใช้ผา้ คลุมดอกบัวแทนพลาสติก แต่การคลุมด้วยผ้ามีผลทาให้ความชื้นจากดอกบัว และจาก
น้ าที่แช่ดอกบัวระเหยไปอย่างรวดเร็ ว ทาให้ดอกบัวไม่เกิดความสดชื่นเท่าที่ควร เราควรแช่ดอกบัวให้อิ่มน้ า โดน
ใช้เวลาอย่างน้อยครึ่ งชัว่ โมงจึงจะจาดอกบัวไปพับในแบบต่างๆ แต่ถา้ ดอกบัวยังไม่อิ่มน้ าแล้วนาไปพับ จะทาให้
กลีบดอกบัวดาเร็ ว กว่าปรกติและเมื่อพับแล้วให้นามาจัดลงในภาชนะได้น้ าสารส้มจะช่วยล้างยางที่เกิดจากการ
พับกลีบดอกบัวทาให้ดอกบัวดาช้ากว่าปรกติ
เมื่อจัดดอกบัวเสร็ จแล้วเรี ยบแล้ว แต่ยงั ไม่นาไปใช้งาน ให้ใช้พลาสติกคลุมกันลม และเก็บความชื้นของ
ดอกบัวทาให้มีความสดชื่น
3. ดอกคริ สซานติมมั หรื อที่คนไทยเรี ยกว่า "มัม" เมื่อเปิ ดห่อออกให้ปลิดใบช่วงล่างออก แต่ถา้ เนื่ องจาก
ดอกไม้ชนิ ดนี้ จะมี ใบที่ เหี่ ย วเร็ วมาก ถ้าต้องการให้ดอกไม้ชนิ ดนี้ อยู่ทน จะต้องปลิ ดใบออกให้หมดทั้งช่ อ
หลังจากนั้นให้ตดั ก้านด้วยมีดคมๆ แต่คริ สซานมัมเป็ นดอกไม้ที่จดั อยูใ่ นประเภทก้านแข็ง จึงทาให้ดูดน้ าได้ยาก
จากต้องทุบปลายก้านให้แตกเล็กน้อย ล้างบริ เวณที่ทุบให้สะอาด หลังจากนั้นให้เอาน้ าเทราดหรื อพรมทั้งช่อ และ
นาไปแช่น้ าในถังน้ าที่มีปริ มาณน้ าไม่มากนัก เพราะถ้าน้ ามากจะทาให้กา้ นเน่าเร็ ว ควรใช้น้ าปริ มาณน้อย แต่ตดั
ก้านเปลี่ยนน้ าบ่อยๆ ซึ่ งจะทาให้ดอกคริ สซานมัมสามารถเจริ ญเติบโตไดอย่างสมบูรณ์ที่สุด

4. ดอกกุหลาบ เป็ นดอกไม้ที่ตอ้ งการน้ าปริ มารมากกว่าดอกไม้ชนิ ดอื่นๆ จะต้องปลิดใบและหนาม


บริ เวณช่วงล่างของก้านออก เอาน้ าราดบริ เวณใบ ส่ วนบริ เวณดอกไม้ไม่ควรราดหรื อพรมน้ า เพราะน้ าจะทาให้
ดอกกุหลาบบานเร็ วกว่าปรกติ และที่สาคัญคนไทยไม่ค่อยนิ ยมดอกกุหลาบที่บาน หลังจากนั้นให้ตดั ก้านในน้ า
ด้วยมีดคมๆนาไปแช่น้ าที่ผสมอาหารดอกไม้ไว้เรี ยบร้อยแล้ว
5. ดอกเยอร์ บีร่า เป็ นดอกไม้ประเภทก้านอ่อนจะสามารถดูดน้ าได้ปริ มาณมาก เมื่อเราตัดก้านแช่น้ าก็จะ
ดูดน้ ามากจนเกินไป ทาให้กา้ นแตกและเน่าได้ง่ายฉะนั้นเมื่อซื้ อดอกเยอร์ บีร่ามา จะสังเกตได้วา่ สวนที่ปลูกจะใช้
วิธีถอนมาขาย ไม่ได้ใช้วิธีตดั มาขาย เมื่อเราได้รับมาไม่ตอ้ งตัดก้าน และข้อสาคัญไม่ควรสเปรย์น้ าที่บริ เวณดอก
ของเยอร์ บีร่า เพราะความชื้นจะทาให้เกิดเชื้อราขึ้นได้ง่าย

6. ดอกยิปโซฟิ ลลา เป็ นดอกไม้จาพวกไม้เล็กๆฝอยๆ เมื่อซื้ อมาให้กระจายออกมาจากกัน โดยการคว่า


ช่อลง ค่อยๆจับช่อเขย่าให้แยกจากกัน ปลิ ดใบออกให้หมด จับมารวมช่ อกันใหม่อีกครั้ง ห่ อด้วยกระดาษหรื อ
พลาสติก ตัดก้านและแช่ในน้ าอุ่น เพื่อช่วยให้ดอกยิปโซฟิ ลลาบานได้อย่างสมบูรณ์ ข้อสาคัญที่ควรรู้คือห้ามนา
ดอกยิปโซฟิ ลลาไปแช่ รวมกับดอกไม้ตระกูลคริ สซานมัม เพราะคริ สซานมัมจะมีสารไซยาไนที่มีผลทาให้
ดอกยิปโซฟิ ลลาแห้งเร็ วกว่าปรกติ นอกจากนั้นจะต้องไม่ฉีดน้ าที่บริ เวณดอก เพราะดอกยิปโซฟิ ลลาจะดูดน้ าไว้
ทาให้ดอกช้ าน้ าและดาเร็ วกว่าปรกติ
1 เพื่อให้ผเู้ รี ยนมีความรู้ความเข้าใจในการเลือกใช้ภาชนะในการจัดดอกไม้

2 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้เกี่ยวกับการเลือกใช้อุปกรณ์ที่ใช้ตดั แต่งดอกไม้และใบไม้

3 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนสามารถใช้ลวดอย่างถูกวิธี

4 เพื่อให้ผเู้ รี ยน รู ้จกั ใช้ฟลอร่ าเทป

5 เพื่อให้ผเู้ รี ยนมีความรู ้ในการใช้ที่ฉีดน้ า

6 เพื่อให้ผเู้ รี ยนมีความรู้และเข้าใจเลือกใช้โอเอซิส

7 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้เกี่ยวกับการเลือกใช้ริบบิ้น


วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้กบั การจัดดอกไม้ควรเลือกให้เหมาะสม สะดวกต่อการใช้งานและการเก็บรักษา

1 มีดจะแยกเป็ นมีดตัดดอกไม้และมีดตัด Floral Form ไม่ควรจะใช้มีดตัดดอกไม้มาตัด Floral Foam เพราะ


จะทาให้เสี ยคมได้ง่าย
กรรไกร จะแยกเป็ นกรรไกรหรื อคีมตัดลวดกรรไกรตัดกระดาษ กรรไกรตัดริ บบิน้ และกรรไกรตัด
ดอกไม้ และกิ่งไม้ กรรไกรเหล่านี้ควรแยกประเภทให้แน่นอน แต่ถา้ เป็ นไปได้ไม่ควรใช้กรรไกรตัดก้าน
2
ดอกไม้ เพราะกรรไกรมีคมที่หนา เวลาตัดก้านของดอกไม้ คมของกรรไกรจะบีบก้านดอกไม้ทาให้เกิด
ความช้ า ดอกไม้จะดูดน้ าได้ไม่เต็มที่ มีผลทาให้ดอกไม้ไม่ทน
3 คีมบิดลวด ควรมีปากกว้างพอสมควร
แป้ นสก๊อตเทป ควรมีความใหญ่และมีน้ าหนักพอสมควร เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งาน ส่ วนส
4
ก๊อตเทปควรเลือกชนิดที่ทนต่อการเปี ยกน้ าให้มากที่สุด
5 ภาชนะเติมน้ าดอกไม้ ควรมีปากแคบ และยาว
ภาชนะแช่ดอกไม้ ควรมีท้ งั ทรงสู ง และทรงเตี้ย ปากกว้าง สามารถล้างทาความสะอาดได้ง่ายและจะต้อง
6
เก็บได้สะดวก
7 แป้ นหมุน ใช้สาหรับรองรับภาชนะที่ใช้จดั ดอกไม้ ทาให้สะดวกต่อการจัด และการตรวจเช็คผลงาน
ฟรอร่ าเทป ควรเลือกสี ให้เหมาะสมสาหรับก้านดอกไม้ แต่ถา้ ต้องการให้สาหรับตกแต่งอาจเลือกสี ที่มี
8 ความแตกต่างก็ได้ เช่น สี แดง สี เหลือง สี ชมพู สี ขาว เป็ นต้น นอกจากนี้ ควรเลือกฟลอร่ าเทปที่เป็ นของ
แท้ ซึ่ งจะสังเกตได้จากความเหนียวในขณะพันก้านดอกไม้
ลวด มีท้ งั ชนิดเป็ นขด และชนิดดึงยืดเป็ นเส้นตรงที่ตดั สาเร็ จมาเรี ยบร้อยแล้ว มีหลายขนาดสามารถ
9
เลือกได้ตามความเหมาะสมกับการใช้งาน
10 กระดาษและพลาสติก สามารถเลือกขนาดความกว้างคุณภาพและลวดลายตามต้องการ
ภาชนะสาหรับแช่ Floral From ควรมีที่เฉพาะสามารถถ่ายน้ าได้สะดวกและกักเก็บน้ าได้อย่างดี อาจใช้
11
อ่างน้ าที่มีปุ่มกักหรื อถ่ายน้ าออกได้ แต่ตอ้ งระมัดระวังการอุดตันของท่อน้ าด้วย
12 ตูแ้ ช่ดอกไม้ จะต้องมีขนาดและอุณหภูมิที่เหมาะสมกับดอกไม้
13 ลวดตาข่ายหรื อลวดกรงไก่ มีท้ งั ตาหกเหลี่ยม และสี่ เหลี่ยม ปัจจุบนั มีชนิดที่เป็ นพลาสติกด้วย
คีมปลิดหนามและใบกุหลาบ สามารถทางานได้เร็ ว แต่มีขอ้ เสี ยคือ ทาให้กา้ นกุหลาบหักง่าย และถลอก
14
ไม่สวยงาม เราอาจเปลี่ยนมาใช้มีดปลิดหนามและใบแทนก็ได้
แจกัน ควรเลือกชนิ ดที่มีการเคลือบภายใน เพื่อสะดวกต่อการล้างทาความสะอาด และยังป้ องกันไม่ให้
15 เกิดการตกค้างของเชื้ อแบคทีเรี ย ควรเลือกชนิ ดที่ต้ งั ได้อย่างมัน่ คงและมีปากกว้าง เพื่อจะได้เพิ่งความ
สะดวกต่อการจัดดอกไม้
ตะกร้า มีหลายขนาด หลายแบบให้เลือกปั จจุบนั นี้ มีการนาเอาวัสดุต่างๆ มาใช้การผลิตตะกร้าทาให้เรา
16 สามารถเลือกซื้ อได้ตามความต้องการและความเหมาะสมในการจัด แต่ทางที่ดีควรเลือกตะกร้าที่มีหูหิ้ว
เพื่อสะดวกต่อการขนส่ งให้กบั ลูกค้า

17 Floral Foam ใช้สาหรับปักดอกไม้ ใบไม้ มีหลายชนิดให้เลือก ชนิดที่ใช้กบั ดอกไม้สด เรี ยกว่า "Oasis"
ส่ วนชนิดที่ใช้กบั ดอกไม้แห้งหรื อดอกไม้ประดิษฐ์เรี ยกว่า "Sahara"

18 นอกจากอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้แล้ว ยังมีอุปกรณ์เสริ มสาหรับจัดดอกไม้อีกมากมาย เช่น หลอดน้ า ช่อมือ


ถือสาหรับจัดช่อเจ้าสาว เป็ นต้น อุปกรณ์เหล่านี้สามารถเลือกซื้ อได้จากร้านขายดอกไม้ หรื อร้านที่เป็ น
ตัวแทนจาหน่ายโดนทัว่ ไป
1 เป็ นภาชนะรู ปทรงสู งหรื องทรงเตี้ยก็ได้
2 มีน้ าหนักเพียงพอที่จะปั กดอกไม้แล้วไม้ทาให้แจกันล้ม เช่น เป็ นเซรามิก โลหะ
มีความสู งอย่างน้อยประมาณสัก 2 นิ้ว เพื่อที่จะวางฟรอร่ าโฟมได้ ขังน้ าได้ เพราะเวลาจัดดอกไม้
3
ต้องใส่ น้ าลงไปในภาชนะ ดอกไม้ ใบไม้ จะได้ดูดน้ าไปเลี้ยงตัวเอง
4 มีความกว้างของปากไม่ต่ากว่า 3 นิ้ว
รู ปทรงของแจกันโดยทัว่ ไปเป็ นรู ปทรงเรขาคณิ ต คือ เหลี่ยม รี กลม ยาว สู ง แบน ภาชนะใส่ อาหาร
5
และของใช้ในบ้านบางชนิดก็นามาทาแจกันดอกไม้ได้
สี ของภาชนะ ควรเป็ นสี กลางๆ ได้แก่ สี ขาว ครี ม เขียว น้ าตาล น้ าเงิน เทา ดา หรื อถ้าเป็ นสี ก็ควรเป็ น
6 สี หม่นๆ ก็ได้ เช่น เหลือง แดง ม่วง และฟ้ า เป็ นต้น ถ้าเป็ นโลหะจะเป็ นสี ทองและสี เงิน สี โลหะก็
ใช้ได้
7 ถ้าจัดดอกไม้ลงตะกร้าหรื อกระเช้า ควรนาก้อนฟรอร่ าโฟมห่อด้วยกระดาษฟอยส์ก่อน
8 ภาชนะที่ราคาแพงมากๆ ไม่ควรนามาจัดอกไม้ เช่น แจกันเบญจรงค์และแจกันลายคราม ฯลฯ เพราะ
การใช้งานมีโอกาสที่จะเกิดอุบตั ิเหตุ ภาชนะ ตกหล่น แตก ร้าว ได้ จึงไม่ควรนามาจัดดอกไม้
นอกจากผูจ้ ดั ประสงค์มอบภาชนะนั้นแก่ผรู ้ ับจึงค่อยนาไปใช้จดั
1 เพื่อให้ผเู้ รี ยนมีความรู้ความทราบถึงความหมาย ความสาคัญ คุณค่าของดอกไม้

2 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของดอกไม้และใบไม้

3 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกซื้ อดอกไม้สด


1 การแช่ Floral Foam ให้นาน้ าใส่ ภาชนะปากกว้างปริ มาณมากๆวางก้อน Floral Foam ลงบนน้ า
ให้น้ าค่อยๆซึ มผ่านขึ้นมา ห้ามกดให้จมน้ าห้ามนาน้ ามาราดลงบนก้อน Floral Foam เด็ดขาด
เพราะน้ าจะไปอุดตันช่องระบายอากาศ ทาให้น้ าซึ มผ่านเขาไปข้างในได้ยาก
2 การแช่ Floral Foam ควรแช่อย่างน้อย 2 ชัว่ โมง เพื่อให้ดูดซึ มน้ าได้เต็มที่ และเพื่อให้เกลือที่
ผสมอยูไ่ หลออกมา หรื อทางที่ดีควรแช่คา้ งคืนไว้ก็ได้ เกลือที่ผสมอยูไ่ หลออกมา หรื อทางที่ดี
ควรแช่คา้ งคืนไว้ก็ได้ เกลือที่ผสมอยูใ่ นก้อน Floral Foam จะมีลกั ษณะเป็ นน้ าสี น้ าตาลแดง มี
ผลทาให้กา้ นดอกไม้เน่าเร็ วและทาให้น้ าที่แช่ Floral Foamมีกลิ่นเหม็นเร็ วขึ้น

3 การบรรจุ Floral Foam ลงในภาชนะ ถ้าเป็ นภาชนะประเภทตะกร้าควรมีมีการรองรับน้ าให้


เรี ยบร้อย แต่ไม่วา่ ภาชนะจะเป็ นตะกร้าหรื อแจกันก็ตาม จะต้องเปิ ดช่องไว้สาหรับเติมน้ า และ
จะต้องบรรจุให้สูงกว่าปากภาชนะประมาณ 2-3 เซนติเมตร หรื อถ้าต้องการปักดอกไม้ปริ มาณ
มากๆ ให้บรรจุให้สูงกว่าที่กาหนดก็ได้ นอกจากนั้นควรปากเหลี่ยม Floral Foamบริ เวณปาก
ภาชนะออก เพื่อเปิ ดพื้นที่ในการปั กให้มากขึ้น และเพื่อเพิม่ ความสะดวกในการปิ ดฐานของการ
จัดได้ง่ายขึ้น
4 การบรรจุ Floral Foam ถ้าต้องการให้มีความปลอดภัยต่อการแตกกระจายในขณะจัด และ
ปลอดภัยต่อการเคลื่อนย้าย ควรหุ ม้ ด้วยลวดตาข่ายให้แน่นหนา เมื่อบรรจุเสร็ จเรี ยบร้อย ควร
เปิ ดน้ าใส่ ให้เต็มและเทน้ าทิ้ง เพื่อเป็ นการล้างเกลือและเศษของ Floral Foam เติมน้ าลงไปใหม่
เป็ นอันพร้อมที่จะจัดดอกไม้ได้
5 การตัดก้านดอกไม้ ต้องตัดก้านด้วยมีดคมๆให้เฉี ยงมากๆ โดยใช้มือซ้ายจับก้านหงายขึ้น มือ
ขวาจบมีด หัวแม่มือขวาจะเป็ นตัวประคองก้านดอกไม้ไว้ตลอดเวลา การตัดก้านด้วยมีด จะทา
ให้กา้ นดอกไม้ไม่ช้ า สามารถดูดน้ าได้เต็มที่ และนอกจากนี้ยงั สามารถบังคับองศาของการตัด
ได้อย่างที่เราต้องการ การตัดก้านให้เฉี ยงมากๆ จะมีผลต่อการดูดน้ าของดอกไม้และยังสามารถ
ทาให้การปั กดอกไม้มีความมัน่ คง และนอกจากนี้ยงั ทาให้ Floral Foam แตกได้ยาก การตัด
ก้านดอกไม้ และเวลาปั กจะต้องหันหน้าของดอกไม้หนั หน้าขึ้นไปรับแสงอาทิตย์ การทา
ลักษณะนี้จะทาให้สภาพการปั กดอกไม้มีความเป็ นธรรมชาติมากที่สุด

คุณสมบัติของใบและกิ่งไม้ที่เลือกมาใช้ในงานจัดดอกไม้
มีอายุการใช้งานยาวนาน
รู ปทรงสวย รู ปใบสวย เส้นกิ่งสวย

ใบเหล่านั้นมักจะเป็ นไม้จาพวกใบว่าน ไม้ประดับบ้านประเภทไม้ใบ


ในบางชนิดจานามาตัดแต่งก่อนใช้งาน เพื่อให้ได้ได้รูปทรงและเส้นที่สวยขึ้น
ลักษณะของใบไม้
ลักษณะดอกมี สี โครง รู ป กลิ่น สวยงาม กิ่งดอกแข็งแรง
ไม่มีกลิ่นเหม็น หรื อกลิ่นอันเป็ นที่น่ารังเกียจของคนทัว่ ไป
มีอายุการใช้งานยาวนาน

ดอกไม้ในตลาดดอกไม้ทุกชนิด สามารถนามาใช้งานได้ดี
ราคาที่สามารถจับจ่ายและนานามาใช้ได้
สามารถหามาได้

การถนอมผลงาน ::

การดูแลรักษาหลังการจัดดอกไม้สด จะต้องหมัน่ เติมน้ าทุกวัน เพราะในแต่ละวันดอกไม้ตอ้ งการ


น้ าสาหรับนาไปสร้างความเจริ ญเติบโตให้กบั ดอก ก้าน และใบ นอกจากนี้ถา้ ต้องการให้ดอกไม้มีความ
มัน่ คงมากขึ้น ให้เปลี่ยนน้ าทุกๆ 3 วัน และทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนน้ าควรดึงดอกไม้ข้ ึนมาตัดก้าน และปั กลง
ไปใหม่ ซึ่ งเท่ากับเป็ นการตัดเอาเซลล์ที่ตายแล้วทิ้งไป ดอกไม่ก็จะสามารถดูดน้ าได้ดีข้ ึน
1 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้เกี่ยวกับลักษณะและการใช้ในการต่อก้านดอกไม้

2 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้เกี่ยวกับการใช้วสั ดุ-อุปกรณ์ในการต่อก้านดอกไม้

3 เพื่อให้ผเู้ รี ยนมีความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบตั ิในการต่อก้านดอกไม้


ลักษณะการใช้ ::
การต่อก้านใบไม้ ใบไม้ กิ่งไม้ เพื่อทาให้กา้ นดอกไม้ยาวออกไป
ใช้กา้ นไม้ที่ต่อเสี ยบลงที่ยดึ ดอกไม้แทนกิ่งไม้ที่ไม่แข็งแรง
ตัดก้านดอกไม้ไปแช่ลงในถุงน้ า แล้วจึงต่อก้านก่อนนาไปจัดดอกไม้
ใช้โคนก้านพันสาลีแล้วจึงไปต่อก้านไม้พนั ยึดด้วยลวดไม้ไหว หรื อหลังจากพันโคนด้วยสาลีแล้ว ห่อ
ด้วยกระดาษฟอยล์ก่อนแล้วค่อยต่อก้านดอกไม้

วัสดุ-อุปกรณ์ ::

ดอก ใบ ไม้ กิ่ง ที่จะต่อก้าน


ถุงใส่ น้ า
ยางรัด
สาลี
กระดาษฟอยล์
ลวดไม้ไหว
ไม้ต่อก้าน
ขั้นตอนการต่อก้าน ::

1 การต่อก้านไม้ ถ้าเป็ นไม้ดอกมักจะใส่ ถุงน้ าก่อนแล้วจึงต่อก้าน ถ้าเป็ นไม้ใบมักมีความคงทน


ให้ต่อก้านได้เลย
2 ดอกไม้ดอกใหญ่ใส่ ถุงน้ า เติมน้ าแล้วต่อก้าน พันก้านดอกไม้กบั ก้านไม้ดว้ ยยางรัด
ดอกไม้ดอกเล็ก ก้านเล็ก ก้านอ่อนแอ หักง่ายใช้สาลีพนั แล้วค่อนต่อก้าน เวลาใช้งานให้ฉีด
3
น้ าที่สาลี แล้วสาลีจะอุม้ น้ าไว้ ดอกไม้ก็จะสดชื่น มีอายุยนื นาน
4 การพันก้านด้วยสาลีบางครั้งใช้กระดาษฟอยล์ห่อด้วยสาลีกบั ก้านไม้แล้วค่อยต่อ ก้านไม้
1 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้เกี่ยวกับลักษณะการใช้การจัดดอกไม้รูปทรงสามเหลี่ยม

2 เพื่อให้ผเู้ รี ยนรู้จกั ใช้วสั ดุ -อุปกรณ์ในการจัดดอกไม้ทรงสามเหลี่ยม

3 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดดอกไม้ทรงสามเหลี่ยม

4 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้เกี่ยวกับลักษณะการใช้การจัดดอกไม้ทรงกลม

5 เพื่อให้ผเู้ รี ยนรู้จกั ใช้วสั ดุ -อุปกรณ์ในการจัดดอกไม้ทรงกลม

6 เพื่อให้ผเู้ รี ยนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดดอกไม้ทรงกลม

7 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้เกี่ยวกับลักษณะการใช้การจัดดอกไม้ทรงแนวนอน

8 เพื่อให้ผเู้ รี ยนรู้จกั ใช้วสั ดุ -อุปกรณ์ในการจัดดอกไม้ทรงแนวนอน

9 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดดอกไม้ทรงแนวนอน


ใช้ตกแต่งห้องในเทศกาลต่างๆ โดยวางชิดฝาผนัง
นาไปมอบแสดงความยินดีในงานมงคลและอวมงคล
นาไปเยีย่ มเยียนหรื อเนื่องในโอกาสไปเคารพ คารวะ ไปแสดงความเสี ยใจ ฯลฯ

ฟลอร่ าโฟมและแจกัน กรรไกร

ใบเฟริ น์นาคราช ดอกกุหลาบ

ดอกไรอาทิศ ดอกยิปโซ

ดอกคาร์ เนชัน่
1. บรรจุฟลอร่ าโฟมในภาชนะ
2. นาใบเฟริ น์นาคราชมาปั กปิ ดรอบๆฟลอร่ าโฟม
3. นาดอกไรอาทิศที่มีกา้ นตรงมาปั กตรงกลางฟลอร่ าโฟม จนเกือบชิดด้านหลัง และปั กดอกต่อมา ให้ต่าลง
มา เป็ นขั้นบันได จนได้ฉากสามเหลี่ยมประมาณ 3-4 ชั้น
4. นาดอกคาร์ เนชัน่ มาปั กให้ได้รูปสามเหลี่ยมจนทัว่
5. สังเกตด้านข้างอย่าให้ดอกเกินหรื อเหลื่อมล้ ากัน
6. นาดอกกุหลาบมาปั กแทรกจนทัว่
7. แซมด้วยใบเฟริ น์นาคราชและดอกยิปโซให้พองาม

นาไปใช้ตกแต่งสถานที่กลางห้องสามารถมองได้รอบด้าน
ใช้วางบนโต๊ะอาหารสาหรับบริ การแบบช่วยตัวเอง
(บุปเฟ่ ต์)หรื อเหมาะสมสาหรับการจัดดอกไม้ที่หาดอกไม้ได้เพียงชนิดเดียว
ฟลอร่ าโฟมและแจกัน กรรไกร

ใบเฟริ น์นาคราช ดอกกุหลาบ

ดอกยิปโซ

1. บรรจุฟลอร่ าโฟมในภาชนะ
2. นาใบเฟริ น์นาคราชมาปั กปิ ดรอบๆฟลอร่ าโฟม
3. นาดอกกุหลาบที่แข็งแรงและมีกา้ นตรง มาปั กไว้ตรงกลางภาชนะ
4. นาดอกที่ 2-3 ปั กในแนวนอนให้ออกเป็ นรู ปสามเหลี่ยมแบบนี้ท้ งั 2 ด้าน
5. ปั กดอกกุหลาบตามช่องว่างจนทัว่ แจกัน
6. แซมด้วยใบเฟริ น์นาคราชและดอกยิปโซให้พองาม
เป็ นการจัดดอกไม้ทรงเตี้ย
นิยมตกแต่งบนโต๊ะรับประทานอาหารรู ปทรงสี่ เหลี่ยมผืนผ้าหรื อตกแต่งบนโต๊ะประชุ มหรื อโต๊ะรู ปยาว

ฟลอร่ าโฟมที่พลาสติกคลุมและรัด
กรรไกร
ด้วยตอก

ดอกไรอาทิศ ดอกกุหลาบ

ดอกลิลลี่ ดอกกล้วยไม้

ดอกยิปโซ ใบจัง๋

ใบเฟิ รน์นาคราช
1. นาพลาสติกคลุมรองพื้นฟลอร่ าโฟมแล้วนาเชื อกมารัดไว้
2. นาใบจัง๋ มาปั กรอบฟลอร่ าโฟมและใช้กรรไกรตัดใบจัง๋ ให้ความยาวเท่ากัน
3. นาดอกไรอาทิศมาปั กให้มีลกั ษณะขนานกับพื้นเพียงด้านเดียวหรื อเป็ นลักษณะ ครึ่ งวงกลมประมาณ 2-3
ชั้น
4. ปั กดอกกุหลาบด้านบนให้เป็ นแนวยาว ไม่ตอ้ งสู งมาก
5. ปั กดอกกุหลาบให้กระจายให้ทวั่
6. ปั กดอกกล้วยไม้ระหว่างดอกกุหลาบ
7. ใบเฟริ น์นาคราชตามช่องว่างระหว่างดอก
8. ปั กดอกลิลลี่ตรงกลางพุม่
9. แซมด้วยดอกยิปโซ โดยรอบพองาม
1 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้เกี่ยวกับลักษณะการใช้การจัดดอกไม้เข็มกลัดช่อดอกไม้ดอกเดียว

2 เพื่อให้ผเู้ รี ยนรู้จกั ใช้วสั ดุ -อุปกรณ์ในการจัดดอกไม้เข็มกลัดช่อดอกไม้ดอกเดียว

3 เพื่อให้ผเู ้ รี ยนมีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดดอกไม้เข็มกลัดช่อดอกไม้ดอกเดียว


ใช้สาหรับกลัดติดเสื้ อในงานมงคลต่างๆ

ใบเฟริ น์นาคราช ดอกล้วยไม้

ดอกยิปโซ

เข็มกลัด กรรไกร

ริ บบิ้น
1. นาใบเฟริ น์นาคราช 1 ใบ
2. นาดอกยิปโซและดอกกล้วยไม้มาวางเรี ยงให้สวยงามตามลาดับ
3. นาฟลอร่ าเทปมาพันรอบก้านดอก
4. นาเข็มกลัดมาวางด้านหลังดอก
5. ใช้ลวดพันเข็มกลัดให้ติดกับช่อดอกให้แน่น
6. นาริ บบิ้นมาตกแต่งให้สวยงาม
องค์ ความรู้ เพิม่ เติม
จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่อง สถานทีส่ วย ด้ วยการจัดดอกไม้ อย่ างง่ าย
(วันพฤหัสบดี ที่ 22 ตุลาคม 2555 เวลา 13.30 – 15.30)

องค์ ประกอบศิลป์ กับการจัดดอกไม้


ในการสร้างสรรค์ผลงานด้านศิลปะทุกประเภท สิ่ งที่มีความสาคัญในการสร้างสรรค์ผลงานที่จะขาดไม่ได้
ก็คือ องค์ประกอบศิลป์ จะช่วยให้ผลงานสมบูรณ์ การจัดดอกไม้ก็เช่นเดียวกัน ผลงานจะสวยงามได้น้ นั เกิดจาก
องค์ประกอบศิลป์ ที่จดั วางอย่างลงตัว

องค์ ประกอบศลป์ เบือ้ งต้ นที่นามาใช้ ในการจัดดอกไม้

1. เส้น
เส้นเป็ นองค์ประกอบศิลป์ ที่สาคัญในการจัดดอกไม้ เส้นก่อให้เกิดความรู ้สึกที่เคลื่อไหวในทิศทางต่างๆ
เส้นบอกถึงลักษณะรู ปร่ าง ความอ่อน งดงาม การจัดดอกไม้เราจะใช้อยู่ 2ลักษณะ คือ เส้นของวัตถุที่มีลกั ษณะ
เป็ นเส้น เช่น กิ่งไม้ รากไม้ ฯลฯ เส้นอีกลักษณะหนึ่ง คือ รู ปร่ างของวัตถุต่างๆ เช่น เส้นของใบ รู ปร่ างของดอก
ฯลฯ

2. รู ปร่ างและรู ปทรง


รู ปร่ างและรู ปทรงมีววิ ฒั นาการมาจากลายเส้น แต่จะมีลกั ษณะที่แตกต่างกัน รู ปร่ างมีลกั ษณะ 2มิติ คือ
แบนไม่มีความหนา ส่ วนรู ปทรงนั้นจะมีลกั ษณะเป็ น 3มิติ มีความหนา ความลึก รู ปทรงทึบไม่โปร่ ง เราเรี ยกว่า
มวล ส่ วนรู ปทรงภายในจะโปรง ไม่ทึบเราเรี ยกว่า ปริ มาตร

รู ปร่ างและรู ปทรงในการจัดดอกไม้จะแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท


-รู ปร่ าง รู ปทรงเรขาคณิ ต ใช้เป็ นพื้นฐานในการจัดดอกไม้ ตัวอย่างเช่น การจัดดอกไม้รูปทรงกลม การ
จัดดอกไม้รูปทรงสามเหลียม เป็ นต้น
-รู ปร่ าง รู ปทรงอิสระ เป็ นรู ปแบบที่มีลกั ษณะไม่จากัด เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของผูจ้ ดั ดอกไม้เอง
3. ขนาด
นักจัดดอกไม้ควรระวังเรื่ องขนาดของ ดอกไม้ ใบไม้ อุปกรณ์ การจัดดอกไม้ใบไม้ที่มีขนาดแตกต่างกัน
จะทาให้ผลงานมีความน่าสนใจ ถ้าเราใช้ดอกไม้ที่มีขนาดเท่าๆกันมาจัด ผลงานที่ได้จะดูเป็ นแข็งไม่อ่อนไหว
และนุ่มนวลแม้ดอกไม้น้ นั มีความสวยงามก็ตาม

4. สัดส่ วน
ในการจัดดอกไม้โดยส่ วนใหญ่ที่นิยมจะยึดหลัก 1 เท่าครึ่ ง ถึง2เท่าครึ่ งของความสู งของภาชนะที่ใช้จดั
ดอกไม้ ส่ วนการจัดดอกไม้ในแนวนอนก็จะใช้หลักเดียวกัน การจัดดอกไม้ตอ้ งคานึงถึงสัดส่ วนของระยะพื้นที่
รู ปทรง

5. ความสมดุล
ความสมดุล ของน้ าหนักในการออกแบบจัดดอกไม้เป็ นสิ่ งที่สาคัญอีกข้อหนึ่ง เรื่ องของน้ าหนักระหว่าง
ดอกไม้กบั ภาชนะ ถ้าดอกไม้ใหญ่กว่าภาชนะก็ทาให้งานล้ม ลักษณะความสมดุลจะต้องเท่าๆกันทั้งด้าน ซ้ายและ
ขวา จึงจะทาให้ผลงานออกมาสวยงาม

6. ช่องไฟ
ช่องไฟ หมายถึงการเว้นที่วา่ งระหว่างดอกไม้ ใบไม้หรื อวัตถุตกแต่งให้มีจงั หวะไม่เบียดกัน ไม่ห่าง
จนเกินไป การจัดช่องไฟให้เหมาะสมทาให้ผลงานดูสบายตาไม่อึดอัด

7. จุดสนใจ
จุดสนใจหมายถึง จุดเด่นไม่วา่ จะเป็ นดอกไม้หรื อภาชนะ ให้เป็ นที่ดึงดูดสายตา การเลือกจุดสนใจได้จาก
สี ของดอกไม้ รู ปทรงของผนงานที่จดั ขนาดสิ่ งเหล่านี้สามารถนามาใข้งานได้ทนั ที

8. สี
เรื่ องสี ในการจัดดอกไม้ผจู ้ ดั จะต้องรู ้ใน ทฤษฎสี สามารถใช้สีได้อย่างลงตัว ตัวอย่างเช่น การจัดดอกไม้
โดยใช้สีเดียว เราเรี ยกว่า สี เอกรงค์ การจัดดอกไม้หลายสี เราเรี ยกว่า สี พุหรงค์
การจัดดอกไม้ แบบง่ าย เพือ่ ตกแต่ งโต๊ ะอาหาร

การจัดดอกไม้ มีดว้ ยกันหลากหลายแบบ โดยการจัดแต่ละแบบจะขึ้นอยูก่ บั โอกาสของการใช้งาน และ


อาจขึ้นอยูค่ วามชอบของการจัดในแต่ละรู ปแบบ โดยในครั้งนี้จะเป็ นรู ปแบบของการจัดดอกไม้อย่างง่ายในการ
ใช้ประดับตกแต่งโต๊ะอาหาร โดยมีวธิ ี การ ขั้นตอนการจัด รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ ดังนี้

วัสดุอุปกรณ์
1. ชาม หรื อถ้วยลักษณะปากกว้าง มีความสู งพอจะใส่ กา้ นดอกไม้แช่ในน้ าได้
2. เทปกาว
3. กรรไกร
4. ดอกไม้ ที่มีสีตดั กัน 2 ชนิ ด
ขั้นตอนการทา

1.เทน้ าประมาณครึ่ งถ้วย จากนั้นใช้เทปกาวติดบนปากถ้วย เป็ นตาราง ตามรู ป

2. นาดอกไม้ที่เตรี ยมไว้มาเสี ยบเข้าในช่องกลางของถ้วย (ใช้ดอกไม้ที่มีสีตดั กัน) จากนั้นนา


ดอกไม้อีกสี หนึ่งเสี ยบเข้าในแต่ละช่องของตาราง จนเต็มช่องว่าง
รู ปสาเร็จของการจัดดอกไม้

You might also like