Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 38

0

เอกสารประกอบการเรียน
วิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม (ค43211)
ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6
เรือ่ ง
การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
จัดทาโดย
นางสาวอัจฉราวัลย์ สิงห์ภูงา
ครู
โรงเรียนชุมพลวิทยาสรรค์ อาเภอชุมพลบุรี
สานักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 33
กระทรวงศึกษาธิการ
1

1.1.1 ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Arithmetic Mean)

ค่าเฉลี่ยเลขคณิต คือ ผลบวกของข้อมูลทุกค่า หารด้วยจานวนข้อมูลทั้งหมด


สัญลักษณ์ ที่ใช้แทนค่าเฉลี่ยเลขคณิต คือ x อ่านว่า x – bar
สาระการเรียนรู้ ถ้าให้ x1 , x2 , x3 , ..., x N แทนข้อมูลชุดหนึง่ มีขนาด N
1.1 ค่ากลางของข้อมูล N

1.2 การวัดตาแหน่งที่ของข้อมูล ผลบวกของข้อมูลทุกรายการเขียนแทนด้วย x


i 1
i

1.3 การวัดการกระจายของข้อมูล การหาค่าเฉลี่ยกรณีข้อมูลไม่ได้แจกแจงความถี่

ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง N
1. เลือกวิธีวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นและอธิบายผลการวิเคราะห์ข้อมูลได้ถูกต้อง x i
2. นาความรู้เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลไปใช้แก้ปัญหาได้ x  i 1

1.1 ค่ากลางของข้อมูล ตัวอย่างที่ 1 ในการสอบซ่อมวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียน 12 คน ซึ่งมีคะแนนเต็ม 10 ได้คะแนน


ดังนี้ 8, 7, 4, 5, 6, 3, 7, 9, 7, 7, 8, 4 ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของนักเรียนทั้ง 12 คน มีค่าเท่าไร
วิธีทา xi = 8, 7, 4, 5, 6, 3, 7, 9, 7, 7, 8, 4 , N = 12
ค่ากลางของข้อมูล หรือการวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นเพื่อหา N
ค่ากลางของข้อมูลที่ศกึ ษาซึ่งจะได้เป็นตัวแทนของข้อมูลทั้งหมดที่สนใจเพื่อใช้ในการสรุปเรื่องราวเกี่ยวกับ x i
ข้อมูลทั้งหมดซึง่ จะทาให้เข้าใจลักษณะข้อมูลที่สนใจ ค่ากลางของข้อมูลหลักๆ อยู่ 6 วิธี คือ ค่าเฉลี่ยเลข  x  i 1

คณิต (Arithmetic Mean) มัธยฐาน (Median) ฐานนิยม (Mode) ค่าเฉลี่ยเรขาคณิต (Geometric Mean) N
8 7  4563 7 97  7 8 4
ค่าเฉลี่ยฮาร์มอนิก (Harmonic Mean) และค่ากึง่ กลางพิสัย (Mid-range) ซึง่ ในที่นี้จะพูดถึง 3 ชนิด คือ 
12
ค่าเฉลี่ยเลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยม 75

ค่ากลางแต่ละชนิด มีข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมในการนาไปใช้ต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะ 12

ของข้อมูลและวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ = 6.25 ตอบ


ค่ากลางใช้สาหรับคานวณแบ่งเป็น 2 กรณี คือ
กรณีที่ 1 ข้อมูลไม่ได้แจกแจงความถี่ ซึ่งค่าที่ได้จะเป็นค่ากลางของข้อมูลชุดนั้นจริงๆ มักใช้กับ
ข้อมูลจานวนน้อยๆ
กรณีที่ 2 ข้อมูลแจกแจงความถี่ ค่าที่ได้จะเป็นค่ากลางโดยประมาณ มักใช้กบั จานวนมากๆ
2
= 78 คะแนน ตอบ

ค่าเฉลี่ยเลขคณิตถ่วงน้าหนัก ค่าเฉลี่ยเลขคณิตร่วม

การหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตถ่วงน้าหนักนี้ใช้ในกรณีข้อมูลแต่ละค่ามีความสาคัญไม่เท่ากัน ซึ่งมีวิธีการ ค่าเฉลี่ยเลขคณิตรวม เป็นการหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตจากข้อมูลหลายชุดที่มีการหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต


หาดังนี้ ไว้แล้ว ซึ่งมีวิธีการหาดังนี้
ให้ W1 , W2 , W3 , …, WN เป็นความสาคัญหรือน้าหนักถ่วงของค่า จากการสังเกต X1 , X2 , X3 , ให้ x 1 , x 2 , x 3 , …, x K เป็นค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลชุดที่ 1 , 2 , 3 ,…K
…, XN ตามลาดับแล้ว
N 1 , N 2 , N 3 , … , N K เป็นจานวนค่าจากการสังเกตในข้อมูลชุดที่ 1 , 2 , 3 … , K
ค่าเฉลี่ยเลขคณิตถ่วงน้าหนัก x = W 1 X 1  W 2 X 2  W 3 X 3  ...  W N X N ตามลาดับแล้ว
W 1  W 2  W 3  ...W N

หรือเขียนอย่างย่อ ๆ ได้ดังนี้ x
 wx ค่าเฉลี่ยเลขคณิตรวม x
N1 X 1  N 2 X 2  N 3 X 3  ...  N K X K

w N1  N 2  N 3  ...N K

ตัวอย่างที่ 2 ในการสอบครั้งหนึ่งครูให้น้าหนักวิชาเคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา และคณิตศาสตร์


เป็น 2 , 1 , 3 และ 4 ตามลาดับ ถ้าวิมลสอบทั้งสี่รายวิชาได้คะแนน 65 , 70 , 80 และ 85 ตามลาดับ จง หรือเขียนอย่างย่อ ๆ ได้ดังนี้ x = N X
หาค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนวิมลสอบครั้งนี้ N

วิธีทา
รายวิชา คะแนน (X ) น้าหนัก (W) WX ตัวอย่างที่ 3 ถ้าค่าเฉลี่ยเลขคณิตอายุของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 , 5 และ 6 ของโรงเรียน
เคมี 65 2 130 แห่งหนึ่งเป็น 15 , 17 และ 19 ตามลาดับ และนักเรียนแห่งนี้มีนักเรียนแต่ละชั้นเป็น 80 , 70 และ 50
ฟิสิกส์ 70 1 70 ตามลาดับ จงหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตอายุของนักเรียนรวมทั้งสามชั้น
ชีววิทยา 80 3 240
คณิตศาสตร์ 85 4 340 วิธีทา จากสูตร x รวม = N1 X 1  N 2 X 2  N 3 X 3
N1  N 2  N 3
W = 10 WX = 780 จากโจทย์จะได้ x1 = 15 , x 2 = 17 และ x 3 = 19
N 1 = 80 , N 2 = 70 และ N 3 = 50
จากสูตร
 x รวม = ( 80  15 )  ( 70  17 )  (50  19 )
x = WX 80  70  50
W = 1,200  1,190  950
780 200
=
10 = 16.7 ปี
3
 อายุเฉลี่ยของนักเรียนทั้งสามชั้น 16.7 ปี ตอบ
แบบฝึกทักษะที่ 1 หาค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลที่แจกแจงความถี่
คาชี้แจง ให้นักเรียนเติมคาตอบลงในช่องว่างแต่ละข้อต่อไปนี้ให้ถกู ต้องสมบูรณ์
1. การหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลที่แจกแจงความถี่แบบไม่เป็นอันตรภาคชั้น
ข้อที่ คาถาม คาตอบ
ในกรณีที่ข้อมูลที่จะนามาคานวณหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตสามารถเขียนในรูปการแจกแจงความถี่
1
ถ้า X = 20 และ x = 4 แล้ว จงหา N ได้ จาคานวณหาผลบวกของข้อมูลทั้งหมดได้อย่างง่ายๆ โดยใช้ความถี่เข้าช่วย ดังนี้
2
ถ้า N = 10 , x = 25 แล้ว จงหา X ให้ x เป็นข้อมูลที่ประกอบด้วย
3 x1 เป็นข้อมูลที่มีความถี่เท่ากับ f 1
ถ้า X = 780 และ N = 30 จงหา x
x2 เป็นข้อมูลที่มีความถี่เท่ากับ f 2
4
จากข้อมูล 20 , 25 , 30 , 35 , 40 , 45 , 50 จงหา x x2 เป็นข้อมูลที่มีความถี่เท่ากับ f 3
5 ถ้า x 1 = 10 , x 2 =5,x 3 = 8 และ N 1 = 30 , N 2 = 40 
x k เป็นข้อมูลที่มีความถี่เท่ากับ f k
, N 3 = 60 แล้ว จงหา x รวม
 ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลจะเป็น ดังนี้
6 ถ้า w 1 = 3 ,w 2 = 4 , w = 5 และ X 1 = 20 , X 2 = 15
3

, X 3 = 30 แล้ว จงหา x x = f 1 x 1  f 2 x 2  f 3 x 3  ...  f K x K


f 1  f 2  f 3  ...f K
7 ในการสอบวิชาภาษาไทย ศิลปศึกษาและคอมพิวเตอร์ ครูได้กาหนด
k
น้าหนักของแต่ละรายวิชาเป็น 4 , 3 , 1 และ 5 ตามลาดับ ปรากฎว่า fx i i
มานะสอบได้คะแนนแต่ละวิชาเป็น 90 , 80 , 70 และ 60 ตามลาดับ = i 1
k
จงหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนสอบของนายมานะ f i
8 นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งมี 3 ห้องเรียน คือห้องที่ 1 , 2 และ i 1

3 มีจานวนนักเรียน 40 , 44 และ 50 คน ตามลาดับ ผลการสอบวิชา


ฟิสิกส์ ปรากฎว่าคะแนนเฉลี่ยห้องที่ 1 , 2 และ 3 เป็น 72 , 52 และ 60
ตามลาดับ จงหาค่าเฉลี่ยของนักเรียนชัน้ ม.6 ทั้งหมด หรือเขียนอยู่ในรูปง่ายๆ ได้ ดังนี้ x
 fx
N
4
ตัวอย่างที่ 4 ในการสอบวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้น ม.4/2 จานวน 20 คน ปรากฎผลดังนี้ 2. การหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลที่แจกแจงความถี่แบบเป็นอันตรภาคชั้น
ในการหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลทีแ่ จกแจงความถี่แบบเป็นอันตรภาคชั้น สามารถทาได้
คะแนน 5 6 7 8 9 10 ดังตัวอย่างที่ 4
จานวนนักเรียน 2 1 7 2 5 3 ตัวอย่างที่ 2 จงหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต จากตารางแจกแจงความถี่ต่อไปนี้

จงหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนนักเรียน ชั้น ม.4/2


คะแนน 2-4 5-7 8-10 11-13 14-16
วิธีทา ให้ x แทน คะแนนของนักเรียน
ความถี่ 2 1 7 2 5
f แทน ความถี่

วิธีทา
คะแนน (x) จานวนนักเรียน(f) fx
คะแนน จุดกึ่งกลางชั้น (x) ความถี่(f) fx
5 2 10
2-4 2 6 18
6 1 6
5-7 1 4 24
7 7 49
8-10 7 10 90
8 2 16
11-13 2 8 96
9 5 45
14-16 5 2 30
10 3 30
 f  20  fx  156  f  30  fx  258

จากสูตร x
 fx
จากสูตร x
 fx N
N = 258
30
= 156 = 8.6 ตอบ
20
= 7.8
 ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนนักเรียน ชั้น ม.4/2 เท่ากับ 7.8 คะแนน ตอบ
สรุป ขั้นตอนวิธีการหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลที่แจกแจงความถี่แบบเป็นอันตรภาค
ชั้น มีดังนี้
1. หาจุดกึ่งกลางชั้น ( xi ) ของแต่ละอันตรภาคชั้น
2. หาผลคูณของความถี่แต่ละอันตรภาคชั้นกับจุดกึง่ กลางชั้น
ของอันตรภาคชั้นเดียวกัน ( f i xi )
3. หาผลบวกจากค่าที่ได้ในข้อ 2 ของแต่ละอันตรภาคชั้น (  fx )

4. หา x จากสูตร x
 fx
N
5

สมบัติของค่าเฉลี่ยเลขคณิตที่ส้าคัญ ตัวอย่างการแก้ปัญหาโจทย์โดยใช้สมบัติของค่าเฉลี่ยเลขคณิต

สมบัติข้อที่ 1 ผลบวกของผลต่างของข้อมูล แต่ละตัวกับค่าเฉลี่ยเลขคณิตจะมีค่าเท่ากับศูนย์


นั่นคือ  ( x  x)  0 ตัวอย่างที่ 1 กาหนดข้อมูล 10 , 20 , 30 , 40 , 50 จงหาจานวนจริง a ซึ่งทาให้
 ( x  a )  0 เมื่อ x แทนค่าในข้อมูลที่กาหนดให้
วิธีทา จากสมบัติข้อที่ 1 ที่ว่า  (x  x )  0
สมบัติข้อที่ 2 ผลบวกของกาลังสองของผลต่างระหว่างข้อมูลแต่ละตัวกับจานวนใดๆ  แสดงว่า  (x  a )  0 เมื่อ a  x
จะมีค่าน้อยที่สุด เมื่อ a = x  x = 10  20  30  40  50
5
นั่นคือ  (x  a ) มีค่าน้อยที่สุดก็ต่อเมื่อ a = x
2

= 150
5
= 30
 a = 30 ตอบ

สมบัติข้อที่ 3 ถ้านาค่าคงตัว ตัวหนึ่ง ไปบวกกับทุกค่าในข้อมูลชุดหนึง่ แล้ว


ตัวอย่างที่ 2 กาหนดข้อมูล 3 , 5 , 7 , 9 , 11 , 13 จงหาค่าที่น้อยที่สุดของ  ( x  a ) 2
ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลชุดใหม่จะเท่ากับผลบวกของค่าคงตัวตัวนั้น
กับค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลชุดเดิม เมื่อ a เป็นจานวนจริง และ x แทนค่าในข้อมูลที่กาหนดให้
วิธีทา จากสมบัติข้อที่ 2 ที่ว่า  ( x  a ) 2 มีค่าที่น้อยที่สุดก็ต่อเมื่อ a  x
 x = 3  5  7  9  11
6
= 48
สมบัติข้อที่ 4 ถ้านาค่าคงตัว ตัวหนึ่ง ไปคูณกับทุกค่าในข้อมูลชุดหนึ่ง แล้ว 6
ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลชุดใหม่จะเท่ากับผลคูณของค่าคงตัวตัวนั้น = 8
กับค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลชุดเดิม  ค่าที่น้อยที่สุดของ  ( x  a ) 2 คือ (3 – 8)2 + (5 – 8)2+ (7 – 8)2+ (9 – 8)2+ (11 – 8)2+ (13 – 8)2
= 25 + 9 + 1 + 1 + 9 + 25
= 70 ตอบ

สมบัติข้อที่ 5 ถ้า x แทนค่าในข้อมูลชุดหนึ่ง และ y แทนค่าในข้อมูลอีกชุดหนึ่ง โดยที่


y = ax + b
เมื่อ a และ b เป็นค่าคงตัวแล้ว
y = ax +b
6
แบบฝึกทักษะที่ 2
คาชี้แจง ให้นักเรียนเติมคาตอบลงในช่องว่างแต่ละข้อต่อไปนี้ให้ถกู ต้องสมบูรณ์ แบบฝึกหัดที่ 1.1 ก

ข้อที่ คาถาม คาตอบ 1. จงหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลในแต่ละข้อต่อไปนี้


1 กาหนดข้อมูล 6 , 8 , 10 , 12 , 14 จงหาจานวนจริง m ซึ่งทาให้ 1) 12, 18, 20, 19, 15, 16 2) 20.83, 20.81, 20.76, 20.75, 20.32

 ( x  m )  0 เมื่อ x แทนค่าข้อมูลที่กาหนดให้ 2. ข้อมูลชุดหนึ่งมี 6 จานวน แต่หายไปจานวนหนึ่งคงเหลือเพียง 35, 29, 28, 28, 32 ถ้าค่าเฉลี่ยเลข
2 กาหนดข้อมูล 7 , 10 , 13 , 16 , 24 จงหาค่าที่น้อยที่สุดของ
คณิตของข้อมูลชุดนี้เป็น 30 แล้ว ข้อมูลที่หายไปคือจานวนใด
 (x  a ) 2

เมื่อ x แทนค่าในข้อมูลที่กาหนดให้ และ a เป็นจานวนจริง


3. ในการสอบวิชาภาษาไทยของนักเรียน 20 คน ปรากฏว่า มี x = 12 ต่อมาปรากฏพบว่า กรอก
3 ในปัจจุบันเด็ก 8 คน มีอายุดังนี้ 16 , 12 , 15 , 13 , 17 , 14 , 16 , 17 จง
คะแนนผิดไป 2 คน โดยกรอกเป็น 10 และ 12 แต่ที่ถูกต้อง คือ 20 และ 13 ตามลาดับ แล้ว x ที่
หาว่าอีก10 ปีข้างหน้า ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของอายุของเด็กทั้ง 8 คน มีค่า
ถูกต้อง คือข้อใด
เท่าใด
4 ในรอบปีพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง จานวน 3 คน ได้รับเงิน
4. จากข้อมูลในตาราง จงหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
ค่าตอบแทนพิเศษเป็น 500 , 700 และ 900 บาท ตามลาดับ และ
คะแนน 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
พนักงานบริษัทแต่ละคนได้รับเงินเพิ่มเป็น 4 เท่าของเงินในรอบปี จงหา
ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของเงินที่พนักงานทั้ง 3 คน ได้รับในรอบปี ความถี่ 2 2 3 5 8 4 9 11 6 10
5 นักเรียนห้องหนึ่งสอบวิชาคณิตศาสตร์และวิชาฟิสิกส์ ถ้าให้ M แทน
วิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนแต่และคน และ P แทน คะแนนวิชา 5. กาหนดตารางแสดงน้าหนักของคน 15 คน เป็นดังนี้
ฟิสิกส์ โดยที่ M = 3P+7 ถ้าค่าเฉลีย่ เลขคณิตของคะแนนวิชา
คณิตศาสตร์ เท่ากับ 40 จงหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนวิชาฟิสิกส์ น้าหนัก (กิโลกรัม) จานวนคน
65 4 ถ้าค่าเฉลี่ยของน้าหนักของนักเรียนกลุม่ นี้
A 5 เป็น 70 กิโลกรัม จงหาค่าของ A
75 6

6. ผลการสอบย่อยวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนจานวน 105 คน เขียนเป็นตารางแจกแจงความถี่ได้ดังนี้


แล้วหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต

คะแนน 10-14 15-19 20-24 25-29 30-34 35-39


ความถี่ (คน) 5 12 24 37 21 6
7
1.1.2 มัธยฐาน (Median)
1.2 การหามัธยฐานของข้อมูลที่ไม่จัดเป็นอันตรภาคชั้น แต่แจกแจงความถี่ไว้
มัธยฐาน คือ ค่าที่มีตาแหน่งกึ่งกลางของข้อมูล เมื่อนาข้อมูลดังกล่าวมาเรียงจากค่าน้อยไปหาค่า การหามัธยฐานในกรณีนี้ จะต้องสร้างความถี่สะสม แล้วดูว่าตาแหน่งของมัธยฐาน
มาก ( หรือจากค่ามากไปหาค่าน้อย ) ใช้สัญลักษณ์ Mdn หรือ Med อยู่ตรงกันหรือภายใต้ความถี่สะสมของค่าใน ดังตัวอย่างต่อไปนี้

1. การหามัธยฐานของข้อมูลที่ไม่แจกแจงความถี่ แบ่งเป็น ตัวอย่างที่ 3 จงหามัธยฐานจากข้อมูลต่อไปนี้


1.1 การหามัธยฐานของข้อมูลที่ไม่แจกแจงความถี่ โดยไม่แจกแจงความถี่ไว้
การหามัธยฐาน ของข้อมูล มีลาดับขั้นตอนดังนี้
1.1.1 เรียงข้อมูลจากค่าน้อยไปหาค่ามาก คะแนน 10 13 15 17 19
1.1.2 หาตาแหน่งของมัธยฐาน ถ้าข้อมูลมีทั้งหมด N ค่าจะได้ว่า ความถี่ 12 14 10 8 6
ตาแหน่งของมัธยฐาน = N  1
2
วิธีทา หาความถี่สะสม ได้ดังตาราง
1.1.3 ถ้า N เป็นจานวนคี่มัธยฐานจะเท่ากับ ค่าในข้อมูลที่อยู่ในตาแหน่ง
N 1
2
คะแนน ความถี่ ความถี่สะสม
1.1.4 ถ้า N เป็นจานวนคู่ มัธยฐานจะเท่ากับค่าเฉลี่ยของค่าในข้อมูล ซึง่ อยู่ใน
10 12 12
ตาแหน่ง N และ N +1
2 2 13 14 26
15 10 36
ตัวอย่างที่ 1 จงหามัธยฐานของข้อมูล 2 , 6 , 4 , 8 ,12 , 10 , 14 17 8 44
วิธีทา เรียงข้อมูลจากค่าน้อยไปหาค่ามากจะได้ 2 , 4 , 6 , 8 , 10 , 12 , 14 19 6 50
 ตาแหน่งของมัธยมฐาน = N 1 = 7 1 = 4
2 2
ในที่นี้ N = 5
 มัธยมฐาน = ค่าที่อยู่ในตาแหน่งที่ 4
ตาแหน่งของมัธยมฐาน = 50  1
= 8 ตอบ 2
= 25.5
ตัวอย่างที่ 2 จงหามัธยฐานของข้อมูล 1 , 7 , 5 , 11 ,13 , 9 , 15 , 17  มัธยฐาน = ค่าเฉลี่ยของค่าที่อยู่ในตาแหน่งที่ 25 และตาแหน่งที่ 26
วิธีทา เรียงข้อมูลจากค่าน้อยไปหาค่ามากจะได้ 1 , 7 , 5 , 11 ,13 , 9 , 15 , 17 = 13  13
= 8  1 = 4.5
2
 ตาแหน่งของมัธยมฐาน = N 1
= 13 ตอบ
2 2
 มัธยมฐาน = ค่าที่อยู่ในตาแหน่งที่ 4 และตาแหน่งที่ 5
= 9  11 = 10 ตอบ
2
8
2. การหามัธยฐานของข้อมูลที่แจกแจงความถี่ ในที่นี้ N = 40 = 20
2 2
ในการหามัธยฐานของข้อมูลที่แจกแจงความถี่ มีสูตรในการหา ดังนี้  ชั้นมัธยมฐาน อยู่ในอันตรภาคชั้น 103 – 107 จะได้
N L แทน 102.5
 fL
Med = L  ( 2 )I  f L แทน 10
fM fM แทน 14
I แทน 5
เมื่อ L แทน ขอบล่างของอันตรภาคชั้นที่มีมัธยฐานอยู่ N
 fL
 fL แทน ผลบวกของความถี่สะสมของอันตรภาคชั้นที่มีค่าน้อย จากสูตร Med = L  ( 2 )I
ก่อนถึงอันตรภาคชั้นที่มีมัธยฐานอยู่ fM
fM แทน ความถี่ของอันตรภาคชั้นที่มีมัธยฐานอยู่
I แทน ความกว้างของอันตรภาคชั้นที่มีมัธยฐานอยู่ แทนค่า Med = 102 . 5  ( 20  10 )  5
14
N แทน ตาแหน่งของมัธยฐาน = 102.5 + 3.57
2
= 106.07 ตอบ
ตัวอย่างที่ 4 จงหามัธยฐานของข้อมูลในตารางต่อไปนี้

คะแนน 93 – 97 98 – 102 103 – 107 108 – 112 113 – 117

ความถี่ 8 2 14 6 10

วิธีทา หาความถี่สะสม ได้ดังตาราง

คะแนน ความถี่ ความถี่สะสม

93 – 97 8 8
98 – 102 2 10
103 – 107 14 24
108 – 112 6 30
113 – 117 10 40
9
แบบฝึกทักษะที่ 3
สมบัติของมัธยฐาน คาชี้แจง ให้นกั เรียนเติมคาตอบลงในช่องว่างแต่ละข้อต่อไปนี้ให้ถกู ต้องสมบูรณ์

ข้อที่ คาถาม คาตอบ


สมบัติข้อที่ 1 ผลบวกของค่าสัมบูรณ์ของผลต่างระหว่างข้อมูลแต่ละค่ากับค่าคงตัว
จะมีค่าน้อยที่สุด ก็ต่อเมื่อ ค่าคงตัวนั้นเท่ากับมัธยฐาน 1 จงหามัธยฐานของข้อมูล 12 , 18 , 20 , 14 , 16 , 10
นั่นคือ ถ้า x แทนข้อมูลแต่ละตัว และ a แทนค่าคงตัว
2 จงหามัธยฐานของข้อมูล 5 , 13 , 9 , 17 , 25 , 21 , 29
 | x – a | จะมีค่าน้อยที่สุด ก็ต่อเมื่อ a = Med
หรือ  | x – Med |   | z – a |
3 จงหามัธยฐานจากตารางแจกแจงความถี่ต่อไปนี้
3.1
คะแนน 18 – 20 21 – 23 24 – 26 27 – 29 30 – 32
สมบัติข้อที่ 2 การเปลี่ยนแปลงค่าอื่นที่ไม่ได้อยู่ในตาแหน่งกึ่งกลางของข้อมูลไม่มี ความถี่ 5 2 17 3 13
ผลทาให้มัธยฐานเปลี่ยนแปลงไป
3.2
อายุ (ปี) 5 – 8 9 – 12 13 – 16 17 – 20 21 – 24 25 – 29
ความถี่ 4 6 8 12 7 3
สมบัติข้อที่ 3 ข้อมูลที่แจกแจงความถี่และอันตรภาคชั้นแรกหรือชั้นสุดท้ายเป็น
4 กาหนดให้ a1 , a2 , a3 , … , a9 เป็นข้อมูล 9 จานวน ดังนี้
อันตรภาคชั้นเปิดหรือแม้กระทั่งอันตรภาคชั้นในข้อมูลมีความกว้าง
3 , 5 , 7 , m , n , 14 , 19 , 23 , 27 โดยที่ m , n เป็นจานวนจริง
ไม่เท่ากัน จะยังคงสามารถหามัธยฐานได้
ซึ่ง m – n = 5 ถ้าค่าเฉลี่ยของข้อมูลชุดนี้เท่ากัน 13 แล้ว
9

a i  p q มีค่าน้อยที่สุด เมื่อ p มีค่าเท่าใด


สมบัติของมัธยฐานข้างต้นเป็นสมบัติที่แตกต่างจากสมบัติของค่าเฉลี่ยเลขคณิต i 1
10
แบบฝึกหัดที่ 1.1 ข 1.1.3 ฐานนิยม (Mode)

1. มัธยฐานของข้อมูล 18, 20, 19, 22, 20, 18 และ 19 เป็นเท่าไร ฐานนิยม เป็นค่าของข้อมูลหนึง่ เป็นข้อมูลที่ปรากฏบ่อยที่สุด หรือกล่าวว่า มีความถี่สูงสุด
สัญลักษณ์ที่ใช้แทนฐานนิยม คือ Mo
2. มัธยฐานของข้อมูล 7, 8, 6, 8, 9, 9, 10, 6, 11 และ 12 เป็นเท่าไร
1. กรณีข้อมูลไม่มีการแจกแจงความถี่
3. เอมีอายุ 10 ปี อร อ้อมมีอายุ 12 และ 15 ปี โอ๋อายุน้อยที่สุด จงหามัธยฐานของคนทั้ง 4 ** ฐานนิยม คือ ข้อมูลที่ซ้ากันมากที่สุด

1) กรณีที่มีข้อมูลมีความถี่มากที่สุด มากกว่า 1 ค่า ให้นาค่าของข้อมูลที่มีความถี่มากที่สุด


4. นักเรียนกลุ่มหนึ่งมี 5 คน เมื่อ 3 ปีที่แล้ว กิ่งอายุ 20 ปี แก้วอายุ 26 ปี กล้าอายุ 22 ปี ส่วนแก่นและ
มาตอบเป็นค่าฐานนิยมทุกค่า เช่น ข้อมูล 1, 2, 2, 2, 3, 3, 3, 5, 6 ฐานนิยม คือ 2, 3
ไก่มีอายุ 18 และ 30 ปี ตามลาดับ จงหาว่าปัจจุบันค่ามัธยฐานของนักเรียนกลุ่มนี้เป็นเท่าไร
2) กรณีข้อมูลมีความถี่เท่ากันจะไม่มีฐานนิยม เช่น ข้อมูล 2, 2, 2, 3, 3, 3, 4, 4, 4, 5,
5, 5 ไม่มีฐานนิยม
5. จากการสารวจคะแนนสอบของเด็กกลุ่มหนึง่ ดังตาราง จงหาค่ามัธยฐานของเด็กกลุ่มนี้
คะแนนที่ได้ 24 26 30 32 35 40
2. กรณีข้อมูลแจกแจงความถี่
จานวนนักเรียน (คน) 8 3 6 9 4 6
การหาฐานนิยมของข้อมูลที่แจกแจงความถี่แบบอันตรภาคชั้น และมีความกว้างของแต่ละอันตร
6. กาหนดตาราง จงหามัธยฐานของข้อมูล ภาคชั้นเท่ากันทุกชั้น จะหาได้จากสูตร
คะแนน 9-13 14-18 19-23 24-28 29-33
ความถี่ 4 3 3 2 5 Mo = L   d 1 I
d  d 
 1 2 

7. กาหนดตาราง
อันตรภาคชั้น ความถี่ เมื่อ Mo แทน ฐานนิยม
12-15 3 L แทน ขอบล่างของอันตรภาคชั้น
16-25 4 d1 แทน ผลต่างระหว่างความถี่ของอันตรภาคชั้นที่มีความถี่มากที่สุด
26-40 2 กับความถี่ของอันตรภาคชั้นที่มีค่าต่ากว่าและอยู่ติดกัน
41-50 9 d2 แทน ผลต่างระหว่างความถี่ของอันตรภาคชั้นที่มีความถี่มากที่สุด
51-60 10 กับความถี่ของอันตรภาคชั้นที่มีค่าสูงกว่าและอยู่ติดกัน
61-75 12 I แทน ความถี่ของชั้นที่มีความถี่มากที่สุด

จงหามัธยฐานของข้อมูล
11
ตัวอย่างที่ 1 จงหาฐานนิยม จากตารางแจกแจงความถี่ต่อไปนี้

การหาฐานนิยมจากกราฟ
น้าหนัก (กิโลกรัม) 40 – 44 45 – 49 50 – 54 55 – 59 60 – 64 65 – 69
จานวน 8 12 16 2 8 4

ในกรณีที่ข้อมูลแจกแจงความถี่ เราสามารถหาฐานนิยมได้จากเส้นโค้งของความถี่ที่จุดสูงสุด
วิธีทา
ของเส้นโค้ง โดยการลากเส้นตรงจากจุดดังกล่าวมาตั้งฉากกับแกนนอน ค่าบนแกนนอนที่จุดตัดนั้น
น้าหนัก (กิโลกรัม) จานวน (f)
จะเป็นฐานนิยม ดังรูป
40 – 44 8
ความถี่ ความถี่
45 – 49 12
50 – 54 16
55 – 59 2
60 – 64 8
65 – 69 4

 ฐานนิยมอยู่ในอันตรภาคชั้น 50 – 54 เพราะเป็นอันตรภาคชั้นที่มีความถี่มากที่สุด 0 ข้อมูล ข้อมูล


 จากสูตร Mo =  d1 
L   I
d 1  d 2  ฐานนิยม ฐานนิยม ฐานนิยม
จะได้ L = 49.5 , d1 = 16 – 12 = 4 , d2 = 16 – 2 = 14 และ I = 5
แทนค่า Mo = 49 . 5   4 
5
 4  14 
= 49.5 + 1.11 ข้อสังเกต
= 50.61 ตอบ

จากตัวอย่างที่ 1 สามารถหาฐานนิยม โดยประมาณ ได้ดังนี้


ฐานนิยม = L U
การหาฐานนิยม จากกราฟ ค่าที่ได้จะเป็นค่าโดยประมาณอย่างหยาบๆ เท่านั้น
2
= 50  54
2
= 52
12
แบบฝึกทักษะที่ 4
แบบฝึกทักษะตามจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อที่ 2.1.5 การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยเลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยม

คาชี้แจง ให้นักเรียนเติมคาตอบลงในช่องว่างแต่ละข้อต่อไปนี้ให้ถกู ต้องสมบูรณ์ นาข้อมูลจากตารางแจกแจงความถี่เขียนกราฟโค้งการแจกแจงความถี่ (Curve of Frequency


Distribution) จะได้กราฟเป็นแบบรูประฆังคว่า 3 แบบ คือ กราฟโค้งปกติ (Normal Curve) ถ้าการ
ข้อที่ คาถาม คาตอบ แจกแจงเป็นรูปสมมาตร กราฟเบ้ซ้าย (Negatively Curve) และกราฟเบ้ขวา (Positively Skewed) จาก
1 กราฟทั้ง 3 รูปแบบ จะได้ค่าเฉลี่ยเลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยม เป็นไปตามรูปที่แสดง
จงหาฐานนิยมจากตารางแจกแจงความถี่ต่อไปนี้
1.1 1)
คะแนน 2–4 5–7 8 – 10 11 – 13 14 – 16 17 - 19
ความถี่ 22 8 42 8 12 8

1.2
อายุ (ปี) 5–8 9 – 12 13– 16 17 – 20 21 – 24 x Med Mo
ความถี่ 3 7 20 8 2 2) 3)

1.3
คะแนน 10 – 19 20 – 29 30 – 39 40 – 49 50 – 59
ความถี่ 2 3 10 3 7

1.4 x Med Mo Mo Med x


น้าหนัก 20 – 25 26 – 31 32 – 37 38 – 43 44 – 49
(กิโลกรัม) 1) ข้อมูลเป็นโค้งปกติ x = Med = Mo
ความถี่ 12 18 33 38 40 2) ข้อมูลเป็นกราฟเบ้ทางซ้าย x < Med < Mo

2 จากตารางแจกแจงความถี่ในข้อ 1.4 ถ้าค่าฐานนิยมของข้อมูลเท่ากับ x และความถี่ 3) ข้อมูลเป็นกราฟเบ้ทางขวา Mo < Med < x


อันตรภาคชั้นที่มีฐานนิยมอยู่เท่ากับ y แล้ว จงหาค่าของ x + y
13
1.2 การวัดตาแหน่งที่ของข้อมูล
แบบฝึกหัดที่ 1.1 ค

ควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ เป็นวิธีการบอกตาแหน่งที่ของข้อมูล โดยการนาข้อมูล


1. จงหาฐานนิยมของคะแนน 4, 5, 3, 2, 4, 1, 5, 4, 2, 1, 4, 3
มาเรียงจากค่าน้อยไปหาค่ามาก แล้วแบ่งข้อมูลออกเป็น 4 , 10 และ 100 ส่วน ๆ ละเท่ากัน ตามลาดับ

2. จงหาฐานนิยมของคะแนน 8, 6, 2, 0, 8, 6, 2, 4, 5, 8, 3, 6 ความหมายของ ควอร์ไทล์ เดไซล์ และเปอร์เซ็นไทล์


1. ควอร์ไทล์ (Quartile) เป็นการวัดตาแหน่งที่แบ่งข้อมูลทั้งหมดที่เรียงจากน้อยไปหามาก
3. กาหนดข้อมูล 10, 30, 20, 10, 40, 30, 10, 20, 10, 30 ถ้านา 10 ไปหารข้อมูลทุกจานวน และนา 6 ออกเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กัน แต่ละส่วนประกอบด้วยจานวนข้อมูล N จานวน เมื่อ N แทนจานวน
บวกเข้ากับข้อมูลใหม่ที่ได้ทุกจานวน ข้อมูลชุดใหม่มีฐานนิยมเป็นเท่าไร 4
ข้อมูลทั้งหมด ใช้สัญลักษณ์ Q
4. กาหนด a, 6, 10, 9, 3, 4, 7 ถ้าข้อมูลชุดนี้มีฐานนิยมมากกว่ามัธยฐาน จงหาผลบวกของค่า a ทุกค่า น้อย มาก

5. กาหนดตารางแจกแจงความถี่ของข้อมูล จงหาฐานนิยม ข้อมูล


คะแนน 20-29 30-39 40-49 50-59 60-69 70-79 Q1 Q2 Q3
ความถี่ 8 3 6 10 2 4
ค่าที่ตรงกับจุด 3 จุด ในรูปเรียกว่า ควอร์ไทล์ที่ 1 (Q1) ควอร์ไทล์ที่ 2 (Q2) และ
6. กาหนดตารางแจกแจงความถี่ของข้อมูล จงหาฐานนิยม ควอร์ไทล์ที่ 3 (Q3) ตามลาดับ ดังนั้น
คะแนน ความถี่
2.35-2.54 12 ข้อมูลที่มีตาแหน่งตรงกับ
2.15.2.34 16
1.95-2.14 22 Q1 คือ ข้อมูลที่มีข้อมูลตัวอื่น ๆ ที่มีค่าน้อยกว่า หรือเท่ากับมันอยู่ 1 ส่วน
1.75-1.94 30 และมีข้อมูลตัวอื่น ๆ ที่มีค่ามากกว่า หรือเท่ากับมันอยู่ 3 ส่วน
1.55-1.74 25 เมื่อแบ่งข้อมูลออกเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กัน
1.35-1.54 15 Q2 คือ ข้อมูลที่มีข้อมูลตัวอื่น ๆ ที่มีค่าน้อยกว่า หรือเท่ากับมันอยู่ 2 ส่วน
และมากกว่า หรือเท่ากับมันอยู่ 2 ส่วน เมื่อแบ่งข้อมูลออกเป็น 4 ส่วน
เท่า ๆ กัน
Q3 คือ ข้อมูลที่มีตัวข้อมูลอื่น ๆ ที่มีค่าน้อยกว่า หรือเท่ากับมันอยู่ 3 ส่วน
และมากกว่า หรือเท่ากับมันอยู่ 1 ส่วน เมื่อแบ่งข้อมูลออกเป็น 4 ส่วน
เท่า ๆ กัน
14
2. เดไซล์ (Decile) เป็นการวัดตาแหน่งที่แบ่งข้อมูลทั้งหมดทีเ่ รียงจากน้อยไปหามาก
ออกเป็น 10 ส่วนเท่า ๆ กัน แต่ละส่วนประกอบด้วยจานวนข้อมูล N จานวน เมือ่ N แทนจานวนข้อมูล P70 คือ ข้อมูลที่ข้อมูลตัวอื่นๆ ที่มีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับมันอยู่ 70 ส่วน
10
และมากกว่าหรือเท่ากับมันอยู่ 30 ส่วน เมื่อแบ่งข้อมูลออกเป็น 100 ส่วน
ทั้งหมด ใช้สัญลักษณ์ D
เท่าๆกัน
น้อย มาก

ข้อมูล
การเปรียบเทียบค่าของ P, D, Q
D1 D2 D3 D4 D5 D6 D7 D8 D9
ข้อมูลชุดที่หนึง่ เรียงจากน้อยไปหามาก และสามารถอ่านค่าของตาแหน่งด้วย P,D และ Q
จุดที่แบ่งข้อมูลออกเป็น 10 ส่วนนั้นจะมี 9 จุด เรียกว่า เดไซล์ที่ 1 (D1), เดไซล์ที่ 2(D2), ดังนี้
P 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100
เดไซล์ที่ 3(D3),……..,เดไซล์ที่ 9(D9) ตามลาดับ เช่น
D 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
D4 คือ ข้อมูลที่มีข้อมูลตัวอื่น ๆ ที่มีคา่ น้อยกว่า หรือเท่ากับมันอยู่ 4 ส่วน
และมากกว่า หรือเท่ากับมันอยู่ 6 ส่วน เมื่อแบ่งข้อมูลออกเป็น 10 ส่วน Q0
เท่า ๆ กัน 1 2 3 4

3. เปอร์เซ็นไทล์ (Percentile) เป็นการวัดตาแหน่งที่ที่แบ่งข้อมูลทัง้ หมดที่เรียงจากน้อย จากแผนผังข้างบน จะได้ว่า


ไปหามาก ออกเป็น 100 ส่วนเท่า ๆ กัน แต่ละส่วนประกอบด้วยจานวนข้อมูล N จานวน
100 1. P10 = D1 , P20=D2 , P30 = D3 ,…, P90 = D9
เมื่อ N แทนจานวนข้อมูลทั้งหมด ใช้สญ
ั ลักษณ์
2. P25 = D2.5 = Q1 , P50 = D5 = Q75 , P75 = D7.5 = Q3
3. P50 = D5 = Q2 ค่ามาตรฐาน
น้อย มาก

p1 p2 p3 p99
จุดที่แบ่งข้อมูลออกเป็น 100 ส่วนนั้นจะมี 99 จุด เรียกว่า เปอร์เซ็นไทล์ที่ 1 (p1) ,
เปอร์เซ็นไทล์ที่ 2 (p3),เปอ ร์เซ็นไทล์ที่ 3 (p3),……….,เปอร์เซ็นไทล์ที่ 99 (p99) , ตามลาดับ เช่น
15
แบบฝึกทักษะที่ 6
คาชี้แจง ให้นักเรียนเติมคาตอบที่ถูกต้องลงในช่องว่างในตารางต่อไปนี้ ให้สมบูรณ์ การหาตาแหน่งที่และค่าของของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์
ของข้อมูลที่ไม่แจกแจงความถี่ได้
ข้อ คาถาม คาตอบ
1. นักเรียนจะต้องสอบได้ตาแหน่งควอร์ไทล์ที่เท่าไร จึงจะมี การหาตาแหน่งที่และค่าของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ ของข้อมูลที่ไม่
นักเรียนประมาณหนึ่งในสี่ของชั้น ได้คะแนนสูงกว่า แจกแจงความถี่ได้ มีลาดับขั้นตอนในการหา ดังนี้
2. นักเรียนจะต้องสอบได้ตาแหน่งควอร์ไทล์ที่เท่าไร จึงจะมี ขั้นที่ 1 เรียงข้อมูลจากน้อยไปหารมาก กาหนดให้ข้อมูลที่มีค่าน้อยที่สุดเป็นข้อมูล
นักเรียนประมาณหนึ่งในสี่ของชั้น ได้คะแนนต่ากว่า ตาแหน่งที่ 1 เรื่อยไปจนถึงค่าสูงสุดเป็นข้อมูลตาแหน่งที่ N เมื่อ N เป็นจานวนข้อมูลทั้งหมด
ขั้นที่ 2 หาตาแหน่งของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ โดยใช้สูตร ดังนี้
3. นักเรียนจะต้องสอบได้ตาแหน่งเดไซล์ที่เท่าไร จึงจะมีผู้
สอบได้คะแนนน้อยกว่า 6 ใน 10 r
ตาแหน่งของ Q r  (N  1)
4. จงหาตาแหน่งของคะแนนที่มจี านวนนักเรียนสอบได้ 4
คะแนนน้อยกว่าคะแนนนี้อยู่ 4 ใน 10 ตาแหน่งของ D r 
r
(N  1)
5. นักเรียนจะต้องสอบได้ตาแหน่งเดไซล์ที่เท่าไร จึงจะมีนกั เรียน 10
r
ประมาณ 1 ใน 10 ของชั้นได้คะแนนสูงกว่า ตาแหน่งของ Pr  (N  1)
100
6. จงหาตาแหน่งเปอร์เซ็นไทล์ของคะแนนที่มีจานวนนักเรียน ซึ่ง
เมื่อ r แทน ตาแหน่งของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์
ได้คะแนนน้อยกว่าคะแนนนี้อยู่ประมาณร้อยละ 40
N แทน จานวนข้อมูลทั้งหมด
7. จงหาตาแหน่งเปอร์เซ็นไทล์ของคะแนนที่มีจานวนนักเรียน ซึ่ง
ได้คะแนนมากกว่าคะแนนนี้อยู่ประมาณร้อยละ 60
8. จากผลการสอบของนักเรียนห้องหนึง่ จานวน 20 คน ปรากฏว่า
นงนุชสอบได้เปอร์เซ็นไทล์ที่ 80 จงหาว่ามีนักเรียนกี่คนที่สอบ ขั้นที่ 3 หาค่าของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ ที่ต้องการโดยการนับ ถ้าลงตัว
ได้คะแนนต่ากว่านงนุช พอดีข้อมูลตัวนั้นก็จะเป็นคาตอบ ถ้าไม่ลงตัวให้เทียบบัญญัติไตรยางศ์

ตัวอย่างที่ 1 คะแนนการสอบของนักเรียน 9 คน เป็นดังนี้ 34 , 8 , 6 , 22 , 38 , 2 , 40 , 18 ,


30 จงหา P30 และ D5
วิธีทา
ขั้นที่ 1 เรียงข้อมูลจากน้อยไปหามาก

ตาแหน่งของข้อมูล 1 2 3 4 5 6 7 8 9
ข้อมูล 2 6 8 18 22 30 34 38 40
16
ขั้นที่ 2 หาตาแหน่งของ P30 และ D5 r
และ ตาแหน่งของ D r  (N  1)
r 10
 ตาแหน่งของ Pr  (N  1)
7
100  ตาแหน่งของ D1  ( 8  1)
30 10
 ตาแหน่งของ P30  ( 9  1)
100 = 6.3
= 3 r
 ตาแหน่งของ Pr  (N  1)
r 100
และ ตาแหน่งของ D r  (N  1)
50
10  ตาแหน่งของ P50  ( 8  1)
5 100
 ตาแหน่งของ D 5  ( 9  1)
10 = 4.50
= 5
ขั้นที่ 3 หาค่าของ Q1 , D7 และ P50 จะได้
ขั้นที่ 3 หาตาแหน่งของ P30 และ D5 จะได้ ค่าของ Q1  Q1 มีค่าอยู่ระหว่าง 35 กับ 39
P30 = 8 ตาแหน่งต่างกัน 1 ข้อมูลต่างกัน 4
D5 = 22 4  0 . 25
ตาแหน่งต่างกัน 0.25 ข้อมูลต่างกัน 1
1
ตัวอย่างที่ 2 ถ้าข้อมูลเป็นดังนี้ 52 , 42 , 57 , 53 , 44 , 39 , 33 , 35  Q1 = 35 + 1 = 36
จงหา 1. Q1 2. D7 3. P50
ค่าของ D7  D7 มีค่าอยู่ระหว่าง 52 กับ 53
วิธีทา
ตาแหน่งต่างกัน 1 ข้อมูลต่างกัน 1
ขั้นที่ 1 เรียงข้อมูลจากน้อยไปหามาก (N = 8) ได้ดังนี้
1  0.3
ตาแหน่งต่างกัน 0.3 ข้อมูลต่างกัน  0.3
ตาแหน่งของข้อมูล 1 2 3 4 5 6 7 8 1
ข้อมูล 33 35 39 42 44 52 53 57  Q7 = 52 + 0.3 = 52.3

ขั้นที่ 2 หาตาแหน่งของ Q1 , D7 และ P50 จากสูตร


ค่าของ P50  P50 มีค่าอยู่ระหว่าง 42 กับ 44
r
 ตาแหน่งของ Q r  (N  1) ตาแหน่งต่างกัน 1 ข้อมูลต่างกัน 2
4
2  0.5
1 ตาแหน่งต่างกัน 0.5 ข้อมูลต่างกัน 1
 ตาแหน่งของ Q 1  ( 8  1) 1
4
= 2.25  P7 = 42 + 1 = 43

Q1 = 36 D7 = 52.3 P50 = 43 ตอบ


17
แบบฝึกทักษะที่ 7
คาชี้แจง ให้นักเรียนเติมคาตอบที่ถูกต้องลงในช่องว่างในตารางต่อไปนี้ ให้สมบูรณ์ การหาตาแหน่งที่และค่าของของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์
ของข้อมูลที่แจกแจงความถี่ได้
ข้อ ข้อมูล คาตอบ
1 15 , 50 ,4 , 20 , 7 , 30 , 35 , 48 , 24 จงหา P40 P40 = ในการหาตาแหน่งที่และค่าของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ ของข้อมูลที่
2 40 , 31 , 30 , 42 , 42 , 32 , 34 , 36 , 29 จงหา D2 D2 = แจกแจงความถี่ จะแยกเป็น 2 กรณี ดังนี้
3 35 , 31 , 42 , 43 , 30 , 35 , 49 , 48 , 25 จงหา Q3 Q3 = 1. การหาตาแหน่งที่และค่าของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ ของข้อมูล
4 2 , 6 , 10 , 7 , 15 , 14 , 12 จงหา D7 D7 = ที่แจกแจงความถี่ของแต่ละค่า (ไม่เป็นอันตรภาคชั้น)
5 3 , 7 , 9 , 11 , 13 , 15 , 5 จงหา Q2 Q2 = 2. การหาตาแหน่งที่และค่าของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ ของข้อมูล
6 20 , 24 , 32 , 40 , 36 , 28 , 26 , 42 จงหา P60 P60 = ที่แจกแจงความถี่ของแต่ละค่า (เป็นอันตรภาคชั้น)
7 15 , 20 , 25 , 35 , 5 , 30 จงหา Q1 Q1 =
8 8 , 12 , 14 , 20 , 16 จงหา D6 D6 = 1. การหาตาแหน่งที่และค่าของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ ของข้อมูล
9 1 , 5 , 9 , 11 , 13 , 7 , 15 , 21 , 18 จงหา P20 P20 = ที่แจกแจงความถี่ของแต่ละค่า (ไม่เป็นอันตรภาคชั้น)
10 40 , 42 , 30 , 36 , 38 , 44 จงหา P35 P35 = มีขั้นตอนในการหาดังนี้
1. เรียงข้อมูลจากน้อยไปหามาก
2. สร้างตารางความถี่สะสม (ตัวเลขในช่องนี้ คือ ตาแหน่งของข้อมูล)
3. หาตาแหน่งของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ โดยใช้สูตร ดังนี้

ตาแหน่งของ Q r  r (N  1)
4
ตาแหน่งของ Dr  r (N  1)
10
ตาแหน่งของ Pr 
r
(N  1)
100

4. การหาค่าของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ ตามตาแหน่งที่


คานวณได้ในข้อ 3
18
ตัวอย่างที่ 1 กาหนดข้อมูล ดังตาราง 2. การหาตาแหน่งที่และค่าของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ ของข้อมูล
คะแนน ความถี่ ที่แจกแจงความถี่ของแต่ละค่า (เป็นอันตรภาคชั้น)
3 2 มีขั้นตอนในการหาดังนี้
5 3 1. สร้างตารางความถี่สะสม
8 5 2. หาตาแหน่งของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ โดยใช้สูตร ดังนี้
10 3
20 4 ตาแหน่งของ Q r  r (N )
4
รวม 17 ตาแหน่งของ D r  r (N )
จงหา 1. P50 2. D7 3. Q3 10
วิธีทา ตาแหน่งของ Pr 
r
(N )
100
คะแนน ความถี่ (f) ความถี่สะสม (cf)
3 2 2
3. หาอันตรภาคชั้นที่ควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ที่ต้องการอยู่
5 3 5
4. คานวณหาค่า ควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ที่ต้องการ จากสูตร
8 5 10
ดังต่อไปนี้
10 3 13
20 4 17
N = 17 I rN
Qr  L  ( f )
f 4
การหาตาแหน่งของ P50 , D7 และ Q3 จะได้
I rN
ตาแหน่งของ P50  P50 = 50
(17  1) = 9 Dr  L  ( f )
100 f 10
 P50 = 8
I rN
ตาแหน่งของ D7  D7 = 7 (17  1) = 12.6 Pr  L  ( f )
10 f 100
 D7 = 10
ตาแหน่งของ Q3  Q3 = 3
(17  1) = 13.5
4 เมื่อ Qr แทน ควอร์ไทล์ที่ r
 Q3 มีค่าอยู่ระหว่าง 10 กับ 20
Dr แทน เดไซล์ที่ r
ตาแหน่งต่างกัน 1 ข้อมูลต่างกัน 10
Pr แทน เปอร์เซ็นไทล์ที่ r
ตาแหน่งต่างกัน 0.5 ข้อมูลต่างกัน 10  0 . 5  5 L แทน ขอบล่างของอันตรภาคชั้นที่ควอร์ไทล์ เดไชล์
1
 Q3 = 10 + 5 = 15 และเปอร์เซ็นไทล์ที่ต้องการอยู่
19
I แทน ความกว้างของอันตรภาคชั้นที่ควอร์ไทล์ เดไชล์ ขั้นที่ 3 หาอันตรภาคชั้น D4 อยู่ ซึ่งตรงกับอันตรภาคชั้น 26 – 30
และเปอร์เซ็นไทล์ที่ต้องการอยู่ I rN
Dr  L  ( f )
f แทน ความถี่ของอันตรภาคชั้นที่ควอร์ไทล์ เดไชล์ f 10
และเปอร์เซ็นไทล์ที่ต้องการอยู่ ในที่นี้ r = 4 , I = 5 , f = 18 , F = 31 , N = 80 และ L = 25.5
F แทน ผลรวมความถี่สะสมของอันตรภาคชั้นที่ต่ากว่า แทนค่าในสูตร
อันตรภาคชั้นที่ควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ D 4  25 . 5 
5 4 ( 80 )
(  31 )
ที่ต้องการอยู่ 1 ชั้น 18 10
= 25.5 + 0.28
N แทน จานวนข้อมูลทั้งหมด
= 25.78
 D4 มีค่าเท่ากับ 25.78 ตอบ
ตัวอย่างที่ 2 จงหา D4 จากตารางแจกแจงความถี่ ต่อไปนี้

อันตรภาคชั้น 11 – 15 16 – 20 21 – 25 36 – 30 31 – 35 36 – 40 41 – 45
แบบฝึกทักษะที่ 8
ความถี่ 5 11 15 18 12 10 9
คาชี้แจง จงเติมคาตอบลงในช่องว่างแต่ละข้อต่อไปนี้ ให้สมบูรณ์
วิธีทา ข้อ ข้อมูล คาตอบ
ขั้นที่ 1 สร้างตารางความถี่สะสม 1 คะแนน 10-14 15-19 20-24 25-29 30-34 Q2 =
คะแนน ความถี่ (f) ความถี่สะสม (f) ความถี่ 3 7 10 8 2 D8 =
11 – 15 5 5 P40 =
16 – 20 11 16 จงหา Q2 , D8 และ P40
21 – 25 15 31 2 คะแนน 90-99 80-89 70-79 60-69 50-59 Q3 =
36 – 30 18 49 ความถี่ 3 5 7 6 2 D5 =
31 – 35 12 61 P52 =
36 – 40 10 71 จงหา Q3 , D5 และ P52
41 – 45 9 80 3 คะแนน 0-19 20-39 40-49 60-79 80-99 Q1 =
รวม N = 80 ความถี่ 10 16 32 30 12 D4 =
P67 =
ขั้นที่ 2 หาตาแหน่งของ D4 โดยใช้สูตร จงหา Q1 , D4 และ P67
4
 ตาแหน่งของ = D 4  (N )
10
4
 ตาแหน่งของ = ( 80 ) = 32
10
20
การหาตาแหน่งที่และค่าของของควอร์ไทล์ เดไชล์ และเปอร์เซ็นไทล์ 95 - 95 5 46
ของข้อมูลที่แจกแจงความถี่ได้ 96 - 101 4 50
ความถี่สะสม
กราฟที่ใช้ในการหา ควอร์ไทล์ เดไซล์ และเปอร์เซ็นไทล์ คือเส้นโค้งของความถี่สะสม 50
หรือ โอจีฟ (ogive) ใช้กับข้อมูลที่มกี ารแจกแจงความถี่แล้ว ซึง่ ขั้นตอนในการหา ควอร์ไทล์ y = 45
เดไซล์ และเปอร์เซ็นไทล์ จากกราฟ มีดังนี้ 45
1. เขียนเส้นโค้งความถี่สะสม โดยใช้แกนนอน หรือแกน X แสดงค่าข้อมูล และ
แกนตั้ง หรือแกน Y แสดงค่าของความถี่สะสม 40

2. ลากเส้นตรง y = rN (สาหรับ Qr)หรือ y = rN (สาหรับ Dr) หรือ y = rN y = 35


4 10 100 35
(สาหรับ Pr ) ซึ่งเป็นเส้นตรงที่ขนานกับแกนนอน ตัดเส้นโค้งความถี่สะสม จากจุดตัดนี้ลากเส้น
ตั้งฉากกับแกนนอนตัดแกนนอนที่จุดใด ค่าบนแกนนอนที่จดุ นั้นจะเป็น Qr, Dr, Pr ของข้อมูลชุดนั้น 30

ตัวอย่างที่ 1 ตารางแจกแจงความถี่ แสดงรายได้ต่อวันของกรรมกรกลุ่มหนึ่ง เป็นดังนี้ 25


รายได้ต่อวัน (บาท) จานวนกรรมมกร
60 - 65 3 20
66 - 71 7
72 - 77 15
78 - 83 6 12.5 y = 12.5
84 - 89 10 10
90 - 95 5
96 - 101 4 5
จงหา Q1 , D7 และ P90 จากกราฟ
วิธีทา ร
รายได้ต่อวัน ( บาท ) จานวนกรรมกร ความถี่สะสม 59.5 65.5 71.5 77.5 83.5 89.5 95.5 101.5
60 - 65 3 3 Q1 D7 P90
ตาแหน่ง Q 1 คือ   12 . 5
N 50 ลากเส้นตรง y = 12.5
66 - 67 7 10 4 4
72 - 77 15 25 ตาแหน่ง D7 คือ 7N  7  50  35 ลากเส้นตรง y = 35
78 - 83 6 31 10 10
84 - 89 10 41 ตาแหน่ง P90 คือ 90 N

90  50
 45 ลากเส้นตรง y = 12.5
100 100
21
จากกราฟ จะได้ว่า แบบฝึกทักษะที่ 9
Q1 = 73
D7 = 86
คาชี้แจง ให้นักเรียนหาค่าของ ควอร์ไทล์ เดไซล์ และเปอร์เซ็นไทล์ จากตารางแจกแจงความถี่ต่อไปนี้
P90 = 94
นักเรียนชั้น ม. 5 ห้องหนึง่ จานวน 40 คน สอบวิชาคณิตศาสตร์ ได้คะแนนดังตารางต่อไปนี้
พิจารณาเปรียบเทียบการหา Q1 , D7 และ P90 โดยใช้สูตรคานวณ
คะแนน จานวนนักเรียน ความถี่สะสม
Q1 = 71.5 +  12 . 5  10  (6) 0-2 3 3
 15 
= 71.5 + 1 3-5 2 5
= 72.5 6-8 4 9
9 - 11 7 16
D7 = 83.5 +  35  31  (6) 12 - 14 8 24

 10  15 -17 10 34
= 83.5 + 2.4 18 - 20 6 40
= 85.9
จงหา Q3 , D5 , และ P30 โดยใช้กราฟ
P90 = 89.5 +  45  31  (6)
 5  40
= 89.5 + 4.8 35
= 94.5 30

25
ข้อสังเกต การหาค่า ควอร์ไทล์ เดไซล์ เปอร์เซ็นไทล์ หรือ การหาตาแหน่ง ควอร์ไทล์ เดไซล์ และ 20
เปอร์เซ็นไทล์ โดยใช้กราฟ ค่าที่ได้อาจมีความคลาดเคลื่อนไม่เที่ยงตรง ทั้งนีข้ ึ้นอยู่กับความละเอียดในการวาด 15
เส้นโค้งของความถี่สะสม และความละเอียดในการอ่าน 10
จากกราฟ ดังนั้น ความเที่ยงตรงจึงสู้การคานวณโดยใช้สูตรไม่ได้ 5

- 0.5 2.5 5.5 8.5 11.5 14.5 17.5 20.5 คะแนน


Q3  ………………………… D5  ………………………… P30  …………………………
22
การวัดการกระจายสัมบูรณ์ 2. จงหาพิสัยของข้อมูล

ความถี่
เป็นการเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูลชุดเดียว คะแนน
90 – 99 4 พิสัย = U – L
วัดการกระจายของข้อมูลที่ไม่แจกแจงความถี่ โดยใช้พิสัย
80 – 89 15 = 99.5 – 49.5
70 – 79 20 = 50
พิสัยของข้อมูล คือ ค่าทีใ่ ช้วัดการกระจายของข้อมูลที่ได้จากผลต่าง
ระหว่างข้อมูลที่มคี ่าสูงสุด และข้อมูลที่มคี ่าต่าสุด 60 – 69 10
50 – 59 6
3. จงหาพิสัยของข้อมูล 11 , 14 , 14 , 15 , 19, 20 , 21 , 24 , 26 , 42
พิสัย = xmax – xmin พิสัย = xmax – xmin = 42 – 11 = 31

แบบฝึกทักษะที่ 10
วัดการกระจายของข้อมูลแจกแจงความถี่ โดยใช้พิสัย
จงหาพิสัยของข้อมูล

พิสัย คือ ขอบบนของอันตรภาคชั้นที่มีค่าสูงสุด – ขอบล่างของ 1. คะแนน 2–4 5– 7 8 –10 11 –13


อันตรภาคชั้นที่มีค่าต่าสุด 5 3 2 8
ความถี่
…………………………………………………………………………..

2. น้าหนัก 60–62 63 – 65 66 –68 69 –71


พิสัย = U – L
จานวน น.ร. 3 18 42 27
…………………………………………………………………………..
ตัวอย่าง 1. จงหาพิสัยของข้อมูล
3. 10 , 20 , 30 , 40 , 50 , 60 , 70
…………………………………………………………………………..
น้าหนัก 60-62 63-65 66-68 69-71 72-74
จานวนนิสิต 2 3 5 4 2

พิสัย = U – L = 74.5 – 59.5 = 15


23
วัดการกระจายของข้อมูล โดยใช้ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ ส่วนเบี่ยงเบน
ข้อมูล Q1 Q3 ควอร์ไทล์
ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ คือ ค่าที่ใช้วัดการกระจายของข้อมูล ซึ่งเท่ากับครึ่งหนึ่ง (Q.D.)
1 26 . 06  17 . 71

ของผลต่างระหว่างควอร์ไทล์ที่ 3 กับควอร์ไทล์ที่ 1 คะแนน 10–14 15–19 20–24 25–29 30–34 2
. 17.71 26.06 4.175
ความถี่ 3 7 10 8 2
2 8 . 65  3 . 81
Q 3  Q1 
Q.D. = .
คะแนน น้อยกว่า3 3–5 6–8 9–11 มากกว่า11
3.81 8.65
2
2 ความถี่ 2 4 5 3 1 2.42

3 คะแนน 50-54 55-59 60-64 65-69 70-74 75-79


แบบฝึกทักษะที่ 11 . ความถี่ 10 20 11 12 21 6

จงหาส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์

ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ วัดการกระจายของข้อมูลที่ไม่แจกแจงความถี่ โดยใช้ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย


ข้อ ข้อมูล Q1 Q3 ไทล์
(Q.D.) N

x x
M.D. =
i
1. 10 , 2 , 6 , 8 , 4, 12 , 16 , 20 , 18 i 1

N
2. 5 , 10 , 15 , 20, 25 , 30 , 35
3. 3 , 7 , 11 , 15 , 5 , 9 , 13
4. 3 , 5 , 9 , 14 , 18 ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย
5. 4 , 24 , 12 , 18 , 26 , 30 , 42 ข้อ ข้อมูล N X
N

x i x (M.D.)
i 1
6. 50 , 53 , 52 , 55 , 60 , 54 , 51 1 2,4,5,9 4 5 8 8
 2
7. 5 , 10 , 15 , 20, 25 , 30 , 35 , 40 , 45 , 4
8. 9 , 11 , 13 , 17 , 15 , 21 , 19 2 3,5,1,9,7 5 5 12 12
 2.4
5
9. 8 , 10 , 12 , 20 , 24 , 30 , 26 , 22
3 68 , 50 , 46 , 57 , 49 5 54 34 34
 6.8
10. 2 , 6 , 8 , 10 , 16 , 14 , 12 5
4 2,8,9,5 4 6 10 10
 2.5
4
5 3 , 7 , 8 , 14 4 8 12 12
 3
4
24
วัดการกระจายของข้อมูลที่แจกแจงความถี่ โดยใช้ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย
แบบฝึกทักษะที่ 12
M .D . 
f x x
N จงหาส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยต่อไปนี้

ตัวอย่าง จงหาส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของคะแนนและความถี่ ต่อไปนี้ 1. 4 , 5 , 8 , 12

คะแนน 30–39 40–49 50–59 60–69 70–79 80–89 90 – 99


ความถี่ 2 3 11 20 32 25 7 2. 1 , 3 , 6 , 4 , 8 , 3 , 5 , 2

วิธีทา
คะแนน f x fx x x f x x 3.
30–39 2 34.5 69.0 34.5 – 72.5= 38 76 คะแนน 10–14 15-19 20–24
ความถี่ 5 3 6
40–49 3 44.5 133.5 44.5 – 72.5= 28 84
50–59 11 54.5 599.5 54.5 – 72.5= 18 198
60–69 20 64.5 1,290.0 64.5 – 72.5= 8 160
70–79 32 74.5 2,384.0 74.5 – 72.5= 2 64
80–89 25 84.5 2,112.5 84.5 – 72.5= 12 300 4.
90 – 99 7 94.5 661.5 94.5 – 72.5= 22 154 คะแนน 20–29 30–39 40–49 50-59 60-69
N= fx = f x  x  1,036 ความถี่ 12 8 10 16 4
100 7,250

จากสูตร x =  fx
N
แทนค่าจะได้ x = 7 ,250 = 72.5
100
และ จากสูตร

M .D . 
f x x
N

แทนค่า M.D. = 1,036 = 10.36


100
25
วัดการกระจายของข้อมูลที่ไม่แจกแจงความถี่ โดยใช้ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หรือ เขียนในรูปย่อ ได้ดังนี้
 x  2
x
S =
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน คือ ค่าทีใ่ ช้วัดการกระจายที่ได้จากการหารราก N

ที่สอง ของค่าเฉลี่ยกาลังสอง ของผลต่างระหว่างค่าของข้อมูลแต่ละค่า กับ หรือ S = x 2

 x   2

N
ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลชุดนั้น ตัวอย่างที่ 1 จงหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูล
5,6,6,6,7,8
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน จะใช้สัญลักษณ์ S และ S.D. วิธีทา
จากความหมายของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน จะสามารถหาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน xi xi x (x i  x ) 2
ได้ตามลาดับขั้นตอน ดังนี้ 5 - 1.3 1.69
1. หาค่าเฉลี่ยเลขคณิต ( x ) 6 - 0.3 0.09

2. หาผลต่างระหว่างข้อมูลกับค่าเฉลี่ยเลขคณิต x i  x  6
6
- 0.3
0.3
0.09
0.09
3. หารกาลังสองของผลต่าง ในข้อ x  x 
2
i 7 0.7 0.49
 x i  
4. หาผลบวกของกาลังสองของผลต่าง ในข้อ 3 
N
x
2
8 1.7 2.89
 i 1 

 x 
N 2
5. หารผลบวกในข้อ 4 ด้วยจานวนข้อมูล  x i = 38
N
N

 x  x 
2 
 i x = 5.34
 i 1  i 1 i 1
 N 

 

6. หารากที่สองที่ไม่ใช้จานวนลบของผลหารในข้อ 5   N
 x 
x
N 2
 i x 
 i 1  i
 

N
 จากสูตร x = i 1
 
N
จากลาดับขั้น 1 – 6 สรุปเป็นสูตรการหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ได้ดังนี้
แทนค่า จะได้ x = 38 = 6.3
6
 x 
N 2
x
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S) = i 1
i

 x 
N 2
N x
จากสูตร S =
i
i 1

N
N

หรือ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S) = x 2


แทนค่า จะได้ S = 5 . 34
 
i
2
i 1
 x 6
N
S = 0. 89 = 0.94
26
2 2
วัดการกระจายของข้อมูลที่แจกแจงความถี่ โดยใช้ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน x f fx (x - x ) f(x - x )
คะแนน
10 – 14 15 3 36 20.25 60.75
f x x 
2
15 – 19 17 5 85 0.25 1.25
S =
N 20 – 24 22 2 44 30.25 60.25
N = 10 fx = 165 f(x - x )2 = 122.50
 fx 2

S =  
 x
2

=  fx =
N
จากสูตร x 165 = 16.5
N 10
 S = 122 . 50 = 12 . 25 = 3.5
เมื่อ xi เป็นจุดกึง่ กลางของอันตราภาคชั้นที่ i 10
fi เป็นความถี่ของอันตราภาคชั้นที่ i
k เป็นจานวนอันตราภาคชั้น
N เป็นจานวนของข้อมูลทั้งหมด หรือผลรวมของความถี่ของทุกๆ  fx 2

วิธีที่ 2 ใช้สูตร S =  x   2

อันตราภาคชั้น N

x เป็นค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลทั้งหมด
x f fx x2 fx2
คะแนน
ตัวอย่างที่ 1 จงหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน จากตารางแจกแจงความถี่ต่อไปนี่
10 – 14 15 3 36 144 432
15 – 19 17 5 85 289 1,445
10 – 14 15 – 19 20 – 24
คะแนน 20 – 24 22 2 44 484 968
ความถี่ 3 5 2 N = 10 fx = 165 fx = 2,845
2

วิธีทา จากสูตร x =  fx = 165 = 16.5


N 10
f x x 
2

วิธีที่ 1 ใช้สูตร S =
N  S = 2 ,845
 16 . 5 
2 = 12 . 25 = 3.5
10
27
แบบฝึกทักษะที่ 13 ความแปรปรวนของข้อมูล

คาชี้แจง ให้นักเรียนเติมคาตอบที่ถูกต้องลงในช่องว่างในตารางต่อไปนี้ ให้สมบูรณ์ 1. ความหมายของความแปรปรวน


ส่วนเบี่ยงเบน ความแปรปรวน (Variance) คือ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานยกกาลังสอง ใช้สัญลักษณ์ S2
 x 
ข้อ ข้อมูล x
2
มาตรฐาน 2. การหาความแปรปรวนของข้อมูล แบ่งเป็น 2 กรณี คือ
x
2.1 เมื่อข้อมูลไม่ได้แจกแจงความถี่ จะใช้สูตรในการหาความแปรปรวน ดังนี้
1 4,5,6,9
2 3,4,5,6,7
3 2,3,5,6 S2 =  (x  x )2
N
4 1,3,6,48,3,5,2 2 x
5 13 , 9 , 14 , 6 , 8 , 11 , 5 , 8 , 8 , 6 , 11 , 9 หรือ S = 2

 x   2

6. จากตารางแจกแจงคะแนนสอบของนักเรียน 20 คน เป็นดังนี้
2.2 เมื่อข้อมูลแจกแจงความถี่ จะใช้สตู รในการหาความแปรปรวน ดังนี้
ความถี่ จุดกึ่งกลางชั้น xi - x (xi - x )2 fi(x i- x )2 x
คะแนน (fi) (xi) S
20 – 29 2
30 – 39 4 S2 = f (x  x )2
N
40 – 49 7 2
50 – 59 5
หรือ S =  fx 2

 x   2

N
60 – 69 2
รวม 20 – – –

7. จากตารางแจกแจงวันลาของนักเรียน 30 คน เป็นดังนี้

คะแนน จานวนนักเรียน xi x2 fx2 ( x )2 S


x
1–3 3
4–6 12
7–9 15
รวม 30 – –
28
การวัดการกระจายสัมพัทธ์ ตัวอย่างที่ 2 กาหนดตารางแจกแจงความถี่ของข้อมูล 2 ชุด เป็นดังนี้
ข้อมูลชุดที่ 1 ข้อมูลชุดที่ 2
เป็นการเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูลตั้งแต่ 2 ชุดขึ้นไป ข้อมูล ความถี่ ข้อมูล ความถี่
1. สัมประสิทธิ์ของพิสัย 50 – 52 12 60 – 62 5
2. สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ 53 – 55 13 63 – 55 18
3. สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย 56 – 58 20 66 – 68 17
4. สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนแปรผัน 59 – 61 15 69 – 71 30
รวม N = 60 รวม N = 70
1. สัมประสิทธิ์ของพิสัย จงเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูล 2 ชุด โดยใช้สัมประสิทธิ์ของพิสัย

ในการเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูลตั้งแต่ 2 ชุดขึ้นไป โดยใช้สัมประสิทธิ์ของพิสัย มีขั้นตอน ข้อมูล ขอบบนของ ขอบล่างของ สัมประสิทธิ์ การเปรียบเทียบการ


ดังนี้ ชุดที่ อันตราภาคชั้น อันตราภาคชั้นที่มี ของพิสัย กระจายของข้อมูล
1. หาสัมประสิทธิ์ของพิสัยของข้อมูลแต่ละชุด ที่มีค่าสูงสุด ค่าต่าสุด
2. นาสัมประสิทธิ์ของพิสัยของข้อมูลแต่ละชุดเปรียบเทียบกันได้ 61 . 5  49 . 5 ข้อมูลชุดที่ 1. มี
61 . 5  49 . 5
3. ถ้าสัมประสิทธิ์ของพิสัยของข้อมูลชุดใดมีค่ามากกว่าสัมประสิทธิ์ของพิสัยของข้อมูลชุดหนึง่ 1. 61.5 49.5 การกระจายมากกว่า
= 0.108
แสดงว่าข้อมูลชุดนั้นมีการกระจายมากกว่าข้อมูลอีกชุดหนึ่ง 71 . 5  59 . 5
ข้อมูลชุดที่ 2.
ตัวอย่างที่ 1 กาหนดข้อมูล 2 ชุด ดังนี้ 2. 71.5 59.5
71 . 5  59 . 5

ชุด ก. 62 , 65 , 63 , 64 , 66 , 61 = 0.092
ชุด ข. 90 , 92 , 94 , 103 , 109 , 107
จงเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูล 2 ชุด โดยใช้สัมประสิทธิ์ของพิสัย จากตัวอย่างที่ 1 และ 2 สรุปเป็นสูตรในการหาสัมประสิทธิ์ของพิสัย ได้ดังนี้
วิธีทา
ข้อมูล ค่าสูงสุด ค่าต่าสุด สัมประสิทธิ์ ของ การเปรียบเทียบการ x max  x min
ชุด พิสัย กระจายของข้อมูล
C.R. =
x max  x min
66  61

5 ข้อมูลชุด ข. มีการกระจาย
ก. 66 61 66  61 127 มากกว่าข้อมูลชุด ก.
= 0.039 เมื่อ C.R. แทน สัมประสิทธิ์ของพิสัย
109  90 19

ข. 109 90 109  90 199
= 0.095
29
แบบฝึกทักษะที่ 14
4. จากตารางแจกแจงความถี่ต่อไปนี้ เป็นน้าหนักของนักเรียนชาย 2 กลุ่ม ในระดับ
คาชี้แจง ให้นักเรียนเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูลในแต่ละข้อต่อไปนี้ โดยใช้สัมประสิทธิ์ของพิสัย ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
พร้อมทั้งเติมตารางให้สมบูรณ์ กลุ่มที่ 1 กลุม่ ที่ 2

1. คะแนนสอบวิชาสถิติของนักเรียน จานวน 5 คน เป็นดังนี้ น้าหนัก (ก.ก.) จานวนนักเรียน น้าหนัก (ก.ก.) จานวนนักเรียน


คะแนนสอบครั้งที่ 1 : 12 , 6 , 7 , 3 , 15 , 10 , 18 , 5 45 – 50 2 42 – 45 4
คะแนนสอบครั้งที่ 2 : 9 , 4 , 6 , 8 , 10 51 – 56 4 46 – 49 8
ตารางคาตอบข้อ 1 57 – 62 6 50 – 53 16
คะแนนสอบ xmax xmin สัมประสิทธิ์ของพิสัย การเปรียบเทียบการ 63 – 68 8 54 – 57 4
ครั้งที่ กระจายของข้อมูล 69 – 74 12 58 – 61 8
1.
2. ตารางคาตอบข้อ 4
ข้อมูล สัมประสิทธิ์ การเปรียบเทียบการกระจาย
2. จากตารางแจกแจงความถี่ต่อไปนี้ เป็นคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ (ค41101) ของนักเรียน ที่ xmax xmin ของพิสัย ของข้อมูล
ชั้น ม.4/1 และ ม.4/2 เป็นดังนี้ ม.4/1
ม.4/2
ชั้น ม.4/1 ชั้น ม.4/2
ข้อมูล ความถี่ ข้อมูล ความถี่
20 – 25 8 15 – 19 10
26 – 31 10 20 – 24 15
32 – 37 22 25 – 29 3
38 – 43 3 30 – 34 12

ตารางคาตอบข้อ 3
ข้อมูล สัมประสิทธิ์ การเปรียบเทียบการกระจาย
ที่ xmax xmin ของพิสัย ของข้อมูล
ม.4/1
ม.4/2
30
2. สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ ตัวอย่างที่ 3 ข้อมูลต่อไปนี้เป็นคะแนนสอบวิชาสถิติของนักเรียนชาย จานวน 50 คน และนักเรียน
หญิง จานวน 30 คน
สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ เป็นค่าที่นาไปใช้ในการเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูล นักเรียนชาย นักเรียนหญิง
ตั้งแต่ 2 ชุดขึ้นไป เพื่อบอกว่าข้อมูลชุดใดมีการกระจายมากและน้อยกว่ากัน ข้อมูล ความถี่ ความถี่สะสม ความถี่ ความถีส่ ะสม
ในการเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูลตั้งแต่ 2 ชุดขึ้นไป โดยใช้สัมประสิทธิ์ของ 20 – 24 8 8 4 4
ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ มีขั้นตอนดังนี้ 25 – 29 10 18 6 10
1. หาสัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ของข้อมูลแต่ละชุด 30 – 34 14 32 10 20
2. นาค่าคานวณได้ในข้อ 1 เปรียบเทียบกัน 35 – 39 9 41 5 25
3. ถ้าสัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ของข้อมูลชุดหนึ่ง มีค่ามากกว่า 40 – 44 6 47 3 28
สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ของข้อมูลอีกชุดหนึ่ง แสดงว่าข้อมูล 45 – 49 3 50 2 30
ชุดนั้นมีการกระจายมากกว่า รวม N = 50 N = 30

Q 3  Q1 จงเปรียบเทียบการกระจายของคะแนนสอบวิชาสถิติของนักเรียนชาย และนักเรียนหญิง โดยใช้


C.Q.D. = สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์
Q 3  Q1
วิธีทา

ตัวอย่างที่ 1 กาหนดข้อมูล 2 ชุด เป็นดังนี้ ข้อมูล สัมประสิทธิ์ของส่วน การเปรียบเทียบการกระจาย


ชุดที่ 1 : 13 , 6 , 8 , 2 , 15 , 10 , 19 , 4 ชุดที่ Q1 Q3 เบี่ยงเบนควอร์ไทล์ ของข้อมูล
ชุดที่ 2 : 8 , 2 , 7 , 7 , 8 , 7 , 8 , 19 นักเรียน คะแนนสอบวิชาสถิติของ
จงเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูล 2 ชุด โดยใช้สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ ชาย 26.75 27.56 27 . 56  26 . 75 นักเรียนชายมีการกระจาย
 0 . 168
วิธีทา 27 . 56  26 . 75 มากกว่านักเรียนหญิง
ข้อมูล สัมประสิทธิ์ของส่วน การเปรียบเทียบการกระจาย
ชุดที่ Q1 Q3 เบี่ยงเบนควอร์ไทล์ ของข้อมูล นักเรียนหญิง
1. 4.5 14.5 14 . 5  4 . 5 ข้อมูลชุดที่ 1 มีการกระจาย 27.42 37.00 37  27 . 42
 0 . 526  0 . 149
14 . 5  4 . 5 37  27 . 42
มากกว่าข้อมูลชุดที่ 2
2. 7 8 87
 0 . 067
87
31
แบบฝึกทักษะที่ 15 3. ข้อมูลต่อไปนี้เป็นคะแนนสอบวิชาสถิติของนักเรียนชาย และนักเรียนหญิง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง
คาชี้แจง ให้นักเรียนเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูลในแต่ละข้อต่อไปนี้ โดยใช้สัมประสิทธิ์ นักเรียนชาย นักเรียนหญิง
ของส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ พร้อมทั้งเติมตารางให้สมบูรณ์ ข้อมูล ความถี่ ความถี่สะสม ความถี่ ความถี่สะสม
10 – 14 3 3 4 4
1. กาหนดข้อมูล 2 ชุด เป็นดังนี้ 15 – 19 7 10 6 10
ชุดที่ 1 : 12 , 6 , 7 , 3 , 15 , 10 , 18 , 5 20 – 24 10 20 12 22
ชุดที่ 2 : 9 , 3 , 8 , 8 , 9 , 8 , 9 , 18 25 – 29 8 28 8 30
30 – 34 2 30 10 40
ตารางคาตอบข้อ 1
ข้อมูล สัมประสิทธิ์ของส่วน ผลการเปรียบเทียบการกระจาย ตารางคาตอบข้อ 3
ชุดที่ Q1 Q3 เบี่ยงเบนควอร์ไทล์ ของข้อมูล ข้อมูล Q1 Q3 สัมประสิทธิ์ของส่วน ผลการเปรียบเทียบการ
1. เบี่ยงเบนควอร์ไทล์ กระจายของข้อมูล
2. คะแนนของ
นักเรียนชาย
2. กาหนดข้อมูล 2 กลุ่ม เป็นดังนี้ คะแนนของ
กลุ่มที่ 1 : 2 , 6 , 8 , 12 , 18 , 20 , 22 , 30 , 40 นักเรียนหญิง
กลุ่มที่ 2 : 3 , 6 , 9 , 12 , 17 , 21 , 24

ตารางคาตอบข้อ 2
ข้อมูล สัมประสิทธิ์ของส่วน ผลการเปรียบเทียบการกระจาย
กลุ่มที่ Q1 Q3 เบี่ยงเบนควอร์ไทล์ ของข้อมูล
กลุ่มที1่
กลุ่มที2่
32
3. สัมประสิทธิข์ องส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย ตัวอย่างที่ 2 ข้อมูลจากตารางแจกแจงความถี่ต่อไปนี้ เป็นคะแนนสอบวิชาภาษาไทย
สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย เป็นค่าที่นาไปใช้ในการเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูล ของนักเรียนชั้น ม.3/1 และ ชั้น ม.3/2 จานวนชั้นละ 40 คน
ตั้งแต่ 2 ชุดขึ้นไป เพื่อบอกว่าข้อมูลชุดใดมีการกระจายมากและน้อยกว่ากัน
ในการเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูลตั้งแต่ 2 ชุดขึ้นไป โดยใช้สัมประสิทธิ์ของ คะแนน จานวนนักเรียนชั้น ม.3/1 จานวนนักเรียนชั้น ม.3/2
ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย มีขั้นตอนดังนี้ 20 – 26 6 10
1. หาสัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของข้อมูลแต่ละชุด 27 – 33 12 8
2. นาค่าคานวณได้ในข้อ 1 เปรียบเทียบกัน 34 – 40 18 2
3. ถ้าสัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของข้อมูลชุดหนึ่ง มีค่ามากกว่า 41 – 47 3 14
สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของข้อมูลอีกชุดหนึ่ง แสดงว่าข้อมูล 48 – 54 1 6
ชุดนั้นมีการกระจายมากกว่า รวม N = 40 N = 40

วิธีทา
M .D .
C.M.D. =
x ค่าเฉลี่ยเลข ส่วนเบี่ยงเบน สัมประสิทธิ์ของส่วน การเปรียบเทียบการ
ข้อมูล คณิต ( x ) เฉลี่ย (M.D.) เบี่ยงเบนเฉลี่ย กระจายของข้อมูล
คะแนนสอบวิชา
ตัวอย่างที่ 1 กาหนดข้อมูล 2 ชุด เป็นดังนี้ ม.3/1 33.68 7.23 7 . 23 ภาษาไทยของ
 0 . 21
ชุดที่ 1 : 2 , 4 , 6 , 8 , 10 33 . 68 นักเรียนชั้น ม.3/2
ชุดที่ 2 : 3 , 5 , 7 , 9 มีการกระจายมากกว่า
จงเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูล 2 ชุด โดยใช้สัมประสิทธิข์ องส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย ชั้น ม.3/1
วิธีทา ม.3/2 36.65 9.49 9 . 49
 0 . 26
36 . 65

ข้อมูล (x ) ส่วนเบี่ยงเบน สัมประสิทธิ์ของส่วน การเปรียบเทียบการ


ชุดที่ เฉลี่ย (M.D.) เบี่ยงเบนเฉลี่ย กระจายของข้อมูล
ชุดที1่ 6 2.4 2.4
 0 . 40 ข้อมูลชุดที่ 1 มีการกระจาย
6
มากกว่าข้อมูล ชุดที่ 2
ชุดที2่ 6 2 2
 0 . 33
6
33
แบบฝึกทักษะที่ 16 3. จงเปรียบเทียบการกระจายของคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ชั้น ม.2 และ ชั้น ม.3
ชั้นละ 1 ห้องเรียน ในโรงเรียนบัวใหญ่ ปีการศึกษา 2540 เป็นดังนี้
คาชี้แจง ให้นักเรียนเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูลในแต่ละข้อต่อไปนี้ โดยใช้สัมประสิทธิ์ของส่วน
เบี่ยงเบนเฉลี่ย พร้อมทั้งเติมตารางให้สมบูรณ์ คะแนน จานวนนักเรียนชั้น ม.2 จานวนนักเรียนชั้น ม.3
20 – 26 6 4
1. ส่วนสูงของนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึง่ สุ่มมาชัน้ ละ 4 คน 27 – 33 12 10
เป็นดังนี้ 34 – 40 18 8
ส่วนสูงของนักเรียนชั้น ม.1 : 130 , 130 , 136 , 140 41 – 47 3 5
ส่วนสูงของนักเรียนชั้น ม.2 : 132 , 132 , 138 , 150 48 – 54 1 6

ตารางคาตอบข้อ 1 จงหาสัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย
สัมประสิทธิ์ของ ส่วน ผลการเปรียบเทียบการ 4. จงเปรียบเทียบการกระจายของคะแนนสอบวิชาภาษาไทยชั้น ม.5/1 และ ชั้น ม.5/2
ข้อมูล M.D. เบี่ยงเบนเฉลี่ย กระจายของข้อมูล โรงเรียนบัวใหญ่ ปีการศึกษา 2540 เป็นดังนี้
x
ส่วนสูงของ นักเรียน
ชั้น ม.1 คะแนน จานวนนักเรียนชั้น ม.5/1 จานวนนักเรียนชั้น ม.5/2
ส่วนสูงของ นักเรียน 21 – 23 1 2
ชั้น ม.2 24 – 26 6 5
27 – 29 10 8
2. ข้อมูลต่อไปนี้เป็นคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้น ม.5/1 และ 30 – 32 17 15
นักเรียนชั้น ม.5/2 จานวนชั้นละ 6 คน เป็นดังนี้ 33 – 35 4 6
คะแนนสอบของนักเรียนชั้น ม.5/1 : 8 , 8 , 10 , 6 , 4 , 4 36 – 38 2 4
คะแนนสอบของนักเรียนชั้น ม.5/2 : 8 , 7, 9 , 10 , 6 , 2 รวม N = 40 N = 40
จงเปรียบเทียบการกระจายของคะแนนนักเรียนชั้น ม.5/1 และ ม.5/2
จงหาสัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย
34
4. สัมประสิทธิข์ องส่วนเบี่ยงเบนแปรผัน ตัวอย่างที่ 3 กาหนดตารางแจกแจงความถี่ซึ่งเป็นข้อมูล แสดงคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ (ค012)
สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนแปรผัน เป็นค่าที่นาไปใช้ในการเปรียบเทียบการกระจายของ ของนักเรียนชั้น ม.4/2 และ ชั้น ม.4/3 ในโรงเรียนบัวใหญ่ ปีการศึกษา 2534 มีดังนี้
ข้อมูลตั้งแต่ 2 ชุดขึ้นไป และเป็นค่านิยมที่ใช้มากที่สุด เพื่อบอกว่าข้อมูลชุดใด มีการกระจายมาก หรือ
น้อยกว่ากัน ค่าใช้สัมประสิทธิ์ของการแปรผัน นิยมเขียนในรูปเปอร์เซ็นต์โดยคูณด้วย 100 มีขั้นตอนดังนี้ คะแนน จานวนนักเรียนชั้น ม.4/2 จานวนนักเรียนชั้น ม.4/3
1. หาสัมประสิทธิ์ของการแปรผันของข้อมูลแต่ละชุด 1–3 2 4
2. นาค่าคานวณได้ในข้อ 1 เปรียบเทียบกัน 4–6 3 2
3. ถ้าสัมประสิทธิ์ของการแปรผันของข้อมูลชุดหนึง่ มีค่ามากกว่าค่าสัมประสิทธิ์ 7–9 5 8
ของการแปรผันของข้อมูลอีกชุดหนึ่ง แสดงว่าข้อมูลชุดนั้นมีการกระจาย 10 – 12 7 3
มากกว่า 13 – 15 4 4
16 – 18 1 9
S .D .
C.V. = รวม N = 22 N = 30
x
วิธีทา
ตัวอย่างที่ 1 กาหนดข้อมูล 2 ชุด เป็นดังนี้
ชุดที่ 1 : 2 , 4 , 6 , 8 , 10 สัมประสิทธิ์ของการ การเปรียบเทียบการ
ชุดที่ 2 : 3 , 5 , 7 , 9 ข้อมูล x S .D. แปรผัน กระจายของข้อมูล
จงเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูล 2 ชุด โดยใช้สัมประสิทธิข์ องการแปรผัน คะแนนสอบวิชา คะแนนสอบวิชา
วิธีทา คณิตศาสตร์ของ 9.5 3.92 3 . 92
 0 . 41 คณิตศาสตร์ของนักเรียน
ข้อมูล สัมประสิทธิ์ของการ การเปรียบเทียบการกระจาย นักเรียนชั้น ม.4/2 9.5 ชั้น ม.4/3 มีการกระจาย
หรือ = 41%
ชุดที่ x S.D. แปรผัน ของข้อมูล มากกว่า
คะแนนสอบวิชา
ชุดที1่ 6 2.82 2 . 82
 0 . 44 ข้อมูลชุดที่ 1 มีการกระจาย ชั้น ม.4/2
6 คณิตศาสตร์ของ 10.8 5.25 5 . 25
 0 . 486
มากกว่าข้อมูล ชุดที่ 2
หรือ = 47% นักเรียนชั้น ม.4/3 10 . 8
ชุดที2่ 6 2.24 2 . 24 หรือ = 48.60%
 0 . 37
6
หรือ = 37%
35
3. ตารางต่อไปนี้ เป็นคะแนนการสอบวิชาชีววิทยาของนักเรียนชั้น ม.5/1 และ ชั้น ม.5/2
แบบฝึกทักษะที่ 17 ในโรงเรียนบัวใหญ่ ปีการศึกษา 2539 เป็นดังนี้

คะแนน จานวนนักเรียนชั้น ม.5/1 จานวนนักเรียนชั้น ม.5/2


คาชี้แจง ให้นักเรียนเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูลในแต่ละข้อต่อไปนี้
0–4 2 4
โดยใช้สัมประสิทธิข์ อง การแปรผัน พร้อมทั้งเติมตารางให้สมบูรณ์
5–9 3 5
1. กาหนดข้อมูล 2 ชุด ประกอบด้วย 10 – 14 4 6
ชุด ก. : 8 , 8 , 10 , 6 , 4 , 4 15 – 19 4 8
ชุด ข. : 8 , 7 , 9 , 10 , 6 , 2 20 – 24 7 7
รวม N = 20 N = 30
ตารางคาตอบข้อ 1
จงเปรียบเทียบการกระจายของคะแนนสอบวิชาชีววิทยาของนักเรียนชั้น ม.5/1 และ ชั้น
ข้อมูล S.D. สัมประสิทธิ์ของการ ผลการเปรียบเทียบการ ม.5/2
x
แปรผัน กระจายของข้อมูล ตารางคาตอบข้อ 3
ชุด ก. สัมประสิทธิ์ของ ผลการเปรียบเทียบ
ชุด ข. ข้อมูล x S.D. ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย การกระจายของ
ข้อมูล
2. กาหนดข้อมูลดังตารางข้างล่างนี้ จงเติมตารางให้สมบูรณ์ คะแนนการสอบวิชา
ชีววิทยาชั้น ม.5/1
สัมประสิทธิ์ของ การ ผลการเปรียบเทียบการกระจาย คะแนนการสอบวิชา
ข้อมูล S.D. แปรผัน ของข้อมูล ชีววิทยาชั้น ม.5/2
x
ชุด ก. 4 1
ชุด ข. 8 2
ชุด ค. 12 3
36
เอกสารฝึกหัดเพิม่ เติม 4. ในการสอบวิชาคณิตศาสตร์ ปรากฎว่า นายธาดาได้คะแนนอยู่ในตาแหน่ง P25 นางสาวสุดฤดีได้
คะแนนอยู่ในตาแหน่ง P75 ถ้าการสอบครั้งนี้ มีส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์เท่ากับ 24 และสัมประสิทธิข์ อง
คาชี้แจง ให้นักเรียนทาเอกสารฝึกหัดเพิ่มเติม รหัสที่ 4 จานวน 7 ข้อ เป็นการบ้าน ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์เท่ากับ 0.20 แล้วจงหาว่า นายธาดาและนางสาวสุดฤดีได้คะแนนคนละคะแนน
แล้วนาส่งครูผู้สอน ( ตอบ นายธาดาสอบได้ 96 คะแนน และนางสาวสุดฤดีสอบได้ 144 คะแนน)

1. ในการสอบวิชาคณิตศาสตร์ครั้งนี้ ปรากฎว่า สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์เท่ากับ 0.2 ถ้า 5. ในการจัดความสูงของนักเรียน 200 คน พบว่าความสูงต่าของกลุ่มนักเรียนที่มีความสูงสุด


นายพรศักดิ์สอบได้ 60 คะแนน ซึง่ ตรงกับ P75 แล้วอยากทราบว่า นายสมชายสอบได้คะแนนตรวกับ P25 คิดเป็น 25% ของนักเรียนทั้งเรียนทั้งหมดเป็น 53.5 นิ้ว ถ้าสัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบน
จะสอบไดกี่คะแนน ควอร์ไทล์เป็น 6% แล้วจงหาค่าของควอร์ไทล์ที่หนึ่ง (Q1) ( ตอบ Q1  47.44)
( ตอบ สมชายสอบได้ 40 คะแนน )
6. ในการสอบครั้งหนึ่งมีผเู้ ข้าสอบ 1,000 คน ในมีจานวนนี้มีนักเรียนชาย 500 คน ส่วนที่เหลือเป็น
2. จงเปรียบเทียบการกระจายของคะแนนสอบวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้น ม.5/1 และ ม.5/2 โดยใช้ นักเรียนหญิง ปรากฎว่าค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนสอบของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงเท่ากัน
สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย จากตารางแจกแจงความถี่ต่อไปนี้ คือ 50 คะแนน แต่ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงเท่ากับ 1.5
และ 1 ตามลาดับ จงหาสัมประสิทธิ์ของการแปรผันของคะแนนสอบทั้งหมด
จานวนนักเรียน
(ตอบ 2.64 %)
คะแนน ม. 5/1 ม. 5/2
2–4 2 8 7. ในการคานวณหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต และความแปรปรวนของข้อมูลชุดหนึง่ ได้เป็น 8 และ 28.2 ตามลาดับ
5–7 4 6 แต่ตรวจพบทีหลังว่า มีที่ผิดพลาดอยู่ 2 ตาแหน่ง แห่งแรก คือ อ่านสมาชิกที่มีค่า 5 เป็น 6 แห่งที่สอง
8 – 10 6 4 อ่านข้อมูลตกไปค่าหนึ่ง คือ 12 ถ้าข้อมูลที่แท้จริง มี 10 จานวน จงหาสัมประสิทธิ์ของการแปรผันของ
11 – 13 8 2 ข้อมูลชุดนี้
(ตอบ 60.25 %)
(ตอบ คะแนนสอบวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้น ม.5/2 มีการกระจายมากกว่า
คะแนนของนักเรียนชั้น ม.5/1 )

3. ในการสอบวิชาภาษาไทย และสังคมศึกษาของนักเรียน 40 คน ปรากฎว่า คะแนนเฉลี่ย ทัง้ สองเท่ากัน


คือ 68 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนวิชาภาษาไทย และสังคมศึกษาเท่ากับ 15 และ 12
คะแนน ตามลาดับ จงหาว่า คะแนนสอบวิชาใดมีการกระจายมากกว่ากัน (ตอบ วิชาภาษาไทย)
37

แบบฝึกเสริมทักษะ
9. คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียน 80 คน พบว่า
แนวข้อสอบ O-NET
คะแนน 50-54 55-59 60-64 65-69 70-74 75-79 80-84 85-89 90-94 95-99
จานวนนักเรียน 1 2 11 10 12 21 6 9 4 4
นักเรียนจงหาคาตอบต่อไปนี้
1. ข้อมูลชุดหนึง่ มี 8 จานวน คือ a , b , c , d , 2 , 4 , 10 , 12 ถ้าข้อมูลชุดนี้มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ 5 แล้ว a ,
ถ้าคะแนนแต่ละคนที่สอบได้เป็นจานวนเต็ม จงหาว่า
b , c , d , 18 มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่าใด
9.1 นักเรียนที่สอบได้อันดับที่ 5 อาจได้คะแนนสูงสุดถึงเท่าใด
2. ส่วนสูงของพี่น้อง 2 คน มีพิสัยเท่ากับ 12 ซม. มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ 171 ซม. จงหาอายุของพี่และน้อง 9.2 นักเรียนที่สอบได้คะแนนตั้งแต่ 75 ถึง 94 คิดเป็นร้อยละเท่าใด
ทั้งสองคนนี้
10. ในการสอบวิชาหนึ่งมีผู้สอบได้เกรดต่าง ๆ ดังนี้ เกรด A มี 5% เกรด B มี 20% เกรดC มี 30%เกรด
3. ข้อมูลชุดหนึ่งมี 3 จานวน มีฐานนิยม = มัธยฐาน = 70 มีค่าเฉลี่ยเลขคณิต = 64 แล้วพิสัยมีค่าเท่าใด D มี 40% นอกนั้นได้เกรด F นักเรียนที่สอบได้ควอไทล์ที่ 1 จะได้เกรดใด
1. A 2. B 3. C 4. D
4. ข้อมูลชุดหนึ่งประกอบด้วย 4, 9, 2, 7, 6, 5, 4, 6, 3, 4 จงเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยเลขคณิต ฐานนิยม และ 11. ในการสอบวิชาคณิตศาสตร์ครั้งหนึ่ง สัมประสิทธิ์ส่วนเบี่ยงเบนควอไทล์เท่ากับ0.2 ถ้าควอไทล์ที่ 1
มัธยฐาน เท่ากับ 35.8 ควอไทล์ที่ 3 มีค่าเท่าใด
1. 23.86 2. 39.56 3. 53.70 4. 55.24
5. ข้อมูลชุดหนึ่งมี 5 จานวน มีฐานนิยม มัธยฐาน และค่าเฉลี่ยเลขคณิต เป็น 14, 15 และ 16 ตามลาดับ และ
12. นักเรียนห้องหนึง่ มี 150 คน นักเรียนชายสอบวิชาคณิตศาสตร์ได้คะแนนเฉลี่ย 70 คะแน นักเรียน
พิสัยเท่ากับ 6 แล้วความแปรปรวนมีค่าเท่าใด
หญิงสอบวิชาคณิตศาสตร์ได้คะแนนเฉลี่ย 55 คะแนน ถ้าคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนทั้งห้องเป็น 60
6. นาอายุของนักเรียนมา 10 คน หาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานได้เป็นศูนย์ ถ้านาอายุของแต่ละคนมายกกาลัง คะแนน จงหาจานวนนักเรียนชายมีกี่คน
สอง แล้วบวกกันจาได้เป็น 1,000 ปี2 จงหาว่าเด็กกลุ่มนี้มีอายุคนละเท่าไร 1. 50 2. 75 3. 100 4. 125

7. ความสูงในหน่วยเซนติเมตรของนักเรียน 10 คน เป็นดังนี้
155, 157, 158, 158, 160, 161, 161, 163, 165, 166
ตั้งใจนะคะ ความพยายามอยู่ที่ไหน
ถ้ามีนักเรียนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน ซึ่งมีความสูง 158 ซม. แล้วค่าสถิติใดไม่เปลี่ยนแปลง
ความสาเร็จอยู่ที่นั่น
ก. ค่าเฉลี่ย ข. มัธยฐาน ค. ฐานนิยม ง. พิสัย

8. ข้อมูลชุดหนึง่ มีค่าเฉลี่ย 20 มัธยฐาน 25 และฐานนิยม 30 ข้อมูลนี้มีการกระจายแบบใด


ก. เบ้ซ้าย ข. เบ้ขวา ค. แบบมาตรฐาน ง. สรุปไม่ได้

You might also like