Professional Documents
Culture Documents
ฟังก์ชันของตัวแปรหลายตัวแปร
ฟังก์ชันของตัวแปรหลายตัวแปร
ฟังก์ชันของตัวแปรหลายตัวแปร
(Functions of Several Variables)
1.1 ระบบพิกัดฉากในปริภูมิสามมิติ
สาหรับระบบพิกัดฉากในปริภูมิสองมิติ เรามีระนาบ (plane) และบอกตาแหน่ง
ของจุดต่างๆ ของรูปกราฟบนระนาบด้วยคู่อันดับ (x, y) ซึ่งเป็นการบอกตาแหน่งของจุด
ด้วยระยะทางที่ห่างจากเส้นตรงสองเส้นที่ตั้งฉากกันและตัดกันที่จุด O ซึ่งเรียกว่า จุด
กาเนิด
z
ระบบพิกัดฉากในปริภูมิสามมิติประกอบด้วย
x เส้นตรงสามเส้น คือ เส้นตรง xx เส้นตรง
yy และเส้นตรง zz เส้นตรงทั้งสามนี้ตั้ง
ฉากซึ่งกันและกัน และตัดกันที่ จุด O ซึ่ง
y
0 y เรียกว่า จุดกาเนิด (origin) เรียกเส้นตรง
xx ว่า แกน x เรียกเส้นตรง yy ว่า แกน y
และเรียกเส้นตรง zz ว่าแกน z และให้
x
z ระยะตามแกน x, แกน y และแกน z
ในทิศทางดังรูปที่ 1.1 เป็นบวกและระยะใน
รูปที่ 1.1 ทิศทางตรงข้ามเป็นลบ
ข้อสังเกต
1. ในปริภูมิสามมิติเรามีระนาบหลัก 3 ระนาบ คือ ระนาบ xy ระนาบ yz และระนาบ xz
2. ทิศทางที่ระยะตามแกน x, แกน y และแกน z เป็นบวก นอกจากจะเป็นเช่นรูปที่ 1.1
แล้วยังเป็นไปในแบบอื่น ๆ ได้ ทั้งนี้แต่ละแบบให้เป็นไปตามกฎมือขวา
3. มีคนจานวนไม่น้อยมีปัญหาในการมองภาพสามมิติ จึงน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะมอง
2
ระนาบ xz
ระนาบ yz
y
x
ระนาบ xy
รูปที่ 1.2
จุดในปริภูมิสามมิติ
ให้ P เป็นจุดในปริภูมิสามมิติ ดังแสดงในรูปที่ 1.3
z ลากเส้นตรง PQ ขนานกับแกน z พบ
ระนาบ xy ที่ จุด Q บนระนาบ xy
C D
ลากเส้นตรง QA และ QB ขนานกับแกน y
R P และแกน x และตัดแกน x และแกน y ที่
B y
0 0z จุด A และจุด B ตามลาดับ ในทานองเดียว-
A
Q
x0 กัน ลาก PR ขนานกับแกน y พบระนาบ
y
0 xz ที่จุด R บนระนาบ xz ลากเส้นตรง RA
x และ RC ขนานกับแกน z และแกน x
รูปที่ 1.3
และตัดแกน x และแกน z ที่จุด A
และจุด C ตามลาดับ
ถ้าจุด A, B, C อยู่ห่างจากจุด O เป็นระยะทาง x0, y0 และ z0 ตามลาดับ เราจะเขียน
แทนจุด P ด้วย (x0, y0, z0) และจะกล่าวว่าจุด P มีพิกัดเป็น (x0, y0, z0) ดังนั้นจะเห็นว่า
เราบอกตาแหน่งของจุด P ด้วยระยะที่วัดขนานกับแกน x แกน y และแกน z ในทิศทาง
ตั้งฉากกับระนาบ yz ระนาบ xz และระนาบ xy ตามลาดับ
3
z
P2 (x 2 ,y 2 ,z 2 )
R(x 2 ,y 2 ,z1 )
x รูปที่ 1.7
5
ในทานองเดียวกันเราหาจุดกึ่งกลางได้โดยเขียนรูปประกอบและใช้สูตรจุดกึ่งกลาง
ระหว่างจุดสองจุดในสองมิติ นักศึกษาลองทาดูเป็นแบบฝึกหัด
Q
P
P1
รูปที่ 1.8
ให้ P เป็นจุดกึ่งกลางของเส้นตรง P1P2 และ Q เป็นจุดที่ต้องการดังรูปที่ 1.8
ดังนั้นพิกัดของจุด P คือ
(1 3 , 2 5 , 2 7 ) (1, 7 , 5 )
2 2 2 22
เนื่องจาก Q เป็นจุดกึ่งกลางของเส้นตรง PP2
ดังนั้นพิกัดของ Q คือ
( 1 3 , (7 / 2) 5 , (5 / 2) 7 ) (2, 17 , 19 )
2 2 2 4 4
แบบฝึกหัดที่ 1.1
1. จงเขียนรูปแสดงตาแหน่งของจุดต่อไปนี้
(1,1,2), (–1,3,0), (–1,–2,–1), (0,–1,2), (–3,1,–4)
2. จงหาความยาวของด้านทั้งสามของสามเหลี่ยม ABC เมื่อพิกัด A, B และ C เป็นดังนี้
A(3,1,–1) , B (2,1,4) และ C(7,3,1)
3. จงหาความยาวของเส้นมัธยฐานของสามเหลี่ยม ABC ถ้าพิกัด A, B และ C เป็นดังนี้
A(4,3,1), B(2,1,2) และ C(0,2,4)
4. ให้ Q เป็นจุดกึ่งกลางของเส้นตรง P1P2 โดยที่ P1 มีพิกัด (–2,1,6) จุด Q อยู่บน
ระนาบ y = 3 และจุด P2 อยู่บนส่วนที่ตัดกันระหว่างระนาบ x = 4 และระนาบ
z = –6 จงหาพิกัดของ P2 และ Q
5. กาหนดจุด P(6,2,3), Q (–5,–1,4) และ R(0,3,8) จงพิจารณาว่า จุดใดอยู่ใกล้ระนาบ
xz ที่สุด และจุดใดอยู่บนระนาบ yz
6. จงหาภาพฉายของจุด (2,3,5) บนระนาบ xy บนระนาบ yz และบนระนาบ xz
จากนั้นเขียนรูปกล่องรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีจุดกาเนิดอยู่ตรงกันข้ามกับจุด(2,3,5) และ
มีด้านแต่ละด้านขนานกับระนาบพิกัด พร้อมทั้งเขียนกากับจุดยอดของกล่องและหา
ความยาวของเส้นทแยงมุมของกล่องด้วย
7. จงพิจารณาว่า จุดสามจุดที่กาหนดให้ในแต่ละข้ออยู่บนแนวเส้นตรงเดียวกัน
ก. A(5,1,3), B (7,9,–1) และ C(1,–15,11)
ข. A(0,3,–4), B (1,2,–2) และ C(3,0,1)
คาตอบแบบฝึกหัดที่ 1.1
2. 26, 24, 38 3. 61 , 10 , 61
2 2 2
4. (4,5,–6), (1,3,0) 5. Q, R
6. (2,3,0), (0,3,5), (2,0,5) 7. ก.
7
1.2 ฟังก์ชันของตัวแปรหลายตัวแปร
เราได้ศึกษามาแล้วเกี่ยวกับฟังก์ชันที่มีตัวแปรอิสระเพียงตัวเดียว ซึ่งมักเขียนใน
รูปแบบ y = f(x) โดยที่ x เป็นตัวแปรอิสระและ y เป็นตัวแปรตาม แต่ในบางครั้งเราก็
สนใจฟังก์ชันที่มีตัวแปรอิสระหลายตัว
บทนิยามที่ 1.1 ให้ D เป็นเซตของคู่อันดับของจานวนจริง ฟังก์ชัน f จาก D ไปยังเซต
ของจานวนจริง R หมายถึง กฎหรือสูตรอย่างใดอย่างหนึ่งที่สาหรับ คู่อันดับ (x, y) ใน D
จะมีจานวนจริง f(x, y) เพียงค่าเดียวเท่านั้นที่ สัมพันธ์กับ (x, y) เราเรียก f ว่าฟังก์ชัน
ของตัวแปรสองตัวแปร เรียก D ว่า โดเมนของ f และอาจเขียนแทนด้วย Df เรนจ์
ของ f เขียนแทนด้วย Rf ประกอบด้วยจานวนจริง f(x, y) ทั้งหมดสาหรับ (x, y) ที่อยู่ใน
D ดังนั้น Rf = {f(x, y) R |(x, y) D} นอกจากนี้เรายังเรียก f ว่า ฟังก์ชันของ x และ
y โดยทั่วไปจะเขียน z แทน f(x, y) ตัวอย่างของฟังก์ชันของ x และ y เช่น
f(x, y) = x + y
ฟังก์ชันของตัวแปรมากกว่าสองตัวนิยามในทานองเดียวกัน
โดเมนเป็ นเรื่องที่ ส าคัญมากเรื่องหนึ่ง ถ้ า ฟังก์ชัน ที่กาหนดมาให้ไม่ ได้กาหนด
โดเมนไว้ให้ถือว่า โดเมนเป็นสับเซตที่ใหญ่ที่สุดของ R R เช่น สาหรับฟังก์ชัน
2 2
f(x,y) x2 y2 โดเมนคือ Df = {(x, y) R R | (x, y) (0,0)}
x y
รูปที่ 1.9
8
-4
รูปที่ 1.10
1.3 การวาดรูปผิวโดยทั่วไป
ในสองมิติเรามีกราฟของฟังก์ชัน y = f(x) หรือกราฟของสมการของสองตัวแปร
f(x, y) = 0 ซึ่งโดยปกติสามารถแสดงกราฟเหล่านี้ได้ด้วยเส้นโค้งบนระนาบ xy เมื่อขยาย
แนวคิดนี้ออกไปถึงกราฟของฟังก์ชันของตัวแปรสองตัวแปร z = f(x, y) หรือกราฟของ
สมการสามตัวแปร f(x, y, z) = 0 เราพบว่ากราฟทั้งสองอย่างนี้สามารถแสดงได้ด้วยเซต
ของจุดในปริภูมิสามมิติ เราเรียกกราฟนี้ว่า ผิว (surface) และเรียกสมการ f(x, y, z) = 0
ว่า สมการของผิว สาหรับฟังก์ชัน z = f(x, y) จะได้ว่า
กราฟ f = {(x, y, z) | z = f (x, y)}
= {(x, y, z) | g(x, y, z) = 0 เมื่อ g(x, y, z) = z – f (x, y)}
การแสดงผิ ว ด้ ว ยรู ป ในปริภู มิ ส ามมิติ นั้ น ยุ่ งยากกว่ า การเขี ยนกราฟในสองมิ ติ
อย่างไรก็ตามเพื่อให้การเขียนรูปพื้นผิวง่ายขึ้น เรามีหลักในการปฏิบัติดังนี้คือ
1. พิจารณาจุดตัดของผิวกับแกน x, แกน y และแกน z
2. พิจารณารอยตัดของผิวกับระนาบพิกัด ได้แก่ xy ระนาบ yz และระนาบ xz
3. พิจารณารอยตัดของผิวกับระนาบที่ขนานกับระนาบ xy ระนาบ yz และ
ระนาบ xz
9
การพิจารณารอยตัดของผิวกับระนาบพิกัด
ตัวอย่างที่ 1.9 จงอธิบายลักษณะและวาดรูปของผิว x2 = 4 – z อย่างละเอียด
วิธีทา พิจารณาจุดตัดบนแกน x แกน y และแกน z
แทนค่า y = 0 และ z = 0 ลงในสมการผิว จะได้ x2 = 4 นั่นคือ x = 2
ดังนั้นจุดตัดบนแกน x คือ (2,0,0) และ(–2,0,0)
แทนค่า x = 0 และ y = 0 ลงในสมการผิว จะได้ z = 4
ดังนั้นจุดตัดบนแกน z คือ จุด (0,0,4)
แทนค่า x = 0 และ z = 0 ลงในสมการผิวจะได้ 0 = 4 ซึ่งเป็นไปไม่ได้
10
-2
y
0
x
รูปที่ 1.11
1.4 ผิวกาลังสอง
เซตของจุด (x, y, z) ซึ่งคล้องตามสมการกาลังสองในตัวแปร x, y, z ซึ่งมีรูปแบบ
ทั่วไปเป็น
2 2 2
Ax + By + Cz + Dxy + Eyz + Fxz + Gx + Hy + Kz + L = 0
เรียกว่า ผิวกาลังสอง (quadric surface) เมื่อ A, B, C , D, E, F ไม่เป็นศูนย์พร้อมกัน
ในการวาดรูปผิวกาลังสองนี้ เราวาดโดยดูรอยตัดในระนาบพิกัดเป็นสาคัญ เราจะพบว่า
11
รูปที่ 1.13
x2 y2 ck และ z = k
a2 b2
- ถ้า k > 0 ได้วงรี
- ถ้า k = 0 ได้จุดกาเนิด
- ถ้า k < 0 ไม่มีรอยตัด
กราฟของพื้นผิวแสดงดังรูปที่ 1.14
รูปที่ 1.14
รูปที่ 1.15
รอยตัดด้วยระนาบ yz ได้สมการของรอยตัดเป็น
9z2 = 4y2 และ x = 0
หรือ
z 2y และ x = 0
3
มีกราฟเป็นเส้นตรงสองเส้นบนระนาบ yz ตัดกันที่จุดกาเนิด
กราฟของผิวเป็นกรวยเชิงวงรี แสดงดังรูปที่ 1.16
รูปที่ 1.16
รูปที่ 1.17
แบบฝึกหัดที่ 1.2
จงบอกชื่อและอธิบายรายละเอียด พร้อมทั้งวาดรูปของผิวต่อไปนี้
1. x2 + 5y2 + 2z = 0 2. x2 + 9y2 – 4z2 = 0
3. x2 + 4y2 + 2z2 – 3 = 0 4. x = 4z2
5. 3y2 + 2z2 – 7x = 0 6. –5x2 + 3y2 + 4z2 = 0
x 2 y2
7. 1
4 9
18
คาตอบแบบฝึกหัดที่ 1.2
1. อิลิปติกพาราโบลอยด์ 2. กรวยเชิงวงรี 3. ทรงรี
4. ทรงกระบอกพาราโบลิก 5. อิลิปติกพาราโบลอยด์
6. กรวยเชิงวงรี 7. ทรงกระบอกไฮเพอร์โบลิก