Professional Documents
Culture Documents
กาลิเลโอไขคดีปริศนาลวงตา
กาลิเลโอไขคดีปริศนาลวงตา
เคโงะ, ฮิงาชิโนะ.
กาลิเลโอไขคดีปริศนาลวงตา.-- กรุงเทพฯ : ไดฟุกุ ครีเอเตอร์, 2562.
368 หน้า.
1. นวนิยายญี่ปุ่น. I. สุรีรัตน์ งามสง่าพงษ์, ผู้แปล. II. วิลาสินี สาโรวาท, ผู้แปลร่วม.
III. ชื่อเรื่อง.
895.63
ISBN 978-616-448-017-9
ส�ำนักพิมพ์ไดฟุกุ
สุรีรัตน์ งามสง่าพงษ์
วิลาสินี สาโรวาท
บทที่ 1 งงงวย 8
บทที่ 2 มองเห็นทะลุปรุโปร่ง 65
บทที่ 3 เสียงจากใจ 118
บทที่ 4 บอลโค้ง 176
บทที่ 5 ส่งกระแสจิต 218
บทที่ 6 บิดเบือน 262
บทที่ 7 แสดงละครตบตา 315
บทที่ 1
งงงวย
1
ซาโตยามะ นามิยังตัดสินใจไม่ได้ว่าตัวเองควรจะมองเป็นเรื่อง
เครียดหรือเรือ่ งตลกดี แต่ถา้ เชือ่ สัญชาตญาณตัวเอง มันไม่นา่ ไว้วางใจชัดๆ
แต่เท่าที่ดูสีหน้าของชายหญิงทั้งสิบคนที่นั่งพับขาหันหน้าชนกัน หันหลัง
ให้ผนังห้องแคบๆ อันมืดสลัว ดูเหมือนจะไม่มีใครกังขาการกระท�ำของ
พวกตัวเองเลยสักคน นามิคดิ ว่าหากมันเป็นการแสดงเพือ่ ทีจ่ ะหลอกลวงเธอ
ก็ช่างเป็นพลังสามัคคีอันยิ่งใหญ่ แถมทุกคนยังมีทักษะการแสดงไม่เบา
จู่ๆ ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ คงเป็นเพราะบรรยากาศขมุกขมัว
อีกทัง้ หน้าต่างเปิดอ้าซ่า วันนีอ้ ากาศเย็นทัง้ ทีเ่ ป็นช่วงดอกซากุระร่วง เวลาที่
มีการส่งพลังจิตกันในห้องนี้ พวกเขาชอบเปิดหน้าต่างเพื่อขับไล่วญ ิ ญาณ
และสิ่งสกปรกในจิตใจ
-8-
-9-
กุไอ แต่ในใจกลับคิดคดทรยศพวกเรา”
บรรยากาศตึงเครียดก่อนหน้านี้เริ่มมีเสียงเคลื่อนไหวพรึบพรับ
บางคนเปลี่ยนท่านั่ง
“นี่คือเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง” เรนซากิกล่าว “พวกเรามุ่งมั่น
ช�ำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ ผู้คนมากมายที่ก�ำลังเป็นทุกข์กับความเจ็บป่วย
หรือสัมพันธภาพ มีสาเหตุมาจากจิตใจของตัวเอง ช่วงที่มีชีวิตอยู่ เกิดการ
สะสมสิ่งสกปรกต่างๆ จนก่อให้เกิดภัยร้าย ดังนั้นการขจัดสิ่งสกปรกนั้น
ออกไปจะท�ำให้คนส่วนใหญ่มีความสุข นี่คือปรัชญาของกลุ่มลัทธิเรา
อย่างไรก็ตาม การทีใ่ นกลุม่ ผูน้ �ำยังมีคนทีช่ �ำระจิตใจให้บริสทุ ธิไ์ ม่ส�ำเร็จอยู่
เท่ากับว่ากลุ่มลัทธิของเรายังอ่อนหัด หรือตัวฉันยังไม่ได้เรื่องนั่นเอง”
“อาจารย์ ไม่จริงหรอกครับ” ชายสูงวัยทีน่ งั่ อยูใ่ กล้เรนซากิมากทีส่ ดุ
กล่าว ทุกคนในกลุ่มลัทธินี้เรียกเรนซากิว่าอาจารย์ “หากมีคนนอกรีต
หมายความว่าตัวเขาเป็นคนใฝ่ต�่ำ ไม่ใช่ความผิดของอาจารย์เลย”
“ไม่หรอก เป็นเพราะความอ่อนต่อโลกของฉันเอง ดังนั้นสิ่งที่ฉัน
ควรท�ำคือการช่วยเหลือเขา เดี๋ยวฉันจะท�ำพิธีช�ำระล้าง”
“แสดงว่าอาจารย์รู้ตวั คนร้ายที่คดิ ทรยศแล้วหรือครับ”
เรนซากิยิ้มให้กับค�ำพูดของลูกศิษย์
“เราหยุดเรียกเขาว่าคนร้ายดีกว่า เราเป็นพวกเดียวกัน เขาแค่ช�ำระ
ล้างจิตใจไม่สะอาดพอ จริงๆ เขาน่าสงสารนะ” เรนซากิมองไปตรงกลางแถว
คนที่นั่งเรียงกันอยู่ “หัวหน้าสายที่ 5 ช่วยออกมาตรงหน้าฉันหน่อย”
คนที่ถูกเรียกคือชายร่างอ้วนใส่แว่น อายุ 40 กว่า เขากระพริบตา
ปริบๆ ท�ำหน้าแข็งเครียด “เรียกผม...หรือครับ”
“ใช่ คุณนั่นแหละ”
“ท�ำไมเป็นผม…”
“เดี๋ยวฉันจะบอกเหตุผลทีหลัง ช่วยออกมาข้างหน้าก่อน”
ชายที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าสายที่ 5 ลุกมาอย่างเก้ๆ กังๆ ด้วยสีหน้า
- 10 -
งุนงงและกังวลใจ เขาก้าวออกมาตรงหน้าเรนซากิแล้วนั่งพับขา
‘สมาคมกุไอ’ มีหัวหน้าสาย 10 คน พวกเขาบริหารสมาคมภายใต้
เรนซากิ ตอนนีท้ งั้ 10 คนอยู่ทนี่ ี้ คนอืน่ ๆ ต่างจ้องมองหัวหน้าสายที่ 5 ด้วย
สีหน้าตื่นตระหนก ไม่มใี ครคาดคิดมาก่อนว่าเขาจะถูกเรียกชื่อ
“หัวหน้าสายที่ 5” เรนซากิเรียกด้วยสีหน้าอ่อนโยนและน�้ำเสียงที่
นุ่มนวล
“ที่นี่คือสถานที่ช�ำระล้างจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ การสารภาพ
ความจริงทุกอย่างก็ถอื เป็นการช�ำระล้างจิต ถ้ามีอะไรปิดบังอยูจ่ งสารภาพ
ออกมา เผยความชั่วร้ายที่อยู่ในใจของคุณออกมา”
หัวหน้าสายที่ 5 ส่ายหน้าปฏิเสธด้วยท่าทางร้อนรน
“เปล่า...ผมไม่มีอะไรปิดบังนะครับ จะบอกว่าผมทรยศอาจารย์
งั้นหรือ ไม่มีทางครับ เป็นไปไม่ได้หรอก ไม่มีเรื่องแบบนั้นแน่นอน ผมเป็น
ผู้บริสุทธิ์”
“อย่างนั้นหรือ เรนซากิ ชิโคคนนี้เห็นทุกอย่าง หรือคุณจะบอกว่า
จิตวิญญาณของฉันต่างหากที่สกปรก”
“เปล่าครับ...เรื่องนั้นมัน...อาจจะมีอะไรผิดพลาด”
“งั้นหรือ ถ้างั้น...ลองถามใจของคุณดูอีกทีแล้วกัน”
เรนซากิหายใจเข้าลึกๆ หลับตาท�ำสมาธิ จากนั้นค่อยๆ ยกแขน
ทั้งสองข้างขึ้น หันฝ่ามือไปทางหัวหน้าสายที่ 5 นามิสงสัยว่าเขาจะท�ำ
อะไรต่อ ทันใดนั้น “โอ๊ย” หัวหน้าสายที่ 5 ร้องออกมา เขาล้มหงายหลัง
ด้วยพลังมหาศาล
เรนซากิวางมือทั้งสองข้างบนเข่า
“เป็นยังไง รู้สกึ ไหมว่าจิตวิญญาณที่แปดเปื้อนได้ออกไปแล้ว”
หัวหน้าสายที่ 5 ก้มมองร่างตัวเองทั้งๆ ที่ยังหมอบอยู่ ใบหน้าเขา
หวาดกลัวและตื่นตระหนก “เป็นยังไงบ้าง...” เรนซากิถามอีกครั้ง
หัวหน้าสายที่ 5 ส่ายหัวดิก
- 11 -
- 12 -
2
คุซานางิไม่คอ่ ยเข้าใจสถานการณ์ เพราะมามิยะอธิบายแค่รอบเดียว
กว่าจะพอเข้าใจก็ต้องถามโน่นถามนี่ แต่ก็ยังมีเรื่องที่ไม่เข้าใจ
“หัวหน้า...” คุซานางิพูด “นี่เป็นคดีหรือครับ”
มามิยะหมุนเก้าอี้ตัวเองกลับมา
“จะว่าเป็นคดีก็เป็นนั่นแหละ มีคนตายด้วย”
“เรื่องนั้นผมทราบครับ แต่เป็นคดีที่เรา...แผนกสืบสวนที่ 1 ของ
ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติรับผิดชอบหรือครับ”
“ถ้าแค่ฟงั เหตุการณ์ ก็เป็นคดีทเี่ ราต้องรับผิดชอบอยูแ่ ล้ว มีคนตาย
แล้วก็มีคนสารภาพว่าตัวเองเป็นคนฆ่า ท�ำให้ตกลงมาจากชั้น 5 ของตึก”
“ชักจูงหรือครับ”
“ไม่ใช่ชกั จูง เห็นบอกว่าเป็นพลังจิต เป็นการใช้พลังจิตสะกดจิต”
คุซานางิใช้ปลายนิ้วกดขมับขวา ชักจะปวดหัวนิดๆ
“หัวหน้าพูดจริงหรือเปล่าครับ”
“แน่นอนสิ จริงจังเลยล่ะ”
- 13 -
คุซานางิมองเพดานส่ายหัวโคลงเคลง
มามิยะกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วโน้มตัวมาข้างหน้า
“ไม่ตอ้ งห่วงหรอกน่า ทัง้ หัวหน้าแผนก ทัง้ กรรมการบริหารไม่ได้คดิ
จะตั้งกองอ�ำนวยการกลางสืบสวนคดี ต�ำรวจท้องที่ยังบอกว่าผลการ
ตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่มีอะไรน่าสงสัย พวกเราคงไม่โดนไล่ตะเพิดหรอก”
“งั้นท�ำไมผมเป็นคนเดียวที่ต้องไปสน.ท้องที่ด้วยล่ะครับ”
“ก็ทางนั้นก�ำลังร้องไห้ขอความช่วยเหลืออยู่น่ะสิ เห็นบอกเพิ่งเคย
เจอคดีประหลาดแบบนีค้ รัง้ แรก ถึงจะรูต้ วั ผูต้ อ้ งสงสัย แต่ยงั ไม่รจู้ ะสืบสวน
ยังไงดี เขาได้ยนิ ว่าแผนกสืบสวนที่ 1 ของส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติมตี �ำรวจ
สายสืบทีค่ นุ้ เคยกับคดีท�ำนองนี้ ก็เลยขอความช่วยเหลือกับหัวหน้าแผนก”
“เดี๋ยวนะ ต�ำรวจสายสืบที่ว่าหมายถึงผมหรือครับ”
“แล้วมีคนอื่นอีกหรือไง อุทสึมิก็ยังไม่เก่งพอ”
คุซานางิหักคอดังกร๊อบแกร๊บ รู้สกึ เหมือนโดนดูดพลัง
มามิยะลุกขึ้นเอามือวางบนไหล่คซุ านางิ
“จะเศร้าไปท�ำไมกัน ถูกเจาะจงตัวแบบนีเ้ ท่จะตาย เขายินดีตอ้ นรับ
นายแน่ แสดงความเก่งกาจของนายให้ต�ำรวจท้องที่ดูไปเลย”
คุซานางิไม่มีเรี่ยวแรงจะตอบอะไรกลับไป ได้แต่ร้องเฮ้ออย่างเซ็งๆ
วันนี้เวลาประมาณ 10 โมงเศษ ‘สมาคมกุไอ’ ซึ่งเป็นนิติบคุ คลเพื่อ
การศาสนาแจ้งมาทีส่ �ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติวา่ มีผนู้ บั ถือคนหนึง่ กระโดด
ลงมาจากตึก และถูกน�ำตัวส่งตัวโรงพยาบาลแต่ได้รบั การยืนยันว่าเสียชีวติ
ในเวลาต่อมา สาเหตุของการเสียชีวิตเนื่องจากสมองได้รับความกระทบ
กระเทือน มีโอกาสน้อยมากที่จะรอด เพราะผู้เสียชีวิตตกจากหน้าต่าง
ชั้น 5 ลงไปที่ลานจอดรถซึ่งเป็นพื้นยางมะตอย
เหล่าต�ำรวจท้องทีร่ บี รุดไปสถานทีเ่ กิดเหตุ เมือ่ ไปถึงก็สอบถามผูท้ อี่ ยู่
ในเหตุการณ์ เริ่มจากศาสดา เรนซากิ ชิโค แต่กลับได้ฟังเรื่องไม่คาดฝัน
นั่นคือผู้ตายกระโดดลงไปเอง แถมเขายังยืนกรานว่าตัวเองใช้พลังจิต
- 14 -
สถานีต�ำรวจเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของกรุงโตเกียวจึงเกิดความ
อลหม่านเป็นธรรมดา
จากข้อมูลที่ได้มาจากมามิยะ ‘สมาคมกุไอ’ เป็นกลุ่มลัทธิใหม่ที่
ก่อตั้งมายังไม่ถึง 5 ปี แต่มสี าวกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พลังขับเคลื่อนนั้น
มาจากความสามารถเฉพาะตัวของศาสดา เรนซากิ ชิโค เมื่อก่อนเขาเป็น
นักจัดกระดูก พออายุย่างเข้า 35 ปี เขาเริ่มศึกษาเกี่ยวกับพลังลมปราณ
จนอายุ 40 ปีกว่าๆ เขาก็เริ่มต้นการรักษาด้วยชี่กงภายนอก ประสิทธิภาพ
การรักษาท�ำให้เขามีชื่อเสียง มีผู้ป่วยแวะเวียนมาหาจากทั่วประเทศ แต่
ช่วงนั้นยังไม่ได้มีกิจกรรมทางศาสนาแต่อย่างใด หลังจากเปลี่ยนชื่อเป็น
‘สมาคมกุไอ’ เขาจึงอ้างตัวเป็นศาสดาและสร้างบรรยากาศทางศาสนา
ด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น พิมพ์หนังสือ และจัดการบรรยาย ท�ำให้
ผู้ศรัทธามีจ�ำนวนเพิ่มขึ้น
กลุม่ ลัทธิแบบนี้ ย่อมเคยถูกผูท้ เี่ คยเลือ่ มใสฟ้องร้องว่าโดนหลอกลวง
แต่เท่าที่ผ่านมายังไม่เคยเจอปัญหาใหญ่โตอะไร แล้วก็ไม่เคยมีเรื่อง
บาดหมางกับพวกชาวบ้านในพืน้ ทีด่ ว้ ย คดีในคราวนีจ้ งึ ถือว่าเป็นคดีออื้ ฉาว
ครั้งแรกส�ำหรับกลุ่มลัทธิ
พอคุซานางิไปถึงสน.ท้องที่ เขาได้รับการต้อนรับขับสู้อย่างดีจริงๆ
“สวรรค์มาโปรดจริงๆ ผมเพิ่งจะเคยเจอคดีแบบนี้ ไม่รู้ว่าเป็นการ
ฆาตกรรม ฆ่าตัวตาย หรืออุบัติเหตุกันแน่ มืดแปดด้านไปหมด พอได้
ผูเ้ ชีย่ วชาญมาช่วยอย่างนีค้ อ่ ยโล่งใจหน่อย” หัวหน้าแผนกสืบสวนหน้าแบน
กล่าวอย่างอารมณ์ดี
“ผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญหรอกครับ แค่รู้จกั กับนักฟิสิกส์”
“ไม่หรอก นั่นแหละเรื่องส�ำคัญ พวกเราต้องเรียนรู้อีกเยอะ”
หัวหน้าฝ่ายสืบสวนหัวเราะร่าพูดกับลูกน้องว่า “งัน้ ทีเ่ หลือฝากด้วย
นะ” แล้วเดินจากไป
เหมือนจะเลี่ยงไม่มายุ่งเกี่ยวอีก
- 15 -
- 16 -
- 17 -
- 18 -
3
“เรือ่ งนัน้ ดูเหมือนจะไม่เกีย่ วข้องกับฟิสกิ ส์เลยนะ” ยุกาว่านัง่ เท้าคาง
บนที่พักแขนเก้าอี้ พูดแบบไม่สนใจ แล้วหยิบถ้วยกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะ
“นึกอยู่แล้วเชียว” คุซานางิก็จิบกาแฟส�ำเร็จรูป
คุซานางิมาทีห่ อ้ งวิจยั ที่ 13 ของภาควิชาฟิสกิ ส์ มหาวิทยาลัยเทโตะ
เพื่อถามความเห็นของเพื่อนที่เป็นนักฟิสิกส์เกี่ยวกับคดี ‘สมาคมกุไอ’
“มันเป็นเรื่องทางจิตวิทยาชัดๆ ใกล้เคียงกับเรื่องการบอกใบ้และ
ผลของยาหลอก1 ฉันไม่รู้รายละเอียดหรอกนะ แต่เป็นไปได้ว่าอาจจะใช้
เทคนิคการสะกดจิตเข้ามาเกี่ยวด้วย”
“หน่วยพิสูจน์หลักฐานก็พูดแบบนั้นเหมือนกัน แต่จะว่าไปแล้ว
ก็ได้ยินมาว่าพวกเขาก็ไม่ค่อยรู้เรื่องท�ำนองนั้นสักเท่าไร”
ในกิจกรรมทางศาสนาบางอย่าง มีการควบคุมจิตใจ ท�ำให้สาวก
ขาดความสามารถในการตัดสินใจในภาวะปกติ และมีไม่น้อยที่น�ำไปสู่
พฤติกรรมท�ำร้ายตัวเองด้วยความคิดชั่ววูบ คนในหน่วยพิสูจน์หลักฐานที่
คุ้นเคยกันบอกว่า คดีนี้กน็ ่าจะเป็นเช่นนั้น
“ผู้เลือ่ มใสต้องการความช่วยเหลือ ศาสนาเป็นแบบนีม้ าตัง้ แต่ไหน
แต่ไร แล้วศาสดาคนนั้นล่ะเป็นยังไง ถูกจับในฐานะฆาตรกรหรือ”
1
ผลของยาหลอก (Placebo Effect) คือ การที่ผู้ป่วยสามารถถูกกระตุ้นให้หายหรืออาการดีขึ้นได้
จากการเชื่อว่าพวกเขาก�ำลังได้รับการรักษา
- 19 -
คุซานางิส่ายหัวแล้ววางถ้วยกาแฟลง
“ไปจับไม่ได้หรอก ก็เขาไม่ได้แตะต้องอีกฝ่ายเลยแม้แต่ปลายนิ้ว
แค่หันฝ่ามือทั้งสองข้างใส่แล้วหลับตา แล้วจะแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นได้ยังไง
แม้แต่เหตุผลทีจ่ ะกักตัวก็ยงั ไม่มี เลยต้องรีบมาขอความช่วยเหลือจากนาย”
“ผูเ้ ห็นเหตุการณ์มแี ต่กลุม่ สาวกใช่ไหมล่ะ ไม่มใี ครเกีย่ วข้องแน่หรือ
ทุกคนเตรียมค�ำพูดให้ตรงกันเพื่อปกป้องศาสดาหรือเปล่า”
“ก็น่าจะเป็นได้ ฉันเลยถือโอกาสตอนไปดูสถานที่เกิดเหตุ ขอพบ
พวกผู้บริหารที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเลย”
ส�ำนักงานใหญ่ของ ‘สมาคมกุไอ’ อยู่บนเนินเขาแถบชานเมือง
คุซานางิเข้าไปที่นั่นตามที่ฟุจิโอกะบอกทาง เมื่อเห็นรูปแบบของอาคาร
นายต�ำรวจหนุม่ ถึงกับตาลุกวาว มันเป็นอาคาร 5 ชัน้ ทรงสีเ่ หลีย่ ม บนผนัง
มีภาพวาดเรนซากิท�ำท่านัง่ สมาธิอยูเ่ ต็มไปหมด ใบหน้านัน้ ถูกวาดให้ดดู กี ว่า
ตัวจริงมาก
อาคารชัน้ แรกเป็นห้องปฏิบตั ธิ รรม ตัง้ แต่ชนั้ 2 ถึงชัน้ 4 เป็นห้องพัก
ของคณะผู้บริหาร ส่วนหนึ่งของชั้น 5 เป็นห้องพักของเรนซากิ ส่วนพื้นที่
ที่เหลือใช้เป็นห้องแสดงพลังจิตของเรนซากิ ซึ่งเรียกกันว่า ‘ห้องช�ำระล้าง
จิตใจ’ คดีในครั้งนี้ก็เกิดขึ้นที่ ‘ห้องช�ำระล้างจิตใจ’
ที่นี่เป็นห้องสี่เหลี่ยมที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษนอกจากที่นั่ง
ประธานซึง่ สูงเกือบ 50 ซม. ไม่มแี ม้กระทัง่ อุปกรณ์เครือ่ งใช้และเฟอร์นเิ จอร์
สักชิ้น การตกแต่งเพียงอย่างเดียวที่มีคือเครื่องหมายคล้ายเกล็ดหิมะ
ประดับอยู่บนผนังตรงที่นั่งประธาน เครื่องหมายนี้พบเห็นได้ทุกที่ใน
ตัวอาคาร มันชื่อว่า ‘ดาวกุไอ’ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาเรนซากิ
ผูท้ พี่ าเข้าไปในตัวอาคารคือชายมีอายุคนหนึง่ ชือ่ มาจิมะ มีต�ำแหน่ง
เป็นหัวหน้าสายที่ 1 และเป็นสาวกคนแรกของเรนซากิด้วย
“ผมโล่งใจจริงๆ ที่อาจารย์ถูกปล่อยตัวทันที ตอนที่ท่านบอกว่าจะ
มอบตัวพวกผมก็รงั้ ไว้ ถึงแม้จะเป็นผลจากการส่งพลังจิต แต่การทีห่ วั หน้า
- 20 -
- 21 -
- 22 -
- 23 -
- 24 -
4
ทั้งที่เป็นห้องเดียวกัน แต่แค่มานั่งอยู่ตรงกลาง ความรู้สึกก็ต่าง
กันลิบลับ อาจเป็นเพราะอยู่เพียงล�ำพัง ตอนนั้นผู้บริหารทั้ง 10 คนก็นั่ง
หันหลังชนก�ำแพงทั้งสองด้าน
ซาโตยามะ นามิมาเยือนส�ำนักงานใหญ่ของ ‘สมาคมกุไอ’ อีกครั้ง
เพื่อมาสัมภาษณ์เพิ่มเติม
คดีนี้ท�ำให้เธอได้รับค�ำชมจากหัวหน้าบรรณาธิการ บทความที่
เธอเขียนใน ‘ทราย วีคลี’ วางแผงเมื่อวานนี้ พาดหัวข่าวว่า ‘ศาสดากลุ่ม
ลัทธิใหม่ปล่อยพลังประหลาดใส่คนกระเด็นโดยไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัว’
ตอนแรกเธอเขียนว่า ‘ท�ำคนตกลงมาตายโดยไม่ได้ถกู เนือ้ ต้องตัว’ แต่ปรับ
แก้ใหม่ตอนพิสูจน์อักษร เพราะตั้งใจว่าจะหาข้อมูลเรื่องนี้ต่ออีกสักหน่อย
แต่พอคิดถึงเรื่องอนาคตก็อยากจะหลีกเลี่ยงสิ่งที่สร้างความไม่พอใจให้
‘สมาคมกุไอ’
ได้ยนิ เสียงกุกกักแล้วประตูบานเลือ่ นด้านหน้าก็เปิดออก เรนซากิ ชิโค
ในชุดเสื้อกางเกงสีขาวเหมือนคราวที่แล้วเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม
อย่างอ่อนโยน
เรนซากิโค้งค�ำนับ ‘ดาวกุไอ’ ที่ประดับอยู่ตรงที่น่งั ประธานก่อนจะ
นั่งขัดสมาธิหันหน้าไปทางนามิ
- 25 -
- 26 -
ฉันท�ำยังไงดี” เรนซากิถอนใจใหญ่
พอมองเขาแล้ว รู้สึกถึงพลังมหาศาลที่มี แต่ก็ดูเขาเจ็บปวดกับ
อดีตที่ผ่านมามันเป็นพลังประเภทไหนกันนะ นามิอยากรู้เหลือเกิน
เอ่อ...เธอเอ่ยตัดบทอย่างหวาดๆ
“วันนี้ที่มาเพราะมีเรื่องอยากจะขอร้องค่ะ คุณเรนซากิช่วยแสดง
พลังนั่นให้ฉนั ดูหน่อยได้ไหมคะ”
เรนซากิหน้าขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“เมือ่ วันก่อนคุณเห็นไปแล้วถึงได้เขียนบทความนัน้ ออกมาไม่ใช่หรือ”
“ไม่คะ่ ฉันอยากรูส้ กึ ด้วยร่างกายนี้ ไม่ใช่แค่เห็น มันอาจรูส้ กึ ด้วยใจ
ไม่ใช่ร่างกาย”
เรนซากิยิ้มเฝื่อนๆ
“ต�ำรวจสายสืบก็พดู แบบนีเ้ หมือนกันว่า ช่วยปล่อยพลังใส่ผมหน่อย”
“แล้วคุณท�ำหรือเปล่าคะ”
เรนซากิส่ายหัว
“การปฏิบัติศาสนกิจท�ำในห้องสอบสวนอย่างนั้นไม่ได้หรอก แถม
อีกฝ่ายแค่พดู เพราะความอยากรูอ้ ยากเห็น แต่ฉนั ก็ขเี้ กียจตอบปฏิเสธเลย
แค่ท�ำท่าให้ดู นักสืบคนนั้นพูดอย่างไม่พอใจว่าเขาไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย”
“ฉันไม่ได้พูดเพราะความอยากรู้อยากเห็นนะคะ แต่อยากรับรู้
พลังนั้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะตัวฉันเองอาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ได้
ขอร้องล่ะค่ะ” นามิวางฝ่ามือทั้งสองลงเบื้องหน้าแล้วก้มศีรษะลง
เฮ้อ...ได้ยนิ เสียงเรนซากิถอนใจ “เงยหน้าขึ้นเถอะ”
พอนามิเงยหน้าขึ้นก็เห็นเขายิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“ก็ได้ คุณดูต่างจากต�ำรวจคนนั้น ลองดูหน่อยก็แล้วกัน ช่วยเปิด
หน้าต่างด้านหลังได้ไหม”
“ค่ะ” เธอตอบแล้วลุกขึน้ ยืน พอเปิดหน้าต่างมองลงไป เห็นบ้านเรือน
เรียงราย ลมเย็นพัดมาเอื่อยๆ
- 27 -
เธอกลับไปนั่งที่เดิม
“ลองยืดตัวขึ้นมาหน่อย แต่พยายามผ่อนแรงจากร่างกายให้ได้
มากที่สดุ ”
เมือ่ นามิท�ำตามทีบ่ อก เรนซากิแสดงสีหน้าจริงจัง หันฝ่ามือทัง้ สองข้าง
ไปหาเธอแล้ ว ปิ ด เปลื อ กตาลง แต่ ไ ม่ กี่ วิ น าที ต ่ อ มาเขาลื ม ตาขึ้ น แล้ ว
ยิ้มมุมปาก
“มีกิเลสเยอะไม่เบานะ ทั้งโกหกเอย ทั้งเก็บความลับไว้เพียบเลย”
“อ้าว คุณรู้หมดเลยหรือคะ”
“แต่ของแบบนี้มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ดูอย่างเครื่องฟอกอากาศ
สิ ปล่อยอากาศสะอาดออกมาแต่ไส้กรองที่อยู่ข้างในกลับค่อยๆ สกปรก
ใช่ไหม มันก็เหมือนกัน ช่วงทีม่ นุษย์เรามีชวี ติ อยู่ ไส้กรองในใจก็มสี งิ่ สกปรก
หมักหมมขึน้ เรือ่ ยๆ ซึง่ วัตถุประสงค์ของสมาคมเราคือการท�ำความสะอาด
จิตใจไปทีละเล็กทีละน้อยนี่แหละ”
เรนซากิกลับมาแสดงสีหน้าเคร่งขรึมแล้วบอกว่า “นั่งท่าเมื่อกี้
อีกทีนะ”
นามิยืดตัวตรงแล้วผ่อนแรงที่ไหล่ เรนซากิหันฝ่ามือทั้ง 2 ข้างไป
ที่เธอเหมือนเมื่อสักครู่ แล้วหลับตาค้างอยู่ในท่านั้นครู่หนึ่ง
ทันใดนั้น เหมือนมีอะไรอุ่นๆ มาห่อหุ้มร่างกายของนามิเอาไว้
เธอตกใจมากจนร้องออกมาเบาๆ แล้วล้มพับไป
เรนซากิลืมตาแล้วลดฝ่ามือทั้งสองข้างลง “พอจะรู้สกึ บ้างสินะ”
นามิพยักหน้าหงึกหงักแต่ไม่มีเสียงเปล่งออกมา
“ร...รู้สึกค่ะ ฉันรู้สึกจริงๆ ค่ะ มีอะไรบางอย่างมาท�ำให้ร่างกายฉัน
อุ่นขึ้น”
เรนซากิพยักหน้า “คุณรู้สกึ ถึงพลังจิตแล้วล่ะ ตอนนี้จิตใจของคุณ
ถูกช�ำระล้างให้สะอาดขึน้ เล็กน้อย”
คลื่นแห่งความประทับใจที่ไม่อาจบรรยายได้ถาโถมเข้าใส่ น�้ำตา
- 28 -
เอ่อล้นอย่างไม่มเี หตุผล
“ขอบคุณนะคะ” นามิโค้งค�ำนับอย่างนอบน้อม
5
มามิยะถือนิตยสารรายสัปดาห์ ‘ทราย วีคลี’ ฉบับที่เพิ่งวางขาย
เมื่อวานมาที่โต๊ะตัวเองเพราะอยากจะอ่านด้วย เขาสวมแว่นสายตายาว
เริ่มต้นอ่านไปได้ไม่ทนั ไร ก็ท�ำจมูกฟุดฟิดแล้ววางมันลงกับโต๊ะ
“อวยเรนซากิ ชิโคเสียยกใหญ่ ท�ำอย่างกับเป็นผู้มพี ลังจิตขั้นสูง”
“ในข่าวนี้บอกว่ามีการวางแผนลับเชื่อมโยงเรื่องนี้มาสักพักหนึ่ง
แล้ว” คุซานางิพดู “ตอนท้ายเขียนว่าให้จบั ตาดูกลุม่ ลัทธินี้ อีกไม่นานคงจะ
มีข่าวค�ำรบที่ 2 ออกมาแน่ครับ”
“อืม เรือ่ งนัน้ จะยังไงก็ช่างเถอะ” มามิยะชีร้ ูปในนิตยสาร “ถ่ายเก่ง
นะเนี่ย เท่าที่ดูรูปนี้ไม่มีใครแตะเนื้อต้องตัวผู้เคราะห์ร้ายเลย ดูรู้เลยว่า
เป็นการกระโดดหน้าต่างออกไปเอง”
“นั่นสิครับ”
มามิยะพูดถูก นาคางามิ มาซากาซึหลบหน้าเหมือนหนีอะไร
บางอย่าง แถมยังใช้สองมือกันตัวเองไว้แล้ววิ่งหน้าตั้งไปที่หน้าต่าง เป็น
รูปเดียวกับที่ช่างภาพทานากะเอาให้ดูตอนเล่าเรื่องให้ฟัง
“สน.ท้องที่สรุปคดีว่าเป็นการฆ่าตัวตายไปแล้วใช่ไหม”
“ครับ พอสรุปว่าเขาสติแตกกระโดดลงไปด้วยอารมณ์ชวั่ วูบ เพราะ
เรื่องยักยอกเงินแดงขึ้นมา เรื่องก็จบลงด้วยดี”
“งั้นหรือ ก็ดีส�ำหรับนายแล้วนี่ จะได้ไม่ต้องติดร่างแหไปด้วยไง”
- 29 -
“ก็จริงครับ” คุซานางิม้วนนิตยสารรายสัปดาห์ไว้ในมือ
“ท�ำไม มีเรื่องอะไรไม่ชอบใจหรือ”
“เปล่าครับ ว่าแต่...หัวหน้าเห็นในเน็ตหรือยังครับ”
มามิยะหน้านิ่วคิ้วขมวดทันที
“อินเทอร์เน็ตหรือ ไม่เอาด้วยหรอก มันไม่เข้ากับนิสัยของฉัน”
“หรือครับ คือว่าจ�ำนวนการสืบค้นเกี่ยวกับ ‘สมาคมกุไอ’ เพิ่มขึ้น
พรวดพราดตั้งแต่เมื่อวาน เห็นได้ชัดว่าบทความนี้เรียกความสนใจจาก
ผู้คนได้”
มามิยะเหลือบตามอง
“ไม่มีหลักฐานว่านิตยสารรายสัปดาห์สมรู้ร่วมคิดด้วยใช่ไหมล่ะ
หรือจะบอกว่ากลุ่มลัทธินี้ก่อคดีขึ้นมาเพื่อโฆษณาตัวเอง ถึงขนาดจงใจ
ฆ่าสาวกงั้นหรือ”
“ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น”
มามิยะโบกมือพัลวัน
“ฉันเป็นคนออกค�ำสั่งประหลาดๆ ก็จริง แต่ไม่ได้จริงจังนักหรอก
ไม่ต้องคิดมาก รีบถอนตัวจากเรื่องยุ่งยากนั้นซะ โอเคนะ”
“รับทราบครับ...” คุซานางิวา่ แล้วกลับไปทีน่ งั่ ตัวเอง มีสายเรียกเข้า
โทรศัพท์มอื ถือพอดี พอหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นฟุจิโอกะ ต�ำรวจท้องที่
เมื่อวันก่อนพวกเขาแลกเบอร์โทรศัพท์กัน
ฟุจโิ อกะโทรมาเพราะอยากนัดคุยเรือ่ งส�ำคัญเกีย่ วกับคดีนี้ คุซานางิ
ตกลงนัดเจอกันคืนนี้ก่อนจะวางสายไป
สถานที่นัดพบคือร้านเหล้าแถวโทระโนะมง ที่นี่มีห้องส่วนตัวจึง
สะดวกต่อการคุยเรื่องลับ ฟุจิโอกะมาถึงก่อนแล้ว เขาสวมสูทสีน�้ำเงินเข้ม
“ขอโทษทีเ่ รียกมาพบนะครับ” ฟุจโิ อกะก้มหัวขอโทษหลังสัง่ เบียร์สด
กับอาหารอีกสองสามอย่างแล้ว
“ไม่เป็นไร แล้วเรื่องส�ำคัญที่ว่าคืออะไรล่ะ”
- 30 -
“ครับ” ฟุจิโอกะโน้มตัวมาหา
“คือว่าผมได้ข้อมูลลับมาครับ”
“ข้อมูลลับหรือ”
“มีโทรศัพท์นริ นามครับ คนทีโ่ ทรมาเป็นผูช้ ายบอกว่าเป็นสาวกของ
‘สมาคมกุไอ’ ชายคนนั้นเล่าว่านาคางามิไม่ใช่คนยักยอกเงินของลัทธิ
แต่เป็นพวกผู้บริหารคนอื่นครับ แน่นอนว่านาคางามิที่ดูแลบัญชีไม่มีทาง
ที่จะไม่มีส่วนรู้เห็น เขาก็มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่บ้าง แต่สุดท้ายถูกหลอกใช้
ตัวการใหญ่เป็นคนอื่นครับ”
“ใครคือตัวการใหญ่...”
ฟุจโิ อกะลดเสียงเบาลง “หัวหน้าสายที่ 1 และหัวหน้าสายที่ 2 ครับ”
“หัวหน้าสายที่ 1 คือมาจิมะสินะ แล้วหัวหน้าสายที่ 2...”
“เป็นผู้ชายชื่อโมริยะครับ โมริยะ ฮาจิเมะ”
“เดี๋ยวนะ ท�ำไมคนที่มาบอกความลับถึงรู้เรื่องพวกนั้นล่ะ”
“เขาบอกว่าได้ยนิ มาจากนาคางามิครับ ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่พอใจ
มาจิมะกับโมริยะอยู่มากทีเดียวช่วงหลังมานี้ เรื่องที่สองคนนั่นยืมมือ
ให้ไปท�ำมีแต่เรื่องไร้สาระแล้วความลับก็ถูกเปิดเผยแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้น คาบข่าวไปบอกศาสดาเรนซากิก็ได้นี่นา”
“ปัญหามันอยูต่ รงนัน้ แหละครับ คนทีร่ คู้ วามลับบอกว่าเรนซากิเอง
ก็รู้พฤติกรรมของสองคนนั่นอยู่แล้ว รู้ทั้งรู้แต่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เพราะ
มาจิมะกับโมริยะเป็นลูกศิษย์ของ ‘สมาคมกุไอ’ มาตั้งแต่ตอนเริ่มก่อตั้ง
ทั้งคู่เป็นคนยุให้เรนซากิซึ่งตอนนั้นเป็นอาจารย์ฝึกชี่กงก่อตั้งกลุ่มลัทธินี้
ขึ้นมา เรนซากิจึงไม่กล้าท�ำอะไรรุนแรงกับพวกเขา นาคางามิรู้เรื่องนี้
ดีอยู่แล้วเลยไม่ไปฟ้องเรนซากิ แต่คิดจะถอนตัวจาก ‘สมาคมกุไอ’ แทน”
“ถอนตัวหรือ ถ้าออกจากกลุ่มลัทธิแล้วจะไปท�ำอะไร”
“ย้ายไปองค์กรทางศาสนาอื่นครับ”
“องค์กรอื่นหรือ”
- 31 -
- 32 -
การให้อภัย หรือพูดอีกอย่างคือตั้งใจแสดงแบบนั้นเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์
แต่เขาคงกลัวว่าภาพลักษณ์จะเสียถ้าเรื่องแพร่กระจายออกไป จึงโยน
ความผิดเรือ่ งยักยอกทรัพย์ให้นาคางามิเป็นแพะรับบาปแทน สมมุตฐิ านนี้
เป็นยังไงบ้างครับ”
คุซานางิคีบอาหารแล้วพยักหน้า “ไม่เลวนี่”
“ใช่ไหมล่ะครับ” ฟุจิโอกะแสดงสีหน้าดีใจ “นึกอยู่แล้วว่ามันไม่ใช่
การฆ่าตัวตายหรอก”
“แต่ถงึ สมมุตฐิ านนัน้ จะถูกต้อง ต�ำรวจก็ท�ำอะไรไม่ได้หรอก เพราะ
มองว่ามันเป็นการฆาตกรรมไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ได้มีการแตะเนื้อ
ต้องตัวด้วยซ�้ำ”
“เพราะแบบนีผ้ มถึงได้มาขอค�ำปรึกษาอีกครัง้ คุณคุซานางิถนัดคดี
ท�ำนองนี้ใช่ไหมครับ มีไอเดียอะไรดีๆ บ้างไหม”
“ผมเคยบอกไปแล้วไงว่าตัวเองไม่ได้เก่ง แล้วก็ไปคุยกับนักฟิสิกส์
ทีร่ จู้ กั กันแล้วด้วย แต่เขาไม่ยอมยุง่ ด้วย บอกว่ามันไม่ใช่ปญ ั หาทางฟิสกิ ส์”
“งั้นหรือครับ” ฟุจิโอกะคอตก “แต่ผมยังรับไม่ได้เลย...”
ฉันก็เหมือนกันนัน่ แหละ คุซานางิยงั้ ปากไว้ได้หวุดหวิดเพราะนึกถึง
ค�ำที่มามิยะบอกให้รีบวางมือ
6
ผู้มาขอค�ำปรึกษารายที่ห้าของวันนี้เป็นผู้ชายอายุหกสิบกว่า ใน
ใบสมัครเขียนว่าประกอบธุรกิจส่วนตัว มาจิมะจ้องมองเขา ถึงไม่ได้แต่งตัว
หรูหราอะไรแต่กด็ ูภูมิฐาน คงจะมีทรัพย์สมบัติไม่น้อย
- 33 -
- 34 -
- 35 -
- 36 -
ต่างตกตะลึงและกลับไปด้วยความตื่นเต้น บทความของพวกเขาท�ำให้
‘สมาคมกุไอ’ ได้รับความนิยมไปทั่วญี่ปุ่น
“ว่าแต่ แม่นกั ข่าวสาวนิตยสารรายสัปดาห์นนั่ มาทีน่ ตี่ ดิ กันหลายวัน
เลยนะ”
มาจิมะพยักหน้าหงึกๆ ให้กับค�ำพูดของโมริยะ
“เป็นสาวกตัวยงไปแล้วล่ะ เห็นบอกว่าจะช่วยลงเรื่องพลังของ
ศาสดาในฉบับต่อไปด้วย”
โมริยะหัวเราะจนตัวโยน
“ยายนัน่ เอ้ย ผูห้ ญิงคนนัน้ หุน่ ดีอยูน่ ะครับ คุณมาจิมะว่ายังไงครับ”
มาจิมะหน้านิ่วโบกมือไปมา
“ฉันไม่ชอบผู้หญิงหุ่นนักกีฬาแบบนั้น ถ้านายสนใจก็เอาไปเถอะ”
“จริงหรือครับ งั้นผมไม่เกรงใจนะครับ”
“มีเรื่องส�ำคัญกว่านั้น” มาจิมะพูดเสียงต�่ำ
“คดีของนาคางามิเรียบร้อยแล้วจริงๆ ใช่ไหม”
“ไม่ผิดแน่ครับ ต�ำรวจสายสืบที่ชื่อฟุจิโอกะตามสืบคดีแต่ไม่พบ
เบาะแสส�ำคัญอะไร ก็เลยสรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตายครับ”
“ได้ยนิ แบบนีค้ อ่ ยโล่งอกหน่อย จะได้นอนหลับเต็มตาเสียที เหลือแค่
‘แสงพิทักษ์’ สินะ การถูกนาคางามิหักหลังท�ำให้เขาเสียหน้าอย่างแรง”
“ก็เพราะหลายปีมานี้จ�ำนวนสาวกลดลงไปเยอะ จนแทบไม่มีทาง
เลือกใดๆ แต่กไ็ ม่ตอ้ งเป็นห่วงแล้วล่ะ เพราะคดีท�ำให้โชคเข้าข้างเรา แทนที่
จะถูกแย่งสาวก กลับเป็นโอกาสช่วงชิงมา”
“ผมก็คิดเรื่องนั้นอยู่เหมือนกัน ว่าแต่พวกที่ตั้งใจจะย้ายไปซบอก
‘แสงพิทักษ์’ พร้อมกับนาคางามิจะท�ำยังไงดีครับ”
“ปล่อยพวกมันไว้แบบนั้นแหละ ไม่เป็นไรหรอก เพราะพวกมันรู้ถึง
พลังของเรนซากิ ชิโคแล้ว คงไม่อยากย้ายไปแล้วล่ะ”
“สายสืบรายงานมาอย่างนั้นหรือครับ”
- 37 -
“ใช่”
มาจิมะยิ้มแฉ่งพร้อมกับควงแก้วเหล้าให้น�้ำแข็งกระทบกัน
“ถ้างั้นก็สบายใจได้ แต่พวกสาวกเนี่ยโง่สิ้นดี ท�ำไมถึงคิดไม่ได้ว่า
ในกลุ่มตัวเองอาจจะมีสายลับ”
“ก็ถึงได้เป็นแค่สาวกไง แค่เล่นกลง่ายๆ ก็หลงเชื่อกันแล้ว” โมริยะ
พูดจบก็ยิ้มเห็นฟันเหลือง
7
คุซานางิมีพี่สาวชื่อ ยูริ เขาอยู่ที่ร้านกาแฟขณะรับโทรศัพท์จาก
ยูริ ก�ำลังอ่าน ‘ทราย วีคลี’ ฉบับล่าสุดซึง่ มีบทความเกีย่ วกับ ‘สมาคมกุไอ’
เป็นค�ำรบสอง และซาโตยามะ นามิเป็นผู้เขียนบทความครั้งนี้ด้วย
“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว” ยูรพิ ูด
“มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับมิซะจังหรือ” เขาเอ่ยชื่อลูกสาวคนเดียวของ
พี่สาวที่ก�ำลังจะขึ้นชั้นมัธยมปลาย
“ไม่ใช่ คุณยายต่างหาก”
“คุณยายหรือ ของใครล่ะ”
“ก็ยายที่บ้านพี่ไง ที่อยู่ด้วยกันน่ะ”
อ๋อเข้าใจแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ใช่ยายสิ ต้องเรียกย่าถึงจะถูก เพราะว่าเป็นแม่
ของสามี”
“ช่างเถอะ พักเรื่องญาติไว้ก่อน มีเรื่องส�ำคัญกว่านั้นจะปรึกษา”
“เรื่องอะไร ถ้าเป็นเรื่องแม่ผวั ลูกสะใภ้ ผมจนปัญญานะ”
- 38 -
- 39 -
- 40 -
- 41 -
- 42 -
ที่คิด
ซาโตยามะ นามิหันมาจ้องหน้าทันที “มันไม่ใช่การหลอกลวง
แบบนั้นนะคะ”
“อืม ถ้าเป็นเครื่องท�ำความร้อนก็ไม่น่าจะรู้สึกแบบนั้น” ยุกาว่า
พูดอย่างสุขุม
“ใช่ไหมล่ะคะ” ซาโตยามะ นามิเปลี่ยนสีหน้ากลับมายิ้ม “เขาพูด
กันในกลุ่มสาวกว่าเป็นการใช้พลังชี่กงขั้นสูง”
“ชี่กงเป็นวิธีดูแลสุขภาพของประเทศจีนใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ เมื่อก่อนอาจารย์เคยเป็นอาจารย์สอนชี่กงเพื่อรักษาโรคภัย
ไข้เจ็บ ฉันคิดว่าพอพลังของท่านพัฒนาขึ้นก็เลยท�ำอย่างตอนนี้ได้”
คุซานางิมองหน้ายุกาว่า “ชี่กงที่ว่านี่ท�ำแบบนั้นได้ด้วยหรือ”
“ถ้าจ�ำไม่ผิด เคยได้ยินมาว่าถ้าเป็นอาจารย์สอนชี่กงที่เชี่ยวชาญ
แค่ยกมือขึ้นอัง ตรงส่วนนั้นจะอุ่นขึ้น มีทฤษฎีหนึ่งบอกว่าเป็นการปล่อย
รังสีอนิ ฟราเรดระยะไกลจากฝ่ามือ แต่ไม่รวู้ า่ มีการพิสจู น์ทางวิทยาศาสตร์
ไปหรือยัง”
“ฉันคิดว่าอาจารย์ฝึกไปถึงขั้นที่สูงกว่านั้นค่ะ”
“รังสีอินฟราเรดระยะไกลหรือ...” ยุกาว่าแสดงสีหน้าวิตก “แต่มนั
ก็ท�ำคนตกจากหน้าต่างไม่ได้”
“เพราะรู้สึกเหมือนถูกอะไรไล่ตามน่ะครับ” จู่ๆ ช่างภาพทานากะ
พูดขึ้นมา
ทุกคนหันไปมองเขาเป็นตาเดียว
“หมายความว่ายังไงครับ” ยุกาว่าถาม
“เอ่อ ก็ท่าทางของนาคางามิในตอนนั้นเหมือนถูกอะไรสักอย่าง
ไล่ล่าก็เลยหุนหันกระโดดออกไปนอกหน้าต่างมากกว่าที่เขาจะตัดสินใจ
กระโดดลงไปเอง อย่างเวลาไฟไหม้ก็มีคนที่กระโดดหน้าต่างใช่ไหมครับ
อารมณ์ประมาณนั้นแหละ”
- 43 -
- 44 -
ถึงจะตรวจสอบไปก็ไม่มีความหมาย อาจารย์ยังบอกด้วยว่าไม่สามารถ
ส่งพลังจิตเมื่ออยู่ท่ามกลางบุคคลภายนอก”
พอได้ยินสิ่งที่เธออธิบาย ยุกาว่ามีสีหน้ายุ่งยากใจ หย่อนตัวลง
นั่งเก้าอี้แล้วใช้ความคิดอีกครั้ง
8
นามิเหงือ่ ออกมือ เธอวิตกกังวลว่าท�ำแบบนีจ้ ะดีหรือ พลางลุน้ ระทึก
กับเหตุการณ์ไม่คาดคิด
เธอมาที่ส�ำนักงานใหญ่ ‘สมาคมกุไอ’ แต่วันนี้ไม่ได้มาคนเดียว
มียุกาว่าอยู่ข้างๆ
“ได้ยินข่าวลือมา ที่นี่มีฐานะการเงินมั่นคงมาก ทั้งเฟอร์นิเจอร์
ทั้งของประดับตกแต่งมีแต่ของหรูหรา” ยุกาว่ามองไปรอบๆ ห้องแล้วพูด
ด้วยน�้ำเสียงสบายๆ
บนผนังมีภาพวาดขนาดใหญ่แขวนอยู่ เครื่องปั้นดินเผาโบราณ
ราคาแพงตั้งเรียงรายอยู่บนชั้นวาง โต๊ะก็เป็นหินอ่อน โซฟาหุ้มหนังแท้
ตอนที่ผ่านห้องรับรองนี้ครั้งแรกนามิเองก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจ
“เป็นของทีม่ คี นให้มาทัง้ หมดเลยค่ะ เหล่าสาวกทีไ่ ด้รบั ความช่วยเหลือ
จากอาจารย์น�ำมามอบให้แทนค�ำขอบคุณ”
“โซฟากับโต๊ะด้วยหรือ”
“พวกเฟอร์นเิ จอร์น่าจะไม่ใช่ค่ะ”
ยุกาว่าลุกขึ้นเดินไปที่ชั้นวางเครื่องปั้นดินเผา หยิบขึ้นมาเพ่งพินิจ
อย่างไม่ค่อยระวังจนนามิกลัวว่าเขาจะท�ำตกแตก
- 45 -
- 46 -
ไปหาหมอแล้วแต่ก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ พอดีซาโตยามะมาถามว่าจะ
ลองให้อาจารย์ช่วยดูหน่อยไหม”
“อ้อ...” มาจิมะเอ่ย “หมายถึงอยากได้รบั พลังจากอาจารย์ใช่ไหม”
“ไม่ได้หรือครับ” ยุกาว่าถาม
มาจิมะส่ายหน้า
“ไม่ใช่อย่างนัน้ หรอกครับ พวกผมพร้อมต้อนรับทุกคนอยูแ่ ล้ว ยิง่ เป็น
หัวหน้าของคุณซาโตยามะด้วยแล้วก็ยงิ่ มองข้ามไม่ได้ กรุณารอสักครูน่ ะครับ
เดี๋ยวผมจะไปถามอาจารย์ก่อน” ว่าแล้วก็เดินออกไป
นามิรออยูเ่ งียบๆ ไม่พดู อะไรตอนทีม่ าจิมะกลับเข้าไป ยุกาว่าย�ำ้ ว่า
อย่าพูดมากเกินจ�ำเป็น ถึงจะไม่ได้พดู ออกมาอย่างชัดเจน แต่ดเู หมือนเขา
กังวลว่าอีกฝ่ายอาจจะติดเครื่องดักฟัง
มั น จะเป็ น ยั ง ไงต่ อ นะ นามิ คิ ด แล้ ว นึ ก ย้ อ นไปถึ ง บทสนทนาที่
มหาวิทยาลัยเทโตะ พอยุกาว่ารู้ว่าทางกลุ่มลัทธิปฏิเสธการถูกตรวจสอบ
ทางวิทยาศาสตร์ก็หาเหตุผลให้ตัวเองได้เป็นผู้รับการทดสอบ แต่ไม่ว่า
จะอ้างเหตุผลอะไรก็ตาม ถ้าทางสมาคมรู้ว่าเขาเป็นนักฟิสกิ ส์ คงไม่พอใจ
ยุกาว่าเลยเสนอทีจ่ ะสวมรอยเป็นหัวหน้าบก.ของ ‘ทราย วีคลี’ ถ้าเป็นวิธนี ี้
การที่เขาจะมาสมาคมกับนามิก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
นามิลังเลใจอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ยอมรับข้อเสนอของเขา แม้จะ
ปวดใจทีต่ อ้ งหลอกเรนซากิ แต่ความรูส้ กึ ทีอ่ ยากให้ยกุ าว่าเปิดเผยโฉมหน้า
แท้จริงของพลังนั้นรุนแรงกว่า เธอคิดว่าตัวเองไม่ใช่สาวกขนานแท้จึง
เอาชนะความอยากรู้อยากเห็นตามประสานักข่าวไม่ได้
แต่กไ็ ม่รวู้ า่ ยุกาว่าคิดจะท�ำอะไร วันนีเ้ ขาถือกระเป๋าเอกสารใบเล็กๆ
มาแค่ใบเดียว เธอก็ไม่ได้ถามด้วยว่าข้างในมีอะไร
ไม่นานมาจิมะก็กลับมา
“ผมไปบอกอาจารย์มาแล้วครับ ท่านบอกว่าไปพบตอนนี้ได้เลย
โชคดีจังนะครับ”
- 47 -
“ขอบคุณท่านมากเลยนะครับ” ยุกาว่าลุกขึ้นโค้งค�ำนับ
มาจิมะน�ำทัง้ คูข่ นึ้ ลิฟต์ไปทีช่ นั้ 5 ‘ห้องช�ำระล้างจิตใจ’ อยูล่ กึ เข้าไป
ตรงโถงทางเดินปูพรม
“รอตรงนี้ก่อนนะครับ” มาจิมะเปิดประตูเลื่อนแล้วยื่นมือมาที่
กระเป๋าของยุกาว่าพร้อมกับบอกว่า “กรุณาฝากของด้วยครับ”
นามิสะดุ้งเฮือกหันไปมองยุกาว่า
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวอันนี้ผมถือเอง” ยุกาว่าพูด
มาจิมะส่ายหน้า ใบหน้ายิ้มแต่แววตากร้าว
“ของทีไ่ ม่จ�ำเป็นน�ำเข้าไปใน ‘ห้องช�ำระล้างจิตใจ’ ไม่ได้ครับ นีเ่ ป็น
กฎระเบียบ ได้โปรดเข้าใจด้วย”
ยุกาว่ากะพริบตาปริบๆ “ท�ำไมไม่ได้ล่ะครับ”
“รบกวนด้วยครับ” มาจิมะผงกหัว
ยุกาว่านิ่งไป แสดงสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะเปิดกระเป๋าหยิบ
สมุดโน้ตของมหาวิทยาลัยเล่มบางๆ ออกมา
“ถ้างัน้ ขอแค่อนั นีอ้ ย่างเดียวได้ไหมครับ ผมอยากจดทีอ่ าจารย์บอก”
มาจิมะแสดงสีหน้าลังเลแวบหนึ่งแล้วพยักหน้าบอกว่า “ได้สิครับ”
เมื่อฝากกระเป๋าแล้ว ยุกาว่าก้าวเข้าไปในห้องโดยมีนามิเดินตาม
หลังมา
นอกจากเบาะรองนัง่ ทีป่ อู ยูก่ ลางห้องก็ไม่มอี ะไรเลย เป็นห้องเงียบๆ
หน้าต่างถูกเปิดไว้แล้ว
“นั่นคือ ‘ดาวกุไอ’ ล่ะสิ” ยุกาว่ามองเครื่องหมายที่ประดับอยู่ตรง
ฝาผนังเหนือที่นั่งของประธาน
“ใช่แล้วค่ะ” นามิตอบ
“ดีไซน์เรียบๆ นะ โอ๊ะ มีตัวหนังสือเล็กๆ เขียนอยู่ ไปดูมาหน่อยซิ”
“เอ๊ะ ฉันหรือคะ”
“ใช่” เขาส่งสายตาเป็นเชิงเร่ง
- 48 -
- 49 -
- 50 -
นี่แหละที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย พาลสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น
รอยยิม้ หายไปจากใบหน้าของเรนซากิ เขาจ้องยุกาว่าอย่างประหลาดใจ
“คุณชื่อโยโกตะใช่ไหม เหมือนคุณจะเข้าใจอะไรผิดอยู่นะ ที่ฉัน
ก�ำลังท�ำอยู่นี่ไม่ใช่การสะกดจิตหรือชวนเชื่อ แต่เป็นการถ่ายทอดพลัง
โดยตรง”
“อย่างนั้นหรือครับ ถ้างั้นผมคงความรู้สกึ ช้า”
“เอางี้ ถ้างั้นคราวนี้มาลองส่งพลังให้แรงขึ้นกว่าเดิม คุณต้องรู้สึก
ได้แน่ๆ”
เรนซากิยื่นฝ่ามือทั้งสองออกไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แต่คราวนี้
จ้องยุกาว่าโดยไม่หลับตา
เสี้ยววินาทีต่อมา “หวา...” ยุกาว่าร้องตะโกนแล้วหันไปด้านหลัง
รีบร้อนลุกขึ้น ใบหน้าตึงเครียด
“เป็นยังไง คราวนี้รู้สึกแล้วสินะ” เรนซากิพูดอย่างผู้ชนะ
ยุกาว่าพยักหน้าสองสามที “รู้สึกแล้วจริงๆ ครับ...”
“นีค่ อื พลังจิต การส่งพลังจิตเมือ่ กีน้ ชี้ ว่ ยขจัดสิง่ สกปรกในใจของคุณ
ออกไปเยอะทีเดียว เป็นยังไงบ้าง รู้สกึ ร่างกายสดชื่นขึ้นหน่อยไหม”
“ผมรู้สึกอย่างนั้นแหละครับ”
“ใช่ไหมล่ะ ถ้าท�ำแบบนี้อย่างต่อเนื่องคุณต้องแข็งแรงขึ้นแน่ๆ ฉัน
ขอแนะน�ำให้คณ ุ รีบสมัครสมาชิกแล้วมาที่นี่บ่อยๆ”
“ครับ เดี๋ยวผมขอคิดดูก่อนนะครับ”
“ดีแล้ว งั้นไว้พบกันใหม่” เรนซากิลุกขึ้นแล้วออกจากห้องไป
“ไหวไหมคะ” นามิถามยุกาว่า
เขาพยักหน้าแล้วก็เดินไปที่แท่น หยิบสมุดโน้ตที่วางพิงอยู่ขึ้นมา
เปิดดู รอยยิ้มพอใจผุดขึ้นบนใบหน้า
- 51 -
9
คุ ซ านางิ แ ละพนั ก งานสื บ สวนจากส�ำนั ก งานต�ำรวจแห่ ง ชาติ
พร้อมด้วยพวกฟุจิโอกะเข้าตรวจค้นส�ำนักงานใหญ่ของ ‘สมาคมกุไอ’
เมื่อเวลาประมาณ 9 โมงเช้า มีสาวกทั่วไปอยู่ที่สมาคมด้วย แต่พวกเขา
แค่งุนงงไม่ได้ขดั ขืนแต่อย่างใด
พวกที่ขัดขืนอย่างรุนแรงคือคณะผู้บริหารที่ปิดลิฟต์ไม่ให้พนักงาน
สืบสวนขึ้นไปชั้นบนได้ นอกจากนี้หัวหน้าสายที่ 1 มาจิมะ ทาเคโอะ และ
หัวหน้าสายที่ 2 โมริยะ ฮาจิเมะ ยังปิดประตูบนั ไดชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องพัก
ของพวกตัวเองอีกด้วย
พวกคุซานางิลอดผ่านช่องประตูไปได้อย่างหวุดหวิดแล้วรีบวิง่ ขึน้ ไป
ชัน้ 5 ตามแผนแรก พวกเขาบุกเข้าไปใน ‘ห้องช�ำระล้างจิตใจ’ และห้องข้างๆ
ตามภาพสเก็ตช์ที่เตรียมไว้
เรนซากิ ชิโค หรือชื่อจริงว่า อิชิโมโตะ คาสุโอะ และซาโยโกะ
ภรรยาของเขาอยู่ในห้องข้างๆ คุซานางิสั่งให้พวกเขาออกไปจากห้องแล้ว
ตรวจสอบบริเวณชัน้ วางหนังสือทีต่ ดิ กับผนัง พบอุปกรณ์โลหะซ่อนอยู่ตรง
จุดบังตา พอลองกดแผงควบคุม ชั้นวางหนังสือก็เลื่อนไปด้านข้าง
สิ่งที่ซ่อนอยู่ด้านหลังชั้นวางหนังสือเป็นอุปกรณ์ขนาดใหญ่พอๆ
กับตู้ มีสายไฟหลายเส้นยื่นออกมาเชื่อมต่อกับอีกเครื่องที่ตั้งอยู่บนพื้น
เครือ่ งนัน้ เป็นแผงวงจรสีเ่ หลีย่ มขนาดประมาณ 30 เซนติเมตร ซึง่ ถูกติดตัง้
หันไปทางผนัง
เป็นไปตามที่หมอนั่นคาดไว้เลย คุซานางิคิด
การทดลองอุ ป กรณ์ ท�ำขึ้ น กลางแจ้ ง ยุ ก าว่ า และหน่ ว ยพิ สู จ น์
หลักฐานพูดคุยกันระหว่างวัดค่าต่างๆ และตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย
- 52 -
พวกคุซานางิจับตามองเหตุการณ์อยู่ไม่ไกล
ในที่สุดยุกาว่าก็เดินมา “เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลย”
“ท�ำไมถึงเป็นฉันล่ะ”
“ก็นายต้องเป็นคนเขียนรายงานไม่ใช่หรือ ถ้าอย่างนัน้ ทดลองเองน่ะ
ดีแล้ว เอ้า รีบๆ เตรียมตัว” ยุกาว่าว่าแล้วก็ชเี้ บาะรองนัง่ ปูอยูท่ พี่ นื้ พวกหน่วย
พิสูจน์หลักฐานและพนักงานสืบสวนคนอื่นๆ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
คุซานางิท�ำหน้าตาขึงขัง ถอดรองเท้าแล้วนั่งลงบนเบาะ
ยุกาว่าเดินเข้าไปใกล้แล้วหยิบกระดาษขนาดประมาณโปสการ์ด
ออกมา มันห่อพลาสติกอยู่ “ใส่น่ไี ว้ในกระเป๋าเสื้อ”
คุซานางิท�ำตามแล้วยืดตัวขึ้น “แบบนี้โอเคไหม”
“โอเคแล้ว เตรียมใจแล้วใช่ไหม”
“ยังไงก็เบามือหน่อยนะ นี่มันครั้งแรก” คุซานางิจ้องไปที่แผงวงจร
สีเ่ หลีย่ มทีว่ างอยูข่ า้ งหน้าในระยะ 2 เมตร มันเป็นเครือ่ งทีย่ ดึ มาจากสมาคม
เมือ่ วันก่อน ยุกาว่าบอกว่ามันเป็นเหมือนเสาอากาศชนิดหนึง่ ส่วนอุปกรณ์
สี่เหลี่ยมที่มีสายไฟต่อกับเสาอากาศคือตัวจ่ายไฟ
“ไม่เป็นไร เริ่มที่โหมดการส่งพลังจิตแบบทั่วๆ ไปก่อน”
“ไปเลย” ยุกาว่าพูดพร้อมกับกดสวิตซ์ไฟ
“โอ๊ะ” คุซานางิหลุดอุทานเพราะร่างกายร้อนวูบขึ้นมา
“เป็นยังไง” ยุกาว่าถาม
คุซานางิพยักหน้า “รู้สกึ จริงๆ เป็นอย่างที่พวกสาวกบอกไว้”
“งั้นถึงเวลาเอาจริงแล้ว ครั้งนี้คิดว่าอาจจะทรมานนิดหน่อยนะ”
“อย่ามาขู่ฉนั ต่อหน้าเครื่องบ้าๆ อะไรก็ไม่รู้...”
พูดยังไม่ทันจบ “โอ้...” เขาร้องเสียงดัง เพราะรู้สึกร่างกายร้อน
วูบวาบเหมือนถูกเปลวไฟลามเลียจากด้านหน้า คุซานางิทนนิ่งอยู่ไม่ไหว
ล้มกลิ้งไปด้านหลัง แต่ไอร้อนยังคงไล่ตามมาจึงวิ่งหนีสุดชีวิต
แต่แล้วความรู้สกึ นั้นหายไป ไม่รู้สึกร้อนอะไรอีกเลย มองดูเนื้อตัว
- 53 -
ก็ไม่มีแผลโดนไฟลวกแต่อย่างใด เป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ
“ยอดไปเลย เหมือนถูกไฟคลอก”
“ถ้าหากเพิ่มก�ำลังส่งก็จะยิ่งรู้สึกร้อน”
“จะบ้าเรอะ ปล่อยฉันไปเหอะ”
“โอ้โห น่าทึง่ มากเลยครับ” คนทีพ่ ดู ขึน้ มาคือฟุจโิ อกะ “คุณคุซานางิ
เล่นใหญ่ไปหน่อยหรือเปล่าครับ”
“ไม่เลย ถ้าคิดว่าเป็นการแสดง คุณฟุจิโอกะก็ลองดูเองสิ”
“ไม่ละ่ ครับ ผมเกรงใจ อาจารย์ยกุ าว่า ช่วยอธิบายกลไกนีอ้ กี สักครัง้
ได้ไหมครับ เห็นบอกว่าใช้หลักการเดียวกับเตาไมโครเวฟ”
ยุกาว่าพยักหน้า
“มันใช้คลื่นไมโครเวฟ การอาบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูงจะไป
กระตุน้ ความชืน้ ทีอ่ ยูใ่ นร่างกายมนุษย์ พอโมเลกุลของน�ำ้ เริม่ สัน่ อย่างรุนแรง
เราจะรู้สกึ ว่าร่างกายร้อนขึ้น”
“ท�ำแบบนั้นแล้วร่างกายไม่เป็นไรหรือครับ”
“กรณีของอุปกรณ์ชนิ้ นี้ คลืน่ ไมโครเวฟจะส่งไปใต้ผวิ หนังลึกไม่เกิน
ร้อยไมครอน แม้จะรู้สึกร้อนแต่ก็ไม่ท�ำให้เป็นแผล ถ้าปรับก�ำลังส่งและ
เวลาเชื่อมความต้านทาน ความรู้สึกร้อนจะเปลี่ยนไป สหรัฐอเมริกาได้น�ำ
หลักการนีไ้ ปประยุกต์ใช้กบั การประดิษฐ์อปุ กรณ์ปราบปรามการก่อจลาจล
โดยไม่ให้ได้รบั บาดเจ็บ ซึง่ เรียกว่า อาวุธคลืน่ รังสีพลังงานสูง (Active Denial
System)”
“ใช้ของแบบนี้แล้วมาหลอกว่าเป็นศาสดาของนิกายใหม่เนี่ยนะ
เรื่องที่นาคางามิกระโดดหน้าต่างก็เป็นเพราะสิ่งนี้สินะ”
“แน่นอนอยูแ่ ล้ว เพราะเขารูส้ กึ ว่ามีเปลวไฟถาโถมมาจากด้านหน้า
จึงต้องหนีไปด้านหลังโดยอัตโนมัติ เหมือนคุซานางิเมื่อกี้นี้ ค�ำพูดของ
ช่างภาพที่ว่าเหมือนคนที่กระโดดหน้าต่างตอนเกิดไฟไหม้กลายเป็นค�ำใบ้
ทีต่ อ้ งเปิดหน้าต่างทุกครัง้ เวลาส่งพลังจิตก็เพือ่ ป้องกันไม่ให้คลืน่ ไมโครเวฟ
- 54 -
- 55 -
หลังจากคุซานางิรายงานข้อมูลนี้ให้มามิยะได้ทราบ จึงมีค�ำสั่งให้
ตรวจค้นครัง้ ใหญ่ พนักงานสืบสวนเข้าไปในห้องข้างๆ ‘ห้องช�ำระล้างจิตใจ’
โดยไม่ลังเล เพราะต้องการพิสูจน์ต�ำแหน่งของอุปกรณ์
10
หลังจากการทดลองผ่านมาได้หนึง่ สัปดาห์ คุซานางิมาเยีย่ มยุกาว่า
ที่ห้องวิจัยเพื่อจะขอบคุณอีกครั้ง “เพราะได้นายมาช่วย พวกหัวหน้า
เลยอารมณ์ดีกันใหญ่ ขอบใจนายมากนะ” คุซานางิวางของฝากบนโต๊ะ
ปฏิบตั กิ ารวิทยาศาสตร์ คราวนีเ้ ป็นแชมเปญดอมเปริญองทีต่ ดั ใจควักเงิน
ซือ้ “ต�ำรวจท้องทีก่ ด็ อี กดีใจ บอกว่าถ้าคราวหน้ามีคดีประหลาดๆ เกิดขึน้ อีก
จะมาปรึกษาคุณคุซานางิ ฉันบอกจนปากเปียกปากแฉะแล้วว่าฉันไม่ใช่
คนไขปริศนาก็ไม่ยอมเข้าใจกันเสียที”
“แบบนั้นก็ดีแล้วนี่ ว่าแต่การส่งฟ้องคดีฆาตกรรมเป็นไปได้ยาก
ใช่ไหม ถึงจะเป็นเพราะการฉายคลื่นไมโครเวฟ แต่อีกฝ่ายก็ไม่จ�ำเป็น
ต้องกระโดดหน้าต่างเสมอไป”
คุซานางิย่นจมูกแล้วพยักหน้า
“น่าเสียดายที่มันเป็นอย่างนั้น กรณีของนาคางามิ ความผิดเต็มที่
คือเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ความผิดที่คนพวกนั้นกระท�ำไม่ใช่
แค่นั้นหรอก ที่เห็นชัดๆ คือความผิดฐานฉ้อโกง พวกสายที่ 2 ยุยงส่งเสริม
ส่วนสายที่ 1 ปล่อยเงินกู้”
“ท�ำให้คนจ�ำนวนมากหลงผิด อันนี้สมควรได้รับโทษอย่างสาสม
คณะบริหารทุกคนรู้เรื่องการใช้คลื่นไมโครเวฟหรือเปล่า”
- 56 -
- 57 -
- 58 -
โดยปกติแล้วไม่ส่งผลดีต่อร่างกาย
พวกเขาเลยคุยกันว่าลองใช้เครื่องจักรนี้หาเงินกันดีไหม ถ้าบอกว่า
มันเป็นวิธีรักษามะเร็งแนวใหม่ คนป่วยทั้งประเทศคงจะแห่กนั มาทีเดียว
ไม่สิ ท�ำแบบนั้นเดี๋ยวก็มีคนจับโกหกได้ เราซ่อนเครื่องจักรนี้เอาไว้
ดีกว่า ถ้าเลือกวัสดุผนังดีๆ รังสีไมโครเวฟจะฉายจากห้องข้างๆ ได้ ถ้าจู่ๆ
ตัวร้อนขึน้ มา ใครๆ ก็ต้องแปลกใจ งัน้ กุเป็นเรือ่ งพลังเหนือธรรมชาติดไี หม
หลังจากนัน้ มีพรรคพวกใหม่เข้ามาเพิม่ ซึง่ ก็คอื โมริยะ เขาเป็นเพือ่ น
ในวงพนันเหมือนกับมาจิมะ ผลงานเด่นๆ ของโมริยะคือการท�ำธุรกิจ
ความเชื่อ จึงมีลู่ทางที่จะก่อตั้งองค์กรทางศาสนา ทั้งสามคนช่วยกัน
วางแผนอย่างแยบยลโดยมีซาโยโกะเป็นศูนย์กลาง ร่วมกันตัง้ กลุม่ ลัทธิใหม่
ขึ้นมาที่ไหนสักแห่ง โดยมีจุดเด่นที่การใช้กลอุบายคลื่นไมโครเวฟ ปัญหา
คือใครจะเล่นเป็นบทผูน้ �ำลัทธิ จะให้เล่นกันเองก็คงไม่ได้ เพราะเมือ่ ถึงเวลา
จวนตัวจะปัดความรับผิดชอบไปไม่ได้
บังเอิญตอนนั้นเธอได้เจออิชโิ มโตะ คาสุโอะ เขาเป็นอาจารย์สอน
พลังชีแ่ ละรับรักษาผูป้ ว่ ย มีเสียงเล่าลือว่ารักษาได้ผลก็มี รักษาไม่ได้ผลก็มี
ผูช้ ายคนนีใ้ ช้ได้ ซาโยโกะคิดแบบนัน้ ตอนทีไ่ ด้เห็นอิชโิ มโตะครัง้ แรก
หน้าตาก็ไม่เลวและดูมีความรู้อีกด้วย ความสามารถทางการแสดงก็สูง
ที่ส�ำคัญที่สุดคือเขาเป็นคนหลงตัวเอง ซาโยโกะข้องใจเรื่องพลังชี่แต่
อิชิโมโตะเชื่อมั่นในพลังของตัวเอง เขาไม่รู้สึกว่าตัวเองหลอกลวงผู้ป่วย
จึงท�ำให้ค�ำพูดของเขาฟังดูน่าเชื่อถือและผู้ฟังเชื่ออย่างสนิทใจ
ซาโยโกะเริ่มเข้าหาอิชิโมโตะ เขาเป็นโสดและไม่ประสีประสาเรื่อง
ผู้หญิง หลอกล่อเข้าหน่อยก็ติดกับแล้ว การท�ำให้เขาลุ่มหลงซาโยโกะ
จึงใช้เวลาไม่นาน
พอได้จงั หวะเหมาะๆ ซาโยโกะเริม่ พูดเรือ่ งการตัง้ กลุม่ ลัทธิ ตอนแรก
เขาลังเล แต่พอประจบว่าเขาเป็นคนเดียวทีจ่ ะเป็นศาสดาได้ เขาจึงเริม่ สนใจ
เธอจึงแนะน�ำให้เขารู้จกั กับมาจิมะและโมริยะ
- 59 -
2
ค�ำว่า ‘กุไอ’ เขียนด้วยตัวอักษรคาตาคานะได้ว่า「クアイ」มีที่มาจากตัวอักษรคันจิ 2 ตัว
คือ「苦」อ่านว่า ‘กุ’ แปลว่า ทุกข์ และ「愛」อ่านว่า ‘ไอ’ แปลว่า รัก
- 60 -
กลุ่มลัทธิมีสาวกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ระยะหลังมานี้เหมือนจะมา
จนถึงจุดอิ่มตัวแล้ว การหาสมาชิกโดยอาศัยวิธีปากต่อปากมีข้อจ�ำกัด
ต้องท�ำอะไรสักอย่างเพื่อให้คนรู้จกั มากขึ้น
ในตอนนั้นมีข่าวลือหนาหูกันในกลุ่มสาวกว่ามีผู้บริหารกลุ่มหนึ่ง
ยึดสมบัติของกลุ่มลัทธิมาเป็นของตัวเอง ซึ่งหมายถึงมาจิมะกับโมริยะ
พวกมาจิมะจึงใช้สายสืบไปค้นหาว่าพวกไหนเป็นคนปล่อยข่าวและ
ต้องการอะไร ที่น่าตกใจคือมาซากาซึ นาคางามิเป็นคนปล่อยข่าวและ
เขาตัดสินใจที่จะย้ายไปเข้ากลุ่มลัทธิของคู่แข่งที่ชื่อ ‘แสงพิทักษ์’ พร้อม
กับเพื่อนๆ
ซาโยโกะโกรธจัดจึงคิดเรื่องบ้าบิ่นขึ้นมา นั่นคือการให้นาคางามิ
ได้ลมิ้ รสพลังทีแ่ ท้จริงของเรนซากิ ชิโค เธออยากจะให้บทเรียนว่าคนหักหลัง
จะต้องโดนอะไรบ้าง โดยปกติเวลาส่งพลังจิตจะปล่อยคลื่นไมโครเวฟ
ออกมาทีละนิด ซึ่งถ้าหากปล่อยคลื่นออกมาเต็มที่ ร่างกายจะร้อนรุ่ม
เหมือนถูกไฟคลอกทั้งเป็น
แต่เธอก็ไม่ได้มเี จตนาจะฆ่านาคางามิและนึกไม่ถงึ ว่าเขาจะกระโดด
ลงไปด้วยซ�้ำ ทั้งซาโยโกะและพวกมาจิมะยืนกรานว่าอย่างนั้น
“ค�ำให้การของคนพวกนั้นอาจฟังดูไม่ปกติ แต่ก็ยากที่จะหักล้าง
ค�ำให้การ” คุซานางิกล่าว “อย่างที่นายบอก มันไม่ใช่วิธีฆาตกรรมที่
หวังผลได้ ถ้าไม่ลองท�ำจริงๆ ก็ไม่มีใครรู้ว่ารัศมีของคลื่นไมโครเวฟไม่ได้
กว้างมาก แค่หลบไปด้านข้างก็ไม่รู้สกึ ร้อนแล้วใช่ไหมล่ะ”
“ถูกต้อง” ยุกาวะพยักหน้า “แต่คดิ ไม่ถงึ เลยว่าพวกเขาจะท�ำแบบนัน้
กับคนที่ไม่รู้ว่าพลังจิตที่ส่งออกไปคือคลื่นไมโครเวฟได้อย่างเลือดเย็น”
“มันไม่ใช่การคุกคามธรรมดาๆ แต่ตั้งใจจะฆ่าตั้งแต่ต้นแล้ว อย่าง
น้อยๆ คงคิดว่าถ้าตายเสียได้กค็ งจะดี ถ้านายได้เจอผู้หญิงคนนั้นก็คงจะ
เชือ่ แบบนัน้ ซึง่ ความน่ากลัวของผูห้ ญิงคนนัน้ คือการคิดจะใช้การฆาตกรรม
โฆษณากลุ่มลัทธิ แม้เจ้าตัวจะยืนกรานว่าเป็นความบังเอิญ แต่ว่าการ
- 61 -
- 62 -
- 63 -
“มีอะไรหรือ” คุซานางิถาม
ยุกาว่าหันหน้าตั๋วไปทางคุซานางิ ‘เทศกาลดูดวงระดับประเทศ’
“ดูดวงหรือ”
“ในโน้ตเขียนว่า ‘ขอบคุณส�ำหรับเรื่องครั้งนี้ เขาว่าดูแม่นมาก ลอง
ไปกับแฟนหรือใครก็ได้ดูสิคะ’ ”
“ยายบ้าเอ้ย...ขอโทษนะ ทิ้งไปเถอะ”
“ไม่เป็นไร ก็แม่นมากไม่ใช่หรือ น่าสนใจดี ฉันขอรับไว้แล้วกัน”
ยุกาว่าใส่ต๋วั ในกระเป๋าเสื้อกาวน์สีขาว
- 64 -
บทที่ 2
มองเห็นทะลุปรุโปร่ง
1
ยุกาว่าจิบชาหลังอาหารด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่พอถูกชวนว่า
เดี๋ยวไปต่ออีกสักร้านดีไหม ตาเขาดูเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย
“พอดีไปเจอร้านดีๆ มาน่ะ” คุซานางิเอียงแก้ว “พูดว่าเป็นร้าน
น่าสนใจจะดีกว่า ฉันอยากพานายไปให้ได้เลย”
“ร้านอะไรหรือ”
“ไปแล้วเดี๋ยวก็รู้เอง ตั้งความหวังเอาไว้ได้เลย มีคนสวยๆ เพียบ
เลยนะ”
คิ้วของยุกาว่ากระตุก “โห ถ้าอยากพาไปขนาดนั้น ฉันว่าไม่ต้อง
ก็ได้...”
- 65 -
- 66 -
“ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ยังไม่เคยเห็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือต่างหาก”
“หยุดพูดอ้อมค้อมซะที ฉันอยากให้นายเจอเด็กคนหนึ่ง”
ไม่นานก็มผี หู้ ญิงตัวเล็กๆ สวมชุดกิโมโนเดินมา ใบหน้าเล็กๆ ขับให้
ดวงตาดูกลมโตยิ่งขึ้น “สวัสดีค่ะ” เธอกล่าวทักทาย
“อ้าว ไอจัง มาพอดีเลย มาๆ มานั่งข้างๆ หมอนี่หน่อย”
เธอนั่งลงข้างๆ ยุกาว่า “สวัสดีค่ะ ชื่อไอค่ะ” เธอแนะน�ำตัวเอง
ยุกาว่าหันไปทางคุซานางิด้วยสีหน้างุนงง
“เด็กคนนี้แหละที่อยากให้นายเจอ ไอจัง ช่วยท�ำให้ดูแบบคราว
ที่แล้วหน่อย”
“ค่ะ” เธอตอบแล้วหันไปทางยุกาว่า
“คุณมีนามบัตรไหมคะ”
“นามบัตรหรือ มีสิ” ยุกาว่าล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูท
“อย่าเพิง่ หยิบออกมาค่ะ” เธอยกมือห้ามแล้วเปิดถุงผ้าเล็กๆ ทีว่ าง
อยู่บนตักหยิบซองเล็กๆ สีด�ำเงามาวางตรงหน้ายุกาว่า “ช่วยใส่นามบัตร
ลงไปในนี้ อย่าให้ฉนั เห็นนะคะ”
“ใส่ในนี้หรือ” ยุกาว่าหยิบซองนั้นขึ้นมา
“ใช่คะ่ ถ้าใส่เรียบร้อยแล้ว เรียกฉันด้วยนะคะ” เธอหันหน้าหนียกุ าว่า
แถมเอามือปิดตาไว้ด้วย
ยุกาว่าหันมาทางคุซานางิด้วยแววตาสงสัย
“ท�ำตามที่เธอพูดไปก่อนเถอะน่า”
ยุกาว่าใส่นามบัตรลงไปในซองด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ “ใส่เรียบร้อยแล้ว”
ไอหันหน้ากลับมา
“ขอยืมหน่อยนะคะ” พอรับซองมาจากยุกาว่า ก็มองเรกะทีอ่ ยูอ่ กี ฝัง่
“คุณเรกะ ขอยืมหน้าอกสวยๆ หน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิ ถ้ามันพอจะใช้ได้” เรกะยื่นหน้าอกออกมาข้างหน้า
“ขอโทษนะคะ” ไอพูดแล้วยัดซองลงไปตรงร่องอกของเรกะ
- 67 -
“จะท�ำอะไรกันเนี่ย” ยุกาว่าถามอย่างไม่พอใจ
“เอาน่าสิ่งที่อยากให้ดูก�ำลังจะเริ่มแล้ว” คุซานางิพูด
ไอเปิ ด ถุ ง ผ้ า อี ก ครั้ ง คราวนี้ ห ยิ บ ลู ก ประค�ำออกมาคล้ อ งมื อ
ทั้งสองข้างแล้วพนมมือ
“ถ้างัน้ เริม่ เลยนะคะ ทุกคน กรุณามองไปทีห่ น้าอกคุณเรกะนะคะ”
ยุกาว่าท�ำตาหลุกหลิก คุซานางิกลั้นหัวเราะไม่ไหว
“ได้มโี อกาสมองร่องอกสวยๆ ทัง้ ที ไม่ตอ้ งเกรงใจหรอกน่า ฉันก็มอง
เหมือนกัน”
“แหม สายตาคุณคุซานางิเร่าร้อนไปหน่อยนะคะ” เรกะหัวเราะ
“ค่ะ” ไอพูดขึ้นแล้วเงยหน้า “เห็นแล้วค่ะ”
“เห็นแล้ว เห็นอะไรหรือ” ยุกาว่าถาม
แต่ไอไม่ตอบ เก็บซองจากหน้าอกของเรกะแล้วยื่นไปทางยุกาว่า
“หยิบนามบัตรออกมาแล้วช่วยเก็บไว้ที่เดิมด้วยนะคะ” พูดจบก็
หันหน้าไปอีกฝั่ง เอามือปิดตา
ยุกาว่ายักไหล่ท�ำตามที่บอก “เก็บเรียบร้อยแล้ว”
ไอหมุนหันกลับมาแล้วยิ้มให้เขา “ยินดีท่ไี ด้รู้จักค่ะ คุณยุกาว่า”
นัยน์ตาของนักฟิสิกส์เบิกกว้าง พอเห็นเขาอ้าปากค้าง คุซานางิ
ก็ตบโต๊ะ
“ยอดไปเลยนีเ่ ป็นผลงานชิน้ โบว์แดง ยุกาว่างงจนท�ำอะไรไม่ถกู เลย
แฮะ เอาล่ะ...ชนแก้ว” นายต�ำรวจยกแก้ววิสกี้ผสมน�้ำ
แต่ยุกาว่าไม่ได้ย่นื มือออกมาหยิบแก้วเลย “รู้ได้ยงั ไง”
ไอยิ้มมีเลศนัย “ไม่รู้สิคะ...” เธอพูดแล้วเอียงคอ
“ท�ำไมน่ะหรือ เอ้า นัน่ มันหน้าทีข่ องนายต้องเก็บกลับไปคิด แต่บอก
ไว้ก่อนนะ ฉันไม่รู้ไม่เห็นด้วย ฉันไม่ได้บอกใครที่ร้านนี้ ทั้งเรื่องชื่อของนาย
ทั้งเรื่องที่พานายมาคืนนี้”
ยุกาว่าขมวดคิ้วไม่โต้ตอบที่คุซานางิยั่วโมโห เขาจ้องหน้าอกเรกะ
- 68 -
เขม็งเหมือนคิดอะไรอยู่
“ไม่ได้ตดิ เครื่องอะไรไว้ตรงนี้นะคะ” เรกะใช้สองมือปิดหน้าอก
“อ๊ะ ขอโทษครับ” ยุกาว่ารีบหันไปมองทางอื่น คุซานางิแทบจะ
ไม่เคยเห็นเพื่อนลนลานแบบนี้มาก่อน
“จริงๆ แล้วฉันไม่ใช่แค่มองทะลุสิ่งของได้อย่างเดียว ยังมองเห็น
อดีตคนคนนั้นด้วยค่ะ” ไอพูด
“อดีตหรือ” ยุกาว่ามีสีหน้ากระอักกระอ่วนยิ่งขึ้น “แบบไหน”
“อย่างเช่น” ไอพูดแล้ววางมือลงบนไหล่ยกุ าว่าแล้วหลับตาลง
“วันนี้ตอนที่มาที่นี่ คุณใส่เสื้อโค้ทมาใช่ไหมคะ เป็นเสื้อหนังสีด�ำ...
ของอิตาลีใช่ไหมคะ” พอพูดจบเธอก็ลมื ตาขึน้ “เป็นยังไงคะ”...เธอถามยิม้ ๆ
“โอ้โห เยี่ยมยอดอีกแล้ว” คุซานางิส่งเสียงมาจากข้างๆ
ยุกาว่าใช้ความคิดหนักหน่วงจนสีหน้าดูอมทุกข์ ในที่สุดก็เงยหน้า
เหมือนคิดอะไรขึ้นได้ “นึกออกแล้ว เสื้อโค้ทไง” เขาเปิดเสื้อคลุมออก
แล้วชี้ไปด้านใน “ผมปักชื่อไว้ด้านในเสื้อโค้ท คุณคงเห็นก่อนที่จะเดินมา
โต๊ะนี้ล่ะสิ”
“ปิ๊งป่อง” ไอกระดิกนิ้วชี้เบาๆ “ถูกต้องค่า”
ยุกาว่าถอนใจ...เฮ้อ ในที่สดุ ก็หยิบแก้ววิสกี้ผสมน�้ำมาดื่ม “อย่างนี้
นี่เอง ถูกต้มซะเปื่อยเลย”
“แค่กลง่ายๆ ขอโทษด้วยนะคะ” ไอก้มศีรษะลง
“ไม่หรอก กลยิง่ ง่ายก็ยงิ่ หลอกคนได้งา่ ย พอได้ฟงั เฉลยเท่านัน้ แหละ
ถึงบางอ้อเลย ในวงการวิทยาศาสตร์ก็เหมือนกัน พวกค�ำถามที่ดูเหมือน
จะซับซ้อนแต่โครงสร้างกลับเรียบง่าย ความซับซ้อนของปัญหามันเกิดจาก
ความดื้อรั้นของมนุษย์น่นั เอง ในอดีตก็มีอยู่บ่อยๆ”
ยุกาว่าเริ่มอธิบายทางวิทยาศาสตร์ พอไขปริศนาตาทิพย์ได้แล้ว
เขาดูผ่อนคลายขึ้น พอเห็นอาการเพื่อนแบบนั้น คุซานางิก็ย้มิ พอใจรู้สึกดี
ที่พาเขามา
- 69 -
2
นับตั้งแต่วันที่พายุกาว่าไปที่คลับชื่อ ‘ฮาร์ป’ แถวกินซ่า คุซานางิ
ได้พบกับไอโมโตะ มิกะอีกครั้งหลังจากนั้นราวสี่เดือน ตอนที่เห็นครั้งแรก
- 70 -
เขาไม่ทันสังเกตเลยว่าเป็นเธอ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะตั้งแต่นั้นก็ไม่ได้
ไปที่ร้านนั้นอีกเลย อีกทั้งรูปลักษณ์ของเธอเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน
ศพของเธอถูกพบทีพ่ งหญ้าริมแม่นำ�้ อาราคาวะ ซึง่ อยูต่ ดิ กับสะพาน
โองิโอฮาชิ ด้านบนมีทางด่วนวงแหวนรอบนอกของกรุงโตเกียวพาดผ่าน
ผู้พบศพเป็นอดีตพนักงานบริษทั ที่วิ่งจ๊อกกิ้งตอนเช้า
เสือ้ ผ้าทีใ่ ส่เป็นชุดแซกสีด�ำทับด้วยเสือ้ แจ็กเกตสีเทา ทรงผมทีร่ วบขึน้
และลักษณะการแต่งหน้าท�ำให้คุซานางิคิดว่าผู้ตายน่าจะท�ำงานกลางคืน
เล็บที่ตกแต่งอย่างฉูดฉาดยิ่งท�ำให้คิดว่าไม่น่าจะเป็นสาวออฟฟิศธรรมดา
แถมยังใส่นาฬิกาข้อมือคาร์เทียร์
ไม่พบของทีร่ ะบุตวั ผูต้ ายได้ ทัง้ กระเป๋าถือ กระเป๋าสตางค์ หรือของ
อื่นๆ คนร้ายน่าจะหยิบติดมือไปด้วย
สาเหตุการตายชัดเจนว่าเป็นการฆาตกรรม มีร่องรอยการถูกรัดคอ
ซึ่งไม่ได้ใช้เชือกแต่ใช้มอื เปล่าบีบคอจนตาย
กองพิสูจน์หลักฐานถ่ายรูปศพไว้จ�ำนวนหนึ่ง ก่อนจะส่งไปชันสูตร
ในจ�ำนวนนั้นมีรูปถ่ายที่เห็นหน้าอยู่ด้วย คุซานางิจ�ำศพได้ตอนที่เห็น
รูปถ่ายใบนั้นบนสน.ท้องที่
“พนักงานต้อนรับสาวหรือ เป็นร้านประจ�ำของนายล่ะสิ” มามิยะ
ดูรูปถ่ายกับใบหน้าของคุซานางิสลับกันไปมา
“ไม่ได้ถึงขนาดไปประจ�ำ แต่ก็ไปมาหลายครั้งครับ ร้านชื่อ ‘ฮาร์ป’
เธอท�ำงานอยู่ท่นี ั่น ชื่อไอครับ”
“การไปเทีย่ วกลางคืนก็มปี ระโยชน์เหมือนกันหรือเนีย่ ดีละ่ งัน้ ช่วยไป
ตรวจสอบดูให้หน่อย”
“รับทราบครับ”
คุซานางิโทร.เข้ามือถือของเรกะ คิดว่าเธอน่าจะยังนอนอยูแ่ ต่อกี ฝ่าย
รับสาย ดูเธอแปลกใจเพราะเขาไม่เคยโทร.หาเธอเลยสักครั้ง
พอพูดไปว่าช่วยบอกเบอร์ตดิ ต่อของไอให้หน่อย เธอถึงกับส่งเสียง
- 71 -
ด้วยความประหลาดใจ
“คุณคุซานางิถูกใจไอจังหรือคะ ไม่รู้มาก่อนเลย”
“ไม่ใช่หรอกครับ เรื่องงานน่ะ”
คุซานางิเคยพูดถึงอาชีพของตัวเองแค่ว่าเป็นข้าราชการท้องถิ่น
นามบัตรที่แจกให้ที่ ‘ฮาร์ป’ ก็พิมพ์ไว้แค่น้นั พอเขาพูดว่าเป็นการสืบสวน
ของต�ำรวจ เรกะถึงกับร้องเสียงหลง “จริงหรือคะเนี่ย คราวหน้าเอาสมุด
ประจ�ำตัวต�ำรวจให้ดูด้วยนะคะ”
“ถ้ามีโอกาสนะครับ ผมขอเบอร์ไอจังก่อน แล้วก็อยากรู้ที่อยู่ของ
เธอด้วย”
“ฉันรู้แต่เบอร์มือถือ ถ้าถามผู้จัดการน่าจะรู้ที่อยู่ เดี๋ยวบอกเบอร์
ผู้จัดการให้เอาไหมคะ”
“ดีเลยครับ”
เธอถามหลังจากบอกเบอร์โทรศัพท์คนทัง้ สองไปแล้ว “นีเ่ กิดอะไรขึน้
หรือคะ ไอจังเป็นอะไรไปหรือคะ” คงรับรู้ได้ว่าสถานการณ์ตงึ เครียด
“เมื่อคืน เธอมาท�ำงานไหม”
“มาค่ะ”
“แล้วนั่งโต๊ะเดียวกับคุณไหม”
“นั่งค่ะ หลังเลิกงานเราก็ไปด้วยกัน”
ดีเลย คุซานางิตอบ “ไว้เจอกันนะ เดี๋ยวผมจะไปหาที่ร้าน”
“อ้าว หรือคะ ถ้างัน้ จะรอนะคะ” น�ำ้ เสียงสดใสขึน้ มาอย่างประหลาด
“ไม่ต้องท�ำเสียงแบบตอนท�ำงานก็ได้ ผมไม่ได้จะไปดื่มน่ะ” พูดจบ
ก็วางหูไป
หลายชั่วโมงหลังจากนั้น คุซานางินั่งตรงเคาน์เตอร์ที่ร้าน ‘ฮาร์ป’
ร้านเพิ่งเปิดจึงยังไม่มลี ูกค้ามาสักกลุ่ม
“ไม่มลี างบอกเหตุอะไรเลยค่ะ เมือ่ วานก็ยงั ร่าเริงตามปกติ” ผูจ้ ดั การ
ใส่แว่นตากรอบด�ำพูดพลางกะพริบตาถี่คงยังไม่อยากจะเชื่อเรื่องคดี
- 72 -
- 73 -
- 74 -
- 75 -
- 76 -