Professional Documents
Culture Documents
CEA Outlook 01 Thai
CEA Outlook 01 Thai
CEA Outlook 01 Thai
01
จับกระแสอนาคตเศรษฐกิ จสร้าจงสรรค์
จับกระแสอนาคตเศรษฐกิ | มกราคม
สร้างสรรค์ - มิถุน-ายน
| กรกฎาคม 2562 2560
ธันวาคม
Thailand’s
Craft
Industry
เศรษฐกิจสร้างสรรค์ กับการพัฒนา
อุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรมไทย
02 CEA OUTLOOK
เกี่ยวกับ CEA
01
จับกระแสอนาคตเศรษฐกิจสร้างสรรค์ | มกราคม - มิถุนายน 2562
Thailand’s
Craft
Industry
เศรษฐกิจสร้างสรรค์ กับการพัฒนา
อุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรมไทย
04 CEA OUTLOOK
คณะผู้จัดท�ำ
จัดท�ำโดย CEA
Creative Economy Agency
(Public Organization)
ส�ำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
(องค์การมหาชน)
อาคารไปรษณีย์กลาง
1160 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก
เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 ประเทศไทย
โทรศัพท์ 02 105 7400
โทรสาร 02 105 7450
Volume
เศรษฐกิจสร้างสรรค์กับการพัฒนา
อุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรมไทย 01
08 CEA OUTLOOK
สารบัญ
12
การพัฒนาอุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรมไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์
18
แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์กับ
อุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรม
กรณีศึกษาต้นแบบที่ดี
20
กรณีศึกษาในประเทศสหราชอาณาจักร
30
กรณีศึกษาในประเทศญี่ปุ่น
42
สรุปปัจจัยความสำ�เร็จของการสนับสนุน
เชิงนโยบายการดำ�เนินของหน่วยงานภาครัฐ
44
กรณีศึกษาต้นแบบที่ดีในประเทศไทย
แนวทางการพัฒนา ปัญหา และ
ความท้าทายในการดำ�เนินธุรกิจ
กรณีศึกษา: แม่ฑีตา และ กรกต
50
สรุปปัจจัยความสำ�เร็จของการพัฒนา
ธุรกิจสร้างสรรค์ ในสาขางานฝีมือและ
หัตถกรรมของประเทศไทย
54
สถานการณ์ของกลุ่มผู้ประกอบการสร้างสรรค์
สาขางานฝีมือและหัตถกรรม
56
ทัศนคติและแนวโน้มของงานฝีมือและ
หัตถกรรมของไทยในอนาคต
CEA OUTLOOK
Photo: Olga-Prinku/thisiscolossal.com
09
10 CEA OUTLOOK
CEA OUTLOOK 11
คำ�นำ�
คุณค่าของงานหัตถกรรมนัน้ ได้รบั การยอมรับในฐานะรากฐานของวัฒนธรรม
การผลิ ต ของสั ง คม ช่ า งฝี มื อ ได้ รั บ การยกย่ อ งในฐานะผู ้ สื บ ทอดและ
ผู้สร้างสรรค์ และผลงานหัตถกรรม คือ ผลลัพธ์แห่งความอุตสาหะ และ
การผสมผสานของความสมบูรณ์และแร้นแค้นจากท้องถิ่น
การรังสรรค์งานหัตถกรรม จึงเป็นการแสดงออกทั้งวัฒนธรรม ความรู้ และ
ความคิดสร้างสรรค์ แต่ในอีกมิติหนึ่ง งานหัตถกรรม ได้สร้างห่วงโซ่การผลิต
ทีเ่ ชือ่ มโยงจากชุมชนการผลิตเล็กๆ สูก่ ารส่งออกทีเ่ ป็นพลังขับเคลือ่ นเศรษฐกิจ
ในหลายประเทศ ถึงแม้ว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมแบบ Mass Production
และเทคโนโลยีใหม่ได้เข้ามาบดบังการผลิตของงานหัตถกรรม จนท�ำให้ภาค
การผลิตงานหัตถกรรมลดลงอย่างน่าใจหาย แต่บางประเทศกลับสามารถ
รักษางานหัตถกรรมให้มีความน่าสนใจ และเป็นเรื่องของคุณค่าทางสังคมได้
C
Crafts
CEA OUTLOOK 13
การพัฒนาอุตสาหกรรม
งานฝีมอื และ
หัตถกรรมไทย
สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์
ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา นานาประเทศทั่วโลก ต่างประสบปัญหา
ของภาวะเศรษฐกิจซบเซา การแข่งขันในภาคการผลิตทีร่ นุ แรง จากการ
มีผู้เล่นรุ่นใหญ่อย่างจีนเข้ามาตีตลาดสินค้าในระบบเศรษฐกิจของโลก
รวมถึงปัจจัยการผลิตที่มาจากฐานทรัพยากรทางธรรมชาติและ
แรงงานต้นทุนต�่ำเริ่มจะขาดแคลนจากการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงใน
โลกยุคปัจจุบัน
14 CEA OUTLOOK
การอิงอยู่กับระบบเศรษฐกิจแบบเดิมจึงเป็นสิ่งที่อันตรายต่อการพัฒนา
หลายประเทศเริ่มปรับเปลี่ยนทิศทางไปอิงกับระบบเศรษฐกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะ
ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ซึ่งเป็นระบบที่มุ่งเน้นการ
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยการใช้ต้นทุนจากองค์ความรู้เดิมร่วมกับความคิด
สร้างสรรค์และการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อต่อยอดและ
เพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าและบริการเดิมที่มีอยู่ น�ำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทาง
เศรษฐกิจจ�ำนวนมหาศาล
CREATIVE
ECONOMY
INDUSTRIES
การทีป่ ระเทศไทยมุง่ หน้าสูก่ ารพัฒนาระบบเศรษฐกิจไปสูเ่ ศรษฐกิจสร้างสรรค์
ยังถือเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจโดยอาศัยจุดแข็งของประเทศ ซึง่ เป็นการแปลงความ
ได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ (Comparative Advantage) ในแง่ของความหลากหลาย
เชิงชีวภาพ และความหลากหลายเชิงวัฒนธรรม ให้กลายเป็นความได้เปรียบ
ทางการแข่งขัน (Competitive Advantage) โดยปัจจุบนั ประเทศไทยก�ำหนด
ขอบเขตกลุม่ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ออกเป็น 12 กลุม่ ได้แก่ หัตถกรรม ศิลปะการ
แสดง ทัศนศิลป์ ภาพยนตร์ การพิมพ์ ธุรกิจกระจายเสียง ดนตรี การออกแบบ แฟชัน่
ธุรกิจการให้บริการด้านสถาปัตยกรรม โฆษณา และซอฟท์แวร์
CEA OUTLOOK 15
1/
3
ในอต ุ สาหกรรมสรา้ ง
ของการจ้างงาน
สรรคท ์ ง
้ั หมด
คื อ ก ลุ่ ม ง า น ฝี ม
ื อ แ ล ะ หั ต ถ ก ร ร ม
323,276
สูงถง ึ
คน
จากไตรมาส
1 ของปี 255
9
CEA
CEA OUTLOOK
OUTLOOK 17
Photo: teinmetz-354950/pxhere.com
ด้วยบริบทของการพัฒนาในปัจจุบัน กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่มีศักยภาพสูง
กลุม่ หนึง่ ของประเทศไทยทีน่ า่ จับตามอง คือ กลุม่ อุตสาหกรรมงานฝีมอื และหัตถกรรม
(Crafts) โดยพิจารณาจากมูลค่าทางเศรษฐกิจ 8.7 หมื่นล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.7
ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) และมูลค่าการส่งออก 5.8 หมื่นล้านบาท (คิดเป็น
ร้อยละ 0.8 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด) ในปี 25571 รวมถึงตัวเลขการจ้างงานใน
อุตสาหกรรมสร้างสรรค์จากส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าในกลุ่มงานฝีมือและ
หัตถกรรมมีการจ้างงานสูงถึง 323,276 คน หรือประมาณการเป็น 1 ใน 3 ของการจ้าง
งานในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ทงั้ หมด จากข้อมูลของส�ำนักงานสถิตแิ ห่งชาติ ไตรมาส 1
ปี 25592 นอกจากนี้อุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรมยังเป็นมรดกภูมิปัญญาทาง
วัฒนธรรมไทยซึง่ เป็นทักษะ และองค์ความรูท้ เี่ กิดจากการสัง่ สมและสืบทอดกันมาจาก
รุ่นสู่รุ่น มีความเกี่ยวพันกับวิถีการด�ำเนินชีวิต ศิลปวัฒนธรรมของชุมชน และท้องถิ่น
1 ฐานข้อมูลเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของ สศช. เรียกดู
ณ วันที่ 30 มีนาคม 2558 โดย ส�ำนักงานส่งเสริม
วิ ส าหกิ จ ขนาดกลางและขนาดย่ อ (สสว.) และ
ส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ
2 ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบร่วมกับศูนย์บริการ
วิ ช าการเศรษฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์
มหาวิ ท ยาลั ย ธรรมศาสตร์ จั ด ท� ำ ข้ อ มู ล แรงงาน
สร้ า งสรรค์ ภ ายใต้ “โครงการจั ด ท� ำ แผนพั ฒ นา
อุตสาหกรรมสร้างสรรค์”
18 CEA OUTLOOK
แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์กับอุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรม
กรณีศึกษาต้นแบบการพัฒนาอุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรมที่ดีในต่างประเทศ
ส�ำหรับประเทศกรณีศกึ ษาที่ดี (Best Practice) ในต่างประเทศ ประเทศที่
มีแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับกลุ่ม
อุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรม (Crafts) อย่างชัดเจนและเหมาะสม คือ
สหราชอาณาจักรและญี่ปุ่น
ความส�ำคัญของอุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรม ในฐานะอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
Photo: fancycrave
อย่างไรก็ตามทั้งรัฐบาลสหราชอาณาจักรและญี่ปุ่น ก็ได้น�ำเสนอถึงประเด็น
ส�ำคัญว่า การส่งเสริมอุตสาหกรรมงานฝีมืออย่างต่อเนื่องจะช่วยในการต่อยอด
และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) โดยจะช่วยในการพัฒนาความรู้
(Know-how) ทักษะฝีมือ (Skills) และสามารถน�ำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนา
และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตลอดจนการสร้างการมีสว่ นร่วมของคนในสังคม จาก
การน�ำภูมิปัญญาหรือความหลากหลายที่มีอยู่ของประเทศ (Cultural assets)
มาต่อยอด นอกจากนี้การส่งเสริมอุตสาหกรรมงานฝีมือยังช่วยให้การสืบสาน
ทางวัฒนธรรมเป็นไปอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพในระยะยาว ดังนัน ้ ผลลัพธ์
ของการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในภาพรวมของกลุ่มอุตสาหกรรมงานฝีมือ
อาจจะไม่ได้น�ำมาซึ่งการเพิ่มขึ้นของมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่เป็นผลกระทบที่ส่ง
ผลไปยังกลุม่ อุตสาหกรรมอืน
่ และการยกระดับคุณภาพชีวติ ของคนในชุมชนและ
สังคมในภาพรวมของประเทศนั้นเอง
20 CEA OUTLOOK
กรณีศึกษาในประเทศสหราชอาณาจักร
Photo: michael-ash/unsplash.com
หน่วยงานที่เป็นกลไกส�ำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ส�ำหรับหน่วยงานเฉพาะที่ดูแลในเรื่องของการพัฒนาอุตสาหกรรม
สร้างสรรค์ในกลุม่ งานฝีมอื และหัตถกรรม (Crafts) โดยตรง คือ Crafts
Council ซึ่งเป็นองค์กรระดับประเทศ (National development
agency) ที่ ด�ำ เนิ น งานและสนั บ สนุ น อุ ต สาหกรรมงานฝี มื อ และ
หัตถกรรมแบบร่วมสมัย (Contemporary Craft) และมีเป้าหมาย
อยู่ที่การท�ำให้สหราชอาณาจักรเป็นศูนย์กลางของการรวบรวมและ
ผลิตงานฝีมอื และหัตถกรรมร่วมสมัยของโลก โดยส่งเสริมและสนับสนุน
การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมทั้งใน
เรื่องของการด�ำเนินธุรกิจ และโครงสร้างพื้นฐานที่จ�ำเป็นต่างๆ รวมถึง
การสร้ า งมาตรฐานและคุ ณ ภาพของงานฝี มื อ ร่ ว มสมั ย ของสหราช
อาณาจักรให้เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ
แนวทางในการพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศ
THE UK
CREATIVE
ECONOMY
2017
Creative
CEA OUTLOOK 25
CREATIVE UK
26 CEA OUTLOOK
1 การจัดการและความเป็นผู้น�ำ
Management and leadership
2 การสนับสนุนทางธุรกิจ
Business support The Craft Blueprint
A workforce development plan
for craft in the UK
June 2009
3 ความหลากหลายของแรงงาน
Diversity of the workforce
4 การพัฒนาผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง
Continuing professional development
5 การปฏิรูปการตรวจสอบคุณภาพงานฝีมือ
Qualifications reform
7 บทบาทของความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมในโรงเรียน
The role of creativity and culture in schools
8 การเริ่มต้นเข้าสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์และวัฒนธรรม
Entry points into the creative and cultural industries
9 เส้นทางความก้าวหน้าและข้อมูลของสายอาชีพ
Progression routes & careers information, advice & guidance
CEA OUTLOOK 27
Photo: 100-design
อย่ า งไรก็ ต าม การวางแนวทางและการก�ำ หนดทิ ศ ทางของการพั ฒ นา
อุตสาหกรรมในปัจจุบันยังถือเป็นเรื่องยาก เนื่องจากการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
ที่มาพร้อมกับการตื่นตัวจากการพัฒนาของเทคโนโลยี ท�ำให้วัฒนธรรมการ
ผลิตงานฝีมือแบบเดิม ต้องถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยและความต้องการ
ของผู้บริโภค รวมไปถึงการเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงของกระแสต่างๆ ที่ส่งผล
ต่อทัศนคติและใช้ชีวิตของผู้คน ทั้งนี้ ผู้บริโภคยังสามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น
ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ หน่วยงานภาครัฐจึงมีความจ�ำเป็นที่จะต้องปรับตัว
และปรับเปลี่ยนการด�ำเนินงานให้สอดคล้องและทันต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
เพื่อรองรับต่อโอกาสในการพัฒนาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากการพัฒนา
แรงงานฝีมือให้ตรงกับการเติบโตของอุตสาหกรรมในอนาคต การพัฒนาทาง
ด้านการตลาดยังถือเป็นอีกจุดแข็งหนึ่งที่ภาครัฐสามารถด�ำเนินการ เพื่อให้
ภาคธุรกิจและผู้บริโภคได้มีโอกาสพบเจอกันได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
28 CEA OUTLOOK
HIGHLIGHT PROJECT:
HOTHOUSE PROGRAMME
แผนปฏิบัติการหนึ่งที่น่าสนใจที่ด�ำเนินการโดย Crafts Council คือ โครงการ
ส�ำหรับสนับสนุนและส่งเสริมกลุม่ Makers หน้าใหม่ทมี่ คี วามสามารถและสนใจจะ
เริ่มต้นท�ำธุรกิจ หรือ HOTHOUSE Programme ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2554 และปัจจุบัน
มี Makers ที่ผ่านการอบรมและเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 200 คน โดยโครงการ
ดังกล่าวจะเป็นการท�ำงานร่วมกันระหว่าง Crafts Council และพันธมิตรที่สำ� คัญ
เช่น สถาบันการศึกษา เครือข่ายของช่างฝีมือใน UK แกลลอรี่ สตูดิโอ ตลอดจนนัก
ธุรกิจในแวดวงที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมจะมีโอกาสใน
การเข้ารับการอบรมแบบ 1 ต่อ 1 กับพีเ่ ลีย้ งทีจ่ ะคอยให้คำ� ปรึกษาตัง้ แต่กระบวนการ
สร้างธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการตลาดอย่างครบถ้วน โดยโครงการจะใช้
เวลาประมาณ 6 เดือน นอกจากนี้ ยังมีการเชิญบุคคลภายนอกเข้ามาให้ความรูแ้ ละ
จัดท�ำ Workshop เพื่อพัฒนาทักษะของการเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจสร้างสรรค์
CEA OUTLOOK 29
MAKERS
กรณีศึกษาในประเทศญี่ปุ่น
งานฝีมือของญี่ปุ่นถือว่ามีรากฐานทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาก
กว่า 100 ปี โดยยังคงไว้ซึ่งรูปแบบและวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม จึงถือว่าเป็น
หนึง่ ในอุตสาหกรรมทีส่ ามารถน�ำเสนอความเป็นญีป่ นุ่ ได้อย่างชัดเจน โดยงาน
ฝีมือถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภทหลัก คือ เครื่องปั้นดินเผา (Pottery) สิ่งทอ
(Textiles) เครื่องแลค (Lacquerware) งานไม้ (Woodwork) เครื่องโลหะ
(Metalwork) ตุ๊กตา (Dolls) กระดาษ (Paperwork) และประเภทอื่นๆ
(Miscellaneous) ซึ่งในแต่ละประเภทเองก็จะถูกแบ่งย่อยออกไปอีกตาม
เทคนิคหรือกระบวนการเฉพาะตัวของงานนั้นๆ
หน่วยงานที่เป็นกลไกส�ำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์
Photo: amu-zen.com
Japan
32 CEA OUTLOOK
Photo: erik-eastman/unsplash.com
รัฐบาลที่จะเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจของภาคเอกชนให้
สามารถพัฒนาสินค้าให้มมี าตรฐานและสามารถทีจ่ ะแข่งขันในตลาดโลก
ภายใต้การอ�ำนวยความสะดวกและการสร้างสภาพแวดล้อมทีเ่ อือ้ ต่อการ
พัฒนาต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ ทัง้ นีย้ งั เป็นการเชือ่ มให้เป้าหมายของ
การขับเคลือ่ นทางเศรษฐกิจของภาคเอกชนและภาครัฐเป็นไปในทิศทาง
เดียวกัน
จากโครงสร้ า งหน่ ว ยงานที่ มี ส ่ ว นส่ ง เสริ ม และพั ฒ นาเศรษฐกิ จ
สร้างสรรค์ทงั้ หมด จะเห็นได้วา่ หน่วยงานภาครัฐในประเทศญีป่ นุ่ ให้ความ
ส�ำคัญและสร้างความร่วมมือกัน ในการขับเคลือ่ นนโยบายด้านเศรษฐกิจ
สร้างสรรค์ในภาพรวมได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม และสร้างผลกระทบ
ในเชิงบวกเป็นวงกว้าง
แนวทางในการพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศ
ภาพรวมกระบวนการและแนวทางการส่งออกวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
ไปยังต่างประเทศภายใต้นโยบาย COOL JAPAN
นโยบายสำ�หรับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
สาขางานฝีมือและหัตถกรรมของญี่ปุ่น
1. งานฝีมือต้องถูกใช้งานอย่างเป็นกิจวัตรในชีวิตประจ�ำวัน
2. งานฝีมือต้องเคยถูกผลิตด้วยมือมาก่อน
3. กระบวนการการผลิตงานฝีมือต้องมีการใช้เทคนิคแบบ
ดั้งเดิมที่มีอายุเกินกว่า 100 ปี
Traditional
Crafts of
Japan
NIBUTANI-ATTUS NIBUTANI-ITA
(WEAVING) (FURNITURE)
These are Officially Designated Traditional Craft Products throughout Japan TSUGARU-NURI
(LACQUERWARE)
MURAKAMI-KIBORI-
that are authorized by the Ministry of Economy, Trade and Industry (222 products as of June 18, 2015). TSUISHU
(LACQUERWARE)
– –
– – KYO -NUI NISHIJIN-ORI OITAMA- YAMAGATA- MIYAGI-DENTO -
KYO -YUZEN (EMBROIDERY) (WEAVING) TSUMUGI IMONO KOKESHI
(DYEING) (WEAVING) (CASTING) (WOODEN DOLL)
WAJIMA- AIZU-NURI
– KANAZAWA- NANAO- (LACQUERWARE)
KYO - HAKU NURI BUTSUDAN
KUROMONTSUKI- (GOLD LEAF (LACQUERWARE) (HOUSEHOLD
– – ZOME CRAFTING) BUDDHIST ALTAR)
KYO -KOMON KYO -KANOKO-
(DYEING) SHIBORI (DYEING) OKU-AIZU-
AMIKUMI-ZAIKU
(TIE-DYEING) –
– KYO - (BASKETRY)
KYO - BUTSUGU –
UCHIWA SHOGAWA-
(HOUSEHOLD HIKIMONO-KIJI TAKAOKA-
–
(ROUND DOKI – – –
PAPER FAN)
BUDDHIST ALTAR (WOODWORK) AIZU-HONGO -YAKI OBORI-SOMA-YAKI
IMPLEMENTS) (COPPERWARE) (CERAMICS)
USHIKUBI- KAGA-
– KAGA-NUI (CERAMICS)
TSUMUGI YUZEN (EMBROIDERY)
– – (WEAVING) (DYEING)
– KYO - KYO -
KYO – BUTSUDAN
– - KYO -SENSU SASHIMONO
(HOUSEHOLD
–
KYO -SHIKKI – – KANAZAWA-
– MASHIKO-
ISHI-KOGEIHIN (FOLDING (WOODENWORK) KYO -HYOGU SHIKKI ETCHU -WASHI YAKI
BUDDHIST ALTAR) (LACQUERWARE)
(STONEWORK) PAPER FAN) (MOUNTING) (LACQUERWARE) TAKAOKA- (HAND-MADE PAPER) (CERAMICS)
SHIKKI
(LACQUERWARE)
–
ICHII-ITTO -BORI
(WOODCARVING)
ECHIZEN- ECHIZEN-WASHI
TANSU –
– WAKASA-
–
(HAND-MADE PAPER) SHINSHU-
SEKISHU-WASHI MENO -ZAIKU (FURNITURE) UCHIHAMONO EDO-KIMEKOMI-
(HAND-MADE –
(STONEWORK) (SMITHERY) NINGYO MAKABE-
PAPER) (WOODEN DOLL) – –
– HIDA-SHUNKEI ISHIDORO
INSHU - CHICHIBU-MEISEN (STONE LANTERN)
WASHI (LACQUERWARE)
UCHIYAMA-GAMI (WEAVING)
(HAND-MADE IZUSHI-YAKI ECHIZEN- (HAND-MADE PAPER) KASUKABE-
PAPER) TOYOOKA-
– (CERAMICS) UCHIHAMONO ECHIZEN-
IZUMO- KIRYU -ZAIKU WAKASA- ECHIZEN- GIFU- IWATSUKI- KIRI-TANSU
– – – (SMITHERY)
NURI SHIKKI YAKI – – (FURNITURE)
UNSHU- ISHIDORO (WICKERWORK) CHOCHIN NINGYO
SOROBAN (STONE LANTERN) YUMIHAMA- (LACQUERWARE) (LACQUERWARE) (CERAMICS) (PAPER (WOODEN DOLL)
IWAMI-YAKI GASURI LANTERN) KISO-SHIKKI
(ABACUS)
HAGI-YAKI (CERAMICS) (WEAVING) (LACQUERWARE)
(CERAMICS)
–
SHINSHU-
TSUMUGI
MINO-
KAWAJIRI- BIZEN-YAKI – TAMBA- SHIGARAKI-YAKI WASHI (WEAVING)
– – –
FUDE BANSHU - TACHIKUI- – – KOSHU-SUISHO -
FUKUYAMA- (CERAMICS) KEBARI – – (CERAMICS) OMI-JOFU (HAND-MADE
KOTO (WRITING BRUSH) YAKI OSAKA- OSAKA-RANMA (WEAVING) PAPER) KISEKI-ZAIKU
– (PLANE HARP)
(FISHHOOK) (CERAMICS) BUTSUDAN (WOODENWORK) (STONEWORK)
OUCHI-NURI (HOUSEHOLD HIKONE-
(LACQUERWARE) BUDDHIST ALTAR)
KUMANO- BUTSUDAN
FUDE – (HOUSEHOLD – – HAKONE-
(WRITING BRUSH) – OSAKA- BUDDHIST ALTAR) KOSHU -INDEN – –
BANSHU - KARAKI-SASHIMONO – – YOSEGI-ZAIKU BOSHU -UCHIWA
MIKI-UCHIHAMONO (WOODENWORK) NAGISO- KOSHU- – (LACQUERED (MARQUETRY) (ROUND FAN)
MINO-YAKI ROKURO-ZAIKU TEBORI-INSHO DEERHIDE)
(SMITHERY) YOKKAICHI- (CERAMICS) (WOODWORK) (SEAL-ENGRAVING)
– BANKO-YAKI
AKAMA-SUZURI HIROSHIMA- KATSUYAMA- BANSHU -
BUTSUDAN MIYAJIMA-ZAIKU SAKAI- (CERAMICS) KAMAKURA-
(INKSTONE) TAKE-ZAIKU SOROBAN BORI
(HOUSEHOLD (WOODWORK) (ABACUS) UCHIHAMONO TAKAYAMA-
BUDDHIST ALTAR) (BAMBOO CRAFT) CHASEN (LACQUERWARE)
(SMITHERY)
(TEA WHISK)
–
OSAKA-
NANIWA-SUZUKI ODAWARA-
(TINWARE) SHIKKI
HAKATA- ISE-KATAGAMI SURUGA- –
– – (LACQUERWARE)
NINGYO OSAKA- (STENCIL PAPER) HINA-NINGYO
–
(DOLL) KONGO -SUDARE (DOLL)
KARATSU- (BAMBOO BLIND)
YAKI KURUME- SUZUKA- SURUGA-
(CERAMICS) GASURI HAKATA- SUMI TAKESENSUJI-
(WEAVING) KOISHIWARA- NARA- (INK STICK) ZAIKU
ORI MARUGAME- – FUDE
(WEAVING) YAKI UCHIWA KAGAWA-SHIKKI OSAKA-–
(BAMBOO SURUGA-HINAGU
MIKAWACHI- (CERAMICS) (LACQUERWARE) SENSHU- (WRITING LATTICEWARE) (WOODWORK)
YAKI (ROUND PAPER FAN) BRUSH)
(CERAMICS)
KIRI-TANSU
(FURNITURE) IGA-
TOBE-YAKI YAKI
IMARI-ARITA- (CERAMICS) – (CERAMICS) HONBA-–
YAKI KISHU-TANSU KIHACHIJO
(CERAMICS) (FURNITURE)
AGANO-YAKI – –
(WEAVING)
OZU-WASHI – OTANI-YAKI
(CERAMICS) (HAND-MADE PAPER) AWA-SHOAI-
SHIJIRA-ORI (CERAMICS)
YAME-FUKUSHIMA-
YAME-
– BUTSUDAN (WEAVING)
HASAMI-YAKI CHOCHIN (HOUSEHOLD –
(CERAMICS) – KISHU-SHIKKI IGA-KUMIHIMO
(PAPER LANTERN) BUDDHIST ALTAR) KISHU- (LACQUERWARE) (BRAID)
TOSA-WASHI HERAZAO
(HAND-MADE (FISHING ROD)
PAPER)
TOSA-
UCHIHAMONO
(SMITHERY) AWA-WASHI
(HAND-MADE PAPER)
BEPPU-TAKE-ZAIKU
– – – (BAMBOO CRAFT)
SHODAI-YAKI YAMAGA-TORO
(CERAMICS) (GARDEN LANTERN)
–
MIYAKONOJO
– -
DAIKYU
(BOW)
AMAKUSA-
– –
TOJIKI HIGO-ZOGAN TAMA-ORI EDO-KARAKAMI EDO-
(CERAMICS) (METALWORK) – – (WEAVING) (DECORATED PAPER) EDO- SASHIMONO
TOKYO - MOKUHANGA (WOODWORK)
SOME-KOMON – MURAYAMA-
(DYEING) OSHIMA-TSUMUGI (WOODBLOCK PRINT)
– (WEAVING)
HONBA-OSHIMA- NAGOYA- MIKAWA-
TSUMUGI NAGOYA- BUTSUDAN BUTSUDAN
(WEAVING) KIRI-TANSU (HOUSEHOLD (HOUSEHOLD EDO-GLASS
– (FURNITURE) BUDDHIST ALTAR) BUDDHIST ALTAR) (GLASSWARE)
HONBA-OSHIMA- OKAZAKI-
–
TSUMUGI SEKKO HIN
KAWANABE- TOYOHASHI-
BUTSUDAN (WEAVING) (STONEWORK) – – – –
FUDE TOKYO - – – EDO-WAZAO TOKYO -GINKI
(HOUSEHOLD (WRITING ANTIMONY- TOKYO–- (FISHING ROD) (SILVERWARE)
BUDDHIST ALTAR) CRAFTS
BRUSH) TEGAKI-YUZEN
YOMITANZAN- (METAL CRAFT) (DYEING)
–
SATSUMA-YAKI MINSA
(CERAMICS) ARIMATSU- EDO-SEKKU-
– – (WEAVING) SETO- NARUMI-SHIBORI EDO-BEKKOU EDO-KIRIKO –
RYUKYU -BINGATA SOMETSUKE-YAKI (TORTOISESHELL)
NINGYO
NAGOYA- (TIE-DYEING) (CUT GLASS) (DOLL)
(DYEING) (CERAMICS) –
– – TSUBOYA-YAKI YU ZEN
RYUKYU -SHIKKI (CERAMICS) (DYEING)
KUMEJIMA- (LACQUERWARE) YOMITANZAN-
TSUMUGI HANAORI
(WEAVING) (WEAVING)
KIJOKA-NO-
–
BASHOFU TOKONAME-
CHIBANA- (WEAVING) AKAZU-YAKI YAKI
SHURI-ORI HANAORI (CERAMICS) (CERAMICS)
NAGOYA-
– – (WEAVING) – KUROMONTSUKI-
RYUKYU -KASURI (WEAVING) OWARI-SHIPPO
(WEAVING) (CLOISONNE WARE) ZOME
(DYEING)
–
MIYAKO-JOFU
(WEAVING)
–
YAEYAMA-MINSA JAPAN TRADITIONAL CRAFTS AOYAMA SQUARE Produced and Published by
The Association for the Promotion of
(WEAVING)
Note: The layout of illustrations does not necessarily correspond to the location of municipalities.
ทั้งนี้ การพัฒนาอุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรมของญี่ปุ่นภายใต้นโยบาย
Cool Japan และการด�ำเนินงานของ DENSAN ยังช่วยในการส่งเสริมซึง่ กันและกัน
กล่ า วคื อ จากแผนการในส่ ว นแรกที่ มี เ ป้ า หมายเพื่ อ พั ฒ นาสิ น ค้ า งานฝี มื อให้
มี คุ ณ ภาพที่ สู ง ขึ้ น (Supply-Sided) ด้ ว ยการยกระดั บ มาตรฐานของสิ น ค้ า
ผ่านข้อก�ำหนดต่างๆ ของ METI และ DENSAN พร้อมทั้งการสนับสนุนและ
ส่งเสริมอุตสาหกรรมงานฝีมือ โดยการกระตุ้นอุปสงค์และการรับรู้ของผู้บริโภค
(Demand-Sided) จากการด�ำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและการช่วยเหลือ
ผู้ประกอบการในการสร้างเรื่องราว (Story telling) ให้กับสินค้า เพื่อเปลี่ยนจาก
ประวัตศิ าสตร์ให้กลายเป็นเรือ่ งราวของสินค้าทีจ่ บั ต้องได้งา่ ยขึน้ (History-to-Story)
ซึ่งสังเกตุได้จากการตั้งชื่อสินค้างานฝีมือต่างๆ มักจะมีชื่อของภูมิภาคที่เป็นต้น
ก�ำเนิดหรือชือ่ เทคนิคเฉพาะของงานฝีมอื ชิน้ นัน้ เพือ่ เป็นการส่งสัญญาณให้ ผูบ้ ริโภค
รับรู้ว่างานฝีมือชิ้นนี้มีความพิเศษและโดดเด่นมากกว่างานฝีมือแบบอื่นในตลาด
เดียวกันและยังสามารถสร้างความโดดเด่นและแตกต่างแก่สนิ ค้าทีม่ คี วามคล้ายกัน
ไม่ให้เกิดความสับสนได้อีกด้วย เช่น OJIYA-CHIJIMI และ OJIYA-TSUMUGI
ในประเภทงานสิง่ ทอ โดยค�ำว่า OJIYA คือเมืองต้นก�ำเนิด ส่วน CHIJIMI / TSUMUGI
คื อ ชื่ อ ของเทคนิ ค หรื อ ลั ก ษณะพิ เ ศษของผลิ ต ภั ณ ฑ์ นั้ น ๆ เป็ น ต้ น ซึ่ ง การตั้ ง ชื่ อ
ในลักษณะนี้จะน�ำไปสู่การสร้างความสามารถทางการแข่งขันเชิงเปรียบเทียบ
(Comparative Advantage) และป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียส่วนแบ่งทางการ
ตลาด (Cannibalization) ในสินค้าที่มีความใกล้เคียงกันอีกด้วย
Photo: hanakomon.co.jp
38
Photo: WatchProSite.com
CEA OUTLOOK
CEA OUTLOOK 39
การปรับรูปแบบและพัฒนามาตรฐาน สร้างความ
รับรู้ของผู้บริโภคข้างต้น นอกจากจะเป็นการกระตุ้น
อุ ป สงค์ ทั้ งในและต่ า งประเทศแล้ ว รั ฐ บาลยั ง มี ก าร
กระตุ ้ น อุ ป สงค์ ข องผู ้ บ ริ โ ภคภายในญี่ ปุ ่ น เพิ่ ม เติ ม
จากการก�ำ หนดให้ พ ฤศจิ ก ายนของทุ ก ปี เ ป็ น เดื อ น
แห่ ง งานฝี มื อ แบบดั้ ง เดิ ม (Traditional Craft
Products Month) ตั้งแต่ปี 2527 เพื่อให้กลุ่มคนที่
เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมได้มาพบปะพูดคุย และมีการ
จัด Workshop ให้ความรู้ตามร้านค้าตัวแทนของภาค
รัฐ พร้อมทั้งการจัดกิจกรรมที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง
ได้งา่ ย เช่น NIPPON QUEST ทีเ่ ป็นการแข่งขันเพือ่ ค้นหา
สินค้าหรืออาหารที่ผู้บริโภคมีความพึงพอใจมากที่สุด
ซึ่งเป็นการสร้างการรับรู้และให้ความส�ำคัญกับงานฝีมือ
ภายในประเทศได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ DENSAN ยังถูกก่อตัง้ ขึน้ ด้วยจุดประสงค์
ทีจ่ ะเป็นศูนย์กลางของบุคลากรในแวดวงงานฝีมอื อีกด้วย
เนื่องจากอุตสาหกรรมงานฝีมือของญี่ปุ่นในอดีตนั้น
ถูกขับเคลื่อนด้วยช่างฝีมือจากตระกูลช่างใหญ่ ซึ่งแต่ละ
ตระกูลก็จะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะอย่างในงานฝีมือ
ของตัวเอง ซึ่งการที่รัฐบาลสร้างศูนย์กลางขึ้นมาและ
รวบรวมตระกูลช่างฝีมอื ทัง้ เล็กและใหญ่เข้าไว้ดว้ ยกันนัน้
จะสามารถส่งเสริมให้ช่างฝีมือจากตระกูลต่างๆ ได้มี
โอกาสแลกเปลี่ ย นและแบ่ ง ปั น องค์ ค วามรู ้ ที่ ต นเอง
เชี่ยวชาญ และยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและ
ต่อยอดองค์ความรูใ้ นงานฝีมอื ไม่ให้หยุดนิง่ และไม่เลือน
หายไปตามกาลเวลา นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังสามารถ
เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ (Connection) ทั้ง
ภายในแวดวงงานฝีมือชนิดเดียวกัน และระหว่างแวดวง
งานฝี มื อ ที่ แ ตกต่ า งกั น ซึ่ ง จะน�ำไปสู ่ ก ารรวมหน่ ว ย
ตามแนวตั้ง (Vertical Integration) ซึ่งถือเป็นกลไก
ส�ำคัญทีจ่ ะขับเคลือ่ นอุตสาหกรรมให้มปี ระสิทธิภาพและ
ครบวงจร
40 CEA OUTLOOK
สรุปปัจจัยความสำ�เร็จของการสนับสนุนเชิงนโยบายและการดำ�เนินของหน่วยงานภาครัฐ
3. การสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการท�ำงานแบบบูรณาการ
เพื่อส่งเสริมการด�ำเนินนโยบายที่สอดคล้องและต่อเนื่องกัน
5. การสร้างมาตรการจูงใจหรือให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่ตลาด
ต่างประเทศ
สรุปแล้ว ทั้งสหราชอาณาจักรและญี่ปุ่นได้ด�ำเนินนโยบายในการพัฒนา
อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ตามปัจจัยแห่งความส�ำเร็จทัง้ 6 ประการในข้างต้น โดย
ทั้ง 2 ประเทศ มีการปรับใช้วิธีการและก�ำหนดแนวทางในการพัฒนาที่ต่างกัน
โดยสหราชอาณาจักรมีแนวทางในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน
ของอุตสาหกรรมอย่างเป็นองค์รวมด้วยการใช้ทรัพยากรและเน้นการพัฒนา
ทางด้านเทคโนโลยี เข้ามามีส่วนในการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ รวมถึง
ปัจจัยสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ทีเ่ กีย่ วข้องภายในประเทศ ในขณะทีญ ่ ปี่ นุ่ จะ
มุง่ เน้นการพัฒนาและต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ดงั้ เดิม ทีม่ ตี น้ ทุนทางวัฒนธรรมเป็น
ปัจจัยสนับสนุนหลัก พร้อมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออกไปยังนานา
ประเทศจากการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศในภาพรวม
Photo: cesar-couto/unsplash.com
44 CEA OUTLOOK
Thailand กรณีศึกษาต้นแบบที่ดีในประเทศไทย
“แม่ฑีตา” (ผ้าฝ้ายท�ำมือย้อมครามธรรมชาติ)
และ “Korakot” (จักสานไม้ไผ่) ถือเป็น
ผู้ประกอบการสร้างสรรค์ในกลุ่มอุตสาหกรรม
งานฝีมือและหัตถกรรมที่ประสบความส�ำเร็จ
ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าหัตถกรรม
และสามารถสร้างรายได้ให้กบั ชุมชน ตลอดจน
การขยายฐานผูบ้ ริโภคไปยังตลาดต่างประเทศ
โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
Photo: Mae TeeTa
CEA OUTLOOK 45
เกิดจากความต้องการจะฟื้นฟูและสานต่องานย้อมครามพื้นถิ่นที่ก�ำลังจะ
สูญหายไปของจังหวัดสกลนคร โดยเน้นกระบวนการผลิตในการทอและการย้อม
แบบดัง้ เดิมทีม่ คี ณ
ุ ภาพสูง คือ การใช้วตั ถุดบิ ทุกอย่างจากธรรมชาติทงั้ สีครามในการ
ย้อมจากต้นครามที่เกิดจากการหมักจุลินทรีย์ด้วยการเลี้ยงดูแบบเทคนิคทาง
ธรรมชาติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากและต้องอาศัยการฟื้นฟูองค์ความรู้ เนื่องจากใน
อดีตยังไม่มีการเก็บหรือศึกษาในเรื่องของภูมิปัญญา ประเพณี วัฒนธรรม หรือวิถี
ชีวิตของคนสมัยก่อนไว้อย่างชัดเจนหรือเป็นลายลักษณ์อักษรมากนัก ท�ำให้ยากต่อ
การน�ำวัฒนธรรมมาสานต่อและเพิ่มคุณค่าในคนรุ่นใหม่
การสร้างแบรนด์ แม่ฑีตา ได้เล็งเห็นถึงปัญหาหลักของกลุ่มผลิตภัณฑ์จากผ้า
ทอมือ กล่าวคือ ปัจจุบันมีผ้าทอมืออยู่เป็นจ�ำนวนมากในท้องตลาด (Supply)
จากการส่งเสริมของภาครัฐ แต่ว่าคนทั่วไปโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เป็นกลุ่มลูกค้า
ส�ำคัญที่มีก�ำลังซื้อ (Demand) ยังไม่เห็นความส�ำคัญหรือให้คุณค่ากับผ้าทอมือ
มากนัก รวมถึงผลิตภัณฑ์จากผ้าทอมือส่วนใหญ่ยังยากต่อการน�ำไปใช้สวมใส่
ในชีวิตประจ�ำวัน เนื่องจากผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นผ้าผืนที่ยังไม่ได้
ผ่านการแปรรูปเป็นเสื้อผ้าส�ำเร็จรูป ประกอบกับการออกแบบหรือลวยลายที่ไม่ตรง
กับรสนิยมของคนรุ่นใหม่ จึงเป็นช่องว่างทางการตลาดที่แม่ฑีตาน�ำมาใช้เป็น
กลยุทธ์ในการพัฒนาแบรนด์ โดยยึดจากคุณค่าและคุณสมบัตทิ มี่ ขี องผ้าย้อมคราม
จากธรรมชาติ ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบเสื้อผ้าที่ตรงกับ
รสนิยมของคนรุ่นใหม่ และดูเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจ�ำวันมากยิ่งขึ้น เน้น
ความเรียบง่าย ดูเป็นสากล และทันสมัย โดยถือว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์และ
เปิดมุมมองของการท�ำผ้าย้อมครามขึ้นมาใหม่
อย่างไรก็ตามในขั้นตอนนี้ ก็มีปัญหาและอุปสรรคส�ำคัญ เนื่องจากผ้าย้อม
ครามเกิดขึน้ จากกระบวนการผลิตด้วยมือของชาวบ้าน ซึง่ ในช่วงแรกชาวบ้านไม่เชือ่
ว่าท�ำออกมาแล้วจะขายได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีความแปลกใหม่และยังไม่เป็นที่
รู้จักหรือที่นิยมกันในท้องตลาด ประกอบกับค่านิยม มุมมองและรสนิยมของชุมชน
ในพื้นที่แตกต่างกับคนในเมือง ท�ำให้การเริ่มต้นธุรกิจต้องอาศัยระยะเวลาในการ
ปรั บ ความเข้ าใจระหว่ า งผู ้ ผ ลิ ต (ชุ ม ชน) กั บ ผู ้ ป ระกอบการหรื อ นั ก ออกแบบ
(สร้างสรรค์) รวมถึงระยะเวลาของผลลัพธ์จากผลิตภัณฑ์ที่จะเติบโตและเป็นที่รู้จัก
ในหมู่ผู้บริโภคในท้องตลาด ทั้งนี้ในการท�ำธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับชุมชน
ที่เป็นกลไกหลักในกระบวนการผลิตนั้น จะต้องด�ำเนินธุรกิจที่ค�ำถึงการยกระดับ
ของคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน ชุมชนและสังคมในภาพรวมด้วย เนื่องจากงานฝีมือ
ที่ดีมีคุณภาพและความน่าเชื่อถือ จะสามารถสะท้อนผ่านวิถีการด�ำรงชีวิตและ
ความเป็นอยู่ของคนในสังคมนั้นๆ
46 CEA OUTLOOK
เกิดจากการพัฒนาต่อยอดจากทักษะที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยใช้
แรงบันดาลใจจากธรรมชาติใกล้ตัว และใช้วัตถุดิบในพื้นที่และทักษะเฉพาะทางของ
คนภายในชุมชนที่มีความช�ำนาญ กล่าวคือ เทคนิคและทักษะในสมัยเด็กจากการ
ผูกว่าว และเทคนิคการมัด การผูกไม้ไผ่แบบจีนโบราณ ผสมผสานกับงานหัตถกรรม
ท้องถิน่ อย่างงานจักสาน โดยพัฒนาและต่อยอดด้วยความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ
ให้เข้ากับกระแสของโลกและความเป็นสากล ท�ำให้เกิดเป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้าน
แบบประยุกต์ ซึ่งกลายเป็นงานศิลปะอันละเอียดอ่อนและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
งานจักสานถือว่าเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาพื้นบ้านและผูกพันกับชีวิตประจ�ำวัน
ของคนไทยมาแต่โบราณ จากการน�ำมาขัดสานเป็นรูปทรงเพื่อประโยชน์ใช้สอย
ในชีวิตประจ�ำวันของคนสมัยก่อน แต่มักจะถูกมองว่า เป็นสิ่งของที่ล้าสมัย ไม่ตรง
กับการใช้งานในปัจจุบนั ทีว่ สั ดุจากธรรมชาติสว่ นใหญ่ได้ถกู แทนทีด่ ว้ ยผลิตภัณฑ์วสั ดุ
สังเคราะห์จากอุตสาหกรรมที่มีราคาถูกและเข้ากับการใช้งานในยุคสมัยปัจจุบัน
มากกว่า อิทธิพลจากกระบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรมท�ำให้ผลิตภัณฑ์ที่มีความ
ละเอียดอ่อนในเชิงช่างฝีมือเริ่มหาดูได้ยากขึ้น ซึ่งเป็นจุดที่การน�ำงานจักสานมา
พัฒนาและต่อยอดขึน้ มาใหม่ กลายเป็นทีจ่ บั ตามองและสร้างความน่าสนใจในท้องตลาด
อย่างไรก็ดี ในแง่ของการท�ำธุรกิจนั้น จ�ำเป็นต้องอาศัยทักษะในการวางแผนซึ่ง
เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้และซึมซับจากประสบการณ์ในการท�ำงานต่างๆ และน�ำมาเป็น
บทเรียนในการพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นต่อไป เช่น ในเรื่องของการพัฒนากระบวนการ
ผลิต เนือ่ งจากงานจักสานทีผ่ สมผสานการดีไซน์ เป็นงานทีอ่ าศัยความช�ำนาญเฉพาะ
ด้าน การเตรียมวัสดุที่แตกต่างจากงานจักสานทั่วไป รวมถึงการบริหารจัดการเวลา
เพื่อให้สามารถผลิตชิ้นงานได้ทันตามค�ำสั่งซื้อต่างๆ จนกลายเป็นการพัฒนาชุมชน
ช่างฝีมอื ขึน้ โดยคุณกรกตมุง่ เน้นการท�ำงานร่วมกันภายในท้องถิน่ และเผยแพร่องค์
ความรูใ้ นการท�ำงาน เกิดจากการถ่ายทอดของคุณกรกตไปยังชาวบ้านโดยตรง และ
ท�ำการฝึกฝนจนเกิดความช�ำนาญ ประกอบการกับใช้ระบบหัตถอุตสาหกรรม ซึ่ง
เป็นการแบ่งงานตามความช�ำนาญของชาวบ้านในพื้นที่ เช่น ผู้หญิงจะถนัดงานผูก
และมัดทีเ่ ป็นงานละเอียดอ่อน ส่วนผูช้ ายจะเป็นงานทีใ่ ช้แรงงานในการตัดไม้ไผ่ การ
ติดตัง้ ชิน้ งาน ซึง่ การท�ำเช่นนีจ้ ะช่วยให้เกิดกระบวนการผลิตทีม่ ปี ระสิทธิภาพ คุณภาพ
ดีมีความประณีตในปริมาณที่มากขึ้น ทั้งยังเป็นการสร้างงานให้กับชุมชนในพื้นที่
ท�ำให้สังคมพื้นบ้านเข้มแข็งขึ้น ลดปัญหามั่วสุม ยาเสพติดต่างๆ ลงอีกด้วย
CEA OUTLOOK
47
ผลกระทบของการพัฒนาต่ออุตสาหกรรมสร้างสรรค์และประเทศในภาพรวม
ผลกระทบทางด้านสังคม
การพัฒนาอุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรมถือเป็นธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อ
สังคมโดยตรง เนื่องจากปัจจัยส�ำคัญของธุรกิจคือคนในชุมชน ซึ่งการเติบโตของธุรกิจ
จะส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้ต่อชาวบ้านและชุมชนที่เกี่ยวข้อง และในเชิงของ
กระบวนการผลิต งานหัตถกรรมถือว่าเป็นงานที่ทำ� คนเดียวไม่ได้ การท�ำงานจึงเป็น
เรือ่ งของการสร้างความร่วมมือระหว่างกัน ซึง่ จะน�ำไปสูก่ ารสร้างความสัมพันธ์ของคนใน
ชุมชน จนเกิดเป็นเครือข่ายชุมชนทีค่ นต่างเคารพในกฎระเบียบและร่วมสร้างวินยั ให้แก่กนั
นอกจากนี้ ผลประโยชน์ทางสังคมจากการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในระดับของ
ชุมชนจากการพัฒนาทุนทางสังคม (Social Capital) ยังช่วยให้เกิดการตระหนักถึง
คุณค่า (Awareness) และสร้างความหวงแหนในวัฒนธรรมและด�ำเนินชีวิต จากการ
สร้างความรูส้ ึกของการมีส่วนร่วมและการเป็นเจ้าของร่วมกันในผลิตภัณฑ์ทพี่ ัฒนาขึน้
ซึ่งจะท�ำให้เกิดการอนุรักษ์ (Preserve) และการถ่ายทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป
ทั้ ง นี้ การพั ฒ นาเศรษฐกิ จ สร้ า งสรรค์ ยั ง ช่ ว ยกระตุ ้ นให้ เ กิ ด กระบวนการคิ ด อย่ า ง
สร้างสรรค์ขน้ึ ภายในสังคม จนก่อให้เกิดเป็นการสร้างงานและสร้างอาชีพ โดยทีช่ าวบ้าน
ไม่จ�ำเป็นต้องย้ายถิ่นฐาน และน�ำมาซึ่งการยกระดับคุณภาพชีวิต อันจะน�ำไปสู่หนทาง
การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
CEA OUTLOOK 49
50 CEA OUTLOOK
สรุปปัจจัยความสำ�เร็จของการพัฒนาธุรกิจสร้างสรรค์
ในสาขางานฝีมือและหัตถกรรมของประเทศไทย
จากกรณีศึกษาต้นแบบที่ดีในประเทศ สามารถสรุปปัจจัยความส�ำเร็จ
ออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ปัจจัยภายใน คือ การเริ่มต้นจากการพัฒนาธุรกิจ
ด้วยแนวคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการ และปัจจัยภายนอก คือ การส่งเสริม
และสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งประเด็นหลักของแต่ละปัจจัยมีดังนี้
ปัจจัยภายในที่เกิดจากตัวผู้ประกอบการในการพัฒนาธุรกิจด้วยแนวคิด
สร้างสรรค์ ประกอบไปด้วยแนวทางในการพัฒนาหลัก 3 ด้าน ได้แก่
1. เริม่ ต้นสร้างและพัฒนาธุรกิจจากต้นทุนเดิมหรือความสนใจส่วนตัว
ประเทศไทยมี ค วามหลากหลายของทุ น ทางวั ฒ นธรรมและสั ง คมที่ มี
เอกลักษณ์และจุดเด่นทีแ่ ตกต่างกันไปในแต่ละพืน้ ที่ ซึง่ เป็นจุดทีผ่ ปู้ ระกอบการ
สามารถหยิบยกขึน้ มาต่อยอดและบริหารจัดการเพือ่ สร้างมูลค่าและคุณค่าเพิม่
ให้แก่ผลิตภัณฑ์และบริการจากความคิดสร้างสรรค์ได้ จากกรณีศึกษาทั้ง 2
กรณี จะเห็นได้ว่า ทั้งแม่ฑีตาและกรกตได้เริ่มต้นจากการน�ำสิ่งที่มีอยู่ในชุมชน
หรือสังคม (Cultural assets) ที่เป็นภูมิปัญญาแต่เดิมและเป็นสิ่งที่ผูกผัน
กับวิถีชีวิตการด�ำเนินชีวิต มาพัฒนาและต่อยอดด้วยความคิดสร้างสรรค์
ซึง่ นอกจากจะเป็นจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ ยังสามารถเล่าเรือ่ งราว (Story telling)
ที่เป็นการสื่อสารถึงคุณค่าของผลิตภัณฑ์และที่มาให้ผู้บริโภคเข้าใจได้อย่าง
เป็นรูปธรรม ทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง
มีคุณภาพ และน�ำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกภาคส่วนของสังคมอีกด้วย
สร้างสรรค์ เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะมีลักษณะของการเป็นนักออกแบบ
ท�ำให้ยังมีจุดอ่อนในแง่ของการบริหารจัดการธุรกิจอยู่มาก ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่
ยังมาจากกระบวนการผลิตที่อาศัยทักษะฝีมือของคน ท�ำให้การด�ำเนินงานและ
การควบคุมคุณภาพของสินค้าและการเพิ่มปริมาณในการผลิตเป็นเรื่องยาก ดังนั้น
ในการท�ำงานที่ต้องอาศัยความร่วมมือกับชุมชนที่เป็นฐานการผลิตหลัก การน�ำ
ระบบหัตถอุตสาหกรรม หรือการแบ่งงานตามความเชี่ยวชาญและความสามารถ
ของแต่ละคนจึงเป็นสิ่งจ�ำเป็น ต่อการเติบโตของธุรกิจ การฝึกฝนและพัฒนาฝีมือ
ให้แก่ช่างรุ่นใหม่ๆ เพื่อต่อยอดความรู้ รวมถึงการสร้างและรักษาระดับของคุณภาพ
ที่ ดี เป็ น ที่ ย อมรั บในการส่ ง ออกไปยั ง ประเทศต่ า งๆ ทั้ ง นี้ การใช้ เ ครื่ อ งมื อ หรื อ
เทคโนโลยี ยังถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพของการท�ำงาน
ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในวงกว้าง
กล่าวโดยสรุป การที่จะประสบความส�ำเร็จในการด�ำเนินงานและพัฒนาธุรกิจ
สร้างสรรค์นั้น ปัจจัยหลักยังคงอยู่ที่ความสามารถของผู้ประกอบการในการพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ที่จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของท้องตลาด รวมถึงการพัฒนา
รูปแบบในการด�ำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน
Photo: jeswin-thomas/unsplash.com
52 CEA OUTLOOK
ปัจจัยภายนอกจากการสร้างสภาพแวดล้อมทีเ่ หมาะสมต่อการพัฒนาธุรกิจจาก
ภาครัฐ
การส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐผ่านแผนปฏิบตั กิ ารหรือโครงการต่างๆ
จะเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและประกอบธุรกิจให้มี
ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การโปรโมทสินค้าของผู้ประกอบการ ผ่านการจัด
งานแสดงสินค้าต่างๆ ซึง่ ถือเป็นการเปิดช่องทางด้านการตลาดและสร้างโอกาส
ในการเข้าถึงสินค้าแก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์จากงานฝีมือของ
ประเทศไทยได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดต่างประเทศ ดังนั้นการส่งเสริม
จากภาครัฐในส่วนนี้ จึงเป็นสิ่งจ�ำเป็นส�ำหรับผู้ประกอบการที่มีความพร้อมและ
ต้องการจะต่อยอดในการส่งออกและด�ำเนินธุรกิจในระดับประเทศต่อไป
นอกจากนี้ การสร้างมาตรฐานหรือการจัดประกวดต่างๆ ยังเป็นการส่งเสริม
และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น การประกวด Design
Excellence Award (DEmark) ยังเป็นการสร้างบรรทัดฐานส�ำหรับผลิตภัณฑ์
ที่มาจากความคิดสร้างสรรค์ที่เน้นความส�ำคัญกับคุณภาพการผลิต การใช้งาน
และแนวความคิดของการออกแบบผลิตภัณฑ์ เพือ่ ใช้เป็นเครือ่ งมือทางการตลาด
ในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้า โดยสินค้าที่ได้รับรางวัลจะได้รับการ
ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อและงานต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักทั่วกัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มาตรการและสิทธิประโยชน์ในปัจจุบันจากภาครัฐ ยังมีข้อ
จ�ำกัดบางประการต่อการเพิม่ ขีดความสามารถของกลุม่ ผูป้ ระกอบการสร้างสรรค์
โดยเฉพาะกลุ ่ ม งานฝี มื อ และหั ต ถกรรม เนื่ อ งจากกระแสการพั ฒ นาของ
ประเทศไทยมุง่ เน้นการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจด้วยการเติบโตของอุตสาหกรรม
ซึ่งกินเวลามามากกว่าครึ่งศตวรรษ ท�ำให้นโยบายหรือมาตรการต่างๆ ที่ฝั่งราก
ในการพัฒนาของประเทศให้ความส�ำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป็นที่ตั้ง
ซึ่งการพัฒนาของกลุ่มอุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรมนั้น จะมีวิธีทางใน
การพัฒนาที่แตกต่างกับระบบอุตสาหกรรมอยู่มาก ทั้งในแง่ของเป้าหมายใน
การสร้างสินค้า การใช้ทรัพยากรในการผลิต จ�ำนวนผลผลิต ระบบในการด�ำเนิน
งานและบริ ห ารจั ด การ ดั ง นั้ น การที่ ภ าครั ฐ จะหั น มาพั ฒ นาและขั บ เคลื่ อ น
อุ ต สาหกรรมสร้ า งสรรค์ ใ นกลุ ่ ม งานฝี มื อ และหั ต ถกรรมของประเทศให้ มี
ประสิทธิภาพและสามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับโลก จ�ำเป็นต้องปลดล็อคข้อ
จ�ำกัดและมาตรฐานที่มีในระบบอุตสาหกรรมแต่เดิม เพื่อเปิดรับและท�ำความ
เข้าใจต่อธรรมชาติของธุรกิจรูปแบบใหม่ทขี่ บั เคลือ่ นด้วยความคิดสร้างสรรค์และ
กระบวนการผลิ ตในรู ป แบบของงานหั ต ถกรรม ซึ่ ง ผลที่ ไ ด้ จ ากการพั ฒ นา
อุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรม จะไม่ใช่การขยายตัวทางเศรษฐกิจเท่านั้น
หากแต่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมในภาพรวมของประเทศอีกด้วย
CEA OUTLOOK 53
TENSION
by Plural Design
54 CEA OUTLOOK
สถานการณ์ของกลุ่มผู้ประกอบการสร้างสรรค์ สาขางานฝีมือและหัตถกรรม
ส�ำหรับแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรมในประเทศไทย
นั้นถือว่ามีโอกาสในการพัฒนาอีกมาก เนื่องจากประเทศไทยมีทุนทางวัฒนธรรมและ
ทรัพยากรทีโ่ ดดเด่น ทัง้ นี้ จากการศึกษา และส�ำรวจสถานการณ์ รวมถึงความต้องการ
ของผู้ประกอบการเบื้องต้น เพื่อก�ำหนดนโยบายการสนับสนุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นั้น ประกอบไปด้วยปัจจัยหลัก 8 ด้าน ได้แก่
1. สถานการณ์ด้านการแข่งขันของอุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรม
2. อุปสงค์ของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์
3. ปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรม
4. ปัจจัยด้านทรัพยากรบุคคล
5. ปัจจัยด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี
6. ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม
7. บทบาทของหน่วยงานภาครัฐ
8. ความเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานและเครือข่ายต่างๆ
โดยมีสาระส�ำคัญดังนี้
สถานการณ์ทางด้านการแข่งขันในกลุ่มอุตสาหกรรมถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความส�ำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งในแง่ของการ
ออกแบบและการใช้งานที่ผสมผสานเอกลักษณ์และรูปแบบเฉพาะของทางแบรนด์
(Brand) ลงไปในผลิตภัณฑ์นั้นๆ โดยผลิตภัณฑ์จากงานฝีมือที่ผ่านการออกแบบ
ค่อนข้างเป็นทีต่ อ้ งการของตลาดทัง้ ในและต่างประเทศ ทัง้ นี้ ผลิตภัณฑ์ของประเทศไทย
ยังถือว่ามีราคาไม่สงู มากนัก เมือ่ เทียบกับผลิตภัณฑ์จากงานฝีมอื อืน่ ๆ ในต่างประเทศ
ในส่วนของปัจจัยแวดล้อม เช่น ทุนทางสังคม ทรัพยากรบุคคล เทคโนโลยีที่
เหมาะสมและสภาพแวดล้อมต่างๆ ถือว่าอยูใ่ นเกณฑ์เหมาะสมปานกลาง โดยประเด็น
ด้านสังคมและวัฒนธรรม ควรมีการพัฒนาและส่งเสริมในเรือ่ งของการเข้าถึงฐานข้อมูล
หรือองค์ความรู้ในเรื่องของภูมิปัญญา ตลอดจนการสืบสานในเรื่องของทักษะฝีมือ ซึ่ง
จะช่วยในการพัฒนาและต่อยอด เพือ่ สร้างมูลค่าให้กบั ผลิตภัณฑ์ตา่ งๆ ส�ำหรับประเด็น
ด้านแรงงานฝีมอื ยังมีความจ�ำเป็นทีภ่ าครัฐควรเร่งการสนับสนุนและส่งเสริมทักษะฝีมอื
ให้แก่แรงงานในกลุ่มมากขึ้น เพราะแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่วัย
ผู้สูงอายุและเด็กวัยรุ่นมักไม่ให้ความส�ำคัญต่อการรับช่วงต่อ ซึ่งถือเป็นปัญหาส�ำคัญ
ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อไปในอนาคต ในส่วนของการพัฒนาทางเทคโนโลยีและ
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม อาจจ�ำเป็นต้องคอยปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมให้
เข้ากับการด�ำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการต่อไป
CEA OUTLOOK 55
ปัจจัยแวดล้อมของอุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรมในประเทศไทย
การแขงขันของอุตสาหกรรม
5
3.83
4
อุปสงคของ 3.63 ปจจัยดานสังคม
ผูบริโภค 3 3.10 และวัฒนธรรม
2
3.40 1 3.59
ความเชื่อมโยงระหวาง ปจจัยดานทรัพยากรบุคคล
เครือขายตางๆ
2.85
3.46
3.61
บทบาทของ ปจจัยดานนวัตกรรม
หนวยงานภาครัฐ ปจจัยดานสภาพแวดลอม และเทคโนโลยี
ทัศนคติและแนวโน้มของ
งานฝีมือและหัตถกรรมของไทยในอนาคต
จากข้อมูลสถานการณ์ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมข้างต้น
ประกอบกับแนวโน้มและรูปแบบ ของสังคมปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งใน
แง่ของวิถีชีวิตและทัศนคติในการด�ำรงชีวิตของมนุษย์อย่างมีพลวัต จากความก้าวหน้า
ทางเทคโนโลยีและการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสารที่ไร้พรมแดน ประชากรส่วนใหญ่
ได้เข้าสูก่ ระแสของลัทธิทนุ นิยม วัตถุนยิ มหรือบริโภคนิยม อย่างไรก็ดี ผลพวงจากความ
ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเปลีย่ นแปลงอย่างรวดเร็วเหล่านี้ ยังได้น�ำพาอีกกระแส
หนึ่งให้เริ่มเติบโตตามหลังควบคู่กับการพัฒนาในยุคเทคโนโลยีดิจิดัล กล่าวคือ สังคม
โลกส่วนหนึ่งได้หันกลับมาให้ความสนใจต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
มากขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่สินค้า lifestyle จากระบบอุตสาหกรรมเริ่มเข้าสู่ช่วงอิ่มตัว และ
ผู้บริโภคเริ่มตระหนักถึงผลกระทบจากระบบการผลิตแบบอุตสาหกรรม ผู้คนหันมาให้
ความส�ำคัญกับจังหวะในการด�ำเนินชีวิตมากยิ่งขึ้น
จากกระแสและแนวโน้มของผูบ้ ริโภคในปัจจุบนั ระบบเศรษฐกิจหรือธุรกิจแบบใหม่
เริม่ เกิดขึน้ เพือ่ ตอบสนองต่อรูปแบบพฤติกรรมและจังหวะในการด�ำเนินชีวติ ของมนุษย์
ที่เปลี่ยนแปลงไป จึงเป็นการเปิดโอกาสให้สินค้าจากอุตสาหกรรมงานฝีมือและ
หัตถกรรมของไทยที่เกิดจากการน�ำความคิดสร้างสรรค์ ทุนทางสังคมและวัฒนธรรม
ผสมกับองค์ความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีบทบาทในตลาดระดับโลกมากยิ่งขึ้น
CEA OUTLOOK
Photo: pascale-amez/unsplash.com
57
58 CEA OUTLOOK
CEA OUTLOOK 59
Photo: lance-matthew-pahang/unsplash.com
60 CEA OUTLOOK
เอกสารอ้างอิง
Creative & Cultural Skills. (2009) The Craft Blueprint. Available online at:
https://ccskills.org.uk/supporters/advice-research/article/the-
craft-blueprint-a-workforce-development-plan-for-craft-in-the-uk
Creative & Cultural Skills. (2008). Creative Blueprint England. Available online
at: http://blueprintfiles.s3.amazonaws.com/1319724744-89_147_
Creative-Blueprint-England.pdf
Creative Industries Council (cic). Create UK: A Strategy for the Creative Industries
to 2020 Available online at: http://www.thecreativeindustries.co.uk/
media/287538/create-uk-progress-update-mar-9.pdf
Creative Industries Council (cic). CREATE TOGETHER. Available online at: http://
www.thecreativeindustries.co.uk/media/367095/final-version-july-5.pdf
Creative Industries Division, Ministry of Economy, Trade and Industry. (2012). Cool
Japan Strategy. Available online at: http://www.meti.go.jp/english/policy/
mono_info_service/creative_industries/pdf/120116_01a.pdf
Cabinet Office, Government of Japan. (2014). Cool Japan Initiative. Available online at:
http://www.cao.go.jp/cool_japan/english/pdf/cooljapan_initiative.pdf