Professional Documents
Culture Documents
สร ปใบประกอบ
สร ปใบประกอบ
ในระบบบดเคี*ยวมีปัจจัยมากมายที4ส่งผลกระทบทําให้เกิดความผิดปกติและทําให้ระบบบดเคี*ยว
อ่อนแอลง โดยเมื4อมีการเปลี4ยนเเปลงระบบบดเคี*ยวนั*นจะมีการปรับตัวเพื4อตอบสนองต่อการเปลี4ยนแปลง
ต่างๆ ได้แก่ การปรับเปลี4ยนลักษณะทางโครงสร้างของTMJ ทั*งในส่ วนของ bone และ soft tissue รวมถึง
การเปลี4ยนแปลง แรงตึงของกล้ามเนื*อ การเปลี4ยนแปลงทางโครงสร้างและการทําหน้าที4ของอวัยวะเหล่านี*
ตลอดจนแรงดัน และแรงเครี ยดขณะทํางาน ปั จจัยที4ส่งผลการทบต่อระบบบดเคี*ยวนั*นไปลดความสามารถ
ในการปรับตัวของอวัยวะบดเคี*ยวได้อีกด้วย
ปั จจัยที4ส่งผลต่อระบบบดเคี*ยว
1.Trauma
คือเเรงใดๆก็ตามที4กระทําต่อระบบบดเคี*ยว โดยแรงนั*นมีมากกว่าแรงที4เกิดจากการทํางานปกติ Trauma
สามารถเเบ่งตามทิศทางของแรงและความมากน้อยของแรงได้เป็ น 3 ประเภทคือ
เป็ นการทํางานที4นอกเหนือจากการทํางานปกติ เช่น Lip chewing, cheek chewing, nail biting, เเละ
teeth clenching
Bruxism เเบ่งออกเป็ น awake bruxism เเละ sleep bruxism ซึ4 งสาเหตุหลักของการเกิด bruxism นั*น
คือ ความเครี ยด ความกังวล และความโกรธ
นอกจากนี*ยงั สามารถเกิดได้จาก
- การสบฟันผิดปกติ
- อาการของโรคทางประสาทและกล้ามเนื*อบริ เวณใบหน้า
- อาจเป็ นผลข้างเคียงของยารักษาโรคซึ มเศร้า
- อาการแทรกซ้อนของโรค Parkinson’s disease และ Huntington's disease
Awake bruxism เป็ น Diurnal activity ได้เเก่ tooth clenching เเละ tooth grinding
Sleep bruxism เป็ น Nocturnal activity ขณะหลับจะพบการทํางานของกล้ามเนื*อโดย bruxism จะ
เริ4 มเกิดขึ*นครั*งเเรกในlight sleep (stage 1 เเละ 2 ของ sleep cycle) เเต่จะสามารถบันทึกผลได้ในขณะที4กาํ ลัง
เปลี4ยนจาก deep sleep( stage 3 และ 4) เป็ น REM sleepขณะหลับ
Sign และ symptoms ของ parafunction นั*นได้เเก่ มีการสึ กของฟัน, เจ็บหรื อ เสี ยวฟัน, ปวดหัว เเละ
เกิดการ hypertrophy ของกล้ามเนื*อ เป็ นต้น
Sleeping process
การรักษา
การรักษา parafunction นั*นสามารถทําได้โดยลดความเครี ยดโดยการทํากิจกรรมต่างๆให้คลาย
เครี ยด หรื อการใส่ oral appliance ที4เป็ นเเบบคลุมทั*ง arch หรื อคลุมเเค่บางส่ วนของarchก็ได้ oral appliance
นั*นสามารถป้องการทําลาย orofacial structures จาก bruxism เเละสามารถลด muscle activity ได้ดว้ ย oral
appliance นั*นสามารถเเบ่งออกเป็ น hard appliances เเละ soft หรื อ semi-soft appliances โดย soft mouth
guard นั*นจะเเนะนําให้ใช้เเค่ short term เท่านั*นเนื4องจากsoft appliances อาจทําให้เกิดbruxismมากขึ*นได้
Emotional stress
Emotional stress เป็ น Psychosocial factors ซึ4 งจะเเตกต่างกันออกไปในเเต่ละบุคคล คนไข้ TMD
มักมีระดับของความวิตกกังวล และ ความซึมเศร้า มากกว่าคนทัว4 ไป ซึ4 งความเครี ยดนั*นมีผลทําให้กล้ามเนื*อ
เกิดการตึงเกร็ งตัวขึ*นมาเเละเป็ นผลให้เกิดโรดTMD ได้
Masticatory muscles
Masticatory muscles ประกอบด้วย opening และ closing muscles
Opening muscles
- Lateral pterygoid muscle: ประกอบด้วย heads 2ได้เแก่ superior head และ inferior head เมื4อหด
ตัวพร้อมกันทั*งข้างซ้ายและขวาจะทําให้เกิด action อ้าปาก และ ยืน4 ขากรรไกรไปด้านหน้า )protrusion (แต่
ถ้าหดตัวเพียงข้างใดข้างหนึ4งจะทําให้ขากรรไกรล่างเยื*องไปทางตรงกันข้ามกับกล้ามเนื*อที4หดตัว (lateral
protrusion)
- Geniohyoid muscle: กล้ามเนื*อมี origin ที4 inferior mental spine of mandible และ insertion อยู่
hyoid bone ซึ4 งกล้ามเนื*อมัดนี*จะทํางานร่ วมกับ digastric muscle และ mylohyoid muscle ช่วยเรื4 องการกลืน
อีกทั*งยังทําหน้าที4 depress mandible อีกด้วย
- Digastric muscle: ประกอบด้วย anterior และ posteior bellies โดยที4 anterior belly มี origin อยูท่ ี4
digastric fossa (mandible) และ posteior belly มี origin อยูท่ ี4 mastoid process of temporal bone ทั*งนี*
กล้ามเนื*อมัดนี*จะไป insert ที4 hyoid bone จะทําหน้าที4ในการ depress mandible หรื อช่วยในการอ้าปาก
นัน4 เอง
- Mylohyoid muscle: เกาะจาก mandible ถึง hyoid bone ซึ4 งอยูบ่ ริ เวณ floor of mouth ช่วยในการ
กระดกลิ*น และ depress mandible
Closing muscles
- Masseter muscle: แบ่งเป็ นชั*น superficial และ deep ซึ4 ง ชั*นsuperficial มัดกล้ามเนื*อจะหนาและ
ใหญ่กว่า มีoriginอยูท่ ี4 lower border of mandibular bone และไป insert ที4 zygomatic process
- Tempolaris muscle: รู ปใบพัด มี origin ตั*งแต่ temporal fossa และ temporal bone โดยมี insertion
ที4 coronoid process
tempolaris muscle ยังแบ่งได้อีกเป็ น 3 ส่ วน ส่ วนหน้า ทําหน้าที4หุบปาก บดเคี*ยวอาหาร และสบฟันใน
centric occlusion ส่ วนกลาง ทําหน้าที4 retraction ส่ วนหลัง ทําหน้าที4 retraction และจัดตําแหน่งขากรรไกร
ล่าง
- Medial pterygoid muscle: ทอดตัวขนานกับ masseter m. โดยที4อยูล่ ึกกว่า มี origin อยูท่ ี4 lateral
pterygoid plate และไป insert ที4 angle of mandible
Ligaments
- Discal ligaments: ยึด disc กับหัวของ condyle โดยยึด ) ด้าน 2medial และ latertal)
- Capsular ligament: มีหน้าที4ทาํ ให้เกิด joint stability และ เพื4อหุม้ synovial fluid ช่วย limit joint
movement medially, laterally และ inferiorly โดยที4 ligament จะยึดรอบข้อต่อตั*งแต่ temporal bone ถึง neck
of condyle
- Temporomandibular ligment: คลุมบน capsular ligament โดยยึดจาก zygomatic process of
temporal bone ถึง neck of condyle เพื4อเสริ มความแข็งแรงด้านนอกของ joint ทั*งนี*เป็ นส่ วนที4จาํ กัดการ
เคลื4อนที4ทาง postero-inferior movement ช่วยในการ translocation และ rotation ของข้อต่อ
Innervation
- Auriculo-temporal nerve
- Masseteric branch of 3rd division of trigeminal nerve
Histology of temporomandibular joint, articular disc and fiber of muscle of
mastication
Functions
- ช่วยในการหล่อลื4นข้อต่อ (lubrication)
- Provide สารอาหารต่างๆให้กบั articular disc และ surface
- Phagocytosis: ช่วยในการกําจัดเชื*อโรคสิ4 งแปลกปลอม
ประสาทวิทยาของระบบบดเคีย7 ว
Muscle spindle
กล้ามเนื*อลายประกอบด้วย 2 ชนิดของ muscle fiber
1. Extrafusal fiber
2. Intrafusal fiber
และชนิดของ afferent nerves ได้แก่ Ia, A- alpha คือ fiber ใหญ่ นําสัญญาณประสาทเร็ วและมี threshold ตํ4า
รวมถึงเป็ น annulospiral endings และ fiber ที4เล็กกว่า คือ II, A-beta เป็ น flower-spray endings
Motor unit
เป็ นส่ วนประกอบพื*นฐานของ neuromuscular system ประกอบด้วย muscle fiber จํานวนมากที4ถูก
เลี*ยงด้วย 1 motor neuron แต่ละ neuron เชื4อมด้วย muscle fiber ที4 motor endplate เมื4อ neuron ทํางาน motor
endplate จะถูกกระตุน้ เพื4อปล่อย Ach ปริ มาณน้อยออกมา ซึ4 งทําให้เกิด depolarization ส่ งผลให้กล้ามเนื*อ
หดหรื อสั*นลง
Muscle function
1. Isotonic contraction
2. Isometric contraction
3. Controlled relaxation
Jaw –Opening reflex(Nociceptive reflex) มีหน้าที4ป้องกัน hard และ soft tissue ของช่องปาก เช่น
กัดลิ*น, ถูกทิ4ม, กัดก้อนกรวด ซึ4 งเรี ยกอีกชื4อหนึ4งคือ Nociceptive reflex เพราะเป็ นการกระตุน้ nociceptors
ใน musculoskeletal unit reflex
Receptor : Mechanoreceptors and pain receptors in oral cavity
Primary afferent : Trigeminal sensory axon
Cell body : Trigeminal ganglia
Central process : Synapse with interneurons in sensory nucleus of CN V, which synapse with
motoneurons
Motoneuron : In human, closer motoneurons are inhibited
Appropriate stimulus : Short-onset, high intensity localized mechanical or noxious stimulus within the
oral cavity
Response : Inhibition of jaw-closers ก่อนแล้วตามด้วย jaw opening
Mastication
คือกระบวนการเคี*ยวอาหารเพื4อการกลืนและย่อย ซึ4 งทําให้ง่ายต่อการย่อยและดูดซึ มสารอาหาร และ
ช่วยป้องกันอันตรายต่อระบบทางเดินอาหาร
Chewing cycle
Cycle ของการเคี*ยวจะเกิดขึ*นในขอบเขตการเคลื4อนของขากรรไกร จํากัดโดย
- ความสัมพันธ์ทางกายวิภาคของฟันและ TMJ
- receptor ที4เกี4ยวข้องกับการเคี*ยว
- กล้ามเนื*อที4เกี4ยวข้อง ได้แก่ suprahyoid muscle, infrahyoid muscle และ cervical muscle
โดย chewing cycle แบ่งออกเป็ น 2 phase ได้แก่ Opening phase และ Closing phase ซึ4 งจะแบ่งได้
อีก 2 phase ย่อย คือ
- crushing phase : ตําแหน่งที4ฟันบนล่างค่อยๆขยับเข้าหากันเรื4 อยๆ-
- grinding phase : ตําแหน่งสบสับหว่าง เป็ นตําแหน่งที4มีการบดอาหาร
Deglutition(swallowing)
คือการร่ วมมือกันของการกดตัวของกล้ามเนื*อที4เคลื4อนก้อนอาหารจากช่องปากผ่านหลอดอาหารลง
ไปในกระเพาะ ซึ4 งมีท* งั แบบควบคุมได้, ควบคุมไม่ได้ และ reflex
สรีรวิทยาและระบบประสาทควบคุมการเคีย7 ว กลืน พูด
Stage of deglutition
1. First stage(oral phase)
- ควบคุมได้
- ก้อนอาหารอยูบ่ นลิ*น, ริ มฝี ปากปิ ด, ลิ*นแตะเพดานแข็ง, ฟันสบ, เพดานอ่อนยกขึ*นเพื4อปิ ดช่องจมูก
- เกิดคลื4น reflex จากการหดตัวของลิ*น
2. Second stage(Pharyngeal phase)
- คลื4น peristalsis หรื อการหดตัวของ pharyngeal constrictor muscle
- เพดานอ่อนยังคงปิ ดช่องจมูก
- epiglottis ปิ ดหลอดลม, หยุดหายใจขณะกลืน
- เปิ ดรู คอหอยของ eustachian tube เพื4อปรับความดัน
ซึ4 งในstage ที4 1 และ 2 จะใช้เวลาประมาณ 1 วินาที
3. Third stage(Esophageal phase)
- คลื4น peristalsis ผ่านหลอดอาหาร(ใช้เวลาประมาณ 6-7 วินาที)
- ก้อนอาหารผ่าน cardiac sphincter ลงไปถึงกระเพาะ
Type of swallowing
1. เด็กที4ยงั ไม่มีฟันหรื อ visceral swallowing
- orbicularis oris, buccinator muscle
- ความเสถียรภาพของขากรรไกรควบคุมโดยสันเหงือก
- CNVII
2. ผูใ้ หญ่หรื อ somatic swallowing
- ความเสถียรภาพของขากรรไกรควบคุมโดยการสัมผัสกันของฟัน
- CNV
- CNVII(edentulous) สันเหงือกไร้ฟัน ตอนแก่แล้วไม่มีฟันจะกลับไปใช้ CNVII
- มีท* งั ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่จะควบคุมไม่ได้ โดยหลอดอาหารส่ วนบนจะ
ควบคุมได้ ส่ วนหลอดอาหารส่ วนล่างจะควบคุมไม่ได้
Speech
การพูดเกิดขึ*นได้เมื4อปริ มาตรของอากาศถูกบังคับจากปอดโดยกระบังลมผ่านกล่องเสี ยงและช่อง
ปาก การหดตัวและคลายตัวของ vocal cords หรื อ band of larynx ทําให้เกิด pitch(เสี ยงสู งตํ4า) ตามที4ตอ้ งการ
เมื4อเกิด pitch แล้ว รู ปแบบที4แน่นอนจะถูกคาดคะเนโดยปากที4กาํ หนดความก้องและการออกเสี ยงที4แน่นอน
เพราะการพูดถูกสร้างขึ*นด้วยอากาศที4ออกมาจากปอด เพราะฉะนั*นการพูดจะเกิดขึ*นระหว่างการหายใจออก
การหายใจเข้าจะเกิดขึ*นเร็ วและเกิดขณะจบประโยค การหายใจออกจะยาวทําให้เกิดเป็ นพยางค์, คํา หรื อวลี
ในการเปล่งเสี ยงออกมา
ระยะที= 1 คือเคลื4อนจากตําแหน่ง CR ไปยัง CO ในทิศทาง forward upward มีระยะเฉลี4ย 0-1.25 mm. โดย
พบว่าประชากรกว่า 90% นั*นจะมีตาํ แหน่ง CR เป็ นคนละตําแหน่งกับ CO
ระยะที= 2 ฟันหน้าล่างไถลไปตาม lingual slope ของฟันหน้าบน เกิด movement ในทิศทาง forward
downward จนกระทั*งปลายฟันหน้าบนและล่างมาสัมผัสกัน เกิดเป็ นระยะที= 3
ระยะที= 4 เคลื4อนในแนว upward จน posterior tooth contact
ระยะที= 5 เป็ นการเคลื4อนไปยังตําแหน่งที4ยนื4 มากที4สุด ซึ4 งถูกกําหนดโดย occlusal surface ของฟันหลัง
**สําหรับผูท้ ี4มีตาํ แหน่ง CR=CO จะไม่มีการเคลื4อนที4ในระยะที4 1
1.1)4 Functional movement: อยูใ่ นช่วงการสบศูนย์ โดยขากรรไกรล่างอยูใ่ นตําแหน่ง Clinical rest
position คือใต้ต่อตําแหน่ง CO ประมาณ 2-4 mm. แต่ไม่ใช่ตาํ แหน่งพักจริ ง ซึ4 ง masticatory muscles จะมี
การทํางานน้อยที4สุดที4ตาํ แหน่ง ใต้ต่อ CO 8 mm. และ หน้าต่อ CO 3 mm. ซึ4 งในตําแหน่งดังกล่าวจะทําให้มี
ความสมดุลระหว่าง elevator muscle และกล้ามเนื*อมัดอื4นๆที4ช่วยพยุงขากรรไกรล่าง จึงจัดเป็ น The best
clinical rest position
STEP: 1.จาก CO เคลื4อนไปในทิศทาง downward forward ไปตําแหน่งอ้าปาก
2. เคลื4อนกลับในแนวเดิมที4ตรงกว่า , slightly backward
3. กลับเขาสู่ CO
Postural effect on functional movement
แหงนศีรษะ 45 องศา >> ตําแหน่งของ mandible จากไปทางด้านหลังเล็กน้อย ฟันจะสบกันใน
ตําแหน่งที4หลังต่อ CO เล็กน้อย
ก้มศีรษะ 30 องศา >> Mandible ไปทางด้านหน้าเล็กน้อย ทําให้ฟันสบกันในตําแหน่งหน้าต่อ CO
.2 Horizontal plane border and functional movement: ศึกษาโดย Gothic arch tracer or Gysitracing
มี recording plate ติดกับ maxilla และ recording stylus ติดกับ mandible โดย Border movement เป็ นรู ป
สี4 เหลี4ยมข้าวหลามตัด มี 4 ส่ วนคือ
2.1) Left lateral border movement: เริ4 มจากตําแหน่ง CR โดย right inferior lateral pterygoid
muscle หดตัว ทําให้ condyle ขวาเคลื4อน forward medially and downward จากนั*น left inferior lateral
pterygoid muscle คลายตัวทําให้ left condyle ยังคงอยูใ่ น CR
2.2) Continued left lateral movement with protrusive: Right and left inferior lateral ptrygoid
muscle หดตัว >> Left codyle เคลื4อน forward และไปทางขวา >>> Condyle ซ้ายและขวา เคลื4อนมา
ตําแหน่งหน้าสุ ด และ mandible กลับมาแนวกลางอีกครั*ง
2.3) Right lateral border movement: Right inferior lateral pterygoid muscle หดตัว >> Left
condyle เคลื4อนมาด้านหน้า, medially, and downward >>> Right inferior lateral pterygoid relax and Right
condyle ยังคงอยูใ่ น CR
2.4) Continued right lateral border movement with protrusive: มีการหดตัวของกล้ามเนื*อทั*ง 2 ข้าง
ทําให้ condyle ขวาเคลื4อน forward และไปทางซ้าย >>> Condyle อยูใ่ นตําแหน่งหน้าสุ ด และ mandible
กลับแนวกลาง
**Lateral movement มีขอบเขตลดลงเมื4อมีการอ้าปากกว้างมากขึ*น**
2.5) Functional movement: เริ4 มที4ตาํ แหน่ง CO เมื4ออาหารถูกบดเล็กลง mandible จะเคลื4อนเข้าใกล้
CO มากขึ*นเรื4 อยๆ โดยตําแหน่งของ mandible ระหว่างเคี*ยวถูกกําหนดโดย Occlusal surface ของฟัน
3.1) Left lateral superior border movement: mandible เคลื4อนจาก CO ไปทางซ้าย ลักษณะการ
เคลื4อนที4เป็ นส่ วนโค้งนูน ซึ4 งถูกกําหนดโดย
1) Shape กับ relation ของฟันบนและล่างที4สมั ผัสกัน
2) ความสัมพันธ์ระหว่าง condyle กับ articular disc
3) Shape ของ condyle
ปริ มาณการเคลื4อนที4ถูกจํากัดโดย ligament และ non-working condyle
3.2) Left lateral opening border movement: อ้าปากจากตําแหน่งซ้ายสุ ด จะมีรูปร่ างเป็ นส่ วนโค้ง
นูนด้านข้าง เมื4ออ้ากว้างสุ ด ligament จะดึงให้ mandible เคลื4อน medially ทําให้กลับมาแนวกลางอีกครั*ง
3.3) Right lateral superior border movement: เคลื4อนจาก CO ไปทางขวาเหมือน Left lateral
superior border movement รู ปแบบแตกต่างตามลักษณะที4สบฟัน
3.4) Right lateral opening border movement: อ้าปากจนตําแหน่งขวาสุ ด เกิดเป็ นลักษณะแนวส่ วน
โค้งนูนเมื4ออ้าสุ ด >> ligament ตึง >> mandible กลับมาแนวกลาง
3.5) Functional movement เริ4 มและจบในตําแหน่ง CO โดยระหว่างเคี*ยว mandible จะเคลื4อน
downward จนกระทัง4 อ้าปาก จะเบนไปด้านที4มีอาหารอยู่ และกัดเข้าสู่ CO เมื4ออาหารถูกบดเคี*ยวจนเล็กลง
ขอบเขตการเคลื4อนที4กจ็ ะเล็กลงด้วยเช่นกันจนเข้าสู่ CO
Envelop of motion: เป็ นการทํารู ปร่ างขอบเขตการเคลื4อนที4 border movement ทั*ง 3 ระนาบ มาประกอบ
รวมกันเป็ นลักษณะ 3 มิติ
ส่ วนบนของenvelop ถูกกําหนดโดย tooth anatomy
ส่ วนอื4นๆของ envelop ถูกกําหนดโดยรู ปร่ างของข้อต่อขากรรไกร, กล้ามเนื*อ และ ligaments
Functional movement
การทํางานตามหลักสรีรวิทยา ประสาทวิทยาของการเคีย7 ว กลืน พูด
1. Mandibular opening : lat. Pterygoid , ant. digastric ,mylohyoid โดย lat. Pterygoid จะทํางานแบบ
อ้างปากเต็มที4แล้ว ant. Digastric จะทํางานต่อ
2. Mandibular closing : medial pterygoid , temporalis , massater ซึ4 งทํางานภายใต้ reflex control
3. Lateral mandibular movement : การหดตัวของกล้ามเนื*อ temporalis ด้านเดียวกัน , การหดตัวของ
lat. และ med.Pterygoid ด้านตรงข้าม
4. Protraction & retraction : Protraction การยืน4 คางเกิดจาการทํางานของ med.Pterygoid , inf. Head
of lat.Pterygoid , retraction การหดคางเกิดจากการทํางานของ temporalis
การกลืน
• proximal contacts
plane of occlusion
curve of wilson
occlusal table
supporting cusp
และ mesiolingual cusp ของ Mx first molar สบลงใน central fossa ของ Md first molar
3. Therapeutic occlusion
ดังนั*นการสบฟันที4ดีประกอบด้วย
1. Tooth and bone health
นอกจาก physiologic occlusion ซึ4 งเป็ นการสบฟันที4พบในคนส่ วนใหญ่แล้ว จะพบ การสบฟันที4ผดิ ปกติใน
คนทัว4 ไปได้บ่อยๆ เรี ยกว่า malocclusion(deviation in form) แบ่งได้2 รู ปแบบ คือ Morphologic
malocclusion และ functional malocclusion
Kinematic facebow
ใช้ true condylar hinge axis ทําให้แม่นยํากว่า สามารถบันทึกความสัมพันธ์แบบ dynamic ได้ ราคา
แพง ต้องมีความชํานาญและใช้เวลามาก ใช้สาํ หรับ extensive restorative work และงานวิจยั ใช้คู่กบั fully
adjustable articulator ข้อมูลที4ได้จะถูกบันทึกลงใน pantograph หรื อ axiograph
Articulator
คืออุปกรณ์ที4จาํ ลองครึ4 งล่างของกะโหลกมนุษย์ ประกอบด้วย TMJ และ Jaw members เพื4อจําลอง
การเคลื4อนที4ของ mandible ด้วย cast มีประโยชน์ดงั นี*
1. ใช้ประเมินช่องปากและการสบฟันของผูป้ ่ วย
2. สามารถเห็นด้าน lingual ได้
3. ใช้วางแผนการรักษาและแสดงให้คนไข้ดูได้
4. สามารถทํางาน indirect นอกปากคนไข้ได้
5. สะดวกต่อคนไข้และลดเวลาการนัง4 ตรวจ
ส่ วนประกอบมีดงั นี*
1. Maxillary component/Upper member ใช้ยดึ upper cast ในตําแหน่ง ICP และ RCP เป็ นตัว
เคลื4อนไหว ตรงข้ามกับในธรรมชาติ ดังนั*นจะได้การเคลื4อนที4 backward-upward หรื อ reverse
movement
2. Mandibular component/Lower member ใช้ยดึ lower cast ในตําแหน่ง ICP และ RCP
3. Posterior/Lateral component จําลอง TMJ เป็ นส่ วนของ condylar guidance
4. Anterior component จําลองฟันตัดบนและล่าง เป็ นส่ วนของ anterior/incisal guidance
สามารถแบ่งarticulator ตาม Posterior component ได้สองรู ปแบบ คือ
1. ARCON หรื อ anatomical type เลียนแบบตามขากรรไกรจริ งคือ guiding element แทน glenoid
fossa อยูก่ บั upper part ส่ วน condylar element แทน condyle อยูก่ บั lower part
2. Non ARCON ตรงข้ามกันคือ guiding element แทน glenoid fossa อยูก่ บั lower part ส่ วน condylar
element แทน condyle อยูก่ บั upper part
แบบ non ARCON เวลาอ้า หุบ จะทําให้-condylar guidance เปลี4ยนไปตามการอ้านหุบนั*- จึงไม่
แม่นยําเท่า ARCON
นอกจากนี*ยงั แบ่ง articular ได้เป็ น ชนิดตามความสามารถในการจําลองการเคลื4อนที4 ปรับมุม 3
ความแม่นยําในการทําซํ*า
1Non adjustable articulator ขนาดเล็กกว่ากะโหลกจริ ง ใช้กบั facebow ไม่ได้ เหมาะใช้งานในแล็บ
ที4เน้นถูกและรวดเร็ ว ไม่ตอ้ งใช้ anterior guidance และการสบฟันค่อนข้าง vertical เช่น deep bite
1.1 (Simple hinge articulator or Class I จําลองได้เพียงการอ้า หุบเท่านั*น ประกอบด้วย-upper arm,
lower arm, simple hinge joint อาจมี screw ทําหน้าที4เป็ น vertical stop แต่ไม่มี anterior guidance
1.2) Mean value articulator or Class II ใช้ค่าเฉลี4ยในการออกแบบ articulator ไม่สามารถปรับให้
เข้ากับปั จเจกบุคคลได้ สามารถทํา eccentric movement ได้บา้ งแต่จาํ กัดทิศทางและรู ปแบบการเคลื4อนที4ไว้
intercondylar guidance เล็กทําให้ lateral movement ได้จาํ กัด ส่ วนประกอบต่างจาก class I ที4 upper member
สามารถเคลื4อนที4หน้า องศา และมี 40-30 หลังได้ในทิศ-anterior guidance เพิ4มขึ*นมา แต่ค่าคงที4อยูร่ ะหว่าง
องศา 15-10
2Semi adjustable articulator or Class III ขนาดตั*งแต่ปกติถึงใหญ่ แม่นยํามากขึ*น ทํา eccentric
movement ได้บา้ ง โดยสามารถทําซํ*าได้ เริ4 มปรับค่าได้บา้ งดังนี*
-Condylar guidance
-Immediate and progressive sideshift
-Bennett movement
-Incisal guidance
-Intercondylar guidance (S,M,L)
เหมาะใช้ทวั4 ๆไปและใน routine prosthodontic
ผลของขนาดที4ใหญ่ข* ึนกว่า class I-II ทําให้ radius ของ arch of closure มีขนาดและแนวใกล้เคียง
กับของจริ งมากขึ*น
2. Walker (1893)
- แนวคิดถึงวิถีคอนดายล์ที4ลาดชันตํ4าไปทางด้านหน้า หน้าต่อแกนหมุนข้อต่อ เพราะเหตุจากสันกระดูกหน้า
ข้อต่อขากรรไกร ดังได้ขนานนามว่า “ความชันคอนดายล์ หรื อความชันข้อต่อ ขากรรไกร” (condylar
inclination)
- ออกแบบเครื4 องจําลองขากรรไกรที4มีกลไกปรับมุมชัน วิถีคอนดายล์ได้ และได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ซบั ซ้อน
บันทึกรอยเคลื4อนช่องปาก (condylar inclination) เพื4อบันทึกวิถีเคลื4อนให้ปรากฏ เป็ นรอยเขียนแสดงวิถี
เคลื4อนนอกช่องปากได้อย่างจําเพาะในผูป้ ่ วยแต่ละรายด้วย
5. Page, HL (1956)
- Transographic concept
- Condyles ทั*งสองข้างทํางานอย่าง independently ซึ4 งกันและกัน
- No support of horizontal reference plane
- ไม่เกิด Bennett movement
Freedon-In-Centric Concept
1. Posselt
- Centric: มี flat area ใน central fossa ของ ฟันหลัง ซึ4 งเป็ นตําแหน่งให้ supporting cusp สบลงมา สามารถ
ทําได้โดย occlusal adjustment หรื อ ใน restoration
- Vertical dimension of occlusion ในตําแหน่ง MIP และ CR ควรจะอยูต่ าํ แหน่งเดียวกัน แต่ไม่ได้
หมายความว่า CO และ CR จะอยูต่ าํ แหน่งเดียวกัน
- Degree of freedom: ทําให้มี freedom ในการเคลื4อนที4ในตําแหน่ง eccentric เนื4องจากcuspal incline ไม่มี
ผลต่อ supporting cusp ของฟันคู่สบ
- Working side: canine guidance, smooth excursion obtained from MIP and CR
- Non-working side: ไม่มี contact à ทําให้เกิด smooth excursion, ลด lateral stress
2. Schuyler
- การ movement ของ mandible ถูก control โดย dentition (occlusal surface), TMJ
- Anterior guidance
3. Beyron
- สบแบบ slide in centric ที4 CR & MIP เน้น canine guidance (ช่วยลด lateral force ได้)
Canine guidance
group function
-แรงทีQ ลงฟั นหน้ าจะน้ อยกว่ าในฟั นหลั ง(ตามหลั กการของ Class III lever system)และถ้ ามี แรงมา
กระทํ ามากเกิ น มี ผลให้ mandible shifts downward&forward ซึQ งจะทํ าให้ มั นไม่ stable
4.ขณะ Protrude ฟั นหน้ าจะเป็ นตั ว disclude ฟั นหลั งอย่ างทั นที (ฟั นหน้ าแตะ ฟั นหลั งไม่ แตะกั น)
5. In upright position& alert feeding position ฟั นหลั งจะสบหนั กกว่ าฟั นหน้ า
Concept of Dental stability
Dental stability มี 2 ชนิ ด
1. Intra-arch stability
ความสั มพั นธ์ ของฟั นในขากรรไกรเดี ยวกั นทีQ จะทํ าให้ เกิ ด occlusal stability ซึQ งจะเปลีQ ยนแปลงไป
เมืQ อมี missing(หาย) , rotated(หมุ น) , tipped(เอี ยง) หรื อ extruded(เลืQ อนออก) teeth
นอกจากนี Fแล้ วยั งเกิ ดจากจาก restoration procedure ต่ างๆ เช่ น open contact , misplaced
contact
2. Inter-arch stability
ฟั นบนและฟั นล่ างทีQ มี การสบฟั นทีQ แน่ น และ stable จะทํ าให้ เกิ ด occlusal stability เกิ ดขึ Fน
ระหว่ างทั Fงขากรรไกรบนและล่ าง โดยทีQ เมืQ อสบฟั นกั นแล้ วจะต้ องมี การเคลืQ อนของฟั นได้ น้ อยทีQ สุ ด
ซึQ ง minimal slide forward ต้ องน้ อยกว่ า 1 mm. และไม่ มี การเกิ ด lateral deviation
Neutral zone
3. Occlusal interferences
การเกิ ด interference ทั Fง working , non-working หรื อ protrusive interferances
อาจจะทํ าให้ เกิ ด traumatic occlusion กระทบต่ อฟั นและtissueโดยรอบ
4. Parafunctions
เช่ น bruxism, กั ดเล็ บ, tongue thrusting ,lip biting etc.
5. Loss of arch integrity related to premature loss or destruction of teeth
เมืQ อมี ฟั นหายไปจะทํ าให้ เกิ ดการล้ มตั วของฟั นซีQ ข้างเคี ยงเข้ าหาช่ องว่ าง รวมถึ งมี การงอกย้ อย
ตั วของในขากรรไกรตรงข้ ามเพืQ อทีQ จะพยายามหาคู่ สบ ทํ าให้ เกิ ดผลเสี ยตามมา เช่ น มี ปั ญหาใน
การกั ดสบ การเคี Fยวหรื อperiodontal problem เป็ นต้ น
6. Pathologic change
เช่ น periodontal disease , dental caries , tooth wearทํ าให้ ฟั นผุ โยก หลุ ด ตามมาได้
7. Restoration
เช่ นการอุ ดหรื อการมี ฟั นปลอมอยู่ ในปาก หากฟั นปลอมอยู่ ในสภาวะทีQ ไม่ ดี ไม่ เป็ นไปตาม
anatomyของฟั นก็ สามารถทํ าให้ การสบฟั นของคนไข้ เปลีQ ยนไป
Type of occlusion
4. Physiologic occlusion
3.Therapeutic occlusion
Occlusion ที4ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมแล้ว ซึ4 งจะเปลี4ยน Pathologic occlusion ให้เป็ น
Physiologic occlusion ได้
Ideal occlusion
คือการสบฟันที4ไม่มีอาการและไม่จาํ เป็ นต้องได้รับการรักษา
At tooth level พบว่า cusp tip สบลงfossaหรื อ marginal ridge contact
At articulatory system level ฟันหลังมีความเสถียรภาพและฟันหน้ามี anterior guidance ไม่พบ
posterior interference
At patient level สามารถปรับตัวเข้ากับระบบ articulatory system )muscle and TMJ(
Patient management
2. Physical medicine
(1) Spray and stretch คือ การฉี ดสเปรย์ยาชา ( Ethyl chloride ) ที4จุดกดเจ็บและบริ เวณที4มีอาการปวดร้าวแผ่
ไปถึง ตามด้วยการยืดกล้ามเนื*อ โดย Ethyl chloride จะทําให้ผวิ หนังเย็นและชา
(2) Trigger point injection คือ การฉี ดยาชาเฉพาะที4ตรงจุดกดเจ็บของกล้ามเน้อื เข่น 1% procaine/lidocaine
(without epinephrine) โดยยาชาออกฤทธ์ิสกัดกั*นการนํากระแสไฟฟ้าโดยมีกลไกหลักคือ ยับยั*งการ
ทํางานของ voltage-gated sodium channel ซึ4 งเป็ นช่องทางหลักในการไหลเข้าของ Na+ ในช่วง
depolarization ทําให้ไม่มีการส่ งกระแสประสาทเกิดขึ*นจึงสามารถยับยั*งอาการปวดได้ และเมื4อฉี ดยาชา
แล้วต้องทําการยืดกล้ามเนื*อด้วยเพื4อคลายกล้ามเนื*อที4เกร็ งอยู่
กลุ่ม NSAIDs
Celebrex ยาในกลุ่ม COX-2 specific มีฤทธิlตา้ นการอักเสบ แก้ ไม่ ควรใช้ ยากลุ่ม COX-2 selective Increase blood
มีกลไกในการออกฤทธิl ปวดระดับน้อยถึงปาน inhibitor กับผู้ทมี= ปี ัญหาโรคหัวใจ pressure,headache,
ขนาดยาและวิธีการใช้
โดยการไปยับยั*ง กลาง สามารถใช้บรรเทา (และสมอง) ทีต= ้ องใช้ aspirin unexplained weight
กินยา 200 mg โดยทัว4 ไป Cyclooxygenase COX-2 อาการปวดจากข้ออักเสบ
เท่านั*น จึงทําให้ไม่มีการ และใช้เป็ นยาลดไข้ได้
gain, swelling of the
รับประทานวันละ 2 ครั*ง
สร้าง Prostaglandin PGF2a hands or feet,
หลังอาหารเช้า-เย็น
ที4เป็ นตัวชักนําให้เกิด สามารถใช้กบั ผูท้ ี4มี pain/swelling/warmth
อาการปวด การอักเสบ gastrointestinal illness ได้ in the groin/calf,
และก่อให้เกิดอาการไข้ ถ้าไมีมีปัญกาเกี4ยวกับหัวใจ difficult/painful
ของร่ างกาย
swallowing, unusual
tiredness.
Analgesics and Anti-inflammatory
Analgesics and Anti-inflammatory
ใช้โดยการทายา 3-4
ครั*ง ต่อวัน
Topical สาร Capsaicin ออก เหมาะสําหรับ คนที4มี ระวัง burning sensation อาจเกิดอาการแพ้
ฤทธิlโดยการจับกับ TMJ atralgia
Capsaicin TRPV1 receptor ทําให้
Capsaicin gel เกิดการblock
retrograde release of
0.0025% substance P ที4เป็ น
ใช้โดยการทายา 3-4 Neurotransmitter
ครั*ง ต่อวัน ส่ งผ่านความรู ้ปวดจาก
เซลล์ประสาทไปยัง
สมอง ทําให้ไม่
สามารถสื4 อนําได้
อาการเจ็บปวดจะลดลง
Analgesics and Anti-inflammatory
2 % Lidocaine ตัวยาชาจะไป block ใช้ฉีดบริ เวณที4เป็ น ใน •ห้ามใช้ยากับผูท้ ี4แพ้ยา คลื4นไส้ วิงเวียน ง่วง
fast voltage-gated บริ เวณที4เกิดความ •หลังใช้ยานี*แล้ว มีอาการวิ นอน
without
sodium channels ที4 เจ็บปวด หรื อ trigger เวียนหรื อง่วงนอน สําหรับผลข้างเคียงที4มี
epinephrine cell membrane of point of pain เพื4อให้ แนะนําว่าไม่ควรขับ ความรุ นแรงมากกว่านี*
postsynaptic neurons เกิดการชา รถหรื อไปทํางานที4 เช่น หัวใจเต้นช้ากว่า
ทําให้ไม่เกิด เกี4ยว กับการควบคุม ปกติ ง่วงนอนมาก
depolarization ส่ งผล เครื4 องจักร หงุด หงิด สับสน มี
ทําให้ไม่เกิด action อาการชัก เป็ นลม ตา
potential จึงไม่มีการส่ ง พร่ า เป็ นต้น และ
กระแสประสาท ทําให้ หากมีอาการเข้าขั*นแพ้
ความรู ้สึกต่างๆถูก ยา จะมีอาการผืน4 คัน
จํากัดและมีอาการชา ขึ*นที4ผวิ หนัง มีอาการ
เกิดขึ*น บวมตามหน้า-ลิ*น-
ลําคอ วิงเวียนศีรษะ
มาก หายใจไม่ออก/
หายใจลําบาก
Diet supplement
ชื4อยา กลไกการออกฤทธิlของ ข้อบ่งใช้ ข้อห้ามใช้/ข้อควรระวัง/ อาการไม่พึงประสงค์
ยา ข้อแนะนํา
เภสัชวิยา
Glucosamine Glucosamine ถูก ใช้กบั ผูท้ ี4มีภาวะข้อ ควรระมัดระวังการแพ้ใน คลื4นไส้ ท้องเสี ย แสบ
นําไปใช้เป็ นสารตั*งต้น เสื4 อม -ข้อสึ ก ผูป้ ่ วยที4มีประวัติแพ้อาหาร ท้อง ปวดท้อง ท้องอืด
1500 mg/day ในการสร้างสารขนาด Osteoathritis ทะเล โดยเฉพาะกุง้ ปู เพราะ นอกจากนี*ยงั อาจพบ
โมเลกุลใหญ่ เช่น กลูโคซามีนที4มีจาํ หน่าย อาการง่วงซึม ผืน4 แพ้
glycoprotein,glycosam สังเคราะห์มาจากเปลือกของ ผิวหนัง แพ้แสง ปาก
inoglycan, hyaluronic สัตว์ดงั กล่าว คอบวม (angioedema)
acid ซึ4งสารเหล่านี*เป็ น หรื อกระตุน้ ให้เกิดการ
ส่ วนประกอบใน จับหื ดได้
เนื*อเยือ4 เกือบทุกชนิด - ควรระมัดระวังการใช้ใน
ของร่ างกาย โดยจะพบ ผูป้ ่ วยโรคเบาหวาน โดยเฉพาะ
ได้มากที4กระดูกอ่อน ถ้าไม่สามารถคุมระดับนํ*าตาล
(cartilage) ซึ4งจะอยูท่ ี4 ในเลือดได้ตามเป้าหมายการ
บริ เวณส่ วนปลายของ รักษา เพราะมีรายงานใน
Analgesics and Anti-inflammatory
กระดูกโดยเฉพาะที4ขอ้ สัตว์ทดลองว่ากลูโคซามีนทํา
ต่อ ให้การหลัง4 อินซูลินลดลงได้
ถึงแม้วา่ จะยังไม่พบรายงาน
ดังกล่าวในคนก็ตาม
โอกาสในการเกิดอาการไม่พึง
ประสงค์เพิ4มขึ*น
ทําให้ง่วงซึม ดังนั*น ถ้าทาน
รับประทานยากลุ่มดังกล่าว
ท่านต้องหลีกเลี4ยงจากการขับ
รถยนต์ หรื อทํางานเกี4ยวกับ
เครื4 องจักร
การรักษาคนไข้ที4มีความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกรที4เปลี4ยนไป เช่น
• disc displacement with reduction
• disc displacement without reduction
• disc dislocation
• luxation/ open locking
• posterior disc displacement
1. Avoidance คือ การหลีกเลี4ยงการเคี*ยวที4ก่อให้เกิดการปวดหรื อเกิดเสี ยงของข้อต่อ เช่นการจํากัดการอ้า
ปาก คือไม่ตอ้ งอ้าปากจนสุ ดจนเกิดเสี ยง click
3. Hyaluronate treatment คือ การใช้สารหล่อลื4นฉี ดเพื4อช่วยให้ขอ้ ต่อทํางานได้ดีข* ึนและลดการปวดของ
ข้อต่อได้