Professional Documents
Culture Documents
เนื้อหาคณิต
เนื้อหาคณิต
1607 – 1665)
มีอาชีพเป็นนักกฎหมายแต่ชอบศึกษาค้นคว้าคณิตศาสตร์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้พัฒนาทฤษฎีพื้นฐานที่นาไปสู่การค้นพบวิชา
แคลคูลสั เขามีผลงานโดดเด่นในเรื่องทฤษฎีจานวน เรขาคณิตวิเคราะห์ ความน่าจะเป็น รวมไปถึงเรือ่ งคุณสมบัติของแสง แฟร์มาริเริ่มบุกเบิกวิชา
เรขาคณิตวิเคราะห์ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับเรอเน เดการ์ตผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สร้างวิชาเรขาคณิตวิเคราะห์ แฟร์มาเป็นผู้ค้นพบวิธีการ
ต้นแบบของการหาจุดสูงสุด จุดต่าสุด และเส้นสัมผัสของเส้นโค้งซึ่งคล้ายกับในวิชาแคลคูลัสเชิงอนุพันธ์ เขายังเป็นคนแรกที่หาค่าอินทิกรัลของ
ฟังชั่นกาลัง วิธีการของเขาสามารถลดการหาค่าเป็นผลรวมของอนุกรมเรขาคณิต ทาให้ได้สูตรที่ช่วยให้ไอแซก นิวตันและกอทท์ฟรีด ไลบ์นิซ
พัฒนาวิชาแคลคูลสั ได้สาเร็จ แต่สงิ่ ที่ทาให้แฟร์มามีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกคือการเสนอทฤษฎีที่เรียกว่าทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา
ผลงานเด่น :
– พัฒนาทฤษฎีพื้นฐานที่นาไปสู่การค้นพบวิชาแคลคูลัส
– พัฒนาเรขาคณิตวิเคราะห์
– พัฒนาทฤษฎีความน่าจะเป็นร่วมกับปาสกาล
– ปรับปรุงทฤษฎีจานวน
แบร์นฮาร์ด รีมันน์ (ค.ศ. 1826 – 1866)
ผลงานเด่น :
– ทฤษฎีฟังก์ชันตัวแปรเชิงซ้อน
เป็นนักปรัชญาและนักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมันผู้เป็นพหูสูตคนหนึ่งของยุคนั้น เป็นเสาหลักของนักปรัชญากลุ่มเหตุผลนิยม
(Rationalism) ร่วมกับเรอเน เดการ์ต ไลบ์นิซเป็นคนแรกที่ใช้คาว่า “ฟังก์ชัน” สาหรับอธิบายปริมาณที่เกี่ยวข้องกับเส้นโค้ง เช่น ความชันของ
เส้นโค้งหรือจุดบนเส้นโค้ง เขายังเป็นผู้ริเริ่มใช้สญ
ั ลักษณ์และเครื่องหมายต่างๆในวิชาคณิตศาสตร์มากมาย ใช้วงเล็บในการแยกเทอมต่างๆในวิชา
พีชคณิต ใช้จุดแสดงการคูณแทนเครื่องหมายคูณที่มักสับสนกับตัวอักษร x และใช้ ∫ แทนผลรวมด้วยมีลักษณะเหมือน s ซึ่งมาจากคาว่า sum
การรู้จักใช้สญ
ั ลักษณ์ต่างๆที่กระชับรัดกุมและสื่อความหมายดีนมี้ ีผลให้ผลงานคณิตศาสตร์ในยุโรปก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ผลงานที่สาคัญที่สุด
ของไลบ์นิซคือการคิดค้นพัฒนาวิชาแคลคูลัสซึ่งส่งผลให้เปลี่ยนโฉมของวิทยาศาสตร์ และทาให้วิทยาศาสตร์โดยเฉพาะฟิสิกส์เป็นวิชาที่ทรงพลัง
มาก เพราะสามารถใช้แคลคูลัสศึกษาปัญหาที่ยากและซับซ้อนจากการมีหลายตัวแปรได้ดี
ผลงานเด่น :
– คิดค้นวิชาแคลคูลัส
– คิดค้นและริเริ่มใช้สัญลักษณ์และเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ทสี่ าคัญจานวนมาก
– คิดค้นระบบเลขฐานสอง
เรอเน เดการ์ต (ค.ศ. 1596 – 1650)
เป็นนักปรัชญาและนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศสผูค้ ิดวิธีหาสัจจะในวิชาวิทยาศาสตร์และในชีวิตโดยเชื่อมั่นว่าตรรกะและวิธีพิสูจน์ของ
คณิตศาสตร์สามารถเชื่อมโยงและเป็นกุญแจไขความลึกลับต่างๆได้ เขาเป็นผู้ที่บุกเบิกปรัชญาสมัยใหม่ แนวคิดของเขามีผลต่อนักคิดร่วมสมัยไป
จนถึงนักปรัชญารุ่นต่อมา เดการ์ตเป็นเจ้าของความคิดและวาทะอันโด่งดัง “เพราะฉันคิด ฉันจึงมีอยู่” (I think, therefore I am) ผลงานสุดยอด
ของเดการ์ตคือการสร้างวิชาเรขาคณิตวิเคราะห์ (Analytic Geometry) ซึ่งได้จากการรวมพีชคณิตกับเรขาคณิตเข้าด้วยกันทั้งๆที่ในอดีตนัก
คณิตศาสตร์ทั้งหลายเคยคิดว่าวิชาทั้งสองนี้ไม่เกี่ยวข้องกันเลย อันมีผลทาให้วิชาทั้งสองได้พัฒนาซึ่งกันและกันมาจนทุกวันนี้
ผลงานเด่น :
– สร้างวิชาเรขาคณิตวิเคราะห์
– วางรากฐานปรัชญากลุม่ เหตุผลนิยม (Rationalism) ซึ่งเป็นแนวคิดปรัชญาหลักในยุโรปสมัยศตวรรษที่ 17 และ 18
พีทาโกรัส (570–495 ปีก่อนคริสต์ศักราช)
ผลงานเด่น :
– สร้างสูตรคูณ – ทฤษฎีคณิตศาสตร์มากมาย
– สร้างทฤษฎีบทพีทาโกรัส – ทฤษฎีโลกกลมและหมุนรอบตัวเอง
อาร์คิมิดีส (287- 212 ก่อนคริสต์ศักราช)
ผลงานเด่น :
– หนังสือว่าด้วยด้วยดุลยภาพของระนาบและการคานวณจุดศูนย์กลางมวลของวัตถุ
– หนังสือว่าด้วยการวัดวงกลมและการประมาณค่า π (pi)
– คิดค้นสูตรคณิตศาสตร์สาหรับคานวณพื้นที่และปริมาตรของรูปทรงต่างๆมากมาย
– คิดค้นสมการหาปริมาตรของรูปทรงที่เกิดจากพื้นผิวที่ได้จากการหมุน
ยุคลิดแห่งอเล็กซานเดรีย (325 – 270 ปีก่อนคริสต์ศักราช)
เป็นนักคณิตศาสตร์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดจนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 20 เป็นศาสตราจารย์ด้านคณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอเล็กซานเดรีย
ยุคกรีกโบราณต่อจากเพลโตและก่อนหน้าอาร์คีมีดสี ผลงานที่สาคัญของยุคลิดคือการเขียนตาราทางคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์ที่มีอย่างน้อย
ที่สุด 9 ชิ้น แต่คงเหลืออยู่ในปัจจุบัน 5 ชิ้น คือ Division of Figures, Data และ Phacnomena ที่เป็นตาราเรขาคณิต, Optics เป็นตารา
เกี่ยวกับปรากฏการณ์ของแสง และ Elements ตาราทางเรขาคณิตและคณิตศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุด
ผลงานเด่น :
ผลงานเด่น :
– คิดค้นวิชาแคลคูลัส – ค้นพบวิธีการกระจายอนุกรม
– เป็นคนแรกที่ใช้เศษส่วนเลขชี้กาลัง (fractional indices) และนาเรขาคณิตเชิงพิกัดมาใช้หาคาตอบจากสมการไดโอแฟนทีน
ผลงานเด่น :
– คิดค้นทฤษฎีจานวนสมัยใหม่ – ค้นพบทฤษฎีของฟังก์ชันเชิงวงรี
– เป็นผู้แรกทีส่ ามารถพิสูจน์ทฤษฎีบทมูลฐานของพีชคณิตซึ่งเป็นวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของเขา
– คิดค้นวิธีกาลังสองน้อยที่สดุ – พัฒนาเรขาคณิตนอกระบบยุคลิด
เลออนฮาร์ด ออยเลอร์ (ค.ศ. 1707 – 1783)
ออยเลอร์ฉายแววความเป็นอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ตั้งแต่เด็ก หลังเรียนจบได้ทางานเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิรก์
14 ปี จึงย้ายไปสอนที่เบอร์ลิน 25 ปี แล้วกลับมาสอนที่เซนต์ปเี ตอร์สเบิร์กจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต ออยเลอร์เป็นหนึ่งในนักคณิตศาสตร์ทมี่ ี
ผลงานมากทีส่ ุดในโลก ผลงานที่เขาเขียนมีมากถึง 30,000 หน้า รวบรวมเป็นหนังสือได้ถึง 75 เล่ม ออยเลอร์ตาบอดสนิทตลอด 17 ปีสุดท้ายใน
ชีวิต แต่เป็นช่วงนี้เองที่เขาสามารถผลิตผลงานได้มากถึงครึ่งหนึ่งของผลงานทั้งหมด ออยเลอร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักคณิตศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่
ที่สุดคนหนึ่งของโลก
ผลงานเด่น :
เกิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 1903 เสียชีวิต 20 ตุลาคม ค.ศ. 1987, เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวรัสเซีย ยักษ์ใหญ่ในวงการคณิตศาสตร์
ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยมีผลงานโดดเด่นมากในงาน ทฤษฎีความน่าจะเป็นและทอพอโลยี. อันที่จริงแล้ว คอลโมโกรอฟมีผลงานในแทบทุก
แขนงของคณิตศาสตร์ เช่น ตรรกศาสตร์, อนุกรมฟูเรียร์, ความปั่นป่วน (turbulence), กลศาสตร์คลาสสิก นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในผูค้ ิดค้น
ความซับซ้อนแบบคอลโมโกรอฟ ร่วมกับ เกรโกรี ไชตัง และ เรย์ โซโลโมนอฟ ในช่วงช่วงปี ค.ศ. 1960 ถึง ค.ศ. 1970.
ผลงานเด่น :