Professional Documents
Culture Documents
ความเชื่อไสยศาสตร์
หมวดหมู่ ประเพณี
ชื่อ นายมั่น โสภาวงษ์ประวัติส่วนตัวนายมัน ่ โสภาวงษ์ เกิดวันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๘๕ อายุ ๗๐ ปอ ี ยู่บ้านเลขที่ ๑๐๓หมู่ที่ ๓
บ้านหนองบก ตำบลหนองบก อำเภอเหล่าเสือโก้ก จังหวัดอุบลราชธานี จบการศึกษาประถมศึกษาปีที่ ๔
ประกอบอาชีพเกษตรกรรมนายมัน ่ โสภาวงษ์เปน ็ ชาวบ้านหนองบก ตำบลหนองบก อำเภอเหล่าเสือโก้ก จังหวัดอุบลราชธานี
เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในการรักษาผู้ทีป่ ว่ ยที่เป็นโรคต่าง ๆ ด้วยวิธีทางไสยศาสตร์ เรียกว่า “อาถรรพเวทย์”
(เป็นคัมภีร์ประกอบด้วยเวทย์มนต์คาถาเรียกผีสาง เทวดาให้ช่วยป้องกันอันตรายให้ และให้มีการแก้อาถรรพ์
ทำพิธีสาปแช่งให้เป็นอันตรายได้ด้วย) โดยได้รับการถ่ายทอดวิธีการรักษามาจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น
จากการทีไ่ ด้เห็นการรักษาอยู่บ่อยครัง้ จึงเกิดความสนใจและเห็นว่าสมารถรักษาให้หายได้จริง
จึงได้ศึกษาวิธีการรักษาและฝึกฝนจนเกิดความเชี่ยวชาญและสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้
จนได้รับการยอมรับจากประชาชนในพืน ้ ที่ คำว่า ไสย หมายถึง ลัทธิอันเนื่องด้วยเวทย์มนต์ คาถา และวิทยาคม
ไสยนั้นแบ่งออกเป็นไสยขาว อันหมายถึงวิชชาอันลึกลับใช้เวทย์มนต์ไปในทางทีด ่ ี เช่นการทำเครือ
่ งราง
ของขลังและวัตถุมงคลต่างๆ เพื่อป้องกันภัยอันตราย หรือเพื่อเป็นเมตตามหานิยม เมตตามหาเสน่ห์และอิทธิวิธี
ส่วนไสยดำหมายถึงวิชชาที่กระทำคนให้เป็นไปต่างๆนาๆเช่น ปล่อยคุณไสย ปล่อยตะปูเข้าท้องคนอืน ่ ปล่อยหนังควายเข้าท้อง
บิดลำใส้ ปล่อยผีไปทำร้ายผู้อ่ืนให้มีอันเป็นไปต่างๆนาๆ นำบาตรวัดร้างไปฝังเพื่อทำให้บ้านแตกสาแหรกขาด เปน ็ ต้นคำว่า ไสย
นี้แปลความหมายอีกอย่างก็หมายถึงสิง่ ทีล ่ ึกลับทีไ่ ม่สามารถมองเห็นด้วยตาเนือ ้ ได้นอกจากเมือ่ มันได้ออกมาเ
ป็นผลลับแล้วเท่านั้น ส่วนคำว่า ศาสตร์ หมายถึง ตำรา วิชา วิทยา คำสัง่ ข้อบังคับบัญชา ศาสนา รวมเข้ากับไสย เปน ็ ไสยศาสตร์
อันหมายถึง ตำราทางไสยยาศาสตร์ลึกลับเกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาร เวทย์มนต์ คาถา อำนาจจิต เปน ็ ต้น ไสยเวทย์ ไสยศาสตร์
หมายถึงตำราทางไสย วิชาทางไสย ไสยศาสตร์ เป็นวิชาว่าด้วยลัทธิเวทย์มนต์คาถาและวิยาคมเปน ็ ศาสตร์ ๆ
่ ่
หนึงทีแยกย่อยมาจากศาสตร์ ๑๘ ประการของอินเดียโบราณไสยศาสตร์ ลัทธิไสยศาสตร์ คือการรวมอำนาจจิต
รวมพลังงานทางจิตซึ่งได้ทำการอบรมจิตใจให้มีความยึดมัน ่ เชือ
่ ถือ อย่างจริงจัง ดำเนินไปตามหลักทางไสยศาสตร์
ตามวิธีการนั้น ๆ ก็จะสามารถแสดงฤทธิ์ปาฎิหารย์ได้ด้วยกระแสคลื่นแห่งพลังอำนาจจิตอันแรงกล้า ของ
มโนภาพสมาธิจิตตานุภาพทั้งสามประการนี้ จึงเปน ็ บ่อเกิดแห่งอำนาจทีป ่ ระหลาดมหัศจรรย์ขึน ้ ได้ ลัทธิไสยศาสตร์
ได้เกิดขึ้นมาก่อนพุทธกาลในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ไตรเพทในลัทธิของพราหมณ์ได้แบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ ๑.ฤคเวทย์
เป็นคำฉันท์ใช้สำหรับสวดมนต์และสรรเสริญพระเจ้า ๒.ยชุรเวทย์ เป็นคำร้อยแก้วให้สำหรับท่องบ่นเวลาบวงสรวงบูชาพระเจ้า
๓.สามเวทย์ เป็นคำฉันท์ใช้สำหรับสวดมนต์ทำพิธีถวายน้ำโสม ๔.อาถรรพเวทย์
เป็นคัมภีร์ประกอบด้วยเวทยมนต์คาถาเรียกผีสาง เทวดาให้ช่วยป้องกันอันตรายให้ และให้มีการแก้อาถรรพ์
ทำพิธีสาปแช่งให้เป็นอันตรายได้ด้วย อาถรรพเวทย์ในคัมภีร์ไสยศาสตร์ แยกออกเป็น 2 นิกาย คือ ๑.นิกายขาว (White
System) เป็นวิชาที่ใช้ในทางดี คือช่วยเหลือมนุษย์ให้มีสุขปลอดภัย ๒.นิกายดำ (Black System) เปน ็ วิชาทีใ่ ช้ในทางชัว่
่ ์ ์
คือทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้อืน คัมภีร์แสดงถึงความศักดิสิทธิทางเวทมนตร์คาถามี 8 ประเภทคือ ๑.พระเวทย์แก้โรคต่าง ๆ
๒.พระเวทย์ประสาน ๓.พระเวทย์สะเดาะ เช่น สะเดาะกุญแจและโซ่ตรวน ๔.พระเวทย์ป้องกันตัว เช่น คาถาแคล้วคลาด
๕.พระเวทย์แสดงปาฎิหาริย์ ๖.พระเวทย์ทำอันตรายผู้อ่ืน ๗.พระเวทย์แก้ภูติผีปีศาจ เช่น คาถาสะกดวิญญาณ
๘.พระเวทย์ทำเสน่ห์ เช่น มนตร์เทพรำจวญ
ข้อมูลโดย : สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม