Professional Documents
Culture Documents
Disco Inferno
Disco Inferno
ผู้รับผิดชอบโครงการ
กิตติกรรมประกาศ
คานา
สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทที่ 1 บทนา 1
1.1 ที่มาและความสาคัญ 1
1.2 วัตถุประสงค์ 3
1.3 ขอบเขตของการจัดการแสดง 3
1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 5
1.5 ระเบียบวิธีการจัดการแสดง 5
บทที่ 2 ทบทวนวรรณกรรม 6
2.1 ประวัติของแนวดนตรีดิสโก้ 6
การแต่งกายในยุคดิสโก้ 14
ประวัติศิลปินและบทเพลงที่นามาใช้ในการแสดง 21
เพลงเอวี่บอดี้ แดนซ์ (Everybody Dance) 21
เพลงรัสปูติน (Rasputin) 22
เพลงดิสโก้อินเฟอร์โน (Disco Inferno) 23
เพลงไนท์ฟีเวอร์ (Night Fever) 23
เพลงแดนซิงควีน (Dancing Queen) 24
เพลงแดตส์เดอะเวย์ไอไลท์อิท (That’s the way (I like it) 25
เพลงเก็ทอะเวย์ (Getaway) 25
เพลงลูสยัวร์เซลฟ์ทูแดนซ์ (Lose Yourself to Dance) 27
เพลงวันมอร์ไทม์ (One More Time) 28
เพลงเก็ตลักกี้ (Get Lucky) 29
เพลงด้นท์กิฟท์เฮทอะเชนจ์ ((Don’t) Give Hate a Chance) 31
ง
สารบัญ(ต่อ)
เพลงแอดเวนเจอร์ออฟอะไลฟ์ไทม์ (Adventure of a Lifetime) 31
เพลงไอฟิวอิทคัมส์มิง (I Feel It Coming) 32
เพลงแทรชเชอร์ (Treasure) 33
เพลงเลิฟออนท็อป (Love on Top) 35
เพลงเป็นโสดทาไม 36
เพลงไอ้หนุ่มตู้เพลง 37
เพลงหนูไม่ยอม 38
เพลงผู้ชายในฝัน 39
เพลงสาวอีสานรอรัก 40
เพลงทีเอสโอพี (TSOP) 41
เพลงไอวิลเซอร์ไวว์ (I Will Survive) 41
เพลงฮ็อตสตัฟฟ์ (Hot Stuff) 42
เพลงริงมายเบล (Ring My Bell) 43
เพลงเลดี้บัมพ์ (Lady Bump) 44
เพลงฟังค์กี้ทาวน์ (Funky town) 45
เพลงวายเอ็มซีเอ (YMCA) 45
เพลงลาสต์ แดนซ์(Last Dance) 46
บทที่ 3 วิธีการดาเนินโครงการ 48
3.1 การจัดแบ่งฝ่ายต่าง ๆ 48
3.2 การทางานของฝ่ายต่าง ๆ 50
3.3 ขั้นตอนการดาเนินงาน 52
3.4 งานออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์ 53
3.5 การออกแบบเวที 77
3.6 เครื่องแต่งกายในวันแสดง 79
3.7 การเงิน 79
3.8 ลาดับการแสดง 74
จ
สารบัญ(ต่อ)
3.9 วิธีการวางแผนซ้อม 84
3.10 ลาดับการแสดง 85
บทที่ 4 อรรถาธิบายบทเพลง 94
เพลงเอวี่บอดี้ แดนซ์ (Everybody Dance) 94
เพลงดิสโก้อินเฟอร์โน (Disco Inferno) 102
เพลงรัสปูติน (Rasputin) 106
เพลงไนท์ฟีเวอร์ (Night Fever) 110
เพลงแดนซิงควีน (Dancing Queen) 112
เพลงแดตส์เดอะเวย์ไอไลท์อิท (That’s the way (I like it) 115
เพลงเก็ทอะเวย์ (Getaway) 117
เพลงลูสยัวร์เซลฟ์ทูแดนซ์ (Lose Yourself to Dance) 125
เพลงวันมอร์ไทม์ (One More Time) 129
เพลงเก็ตลักกี้ (Get Lucky) 131
เพลงด้นท์กิฟท์เฮทอะเชนจ์ ((Don’t) Give Hate a Chance) 134
เพลงไอฟิวอิทคัมส์มิง (I Feel It Coming) 136
เพลงแอดเวนเจอร์ออฟอะไลฟ์ไทม์ (Adventure of a Lifetime) 139
เพลงแทรชเชอร์ (Treasure) 141
เพลงเลิฟออนท็อป (Love on Top) 144
เพลงฮิปทูเดอะกรูฟ (Hip to the groove) 148
เพลงเป็นโสดทาไม 151
เพลงไอ้หนุ่มตู้เพลง 155
เพลงหนูไม่ยอม 159
เพลงผู้ชายในฝัน 161
เพลงสาวอีสานรอรัก 164
เพลงทีเอสโอพี (TSOP) 166
เพลงไอวิลเซอร์ไวว์ (I Will Survive) 174
ฉ
สารบัญ(ต่อ)
เพลงฮ็อตสตัฟฟ์ (Hot Stuff) 178
เพลงริงมายเบล (Ring My Bell) 184
เพลงเลดี้บัมพ์ (Lady Bump) 189
เพลงฟังค์กี้ทาวน์ (Funkytown) 192
เพลงวายเอ็มซีเอ (YMCA) 195
เพลงลาสต์ แดนซ์(Last Dance) 198
บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ 205
5.1 ผลการดาเนินโครงการ 205
5.2 สรุปผลการทากิจกรรม 208
5.3 ปัญหาและข้อเสนอแนะในการจัดโครงการ 209
ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหา 213
บรรณานุกรม 214
ภาคผนวก 215
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ที่มำและควำมสำคัญ
คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เปิดสอนหลักสูตรศิลปกรรมศาสตร์ บัณ ฑิต
สาขาวิชาดุริยางคศิลป์ แขนงวิชาดนตรีตะวันตก โดยมีหลักสูตรดุริยางคศิลป์ แขนงวิชาดนตรีตะวันตก
โดยมีรายวิชา 860495 Music performance วิชานี้มีเป้าหมายเพื่อให้นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ได้เรียนรู้การ
บริ ห ารจั ด การแสดงดนตรี การสร้ า งสรรค์ ผ ลงาน รู ป แบบการน าเสนอผลงานทางดนตรี และการ
ประยุกต์ใช้ความรู้ตลอดการศึกษาที่ผ่านมาในการจัดงานครั้งนี้ ซึ่งจัดครั้งแรกในปี พ.ศ. 2542 และในแต่
ละปี หัวข้อการแสดงจะถูกกาหนดโดยคณะผู้จัดการแสดง ซึ่งในปีนี้ทางคณะผู้จัดการแสดงมีความสนใจใน
การแสดงดนตรีของบทเพลงแนวดิสโก้ (Disco) โดยเลือกบทเพลงในยุคดังกล่าวที่ติดอันดับในบิลบอร์ด
ชาร์ต (Billboard charts) และให้ชื่องานว่า “Disco Inferno”
แนวเพลงดิสโก้ถือว่าเป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิ ยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในช่วงปี 1975-
1979 โดยคาว่าดิสโก้นั้น มีที่มาจากคาว่า “Discovery” เนื่องจากในช่วงกลางยุค 70 ได้เริ่มมีการใช้เครื่อง
เล่นแผ่นเสียง (Turntable) ในคลับต่าง ๆ แทนวงดนตรี คนจึงเรียกช่วงสมัยนี้ว่า “the great discovery”
หรือการค้นพบที่ยิ่งใหญ่อันเป็นที่มาของคาว่าดิสโก้ อีกที่มาหนึ่งสันนิษฐานว่ามาจากคาว่า “ดิสโก้เธค
(discothèque)” ในภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่าห้องสมุดแผ่นเสียงหรือห้องเก็บแผ่นเสียง ซึ่งเป็นคาที่ใช้เรียก
ไนต์คลับในกรุงปารีส (ทัยพรรณ วงศ์ไชย, 2557)
ดิสโก้ (Disco) เป็นแนวเพลงประเภทหนึ่งซึ่งมีลักษณะเป็นดนตรีสาหรับเต้นรา มีต้นกาเนิดมา
จากรัฐฟิลาเดเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีการผสมผสานจากแนวดนตรี ฟังก์ (Funk) โซล (Soul) ป็อป
(Pop) และซัลซ่า (Salsa) เข้าด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะซัลซ่า และยังส่งอิทธิพลต่อเพลงอีก
หลาย ๆ แนวเพลงไม่ว่าจะเป็น เฮาส์ (House) ซินธ์พอป แดนซ์ (Synthpop Dance) คลับแดนซ์ (Club
Dance) ในปัจจุบัน ช่วงแรกที่ยุคดิสโก้เฟื่องฟูมีเพลงฮิตติดชาร์ ตมากมายตัวอย่างเช่น "Fly Robin Fly",
2
1.2 วัตถุประสงค์
1.2.1 เพื่อพัฒนาศักยภาพการแสดงดนตรีของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาดุริยางคศิลป์ แขนง
วิชาดนตรีตะวันตก
1.2.2 เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกกระบวนการบริหารจัดการในการจัดการแสดงดนตรี
1.2.3 เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และศิลปวัฒนธรรมด้านดนตรีตะวันตกสู่สาธารณะชน
1.2.4 เพื่อให้นักศึกษาได้ประสบการณ์การทางานร่วมกับบุคลากร และหน่วยงานต่าง ๆ ทั้ง
ภาครัฐและเอกชน
1.3 ขอบเขตของกำรจัดกำรแสดง
คณะผู้จัดการแสดงได้คัดเลือกบทเพลงจากบิลบอร์ดชาร์ตปี 1970-1979 และปี 2000-2017 โดย
คัดเลือกจากความเหมาะสมตามรูปแบบวงดนตรีที่จะใช้ในการแสดงครั้งนี้ และนอกเหนือจากการแสดง
บทเพลงใน billboard charts แล้ว ในการแสดงครั้งนี้ยังมีการนาบทเพลงลูกทุ่งอมตะมาเรียบเรียงให้อยู่
ในแนวดนตรีดิสโก้อีกด้วย ในการแสดงครั้งนี้แบ่งการแสดงออกเป็น 5 ชุดการแสดง ดังนี้
การแสดงชุดที่ 1
- Everybody dance – Chic
- Rasputin - Bonney M
- Disco inferno – The Tramps
- Night fever – Bee Gees
- Dancing queen – ABBA
- That’s the way (I like it) - KC & The Sunshine Band
- Getaway – Earth Wind & Fire
การแสดงชุดที่ 2
- Daft Punk medley
- One more time
- Lose yourself to dance
4
- Get lucky
- (Don’t) Give hate a chance – Jamiroquai
- Adventure of a life time – Coldplay
- I feel it coming – The Weekend
- Treasure – Bruno Mars
- Love on top - Beyoncé
การแสดงชุดที่ 3
- Hip to the groove
การแสดงชุดที่ 4
- เปนโสดทาไม - สุรพล สมบัติเจริญ
- ไอหนุมตูเพลง - ยอดรัก สลักใจ
- หนูไมยอม – หฤทัย หิรัญญา
- ผูชายในฝน – พุมพวงดวงจันทร
- สาวอีสานรอรัก - อรอุมา สิงหศิริ
การแสดงชุดที่ 5 medley
- TSOP – MFSB feat. Three Degrees
- Disco medley
- I will survive - Gloria Gaynor
- Hot stuff – Donna Summer
- Ring my bell – Anita Ward
- Lady bump – penny Mclean
- Funky town – Lipps Inc
- YMCA - Village People
- Last Dance – Donna Summer
5
1.4 ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ
1.4.1 นักศึกษาได้แสดงทักษะความรู้ความสามารถทางด้านดนตรี
1.4.2 นักศึกษาได้รู้จักฝึกฝนกระบวนการบริหารจัดการ และการจัดการแสดง
1.4.3 นักศึกษารู้จักทางานการติดต่อประสารงานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน
1.4.4 นักศึกษาได้เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมและความรู้ด้านดนตรีตะวันตกสู่สาธารณชนในรูปแบบ
การแสดงคอนเสิร์ต
1.5 ระเบียบวิธีกำรจัดกำรแสดง
1.5.1 นักศึกษาร่วมกันกาหนดรูปแบบการแสดง
1.5.2 นักศึกษาค้นคว้าและคัดเลือกบทเพลงเพื่อให้ตรงกับกรอบเป้าหมาย
1.5.3 นาบทเพลงมาเสนออาจารย์ที่ปรึกษา
1.5.4 ผ่านการเห็นชอบโดยอาจารย์ที่ปรึกษา
1.5.5 ศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
1.5.6 นาเสนอโครงร่าง
1.5.7 จัดทาตารางซ้อม
1.5.8 เสนอสอบการแสดง
1.5.9 นาเสนอการแสดง
บทที่ 2
ทบทวนวรรณกรรม
ในบทนี้จะกล่าวถึงบทวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับประวัติของแนวดนตรีดิสโก้ โดยได้นามาจาก
หนั กสื อ “เทิร์ น เดอะบี ต อะราวด์ (Turn the beat around)” เขียนขึ้นโดยปีเตอร์ ชาพิโ ร (Peter
Shapiro) ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางให้เป็นหนังสือที่เกี่ยวข้องกับยุคดิสโก้ที่ดีที่สุด
เล่มหนึ่ง อีกทั้งยังถูกนาไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในหลาย ๆ เว็บไซต์อีกด้วย และยังมีการกล่าวถึง การแต่ง
กายในยุคดิสโก้ ข้อมูลของศิลปินและบทเพลงที่นามาใช้ในการแสดงครั้งนี้
1. ประวัติของแนวดนตรีดิสโก้
แนวดนตรีดิสโก้นั้นยังคงมีความสนุกสนานอยู่ในยุคศตวรรษที่ 21 และแฟชั่นการแต่งตัวของยุค
สมัยดนตรีดิสโก้ยังถูกผลักดันให้ไปอยู่ในส่วนของงานสังสรรค์ย้อนยุคอีกด้วย โดยสิ่งที่ทาให้การแต่งกายน
ยุคดิสโก้มีความนิยมอยู่ก็เพราะสีสันที่ฉู ดฉาดของเครื่องแต่งกายและความคิดสร้างสรรค์ในการแต่งกายที่
สามารถบ่งบอกคววามเป็นตัวของตัวเองได้ ยุคสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดของแฟชั่นการแต่งกายแบบดิสโก้เริ่มขึ้น
เมื่อดนตรีดิสโก้ได้ทาการบรรเลงที่คลับชาวรักร่วเพศใต้ดินในเมืองนิวยอร์ค ยกตัวอย่างเช่น เดอะ ลอฟต์
(The Loft), เท็น ฟลอร์ (Tenth Floor) และ 12 เวสต์ (12 West) ในช่วงต้นปี 1970 หรือในไนต์คลับอื่น
ๆ เช่น อินฟินิตี (Infinity), ฟลามิงโก้ (Flamingo), เดอะ พาราไดส์ การาจ (The Paradise Garage), เลอ
จาดีน (Le Jardin) และ เดอะเซนท์ (The Saint) ซึ่งนามาในส่วนของเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของยุคดิส-
โก้
ความสาเร็จของภาพยนตร์เรื่อง แซทเทอร์เดย์ ไนท์ ฟีเวอร์ (Saturday Night Fever) ในปี 1977
ทาให้ดิสโก้ยังคงมีความนิยมอยู่ไม่กี่ปี ก่อนที่จะถูกต่อต้านจากแนวดนตรีพังค์ร็อค (Punk Rock) และนิว
เวฟ (New Wave) และมองว่าดิสโก้เป็นอะไรที่ล้าสมัยก่อนที่จะค่อย ๆ เสื่อมความนิยมลงไป แต่ในช่วง
ก่อนหน้ายุค 1970 มีหลายสิ่งเกิดขึ้นมากมายซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อรูปแบบของแนวดนตรีดิสโก้
เป็นอย่างมาก
7
ที่มา : http://planethelix.com/wp-content/uploads/2017/07/205-C-Ken-Disco-Sucks.jpg
ภาพประกอบที่ 9 การใส่เสื้อยืดของกลุ่มต่อต้านดิสโก้
ที่มา : http://assets.nydailynews.com/polopoly_fs/1.2707212.1468254342!/img
/httpImage/image.jpg_gen/derivatives/article_750/disco-demolition-night-riot.jpg
ภาพประกอบที่ 10 การเผาทาลายแผ่นเสียงดิสโก้ในเหตุการณ์ Disco Demolition Night
13
2. การแต่งกายในยุคดิสโก้
แฟชั่นการแต่งกายของยุคดิสโก้นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงกลางยุค 1970s ซึ่งแม้แต่
เอลวิส เพรสลีย์ (Elvis Presley) ราชาเพลงร็อคแอนด์โรลล์ยังใส่ชุดจัมพ์สูทที่ส่องประกายวิบวับที่มีการ
ตัดผ่ายาวกลางเสื้อไปจนถึงสะดือ โดยการแต่งกายแบบดิสโก้ในนิวยอร์คนั้นมักจะใช้ของที่มีราคาแพงและ
ดูเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเป็น อย่ างมาก ตัวอย่างเช่นชุดสลิงกี้ (Slinky dress) ที่ออกแบบโดย ดิแอน วอน
เฟิร์สเทนเบิร์ก (Diane von Furstenburg) ชุดฮัลสตัน (Halston dress) สาหรับผู้หญิงที่ทามาจากโพลี
เอสเตอร์ เสื้อเชิร์ตเคียน่า (Qiana shirts) สาหรับผู้ชายที่มีปกคอมแหลมขนาดใหญ่และจะมีกระปลด
กระดุมออกเพื่อนเป็นการโชว์หน้าอก และชุดลีเชอร์ สูท (Leisure suit) ที่มักจะใส่เสื้อทับกัน 2 ชั้นเป็น
เชิร์ตและแจ็คเก็ตพร้อมทั้งกางเกงที่มีความเข้าในเรื่องของสี (http://visforvintage.net/2012/06/07/
disco-a-complete-history/, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
ที่มา : https://f.ptcdn.info/854/022/000/1409310415-o.jpg
ภาพประกอบ 1 การแต่งกายของเอลวิส เพรสลีย์
15
ที่มา : https://i.pinimg.com/736x/cc/09/46/cc09462c63bdd6b3ce27c391ca325dc3--in-
search-of-halston.jpg
ภาพประกอบ 2 ชุดฮัลสตัน
ที่มา : https://i.pinimg.com/originals/d6/2a/3e/d62a3e465b4fdd0f024f779011c74707.jpg
ภาพประกอบ 3 เสื้อเชิร์ตเคียน่า
16
ที่มา : https://flashbak.com/wp-content/uploads/2014/09/denim-hell-1.jpg
ภาพประกอบ 4 ชุดลีเชอร์ สูท
ที่มา : http://1.bp.blogspot.com/-72JiFp-86EY/U7r7VsN8YSI/AAAAAAAADQU/HoVz
QM6bRwM/s1600/1971_fashion_hotpants_main.jpg
ภาพประกอบที่ 5 กางเกงขาสั้น
18
ที่มา : https://images.thestar.com/content/dam/thestar/life/2013/04
/11/with_its_clubs_disappearing_where_will_toronto_dance/kung_fu_dancing_1975.jpg
ภาพประกอบที่ 6 ร้องเท้าส้นตึก
19
ที่มา : http://78.media.tumblr.com/tumblr_m8vvssSJ8l1qzdza2o1_500.jpg
ภาพประกอบที่ 7 กางเกงขาม้า
20
ที่มา : http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2012/08/07/article-2184773-019E40AA000004B0-
863_634x669.jpg
ภาพประกอบที่ 8 ชุดสูทสามชิ้นพร้อมทั้งจอห์น ทราโวลต้า และคาเรน กอร์นีย์
21
3. ประวัติศิลปินและบทเพลงที่นามาใช้ในการแสดง
ในหัวข้อนี้จะเป็นกล่าวถึงประวัติของศิลปินและประวัติของบทเพลงที่นามาใช้ในการแสดง โดยมี
การเรียงลาดับตามบทเพลงที่ใช้ในการแสดงดังนี้
ศิลปิน : Chic
บทเพลง : Everybody Dance
ชิ ค (Chic) หรื อ ในปั จ จุ บั น ถู ก เรี ย กว่ า “ชิ ค ฟี ท เจอริ ง ไนล์ ร็ อ ดเจอร์ ส (Chic
featuring Nile Rodgers)” เป็นวงดนตรีดิสโก้และฟังค์จากอเมริกาที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1976 โดยมือ
กีตาร์ ไนล์ ร็อดเจอร์ส และมือเบส เบอร์นาร์ด เอ็ดวาร์ด (Bernard Edwards) ซึ่งมีบทเพลงที่
ประสบความสาเร็จอย่างมากในยุคดิสโก้จากบทเพลงต่าง ๆ เช่น แดนซ์, แดนซ์, แดนซ์ (โยวซา,
โยวซา, โยวซา) (Dance, Dance, Dance (Yowsah, Yowsah, Yowsah)) ในปี 1977 เอฟเวอรี่
บอดี้ แดนซ์ (Everybody Dance) ในปี 1977 เลอ ฟรีค (Le Freak) ในปี 1978 ไอ วอนท ยัวร์
เลิฟ (I want your love) ในปี 1978 กู๊ด ไทม์ส (Good times) ในปี 1979 และมาย ฟอร์บิเดน
เลิ ฟ เวอร์ (My forbidden lover) ในปี 1979 โดยพวกเขานั้ น ถื อ ว่ า ตั ว เองเป็ น วงร็ อ คในยุ ค
ของดิสโก้ และในปี 2017 วงชิคได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงตาแหน่งในรายการ ร็อค แอนด์ โรล
ฮ อ ล ล์ อ อ ฟ เ ฟ ร ม (Rock abd Roll Hall of Fame) ด้ ว ย กั น ถึ ง 1 1 ค รั้ ง
(https://en.wikipedia.org/wiki/Chic_(band), วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
เอฟเวอรี่ บ อดี้ แดนซ์ เป็ น บทเพลงดิ ส โก้ จ ากวงชิ ค ซึ่ ง ร้ อ งน าโดยนอร์ ม า จี น ไรท์
(Norma Jean Wright) และ ลู เ ธอร์ แวนดรอสส์ (Luther Vandross) ร้ อ งเป็ น พื้ น หลั ง โดย
บทเพลงนี้นั้นเป็นบทเพลงเดี่ยวลาดับที่ 2 จากอัลบั้มเปิดตัวของพวกเขาที่ใช้ชื่ออัลบั้มตามชื่อวง
ของพวกเขาคือ “ชิค (Chic)” ซึ่งบทเพลงนี้ถือเป็นบทเพลงแรกที่ถูกแต่งขึ้นเพื่อวงดนตรีนี้ และ
บทเพลงนี้ยังได้กลายเป็นบทเพลงที่ใช้ในการเปิดตัวของพวกเขาสาหรับการแสดงคอนเสิร์ตต่าง ๆ
อีกทั้งบทเพลงนี้ยังถูกนาไปใช้ประกอบในภาพยนตร์ต่าง ๆ เช่น เดอะ ลาสต์ เดย์ส ออฟ ดิสโก้
(The Last Days of Disco) ในปี 1998 และ ซั ม เมอร์ ออฟ แซม (Summer of Sam) ในปี
22
(Get Down tonight)” และได้ขึ้นถึงอันดับ 1 ในบิลบอร์ด ฮ็อต 100 (Billboard Hot 100) ใน
เดือนสิงหาคม (https://en.wikipedia.org/wiki/KC_and_the_Sunshine_Band, วันที่ค้น 20
มกราคม 2561)
บทเพลง “แดท เดอะ เวย์ (ไอ ไลค์ อิท) (That’s the way (I Like It))” เป็นบทเพลงใน
ล าดับ ที่ 2 ของอัล บั้ มที่ได้ขึ้นอันดับ 1 ในบิล บอร์ด ฮ็อต 100 และยังได้ขึ้นชาร์ตต่าง ๆ อีก
มากมายภายในเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนธันวาคม และบทเพลงนี้ยังได้ขึ้นไปอยู่ในอเมริกัน
พอป ชาร์ท เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยบทเพลง “ฟลาย, โรบิน, ฟลาย (Fly,
Robin, Fly)” โดยซิลเวอร์ คอนเวนชัน (Silver Convention) เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ แต่แล้ว
บทเพลงนี้ก็กลับขึ้นมาแทนที่ได้อีกครั้งและยังขึ้นเป็นอันดับ 1 ในโซลซิงเกิล ชาร์ต นอกจากนี้บท
เพลงแดท เดอะ เวย์ (ไอ ไลค์ อิท) ยังได้รับความนิยมทั้งในประเทศแคนนาดา เนเธอร์แลนด์
ออสเตรเลีย เบลเยียม เยอรมนี ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ และสหราชอาณาจักรอีกด้วย
(https://en.wikipedia.org/wiki/That%27s_the_Way_(I_Like_It), วั น ที่ ค้ น 20 มกราคม
2561)
ศิลปิน : Earth, Wind & Fire
บทเพลง : Getaway
เอิร์ธ, วินด์ แอนด์ ไฟร์ (Earth, Wind & Fire) เป็นวงดนตรีจากอเมริกันที่ทอดผ่านยุค
ของดนตรีที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นอาร์แอนด์บี, โซล, ฟังค์, แจ๊ส, ดิสโก้, พอป, ร็อค, ละติน และ
แอฟริกัน และยังถือได้ว่าเป็นวงที่ประสบความสาเร็จที่สุดในยุค 1970s วงเอิร์ธ วินด์ แอนด์ ไฟร์
ก่อตั้งขึ้น ในเมื อ งชิ ค าโก้โ ดยเมอริ ซ ไวท์ (Maurice White) ในปี 1970 โดยประกอบไปด้ ว ย
สมาชิกจากวงดนตรีอยู่ก่อนหน้าคือวง “ซอลตี้ เปปเปอร์ (Salty Peppers)” และสมาชิกคนอื่น
ๆ คือ ฟิลิป ไบลีย์ (Philip Bailey), เวอร์ดีน ไวท์ (Verdine White), เฟรด ไวท์ (Fred White),
ราล์ฟ จอห์นสัน (Ralph Johnson), แลร์รี ดันน์ (Larry Dunn), อัล แม็คเคย์ (Al McKay) และ
แอนดรูว วูลโฟล์ค (Andrew Woolfolk) เอิร์ธ วินด์ แอนด์ ไฟร์ ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลแก
รมมีถึง 20 ครั้ง โดยได้รับรางวัลแบบกลุ่มถึง 6 ครั้ง และสมาชิก 2 คนในวงคือเมอริซและไบลีย์
ได้รับรางวัลต่าง ๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังได้รับรางวัลจากเวทีอเมริกันอวอร์ดถึง 4 ครั้งจากการถูก
27
World)” และสามารถขึ้นชาร์ตที่อันดับ 1 บนฮ็อท แดนซ์ คลับ เพลย์ ชาร์ต (Hot Dance Club
Play chart) (https://en.wikipedia.org/wiki/Daft_Punk, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
ลู ส ยั ว ร์ เซลฟ์ ทู แดนซ์ (Lose Yourself to Dance) เป็นเพลงของดาฟต์ พั ง ค์ แ ละมี
นักร้องนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ (Pharrell Williams) เป็นนักร้องร่วม เพลง
นี้ถูกแต่งขึ้นโดยดาฟต์พังค์ , ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ และนักดนตรีชาวอเมริกันไนล์ ร็อดเจอร์ส ซึ่ง
เป็นมือกีตาร์ชื่อดังจากวงดนตรีชิค โดยบทเพลงนี้เป็นเพลงลาดับที่ 6 ในสตูดิโออัลบั้มที่ 2 ของ
ดาฟต์พังค์ที่ใช้ชื่ออัลบั้มว่า “แรนดอม แอคเซส เมมโมรีส์ (Random Access Memories)” บท
เพลงนี้ได้รับการกระจายเสียงผ่านทางวิทยุเป็นลาดับที่ 2 จากบทเพลงทั้งหมดในอัลบั้มนี้ในวันที่
13 สิ ง หาคม ค.ศ. 2013 ตามด้ ว ยบทเพลงที่ มี ค วามนิ ย มไปทั่ ว โลกอย่ า ง “เก็ ต ลั ค กี้ (Get
Lucky)” ก่อนที่บทเพลงลูส ยัวร์เซลฟ์ ทู แดนซ์ จะทาการขึ้นชาร์ตในประเทศต่าง ๆ รวมถึง
ฝรั่งเศส, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร โดยในสหราชอาณาจักรนั้นได้มีการนา
บ ท เ พ ล ง นี้ ไ ป ใ ส่ ไ ว้ ใ น ล า ดั บ ก า ร เ ล่ น เ พ ล ง ข อ ง ช่ อ ง BBC Radio 1 ,BBC Radio 2
(https://en.wikipedia.org/wiki/Lose_Yourself_to_Dance, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
ศิลปิน : Daft Punk
บทเพลง : One More Time
ดาฟต์ พังค์ (Daft Punk) เป็นวงดนตรีดูโอ้แนวอิเล็คโทรนิคจากประเทศฝรั่งเศสโดย
กาย-มานูเอล เดอ โฮเมม-คริสโต (Guy-Manuel de Homem-Christo) และโทมัส แบงกัลเตอร์
(Thomas Bangalter) พวกเขาทั้ง 2 ได้ประสบความสาเร็จในช่วงปลายยุค 1990s จากการที่
พยายามขับเคลื่อนแนวดนตรีเฟรนช์ เฮาส์ (French House) โดยการนาแนวดนตรีฟังค์ เทคโน
(Techno) ดิสโก้ ร็อค และซินท์พอป (Synthpop) มาผสมผสานกัน ซึ่งจุดเริ่มต้นของการก่อตั้ง
วงเกิดจากการที่โทมัส แบงกัลเตอร์และกาย-มานูเอล เดอ โฮเมม-คริสโต เริ่มพบกันในปี 1987 ที่
โรงเรียนลีย์ซี การ์น็อท (Lycée Carnot) ในเมืองปารีส ต่อมาโทมัส แบงกัลเตอร์และกาย-มานู
เอล เดอ โฮเมม-คริสโต ก็ได้ตั้งวงที่มีชื่อว่า “ดาร์ลิน’ (Darlin')) โดยมีสมาชิกเป็นเพื่อนอีกคน
คือลอเรนต์ บรานโควิตซ์ (Laurent Brancowitz) เข้าเป็นสมาชิกในปี 1992 ซึ่งเป็นวงดนตรีแนว
29
อิ น ดี้ ร็ อ ค ต่ อ มาได้ ถู ก นิ ต ยสารชื่อ ดั ง ได้วิ จารณ์ เ ขาว่า “A daft punk thrash” หรื อ เศษขยะ
นั่นเอง จึงทาให้เขาได้กลับไปปรับปรุงแนวเพลงและเปลี่ยนชื่อวงใหม่เป็น Daft punk ในปี 1993
โดยดาฟต์ พั ง ค์ ไ ด้ อ อกขายอั ล บั้ ม ชุ ด แรกที่ มี ชื่ อ ว่ า “โฮมเวิ ร์ ค (Homework)” โดยเริ่ ม การ
บั น ทึ ก เสี ย งในปี 1993 จนถึ ง ปี 1996 และออกจ าหน่ า ยในวั น ที่ 25 มี น าคม 1997 และ
ประสบความสาเร็จกับซิงเกิล “ดา ฟังค์ (Da Funk)” และ “อราวด์ เดอะ เวิร์ลด (Around the
World)” และสามารถขึ้นชาร์ตที่อันดับ 1 บนฮ็อท แดนซ์ คลับ เพลย์ ชาร์ต (Hot Dance Club
Play chart) (https://en.wikipedia.org/wiki/Daft_Punk, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
วั น มอร์ ไทม์ (One More Time) ถู ก เผยแพร่ ค รั้ ง แรกแบบเพลงเดี่ ย วในวั น ที่ 30
พฤศจิกายน 2000 และภายหลังในอัลบั้มดิสคัฟเวอร์รี (Discovery) เมื่อปี 2001 โดยมีดีเจชาว
อเมริกันชื่อว่า “โรมันโธนี (Romanthony)” มาทาการร้องร่ว มโดยการใช้เอฟเฟคต์ออโต้จูน
(Auto Tune) บทเพลงวัน มอร์ ไทม์ ได้ประสบความสาเร็จในการนาบทเพลงไปใช้ในเชิงพาณิชย์
อีกทั้งยังติดอันดับ 1 ในซินดิเคต เนชั่นแนล เดอ เลดิชั่น โฟโนกราฟฟิค อันดับที่ 2 ในยูเค ซิงเกิ้ล
ชาร์ต (UK Singles Chart) และอันดับที่ 61 ในบิลบอร์ด ฮ็อต 100 นอกเหนือจากความสาเร็จ
ก่อนหน้ าแล้ ว บทเพลงวัน มอร์ ไทม์ ยังถูกจัดให้ อยู่ในอันดับที่ 5 ของพิทช์ฟอร์คท็อป 500
(Pitchfork) ของยุ ค 2000s นิ ต ยสารโรลลิ่ ง สโตนยั ง ได้ จั ด ให้ เ พลงนี้ อ ยู่ ใ นอั น ดั บ ที่ 33 ของ
100 เพลงยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ และยังได้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน 500 เพลงยอดเยี่ยมตลอดการ
เมื่อเดือนพฤษภาคม 2010อีกด้วย (https://en.wikipedia.org/wiki/One_More_Time_(Daft
_Punk_song), วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
ศิลปิน : Daft Punk
บทเพลง : Get Lucky
ดาฟต์ พังค์ (Daft Punk) เป็นวงดนตรีดูโอ้แนวอิเล็คโทรนิคจากประเทศฝรั่งเศสโดย
กาย-มานูเอล เดอ โฮเมม-คริสโต (Guy-Manuel de Homem-Christo) และโทมัส แบงกัลเตอร์
(Thomas Bangalter) พวกเขาทั้ง 2 ได้ประสบความสาเร็จในช่วงปลายยุค 1990s จากการที่
พยายามขับเคลื่อนแนวดนตรีเฟรนช์ เฮาส์ (French House) โดยการนาแนวดนตรีฟังค์ เทคโน
30
ศิลปิน : Jamiroquai
บทเพลง : (Don’t) Give Hate a Chance
จามิโรไคว (Jamiroquai) เป็นวงดนตรีจากอังกฤษที่นาโดยนักร้องนาเจย์ เคย์ (Jay Kay)
แจ้งเกิดในยุคปฏิวัติทางดนตรีของเอซิดแจ๊ส (Acid Jazz) เมื่อต้นยุค 1990s จามิโรไควคือศิลปิน
อังกฤษที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากที่สุดอีกวงหนึ่ง ชื่อเสียงของวงนั้นโด่งดังไปทั่วยุโรปไม่ว่าจะเป็น
ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี อเมริกาใต้ แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น รวมทั้งอเมริกาเหนือตลาด
ดนตรีที่ใหญ่ที่สุดของโลก ชื่อวง “Jamiroquai” นั้นมาจากการรวมคา 2 คานั่นก็คือคาว่า “แจม-
เซสชัน (Jam session)” ที่หมายถึงการที่นักดนตรีมาร่วมบรรเลงกับวงดนตรีอื่น ๆ และคาว่า “
อิโรไคว (Iroquai)” มาจากคาว่า “อิโรเควียส (Iroquois)” ซึ่งเป็นชื่อของชนเผ่าอินเดียนแดงเผ่า
หนึ่ง โดยเจย์ เคย์นั้นเป็นผู้ผลักดันในเกิดวงดนตรีนี้ขึ้นมาหลังจากที่เขาพลาดจากการสมัครเป็น
นักร้องให้แก่วงเดอะ แบนด์ นิว เฮฟวี่ (The Brand New Heavies) (https://en.wikipedia.org
/wiki/Jamiroquai, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
(ดอนท์) กิฟ เฮท อะ แชนซ์ ((Don’t) Give hate a chance) เป็นบทเพลงในสตูดิโ อ
อัลบั้มที่ 6 ของวงที่ใชชื่ออัลบั้มว่า “ไดนาไมท์ (Dynamite)” บทเพลงนี้ถูกเขียนขึ้นโดยเจย์ เคย์,
ร็อบ แฮร์ริส (Rob Harris) และแมทท์ จอห์นสัน (Matt Johnson) และมีเจย์ เคย์ กับไมค์ สเปน-
เซอร์ (Mike Spencer) ท าหน้ า ที่ เ ป็ น โปรดิ ว เซอร์ บทเพลงนี้ ถู ก เผยแพร่ ค รั้ ง แรกในวั น ที่ 7
พฤศจิ ก ายน 2005 และสามารถไต่ อั น ดั บ ขึ้ น ไปอยู่ ใ นอั น ดั บ ที่ 27 ของยู เ ค ซิ ง เกิ้ ล ชาร์ ต
(https://en.wikipedia.org/wiki/(Don%27t)_Give_Hate_a_Chance, วันที่ค้น 20 มกราคม
2561)
ศิลปิน : Coldplay
บทเพลง : Adventure of a Lifetime
โคลด์เพลย์ (Coldplay) เป็นวงดนตรีร็อคจากสหราชอณาจักรที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1996
โดยนักร้องนาและมือคีย์บอร์ดของวงคือ คริส มาร์ติน (Chris Martin) และมือกีตาร์จอห์นนี บัค-
แลนด์ (Johnny Buckland) ที่มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน (University College London)
โดยในตอนแรกพวกเขาใช้ชื่อวงว่า “เพคโตรัลซ์ (Pectoralz)” จากนั้นกาย เบอร์รีย์แมน (Guy
Berryman) ก็ได้เข้าร่วมวงในฐานะมือเบสและพวกเขาก็ได้ ทาการเปลี่ยนชื่อววงมาเป็น “สตาร์-
ฟิช (Starfish)” ต่อมาพวกเขาได้วิล ล์ แชมป์เปียน (Will Champion) เข้าร่ว มวงในฐานะมื อ
กลองและนักร้องเสียงประสาน และได้นับฟิล ฮาร์วีย์ (Phil Harvey) ผู้กากับงานศิลป์ของวงเป็น
32
การศึกษาในระดับมัธยมศึกษาหลังจากนั้นก็ย้ายไปยังลอสแอนเจลิสเพื่อทาตามความฝันในการ
เป็นนักดนตรี มาร์สยังเป็นโปรดิวเซอร์เพลงให้กับศิลปินหลายคนจานวนมาก และเป็นผู้ก่อตั้ง
เดอะ สมีซซิงตันส์ (The Smeezingtons) ซึ่งเป็นบริษัทที่รับแต่งเพลงและเป็นโปรดิวเซอร์ในการ
ทาบทเพลง มาร์สยังได้รับรางวัลเป็น จานวนมากและถูกเสนอชื่อเข้าชิงอยู่บ่อยครั้ง ประกอบด้วย
รางวัลแกรมมี 2 ครั้ง บริต อวอร์ด 3 ครั้ง กินเนสส์ เวิร์ลด เร็คคอร์ด 3 ครั้ง และในปี 2011
นิตยสารไทม์ (Time) ยังได้จัดให้เขาเป็น 1 ใน 100 บุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกในปี 2011
ในปี 2014 เขายังได้รั บการขนานนามว่าเป็นศิลปินแห่งปีโดยบิลบอร์ดและยังติดอันดับ 1 ใน
นิตยสารฟอบส์จากทั้งหมด 30 รายชื่อ และตลอดช่วงระยะเวลาในการเป็นนักร้องมาร์สนั้นมี
ยอดขายมากกว่า 11 ล้านอัลบั้มและ 68 ล้านซิงเกิ้ล (https://en.wikipedia.org/wiki/Bruno_
Mars, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
เทรเชอร์ (Treasure) เป็นบทเพลงจากอัลบั้มที่ 2 ของเขาในปี 2012 ที่ใช้ชื่อว่า “อัน
ออร์ธอด็อกซ์ จู๊คบ็อกซ์ (Unorthodox Jukebox)” ซึ่งได้รับแรงบันนดาลใจมากจากบทเพลง
“เบบี้ แอม ยัวร์ส (Baby I’m Yours)” ของศิลปินเบรคบ็อท (Breakbot) ถูกแต่งขึ้นโดยบรูโน
มาร์ ส , ฟิลิ ป ลอร์ เรนซ์ (Phillip Lawrence), เอริ เลวีนย์ (Ari Levine) และเฟรดลี ย์ บราวน์
(Phredley Brown) บทเพลงนี้เป็นบทเพลงอันดับที่ 4 และถูกเลือกมาให้เป็นซิงเกิ้ลลาดับที่ 3
โดยแอตแลนติก เรคคอร์ด บทเพลงเทรเชอร์ถูกเผยแพร่ครั้งแรกผ่านทางสถานีวิทยุนประเทศ
อิตาลีเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2013 และกลายเป็นบทเพลงลาดับที่ 7 ของมาร์สที่ติดอันดับท็อป
10 ในประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ที่เขาเริ่มงานในการเป็นศิลปินเมื่อปี 2010 อีกทั้งยังติดท็อป 5
ในหลายประเทศเช่น แคนาดา, อิสราเอล, และแอฟริกาใต้ (https://en.wikipedia.org/wiki/
Treasure_(Bruno_Mars_song), วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
35
ศิลปิน : Beyoncé
บทเพลง : Love on Top
บียอนเซ่ จิเซลล์ โนวส์ (Beyoncé Giselle Knowles) เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน ค.ศ.
1981 เป็นนักร้องสไตล์อาร์แอนด์บี , นักแต่งเพลง, โปรดิวเซอร์ , นักแสดง และ นางแบบชาว
อเมริกัน บียอนเซ่เกิดและเติบโตที่ ฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส ในวัยเด็กบียอนเซ่ได้เข้าร่วมในการแสดง
หลากหลายครั้งในระหว่างที่เธอกาลังเรียนอยู่ในระดับชั้นอนุบาลจนถึงประถม ซึ่งรวมไปถึงการ
ร้องเพลง อันเป็นการปูทางสาหรับอาชีพการเป็นนักร้องของเธอ บียอนเซ่เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก
ในช่วงปี 1990 ในฐานะสมาชิกคนสาคัญของเดสทินีส์ ไชลด์ (Destiny’s Child) วงดนตรีหญิง
ล้วนแนวอาร์แอนด์บีชื่อดังในยุคนั้น ตลอดชีวิตการทางานของเธอ เธอสามารถทายอดขายเกิน
กว่า 100 ล้านชุดได้ในฐานะศิลปินเดียว จากความสาเร็จอย่างสูงของการเป็นศิลปินเดี่ยวของบี
ยอนเซ่ ทาให้เธอได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินคนสาคัญคนหนึ่งของอุตสาหกรรมดนตรีในยุค
ปัจจุบัน และเธอก็ยังขยายงานอาชีพของเธอไปสู่งานทางการแสดงและเซ็นสัญญากับบริษัทสินค้า
ต่าง ๆ เธอได้เริ่มอาชีพทางการแสดงของเธอเมื่อปี ค.ศ. 2001 ใน ภาพยนตร์เพลงเรื่อง คาร์เมน:
อะ ฮิป ฮ็อป อีรา (Carmen: A Hip Hop era) ในปี ค.ศ. 2006 เธอได้รับบทนาในภาพยนตร์ทา
ใหม่ของละครบรอดเวย์ปี 1981 เรื่องดรีมเกิร์ลส (Dream Girls) และทาให้เธอได้เข้าชิงรางวัล
ลูกโลกทองคาถึง 2 รางวัล บียอนเซ่ได้มีธุรกิจสายงานแฟชั่นที่เธอได้ร่วมกับครอบครัว โดยใช้ชื่อ
ว่า “เฮาส์ ออฟ เดเรออน (House of Deréon)” และได้เซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัท
ต่าง ๆ เช่น เป๊ปซี่, ทอมมี ฮิล ฟิกเจอร์, อาร์มานิ และลอเรอัล และในปี ค.ศ. 2009 นี้ นิตยสาร
ฟอร์บยังได้จัดอันดับให้เธออยู่ในอันดับ 4 ของคนดังที่มีอิทธิพลมากที่สุด, อันดับ 3 ของนักดนตรี
ที่มีรายได้มากที่สุด, และอันดับหนึ่งของคนดังอายุต่ากว่า 30 ที่มีรายได้มากที่สุด ด้วยรายได้กว่า
87 ล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างปี ค.ศ. 2008 - ค.ศ. 2009 (https://en.wikipedia.org/wiki/
Beyoncé, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
บทเพลง เลิฟ ออน ท็อป (Love on Top) เป็นบทเพลงจากสตูดิโออัลบั้มลาดับที่ 4 ของ
บียอนเซ่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสภาพจิตใจและความรู้สึกของเธอหลังจากการรับบทเป็น
36
สุร พล สมบัติ เ จริญ ราชาเพลงลูก ทุ่ง ไทย ขับ ร้อ งเพลงอมตะ “เป็น โสดทาไม” ไว้
กว่า หลายสิบ ปีแ ล้ว ปัจ จุบัน เพลงนี้ยัง ได้รับ ความนิย มนามาขับ ร้อ งซ้าเป็น ที่รู้จัก กัน ไปทั่ว
เด็ก ผู้ใหญ่ คนชราต่างขับร้อ งเพลงนี้กัน อย่างสนุกสนาน เนื้อเพลงแม้จ ะขึ้น ด้ว ยคาถามว่า
“เป็น โสดทาไม” แต่ตลอดเนื้ อ ร้อ งนั้น กลับ ไม่มีคาตอบของคาถามว่า เป็นโสดไปเพื่อ อะไร
ตลอดเนื้อร้อ งนั้น มีแต่บ อกถึง ข้อ ดีข องการมีคู่ค รอง มีลูก ไม่เหงา มีความสุข มีคนชิด ใกล้
อีกทั้งการไม่เป็น โสด และเลือกจะแต่ง งานนั้นยัง เป็น คุณ ประโยชน์แ ก่ป ระเทศอย่า งยิ่ง ถึง
ขนาด “รักชาติชูเชิด ” ส่วนข้อเสี ยของการเป็นโสดนั้นเนื้อเพลงบอกถึงการเผชิญความเหงา
ว่า ไม่ด ีต ่า งนา ๆ รุน แรงถึง ขนาดว่า ตายไปอาจจะไม่ไ ด้ก ลับ มาเกิด อีก ในชาติห น้า
(https://www.detectteam.com/3279, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
ศิลปิน : ยอดรัก สลักใจ
บทเพลง : ไอ้หนุ่มตู้เพลง
ยอดรัก สลักใจ มีชื่อเล่นคือ “แอ๊ว” เกิดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2499 ที่ตาบลงิ้วราย
อาเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร เป็นบุตรนายบุญธรรม และนางบ่าย ไพรวัลย์ มีพี่น้อง 8 คน
ชาย 7 คน หญิง 1 คน โดยยอดรักเป็นคนสุดท้อง เมื่อยอดรักยังเด็กเขาไปสมัครร้องเพลงกับ
คณะราวง “เกตุน้อยวัฒนา” ซึ่งได้เงินมาครั้งละ 5-10 บาท และต่อมามีโอกาสไปร้องเพลงใน
ห้องอาหารที่อาเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ โดยได้ใช้เพลงของไพรวัลย์ ลูกเพชร, ชาย เมือง-
สิงห์, สุรพล สมบัติเจริญ, ไวพจน์ เพชรสุพรรณ เป็นต้น จนกระทั่งวันหนึ่งเด็ดดวง ดอกรัก นัก
จัดรายการของสถานีวิทยุ ท.อ.04 ตาคลีได้มาฟังเพลงที่ห้องอาหารและประทับใจยอดรักที่ร้อง
เพลง “ใต้เงาโศก” ของไพรวัลย์ ลูกเพชร จึงได้มาชักชวนเข้าสู่วงการโดยนามาฝากกับฝังอาจารย์
ชลธี ธารทอง และยอดรักก็ได้อยู่เลี้ยงลูกให้อาจารย์ชลธีเกือบหนึ่งปีและตั้งชื่อให้ว่า “ยอดรัก ลูก
พิ จิ ต ร” และได้ บั น ทึ ก แผ่ น เสี ย ง 3 เพลงคื อ สงกรานต์ บ้ า นทุ่ ง , น้ าสั ง ข์ น้ าตา และเต่ า มอง
จันทร์ (https://th.wikipedia.org/wiki/ยอดรัก_สลักใจ, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
ชวนชัย ฉิมพะวงษ์ ครูเพลงชื่อดังหรือชื่อจริงว่า “ประทวน ฉิมพะวงษ์” เกิดเมื่อวันที่ 3
พฤษภาคม พ.ศ. 2481 ที่ อ. บ้านนา จ.นครรายก พ่อชื่อม้วน แม่ชื่อ ฉิม ฉิมพะวงษ์ เข้าสู่วงการ
โดยการเป็นนักร้องวงชุมนุมศิลป์ของครูจารัต วิภาคฉิมพะวัน ตั้งแต่ยุคแรกของวง เป็นทั้งนักร้อง
และนักแต่งเพลง โดยเพลงยุคแรกที่ร้องจนประชาชนรู้จักคือเพลงผู้อัปลักษณ์, กุหลาบจ๋า, หัวอก
คนจน, ชาวนาสารภาพ, จักรยานคนยาก และพี่ไม่มีแฟน ชวนชัย ฉิมพะวงษ์เป็นหนึ่งในทีมงานผู้
ที่สร้างยอดรัก สลักใจ ให้โด่งดังในวงการเพลงลูกทุ่งและเป็นผู้ตั้งนามสกุล “สลักใจ” ให้แก่ยอด-
38
ตะกอน” รวมแล้ ว สุ ช าติ เที ย นทองมี ผ ลงานเพลงที่ ป ระพั น ธ์ ไ ว้ ทั้ ง สิ้ น 484 เพลง
(https://th.wikipedia.org/wiki/สุชาติ_เทียนทอง, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
ศิลปิน : พุ่มพวง ดวงจันทร์
บทเพลง : ผู้ชายในฝัน
พุ่มพวง ดวงจันทร์ เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2504 ชื่อเล่น ผึ้ง หรือชื่อจริง ราพึง
จิตรหาญ นักร้องเพลงลูกทุ่ง เจ้าของฉายา “ราชินีลูกทุ่ง” ได้ชื่อว่ามีน้าเสียงออดอ้อน หวานหยด
ย้อย สามารถจาเนื้อร้องได้แม่นทั้งที่ไม่รู้หนังสือ และเป็นแม่แบบให้กับนักร้องรุ่นหลัง พุ่มพวงเกิด
ในครอบครัวที่ยากจนมากและเรียนจบเพียงแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ทาให้อ่านหนังสือไม่ออก
แต่มีความจาดีและมีความสามารถด้านการร้องเพลงจึงทาให้ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ซึ่งได้เข้ามาทา
การแสดงที่วัดทับกระดาน จังหวัดสุพรรณบุรีซึ่งเป็นบ้านของเธอได้เห็นแววความสามารถของเธอ
จึงรับไปเป็นบุตรบุญธรรม เธอมีเพลงดังในวงการมากมาย เช่น นักร้องบ้านนอก, กระแซะเข้ามา
ซิ, อื้อหือหล่อจัง, หนูไม่ร,ู้ หัวใจถวายวัด, ขุดดินแช่ง, ขอให้รวย, หม้ายขันหมาก, อนิจจาทิงเจอร์,
เสียสาวเมื่ออยู่ ม.ศ. ฯลฯ และทุก ๆ เพลงของพุ่มพวงก็ได้ประสบความส าเร็จหมดทุก เพลง
(https://th.wikipedia.org/wiki/พุ่มพวง_ดวงจันทร์, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
ประยงค์ ชื่นเย็น เป็นนักเรียบเรียงเสียงประสานเพลงลูกทุ่งชื่อดังที่อยู่ในวงการมานาน
หลายสิ บ ปี โดยมี ผ ลงานการเรี ย บเรี ย งเพลงไว้ ม ากมายและเป็ น ศิ ล ปิ น แห่ ง ชาติ ส าขา
ศิลปะการแสดงประจาปี พ.ศ. 2552 ประยงค์เริ่มทางานด้านการเรียบเรียงเสียงประสานในปี
พ.ศ. 2516 โดยเป็นผู้เรียบเรียงเพลงทุกรูปแบบและควบคุมการบรรเลงเพลงให้กับวงดนตรีไทย
ลูกทุ่งและไทยสากล ผลงานบันทึกเสียงเพลงแรกในฐานะผู้เรียบเรียงเสียงประสานคือเพลง ทน
หนาวอีกปี ขับร้องโดย เด่น บุรีรัมย์ ต่อมาได้เรียบเรียงเสียงประสานเพลงมากมายนับพันเพลง
รวมถึงเพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ เช่น หัวใจถวายวัด ผู้ชายในฝัน ห่างหน่อยถอยนิด เป็นต้น อีก
ทั้งยังได้เรียบเรียงเสียงประสานเพลงพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม
ราชกุมารี เพลงที่ รู้ จั กกัน ดีคือ เพลงส้ มตา ฉบับที่ขับร้องโดย พุ่มพวง ดวงจันทร์ และ สุ นารี
ราชสีมา (https://th.wikipedia.org/wiki/ประยงค์_ชื่นเย็น, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
40
เนื่องมาจากกระแสนิยมของดนตรีดิสโก้ในขณะนั้นจนในที่สุดวอร์ดก็ยอมอ่อนข้อให้แก่ไนท์ ซึ่งบท
เพลงที่ ไ นท์ เ อามาให้ เ ธอร้ อ งนั้ น ก็ คื อ บทเพลง “ริ ง มาย เบล (Ring My Bell)” นั่ น เอง
(https://en.wikipedia.org/wiki/Anita_Ward, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
บทเพลงริง มาย เบล ถูกเขียนขึ้นโดยเฟรดเดอริค ไนท์ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการที่เด็ก ๆ
คุยกันผ่านโทรศัพท์ โดยบทเพลงนี้สามารถไต่ขึ้นไปยังอันดับที่ 1 ของบิลบอร์ด ฮ็อต 100, โซล
ซิงเกิ้ล ชาร์ต อันดับ 1 ในยูเค ซิงเกิ้ล ชาร์ตและในประเทศแคนาดาในปี 1979 บทเพลงริง มาย
เบล นั้ น ถูกน าไปเรี ย บเรี ย งใหม่ อี กมากมายหลายครั้งนับ ตั้งแต่ถู กเผยแพร่ ออกมาอย่า งเป็ น
ทางการ ซึ่งบทเพลงนี้ถือเป็นบทเพลงเดียวของวอร์ดที่ได้รับความนิยมและทาให้เธอโด่งดัง เพราะ
บทเพลงต่อมาของเธอที่ใช้ชื่อว่า “เมค บีลีฟ เลิฟเวอร์ส (Make Believe Lovers)” ก็ไม่สามารถ
ประสบความสาเร็จได้ดั่งเช่นเพลงริง มาย เบล (https://en.wikipedia.org/wiki/Ring_My_Bell
, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
ศิลปิน : Penny McLean
บทเพลง : Lady Bump
เพนนีย์ แม็คลีน (Penny McLean) หรือชื่อจริงคือ “เกอร์ทรูดย์ เวอชิงเกอร์ (Gertrude
Wirschinger)” นักร้องชาวออสเตรีย โดยในช่วงต้นยุค 1970s เธอเป็นส่วนหนึ่งของวงดนตรีคู่
บาร์ บ ร้ า แอนด์ เฮลมุท (Barbra & Helmut) พวกเขาได้ทาการเผยแพร่ บทเพลงไฮด์ อ ะเวย์
(Hidedaway) และสต็อป (Stop) ออกมา หลังจากนั้นนานเธอก็ได้ยายไปอยู่กับวงโทนี่ แอนด์
ลิซ่า แอนด์ เพนนีย์ (Tony & Liza & Penny) ซึ่งเป็นวงดนตรีสามคนและพวกเขาก็ได้เผยแพร่
บทเพลงออกมาด้ ว ยกั น 2 บทเพลงคื อ ไวท์ อั พ เดอะ ไฟร์ (Light Up The Fire) และเดอ
เฟรมเด (Der Fremde) และในช่วงกลางยุค 1970s เธอก็ได้ย้ายมาอยู่กับวงซิลเวอร์ คอนเวนชั่น
(Silver Convention) ซึ่ ง ภายในกลุ่ ม ยั ง มี ลิ น ดา จี . ทอมป์ สั น (Linda G. Thompson) และ
ราโมนา วูล์ฟ (Ramona Wulf) นักร้องชื่อดังชาวเยอรมนี (https://en.wikipedia.org/wiki/
Penny_McLean, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
เลดี้ บั มพ์ (Lady Bump) เป็นบทเพลงของเพนนีย์ แม็คลี นซึ่งถกเผยแพร่ออกมาใน
ระหว่างที่เธอนั้นยังร่วมงานอยู่กับวงซิลเวอร์ คอนเวนชั่น ซึ่งถูกเผยแพร่ครั้งแรกในเดือนมิถุนายน
1975 ในด้านเอ-ไซด์ ส่วนในด้านบี-ไซด์ของแผ่นนั้นเป็นเพลงบรรเลงที่ชื่อว่า “เดอะ เลดี้ บัมพ์ส
อ อ น (The Lady Bumps on)” ซึ่ ง เ ป็ น บ ท เ พ ล ง เ ล ดี้ บั ม พ์ ใ น เ ว อ ร์ ชั่ น บ ร ร เ ล ง
(https://en.wikipedia.org/wiki/Lady_Bump, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
45
มาร่วมวง ต่อมาไม่นานจึงได้เดวิด โฮโด (David Hodo), เกลนน์ ฮิวส์ (Glenn Hughes) และ
แรนดี้ โจนส์ (Randy Jones) มาเพิ่มในแต่ละตาแหน่ง วิลเลจพีเพิลในยุคที่วิลลิสเป็นนักร้องนา
นั้นตั้งแต่ปี 1977 จนถึง 1979 ได้สร้างผลงานอัลบั้มออกมา 5 ชุดด้วยกัน และมีเพลงยอดนิยม
เช่น โก เวสต์ (Go West), อิน เดอะ เนวี (In The Navy), ซานฟรานซิส โก (San Francisco),
มาโช แมน (Macho Man) และบเพลงยอดนิยมที่สุดของพวกเขานั่นก็คือ “วายเอ็มซีเอ (YMCA)
(https://en.wikipedia.org/wiki/Village_People, วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
วายเอ็มซีเอ เป็นบทเพลงจากสตูดิโออัลบั้มลาดับที่ 3 ของวิลเลจ พีเพิล ที่ใช้ชื่ออัลบั้มว่า
“ครูสซิน’ (Cruisin’)” ซึ่งได้ทาการเผยแพร่ครั้งแรกในวันที่ 13 พฤศจิกายน 1978 บทเพลงนี้
สามารถขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 2 ของชาร์ตเพลงในประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นปี 1979 และ
สามารถขึ้นไปอยู่ยังอันดับหนึ่งในชาร์ตเพลงของฝั่งสหราชอาณาจักรในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งบท
เพลงวายเอ็มซีเอยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมักถูกนาไปใช้ในงานแข่งขันกีฬาต่าง ๆ
ของสหรัฐ ฯ และฝั่งทวีปยุโรป ที่เหล่าแฟน ๆ กีฬาจะใช้ท่าเต้นของบทเพลงที่มีการขยับ ให้เป็น
รูปร่างตัวอักษรตามชื่อของบทเพลง เพื่อใช้ในการยืดเส้นสายและกระตุ้นให้ตัวเองตื่นตัว และในปี
2009 บทเพลงวายเอ็มซีเอได้ถูกบันทึกลงกินเนสบุ๊คเมื่อแฟน ๆ ของวงวิลเลจ พีเพิล ได้มารวมตัว
กันกว่า 44,000 คนเพื่อที่จะเต้นเพลงวายเอ็มซีเอพร้อมกัน ในงานซัน โบวล์ (Sun Bowl) เมื่อปี
2008 ที่วงวิลเลจ พีเพิลไปทาการแสดงสด และบทเพลงวายเอ็มซีเองยัได้รับการจัดอันดับให้อยู่
ในอันดับที่ 7 ของเพลงเต้น 100 เพลงที่ดีที่สุดตลอดกาลในยุคศตวรรษที่ 20 โดยช่องเคเบิ้ลทีวีวี
เอช 1 (VH1) (https://en.wikipedia.org/wiki/Y.M.C.A._(song), วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
ศิลปิน : Donna Summer
บทเพลง : Last Dance
ดอนนา ซัมเมอร์ (Donna Summer) หรือชื่อจริงของเธอคือ “ลาดอนนา เอเดรียน
เกนส์ (LaDonna Adrian Gaines)” เกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 1948 เป็นนักร้อง นักประพันธ์
เพลง ศิลปินชาวอเมริกันโด่งดังในช่วงยุคสมัยดนตรีดิสโก้ โดยเธอนั้นเป็นที่รู้จักจากผลงานเพลง
ดังหลากหลายบทเพลงอันได้แก่เพลง เลิฟ ทู เลิฟ ยู เบบี้ (Love to Love You Baby), ไอ ฟีล
47
เลิฟ (I Feel Love), ฮ็อต สตัฟฟ์ (Hot Stuff), แม็คอาร์เธอร์ ปาร์ค (MacArthur Park) และแบด
เกิร์ลส (Bad Girls) และเธอนั้นยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งดิสโก้” ดอนนา ซัมเมอร์
สามารถคว้ารางวัลแกรมมี่ อวอร์ดมาได้ด้วยกันถึง 5 ครั้ง และยังเป็นศิลปินคนแรกที่มีอัลบั้มติด
อยู่ในอันดับที่ 1 ของบิลบอร์ด ฮ็อต 200 ได้ติดต่อกันถึง 3 ครั้ง มีผลงานเพลงติดอันดับที่ 1-4 อยู่
บนชาร์ตติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนานถึง 12 เดือนและมียอดขายอัลบั้มทั่วโลกรวมมากกว่า
100 ล้านชุด โดยชื่อ “ดอนนา ซัมเมอร์ ” ที่เธอใช้ในการแสดงนั้นมาจากนามสกุล ซอมเมอร์
(Sommer) หลังจากเธอสมรสครั้งแรกกับเฮลมุต ซอมเมอร์ (Helmut Sommer) นักแสดงชาว
เยอรมนี ระหว่างปี ในระหว่ า งปี 1973 (https://en.wikipedia.org/wiki/Donna_Summer,
วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
ลาสต์ แดนซ์ (Last Dance) เป็นบทเพลงประกอบภาพยนตร์ในปี 1978 เรื่อง “แธง
ก็อด อิท’สฟรายเดย์ (Thank God It’s Friday) ที่ดอนนา ซัมเมอร์ ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์
เรื่องนี้โดยรับบทเป็นนิโคล ซิมส์ (Nicole Sims) หญิงที่ต้องการเป็นนักร้องเพลงดิสโก้ ถูกแต่งขึ้น
โดยพอล จาบารา (Paul Jabara) และได้จอร์จิโอ โมโรเดอร์ และบ็อบ เอสตี้ (Bob Esty) มาเป็น
ผู้ช่วยอานวยการผลิต อีกทั้งยังได้สตีเฟน ชอร์ท (Stephen Short) โปรดิวเซอร์ที่ได้รับรางวัลจาก
เวทีแกรมมี่ อวอร์ด มาทาการมิกซ์บทเพลงและร่วมร้องเสียงประสานเป็นพื้นหลัง บทเพลงลาสต
แดนว์ได้รับคาชื่นชมและประสบความสาเร็จเป็นอย่างมาก โดยได้รับรางัลชนะเลิศจากเวทีอะคา
เดมี่ อวอร์ด (Academy Award) และรางวัลลูกโลกทองคา (Golden Globe Award) ในสาขา
เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Song) และรางวัลแกรมมี่ อวอร์ดในสาขา
เบสต์ ฟีเมล อาร์แอนด์บี โวคัล เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Best Female R&B Vocal Performance) อีก
ทั้งยังติดอันดับ 3 ในบิลบอร์ด ฮ็อต 100 ตลอดทั้งปี 1978 อีกด้วย(https://en.wikipedia.org
/wiki/Last_Dance_(Donna_Summer_song), วันที่ค้น 20 มกราคม 2561)
บทที่ 3
วิธีการดาเนินโครงการ
ทาหน้าที่ประชาสัมพันธ์โครงการแก่บุคคลทั้งภายในและภายนอก
มหาวิทยาลัยขอนแก่นรวมถึงการติดต่อประสานกับผู้สนับสนุนต่าง ๆ และทาหน้าที่
ออกแบบ โลโก้ สูจิบัตร โปสเตอร์ ไวนิล เพื่อการประชาสัมพันธ์โครงการให้บุคคล
ทั่วไปได้รับทราบ
3.1.9 ฝ่ายสวัสดิการ
ประธาน นายเกียรติศักดิ์ ศรีนาเมือง
กรรมการ นายจีระสิทธิ์ คงนาวัง
ทาหน้าที่จัดและควบคุมดูแลสวัสดิการและการให้บริการด้านต่าง ๆ
3.1.10 ฝ่ายเครื่องแต่งกาย
ประธาน นางสาวฐิติชญา กดนอก
ทาหน้าที่จัดหาและดูแลความเรียบร้อยในเรื่องของเครื่องแต่งกายและชุดที่ใช้ในการ
แสดงแต่ละชุดการแสดง
3.2 การทางานของฝ่ายต่าง ๆ
3.2.1 ฝ่ายโครงการ
- วางแผนงาน
- ประชุมร่วมกับสมาชิก
- มอบหมายงานให้แต่ละฝ่าย
3.2.2 ฝ่ายเอกสารวิชาการ
- จัดทาเอกสารขอสปอนเซอร์
- จัดทาหนังสือติดต่อในที่ต่าง ๆ
- จัดทารูปเล่มศิลปะนิพนธ์
3.2.3 ฝ่ายการเงิน
- เก็บรวบรวมเงินจากสมาชิก
- จัดการเงินในการใช้จ่ายต่าง ๆ
51
- เก็บรวบรวมเงินจากสปอนเซอร์
3.2.4 ฝ่ายจัดการแสดง
- จัดตารางในการซ้อม
- ทาคิวการแสดง
- จัดการชุดการแสดงทุกอย่างให้อยู่เวลาที่กาหนดไว้
3.2.5 ฝ่ายจัดทาโน้ตเพลง
- เก็บรวบรวมโน้ตเพลงจากสมาชิกที่เรียบเรียบเพลงพระราชนิพนธ์ใหม่
- เก็บรวบรวมโน้ตเพลงจากสมาชิกที่ประพันธ์เพลงขึ้นมาใหม่
- ตรวจสอบและแก้ไขโน้ตเพลงจากสมาชิก
3.2.6 ฝ่ายเวทีและแสงสี
- ออกแบบสถานที่และเวที
- ติดต่อบริษัทเครื่องเสียงและไฟแสงสี
- จัดวางตาแหน่งให้นักดนตรีที่ขึ้นไปแสดง
3.2.7 ฝ่ายประสานงาน
- ประสานงานเรื่องเก้าอี้
- ประสานงานเรื่องจอภาพยนตร์
- ประสานงานเรื่องสถานที่
3.2.8 ฝ่ายประชาสัมพันธ์
- จัดทาโลโก้งาน
- จัดทาโปสเตอร์
- จัดทาแผ่นไวนิล
- จัดทาสูจิบัตร
3.2.9 ฝ่ายสวัสดิการ
- ดูแลเรื่องอาหารให้นักดนตรีที่มาซ้อม
52
- ดูแลในการงานเดินทางไปซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จาเป็นต้องใช้ในการซ้อม
3.2.10 ฝ่ายเครื่องแต่งกาย
- จัดหาเครื่องแต่งกายให้นักแสดง
- ดูแลเครื่องแต่งกายของนักแสดงในวันแสดงงาน
3.3 ขั้นตอนการดาเนินงาน
ในการดาเนินโครงการได้มีการวางแผนระยะเวลาของแต่ละฝ่ายได้ดังนี้
ตารางรายเดือนในการทางานแต่ละฝ่าย
เดือน
พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย.
ออกแบบ
สูจิบัตร โปสเตอร์ แผ่นพับ ไวนิล
โลโก้
ปรึกษา จัดหา
เลือกเพลง
ผู้สนับสนุน ซ้อม
สิ่งที่จะต้องทา
ปรึกษาอาจารย์, อาจารย์,
เลือก VTR ในงาน ใหญ่
concept แก้ไขและเพิ่มเติม, แก้ไข VDO และ
และ เริ่ม รัน
แสดง
หาแขกรับ ติดต่อสถานที่ โปรโมท โปรโมท
เพิ่มเติม, ตาม script จริง
เชิญ งานหา
หา ซ้อม
ติดต่อ ทาเล่มบทที่ พิธีกร
Costume backstage
สถานที่ 1-4
Costume
หา จับเวลา
backstage
53
3.4 งานออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์
งานสื่อประชาสัมพันธ์ที่มีการออกแบบได้แก่ โลโก้ที่ใช้ในงาน โปสเตอร์ ในการประชาสัมพันธ์
และสูจิบัตร
3.4.1 การออกแบบโลโก้
ในการออกแบบโลโก้ใช้หลักการดังนี้
1. สร้างเส้นโครงรูปแบบของลูกบอลดิสโก้ เผื่อสื่อถึงยุคสมัยดิสโก้ให้เด่นชัดขึ้น
2. ใช้สีแดงในคาว่าอินเฟอร์โน เพื่อสื่อถึงความเร่าร้อนของไฟ
3. รูปแบบฟอนต์ที่ใช้ เลือกรูปแบบที่สื่อถึงช่วงยุค 70s – 80s
แบบที่ 1
54
แบบที่ใช้จริง
55
3.4.2 การออกแบบโปสเตอร์และป้ายไวนิล
โปสเตอร์และป้ายไวนิลใช้ข้อมูลเดียวกันในการใส่ในการสร้างสื่อประชาสัมพันธ์ โดยมีตัวอย่าง
แบบร่างดังนี้
56
แบบที่ใช้จริง
57
สูจิบัตร
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
ไวนิล
3.5 การออกแบบเวที
โดยพื้นหลังฉากที่เป็นผ้าม่านสีแดง เนื่องจากโรงละครของคณะมีผ้าม่านเป็นสีแดง
3.6 เครื่องแต่งกายในวันแสดง
จากการแสดงทั้งหมด 5 ชุดการแสดง สามารถแบ่งวิธีการเลือกเครื่องแต่งกายได้ดังนี้
3.6.1 การแสดงชุดที่ 1
เนื่องจากเพลงในชุดการแสดงนี้เป็นเพลงออริจินอลดิส โก้ การแต่งกายจึงออกไปในแนว
ในยุค 70 คือ กางเกงขาม้าสีขาว กับเสื้อสีโทนร้อน เช่น สีแดง ส้ม เป็นต้น
3.6.2 การแสดงชุดที่ 2
เนื่ องจากชุดการแสดงนี้เป็นเพลง Nu-Disco การแต่งกายในช่ว งนี้จึงออกไปในแนว
สมัยใหม่ขึ้น คือจะใส่สูทสีดา เชิ๊ตขาว ในการบรรเลง ส่วนนักร้องก็จะใส่ชุดออกแนวสมัยใหม่ขึ้น
3.6.3 การแสดงชุดที่ 3
เนื่องจากชุดการแสดงนี้มีชื่อชุดว่า “Hip to the Groove” เป็นการแสดงกลอง ผู้เล่นจะ
แต่งกายลักษณะคล้ายหุ่นยนต์ เพื่อให้ได้บรรยาศของดิสโก้ในยุคสมัยใหม่ขึ้น
3.6.4 การแสดงชุดที่ 4
เนื่องจากชุดการแสดงนี้คือการอเร้นท์เพลงลูกทุ่ง การแต่งกายจึงออกไปในแนวทางร่วม
สมัย คือ มีโทนสีที่แตกต่างกันเพื่อจะได้มีความหลากหลาย
3.6.5 การแสดงชุดที่ 5
เนื่องจากชุดการแสดงนี้เป็นการนาเพลงดิสโก้มาทาเป็นเมดเลย์ ซึ่งอเรนทจ์สาหรับวงบิก
แบนด์ โดยเครื่องแต่งกายทางฝั่งริทึ่มจะใส่ชุดสูท และฝั่งเครื่องเป่า การแต่งกายคือเชิ้ตสีขาวและ
หูกระต่าย และกางเกงสแล็กสีดา
3.7 การเงิน
งบประมาณทั้งหมดได
้รับมาจากหลายส
้วนและหลายหน
้วยงาน ้นได
เช ้รับจาก คณะศิลปกรรม
ศาสตร
้,สนับสนุนจากสปอนเซอร
้,เงิน้นทุ
ต นของคณะผู
้จัดทาโครงการ เงิน้นทุ
ต นของคณะผู
้จัดทาโครงการ
นั้น้เก็
ได บรวบรวมรายบุคคลจากสมาชิกในคณะผู
้จัดทาโครงการ
80
งานสนับสนุนจากคณะศิลปกรรมศาสตร
้
20,000 20,000
มหาวิทยาลัยขอนแก
้น
เงิน้นทุ
ต นของคณะผู
้จัดโครงการ 82,000 102,000
เงินสนับสนุนจากสปอนเซอร
์ที่สนับสนุนโครงการ
- หจก.ชัยสถิตวิทยา 3,000
- ตี้กระเพาะปลา
๋ไฮ ้วยเตี
ก ๋ยวเส
้นปลา 500
-้านไชยยั
ร ณ้โลหะ
ต 3,000
- หจก.จ
้อก้อฟาร
้มร้อยเอ็ด 2,000
- โรงแรมเพชรรัต้การ
น ้เด
้นท
้ร
้อยเอ็ด 1,000
- ภัตราคารอ
้วนสมบูร้
ณ 1,500
-้อสนั
พ ่นลาบก
้อย 1,000
- U - Bar ขอนแก
้น 2,000
- โรงเรียนคริสเตียนมารี้พร
ย 1,500
- โรงเรียนท็อปซายน
้ สาขาขอนแก
้น 3,000
81
- ทีรภัทรค
้าผ้า 1,000
- โรงเรียนพุฒิชัยวิทยส 2,000
- สหกรณ
้ออมทรัพ้ครู
ย ขอนแก
้น จากัด 3,000
- หมุ
้บ
้านเมืองเอก แกรนด
้วิล้ล ขอนแก
้น 3,000
- สยามวานิช้ย 500
- คีตศิล้ป 3,000
- ลาบเบีย้ล
ร าซิ่ง 1,000
- ้นลาบก
โจ ้อย 1,000
รายจ
้าย จานวนเงิน (บาท) คงเหลือ
82
์าอาหารและเครื
ค ่องดื่มตลอดการซ
์อมและการแสดง
โครงการ
รายจ
์าย์าอาหาร
ค การจัดการแสดง
- 4/4/61้าอาหาร
ค 900
900
- 16/4/61 ขนม 700
700
- 18/4/61้าวห
ข ้อสุโขทัย 60้อ
ห ้อละ
ห 20 บาท
1,300
น้าหวาน 2 ขวด ขวดละ 40 บาท น้าแข็ง 20 บาท
- 19/4/61้าวห
ข ้อสุโขทัย 60้อ
ห ้อละ
ห 20 บาท
น้าหวาน 2 ขวด ขวดละ 40 บาท น้าแข็ง 20 บาท 1,300
- 20/4/61 ้าอาหาร
ค 1200
้าเช
ค ้าโรงละคร ในส
้วนทางคณะผู
้จัดทาโครงการได
้ใช
้เงิน 145,200
งานสนับสนุนจากคณะศิลปกรรมศาสตร
้ 20,000
มหาวิทยาลัยขอนแก
้น ในการจ
้าย
้าไฟบี
ค ม 1,000
้าจอ
ค LED 18,000
้าวิ
ค ดีโอ 15,000
83
้าไมค
ค ้ wireless 6,000
้าไวนิ
ค ล 5,200
้าเอกสาร
ค 4,000
้าจ
ค้างออกแบบ 5,000
้าน้
ค ามันรถ 300
้าชุ
ค ดในวันแสดง วันที่ 24/4/61 เสื้อ Staff และค
้าสกรีน 31,120
้าสู
ค จิบัตร 10,000
้าฐานยกระดั
ค บความสูง 5,000
้าเช
ค ้าโรงละคร 5 วัน 25,000
้าวิ
ค ศวกรเสียง 5,000
นักแสดงรับเชิญ 7,000
้าดิ
ค ส้บอล
โก 1,500
้าสิ
ค ่งของต
้าง ๆ ภายในงาน 4000
3.8 วิธีการวางแผนซ้อม
แผนการซ้อมมีวิธีการจัดตารางโดยดูจากสมาชิกในวงที่เล่น เลือกวันเวลาที่ว่างตรงกัน เพื่อให้การ
ซ้อมมีประสิทธิภาพมากที่สุด จึงสรุปตารางซ้อมได้ดังนี้
วัน
อังคาร
พฤหัสบดี
3.9 วิธีการประชาสัมพันธ์และติดต่อขอเงินสนับสนุน
3.9.1 วิธีการดาเนินงานในการหาผู้สนับสนุน
- จากผู้ปกครอง
- จากการแนะนาของบุคคลทั่วไป
- จากสถานที่ที่ขอประจาทุกปี
- จากเครือข่ายของครอบครัว
- จากบริษัท ห้างร้าน ที่รู้จัก
85
3.9.2 ขั้นตอนในการติดต่อผู้สนับสนุน
- ทาหนังสือของบประมาณสนับสนุนจากทางคณะ
- แนบหนังสือแจกแจงรายละเอียดการให้เงินสนับสนุน
- เข้าไปติดต่อตามสถานที่ ที่ต้องการของบประมาณสนับสนุนโดยมีการแนบรายละเอียด
3.9.3 การประชาสัมพันธ์นั้น มีการประชาสัมพันธ์ในหลากหลายช่องทาง ได้แก่
1. การติดโปสเตอร์ประกาศตามสถานที่ในมหาวิทยาลัย เช่น บริเวณศูนย์อาหารและ
บริการ 1 (คอมเพล็ค) ตามคณะต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย เป็นต้น
2. การติดป้ายไวนิลโฆษณางานภายในมหาวิทยาลัย ได้แก่ บริเวณวงเวียนปั๊มน้ามันใน
มหาวิทยาลั ย บริเวณหน้าคณะศิล ปกรรมศาสตร์ และสามแยกศูน ย์ อาหารและ
บริการ 2 (โรงชาย)
3. การทาวิดีโอโปรโมทงาน
4. การแสดงดนตรี ณ ตลาดต้นตาลเพื่อประชาสัมพันธ์นอกสถานที่
5. การแสดงดนตรี ใ นงาน Art lane ครั้ ง ที่ 15 เพื่ อ ประชาสั ม พั น ธ์ ง านในบริ เ วณ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
3.10 ลาดับการแสดง
86
87
88
89
90
91
92
93
บทที่ 4
อรรถาธิบายบทเพลง
ในการวิเคราะห์บทประพันธ์ครั้งนี้จะมีการวิเคราะห์ในส่วนของกุญแจเสียง จังหวะ
คอร์ด ทางเดินคอร์ด ระดับเสียงต่าง ๆ สังคีตลักษณ์ และเทคนิคในการบรรเลง ซึ่งมีแบบแผน
ของการวิเคราะห์มาจากวิธีของโจนาธาน เจมส์ (Jonathan James)
4.1 Everybody Dance – Chic
4.1.1 อรรถาธิบาย
เพลง Everybody Dance อยู่ในกุญแจเสียง อี แฟล็ต เมเจอร์ ใช้เครื่องหมายประจา
จังหวะ 4/4 อัตราความเร็ว 130 bpm สังคีตลักษณ์อยู่ในรูป AABA บรรเลงในรูปแบบของวง
คอมโบ (Combo) ทานองในท่อนอินโทร (Intro) ห้องแรกใน 2 จังหวะแรกใช้กลองชุด (Drum
kit) บรรเลงด้วยโน้ตเขบ็ตหนึ่งชั้นและตัวดาขึ้นมาถึงจังหวะที่ 1 ถัดมาในตอน A กลุ่มเครื่องลม
ทองเหลือง (Brass section) และกลุ่มเครื่องลมไม้ (Woodwind section) บรรเลงด้วยโมทีฟ
(motive) เดียวกัน (ดังภาพตัวอย่าง)
95
แบบที่ 2 i – VII – i – iv
กลุ่มเครื่องลมบรรเลงประสานทานองและกลุ่มเครื่องประกอบจังหวะบรรเลงทานองด้วยกระสวนจังหวะ
เดียวกันจากห้องที่ 10–14 (ดังภาพด้านล่าง)
97
ตอน C กีตาร์ไฟฟ้าบรรเลงยูนิซันพร้อมกับกลุ่มเครื่องลม
101
ท่อน A กีตาร์และเบสบรรเลงจังหวะเป็นเขบ็ตหนึ่งชั้นแต่จะบรรเลงโน้ตที่เป็นค่าตัวดาที่
จังหวะ 4 ยก ประกอบด้วยโน้ต C G Eb F Bb ซึ่งอยู่ในบันไดเสียง ซี ไมเนอร์
ทางด้านกลุ่มเครื่องประกอบจังหวะจะมีรูปแบบจังหวะเป็นดิสโก้ เบสดรัมจะบรรเลงเป็น
ค่าโน้ตตัวดา กลองสแนร์ตีที่จังหวะ 2 และ 4 ไฮแฮทจะบรรเลงเป็นจังหวะยกสลับกับเบสดรัม
104
ท่อน B นักร้องหลักและนักร้องประสานเสียงจะร้องสลับกันโดยนักร้องประสานเสียงจะร้อง
ก่อนในจังหวะที่ 4 ยก และนักร้องหลักจะร้องในห้องถัดไป
ด้านล่าง)
4.6 That’s the way (I like it) - KC & The Sunshine Band
4.6.1 อรรถาธิบาย
เพลง That’s the way (I like it) อยู่ในกุญแจเสียง ซี ไมเนอร์ ใช้เครื่องหมายประจา
จังหวะ 4/4 อัตราความเร็ว 110 สังคีตลักษณ์อยู่ในรูป ABAB บรรเลงในรูปแบบของวงคอมโบ
(Combo) ทางด้ า นโครงสร้ า งของเพลง That’s the way (I like it) จะประกอบด้ ว ยคอร์ ด
จานวนสองคอร์ดคือ Fm และ Cm ซึ่งมีทางเดินคอร์ดได้แก่ iv – i หรือคอร์ดที่ 4 ของกุญแจเสียง
ซี ไมเนอร์ไปคอร์ดที่ 1 โดยใช้หนึ่งคอร์ดต่อหนึ่งท่อน บรรเลงวนซ้าท่อนไปมาระหว่างท่อน A
และ B
ในท่อนแรกใช้ทางเดินคอร์ดคือ Fm มีทานองหลักอยู่ที่นักร้อง กลุ่มเครื่องลม เบส และมี
ทานองประสานคือ กลุ่มนักร้องประสานเสียงโดยร้องประสานเป็นขั้นคู่ 3 ไมเนอร์ ของทานอง
หลัก
ทางด้านเครื่องคอร์ด กีตาร์จะบรรเลงเป็นโน้ตเขบ็ตสองชั้นในทุกสองห้องและเปียโนจะ
บรรเลงคอร์ดโดยมีจังหวะที่เหมือนกับทานองหลัก ซึ่งจะบรรเลงโดยคอร์ด Fm จนจบท่อน
116
ในท่อนอินโทรกลุ่มเครื่องลมและกลุ่มเครื่องประกอบจังหวะบรรเลงประสานทานอง
หลัก (ดังภาพตัวอย่างด้านล่าง)
ในท่อนอินโทรกีตาร์ไฟฟ้าและซินธิไซเซอร์เล่นแพทเทินเดียวกันและพร้อมกัน โดยกีตาร์ไฟฟ้าเริ่ม
เล่นก่อน 4 ห้อง จากนั้นตามด้วยซินธิไซเซอร์อีก 4 ห้อง เป็นแพทเทินในโน้ตเขบ็ต 2 ชั้นจากการกระจาย
โน้ตในคอร์ดและการพลิกกลับในคอร์ด (ดังภาพตัวอย่าง)
ตัวอย่างโน้ตซินธิไซเซอร์
ตัวอย่างโน้ตกีตาร์ไฟฟ้า
132
เพลง (Don't) Give Hate A Chance ของศิ ล ปิ น Jamiroquai อยู่ ใ นกุ ญ แจเสี ย ง F#m ใช้
เครื่องหมายประจาจังหวะ 4/4 อัตราความเร็วอยู่ที่ 126 BPM สังคีตลักษณ์อยู่ในรูป ABABC บรรเลงใน
รูปแบบของวงสตริงคอมโบ ในช่วงอินโทรห้องที่ 1 ถึง 4 ออคตาแพททาหน้าที่เล่นแพทเทิน Funk จากนั้น
กลองชุดส่งในห้องที่ 4 จังหวะ 4 ยก สู่ท่อน A
ถัดมาในห้องที่ 10 ทานองหลักของบทเพลงอยู่ที่นักร้องหลักโดยมีทางเดินคอร์ดดังนี้
142
และเปลี่ยนกุญแจเสียงครั้งสุดท้ายเปลี่ยนเป็นคีย์ Db ในห้องที่ 99
เบสกีตาร์บรรเลงพร้อมสัดส่วนของนักร้อง จากนั้นบรรเลงตามแพทเทินของเพลงดังรูป
และจะเริ่มเล่นเป็นโน้ตคู่ 8 ในท่อนพรีฮุคและท่อนฮุคหรือท่อนคอรัส
4.16.1 อรรถาธิบาย
ในช่วงแรกนั้นได้มีการกาหนดสัดส่วนโน้ตของสแนร์ให้อยู่ในส่วนของเขบ็ตสองชั้น ซึ่งจะมีการเน้น
จังหวะในแต่ละห้องที่แตกต่างกันไป ตามทานองของเพลงที่เปิดบรรเลงในการแสดง (ดังภาพตัวอย่าง
ด้านล่าง)
มีการใช้เทคนิคดูดิเม้นสติกคอนโทนเข้ามา โดยมีการเขียนมือไว้บอกว่าตีมีข้างซ้ายหรอข้าง
ขวา (ดังภาพตัวอย่างด้านล่าง)
149
ในบาท่อนฟอร์ทอมนั้นจะให้เล่นขอบกลอง คือตีไปที่ขอบกลองเพื่องสร้างเสียงที่แตกต่าง
และสั้นกว่าเดิม (ดังภาพตัวอย่างด้านล่าง)
ทางเดินคอร์ดคือ vi – V – vi – vi – V – vi (ดังภาพตัวอย่างด้านล่าง)
กลุ่มเครื่องให้จังหวะยังคงบรรเลงด้วยกระสวนจังหวะเดิมจากท่อนอินโทร (ดังภาพตัวอย่างหน้า
ถัดไป)
กีตาร์ไฟฟ้าใช้วิธีเล่นแบบตีคอร์ดตามรูปแบบที่มีการกาหนดไว้อย่างชัดเจน ประกอบไปด้วยคอร์ด
vi (Gm) V (F) และมีการบรรเลงโน้ต ในคีย์ บี แฟล็ต ไมเนอร์ สเกล
155
ต่อมาทานองหลักอยู่ที่เบสไฟฟ้า(ดังภาพตัวอย่างด้านล่าง)
กีตาร์ไฟฟ้าบรรเลงด้วยโน้ตเขบ็ตสองชั้นเป็นทานองวนไปมา (ดังภาพตัวอย่างด้านล่าง)
แบบที่ 2 I-I-V-I
160
กลุ่มเครื่องลมบรรเลงประสานทานองหลักด้วยกระสวนจังหวะเดียวกัน (ดังภาพตัวอย่างด้านล่าง)
ทางเดินคอร์ดคือ I – ii – V – I – I – vii – V - V
162
ต่อมากลุ่มเครื่องลมบรรเลงประสานทานองโดยเป็นกระสวนจังหวะเดียวกันโดยเทเนอร์
แซ็กโซโฟนบรรเลงประสานด้วยคู่สาม (ดังภาพตัวอย่างด้านล่าง)
165
ทางเดินคอร์ดคือ i – vi – i – V (Cm – Fm – Cm - G)
175
ต่อมากลุ่มเครื่องลมบรรเลงทานองหลักเป็นกระสวนจังหวะเดียวกันทั้งหมด
180
ตอน G กลุ่มเครื่องลมบรรเลงรองรับกับทานองหลักที่อยู่ในคาร้อง(ดังภาพตัวอย่างหน้าถัดไป)
182
183
ตอน K กลุ่มเครื่องอัลโต้แซกโซโฟนและกลุ่มเครื่องทรอมโบนบรรเลงทานองประสานกับทานองหลัก
187
ทางเดินคอร์ดคือ I – Vi -IV -V (C – Am – F - G )
ในแต่ ล ะคอร์ ด ของเพลงจะใช้ ก ารซ้ าโน้ ต โดยมี ก ารเดิ น เบสเป็ น โน้ ต เขบ็ ต 1ชั้ น เป็ น คู่ แ ปด
(Octave) ตามจั งหวะของกลอง เป็นส่ ว นใหญ่ และมีการเล่ นแบบครึ่งเสี ยงเป็นคู่แปด(Chromatic &
Octave)เพื่อเป็ น การส่ งไปยั งคอร์ ดต่อไปในท่อนฮุก (Chorus) และใช้จังหวะที่กระชับเพื่อให้ มีความ
เหมาะสมกับรูปแบบเพลงดิสโก้
ในท่อนอินโทร จะมีพาสแซกโซโฟนบรรเลงขึ้นมาก่อนและมีพาสทรอมโบนบรรเลงลาก
ยาวเพื่อเป็นการรองรับกับพาสแซกโซโฟน และทรัมเป็ตเข้ามารับในช่วงของทานอง (ดังภาพ
ตัวอย่างด้านล่าง)
ในแต่ ล ะคอร์ ด ของเพลงจะใช้ ก ารซ้ าโน้ ต โดยมี ก ารเดิ น เบสเป็ น โน้ ต เขบ็ ต 1ชั้ น เป็ น คู่ แ ปด
(Octave) ตามจั งหวะของกลอง เป็นส่ ว นใหญ่ และมีการเล่ นแบบครึ่งเสี ยงเป็นคู่แปด(Chromatic &
Octave)เพื่อเป็ น การส่ งไปยั งคอร์ ดต่อไปในท่อนฮุก (Chorus) และใช้จังหวะที่กระชับเพื่อให้ มีความ
เหมาะสมกับรูปแบบเพลงดิสโก้
197
ในห้องที่ 26 เครื่องลมบรรเลงเป็นโมทีฟเดียวกันจากนั้นบรรเลงเป็นตัวกลมและตามด้วย
โมทีฟตามภาพ เพื่อส่งเข้าท่อนร้อง
202
ในท่อน G ทานองหลักจะอยู่ที่พาสแซกโซโฟนและในพาสทรัมเป็ตและพาสทรอมโบนจะบรรเลง
เป็นโมทีฟเดียวกันเพื่อเป็นการล้อทานองหลัก (ดังภาพตัวอย่างหน้าถัดไป)
204
5.1 ผลการดาเนินโครงการ
โครงการจัดการแสดงดนตรี Music Project # 16 ของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์
สาขาดุริยางคศิลป์ แขนงวิชาดนตรีตะวันตก ประจาปีการศึกษา 2560 เมื่อวันที่ 20 และ วันที่ 24 เมษายน
พ.ศ. 2561 ณ โรงละครคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
1. เพื่อพัฒนาศักยภาพการแสดงดนตรีของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาดุริยางคศิลป์ แขนงวิชา
ดนตรีตะวันตก
2. เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกกระบวนการบริหารจัดการในการจัดการแสดงดนตรี
3. เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และศิลปวัฒนธรรมด้านดนตรีตะวันตกสู่สาธารณะชน
4. เพื่อให้นักศึกษาได้ประสบการณ์การทางานร่วมกับบุคลากร และหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ
และเอกชน
ผลจากการเก็บข้อมูลจากแบบประเมิน
ผู้ตอบแบบประเมินมีจานวนทั้งสิ้น 70 คน เป็นเพศชาย จานวน 36 คน (คิดเป็นร้อยละ 51.42)
และเป็นเพศหญิง จานวน 34 คน (คิดเป็นร้อยละ 48.57) สถานภาพนักศึกษา จานวน 54 คน (คิดเป็น
ร้อยละ 77.14) รองลงมาเป็นอื่น ๆ (ผู้ปกครอง, บุคคลภายนอก) จานวน 12 คน (คิดเป็นร้อยละ 17.14)
และอาจารย์หรือบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย จานวน 4 คน (คิดเป็นร้อยละ 5.71) รายละเอียดดังตาราง
ที่ 1
206
ตารางที่ 1
ข้อมูลทั่วไป จานวน ร้อยละ
ชาย 36 51.42
เพศ
หญิง 34 48.57
รวม 70 100
นักศึกษา 54 77.14
รวม 70 100
ตารางที่ 2
10 สถานที่จอดรถมีความเหมาะสมเพียงพอ 3.85 ดี
208
หลักเกณฑ์คะแนนที่ใช้ในการประเมินผล
โดยเฉลี่ยทุกรายการคาถามเป็นแบบมาตราประมาณค่า ( Likert Scale )
ค่าเฉลี่ยระหว่าง 4.21 – 5.00 อยู่ในเกณฑ์ ดีมาก
ซึ่งจากการสรุปผลของการแสดงในครั้งออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก แต่ก็ยังคงมีปัญหาในเรื่องของ
สถานที่จอดรถี่ความเหมาะสมเพียงพอที่ออกมาอยู่ในเกณฑ์ดีเพียงเท่านั้น ซึ่งการจัดการแสดงในครั้งต่อไป
ควรนาไปปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
5.2 สรุปผลการทากิจกรรม
5.2.1 นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ได้ใช้ความรู้ที่ศึกษาหาความรู้มาตลอด 4 ปี มาใช้อย่างเต็มที่เช่น การ
เขียนเรียบเรียงเพลงใหม่โดยการใช้ความรู้ทางทฤษฎีดนตรีอย่างเต็มที่ แสดงทักษะความสามารถทางด้าน
ดนตรีของตัวเองอย่างเต็มที่ แสดงศักยภาพด้านการทางานเป็ นอย่างดีเยี่ยมอีกทั้งมอบความสุขให้ กับผู้
ที่มาชมการแสดงคอนเสิร์ตในงานได้อีกด้วย
5.2.2 ได้เผยแพร่บทเพลงบรรเลงดิสโก้ในยุค 70-80 บทเพลงดิสโก้ในยุคสมัยปัจจุบัน การนาบท
เพลงดิสโก้ในยุคสมัยเก่ามาเรียบเรียงใหม่ให้อยู่ในรูปแบบของการบรรเลงในวงบิกแบนด์ และการนาบท
เพลงลูกทุ่งอมตะมาเรียบเรียงใหม่ให้อยู่ในรูปแบบดนตรีดิสโก้ เพื่อเป็นการนาเสนอบทเพลงและความ
แตกต่างของดนตรีดิสโก้ในแต่ละยุคสมัยจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
209
5.3 ปัญหาและข้อเสนอแนะในการจัดโครงการ
5.3.1 ปัญหาการประชาสัมพันธ์และการออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์
- ประชาสัมพันธ์ล่าช้า
- ประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึงแก่กลุ่มเป้าหมายหลัก
- การประชาสัมพันธ์ไม่สม่าเสมอ
- การติดตามงานจากผู้ออกแบบเป็นไปได้ล่าช้า ส่งผลให้ระยะเวลาในการประชาสัมพันธ์
ลดน้อยลง จึงไม่เป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้
- การประชาสัมพันธ์ทางไวนิลมีระยะเวลาในการประชาสัมพันธ์น้อย เนื่องจาก
ข้อกาหนดของทางมหาวิทยาลัยที่ให้ติดได้ในระยะเวลา 15 วันนับจากวันจัดงานย้อนกลับมา
- มีการตรวจสอบงานไม่รอบคอบทาให้ข้อมูลผิดพลาด
- มีการเข้าปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาน้อยในการตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสมของ
สื่อประชาสัมพันธ์
- สูจิบัตรขาดข้อมูลบางส่วน
ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหา
- ควรมีการวางแผนการประชาสัมพันธ์ให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น เช่น การประชาสัมพันธ์
ผ่ า นเว็ บ ไซต์ ม หาวิ ท ยาลั ย หรื อ เว็ บ ไซต์ ค ณะศิ ล ปกรรมศาสตร์ การประชาสั ม พั น ธ์ ผ่ า นจอ
ประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย หรือการส่งเสียงโฆษณาผ่านวิทยุของมหาวิทยาลัย เป็นต้น
- ควรเน้นประชาสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ นักศึกษาในมหาวิทยาลัย
- ควรมีผู้ควรติดตามข่าวสารว่าการประชาสัมพันธ์ยังส่งไปไม่ทั่วถึงกลุ่มเป้าหมายรองอื่น
ๆ
- ควรมีการเข้าปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาเรื่องความถูกต้องและเหมาะสมของสื่อ
ประชาสัมพันธ์บ่อยยิ่งขึ้น
- ควรมีผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบสื่อต่าง ๆ อย่างน้อย 3 คน เพื่อความรอบคอบและ
ป้องกันความผิดพลาดของข้อมูล
210
- ควรมีการประสานงานล่วงหน้ากับฝ่ายออกแบบเพื่อให้งานออกแบบเสร็จตาม
กาหนดเวลา
- ควรวางแผนระยะเวลาให้ดี เพื่อหากเกิดข้อผิดพลาดกับสื่อประชาสัมพันธ์จะได้
สามารถแก้ไขได้ทัน
5.3.2 ปัญหาด้านสถานที่
- จานวน Staff ที่ทาหน้าที่ดูแลที่จอดรถไม่เพียงพอ
- ไม่มี Staff คอยให้คาแนะนาทางผู้เข้าร่วมกิจกรรมในเส้นทางภายในสถานที่จัดงาน
ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหา
- ควรมีการประชุมและพูดคุยกับ Staff ที่ทาหน้าที่ควบคุมดูแลที่จอดรถให้ชัดเจนใน
หน้าที่ที่ต้องทา
- ควรมีการขอความช่วยเหลือจากนักศึกษาสาขาอื่นให้มาช่วยเป็น Staff
- ควรวางแผนฉากเวที ใ ห้ ร อบคอบ มี ค วามพร้ อ มและแข็ ง แรงมากพอที่ จ ะไม่ เ กิ ด
ข้อผิดพลาดก่อนการแสดง หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นควรมีฝ่าย Staff ที่คอยรับผิดชอบ
- ควรมี Staff ในการแนะนาเส้นทางในสถานที่จัดงาน
5.3.3 ปัญหาในการซ้อมและการประชุม
- การมาซ้อมช้า และการมาประชุมช้า
- การขาดหรือลาซ้อมและประชุมบ่อย
- การไม่เตรียมตัวก่อนมาซ้อม หรือไม่รับผิดชอบแก้ไขในส่วนที่ตนต้องรับผิดชอบ
- การประชุมไม่ครอบคลุมแต่ละฝ่ายงาน จึงไม่ทราบความคืบหน้าของงานฝ่ายหนึ่งฝ่าย
ใดในบางครั้ง
- เวลาว่างของนักดนตรีรับเชิญมีน้อยในการมาซ้อมร่วมกับนักดนตรีหลัก
- การซ้อมแบบเต็มวง มีเวลาน้อยเพราะเวลาว่างของนักดนตรีไม่ตรงกัน
ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหา
- ควรมีการสร้างข้อตกลง และบทลงโทษในการมาซ้อมและประชุมช้า
211
- ควรมีการทาความเข้าใจและให้ความสาคัญกับงานมากกว่าเรื่องส่วนตัวบางอย่างใน
การมาซ้อมและประชุม เพื่อลดการขาดซ้อมหรือขาดประชุม
- นักดนตรีควรมีความรับผิดชอบในการแกะเพลงในส่วนของตนเองเพื่อที่เวลาซ้อมจะได้
มีความคืบหน้า
- การมีนักดนตรีรับเชิญควรตรวจสอบความพร้อมของเวลาว่างในการซ้อมอย่างมาก
เพื่อให้มีเวลาซ้อมที่เพียงพอ
- ควรจัดตารางซ้อมให้มีเวลาซ้อมที่เต็มวงมากขึ้น เพื่อให้บทเพลงออกมาสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ในวันแสดง
5.3.4 ปัญหาฝ่ายเอกสารวิชาการ
- การติดตามงานภายในชั้นปีไม่เป็นไปตามกาหนด
- ปัญหาของการใช้คาและการตัดต่อรูปภาพที่ไม่เหมือนกันทาให้ขาดความเรียบร้อย
- เอกสารที่ใช้ติดต่อต่าง ๆ เป็นไปด้วยความล่าช้าเนื่องจากระบบภายในสานักงานและ
ภาระงานต่าง ๆ
ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหา
- ควรมีการติดตามทวงงานให้มากขึ้น
- นักศึกษาภายในชั้นปีควรให้ความสาคัญของการทาเล่มให้มากขึ้น
- ควรเข้าไปตามงานเอกสารที่สานักงานคณบดีให้บ่อยขึ้น
5.3.5 ปัญหาฝ่ายการเงิน
- การเก็บเงินในรุ่นมีความล่าช้า และไม่ตรงตามวันที่กาหนดไว้ จึงทาให้ได้จ่ายเงินเป็น
ก้อนและทาให้บางคนไม่มีเงินสาหรับจ่ายเป็นก้อนอีกด้วย
- การหาสปอนเซอร์ล่าช้า เนื่องจากยังไม่ได้มีการกาหนดวันแสดงที่แน่นอน จึงทาให้
เขียนหนังสือทาเรื่องส่งถึงสปอนเซอร์ไม่ได้ เพราะการเขียนถึงสปอนเซอร์นั้นจะต้องระบุวันที่จัด
แสดงให้ชัดเจน
212
- งบประมาณของฝ่ายจัดการชุดสาหรับใช้ในการแสดงเกินมาจากที่กาหนดไว้ จึงทาให้
ต้องมีการนาเงินส่วนตัวมาใช้จ่ายแทน
- การซื้อของแล้วไม่มีใบเสร็จ จึงทาให้มีการคานวณเงินมีความล่าช้าเนื่องจากต้องตามว่า
ซื้ออะไรมาบ้างที่ไม่ได้ใบเสร็จมา
- ขาดการวางแผนงานของการใข้งบประมาณในแต่ละฝ่าย
- ขาดการสารองเงินเผื่อการใช้ในการซื้อสิ่งขอวเบ็ดเตล็ดที่จาเป็นต่อการจัดงาน
ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหา
- ฝ่ายการเงินควรมีความเด็ดขาดในการจัดการเก็บเงิน
- ทุกฝ่ายควรปรึกษาหากันหาวันที่แน่ชัดและแน่นอนในการจัดงาน
เพื่อที่จะสามารถเขียนหนังสือให้ปอนเซอร์ได้อย่างรวดเร็ว
- ในการซื้อของทุกครั้งควรมีใบเสร็จติดมือมาด้วยเพื่อที่จะได้นามาเป็นข้อมูลในการใช้
จ่าย
- แต่ละฝ่ายควรประขุมวางแผนการใช้งบประมาณ
- ควรมีการสารองเงินเผื่อใข้ซื้อของในยามจาเป็น
5.3.6 ปัญหาฝ่ายการจัดการแสดง
- การร่วมมือของนักศึกษาชั้นปีที่ 1-4 ค่อนข้างจะไม่เต็มที่เท่าที่ควร ว่าด้วยเรื่องการไม่
มาซ้อมในวันที่กาหนดไว้ และขอความร่วมมือในการช่วยเหลือค่อนข้างยาก
- การติดตั้งจอ LED มีความล่าช้า จึงทาให้มีการซ้อมกับ Out Broadcasting ได้น้อยลง
- พิธีกรยังมีปัญหาในเรื่องของการอ่านภาษาอังกฤษผิด
- มีการเปิดประตูเข้าออกภายในโรงละคร จึงทาให้นักดนตรีเสียสมาธิขณะทาการแสดง
- ปัญหาในเรื่องของอุปกรณ์ส่งสัญญาณไร้สายของเครื่องดนตรีที่ในบางช่วงสัญญาณขาด
หายไป
- ถ่านที่นามาใช้ในไมค์ไร้สายมีคุณภาพไม่เพียงพอทาให้แบตเตอร์รี่หมดอย่างรวดเร็ว
213
ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหา
- ควรพูดถึงความสาคัญของงานให้เพื่อนได้รู้และควรพูดให้มีความตระหนักในงานของ
สาขาวิชา
- ควรมีการกาหนดเวลาปิดรับผู้ชมเข้าไปภายในโรงละคร เพื่อไม่ให้ไปรบกวนนักดนตรี
ขณะทาการแสดง
- ควรมีการติวและทบทวนสคริปท์กับพิธีกร หรือเปลี่ยนจากการเขียนภาษาอังกฤษให้
เป็นคาอ่านในภาษาไทย เพื่อความแน่นอนว่าพิธีกรจะไม่อ่านผิดในวันแสดงจริง
- ควรมีการตรวจเช็คอุปกรณ์ให้แน่นอนก่อนการแสดงว่าจะไม่เกิดปัญหา
- ควรมีการใช้ถ่านที่ได้คุณภาพและมีการสารองถ่านที่จะใช้ไว้เยอะ ๆ
บรรณนุกรม
Peter Shapiro (2015). Turn the Beat Around: The Secret History of Disco. Farrar, Straus
and Giroux
Chic (band). (2561, 25 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561.
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Chic_(band),
Everybody Dance. (2561, 26 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561.
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Everybody_Dance_(Chic_song)
Boney M. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Boney_M
Rasputin (song). (2561, 20 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Rasputin_(song)
The Tramps. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/The_Trammps
Disco Inferno. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Disco_Inferno
Bee Gees. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/ee_Gees
Night Fever. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Night_Fever
ABBA. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/ABBA
Dancing Queen. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Dancing_Queen
KC & the Sunshine Band. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/KC_and_the_Sunshine_Band
215
That’s the Way (I like it). (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/That%27s_the_Way_(I_Like_It)
Earth, Wind & Fire. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Earth,_Wind_%26_Fire
Getaway (Earth, Wind & Fire song). (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Getaway_(Earth,_Wind_%26_Fire_song)
Daft Punk. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Daft_Punk
Lose Yourself to Dance. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Lose_Yourself_to_Dance
One More time (Daft Punk song). (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/One_More_Time_(Daft_Punk_song)
Get Lucky (Daft Punk song). (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Get_Lucky_(Daft_Punk_song)
Jamiroquai. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Jamiroquai
(Don’t) Give Hate a Chance. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/(Don%27t)_Give_Hate_a_Chance
Coldplay. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Coldplay
Adventure of a Life Time. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Adventure_of_a_Lifetime
The Weeknd. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/The_Weeknd
I Feel It Coming. (2561, 17 เมษายน). ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2561
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/I_Feel_It_Coming
216
....................................... …………………………………
(ดร.พรพรรณ แก่นอาพรพันธ์) (นายกฤษณพงศ์ จาปามูล)
อาจารย์ที่ปรึกษา ประธานโครงการ
บันทึกข้อความ
(นายกฤษณพงศ์ จาปามูล)
ประธานโครงการ
บันทึกข้อความ
ส่วนราชการ สโมสรนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ โทร.088-5636621
ที่ สศก....../61 วันที่ 27 มีนาคม 2561
เรื่อง ขอสารเพื่อตีพิมพ์ในสูจิบัตร
เรียน
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา จักขอบคุณยิ่ง
(นายกฤษณพงศ์ จาปามูล)
ประธานโครงการ
บันทึกข้อความ
ส่วนราชการ สโมสรนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ โทร. 088-5636621
ที่ สศก. 2561/พิเศษ วันที่ 18 เมษายน 2561
เรื่อง ขอเชิญเป็นประธานในพิธีเปิดการแสดง Music Project #16
เรียน คณาจารย์คณะศิลปกรรมศาสตร์
(นายกฤษณพงศ์ จาปามูล)
ประธานโครงการ
บันทึกข้อความ
ส่วนราชการ สโมสรนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ โทร. 088-5636621
ที่ สศก /2561 วันที่ 27 มีนาคม 2561
เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ติดป้ายโฆษณา
เรียน คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความอนุเคราะห์และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
(นายกฤษณพงศ์ จาปามูล)
ประธานโครงการ
บันทึกข้อความ
ส่วนราชการ สโมสรนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ โทร. 088-5636621
ที่ สศก /2561 วันที่ 17 เมษายน 2561
เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ใช้สถานที่
เรียน คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
(นายมตรส สืบโมรา)
ผู้ประสานงาน
รายละเอียดการใช้สถานที่
โทรศัพท์/โทรสาร.043 202396
หนังสือขอบคุณผู้สนับสนุน
โครงการ Western Music Festival #16 ประจาปีการศึกษา 2561
เรื่อง ขอขอบพระคุณ
เรียน (รายนามผู้สนับสนุน)
บั ด นี้ คณะผู้ จั ด ท าโครงการ ได้ รั บ เงิ น จ านวนดั ง กล่ า วเรี ย บร้ อ ยแล้ ว จึ ง
ขอขอบพระคุณในความอนุเคราะห์ของท่านเป็นอย่างยิ่ง และหวังว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากท่าน
อีกในโอกาสต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
(นายกฤษณพงศ์ จาปามูล)
ประธานโครงการ
ติดต่อผู้รับเงินสนับสนุน
โทร 088-5636621
เอกสารแนบไปควบคู่กับการของบสนับสนุน
รายละเอียดเงิน Sponsor
โฆษณา
เงิน
ป้ายทางเข้า ป้ายทางเข้า
สนับสนุน ลง ลง VDO ลง VDO ขึ้น
โรงละคร โรงละคร
(บาท) สูจิบัตร (ขนาดเล็ก) (ขนาดใหญ่) ป้ายไวนิล
(ขนาดเล็ก) (ขนาดใหญ่)
500
1000
1500
2000
3000
ขึ้นไป
สนับสนุน
อุปกรณ์
สาหรับ
ใช้ในการ
แสดง
ลงชื่อ..............................................................
(..............................................................)
วันที่......./......./.......
ภาคผนวก
สื่อประชาสัมพันธ์โครงการ
โลโก้โครงการ Music Project #16 Disco Inferno
บัตรเข้าชมโครงการและโปสเตอร์ที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์
สูจิบัตรโครงการ Music Project #16 Disco Inferno
ภาคผนวก
ภาพประกอบโครงการ
ภาพบรรยากาศการโปรโมทงานที่ตลาดมอดินแดง
ภาพบรรยากาศการโปรโมทงานที่ตลาดมอดินแดง (ต่อ)
ภาพบรรยากาศการโปรโมทงานที่
DER LA JAZZ : Restaurant & Live Music
ภาพบรรยากาศการโปรโมทงานที่ DER LA JAZZ : Restaurant & Live Music (ต่อ)
ภาพบรรยากาศวันแสดงจริง
ภาพบรรยากาศวันแสดงจริง (ต่อ)
ภาพบรรยากาศวันแสดงจริง (ต่อ)
ภาพบรรยากาศวันแสดงจริง (ต่อ)
ภาพบรรยากาศวันแสดงจริง (ต่อ)