Professional Documents
Culture Documents
Earthquake Ch1
Earthquake Ch1
µ∆ = ∆ m / ∆ y (1)
Load, P
µ ∆ = ∆m / ∆ y
Plastic hinge
Deflection
y m
ภาพที่ 2 ความเหนียวขององค์อาคาร
Elastic force, Fe
∆y Displacement at yield
Lateral inertial load ∆r Residual displacement
A ∆ Displacement at ultimate
u
Plastic hinge
Inelastic force, Fi
B
Plastic hinge
∆y ∆u
Lateral deflection
Required ductility
ภาพที่ 3 ความเหนียวขององค์อาคารช่วยลดขนาดแรงแผ่นดินไหวที่ใช้ในการออกแบบลงได้
Potential energy
Dissipated energy
Potential energy
∆u ∆y ∆u
Lateral deflection Lateral deflection
µϕ = ϕ m / ϕ y (2)
µ∆ − 1 (3)
µφ = 1 +
3(l p / l )[1 − 0.5(l p / l )]
โดยที่ lp เป็ นความยาวของ plastic hinge และ l เป็ นความยาวขององค์อาคาร ความยาวของ plastic
hinge สามารถคํานวณได้จาก
ตัวอย่ างโจทย์
เสายืน่ ค.ส.ล. (Cantiliver column) ต้นหนึ่งมีความยาว 4 ม. เสริ มด้วยเหล็ก DB28 เกรด SD30 (กําลัง
คราก = 300 MPa) ต้องออกแบบให้หน้าตัดมีความเหนียว µϕ เท่าไร จึงจะได้ความเหนียวขององค์อาคาร
µ∆ = 6
วิธีทาํ
1. คํานวณความยาว plastic hinge ดังนี้
lp = 0 . 08 × 4 + 0 . 022 × 0 . 028 × 300 = 0 . 5 m
Moment, M M M
Moment, M
µ = ϕ m /ϕ y
Dissipated energy
ϕy ϕ m Curvature, ϕ Curvature, ϕ
แบบเหล็กเสริ มดึงรู ด (bond pull-out failure) หากองค์อาคารเกิดการวิบตั ิแบบ crushing หรื อ แบบเฉื อน
การสลายพลังงานจะเกิดไม่ได้ เพราะเป็ นการวิบตั ิแบบเปราะ ดังนั้นเพื่อให้ plastic hinge สลายพลังงาน
ได้ตามต้องการ ต้องออกแบบให้การวิบตั ิเป็ นแบบที่เหล็กเสริ มคราก เมื่อองค์อาคารรับแรงแผ่นดินไหว
องค์อาคารจะเกิดการโยกตัวไปกลับไปมาเป็ นวนรอบ (Cyclic loops) ดังแสดงใน ภาพที่ 5 พื้นที่ภายใน
ลูปแสดงพลังงานที่สลายไปต่อการเคลื่อนที่ 1 รอบ พฤติกรรมการสลายพลังงานดังแสดงในภาพที่ 5
เรี ยกว่าพฤติกรรมอีลาสโต-พลาสติก (Elasto-plastic) ซึ่ งมีคุณลักษณะเด่นคือมี ลูปที่กว้าง สลายพลังงาน
ได้มาก พฤติกรรมขององค์อาคารคอนกรี ตเสริ มหล็กจะมีลูปที่แคบกว่านี้ดงั จะได้อธิ บายต่อไป
พฤติ ก รรม Column sidesway mechanism เป็ นที่ รู้จกั กันดี ในอี กชื่ อหนึ่ งว่า soft-story mechanism
และเป็ นหนึ่ งในหลายๆสาเหตุ ที่สําคัญที่ ท าํ ให้โครงสร้ างพังทลายลงมาในการเกิ ดแผ่นดิ นไหวครั้งที่
ผ่ า นๆมา เนื่ อ งจากการออกแบบเสาไม่ มี ค วามเหนี ย วพอ การออกแบบเพื่ อ ให้ เกิ ด beam sidesway
mechanism ทําได้โดยการออกแบบให้เสามีกาํ ลังสู งกว่าคาน มากพอที่จะบังคับให้ plastic hinge เกิดใน
คาน การออกแบบในลักษณะนี้เรี ยกว่า capacity design approach ซึ่ งจะได้อธิ บายในหัวข้อถัดไป
M n1 + M n 2 wu L (5)
Ve = +
L 2
(a) (a)
(b) (b)
(c) (c)
ภาพที่ 6 การโก่งตัว แรงเฉื อน และ โมเมนต์ที่ ภาพที่ 7 การโก่งตัว แรงเฉื อน และ โมเมนต์ที่
เกิดขึ้นในโครงข้อแข็งเมื่อรับแรงแนวดิ่ง เกิดขึ้นในโครงข้อแข็งเมื่อรับแรงแนวราบ
SESSION 1-1 10/20
∆u ∆u
θ2
θ1
ภาพที่ 8 เปรี ยบเทียบระหว่าง Beam sidesway mechanism และ Column sidesway mechanism
M o1 Ve Ve M o2
อย่างไรก็ตามสําหรับโครงข้อแข็งที่มีความเหนียจํากัดตามที่ระบุไว้ในกฏกระทรวงไม่ได้มีขอ้ กําหนด
ข้างต้น แต่เพื่อเป็ นการออกแบบที่ดี ผูเ้ ขียนแนะนําให้ใช้สมการข้างล่างนี้
∑ Mc > ∑ Mg (6.2)
นัน่ คืออย่างน้อยเสาจะต้องมีกาํ ลังต้านทานโมเมนต์มากกว่าหรื อเท่ากับของคาน
5. Flexural Over-strength
ในระหว่างเกิดแผ่นดินไหว โมเมนต์ที่ทาํ ให้คานเกิด plastic hinge อาจจะมีค่าสู งกว่ากําลังโมเมนต์
ดัดระบุ เพราะกําลังรับโมเมนต์ดดั ที่แท้จริ งมักมีค่าสู งกว่ากําลังโมเมนต์ดดั ระบุของหน้าตัด เราเรี ยกกําลัง
ต้านทานโมเมนต์สูงสุ ดนี้วา่ flexural over-strength ซึ่ งสามารถเขียนสมการแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง
flexural over-strength (M0) และ nominal strength (Mn) ได้ดงั นี้
M 0 = λ0 M n (7)
5.2 เหล็กในแผ่ นพืน้ และพืน้ ที่หล่ อเป็ นเนื อ้ เดียวกับคาน เพิ่มกําลังต้านทานโมเมนต์ของคานได้ (T-beam
action)
5.3 เหล็กเสริ มมีพฤติกรรม strain hardening ซึ่ งไม่ได้คิดไว้ในตอนออกแบบ
5.4 การโอบรั ดหน้ าตัดด้ วยเหล็กปลอก (confinement) ช่วยเพิ่มกําลังรับแรงอัดของคอนกรี ตได้
Crack occurs under the applied load. Crack remains after the load is removed.
Crack remains even if the load is reversed. Crack fully closes when the reversed load is large.
σs (tension)
εs
δ,V
V M
(a) (b)
δ,V
δ,V
(c) (d)
6.2 พฤติกรรมของเสา
ความแตกต่างระหว่างเสากับคานก็คือ เสามีแรงตามแนวแกนมากระทํา ซึ่ งแรงตามแนวแกนเกิด
จาก นํ้าหนักบรรทุกแนวดิ่ง และ นํ้าหนักบรรทุกแนวราบ รวมทั้งความเร่ วของผิวดินในแนวดิ่งด้วย แรง
ตามแนวแกนที่เป็ นแรงอัดมีท้ งั ข้อดีและข้อเสี ยต่อพฤติกรรมการรับแรงสลับทิศของเสา ข้อดีก็คือช่วยให้
รอยร้าวไม่เปิ ดกว้างมาก ทําให้คอนกรี ตถ่ายแรงได้ดีข้ ึน ดังนั้นลูปจึงมีความกว้างมากขึ้น แต่มีขอ้ เสี ยคือ
ทําให้ความเหนียวลดลง เพราะแรงอัดทําให้คอนกรี ต crush หรื อกะเทาะหลุดออกมาได้ง่ายขึ้น และยังมี
ผลของการขยายโมเมนต์เนื่องจากแรงตามแนวแกน หรื อ P- ∆ effect อีกด้วย กล่าวโดยสรุ ปก็คือหาก
ระดับของแรงอัดตามแนวแกนมีค่าไม่มากนัก ก็จะเป็ นผลดีต่อเสา แต่หากแรงอัดมีค่าสู งจะเป็ นผลเสี ย
มากกว่า
Column
0.85fc ba H
M1 M2
As1 fs As1 fy
Max. horizontal shear
Beam steel
Typical 0.85fc ba Vmax = As1 fy + As2 fy - H
Beam horizont
al plane
As2 fy As2 fs
6.3 พฤติกรรมของจุดต่ อ
ภายใต้น้ าํ หนักบรรทุกแนวดิ่ง จุดต่อไม่ค่อยจะรับแรงอะไรมากมายนัก เพราะ โมเมนต์ที่ปลายคาน
ทั้งสองด้านของจุดต่อมีทิศตรงกันข้ามกัน (เป็ นโมเมนต์ลบด้วยกันทั้งคู่) ดังแสดงในภาพที่ 6c ดังนั้นจึงมี
การถ่ายเท unbalanced moment เข้าไปในจุดต่อไม่มากนัก ในทางตรงกันข้าม เมื่อมีแรงด้านข้างกระทําต่อ
โครงข้อแข็ง จุดต่อระหว่างเสาและคานจะเป็ นบริ เวณที่มีการถ่ายแรงสู งมาก ที่เป็ นเช่นนี้เพราะ โมเมนต์ที่
ปลายคานทั้งสองด้านของจุดต่อมีทิศเดียวกัน ดังแสดงใน ภาพที่ 7c ดังนั้นจึงทําให้เกิด unbalanced
moment สู งถ่ายเข้าไปที่จุดต่อ ผลของ unbalanced moment นี้ทาํ ให้เกิดแรงเฉื อนแนวนอนขนาดมหาศาล
กระทําที่จุดต่อดังแสดงใน ภาพที่ 16 ซึ่ งสามารถคํานวณได้จาก
SESSION 1-1 18/20
V j = As1 f y + As 2 f y − H (7)
A s1f s A s1 f y
Fb
Fb = A s1 f y + A s1f s
120
100
80
60
40
20
Force (KN)
-20
-40
-60
-80
-100
-120
-140 -120 -100 -80 -60 -40 -20 0 20 40 60 80 100 120
Displacement (mm)
ภาพที่ 19 ความสัมพันธ์ระหว่างระยะแรงและระยะเคลื่อนตัวของจุดต่อคาน-เสา
7. บทสรุ ป
บทความนี้แนะนําให้ผอู ้ ่านได้รู้จกั พฤติกรรมขององค์อาคารค.ส.ล. และ โครงข้อแข็ง ค.ส.ล.
ภายใต้แรงแผ่นดินไหว โดยผูเ้ ขียนได้แนะนําให้ผอู ้ ่านได้รู้จกั การผลการตอบสนองแบบอีลาสติกของ
โครงสร้างต่อแรงแผ่นดินไหว โดยชี้ให้เห็นว่าแรงที่กระทําต่อโครงสร้างเนื่องจากแผ่นดินไหว แท้จริ ง
แล้วเป็ นแรงเฉื่ อยที่เกิดจากความเร่ ง และ มวลของอาคาร และขนาดของความเร่ งที่เกิดขึ้นนี้อาจจะมีค่า
มากเป็ นหลายเท่าของความเร่ งที่ผวิ ดิน จากนั้นผูเ้ ขียนได้ช้ ีให้เห็นต่อไปว่าวิศวกรไม่จาํ เป็ นต้องออกแบบ
ให้โครงสร้างอยูใ่ นสภาพอีลาสติก ภายใต้แรงแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่มีโอกาสกระทําต่อโครงสร้างเพียง
1 หรื อ 2 ครั้งตลอดอายุของโครงสร้าง เพราะจะทําให้ได้โครงสร้างที่มีขนาดใหญ่เกินจําเป็ น และเป็ นการ
ออกแบบที่ไม่ประหยัด วิธีการออกแบบที่เป็ นที่ยอมรับอย่างสากลมากกว่าคือออกแบบให้องค์อาคารเกิด
การคราก หรื อสร้าง plastic hinge ในระหว่างเกิดแผ่นดินไหว ซึ่ งก็จะทําให้สามารถลดแรงที่มากระทําต่อ
โครงสร้างลงได้เป็ นอย่างมาก ทั้งนี้ท้งั นั้นต้องออกแบบให้โครงสร้างมีความเหนียวพอเพียง ผูเ้ ขียนได้
ชี้ให้เห็นว่าการสร้าง plastic hinge เป็ นการสลายพลังงานออกไปจากโครงสร้าง
ในลําดับต่อไป ผูเ้ ขียนได้อธิ บายว่ารู ปแบบการสร้าง plastic hinge ในโครงสร้างนั้นทําได้ 2
รู ปแบบคือ การสร้าง plastic hinge ที่ปลายคานซึ่ งเรี ยกว่า beam hinge mechanism และ การสร้าง plastic
hinge ที่ปลายเสาซึ่ งเรี ยกว่า column hinge mechanism โดยผูเ้ ขียนชี้ให้เห็นว่ากลไก beam hinge
mechanism หรื อรู ้จกั ในอีกชื่ อหนึ่งว่า weak beam-strong column เป็ นวิธีที่ได้รับการแนะนําจากมาตรฐาน
SESSION 1-1 20/20
8. เอกสารอ้ างอิง
ACI318, 1999. Building Code Requirements for Structural Concrete (318M-99) and Commentary
(318RM-99). American Concrete Institute.
D.J. Dowrick, 1977. Earthquake Resistant Design. New York: John-Wiley & Sons.
G.P. Penelis and A.J. Kappos, 1997. Earthquake-Resistant Concrete Structures. New York: E & FN
SPON.
J.G. MacGregor, 1992.. Reinforced Concrete Mechanics and Design. USA: Prentice Hall International.
K. Maekawa, A. Pimanmas and H.Okamura, 2003. .Nonlinear Mechanics of Reinforced Concrete.
Spon Press.
Proc. of the 5th Workshop, 2005. Design of building against earthquakes. Engineering Institute of
Thailand.
R. Park and T. Paulay, 1975. Reinforced Concrete Structures. USA: John-Wiley & Sons.
T. Paulay and M.J.N. Priestley, 1992. Seismic Design of Reinforced Concrete and Masonry Buildings.
USA: John-Wiley & Sons.