Professional Documents
Culture Documents
คุณสมบัติของเหล็กเกรดต่างๆ
คุณสมบัติของเหล็กเกรดต่างๆ
ิ องเหล็กเกรดต่างๆ
เหล็ก SS400 คุณสมบัติ เหล็กแผ่นรีดร้อน สาหรับงานโครงสร้างทัว่ ๆ ไป
คุณสมบัตข
ิ องอลูมเิ นียมอัลลอย
อลูมเิ นียม 5083 (รีดแข็ง , H112) อลูมเิ นียมกลุม ่ ผสมแมกนีเซียม สามารถชุบอะโนไดช์สไี ด้ดีมาก
ให้ผวิ สวยงามเมือ่ ตัดกลึง สามารถใช้งานทีอ่ ณ ุ หภูมติ ดิ ลบได้ดี นิยมใช้ทาแม่พมิ พ์เป่ าพลาสติก
แม่พม ิ พ์ขนึ้ รูปยางและโฟม อุปกรณ์ จบั ยึดชิน ้ งาน ถังทนแรงดันสูง ตูค ้ อนเทนเนอร์
ชิน
้ ส่วนยานพาหนะและอาคาร สามารถชุบอะโนไดช์สไี ด้ดีมาก ให้ผวิ สวยงามเมือ่ ตัดกลึง
สามารถใช้งานทีอ่ ณ ุ หภูมต
ิ ด
ิ ลบได้ดี นิยมใช้ทาแม่พม ิ พ์เป่ าพลาสติก แม่พม
ิ พ์ขนึ้ รูปยางและโฟม
อุปกรณ์ จบั ยึดชิน ้ งาน ถังทนแรงดันสูง ตูค ้ อนเทนเนอร์ ชิน ้ ส่วนยานพาหนะและอาคาร
อลูมเิ นียม 6061 (บ่มแข็ง , T651) อลูมเิ นียมกลุม่ ผสมแมกนีเซียมและซิลก ิ อน ทีส่ ามารถบ่มแข็งได้
จึงมีความแข็งสูง และทนต่อการกัดกร่อนได้ดีเยีย่ ม สามารถขัดเงาได้ดแ ี ละชุบอะโนไดซ์สไี ด้ผวิ สวยงาม
นิยมใช้ทาแม่พม ิ พ์เป่ าพลาสติก แม่พม ิ พ์ฉีดโฟมและยาง โครงสร้างยานพาหนะและอาคาร
หมุดยา้ ราวสะพาน (จะมีกรรมวิธีในการทาทีย่ งุ่ ยากกว่า ซับซ้อน สิน ้ เปลืองแรงงาน และเวลา
กว่าจะได้เป็ นชิน
้ งาน แต่ก็มค ี วามคุม้ ค่า เพราะว่าเป็ นอลูมเิ นียมทีไ่ ม่กระด้าง
โดยสูญเสียความแข็งแรงไปไม่มาก)
อลูมเิ นียม 7022 (บ่มแข็ง , T651) อลูมเิ นียมกลุม
่ ผสมสังกะสีทม ี่ ค
ี วามแข็งแรงสูงมาก ตัดกลึงง่าย
สามารถชุบอะโนไดซ์แข็งได้ดี นิยมใช้ทาแม่พม ิ พ์เป่ าขวดพลาสติก แม่พม ิ พ์ฉีดพลาสติกจานวนน้อย
อุปกรณ์ ชน ิ้ ส่วนเครือ
่ งจักรกลแผ่นนาความร้อน อลูมเิ นียม 7022
สแตนเลส 316
- ใช้กบ
ั งานทนกรด ทนเคมี หรือเป็ นเกรดทีป
่ ฏิกริ ยิ ากับกรดน้อย
สแตนเลส 316L
- ใช้กบ
ั งานทนกรดทีเ่ ข้มข้นมากกว่า ทนเคมีมากกว่า หรือเป็ นเกรดทีป
่ ฏิกริ ยิ ากับกรดน้อยมาก
(มีความทนกรดมากกว่า)
สแตนเลส 420/4202J2(มาตรฐานอเมริกา) 420J2 (มาตรฐานญีป่ น)
ุ่
้ ประมาณ 58 HRC)
- เป็ นสแตนเลสเกรดชุบแข็ง สามารถนาไปชุบแข็งได้ (ชุบแล้วความแข็งขึน
สแตนเลส 431
- เป็ นสแตนเลสทีเ่ คลือบแข็งทีผ
่ วิ มา สามารถนาไปชุบแข็งได้เช่นกัน
้ ประมาณ 50-55 HRC) แต่น้อยกว่าเกรด 420
(ชุบแล้วความแข็งขึน
สแตนเลส 301
-ใช้เกีย
่ วกับงานสปริง คอนแทค สายพานลาเลียง
สแตนเลส 309/309S
-ใช้เกีย
่ วกับงานทนความร้อนเช่นกัน 900 องศา (น้อยกว่า 310/310S )
สแตนเลส 409/409S
-ใช้กบ
ั งานอุปกรณ์ ทอ่ ไอเสีย ชิน
้ ส่วนผนังท่อเป่ าลมร้อนต่าง ๆ
Duplex Plate 2205/2207
-ใช้งานขุดเจาะแก๊สและน้ามัน อุตสาหกรรมเคมี ปิ โตรเคมี อุตสาหกรรมกระดาษและเยือ
่
สแตนเลส 440C
-ใช้งานชุบแ็็ ข็งทามีดประเภทต่าง งานแม่พม
ิ พ์ตดั ทีต
่ อ
้ งการความคมแข็งแรง
7. เตาความถีส
่ งู (high frequency furnace)
การผลิตเหล็กดิบ สินแร่เหล็ก
บริเวณพืน ้ โลกของเรามีสน ิ แร่อยูเ่ ป็ นจานวนมากมายและอยูใ่ นลักษณะสารผสม เช่น ดิน หิน
ทราย และสินแร่เหล็กผสมกันอยู่ สินแร่เหล็กทีอ่ ยูใ่ นรูปโดดเดีย่ วนัน ้ ไม่มเี ลย
เพราะแะนัน ้ การทีจ่ ะได้แร่เหล็กบริสทุ ธิน ์ น้ ั ต้องมีขน
้ ั ตอนในการผลิตแล้วนามาผสมกับเนื้อเหล็กผสมอีก
ครัง้ หนึ่งเพือ
่ ปรับปรุงคุณภาพของเหล็กทีจ่ ะนามาใช้งานได้ดยี งิ่ ขึน ้ ทาให้เหล็กทีไ่ ด้สามารถทนแรงเค้น
แรงดึง แรงกด และแรงเฉื อนได้ดี ตลอดจนมีความแข็งเพิม ้
่ ขึน
วัตถุดบ
ิ ทีใ่ ช้ในการถลุงเหล็กเพือ
่ ให้ได้เหล็กดิบ ประกอบด้วย
1. ถ่านโค้ก (coke) เป็ นเช้อเพลิงสาคัญทีใ
่ ห้ความร้อนต่อการถลุงในเตาถลุง
ซึง่ เป็ นสารสังเคราะห์ได้จากกระบวนการโดยการนาถ่านหินมาบรรจุในกล่องเหล็กเพือ ่ ไม่ให้อากาศเข้าไ
ด้แล้วนามาให้ความร้อนจนถ่านภายในร้อนแดง
สารไฮโดรคาร์บอนท่อยูภ ่ ายในถ่านหินก็จะระเหยกลายเป็ นก๊าซ
หลังจากนัน ้ เทถ่านหินทีร่ อ้ นแดงลงในน้าก็จะได้ถา่ นโค้กซึง่ มีลกั ษณะเป็ นรูพรุนและให้คา่ ความร้อนสูง
ก๊าซทีไ่ ด้จากการเผาถ่านก็นามาใช้ประโยชน์ ทางด้านอุตสาหกรรมเคมีได้ เช่น ทายา ทาสียอ ้ มผ้า
เป็ นต้น สาหรับถ่านโค้กทีเ่ หมาะสาหรับในการถลุงควรมีกามะถันน้อยทีส่ ด
ุ
เพราะเมือ่ กามะถันเข้าไปรวมตัวกับเหล็กดิบจะทาให้มคี วามเปราะ
2. หินปูน (limestone)
หรือแคลเซียมคาร์บอเนต(CaCo3)ทาหน้าทีแ ่ ยกธาตุสารเจือปนในสินแร่เหล็กออกมาเป็ นขี้ตระกรัน(slag)
้
จะลอยตัวอยูเ่ หนือผิวน้าเหล็กดิบ และเป็ นตัวเร่งปฏิกริ ยิ าลดออกซิเจนในเตาถลุงให้สมบูรณ์ ยงิ่ ขึน
3. สินแร่ (ores)ได้มาจากเหมืองแร่แหล่งต่างๆ
ก่อนทาการถลุงควรจะขจัดหรือแยกสารเจือปนออกเสียก่อนเพือ
่ จะทาให้ได้สน
ิ แร่เหล็กทีม
่ ค
ี ณ
ุ ภาพดี
เราสามารถแบ่งสินแร่เหล็กออกได้เป็ น คือ
4. แมกนีไทต์ (magnetite) เป็ นแร่แม่เหล็กมีสต
ู รว่า (Fe3O4) หรือบางครัง้ เรียกว่าเหล็กออกไซต์
มีลกั ษณะเป็ นก้อนสีน้าตาลเข้มถึงสีดา ถ้านาไปเข้าเครือ ่ งบดบดให้ละเอียดจะมีเนื้อสีดา มันวาว
มีคณ ุ สมบัตเิ ป็ นแม่เหล็กเลยเรียกว่าแร่แม่เหล็ก มีเนื้อเหล็กอยูม ่ ากถึง 75%
มีแมกนีเซียมและแมงกานีสปะปนอยูบ ่ า้ ง พบมากทีส่ ด
ุ ในประเทศสวีเดน
ต่อมาสวีเดนจึงได้ชือ ่ ว่ามีแร่เหล็กทีค
่ ณ
ุ ภาพมากทีส่ ดุ
5. เรดฮีมาไทต์(red hematite)มีสต
ู รคือ Fe2O3
หรือเรียกว่าเหล็กออกไซต์
มีลกั ษณะเป็ นสีแดงหรือน้าตาลเข้ม เมือ่ บดจะมีสแ
ี ดงมันวาว มีเนื้อเหล็กประมาณ 70 %
มีไทเทเนียมผสมบ้างเล็กน้อย พบมากในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ
ในทะเลสาบสุพีเรียของอเมริกา
6. บราวน์ ฮีมาไทต์(brows hematite) มีสต
ู รคือ Fe2O3 + n(H2O) หรือเรียกว่าลิโมไนต์
มีลกั ษณะเป็ นสีน้าตาลหรือสีเหลืองเข้ม มีสน
ิ แร่ประมาณ 50-67 % พบมากในประเทศเยอรมัน
สหรัฐอเมริกา
7. ซิเดอไรต์ (siderite) มีสต
ู รคือ FeCO3
หรือเรียกว่าเหล็กคาร์บอเนต
มีลกั ษณะเป็ นก้อนสีน้าตาลเข้ม มีสน
ิ เหล็กค่อนข้างน้อยประมาณ 48-60 %
และมีคาร์บอเนตผสมอยูป ่ ระมาณ 38% พบมากในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา
8.เหล็กไพไรต์ (iron pyrite) มีสต ู รว่า FeS2
มีกามะถันปนอยูม ่ ากทาให้เหล็กมีคณ ุ สมบัตเิ ปราะและมีสน ิ แร่อยูน
่ ้อยมาก ประมาณ 46% กามะถัน 53%
และยังมีโคบอลต์และนิกเกิลผสมอยูบ ่ า้ งเล็กน้อย พบมากในประเทศสเปน สหรัฐอเมริกาและไทย
กรรมวิธผ
ี ลิตเหล็กกล้า (Steel Production)
เหล็กกล้ามีสว่ นประกอบสาคัญดังนี้
1.ธาตุเหล็กเป็ นส่วนของเปอร์เซนต์ โดยน้าหนักทีม ่ ากทีส่ ด
ุ
2.ธาตุคาร์บอน มีคณ ุ สมบัตท
ิ างกลทีเ่ ด่นอยู่ 2 ส่วนคือ
การเพิม
2.1 ่ คุณสมบัตดิ า้ นความแข็ง (Hardness) ความต้านทานแรงดึง (Tensile strength)
การทนต่อการเสียดสี (Wear resistance) ความสามารถในการชุบแข็ง (Hardening)
3.ธาตุเจือหรือสารเจือทีต
่ ด
ิ มากับเหล็กสารทีม
่ อ
ี ยูแ
่ ล้วและเป็ นทีต
่ อ
้ งการคือ แมงกานีส ซิลค
ิ อน
และอลูมเิ นียม ส่วนสารทีไ่ มต้องการคือ ฟอสฟอรัส กามะถัน ออกซิเจน ไนโตรเจน และไฮโดรเจน
4.สารเติมหรือธาตุประสม
ทีผ
่ สมลงไปเพือ ่ คุณสมบัตจิ าเพาะซึง่ จะต้องมีปริมาณทีพ
่ เพิม ่ อเหมาะเหล็กกล้าแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท
คือ เหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าประสม
1.เหล็กกล้าคาร์บอน (Carbon steels) หมายถึง
เหล็กกล้าทีม
่ ส
ี ว่ นผสมของธาตุคาร์บอนเป็ นธาตุหลักทีม ่ อ
ี ท
ิ ธิพลอย่างมากต่อคุณสมบัตท
ิ างกลของเหล็ก
และยังมีธาตุอน ี ซึง่ แบ่งเหล็กกล้าคาร์บอนออกเป็ น 3 ประเภท ดังนี้
ื่ ผสมอยูอ่ ก
ความแข็งแรงและความเค้นแรงดึงมากกว่าเหล็กกล้าคาร์บอนต่า แต่จะมีความเหนียวน้อยกว่า
สามารถนาไปชุบแข็งได้ เหมาะกับงานทาชิน
้ ส่วนเครือ
่ งจักรกล รางรถไฟ เฟื อง ก้านสูบ ท่อเหล็ก
ไขควง เป็ นต้น
1.3 เหล็กกล้าคาร์บอนสูง เป็ นเหล็กทีม
่ ป
ี ริมาณคาร์บอน 0.5 - 1.5% มีความ
1. เพิม
่ ความแข็ง
2. เพิม
่ ความแข็งแรงทีอ่ ณ
ุ หภูมป
ิ กติและอุณหภูมสิ งู
3. เพิม
่ คุณสมบัติทางฟิ สิกส์
4. เพิม
่ ความต้านทานการสึกหรอ
5. เพิม
่ ความต้านทานการกัดกร่อน
6. เพิม
่ คุณสมบัติทางแม่เหล็ก
7. เพิม
่ ความเหนียวแน่ นทนต่อแรงกระแทก
ข. กลุม่ เฟอร์รต
ิ ก
ิ (Ferritic) กลุม
่ นี้ไม่มน
ี ิกเกิลเป็ นส่วนผสมมีแต่เหล็ก และโครเมีย่ ม มีราคาถูก
ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี ไม่สามารถปรับปรุงคุณสมบัตด ิ ว้ ยความร้อนทางการชุบแข็งได้ (Hardening)
เนื่องจากมีอตั ราส่วนของคาร์บอนกับโครเมีย่ มตา่ มีโครงสร้างหลักเป็ นเฟอร์ไรท์
สามารถดูดแม่เหล็กได้ แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท คือ ประเภทคาร์บอนต่ามีโครเมีย่ มประมาณ 15 – 18%
และมีคาร์บอนไม่เกิน 0.12% และประเภททนต่อความร้อน มีโครเมีย่ มประมาณ 25 – 30% และคาร์บอน
0.3 %
ค. กลุม
่ มาร์เตนซิตกิ (Martensitic) มีโครงสร้างเหล็กเป็ นมาณเตนไซท์ มีเหล็ก โครเมียม
และคาร์บอนเป็ นส่วนผสม แต่คาร์บอนเป็ นตัวทีท ่ าให้ความต้านทานการผุกร่อนลดลง
จึงเป็ นธาตะทีไ่ ม่พงึ ประสงค์ แต่เหล็กกลุม่ นี้สามารถเพิม่ ความแข็งโดยการชุบแข็งได้
จึงต้องมีคาร์บอนผสมอยู่ แบ่งออกเป็ น 3 ประเภทคือ ประเภททีม ่ ค
ี าร์บอนไม่เกิน 0.15%
โครเมีย่ มระหว่าง 12 – 14 % ประเภททีม ่ ค
ี าร์บอนประมาณ 0.2 – 0.4% โครเมีย่ มระหว่าง 13 – 15%
และประเภททีม ่ ี คาร์บอนระหว่าง 0.6 – 1% โครเมีย่ มระหว่าง 14 – 16%
2.2.2เหล็กกล้าเครือ
่ งมือ (Tool steels)เป็ นเหล็กทีม
่ ส
ี ว่ นผสมของธาตุ
โครเมีย่ ม โมลิบดิน่ ม
ั นิกเกิล วาเนเดียม โคบอลด์และไทเทเนียม เกินกว่า 5% และมีคาร์บอนอยูร่ ะหว่าง
0.8 – 2.2% ธาตุประสมเหล่านี้ สามารถเพิม ่ คุณสมบัตพ ิ เิ ศษให้กบั เหล็กกล้าเครือ
่ งมือ
โดยเฉพาะเหล็กกล้าความเร็วรอบสูง ทีร่ กั ษาคมมีดตัดโลหะได้ดี ถึงแม้ใช้งานทีอ่ ณ ุ หภูมสิ งู
จนผิวของคมตัดร้อนมีสแ ี ดง คุณสมบัตน ิ ี้เรียกว่า ความแข็งขณะร้อน (Hot hardness) เช่น ดอกกัด
(Endmil) มีดกลึง มีดไส เครือ ่ งมือทาเกลียวใน (Tap) และเครือ ่ งมือทาเกลียวนอก (Die)
การแบ่งชนิดของเหล็กกล้าเครือ ่ งมือสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท คือ ลักษณะการใช้งานเหล็กเครือ่ งมือ
ปริมาณของธาตุประสม และลักษณะการชุบแข็ง
เหล็กกล้าประสมโมลิบดินม
ั (Molydenum Steel)
มีคณ
ุ สมบัตค
ิ ล้ายกับเหล็กกล้าประสมโครเมียม
- มีคณ
ุ สมบัตด
ิ า้ นความสามารถในการชุบแข็งได้ดีเมือ่ ผสมโมลิบดินม
ั ลงไปไม่เกิน 1%
แต่ถา้ ประสมปริมาณมากกว่านี้ จะทาให้คณ
ุ สมบัตก
ิ ารชุบแข็งลดลง ทาให้สามารถทนความร้อนได้ดี
- รักษาความแข็งได้จนกระทั่งอุณหภูฒส
ิ งู ถึง 600 องศาเซลเซียส
- สามารถต้านทานการกัดกร่อนได้ดี
เหล็กกล้าประสมวานาเดียมมีคณ
ุ สมบัตด
ิ งั นี้
- เพิม
่ คุณสมบัตต
ิ ามด้านความสามารถในการชุบแข็ง เมือ่ ผสมวานาเดียมไม่เกิน 0.04%
- เมือ
่ ผสมวานาเดียมลงไปมากกว่า 0.04% จะทาให้ลดคุณสมบัตท
ิ างด้านความสามารถในการชุบแข็งลง
- วานาเดียมช่วยให้เหล็กกล้ามีเม็ดเกร็ดละเอียดดีมาก
- สามารถรักษาความแข็งทีอ
่ ณ
ุ หภูมสิ งู ได้
- เพิม
่ คุณสมบัตท
ิ างด้านความสามารถในการชุบแข็งให้กบั เหล็ก
- เพิม ้
่ ความแข็งแรงและความแข็งมากขึน แต่ความเหนียวจะลดลง
เพิม
่ คุณสมบัตท
ิ างด้านความสามารถในการชุบแข็ง ในอุตสาหกรรมเหล็กเครือ ่ งมือ
จะผสมทังสเตนในเหล็กทีต ่ อ
้ งการความแข็งแรงสูง และสามารถทนต่อความร้อนสูงด้วย เช่น
มีดกลึงโลหะ หรือเหล็กทีใ่ ช้ทาแม่พม
ิ พ์รอ้ น เป็ นต้น
มีคณ
ุ สมบัตด
ิ งั นี้
- เพิม ้
่ ความสามารถในการชุบแข็งมากขึน เมือ่ ผสมติตาเนียมในเหล็กด้วยปริมาณไม่เกิน 1%
- ถ้าผสมลงไปในเหล็กเป็ นจานวนมากจะทาให้ลดความสามารถในการชุบแข็ง
เหล็กกล้าประสมซิลก
ิ อน (Silicon Steel)
จะมีคณ
ุ สมบัตด
ิ งั นี้
้
- ทาให้จุดคราก (Vield Point) ของเหลวสูงขึน
- ไม่มบ
ี ทบาทเกีย่ วกับการชุบแข็ง
- นาไปใช้งานเกีย
่ วกับการเชือ
่ มไม่ดี
เมือ่ ผสมซิลก
ิ อนเข้าไปมาก
เพราะซิลก
ิ อนจะรวมตัวกับออกซิเจนได้งา่ ยมาก
มีคณ
ุ สมบัตด
ิ งั นี้
้
- มีความแข็งแรงสูงขึน
- ชุบแข็งไม่คอ
่ ยได้
- สามารถรักษาความแข็งไว้ได้แม้กระทั่งอุณหภูมส
ิ งู
มีคณ
ุ สมบัตด
ิ งั นี้
้
- มีความแข็งแรงสูงขึน
1. เศษเหล็ก ซื้อในประเทศและนาเข้าจากต่างประเทศ
2. เตาหลอมไฟฟ้ า ใส่เศษเหล็กลงในเตาหลอมไฟฟ้ าและหลอม ณ อุณหภูมป ิ ระมาณ 1,540
องศาเซลเซียส
3. การหลอมเหลว
้ และปรับคุณภาพน้าเหล็กให้ได้ตามมาตรฐาน
ใช้ออ๊ กซิเจนช่วยเร่งการหลอมให้เร็วขึน
4. เครือ
่ งหล่อเหล็กแท่งนาน้าเหล็กไปหล่อเป็ นเหล็กแท่ง
ในเครือ
่ งหล่อเหล็กแท่งและตัดให้ได้ความยาวตามต้องการ
กระบวนการรีดเหล็กเส้นกลมและเหล็กข้ออ้อย
6. แท่นรีด
ลาเลียงบิลเล็ทเข้าสูแ
่ ท่นรีดเหล็ก 3 ชุด คือ แท่นรีดหยาบ, แท่นรีดกลาง,
และแท่นรีดละเอียดเพือ
่ รีดให้ได้เหล็กตามลักษณะและขนาดทีต ่ อ
้ งการ
7. เหล็กเส้นกลมและเหล็กข้ออ้อย
นาเหล็กเส้นกลมและเหล็กข้ออ้อยทีร่ ีดจนได้ขนาดเข้าสูล่ านลดอุณหภูมิ
ตัดให้ได้ขนาดตามมาตรฐานและมัดเก็บเพือ ่ รอการจาหน่ าย
ภาพรวมของอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า
อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าถือได้วา่ เป็ นหนึ่งในอุตสาหกรรมพื้นฐานทีม ่ คี วามสาคัญในการพัฒนาป
ระเทศ เนื่องจากเป็ นอุตสาหกรรมทีม ่ ค ี วามเชือ
่ มโยงกับอุตสาหกรรมอืน ่ ๆ เป็ นจานวนมาก เช่น
อุตสาหกรรมยานยนต์ เครือ ่ งใช้ไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ อาหารกระป๋ อง (บรรจุภ ัณฑ์)
เครือ
่ งจักรกล และอุตสาหกรรมก่อสร้าง เป็ นต้น
และจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศทีม ่ ก
ี ารฟื้ นตัวขึน้ ทัง้ ธุรกิจภาคก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่อเ
นื่อง เช่น ไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ บรรจุภณ ั ฑ์ เป็ นต้น
ทาให้ความต้องการใช้เหล็กในประเทศมีแนวโน้มเพิม ้ โดยผลิตภัณฑ์เหล็กกึง่ สาเร็จรูปซึง่ เป็ นวัตถุ
่ สูงขึน
ดิบในการผลิตเหล็กมีการขยายตัวมากทีส่ ด ุ รองลงมาคือเหล็กแผ่นเคลือบชนิดอืน ่ ๆ เหล็กแผ่นรีดร้อน
รวมทัง้ ความต้องการใช้ของอุตสาหกรรมต่อเนื่องในประเทศและการส่งออกทีเ่ พิม ่ มากจึงทาให้อตุ สาหก
รรมเหล็กมีการใช้พลังงานทีเ่ พิม ้
่ สูงขึน
สภาพแวดล้อมทางธุรกิจของอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า
อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าแบ่งออกเป็ น อุตสาหกรรมต้นน้า อุตสาหกรรมกลางน้าและ
อุตสาหกรรมปลายน้า ได้ดงั นี้
จุดแข็ง
1. มีการนาเครือ
่ งจักรทีท
่ น
ั สมัยเข้ามาใช้ในการผลิต
2. บุคลากรมีความพร้อมทีจ
่ ะรับการเรียนรูใ้ นเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ
3.
อุตสาหกรรมมีแหล่งทีต
่ ง้ ั ทางภูมศิ าสตร์ทเี่ หมาะสมจึงทาให้เกิดความได้เปรียบในการกระจายผลิตภัณฑ์
ไปยังประเทศต่างๆ ในกลุม ่ อาเซียน
จุดอ่อน
1.
ขาดแคลนการผลิตแร่เหล็กทาให้อต ุ สาหกรรมเหล็กไทยต้องนาเข้าเหล็กต้นน้าเกือบทัง้ หมดเพือ
่ ผลิตเหล็
กกลางน้าและเหล็กปลายน้า
2. ผูป
้ ระกอบการขาดความต่อเนื่องเชือ
่ มโยงในระบบการผลิต
3.
อุตสาหกรรมมีการใช้กาลังการผลิตของเครือ่ งจักรไม่เต็มประสิทธิภาพและมีการใช้กระบวนการผลิตทีไ่
ม่เหมาะสมทาให้ตน้ ทุนการผลิตของไทยสูง
4. ขาดกลไกในการแก้ไขปัญหาการทุม ่ ตลาดและข้อกีดกันทางการค้าอย่างทันท่วงที
5. ขาดแคลนแรงงานและโครงสร้างระบบสาธารณู ปโภคทีม ่ ค
ี ณ
ุ ภาพเพียงพอ
6. ขาดยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กและผลิตภัณฑ์ทช ี่ ดั เจนจากภาครัฐ
โอกาส
1. อัตราการบริโภคเหล็กต่อตัวยังมีโอกาสขยายตัวได้อก
ี
เนื่องจากขณะนี้อตั ราส่วนดังกล่าวยังอยูใ่ นระดับต่าเมือ่ เปรียบเทียบกับอัตราการบริโภคเหล็กต่อหัวในป
ระเทศทีพ่ ฒ
ั นาแล้ว แต่ตอ้ งพิจารณาปัจจัยอืน ่ ๆ (ภายใน/ภายนอก) ประกอบด้วย
2. ผลิตภัณฑ์เหล็กสามารถนาไปใช้เป็ นวัสดุทดแทนผลิตภัณฑ์อน
ื่ เช่น คอนกรีตและไม้
อุปสรรค
1. อุตสาหกรรมเหล็กต้องใช้เงินลงทุนสูง
และต้องอาศัยการนาเข้าวัตถุดบ
ิ เทคโนโลยี
และอุปกรณ์ การผลิตจากต่างประเทศเป็ นจานวนมาก
2.
โครงสร้างภาษี และขัน
้ ตอนศุลกากรของไทยมีความยุง่ ยากและซับซ้อนทาให้เป็ นอุปสรรคต่อการแข่งขัน
กับประเทศอืน
่ ๆ
3. การแข่งขันในตลาดโลกทีส ้
่ งู ขึน
และการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าและการทุม
่ ตลาดจากประเทศผูผ
้ ลิตรายใหญ่ อาทิ ญีป
่ นและจี
ุ่ น
เป็ นต้น
การบริโภคภายในประเทศ
การส่งออกและนาเข้า
อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าในไทยยังไม่มผ ี ูผ
้ ลิตครบวงจรโดยจะมีเพียงผลิตภัณฑ์เหล็กอุตสาหกรร
มกลางน้าและอุตสาหกรรมปลายน้าเท่านัน ้
โดยการส่งออกในอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้ามีแนวโน้มลดลงโดยเฉพาะตลาดหลัก คือ อินเดีย
สหรัฐอเมริกา และตลาดใหม่ทส ี่ ามารถส่งออก ได้แก่ ประเทศซาอุดอิ าระเบีย เวียดนาม อินเดีย
และมีการคาดการณ์ วา่ ในปี 2553 จะมีการนาเข้าเหล็กชนิดต่างๆ
เพิม ้ เพราะปริมาณเหล็กคงคลังในประเทศไทยยังมีไม่มาก
่ มากขึน
เนื่องจากไม่มก ี ารกักตุนรวมทัง้ มีกาลังการผลิตน้อยและขาดการส่งเสริมจากภาครัฐตัง้ แต่อต ุ สาหกรรมต้
นน้าอย่างเป็ นระบบ
แนวโน้มของอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าไทย