Professional Documents
Culture Documents
สอนกราฟเทคนิค PDF
สอนกราฟเทคนิค PDF
สวนที่ 1 ความรูเบื้องตนในการวิเคราะหหุนดานเทคนิค
(Basic Technical Analysis)
วัฎจักร (Cycle)
รายละเอียดของสภาวะตางๆ
แนวโนมทิศทางราคาหุน (Trend)
แนวโนมขาขึ้น (uptrend)
แนวโนมขาลง (downtrend)
แนวโนมทรงตัว (sideway)
คาเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average)
ประโยชนของ Moving Average
เคล็ดลับในการพิชิตหุน
รายละเอียดของเคล็ดลับในการพิชิตหุน
1.เลือกหุนพื้นฐานดี (Fundamental Analysis)
2. เขาตลาดใหถูกจังหวะ
3. ตัดขาดทุน
4. ปลอยใหราคาหุนวิ่ง
5. เลนตามกระแส
6. อยาซื้อเฉลี่ย ถาราคาหุนตก
สวนที่ 2 ความรูเรื่อง คลื่นอีเลียต
(Elliott Wave Theory)
Elliott Wave Basic
Impulse Pattern
Corrective Pattern
Suggestion
สวนที่ 3 แนะนําโปรแกรม RicherStock
เกี่ยวกับโปรแกรม Richerstock
เริ่มตนที่ www.richerstock.com
หนา login
การใชงานกราฟหุน (Stock Chart)
เมนู Chart Type
เมนู Time
เมนู Lower Indicator-1
เมนู Lower Indicator-2
เมนู Lower Indicator-3
เมนู “ ตารางเครื่องหมายซื้อขาย ”
กติกาการเลนหุน
วิธีเลนหุนใหปลอดภัยดวยกราฟ richerstock
วิเคราะหกราฟหุน และวิธีการเลนหุนใหปลอดภัย
ฟงกชนั่ คนหาหุน
สามเหลี่ยมกลวง
ความรูเบื้องตนในการวิเคราะหหุนดานเทคนิค
Basic Technical Analysis
วัฏจักร (Cycle)
ถาหากคุณรูวาราคาหุน มีพฤติกรรมอยางไร ขึ้นเมื่อไหร ลงเมื่อไหร
แนนอนทีเดียววา คุณยอมมีชัยไปกวาครึ่งแลว แตปญหาที่พบเจอนั้นคือ
เราไม รู รู ป แบบ (pattern) ของราคาหุ น อย า งถู ก ต อ งร อ ยเปอร เ ซ็ น ต
เนื่องจากราคาหุนมัน ขึ้น ลงตามจิตวิท ยาการลงทุน มัน ไมมีสูต รสําเร็จ
เหมือนสูตรคณิตศาสตรทั่วไป
3.รักษาระดับ
เมื่อเครื่องทะยานขึ้นบนทองฟาไดระดับเพดานบินที่ปลอดภัยแลว เครื่องก็จะ
ทําการบินรักษาระดับเปรียบกับการเลนหุนไดดังนี้
Ø เมื่อราคาหุนไดขึ้นมาถึงจุดที่นักลงทุนตางก็เริ่มมีความคิดตรงกันวา
ราคาเริ่มสูงหรือแพงแลวก็จะทยอยขายกันออกมา
Ø มีนักลงทุนบางคนหรือบางกลุมที่ยังมีความเชื่อวา ราคาหุนนาจะวิ่ง
ขึ้นไปไดอีก ก็จะทยอยรับซื้อหุนไว
Ø ชวงนี้จะมีการซื้อการขายเกิดขึ้นเปนรอบ
Ø บางครั้งชวงนี้อาจจะใชเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห แตก็มีบาง
เหมือนกันที่ชวงนี้อาจจะกินเวลาแควันเดียว
Ø ชวงนี้เปนชวงที่ตองใหความระวังและความสนใจเปนอยางยิ่งเพราะ
ถาราคาหุน มันไมสามารถทะยานหรือไตระดับขึ้น ไปไดอีก นัก เก็ง
กําไรที่เขาตลาดชวงนี้ก็เริ่มปลอยหุนออกมาเพื่อไปเลนตัวอื่น
4.ลดระดับ
มื่อใกลถึงจุดหมายนักบินก็เริ่มลดระดับการบินใหต่ําลง เพื่อลงจอดยังลาน
บินตามที่หมาย เปรียบการเลนหุนไดดังนี้
Ø เมื่อราคาหุนมาถึงจุดสูงและมีการ ซื้อขาย (Trade) กันหลายรอบทํา
ใหนักลงทุนที่เขามาซื้อหุนชวงนี้ เริ่มเกิดความกังวล ระส่ําระสาย
หงุดหงิด และเมื่อราคาหุนขยับขึ้นมาบางก็เริ่มขายออกมา
Ø เมื่อราคาหุนผานแนวรับลงมา จะเกิด Supply มากกวา Demand
ทําใหเกิดการเทขายกันออกมามาก
Ø อัตราการลงของราคาหุนจะลงเร็วกวาอัตราการขึ้นของราคาหุน
ในชวงที่ราคาหุนทะยานขึ้น
รูปที่ 1. ตัวอยางวัฏจักรราคาหุน
: ชวงนี้มีการซื้อขายกันที่หมายเลข 1,2,3,4
โดยเสนตรงดานบนที่เ ชื่อมระหวางจุด 1,3,5
ชวงตรียมพรอม เรียกวา แนวตาน ( resistance ) สวนเสนลาง
คือเสนแนวรับ ( support ) ซึ่งการซื้อขายในชวง
นี้จะอยูระหวางแนวรับ และแนวตาน
: เมื่อมีขาวดี หรือขาวลือ หรือขาวปลอย เขา
มาในตลาด จะทําใหเกิด demand อยางมาก
ทําใหราคาหุนทะลุแนวตานที่จุด 5 ขึ้นไป และ
ทะยานขึ้ น ไปเรื่ อยๆ เมื่ อราคาหุน มาที่จุ ด 6
ชวงทะยาน ตอนนี้แหละสําคัญเหมือนกัน เพราะนักลงทุน
หรือนักเก็งกําไร เริ่มมองเห็นความแรงของหุน
ตัวนี้ และกลัววาตนเองจะเขาซื้อชาไป หรือศัพท
ที่เซียนหุนทั้งหลายเรียกว ตกขบวนรถไฟ ก็เลย
พากันเฮโลกันเขามากันอยางสนุกสนาน
: เมื่อราคาหุนทะยานมาถึงจุด 8 นักลงทุนก็
เริ่มขายหุน และอีกเชนกัน ก็มีนักลงทุนบางคน
หรือบางกลุมที่ยัง มีความเชื่อวาราคาหุน นาจะ
ไปไดอีก ก็เลยตั้งแถวรอซื้อเมื่อราคาหุนตกลง
มา ลั ก ษณะนี้ จ ะเกิ ด การซื้ อ ขายหลายรอบ
ชวงรักษาระดับ ทีเดียว คือระหวางจุด 8,9,10,11,12,13,14 เกิด
แนวตานและแนวรับ เมื่อราคามัน ไมสามารถ
ทะลุแนวตานไปไดอยางที่คาดคิด นักลงทุน ที่
เงินรอน หรือนักลงทุนที่เลนสั้นรอไมไหว ก็เริ่ม
ขายหุน ทิ้ง นักลงทุน กลุมที่รอไมไหวก็จ ะเปน
กลุมที่จ ะเจาะลูก โปรงที่มัน อัด ลมแนน มานาน
ใหระเบิดออกมา หมายถึงทําใหนักลงทุนอื่นๆ
เกิดอาการตระหนกตกใจ รีบขายหุนออกตามๆ
กัน ทําให Supply มากกวา Demand ราคาหุน
ก็เลยทะลุผานแนวรับที่จุด 15 ลงมา
: เมื่อเกิดอาการตกใจและนักลงทุนเริ่มเทขาย
หุนออกมา บางคนก็กําไร บางคนก็ขาดทุน แตก็
ตองขายเพราะมันเกิดอาการ panic และขอให
ชวงลดระดับ
จํา ให ขึ้น ใจว า อาการตกใจมัน รา ยแรงกว า
อาการดีใจ การเทขายหุนของนักลงทุนจะเทขาย
หุนโดยใชเวลาอันรวดเร็วกวาการทะยอยซื้อหุน
ดังนั้นนักลงทุนทุกทานคงมองภาพรวมของราคาหุนวามันมีพฤติกรรม
อยางไรไดพอสมควร เมื่อคุณรูวัฏจักร (cycle)ของราคาหุนแลว ก็จะทําให
คุณ
Ø รูสภาวะของตลาด ( market sate ) ณ เวลานั้นๆ
Ø เขาหรือออกจากตลาดไดอยางเหมาะสม
Ø ทําการซื้อหรือขายหุนไดอยางมั่นใจ
Ø ไมเกิดอาการหวาดผวา
แนวโนมทิศทางราคาหุน ( TREND )
Trend คือกราฟที่แสดงความเคลื่อนไหวของราคาหุนซึ่งมีทิศทางที่เรา
สามารถจะคาดคะเนไดก รณีที่ราคาหุน ไรทิศทางไมมีรูปแบบจะไมเ รีย กวา
Trend ตามปกติจะมี 3 ลักษณะไดแก
Ø Uptrend ( แนวโนมขาขึ้น )
Ø Downtrend ( แนวโนมขาลง )
Ø Sideway ( แนวโนมทรงตัว )
แนวโนมขาขึ้น (Uptrend)
แนวโนมขาลง ( Downtrend )
แนวโนมทรงตัว (Sideway)
Sideway เปนชวงพักไมวาจะเปนการพักในชวงขาขึ้นหรือการพักในชวง
ขาลงก็ได เปรียบเสมือนเวลาคนเดินหรือวิ่งขึ้นทางชันเมื่อวิ่งไปไดสักระยะหนึ่ง
ก็เ ริ่มหมดแรงและเปลี่ยนจากการวิ่งมาเปน การเดิน เพื่อเปนการพัก ใหห าย
เหนื่อยกอนที่จะวิ่งตอไป
ในชวง sideway บางครั้งเราก็เรียกวา trading range ไดเหมือนกัน
เพราะชวงนี้จะมีการซื้อขายมี demand และ supply ตอบสนองกัน ดังนั้น
ลักษณะของ sideway จึงมีทิศทางออกไปทางแนวราบ
คาเฉลี่ยเคลื่อนที่ MOVING AVERAGE
เป น การนํ า เอาราคาของหุ น ย อ นหลั ง ตามจํ า นวนวั น ที่ เ ราต อ งการ
พิจารณา นํามาหาคาเฉลี่ย เพื่อดูทิศทางของราคาหุน ณ วันที่เราพิจารณา เชน
MA10 หมายถึง ราคาหุนยอนหลังจากวันที่เรากําลังพิจารณาไป 10 วัน เปน
การนําเอาราคาแตละวันมาเฉลี่ยกัน เหตุที่เรียกวาคาเฉลี่ยเคลื่อนที่ก็เพราะใน
วันถัดไปคาเฉลี่ยก็จะเปลี่ยนไปเชนกัน
จํานวนวันที่นํามาหาคาเฉลี่ยเปนที่นิยมกันไดแก MA5, MA12, MA26,
MA75, MA200 จํานวนวัน จะบงบอกวาเปน การพิจ ารณาราคาในระยะสั้น
กลาง หรือ ระยะยาว ทั้งนี้การเลือกใชคา MA นั้นขึ้นอยูกับนักลงทุนแตละคน
ไมจําเปนตองใชคาตามทฤษฎี ซึ่งบางครั้งเราอาจจะใช MA5, MA15, MA30
ก็ได
วิธีการหาคาเฉลี่ยเคลื่อนที่นิยมทํากัน 2 แบบคือ
เคล็ดลับในการพิชิตหุน
เคล็ดลับในการเอาชนะตลาดหุนและสามารถทําเงินในตลาดไดอยางนา
พอใจ แตในความเปนจริงแลว นักลงทุน ( investors ) สวนมากจะรูและเขาใจ
กฎ หรื อเคล็ด ลับ นั้น ๆ แต สุดทา ยแลวก็ ไมสามารถทํ าตามเคล็ดลั บ นั้น ได
ดังนั้นหากเรายึดเคล็ดลับหรือวิธีการลงทุน ที่เราคิดวาเปนรูปแบบ ( model )
ที่เหมาะสมกับตัวเราแลว ขอให ยึดถือและปฏิบัติตามเคล็ดลับใหได
-เลือกหุนพื้นฐานดี –
-เขาตลาดใหถูกจังหวะ-
-ตัดขาดทุน ถาหุนไมวิ่ง-
-ปลอยใหราคาหุนวิ่ง ถายังมีกําไร-
-เลนตามกระแส เพราะทวนกระแสมีแตเจ็บ-
-อยาซื้อเฉลี่ย ถาราคาหุนตก เพราะจําทําใหยิ่งถลําลึก-
เคล็ดลับทั้ง 6 ขอนี้รับรองไดวาสามารถเอาชนะตลาดไดแนนอน เพราะ
ตัวมันเองคอนขาง simple มาก แตสิ่งที่ยากที่สุดก็คือตัวนักลงทุนนั่นเองที่ไม
สามารถปฏิบัติตามกฎได ดังนั้นนักลงทุนตองมีความพรอมในการเลนหุน สิ่งที่
นักลงทุนควรมี หรือ ตองมีคือ
- ตองมีความรูเรื่องการลงทุน และ ความรูเรื่อง Technical
Analysis พอสมควร
- ตองมีวินัย ( discipline ) ในการลงทุน
รายละเอียดของเคล็ดลับในการพิชิตหุน
KEY Meaning
บอกสถานภาพของบริษัทๆนั้นวามีสุขภาพแข็งแรง หรือ
งบการเงิน
ปวยเปนโรครายแรงหรือเปลา อันนี้ตองใชเวลาศึกษา
Financial
เพราะ financial statement analysis เปนวิชาที่ยาก
Statement
วิชาหนึ่งของการเงิน
Price- Earning Ratio
เปนตัวเลขอัตราสวนระหวาง ราคาหุน ณ วันที่เรา
พีอี เรโช
ตองการซื้อ หารดวย กําไรตอหุนของหุนตัวนั้นๆ แนนอน
P/E ratio
P/E ratio ยิ่งต่ํา ก็ยิ่งดี เพราะวามันหมายถึง ราคาหุนตัว
นั้นไมแพง โดยทั่วไปจะดูกันที่ P/E=10
Price-Book Value ratio
พีบี เรโช
Book Value คือราคาเริ่มตนตอหุนในการจัดสรรหุน
P/BV ratio
ตอนตน หรือตอนเริ่มทําธุรกิจ P/BV ยิ่งต่ํา ก็ยิ่งดี แสดง
วาหุน ตัวนั้นๆ มีราคาถูก ยิ่งหากถา P/BV ratio ต่ํากวา
1 นั่นหมายถึงวา เราสามารถซื้อหุนตัวนั้น ไดถูกวาผู
กอตั้งบริษัทเสียอีก
ประเภทของธุรกิจ ประเภทของธุรกิจ เปนแบบไหน กิจการสามารถยั่งยืน
Business Type อยูไดชั่วลูก ชั่วหลานหรือไม
ขอแนะนํา
จากรูปที่ 9,10,11 เราก็พอจะมองออกแลววา การเขาตลาดนั้น
ควรจะเขาชวงไหนผมมีขอแนะนําดังนี้
1. คุณตองเขาตลาดในชวงที่ตลาดเปนชวงขาขึ้น (
BULLISH STATE ) เพราะในชวงนี้ซื้อหุน อยางไร ก็มี
กําไร
2. ถาตลาดอยูในชวง sideway คุณก็สามารถทํากําไรได
ในชวงสั้น แตก็ตองซื้อขายเร็วและระวัง
3. ถาไมมั่นใจ อยาเขาตลาดในชวงขาลง ( BEARISH
STATE ) เพราะอัตราการลงของราคาจะเร็วกวาอัตรา
การขึ้น นั่นหมายถึงวา คุณจะมีความเสี่ยงคอนขางมาก
แตถาหากคุณมีเวลาเฝามันไดทั้งวัน อันนี้ก็สามารถทํา
กําไรชวงสั้นๆ ไดเหมือนกัน
รูปภาพแสดงการตัดขาดทุน
4.) ปลอยใหราคาหุนวิ่ง
ตามที่ไดแนะนําวา การเขาตลาดควรเขาตลาดชวงที่เปนขาขึ้น Bullish
State ถาหุนที่เราซื้อมีกําไร เราก็ควรปลอยใหหุนมันวิ่งไปเรื่อยๆ อยาเพิ่งขาย
มันออกไป เพราะ
- ในชวงขาขึ้นจะมีการปรับฐาน ( Retracement ) เปนระยะๆ แตหลัง
retrace แลวมันก็จะ rebound ขึ้น ซึ่งอัตราการขึ้นหรือเดง ( Rebound ) มันจะ
เร็วกวา อัตราการลง ( Retrace )
- ในแงการวิเคราะหหุนที่ซับซอนยิ่งขึ้น โดยอาศัย Elliot Wave Analysis
พบวา ชวงขาขึ้นจะฟอรมตัวเปนลูกคลื่นจําวน 3 ลูก สวนชวงขาลง มันจะ
ฟอรมตัวเปนลูกคลื่น 2 ลูก ดังนั้นหากลูกคลื่นที่อยูในชวงตลาดขาขึ้นกําลัง
ฟอรมตัวลูกที่ 1 และคุณก็เขาตลาดชวงนี้พอดี ดังนั้นคุณยังสามารถถือหุนนั้น
ไปไดจนถึงราคาหุน ณ ลูกคลื่นที่ 5 ได และมีกําไรสูงสุด นี่สิเรียก “ Let The
Profit Run “
ปลอยใหราคาหุนวิ่ง
กรณีที่คุณเขาตลาดถูกจังหวะที่ตําแหนงเลขที่ 1 และคุณก็รูวาคุณเขา
ตลาดชวงที่เปน Bullish State และมันเปนชวงที่เพิ่งเริ่มตนของ state นี้ เมื่อ
ราคาหุนขยับขึ้นมาที่ตําแหนงเลขที่ 2 คุณอยาเพิ่งรีบรอนขายหุนทิ้งออกไป
เพราะตําแหนงที่ 2 คุณก็ยังมีกําไร และมีโอกาสที่จะมีกําไรตอไปดวย เพราะ
ราคาหุนมันจะขึ้นเปนลูกคลื่น 3 ลูก ( ตามสถิติ )
ดังนั้นรอใหราคาหุนมันขึ้นไปที่ตําแหนงเลขที่ 3 กอนคอยขายหุน
ออกไป
คุณจะรูไดอยางไรวาราคาหุนมันมาถึงจุดยอดหรือยัง เรื่องนี้มันมี
ทฤษฎีที่สามารถ forecast ได คือ Elliott Wave Theory
5.) เลนตามกระแส
สุภาษิตที่มีความหมายดีๆมีมากมาย และหนึ่งในนั้น ที่สามารถนํามา
apply กับตลาดหุนไดก็คือ “หลิวลูลม “ หรืออีกสํานวนหนึ่ง “ เขาเมืองตา
หลิ่ว ใหหลิ่วตาตาม “ ความหมายมันคือ พยายามทําตัวใหกลมกลืน อยาไป
ฝนสถานการณ เชนกัน เมื่อหุนขึ้น คุณก็เขาไปซื้อ เมื่อหุนตก อยาทําตัวเปน
คนเกงดวยการซื้อสวนทางตลาด เพราะมันเสี่ยง
การเลนหุนตามกระแสมันก็มีหลายรูปแบบ แตที่เห็นชัดเจนเปนรูปธรรม
ก็พอจะแบงออกไดเปน 2 รูปแบบดวยกันคือ
1. เลนตาม SET INDEX คือเราตองพิจารณา pattern ของ SET ดวย
วาเปน state ไหน และโปรดอยาลืมวาควรเขาตลาดในชวง Bullish State เมื่อ
พิจารณา SET แลว ก็มาพิจารณาเลือกเลนหุนที่เราสนใจ ซึ่งวิธีการเลือกหุนนั้น
ขอใหพิจารณาตามเคล็ดลับ ขอที่ 1. เมื่อเลือกหุนไดแลว ก็มาพิจารณาวา
trend ของราคาหุนตัวที่เราเลือกนั้น มันเหมือนกับ trend ของ SET หรือไม ถา
เหมือนกันก็เขาเลนเลย อยางนี้เรียกวาเลนตามกระแส SET INDEX
2. ไมเลนตาม SET INDEX เปนการเลนหุนโดยดู pattern ของหุนที่เรา
เลือกโดยไมไดอิงหรือพิจารณาใหน้ําหนักกับ SET INDEX มากนัก เปนการ
วิเ คราะหเ ฉพาะหุน นั้นๆวามันอยูใ น state ไหน การเขาซื้อหรือขาย ก็ใ หดู
จังหวะใหดี แตกรณีเลนแบบนี้ ไมแรงเทากับวิธีตามกระแส SET INDEX
ถามีแรงกระทํายอมมีแรงโตตอบ ซึ่งอนุมานในการเลน
หุนคือ เมื่อหุนมีขึ้น มันก็ตองมีลง และเมื่อมันลงถึงจุดนิ่งแลว
มันก็พรอมที่จะขึ้นในรอบตอไป ซึ่งภาษานักวิเคราะหหุน
ทั้งหลายเขาเรียกวาหุนรีบาวน ( rebound ) และหุนปรับฐาน
( retrace )
Elliott Wave ประกอบดวยลูกคลื่นในขาขึ้น 5 ลูก ( 1-
2-3-4-5) และลูกคลื่นในขาลง 3 ลูก (a-b-c) ในชวงขาขึ้นเรา
เรียกวา Impulse สวนขาลงเราเรียกวา Correction
ในหนึ่งรอบหรือ cycles ของ Elliott Wave นั้นจะเปน
series ของ impulse และ correction
จากนิยามขางตนสามารถแสดงดวยกราฟดังขางลาง และแนะนําวา
คุณตองจํา pattern นี้เอาไวใหแมนยํา wave 1,2,3,4,5,a,b,c
รูปที่ 13- แสดงรูปแบบมาตรฐานของ Elliott Wave
แบบทศนิยม แบบเปอรเซ็นต
0.236 23.60 %
0.382 38.20 %
0.500 50.00 %
0.618 61.80 %
0.764 76.40 %
1.000 100.00 %
1.382 138.20 %
1.618 161.80 %
2.618 261.80 %
4.236 423.60 %
หลายคนคงพอจะคุนกับตัวเลขพวกนี้บางนะครับ อยางนอยนักวิเคราะห
หุนหลายสังกัดก็นิยม หรือพูดถึงกันมากเชน หุนกําลังปรับฐานลงมาในระดับ
38.20% ซึ่งก็คือแนวรับที่นักวิเคราะหจะทํานายไดวาราคาหุนมันมีแนวรับ ที่
ระดับราคาเทาไหร
เราลองมาดูตัวอยางการใชงาน Fibonacci Numbers
ลักษณะของคลื่นลูกที่ 2 จะปรับฐานโดยจะไมต่ํากวาจุดเริ่มตนของ
คลื่นลูกที่ 1
การปรับฐานคลื่นลูกที่ 2 นั้นเกิดจากการขายเพื่อหนีตนทุน เนื่องจาก
กอนการเกิดคลื่นลูก ที่ 1 มัน ผาน downtrend มากอน ทําใหพอหุน มีก าร
rebound ขึ้นมาที่ลูกคลื่นที่ 1 ได นักเลนหุนบางกลุมก็ยอมขายขาดทุนออกมา
ทําใหราคาหุนตก และปรับฐานเปนคลื่นลูกที่ 2
WAVE-C
เปนไปไดตามกรณี
= 1.00 เทาของ คลื่น A.
= 1.62 เทาของ คลื่น A.
= 2.62 เทาของ คลื่น A.
นี่คือรูปแบบตัวอยางของ ZIG-ZAG Correction
สิ่งสําคัญที่ขอเนนนะครับคือ ไมวาเราจะมีเครื่องมือที่ดีเลิศอะไรก็
ตาม แตสิ่งสําคัญเหนืออื่นใดคือวินัยในการลงทุน หรือวินัยในการเลน
หุน ( DISICIPLINE ) อยาลืมนะครับตองยึดมั่นใหดีแลวคุณจะประสบ
ความสําเร็จ
แนะนําโปรแกรม RicherStock
www.richerstock.com
รูปที่ 18- www.richerstock.com
เริ่มตนที่ www.richerstock.com
เมื่อเขาไปที่ www.richerstock.com สําหรับสมาชิกใหทําการ login โดย
ใส username และ password
รูปที่ 19 แสดงหนา Login
หลังจาก Login จะปรากฏหนาจอดังรูปที่ R2. ซึ่งจะมี menu ใหเลือกดาน
ซายมือประกอบดวยกลุมเมนู
1.Stock chart function เปนเมนูที่แสดงรายการกราฟดานเทคนิค ซึ่งจะ
กลาวถึงในรายละเอียดตอไป
2.ตารางเครื่องหมายซื้อขาย เปนพังกชั่นที่จระสรุปภาพรวมของตลาด หรือ
กลุมของหุน วาเกิดสัญญาณซื้อหรือขายอยางไร
3.คนหาหุน เปนฟงกชั่นสําหรับคนหาหุนที่เราตองการ ตามเงื่อนไขที่ user
สามารถกําหนดไดในเชิง technical
4.Fundamental Info เปนกลุมฟงกชั่นสําหรับดูขอมูลหุนเชิงพื้นฐาน
สวนที่ 1. Header
เสนคาเฉลี่ยทั้ง 3 เสนจะบอกภาวะตลาดไดวาเปนตลาดหมีหรือกระทิง
( bearish or bullish ) โดยสังเกตจาก
ภาวะตลาด ลักษณะกราฟ ความหมาย
ภาวะตลาดหมี เสนกราฟราคาหุนจะอยูต่ํา เปนตลาดขาลง การทํากําไรจากการ
( Bearish State ) กวาเสนคาเฉลี่ยทั้ง 3 เสน เลนรอบจะตองเลนเร็วขึ้น ชวงกําไร
จะนอย
ภาวะตลาด เสนกราฟราคาหุนจะอยู เปนตลาดขาขึ้น การทํากําไรจากการ
กระทิง เหนือเสนคาเฉลี่ยทั้ง 3 เสน เลนรอบจะยาวขึ้น ชวงทํากําไรจะ
( Bullish State ) มากกวาภาวะตลาดหมี
จะแบงพื้นที่ออกเปน 3 สวนดวยกันไดแก
- Overbought
- Trading Range
- Oversold
ความหมายและสิ่งที่ตองพิจารณาเพื่อนํา RSI ไปใชในการวิเคราะหภาวะ
หุน
พื้นที่ ความหมาย
เปนพื้นที่บริเวณที่อยูเหนือเสนระดับ 70% ขึ้นไป ถา
เสนกราฟ RSI วิ่งอยูในพื้นที่บริเวณนี้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ
Overbought
เสนกราฟ RSI วิ่งอยูเหนือเสน 70 % เราเรียกวา ขณะนี้หุน
เกิด overbought แลว หมายถึงวา ณ ขณะนี้หุนตัวนี้เริ่มมี
ราคาแพงแลวสําหรับรอบนั้นๆ เพราะนักลงทุนไดไลซื้อหุนตัว
นั้นๆมาตลอดเลยทําใหราคาไตระดับขึ้นไปจนถึง
overbought
เปนพื้นที่บริเวณที่อยูระหวางเสนระดับ 30% และ
Trading เสนระดับ 70% ถาเสนกราฟ RSI วิ่งอยูในพื้นที่บริเวณนี้ หรือ
Range อีกนัยหนึ่งคือเสนกราฟวิ่งมาอยูระหวางเสนระดับ 30 %
และเสนระดับ 70 % เปนชวงที่มีการซื้อ-ขายกัน
เปนพื้นที่บริเวณที่อยูใตเสนระดับ 30% ลงมา ถา
เสนกราฟ RSI วิ่งอยูในพื้นที่บริเวณนี้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ
เสนกราฟ RSI วิ่งอยูใตเสน 30 % เราเรียกวา ขณะนี้หุนเกิด
Oversold
oversold แลว หมายถึงวา ณ ขณะนี้หุนตัวนี้เริ่มมีราคาถูก
แลวสําหรับรอบนั้นๆ เพราะนักลงทุนไดขายหุนตัวนั้นๆมา
ตลอดเลยทําใหราคาลดระดับลงมาจนถึง oversold
Stochastic Oscillator
จะแบงพื้นที่ออกเปน 3 สวนดวยกันไดแก
- Overbought
- Trading Range
- Oversold
ความหมายและสิ่งที่ตองพิจารณาเพื่อการนําไปใชในการวิเคราะหภาวะหุน
พื้นที่ ความหมาย
Overbought เปนพื้นที่บริเวณที่อยูเหนือเสนระดับ 80% ขึ้นไป ถา
เสนกราฟ Stochastic วิ่งอยูในพื้นที่บริเวณนี้ หรืออีกนัยหนึ่ง
คือเสนกราฟ Stochastic วิ่งอยูเหนือเสน 80 % เราเรียกวา
ขณะนี้หุนเกิด overbought แลว หมายถึงวา ณ ขณะนี้หุนตัว
นี้เริ่มมีราคาแพงแลวสําหรับรอบนั้นๆ เพราะนักลงทุนไดไล
ซื้อหุนตัวนั้นๆมาตลอดเลยทําใหราคาไตระดับขึ้นไปจนถึง
overbought
Trading เปนพื้นที่บริเวณที่อยูระหวางเสนระดับ 20% และเสนระดับ
Range 80% ถาเสนกราฟ Stochastic วิ่งมาอยูในพื้นที่บริเวณนี้ หรือ
อีกนัยหนึ่งคือเสนกราฟวิ่งมาอยูระหวางเสนระดับ 20 % และ
เสนระดับ 80 % เปนชวงที่มีการซื้อ-ขายกัน
Oversold เปนพื้นที่บริเวณที่อยูใตเสนระดับ 20% ลงมา ถาเสนกราฟ
Stochastic วิ่งมาอยูในพื้นที่บริเวณนี้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ
เสนกราฟ Stochastic วิ่งมาอยูใตเสน 20 % เราเรียกวา
ขณะนี้หุนเกิด oversold แลว หมายถึงวา ณ ขณะนี้หุนตัวนี้
เริ่มมีราคาถูกแลวสําหรับรอบนั้นๆ เพราะนักลงทุนไดขายหุน
ตัวนั้นๆมาตลอดเลยทําใหราคาลดระดับลงมาจนถึง
oversold
เสนกราฟ Stochastic ที่เห็นนั้นจะมี 2 เสน ไดแกเสน Stochastic ( สีดํา )
เปนเสนที่คํานวณขอมูลยอนหลังทุกๆ 14 วัน และเสนคาเฉลี่ยของ Stochastic
( สีขาว )โดยหาคาเฉลี่ยเคลื่อนที่ 5 วัน เนื่องจากเสน Stochastic เองไม smooth
จะขึ้นๆลงเปนหยัก ดังนั้นจึงตองหาเสนคาเฉลี่ยเคลื่อนที่ของ Stochastic เพื่อทํา
ใหเสนกราฟ smooth ขึ้น และเราสามารถใชประโยชนของการตัดกันทั้ง 2 เสนนี้
เพื่อยืนยันจังหวะซื้อ และจังหวะขายไดดังนี้
จังหวะซื้อ จังหวะขาย
กรณีเสน Stochastic วิ่งจาก กรณีเสน Stochastic วิ่งจาก
oversold ขึ้นไป เปนจังหวะที่ overbought ลงมา เปนจังหวะที่
เตรียมพรอมเขาซื้อ ทั้งนี้ให เตรียมพรอมขาย ทั้งนี้ใหสอดคลองกับ
สอดคลองกับสัญญาณ ลูกศรซื้อที่ สัญญาณลูกศรขายที่ปรากฏดวย และถา
ปรากฏดวย และถาเสน เสน Stochastic ( สีดํา ) ตัดผานเสน
Stochastic ( สีดํา ) ตัดผานเสน คาเฉลี่ยเคลื่อนที่ ( สีขาว ) ในทิศทาง
คาเฉลี่ยเคลื่อนที่ ( สีขาว ) ขึ้นไป ลง แนวโนมราคาจะวิ่งลง
แนวโนมราคาจะวิ่งขึ้น
ขอสังเกต
Indicator RSI และ Stochastic มีลักษณะและการใชงานคลายกัน ทั้ง RSI
และ Stochastic ใชวิเคราะหหุนชวงสั้น ทั้งนี้ควรใชทั้ง 2 indicator ประกอบกัน
ในการวิเคราะห
สวนที่ 6 : Lower Indicator 3
1. ลากเสนราคาเปดแนวนอน
2. ลากเสนราคาปดแนวนอน
3. ลากเสนแนวตั้งเชื่อมระหวางเสนราคาเปดและราคาปด จะมีลักษณะ
เปนเหมือนแทงเทียน
4. แทงเทียนเปนสีดําทึบ
5. ลากเสนตรงแนวตั้งจากราคาเปดไปหาราคาสูงสุดเกิดเปนเสนตั้งเหมือน
ไสเทียน
6. ลากเสนตรงแนวตั้งจากราคาปดไปหาราคาต่ําสุดเกิดเปนเสนตั้งเหมือน
ไสเทียน
Line Chart
เมนู
เมนูนี้เปนการแสดงตารางเครื่องหมายซื้อ-ขายที่เกิด เปนการอํานวยความ
สะดวกใหสมาชิก เพื่อดูภาพรวมของหุนวาสวนใหญแลวเกิดสัญญาณซื้อ หรือ
เกิดสัญญาณขาย หลังจากที่ click ที่เมนู “ ตารางเครื่องหมายซื้อขาย “ แลวจะ
ปรากฏหนาจอดังรูปที่ 4 ซึ่งเปนหนาที่แสดงตารางสัญญาณซื้อขายของ sector
index ที่ประกอบดวยรายการของ index แตละอุตสาหกรรม โดยเรียงลําดับ
ตั้งแต SETINDEX, SETAGRI………….SETOHTER.
กติกาการเลนหุน
กอ นที่ จ ะกล าวถึง วิธี ก ารวิ เ คราะห หุน และการเล น หุ น ใหป ลอดภั ย นั้ น
RicherStock ขอทําความเขาใจหรือสร็าง กติกาการเลนหุน เพื่อใหเขาใจตรงกัน
และนําไปปฏิบัติไดถูกตอง
1. ราคาหุนเปน Dynamics
หมายถึง ราคาหุนไมหยุดกับที่มีการขึ้นๆลง เชนในวันนี้ราคาหุนปรับตัว
เพิ่มขึ้นไปจากเมื่อวานนี้ 5 % ไมไดหมายความวาวันพรุงนี้ราคาหุนจะตอง
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเสมอไป ไมมีใครสามารถฟนธงราคาหุนได 100%
2. การพยากรณหุน
การวิเคราะหหุน ดวยกราฟเปน การวิเ คราะหแนวโนมของราคาหุน ที่ใ ช
ขอมูลในอดีตเพื่อที่จะพยากรณราคาในอนาคตเพื่อใหความเสี่ยงในการ
เลนหุนนอยที่สุด
3. การเลนหุนมีความเสี่ยง ( RISK )
ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนจะแปรผันตามความเสี่ยงคือ ความเสี่ยงสูง
ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงต่ํา ผลตอบแทนก็ต่ํา ( high risk high return )
4. ตองมีความเชื่อ ( TRUST )
ตองมีความเชื่อในเครื่องมือที่ใชในการวิเคราะหหุน เพราะเครื่องมือหรือ
โปรแกรมการวิเคราะหหุนนี้จะวิเคราะหดวย criteria ตางๆที่เรากําหนดไว
โดยที่โปรแกรมจะไมมี bias หรือเบี่ยงเบน เชน การกําหนดจังหวะซื้อ
จัง หวะขายของโปรแกรม หรือแมก ระทั่งการปรับปรุงหรือปรับเปลี่ย น
จังหวะซื้อและจังหวะขาย
5. การเลนหุนดวยเทคนิค เปนเรื่องของจิตวิทยา
ในการกําหนดจังหวะซื้อ จังหวะขาย การวิเคราะหดวยเทคนิค หรือการเลน
หุนดวยกราฟเปนการเลนดวยจิตวิทยา เปนการตอสูดวยจิตวิทยาของกลุม
นักเลนหุน หุนบางตัวมองในแงพื้นฐาน ( fundamental ) แลวเปนหุนที่ไม
นาสนใจ แตราคากลับวิ่งขึ้นไปมาก เปนเพราะหุนตัวนี้มี demand สูงทํา
ใหนักลงทุนทั้งหลายลงมารวมวงดวย ซึ่งแนวความคิดของนักเลนหุนดาน
เทคนิคนี้ จะตางกับการเลนหุนประเภท value investor ที่ตองการลงทุน
ระยะยาว เพื่อหวังผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปนผลเปนอันดับแรก
6. ตองมีวินัยในการเลนหุน
เราตองสรางกฎเกณฑที่เราสามารถยอมรับไดเพื่อใชบริหารความเสี่ยงที่
จะเกิดขึ้นในการเลนหุน เมื่อไดกฎเกณฑดังกลาวแลว ตองปฏิบัติตามหรือ
ตองรักษาวินัยในการปฏิบัติตามกฎเกณฑนั้นดวย
7. การตัดสินใจ
การตัดสินใจ ณ เวลานั้นๆใหถือวาเปนการตัดสินใจที่ดีที่สุด เชนการ
ตัดสินใจซื้อ หรือการตัดสินใจขาย หากการตัดสินใจใดฯที่ผานไปแลว ตองไม
นํามาเปนอารมณ เพราะการซื้อขายใน 1 ป จะมีหลายรอบ การตัดสินใจซื้อแลว
ผิดพลาด ราคาหุนไมขึ้นดังที่คิด ใหตัดขาดทุนหรือ cut loss ทันทีที่เปอรเซ็นต
ขาดทุนเกินคาที่เรากําหนดไวเชนเราตั้งคา cut loss ไวที่ 3-4 % ดังนั้นหากราคา
หุนวิ่งลงกวาราคาที่ซื้อไว 3-4% ให cut loss ทันที และสิ่งสําคัญที่สุดคือ การ
ตัดสินใจอยูในวิจารณญาณของนักลงทุนเอง กรณีการตัดสินใจขาย หากราคาที่
ขายปรากฏวาขายถูกเกินไป หรือที่คนเลนหุนเรียกวา “ ขายหมู “ นั้น ตอง
ยอมรับวาไมมีใครที่จะสามารถขายหุนไดที่ราคาสูงที่สุด
วิธีการเลนหุนใหปลอดภัยดวยกราฟ RicherStock
symbol เพื่อดูกราฟหุนตัวนั้นๆ
4) กรณีที่ยังไมรูวาจะเลือกซื้อหุนตัวไหน ใหเขาไปที่
เมนู เพื่อดูวาหุนในแตละกลุมเกิดสัญญาณ
เตือนซื้อหรือขายอะไรบาง ซึ่งเราสามารถเขาไปเลือกดูในแตละกลุมได
ในสวนบนของตารางเครื่องหมายดังภาพ
A.) กรณีการซื้อหุน
ขั้นตอนที่1(STEP-1) เมื่อกราฟเกิดสัญญาณซื้อ ( ลูกศรชี้ขึ้น ) ใหเขาซื้อ 50% ของ
PORT
รูปที่ 22 : แสดงการเกิดสัญญาณซื้อที่ตําแหนง A
จากรูปที่ 22 ที่ตําแหนง A เกิดสัญญาณลูกศรชี้ขึ้น ซึ่งเปนการเตือนให
ทราบวา ณ จุดนี้เริ่มที่จะเปนจังหวะที่เหมาะสมในการเขาซื้อ ใหเราแบงเงิน
ลงทุน 50% ของ port เพื่อเขาซื้อหุน ตัวนั้นๆ ในที่นี้จะยกตัวอยางวาเรามีเงิน
ลงทุน 100,000 บาท ดังนั้นในวันนี้เราจะแบงเงินลงทุนออกมา 50,000 บาทเพื่อ
ซื้อหุน
ขั้นตอนที่ 2 ( STEP-2) ดูราคา Bid-Offer ในวันถัดไป ถาราคาปรับขึ้นใหซื้อ
เพิ่ม 50% ของ PORT
รูปที่ 23 : แสดงราคาหุนของวันที่ถัดจากวันเกิดสัญญาณซื้อ
จากรูปที่ A-2 หลังจากผานวันที่เกิดสัญญาณซื้อ ณ จุด A มาแลว ในวัน
ถัดมาใหดูราคา เสนอซื้อ เสนอขาย ( BID-OFFER ) ถาราคาหุนมีแนวโนมสูง
กวาจุด A เราก็สามารถซื้อหุนเพิ่มขึ้นไดอีก 50% ของ port ในสวนที่เหลือ ทําให
การลงทุนในหุนตัวนี้ครบ 100% ของ port
ขั้นตอนที3่ ( STEP-3) ถาราคาวิ่งขึ้นตอไปปลอยใหราคาวิ่ง แตถาราคาวิ่งลง
เกินกวา 3-4% ให cut loss
รุปที่ 24 : แสดงราคาหุนไมไดเปนไปตามสัญญาณซื้อ
จากรูปที่ 24 ขั้นตอนนี้เปนขั้นตอนที่สําคัญขั้นตอนหนึ่ง เพราะมันเปน
ขั้นตอนที่ทดสอบวินัยของเรา ถาราคาหุนไมเปนไปตามสัญญาณ ซึ่งแทนที่จะวิ่ง
ขึ้น ราคากลับวิ่ง เราตองตัดสินใจขายเมื่อราคาวิ่งลงต่ํากวาระดับ cut loss ที่เรา
ตั้งไวโดยสวนใหญจะตั้งไวที่ 3-4%
เมื่อกราฟเกิดลงมาที่ ตําแหนง C ซึ่งเปนวันที่ราคาหุนวิ่งลงกวาราคาที่เรา
ซื้อ อีกทั้งสัญญาณซื้อหรือลูกศรชี้ขึ้นก็หายไป ( ขอเท็จจริงที่สัญญาณหายไป
ขอใหดูรายละเอียดในหัวหนาถัดๆไป ) เราตองรักษาวินัย ในการเลน หุน หรือ
ลงทุน โดยตั้งขาย cutloss ทันที
ขั้นตอนที่ 4 ( STEP-4) รอความชัดเจน
จากรูปที่ 26 : เกิดสัญญาณซื้ออีกครั้ง
จากรูปที่ A.5 ไดเกิดสัญลักษณลูกศรซื้อ หรือสัญญาณซื้อที่จุด E ซึ่งเปน
สัญญาณเตือนใหซื้ออีก ครั้ง ขั้น ตอนการปฏิบัติก็ใ หใชเหมือนกับ ขั้นตอนที่ 1
( STEP-1) โดยซื้อหุนดวยเงินทุน 50% ของ port
ขั้นตอนที่ 6 ( STEP-6) ซื้อหุนเพิ่มอีก 50% ของ PORT
B.) กรณีการขายหุน
ขั้นตอนการขายก็มีลักษณะเดียวกันกับ ขั้นตอนการซื้อหุน คือใหรอ
สัญญาณขายเกิดขึ้น และตัดขายไปกอน 50% และในวันถัดไปหากราคา
เปดต่ํากวาราคาเมื่อวานนี้ ก็สามารถตัดสินใจขายสวนที่เหลือได
การขายหุ น บางครั้ ง อาจจะไม ต อ งรอสั ญ ญาณขายให เ กิ ด ขึ้ น
เนื่องจากผลตอบแทนที่ไดรับเปนที่นาพอใจก็สามารถขายได แตการขึ้น
เครื่องหมายในกราฟไมวาจังหวะซื้อ หรือจัง หวะขาย เปน ชวงเวลาที่
เหมาะสมในขณะนั้น เนื่องจากเปนการคํานวณเรื่องความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
เทคนิคเสริมการดูกราฟ
1.) ถาเปนไปได เลนหุนชวงที่เปน Bullish State ดีกวา Bearish State
ฟง กชั่ น ค น หาหุ น เปน ฟง กชั่ น ที่ อํา นวยความสะดวกสํา หรั บ สมาชิก ที่
ตองการคนหาหุนตามเงื่อนไขที่เรากําหนด ทั้งนี้เพื่อประโยชนในการเลือกหุน ซื้อ
หุน เปนการสั่งใหโปรแกรมคัดกรองหุนออกมาเพื่อเขาซื้อหรือขายไดทันทวงที
สามเหลี่ยมกลวงและเสนประคืออะไร
โปรแกรม richerstock ใชหลักการคํานวนโดยอาศัย fibonacci และ elliot wave
ดัง นั้น ระดับ เสน ประที่เ กิดขึ้น จึงเปน ระดับ ทีสอดคลองกับ ตัวเลข fibonacci
นั่นเอง เราจะใชเสนประที่เกิดขึ้น เปนแนว support และ resistant สําหรับหา
จังหวะซื้อและจังหวะขาย
PTT
จากกราฟจะพบวามีเสนประที่ระดับ A,B,C และในวันที่ 13 มิย.50 ราคา
หุน PTT ปรับตัวลดลงเกิดเปน black candle ลงมาปดและนั่งบนเสนประระดับ
A เทคนิคการใชเสนประคือ เมื่อวันที่ 13 ราคาหุน เปดเปน gap ลงและเราจะรู
ไดอยางไรวาจะลงไปถึงไหน เราก็จะใชเสนประระดับ A เปนแนวรับตรงจุดนี้เรามี
วิธีคิดอยางไร.......????? ถาในวันถัดมา สภาวะตลาดไมอํานวยและคาดวาราคา
หุน PTT นาจะลงตอ เราก็จะใชเสนประระดับ B เปนเสนแนวรับถัดไปแตถาในวัน
ถัดมาสภาวะตลาดมีแรงซื้อและปริมาณการซื้อขายมาก เสนประระดับ A จะเปน
แนว support ที่ strong นั่นหมายถึงเปนจังหวะที่เราสามารถเขาซื้อได
PTTEP
เมื่อวันที่ 13 มิย 50 ราคาหุน PTTEP ก็ปรับตัวลดลงเชน กัน โดยในวัน นี้เ อง
PTTEP ฟอรมตัวเปน black candle ที่ราคาปดลดลงมานั่งอยูบนเสนประระดับ
A พอดี ตรงจุดนี้ เราสามารถพิจ ารณาและวิเคราะหตอไปได 2 แนวทางคือ
1. ถาราคาหุนยังปรับตัวลดลงตอเนื่อง เราก็จะรอใหราคาปรับตัวลดลงมาที่ระดับ
B กอน หรือถัดไปที่ระดับ C ตอไป
แลวเราจะวิเคราะหอยางไรตอไป ???????
ถาในวันถัดมาราคาหุนสามารถปรับตัวขึ้นไปอยูเหนือเสนประ A ได แสดง
วา ระดับนี้นาจะ strong และก็หาจังหวะเขาซื้อหุนได แตถาในวันถัดมาราคาหุน
ยังขาด volume ก็จะมีผลทําใหราคาหุนของ TTA ปรับตัวลดลงตอเนื่องได เราจะ
ใชเสนประระดับ B และ ระดับ C ถัดลงมาเปนแนว support ตอไป
หลังจากที่ราคาหุนของ PTT ปรับตัวลดลงเมื่อวันที่ 13 มิย 50 และราคา
ปดลงมานั่งบนเสน ประระดับ A หลังจากนั้น วันที่ 14,15,18 ราคาหุน PTT ก็
ทะยานขึ้นไปเขาหาแดนเสนประระดับ T จุดที่นาพิจารณาคือ เสนประระดับ T
เราจะใช เ ป น ระดั บ แนวต าน resistant แทนการเป น แนวรับ support โดย
พิจารณาวา ถาราคาหุน PTTสามารถทะลุระดับนี้ไปได เราจะปลอยใหมันวิ่งไป
กอน แลวคอยพิจารณา หาจังหวะขายตอไป
พิจารณาหุน PTTEP หลังวันที่ 13 มิย 50
หลังจากที่ราคาหุน PTTEP ไดปรับตัวลดลงและราคาปดนั่งบนเสนประ
ระดับ A ปรากฏวาในวัน ถัด มา คือวันที่ 14,15,18 ราคาหุนไดป รับตัวเพิ่มขึ้น
ตอเนื่อง และแทงกราฟของวันที่ 18 มิย 50 มีจุดที่นาสังเกตคือ ราคา high ของ
วันนี้ปรับ ตัวเพิ่มขึ้นมาและชนกับเสนประระดัย T พอดี ซึ่งเสนประระดับ T นี้
เอง จะทําตัวเปนแนวตาน resistant
สิ่งที่ตองทําตอไปคืออะไร ????
ราคาหุนในวันที่ 18 ขึ้นมาชนแนวตานเสนประ T เราตองติดตามใกลชิดวา
ในวันถัดไป (19 มิย 50) ราคาหุนสามารถที่จะ break out ขึ้นไปไดอีกหรือไม ถา
breakt ได เราจะใช breaking out method เพื่อหาราคา target price ในการ
ขาย แตถาราคาหุน วิ่งเรียบฯเสนประ และดวยvolume ในการซื้อขาย ที่
ถดถอย ตรงจุดนี้ เราตองพิจารณาหาจังหวะขาย โดยอาจจะขายทั้งหมด หรือ
ทยอยขายก็ได
สําหรับหุน LH มีเพิ่มเติมรายละเอียดเล็กนอยคือ ราคาหุนของวันที่ 18
มิย 50 ไดปรับตัวเพิ่มขึ้น และฟอรมตัวเปนwhite candle โดยที่ราคา high ได
ทะลุแนวเสนประ B และ A ขึ้นมาได
แลวมันจะไปหยุด ที่ระดับแนวตานที่ไหน??
รูปดานซายมือนี้เปนกราฟราคาหุนของ LH โดยที่เราปรับระยะเวลาถอย
กลับไป 1 ป เราจะพบวา ชวงเดือนประมาณ Jul-Aug ที่ผานมาเกิดเสนประแนว
ตานระดับประมาณ 7.00 พอดี
ควรทําอยางไรตอไป ???
ลัก ษณะนี้แสดงวาในวัน ถัดไป ตอ งพิจ ารณาอยางใกลชิด ถาราคาหุ น
ถดถอยดวย volume และหรือราคาหุนเกิดอาการลังเล โดยเราจะใชความรูเรื่อง
candlestick pattern ชวยในการพิจารณา ถาราคาหุนไมผานระดับนี้ ก็ควรหา
จังหวะทยอยขาย หรือขายบางสวน .......แตถาวันถัดไปมี volume และราคาหุน
ยังเดินหนาตอไป เราก็ใชเสนประระดับถัดขึ้นไป ซึ่งก็คือระดับ T เปนแนวตาน
เพื่อทดสอบวาจะผานหรือไมผาน...ตอไป
สุดทายนี้ผูเขียนหวังวา ทานคงจะไดรับประโยชน
จากหนังสือเลมนี้และสามารถนําไปประยุกตในการซื้อ
ขายหุนไดอ ยางมั่นใจ และสามารถบริหารความเสี่ย ง
เพื่อการทํากําไรไดตอไป
กรณีที่ทานมีคําถามเกี่ยวกับโปรแกรม หรือเนื้อหา
ในหนังสือบางสวนบางตอน สามารถสงคําถามมาไดที่
richerstock@yahoo.com