Thai Lesso Plan Lets Go4e Level 1-Part 1

© Copyright Oxford University Press

แผนการจัดการเรียนรู
Let’s Go 4th Edition level 1

คํานํา
คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู ชุดหนังสือภาษาอังกฤษ Let’s Go 4th edition เปนสื่อการเรียนรูใน

ชุดการเรียนการสอนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Let’s Go 4th edition ที่จัดทําขึ้นเพื่อใชเปนแนวทางใน
การจัดการเรียนรูโดยยึดหลักการออกแบบการจัดการเรียนรูแบบ Outcome-Based Education ที่เปน
การศึกษาที่มุงผลลัพธ โดยผูเรียนเปน ศูนยกลาง (Student-centered) และครูอาจารยเปนผูจัดกระบวนการ
“เรียนรู” และจัดการเรียนการสอน “แนวระนาบ” ที่ครูหรืออาจารยจะเรียนรูรวมกับนักเรียน และเรียนรูจาก
นักเรียนไดดวย นอกจากนี้ วิธีการเรียนรูจะใชกิจกรรม และการลงมือปฏิบัติ เปนหลัก และตองมีการใหผูเรียน
ไดสรุปบทเรียนการเรียนรู (reflection) อยางสม่ําเสมอ เพื่อใหผูเรียนไดแลกเปลี่ยนเรียนรูซึ่งกันและกัน และ
ตองมีการประเมินผล หรือประเมิน “ผลลัพธ”เพื่อใหผูเรียนได เกิดการพัฒนาตนเอง นอกจากนี้ ใหนักเรียน
สามารถเชื่อมโยงความรูในกลุมสาระการเรียนรูอื่น ๆ ไดในเชิง บูร ณาการดวยวิธีการที่ห ลากหลาย เนน
กระบวนการคิดวิเคราะห สังเคราะห และสรุปความรูดวยตนเอง ทําใหนักเรียนไดรับการพัฒนาทั้งดานความรู
ดานทักษะ/กระบวนการ และดานคุณธรรม จริยธรรม คานิยมและคุณลักษณะอันพึงประสงค นําไปสูการอยู
รวมกันในสังคมอยางสันติสุข
ชุดการเรียนการสอน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Let’s Go 4th edition ชั้นประถมปที่ 1-6 โดยแตละชั้น
ประกอบดวยสื่อการเรียนรู ดังนี้ 1) หนังสือเรียน Student Book 2) แผนซีดี (Audio CDs) 3) แบบฝกหัด
Workbook และ 4) คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู
การจัดทําคูมือครู แผนการจัดการเรียนรู ภาษาอังกฤษนี้ไดจัดทําตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งครอบคลุมทุกสาระการเรียนรู คือ ภาษาเพื่อการสื่อสาร ภาษาและวัฒนธรรม
ภาษากับความสัมพันธกับกลุมสาระการเรียนรูอื่น และภาษากับความสัมพันธกับชุมชนและโลก ภายในเลมได
นําเสนอแผนการจัดการเรียนรูเปนรายชั่วโมงตามหนวยการเรียนรู เพื่อใหครูนําไปใชในการจัดการเรียนรูไ ด
สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้แตละหนวยการเรียนรูยังมีการวัดและประเมินผลการเรียนรูทั้ง 3 ดาน ไดแก ดาน
ความรู ดานทักษะ/กระบวนการ และดานคุณธรรม จริยธรรม และคานิยม ทําใหทราบผลการเรียนรูแตละ
หนวยการเรียนรูของผูเรียนไดทันที
คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู ภาษาอังกฤษชุดนี้นําเสนอเนื้อหาแบงเปน 2 ตอน คือ
ตอนที่ 1 คําแนะนําการจัดการเรียนรูชุดการเรียนการสอน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Let’s Go
4th edition ประกอบดวย (1) แนวทางการใชแผนการจัดการเรียนรู (2) การออกแบบการจัดการเรียนรู
เทคนิคและการวัด-ประเมินผลตามแนวคิดของการศึกษาที่มุงผลลัพธ (Outcome-based Education--OBE)
กรอบอา งอิง ความสามารถทางภาษาของสหภาพยุโ รป (The Common European Framework of
Reference for Languages--CEFR) และ การสอนภาษาอัง กฤษเพื่อการสื่ อสาร (Communicative
Language Teaching--CLT) และ (3) สาระมาตรฐานการเรียนรู และตัวชี้วัดชั้นป

ตอนที่ 2 แผนการจัดการเรียนรูรายหนวยการเรียนรู ไดเสนอแนะแนวทางการจัดการเรียนรูโดยใชสื่อ
การเรียนรูในชุดการเรียนการสอน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Let’s Go 4th edition 1-6 แบงเปนแผน
ยอยรายชั่วโมง ซึ่งแผนการจัดการเรียนรูแตละแผนมีองคประกอบครบถวนตามแนวทางการจัดทําแผนการ
จัดการเรียนรูของสถานศึกษา
คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู ภาษาอังกฤษชุดนี้ไดออกแบบการเรียนรูดวยเทคนิคและวิธีการสอน
อยางหลากหลาย หวัง วา จะเปนประโยชนตอการนํ าไปประยุก ตใชในการจัด การเรียนรูใหเ หมาะสมกั บ
สภาพแวดลอมของนักเรียนตอไป
คณะผูจัดทํา

สารบัญ
แนวทางการจัดการเรียนรู้ .............................. 2 หน่วยย่อยที่ 4: Let’s Read ........... 142

ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของ แผนการทบทวนความรูห้ น่วยที่ 3 - 4........ 150
เนื้อหาสาระกับมาตรฐานการ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 .......................... 159
เรียนรู้และตัวชี้วัดชั้นปี ...................... 16 หน่วยย่อยที่ 1: Let’s Talk ............. 166
แผนการจัดการเรียนรูเ้ ตรียมพื้นฐาน หน่วยย่อยที่ 2: Let’s Learn .......... 170
ก่อนเรียน (Let’s Remember) ........ 18 หน่วยย่อยที่ 3: Let’s Learn
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ............................ 31 More .............................................. 175
หน่วยย่อยที่ 1: Let’s Talk ............... 38 หน่วยย่อยที่ 4: Let’s Read ........... 179
หน่วยย่อยที่ 2: Let’s Learn ............ 42 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 .......................... 188
หน่วยย่อยที่ 3: Let’s Learn หน่วยย่อยที่ 1: Let’s Talk ............. 195
More ................................................ 47 หน่วยย่อยที่ 2: Let’s Learn .......... 200
หน่วยย่อยที่ 4: Let’s Read ............. 51 หน่วยย่อยที่ 3: Let’s Learn
หน่วยย่อยที่ 2: Let’s Learn ............ 69 แผนการทบทวนความรูห้ น่วยที่ 5 - 6........ 218
หน่วยย่อยที่ 3: Let’s Learn แผนจัดการเรียนรู้ที่ 7 ................................ 227
More ................................................ 74 หน่วยย่อยที่ 1: Let’s Talk ............. 234
หน่วยย่อยที่ 4: Let’s Read ............. 78 หน่วยย่อยที่ 2: Let’s Learn .......... 249
แผนการทบทวนความรูห้ น่วยที่ 1 – 2 ......... 85 หน่วยย่อยที่ 3: Let’s Learn
หน่วยย่อยที่ 2: Let’s Learn .......... 103 แผนจัดการเรียนรู้ที่ 8 ................................ 255
หน่วยย่อยที่ 3: Let’s Learn หน่วยย่อยที่ 1: Let’s Talk ............. 262
More .............................................. 108 หน่วยย่อยที่ 2: Let’s Learn .......... 266
หน่วยย่อยที่ 4: Let’s Read ........... 113 หน่วยย่อยที่ 3: Let’s Learn
แผนจัดการเรียนรู้ที่ 4 ................................ 122 More .............................................. 271
หน่วยย่อยที่ 1: Let’s Talk ............. 130 หน่วยย่อยที่ 4: Let’s Read ........... 276
หน่วยย่อยที่ 2: Let’s Learn .......... 134 แผนการทบทวนความรูห้ น่วยที่ 7 – 8 ....... 283
หน่วยย่อยที่ 3: Let’s Learn ตัวอย่างแบบประเมินผลทักษะ
More .............................................. 138 ภาษาอังกฤษ ................................... 293

ตัวอยางเกณฑการคะแนนทักษะการฟง ..... 294 ตัวอยางเกณฑการประเมินการเขียน .......... 304
กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ
(ภาษาอังกฤษ)............................... 295 (ภาษาอังกฤษ) ............................... 305
ตัวอยาง เกณฑการใหคะแนนการอาน ตัวอยาง เกณฑการใหคะแนนการ
ออกเสียงคําศัพท............................ 296 ทํางานกลุม .................................... 306
กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
(ภาษาอังกฤษ)............................... 297 ของผูเรียน ดานความซื่อสัตย
ตัวอยาง เกณฑการใหคะแนนการพูด สุจริต มีวินัย ใฝเรียนรู มุงมั่นใน
ประโยคตามโครงสราง.................... 298 การทํางาน ..................................... 309
กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
(ภาษาอังกฤษ)............................... 299 ของผูเรียน ดานรักชาติ ศาสน
ตัวอยาง เกณฑการใหคะแนนการพูด กษัตริย อยูอยางพอเพียง รัก
โตตอบตามสถานการณที่ ความเปนไทย มีจิตสาธารณะ .......... 309
กําหนดให ...................................... 300 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค
กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ของผูเรียน ดานความซื่อสัตย
(ภาษาอังกฤษ)............................... 301 สุจริต มีวินัย ใฝเรียนรู มุงมั่นใน
ตัวอยาง เกณฑการใหคะแนนการพูด การทํางาน ..................................... 310
บรรยายตามสถานการณที่ แบบประเมินสมรรถนะสําคัญของ
กําหนดให ...................................... 302 ผูเรียน............................................ 311
กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ แบบทดสอบ............................................. 312
(ภาษาอังกฤษ)............................... 303 เฉลยแบบทดสอบ ..................................... 357

ตอนที่ 1
แนวทางการจัดการเรียนรู
ชุดการเรียนการสอนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ
Let’s Go 4th edition
แผนการจัดการเรียนรู 1
1. แนวทางการใชแผนการจัดการเรียนรู
คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู ภาษาอัง กฤษ Let’s Go (4th Edition) เลมนี้จัดทําขึ้นเพื่อเปน
แนวทางใหครูใชประกอบการจัดการเรียนรูกลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ชั้นประถมศึกษาปที่ 1 ตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งการแบงหนวยการเรียนรูสําหรับจัดทําแผนการ
จัดการเรียนรูรายชั่วโมงในคูมือครู
หนังสือเรียน Let’s Go ฉบับปรับปรุงรอบที่ 4 แบงไดออกเปน 8 หนวยการเรียนรู ดังนี้
หนวยการเรียนรูที่ 1: Things for School
หนวยการเรียนรูที่ 2: Colors and Shapes
หนวยการเรียนรูที่ 3: At the Store
หนวยการเรียนรูที่ 4: People at Home
หนวยการเรียนรูที่ 5: Happy Birthday!
หนวยการเรียนรูที่ 6: Outdoors
หนวยการเรียนรูที่ 7: Food
หนวยการเรียนรูที่ 8: Animals
คูมือครู แผนการจัดการเรียนรูนี้ไดนําเสนอรายละเอียดไวครบถวนตามแนวทางการจัดทําแผนการ
จัดการเรียนรูตามแนวทาง การศึกษาที่มุงผลลัพธ (Outcome-based Education) และกรอบแนวคิดของคูมือ
การจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแนวใหม ตามกรอบอางอิงความสามารถทางภาษาของสหภาพยุโรป
หรือ The Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) และการสอน
ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร (Communicative Language Teaching) ดังที่ระบุไวในคูมือการจัดการเรียน
การสอนภาษาอังกฤษแนวใหมตามกรอบ CEFR ตามนโยบายการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษและ
แนวทางการสอนภาษาอังกฤษแนวใหมตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ และคุณลักษณะอันพึงประสงค
ไวอยางครบถวนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ครูควรศึกษาคูมือครู แผนการ
จัดการเรียนรูนี้ใหล ะเอียดเพื่อปรับ ใชใหสอดคลองกับ สภาพแวดลอม สถานการณ และสภาพบริบทของ
นักเรียน
ในแตละหนวยการเรียนรูจะแบงออกเปน 4 หนวยยอย ประกอบดวย Let’s Talk, Let’s Learn,
Let’s Learn More และ Let’s Read ทั้งนี้ ในแตละหนวยการเรียนรู แผนการจัดการเรียนรูจะกําหนดเวลา
ไว 5 ชั่วโมงตอ 1 หนวยการเรียนรู โดยอาจารยผูสอนสามารถปรับเวลาและกิจกรรมใหเหมาะสมกับบริบทของ
ผูเรียนและสถานศึกษาของทานได โดยในแตละหนวยการเรียนรู มีองคประกอบดังนี้
1. การวิเคราะหความสอดคลองระหวางวัตถุประสงคของแผนฯ กับหลักสูตรแกนกลางฯ กลุมสาระ
การเรียนรูภาษาตางประเทศ และกรอบแนวคิด CEFR
2 Let’s Go 4th Edition level 1

2. ผังมโนทัศนผลลัพธการเรียนรู (Learning Outcomes) กรอบอางอิงความสามารถทางภาษา CEFR
แสดงขอบขายเนื้อหาการจัดการเรียนรูที่ครอบคลุมความรู ทักษะ/กระบวนการ คุณธรรม จริยธรรม คานิยม
และภาระงาน/ชิ้นงาน
3. กรอบแนวคิดการออกแบบการเรียนรูตามแนวความคิดของการศึกษาที่มุงผลลัพธ (Outcome-
based Education) ควบคูกับ การสอนภาษาอัง กฤษเพื่อการสื่อ สาร (Communicative Language
Teaching) เปนกรอบแสดงแนวคิดในการจัดการเรียนรูของแตละหนวยการเรียนรู แบงเปน 3 ขั้น ไดแก
ภาพประกอบจาก สุมิตรา อังวัฒนกุล (2540)
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเสนอ (Presentation) เปนการใหตัวปอนทางภาษา (Language Input) แกผูเรียน

ซึ่งจัดเปนขั้นการสอนที่สําคัญขั้นหนึ่ง ในขั้นนี้ครูจะนําเสนอเนื้อหาใหม โดยจะมุงเนนการใหผูเรียนไดรับรูและ
ทําความเขาใจเกี่ยวกับความหมายและรูปแบบภาษาที่ใชกันจริงโดยทั่วไป รวมทั้งวิธีการใชภาษา ไมวาเปนดาน
การออกเสียง ความหมาย คําศัพท และโครงสรางไวยากรณที่เหมาะสมกับสถานการณตาง ๆ ควบคูกันไป
ขั้นที่ 2 ขั้นฝกปฏิบัติ (Practice) เปนการฝกใหผูเรียนมีความแมนยําในรูปแบบภาษา เพื่อจะได
สามารถนําไปใชในการสื่อสารตอไป หลังจากที่ผูเรียนไดรับรูปแบบภาษาวาเปนอยางไรและสื่อความหมาย
อยางไรในขั้นนําเสนอไปแลว ในขั้นนึ้ควรเปนการฝกที่เนนความหมาย (Meaningful drills) เพราะผูเรียนมี
ความจําเปนในการใชภาษาเพื่อสื่อความหมาย การฝกเนนความหมายมีหลายแบบ เชน ฝกการเเลกเปลี่ยน
ขอมูล (Information gap) การแสดงบทบาทสมมุติ (Role-play) ฝกดวยการเลนเกมที่มีการควบคุมการใช
ภาษา เปนตน
ขั้นที่ 3 การนําไปใช (Production) เปนการฝกใชภาษาเพื่อการสื่อสาร เปรียบเสมือนการถายโอน
การเรียนรูภาษาจากสถานการณในชั้นเรียนไปสูการนําภาษาไปใชจริง การฝกใชภาษาเพื่อการสื่อสารโดยทั่วไป
มุงหวังใหผูเรียนไดลองใชภาษาในสถานการณตาง ๆ ที่จําลองจากสถานการณจริง หรือที่เปนสถานการณจริง
ดวยตนเองโดยครูผูสอนเปนเพียงผูแนะแนวทางเทานั้น สวนผูเรียนมีหนาที่ในการผลิตภาษา กิจกรรมที่ให
ผูเรียนปฏิบัติควรเปนกิจกรรมที่ใหผูเรียนมีความตองการและมีจุดมุงหมายในการสื่อสาร และเปดโอกาสให
ผูเรียนไดเลือกใชภาษาหรือเนื้อหาดวยตนเองมากที่สุด อีกทั้งผูเรียนควรจะไดประเมินผลการสื่อสารของตน
จากผลสะทอนกลับของผูรวมสื่อสารดวย เพื่อใหการสื่อสารเหมือนจริงมากที่สุด
4. แผนการจัดการเรียนรูรายชั่วโมง เปนแผนการจัดการเรียนรูตามกรอบแนวคิดการออกแบบการ
จัดการเรียนรูตามแนวคิดของ Outcome-based Education และ Communicative Language Teaching
ประกอบดวย
4.1 ชื่อแผนการจัดการเรียนรู ประกอบดวยลําดับที่ของแผน ชื่อแผน และเวลาเรียน เชน หนวย
การเรียนรูที่ 1 Things for School เวลา 5 ชั่วโมง
4.2 สาระสําคัญ เปนความคิดรวบยอดของเนื้อหาที่นํามาจัดการเรียนรูในแตละแผนการจัดการ
เรียนรู
4.3 ผลลัพธการเรียนรู หรือตัวชี้วัดชั้นป ที่ใชตรวจสอบนักเรียนหลังจากเรียนจบเนื้อหาที่นําเสนอ
ในแตละแผนการจัดการเรียนรูนั้น ๆ ซึ่งสอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรูของหลักสูตร และกรอบแนวคิด
CEFR
4.4 จุดประสงคการเรียนรู เปนสวนที่บอกจุดมุงหมายที่ตองการใหเกิดขึ้นแกนักเรียนภายหลังจาก
การเรียนจบในแต ล ะแผน ทั้ง ในดา นความรู (K) ด านคุณธรรม จริยธรรม และคานิยม (A) ด านทัก ษะ/
กระบวนการ (P) ซึ่งสอดคลองสัมพันธกับตัวชี้วัดชั้นปและเนื้อหาในแผนการจัดการเรียนรูนั้น ๆ
4.5 การวัดและประเมินผลการเรียนรู เปนการตรวจสอบผลการจัดการเรียนรูวาหลังจากจัดการ
เรียนรูในแตละแผนการจัดการเรียนรูแลว นักเรียนมีพัฒนาการ ตามผลลัพธการเรียนรูที่คาดหวังไวหรือไม
และมีสิ่งที่จะตองไดรับการพัฒนาปรับปรุงสงเสริมในดานใดบาง ดังนั้น ในแตละแผนการจัดการเรียนรูจึงได
ออกแบบวิธีการและเครื่องมือในการวัดและประเมินผลการเรียนรูดานตาง ๆ ของผูเรียนไวอยางหลากหลาย
เชน การทําแบบทดสอบ การตอบคําถามสั้น ๆ การตรวจผลงาน การสังเกตพฤติกรรมทั้งที่เปนรายบุคคลและ
กลุม เปนตน โดยเนนการปฏิบัติใหสอดคลองและเหมาะสมกับผลลัพธ ตัวชี้วัดและมาตรฐานการเรียนรู
4.6 ผลลัพธและสาระการเรียนรู เปนหัวขอยอยที่นํามาจัดการเรียนรูในแตล ะแผนการจัดการ
เรียนรู ซึ่งสอดคลองกับสาระการเรียนรูแกนกลาง
4.7 แนวทางบูรณาการ เปนการเสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรูในเรื่องที่เรียนรูของ
แตละแผนใหเ ชื่อมโยงสัมพันธกับสาระการเรียนรูอื่น ๆ ไดแก ภาษาไทย คณิตศาสตร วิทยาศาสตร สังคม
ศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ และการงานอาชีพและเทคโนโลยี เพื่อใหการ
เรียนรูสอดคลองและครอบคลุมสถานการณจริง

4.8 กระบวนการจัดการเรียนรู เปนการเสนอแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรูเนื้อหาในแตละ
เรื่อง โดยใชแนวคิดและทฤษฎีการเรียนรูตาง ๆ ตามความเหมาะสม ทั้งนี้เพื่อใหครูนําไปใชประโยชนในการ
วางแผนการจัดการเรียนรูไดอยางมีประสิทธิภาพ ซึ่งการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร (Communicative
Language Teaching) ประกอบดวย 3 ขั้น ไดแก
ขั้นที่ 1 ขั้นนํา
ขั้นที่ 2 ขั้นปฏิบัติ
ขั้นที่ 3 ขั้นนําไปใช
4.9 กิจกรรมเสนอแนะ เปนกิจกรรมเสนอแนะสําหรับใหนักเรียนไดพัฒนาเพิ่มเติมในดานตาง ๆ
นอกเหนือจากที่ไดจัดการเรียนรูมาแลวในชั่วโมงเรียน
4.10 สื่อ/แหลงการเรียนรู เปนรายชื่อสื่อการเรียนรูท ุกประเภทที่ใชในการจัดการเรียนรู ซึ่งมีทั้งสื่อ
ธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ สื่อเทคโนโลยี และสื่อบุคคล เชน หนังสือ เอกสารความรู รูปภาพ เครือขายอินเทอรเน็ต
เปนตน
4.11 บั น ทึ ก หลั ง การจั ด การเรี ย นรู เป น ส ว นที่ ใ ห ค รู บั น ทึ ก ผลการจั ด การเรี ย นรู ว า ประสบ
ความสําเร็จหรือไม มีปญหาหรืออุปสรรคอะไรเกิดขึ้นบาง ไดแกไขปญหาและอุปสรรคนั้นอยางไร สิ่งที่ไมไ ด
ปฏิบัติตามแผนมีอะไรบาง และขอเสนอแนะสําหรับการปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรูครั้งตอไป
ครูควรศึกษาแผนการจัดการเรียนรูเพื่อเตรียมการสอนอยางมีประสิทธิภาพ จัดกิจกรรมใหนักเรียนได
พัฒนาครบทุกสมรรถนะสําคัญที่กําหนดไวในหลักสูตรและกรอบ CEFR กลาวคือ สมรรถนะในการสื่อสาร การ
คิด การแกปญหา การใชทักษะชีวิต และการใชเทคโนโลยี รวมถึงคุณลักษณะอันพึงประสงคตามหลักสูตร และ
กิจกรรมเสนอแนะเพื่อการเรียนรูเพิ่มเติมใหเต็มตามศักยภาพของนักเรียนแตละคน ซึ่งไดกําหนดไวในแผนการ
จัดการเรียนรูนี้แลว
นอกจากนี้ครูสามารถปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรูใหสอดคลองกับสภาพความพรอมของนักเรียน
และสถานการณเฉพาะหนาได ซึ่งจะใชเปนผลงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะได
2. การออกแบบการจัดการเรียนรู เทคนิคและการวัด-ประเมินผลตามแนวคิดของการศึกษาที่
มุงผลลัพธ (Outcome-based Education--OBE) กรอบอางอิงความสามารถทางภาษาของ
สหภาพยุโรป (The Common European Framework of Reference for Languages--
CEFR) ละ การสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร (Communicative Language Teaching-
-CLT)
2.1 การออกแบบการจัดการเรียนรูตามแนวคิดของ Outcome-based Education
หลักการวัดและประเมินผลแบบ outcome-based assessment ที่ มีวัตถุประสงคเพื่อประเมิน
สัม ฤทธิผ ลของนัก เรียนตาม learning outcomes เมื่อผานกระบวนการเรียนการสอนในรายวิชา (ตาม
course learning outcomes) หรือในหลักสูตร (ตาม program learning outcomes) โดยที่วิธีการวัดผล
ตางๆ ตองมีความสอดคลองกับวิธีการเรียนการสอน (teaching and learning methods) และ learning
outcomes ที่กําหนดไวในรายวิชาหรือหลักสูตร นอกจากนี้ยังตองเปนวิธีการวัดผลที่มี validity มี reliability
ตามมาตรฐานการวัดผลดวย
วัตถุประสงคของบทความนี้ เพื่อเสนอแนะแนวทางการวัดผลแบบ outcome-based assessment
ที่มีหลักการแตกตางจากวิธีการวัดผลทั่วไปที่ใชกันอยูในปจจุบัน และเพื่อแนะนําแนวทางการพัฒนาวิธีการ
วัดผลและการตัดสินผลแบบ outcome-based assessment สําหรับนักเรียนที่เรียนจบในรายวิชาดวย
ลักษณะและหลักการวัดผลแบบ outcome-based assessment
1. เนนการวัดผลที่เปนผลลัพธ (outputs) หรือ ผลผลิตสุดทาย (end products)
หลักการที่สําคัญของ outcome-based assessment คือการมุงเนนประเมินผลลัพธ (outputs)
หรือ ผลผลิตสุดทาย (end products) ของนักเรียน ซึ่งแตกตางจากการวัดผลจากการเรียนการสอนแบบ
บรรยายใหความรูโดยอาจารย และสอบวัดความรูที่อาจารยส อนจากตัวนัก เรียน แต outcome-based
assessment จะเนนที่การประยุกตใชความรูและสามารถแสดง (performance) ใหเห็นถึงภูมิความรู ทักษะ
และเจตคติ ที่ นั ก เรี ย นตอ งทํ า ได ต ามบริ บ ทเงื่อ นไขที่พึ ง ประสงค เ มื่อ นั ก เรีย นเรี ยนจบรายวิ ช า ซึ่ ง เป น
outcomes ที่ไดแจง ใหนักเรียนทราบและเขาใจกอนขึ้นเรียนในรายวิชา วาเมื่อจบแลวจะวัดผลดวยการ
ประเมินอะไร ประเมินอยางไร และเปนที่เชื่อมั่นไดวานักเรียนจะบรรลุ outcomes ตางๆ ตามที่ไดกําหนดไว
โดยมีหลักการตัดสินผลที่อิงเกณฑ (criterion) ไมใชอิงกลุม (norm referencing)
2. หลักการวัดผลแบบ outcome-based assessment ใชการตัดสินผลแบบอิงเกณฑ(criterion
referenced)
วิธีการตัดสินผลการสอบของนักเรียนแตละคนที่เขาสอบดวยวิธีตางๆ จะเปลี่ยนไปเกือบทั้งหมด
โดยลดความสําคัญของการใชหลักการอิงกลุม (normal curve) ที่ใชวิธีการตัดสินผลดวยการเปรียบเทียบ
ผลลัพธหรือคะแนนที่ไดระหวางนักเรียนในกลุมเดียวกัน และเปลี่ยนมาใชหลักการการตัดสินผลแบบอิงเกณฑ
เปนสําคัญ ซึ่งหมายถึงการวัดผลลัพธหรือผลผลิตสุดทายของนักเรียนแตละคนเทียบกับเกณฑที่ไดกําหนดไว
ลวงหนา (expected learning outcomes) ซึ่งเปนเกณฑที่กําหนดขึ้นโดยไมไดขึ้นกับผลลัพธหรือผลผลิตของ
นักเรียนคนอื่นๆ ที่เรียนในรายวิชาเดียวกัน การกําหนดสัญลักษณผลการเรียน (grade) ก็กําหนดตามเกณฑที่
ไดตั้งไวตั้งแตเริ่มเปดเรียนรายวิชานั้นๆ ซึ่งจะชวยใหนักเรียนไดรับทราบถึงเปาหมายที่จะตองทําใหไดในระดับ
ผานหรือระดับ A หรือชวยใหนักเรียนประเมินตนเองไดวายังมีความรูความสามารถหางไกลจากเปาหมาย
เพียงใด
3. การวัดผลแบบ outcome-based assessment เปนการวัดผลอยางตอเนื่อง
Outcome-based assessment มีลักษณะเฉพาะที่ตองใชวิธีการสอบที่หลากหลายและตองทํา
บอยๆ (continuous) เพื่อเปนตัว guide นักเรียนหรือ feedback ใหมุงไปสู outcomes ตางๆ ที่กําหนดไวใน
รายวิชา การ feedback จากผลการสอบจะชวยใหอาจารยผูสอนสามารถชวยแนะนําแนวทางการปรับปรุงการเรียน

ใหนักเรียนมีความกาวหนาในการเรียนรู ซึ่ง วิธีการสอบนั้นไมจําเปนตองเปนแบบ formal ในทุก ครั้ง และ
นับเปนกลยุทธในการชี้ใหนักเรียนทราบจุดออนจุดแข็งของตนเองและชวยทําใหนักเรียนไดเรียนรูเปนลําดับจน
ประสบความสําเร็จได
4. การวั ดผลแบบ outcome-based assessment สามารถปรับ ใช เ พื่ อประเมิ นทั้ ง แบบ
formative และ summative assessment
การวัดผลแบบ formative assessment มีไวเ พื่อประเมินความกาวหนาของผูเ รียนใหมุง สู
outcomes ตางๆ ที่ตองบรรลุหรือเปนผูที่มีความสามารถ (competent) ถาประเมินแลวนักเรียนยังมีผลลัพธ
หรือผลผลิตที่ไมถึงเกณฑที่กําหนดไว อาจารยผูสอนตองทําหนาที่ชวยแนะนําวาขาดอะไรและจะพัฒนาได
อยางไรเพื่อใหนักเรียนสามารถทําไดจนถึงเกณฑและเปนผูที่มีความสามารถ (competent) สวน summative
assessment เปนการสอบแบบ formal ณ เวลาที่นักเรียนเรียนจบรายวิชาหรือหลักสูตร และมีการตัดสินให
เปนผาน ไมผานเกณฑ หรือใหเปนสัญลักษณ (grade) ตามเกณฑที่กําหนดไว
5. การวัดผลแบบ outcome-based assessment กับมาตรฐานการสอบ
มาตรฐานการสอบที่ทราบกันมา reliability ของขอสอบหมายถึงความเชื่อมั่นในการวัดผลการ
เรียน (consistency of measurement) ทั้งนี้การวัดผลแบบ outcome-based assessment ก็เอื้อตอความ
เชื่อมั่นหรือ reliability โดยมีการกําหนด outcomes ชัดเจน และมีการกําหนดเกณฑที่ชัดเจนสําหรับในการ
วัดผล ซึ่ง จะคงที่ตลอดไมวาอาจารยทานใดเปนผูคุมสอบหรือนัก เรียนคนใดที่ถูก สอบ ซึ่ง อาจารย ผูส อบ
สามารถใชเปนเกณฑในการเตรียมสอบ พัฒนาขอสอบและกําหนดวิธีการจัดการสอบ ทั้งนี้ outcomes ตางๆ
และเกณฑ ไดป ระกาศใหเ ปนที่ ท ราบกันทั่ วทั้ง นั ก เรี ยนและอาจารย จึง เปนกลไกสําคัญ ในการกํา กับ ให
กระบวนการวัดผล มีความเชื่อมั่นที่คงที่ (consistency) โปรงใสและมีมาตรฐาน
6. ความเที่ยงตรง (validity) ของวิธีการวัดผลแบบ outcome-based assessment
ความเที่ยงตรง (validity) หมายถึง วิธีการสอบและเกณฑจะตองตรงกันกับ outcomes ตางๆ
ที่ตองการวัด ถามีการสอบที่วัดผลนอกเหนือจากที่กําหนดไวจะถือวาไมมีความเที่ยงตรง (invalid) เชน การ
กําหนดชิ้นรายงานภาษาอัง กฤษใหนักเรียนสงเก็บคะแนนและอาจารยประเมินผลงานนั้นตาม outcomes
ที่กําหนดไว หากอาจารยหักคะแนนเนื่องจากนักเรียนเขียนรายงานผิดไวยากรณ ทั้งๆ ที่ไมไดกําหนดเกณฑการ
ใหคะแนนไววารายงานตองเขียนไวยากรณถูกตอง กรณีนี้ถือวาวิธีการวัดผลไมเที่ยงตรง (invalid) และยังไม
ยุติธรรมกับนักเรียนดวย
7. วิธีการวัดผลแบบ outcome-based assessment ตองรวมถึงการวัดผลแบบบูรณาการดวย
(integrated assessment)
การวัดผลแบบบูรณาการเปนวิธีการวัดผลที่ดีในการแสดงหลักฐานที่เชื่อมั่นไดวานักเรียนไดบรรลุ
outcomes ตางๆ ของรายวิชาหรือหลักสูตรไดชัดเจน เปนการรวมผลลัพธหรือผลผลิตของนักเรียนจากทั้ง
formative และ summative assessment เพื่อ ใหนั ก เรีย นสามารถแสดงออก (demonstrate) ถึ ง
ความสามารถ (competence) ในการบูรณาการการใชความรู ทักษะและเจตคติตาม outcomes ตางๆ
ที่กําหนดไว ซึ่งเปนเรื่องที่เปนไปไมไดหากเลือกใชวิธีการสอบขอเขียนวิธีเดียว แลวมาสรุปวานักเรี ยนบรรลุ
outcomes ตางๆ ในรายวิชานั้น
8. การวัดผลแบบ outcome-based assessment สอดคลองกับกระบวนการอื่นๆ ในการจัด
การศึกษา
เปาหมายของการเรียนรูของนักเรียนคือ ผลการเรียนรูของหลักสูตรที่ไดกําหนดไว (expected
learning outcomes) การที่นักเรียนจะบรรลุผลการเรียนรูได ตองมีการจัดการศึกษาใหนักเรียนไดเรียนรู
ตั้งแตลําดับตนๆ จนมีความรูเพิ่มสูงขึ้นถึงระดับสูงสุดของ competency ที่กําหนดไว ดังนั้น outcomes
ตางๆ ของแตละรายวิชาตองมีความสอดคลองกับ outcomes ตางๆ ที่กําหนดไวในหลักสูตร โดยตองจัดการ
ใหมีความสอดคลองระหวางกิจกรรมการเรียนการสอน (teaching and learning methods) และวิธีการ
วัดผล (assessment methods) ใหบรรลุ learning outcomes ดวย ดังแสดงในแผนผังภาพที่ 1
ภาพที่ 1 แสดงความสอดคลองและบูรณาการของการวัดผลกับกระบวนการจัดการศึกษาอื่นๆ
2.2 กรอบอางอิงความสามารถทางภาษาของสหภาพยุโรป (The Common European

Framework of Reference for Languages--CEFR)
การออกแบบการจัดการเรียนรูต ามแนวคิดของ Outcome-based Education นั้น มีความสอดคลอง
กับกรอบอางอิงความสามารถทางภาษาของสหภาพยุโรป (The Common European Framework of
Reference for Languages--CEFR) โดยทั้ง 2 แนวคิดนั้น มีปรัชญาของการจัดการเรียนรูโดยมีเปาหมายหรือ
ผลลัพธเปนที่ตั้ง
กรอบอางอิงทางภาษาของสหภาพยุโรป (CEFR) คือ มาตรฐานการประเมินความสามารถทางภาษาที่
สหภาพยุโรปจัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงคเพื่อใชเปนแนวทางในการจัดการเรียนการสอนและการประเมินภาษา
ที่สองหรือภาษาตางประเทศ ในป ค.ศ. 2002 สภาแหงสหภาพยุโรปไดกําหนดใหใชกรอบอางอิงทางภาษาของ
สหภาพยุโรป (CEFR) ในการตรวจสอบความสามารถทางภาษา ปจจุบันกรอบอางอิง นี้ (CEFR) ไดรับการ
ยอมรับอยางกวางขวางวาเปนมาตรฐานในการจัดลําดับความสามารถทางภาษาของแตละบุคคล

คําอธิบายกรอบอางอิงทางภาษาของสหภาพยุโรป (CEFR)
ที่มา: คูมือการจัดการเรียนการสอนภาษาอัง กฤษแนวใหมตามกรอบอางอิง ความสามารถทางภาษาของ
สหภาพยุโรป โดย สถาบันภาษาอังกฤษ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
2.3 การสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร (Communicative Language Teaching)
การสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (Communicative Language Teaching : CLT) เปนแนวคิดในการ
สอนภาษาที่มุงเนนความสําคัญของตัวผูเรียน ใหผูเรียนไดใชภาษาอังกฤษเพื่อใชในการสื่อสารในชีวิตประจําวัน
ไดจริง มีการลําดับการเรียนรูเปนขั้นตอนตามกระบวนการใชความคิดของผูเรียนซึ่งเชื่อมระหวางความรู ทาง
ภาษา ทักษะทางภาษา และความสามารถในการสื่อสาร เพื่อใหผูเรียนสามารถนําความรูดานภาษาไปใชในการ
สื่อสาร ดังนั้น ในการจัดการเรียนการสอน ครูผูสอนตองคํานึงถึงการใหผูเรียนไดสื่อสารในชีวิตจริงกิจกรรม
และภาระงานตาง ๆ ที่เกี่ยวของกับการสื่อสารจริง สื่อที่ใชก็เปนสื่อจริง แตก็ไมไดละเลยความรูดานไวยากรณ
เมื่อเกิดความผิดพลาดทางดานไวยากรณเพียงเล็กนอย แตยังสามารถสื่อสารได ครูผูสอนไมควรขัดจังหวะโดย
การแกไขใหถูก ตองทันที ควรแกไขเมื่อความผิดพลาดนั้นทําใหเ กิดความไมเ ขาใจหรือสื่อสารไมป ระสบ
ความสําเร็จ เท านั้น ทั้ง นี้เ พื่อทําใหผูเ รียนมีเ จตคติที่ดีตอการใชภาษาอัง กฤษเพื่อการสื่อสาร (Davies &
Pearse, 2000 ; Brown, 2001 ; Richard, 2006)
คเนล และสเวน (Canale and Swain, 1980) ไดแยกองคประกอบของความสามารถในการสื่อสารไว
4 องคประกอบ ดังนี้
1. ความสามารถทางด า นไวยากรณ ห รื อ โครงสร า ง (Linguistic competence and
Grammatical competence) หมายถึงความรูดานภาษา ไดแก ความรูเกี่ยวกับคําศัพท โครงสรางของคํา
ประโยค ตลอดจนการสะกดและการออกเสียง
2. ความสามารถดานสังคม (Sociolinguistic competence) หมายถึงการใชคํา และโครงสราง
ประโยคไดเหมาะสมตามบริบทของสังคม เชน การขอโทษ การขอบคุณ การถามทิศทางและขอมูลตางๆ และ
การใชประโยคคําสั่ง เปนตน
3. ความสามารถในการใชโครงสรางภาษาเพื่อสื่อความหมายดานการพูด และเขียน (Discourse
competence) หมายถึง ความสามารถในการเชอื มระหวางโครงสรางภาษา (Grammatical form) กับ
ความหมาย (Meaning) ในการพูดและเขียนตามรูปแบบ และสถานการณที่แตกตางกัน
4. ความสามารถในการใชกลวิธีในการสื่อความหมาย (Strategic competence) หมายถึงการ
ใชเทคนิคเพื่อใหการติดตอสื่อสารประสบความสําเร็จ โดยเฉพาะการสื่อสารดานการพูด เชน การใชภาษา
ทาทาง(body language) การขยายความโดยใชคําศัพทอื่นแทนคําที่ผูพูดนึกไมออก เปนตน
จากแนวคิดขางตน การสอนภาษาตามแนวทางการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร เนนการใชภาษาของ
ผูเรียนมากกวาเนนโครงสรางทางไวยากรณ แตก็ไมไดละเลยโครงสรางทางไวยากรณ เพียงแตเนนการนําหลัก
ไวยากรณเหลานี้ไปใชเพื่อการสื่อความหมายหรือการสื่อสาร จึงเปนการใหความสําคัญกับความคลองแคลวใน
การใชภาษา (fluency) และความถูกตอง (accuracy) ดวย ดังนั้นการเรียนการสอนแนวนี้จะตองเนนการทํา
กิจกรรมเพื่อการฝกฝนการใชภาษาใหใกลเคียงสถานการณจริงมากที่สุด (Littlewood, 1991 และ Larsen-
Freeman, 2002)

หลักการจัดการเรียนการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร
การจัดการเรียนรูตามแนวการสอนเพื่อการสื่อสารมีหลักสําคัญดังนี้
1. ผูเรียนไดรับการฝกฝนรูปแบบภาษาที่เรียนที่จะใชในสถานการณที่มีความหมาย โดยครูตอง
บอกให ผูเ รีย นทราบถึ ง จุ ดมุ ง หมายของการเรีย น การฝ ก การใช ภาษาเพื่ อใหก ารเรี ยนภาษาเป นสิ่ ง ที่ มี
ความหมายตอผูเรียน ใหผูเรียนรูสึกวา เมื่อเรียนแลวสามารถทําบางสิ่งบางอยางไดเพิ่มขึ้น สามารถสื่อสารได
ตามที่ตนตองการ
2. จัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการหรือทักษะสัมพันธ (Integrated Skills) คือใชทักษะทาง
ภาษาทั้ง 4 ประกอบดวยกริยาทาทาง ที่ควรจะไดทําพฤติกรรมเชนเดียวกับในชีวิตจริง
3. ฝกสมรรถภาพดานการสื่อสาร (Communicative Competence) คือผูเรียนทํากิจกรรม
การใชภาษาที่มีลักษณะเหมือนในชีวิตประจําวันใหมากที่สดุ เพื่อใหผูเรียนนําไปใชไดจริง กิจกรรมการหาขอมูล
ที่ขาดหายไป (Information Gap) ผูเรียนทํากิจกรรมนี้จะไมทราบขอมูลของอีกฝายหนึ่ง จําเปนตองสื่อสารกัน
จึงจะทราบขอมูล สามารถเลือกใชขอความที่เหมาะสมกับบทบาท สถานการณ สํานวนภาษาในรูปแบบตาง ๆ
(function)
4. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนใหผูเรียนไดใชความรู รวมทั้งประสบการณที่ไดรับ สามารถ
แสดงความเห็น หรือระดมสมอง (Brainstorming Activity) ฝกการทํางานกลุมแสดงบทบาทสมมุติ (Role
Play) เกมจําลองสถานการณ (Simulation) การแกปญหา (Problem Solving) ฯลฯ
5. ฝกผูเรียนใหใชภาษาในกรอบของความรูทางดานหลักภาษา (Grammatical Competence)
ความรูเกี่ยวกับกฎเกณฑของภาษา สื่อสารไดคลอง (Fluency) เนนการใชภาษาตามสถานการณ (Function)
6. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามศักยภาพ
7. สงเสริมใหผูเรียนเปนตัวของตัวเอง มีความรับผิดชอบ และสนับสนุนใหศึกษาหาความรูนอก
ชั้นเรียน
8. ผูสอนตองจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่สนองความสนใจของผูเรียน
9. ใหโอกาสผูเรียนพูดแสดงความคิดเห็นตามที่ตองการ
10. ตองชวยชี้แนะ นําทางผูเรียน ใหคําแนะนํา ในระหวางการดําเนินกิจกรรม พรอมกับตรวจ
ความกาวหนาทางการเรียนของผูเรียน
3. สาระมาตรฐานการเรียนรู และตัวชี้วัดชั้นป
3.1 สาระมาตรฐานการเรียนรู
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุมสาระการเรียนรภาษาตางประเทศ
ระบุสาระและมาตรฐานการเรียนรูไวดังนี้
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขาใจและตีความเรื่องที่ฟงและอานจากสื่อประเภทตาง ๆ และแสดงความ
คิดเห็นอยางมีเหตุผล
ต 1.1 ป.2/1 ปฏิบัติตามคําสั่ง และคําขอรองงายๆที่ฟง
ต 1.1 ป.2/2 ระบุตัวอักษรและเสียง อานออกเสียงคํา สะกดคํา และอานประโยคงายๆ
ถูกตองตามหลักการอาน
ต 1.1 ป.2/3 เลือกภาพตรงตามความหมายของคํา กลุมคํา และประโยคที่ฟง
ต 1.1 ป.2/4 ตอบคําถามจากการฟงประโยค บทสนทนาหรือนิทานงายๆที่มีภาพประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทั ก ษะการสื่ อ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ ยนข อ มูล ข าวสาร แสดง
ความรูสึก และความคิดเห็นอยางมีประสิทธิภาพ
ต 1.2 ป.2/1 พูดโตตอบดวยคําสั้นๆ งายๆในการสื่อสารระหวางบุคคลตามแบบที่ฟง
ต 1.2 ป.2/2 ใชคําสั่งและคําขอรองงายๆตามแบบที่ฟง
ต 1.2 ป.2/3 บอกความตองการงายๆ ของตนเองตามแบบที่ฟง
ต 1.2 ป.2/4 พูดขอและใหขอมูลงายๆเกี่ยวกับตนเองตามแบบที่ฟง
มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอขอมูลขาวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องตาง ๆ
โดยการพูดและเขียน
ต 1.3 ป.2/1 พูดใหขอมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกลตัว
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 ขาใจความสัมพันธระหวางภาษากับวัฒนธรรมของเจาของภาษา และนําไปใช
ไดอยาง เหมาะสมกับกาลเทศะ
ต 2.1 ป.2/1 พูดและทําทาประกอบตามวัฒนธรรมของเจาของภาษา
ต 2.1 ป.2/2 บอกชื่อและคําศัพทเกี่ยวกับเทศกาลสําคัญของเจาของภาษา
ต 2.1 ป.2/3 เขารวมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับวัย
มาตรฐาน ต 2.2 เขา ใจความเหมือ นและความแตกตา งระหวา งภาษาและวั ฒ นธรรมของ
เจาของภาษา กับ ภาษาและวัฒ นธรรมไทย และนํามาใชอยางถูก ตองและ
เหมาะสมกับกาลเทศะ
ต 2.2 ป.2/1 ระบุตัวอักษรและเสียงตัวอักษรของภาษาอังกฤษและภาษาไทย
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธกับกลุมสาระการเรียนรู
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ าษาต างประเทศในการเชื่ อมโยงความรูกั บ กลุม สาระการเรี ยนรูอื่ น
และเปนพื้นฐาน ในการพัฒนา แสวงหาความรู และเปดโลกทัศนของตน
ต 3.1 ป.2/1 บอกคําศัพทที่เกี่ยวของกับกลุมสาระการเรียนรูอื่น

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธกับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภาษาตางประเทศในสถานการณตาง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชนและสังคม
ต 4.1 ป.2/1 ฟง/พูดในสถานการณงายๆ ที่เกิดขึ้นในหองเรียน
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภาษาตางประเทศเปนเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาตอ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลี่ยนเรียนรูกับสังคมโลก
ต 4.2 ป.2/1 ใชภาษาอังกฤษ เพื่อรวบรวมคําศัพทที่เกี่ยวของใกลตัว
ตารางวิเคราะหความสอดคลองของเนื้อหาสาระกับมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดชั้นป
กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ Let’s Go 2 ชั้นประถมศึกษาปที่ 2
สาระและมาตรฐานฝ ความสอดคลองกับสาระและมาตรฐานการเรียนรู
การเรียนรู/ สาระที่1 สาระที่ 2 สาระที่ 3 สาระที่ 4
ตัวชี้วัดชั้นป มฐ. ต มฐ. ต มฐ. ต มฐ. ต
มฐ. ต 1.1 มฐ. ต 1.2 มฐ. ต 2.1 มฐ. ต 3.1
1.3 2.2 4.1 4.2
หนวยการเรียนรู 1 2 3 4 1 2 3 4 1 1 2 3 1 1 1 1
Unit 1 Things for School            
Unit 2 Colors and Shapes              
Unit 3 At the Store               
Unit 4 People at Home               
Unit 5 Happy Birthday!

               
Unit 6 Out Doors              
Unit 7 Food               
Unit 8 Animals              

ตอนที่ 2
แผนการจัดการเรียนรูรายหนวยการเรียนรู
Let’s Go (4th Edition)
แผนการจัดการเรียนรูก ิจกรรม
สาระที่ 1 2 3 4 ชั้นประถมศึกษาปที่ 1
Let’s remember เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
จ ุด ประส งคก ารเรีย นรู
เมื่อจบบทเรียนนี้ นักเรียนสามารถ
1. อานพยัญชนะภาษาอังกฤษและระบุเสียงพยัญชนะในคําศัพทสําคัญพื้นฐานได
2. นับเลขเปนภาษาอังกฤษและสนทนาถามตอบเกี่ยวกับจํานวน
3. แยกความแตกตางของคําศัพทที่มีเสียงพยัญชนะตนแตกตางกันได
4. ออกเสียงคําศัพทที่มีสระเสียงสั้นได
เนื้อ หาทางภาษา
Skills: Listening Reading Speaking

Functions: Reviewing language from Let’s Begin
Language:
Target Forms
Target 1 Alphabet sound and key words.
Target 2 Let’s count.

Let’s count the cat.
Target 3 Q: What can you do?
A: I can walk. / run/jump/dance
Target 4 T: Here you are.
S: Thank you.

Vocabulary Key: -Alphabet:
Aa = apple Bb = bird Cc = cat
Dd = dog Ee =egg Ff = fish
Gg = gorilla Hh = heart Ii = igloo
Jj = jump rope Kk = kangaroo Ll = lion
Mm = moon Nn = nest Oo = octopus
Pp = peach Qq = quilt Rr = rabbit
Ss = Sun Tt = tiger Uu = umbrella
Vv = violin Ww = watch Xx =fox
Yy = yarn Zz = zebra
Numbers: one, two, three, four, five, six, seven, eight, nine, ten
Action verbs: walk, run, jump, dance
ส ื่อ ก ารเรีย นรู
- หนังสือเรียน Let’s Go 1 (4th Edition) หนา 2-3

- CD 1 Track 02-04
- บัตรอักษรและคําศัพทสําคัญ
- บัตรกิจกรรมฟงแลวเติมคําที่หายไป
ก ิจ ก รรมก ารเรีย นรู ตัว อ ัก ษร Alphabe t
กิจกรรมยอยที่ 1 : Listen , point, and sing
ขั้น ตอ นก ารจ ัด ก ิจ ก รรม
ก ิจ ก รรมก อ นก ารเรีย นรู
1. ครูเ ปดไฟลเ สียง CD1 track 02 รอบที่ 1 หลัง จากนั้นใหนักเรียนทดลองออกเสียงตัวอัก ษร

ภาษาอังกฤษตามที่นัก เรียนไดฟง หรือเคยเรียนรูมากอนจากบทเรียน Let’s Begin ครูสังเกตวานักเรียน
สามารถออกเสียงชื่อตัวอักษรไดครบถวนถูกตองหรือไม
CD1 Track 02
Alphabet Song
2. นักเรียนเปดหนังสือหนา 2 ครูเปดไฟลเสียง CD1 track 02 รอบที่ 2 นักเรียนฟงแลวชี้ตาม

3. ครูฝกใหนักเรียนออกเสียงเปนจังหวะโดยครูปรบมือหรือเคาะจังหวะ ฝกออกเสียงตามทํานองเพลง
และใหนักเรียนชี้ตัวอักษรในหนังสือเรียนประกอบ หลังจากฝกจนคลองแคลวใหนักเรียนปรบมือเขาจังหวะ
พรอมรองเพลง
4. ครูเปดไฟลเสียง CD1 track 02 จํานวน 2 รอบใหนักเรียนรองเพลงพรอมกัน
ก ิจ ก รรมระหว างก ารเรีย นรู
5. นักเรียนทํากิจกรรมฝก อานออกเสียงตัวอัก ษรและลากนิ้วมือตามตัวอักษรทั้งตัวพิม พเ ล็ก และ

ตัวพิมพใหญ โดยครูแสดงตัวอยางการทํากิจกรรมดวยการออกเสียงอักษรแตละอักษร 4 ครั้งพรอมทั้งลากนิ้ว
มือตามเสนและถูกตองตามวิธีเขียนตัวอักษร ใหนักเรียนทดลองปฏิบัติตาม และตรวจสอบแกไข และครูเริ่ม
ออกเสียงพรอมทั้งลากเสนบนกระดานเปนตัวอยางประกอบใหนักเรียนปฏิบัติไปพรอมกัน โดยครูสามารถแบง
การฝกฝนครั้งละ 4 ตัวอักษรได และเนนการฝกปฏิบัติซ้ําๆ โดยในชวงตนสามารถทํากิจกรรมนี้กอนเริ่มตน
บทเรียนในแตละวัน
6. นักเรียนนั่งเปนกลุม ๆ ละ 4 คน ทํากิจกรรมเรียงบัตรอักษรโดยสามารถถายเอกสารหนังสือเรียน
หนา 2 และตัดแยกเปนชิ้นหรือใชบัตรอักษรแนบทายแผนก็ได เพื่อใหนักเรียนไดใชประสาทสัมผัสครบถ วน
และเกิดความทรงจําที่คงทน ครูใหเวลานักเรียนเรียงบัตรอักษรตามลําดับ ประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นครู
ออกเสียงตัวอักษรและคําศัพทสําคัญ ทีละตัวอักษร 2 รอบ จนครบทุกตัวอักษร เชน
T: A a, Aa, Aa apple, Aa apple
7. นักเรียนตรวจสอบการเรียงลําดับของตนเองหากพบขอผิดพลาดใหแกไข ครูออกเสียงพรอมทั้ง
แสดงบัตรอักษรอีกครั้ง เชน T: Aa apple แสดงบัตรอักษร A นักเรียนตรวจสอบการเรียงลําดับของกลุม
ตนเอง หลังจากนั้นฝกอานออกเสียงตามครู
8. นักเรียนทํากิจกรรมฟงแลวเติมอักษรที่หายไป ตัดบัตรอักษรที่กําหนดใหเปนชิ้น
9. นักเรียนฟง CD1 Track 02 ออกเสียงตามแลวนําบัตรอักษรวางลงในชองวางที่มีตัวอักษรและ
คําศัพทหายไป ที่มีสัญลักษณนี้ โดยมีบตั รอักษรที่เปนสวนเกินจํานวน 2 ใบที่ไมจําเปนตองใชตรวจ
คําตอบรวมกัน

ก ิจ ก รรมหล ังก ารเรีย นรู
10. ครูทบทวนการอานออกเสียงและรูจักตัวอักษรของนักเรี ยน ดวยการออกเสียงคําสําคัญและให

นักเรียนระบุตัวอักษรนําในแตละคํา เชน
T: Bird, bird, bird begins with_____ คําวา bird ขึ้นตนดวยพยัญชนะใด
S: Bb
11. นักเรียนและครูรวมกันอานออกเสียงอักษรและคําสําคัญอีกครั้ง โดยครูคอยสงเสริมใหนักเรียน
อานและคอยอานแกไขเมือพบขอบกพรอง หรือนักเรียนไมสามารถอานได ครูคอยใหกําลังใจและกระตุนให
นักเรียนกลาใชภาษาอังกฤษ
ว ัฒนธรรมตางชาติท ี่ค รูส ามารถ ส อ ดแ ทรก ในก ารส อ น
พยัญชนะในแตละภาษามีจํานวน ชื่อเรียก การออกเสียงและวิธีเขียนที่แตกตางกันไปตามภาษาของ

แตละชาติซึ่งถือเปนเอกลักษณ นักเรียนควรศึกษาทําความเขาใจในความแตกตางเหลานี้
ขอ คว รพิจ ารณา
1. ครูควรใชเ วลาวางชวยวิเ คราะหและแกปญ หาการอานอัก ษรและคําศัพทสําคัญ เปนรายบุคคล

เพราะเปนพื้นฐานสําคัญในการอานและการเขาใจภาษาอังกฤษ และควรฝกดวยจํานวนอักษรครั้งละ 3-4 ตัว
ฝกย้ํา ซ้ํา ทวนอยางตอเนื่อง
2. สื่อประเภทบัตรอักษรควรมีการเตรียมการลวงหนา
ก ิจ ก รรมหล ังเรีย น
นักเรียนใชเวลาวางจับคูเลนเกมฝกหัดอานอักษร โดยคว่ําบัตรอักษรลง แลวสลับกันเปดอักษรแลว

สลับกันอานออกเสียงตัวอักษรและคําศัพทสําคัญ ใครอานถูกตองเก็บบัตรไวนับคะแนน
ก ิจ ก รรมก ารเรีย นรู ตัว เล ขแ ล ะทบทว นตัว เล ข Num be rs
กิจกรรมยอยที่ 2 : Let’s count
1. ครูใหนัก เรียนยกมือตนเองขึ้นมา แลวถามคําถามวานักเรียนมีนิ้วมือทั้ง หมดกี่นิ้ว โดยถามทั้ง

ภาษาอังกฤษและภาษาไทยเพื่อสรางประสบการณทางภาษาใหกับนักเรียน ดังนี้
T: How many fingers do you have? นักเรียนมีนิ้วมือกี่นิ้ว
Let’s count. Let’s count the fingers. มานับนิ้วมือดวยกัน
และครูออกเสียงการนับและทําทาทางการนับนิ้วมือใหนักเรียนรวมกันปฏิบัติ
T: One, two, three, four, five, six, seven, eight, nine and ten. There are ten fingers.
Repeat after me, please. There are ten fingers. Ten fingers. แสดงนิ้วมือทั้งสิบนิ้ว
S: There are ten fingers. Ten fingers.
ครูแสดงนิ้วมือ 1 นิ้ว T: One finger. S: One finger.
ครูแสดงนิ้วมือ 2 นิ้ว T: Two fingers. S: Two fingers.
ครูแสดงนิ้วมือ 5 นิ้ว แลวขอใหนักเรียนพูด S: Five fingers.
2. นักเรียนเลนเกม Let’s count โดยนั่งเปนกลุมๆ ละ 4 คน หันหนาเขาหากัน หานักเรียนที่เปนผู
เริ่มกิจกรรม พูดจํานวน นักเรียนที่เหลือแสดงนิ้วมือ สลับกันเปนผูพูดจํานวนและหากคนใดทําชาหรือทําผิด
ตองออกจากเกม
3. ครูเปดไฟลเสียง CD1 track 03 นักเรียนฟง และชี้ตัวเลขในหนังสือเรียนหนาที่ 3 แลวออกเสียง

ตามในการฟงรอบที่ 2
CD1 Track 03
1, 2, 3, 5, 6, 7, 8, 9, 10

4. นักเรียนนับจํานวนรูปรางในหนังสือและพูดประโยคตามจํานวนและรูปราง โดยครูใหชวยพูดนํา
หรือแกไข เชน one circle, two triangles, three square
5. ครูยกตัวอยางสิ่งของอื่น ๆ ในหองเรียนและชวยกันนับเพือ่ ทบทวนตัวเลข เชน ครูคัดเลือกนักเรียน
แสดงปากกาจํานวนสี่ดามแลวถามคําถาม
T: How many pens do you have? นักเรียนมีปากกากี่ดาม
Let’s count. Let’s count the pens. มานับปากกาดวยกัน
S: นักเรียนบอกจํานวนตามจริง
6. ครูแสดงสิ่งของในชั้นเรียนแลวพูดจํานวน หลังจากนั้นซอนบางสวนใหนักเรียนทายสิ่งของที่เหลือ
เชน ครูแสดงยางลบ 6 อันใหนักเรียนนับพรอมกัน S: One, two, three four, five, six. Six erasers.
หลังจากนั้นครูดึงออก 3 อัน และซอนจํานวนที่เหลือใหนักเรียนทาย
T: Guess, please. How many erasers are there now?
S: ทายจํานวน เมื่อนักเรียนทายถูกครูสงยางลบใหนักเรียนแลวพูดประโยค
T: Here you are.
S: Thank you.
ปฏิบัติซ้ํา 2-3 รอบ หลังจากนั้นใหตัวแทนนักเรียนเปนผูออกมานํากิจกรรม ครูสังเกตและใหการ
เสริมแรงในระหวางการทํากิจกรรม
7. นักเรียนจับคูทายจํานวน และสนทนา
8. ครูและนักเรียนเลนพูดบทเขาจังหวะและเลนเกมเพื่อทบทวนเรื่องตัวเลขโดยครูกําหนดใหนักเรียน
นับเรียงลําดับและใครที่ตรงกับหมายเลข 5 ใหยกมือแทนการนับ ครูเริ่มตนนับเลขแลวชี้ที่นักเรียนลําดับถัดไป
โดยจะเริ่มที่เลขใดก็ได เชน ครูเริ่ม Two นักเรียนคนตอไปนับ Three และคนตอไปนับตอเนื่องจนกระทั่งถึง
นักเรียนที่นับเลขหาใหยกมือขึ้นแทนการนับ หากปฏิบัติผิดใหออกจากเกมและมาเปนกรรมการ
การยื่นสิ่งของใหผูอื่นในระหวางยื่นสิ่งของจะพูดวา Here you are และเมื่อรับสิ่งของเปนมารยาท

และวัฒนธรรมสากลที่จะตองกลาวคําขอบคุณทุกครั้ง
ในกรณีที่นักเรียนไมไดเรียนในบทเรียน Let’s begin มากอน ครูตอ งมีการสอนและฝกคําศัพทในเรื่อง

รูปรางในหนังสือเรียนกอนที่จะทํากิจกรรมตอไป
ครูเขียนคําศัพทจํานวน 1-10 ใหนักเรียนวาดภาพระบายสี สิ่งของในหองเรียนตามจํานวน 1-10 ลงใน

กระดาษ A4 และเขียนบอกจํานวน ไวใตภาพ
ก ิจ ก รรมก ารเรีย นรูแ ล ะทบทว นก ารถ าม-ตอ บคําถ ามเก ี่ย ว ก ับ คว ามส ามารถ
“ What can you do? I can walk. ”

กิจกรรมยอยที่ 3 : Ask and answer
1. ครูใหนักเรียนดูรูปภาพในหนังสือเรียนหนาที่ 3 แลวสนทนาถาม-ตอบเกี่ยวกับภาพ เชน

T: What can you see in this picture? นักเรียนเห็นอะไรในภาพบาง
S: ตอบตามความจริง
T: What is this girl doing? ครูชี้ที่ภาพเด็ก หญิง แลวถามวาเด็ก ผูห ญิง คนนี้กําลัง ทําอะไร
นักเรียนตอบ ครูถามจนครบทุกภาพ
1. ครูนําเสนอคําศัพทเ กี่ยวกับ คํากริยาโดยแสดงทาทางพรอมทั้ง พูดคําศัพทซ้ําหลายๆ ครั้ง ให

นักเรียนปฏิบัติตาม เชน ครูแสดงทาทางกําลังเดิน T: Walk, walk, walk, walk. ปฏิบัติเชนเดียวกันจนครบ
ทุกคําและนักเรียนพูดพรอมทั้งปฏิบัติไดคลองแคลว
2. นักเรียนเลนเกมโดยนักเรียนหาที่วางยืนตรง หาอาสาสมัครนักเรียน 1 คน พูดประโยค I can____
เชน I can jump. นักเรียนที่เหลือแสดงทาทางกระโดดและพูดประโยค I can jump. ตอเนื่องจนกวาผูพูดจะ

ตะโกนวา Stop! ใหนัก เรียนทุก คนหยุดนิ่ง คางในทาทางสุดทายของตน หามขยับ เขยื้อน หากใครขยับ ให
ออกมาเปนผูดําเนินกิจกรรมคนตอไป
3. ครูเ ปดไฟลเ สียง CD1 Track 04 ใหนัก เรียนฟง และชี้ประโยคในหนัง สือเรียนหนาที่ 3 และให
นักเรียนอานดวยตนเอง จนคลองแคลว
CD1 Track 04
What can you do?
I can walk. I can run.
I can jump. I can dance.
4. ครูใหนักเรียนลองบอกคํากริยาเพิ่มเติมและเขียนประโยคลงบนกระดาน ครูอานประโยคทั้งหมดให
นักเรียนอานตาม หลังจากนั้นจับคูสนทนาโดยใชโครงสรางประโยคที่เรียน
5. นักเรียนคัดลอกประโยคบนกระดาน และสรุปการถาม-ตอบ โดยครูใหออกเสียงคําถามพรอมกัน

และครูแสดงทาทางใหนักเรียนพูดประโยคคําตอบ
การเดิน วิ่งหรือกระโดดในที่สาธารณะตองไมสงเสียงดังรบกวนผูอื่น ควรปฏิบัติอยางรักษามารยาท

และเคารพในสิทธิของผูอื่น
ในกรณีที่นักเรียนไดเรียนรูคําศัพทที่เกี่ยวกับกริยา มาบางแลว ใหนําคําศัพทเหลานั้นมาใชในการจัด

กิจกรรมเพิ่มเติม
1. นักเรียนฝกพูดประโยค และคําศัพทที่ไดเรียนรูมาใหถูกตองและคลองแคลว
2. ครูเ ขียนชื่อ เปนภาษาอั ง กฤษใหนัก เรียนและใหนัก เรียนฝ ก เขียนและสะกดชื่อของตนเองให
คลองแคลว ครูเนนย้ําเรื่องการใชตัวอักษรพิมพใหญนําหนาชื่อ และนามสกุลทุกครั้ง
บัตรอักษรและคําศัพทสําคัญ
Aa Bb Cc Dd
apple bird cat dog

Ee Ff Gg Hh
egg fish gorilla heart

Ii Jj Kk Ll
lgloo jump rope kangaroo lion

Mm Nn Oo Pp
moon nest octopus peach

Qq Rr Ss Tt
quilt rabbit sun tiger

Uu Vv Ww Yy
umbrella violin watch yarn

Xx Zz
_ _ _ _ _
fox zebra

บัตรกิจกรรมฟงแลวเติมอักษรที่หายไป (1/2)
คําชี้แจง 1. ตัดบัตรอักษรที่กําหนดใหเปนชิ้น
2. นักเรียนฟง CD1 Track 02 ออกเสียงตามแลวนําบัตรอักษรวางลงในชองวางทีม่ ีตัวอักษรและ
คําศัพทหายไป ที่มสี ัญลักษณนี้
3. มีบัตรอักษรที่เปนสวนเกินจํานวน 2 ใบ
_ _ _ _ _
Cc Ff Jj Oo
cat fish Jump rope octopus

Qq Ss Xx Zz
quilt sun fox zebra
หมายเหตุ : ครูสามารถถายเอกสารขยายใหมีขนาดเหมาะสม
ตารางกิจกรรมฟงแลวเติมอักษรที่หายไป (2/2)
Aa Bb Dd
apple bird dog

Ee Gg Hh
egg gorilla heart

Ii Kk Ll
igloo kangaroo lion

Mm Nn Pp
moon nest peach

Rr Ss Tt
rabbit sun tiger

Uu Vv Ww
umbrella violin watch

Xx Zz
ABC
fox zebra

บันทึกผลหลังสอน
คําชี้แจง : ครูผูสอนบันทึกผลการเรียนรูตามหัวขอที่กําหนด เพื่อนําไปใชในการปรับปรุงแกไขและพัฒนาการ

จัดกิจกรรมการเรียนรูเพื่อพัฒนาผูเรียนตอไป
1. ผลการเรียนรู
จํานวน(คน) คิดเปนรอยละ
1.1 นักเรียนที่ผานตัวชี้วัด
1.2 นักเรียนที่ไมผานตัวชี้วัด
สาเหตุ(ระบุ)
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
แนวทางการแกปญหา(ระบุ)
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
1.3 นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ ไดแก

________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
แนวทางการสงเสริมและพัฒนา
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
1.4 นักเรียนไดรับความรู (K)

________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
1.5 นักเรียนเกิดทักษะกระบวนการ (P)
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
1.6 นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม คานิยม (A)

________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
2. ปญหาอุปสรรค (ถามี)
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
3. ขอเสนอแนะ (ถามี)
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
ความเห็นของผูบริหารสถานศึกษาหรือผูที่ไดรับมอบหมาย
ขอเสนอแนะ
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
ลงชื่อ _________________________________________
( _____________________________________ )
ตําแหนง ____________________________________
วันที่________________________

แผนการจัดการเรียนรูที่ 1
Things for School เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
ขั้นที่ 1 ผลลัพธปลายทางที่ตองการใหเกิดขึ้นกับนักเรียน
มาตรฐาน ต 1.1 เขาใจและตีความเรื่องที่ฟง และอานจากสื่อประเภทตาง ๆ และแสดงความคิดเห็นอยางมี
เหตุผล
ต 1.1 ป.1/1 ปฏิบัติตามคําสัง่ งายๆที่ฟง
ต 1.1 ป.1/2 ระบุตัวอักษรและเสียง อานออกเสียงคําและสะกดคํางายๆถูกตองตามหลักการอาน
ต 1.1 ป.1/3 เลือกภาพตรงตามความหมายของคําและกลุมคําที่ฟง
ต 1.1 ป.1/4 ตอบคําถามจากการฟงเรื่องใกลตัว
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอมูล ขาวสาร แสดงความรูส ึกและความ
คิดเห็นอยางมีประสิทธิภาพ
ต 1.2 ป.1/1 พูดโตตอบดวยคําสั้นๆ งายๆในการสื่อสารระหวางบุคคลตามแบบทีฟ่ ง
ต 1.2 ป.1/2 ใชคําสั่งงายๆตามแบบทีฟ่ ง
ต 1.2 ป.1/3 บอกความตองการงายๆของตนเองตามแบบที่ฟง
ต 1.2 ป.1/4 พูดขอและใหขอมูลงายๆเกี่ยวกับตนเองตามแบบทีฟ่ ง
มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอขอมูลขาวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องตาง ๆ โดยการพูดและเขียน
ต 1.3 ป.1/1 พูดใหขอมูลเกี่ยวกับตนเองและเรือ่ งใกลตัว
มาตรฐาน ต 2.1 เขาใจความสัมพันธระหวางภาษากับวัฒนธรรมของเจาของภาษา และนําไปใชไดอยาง
ต 2.1 ป.1/3 เขารวมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทีเ่ หมาะสมกับวัย
มาตรฐาน ต 2.2 เขาใจความเหมือนและความแตกตางระหวางภาษาและวัฒนธรรมของเจาของภาษากับ
ภาษาและวัฒนธรรมไทยและนํามาใชอยางถูกตองและเหมาะสม
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธกับกลุมสาระการเรียนรูอื่น
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภาษาตางประเทศในการเชื่อมโยงความรูกบั กลุมสาระการเรียนรูอื่น และเปนพื้นฐานใน
การพัฒนา แสวงหาความรู และเปดโลกทัศนของตน
ต 3.1 ป.1/1 บอกคําศัพททเี่ กี่ยวของกับกลุมสาระการเรียนรูอื่น
มาตรฐาน 4.1 ใชภาษาตางประเทศในสถานการณตาง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ต 4.1 ป.1/1 ฟง/พูดในสถานการณงายๆที่เกิดขึ้นในหองเรียน
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภาษาตางประเทศเปนเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาตอ การประกอบอาชีพและการ
แลกเปลี่ยนเรียนรูกบั สังคมโลก
ต 4.2 ป.1/1 ใชภาษาอังกฤษ เพื่อรวบรวมคําศัพทที่เกี่ยวของใกลตัว
ความเขาใจที่คงทนของนักเรียน คําถามสําคัญที่ทําใหเกิดความเขาใจที่คงทน
นักเรียนจะ...
1. สามารถฟง พูด อาน และเขียนคําศัพทเกี่ยวกับ - นักเรียนตองการถามวาสิ่งของ อุปกรณการเรียน
เครื่องมือ สิง่ ของ อุปกรณการเรียน และวลีที่ ในโรงเรียนมีจํานวนเทาไรจะพูดเปนภาษาอังกฤษ
บอกการกระทํากิจกรรมตาง ๆ ได อยางไร
2. สามารถสนทนาทักทาย แนะนําตัว ถาม-ตอบ - นักเรียนตองการสนทนาเกี่ยวกับเครือ่ งมือ สิ่งของ
เพื่อขอและใหขอมูลสวนตัวโดยใชโครงสราง อุปกรณการเรียน และบอกการกระทํากิจกรรม
ประโยคที่กําหนดใหและใชรปู ยอของกริยากับ ตาง ๆ เปนภาษาอังกฤษอยางไร
สรรพนาม Contraction ได - นักเรียนตองการถามและบอกขอมูลสวนตัวตอ
3. สามารถแยกความแตกตางของคําศัพททมี่ ีเสียง ผูอื่นจะพูดเปนภาษาอังกฤษวาอยางไร
พยัญชนะตน Bb/Pp ได - รูปยอของกริยากับสรรพนาม Contraction ใช
4. สามารถออกเสียงคําศัพทที่มสี ระเสียงสั้นได อยางไร
- คําที่มีเสียงพยัญชนะตน Bb/Pp อานออกเสียง
อยางไร
- คําศัพทที่มีสระเสียงสั้น อานออกเสียงอยางไร
ความรูของนักเรียนที่นาํ ไปสูความเขาใจที่คงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนทีจ่ ะนําไปสูความรู
นักเรียนจะรูวา... ที่คงทน นักเรียนจะสามารถ...
1. คําศัพทเกี่ยวกับเครื่องมือ สิง่ ของ อุปกรณการ 1. รู เขาใจ และบอกคําศัพทเกี่ยวกับเครื่องมือ
เรียน และวลีที่บอกการกระทํากิจกรรมตาง ๆ สิ่งของ อุปกรณการเรียน และวลีที่บอกการกระทํา
Q: What’s this? กิจกรรมตาง ๆ ได

A: It’s a ball. 2. สามารถสนทนาทักทาย ขอและใหขอมูลสวนตัว
Q: Is this a ball? โดยใชโครงสรางประโยคที่กําหนดได
A: No. it isn’t. It’s a peach. 3. ใชรูปยอของกริยากับสรรพนาม Contraction ได
2. บทสนทนาทักทายแนะนําตัว การถาม-ตอบ 4. สามารถแยกความแตกตางของคําศัพททมี่ ีเสียง
เพื่อขอและใหขอมูลสวนตัว พยัญชนะตน Bb/Ppได
Q:Hello. I’m Scott. What’s your name? 5. สามารถออกเสียงคําศัพทที่มสี ระเสียงสั้นไดถูกตอง
A: My name is Kate. What’s your name?
Q: My name is Andy.
-รูปยอของกริยากับสรรพนาม Contraction
เชน
What is = What’s There is =
There’s
I am = I’m It is = It’s
It is not = It isn’t
3. การออกเสียงคําศัพททมี่ ีเสียงพยัญชนะตน
Bb/Pp ได
5. การออกเสียงคําศัพททมี่ ีสระเสียงสั้น เชน cat,
bed, sit, top, sun
ขั้นที่ 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรียนรูซึ่งเปนหลักฐานทีแ่ สดงวานักเรียนมีผลการเรียนรูตามที่
กําหนดไวอยางแทจริง
1. ภาระงานที่นักเรียนตองปฏิบัติ
1.1 ศึกษาบทสนทนา การสอบถามและบอกขอมูลเกี่ยวกับการสนทนาทักทายแนะนําตัว การถาม-
ตอบเพื่อขอ และใหขอมูลสวนตัวโดยใชรูปยอของกริยากับสรรพนาม Contraction
กิจกรรม Conversation
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรู การฟงและฝกพูดคําศัพทจากแถบบันทึกเสียง
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรู การฟงและฝกพูดประโยคจากแถบบันทึกเสียง
- ปฏิบัติกิจกรรมบทบาทสมมุติ
1.2 ศึกษาคําศัพทและความหมายเกี่ยวกับ เครื่องมือ สิ่งของ อุปกรณการเรียน และวลีทบี่ อกการ
กระทํากิจกรรมตาง ๆ
กิจกรรม Vocabulary
- ปฏิบัติกิจกรรมฟงและแสดงทาทางประกอบ ชี้คําศัพท แสดงบัตรภาพ บัตรคําตามที่ไดยิน
1.3 ศึกษาประโยคถามและตอบเกี่ยวกับเครือ่ งมือ สิ่งของ อุปกรณการเรียน และบอกการกระทํา
กิจกรรมตาง ๆ ที่โรงเรียน
กิจกรรม Target
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรูตามที่กําหนด กิจกรรมฟงและพูดบทเขาจังหวะ จากแถบ
บันทึกเสียง
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรูตามที่กําหนด กิจกรรมจับคูสนทนาเกี่ยวกับเครื่องมือ สิง่ ของ
อุปกรณการเรียนในหองเรียน
1.4 ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือ สิ่งของ อุปกรณการเรียน และการทํากิจกรรมตาง ๆ ตามคําสั่งใน
หองเรียน
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรูตามที่กําหนด กิจกรรม ฟงจากแถบบันทึกเสียงและระบุ
คําศัพท
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรูตามที่กําหนด กิจกรรมสรางสรรคและพูดประโยคเกี่ยวกับ
สิ่งของในหองเรียน
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรู ทํากิจกรรมตาง ๆ ตามคําสั่งในหองเรียน
1.5 ศึกษาและปฏิบัติกจิ กรรมประกอบการเรียนรูตามที่
กิจกรรม Song Activity จากแถบบันทึกเสียง
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรู กิจกรรมเรียงลําดับบัตรอักษร
1.6 ศึกษาการอานออกเสียงคําศัพท ที่มเี สียงพยัญชนะตน Bb/Pp และคําศัพทที่มสี ระเสียงสั้น จาก
ภาพและคําศัพทที่กําหนด
กิจกรรม Sounds and words จากแถบบันทึกเสียง
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรูฟงเรื่องแลวระบุคําศัพท
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรูพูดบทเขาจังหวะ
2. วิธีการและเครื่องมือประเมินผลการเรียนรู
2.1 วิธีการประเมินผลการเรียนรู 2.2 เครื่องมือประเมินผลการเรียนรู
1) การทดสอบกอนเรียนและหลังเรียน 1) แบบทดสอบกอนเรียนและหลังเรียน
2) การทดสอบทักษะดานการฟง พูด อาน 2) แบบประเมินผลทักษะดานการฟง พูด
และเขียน อาน และเขียน
3) การประเมินผลงาน/กิจกรรมเปน 3) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรมเปน
รายบุคคลหรือเปนกลุม รายบุคคลหรือเปนกลุม

4) การวัดและประเมินผลดานคุณธรรม 4) แบบประเมินพฤติกรรมของนักเรียน
จริยธรรม และคานิยม 5) แบบทดสอบประจําหนวย
5) การวัดและประเมินผลดานความรูโ ดย 6) แบบประเมินผลตนเองของนักเรียน
ใชแบบทดสอบ
6) การประเมินผลตนเองของนักเรียน
3. สิ่งที่มุงประเมิน
3.1 ความเขาใจ 6 ดาน ไดแก การอธิบาย การชี้แจง การแปลความและตีความ การประยุกตใช
ดัดแปลง และนําไปใช การมีมมุ มองที่หลากหลาย การใหความสําคัญในความรูส ึกของผูอื่น และการ
รูจักตนเอง
3.2 สมรรถนะสําคัญ ไดแก ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแกปญ  หา การใชทักษะชีวิต และ
การใชเทคโนโลยี
3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค ไดแก รักชาติ ศาสน กษัตริย ซื่อสัตยสจุ ริต มีวินัย ใฝความรู อยูอยาง
พอเพียง มุง มั่นในการทํางาน รักความเปนไทย มีจิตสาธารณะ
ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู
แผนการจัดการเรียนรูที่ 1 Things for School เวลา 5 ชั่วโมง
Skills Listening Speaking Reading Writing

Functions: 1. Greeting, introducing oneself and asking someone’s name.
2. Identifying and asking about school supplies.
3. Identify and asking about classroom objects.
4. Asking and answering Yes/No questions.
5. Learning classroom commands
Language: Target 1 Greeting, introducing oneself and asking someone’s name.
Example: Q: Hello. I’m Scott. What’s your name?
A: My name is Kate. What’s your name?
Q: My name is Andy.
Target 2 Identifying and asking about school supplies, classroom
objects.
Example: Q: What’s this?
A: It’s a ball.
Target 3 Asking and answering Yes/No questions.
Example: Q: Is this a ball?
A: No. it isn’t. It’s a peach.
Target 4 Learning classroom commands
Example: - Take out your book.
- Open your book.
- Close your book.
- Put away your book.
Additional: - Let’s count. Let’s count the _____.
- Q: How many crayon?
- A: One crayon./ Three crayons.
- Q: How many flowers are there?
- A: There’s one flower./ There are three flowers.
Sounds and words: /b/ , /p/
/b/ bird, ball, boy /p/ peach, pencil, pink
Short vowel sounds: cat, bed, sit, top, sun
Grammar: - Present Simple Tense
- Yes/No questions
- Pronoun and verbs contractions
เชน
What is = What’s There is = There’s
I am = I’m It is = It’s
It is not = It isn’t
- Article a, an
Vocabulary Key: a pencil, a pen, a bag, a book, a desk, a chair, a ruler, an eraser,
a map. a marker, a globe. a table, a board, a wastebasket, a
poster. a crayon, bird, ball, boy , peach, pencil, pink
Sounds and words: bird, ball, boy, peach, pencil, pink
cat, bed, sit, top, sun
Culture: วัฒ นธรรมในทุกสัง คมเมื่อพบคนที่ไมรูจัก มากอนจะมีก ารกลาวทัก ทาย สอบถามชื่อ
แนะนําตัวและแสดงทาทางประกอบการทักทายตามวัฒนธรรมของแตละชาติ


- หนังสือเรียน Let’s Go 1 (4th Edition) Workbook หนา 3-10
- Picture Cards หมายเลข 1-26
- CD 1 Track 05-21
- สําเนา Worksheet Unit 1 (หนา110-111 ใน Teacher’s Book)
- หุนมือ หรือหุนนิ้วมือ
- ชอลก ปากกาเขียนกระดาน
- กระดาษเปลา
- สีไม
หนวยยอยที่ 1: Let’s Talk
ก ิจ ก รรมก อ นก ารฟงแ ล ะพูด
1. ครูทักทายนักเรียนเมื่อนักเรียนเขาหองเรียน เพื่อแสดงตัวอยางการแนะนําตัวเอง โดยยกมือขึ้น

ทักทายนักเรียนเปนรายบุคคลและกลาวคําทักทาย T: Hello! สวัสดีคะ/ครับ สงเสริมใหนักเรียนกลาวตอบ
2. เมื่อนักเรียนพรอม ครูแสดงทาทางเอามือชี้ตัวเองพรอมพูดประโยค T: Hi! My name is (Ms. ชื่อ
ครู). หรือ Hello! I’m (Ms. ชื่อครู). และใชหุนมือ หรือหุนนิ้วมือ ทําทางทางสนทนากับตนเอง โดยใชน้ําเสียง
แตกตางกัน กลาวตอบ Puppet: Hello (Ms. ชื่อครู) ทําซ้ําหลายๆรอบแลวสงเสริมใหนักเรียนกลาวตอบดวย
ตนเอง โดยครูใหนักเรียนพูดและครูขยับหุนนิ้วมือประกอบ
3. นักเรียนทํากิจกรรม Snow Ball โดยครูทักทายนักเรียนคนที่ 1 ใหนักเรียนคนที่ 1 หันไปกลาว
ทักทายเพื่อนที่นั่งติดกันทางขวาและนักเรียนคนที่ 2 ทักทายนักเรียนคนถัดไป ปฏิบัติตอเนื่องจนครบ แลว
ปฏิบัติยอนกลับทางดานซายมือจนครบรอบ
ก ิจ ก รรมระหว างก ารฟงแ ล ะฝก พูด
กิจกรรมยอยที่ 1 A: Listen and say.

4. นัก เรียนเปดหนัง สือเรียนหนาที่ 4 หัวขอ A Listen and Say ครูเ ขียนชื่อ Kate, Scott และ
Andy ใหนักเรียนคาดเดาวาตัวละครใดชื่อวาอะไร หลังจากนั้น ฝกฟงบทสนทนา โดยครูเปดไฟลเสียง CD1
Track 05 จํานวน 1 รอบ
CD1 Track 05
Hello. I’m Scott. What’s your name?
My name is Kate.
What’s your name?
My name is Andy.
5. นักเรียนฟงไฟลเสียงรอบที่ 2 และเฉลยรวมกันวาตัวละครใดเปนคนพูดประโยคโดยชี้ตามคําที่ได
ยิน ครูสังเกตนักเรียนวาสามารถชี้ตามเสียงที่ไดฟงถูกตองหรือไม

6. นักเรียนฟงไฟลเ สียงรอบที่ 3 และฝก ออกเสียงพรอมทั้งชี้ตามที่ไดยิน หลังจากนั้นใหนักเรียน
ทดลองอานออกเสียงบทสนทนาดวยตนเอง ครูสังเกตนักเรียนที่อานออกเสียงคําใดไมถูกตอง ใหครูบอกวิธีการ
ออกเสียงที่ถูกตองรวมกันทั้งชั้นเรียน
7. ครูคัดเลือกนักเรียนที่ออกเสียงคลองแคลวแสดงบทบาทสมมติรวมกับครู หลังจากนั้นใหนักเรียน
จับกลุม 3 คน เลือกตัวละครของตนเองและใหนักเรียนแสดงบทบาทสมมติรว มกัน 1 รอบ และเปลี่ยนตัวละคร
ในรอบตอไปจนครบทั้ง 3 ตัวละคร
8. นักเรียนฟงเสียงไฟล CD 1 Track 06 และออกเสียงตามโดยครูเนนใหนักเรียนไดพูดประโยคดวย
น้ําเสียง จังหวะทวงทํานอง และความเร็ว ตามการพูดในชีวิตประจําวัน
CD1 Track 06
What’s your name?
My name is Kate.
What is= What’s I am , I’m
9. ครูแสดงวิธีการอานออกเสียงตัวยอ What is= What’s I am , I’m โดยใหนักเรียนอานครั้งละคํา

เชน What……is ครูแสดงบัตร Contraction Card และออกเสียง นักเรียนออกเสียงตาม เมื่ออานรูปยอใหครู
เลื่อนบัตรเขาหากันและออกเสียงเร็วขึ้นจนบัตรติดกันออกเสียง What’s และอธิบ ายเนนย้ําวา รูปยอมี
ความหมายเชนเดียวกับรูปเต็ม
10. นักเรียนฝกบทสนทนา โดยครูแบงนักเรียนในชั้นออกเปนสองกลุม สลับกันถามและตอบโดยใช
โครงสรางที่ไดฟง และฝกสนทนาเปนคูใหคลองแคลว
กิจกรรมยอยที่ 2 B: Listen and sing.
11. ครูใหนักเรียนอานเนื้อเพลงในกิจกรรม B Listen and sing ในหนังสือเรียนหนาที่ 5 ในคําที่
นักเรียนไมสามารถอานได หรือออกเสียงไมถูกตองครูชวยแกไข
12. นักเรียนฟงไฟลเสียง CD 1 Track 07 The Hello Song นักเรียนชี้เนื้อเพลงตามและออกเสียง
คลอไปกับบทเพลง
CD1 Track 07
The Hello Song
Hello, hello, hello!
What’s your name?
My name is Scott!
My name is Scott!
Hello, Scott!
Hello, Scott!
Hello! (Repeat with Andy, Kate, and Jenny)
13. ครูเปดเพลงรอบที่ 2 พรอมใหนักเรียนฝกรองตามทีล ะทอนและปรบมือเขาจังหวะและแสดง

ทาทางประกอบแลวใหนักเรียนรองเพลงดวยตนเอง 1 รอบ
14. ครูแบงนักเรียนเปน 2 กลุม แตละกลุมผลัดกันรองเพลงคนละทอน พรอมทําทาทางประกอบ เชน
เอามือชี้ที่ตัวเองเมื่อรองถึงบรรทัดที่บอกชื่อ My name is Scott. พรอมกับโบกมือเมื่อรองถึงทอนที่ทักทาย
กิจกรรมยอยที่ 3 C: Say and act. Ask a partner
15. นักเรียนจับคูและรองเพลงพรอมทั้งบอกชื่อตนเองและทําทาทางประกอบ เมื่อครูใหสัญญาณให
นักเรียนเปลี่ยนคู ปฏิบัติซ้ํา 3-4 รอบ จนกระทั่งครูสังเกตวานักเรียนสามารถใชประโยคในเพลงไดคลองแคลว
ระหวางทํากิจกรรมครูคอยสังเกตและบันทึกโดยใชแบบประเมินการพูด
16. นักเรียนทําแบบฝกหัดจาก Workbook หนา 3 A Read and trace อานและเขียนตามรอยประ
และ B Trace and write เขียนตามรอยประ
ก ิจ ก รรมหล ังก ารฟง/ก ิจ ก รรมก ารนําไปใช
17. นัก เรียนอานประโยคทั้ ง หมดจากแบบฝก หัดพรอมกัน ครูท บทวนในเรื่องการใชรู ป ยอจาก

แบบฝกหัดอีกครั้งหนึ่ง ถามคําถามเพื่อตรวจสอบความเขาใจของนักเรียน โดยพูดประโยคสองภาษาซ้ํา ๆ เชน
T: What is the contraction of “I am”? รูปยอของ I am คืออะไร
S: I’m
ครูออกเสียงคําวา I’m นําใหนักเรียนออกเสียงตาม 3 รอบ
18. นักเรียนทั้งชั้นสนทนากับครูตามโครงสรางที่เรียนมาอีกครั้ง

วัฒนธรรมในทุกสังคมเมื่อพบคนที่ไมรูจักมากอนจะมีการกลาวทักทาย สอบถามชื่อแนะนําตัวและ
แสดงทาทางประกอบการทักทายตามวัฒนธรรมของแตละชาติ และวัฒนธรรมที่เปนเอกลักษณของไทยคือการ
ไหวและกลาวคําวา สวัสดีครับ /คะ ดัง นั้นเมื่อมีการสื่อสารกับ คนจากประเทศตางๆ นักเรียนควรศึกษาถึง
วัฒนธรรมของแตละประเทศและแสดงออกดวยความเคารพ
1. หากนักเรียนในหองมีจํานวนมาก ในการทํากิจกรรมขอ 15 ครูตองควบคุมชั้นเรียนใหปฏิบัติตาม

กติกาอยางเครงครัด เพื่อปองกันนักเรียนที่ไมมีความมั่นใจและไมพดู ภาษาอังกฤษในการทํากิจกรรม ใหครูหยุด
กิจกรรมและกระตุนใหนักเรียนปฏิบัติตามกติกา
2. ครูผูสอนตองคอยดูวานักเรียนคนใดที่ยังไมสามารถพูดได หรือไมกลาพูด ครู จะตองชวยเหลือให
กําลังใจและเสริมแรงนักเรียนใหสามารถออกเสียงได
นักเรียนทํา Worksheet จากคูมือครูเปนการบาน (Teacher’s Book) หนาที่ 110 วาดภาพระบายสี

และเขียนทับรอยประ วาดภาพและเขียนชื่อตนเอง
หนวยยอยที่ 2: Let’s Learn
1. นัก เรี ย นร องเพลง The Hello Song และแสดงทา ทางประกอบ โดยครูเ ปด ไฟล เ สี ย ง 07
ประกอบการขับรองของนักเรียน
2. ทบทวนความรูจากหนวยยอยที่แลวโดยใชเวลาประมาณ 10 นาที นักเรียนนํา Worksheet จาก
คูมือครูที่ทําเปนการบาน (Teacher’s Book) หนาที่ 110 ขอที่นักเรียนเขียนทับรอยประ วาดภาพและเขียน
ชื่อตนเองมาใชประกอบการทํากิจกรรมสนทนาโดยนักเรียนยืนเขาแถวแบงเปน 2 แถว หันหนาเขาหากันครูให
สัญญาณนักเรียนสนทนาโดยใชโครงสราง Hello. I’m (ชื่อนักเรียน). What’s your name? My name’s
(ชื่อนักเรียน) เมื่อสนทนาจบแลวใหแลกเปลี่ยนใบงานระหวางกันและเลื่อนไปจับคูกับนักเรียนคนใหมทางขวา
และเมื่อครูใหสัญญาณเริม่ นักเรียนใชขอมูลของเพื่อนในการถามตอบแทนขอมูลจริงของตนเอง ปฏิบัติตอเนื่อง
จนกระทั่งครูสังเกตวานักเรียนมีความคลองแคลว ในระหวางการปฏิบัติใหครูเดินไปรอบ ๆ เพื่อใหคําแนะนํา
และการเสริมแรง
3. ครูนําเสนอคําศัพทโดยใชบัตรคําหมายเลข 1-8 โดยครูแสดงบัตรคําครั้งละ 1 ใบและออกเสียงนํา

ใหนักเรียนออกเสียงตาม 3 ครั้งตอ 1 บัตรคํา วาดกรอบสี่เหลี่ยมระบุตําแหนงที่จะติดบัตรคําแลวติดบัตรคํา
อยางเปนระเบียบบนกระดานตามลําดับ กระตุนใหนักเรียนสังเกตวาบัตรคําที่ 8 แตกตางกับบัตรคํา 7 อยางไร
ครูเขียนคําศัพท an apple, an orange ครุอธิบายเพิ่มเติมในเรื่อง article a, an
บัตรคําที่ 1 a pencil
บัตรคําที่ 2 a pen
บัตรคําที่ 3 a bag
บัตรคําที่ 4 a book
บัตรคําที่ 5 a desk
บัตรคําที่ 6 a chair
บัตรคําที่ 7 a ruler
บัตรคําที่ 8 an eraser

4. ฝกซ้ําดวยเทคนิคการสรางภาพจําใหแกนักเรียนดวยการใหนักเรียนอานคําเรียงตามลําดับ 4 รอบ
หลังจากนั้นคอยๆ ดึงบัตรคําออกครั้งละ 1 ใบ และครูชี้ใหนักเรียนอานคําอยางตอเนื่องตามตําแหนงเดิมของ
บัตรคํา จนกระทั่งไมเหลือบัตรคํา
5. ทดสอบใหนัก เรียนออกเสียงคําศัพททั้งหมดซ้ํา โดยครูแสดงบัตรคําครั้งละ 1 ใบ ครูใชคําถาม
What’s this? และเมื่อนักเรียนอานคําศัพท ครูพูดซ้ําโดยใชประโยค It’s _____ เชน ครูแสดงบัตรภาพดินสอ
ตัง้ คําถาม
T: What’s this?
Ss: Pencil
T: It’s a pencil.
Ss: It’s a pencil.
กิจกรรมยอยที่ 1 A: Learn the Words
6. นักเรียนเปดหนังสือเรียนหนาที่ 6
7. ครูเปดไฟลเ สียง CD1 Track 08 และใหนัก เรียนชี้ตามรูป และคําที่ไดยินและเปดรอบที่ 2 ให
นักเรียนฝกออกเสียงตาม
CD1 Track 08
1. a pencil 2. a pen 3. a bag 4. a book
5. a desk 6. a chair 7. a ruler 8. an eraser
8. ครูทดสอบความรูดานคําศัพทดวยการออกเสียงคําศัพทแลวใหนักเรียนแสดงสิ่งของในหองเรียน
พรอมทั้งออกเสียงคําศัพท
กิจกรรมยอยที่ 2 B: Ask and Answer
9. ครูใหเวลานักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน 1 นาที แลวปดหนังสือ ครูตั้งคําถามวานักเรียนเห็นอะไร
ในภาพบาง ใหชวยกันบอก
T: What do you see in the picture?
Ss: ตอบตามความจริง ครูเขียนเขียนคําศัพทบนกระดานตามที่นักเรียนบอก แลวเปดหนังสือเพื่อ
ตรวจสอบคําศัพท
10. ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 09 และใหนักเรียนชี้ตามรูปและคําที่ไดยินและเปดรอบที่ 2 ให
นักเรียนฝกออกเสียงตาม ครูสังเกตและแกไข
CD 1 Track 0 What’s this?
It’s a pencil.
1. What’s this? It’s a pencil.
2. What’s this? It’s a book.
3. What’s this? It’s a ruler.
4. What’s this? It’s a pen.
5. What’s this? It’s a bag.
11. ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 10 แลวใหนักเรียนออกเสียงและปรบมือเขาจังหวะใหคลองแคลวครู

ย้ําเรื่องการใชรูปยอ What’s…และ It’s…
CD 1 Track 10
ดูเนื้อหาจาก Track 09
12. ครูเขียนเติมประโยคในรูปยอ ขางหนารายการคําศัพทบนกระดาน นักเรียนอานออกเสียงดวย

ตนเอง เชน a book เติม It’s _____ดานหนา It’s a book. เติมใหครบทุกคําแลวใหนักเรียนจับคูฝกถามตอบ
โดยใชสื่อของจริงในหองเรียนโดยสลับกันเปนผูถามและผูตอบ
กิจกรรมยอยที่ 3 C: Ask your partner
13. นักเรียนจับคูกัน ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 11 ใหนักเรียนฟง 1 รอบ ครูเปดไฟลเสียงรอบที่ 2
ครั้งละ 1 ประโยค ใหสัญญาณนักเรียนแตละคูชี้ที่ภาพ หรือแสดงของจริง คูใดทําไดเร็วและถูกตองที่สุดไดรับ
1 คะแนน ปฏิบัติตอ เนื่องจนครบทุกประโยค
CD 1 Track 11
1. What’s this? It’s a desk.
2. What’s this? It’s a bag.
3. What’s this? It’s a chair.
4. What’s this? It’s a pencil.
5. What’s this? It’s a book.
6. What’s this? It’s a pen.
14. นักเรียนจับคูสนทนาโดยใชภาพจากหนังสือหรือสือ่ ของจริง ครูเดินสังเกต แกไข กระตุน เสริมแรง
และประเมินผล
15. ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 12 แลวใหนักเรียนออกเสียงและปรบมือเขาจังหวะใหคลองแคลว
แลวทํากิจกรรม Back to Back โดยใหนักเรียนเลือกรูปภาพอุปกรณในชั้นเรียน 1 ชิ้น จากหนังสือเรียนหนาที่

7 หรือสื่อของจริง ยืนหันหลังเขาหากัน ครูเปดไฟลเสียงใหจังหวะ เมื่อครูหยุดใหนักเรียนหันมาหาคูของตนชี้ที่
ภาพและถามดวยโครงสรางประโยค S1: What’s this? S2: It’s_____ นักเรียนที่ไดเปนผูถามไดรับ 2
คะแนน นักเรียนที่เปนผูตอบถาตอบไดไดรับ 1 คะแนน ถาตอบไมได ไมไดรับคะแนน
กิจกรรมยอยที่ 4 D: Listen, point, and Chant.
16. ครูแสดงบัตรคําที่ 3 a bag กระเปาหนังสือและ บัตรคําที่ 4 a book หนั ง สื อ ให นั ก เรี ย น
ออกเสียงทั้งสองคําซ้ํา 2 รอบ และครูตั้งคําถามใหนักเรียนตอบ หลังจากนั้นเปดไฟลเสียง CD1 Track 13
CD 1 Track 13
What’s this? It’s a book.
What’s this? What’s this?
It’s a book. It’s a book.
What’s this? What’s this?
What’s this? It’s a bag.
It’s a bag. What’s this?
What’s this? It’s a book bag.
17. นักเรียนแบง เปน 4 กลุม รวมกันแตงบทเขาจังหวะเลียนแบบบทเขาจังหวะจากบทเรียน โดย
นัก เรียนเลือกคําศัพทจ ากทเรียนจํานวน 2 คําแลวใสจัง หวะดวยตนเองโดยนัก เรียนสามารถใชความคิด
สรางสรรคไดอยางอิสระ ดวยการใสทวงทํานองที่นักเรียนตองการ หรือสามารถใชทวงทํานองจากในบทเรียนก็
ได นักเรียนฝกฝนภายในกลุมจนคลองแคลว
18. นักเรียนแตละกลุมนําเสนอบทเขาจังหวะ Chant ของตนเองแตละกลุมมีเวลา 3 นาที โดยออก

เสียงแสดงอุปกรณ หรือรูปภาพ พรอมทาประกอบ
19. นักเรียนออกเสียงเลือกกลุมที่สามารถพูดบทเขาจังหวะไดพรอมเพรียง และมีทาทางที่นาสนใจ
ที่สุดใหไดรับรางวัล Chant of the day. บทเขาจังหวะดีเดน แลวใหสมาชิกกลุมนํานักเรียนทั้งชั้นพูดบทเขา
จังหวะและทําทางทางประกอบพรอมกันจนคลองแคลว ครูคอยกระตุนและเสริมแรงใหทุกคนมีสวนรวมใน
กิจกรรม
1. ครูควรเปดโอกาสใหนักเรียนเปนรายบุคคลไดฝก กับครูเพิ่มเติมโดยสามารถใชเวลาชวงระหวางการ
จับคูสนทนา โดยครูเขารวมกิจกรรมจับคูสนทนากับนักเรียนเปนรายบุคคลเพื่อสามารถตรวจสอบแกไขและ
ประเมินนักเรียนไดอยางใกลชิด
2. ในการปฏิบัติกิจกรรมแตะละขั้นตอนครูควรมอบหมายใหนักเรียนบริหารเวลาในการทํางานอยาง
เหมาะสมและมีสัญญาณเตือนกอนหมดเวลาเพื่อใหนักเรียนเรงทํากิจกรรมใหตรงเวลา
ครูประเมินคําศัพทและการใชประโยคของนักเรียนดวยการใหทําแบบฝกหัดใน Workbook หนา 4-5

หนว ยย อ ยที3่ : Le t’s Le arn More
หนวยยอยที่ 3: Let’s Learn More
1. ทบทวนคําศัพทและโครงสรางประโยคจากหนวยยอยที่แลวโดยทํากิจกรรม Teacher Game

อาสาสมัครตัวแทนนักเรียนออกมาดูบัตรคําศัพทที่ครูแลววาดภาพบนกระดานภายในเวลา 1 นาที แลวตั้ง
คําถามใหเพื่อนตอบ S1: What’s this? Ss: It’s_____ นักเรียนที่เปนผูวาดเฉลยคําศัพทโดยการแสดงบัตร
คําและตอบคําถาม อาสาสมัครคนตอไปปฏิบัติจนครบทุกคํา
2. ครูนําเสนอคําศัพทโดยใชบัตรคําหมายเลข 9-16 โดยครูแสดงบัตรคําครั้งละ 1 ใบ ครูตั้งคําถาม
T: What’s this? Ss: It’s _____
หากมีนักเรียนตอบไดใหครูพูดย้ํา และใหนักเรียนทั้งชั้นออกเสียงตาม ถาไมมีนักเรียนคนใดตอบได
ใหนักเรียนตั้งคําถาม ครูแสดงบัตรคําพรอมตอบคําถาม และออกเสียงนําใหนักเรียนออกเสียงตาม 3 ครั้งตอ
1 บัตรคํา
บัตรคําที่ 9 a map
บัตรคําที่ 10 a marker
บัตรคําที่ 11 a globe
บัตรคําที่ 12 a table
บัตรคําที่ 13 a board
บัตรคําที่ 14 a wastebasket
บัตรคําที่ 15 a poster
บัตรคําที่ 16 a crayon

3. นักเรียนเปดหนังสือหนา 8 ดูรูปภาพและคําศัพท ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 14 นักเรียนออก
เสียงตามพรอมทั้งชี้ที่รูปภาพ
CD 1 Track 14
1. a map 2. a marker 3. a globe 4. a table
5. a board 6. a wastebasket 7. a poster 8. a crayon
4. ครูฝกการอานคําศัพทใหคลองแคลวและการเชื่อมโยงความหมาย โดยใชบัตรคําหมายเลข9-16
โดยครูแสดงบัตรคําครั้งละ 1 ใบ เริ่มตนจากชาและเรงความเร็วของการนําเสนอและการถามคําถาม โยสลับให
นักเรียนเปนผูถามใหครูตอบตามโครงสรางประโยค
T: What’s this? Ss: It’s _____(ตอบตามที่เห็น)
ครูส ลับบัตรคําไปมา จนกระทั่งนักเรียนพูดไดอยางคลองแคลวและสามารถจนจําคําศัพทและ
ความหมาย
กิจกรรมยอยที่ 2 B: Make sentences
5. นักเรียนดูรูปภาพและคําศัพทจากหนังสือเรียนหนาที่ 8 ครูเขียนรูปแบบประโยคบนกระดาน โดย
ขีดเสนเวนวางในสวนคําศัพทเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณหรือเครื่องมือในหองเรียน ดังนี้
This is ___________________ .
ครูนําบัตรคําที่ 9 a map แผนที่ วางเทียบในตําแหนงของคําศัพทแลวพูดประโยค
T: This is a map. 4 รอบ ใหนักเรียนไดออกเสียงตาม และเปลี่ยนบัตรคําเพิ่มเติมประมาณ 1-2 คํา
CD 1 Track 15
This is a map. This is a globe.
1. This is a map.
2. This is a marker.
3. This is a globe.
4. This is a table.
5. This is a board.
6. This is a wastebasket.
7. This is a poster.
8. This is crayon.
9. This is a globe.

6. ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 15 นักเรียนออกเสียงตามพรอมทั้งชี้ที่รูปภาพ ครูสังเกตและแกไข
การออกเสียง /th/ ใหนักเรียนออกเสียงใหชัดเจนโดยครูแสดงการออกเสียงใหนักเรียนดูและปฏิบัติตาม โดย
การแสดงตําแหนงของลิ้นที่อยูระหวางฟนบนและฟนลาง
7. อาสาสมัครนักเรียนครัง้ ละ 1 คนมานําการสนทนาโดยถือบัตรคําทาบกับประโยคที่ครูเขียน ใหเพื่อ
ออกเสียงทีละคําจนครบ
9. นักเรียนจับคูฝกพูดโดยชี้ที่รูปภาพและสื่อของจริงภายในหองเรียน
กิจกรรมยอยที่ 3 C: Play a game. Ask your partner.
10. นักเรียนเปดหนังสือหนา 9 ชี้ที่ประโยคและอานตามครู 2-3 รอบ
T: Is this a poster?
Yes, it is.
No, it isn’t. It’s a pen.
11. ครูเขียนบทสนทนาบนกระดาน แลวแสดงบัตรคําที่ 2 a pen ถามคําถามตามโครงสรางอีกครั้งให
นักเรียนตอบ
Ss: No, it isn’t. It’s a pen.
ครูแสดงบัตรคําที่ 15 a poster. แลวถามคําถามตามโครงสรางอีกครั้งใหนักเรียนตอบ
Yes, it is.
12. ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 17 นักเรียนออกเสียงตาม
CD 1 Track 17
Is this a poster?
Yes, it is.
No, it isn’t. It’s a pen.
13. นักเรียนจับ คูสนทนาโดยใชวงลอรูป วัสดุอุปกรณในหนังสือเรียน โดยหมุนดินสอในวงลอ เมื่อ

ดินสอหยุดหมุนและชี้ไปที่ภาพใดใหนักเรียนตั้งคําถามและตอบคําถาม
กิจกรรมยอยที่ 4 D: Listen and do.
14. นักเรียนนั่งลอมเปนวงกลม 1 วงทํากิจกรรม Guessing Game เดาทาทางของครูวาครูทําอะไร
1. ครูทําทา นําหนังสือออกจากกระเปา Take our your book
2. ครูทําทาเปดหนังสือ Open your book
3. ครูทําทาปดหนังสือ Close your book
4. ทําทาเก็บหนังสือใสกระเปา Put away your book.
15. เมื่อนักเรียนเดาถูกวากริยาของครูคือการทําอะไรครูแสดงบัตรคํา Teacher Card ที่ 17-20 ออก
เสียงและติดบัตรคําบนกระดาน
16. ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 18 และชี้บัตรคําบนกระดาน นักเรียนออกเสียงตามจนคลองแคลว
CD 1 Track 18
1. Take our your book
2. Open your book
3. Close your book
4. Put away your book.
17. นักเรียนแบงกลุมเปนสองกลุม A และ B เลนเกม Action! โดยครูชี้บัตรคําบนกระดาน และให

สัญญาณโดยพูดวา Action! นักเรียนแขงกันออกเสียงและทําทาทางประกอบกลุมที่แสดงออกไดพรอมเพรียง
กันไดรับ 1 คะแนน ครูเขียนตารางบันทึกคะแนน ปฏิบัติซ้ําจนนักเรียนพูดและปฏิบัติไดคลองแคลว
ในกรณีมีจํานวนนักเรียนมากตอชั้น ในกิจกรรมขอที่ 14 สามารถปรับวิธีการไดใหเหมาะสมกับบริบท

ของหองเรียน
1. นักเรียนระบายสีใบงาน Classroom Objects จากหนังสือคูมือครู หนา 111 เปนรายบุคคล เพื่อ

ใชในกิจกรรมหนวยยอยตอไป โดยแจงใหผูปกครองชวยตัดบัตรภาพเปนชิ้นพรอมใชงาน
2. ครูประเมินคําศัพทและการใชประโยคของนักเรียนดวยการใหทําแบบฝกหัดใน Workbook หนาที่ 4-5

หนวยยอยที่ 4: Let’s Read
ก ิจ ก รรมก อ นก ารอ าน
1. นักเรียนนั่งเปนกลุมๆ ละ 4 คน ทํากิจกรรม Snap Game เพื่อทบทวนคําศัพทและโครงสราง

ประโยค โดยนําใบงาน Classroom Objects จากหนังสือคูมือครู หนา 111 ที่ระบายสีและตัดแยกชิ้นเตรียม
ไวลวงหนาของตนเองออกมา ถือไวในมือไมใหคูของตนมองเห็น หาผูเริ่มเลนวางบัตรลงบนโตะและพูดประโยค
This is a_______นั ก เรี ย นคนที่ 2 วางบั ต รของตนเองทั บ ลงไปและพู ดประโยคและคนถัด ไปปฏิ บั ติ
เชนเดียวกัน ในกรณีที่บัตรซ้ํากับบัตรกอนหนา ใหทุกคนพยายามวางมือทับกองบัตรภาพใหเ ร็วที่สุด ใคร
สามารถวางไดกอนจะเปนเจาของบัตรภาพนั้น ครูใหสัญญาณจบเกมใครไดบัตรคํามากที่สุดเปนผูชนะ
ก ิจ ก รรมระหว างก ารอ าน
กิจกรรมยอยที่ 1 A: Listen, point, and say.

2. ครูใหนักเรียนเรียงบัตรคําใหเปนระเบียบบนโตะ หลังจากนั้นทํากิจกรรมระบุตัวอักษร และคําที่ครู
ออกเสียง ถากลุม ใดหาพบและยกขึ้นแสดงไดกอนจะไดรบั 1 คะแนน เมื่อพรอมครูเริ่มออกเสียงโดยออกเสียง
พยัญชนะนํากอน ไดแก
T: /b/ , /b/, /b/ bag นักเรียนแสดงคําวา bag
/p/, /p/, /p/ pencil นักเรียนแสดงคําวา pencil
/b/ , /b/, /b/ book นักเรียนแสดงคําวา book
/p/, /p/, /p/ poster นักเรียนแสดงคําวา poster
3. ครูใหนักเรียนออกเสียงดวยตนเอง โดยครูแสดงบัตรคําที่ 1 pencil ,3 bag, 4 book และ 15
poster สลับกันไปมาประมาณ 2 รอบ
4. ครูแสดงตัวอยางการออกเสียงพยัญชนะ /b/ และ /p/ โดยใชกระดาษ A4 บังริมฝปากขณะออก
เสียงใหนักเรียนสังเกต เปรียบเทียบและระบุเสียงอักษรวาครูออกเสียงใด ใหนักเรียนทดลองหาคําตอบดวย
ตนเองโดยถื อกระดาษดว ยมือ ขวาบัง ริ ม ฝป ากและออกเสีย ง ขณะออกเสียงใชมื อซา ยจับ ลําคอบริ เ วณ
ลูกกระเดือก หรือกลองเสียง รวมกันสรุปไดวาการออกเสียงพยัญชนะ /b/ จะมีลมเพียงเล็กนอยและเมื่อจับ
ลําคอจะรูสึก ไดถึงการสั่นสะเทือน และเสียง /p/ จะมีล มออกมามาก และเมื่อจับ ลําคอจะไมรูสึกถึงการ
สั่นสะเทือนเทาเสียง /b/
5. นักเรียนเปดหนังสือหนาที่ 10 แลวฟงไฟลเสียง CD1 Track 19 ชี้คําศัพท และอานออกเสียงตาม
CD 1 Track 19
B /b/ bird, ball, boy
P /p/ peach, pencil, pink
6. นักเรียนทํากิจกรรมฟงคําศัพทจากครูแลวยกมือซายถาคําศัพทนั้นๆ ขึ้นตนดวยเสียง /b/ และยก

มือขวา ถาคําศัพทนั้นๆ ขึ้นตนดวยเสียง /p/ ครูออกเสียงซ้ํา 2-3 รอบตอคํา แลวสังเกตความสามารถในการ
จําแนกเสียงของนักเรียน ตรวจสอบแกไข
กิจกรรมยอยที่ 2 B: Listen, point and chant
7. นักเรียนเปดหนังสือหนาที่ 10 แลวฟงไฟลเสียง CD1 Track 20 ชี้ที่ตัวอักษร b และ p ดานบน
CD 1 Track 20
The BP Phonics Chant
/b/, /b/ ball
/b/, /b/ boy
/p/, /p/ pencil
/p, /p/ peach
/p/, /p/ pencil
pencil, ball, peach, YES!
/b/, /b/ ball
/b/, /b/ boy
/p/, /p/ pencil
/p, /p/ peach,
pencil, ball, peach, YES!
8. นัก เรียนฟง อีก 1 รอบ แลวยกมือซายถาคําศัพทนั้นๆ ขึ้นตนดวยเสียง /b/ และยกมือขวา ถา
คําศัพทนั้นๆ ขึ้นตนดวยเสียง /p/ นักเรียนปฏิบัติซ้ํา 2 รอบ พรอมทั้งสลับใหนักเรียนที่นั่งดานซายมือยกมือ
เมื่อไดยินคําศัพทที่มีเ สียงพยัญ ชนะตนคํา /b/ นัก เรียนที่นั่ง ดานขวามือยกมือเมื่อไดยินคําศัพทที่มีเ สียง
พยัญชนะตนคํา /p/ และใหฝกรวมทั้งหองอีกครั้ง
กิจกรรมยอยที่ 3 C: Listen and read along:
9. นักเรียนดูรูปภาพจากในหนังสือเรียนหนาที่ 11 At the park. และระบุคําศัพทที่เรียนมาแลว อาน
ชื่อเรื่องและออกเสียง /p/ ที่คําวา park

10. ครูเปดไฟลเ สียง CD1 Track 21 ฟงและชี้คําที่นักเรียนไดยิน จากเนื้อเรื่อง และเปดรอบที่ 2
เพื่อใหนักเรียนอานออกเสียงและฝกการออกเสียงเนนหนัก และจังหวะในการพูด
CD 1 Track 21
1. What’s this?
2. It’s a ball.
3. Is this a ball.
4. No, it isn’t. It’s a peach.
ก ิจ ก รรมเส ริม
11. นักเรียนจับคูอานและนํามาแสดงบทบาทสมมติ
12. นักเรียนทําแบบฝกหัดหนาที่ 8 Match และ Write เมื่อทําเสร็จรวมกันเฉลย โดยอานออกเสียง

และบอกวาคํานั้นออกเสียง /b/ หรือ /p/
1. หากนักเรียนในหองมีจํานวนมาก ในการทํากิจกรรม ครูตองควบคุมชั้นเรียนใหปฏิบัติตามกติกา

อยางเครงครัด เพื่อปองกันนัก เรียนที่ไมมีความมั่นใจและไมพูดภาษาอังกฤษในการทํากิจกรรม ใหครูหยุด
2. ครูผูสอนตองคอยดูวานักเรียนคนใดที่ยังไมสามารถพูดได หรือไมกลาพูด ครูจะตองชวยเหลือให
นักเรียนทําหนังสือนิทานจากหนังสือแบบฝกหัด ระบายสีใหสวยงามดวย
เฉลยแบบฝกหัด Let’s Go 4th Edition Workbook 1
Let’s Talk Page 3
A Read and trace. B Trace and write.
Hello. I’m Scott. 1. What’s your name?
What’s your name? I’m Jenny.
My name is Kate. 2. What is = What’s
3. I am = I’m
Let’s Learn Page 4-5
A Check. B Trace and match.
1. a pencil 1. line drawn to third picture
2. a chair 2. line drawn to first picture
3. an eraser 3. line drawn to fourth picture
4. a pen 4. line drawn to second picture
C Read and write. D Match

1. It’s a rurler. 1. What’s this?
2. It’s a desk. It’s a pencil.
3. It’s a pencil. 2. What’s this?
4. It’s a pen. It’s a pen.
3. What’s this?
It’s an eraser.
Let’s Learn More Pages 6-7

A Trace. B Trace and write
1. a marker 1. This is a globe.
2. a poster 2. This is a marker.
3. a globe 3. This is a book.
4. a table 4. This is a table.
5. a waste basket 5. This is a poster
6. a board

C Unscramble, write, and circle. D Match.
1. Is this a marker? 1. line drawn to third picture
Yes, it is. 2. line drawn to fourth picture
2. Is this a crayon? 3. line drawn to first picture
Yes, it is. 4. line drawn to second picture
3. Is this a poster?
No, it isn’t.
4. Is this a wastebasket?
No, it isn’t.
Let’s Read Pages 8-10
A Match. B Write
1. picture of boy / boy / Bb 1. Bb
2. picture of pencil / pencil/ Pp ball
3. picture of peach / peach / Pp bird
4. picture of bird / bird / Bb boy
5. picture of pink paint / pink / Pp 2. Pp
6. picture of ball / ball / Bb peach
pencil
pink

________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
ลงชื่อ _________________________________________
( _____________________________________ )
ตําแหนง ____________________________________
วันที่________________________
แผนการจัดการเรียนรูที่ 2
Colors and Shapes เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
ขั้นที่ 1 ผลลัพธปลายทางที่ตองการใหเกิดขึ้นกับนักเรียน
มาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด
มาตรฐาน ต 1.1 เขาใจและตีความเรื่องที่ฟง และอานจากสื่อประเภทตาง ๆ และแสดงความคิดเห็นอยางมี
เหตุผล
ต 1.1 ป.1/1 ปฏิบัติตามคําสัง่ งายๆ ที่ฟง
ต 1.1 ป.1/2 ระบุตัวอักษรและเสียง อานออกเสียงคําและสะกดคํางายๆถูกตองตามหลักการอาน
ต 1.1 ป.1/3 เลือกภาพตรงตามความหมายของคําและกลุมคําที่ฟง
ต 1.1 ป.1/4 ตอบคําถามจากการฟงเรื่องใกลตัว
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอมูล ขาวสาร แสดงความรูส ึกและความ
คิดเห็นอยางมีประสิทธิภาพ
ต 1.2 ป.1/1 พูดโตตอบดวยคําสั้นๆ งายๆในการสื่อสารระหวางบุคคลตามแบบทีฟ่ ง
ต 1.2 ป.1/2 ใชคําสั่งงายๆตามแบบทีฟ่ ง
ต 1.2 ป.1/3 บอกความตองการงายๆของตนเองตามแบบที่ฟง
ต 1.2 ป.1/4 พูดขอและใหขอมูลงายๆเกี่ยวกับตนเองตามแบบทีฟ่ ง
มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอขอมูลขาวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องตาง ๆ โดยการพูดและ
เขียน
ต 1.3 ป.1/1 พูดใหขอมูลเกี่ยวกับตนเองและเรือ่ งใกลตัว
มาตรฐาน ต 2.1 เขาใจความสัมพันธระหวางภาษากับวัฒนธรรมของเจาของภาษา และนําไปใชไดอยาง
ต 2.1 ป.1/3 เขารวมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับวัย

มาตรฐาน ต 2.2 เขาใจความเหมือนและความแตกตางระหวางภาษาและวัฒนธรรมของเจาของภาษากับ
ภาษาและวัฒนธรรมไทยและนํามาใชอยางถูกตองและเหมาะสม
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธกับกลุมสาระการเรียนรูอื่น
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภาษาตางประเทศในการเชื่อมโยงความรูกบั กลุมสาระการเรียนรูอื่น และเปนพื้นฐานใน
การพัฒนา แสวงหาความรู และเปดโลกทัศนของตน
ต 3.1 ป.1/1 บอกคําศัพททเี่ กี่ยวของกับกลุมสาระการเรียนรูอื่น
มาตรฐาน 4.1 ใชภาษาตางประเทศในสถานการณตาง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ต 4.1 ป.1/1 ฟง/พูดในสถานการณงายๆที่เกิดขึ้นในหองเรียน
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภาษาตางประเทศเปนเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาตอ การประกอบอาชีพและการ
แลกเปลี่ยนเรียนรูกบั สังคมโลก
ต 4.2 ป.1/1 ใชภาษาอังกฤษ เพื่อรวบรวมคําศัพททเี่ กี่ยวของใกลตัว
ความเขาใจที่คงทนของนักเรียน คําถามสําคัญที่ทําใหเกิดความเขาใจที่คงทน
นักเรียนจะ...
1. สามารถสนทนาทักทาย สอบถามทุกขสุขของคู - นักเรียนตองการสนทนาทักทาย สอบถามทุกขสุข
สนทนาและตอบคําถามโดยใชโครงสราง ของคูสนทนาและตอบคําถามจะพูดเปน
ประโยคที่กําหนดใหและใชรปู ยอของกริยากับ ภาษาอังกฤษวาอยางไร
สรรพนาม Contraction ได - นักเรียนตองการถามคําศัพทเกี่ยวกับสี รูป
2. สามารถฟง พูด อาน และเขียนคําศัพทเกี่ยวกับ เรขาคณิต และรูปรางลักษณะของสิ่งของจะพูดเปน
สี รูปเรขาคณิต และรูปรางลักษณะของสิ่งของ ภาษาอังกฤษอยางไร
ตาง ๆ ได - นักเรียนตองการสนทนาถาม-ตอบเพือ่ ระบุ
3. สามารถระบุ จําแนก บรรยายและสนทนาถาม- จําแนก บรรยายเกี่ยวกับสี รูปเรขาคณิต และ
ตอบเกี่ยวกับสี รูปเรขาคณิต และรูปราง รูปรางลักษณะของสิ่งตาง ๆ จะพูดเปน
ลักษณะของสิ่งตาง ๆ ได ภาษาอังกฤษอยางไร
4. สามารถปฏิบัติตามคําสัง่ งายๆ ในชั้นเรียนได - รูปยอของกริยากับสรรพนาม Contraction ใช
5. สามารถแยกความแตกตางของคําศัพททมี่ ีเสียง อยางไร
พยัญชนะตน Kk/Gg ได - คําสั่งงายๆ ในชั้นเรียนพูดเปนภาษาอังกฤษ
- คําที่มีเสียงพยัญชนะตน Kk/Gg อานออกเสียง
ความรูของนักเรียนที่นาํ ไปสูความเขาใจที่คงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนที่จะนําไปสู
นักเรียนจะรูวา... ความรูที่คงทน นักเรียนจะสามารถ...
1. บทสนทนาทักทาย สอบถามทุกขสุขของคู 1. สนทนาทักทาย สอบถามทุกขสุขของคูสนทนา
สนทนาและตอบคําถาม และตอบคําถามโดยใชโครงสรางประโยคที่
Q: How are you? กําหนดให
A: I’m fine. Thank you (great, ok) 2. ฟง พูด อาน และเขียนบอกความหมายคําศัพท
2. คําศัพทเกี่ยวกับสี รูปเรขาคณิต และรูปราง เกี่ยวกับสี รูปเรขาคณิต และรูปรางลักษณะของ
ลักษณะของสิ่งของตาง ๆ สิ่งของตาง ๆ ได
color, yellow, blue, red, green, purple, 3. สามารถระบุ จําแนก บรรยายและสนทนาถาม-
orange, brown, pink, black, white, shape, ตอบเกี่ยวกับสี รูปเรขาคณิต และรูปรางลักษณะ
a triangle, a square, a circle, a star, a ของสิ่งตาง ๆ ได
diamond, a heart, an oval, a rectangle 4. ใชรูปยอของกริยากับสรรพนาม Contraction ได
3. ประโยคที่ใชระบุ จําแนก บรรยายและสนทนา 5. ปฏิบัติตามคําสัง่ งายๆ ในชั้นเรียนได
ถาม-ตอบเกี่ยวกับสี รูปเรขาคณิต และรูปราง 6. ระบุและแยกความแตกตางของคําศัพทที่มเี สียง
ลักษณะของสิ่งตาง ๆ พยัญชนะตน Kk/Ggได
Q: What color is this?
A: It’s orange.
- This is a pencil. It’s yellow and pink
- This is a star. It’s blue. It’s a blue star.
Q: Is this a red square?
A: Yes, it is./ No, it isn’t.
- รูปยอของกริยากับสรรพนาม
Contraction เชน
What is = What’s I am = I’m
It is = It’s It is not = It isn’t
4. คําสั่งงายๆ ในชั้นเรียน เชน
Pick up your pencil.
Draw a triangle.
Pick up a red marker.
Draw a picture.
5. การออกเสียงคําศัพททมี่ ีเสียงพยัญชนะตน
Kk/Gg เชน cat, coat, cow, girl, gate, goat

ขั้นที่ 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรียนรูซึ่งเปนหลักฐานที่แสดงวานักเรียนมีผลการเรียนรู
ตามที่กําหนดไวอยางแทจริง
1. ภาระงานที่นักเรียนตองปฏิบัติ
1.1 ศึกษาบทสนทนาทักทาย สอบถามทุกขสุขของคูสนทนาและตอบคําถามโดยใชโครงสรางประโยคที่
กําหนดใหและใชรูปยอของกริยากับสรรพนาม Contraction
กิจกรรม Conversation
- ปฏิบัติกิจกรรมบทบาทสมมุติ
1.2 ศึกษาคําศัพทและความหมายเกี่ยวกับสี รูปเรขาคณิต และรูปรางลักษณะของสิ่งของตาง ๆ
กิจกรรม Vocabulary
- ปฏิบัติกิจกรรมฟงและแสดงทาทางประกอบ ชี้คําศัพท แสดงบัตรภาพ บัตรคําตามที่ไดยิน
1.3 ศึกษาประโยคที่ใชระบุ จําแนก บรรยายและสนทนาถาม-ตอบเกี่ยวกับสีของสิง่ ตาง ๆ
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรูตามที่กําหนด กิจกรรมฟงและพูดบทเขาจังหวะ จากแถบ
บันทึกเสียง
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรูตามที่กําหนด กิจกรรมจับคูสนทนาเกี่ยวกับสีของสิ่งตาง ๆ
1.4 ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปเรขาคณิต และรูปรางลักษณะของสิ่งตาง ๆ
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรูตามที่กําหนด กิจกรรมฟงจากแถบบันทึกเสียงและระบุ
คําศัพท
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรูตามที่กําหนด กิจกรรมการเรียนรูประโยคและการสราง
ประโยค
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรูตามที่กําหนด กิจกรรมเกมสรางสรรคและพูดประโยคเกี่ยวกับ
สี รูปเรขาคณิต และรูปรางลักษณะของสิ่งของตาง ๆ
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรู ทํากิจกรรมตาง ๆ ตามคําสั่งในหองเรียน
1.5 ศึกษาและปฏิบัติกจิ กรรมประกอบการเรียนรูตามทีก่ ําหนด
กิจกรรม Song Activity จากแถบบันทึกเสียง
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรู กิจกรรมรองเพลง ชี้คําศัพทและแสดงทาทางประกอบ
1.6 ศึกษาการอานออกเสียงคําศัพท ที่มเี สียงพยัญชนะตน Kk /Gg จากภาพและคําศัพทที่กําหนด
กิจกรรม Sounds and words จากแถบบันทึกเสียง
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรูฟงเรื่องแลวระบุคําศัพท
- ปฏิบัติกิจกรรมประกอบการเรียนรูพูดบทเขาจังหวะ
2. วิธีการและเครื่องมือประเมินผลการเรียนรู
2.1 วิธีการประเมินผลการเรียนรู 2.2 เครื่องมือประเมินผลการเรียนรู
1) การทดสอบกอนเรียนและหลังเรียน 1) แบบทดสอบกอนเรียนและหลังเรียน
2) การทดสอบทักษะดานการฟง พูด อาน 2) แบบประเมินผลทักษะดานการฟง พูด
และเขียน อาน และเขียน
3) การประเมินผลงาน/กิจกรรมเปน 3) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรมเปน
รายบุคคลหรือเปนกลุม รายบุคคลหรือเปนกลุม
4) การวัดและประเมินผลดานคุณธรรม 4) แบบประเมินพฤติกรรมของนักเรียน
จริยธรรม และคานิยม 5) แบบทดสอบประจําหนวย
5) การวัดและประเมินผลดานความรูโ ดย 6) แบบประเมินผลตนเองของนักเรียน
ใชแบบทดสอบ
6) การประเมินผลตนเองของนักเรียน
3. สิ่งที่มุงประเมิน
3.1 ความเขาใจ 6 ดาน ไดแก การอธิบาย การชี้แจง การแปลความและตีความ การประยุกตใช
ดัดแปลง และนําไปใช การมีมมุ มองทีห่ ลากหลาย การใหความสําคัญในความรูสกึ ของผูอื่น และ
การรูจ ักตนเอง
3.2 สมรรถนะสําคัญ ไดแก ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแกปญ  หา การใชทักษะชีวิต และ
การใชเทคโนโลยี
3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค ไดแก รักชาติ ศาสน กษัตริย ซื่อสัตยสจุ ริต มีวินัย ใฝความรู อยูอยาง
พอเพียง มุง มั่นในการทํางาน รักความเปนไทย มีจิตสาธารณะ
ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู
แผนการจัดการเรียนรูที่ 2 Colors and Shapes เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
Skills : Listening Speaking Reading Writing

Functions: 1. Learning how to greet each other.

2. Identifying and asking about colors.
3. Identify and asking about shapes.
4. Describing the shapes of objects
5. Learning words beginning with /k/ and /g/
6. Learning classroom commands
Language: Target 1. Learning how to greet each other.
Example: Q: How are you?
A: I’m fine. Thank you ( great, ok)
Target 2. Identifying and asking about colors.
Example: Q: What color is this?
A: It’s orange.
- This is a pencil. It’s yellow and pink
Target 3. Identify, asking and describing about shapes and the
shapes of objects
Exampl: Q: Is this a red square?
A: Yes, it is. / No, it isn’t.
Target 4. Learning classroom commands
Example: - Pick up your pencil.
- Draw a triangle.
- Pick up a red marker.
- Draw a picture.
Sounds and words: /k/, /g/
Grammar : - Present Simple Tense
- Yes/No questions
- Pronoun and verbs contractions
เชน What is = What’s There is = There’s I am = I’m
It is = It’s It is not = It isn’t
Adjective Article a, an
Vocabulary Key: color, yellow, blue, red, green, purple, orange, brown, pink, black,
white, shape, a triangle, a square, a circle, a star, a diamond,
a heart, an oval, a rectangle
Sounds and words: cat, coat, cow, girl, gate, goat
Culture: วัฒนธรรมในทุกสังคมเมื่อพบคนที่รจู ักจะมีการกลาวทักทาย ถามทุกขสุขและแสดงทาทาง
ประกอบการทักทายตามวัฒนธรรมของแตละชาติ นอกจากนี้ป ระโยคคํา สั่ง ตา งๆ ใน
หองเรียน สามารถทําใหเ ปนประโยคขอรอ งไดดว ยการเติม please ไวห นา หรือ ไว
ทายประโยคได

- หนังสือเรียน Let’s Go 1 (4th Edition) Workbook หนา 11-18
- Picture Cards หมายเลข 27-54
- CD 1 Track 22-38
- สําเนา Worksheet Unit 1 (หนา112-113 ใน Teacher’s Book)
- หุนมือ หรือหุนนิ้วมือ
- ชอลก ปากกาเขียนกระดาน
- กระดาษเปลา
- สีไม

หนว ยย อ ยที1่ : Le t’s Talk
หนวยยอยที่ 1: Let’s Talk
ก ิจ ก รรมก อ นก ารฟงแ ล ะพูด
1. ครูทักทายนักเรียนเมื่อนักเรียนเขาหองเรียน โดยยกมือขึ้นทักทายนักเรียนเปนรายบุคคลและกลาว
คําทักทาย T: Hi! หรือ Hello! (ชื่อนักเรียน) สวัสดีคะ/ครับ สงเสริมใหนักเรียนกลาวตอบ S: Hi! หรือ Hello!
2. เมื่อนักเรียนพรอม ครูเปดไฟลเสียง The Hello Song CD1 Track 07 ใหนักเรียนรองเพลงโดย
แบงเปนสองกลุมโตตอบกัน
3. ครูใชหุนมือหรือคัดเลือกนัก เรียนมาแสดงการทักทาย โดยครูทัก ทายนัก เรียนเปนตัวอยางให
นักเรียนเลียนแบบและฝกพูดโตตอบ หลังจากนั้นสลับบทบาทกัน
T: Hi, (Andy). How are you? I’m fine thank you.
S: Hi, (Andy). How are you? I’m fine thank you.
T: Hi, (Andy). How are you?
S: I’m fine thank you.
4. นักเรียนจับคูกันสนทนากันหลังจากนั้น ครูเปดเพลงอีกครั้ง เมื่อกดหยุดเพลงใหนักเรียนเปลี่ยนคู
และสนทนาทักทายกันตามรูปแบบ
ก ิจ ก รรมระหว างก ารฟงแ ล ะฝก พูด
กิจกรรมยอยที่ 1 A: Listen and say.
CD1 Track 22
Hi, Andy. How are you?
I’m fine. How are you?
I’m fine. Thank you.
5 นัก เรียนเปดหนัง สือเรียนหนาที่ 12 หัวขอ A Listen and Say ครูใหนัก เรียนดูรูป ภาพและ
พยายามจดจําตัวละครจากบทเรียนหนวยที่ 1 หลังจากนัน้ ฝกฟงบทสนทนาโดยใหนักเรียนหลับตาฟงครูเปดไฟล
เสียง CD1 Track 22 จํานวน 1 รอบ เมื่อฟงจบนักเรียนลืมตาและครูเปดรอบที่ 2 ใหนักเรียนชี้ที่ตัวละครและ
ออกเสียงตามในรอบที่ 3 ครูใหความรูเพิ่มเติมในเรื่องคํากลาวทักทายและการถามทุกขสุขตามวัฒนธรรม
6. นักเรียนฝกอานออกเสียงบทสนทนาดวยตนเอง ครูสังเกตนักเรียนที่อานออกเสียงคําใดไมถูกตอง
ใหครูบอกวิธีการออกเสียงที่ถูกตองรวมกันทั้งชั้นเรียน
7. นักเรียนฟงเสียงไฟล CD 1 Track 23 และออกเสียงตามโดยครูเนนใหนักเรียนไดพูดประโยคดวย
น้ําเสียง จังหวะทวงทํานอง และความเร็ว ตามการพูดในชีวิตประจําวัน
CD1 Track 23
How are you?
I’m fine. Thank you.
I am , I’m
8. ครูแสดงวิธีการอานออกเสียงตัวยอ I am , I’m โดยใหนักเรียนอานครั้งละคํา และอธิบายเนนย้ํา

วา รูปยอมีความหมายเชนเดียวกับรูปเต็ม และเนนการอานออกเสียงคําศัพทสําคัญ fine หลังจากนั้น
9. นักเรียนฝกบทสนทนา โดยครูแบงนักเรียนในชั้นออกเปนสองกลุม สลับกันถามและตอบโดยใช
โครงสรางที่ไดฟง และฝกสนทนาเปนคูใหคลองแคลว
กิจกรรมยอยที่ 2 B: Listen and sing.
10. ครูเปดไฟลเสียง CD 1 Track 24 Hi, How are you? ใหนักเรียนอานเนื้อเพลงในกิจกรรม B
Listen and sing ในหนังสือเรียนหนาที่ 13 ในคําที่นักเรียนไมสามารถอานได หรือออกเสียงไมถูกตองครูชวย
แกไข เนนคําสําคัญ fine, great, ok
11. นักเรียนฟงไฟลเสียง CD 1 Track 24 Hi, How are you? รอบที่ 2 นักเรียนชี้เนื้อเพลงตามและ
ออกเสียงคลอไปกับบทเพลง

CD1 Track 24
Hi, How are you?
Hi, how are you? I’m fine.
Hi, how are you? I’m fine.
Hi, how are you?
I’m fine. How are you?
I’m fine, I’m fine, I’m fine.
Hi, how are you? I’m great.
Hi, how are you? I’m great.
Hi, how are you?
I’m great. How are you?
I’m great, I’m great, I’m great.
Hi, how are you? I’m OK.
Hi, how are you? I’m OK.
Hi, how are you?
I’m OK. How are you?
I’m OK, I’m OK, I’m OK.
12. ครูเปดเพลงรอบที่ 3 พรอมใหนักเรียนฝกรองตามทีล ะทอนและปรบมือเขาจังหวะและแสดง

ทาทางประกอบโดยฝกครั้งละประโยคจากดานหลังและเพิ่มคํา และวลี จนกระทั่งสมบูรณ แลวใหนักเรียนรอง
เพลงดวยตนเอง 1 รอบ
13. ครูแบงนักเรียนเปน 2 กลุม แตละกลุมผลัดกันรองเพลงคนละทอน พรอมทําทาทางประกอบ เชน
แสดงทาทางที่แตกตางกันของการรองประโยค I’m fine. อาจใชทาผายมือ I’m great. แสดงทายกนิ้วโปง
I’m OK. แสดงทาโอเค
14. นักเรียนรองเพลงพรอมทั้งทําทาทางประกอบพรอมกันอีกครั้ง ครูเสริมแรงใหนักเรียนแสดงออก
ตามบทเพลงอยางสรางสรรค
กิจกรรมยอยที่ 3 C: Say and act. Greet your friend.
15. นักเรียนจับคูแสดงการสนทนาตามบทเพลงพรอมทั้งเรียกชื่อของเพื่อนและทําทาทางประกอบ
เมื่อครูใหสัญญาณใหนักเรียนเปลี่ยนคู ปฏิบัติซ้ํา 3-4 รอบ จนกระทั่งครูสังเกตวานักเรียนสามารถใชประโยคใน
เพลงไดคลองแคลวระหวางทํากิจกรรมครูคอยสังเกตและบันทึกโดยใชแบบประเมินการพูด
16. นักเรียนเลนเกมโยนบอล โดยครูเริ่มโยนลูกบอลใหนักเรียนพรอมทั้งเริ่มบทสนทนาตามโครงสราง
T: Hi, ( ชื่อนักเรียน ). How are you?
S: I’m ( fine, great, OK.). Thank you. How are you?
T: I’m great. Thank you.
เมื่อจบบทสนทนาใหนักเรียนโยนลูกบอลไปที่นักเรียนคนตอไป ครูเพิ่มจํานวนลูกบอลตามความ
เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสการสนทนาของนักเรียน ครูสังเกตและเสริมแรงใหนักเรียนสนทนากับเพื่อนอยาง
คลองแคลว
17. นักเรียนทําแบบฝกหัดจาก Workbook หนา 11 A Read and trace อานและเขียนตามรอย
ประ และ B Read and write เขียนตามรอยประ และฝกอานดวยตนเอง
ก ิจ ก รรมหล ังก ารฟง/ก ิจ ก รรมก ารนําไปใช
18. นัก เรียนอานประโยคทั้ ง หมดจากแบบฝก หัดพรอมกัน ครูท บทวนในเรื่องการใชรู ป ยอจาก

แบบฝกหัดอีกครั้งหนึ่ง ถามคําถามเพื่อตรวจสอบความเขาใจของนักเรียน โดยพูดประโยคสองภาษาซ้ํา ๆ เชน
T: What is the contraction of “I am”? รูปยอของ I am คืออะไร
19. นักเรียนทั้งชั้นสนทนากับครูตามโครงสรางที่เรียนมาอีกครั้ง
วัฒนธรรมในทุกสังคมเมื่อวัฒนธรรมในทุกสังคมเมื่อพบคนที่รูจักจะมีการกลาวทักทาย ถามทุกขสุข
และแสดงทาทางอยางเปนมิตรและจริงใจประกอบการทักทายตามวัฒนธรรมของแตละชาติ ดังนั้นเมื่อมีการ
สื่อสารกับคนจากประเทศตาง ๆ นักเรียนควรศึกษาถึงวัฒนธรรมของแตละประเทศและแสดงออกดวยความ
เคารพ
1. หากนักเรียนในหองมีจํานวนมาก ในการทํากิจกรรมขอ 17 ครูตองควบคุมชั้นเรียนใหปฏิบัติตาม

กติกาอยางเครงครัด เพื่อปองกันนักเรียนที่ไมมีความมั่นใจและไมพดู ภาษาอังกฤษในการทํากิจกรรม ใหครูหยุด
นักเรียนระบายสีแบบฝกหัด Workbook หนา 11 และฝกอานใหคลองแคลว

หนวยยอยที่ 2: Let’s Learn
1. นักเรียนรองเพลง Hi, How are you? และแสดงทาทางประกอบ โดยครูเปดไฟลเสียง CD 1

Track 24 Hi, How are you? และเมื่อครูหยุดเพลงนักเรียนจับคูสนทนาตามโครงสราง
S1: Hi, (Jenny). How are you?
S2: I’m (fine). How are you?
S1: I’m (great). Thank you.
S2: I’m (fine). Thank you.
2. ทบทวนความรูจากหนวยยอยที่แลวโดยนําบัตรคํา Teacher Card หมายเลข 1-16 ครูทบทวน
ประโยคคําถาม What’s this? แสดงบัตรคําและพูดตอบ It’s a (pencil). นักเรียนพูดประโยคตามครูและครู
ฝกซ้ําในการถามตอบคําถามประมาณ 2-3 รอบ ทํากิจกรรมสนทนาโดยนักเรียนยืนเขาแถวแบงเปน 2 แถว
หันหนาเขาหาครู ครูแสดงบัตรคําแลวตั้งคําถาม นักเรียนแขงกันตอบคําถามกลุมใดตอบไดกอนไดรับคะแนน
สลับนักเรียนหัวแถวไปยืนทายแถว ปฏิบัติตอเนื่องจนกระทั่ง ครูสังเกตวานักเรียนสามารถถามตอบอยาง
3. ครูนําเสนอคําศัพทเกี่ยวกับสีโดยใชบัตรคําหมายเลข 27-36 โดยครูแสดงบัตรคําครั้งละ 1 ใบและ

ออกเสียงนําใหนักเรียนออกเสียงตาม 3 ครั้งตอ 1 บัตรคํา แลวติดบัตรคําอยางเปนระเบียบบนกระดาน
ตามลําดับ
บัตรคําที่ 27 yellow
บัตรคําที่ 28 blue
บัตรคําที่ 29 red
บัตรคําที่ 30 green
บัตรคําที่ 31 purple
บัตรคําที่ 32 orange
บัตรคําที่ 33 brown
บัตรคําที่ 34 pink
บัตรคําที่ 35 black
บัตรคําที่ 36 white
4. ฝกซ้ําดวยการใหนักเรียนเปดหนังสือเรียน Student Book หนาที่ 14 ครูชี้ที่คําศัพทและออกเสียง
คําซ้ําใหนัก เรียนออกเสียงตามพรอมทั้ง ชี้คําศัพทในหนัง สือเรียน ครูอานรอบที่ 2 โดยไมชี้ที่คําศัพท ให
นักเรียนชี้ตามที่ครูพูด จากนั้นคัดเลือกนักเรียนใหออกมาชี้สตี ามที่ครูออกเสียง นักเรียนที่เหลือตรวจสอบการชี้
ของตนเอง
5. นักเรียนออกเสียงคําศัพททั้งหมดซ้ํา เมื่อตรงคําศัพทใดใหนักเรียนชี้ไปที่สิ่งของในหองเรียนที่มีสี
ตรงกันกับที่ไดยิน
กิจกรรมยอยที่ 2 B: Ask and Answer
6. นักเรียนเปดหนังสือเรียนหนาที่ 14 แลวใหนักเรียนดูรูปและบรรยายสิ่งที่นักเรียนเห็น ครูเปดไฟล
เสียง CD1 Track 26 และใหนักเรียนชี้ตามรูปและคําที่ไดยินและเปดรอบที่ 2 ใหนักเรียนฝกออกเสียงตาม
CD 1 Track 26 What color is this?
It’s orange.
1. What color is this? It’s orange.
2. What color is this? It’s red.
3. What color is this? It’s yellow.
4. What color is this? It’s green.
5. What color is this? It’s blue.
6. What color is this? It’s purple
7. ครูชี้ไปที่บัตรคําบนกระดานอีกครั้งถามคําถาม What color is this? `นักเรียนตอบ It’s (red).

ปฏิบัติตอเนื่องจนกวาจะครบทุกคํา แบงนักเรียนเปนสองกลุมครูเปดไฟลเสียงอีกครั้งและใหนักเรียนแบง ฝาย
กันออกเสียงประโยคคําถามและคําตอบ
8. ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 27 นักเรียนฟงปรบมือเขาจังหวะและทองบทเขาจังหวะตามเสียง
กลอง ครูย้ําเรื่องออกเสียงและการใชรูปยอ What’s…และ It’s…
CD 1 Track 27
See the script for Track 26

7. นักเรียนเปลี่ยนกันถามและตอบคําถามโดยเปนกิจกรรมกลุมและกิจกรรมคู
กิจกรรมยอยที่ 3 C: Make a sentence.
8. นักเรียนดูหนังสือหนาที่ 15 และระบุวัตถุที่นักเรียนมองเห็นและสีของสิ่งตาง ๆ หลังจากนั้นครูเปด
ไฟลเสียง CD1 Track ที่ 28
CD 1 Track 28
1. This is a pencil. It’s yellow and pink.
2. This is a pen. It’s blue and purple.
3. This is a bag. It’s green and blue.
4. This is a chair. It’s red and black.
5. This is a book. It’s green and white.
6. This is a table. It’s orange and brown.
9. ครูแสดงดินสอใหนักเรียนดูหลังจากนั้นพูดวา This is a pencil. และใหนักเรียนออกเสียงตามครู

ตรวจสอบใหมั่นใจวาไดชี้หรือสัมผัสไปที่ดินสอในการที่จะพูดประโยคเพื่อใหนักเรียนไดมองเห็นชัดเจนและเกิด
ความเขาใจ หลังจากนั้นพูดวา It’s (yellow) and (pink). ใหนักเรียนออกเสียงตามและปฏิบัติตอเนื่องโดยใช
วัสดุอุปกรณอื่น ๆ จนกระทั่งนักเรียนสามารถที่จะสรางประโยคไดดวยตนเองโดยที่ครูไมตองใหการชวยเหลือ
10. นักเรียนจับคูสนทนาโดยใชภาพจากหนังสือหรือสือ่ ของจริง ครูเดินสังเกต แกไข กระตุน เสริมแรง
และประเมินผล
CD 1 Track 29

แลวทํากิจกรรม Walk and Talk โดยวางสิ่งของที่มีสีสันตาง ๆรอบหองเรียนใหนักเรียนเดินรอบหองปรบมือ
ตามบทเขาจังหวะเมื่อครูกดหยุดใหนักเรียนจับคูสนทนาเกี่ยวกับสิ่งของที่อยูใกลตัวและสีของสิง่ ของนั้น ปฏิบัติ
ซ้ําจนครูสังเกตวานักเรียนสามารถพูดประโยคเกี่ยวกับสิ่งของและสีไดคลองแคลว
กิจกรรมยอยที่ 4 D: Listen, point, and Sing.
12. นัก เรียนมองดูรูป ภาพและบอกชื่อสีรวมทั้ง สิ่งของตาง ๆ ที่นัก เรียนรูห ลัง จากนั้นครูนําเสนอ
คําศัพทที่อยูในบทเพลงเทาที่จําเปนเชน grass, sky, cats, eyes, birds, clouds
13. ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 30 นักเรียนฟงเพลงและชี้ที่รูปในหนังสือเรียน ครูแสดงตัวอยางการ
รองเพลงโดยรองทีละวรรค ใหนักเรียนปรบมือและสรางจังหวะหลังจากนั้นใหนักเรียนไดออกเสียงตาม ครูวาด
ภาพวงกลมที่มีสีสันลงบนกระดานตามลําดับที่ปรากฏในบทเพลงโดยใหสตี าง ๆ เปนไปตามเนื้อเพลง เปดเพลง
อีกครั้งหนึ่งและใหนักเรียนไดแสดงทาทางประกอบบทเพลงเชนแสดงทาทางของแมวหรือแสดงทาทางของนก
กําลังบินเปนตน
CD 1 Track 30 The Black Cat Song
Green grass, blue sky, White clouds, blue sky,
Black cat, yellow eyes, Black cat, yellow eyes,
Red birds, blue sky, Black cat, blue sky,
Black cat, yellow eyes. Yellow, yellow eyes.
14. นักเรียนรองเพลงรวมกันพรอมทั้งทําทาทางประกอบ
15. นักเรียนทําแบบฝกหัดเพิ่มเติม Worksheet Listen and Draw จาก Teacher’s book หนา
112 โดยครูแจกใบงานใหกับนักเรียน และแสดงตัวอยางการทํากิจกรรม กิจกรรมที่ 1 นักเรียนชี้ที่รูปภาพพูด
วา This is a balloon. ใหนักเรียนออกเสียงตาม และฝกชื่อสี ครูถามนักเรียนวาควรระบายสีอะไรที่ภาพที่ 1
T: What color is the triangle balloon? นักเรียนตอบ Red ครูใหเวลานักเรียนไดระบายสี เมื่อนักเรียนทํา
เสร็จเริ่มกิจกรรมที่ 2 โดยครูวาดตารางบนกระดาน ชี้ที่ตารางชองที่ 1 พูดประโยค It’s the pink circle. ซ้ํา
หลายๆ รอบ ใหนักเรียนบอกความหมาย ครูวาดภาพวงกลมสีชมพูในตารางหลังจากนั้นนักเรียนฟงประโยค
จากครูแลววาดภาพและระบายสี
เริ่มกิจกรรมครูพูดประโยคซ้ํา ๆ ชา ๆ นักเรียนวาดภาพ ระบายสีตาม
1. It’s the pink circle.
2. It’s a blue rectangle.
3. It’s a brown and black square.
4. It’s a red and white heart.
5. It’s a yellow and orange star.
6. It’s an orange and purple oval.

วัฒนธรรมในเรื่องสีและความหมายของสี รวมทั้งการใชสีแสดงออกถึงความเชื่อและพิธีกรรมของแต
ละชาติมีความแตกตางกัน เชน ในงานพิธีแตงงานประเพณีไทยจะไมสวมใสสีดํา เพราะสีดําจะใชในพิธีอวมงคล
เชนพิธีศพ แตในประเทศเจาของภาษาสามารถสวมใสสีดําได เปนตน ดังนั้นเมื่อมีก ารสื่อสารกับคนจาก
ประเทศตาง ๆ นักเรียนควรศึกษาถึงวัฒนธรรมของแตละประเทศและแสดงออกดวยความเคารพ
ครูควรเปดโอกาสใหนักเรียนเปนรายบุคคลไดฝกกับครูเพิ่มเติมโดยสามารถใชเวลาชวงระหวางการ
จับคูสนทนา โดยครูเขารวมกิจกรรมจับคูสนทนากับนักเรียนเปนรายบุคคลเพื่อสามารถตรวจสอบแกไขและ
ประเมินนักเรียนไดอยางใกลชิด
ครูประเมินคําศัพทและการใชประโยคของนักเรียนดวยการใหทําแบบฝกหัดใน Workbook หนา 12-13
หนวยยอยที่ 3: Let’s Learn More
1. นักเรียนทบทวนบทเรียนดวยการเลนเกม Pass the card โดยนักเรียนเขาแถวและถือบัตรคําชื่อ

ของสีเรียงตอกันเปนแถวและใหแถวที่ 1 ถามคําถามแถวที่ 2 เปนคนตอบคําถาม ตามโครงสราง “What
color is it? It’s ________(ชื่อสี).” หลังจากนั้นปฏิบัติตอเนื่องสงตอบัตรคําและถาม-ตอบคําถาม

3. นักเรียนเปดหนังสือหนา16 ดูรูปภาพและคําศัพท ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 14 นักเรียนออก
เสียงตามพรอมทั้งชี้ที่รูปภาพ
CD 1 Track 14
2. a triangle 2. a square 3. a circle 4. a star
5. a diamond 6. a heart 7. an oval 8. a rectangle
4. ครูใชบัตรคําหมายเลข 37-44 ฝกการใชคําศัพทอยางรวดเร็วโดยนําเสนอบัตรคํา หลังจากนั้นออก

เสียงชื่อของรูปรางและใหนักเรียนไดชี้ไปที่ชื่อของรูปรางและออกเสียงคําเหลานั้นโดยออกเสียงซ้ํา 2-3 ครั้งใน
แตละคํา นักเรียนฝกการอานคําศัพทใหคลองแคลวและการเชื่อมโยงความหมายถามคําถาม สลับใหนักเรียน
เปนผูถามใหครูตอบตามโครงสรางประโยค
T: What’s this? Ss: It’s _____(ตอบตามที่เห็น)
ครูสลับบัตรคําไปมา จนกระทั่งนักเรียนพูดไดอยางคลองแคลวและสามารถจนจําคําศัพทและความหมาย
กิจกรรมยอยที่ 2 B: Make sentences
5. ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 32 นักเรียนออกเสียงตามพรอมทั้งชี้ที่รูปภาพ

CD 1 Track 32
This is a star. It’s blue. It’s a blue star.
1. This is a star. It’s blue. 5. This is a circle. It’s pink.
It’s a blue star. It’s a pink circle.
2. This is an oval. It’s orange. 6. This is a diamond. It’s yellow.
It’s an orange oval. It’s a diamond yellow.
3. This is a heart. It’s red. 7. This is a rectangular. It’s brown.
It’s a red heart. It’s a brown rectangular.
4. This is a square. It’s yellow. 8. This is a triangle. It’s red.
It’s a yellow square. It’s a red triangle.
6. ครูนําเสนอวิธีการเชื่อมประโยคสองประโยคที่มีรูปรางที่นักเรียนคุนเคยและเปนโครงสรางพื้นฐาน
เพื่อนํามาสรางประโยคใหมครูแสดงรูปรางใหนักเรียนดูโดยใชบัตรคําและใหนักเรียนไดพูดประโยคดวยตนเอง
เพื่อบรรยายบัตรคํานั้นเชน This is a star. It’s blue. เขียนประโยคทั้ง 2 ประโยคลงบนกระดานและครู
นําเสนอวิธีที่จะสามารถนํา 2 ประโยคที่มีขอมูล เกี่ยวกับ สิ่งเดียวกันนํามาเชื่อมตอกันเพื่อสรางประโยคที่
สมบูรณขึ้นใหม 1 ประโยคโดยยังคงความหมายเหมือนเดิมเชน It’s a blue star. ครูใหนักเรียนออกเสียงตาม
และหลังจากนั้นไดท ดลองใหนักเรียนไดฝกปฏิบั ติดวยตนเองโดยครูสามารถที่จะฝกนําใหนักเรียนไดเชื่อม
ประโยคที่มีใจความสําคัญและเปนประโยคพื้นฐานเชนเดียวกันทั้งสองประโยคใหเปนประโยคใหมฝกซ้ําหลายๆ
รอบจนกระทั่งนักเรียนสามารถที่จะเชื่อมประโยคทั้งสองประโยคตามตัวอยางไดดวยตนเองโดยไมตองอาศัย
ความชวยเหลือของครูหลังจากนั้นเปดไฟลเสียงอีกครั้งหนึ่งและใหนักเรียนไดสลับกันเปนผูพูดประโยค
CD 1 Track 33
8. นักเรียนจับคูฝกพูดโดยชี้ที่รูปภาพและสื่อของจริงภายในหองเรียน
กิจกรรมยอยที่ 3 C: Play a game. Ask your partner.
9. นักเรียนเปดหนังสือหนา 17 ชี้ที่ประโยคและอานตามครู 2-3 รอบ
T: Is this (a red square) ?
Yes, it is.
No, it isn’t.
ครูชี้ไปที่สี่เหลี่ยมรูปที่ 1 สําหรับคําตอบ Yes และชี้ไปที่สี่เหลี่ยมรูปที่ 3 สําหรับคําตอบ No ที่อยู
ในเกมกระดานในหนาที่ 17 ครูเนนเรื่องการใชตัวยอโดยใชบัตรคํายอเพื่อแสดงใหนักเรียนเห็นวา is not มี
ความหมายเดียวกันกับ isn’t
10. ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 34 นักเรียนออกเสียงตาม
CD 1 Track 34
Is this a red square?
Yes, it is.
No, it isn’t.
11. นักเรียนจับคูเลนเกมและฝกบทสนทนาโดยใชใหนักเรียนตั้งคําถามและตอบคําถาม ครูเดินให

คําแนะนําไปรับรอบหองและสงเสริมใหนักเรียนไดพูดประโยคอยางจริงจังเพื่อใหเกิดทักษะและชมเชยนักเรียน
เมื่อนักเรียนสามารถปฏิบัติไดอยางถูกตอง
กิจกรรมยอยที่ 4 D: Listen and do.
12. ครูนําเสนอประโยคโดยการสาธิตพรอมแสดงทาทางนักเรียนไดเขาใจความหมายของคํากริยามาก
ขึ้นหลังจากนั้นใหนักเรียนไดออกเสียงตามทีละประโยคและทําทาทางประกอบ 2-3 รอบ
13. ครูเ ปดไฟลเ สียง CD1 Track 35 และใหนัก เรียนชี้ตามหนัง สือหนาที่ 17 ออกเสียงตามจน
CD 1 Track 35
1. Pick up your pencil.
2. Draw a triangle.
3. Pick up a red marker.
4. Draw a picture
14. ครูแสดงบัตรคําหมายเลข 44 - 47 ใหนักเรียนออกเสียงและทําทาทางประกอบและจากนั้นให

นักเรียนจับคูกันเพื่อสลับกันพูดประโยคและทําทาทาง
15. นักเรียนแบงกลุมเปนสองกลุม A และ B เลนเกม Pick up Game วางบัตรคําเกี่ยวกับรูปภาพรูปราง

คว่ําลงบนโตะและใหนักเรียนทํากิจกรรมเปายิงฉุบ Rock, Paper, Scissors โดยคนที่แพจะตองชี้ไปที่บัตรคําและ
ถามคําถามวา Is this a red star? ผูชนะเปดบัตรคําออกและตอบคําถาม Yes, It is. หรือ No, it is isn't.

ในกิจกรรมขั้นตอนที่ 6 ครูควรใชเวลาฝกฝนและตรวจสอบนักเรียนเปนรายบุคคลเพื่อใหมั่นใจไดวา
นักเรียนทุกคนเขาใจโครงสรางประโยคพื้นฐานตามที่กําหนดในบทเรียนเพื่อนําไปส๔ความรูที่คงทน
ครูประเมินคําศัพทและการใชประโยคของนักเรียนดวยการใหทําแบบฝกหัดใน Workbook หนาที่

14-15
หนว ยย อ ยที4่ : Le t’s R e ad
หนวยยอยที่ 4: Let’s Read
ก ิจ ก รรมก อ นก ารอ าน
1. นักเรียนรองเพลง The Alphabet Song หลังจากนั้นทํากิจกรรม Find and Match คือการฝก

อานตัวอักษรตัวพิมพใหญและตัวพิมพเล็กจาก Aa-Gg โดยใหทํากิจกรรมจับคูอักษร นักเรียนแบงเปนสองกลุม
ครูแจกบัตรตัวอักษรพิมพเล็กและพิมพใหญ Aa-Gg ครูแสดงบัตรตัวอักษรตัวพิมพใหญหรือตัวพิมพเล็กติดบน
กระดานและใหนักเรียนหาตัวอักษรที่เปนตัวอักษรเดียวกันเพื่อจับคูห รือพูด คําศัพทที่เริ่ม ตนดวยตัวอักษร
เหลานั้นแลวใหนักเรียนไดสัมผัสตัวอักษรที่เปนเสียงพยัญชนะตน
2. เขียนตัวอักษรCc และ Gg บนกระดานหลังจากนั้นครูแสดงบัตรคํา cat และ goat โดยเนนที่การ
ออกเสียงพยัญชนะตนของตัวอักษร ใหนักเรียนเอาฝามืออังไวใกลปากของตนเองเมื่อนักเรียนออกเสียง /k/
และ /g/ เพื่อที่จะไดยินและรูสึกในการออกเสียงนักเรียนจะมีลมสัมผัสที่ฝามือของนักเรียนเพียงเล็กนอยเมื่อ
ออกเสียง /g/ นักเรียนจะสัมผัสลมที่ออกมาสัมผัสฝามือของนักเรียนมากกวา
ก ิจ ก รรมระหว างก ารอ าน
กิจกรรมยอยที่ 1 A: Listen, point, and say.

3. นักเรียนเปดหนังสือเรียนหนาที่ 18 ใหนักเรียนชี้ไปที่ตัวอักษรตัว Cc และตัว Gg ที่อยูในหนังสือ
หลังจากนั้นครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 36 นักเรียนชี้ไปที่ตัวอักษรแตละตัวและคําที่นักเรียนไดยินหลังจาก
นั้นเปดไฟลเสียงอีกครั้งหนึ่งและใหนักเรียนไดฟงและออกเสียงคําพรอมทั้งพยัญชนะ
CD 1 Track 36
C /k/ cat, coat, cow
G /g/ girl, gate, goat
4. ครูแสดงบัตรคําโดยเปนบัตรคําศัพทที่เกี่ยวกับคําที่ขึ้นตนดวยเสียงอักษร /k/ (cat, coat, cow)

และคําที่ขึ้นตนดวยเสียงอักษร /g/ (girl, gate, goat) หลังจากนั้นนักเรียนออกเสียงคําและครูเนนย้ําในสวน
ของการออกเสียงพยัญชนะตนใหชัดเจนใหนักเรียนฟงและสามารถจําแนกแยกแยะวาพยัญชนะตนนั้นเปน
เสียงใดและปฏิบัติตอเนื่องโดยใชคําตาง ๆที่จะสามารถฝกฝนใหนักเรียนไดจําแนกเสียง /k/ และเสียง /g/ ออก

จากกันใหชัดเจน นักเรียนฟงคําศัพทแลวถานักเรียนคิดวาเปนเสียง /k/ ใหนักเรียนปรบมือหนึ่งครั้งและเปน
เสียง/g/ ใหไดเรียนปรบมือ 2 ครั้ง สังเกตความสามารถในการจําแนกเสียงของนักเรียน ตรวจสอบแกไข
5. นักเรียนอานออกเสียงคําตาง ๆ และปรบมือเปนจังหวะ
กิจกรรมยอยที่ 2 B: Listen, point and chant
6. นักเรียนเปดหนังสือหนาที่ 18 แลว ชี้ที่ตัวอักษร k และ g ในชารตอักษรและฟงไฟลเสียง CD1
Track 37 นักเรียนทองบทพูดเขาจังหวะและปรบมือประกอบ เมื่อเสียง /k/ ใหนักเรียนปรบมือหนึ่งครั้งและ
เปนเสียง/g/ ใหไดเรียนปรบมือ 2 ครั้ง ยกมือขึ้นลงตรงคําวา Wow! และนักเรียนทองบทพูดเขาจังหวะและ
แสดงทาทางรวมทั้งหองอีกครั้ง
CD 1 Track 37
The CG Phonics Chant
/k/, /k/ cat /g/, /g/ gate
/k/, /k/ cow /g/, /g/ girl
/k/, /k/ coat /g/, /g/ goat
Coat, goat, girl, Wow!
กิจกรรมยอยที่ 3 C: Listen and read along:

7. นักเรียนดูรูปภาพจากในหนังสือเรียนหนาที่ 19 On the Farm และระบุคําศัพทที่เรียนมาแลว
อานออกเสียงชื่อเรื่อง
8. ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 38 ใหนักเรียนไดฟงเรื่องพรอมทั้งออกเสียงคลอไปตามไฟลเสียงที่
เปดและใหนักเรียนไดชี้คําที่ตนเองไดยินและอานออกเสียงไปพรอมกับไฟลเสียงโดยพยายามฝกการออกเสียง
เนนหนัก การขึ้นเสียงสูงต่ํา และจังหวะในการที่จะอานใหมีสําเนียงแลวก็จังหวะที่ใกลเคียงกับไฟลเสียง
CD 1 Track 38
On the Farm
1. This is my blue coat. This is a green gate.
2. This is a brown cow. This is my black gate.
3. This is a white goat.
4. Oh, no! Is this my blue coat?
ก ิจ ก รรมเส ริม
9. นักเรียนจับคูกันอานโดยใหแตละคนไดสลับกันออกมาอานประโยคที่อยูในเรื่องและหลังจากนั้นให
ทํากิจกรรมกลุมและกิจกรรมคูโดยการใหนักเรียนไดฟงเนื้อเรื่องแลวก็อานตามอีกครั้งหนึ่ง
10. นักเรียนจับคูกับเพื่อนและนําเรื่องจากที่อานมาแสดงโดยใหนักเรียนไดแสดงบทบาทสมมติโดยใช
สิ่งของและสัตวที่อยูในเนื้อเรื่องหรือใชการวาดภาพเองก็ไดโดยครูคัดเลือกคูที่แสดงไดดีออกมาแสดงบทบาท
ใหแกนักเรียนทั้งชั้น
12. นักเรียนทํากิจกรรม Concentration ใชบัตรคําจํานวน 2 ชุดสําหรับคําศัพทที่มีอักษร K และตัว

G โดยที่ใหใหนักเรียนคว่ําการดแตละใบและเมื่อนักเรียนหงายขึ้นใหนักเรียนหาคําที่เหมือนกับคําที่นักเรียน
เปดโดยการเลนเกมความจํา Rock Paper Scissors นักเรียนทํากิจกรรมเปายิ้งฉุบและตั้งคําถามโดยใชบัตรคํา
โดยนักเรียนจับคูเลนเกมเปายิ้งฉุบคนที่เปายิ้งฉุบแลวเปนผูแพใหนักเรียนไดตอบคําถามโดยผูชนะเป นผูทํา
คําถามเกี่ยวกับสิ่งของตางๆในหองเรียนรวมทั้งในหนังสือ
13. ทําแบบทดสอบหนวยที่ 2 จากหนังสือคูมือครู Teacher’s Book หนา 130 133
1. หากนักเรียนในหองมีจํานวนมาก ในการทํากิจกรรม ครูตองควบคุมชั้นเรียนใหปฏิบัติตามกติกา

อยางเครงครัด เพื่อปองกันนัก เรียนที่ไมมีความมั่นใจและไมพูดภาษาอังกฤษในการทํากิจกรรม ใหครูหยุด
1. ครูประเมินคําศัพทและการใชประโยคของนักเรียนดวยการใหทําแบบฝกหัดใน Workbook หนาที่ 16

2. นักเรียนทําหนังสือนิทานจากหนังสือแบบฝกหัด ระบายสีใหสวย

Let’s Talk Page 12-13
A Read and trace. B Read and write.
Students read the conversation and trace Hi, how are you?
the words. I’m great. How are you?
I’m ok.
Let’s Learn
A Unscramble, match, and color. B Look and write.
1. black / third crayon 1. It’s pink.
2. orange / fifth/ crayon 2. It’s purple.
3. green / fourth crayon 3. It’s blue.
4. yellow / first/ crayon 4. It’s red.
5. brown / second crayon
Let’s Learn
C Read, circle, and color. D Trace, write, and color.
1. It’s red 1. What color is this? / It’s pink.
2. It’s yellow. 2. What color is this? / It’s brown
3. It’s purple 3. What color is this? / It’s blue
4. It’s green. 1. What color is this? / It’s pink.
5. It’s brown 2. What color is this? / It’s brown
6. It’s orange 3. What color is this? / It’s blue
Let’s Learn More Pages 14-15
A Trace and match. B Read and check.
1. line drawn to diamond shape 1. check in fourth column
2. line drawn to circle shape 2. check in third column
3. line drawn to triangle shape 3. check in fifth column
4. line drawn to heart shape 4. check in first column
5. line drawn to square shape 5. check in second column
6. line drawn to rectangle shape
C Look and circle. D Trace and write.
1. Yes, it is. 1. Is this yellow? / Yes, it is.
2. Yes. it is. 2. Is this a star / No, it isn’t.
3. No, it isn’t. It’s a diamond.
4. No, it isn’t. 3. Is this purple? / No, it isn’t. It’s blue.
5. Yes, it is. 4. Is this a rectangle? / Yes, it is.
6. Yes, it is.
Let’s Read Pages 16-18
A Match and trace. B Write
1. goat picture / Gg / goat 1.cow , coat, cat
2. gate picture / Gg / gate 2. gate, girl, goat
3. cat picture / Cc / cat On the Farm reading pages
4. girl picture / Gg / girl Students cut out the reading page along
5. coat picture / Cc / coat The dotted line and fold it into a four
6. cow picture / Cc / cow Page book. Then they read the story and
Color the pictures.


________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
ลงชื่อ _________________________________________
( _____________________________________ )
ตําแหนง ____________________________________
วันที่________________________

แผนการจัดการเรียนรูก ิจกรรม
Let’s Review Unit 1 and 2 เวลา 1 ชั่วโมง
จ ุด ประส งคก ารเรีย นรู
เมื่อจบบทเรียนนี้ นักเรียนสามารถ
1. ฟง พูด อาน และเขียนคําศัพท วลีและประโยคจากหนวยการเรียนรูที่ 1 และ 2 ได
2. สนทนาโดยใชโครงสรางประโยคที่กําหนดใหและใชรูปยอของกริยากับสรรพนาม contraction ได
3. อานพยัญชนะภาษาอังกฤษและระบุเสียงพยัญชนะในคําศัพทสําคัญพื้นฐานได
4. ออกเสียงคําศัพทที่มีสระเสียงสั้นได
5. ปฏิบัติตามคําสั่งงายๆ ในชั้นเรียนได
6. มีทักษะในการทําแบบทดสอบ
Skills: Listening Reading Speaking

Functions: Reviewing language from Units 1 and 2, and practice test-taking
skills.
Language:
Target Unit Forms
Q: Hello. I’m Scott. What’s your name?
Target 1 1 A: My name is Kate. What’s your name?
Q: My name is Andy.
Q: What’s this?
A: It’s a ball.
Target 2 1
Q: Is this a ball?
A: No. it isn’t. It’s a peach.
Target Unit Forms
Q: How are you?
Target 3 2
A: I’m fine. Thank you ( great, ok)
Q: What color is this?
Target 4 2 A: It’s orange.
- This is a pencil. It’s yellow and pink.
- Q: Is this a red square?
Target 5 2
A: Yes, it is./ No, it isn’t.
Vocabulary Key: a pencil, a pen, a bag, a book, a desk, a chair, a ruler, an eraser,
a map. a marker, a globe. a table, a board, a wastebasket, a
poster. a crayon, bird, ball, boy , peach, pencil, pink color, yellow,
blue, red, green, purple, orange, brown, pink, black, white, shape,
a triangle, a square, a circle, a star, a diamond, a heart, an oval, a
rectangle

- แบบฝกหัด Let’s Go 1 (4th Edition) หนา 19
- บัตรคํา Teacher and student Cards 1-54
- CD 1 Track 01-39
ก ิจ ก รรมก ารเรีย นรู
กิจกรรมยอยที่ 1 : Let’s Talk
1. รองเพลง Hello Song และ Hi! How are you? โดยแบงนักเรียนออกเปน 2 กลุมและสลับกัน
รองในทอนที่ตนเองเปนเจาของหลังจากนั้นใหนักเรียนไดแสดงทาทางประกอบเพลง

2. ทบทวนบทสนทนาโดยใชกิจกรรม Walk and Talk เพื่อชวยใหนักเรียนสามารถรวมประโยคจาก
ทั้ง 2 หนวยการเรียนรูเพื่อนํามาประกอบกันใหเปนบทสนทนาที่ยาวขึ้นเชน
S1: Hi! I’m (Amy). What's your name?
S2: My name is (Ken). How are you, Amy?
S1: I’m great. How are you?
S2: I’m fine. Thank You. หลังจากนั้นใหนักเรียนไดจับคูส นทนา และครูกําหนดเวลาให เมื่อให
สัญญาณ นักเรียนเปลี่ยนคู
กิจกรรมยอยที่ 2 : Let’s Learn/Lets Learn More
3. ทบทวนคําศัพทและประโยคและรูปแบบประโยคดวยกิจกรรม True or False โดยแบงนักเรียน

ออกเปนกลุมหรือเปนคูและใหนักเรียนนําบัตรคําชุดสิ่งของตาง ๆ ในหองเรียน Student cards (1-16) รูปราง
เรขาคณิต (37-44) กองรวมกัน หลังจากนั้นนําบัตรคําเกี่ยวกับสี (26-36) วางเปนกองที่ 2 และใหนักเรียน
สลับกันหยิบ บัตรคําที่อยูดานบนและสรางประโยคจากการใชบัตรคํานั้นโดยที่นักเรียนสามารถที่จะใชรูป
ประโยคปฏิเสธหรือบอกเลาก็ได เชน
S1: It’s a (red) (book). รูปประโยคบอกเลา
S1: It’s a (red) (book).
S2: No, it isn’t. It’s a (blue) (oval). รูปประโยคปฏิเสธ
4. นักเรียนจับคูเพื่อทบทวนคําศัพทคําถามและคําตอบตามรูปแบบโดยทํากิจกรรม Pick Up Game
วางบัตรคําสิ่งของตาง ๆ ในหองเรียน รูปรางและสีโดยที่ไมตองเรียงลําดับเปนระเบียบ นักเรียนเลนเกมเปายิง
ฉุบ Rock, Paper, Scissors หลังจากนั้นใครเปนผูชนะใหเลือกบัตรคําแลวถามคําถาม What’s this? หรือ
Yes/ No question เกี่ยวกับสิ่งของ รูปราง หรือสีของรูปภาพนักเรียนที่เปนผูแ พจะใหตอบคําถามปฏิบัติซา้ํ อีก
ครั้งจนกระทั่งบัตรคําทั้งหมดไดถูก หยิบขึ้นครูพยายามสงเสริมใหนักเรียนไดท บทวนทั้ง คําถามคําตอบตาม
โครงสรางที่นักเรียนไดเรียนรูมา
5. นักเรียนทบทวนบทอานเขาจังหวะและบทเพลงบทเขาจังหวะ “What’s This?? It’s a book.”
โดยใหนักเรียนชี้ไปที่บัตรคําเกี่ยวกับสิ่งของตามบทอานเขาจังหวะที่นักเรียนท องและสําหรับบทเพลง “The
Black Cat Song.” นักเรียนชี้ที่บัตรคําสีขณะทองบทเขาจังหวะ
6. นักเรียนทบทวนกิจกรรมฟงและปฏิบัติโดยการใชกิจกรรม Please โดยที่นักเรียนเปนผูปฏิบัติตาม
คําสั่งในหองเรียนโดยจะเพิ่มจํานวนคําสั่งขึ้นในเรื่อย ๆ ตามลําดับโดยนักเรียนจะตองทําตามคําสั่งที่คือของฉัน
อยูที่อยางเชน Please take out your book, pick up your pencil, and draw a picture.
กิจกรรมยอยที่ 3 : Phonics/ Reading
7. ทบทวนเสียงอักษรโดยใชกิจกรรม Board Race เขียนตัวอักษร b , c, g และ p บนกระดานแบง
นัก เรียนออกเปนกลุม ครูพูดคําศัพท นัก เรียนแตละรีบวิ่ง ไปที่กระดานเพื่อสัม ผัสเสียงพยัญ ชนะตนตามที่
นักเรียนไดยิน
8. ใหนักเรียนอานเนื้อเรื่อง “At The Park” และ “On the Farm” ในขณะที่ฟงไฟลเสียง CD 1
Track 21 และ Track 38 หลังจากนั้นใหนักเรียนแสดงความเขาใจในเนื้อเรื่องโดยการทํากิจกรรม That's Not
Right ครูอานออกเสียงเนื้อเรื่องอีกครั้งหนึ่งแตเปนแปลงขอมูลบางสวนในขณะที่อานเนื้อเรื่อ ง นักเรียนแกไข
ทุกครั้งที่ไดยินขอมูลที่ไมถูกตองโดยพูดประโยค That's Not Right! และพูดประโยคที่ถูกตอง โดยอนุญาตให
นักเรียนเปดหนังสือเรียนในขณะที่ครูอาน
กิจกรรมยอยที่ 4 : Let’s Review
9. กอนที่นักเรียนจะเปดหนังสือเรียนใหนักเรียนเตรียมสําหรับขั้นตอนของการทําแบบทดสอบครูให
ตัวอยางการทําแบบทดสอบการฟงในหนา 20 ของหนังสือเรียนติดบัตรคําจํานวน 3 ใบจากบัตรคําที่ 1-16
เกี่ยวกับสิ่งของวัสดุอุปกรณในหองเรียนติดบัตรคําลงบนกระดานแลวเขียนตัวอักษร A B C ไดบัตรคําแตละใบ
นักเรียนยืนที่บัตรคําแลวระบุบัตรคําใดคําหนึ่งเมื่อครูพูดประโยคใหนักเรียนชี้ไปที่บัตรคําที่ถูกตองและตรวจ
สอบวาเปนตัวอักษรที่ถูกตองหรือไมครูออกเสียงซ้ําอีกหลายๆรอบจนกระทั่งนักเรียนเขาใจขั้นตอนการสอบ
10. นักเรียนดูแบบทดสอบในหนังสือและนักเรียนระบุสิ่งของตางๆใหหมายเลข 1-6 และคํากริยาใน
หมายเลข 7-8 ผูสงเสริมใหนักเรียนไดคาดเดาลวงหนาถึงภาษาที่นักเรียนอาจจะไดฟง
11. ครูเปดไฟลเสียง CD1 Track 39 นักเรียนฟงพรอมทั้งชี้ภาพที่ถูกตอง หลังจากนั้นเปดไฟลเสียงอีก
ครั้งหนึ่งใหนักเรียนฝกทําแบบทดสอบหากตองการทําการทดสอบแบบเปนทางการ ควรใหนักเรียนทําขอสอบ
การเขียนเทานั้นและรวมกันตรวจแกไขขอสอบกับนักเรียน

CD1 Track 39
1. What’s this?
It’s a globe.
2. Is this a chair?
Yes, it is. It’s red and black chair.
3. Is this a square? No, it isn’t. It’s a triangle.
4. What color is this?
5. It’s pink.
6. It’s a red diamond.
7. It’s a blue marker.
8. Draw a triangle.
9. Pick up the red crayon.
12. นักเรียนสามารถจับคูและฝกสรางแบบทดสอบการฟงดวยตนเองโดยใชขอมูลจากหนา 18
13. นักเรียนดูที่รูปภาพกระดานเกมในหนังสือเรียนหนาที่ 21ครูตรวจสอบและทบทวนความรูของ
นัก เรียนโดยใหนัก เรี ยนอานคําศั พทในตารางและฝก บรรยายวัต ถุสิ่ง ของ เชน red, a green marker,
a purple star เปนตน
14. แสดงตัวอยางของการเลนเกมสโดยการคัดเลือกนักเรียนเปนผูเลนที่ 1 และผูเลนที่ 2 ผูเลนที่ 1
โยนลูกเตาและเดินตัวหมากของตนเองไปยังชองตามหมายเลขที่ได ผูเลนที่ 1 ถามคําถามเกี่ยวกับคําศัพทที่อยู
ในตารางหากผูเลนที่ 1 ไมสามารถตอบคําถามไดถูกตองตองยอนกลับไปที่จุดเริ่มตน สลับกันถามและตอบ
15. ใหนัก เรียนเลนเกมเปนคูห รือเปนกลุม เล็ก การเลนเกมสามารถที่จ ะประยุกตเ พิ่มเติม ใหเ ปน
ประโยคคําถามคําตอบจากรูปภาพ หรือใหนักเรียนสรางประโยคที่เกี่ยวกับภาพได
1. ถานักเรียนไดทบทวนบทเรียนคําศัพทโครงสรางประโยคเพลงและเนื้อเรื่องจากหนวยที่ 1 และ 2
เรียบรอยแลวครูอธิบายเกี่ยวกับการประเมินผลการทบทวนบทเรียนของตนเอง โดยใสเครื่องหมาย ลงใน
 ในกิจกรรม I can do it! วาถาหากนักเรียนคิดวานักเรียนสามารถปฏิบัติสิ่งตอไปนี้ได ครูใหการเสริมแรง
และชมเชยนักเรียนเปนภาษาอังกฤษ
2. นักเรียนทําแบบทดสอบบทที่ 1 จากคูมือครูหนา 128 หรือ 129 แบบทดสอบทายบทที่ 2 คูมือครู
หนา 130 ถึง 133
วัฒนธรรมในทุกสังคมเมื่อพบคนที่พบกันจะมีการกลาวทักทาย แนะนําตัว และถามชื่อ ถามทุกขสุข

และแสดงทาทางประกอบการทักทายตามวัฒนธรรมของแตละชาตินักเรียนควรมีความเขาใจและปฏิบัติดวย
ความเคารพในวัฒนธรรมที่แตกตาง และการพูดอยางสุภาพเมื่อ ตอ งการขอรอ งใหใ ครทํา สิ่ง ใดควรมีก าร
ใช please ไวห นาหรือไวทายประโยคได
1. ครูควรใชเ วลาวางชวยวิเ คราะหและแกปญ หาการอานอัก ษรและคําศัพทสําคัญ เปนรายบุคคล

เพราะเปนพื้นฐานสําคัญในการอานและการเขาใจภาษาอังกฤษ และควรฝกดวยจํานวนอักษรครั้งละ 3-4 ตัว
ฝกย้ํา ซ้ํา ทวนอยางตอเนื่อง
ครูป ระเมินคําศัพทและการใชป ระโยคของนัก เรียนดวยการให นัก เรียนทําแบบฝก หัด Let's Go

Workbook หนา 18-19

Let’s Review Page 19-20
A Read and match. B Circle and color.
1. What’s this? / It’s a globe. 1. circle around black marker
2. Is this a diamond? / No, it isn’t. 2. circle around triangle
It’s a circle 3. circle around diamond on left
3. What color is this? / It’s black. 4. circle around table
4. Is this a star? / Yes, it is.
C Look and check. D Match.
A checkmark should appear beside The 1. line drawn to fifth picture
following: a pencil case, a pencil, a Map, a 2. line drawn to fourth picture
notebook, a ruler , a book, and an Eraser 3. line drawn to third picture
4. line drawn to third picture
5. line drawn to second picture

Thai Lesso Plan Lets Go4e Level 1-Part 1

Uploaded by

Document Information

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

Thai Lesso Plan Lets Go4e Level 1-Part 1

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

© Copyright Oxford University Press

© Copyright Oxford University Press

© Copyright Oxford University Press

คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู ชุดหนังสือภาษาอังกฤษ Let’s Go 4th edition เปนสื่อการเรียนรูใน

© Copyright Oxford University Press

© Copyright Oxford University Press

แนวทางการจัดการเรียนรู้ .............................. 2 หน่วยย่อยที่ 4: Let’s Read ........... 142

© Copyright Oxford University Press

© Copyright Oxford University Press

2 Let’s Go 4th Edition level 1

ภาพประกอบจาก สุมิตรา อังวัฒนกุล (2540)

ขั้นที่ 1 ขั้นนําเสนอ (Presentation) เปนการใหตัวปอนทางภาษา (Language Input) แกผูเรียน

4 Let’s Go 4th Edition level 1

6 Let’s Go 4th Edition level 1

2.2 กรอบอางอิงความสามารถทางภาษาของสหภาพยุโรป (The Common European

8 Let’s Go 4th Edition level 1

12 Let’s Go 4th Edition level 1

14 Let’s Go 4th Edition level 1

© Copyright Oxford University Press

16 Let’s Go 4th Edition level 1

จ ุด ประส งคก ารเรีย นรู

Skills: Listening Reading Speaking

Target 2 Let’s count.

18 Let’s Go 4th Edition level 1

ส ื่อ ก ารเรีย นรู

- หนังสือเรียน Let’s Go 1 (4th Edition) หนา 2-3

ก ิจ ก รรมก ารเรีย นรู ตัว อ ัก ษร Alphabe t

กิจกรรมยอยที่ 1 : Listen , point, and sing

ขั้น ตอ นก ารจ ัด ก ิจ ก รรม

ก ิจ ก รรมก อ นก ารเรีย นรู

1. ครูเ ปดไฟลเ สียง CD1 track 02 รอบที่ 1 หลัง จากนั้นใหนักเรียนทดลองออกเสียงตัวอัก ษร

2. นักเรียนเปดหนังสือหนา 2 ครูเปดไฟลเสียง CD1 track 02 รอบที่ 2 นักเรียนฟงแลวชี้ตาม

ก ิจ ก รรมระหว างก ารเรีย นรู

5. นักเรียนทํากิจกรรมฝก อานออกเสียงตัวอัก ษรและลากนิ้วมือตามตัวอักษรทั้งตัวพิม พเ ล็ก และ

20 Let’s Go 4th Edition level 1

10. ครูทบทวนการอานออกเสียงและรูจักตัวอักษรของนักเรี ยน ดวยการออกเสียงคําสําคัญและให

ว ัฒนธรรมตางชาติท ี่ค รูส ามารถ ส อ ดแ ทรก ในก ารส อ น

พยัญชนะในแตละภาษามีจํานวน ชื่อเรียก การออกเสียงและวิธีเขียนที่แตกตางกันไปตามภาษาของ

ขอ คว รพิจ ารณา

1. ครูควรใชเ วลาวางชวยวิเ คราะหและแกปญ หาการอานอัก ษรและคําศัพทสําคัญ เปนรายบุคคล

นักเรียนใชเวลาวางจับคูเลนเกมฝกหัดอานอักษร โดยคว่ําบัตรอักษรลง แลวสลับกันเปดอักษรแลว

กิจกรรมยอยที่ 2 : Let’s count

ขั้น ตอ นก ารจ ัด ก ิจ ก รรม

ก ิจ ก รรมก อ นก ารเรีย นรู

1. ครูใหนัก เรียนยกมือตนเองขึ้นมา แลวถามคําถามวานักเรียนมีนิ้วมือทั้ง หมดกี่นิ้ว โดยถามทั้ง

ก ิจ ก รรมระหว างก ารเรีย นรู

3. ครูเปดไฟลเสียง CD1 track 03 นักเรียนฟง และชี้ตัวเลขในหนังสือเรียนหนาที่ 3 แลวออกเสียง

22 Let’s Go 4th Edition level 1

ก ิจ ก รรมหล ังก ารเรีย นรู

ว ัฒนธรรมตางชาติท ี่ค รูส ามารถ ส อ ดแ ทรก ในก ารส อ น

การยื่นสิ่งของใหผูอื่นในระหวางยื่นสิ่งของจะพูดวา Here you are และเมื่อรับสิ่งของเปนมารยาท

ในกรณีที่นักเรียนไมไดเรียนในบทเรียน Let’s begin มากอน ครูตอ งมีการสอนและฝกคําศัพทในเรื่อง

ครูเขียนคําศัพทจํานวน 1-10 ใหนักเรียนวาดภาพระบายสี สิ่งของในหองเรียนตามจํานวน 1-10 ลงใน

“ What can you do? I can walk. ”

ขั้น ตอ นก ารจ ัด ก ิจ ก รรม

ก ิจ ก รรมก อ นก ารเรีย นรู

1. ครูใหนักเรียนดูรูปภาพในหนังสือเรียนหนาที่ 3 แลวสนทนาถาม-ตอบเกี่ยวกับภาพ เชน

ก ิจ ก รรมระหว างก ารเรีย นรู

1. ครูนําเสนอคําศัพทเ กี่ยวกับ คํากริยาโดยแสดงทาทางพรอมทั้ง พูดคําศัพทซ้ําหลายๆ ครั้ง ให

24 Let’s Go 4th Edition level 1

ก ิจ ก รรมหล ังก ารเรีย นรู

5. นักเรียนคัดลอกประโยคบนกระดาน และสรุปการถาม-ตอบ โดยครูใหออกเสียงคําถามพรอมกัน

ว ัฒนธรรมตางชาติท ี่ค รูส ามารถ ส อ ดแ ทรก ในก ารส อ น

การเดิน วิ่งหรือกระโดดในที่สาธารณะตองไมสงเสียงดังรบกวนผูอื่น ควรปฏิบัติอยางรักษามารยาท