คำศ ัพท ์บทที่ 1 ระบบร่ำงกำยของมนุ ษย ์และสัตว ์

1. เพอรีสตัลซีส
กระบวนกำรบีบตวั ขับก้อนอำหำรของระบบย่อยอาหาร
2. เกล็ดเลือด
้ วนของไซโทพลำสซึมของเซลล ์ในไขกระดู ก
ชินส่
3. เคซีน
่
โปรตีนกลุ่มฟอสโฟโปรตีนทีพบในน้านมของสัตว ์เลียงลู
้ กด ้วยน้านม
4. ไคโมทริปซิน
่ อยโปรตีนและพอลิเปปไทด ์ให้มข
เอนไซม ์ทีย่ ้
ี นำดสัน
5. น้าดี สารสีเขียว รสขม
ช่วยให้ไขมันแตกต ัวเป็ นอนุ ภำคเล็กๆ
6. เด็กหลอดแก ้ว ่
กำรปฎิสนธิระหว่างไข่และสเปิ ร ์มทีภำยนอกร่
ำงกำย
๊
7. กิฟ
ี่ อนำไข่เพือให
กำรนำเอำไข่และต ัวอสุจไิ ปใส่ไว้ทท่ ่ ้เกิดการปฏิสนธิตามธรร
มชาติ
้ วใจ
8. ลินหั ่
มีหน้าทีควบคุ
มกำรไหลเวียนของเลือดภายในหัวใจ
9. ซิสโทลิก
่ วใจห้องล่ำงซ ้ำยบีบตวั เพือสู
แรงด ันเลือดในขณะทีหั ่ บฉี ดเลือดไปเลีย้
่ างกาย
งทัวร่
10. ไดแอสโทลิก
่ วใจคลำยตวั หลังจากสูบฉี ดเลือดไปเลียงทั
แรงด ันเลือดในขณะทีหั ้ วร่
่ า
งกาย
11. ทริปซิน เอนไซม ์ย่อยโปรตีนหรือเพปไทด ์ให้เป็ นกรดอะมิโน
12. ทอกซอยด ์
่ จำกกำรนำเอำพิษจำกจุลน
สำรทีได้ ิ ทรีย ์มำทำให้หมดฤทธิ ์
13. วัคซีน
่ จำกกำรทำให้เชือโรคอ่
สำรทีได้ ้ ์ อตำยลงจนไม่สามารถก่
อนฤทธิหรื
อใหเ้ กิดโรคได ้

14. วิลไล ่ ม
เยือหุ ่ นออกมำเพื
้ เซลล ์ทียื ่ ่
อเพิ ่ นที
มพื ้ ผิ
่ วในกำรดู ดซึม

15. แอนติเจน ่
สิงแปลกปลอมที ่ ำสู ร
เข้ ่ ำ่ งกำย

16. ฮีโมโกลบิน สำรสีแดงในเม็ดเลือด

่ ธำตุเหล็กเป็ นองค ์ประกอบ
ซึงมี

17. รีเฟล็กซ ์แอคชัน ่ ่นอกอำนำจจิตใจ

กำรกระทำทีอยู

18. เลือด ่ วยน้ ำเลือดและเม็ดเลือด

ของเหลวทีประกอบด้

19. การย่อยเชิงเคมี
สำรอำหำรโมเลกุลใหญ่ถูกทำให้มข
ี นำดเล็กลงโดยใช้เอนไซม ์

20 หลอดเลือดเวน ่ ำเลือดเข้ำสู ่หวั ใจ

หลอดเลือดทีน

คำศ ัพท ์บทที่ 2 อำหำรและสำรเสพติด

1. อาหาร ่ กิ
สิงที ่ นเข้ำไปในร่ำงกำยแล้วก่อให้เกิด
ประโยชน์ต่อร่างกาย
2. สารอาหาร ี่ นองค ์ประกอบของอำหำร
สำรเคมีทเป็
3. สารละลายไบยูเร็ต สารเคมีใช ้สาหร ับทดสอบอำหำรประเภทโปรตีน
4. สารละเลยเบเนดิกส ์ สารเคมีใช ้สาหร ับทดสอบน้ ำตำล
5. สารเสพติด ่ อผลเสียต่อร่ำงกำยและจิตใจ
สำรทีก่
6. กรดอะมิโน
่ นองค ์ประกอบสำค ัญของโปรตีน
สำรชีวโมเลกุลทีเป็
7. แคลอรี ่ บอกพลังงำนจำกอำหำร
เป็ นหน่ วยทีใช้
มีหน่ วยเป็ นจูล
8. เซลลูโลส คำร ์โบไฮเดรตโมเลกุลใหญ่
พบในผนังเซล ์ของพืช
9. โซเดียมเมตาฟอสเฟต ว ัตถุปลอมปนในผงชูรส ผลึกขาวใส
10. ทินเนอร ์
่ เป็ นตวั ทำละลำยลดควำมหนื ด
สำรอินทรีย ์ทีใช้
11. บอแรกซ ์ น้ ำประสำนทองหรือผงกรอบ
12. โพแทสเซียมไนเตรต สำรรสเค็มเป็ นผงสีขำวละลำยน้ ำได้ด ี
13. มัสคารีน ่
สำรพิษทีพบในเห็ ดอะมำนิ ตำ
14. สารอะฟลาทอกซิน ่ ดจำกเชือรำมี
สำรพิษทีเกิ ้ สเี ขียวแกมเหลือง
15. แอซีตก
ิ แอนไฮไดรด ์ ของเหลว ไม่มส ่ ำยน้ ำส้ม
ี ี กลินคล้
16. สารชีวพิษ ่ ดในสิงมี
สำรพิษทีเกิ ่ ชวี ต
ิ
17. ไกลโคเจน
คำร ์โบไฮเดรตโมเลกุลใหญ่ประกอบด้วยกลู โคสจำนวนมำก
18. คอเลสเตอรอล
ไขมันชนิ ดหนึ่ งทีร่
่ ำงกำยใช้สร ้ำงเป็ นเยือหุ
่ ม ้ เซลล ์
่ิ ว
19. กรดไขมันไม่อมตั
่ พน
กรดไขมันทีมี ั ธะคู ร
่ ะหว่ำงคำร ์บอนอะตอ
มในโมเลกุล 1 พันธะ หรือมำกกว่ำ
่ ว
20. กรดไขมันอิมตั
กรดไขมันทีมี ่ พน
ั ธะระหว่ำงคำร ์บอนอะตอม
่
ในโมเลกุลเป็ นพันธะเดียวทั ้
งหมด

คำศ ัพท ์ ธำตุและสำรประกอบ

 ้
1. อนุ ภาคมูลฐาน องค ์ประกอบย่อยพืนฐำนในธำตุ ทุกชนิ ด
2. อะตอม ่ กสุดของของสำร
องค ์ประกอบทีเล็
3.โปรตอน อนุ ภำคมู ลฐำนมีประจุบวก
4. นิ วตรอน อนุ ภำคมู ลฐำนไม่มป ี ระจุบวก
5.อิเล็กตรอน อนุ ภำคมู ลฐำนมีประจุลบ
6.สัญลักษณ์ของนิ วเคลียร ์ สัญลักษณ์ของธำตุ
ี่ กำรปล่อยพลังงำนออกมำ
7.ธาตุกมั มันตร ังสี ธำตุทมี
8. สารประกอบ กำรรวมตวั ของธำตุ
9 . ก า ร ก ร อ ง
่ นของเหลวโดยผ่
การแยกอนุ ภาคของแข็ง ออกจากส่วนทีเป็
ำนต ัวแผ่นกรอง
10. การใช ้กรวยแยก
วิธท ์
ี าสารให ้บริสุทธิแยกของเหลวที ่ รวมเป็ นเนื ้อเดียว
ไม่
ก ัน
1 1 . ก า ร ร ะ เ ห ย
่
ของเหลวเปลียนสภำพเป็ นแก๊สโดยไม่จำเป็ นต้องมีอุณ
หภู มถ
ิ งึ จุดเดือด
1 2 . ก า ร ต ก ต ะ ก อ น
่ ่ในรูปสารแขวนลอยออกจากของเ
กำรแยกเอำของแข็งทีอยู
หลว
13. การตกผลึก กระบวนการเกิดผลึกของแข็งจำกสำรละลำย ของเหลว
หรือไอ
1 4 . ก า ร ส กั ด ด ้ ว ย ตั ว ท า ล ะ ล า ย
วิธก
ี ารแยกสำรโดยอำศ ัยสมบัตก
ิ ำรละลำยในตวั ทำละลำย
1 5 . ก า ร ก ลั่ น
การแยกของเหลวผสมโดยอำศ ัยคุณสมบัตจ ่
ิ ุดเดือดทีแ
ตกต่ำงก ัน
1 6 . ก า ร ก ลั่ น แ บ บ ธ ร ร ม ด า
์
กำรแยกสำรผสมให้บริสุทธิโดยอำศ ัยควำมแตกต่ำงข
องควำมด ันไอ
9 . ก า ร ก ลั่ น ล า ดั บ ส่ ว น
กำรแยกสำรผสมออกจำกกน
ั ใหอ้ ยู่ในรูปขององค ์ประกอบ
ย่อย
1 0 . ก า ร ก ลั่ น ด ้ ว ย ไ อ น้ า
ี ารสกัดสารออกจากของผสมโดยใช ้ไอน้าเป็ นตัวทาละลา
วิธก
ย
1 1 . โ ค ร ม า โ ท ก ร า ฟี
กำรเแยกองค ์ประกอบทีปนก ่ น
ั อยู ่ในของผสมโดยให้ส
ำรผ่ำนเข้ำไปในว ัสดุทมี ี่ รูพรุน
แล ้วสารจะแยกกันได ้ เนื่ องจากอัตราการเคลือนที ่ ่
แตกต่างกัน
1 2 . โ ค ร ม า โ ท ก ร า ฟี แ บ บ ก ร ะ ด า ษ
โครมำโทกรำฟี แบบระนำบใช้กระดำษทีสำมำรถดู ่ ดซ ับ
1 3 . ทิ น เ ล เ ย อ ร โ์ ค ร ม า โ ท ก ร า ฟี โ ค ร ม ำ โ ท ก ร ำ ฟี แ บ บ ร ะ น ำ บ
โดยใช้เจลเคลือบบนแผ่นกระจก
1 4 . ค่ า Rf
เป็ นค่ำเฉพำะตวั ของสำรขึนอยู ้ ่กบ ั ชนิ ดของตวั ทำละล
ำยและต ัวดูดซ ับ
15. ปฏิกริ ยิ าแบบดูดความร ้อน
ปฏิกริ ย ่ ดขึนแล้
ิ ำทีเกิ ้ ิ่
วทำให้สงแวดล้ อมมีอุณหภู มล ิ ดลง
16 . ปฏิกริ ยิ าแบบคายความร ้อน
ปฏิกริ ย ่ ดขึนแล้
ิ ำทีเกิ ้ วทำให้สงแวดล้ิ่ อมมีอุณหภู มส ้
ิ ู งขึน
17. สารตังต้ ้น
สำรทีมี ่ อยู ่ในตอนเริมต้ ่ นก่อนเกิดปฏิกริ ย ิ ำเคมี
18. ผลิตภัณฑ ์ ่ ดขึนหลั
สำรทีเกิ ้ งจาก
19. การดุลสมการเคมี
กำรปร ับจำนวนสำรผลิตภัณฑ ์และสำรตงต้ ้ั นให้เท่ำก ั
น
20. ตัวเร่งปฏิกริ ยิ า(ตัวคะตะลิสต ์)
สำรเคมีทช่ ี่ วยทำให้อ ัตรำกำรเกิดปฏิกริ ย ้
ิ ำเร็วขึน
21. ปฏิกริ ยิ าการเผาไหม ้ กำรสลำยเพือให้ ่ ได้พลังงำน
22. จุดเดือด อุ ณ ห ภู มิ ณ
่
จุดทีควำมด ันในของเหลวเท่ำกบ ั ควำมดน ั บรรยำกำศ
23. น้ามันหอมระเหย สำรอินทรีย ์ทีพื ่ ชสร ้ำงขึน ้
24. ผลึก ของแข็งทีมี ่ เนื อเดี
้ ยวก ัน มีรูปทรงสำมมิต ิ
25. ไอโซโทป ธำตุทมี ี่ จำนวนโปรตอนเท่ำกน ั
26. ปฏิกริ ยิ าเผาไหม
ปฏิกริ ย ่
ิ ำทีสำรเชื ้
อเพลิ งเกิดปฏิกริ ย ิ ำกบ
ั ออกซิเจนในอ
ำกำศ
 คำศ ัพท ์บทที่ โลกและกำรเปลียนแปลง ่
้
1. เนื อโลก ้ั มี
ชนที ่ หน
ิ หลอมละลำยร ้อน (แมคมำ)
2. แก่นโลก ้ั
ชนในสุ ดของโลก
้ นทรียวัตถุ
3. ชันอิ บริเวณทีมี ่ ซำกพืชซำกสัตว ์ทับถมกน ั
4. หินอัคนี หินทีเกิ ่ ดจำกแมคมำ
5. หินตะกอน ่ ดจำกกำรทับถมก ัน
หินทีเกิ
6. หินแปร
หินทีเกิ ่ ดจำกกำรเปลียนแปลงอุ ่ ณหภู มแ ิ ละควำมด ัน
7. แร่ สำรประกอบอนิ นทรีย ์ทีเกิ ่ ดขึนตามธรรมชาติ
้
8. ผลึก ของแข็งทีมี ่ โครงสร ้ำงเป็ นเรขำคณิ ต
9. สีผงละเอียด ่ จำกกำรฝนก้อนแร่
ผงทีได้
10. แร่ร ัตนชาติ แร่ทน ี่ ำมำทำเครืองประด
่ บ
ั
11. ้
แร่เชือเพลิ ง
แร่ทมี ี่ ธำตุคำร ์บอนและธำตุไฮโดรเจนเป็ นองค ์ประกอบหลัก