Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 61

ฆาตกรบ้านพักคนตาย

屍人荘の殺人
อิมามุระ มาซาฮิโระ เขียน
Kantie JK Takahashi แปล
SHIJINSO NO SATSUJIN
Copyright © Imamura Masahiro 2017
Thai translation rights arranged with TOKYO SOGENSHA CO., LTD.
through Japan UNI Agency, Inc., Tokyo and Arika Interrights Agency

พิมพ์ครั้งที่ 1 : ตุลาคม 2561


จัดพิมพ์โดย สำ�นักพิมพ์ไดฟุกุ-ลิท
บริษัท ไดฟุกุ ครีเอเตอร์ จำ�กัด

อิมามุระ, มาซาฮิโระ.
ฆาตกรบ้านพักคนตาย.-- กรุงเทพฯ : ไดฟุกุ ครีเอเตอร์, 2561.
300 หน้า.
1. นวนิยายญี่ปุ่น. I. ทาคาฮาชิ, กานตี เจเค, ผู้แปล. II. ชื่อเรื่อง.
895.63
ISBN 978-616-448-011-7

ประธานกรรมการบริหาร : จินตนา เฉลิมชัยกิจ


กรรมการผู้จัดการ : อลีน เฉลิมชัยกิจ
บรรณาธิการบริหาร : วรุตม์ ทองเชื้อ
บรรณาธิการต้นฉบับแปล : วงศ์สิริ สังขวาสี มิยาจิ
บรรณาธิการเล่ม : นันทวัชน์ สกลกูล
วาดภาพและออกแบบปกฉบับภาษาไทย : Veerapat Pinyovitayawong
ศิลปกรรม : Vinussa
พิสูจน์อักษร : ศิริลักษณ์ เรือนเย็น, กัญจรี ชาญรอบ
ฝ่ายการตลาด : อัคคณัฐ ชุมนุม
ฝ่ายขาย : มนัญชยา ศิริวงษ์, อุดร ปัญญาชัย
ฝ่ายประสานงานโรงพิมพ์ : ไพบูลย์ ชาคริยานนท์
พิมพ์ที่ : บริษัท พี เอ็น เค แอนด์สกายพริ้นติ้งส์ จำ�กัด
จัดจำ�หน่ายโดย : สายส่งสุขภาพใจ บริษัท บุ๊ค ไทม์ จำ�กัด
214 ซอยพระรามที่ 2 ซอย 38 ถนนพระรามที่ 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. 10150
โทรศัพท์ : 0 2415 2621, 0 2415 6507
เนื่องในโอกาสที่นักเขียนได้รับรางวัล
ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณที่มอบรางวัลอายุคาวะ เท็ตสึยะครั้งที่ 27
ให้แก่ผม
ผมมี ค วามฝั น ตั้ ง แต่ เ ด็ ก ว่ า อยากท�ำ ให้ ค นอื่ น สนุ ก สนานไปกั บ
จินตนาการของตัวเอง แต่ก็ไม่กล้าที่จะท�ำอะไรสักที ในที่สุดก็มีโอกาส
ได้ลองเขียนนิยายเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ปกติผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ
หลากหลายแนว เวลาไปที่ร้านก็มักจะไปยืนอยู่หน้าชั้นหนังสือแล้วเลือก
ซื้อเอาปกที่ชอบหรือชื่อเรื่องที่น่าสนใจ
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงต้องบอกกล่าวไว้ก่อนว่าผมเองไม่ได้เป็นแฟน
นิยายแนวสืบสวนจริงจังนัก คงจะไม่สามารถยืดอกพูดได้ว่าเป็นแฟนพันธุ์
แท้ขนาดนั้น แต่การที่ผลงานซึ่งเขียนขึ้นมาด้วยใจรักได้รางวัลอันมีเกียรติ
ครั้งนี้ จึงท�ำให้ผมได้เข้าใจว่างานนิยายสืบสวนแบบแนวทางต้นต�ำรับนั้น
มีความลึกซึ้งและมีความอิสระกว่าที่คิดไว้มาก
วันเวลาที่ผ่านไปท�ำให้ผมรู้สึกได้ถึงความรับผิดชอบต่อรางวัลที่
ได้รับเป็นอย่างมาก และจะก้าวต่อไปโดยที่ไม่ลืมความคิดเริ่มแรกที่ว่า
อยากท�ำให้คนอื่นสนุกไปกับจินตนาการของตัวเอง

อิมามุระ มาซาฮิโระ
ผู้เขียน
คำ�นำ�สำ�นักพิมพ์
ทุกปีวงการหนังสือญี่ปุ่นจะมีการจัดงานมอบรางวัลให้แก่หนังสือ
ประเภทต่างๆ ซึ่งหนังสือที่ได้รับรางวัลก็เหมือนได้รับการการันตีคุณภาพ
ว่าเป็นหนังสือที่ไม่ควรพลาด ยิ่งได้รับหลายรางวัลก็แสดงว่าหนังสือ
เล่มนั้นดีจริง ถ้ามีหนังสือจากนักเขียนหน้าใหม่ที่เขียนหนังสือเล่มแรก
แล้วได้รบั รางวัลชนะเลิศถึง 2 รางวัลและได้รบั ค�ำชมมากมายล่ะ แสดงว่า
หนังสือเล่มนั้นต้องพิเศษ ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งใช่ไหม
อิมามุระ มาซาฮิโระ เป็นนักเขียนหน้าใหม่ท่เี ปิดตัวผลงานเล่มแรก
ด้วยนิยายแนวฆาตกรรมสืบสวนที่ชื่อว่า “ฆาตกรบ้านพักคนตาย” และ
ด้วยหนังสือเล่มนี้ นอกจากจะท�ำให้เขาได้รับรางวัลอันทรงเกียรติอย่าง
รางวัล Ayukawa Tetsuya (อายุคาวะ เท็ตสึยะ) ครั้งที่ 27 แล้ว ยังได้รับ
รางวัลและเกียรติยศมากมาย!!!
ด้วยการน�ำโครงเรื่องตามสไตล์นิยายสืบสวนแบบดั้งเดิมที่มีทั้ง
Whydunit (ฆ่าท�ำไม) Whodunit (ใครฆ่า) Howdunit (ฆ่าอย่างไร) มาผสมผสาน
กับโครงเรือ่ งสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ปมปริศนาทีย่ ากจะคาดเดา อีกทัง้ เรือ่ ง
ราวก็พร้อมจะพลิกผันได้ทกุ เมื่อ จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังสือเล่มนี้จะกลาย
เป็นที่จบั ตา และได้รับความชื่นชมสูงจากบรรดานักอ่านชาวอาทิตย์อุทัย
“ฆาตกรบ้านพักคนตาย” สุดยอดนิยายสืบสวนจากญี่ปุ่นที่เปิด
ศักราชใหม่ของนิยายสืบสวนแบบดั้งเดิม ซึ่งเราคัดสรรมาเพื่อนักอ่าน
ชาวไทยโดยเฉพาะ
ถ้าพร้อมแล้วก็พลิกไปอ่านโดยพลัน!

ส�ำนักพิมพ์ไดฟุกุ-ลิท
ฆาตกรบ้านพักคนตาย
สารบัญ

บทที่ 1 การเจรจาที่แปลกประหลาด 12
บทที่ 2 บ้านชิจิน 31
บทที่ 3 งานเทศกาลซึ่งไร้การบันทึก 64
บทที่ 4 เหยื่อในวังวน 120
บทที่ 5 จู่โจม 191
บทที่ 6 หอกง้าวอันเย็นเยียบ 253
บทสุดท้าย 296
ภูเขายาบุ
บันได
ฝั่งทิศตะวันออก

หน้าต่างติดตัวยึด

เทอเรซกระจก ห้องอาหาร

ฟรอนต์ ห้องครัว
บันได
ฉุกเฉิน ล็อบบี้ ห้องผู้ดูแล

ชั้น 1
ห้องอาบนํ้า ห้องอาบนํ้า ประตูทางเข้า
ใหญ่ ใหญ่
ที่ซักล้าง

หน้าผาเล็กๆ ที่จอดรถ

บันได
ลานกว้าง

ผังบ้านชิจิน
อาวุธต่างๆ ประตูโซนทิศตะวันออก
รูปหล่อ
ทองแดง

เลานจ์
อก
บันได ห้อง นาบาริ เดเมะ ห้องว่าง
ฉุกเฉิน ทำ�นํ้าร้อน
ห้องว่าง
ประตูโซนทิศใต้

ประตู ทัตสึนามิ ชั้น 2


ฉุกเฉิน
โฮชิคาวะ

เคนซากิ ทาคากิ

บันไดขึ้น
ดาดฟ้า โถงลิฟต์
ห้อง
เก็บของ
ห้อง
เก็บผ้า ห้องว่าง ชิสุฮาระ ฮามุระ
ชินโด

ชิเงโมโตะ ชั้น 3
อาเคจิ

นานามิยะ คุดามัตสึ
รายชื่อตัวละคร
ฮามุระ ยูซุรุ นักศึกษาปีที่ 1 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยชินโค
สมาชิกชมรมคนรักเรื่องลึกลับ
อาเคจิ เคียวสุเกะ นักศึกษาปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยชินโค
ประธานชมรมคนรักเรื่องลึกลับ ถูกขนานนามว่า
“นักสืบโฮล์มส์ แห่ง ม.ชินโค”
เคนซากิ ฮิรุโกะ นักศึกษาปีที่ 2 คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยชินโค
สาวน้อยนักสืบผู้คลี่คลายคดีมาแล้วนับไม่ถ้วน
ชินโด อายุมุ นักศึกษาปีที่ 3 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยชินโค
ประธานชมรมวิจัยภาพยนตร์
โฮชิคาวะ เรกะ นักศึกษาปีที่ 3 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยชินโค
สมาชิกชมรมการแสดง เป็นคนรักของชินโด
นาบาริ สุมิเอะ นักศึกษาปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยชินโค
สมาชิกชมรมการแสดง มีนิสัยคิดมาก ขี้กังวล
ทาคากิ ริน นักศึกษาปีที่ 3 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยชินโค
สมาชิกชมรมวิจัยภาพยนตร์ สาวผู้เข้มแข็งไม่แพ้ผู้ชาย
ชิสุฮาระ มิฟุยุ นักศึกษาปีที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยชินโค
สมาชิกชมรมวิจัยภาพยนตร์ เป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย
คุดามัตสึ ทาคาโกะ นักศึกษาปีที่ 3 คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชินโค
สมาชิกชมรมวิจัยภาพยนตร์ ชอบแต่งตัวสไตล์วัยรุ่น
ชิเงโมโตะ มิตสึรุ นักศึกษาปีที่ 2 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยชินโค
สมาชิกชมรมวิจัยภาพยนตร์ เป็นแฟนพันธุ์แท้
ของภาพยนตร์ประเภทหนึ่ง
นานามิยะ คาเนะมิตสึ อดีตสมาชิกชมรมวิจัยภาพยนตร์ของมหาวิทยาลัยชินโค
ลูกชายเจ้าของบ้านชิจิน
เดเมะ โทบิโอะ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยชินโค เพื่อนของนานามิยะ
ทัตสึนามิ ฮารุยะ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยชินโค เพื่อนของนานามิยะ
คันโนะ ยุอิโตะ ผู้ดูแลบ้านชิจิน
ฮามาซากะ โทโมโนริ รองศาสตราจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ
แห่งมหาวิทยาลัยกิเซ็น
มาดาระเมะ เอทัตสึ คหบดีแห่งเมืองโอคายามะ
ผู้ก่อตั้งสถาบันมาดาระเมะ
เรียน คุณเคนซากิ ฮิรุโกะ

ผมหวังว่าคุณคงจะสบายดี ผมไม่ถนัดการพูดทักทายจึงขอเข้าประเด็นเลย
ก็แล้วกัน จากที่คุณได้จ้างให้เราตรวจสอบองค์กรหนึ่งที่ชื่อว่าสถาบันมาดาระเมะ จึง
ขอส่งรายงานการตรวจสอบให้ทราบ แต่ต้องขอออกตัวก่อนว่า จากมุมมองของผม
ซึ่งเป็นคนรวบรวมข้อมูล รายงานนี้มีความแปลกประหลาดผิดธรรมชาติชวนสงสัย
อยู่ไม่น้อย ระหว่างที่ตามเรื่องอยู่ก็สืบไปได้ถึงความลับสุดยอดของฝ่ายความมั่นคง
แห่งชาติเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้ การตรวจสอบครัง้ นีจ้ งึ ขอให้เป็นงานส่วนตัวของผมเอง ไม่ได้ท�ำใน
นามของบริษัท พนักงานคนอื่นๆ ในบริษัทไม่มสี ่วนรับรู้และเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น และ
ขอให้คณ ุ เก็บเรือ่ งรายงานนีเ้ ป็นความลับ อย่าได้แพร่งพรายแก่บคุ คลทีส่ ามเป็นอันขาด
และเมื่ออ่านจบแล้วขอให้ทำ� ลายเอกสารนี้ทั้งหมดด้วย

สถาบันมาดาระเมะ

สถาบันวิจยั ทีก่ อ่ ตัง้ ขึน้ โดยคหบดีแห่งเมืองโอคายามะ ไม่ทราบช่วงเวลาก่อตัง้


ที่แน่นอนแต่น่าจะเป็นช่วงหลังสงคราม ตั้งอยู่ในเมือง xx ของจังหวัดโอคายามะ
ท่ามกลางหุบเขาห่างไกลจากชุมชน มีขอ้ มูลหลงเหลืออยูว่ า่ ฉากหน้านัน้ ได้จดทะเบียน
สถาบันขึ้นมาเพื่อท�ำการวิจัยยา ตัวอาคารมีห้องใต้ดินหลายชั้น นับว่าเป็นอาคารที่
ใหญ่โต และยังมีคนเล่าว่าทีน่ ไี่ ด้รวบรวมเอานักวิจยั และนักวิชาการแปลกๆ หลากหลาย
จากทั่วทั้งประเทศมาท�ำงานด้วย โดยท�ำการวิจัยทุกประเภทและการวิจัยยังท�ำทั้ง
กลางวันและกลางคืน ไม่ค่อยได้รบั ความสนใจจากสังคมภายนอกนัก
จากค�ำบอกเล่าของชายชราคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนั้น เล่าสิ่ง
ที่เห็นตอนเดินหลงเข้าไปในบริเวณสถาบันว่า ข้างในนั้นเลี้ยงสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวเอาไว้
แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ บ้างก็ว่าที่นี่มีเอกสารการทดลองของพวกนาซีสมัย
สงครามโลกครั้งที่สอง และเรื่องลึกลับสยองขวัญต่างๆ อีกนับไม่ถ้วน ซึ่งรายละเอียด
อยู่ในเอกสารที่แนบมาด้วยแล้ว
ตัง้ แต่ก่อตัง้ สถาบันมาดาระเมะก็ด�ำเนินกิจการเรือ่ ยมาเป็นเวลาเกือบสีส่ บิ ปี
จนกระทัง่ ในปี 1985 ได้ถกู หน่วยความมัน่ คงหมายตาว่าเป็นพวก “กลุ่มคนไม่น่าไว้ใจ
ที่ต้องเฝ้าระวัง” หลังจากที่มีการเข้าค้น สถาบันก็ถูกสลายกลุ่มไปในที่สุด เรื่องนี้ได้มี
ค�ำให้การจากผู้เกี่ยวข้องว่าเป็นความต้องการอย่างแรงกล้าของรัฐบาลสมัยนายกฯ
นาคาโซเนะ นับว่าเป็นองค์กรที่มีอิทธิพลมากจนท�ำให้รัฐต้องยื่นมือเข้ามาจัดการ
เลยทีเดียว
ทว่าบันทึกที่เกี่ยวกับเอกสารการวิจัยที่ยึดมาได้คราวนั้นไม่มีหลงเหลือเลย
แม้แต่แผ่นเดียว จึงไม่อาจรู้ได้ว่าสถาบันมาดาราเมะท�ำการวิจยั อะไรอยู่กันแน่
และแล้วสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อชายที่มีชื่อว่า ฮามาซากะ
โทโมโนริ รองศาสตราจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพแห่งมหาวิทยาลัยกิเซ็น
ปรากฏตัวขึ้น เนื่องจากคนคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มซ้ายจัดกลุ่มหนึ่งอย่างมาก
จึงถูกหมายหัวจากหน่วยความมั่นคงไว้เมื่อประมาณสามปีก่อน และในที่สุดเมื่อ
ฤดูรอ้ นทีผ่ า่ นมาก็มกี ารเข้าตรวจค้นทัง้ บ้านและส�ำนักงาน ซึง่ ท�ำให้พบเอกสารทีค่ าดว่า
จะเป็นเอกสารการวิจัยเก่าๆ ของสถาบันมาดาระเมะอยู่ในบ้านของนายฮามาซากะ
คนนี้
แต่ฮามาซากะกลับหายตัวไปพร้อมกับเอกสารการทดลองที่วิจัยในห้องวิจัย
ของมหาวิทยาลัย
และคนคนนีเ้ องทีเ่ ป็นผูอ้ ยูเ่ บือ้ งหลังเหตุการณ์กอ่ การร้ายโดยใช้เชือ้ โรคติดต่อ
ที่ทะเลสาบซาเบะอาเมื่อเดือนสิงหาคมซึ่งคุณเองก็อยู่ในเหตุการณ์น้นั ...
บทที่ 1 : การเจรจาที่แปลกประหลาด

1
“แกงกะหรี่อุด้งไม่ถือว่าเป็นการสืบสวนที่แท้จริงหรอกนะ”
ผมบอกกล่าวไปอย่างนั้น
แน่นอนว่าอุด้งก็คืออาหารประเภทอุด้ง ไม่ได้เกี่ยวกับการสืบสวน
ที่แท้จริงแต่อย่างใด และไม่แม้แต่จะเป็นอาหารจีนแท้อีกด้วย เรื่องนี้ผม
เองก็รู้ดีอยู่แล้ว แต่ที่อยากบอกก็คือการพูดค�ำว่าแกงกะหรี่อุด้งตอนนี้มัน
ไร้เหตุผลที่สุด
“จะถือว่าค�ำพูดนี้เป็นการประกาศท้ารบได้ไหมล่ะ”
ผู้ชายซึ่งยืนยืดหลังตรงราวกับไม้บรรทัดหันมาจ้องหน้าผม ดวงตา
เรียวยาวหลังแว่นไร้กรอบนั้นส่งประกายท้าทายโดยไม่ต้องมีค�ำพูดมา
อธิบายใดๆ ด้วยความทีเ่ ป็นคนตัวสูงยิง่ ท�ำให้ความกดดันเพิม่ มากขึน้ ไปอีก
“อยากคิดแบบนั้นก็เชิญตามสบายเลยครับ แต่ผลลัพธ์มันเห็นกัน
อยู่แล้ว ไม่รู้ทำ� ไมถึงคิดว่าเป็นแกงกะหรี่อุด้ง ช่างยากที่จะท�ำความเข้าใจ
จริงๆ”
ผมเชิดคางขณะที่ยังกอดอกแล้วหันกลับมามองนักศึกษาหญิง
คนหนึ่งต่อ
ในถาดสีฟา้ ทีน่ กั ศึกษาหญิงคนนัน้ ถืออยูย่ งั คงไม่มอี ะไรวาง สายตา
นั้นจ้องมองไปที่ป้ายเมนูซ่งึ เขียนว่า ‘เมนูเส้น’ ขณะที่ยังคงยืนเงียบๆ ใช้
ความคิด เป็นข้อบ่งชี้ว่าก�ำลังใช้ความคิดว่าจะสั่งอาหารอะไรดี
พวกผมนั่งมองจากโต๊ะที่อยู่ห่างออกมาประมาณสิบเมตร

- 12 -
“ถ้ามันยากนักก็จะบอกให้เข้าใจ” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่าง
ไม่เกรงใจ “ดูชดุ ทีเ่ ธอใส่อยูส่ ิ กลางฤดูรอ้ นแบบนีข้ า้ งนอกร้อนอย่างกับนรก
แต่เธอกลับใส่เสื้อกันหนาวแขนยาว”
จริงอย่างที่เขาพูด เมื่อกวาดตามองไปรอบๆ จะเห็นว่าในขณะที่
นักศึกษาคนอื่นใส่เสื้อผ้าบางๆ อย่างเสื้อแขนสั้นกับกางเกงขาสั้นเหนือ
เข่าไม่ก็กระโปรง มีเธอคนเดียวที่ใส่เสื้อกันหนาวแขนยาวสีขาว ท�ำให้ดู
แปลกแยกออกไป
“หมายความว่าแอร์ในโรงอาหารและห้องเรียนมันเย็นเกินไปส�ำหรับ
เธอไงล่ะ โดยเฉพาะในโรงอาหารนีเ่ ป็นเรือนกระจกมีแสงส่องเข้ามาได้มาก
คงต้องปรับแอร์ให้เย็นมากขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่ยากที่จะจินตนาการว่า
คนขี้หนาวอย่างเธอจะต้องหาของกินที่มันอุ่นๆ”
“ที่ว่ามาก็จริงอยู่ แต่ว่าเมนูเส้นไม่ได้มีแต่อุด้ง ยังมีราเมงอีกด้วย
ท�ำไมคุณอาเคจิถึงไม่เลือกราเมงล่ะ”
“ก็เวลาไงล่ะ ฮามุระคุง”
ชายหนุ่มเผยอยิ้มที่มุมปาก ใบหน้าในตอนนี้ราวกับวายร้ายที่มี
แผนจะโค่นรัฐบาลแบบในภาพยนตร์ แต่เนือ้ หาทีพ่ ดู กลับเป็นเรือ่ งเกีย่ วกับ
นักศึกษาหญิงคนหนึ่งว่าจะสั่งอะไรมาเป็นอาหารกลางวันท�ำให้ความน่า
อนาถเพิ่มทวีคูณ ผมไม่อยากขัดให้เสียบรรยากาศจึงไม่พูดเรื่องนี้
“เวลาหรือครับ” ผมถามกลับ
“ใช่ เธอมากับเพื่อนอีกสองคนรวมเป็นสามคน สองคนได้อาหาร
ที่สั่งแล้วและเพิ่งจะจ่ายเงินเสร็จ ดังนั้นเธอจะต้องรีบเพราะไม่อยากให้
เพื่อนรอ แล้วราเมงกับอุด้งอันไหนที่จะได้ก่อนกันล่ะ”
ถ้าคิดแบบทั่วๆ ไปราเมงที่เส้นเล็กกว่าก็น่าจะใช้เวลาต้มเส้น
เร็วกว่า แต่ว่า
“ยังไงก็อุด้ง”
ผมฟันธง ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น

- 13 -
บทที่ 1 : การเจรจาที่แปลกประหลาด

ใช่ พวกผมเองเคยเจอเรือ่ งนีม้ าด้วยตัวเอง ไม่วา่ จะด้วยเหตุผลอะไร


ก็แล้วแต่ โรงอาหารนีใ้ ห้ความใส่ใจกับอุดง้ เป็นพิเศษ เริม่ จากสัง่ เส้นท�ำสด
ใหม่จากโรงงานใกล้ๆ ให้มาส่งวันละสองครั้ง ท�ำให้เมนูประเภทอุด้งเป็น
ทีน่ ยิ มมากในหมู่นกั ศึกษา พอถึงช่วงพักกลางวันจะมีคนสัง่ เมนูนกี้ นั อย่าง
ล้นหลาม ทางครัวจึงเตรียมต้มเส้นเอาไว้ก่อนในปริมาณที่เหมาะสม เมนู
อุด้งจึงไม่ต้องรอนานนัก
แต่ส�ำหรับราเมงนั้นไม่มีการให้ความใส่ใจใดๆ ต่างจากอุด้งโดย
สิ้นเชิง แถมรสชาติก็แย่จึงไม่ได้รบั ความนิยม นอกจากนั้นยังต้มเส้นก็ต่อ
เมื่อมีคนสั่ง จึงท�ำให้ต้องรอนานเกินกว่าจะหิ้วท้องรอไหว บวกกับลุงชาว
ฟิลิปปินส์ (คิดว่าใช่นะ) ที่มีหน้าที่ท�ำราเมงก็เป็นอีกตัวการหนึ่งก็ว่าได้
เพราะเส้นราเมงที่ต้มออกมานั้นต้องใช้ค�ำว่านิ่มจนเรียกได้ว่าเละแถมยัง
อืด ทัง้ ทีว่ ธิ ที ำ� ก็ง่ายแสนง่ายแค่ต้มเส้นตามเวลาทีก่ ำ� หนด แต่ทำ� ไมถึงออก
มาเป็นแบบนั้นได้ก็ไม่รู้
กลับเข้าเรื่องกันดีกว่า สรุปแล้วก็คืออุด้งจะได้เร็วกว่านั่นเอง
“ก็อย่างนัน้ แหละ ตอนรีบๆ ไม่มที างทีจ่ ะสัง่ ราเมงทีใ่ ช้เวลามากกว่า
อยู่แล้ว”
ดูเหมือนว่าสมมุติฐานที่ตั้งมาจะดูมเี หตุมีผลดี
“ถึงตรงนี้ผมก็เห็นด้วย แต่อุด้งร้อนก็มีตัวเลือกสองตัวเลือกคือ
แกงกะหรีอ่ ดุ ง้ กับอุดง้ ซุปนํา้ ใส แล้วท�ำไมถึงคิดว่าเป็นแกงกะหรีอ่ ดุ ง้ ล่ะครับ”
“ก็เธอยืนตรงนั้นไม่ได้เดินไปไหนเลยแม้แต่ก้าวเดียว ไม่มีท่าทาง
ว่าจะไปสั่งอย่างอื่นเลย มื้อกลางวันให้กินแค่อุด้งซุปนํ้าใสไม่ใส่อะไรเลย
จะไปอิ่มได้ยังไง แต่ถ้าเป็นแกงกะหรี่อุด้งก็ไม่น่าแปลกใจเลยก็เพราะมัน
เป็นแกงกะหรี่ไงล่ะ!”
แล้วสมมุติฐานที่มีความสมเหตุสมผลสูงลิ่วก็ร่วงตกกระจาย การ
ตอบโจทย์โดยใช้ความคาดหวังและเหตุผลที่เข้าข้างตนเองนั้นไม่สามารถ
พูดได้ว่าเป็นการสืบสวนที่แท้จริงได้เลย

- 14 -
“...สั่งอุด้งซุปนํ้าใสมากินก็ไม่แปลกนี่ครับ อาจจะก�ำลังประหยัด
เงินหรือลดนํ้าหนักอยู่ก็ได้นี่นา แล้วคุณอาเคจิก็มองข้ามเรื่องบางเรื่อง
ไปนะ ผมว่า”
“หืม อะไรรึ ว่ามา”
ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่รู้สกึ ตัว ผมพูดไปพลางรู้สกึ สะใจเล็กน้อย
“ก็เสื้อกันหนาวของเธอไง มันสีขาวนะครับ คนใส่เสื้อสีนั้นจะสั่ง
แกงกะหรี่อุด้งหรือ”
รอยเปือ้ นของแกงกะหรีเ่ ป็นศัตรูตวั ฉกาจของเสือ้ ผ้าสีขาว หญิงสาว
วัยรักสวยรักงามไม่มีทางละเลยเรื่องแบบนี้แน่ แต่ชายคนนี้ก็ยังไม่ละ
ความพยายามที่จะต่อปากต่อค�ำ
“ก็แค่เสื้อกันหนาว ถอดออกซะก็หมดเรื่อง งี่เง่า!”
“เถียงข้างๆ คูๆ อย่างนั้นเลยหรือครับ”
ไม่ไหวเลย ถ้าอย่างนั้นที่บอกไว้แต่แรกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคน
ขี้หนาวก็ไม่เป็นเหตุเป็นผลน่ะสิ
“ที่ส�ำคัญ ถ้าก�ำลังประหยัดเงินหรือลดนํ้าหนักอยู่ของที่กินได้จะ
มีตัวเลือกจ�ำกัดไม่ต้องใช้เวลาเลือกนานขนาดนั้นหรอก”
“เพราะก�ำลังลดความอ้วน เมนูอาหารก็จะเหลือแค่ไม่กอี่ ย่าง ก็เลย
ต้องเลือกน่ะสิครับ”
ระหว่างที่ก�ำลังโต้ตอบกันอยู่นั้น นักศึกษาหญิงที่ว่าก็เดินออกจาก
ที่คิดเงินแล้วเดินเข้ามาใกล้ พวกผมจึงเลิกโต้เถียงกัน ท�ำเป็นเหมือนว่า
ไม่มอี ะไรพลางแอบยืน่ หน้าเข้าไปมองอาหารในถาด เพือ่ จะได้รผู้ ลแพ้ชนะ
อาหารกลางวันของเธอคนนั้นคือ เมนูแนะน�ำของโรงอาหาร นั่นก็
คืออุด้งเย็นกับหัวไชเท้าขูดและปลาทูน่าราดซอสโชยุ
“ท�ำไมกัน!” อยากจะตะโกนร้องออกมาดังๆ เป็นเมนูที่เหมาะสม
กับมื้อกลางวันก็จริง แต่เธอหนาวแอร์ไม่ใช่หรือ
“เสมอกันอีกแล้วนะครับ”

- 15 -
บทที่ 1 : การเจรจาที่แปลกประหลาด

ผมท�ำเครื่องหมายกากบาทที่ริมสมุดโน้ตเป็นรอบที่สามของวันนี้
ชายคู่แข่งท�ำหน้ามุ่ยแล้วกระดกแก้วนํ้าเย็นที่เริ่มมีหยดนํ้าเกาะขึ้นดื่มจน
หมดแก้ว
ในบรรดาโรงอาหารของมหาวิทยาลัยชินโคซึ่งเป็นมหาวิทยาลัย
เอกชนที่เป็นที่รู้จกั ดีในแถบคันไซ โรงอาหารเซ็นทรัลยูเนี่ยนเป็นโรงอาหาร
ที่นักศึกษาใช้บริการมากที่สุด เป็นโรงอาหารที่ตกแต่งอย่างมีรสนิยมจน
อยากจะต่อท้ายด้วยชือ่ เรียกสวยๆ หรูๆ ว่าคาเฟ่หรือบิสโทรอะไรท�ำนองนัน้
เสียมากกว่า ผนังที่เป็นกระจกเปิดโล่งให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามา
ท�ำให้รู้สึกสดชื่น ผนังประดับด้วยรูปภาพโมเสกสะดุดตาขนาดใหญ่ที่ดู
คล้ายทะเล โรงอาหารมีความกว้างขนาดสนามเทนนิสถึงสี่สนามรวม
กัน ตอนนี้โต๊ะยาวที่วางเรียงเต็มแน่นไปด้วยนักศึกษาประมาณเจ็ดสิบ
เปอร์เซ็นต์ ส่วนครัวที่อยู่ด้านในส่งกลิ่นหอมชวนให้หวิ อยู่ตลอดเวลา ที่ส่ง
กลิ่นยั่วยวนที่สุดน่าจะเป็นซอสเดมิกราส์ของชุดอาหารประจ�ำวัน
หน้าตาของเหล่านักศึกษาที่มาใช้บริการดูสดใส เพราะการสอบ
ปลายภาคที่มีติดต่อกันมาถึงสองสัปดาห์ได้จบลงในช่วงเช้าของวันนี้แล้ว
ตอนนี้ก็คงจะดีใจและคิดถึงแต่แผนไปเที่ยวในช่วงวันหยุดฤดูร้อนที่ก�ำลัง
จะมาถึงเป็นแน่
ช่างน่าอิจฉาพวกเขาเสียจริง เพราะสิ่งที่อยู่ในใจผมตอนนี้ไม่ใช่
ความรื่นรมย์แต่กลับเป็นความหวั่นวิตก
สาเหตุ ใ หญ่ ก็ ม าจากคนที่ นั่ ง อยู ่ ต รงหน้ า นี่ เ อง รุ ่ น พี่ ชั้ น ปี ส าม
คณะวิทยาศาสตร์ อาเคจิ เคียวสุเกะ จากสีหน้าท่าทางเจ็บใจตอนมอง
เครื่องหมายกากบาทในสมุดโน้ตแล้วดูเหมือนว่าจะยังไม่รู้สึกตัว
“โธ่เว้ย ท�ำไมไม่รจู้ กั ใช้ชวี ติ ตามเหตุตามผลกันเลยนะพวกมนุษย์น”ี่
คุณอาเคจิครํา่ ครวญ มันก็นา่ สงสัยอยูว่ า่ สมมุตฐิ านของเขาจะเรียก
ได้ ว ่ า สมเหตุส มผลหรือ เปล่ า แต่ ก็เ ห็น ด้ ว ยว่ า การใช้ ชีวิต ของมนุษ ย์
ไม่สามารถอธิบายได้งา่ ยๆ แบบในนิยาย อย่างเช่น ฤดูหนาวก็อาจจะนัง่ ทีโ่ ต๊ะ

- 16 -
โคทัตสึอุ่นขาแล้วกินไอศกรีมไปด้วย เพราะฉะนั้นจะไปบ่นนักศึกษาหญิง
เมื่อครู่ที่ใส่เสื้อกันหนาวแต่สั่งมื้อเที่ยงเป็นอุด้งเย็นกับหัวไชเท้าขูดและ
ปลาทูน่าราดซอสโชยุก็ไม่ได้
เมือ่ มีเวลาว่างผมกับคุณอาเคจิจะแข่งกันตัง้ สมมุตฐิ านแบบนี้ แต่ก็
แทบจะไม่มใี ครทีช่ นะขาดลอยเสียที เราสองคนแข่งกันได้เกือบจะร้อยครัง้
แล้ว และได้ร้ซู งึ้ ถึงความเป็นจริงอันน่าเศร้าว่าแทนทีจ่ ะตัง้ สมมุตฐิ านอะไร
ออกไปแบบมัว่ ๆ ก็เลือกเอาเมนูแนะน�ำประจ�ำวันยังจะมีโอกาสถูกมากกว่า
แต่ถา้ ท�ำแบบนัน้ ก็จะถูกค่อนแคะว่า “หนีจากการตัง้ สมมุตฐิ านอีกแล้วนะ”
ผมจึงต้องดันทุรังตั้งทฤษฎีท่ีใกล้เคียงกับการสร้างจินตภาพแล้วรอให้มัน
ดับวูบไปเองซํ้าแล้วซํ้าเล่าเหมือนคนที่ไม่รู้จกั จ�ำ
อาเคจิ เคียวสุเกะ รุ่นพี่ผู้มีชื่อราวกับนักสืบชื่อดังคนนี้มีใบหน้า
ค่อนข้างเรียวยาว เป็นใบหน้าที่ดูหลักแหลม อีกทั้งแว่นตาไร้กรอบท�ำให้
ดูสะดุดตา เรื่องที่ว่าท�ำไมถึงได้มาคบหาสมาคมกับผมได้นั้นก็ต้องเล่า
ย้ อ นหลั ง ไปถึ ง เดื อ นเมษายนซึ่ ง เป็ น ช่ ว งหลั ง จากที่ ผ มเข้ า มาเรี ย นใน
มหาวิทยาลัยนี้ใหม่ๆ
มหาวิทยาลัยนี้ก็เหมือนกับมหาวิทยาลัยทั่วๆ ไป สิ่งที่รอคอย
นักศึกษาใหม่ที่ก้าวเท้าเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยในปีการศึกษาใหม่ก็คือ
มหกรรมห่วงโซ่อาหารปลาใหญ่กนิ ปลาเล็ก กระแสร้อนแรงของการชักชวน
คนเข้าชมรม ซึง่ ก็มที งั้ ชมรมอย่างทีเ่ ป็นทางการและไม่เป็นทางการ มีชมรม
มากมายหลากหลายให้เลือก เทียบกับชมรมเด็กๆ เมื่อตอนมัธยมปลาย
ไม่ได้เลย
ส�ำหรับผม ในตอนแรกก็คดิ ว่าอยากจะเข้าชมรมค้นคว้าเรือ่ งลึกลับ
ผมเป็นคนมีนิสัยชอบอยู่คนเดียวไม่เคยเล่นกีฬาอะไรเป็นพิเศษ
เพือ่ นทีพ่ อจะพูดได้วา่ เป็นเพือ่ นสนิทก็ไม่มี เพือ่ นน่ารักทีโ่ ตมาด้วยกันตัง้ แต่
เด็กก็หาไม่ได้ ช่วงเวลาวัยรุน่ ทีผ่ า่ นมาของผมนัน้ สุดแสนจะอับเฉามากเลย
ทีเดียว แล้วผมก็คิดว่ามันคงจะไม่ดีนักถ้าชีวิตในมหาวิทยาลัยของผมจะ

- 17 -
บทที่ 1 : การเจรจาที่แปลกประหลาด

ไม่มีคนรู้จกั พึ่งพาได้เลย เป็นเรื่องไม่ยากที่จะคิดเองได้ว่า เพื่อที่จะใช้ชีวิต


ในสังคมที่มีระบบต่างออกไปจากสังคมเด็กมัธยมปลาย จ�ำเป็นที่จะต้อง
มีค�ำแนะน�ำจากรุ่นพี่และข้อมูลจากเพื่อนร่วมชั้น
ด้วยเหตุนผี้ มซึง่ ชอบเรือ่ งลึกลับมานานแล้วจึงลองไปเยีย่ มชมชมรม
ค้นคว้าเรือ่ งลึกลับซึง่ เขียนโฆษณาตัวเล็กๆ เอาไว้ทมี่ มุ ของใบแนะน�ำชมรม
ต่างๆ ถึงสองครั้ง แต่บอกตรงๆ ว่าผิดหวังมาก
ห้ อ งในตึ ก ของชมรมค้ น คว้ า เรื่ อ งลึ ก ลั บ ซึ่ ง มี ส มาชิ ก ประมาณ
สิบห้าคนจะมีกจิ กรรมทางการแค่ปลี ะครัง้ เฉพาะตอนทีจ่ ะออกวารสาร ส่วน
เวลาปกติก็จะใช้เป็นที่นัดพูดคุยเรื่องสัพเพเหระเสียมากกว่า บรรยากาศ
ไม่กดดันมีอสิ ระแบบนีก้ ด็ อี ยูห่ รอก แต่ผมไม่รสู้ กึ แม้แต่นดิ เดียวว่าพวกรุน่ พี่
มีใจรักในเรื่องลึกลับ เมื่อคุยกันถึงหนังสือที่ชอบก็ได้แต่ตอบกลับมาว่า
“ไม่รู้จัก” “ไม่เคยอ่าน” ต้องคอยมานั่งอธิบายงานของ ฟาน ไดน์ ไม่ก็
ซึซึกิ มิจิโอะ ใหม่ตั้งแต่แรก คุยกันทีไรก็จะเป็นอย่างนี้ทุกทีไป ท�ำให้เกิด
ความร�ำคาญใจกันทั้งสองฝ่าย
เมื่อไปครั้งที่สองแล้วเป็นแบบเดิมท�ำให้ผมหมดความอยากที่จะ
อยู่ในชมรมนี้อีกต่อไป ตอนที่เดินออกมาจากชมรม จู่ๆ ก็ถูกผู้ชายตัวสูง
ไม่คุ้นหน้าขวางทางเอาไว้ แล้วพูดว่า
“ซีรีส์ช่ือประเทศก็ต้องควีน ซีรีส์คฤหาสน์ก็ต้องอายาสึจิ ยูกิโตะ
แล้วถ้าเป็นซีรีส์ฝังศพด้วยดอกไม้ล่ะ?”
เกือบจะถามกลับไปแล้วว่า อะไรกันน่ะ อยู่ดีๆ ก็มาขวางทาง
คุณเป็นใคร แต่ว่า
“อ๊ะ เอ่อ เร็นโจ มิคิฮิโกะ” แต่ปากกลับตอบไปโดยอัตโนมัติ
วินาทีนั้นเอง มือขวาที่ไม่ได้ยื่นออกไปเพื่อให้จับ ก็ถูกกุมไว้แน่น
ด้วยมือที่ใหญ่กว้าง
“ท่าทางมีแวว นี่นายมาเป็นผู้ช่วยฉันไหม”
แล้วก็ถูกลากตัวไปร้านกาแฟใกล้ๆ แม้ยังสับสนอยู่แต่เนื่องจาก

- 18 -
ได้ยินว่าจะเลี้ยงก็เลยสั่งครีมโซดามา เขาแนะน�ำตัวโดยไม่รอเครื่องดื่มที่
สั่งไป
“อาเคจิ เคียวสุเกะ ปีสาม คณะวิทยาศาสตร์ เป็นประธานชมรม
คนรักเรื่องลึกลับ”
ชมรมคนรักเรื่องลึกลับ? อ้าว ไม่ใช่ชมรมค้นคว้าเรื่องลึกลับหรอก
หรือ
“เป็นชมรมย่อยของชมรมค้นคว้าเรื่องลึกลับหรือครับ”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่!”
คุณอาเคจิปฏิเสธค�ำถามตรงไปตรงมาของผมทันที พร้อมทั้งบอก
ว่าเขานี่แหละคือศูนย์รวมของผู้คลั่งไคล้เรื่องลึกลับอย่างแท้จริง
“ใครจะทนอยูก่ บั พวกทีไ่ ม่รจู้ กั ฟาน ไดน์ หรือซึซกึ ิ มิจโิ อะได้ ว่าไหม”
นี่คุณเป็นพี่น้องฝาแฝดของผมที่พรากจากกันตั้งแต่เล็กหรือไงกัน
หลังจากทีไ่ ด้คยุ กัน ระหว่างดืม่ เครือ่ งดืม่ ก็ได้รู้ว่าความจริงแล้วคุณ
อาเคจิเองก็เคยเข้าชมรมค้นคว้าเรื่องลึกลับมาแล้วเหมือนกัน แต่กเ็ หมือน
ผมที่คุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่นานก็ลาออกจากชมรมมาตั้งชมรมใหม่ชื่อชมรม
คนรักเรื่องลึกลับ ตั้งแต่นั้นมาก็ตั้งตัวเป็นผู้ล่าเรื่องลึกลับ ติดตามเรื่อง
ลึกลับต่างๆ รอบตัวเป็นการฝึกฝนทักษะการสืบสวนสอบสวนไปพร้อมกัน
และเมื่อวันก่อน ตัวเขาก็ได้ข่าวจากคนรู้จักว่ามีเด็กใหม่ท่าทาง
หน่วยก้านดีชื่อว่า ฮามุระ ยูซุรุ ปรากฏตัวที่ชมรมค้นคว้าเรื่องลึกลับก็เลย
แกล้งลองถามค�ำถามเมื่อครู่นี้ดู แล้วก็พาตัวออกมาจากชมรมนั้นเสียเลย
“นายเองก็คงไม่คิดจะสมาคมกับพวกนั้นไปตลอดสี่ปีใช่ไหมล่ะ”
คุณอาเคจิพูด จี้ใ จด�ำผมอย่ า งที่สุด สมาชิกชมรมค้นคว้า เรื่อง
ลึกลับชอบแต่เรื่องที่ก�ำลังฮิตในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ตัวเอกมีคาแรกเตอร์
ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังสอดแทรกเรื่องราวของความรักและเรื่องราวของ
วัยรุ่นตลอดทั้งเรื่องซึ่งควรเรียกกันว่าเรื่องลึกลับแบบเบาๆ เสียมากกว่า
ไม่สิ เรื่องแนวนั้นควรจะถูกจัดเข้าอยู่ในหมวดเรื่องลึกลับด้วยหรือเปล่า

- 19 -
บทที่ 1 : การเจรจาที่แปลกประหลาด

ยังน่าสงสัย ยิ่งพูดไปก็จะเป็นการเพิ่มศัตรู (?) โดยใช่เหตุ ไม่พูดเรื่องนี้


ดีกว่า แต่ส�ำหรับคนที่ชื่นชอบผลงานเก่าๆ แบบคลาสสิกหรือเรื่องสืบสวน
แบบแท้จริงแล้ว พูดตรงๆ ว่าไม่อยากเห็นคนที่ไม่รู้จักงานเก่าๆ ใช้ชื่อว่า
ชมรมค้นคว้าเรื่องลึกลับเลยจริงๆ
“ตกลงครับ ผมจะเข้าชมรมคนรักเรื่องลึกลับ”
เหตุผลทีผ่ มตอบตกลงเข้าชมรมนัน้ ไม่ใช่เพราะใจตรงกันหรือเพราะ
หลงคารม แต่เหตุผลจริงๆ ก็คอื เพราะเขาเป็นรุ่นพี่คนแรกที่เลี้ยงเครื่องดื่ม
ผม คนที่เลิกเรียนก็ตรงกลับบ้านไม่เคยแวะที่ไหน
ด้วยประการฉะนี้ผมจึงได้กลายเป็นผู้ช่วยของคุณอาเคจิ สังกัด
ชมรมที่ไม่เป็นทางการของมหาวิทยาลัยชมรมซึ่งไร้กจิ กรรมใดๆ สมาชิกที่
สนใจจะมาเข้าใหม่ในตอนนี้ก็ยังไม่มี

2
“ว่าแต่ ฮามุระคุง ปลายเดือนสิงหามีแผนแล้วหรือยัง”
คุณอาเคจิถามขณะที่ตามองตามเหล่านักศึกษาที่พากันเดินออก
จากโรงอาหาร
“ก็ยังว่างอยู่ จะไปตามหาแมวหายอีกหรือครับ”
“เจ้าบ้า อากาศร้อนแบบนี้ไปตามก้นแมวมันสนุกตรงไหน”
พูดเสร็จก็เอานํ้าแข็งที่ใส่มากับนํ้าเปล่าใส่เข้าปากเคี้ยวกร้วมๆ
การตามหาแมวหายเป็นงานพาร์ตไทม์ที่เขารับมาจากส�ำนักงาน
นักสืบทานุมะซึ่งอยู่ใกล้กบั มหาวิทยาลัยนั่นเอง
คุณอาเคจิผู้ช่ืนชอบปริศนาโดยไม่เลือกว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่อง
แต่งนั้นหวังอยากให้เกิดเรื่องอยู่ตลอดเวลา ถ้าเพียงแค่รอเฉยๆ ก็ยังพอ
ทนไหว แต่คนคนนีช้ อบทีจ่ ะวิง่ ไปหาเรือ่ งใส่ตวั เสมอ เขาถึงกับท�ำนามบัตร

- 20 -
ของตัวเอง (แถมใส่ตำ� แหน่งว่าประธานชมรมคนรักเรือ่ งลึกลับไว้เสร็จสรรพ
เอากับเขาสิ) แล้วก็เทีย่ วเดินแจกป่าวประกาศไปทัว่ ทุกชมรมว่า ‘ถ้ามีเรือ่ ง
อะไรติดต่อมาได้ทกุ เมื่อ’ เขาท�ำแบบนี้มากว่าสองปีแล้ว ท�ำให้เป็นที่รู้จัก
เลื่องลือกันไปทั่วมหาวิทยาลัย เมื่อเขาบอกว่า “นายก็ท�ำนามบัตรด้วยสิ”
ผมจะปฏิเสธเสียงแข็งทุกครั้ง
เห็นแบบนี้ก็เถอะ อย่าดูถูกเขาเชียวนะครับ เพราะคุณอาเคจิ
เคยคลี่คลายคดีในมหาวิทยาลัยได้หลายคดีเลยทีเดียว หลังจากที่ผมเข้า
มาเรียนที่นี่ ก็มีไม่น้อยเลย เช่น ‘คดีข้อสอบวิชาศาสนาและปรัชญารั่ว’
(ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) และ ‘คดีขุดโพรงเซ็นทรัลกราวด์ (ชื่ออย่าง
ไม่เป็นทางการ) เป็นต้น พอเกิดเหตุหรือคดีอะไรขึ้น คนคนนี้จะเปล่ง
ประกายแห่งความหลักแหลม เอ...แต่บางทีก็ไม่เปล่งประกายอะไรเลย
คุณอาเคจิเริ่มไม่พอใจกับการอยู่แต่ในมหาวิทยาลัย แต่ยังออกไป
แจกนามบัตรตามส�ำนักงานนักสืบใกล้ๆ มหาวิทยาลัยและตามป้อมต�ำรวจ
เขารู้จักกับส�ำนักงานนักสืบทานุมะก็ด้วยวิธีนี้ การที่ส�ำนักงานนักสืบส่ง
งานมาให้นับว่าใจดีมาก แต่ส�ำหรับต�ำรวจแล้วการที่คุณอาเคจิมักโผล่
เข้าไปยุง่ ทุกครัง้ เวลาทีเ่ กิดเหตุ ท�ำให้เขาถูกหมายหัวว่าเป็นบุคคลอันตราย
โดยสรุปก็คือ ผมที่ท�ำหน้าที่เป็นผู้ช่วยคุณอาเคจิก็ต้องท�ำหน้าที่ห้ามเขา
ไปพร้อมๆ กัน ในฐานะรุ่นน้อง การดูแลอย่างใกล้ชดิ เป็นความรับผิดชอบ
อันส�ำคัญยิ่ง เพื่อที่ความกระตือรือร้นของเขาจะไม่เป็นการรบกวนคนอื่น
มากนัก
การที่รุ่นพี่นิสัยแบบนี้ถามเรื่องวันหยุดฤดูร้อนเป็นเรื่องที่น่าคิด
เป็นอย่างยิ่ง
หลังจากไปเติมนํา้ เย็นทีเ่ ครือ่ งเติมน�ำ้ กลับมา คุณอาเคจิกพ็ ดู ต่อว่า
“คือฉันได้ยนิ มาว่าช่วงวันหยุดฤดูร้อนนี้ พวกชมรมวิจัยภาพยนตร์
มีแผนออกค่ายที่น่าสนใจมาก”
“เห็นว่าจะไปเช่าเหมาเพนชั่นทั้งหลังแล้วไปถ่ายวิญญาณกันน่ะ”

- 21 -
บทที่ 1 : การเจรจาที่แปลกประหลาด

“พูดง่ายๆ ก็คอื ยกทีมไปทดสอบความกล้าท้าชนผีกนั นอกสถานที่


น่ะหรือครับ”
“ไม่ใช่ๆ เห็นว่าจะใช้กล้องวิดีโอบ้านธรรมดานี่แหละถ่ายท�ำสไตล์
POV 1 แบบเดียวกับเรื่อง ‘The Blair Witch Project’ หรือ ‘Paranormal
Activity’ ถ่ายในมุมมองของนักแสดง คราวนี้จะถ่ายท�ำแบบหนังสั้นมากๆ
แบบที่พอหน้าร้อนก็มักจะมีรายการพิเศษแนวนี้ออกมาไง”
หมายถึงรายการพิเศษเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวหรือวิญญาณสินะ
ความจริงแล้วผมก็ไม่ได้เกลียดรายการแบบนี้หรอก
“รายการพวกนี้ก็สนุกดีนะครับ”
“ฮื่อ แต่ไม่เอาไอดอลอ่อนยวบยาบที่ท�ำเป็นป่วยเวลาไปจุดที่มี
วิญญาณนะ ดูแล้วหมดอารมณ์”
“เห็นด้วยอย่างแรง”
และโดยส่วนตัว ผมไม่ชอบพวกพิธีไล่ปีศาจของต่างประเทศ มัน
ยืดยาดน่าร�ำคาญ
“แต่ว่าท�ำไมถึงต้องไปถ่ายวิญญาณด้วยล่ะครับ จะเอาคลิปไป
อัปลงโซเชียลหรือฉายในงานของมหาวิทยาลัยหรือไง”
“ก็คงจะเป็นกิจกรรมของชมรมอย่างหนึ่งล่ะมั้ง แต่ก็คงจะอัปให้
คนดูนั่นแหละ ถึงจะเป็นมือสมัครเล่นแต่อาจจับพลัดจับผลูมีบริษัทใหญ่ๆ
มาทาบทามขอซือ้ แลกเงินค่าขนม ถ้าได้ลงในรายการพิเศษทีว่ า่ มาก็ถอื ว่า
โคตรโชคดี”
ก็จริงอย่างที่ว่า ได้ท้งั กิจกรรมชมรม ทั้งก�ำไร ทั้งเป็นความทรงจ�ำ
ในหน้าร้อนอีกด้วย ช่างเป็นเรื่องที่มีแต่ได้กับได้
“ก็เลยคิดว่าจะขอไปกับพวกเขาด้วย”
“เอ๋” ผมร้องเสียงหลงกับเรื่องที่ไม่คาดคิดนี้
“ไปขอหัวหน้าชมรมแล้วแต่โดนปฏิเสธกลับมา”
1
Point Of View มุมมองผ่านสายตาของตัวละคร

- 22 -
“ก็น่าจะเป็นอย่างนัน้ นะครับ”
“ไปขอมาสามครั้งตั้งแต่เดือนที่แล้ว ยังไงก็ไม่ยอมให้ไปด้วย”
“โดนปฏิเสธมาสองครั้งแล้วยังไปขอครั้งที่สามอีก ผมล่ะอิจฉา
เส้นประสาทด้านได้อายอดของรุ่นพี่เสียจริงๆ”
ผมชื่นชมพลังในการท�ำสิ่งต่างๆ ของเขาก็จริง ยกเว้นเรื่องที่ไม่รู้จัก
กาลเทศะ ไม่ง้นั ก็เป็นคนสมบูรณ์แบบไปแล้ว
คนในชมรมเขาอุตส่าห์วางแผนจะไปเทีย่ วกันคงไม่อยากให้คนนอก
ไปด้วยหรอก
แต่คุณอาเคจิก็ไม่มีทีท่าว่าจะล้มเลิกความคิด ยังคงเอามือกอดอก
โยกล�ำตัวด้านบนเล็กน้อย
“แต่ว่านะ ฮามุระคุง เพนชั่นเชียวนะ เพนชั่นในหน้าร้อน เพื่อน
อายุรุ่นราวคราวเดียวกันมาอยู่รวมกัน จะต้องเกิดเหตุอะไรขึ้นแน่นอน”
ไม่ใช่คฤหาสน์ ริระ 1 สักหน่อย
ผมเองในฐานะที่เป็นผู้ชื่นชอบเรื่องลึกลับคนหนึ่ง เมื่อได้ยินค�ำ
ว่าคฤหาสน์ เกาะร้าง หรือเพนชั่น เซลล์ทั่วร่างกายจะเกิดอาการตื่นเต้น
ทันที บางครั้งร่างกายถึงกับมีปฏิกิริยาแม้แต่เมื่อได้ยินค�ำว่าคฤหาสน์
ชาวต่างชาติที่โกเบหรือบ้านโกลเวอร์ที่นางาซากิซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกันกับ
เรื่องลึกลับเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามคนเราไม่ควรท�ำความเดือดร้อน
ให้คนอื่น ว่าไหม
“คุณอาเคจิ อย่าไปก่อความร�ำคาญให้คนอืน่ มากนักเลย แค่นกี้ ช็ อื่
กระฉ่อนไปไกลมากแล้ว”
“เฮ้อ...ท�ำยังไงถึงจะไปกับพวกเขาได้นะ”
คุณอาเคจิยงั คงอาลัยอาวรณ์ในเรือ่ งนี้ แต่มนั คงไม่สามารถท�ำอะไร
ได้แล้ว
ไม่ใช่สิ ผมคิดไปเองว่าไม่สามารถท�ำอะไรได้ต่างหาก
1
เหตุเกิดที่คฤหาสน์ ริระ : นิยายลึกลับสืบสวนของอายุคาวะ เท็ตสึยะ

- 23 -
บทที่ 1 : การเจรจาที่แปลกประหลาด

3
เข้าสู่เดือนสิงหาคม ทั้งผมและคุณอาเคจิซึ่งว่างแสนว่างไม่มีอะไร
ท�ำก็พากันไปสิงอยู่ที่ร้านกาแฟใกล้มหาวิทยาลัยเกือบจะทุกวัน เป็นร้าน
ทีค่ ณ
ุ อาเคจิเคยพามาวันทีพ่ บกันครัง้ แรก ร้านนีไ้ ม่ใช่รา้ นทีเ่ สิรฟ์ ชุดอาหาร
กลางวันหรูๆ แต่เป็นร้านที่มีเพียงไม่กี่เมนู เพราะมีเพียงแค่เจ้าของร้าน
กับสาวเสิร์ฟอีกหนึ่งคนช่วยกันท�ำ ด้านในตกแต่งแบบย้อนยุค หน้าต่าง
บานเล็กๆ ประดับด้วยกระจกสเตนกลาส 1 มีเพียงแสงสลัวๆ คละเคล้า
ด้วยเสียงเพลงบรรเลงจากแผ่นเสียงที่เปิดเบาๆ ปกติในร้านจะเต็มไป
ด้วยนักศึกษาถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อน
ภายในร้านจึงเงียบสงบไม่เหมือนอย่างเคย ท�ำให้สัมผัสถึงกลิ่นหอมของ
เมล็ดกาแฟได้ชดั เจนกว่าเดิม
“เฮ้อ ถูกปฏิเสธอีกแล้ว”
คุณอาเคจินงั่ ลงทีเ่ ก้าอีส้ กี าแฟซึง่ ชวนให้คดิ ถึงอายุของมัน ขายาวๆ
ยืดลงใต้โต๊ะเตี้ยแล้วก็พูดประโยคเมื่อครู่ ด้านหน้ามีกาแฟวางอยู่ ส่วน
ตรงหน้าผมมีครีมโซดาสีเขียวมรกต
ดูเหมือนว่ายังไม่เลิกคิดที่จะไปออกค่ายกับพวกชมรมภาพยนตร์
“คุณอาเคจิ ผมว่าเลิกท�ำแบบนี้เถอะครับ”
“แบบนี้คือแบบไหน”
“ก็แบบตื๊อไม่ปล่อยน่ะสิ เขาบอกว่าไม่กค็ ือไม่ ไม่ใช่เซียมซีที่เสี่ยง
แล้วเสีย่ งใหม่ได้อกี นะครับ นักสืบเข้าไปมีส่วนร่วมในคดีอย่างมีศกั ดิศ์ รีถงึ
จะเท่นะครับ”
“ฉันก็แค่ก้มหัวขอร้อง ไม่ได้ท�ำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อย”
“คนที่คดิ แบบนี้น่ะอันตรายที่สุด”
“จะปล่อยให้หน้าร้อนผ่านไปโดยไม่มเี หตุการณ์อะไรเลยได้ยงั ไงเล่า
1
กระจกสีที่ประณีตสวยงาม น�ำมาเรียงต่อกันบนรางโลหะที่ออกแบบลวดลายไว้โดยเฉพาะ

- 24 -
ต้องท�ำอะไรสักอย่างสิ”
เกินเยียวยาเสียแล้ว เจอค�ำว่าเพนชั่นที่ส่อแววลึกลับ บวกกับ
ความร้อนของหน้าร้อนท�ำให้เตลิดเปิดเปิงไปเสียแล้ว
ขณะผมก�ำลังกลัดกลุ้มกับการหาวิธีให้คุณอาเคจิเลิกคิดเรื่องการ
ออกค่าย ก็ได้ยินเสียงกระดิ่งที่ประตูดังกริ๊ง มองข้ามไหล่คุณอาเคจิไป
ก็เห็นลูกค้าผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา
หญิงสาวกวาดตามองไปรอบร้านเล็กๆ อย่างช้าๆ ก่อนจะเดินตรง
ดิ่งเข้ามาหยุดยืนที่ต�ำแหน่งเยื้องไปทางด้านหลังของผม
“ขอโทษนะคะ คุณอาเคจิกับคุณฮามุระชมรมคนรักเรื่องลึกลับ
ใช่ไหมคะ”
รู้สึกตกใจที่จู่ๆ ก็ถูกเรียกชื่อ แต่พอหันไปมองหน้าของเธอแล้วยิ่ง
ตกใจมากกว่าเดิม
ช่างเป็นสาวน้อยทีส่ วยงามเหลือเกิน เอ เป็นสาวน้อยหรือเปล่านะ
เธอสวมเสื้อสีด�ำกับกระโปรง ผมที่ยาวประบ่าด�ำสนิท ความสูงน่าจะ
ประมาณร้อยห้าสิบเซนติเมตรนิดๆ กระโปรงที่ใส่เป็นทรงเอวสูงจึงยิ่ง
ท�ำให้ดูเพรียวมากขึ้น รูปลักษณ์ต้องบอกว่าออกไปทางสวยงามมากกว่า
น่ารักจึงจะถูกต้อง และเป็นวัยที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเด็กสาวกับหญิงสาว
พอดี ช่างต่างจากมนุษย์นักศึกษาหญิงในรั้วมหาวิทยาลัยนี้อย่างสิ้นเชิง
“คุณเป็นใครหรือครับ”
คุณอาเคจิถามกลับไป อาการเนือยๆ เมื่อครู่หายไปเสียแล้ว รู้จกั
ชมรมคนรักเรื่องลึกลับแบบนี้แสดงว่าเป็นนักศึกษาที่นี่แน่นอน ทั้งที่คุณ
อาเคจิรู้จกั คนเยอะขนาดนี้แต่ยังไม่รู้จกั คนนี้หรอกหรือ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันชื่อ เคนซากิ ฮิรุโกะ อยู่คณะอักษรศาสตร์
ปีสอง จ�ำเอาไว้ให้ข้นึ ใจด้วยนะคะ”
คุณอาเคจิเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ส่วนผมเรียนอยูค่ ณะเศรษฐศาสตร์
ไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องอะไรกันนี่นา รู้จกั คุณอาเคจิน่ะไม่แปลก แต่รู้จัก

- 25 -
บทที่ 1 : การเจรจาที่แปลกประหลาด

ชื่อผมเสียด้วยนี่สิ ไม่รู้ว่าเป็นใคร ต้องการอะไร


“เคนซากิ เคนซากิรึ” คุณอาเคจิยํ้าเหมือนคิดอะไรไม่ออก “แล้วมี
ธุระอะไรกับพวกเราหรือ?”
“ฉันมาขอเจรจาค่ะ”
เธอพูดอย่างไม่อ้อมค้อม
“คุณอาเคจิอยากจะไปออกค่ายกับชมรมวิจยั ภาพยนตร์ใช่ไหมคะ”
“รู้ได้ยังไงเนี่ย”
“ได้ยินเพื่อนในชมรมวิจัยภาพยนตร์คุยกันค่ะ เห็นบอกว่าท่าทาง
จะไม่ยอมถอยง่ายๆ เสียด้วย”
“ใช่แล้ว แต่กถ็ ูกปฏิเสธอย่างไม่มเี ยื่อใย” พูดแล้วก็ยักไหล่
เฮ้อ ไม่มีเยื่อใยอะไรกันล่ะ เขาปฏิเสธมาก็ยังไปวุ่นวายกับเขาอีก
ไม่โดนชกกลับมาก็เป็นบุญเท่าไรแล้ว
เมื่อได้ยินแบบนั้น สาวงาม คุณเคนซากิกถ็ ามว่า
“แล้วรู้ไหมคะ ว่าโดนปฏิเสธเพราะอะไร”
“เพราะอะไร?”
“งั้นฉันขอเล่าให้ฟังได้ไหมคะ?”
พูดเสร็จก็ยิ้มเสียน่ารัก และแล้วสิทธิ์ขาดในบทสนทนาก็ตกเป็น
ของเธอโดยสมบูรณ์ ผมขยับไปนั่งเก้าอี้อีกตัวหนึ่งเพื่อให้เธอนั่ง
“ขอบคุณนะ”
ระหว่างที่คุณเคนซากิรอกาแฟที่สั่ง คุณอาเคจิก็ถามขึ้นทันที
“แล้วเหตุผลที่ผมถูกปฏิเสธคืออะไร? ผมคิดว่าไม่อยากให้คนนอก
เข้าร่วมด้วยเสียอีก”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นเรื่องเดียวหรอกค่ะ แต่ข้อมูลนี้ฉันก็ฟังมาจากเพื่อน
อีกทีเหมือนกัน”
เธอออกตัวก่อนจะเริ่มพูดต่อ
“การไปออกค่ายครัง้ นี้ จุดประสงค์ไม่ใช่การถ่ายท�ำวิดโี อแต่เป็นการ

- 26 -
พบปะสังสรรค์ของสมาชิกชายหญิงในชมรมมากกว่า เหมือนการนัดเดต
แบบภายในน่ะค่ะ หน้าร้อนก็แบบนี้แหละค่ะ แล้วก็เพนชั่นที่จะไปพักกัน
เจ้าของก็คือพ่อของศิษย์เก่าคนหนึ่ง นอกจากจะเหมาพักทั้งหลังได้แล้ว
ยังฟรีอีกด้วย แต่จำ� นวนห้องพักมีจ�ำกัด แม้แต่สมาชิกชมรมเองก็ยังไม่ได้
ไปทุกคน ที่เรียกกันว่าออกค่ายนั้น จริงๆ แล้วเหมือนจะมีการส่งบัตรเชิญ
เจาะจงคนเสียมากกว่า ด้วยเหตุนจี้ งึ ไม่สามารถให้คนนอกเข้ามาร่วมด้วยได้”
ส�ำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยทีเ่ ข้าสูว่ ยั ร่าเริงเต็มทีน่ นั้ การไปเทีย่ ว
โดยการเช่าเหมาเพนชั่นทั้งหลังถือเป็นการท่องเที่ยวในฝันเลยทีเดียว แม้
แต่สมาชิกชมรมยังไม่ได้ไปทุกคน แล้วคนนอกอย่างเราเขาไม่ให้ไปก็ไม่มี
สิทธิ์ไปว่าอะไรเขาอยู่แล้ว เลิกคิดเถอะนะคุณอาเคจิ
“แต่เมื่อไม่นานมานี้ สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้วค่ะ”
เอ้า เค้าลางเมฆฝนก่อตัวขึ้นมาแล้วล่ะสิ
“สองอาทิตย์ก่อนวันเดินทาง เกิดมีสมาชิกขอถอนตัวหลายคน
ที่จริงคนที่เล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังก็เป็นหนึ่งในคนที่ขอถอนตัว”
“มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึ”
คุณอาเคจิไม่ได้ยกกาแฟขึน้ จิบเลยตัง้ แต่เมือ่ ครู่ ความสนใจทัง้ หมด
พุ่งไปยังเรื่องที่คุณเคนซากิพูด
“มีคนส่งจดหมายขู่มา”
คุณเคนซากิยกกาแฟขึ้นดื่มเหมือนจะแกล้งให้รอเรื่องส�ำคัญ
“คนที่เจอคนแรกคือเพื่อนฉันเอง วันนั้นเขาเผอิญมาถึงห้องชมรม
เร็วเป็นพิเศษก็เห็นกระดาษใบหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ”
“แล้วเขียนอะไรไว้”
“เขียนไว้ว่า ‘เหยือ่ ปีนจี้ ะเป็นใคร?’ ข้อความเขียนด้วยปากกาเมจิก
สีแดง ตัวอักษรตัง้ ใจเขียนด้วยลายมือแบบเละมาก น่าจะเพือ่ ไม่ให้สาวไป
ถึงผู้เขียนได้”
ผมเอียงคอถามด้วยความสงสัย

- 27 -
บทที่ 1 : การเจรจาที่แปลกประหลาด

“เป็นข้อความที่ประหลาดดี ไม่มีคำ� กริยาบ่งชี้ว่าจะฆ่าหรือจะสาป


แช่ง จริงๆ แล้วจะว่าเป็นจดหมายขู่กไ็ ม่ถูก”
“ใช่เลยค่ะ แต่ก็มีสมาชิกชมรมหลายคนที่พอจะรู้ว่าข้อความนี้มี
ที่มาที่ไปยังไง”
คุณเคนซากิเบาเสียงลง เกรงว่าจะมีใครมาได้ยนิ เข้า
“ปีที่แล้วสมาชิกชมรมผู้หญิงคนหนึ่งไปออกค่ายกลับมาแล้วฆ่า
ตัวตายหลังจากปิดเทอมหน้าร้อน คุณอาเคจิไม่รู้เรื่องนี้หรือคะ”
“อ๋อ เรือ่ งนีเ้ คยได้ยนิ แล้ว ก็นา่ จะเคยสืบเรือ่ งอยูน่ ดิ หน่อย แต่สดุ ท้าย
เหมือนจะสรุปว่าไม่ได้เป็นการฆาตกรรมก็เลยไม่เป็นข่าวใหญ่ออกมา”
“ใช่ คงบอกไม่ได้ว่าการฆ่าตัวตายกับการออกค่ายเกี่ยวข้องกัน
แต่จากค�ำให้การของสมาชิกชมรมหลายๆ คน พูดกันว่าวิดโี อวิญญาณที่
ไปถ่ายท�ำเมื่อปีท่แี ล้วมีใบหน้าของคนที่ไม่ได้เตี๊ยมกันไว้ก่อนโผล่มาด้วย”
“เพราะเหตุนั้นก็เลยเชื่อกันว่าโดนอาถรรพ์หรือค�ำสาปหรือครับ?”
ผมถามพลางขมวดคิ้ว
“ก็เป็นแค่ข่าวลือเท่านั้นแหละค่ะ แต่สมาชิกชมรมก็เชื่อไปแล้ว
ว่าการออกค่ายคือต้นเหตุ ที่จริงปีที่แล้วนอกจากจะมีคนฆ่าตัวตาย ก็ยัง
มีหลายคนที่ขอลาออกจากชมรมหรือไม่ก็ลาออกจากมหาวิทยาลัยไปเลย
ถึงจะมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแต่ปีน้กี ็ยังมีการจัดกันอีก”
“เป็นเพราะจดหมายขูเ่ ลยท�ำให้กลัวกันไปเลยล่ะสิ” คุณอาเคจิรบั ช่วง
“ใช่เลยค่ะ”
“สมาชิกชมรมที่ขอถอนตัวน่ะ เชื่อจดหมายขู่กนั ด้วยหรือครับ”
ผมก็ยงั ไม่ค่อยเชือ่ อยู่ดี จริงอยู่ทวี่ ่าน่ากลัว แต่วยั รุ่นสมัยนีไ้ ม่น่าจะ
ยกเลิกแผนการไปเที่ยวเพราะเรื่องแบบนี้
คุณเคนซากิพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมพูด
“ยังมีต่อค่ะ คือหลังจากที่เพื่อนฉันได้จดหมายขู่ ประธานชมรม
ก็เข้ามาหาที่ห้องชมรมทันที”

- 28 -
“ชินโดคุงสินะ” คุณอาเคจิเสริม คงเป็นคนที่ไปตามตื๊อขอร้องให้
ยอมไปออกค่ายนั่นด้วยสินะ
“ใช่ค่ะพอคุณชินโดเห็นจดหมายก็เลยสั่งทุกคนว่าอย่าแพร่งพราย
ออกไปให้คนอื่นรู้
ที่ จ ริ ง แล้ ว คุ ณ ชิ น โดเป็ น หนึ่ ง ในสมาชิ ก ชมรมเพี ย งไม่ กี่ ค นที่ ไ ป
ออกค่ายเมื่อปีที่แล้วด้วย เพื่อนของฉันรู้สึกได้จากท่าทางของคุณชินโด
ว่าคงจะมีเบื้องหลังที่ไม่ชอบมาพากลอยู่แน่ๆ จึงตัดสินใจไม่เก็บไว้เป็น
ความลับ เล่าเรือ่ งทีเ่ กิดขึน้ ให้คนอืน่ ฟังแล้วก็ไปขอถอนตัว สมาชิกในชมรม
คนอื่นก็เลยขอถอนตัวตามๆ กัน”
มันก็สมควรอยู่ ถ้าประธานชมรมซึง่ น่าจะรูเ้ รือ่ งทีเ่ กิดขึน้ เมือ่ ปีทแี่ ล้ว
ท�ำตัวน่าสงสัย กลุ่มสาวๆ ก็ต้องกังวลกันแน่นอน
“อย่างนี้นี่เอง เข้าใจแล้วว่ามันเป็นยังไงมายังไง”
คุณอาเคจิพยักหน้าแล้วถามอย่างระมัดระวังว่า
“เมื่อครู่น้ที ี่พูดว่าเจรจา มันหมายความว่ายังไง”
“คุณชินโดเขาก�ำลังกลุม้ ใจเรือ่ งทีไ่ ปขอเช่าเหมาเพนชัน่ จากศิษย์เก่า
มา จะขอยกเลิกเพราะจ�ำนวนคนไม่พอก็ไม่ได้ ตอนนี้จึงมีความเป็นไปได้
ที่จะเปิดรับคนนอก”
“แต่ผมถูกปฏิเสธมานี่นา”
“ก็เพราะที่คุณสมัครไปมีแต่ผู้ชายไง”
คุณเคนซากิพูดฟันธง
“งานนี้ จุดประสงค์จริงๆ ก็คือ การนัดจับคู่กันระหว่างหนุ่มสาว
ถ้าไม่มผี ู้หญิงไปด้วยก็จะถูกปฏิเสธ เลยอยากจะมาชวนว่า เราไปด้วยกัน
ไหมคะ”
เมื่อได้ฟังข้อเสนอนี้ท�ำให้ดวงตาหลังแว่นถึงกับเบิ่งโต
“คุณอาเคจิเองก็ถูกตั้งสมญานามว่าเป็นโฮล์มส์แห่งมหาวิทยาลัย
ชินโค จะว่าไปเรื่องการไปออกค่าย หรือจดหมายขู่นริ นามน่าจะเป็นคดีที่

- 29 -
บทที่ 1 : การเจรจาที่แปลกประหลาด

คุณอาเคจิชอบไม่ใช่หรือคะ”
“อืม”
ท�ำสุม้ เสียงท่าทางเหมือนคิด แต่ความจริงแล้วก�ำลังดีใจจนเนือ้ เต้น
สั่นขาจนจานช้อนบนโต๊ะกระทบกันเสียงดังกึกกักเพราะเก็บความตื่นเต้น
ไว้ไม่อยู่ ทว่าเจ้าตัวไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าตนเองออกอาการจนคนอื่นรู้ไปถึง
ไส้ถึงพุง ยังแกล้งกระแอมไอเพื่อกลบเกลื่อนเสียด้วย
“อืม จะว่าชอบก็ใช่นะ”
“จริงๆ แล้วฉันคุยกับคุณชินโดมาแล้วเรียบร้อยค่ะ ดูเหมือนว่าการ
ชวนสาวๆ ไปออกค่ายไม่ใช่เรื่องง่าย เขาก็เลยมาชวนผู้หญิงที่ชมรมการ
แสดงด้วย ถ้าฉันไปด้วยก็จะพาเพื่อนผู้ชายไปด้วยได้อกี สองคน”
ช่างเป็นคนที่รอบคอบจริงๆ และถือว่าเป็นโชคดีมากของพวกผม
หรืออย่างน้อยก็คณ ุ อาเคจิทอี่ ยู่ดๆี ก็มเี รือ่ งแบบนีเ้ กิดขึน้ เองโดยไม่ต้องท�ำ
อะไร แต่ผมรู้สกึ ได้ถึงความไม่ชอบมาพากลจึงพูดแทรกขึ้นว่า
“เอ...เมื่อสักครู่คุณพูดเรื่องการเจรจาต่อรองนี่นา ถ้าแบบนี้มันมี
แต่พวกผมที่ได้ประโยชน์ อยากรู้ว่าท�ำไมถึงเอาเรื่องนี้มาคุยกับพวกผม”
ในตอนนั้น ผมรู้สึกว่าจะแอบเห็นเขี้ยวเล็กๆ โผล่ออกมาให้เห็น
จากริมฝีปากที่เผยอเล็กน้อยของคุณเคนซากิ แต่รอยยิ้มเพียงแค่เสี้ยว
วินาทีก็ถูกซ่อนไว้เพราะเธอก้มหน้าลง
“เงื่อนไขของฉันก็คือต้องไม่ถามถึงเหตุผล”
ช่างเป็นการเจรจาทีแ่ ปลกประหลาด เคนซากิ ฮิรโุ กะทีอ่ ยูด่ ๆี ก็ปรากฏ
ตัวต่อหน้าพวกผมนั้น มาบอกว่าอยากจะไปออกค่ายที่มีลับลมคมในกับ
พวกผมทั้งที่ไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อน เริ่มมาก็มแี ต่เรื่องที่ไม่เข้าใจเต็มไป
หมด แต่กเ็ พราะอย่างนีน้ แี่ หละ คุณอาเคจิจงึ ไม่คดิ จะวางมือง่ายๆ แน่นอน
“โอเค ผมตกลงตามนั้น”
แล้วมุมปากนั้นก็เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่กลั้นไม่อยู่อกี ครั้ง

- 30 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

1
แสงแดดเจิดจ้ายามเช้าสาดส่องไปยังตึกคอนกรีตเก่าๆ คละคลุ้ง
ไปด้วยกลิ่นเชื้อรา ที่ขอบหน้าต่างไม่หลงเหลือทั้งผ้าม่านและบานกระจก
หน้าต่างให้เห็น
โรงแรมเก่าผุพังตั้งอยู่กลางหุบเขานี้ถูกทิ้งร้างมากว่ายี่สิบปีแล้ว
รอบๆ บริเวณไม่มีสิ่งก่อสร้างใด ท�ำให้ในปัจจุบันแม้แต่คนที่อาศัยอยู่
ละแวกนี้แทบจะไม่มีใครอยากเยื้องกรายเข้ามาใกล้ ฮามาซากะหรี่ตาลง
แล้วเริ่มคิด วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสราวกับจะเย้ยหยันว่าวันดีๆ ที่เหมาะกับ
ความตายควรจะเป็นวันแบบนี้นั่นเอง
มีเสียงเรียกมาจากด้านหลัง
“ฮามาซากะ มีขา่ วจากกอนโดเข้ามาว่าเมือ่ วานนี้ ทัง้ ต�ำรวจทัง้ หน่วย
ความมั่นคงบุกเข้ายึดห้องวิจัยของนายตามที่คาดเอาไว้”
“งั้นรึ”
ชีวติ นักวิจยั ของฮามาซากะกว่ายีส่ บิ ปีและห้องวิจยั ของมหาวิทยาลัย
ที่ทุ่มเทมาทั้งชีวิตได้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูเสียแล้ว แต่มันก็ไม่ได้
ท�ำให้ฮามาซากะรูส้ กึ โมโหโกรธาจนตัวสัน่ หรือเกิดความแค้นเคืองใดๆ เขา
แค่แสดงท่าทีเฉยเมยเงียบๆ เขาเอาผลการวิจัยออกมาได้ทั้งหมด ข้อมูล
ในคอมพิวเตอร์กล็ บทิง้ ไปหมดแล้ว ส่วนเอกสารทีท่ งิ้ เอาไว้กไ็ ม่ได้มคี า่ อะไร
มากนัก ห้องวิจัยนั้นเป็นแค่เพียงเปลือกดักแด้ท่ตี ัวเต็มวัยลอกคราบทิ้งไป
เชิญค้นกันให้หัวหมุนไปเลย

- 31 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

ภารกิจทีเ่ หลืออีกอย่างของฮามาซากะก็คอื การประกาศผลการวิจยั


ให้โลกได้รบั รู้
ในตึกร้างนี้ นอกจากฮามาซากะแล้วยังมีชายฉกรรจ์อกี ห้าคน มีทงั้
คนที่รู้จักกันมานานและคนที่เพิ่งจะรู้จักกันได้เมื่อไม่กี่วันมานี้ แต่เรื่องนี้
ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรส�ำหรับเขา เพราะทุกอย่างจะจบสิ้นลงภายในวันนี้แล้ว
“ได้เวลาออกเดินทางแล้วล่ะ เผื่อการจราจรจะติดขัด ต้องไปถึง
สถานที่จัดงานตามเวลาที่ก�ำหนดไว้ไม่ง้นั ก็ไม่มคี วามหมาย”
“เข้าใจแล้ว” ชายคนหนึ่งตอบพร้อมทั้งยกสัมภาระของตัวเองขึ้น
สะพายบ่าแล้วตะโกนเรียกคนอื่นๆ
“ได้เวลาท�ำสงครามศักดิ์สิทธิ์แล้ว ไปกันเถอะ”
พอสิ้นเสียง ชายคนอื่นๆ ที่เหลือก็โห่ร้องดังจนผิดปกติพร้อมทั้ง
ชูก�ำปั้นด้วยความฮึกเหิม มีคนหนึ่งตะโกนเสียงแหลมปรี๊ดออกมาว่า
“คอยดูเถอะ พวกเราจะไปเปิดกล่องแพนโดร่ากันเดี๋ยวนี้แหละ!”
พูดประหนึ่งว่าตัวเองเป็นพระผู้มาโปรดอย่างนั้นแหละ ฮามาซากะ
มองไปยังคนพูดด้วยสายตาเย็นชา
ชายคนนีจ้ บการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชัน้ น�ำแห่งหนึง่ หลังจากเข้า
ท�ำงานไม่นานก็เข้ากับสังคมที่บริษัทไม่ได้จนต้องลาออกมา หากมองจาก
สายตาของคนนอกแล้วก็เป็นแค่ไอ้ขี้แพ้คนหนึ่งที่เอาแต่ก่นด่ากล่าวโทษ
สาดความไม่พอใจใส่โลกทั้งใบ ฮามาซากะชวนเขามาร่วมแผนการ และ
ชายคนนี้ก็ยอมมาร่วมท�ำงานด้วยและก�ำลังจะยอมสละชีวิตเพื่อเขา
จริงอยูท่ พี่ วกเขาเป็นพวกพ้องแต่กไ็ ม่ใช่ผรู้ ว่ มอุดมการณ์แต่อย่างใด
เป็นเพียงกลุม่ คนทีฮ่ ามาซากะรวบรวมมาเพือ่ ช่วยให้แผนงานนีล้ ลุ ว่ ง พวก
เขาเป็นเพียงแค่มดงานเท่านั้น แต่ก็จริงอยู่ที่ว่าถ้าไม่ได้ก�ำลังของพวกเขา
งานนี้ก็ไม่สามารถส�ำเร็จลุล่วงไปได้
อีกอย่างพวกเขายังไม่เข้าใจถ่องแท้
แผนการนี้ไม่ใช่การเปิดกล่องแพนโดร่าแต่เป็นตู้เก็บของต่างหาก

- 32 -
มันคือตูเ้ ก็บเอกสารทีเ่ หลืออยูข่ ององค์กรแห่งหนึง่ ทีช่ อื่ ว่าสถาบันมาดาระเมะ
และทีพ่ วกเขาจะเปิดเผยให้โลกได้รบั รูใ้ นวันนีก้ เ็ ป็นเพียงลิน้ ชักหนึง่
เท่านั้น

2
วันออกเดินทางไปบ้านพักตากอากาศ
คุ ณ อาเคจิ ผมและคุ ณ เคนซากิ นั ด พบกั น ที่ ส ถานี ร ถไฟที่ ใ กล้
มหาวิทยาลัยที่สุดแล้วขึ้นรถไฟไปด้วยกัน ได้ยินมาว่าบ้านพักที่จะไปอยู่
ในตัวจังหวัด S ริมทะเลสาบซาเบะอา ผู้เข้าร่วมออกค่ายคนอื่นๆ นัดพบ
กันที่สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด รอบๆ ทะเลสาบซาเบะอานี้เป็นที่รู้จักกันดีว่า
เป็นสถานที่พักตากอากาศหน้าร้อน มีทั้งบ้านพักตากอากาศส่วนตัวและ
สถานที่ตั้งแคมป์มากมาย การได้มาออกค่ายที่นี่ถึงสามวันสองคืนนับว่า
เป็นเรื่องหรูหราส�ำหรับชมรมนักศึกษาทั่วๆ ไป
“เป็นอะไรไปหรือฮามุระคุง ท�ำหน้าด�ำครํ่าเครียดแต่เช้าเลยนะ!”
คุณอาเคจิใส่เสื้อฮาวายที่ไม่เข้ากับบุคลิกแม้แต่นิดเดียว ท่าทาง
ตื่นเต้นดีใจจนออกนอกหน้า สาเหตุเป็นเพราะทั้งเรื่องบ้านพักตากอากาศ
และเรื่องจดหมายขู่
แต่ผมกลับรู้สกึ หนักอกหนักใจเป็นอย่างมาก แค่ชมรมค้นคว้าเรื่อง
ลึกลับยังเข้ากับเขาไม่คอ่ ยได้ แล้วนีจ่ ะให้ไปค้างคืนร่วมกับหนุม่ สาวคนอืน่ ๆ
เพื่อนัดจับคู่เดตอย่างนั้นหรือ
“ผมก็หน้าแบบนีม้ าตัง้ แต่เกิด อีกอย่างเราได้รายละเอียดแค่มาพัก
สามวันสองคืน มีใครมาด้วยบ้างก็ยงั ไม่รู้ แบบนีจ้ ะไม่ให้กงั วลได้ยงั ไงครับ”
“ต้องเป็นคนทีพ่ ดู ภาษาญีป่ ่นุ รู้เรือ่ งแหละน่า ไม่ได้ถกู ส่งไปอยู่แดน
สงครามทีต่ ะวันออกกลางซะหน่อยจะกังวลอะไร แล้วเหตุรา้ ยจะเกิดเมือ่ ไร

- 33 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

ก็ไม่มีใครรู้ ไม่มปี ัญหาอะไรหรอก”


ผมไม่ได้กงั วลเรื่องภาษาหรือเหตุร้ายอะไรนั่นหรอกนะ ผมกังวลว่า
คุณอาเคจิทมี่ รี ะดับความอยากรูอ้ ยากเห็นสูงสุดต้องไปอยูร่ ว่ มกับหนุม่ สาว
คนอืน่ ๆ มากกว่ากังวลเรือ่ งจดหมายขูเ่ สียอีก เพราะคนคนนีม้ คี วามเป็นไป
ได้ที่จะเอ่ยปากถามออกไปโต้งๆ ว่า “จริงหรือเปล่าที่การออกค่ายที่นี่เมื่อ
ปีทแี่ ล้วเป็นสาเหตุให้คนฆ่าตัวตาย ก่อนและหลังเกิดการฆ่าตัวตายมีอะไร
ที่น่าสงสัยบ้างหรือไม่” เป็นต้น
คุณเคนซากิทนี่ งั่ ติดกับผมซึง่ อยูฝ่ ง่ั ตรงข้ามคุณอาเคจิหนั มาขอโทษ
“โทษทีนะ ฉันควรถามรายละเอียดจากคุณชินโดมาให้มากกว่านี้
อีกหน่อย”
“เอ่อ ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ได้หมายความอะไรลึกซึ้งขนาดนั้น
ไม่มีปัญหาครับ”
ผมหลบสายตาใสซื่อ อยู่กับคนสวยแล้วประหม่าเหลือเกิน
วันนีค้ ณ
ุ เคนซากิไม่ได้ใส่ชดุ ด�ำทัง้ ชุดเหมือนวันทีพ่ บกันในร้านกาแฟ
แต่เป็นชุดกระโปรงติดกันไม่มแี ขนประดับลูกไม้สไตล์ ‘คุณหนูในฤดูร้อน’
ชุดกระโปรงสีขาวประดับลูกไม้ หน้าอกผูกริบบิ้นแถบใหญ่ ที่คอดูเรียบๆ
แต่มีความหรูหรา หมวกฟางที่ศีรษะท�ำให้ดูเหมือนเด็กสาวรุ่นวัยสิบกว่าๆ
เธอท�ำหน้าอ้อนวอนขอโทษแบบนั้น แม้แต่ผมก็ยังรู้สึกสะท้านใจ
“เอาล่ะ”
คุณเคนซากิคุกเข่าบนที่นั่ง เอื้อมมือไปเปิดหน้าต่าง ความเย็นจาก
เครือ่ งปรับอากาศระบายออกไปให้ลมเย็นสบายจากข้างนอกเข้ามาแทนที่
ลมที่พัดเข้ามาท�ำให้หมวกของคุณเคนซากิปลิวไสว
“ว้าย” เธอร้องแล้วรีบเอาทั้งสองมือจับหมวกไว้ เผยให้เห็นใต้ท้อง
แขนขาวเนียน ผมหันตัวและหน้าหนี มองออกไปนอกหน้าต่าง
รถไฟสี่ตู้วิ่งท่ามกลางทิวทัศน์ทุ่งนากว้างไกล เมื่อมองออกทาง
หน้าต่างท�ำให้รู้สึกว่ารถวิ่งช้าเกินไป ต้นข้าวเขียวชอุ่มล้อลมเกิดเป็นคลื่น

- 34 -
ใบไม้สีเขียว
“จะว่าไป ทางชมรมภาพยนตร์นมี่ ศี ษิ ย์เก่าใจปํา้ ดีนะครับ ถึงกับช่วย
เหมาบ้านพักให้”
คุณเคนซากิเปิดปากตอบค�ำพูดของผมเมื่อครู่
“ได้ยินมาว่าคุณพ่อเขาเป็นประธานบริษัทท�ำภาพยนตร์น่ะ”
คุณเคนซากิพูดกับผมด้วยค�ำพูดธรรมดา เป็นค�ำพูดที่ใช้กับเพื่อน
ที่สนิทกัน
หลังตากลมได้พักใหญ่จนพอใจ คุณเคนซากิเอื้อมมือไปเลื่อนปิด
หน้าต่างลงมา ผมที่ยาวพลิ้วไสวโดนลมพัดปลิวมาคลุมหน้าเอาไว้
“ว้าย”
ระหว่างที่เธอก�ำลังพัลวันกับการรวบผมยาวที่ปลิวว่อนอยู่นั้น ผม
เอื้อมมือไปปิดหน้าต่างแทน
“ขอบใจนะ ฮามุระคุง”
ภาพของคุณเคนซากิที่เอ่ยปากขอบคุณพร้อมทั้งหยิบเอาผมออก
จากปากท�ำให้ผมแอบหัวเราะเล็กน้อย
“อ๊ะ หัวเราะแล้ว”
“ไม่ได้หวั เราะซะหน่อย”
“นอกจากหน้าเครียดๆ แล้วหน้าอื่นก็ท�ำเป็นนี่นา”
คุณเคนซากิพูดพร้อมกับแกล้งท�ำหน้างอน ตอนพบกันที่ร้านกาแฟ
คิดว่าเป็นคนเงียบขรึม ผมค่อยๆ เริ่มรู้สึกสนิทกับคนคนนี้มากขึ้นแล้วสิ
สักครู่ผมก็รู้สึกว่าเธอจ้องผมอยู่แล้วผมก็นึกออกว่าท�ำไม เพราะที่
ขมับข้างซ้ายของผมมีแผลเป็นอยู่ เป็นแนวยาวประมาณสีห่ รือห้าเซนติเมตร
เป็นแผลเป็นที่ค่อนข้างจะเห็นได้ชัดเจน ปกติผมที่ยาวจะปิดบังเอาไว้ แต่
เพราะแรงลมที่พัดผมจนกระเซิงก็เลยท�ำให้มองเห็น
“แผลนั่น ไปโดนอะไรมาหรือ”
“ถูกก้อนอิฐตกใส่ตอนมีแผ่นดินไหวนานมาแล้วครับ”

- 35 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

ตั้งใจว่าจะเล่าให้รู้เฉยๆ ไม่ได้อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร แต่


สายตาของคุณเคนซากิมีแวววิตกกังวลอย่างเห็นได้ชดั
“เจ็บแย่เลยสิตอนนั้น แล้วมีอาการอะไรที่เป็นผลต่อเนื่องจาก
ตอนนั้นบ้างไหม”
“โชคดีท่ไี ม่มี แค่หน้าตาดูดขุ ึ้นเล็กน้อย บางคนก็กลัวหน้านี้”
“น่าสงสารจัง”
พอรู้สึกตัว นิ้วเรียวยาวของคุณเคนซากิก็ยื่นมาลูบไล้ที่แผลเป็น
ความเย็นและนุ่มของผิวเธอท�ำให้ผมสะดุ้งเฮือก ก่อนที่ผมซึ่งมัวแต่อํ้าอึ้ง
จะทันพูดอะไรออกมานิ้วนั้นก็ถอยห่างออกไป เธอหันไปจัดทรงผมเหมือน
กับว่าไม่มอี ะไรเกิดขึ้น
เป็นคนที่แปลกดีจัง เมื่อวันก่อนยังเคร่งเครียดเจรจาอย่างเป็นงาน
เป็นการ แต่มาวันนี้กลับดูง่ายๆ ไร้การระมัดระวังตัว ถ้าเป็นการกระท�ำ
ที่วางแผนคิดค�ำนวณมาก่อนละก็ นับว่าเป็นคนที่ฉลาดมาก แต่ผมกลับ
คิดว่านี่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอมากกว่า
เคนซากิ ฮิรุโกะ
ความจริงแล้วผมได้ข้อมูลของคนคนนี้จากคุณอาเคจิมาก่อนแล้ว

3
“เคนซากิ ฮิรโุ กะ คิดอยูว่ า่ เคยได้ยนิ ทีไ่ หนมาก่อน ในทีส่ ดุ ก็คดิ ออก
ก่อนหน้านีต้ อนทีไ่ ปแจกนามบัตรกับพวกต�ำรวจ พอรูว้ า่ ฉันอยูม่ หาวิทยาลัย
ชินโคก็มีต�ำรวจคนหนึ่งพูดชื่อนี้ขึ้นมา บอกว่าเธอเป็นนักสืบสาวที่มีการ
สันนิษฐานคดีเป็นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นคดียากๆ ที่ต� ำรวจยกมือยอมแพ้
หรือคดีประหลาดแค่ไหนก็คลี่คลายได้ทั้งหมด”
คุณอาเคจิเล่าให้ฟังก่อนที่เคนซากิจะมาถึงที่นัดพบ

- 36 -
พอจะรู้ได้ว่าไม่ธรรมดา แต่กน็ ึกไม่ถึงว่าจะเป็นสาวน้อยนักสืบ
“เหมือนนิยายเลย ถ้าเป็นจริงอย่างที่ว่าก็ไม่น่ารอดหูรอดตาจาก
พวกสื่อนะครับ”
ที่ส�ำคัญ รูปร่างหน้าตาของเธอดูเด่นเตะตายิ่งกว่านางแบบหรือ
ไอดอลปลายแถวเสียอีก ถ้าเอาเรื่องนี้มาเป็นจุดขายของข่าวละก็ รับรอง
ว่าจะต้องเป็นรายการยอดนิยมแน่นอน
“ฉันเองก็สนใจอยู่ เลยให้คุณทานุมะหาข้อมูลให้น่ะ ดูเหมือนว่า
บ้านเดิมอยู่ที่โยโกฮามะ เป็นตระกูลเก่าชื่อดังที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
ทีเดียว ทุกคดีที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องจะถูกจ�ำกัดการออกสื่อทุกครั้ง คงคิด
ว่าจะเป็นการท�ำให้ตระกูลเสื่อมเสียล่ะมั้ง”
“เป็นคุณหนูผู้ดีมีตระกูลแถมยังเป็นสาวน้อยนักสืบ ช่างเลิศเลอ
อะไรอย่างนี้ แต่การชอบโผล่เข้าไปจุ้นในคดียากๆ นี่น่าจะนิสัยคล้ายๆ
คุณอาเคจินะ ท�ำไมถึงไม่เข้าไปท�ำความรู้จกั กับเธอให้เร็วกว่านี้ล่ะครับ”
ด้วยนิสัยของคนคนนี้ ถ้ารู้ว่ามีหญิงสาวแปลกๆ ประเภทนี้อยู่ใน
มหาวิทยาลัยเดียวกันละก็ จะต้องตรงดิ่งเข้าไปหาแน่นอน แต่คณ ุ อาเคจิ
กลับตอบมาอย่างหงอยๆ ว่า
“ฉันเองก็มีศกั ดิ์ศรีนะ”
“อะไรนะครับ?”
“ผลงานของเธอน่ะเป็นของจริง ถึงจะไม่มีการประกาศอย่างเป็น
ทางการแต่กด็ เู หมือนว่าจะได้ใบประกาศเกียรติคณ ุ จากต�ำรวจด้วย ส่วนฉัน
ยังไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย มันเร็วไปหน่อยที่จะไปเทียบชั้น”
อย่างนีน้ เี่ อง อธิบายง่ายๆ ก็คอื คุณอาเคจิคดิ เอาเองอยูฝ่ า่ ยเดียวว่า
คุณเคนซากิที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักสืบชื่อดังโดยใช้ชื่อจริงนามสกุล
จริงนัน้ เป็นคูแ่ ข่งของตน ถ้าออกไปนอบน้อมแนะน�ำตัวก่อนก็เท่ากับยอมรับ
ว่าทางโน้นเก่งกว่า คงเป็นเรื่องที่เสียหน้าอยู่ไม่น้อย
แต่คิดดูดๆี มันก็แปลก คนที่มคี วามสามารถและผลงานอย่างเธอ

- 37 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

จะมาสนใจสืบเรื่องจดหมายขู่ในชมรมนักศึกษามหาวิทยาลัยไปท�ำไมกัน
ส่วนเรื่องที่มาชวนพวกเราไปร่วมกลุ่มออกค่ายที่บ้านพักนี่ก็ยังไม่รู้เหตุผล
ที่แน่นอน
“ฮามุระคุง มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ” คุณอาเคจิพูดด้วยนํ้าเสียง
จริงจัง
“แบบไหนครับ?”
“นักสืบชือ่ ดังระดับประเทศก�ำลังท้าทายพวกเราทีเ่ ป็นคูห่ ชู อื่ ดังแห่ง
มหาวิทยาลัยชินโคไงล่ะ”
“เราเป็นคู่หูกนั ตั้งแต่เมื่อไรหรือครับ?”
“แล้วจะให้เป็นอย่างอืน่ ไปได้ยังไง นายน่ะเป็นคู่หูฉนั ”
อืม ไม่เลวเหมือนกันแฮะ
“ยังไงก็ดี เรายังไม่รตู้ วั ตนทีแ่ ท้จริงของเธอ จุดประสงค์การเจรจาก็ยงั
ไม่แน่ชดั เราคงต้องระวังตัวให้มากหน่อย”

4
พวกเราแวะลงที่สถานีกลางทางเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน
เร็วหน่อย แล้วเปลี่ยนมานั่งรถไฟเอกชนต่อ อีกสามสิบนาทีก็มาถึงสถานี
ปลายทางนอกเมือง ตัวโครงสร้างสถานีซึ่งเดิมทีคงจะเคยมีสีเขียวอ่อน
สดใส แต่ปจั จุบนั กลายเป็นสีซดี ๆ น่าเกลียด มองไม่เห็นเจ้าหน้าทีส่ ถานีเลย
อาจจะเป็นสถานีที่ไม่มคี นประจ�ำ
พอก�ำลังจะก้าวลงไปที่ชานชาลาก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลัง
“อาเคจิคงุ คุณเคนซากิ”
พอหันไปก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ คงจะนั่งขบวนเดียวกันมา
แต่คนละตู้ พอคุณอาเคจิเห็นหน้าผู้ชายที่ส่งเสียงเรียกก็เผยยิ้ม

- 38 -
“โอ้ ชินโดคุงนี่เอง ต้องขอบใจที่อุตส่าห์ฟังค�ำขอคราวนี้”
อีกฝ่ายยิ้มเจื่อนๆ เขาคือชินโดประธานชมรมวิจัยภาพยนตร์สินะ
เป็นผู้ชายใส่แว่นรูปร่างผอมเกร็งดูเป็นคนหงิมๆ ไม่ใช่สิ ต้องพูดว่าเป็น
คนเอาจริงเอาจังถึงจะถูก
“จริงๆ แล้วให้มาไม่ได้นะ แต่เป็นข้อเสนอจากคุณเคนซากิกค็ งต้อง
ดูเป็นกรณีไป ขอให้สนุกก็แล้วกัน”
เป็นประโยคทีเ่ หมือนจะสือ่ ความหมายในใจว่าทีจ่ ริงไม่อยากจะให้
พวกแกมาด้วยหรอก คงจะร�ำคาญกับความเซ้าซี้ของคุณอาเคจิมาก ทั้ง
สองคนหันมาทางพวกเราแล้วเริ่มแนะน�ำตัว
“ผม ชินโด อายุมุ คณะศิลปศาสตร์ ชั้นปีสาม เป็นประธานชมรม
วิจัยภาพยนตร์ แล้วคนข้างๆ นี่ก็”
“เหมือนชินโดคุง คณะศิลปศาสตร์ ชั้นปีสาม โฮชิคาวะ เรกะ แต่
ฉันอยู่ชมรมการแสดง มาช่วยเรื่องการแสดงน่ะ ฝากตัวด้วยนะ”
ผมสีนํ้าตาลเกาลัดดัดลอนอ่อนๆ กับหน้าตาน่ารักราวกับไอดอล
สวยคนละแบบกับคุณเคนซากิ แหวนคูแ่ ฝดส่องประกายบนนิว้ ของทัง้ สอง
แสดงให้เห็นชัดเจนว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน
ต่อมาพวกผมก็แนะน�ำตัวบ้าง พอคุณเคนซากิแนะน�ำตัวเสร็จ ชินโด
ก็พูดขึ้นว่า
“เอ่อ ขอบคุณที่ช่วยในครั้งนี้นะ รวบรวมคนยากมากเลย...”
แล้วก็ก้มศีรษะให้ ท่าทีต่างจากที่ปฏิบัติต่อคุณอาเคจิลิบลับ ทั้งที่
ชินโดอยู่ชั้นสูงกว่าหนึ่งปี กลับใช้ค�ำที่สุภาพด้วย แต่คุณเคนซากิท�ำเป็น
ไม่สนใจท่าทางอ่อนน้อมนั้น
“ไม่เป็นไร ฉันเองก็สนใจอยากมาอยู่แล้ว”
สนใจ อธิบายเหตุผลทีม่ าร่วมงานด้วยค�ำเพียงค�ำเดียว ผมแอบมอง
สีหน้าแต่กไ็ ม่รู้ว่าเธอก�ำลังคิดอะไรอยู่เหมือนเดิม
“แล้วสมาชิกคนอื่นๆ ล่ะ”

- 39 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

คุณอาเคจิกวาดตามองชานชาลาทีว่ า่ งเปล่า พวกเราก็ยงั ไม่ได้ขอ้ มูล


ว่ามีผเู้ ข้าร่วมงานกีค่ น เมือ่ เงยหน้ามองนาฬิกาก็เห็นว่าเป็นเวลาก่อนเวลา
นัดสิบห้านาที
“บางคนล่วงหน้าไปก่อนแล้วพร้อมกับรถขนอุปกรณ์ ทีน่ ดั เจอกันทีน่ ี่
ก็เหลืออีกแค่สามคน” ชินโดตอบ
ทันทีที่เดินออกจากเครื่องกั้นเข้าออกสถานี แสงแดดจ้าก็สาดส่อง
จักจัน่ ส่งเสียงดังระงมท่ามกลางแสงจ้าทีท่ ำ� ให้ดวงตาพร่ามัว ท�ำให้ผมนึกถึง
ไร่นาที่บ้านนอกของคุณปู่ซึ่งเคยอาศัยอยู่สมัยเด็กๆ ชั่วเวลาหนึ่ง
“อ๊ะ อยู่ตรงนั้น”
มองตามออกไปก็เห็นรถตูค้ นั ใหญ่จอดอยูท่ วี่ งเวียนเล็กๆ หน้าสถานี
“ฉันจะไปห้องนํ้า ไปกันก่อนเลย”
พวกเราจึงแยกกับโฮชิคาวะแล้วเดินไปยังรถตู้ที่จอดอยู่ ผู้ชาย
คนหนึ่งเปิดประตูฝั่งคนขับลงมา เป็นผู้ชายใส่แว่นท่าทางเป็นคนตรงๆ
น่าจะมีอายุมากกว่าคุณอาเคจิ อาจจะประมาณสามสิบ
“สวัสดีครับ จากมหาวิทยาลัยชินโคใช่ไหม ผมเป็นผู้ดูแลบ้านพัก
ชื่อ คันโนะ ยุอิโตะ”
“...คนเดิมเมือ่ ปีทแี่ ล้วลาออกไปแล้วหรือครับ” ชินโดถามแกมกังวล
นิดๆ
“ครับ ผมมารับหน้าทีต่ อ่ เมือ่ เดือนพฤศจิกายนปีทแี่ ล้ว คนอืน่ รออยู่
ในรถเรียบร้อยแล้วครับ”
คันโนะยิ้มกว้างแล้วเปิดประตูเลื่อนให้ ในรถมีสมาชิกที่มาถึงก่อน
แล้วนั่งอยู่สามคน
แต่พอมองวิธีการนั่งในรถก็รู้สึกแปลกๆ รถตู้มีที่นั่งทั้งหมดสี่แถว
จ�ำนวนที่นั่งจากแถวหน้าถึงแถวหลังคือ สอง - สอง - สาม และสามที่นั่ง
จ�ำนวนคนนัง่ รวมคนขับแล้วคือเก้าคน สามคนทีม่ าก่อนน่าจะเลือกนัง่ แถว
ทีส่ ามหรือแถวสุดท้ายหรืออาจจะนัง่ ทัง้ สองแถว แต่พวกเขาทีม่ าก่อนกลับ

- 40 -
แยกกลุ่มกันนั่ง โดยมีสองคนนั่งแถวท้ายสุด ส่วนอีกคนที่เหลือเลือกที่นั่ง
ข้างคนขับ ราวกับมีคลื่นแม่เหล็กที่ผลักให้ออกจากกันจนต้องนั่งอยู่ห่าง
กันคนละฝั่งแบบนี้ ช่างผิดธรรมชาติเสียจริงๆ
ท่าทางชินโดก็น่าจะรู้สึกเหมือนกัน เขาท�ำหน้าสงสัยอยู่ครู่หนึ่งแต่
ก็ขึ้นไปนั่งแถวที่สองโดยไม่พูดอะไร คุณอาเคจิข้นึ ไปนั่งข้างๆ ชินโด ส่วน
ผมกับคุณเคนซากินั่งแถวที่สามโดยนั่งจากด้านในสุดก่อน โฮชิคาวะที่มา
คนสุดท้ายก็คงจะมานั่งข้างๆ พวกผมที่แถวนี้
ผมยังคงไม่หายสงสัยหญิงสาวที่เลือกที่นั่งข้างคนขับ ถึงผู้หญิง
คนนี้จะไม่ถูกกับสองคนข้างหลังแต่ท�ำไมต้องเลือกที่นั่งข้างคนขับด้วย
ทันใดนั้น หญิงสาวที่นั่งข้างคนขับคงจะรู้สึกได้ถึงสายตาของผม
ที่มองอยู่ จึงหันมาแล้วพูดรัวอย่างเร็วว่า
“โทษทีนะ ฉันเป็นคนเมารถมากๆ เลย”
ดูเป็นสาวสวยทีช่ าญฉลาดแต่ทำ� ให้บรรยากาศชวนอึดอัด คุณอาเคจิ
ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ตอบ
“อ้อ ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมชื่ออาเคจิ ข้างหลังนี่คือฮามุระคุงกับ
คุณเคนซากิ”
“นาบาริ สุมิเอะค่ะ คณะศิลปศาสตร์ ปีสอง”
นาบาริพูดแค่น้นั ก็หันกลับไปมองด้านหน้าเหมือนเดิม ท่าทางเป็น
คนช่างกังวล
“ฉันชื่อทาคากิ แล้วนี่ก็ชิสุฮาระ” อยู่ดีๆ ก็มีเสียงโพล่งขึ้นมาจาก
ด้านหลัง
หญิงสาวสองคนทีน่ งั่ อยูแ่ ถวท้ายสุดมองดูเป็นคูห่ ใู หญ่เล็ก คนตัวสูง
ทีน่ งั่ ทางขวา (น่าจะสูงกว่าคนข้างๆ ประมาณช่วงศีรษะได้) ท่าทีเป็นคนแข็ง
เอาเรื่องก็คือทาคากิ หญิงสาวตัวเล็กที่นั่งด้านซ้ายท่าทางเป็นคนเงียบๆ
เรียบร้อยคือชิสฮุ าระ ทัง้ สองคนต่างก็แต่งตัวดูดี ทาคากิเป็นสาวสวยหน้าตา
คมตัดผมสัน้ แบบเด็กผูช้ าย ในขณะทีช่ สิ ฮุ าระผมสีดำ� ดูเป็นคนนุม่ นิม่ แต่การ

- 41 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

ที่ทั้งสองคนบอกแต่ชื่อไม่บอกว่าอยู่คณะไหนดูจะห้วนไปหน่อย อีกอย่าง
ผมไม่รู้สึกถึงความสนุกสนานจากหญิงสาวสามคนนี้เลย ผมว่าประธาน
ชินโดเลือกคนมาผิดเสียแล้วล่ะ
“ขอโทษที่ให้รอค่ะ”
โฮชิคาวะมาขึ้นรถได้ถูกจังหวะพอช่วยกู้บรรยากาศอึมครึมได้บ้าง
แล้วรถก็วิ่งออกจากวงเวียนด้านหน้าสถานี เมื่อออกจากสถานีมาได้
ประมาณสิบนาทีก็เริ่มไม่เห็นบ้านคน เข้าสู่เขตที่มีแต่ต้นไม้เรียงราย แต่ก็
เป็นทีน่ า่ ประหลาดใจว่าถนนฝัง่ ทีร่ ถวิง่ อยูม่ กี ารจราจรคับคัง่ ท�ำให้รถเคลือ่ น
ไปข้างหน้าได้ไม่เร็วนัก
“ปกติรถเยอะแบบนี้หรือครับ”
คันโนะมองผ่านกระจกมองหลังเมื่อได้ยินค�ำถามของชินโด
“ไม่หรอกครับ ปกติไม่มรี ถวิ่งมากนัก แต่ได้ยนิ มาว่าวันนี้กับพรุ่งนี้
มีงานอีเวนต์กลางแจ้งที่อุทยานแห่งชาติน่ะครับ”
“งานอีเวนต์?”
ทาคากิท่นี ั่งท้ายสุดให้ข้อมูลเพิ่ม
“รู้แต่ว่าชื่องานซาเบะอาร็อกเฟส เมื่อกี้น้ีลองค้นข้อมูลดูแล้วเห็น
มีวงดนตรีที่มีชื่อเสียงมาร่วมงานด้วย ใช่ไหม มิฟุยุ”
ชิสุฮาระที่นั่งข้างๆ ผงกหัวตอบรับเบาๆ เมื่อถูกโยนค�ำถามมาให้
ทาคากิดูท่าทางมั่นใจคงเป็นนักศึกษาปีที่สาม ชั้นปีเดียวกันกับชินโด
หรือเปล่านะ
“เหมือนว่าปีท่แี ล้วจัดห่างกับเราไปหนึ่งอาทิตย์กเ็ ลยไม่ชนกันน่ะ”
ได้ยินประโยคนี้ของทาคากิแล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้
“ปีที่แล้วคุณทาคากิก็มาเหมือนกันหรือครับ”
ผมถาม แต่ทาคากิกต็ อบมาแค่ “ก็นะ” ผมคิดไปเองหรือเปล่าทีร่ สู้ กึ
ว่าพวกเขาไม่ค่อยยินดีที่พวกเรามาที่นี่
“คนที่มาสองปีซ้อนมีแค่ผมกับเธอเท่านั้นแหละ”

- 42 -
ชินโดตอบ พยายามจะกลบเกลือ่ นความไม่เป็นมิตรของทาคากิ ซึง่
ก็หมายความว่ามีแค่สองคนนี้เท่านั้นที่รู้เรื่องราวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
“แล้วก็ อันนี้เป็นสูจิบัตรรายละเอียดของกิจกรรมค่ะ”
โฮชิคาวะส่งเอกสารจ�ำนวนหกหน้าทีเ่ ข้าเล่มอย่างดีให้ หน้าปกวาด
เป็นรูปสัตว์ป่าก�ำลังเล่นอยู่ริมทะเลสาบ คงจะเป็นผลงานของใครสักคน
ในคณะศิลปศาสตร์น่นั เอง
“ท�ำมาอย่างดีเลยนะเนี่ย”
“ขอบคุณที่ชม ฉันเป็นคนท�ำเอง” โฮชิคาวะตอบ
พอเปิดอ่านเนื้อหาที่เขียนไว้ ก็เห็นว่านอกจากตารางกิจกรรม
ในช่วงสามวันสองคืนแล้วยังมีการระบุผังห้องเอาไว้ว่าใครพักห้องไหน
เพนชั่นที่จะไปพักมีชื่อว่า ‘บ้านชิจิน’ ส่วนคนที่จะมาร่วมกิจกรรมก็มา
จากชมรมวิจัยภาพยนตร์และชมรมการแสดงเป็นหลัก มีพวกผมและ
คนอื่นๆ ซึ่งเป็นคนนอกอีกรวมทั้งหมดแล้วเป็นสิบคน ถึงกระนั้นก็ตาม
เมื่อดูผังห้องก็จะพบว่ามีห้องว่างเหลือเยอะทีเดียว ห้องพักส�ำหรับแขก
ทั้งชั้นสองและชั้นสามรวมกันมีทั้งหมดสิบหกห้อง เหลืออีกหกห้องที่ไม่ได้
เขียนชื่อผู้พกั เอาไว้ เมื่อเห็นแบบนี้คุณอาเคจิก็พูดขึ้นว่า
“คนมาน้ อ ยกว่ า ที่คิด ไว้ อีก สมาชิก ชมรมที่ม าออกค่ า ยมีสัก กี่
เปอร์เซ็นต์ครับนี่”
“ไม่ถงึ ครึง่ หรอก ถึงจะเป็นการออกค่ายนักศึกษาแต่กม็ กี ารถ่ายท�ำ
ภาพยนตร์กนั ถ้าออกมาดีก็จะเอาไปขายให้บริษัทพ่อของรุ่นพี่ เหมือนมา
หารายได้พเิ ศษช่วงปิดเทอมน่ะ ไม่ได้บังคับว่าต้องมากันทุกคน อีกอย่าง
รุ่นพี่ท่เี ป็นศิษย์เก่าก็จะพาเพื่อนมาอีกสองคนด้วย”
ค�ำพูดของชินโดฟังดูราวกับว่าก�ำลังพยายามกลบเกลื่อนตัวเลข
ของผู้เข้าร่วมงานที่มีน้อย
ระหว่างทีก่ ำ� ลังพูดคุยกัน นอกจากโฮชิคาวะแล้วสาวๆ คนอืน่ ได้แต่
นั่งเงียบไม่ส่งเสียงอะไร มีแต่ผู้ชายที่พูดจาเรื่อยเปื่อยเสียงดัง

- 43 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

ในที่สุดหัวข้อการคุยก็วกมาถึงเรื่องชมรมคนรักเรื่องลึกลับจนได้
ผมคุยถึงนิยายที่ชอบอย่างไม่ค่อยเต็มปากนัก แต่ด้วยความที่พวกเขารู้
เรื่องภาพยนตร์ดี จึงพอจะมีคนที่ยกตัวอย่างชื่อเรื่องในแนวลึกลับสวน
ขึ้นมาคุยบ้าง แต่แล้วจู่ๆ โฮชิคาวะก็โพล่งขึ้นเหมือนโยนระเบิดลงกลาง
วงสนทนาว่า
“นี่ไม่ใช่ชมรมค้นคว้าเรื่องลึกลับสินะ เพิ่งรู้ว่าตัวเองเข้าใจผิด”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดูทา่ ว่าทางโน้นเขาเป็นทีร่ จู้ กั มากกว่าสินะ” คุณอาเคจิพดู
“ขอโทษนะคะ แต่วา่ ท�ำไมถึงต้องมีชมรมสองชมรมทีค่ ล้ายๆ กันใน
มหาวิทยาลัยด้วย”
เลิกถามเซ้าซี้เดี๋ยวนี้ เดี๋ยวคุณอาเคจิก็ร้องไห้หรอก
ถึงจะไม่เห็นหน้าแต่ผมก็นึกภาพออกว่าริมฝีปากของเขาก�ำลัง
กระตุกเพราะถูกเอาไปเหมารวมเข้ากับชมรมค้นคว้าเรื่องลึกลับที่แทบจะ
ไม่มีความรู้เรื่องลึกลับเอาเสียเลย
ทว่าโฮชิคาวะก็โยนระเบิดลูกที่สองเข้ามา
“แล้วชมรมคนรักเรื่องลึกลับนี่ ปกติท�ำกิจกรรมอะไรกันหรือคะ”
คราวนีด้ วงตาเป็นประกายระยิบระยับหันมาทางผม ได้แต่คดิ ในใจ
ว่า ขอร้องล่ะ ได้โปรดอย่ามาถามผม เพราะกิจกรรมของเราคือการเข้าไป
ยุ่งเรื่องชาวบ้านอย่างที่ก�ำลังท�ำอยู่นี่แหละ แต่แล้วคุณเคนซากิที่นั่งอยู่
ข้างๆ ก็เข้ามาช่วยไว้
“พวกเขาไม่เพียงแต่จะชอบเรื่องลึกลับเท่านั้นแต่ยังช่วยคลี่คลาย
เหตุการณ์ต่างๆ ทีเ่ กิดขึ้นในมหาวิทยาลัยด้วยนะ”
“บางคนก็เรียกพวกเขาว่านักสืบโฮล์มส์แห่งมหาวิทยาลัยชินโค”
เมือ่ ได้ยนิ อย่างนัน้ คนทีอ่ ยูใ่ นรถ ซึง่ ก็มเี พียงแค่โฮชิคาวะ ชินโด กับ
คันโนะที่เป็นคนขับ ส่งเสียงรับด้วยความสนใจหรือไม่ก็สงสัย ผมก้มหัว
ท�ำความเคารพให้คณ ุ เคนซากิอยู่ในใจ เป็นการช่วยพูดที่ยอดเยี่ยมมาก
แต่คุณอาเคจินั้นแทนที่จะดีใจกลับเงียบแล้วหันหลังให้พวกเรา

- 44 -
คงจะรู้สึกว่าถูกคุณเคนซากิซึ่งมีผลงานในระดับประเทศส่งสารท้ารบมา
ให้อยู่ก็ได้ ขณะที่ผมคิดว่าควรจะเปลี่ยนเรื่องคุย คุณเคนซากิก็พูดต่อว่า
“ดีจังที่ทุกคนชอบดูภาพยนตร์หรืออ่านนิยายเป็นงานอดิเรก ฉัน
ไม่ค่อยจะมีอะไรแบบนี้เลย”
“ไม่อ่านนิยายลึกลับเลยหรือครับ”
“ตอนเด็กๆ เคยอ่านนักสืบเชอร์ล็อก โฮล์มส์กับจอมโจรลูแปงที่
ห้องสมุด แต่กจ็ �ำเนื้อเรื่องไม่ค่อยจะได้แล้ว”
แม้แต่คุณอาเคจิก็ยังแปลกใจ เอียงหน้าหันกลับมามอง เพราะ
ส�ำหรับเขาแล้วนักสืบกับนิยายลึกลับเป็นเรื่องที่ตัดจากกันไม่ได้
รถค่อยๆ วิ่งช้าๆ แล้วคันโนะก็พูดขึ้นด้วยท่าทางนึกสนุกว่า
“งั้นต้องถูกใจบ้านพักของเราแน่เลยล่ะครับ”
“โอ้ พูดมาแบบนี้แสดงว่ามีอะไรสินะครับ” คุณอาเคจิเสียงดังด้วย
ความตื่นเต้น
“เอ เรื่องนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าในบ้านพักมีอาวุธจากต่าง
ประเทศทีเ่ จ้าของบ้านสะสมประดับไว้เต็มไปหมด ดาบเอย หอกเอย เยอะ
จนน่ากลัวเลยครับ”
“อ๊ะ จริงด้วย ในบ้านมีพวกอาวุธโบราณทีผ่ า่ นการใช้งานในสงคราม
มาจริงๆ ปีที่แล้วคุณนานามิยะยังขู่ว่าบางอันฆ่าคนมาแล้ว” ชินโดเสริม
คนที่ชื่อนานามิยะนี่คงจะเป็นหนึ่งในศิษย์เก่าที่มาออกค่ายด้วยสินะ
“หืม อาวุธหรือ...”
บอกตามตรงว่ามีกลิ่นของความลึกลับอยู่จางมาก การตอบสนอง
จากคุณอาเคจิก็เลยดูครึ่งๆ กลางๆ แต่คนั โนะก็ยังพูดต่อ
“แต่ถา้ พูดถึงหน้าร้อน การพักผ่อนหย่อนใจกับหนุม่ ๆ สาวๆ แล้วละ
ก็ ผมนึกถึงเรื่องเขย่าขวัญสั่นประสาทมากกว่าเรื่องลึกลับนะ”
“เรื่องเขย่าขวัญสั่นประสาทที่ว่านี่เป็นพวกซอมบี้หรือเจสันอะไร
แบบนั้นใช่ไหมครับ”

- 45 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

“ใช่เลย เรือ่ งพวกนีส้ ว่ นมากจะมีฉากเป็นหน้าร้อนใช่ไหม แล้วสมาชิก


ที่แตกพวกมากที่สุดก็จะเป็นเหยื่อคนแรก”
“ผมน่าจะเป็นเหยื่อคนแรกที่ว่านะ”
ชินโดโพล่งขึน้ มาแบบไม่มปี ไ่ี ม่มขี ลุย่ ส่วนทางด้านหลังมีเสียงหายใจ
แรงๆ ของทาคากิดังมา

5
รถค่อยๆ แล่นผ่านทางทีก่ ารจราจรคับคัง่ อย่างช้าๆ ไม่นานก็ปรากฏ
ทิวทัศน์ทะเลสาบขนาดใหญ่จนเกือบดูผิดคิดว่าเป็นทะเลเสียอีก และที่
เห็นนี่คือทะเลสาบซาเบะอานั่นเอง พื้นที่ของทะเลสาบถึงแม้จะแค่หนึ่ง
ในห้าส่วนของทะเลสาบบิวะ แต่ภาพจริงทีอ่ ยูเ่ บือ้ งหน้านีท้ �ำให้รสู้ กึ ว่ากว้าง
ใหญ่ไพศาล ยิ่งกว่านั้นจากข้อมูลที่หาไว้ก่อนหน้านี้ ท�ำให้รู้ว่าทะเลสาบมี
รูปร่างเหมือนพระจันทร์เสีย้ วทีห่ งายขึน้ คล้ายปากทีก่ ำ� ลังยิม้ ของตัวการ์ตนู
พวกผมก�ำลังวิง่ ผ่านจากตรงกลางส่วนเว้าด้านบนไปยังอีกฝัง่ ซึง่ อยูด่ า้ นซ้าย
ผิวน�ำ้ ของทะเลสาบนิง่ สงบและสวยงาม มีสคี รามเข้มต่างจากทะเล
น�ำ้ เค็ม ถนนสายเดียวซึง่ มีฝั่งละหนึง่ เลนตัดเลียบแนวชายฝั่ง ผ่านทางโค้ง
กว้างๆ หลายโค้ง จนในที่สุดก็เริ่มมองเห็นหลังคาบ้านพักตากอากาศที่ตั้ง
ห่างๆ กันอยู่บนเนินลาดของภูเขาซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ทางทิศเหนือ
เมื่อถึงกลางทาง ขบวนรถที่วิ่งเต็มเลนถนนด้านหน้าก็พากันเลี้ยว
ออกไปทางตีนเขา ท�ำให้พวกผมพ้นจากสภาพการจราจรแออัด จากป้าย
บอกทางท�ำให้รู้ว่า อุทยานแห่งชาติซึ่งเป็นสถานที่จัดงานร็อกเฟสที่ว่า
อยู่เลยภูเขาออกไปอีก
รถวิง่ เลียบทะเลสาบไปได้อกี ครูใ่ หญ่จงึ วิง่ วนอ้อมภูเขาทีย่ นื่ ออกมา
แล้วในที่สุดก็ได้ยินเสียงจากที่นั่งคนขับว่า

- 46 -
“ตรงนั้นครับ”
ตรงที่คันโนะชี้มือออกไปเป็นหลังคาสีนํ้าตาลแดงที่คลุมถึงระเบียง
บ้าน แต่เพียงแวบเดียวก็ถูกต้นไม้หนาทึบบังตาไปจนหมด คันโนะหัก
พวงมาลัยเลี้ยวเข้าถนนแคบๆ ทางขวาแล้วเริ่มขึ้นเนินเขาเล็กๆ ซึ่งใช้เวลา
ไม่นานนักก็ออกมาถึงช่วงที่ต้นไม้เว้นระยะ ท�ำให้มองเห็นหลังคาของ
บ้านพักเมื่อครู่นี้ได้ถนัดขึ้น
บ้านพักสร้างบนที่ราบบนเนินเขาซึ่งถูกตัดเป็นขั้นบันได ตัวผนัง
ทาสีขาวตัดกับโครงสร้างทีเ่ ป็นไม้สไตล์บา้ นตะวันตก ผมถึงกับเผลออุทาน
ออกมา
“โอ้โห...บ้านใหญ่หรูหรามากเลยครับ ผมนึกว่าจะเล็กกว่านีเ้ สียอีก”
น่าจะใหญ่พอๆ กับโรงเรียนประถมตามต่างจังหวัดได้เลยกระมัง
ตัวบ้านตั้งอยู่ตรงที่ราบด้านบน ส่วนที่ราบด้านล่างเป็นที่จอดรถ ที่
ตัวอาคารเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กกับลานกว้าง ในสูจิบัตรบอกว่าคืนนี้จะ
มีปาร์ตี้บาร์บคี ิวตรงลานนี้
ที่จอดรถมีรถจอดอยู่ก่อนหน้าแล้วสองคัน คันหนึ่งน่าจะเป็นของ
สมาชิกชมรมที่มาถึงก่อนหน้านี้ ส่วนที่เหลืออีกคันคงจะเป็นของศิษย์เก่า
เมื่อมองเห็นรถ คุณอาเคจิก็ร�ำพึงร�ำพันออกมาด้วยท่าทีเหนื่อยหน่าย
“GT-R สีแดงรึ กลางป่าแบบนี้ช่างอยู่ผิดที่ผิดทางจริงๆ”
“รถของคุณคาเนะมิตสึนะ่ ครับ เป็นลูกชายของเจ้าของบ้านหลังนี”้
คันโนะหัวเราะฝืดๆ “เป็นคนสุรุ่ยสุร่ายน่ะครับ”
ขณะผมก�ำลังมองรถทีไ่ ม่คอ่ ยจะเห็นบ่อยนัก เดาว่าราคาน่าจะเกือบ
สิบล้านเยน ก็ได้ยินเสียงขุ่นๆ ดังมาจากทางด้านหลัง
“ฮึ ปีที่แล้วเห็นโวยวายที่ท้องรถไปครูดกับเนินตรงนั้นอยู่แท้ๆ
ไม่ยักกะเข็ดนะ”
หันไปก็เห็นตัวต้นเสียงคือทาคากิซึ่งไม่ค่อยจะเปิดปากพูดอะไรใน
รถมาตลอดทาง ส�ำหรับเธอซึง่ ร่วมกิจกรรมปีทแี่ ล้วด้วย ดูเหมือนจะไม่คอ่ ย

- 47 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

ถูกใจศิษย์เก่าเท่าไร
“ไปกันเถอะครับ”
คันโนะเดินน�ำพวกผมขึ้นบันไดเหล็กมุ่งหน้าไปยังที่ราบด้านบนจน
มาถึงประตูทางเข้าบ้านพัก
บ้านพักเป็นแบบตะวันตกสามชั้นแต่รูปทรงดูแปลกตาอยู่เล็กน้อย
เมื่อดูตามผังห้องพักในสูจิบัตรจะเห็นว่าเป็นอาคารสร้างแบบไล่ระดับ
เหมือนรูปปืนหันด้านข้าง ทางทิศใต้จะเป็นส่วนของห้องพัก
เมื่อเข้าประตูบ้านไปก็เห็นพรมสีแดงเข้มปูทั่วทั้งห้อง ด้านหน้าสุด
เป็นฟรอนต์ต้อนรับติดช่องบานกระจก มองเข้าไปด้านในบ้านจะเห็นสวน
เล็กๆ ติดกับเทอเรซ ซ้ายมือเป็นล็อบบี้กว้างขนาดใส่สนามวอลเลย์บอล
ได้สนามหนึง่ เลยทีเดียว แสงอาทิตย์สอ่ งผ่านกระจกหน้าต่างบานใหญ่เข้า
มาท�ำให้ในห้องสว่างเพียงพอ ไม่จำ� เป็นต้องเปิดไฟเพิ่ม ในล็อบบี้มีโซฟา
สองตัวคั่นด้วยโต๊ะรับแขก มีคนนั่งรออยู่แล้วสามคน ผู้ชายหนึ่งในนั้น
หันมามองพวกผมเขม็ง ด้วยตาข้างซ้ายและขวาที่อยู่ห่างกัน กับทรงผม
คล้ายๆ พวกอินเดียนแดง ท�ำให้ผมคิดไปถึงสิ่งมีชีวิตประเภทปลา
ชายคนนั้นพูดขึ้นมา เป็นเสียงที่ฟังแล้วน่าร�ำคาญทีเดียว
“ช้าจริงเว้ย นี่ฉันนั่งรอสาวๆ มาตั้งแต่เช้าแล้วนะ แต่คนมาถึงก่อน
กลับเป็นผู้ชายอ้วนๆ อยากจะอ้วก”
ระหว่างที่พวกเรายืนนิ่งขึงเพราะก�ำลังมึนงงที่จู่ๆ ก็เจอกับค�ำพูด
หยาบคายโดยไม่ทนั ตั้งตัว ชินโดเดินออกไปก้มศีรษะลง
“ขอโทษครับ รถติดมากเลย แต่สาวๆ ไม่มีใครมาถึงก่อนเลย
สักคนหรือครับ”
“จะไปรูเ้ รอะ ไม่เห็นมีใครมาทักทายอะไรเลย” ชายตากลมโตเหมือน
ปลาพูดโดยที่ยังนั่งเอนหลังที่โซฟาอย่างวางท่า ดูท่าทางเป็นคนส�ำคัญ
คงจะเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเจ้าของบ้าน
“ช่างมันเถอะน่า เดเมะ พวกฉันอายแทน”

- 48 -
คนที่ออกมาห้ามเป็นผู้ชายผิวเกรียมแดด ผมยาวรวบไปข้างหลัง
ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวห้อยสร้อยคอเงิน หน้าตาดีแบบเถื่อนๆ ประมาณอายุก็
น่าจะราวๆ ยี่สิบกลางๆ หรือปลายๆ
“ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนจากมหาวิทยาลัยชินโค พวกฉันไม่ได้เป็น
สมาชิกชมรมวิจัยภาพยนตร์แต่ก็เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยชินโค เป็น
เพือ่ นของนานามิยะทีน่ งั่ อยูต่ รงนี้ พวกเราจะมาเทีย่ วทีน่ ใี่ นช่วงฤดูรอ้ นของ
ทุกปี ฉันชื่อทัตสึนามิ ฮารุยะ ส่วนที่เรื่องมากนี่คือเดเมะ โทบิโอะ”
เรื่องกลายเป็นว่าชายหน้าปลาเมื่อครู่น้ีก็เป็นแขกที่ได้รับเชิญมา
เหมือนพวกผม คงจะรูจ้ กั กับชินโดตัง้ แต่ปที แี่ ล้ว ช่างเป็นคนทีก่ ล้าวางก้าม
ในบ้านพักของคนอื่นได้ราวกับเป็นบ้านตัวเองเสียจริง
เดเมะงอนจนเงียบไป ชายร่างเล็กที่ถูกเรียกชื่อว่านานามิยะก็ลุก
ยืนขึ้น เป็นคนที่หน้าตาได้รูป ผิวขาว ตาและปากเล็ก แถมยังท�ำผมเสย
ไปข้างหลังท�ำให้ดเู หมือนใส่หน้ากากเอาไว้ เขาก�ำมือแล้วเคาะทีข่ มับเบาๆ
สองครั้งก่อนจะพูดว่า
“จ�ำนวนสาวๆ น้อยลงกว่าที่บอกตอนแรกอีกนี่นา ชินโด จัดการ
อะไรได้แย่จริงๆ”
อ้าวๆ คนคนนี้ก็ใช้ค�ำพูดหยาบคายด้วยเหมือนกัน
“คือ เอ่อ...เผอิญมีเรื่องท�ำให้สมาชิกชมรมมากันไม่ได้หลายเรื่อง
น่ะครับ”
นานามิยะไม่สนใจชินโดที่ก�ำลังแก้ตวั น�้ำขุ่นๆ ต่อหน้าพวกผม หัน
ไปพยักหน้ากับคันโนะซึ่งเป็นผู้ดูแลบ้านพัก
“พาแขกไปที่ห้องก่อนก็แล้วกัน ชินโด หลังจากนี้จะมีการถ่ายท�ำ
อะไรใช่ไหม?”
“ครับ”
“บาร์บีคิวมื้อเย็นเริ่มหกโมงนะ อย่ามาสายล่ะ”
ก�ำชับมาแค่นั้นแล้วหนุ่มอาวุโสกว่าสามคนก็เดินออกจากบ้านพัก

- 49 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

ลงไปทางที่จอดรถ ตอนที่สวนกัน สายตาของเดเมะกับนานามิยะซึ่งดูถูก


ผู้หญิงที่มาด้วยกันท�ำให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“อะไรกันคนพวกนี้ นิสัยแย่มาก”
โฮชิคาวะพูดสิ่งที่ทุกคนคิดอยู่ในใจออกมาทันทีโดยไม่เกรงใจ
ก็เข้าใจดีอยูห่ รอกว่าการมาทีน่ จี่ ดุ ประสงค์หนึง่ ก็คอื การนัดเดตจับคู่
แต่กไ็ ม่คดิ ว่าจะมีคนพูดออกมาประเจิดประเจ้อตัง้ แต่แรกแบบนี้ ท�ำราวกับ
ว่าผู้หญิงที่มาเป็นสาวบริการ คุณอาเคจิถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่า
“เขาเป็นลูกชายเจ้าของบ้านใช่ไหม”
“ใช่ เป็นศิษย์เก่า เคยอยูช่ มรมวิจยั ภาพยนตร์ จบออกไปได้สามหรือ
สีป่ แี ล้วล่ะ ตอนนีก้ ย็ งั ให้รนุ่ น้องเข้าพักทีบ่ า้ นนีโ้ ดยไม่คดิ ค่าใช้จา่ ย ค่อนข้าง
กระเป๋าหนักทีเดียว ส่วนคุณเดเมะเขาก็เป็นแบบนัน้ เอง ท�ำให้คนเข้าใจผิด
บ่อยๆ แต่กไ็ ม่ใช่คนไม่ดหี รอกนะ อย่าคิดมากกัน”
ชินโดเหงื่อซึมเต็มหน้าผากพยายามจะอธิบาย แต่ดูเหมือนว่า
กลุ่มสาวๆ จะรู้สกึ รังเกียจไปเสียแล้ว
“คุณชินโด งั้นก็หมายความว่า”
คุณเคนซากิพูดด้วยสีหน้าปกติพร้อมกับมองในสูจบิ ัตร
“ผังห้องที่ให้มา ตรงที่ว่างอยู่ไม่ได้เขียนชื่อนี่คือห้องพักที่พวกเขา
พักกันน่ะสิ”
นอกจากพวกผมนักศึกษาสิบคนแล้วยังมีห้องที่ยังไม่ได้เขียนชื่อ
คนเข้าพักอีกหกห้อง ในจ�ำนวนนั้นสามห้องจะเป็นห้องที่พวกเขาใช้
“ฮื่อ” ชินโดตอบอย่างไม่ค่อยเต็มเสียงนัก
“ตายแล้ว โอย ไม่เอานะ”
โฮชิคาวะและคนอื่นๆ รีบเปิดดูผงั ห้องกันทันที
มีห้องว่างอยู่ที่ชั้นสองจ�ำนวนสี่ห้อง ส่วนชั้นสามมีอีกสองห้อง
ในจ�ำนวนนี้ถ้าหากพวกศิษย์เก่าเข้าพัก คนที่จะต้องอยู่ห้องติดกันก็คือ
โฮชิคาวะซึ่งอยู่ห้อง 203 นาบาริ ห้อง 206 คุดามัตสึ ห้อง 302 ชิสุฮาระ

- 50 -
ห้อง 307 ส่วนคุณเคนซากิที่พกั ห้อง 201 มีสาวสวยตัวสูงท่าทางแข็งแกร่ง
อย่างทาคากิพักข้างๆ เมื่อเห็นดังนั้นผมก็รู้สึกคลายกังวลไปได้บ้าง
โชคดีที่ห้องของผมอยู่ด้านในสุดของชั้นสาม ห้องข้างๆ เป็นหนึ่ง
ในสาวใหญ่เล็กอีกคนคือชิสุฮาระซึ่งเป็นคนตัวเล็กท่าทางเงียบๆ แสดง
ว่าผมไม่มีทางที่จะได้ห้องติดกับศิษย์เก่าพวกนั้น แต่แล้วผมก็รู้สึกได้ถึง
สัญญาณบางอย่างจึงหันกลับไปเห็นสายตาเย็นชาของทาคากิที่มองมา
คงนึกว่าตัวเองมีหน้าทีป่ กป้องชิสฮุ าระจึงส่งสายตามาเพือ่ เป็นการเตือนว่า
ถ้าหากท�ำอะไรชิสฮุ าระละก็จะเอาเรือ่ งแน่นอน ถ้าเป็นแบบนีไ้ ม่ควรคิดจะ
สานสัมพันธไมตรีใดๆ น่าจะปลอดภัยที่สุด
คันโนะไขกุญแจฟรอนต์ออกแล้วหยิบการ์ดกุญแจปึกหนึง่ ออกมาด้วย
“งั้นผมขอแจกคีย์การ์ดของแต่ละห้องนะครับ เข้าห้องแล้วที่ผนัง
ด้านข้างติดกับประตูจะมีที่เสียบการ์ด เวลาออกไปข้างนอกกรุณาอย่าลืม
ไว้ในห้องและไม่จ�ำเป็นต้องฝากไว้ท่ฟี รอนต์ อ๊ะ...แล้วก็”
คันโนะมองไปทางขวามือ
“ลิฟต์ตัวนี้เล็กมาก ขึ้นได้ไม่เกินสี่คน คงจะขึ้นข้างบนพร้อมกัน
ทุกคนไม่ได้ ขอให้แบ่งไปใช้บนั ไดก็แล้วกันนะครับ”
จากด้านซ้ายของลิฟต์มที างเดินไปทางทิศตะวันออก เดินไปสุดทาง
จะพบบันได อาจจะเป็นการเดินอ้อมแต่ห้องของผมอยู่ใกล้กับบันได
ผมจึงตัดสินใจไปใช้บันไดแทน
“ฮามุระคุง” คุณอาเคจิพูดขึ้นพร้อมกับมองนาฬิกา “หลังจากนี้
คนอื่นๆ จะไปถ่ายหนังกัน พวกเราจะเอายังไงดี?”
ผมคิดสักครู่จึงบอกว่าอยากจะขอไปดูการถ่ายท�ำภาพยนตร์ด้วย
บอกตรงๆ ว่าความจริงแล้วอยากจะไปเดินเล่นชมความงามรอบๆ ทะเลสาบ
ซาเบะอาคนเดียวมากกว่า แต่ในเมื่อมารบกวนการออกค่ายของชมรม
คนอืน่ คงจะไม่ดนี กั ทีจ่ ะไปไหนมาไหนโดยไม่สนใจกิจกรรมกลุม่ เอาเสียเลย
อีกอย่างก็อยากรู้ด้วยว่าคลิปวิญญาณเขาถ่ายท�ำกันอย่างไร

- 51 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

“คุณเคนซากิล่ะครับ?”
“หืม ก็ต้องไปด้วยกันสิ”
พูดท�ำนองว่าท�ำไมถึงได้ถามอะไรแบบนัน้ ขึน้ มา สรุปได้วา่ เธอคิดจะ
ตามติดพวกเราตลอดการออกค่ายมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้
บอกจุดประสงค์ท่แี ท้จริงกับพวกเราเท่านั้น
“อีกอย่างนะ ฮามุระคุง” เธอหันปลายนิว้ ชีม้ าทางผม “เลิกเรียกฉัน
ว่าเคนซากิซะที มันฟังดูไม่ดียังไงไม่รู้ เรียกฮิรุโกะเฉยๆ ก็ได้”
“...โอเคครับ คุณฮิรุโกะ”
“ดีมาก ดีมาก”
ส�ำหรับผมแล้วค�ำว่า ฮิรุ 1 นั้นมันฟังดูแย่มากกว่าเสียอีก แต่ยังไง
การให้เรียกชื่อตัวได้ก็หมายความว่าผมเองก็เป็นที่ชื่นชอบของคุณฮิรุโกะ
เหมือนกันสินะ
พวกผมแยกจากกลุ่มที่จะขึ้นลิฟต์แล้วเดินไปขึ้นบันไดทางฝั่งทิศ
ตะวันออก คุณเคนซากิ ไม่ใช่สิ คุณฮิรุโกะพักห้อง 201 จึงนัดเวลาและ
สถานที่เจอกันก่อนแยกออกมากับคุณอาเคจิซึ่งพักชั้นสาม ห้องพักของ
คุณอาเคจิอยู่ห้อง 303 ข้างลิฟต์พอดี
“เห็นว่าเป็นเพนชั่นบ้านพักตากอากาศก็หวังว่าจะมีเหตุการณ์
แปลกๆ เหมือนในนิยายกับเขาบ้าง”
คุณอาเคจิบ่นกับผมที่หน้าห้อง 308 ก่อนจะแยกกัน
“ท่าทางจะมีเรื่องยุ่งๆ กวนอารมณ์หลายเรื่องเลย”
ผมเองก็คดิ แบบเดียวกัน ท่าทางสมาชิกชมรมทีด่ แู ปลกๆ ก็เรือ่ งหนึง่
ล่ะ อีกเรื่องก็คือผมรู้สกึ แปลกใจที่งานนี้มแี ต่สาวๆ หน้าตาดีทั้งนั้น พูดให้
ถูกก็คอื วันนีท้ งั้ วันผมเจอแต่ผหู้ ญิงหน้าตาดีทกุ คน อาจจะเป็นเรือ่ งบังเอิญ
หรืออาจเป็นเพราะที่ผ่านมารอบๆ ตัวผมมีแต่คนขี้เหร่ก็ได้ แต่จากค�ำพูด

1
ค�ำว่า ฮิรุ พ้องเสียงกับค�ำว่า ปลิง ในภาษาญี่ปุ่น

- 52 -
ของเดเมะเมื่อครู่ มีความเป็นไปได้ว่าชินโดเจาะจงเลือกผู้หญิงหน้าตาดี
มาให้พวกศิษย์เก่า
“เอาเป็นว่า คนเป็นนักสืบไม่ว่าจะเจอสถานการณ์แบบไหนก็ต้อง
ไม่หวั่นไหว งั้นก็พักผ่อนก่อนแล้วค่อยลงไปรวมกับทุกคนที่ล็อบบี้ตอน
บ่ายสองตามที่สูจิบัตรนี่เขียนไว้กแ็ ล้วกัน”
ผมมองที่นาฬิกาข้อมือ เข็มนาฬิกาบอกเวลาที่บ่ายโมงครึ่ง

6
ทีด่ า้ นหน้าของคียก์ าร์ดเขียนหมายเลขห้องเอาไว้ ส่วนด้านหลังเป็น
แถบแม่เหล็กเมือ่ สอดเข้ากับช่องทีป่ ระตูจะมีเสียงดัง ‘ปิบ๊ ’ แล้วประตูกเ็ ปิด
“โฮ่ว”
ที่แปลกใจก็คอื ประตูเป็นแบบเปิดออกด้านนอก ซึ่งหมายความว่า
ประตูจะเปิดออกมาที่ทางเดินหน้าห้อง โรงแรมธุรกิจที่เคยพักเปิดเข้า
ด้านในกันทั้งนั้นนี่นา เคยได้ยินมาว่าที่เป็นแบบนั้นก็เพราะจะได้ป้องกัน
ไม่ให้ประตูห้องพักเปิดแล้วขวางทางเวลาหนีออกนอกตัวอาคารเมื่อเกิด
เหตุการณ์ฉุกเฉิน แต่ก็มีทฤษฎีแย้งว่าประตูที่เปิดออกมาด้านนอกดีกว่า
เพราะถ้ามีคนล้มพิงประตูอยู่จะไม่สามารถเปิดเข้าไปช่วยข้างในได้ ถ้า
เช่นนั้นเรื่องประตูของที่น่คี งจะไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรนัก
พอเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูจะได้ยนิ เสียงล็อกกุญแจโดยอัตโนมัติ
ที่ประตูมกี ้านเหล็กคล้องป้องกันประตูเปิด ถ้าคล้องก้านเหล็กนี้ไว้ จะเปิด
ประตูได้กว้างเพียงสิบเซนติเมตรเท่านั้น หรือหากใช้ก้านเหล็กนี้คั่นประตู
ที่เปิดอยู่ ก็จะท�ำหน้าที่เป็นตัวกั้นประตูให้เปิดอ้าไว้ได้
ผมเสียบคียก์ าร์ดเข้าตรงช่องเสียบทีผ่ นังแล้วไฟในห้องก็ตดิ เหมือน
กับโรงแรมธุรกิจทั่วๆ ไป

- 53 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

ทิวทัศน์ผ่านกระจกหน้าต่างบานใหญ่คือสิ่งแรกที่ผมเห็นเมื่อเข้า
มาในห้อง ทะเลสาบซาเบะอาอันกว้างใหญ่ราวกับทะเลอยู่อีกฟากหนึ่ง
ของป่าไม้ภายใต้ท้องฟ้าโปร่งแจ่มใส
ห้องพักมีขนาดกว้างกว่าที่คิดเอาไว้ ห้องกว้างประมาณสิบเสื่อ
ปูพรมสีแดงเข้มเหมือนทางเดินนอกห้อง เตียงกว้าง 120 เซนติเมตร
ขนาดเซมิดับเบิล มีโต๊ะเตี้ยวางโทรศัพท์อยู่ข้างๆ และยังมีโต๊ะเครื่องแป้ง
พร้อมกระจกเตรียมไว้ให้ ผนังห้องแขวนนาฬิกาดิจิทัลที่ไม่ค่อยเห็นที่ไหน
บอกเวลาเดียวกับนาฬิกาข้อมือของผม จากหน้าปัดท�ำให้รู้ว่าเป็นนาฬิกา
ที่ควบคุมด้วยคลื่นวิทยุซึ่งตั้งเวลาอัตโนมัติ เป็นแบบเรียบๆ ที่บอกเวลา
เฉพาะชั่วโมงและนาทีเท่านั้น
ประตูระเบียงเป็นแบบเปิดสองข้างออกไปด้านนอก ระเบียงมีขนาด
กว้างเพียงแค่ประตูเปิดออกไปได้เท่านั้น คงเอาเก้าอี้ออกไปนั่งข้างนอก
ไม่ได้ แต่กเ็ พียงพอที่จะออกไปยืนรับลมข้างนอก
หากมองออกไปจากระเบียงห้องจะเห็นรูปทรงของบ้านที่สร้างไล่
ระดับ เห็นห้องอื่นๆ ที่เรียงรายอยู่ทางขวามือ
กว่าจะถึงเวลานัดยังพอมีเวลาอยู่บ้าง ผมจึงตัดสินใจเดินส�ำรวจ
ในบ้านพัก
ผมเดินออกจากห้องแล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปที่โถงลิฟต์ เมื่อเดินเลย
ห้องของชิสุฮาระมา สิ่งแรกที่เห็นก็คือประตูบานหนึ่งที่กั้นทางเดินกับ
โถงลิฟต์เอาไว้ เนื่องจากเป็นประตูไม้จึงไม่น่าจะเป็นประตูส�ำหรับกันไฟ
ตอนนี้ประตูเปิดอยู่ น่าสงสัยจริงๆ ว่าท�ำไมต้องมีประตูเอาไว้ตรงนี้ด้วย
เมือ่ สังเกตดูดๆี ก็เห็นว่าทีป่ ระตูมรี กู ญ
ุ แจอยู่ทงั้ สองด้าน ซึง่ หมายความว่า
ล็อกกุญแจได้จากทั้งสองด้านนั่นเอง
ผังบ้านในสูจบิ ตั รเขียนเอาไว้วา่ อาคารนีถ้ กู แบ่งเป็นโซนทิศตะวันออก
โซนกลาง และโซนทิศใต้โดยมีประตูคนั่ ไว้ จากหน้าประตูนไี้ ปจนถึงห้องทีผ่ ม
และชิสฮุ าระพักอยูค่ อื โซนทิศตะวันออก และโถงลิฟต์คอื โซนกลาง เดินตรง

- 54 -
เข้าไปผ่านประตูที่เหมือนกันจะเป็นโซนทิศใต้ ในแต่ละโซนจะมีห้องพัก
อยู่สองถึงสามห้อง
จากผังห้องที่โซนกลางชั้นสามจ�ำนวนสามห้อง ถ้าเรียงล�ำดับจาก
ทิศตะวันออก จะเขียนเอาไว้วา่ ชินโด ชิเงโมโตะ และอาเคจิ ผมยังไม่ได้เจอ
คนชื่อชิเงโมโตะ แต่คาดว่าน่าจะเป็นคนที่มาถึงก่อน ห้อง 305 ของชินโด
จะไม่เหมือนใครเพราะประตูอยู่ในต�ำแหน่งทีเ่ ปิดยาก การทีป่ ระตูห้องเปิด
ไปทางซ้ายบ้างขวาบ้างน่าจะมีสาเหตุมาจากการวางท่อประปาและท่อแก๊ส
ท�ำให้ต้องออกแบบห้องที่เป็นสมมาตรกันนั่นเอง
ตรงโถงลิฟต์มีประตูอีกสองบานนอกจากประตูห้องพัก ที่ประตูมี
ป้ายติดไว้ว่าเป็นห้องเก็บของและห้องเก็บผ้า
ขณะนั้นเองก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินมาจากทางเดินทิศใต้ เธอจ้อง
มองผมแล้วเอียงคออย่างสงสัย
“ใครน่ะ? อ้อ หรือว่าจะเป็นสมาชิกชมรมค้นคว้าเรื่องลึกลับ”
เข้าใจผิดอีกแล้ว ผมขอแก้ไขให้ถูกต้องเพื่อคุณอาเคจิก็แล้วกัน
“ไม่ใช่ชมรมค้นคว้าครับ แต่เป็นคนจากชมรมคนรักเรื่องลึกลับ ผม
ชื่อฮามุระ อยู่ปีหนึ่ง”
“หืม งัน้ ก็เป็นนักสืบมือใหม่นะ่ สิ ฉันอยูค่ ณะสังคมศาสตร์ ชัน้ ปีสาม
ชื่อคุดามัตสึ ทาคาโกะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
หลังจากบอกชือ่ และแนะน�ำตัวเรียบร้อยแล้ว เธอก็ยกฝ่ามือขึน้ แตะ
ที่หน้าผากท�ำท่าตะเบ๊ะแบบทหาร รู้สึกว่าไม่ได้เจอคนร่าเริงแบบนี้มาได้
สักพักหนึ่งแล้ว
คุดามัตสึนับว่าเป็นคนสวยคนหนึ่ง แต่อุปนิสัยดูจะแตกต่างจาก
คนอื่นในชมรม ผมสีทองดัดฟูมัดเป็นหางม้าไว้ข้างหลัง แต่งหน้าเข้มจัด
ดูไปทางสาววัยรุ่นในเมืองใหญ่เสียมากกว่า เสื้อยืดคอกว้างเผยให้เห็น
เนินอกท�ำให้ผมรู้สกึ ใจเต้นตึกตักเล็กน้อย
“ได้ยนิ มาว่าพวกเธอตัง้ ใจมาขอออกค่ายโดยเฉพาะ เล็งสาวคนไหน

- 55 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

ไว้อยู่หรือไง? ถ้าเป็นแบบนั้นก็แย่หน่อยนะ คราวนี้มแี ต่สาวๆ ที่เข้าถึงตัว


ยากทั้งนั้น”
คุดามัตสึเป็นคนร่าเริงสดใสต่างจากทาคากิและชิสุฮาระอย่าง
สิ้นเชิง ดูท่าทางเหมือนจะไม่รู้เรื่องจดหมายขู่หรือข่าวลือของปีที่แล้ว
หรือไม่กเ็ ป็นนิสัยส่วนตัวที่ไม่สนใจเรื่องของชาวบ้าน
“โอย ไม่มหี รอกครับ” ผมส่ายหน้าปฏิเสธเรื่องผู้หญิง
“อ้าว ไม่ใช่หรอกหรือ อย่าบอกนะว่าพวกเธอมาเป็นคู่แข่งน่ะ”
บทสนทนาเริ่มมีนัยให้สนใจ
“คู่แข่งอะไรหรือครับ”
“อ๊ะ ไม่รู้จริงๆ ละสิเนี่ย เรื่องนี้พูดมากไปมันก็ไม่ดหี รอกนะ”
แม้จะออกตัวอย่างนี้ แต่กไ็ ม่ได้มที ที า่ ว่าจะปิดบังอะไรเลย คุดามัตสึ
หันไปมองรอบๆ ก่อนจะพูดต่อ
“คนที่เป็นเจ้าของที่น่ี รู้จักไหม รุ่นพี่ท่ชี ื่อนานามิยะน่ะ?”
“อ้อ เจอกันเมื่อกี้นี้ครับ”
“บ้านเขาเป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์ท่มี ีชื่อเสียง ถ้าท�ำให้เขาถูกใจก็
อาจจะขอให้ฝากเข้าไปท�ำงานได้”
อ้อ เรื่องเส้นสายในวงการนั่นเอง พูดน่ะมันง่ายแต่เอาเข้าจริงแล้ว
เจ้าตัวจะมีอ�ำนาจถึงขนาดนั้นเลยหรือ
“คุณคุดามัตสึตั้งใจมาร่วมงานนี้เพราะจุดประสงค์นี้หรือครับ”
“แน่นอน คะแนนของฉันน่ะไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีที่ดีๆ เขารับ
หรอก จะไปสอบเป็นสิบบริษัทก็เหนื่อยแย่ ไม่ง้นั ใครเขาอยากจะมายุ่งกับ
คุณหนูเสเพลพวกนี้ล่ะ โอ๊ะ...พูดมากไปเสียแล้ว”
พูดเสร็จก็เอามือปิดปากอย่างจงใจ หันไปมองรอบๆ ว่ามีใครฟังอยู่
หรือไม่ แล้วพูดต่อว่า
“ไม่ใช่ข่าวลือลอยๆ นะ ปีที่แล้วมีคนได้ไปท�ำงานที่บริษัทนั้นจริงๆ
พ่อแม่ทใี่ ห้ลกู ชายเอาบ้านพักตากอากาศมาใช้ได้ตามใจชอบคงจะตามใจ

- 56 -
ลูกพอดูเลยล่ะ”
นั่นสินะ คุดามัตสึคงคิดสะระตะเป็นอย่างดีแล้วถึงได้มาออกค่าย
ในคราวนี้ และก็คงต้องเอาอกเอาใจพวกศิษย์เก่าที่เอาแต่ใจด้วยล่ะสิ
ดูท่าทางคุดามัตสึพร้อมจะตอบทุกอย่างที่ผมถาม ผมจึงลองถาม
เรื่องที่ติดใจอยู่เมื่อครู่นี้
“เมือ่ กีน้ พี้ ดู เรือ่ งคูแ่ ข่ง แสดงว่ามีคนอืน่ ทีม่ เี ป้าหมายมาหาเส้นสาย
เข้าท�ำงานอีกน่ะสิครับ”
คุดามัตสึส่งสายตาเหยียดๆ ไปยังมุมห้องโถง
“ก็คนนั้นไง อีตา ประ-ธาน-ชมรม”
ยื่นปากจู๋เป็นปลาหมึก ชี้นิ้วไปทางประตูห้องหนึ่ง ห้องของชินโด
นั่นเอง
“จริงเหรอครับ?”
“จริงมาก มีคนที่มองไม่ออกอยู่เยอะ ตาคนนั้นไม่ได้หัวดีอะไร
มากมาย ถ้าไม่มีเป้าหมายละก็คงไม่พาแฟนมางานออกค่ายชมรมหรอก
ตานัน่ คงพยายามเอาใจพวกรุ่นพีส่ ดุ ชีวติ เลยล่ะ แต่ยงั ไงก็เป็นผู้ชายแหละ
นะ ผู้หญิงอย่างพี่ได้เปรียบกว่าเยอะ”
ว่าแล้วก็แอ่นอกอันอวบอิ่มหัวเราะ โฮะๆ จริงของคุณคุดามัตสึ
ถ้าเป็นรุ่นพี่พวกนั้นละก็ เธอได้เปรียบกว่าอย่างแน่นอน
แต่แปลกใจจริงๆ ที่รู้ว่าชินโดเป็นคนที่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ทั้งที่ดู
เป็นคนซือ่ ๆ ณ ตอนนี้ เท่าทีไ่ ด้ยนิ มามีแต่เรือ่ งไม่ดที งั้ นัน้ เช่น การพยายาม
ปิดบังเรื่องจดหมายขู่ เป็นต้น
“โอ๊ะ ฉันต้องไปเตรียมของถ่ายหนังแล้ว พวกเธอจะไปด้วยไหม”
“ไปครับ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เลยนะครับ”
“โอเค งั้นเดี๋ยวเจอกันจ้า”
คุดามัตสึโบกมือลาหยอยๆ แล้วลงลิฟต์ไป
ส่วนผมเปิดประตูท่กี ั้นโซนอยู่ แล้วเดินต่อไปยังโซนทิศใต้

- 57 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

ด้านทิศใต้มีสองห้องเรียงติดกัน ห้องที่ใกล้กว่าเป็นห้อง 302 ของ


คุดามัตสึ คนทีพ่ บเมือ่ ครู่นี้ ห้องในสุดเป็นห้องทีไ่ ม่ได้เขียนชือ่ ไว้ พวกศิษย์
เก่าอาจมาเข้าพักที่น่กี ็ได้
เมือ่ เดินเข้าไปด้านในเรือ่ ยๆ ก็เจอกับประตูทอี่ อกไปยังบันไดฉุกเฉิน
ผมเดินกลับมาที่โซนกลางอีกครั้งแล้วลงไปยังชั้นสอง ลิฟต์แคบ
มากอย่างที่คันโนะบอก เป็นลิฟต์ที่ก�ำหนดให้โดยสารสี่คน ได้ยินมาว่า
ตามมาตรฐานหนึ่งคนให้คิดว่าหนักหกสิบห้ากิโลกรัม ดังนั้นรวมแล้ว
ไม่ควรเกินสองร้อยหกสิบกิโลกรัม ถ้าเป็นผูช้ ายวัยผูใ้ หญ่มสี มั ภาระมาด้วย
ลิฟต์ตัวนี้น่าจะบรรทุกได้ไม่เกินสามคน
เมือ่ มาถึงชัน้ สองก็ได้เห็นภาพทีต่ นื่ ตาผิดไปจากชัน้ สามคือมีเลานจ์
อันกว้างขวางอยู่ตรงหน้า ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราวกับห้องรับแขกของ
คฤหาสน์ที่หรูหราร�่ำรวย ตรงมุมห้องมีโทรทัศน์ขนาดใหญ่คาดว่าน่าจะ
หกสิบนิ้วตั้งอยู่ หน้าโทรทัศน์มีชุดโซฟาอันโอ่อ่าสวยงามตั้งเรียงกัน ที่
ก�ำแพงแขวนโทรศัพท์แบบเดียวกับในห้องนอน นอกจากนั้นยังมีเครื่อง
กดน�้ำและเครื่องชงกาแฟเตรียมไว้ให้เสร็จสรรพ ทว่าที่สะดุดตาที่สุดกลับ
เป็นสิ่งอื่น
“สุดยอดไปเลย...”
ก�ำแพงทัง้ ด้านเรียงรายไปด้วยอาวุธและเครือ่ งป้องกันจ�ำลองทีห่ นา
หนักดูน่าเกรงขาม คงเป็นของสะสมของเจ้าของบ้านพักที่คันโนะพูดถึง
เท่าที่เห็นไม่มีดาบญี่ปุ่น มีแต่หอก ดาบและค้อนแบบตะวันตก
สีเทาหม่น เป็นอาวุธทีม่ กั เห็นได้ในหนังการ์ตนู หรือเกมแนวแฟนตาซี ผมเอง
ก็เพิ่งจะเคยเห็นจริงๆ ครั้งแรกในวันนี้ จ�ำได้ว่าสมัยก่อนเคยขอยืมหนังสือ
‘สารานุกรมอาวุธ’ ของน้องสาวซึ่งชอบเล่นเกมมาอ่าน ผมเริ่มรื้อฟื้น
ความทรงจ�ำเมื่อตอนนั้นแล้วนึกชื่อของอาวุธแต่ละชิ้นออกมา สิ่งแรกที่
สะดุดตาคือดาบต่างๆ มีดาบบัสตาร์ดซึ่งสามารถถือได้ทั้งสองมือและ
มือเดียว ดาบโค้งอ่อนช้อยสวยงามคือดาบชาร์มเชียร์ของเปอร์เซีย และ

- 58 -
ดาบเรียวยาวตรงนั้นเรียกว่าเรเปียร์ ไม่สิ ดูจากก�ำบังดาบที่เป็นเส้นตรง
เรียบง่ายน่าจะเป็นดาบเอสต็อกมากกว่า ส่วนหอกมีแต่หอกสั้นแต่ก็
ยาวเกือบสองเมตรแล้ว ดาบสั้นมีพวกกริชและดาบคูคริ 1 รวมทั้งหน้าไม้
ไปจนถึงกระบองโบราณที่ไม่ค่อยได้เห็นที่ไหน และตรงริมผนังยังมีกล่อง
อะคริลกิ แนวยาวตัง้ ไว้ ด้านในเป็นหุน่ ตัวเล็กๆ จ�ำลองภาพเหตุการณ์รบกัน
ในยุโรปยุคกลาง
“เยี่ยมไปเลยใช่ไหม”
พอหันไปดูกพ็ บคันโนะใส่ผ้ากันเปื้อนสีเขียวยืนอยู่ คงจะขึน้ มาทาง
บันไดฝัง่ ทิศตะวันออก ในมือของเขาถือถุงครีมใส่กาแฟและถุงแก้วกระดาษ
คงจะเอาขึ้นมาเติมให้ท่นี ี่
“ตอนแรกทีผ่ มเห็นก็ตกใจเหมือนกัน ไม่รู้หรอกว่ามันมีมูลค่าเท่าไร
แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเจ้าของชอบสงครามในสมัยยุโรปยุคกลางมากพอดู”
ก็จริง เพราะการเอามาประดับตกแต่งแบบนี้ไม่น่าจะเป็นส่วนหนึ่ง
ของการแต่งห้องโดยทั่วไป แต่เป็นการบ่งบอกถึงความชอบส่วนตัวของ
เจ้าของมากกว่า
“เป็นของท�ำขึ้นใหม่สนิ ะครับ”
“เห็นบอกว่าเป็นการหลอมท�ำใหม่โดยใช้วัสดุเดียวกันกับของจริง
ทุกวันนี้ก็ยังสั่งให้ปัดฝุ่นท�ำความสะอาดทุกเดือนครับ”
“แล้วนั่นอะไรครับ?”
รูปหล่อเต็มตัวขนาดพอๆ กับเอวของผมตั้งล้อมอยู่ข้างโทรทัศน์
ด้านซ้ายมีสี่ตัวและด้านขวามีห้าตัว มีสีเทาอมสนิมสีฟ้าคาดว่าน่าจะท�ำ
จากทองแดง
“ดูเหมือนจะเป็นบุคคลส�ำคัญของยุโรป เอ ชื่ออะไรนะ อ๋อ รูปหล่อ
ทองแดงของเก้าผูย้ งิ่ ใหญ่นะ่ ครับ ผมเคยโดนเจ้าของดุวา่ เรือ่ งแค่นที้ �ำไมไม่รู้
มีรูปหล่อกษัตริย์อาเธอร์ ดาวิด แล้วก็ไกเซอร์ กับ...เฮ้อ ลืมอีกแล้ว”
1
Kukri ดาบสั้นประจ�ำตัวของทหารกูรข่า (เนปาล) มีลักษณะโค้งเป็นเอกลักษณ์

- 59 -
บทที่ 2 : บ้านชิจิน

เก้าผู้ยงิ่ ใหญ่ เคยได้ยนิ ชือ่ มาบ้างว่าเป็นวีรบุรษุ ทีถ่ อื เป็นแบบอย่าง


ของเหล่าอัศวินนักรบในยุคกลางของยุโรป ที่จ�ำได้ก็มีอเล็กซานเดอร์
มหาราชกับเฮกเตอร์เท่านัน้ ไม่วา่ จะทัง้ อาวุธหรือผูก้ ล้าวีรบุรษุ อะไรนี่ ถือว่า
เจ้าของมีงานอดิเรกที่ค่อนข้างแปลกทีเดียว ผมเดินวนดูรอบหนึ่งแล้วจึง
พูดขึ้นว่า
“อืม โล่งอกที่ไม่มีปืนล่าสัตว์”
ในนิยายลึกลับสืบสวนส่วนใหญ่ บ้านพักตากอากาศทีม่ ปี นื ล่าสัตว์
จะต้องมีคนตายเสมอ
“หลายปีก่อนหน้านีเ้ คยมีนะครับ”
“หา”
“คุณคาเนะมิตสึเคยแอบเอาออกมายิงเล่น หลังจากนั้นก็ไม่ได้
วางโชว์อกี เลย”
คุณชายเจ้าส�ำราญคนนั้น ช่างเป็นคนที่แย่จริงๆ
“คุณคันโนะครับ บ้านชิจินนี้แปลกๆ นะครับ เช่นมีประตูที่ไม่รู้ว่า
เอาไว้ใช้ท�ำอะไร ห้องพักที่มีอยู่ก็กว้างแต่กลับเป็นห้องเดี่ยวทั้งหมด แล้ว
พนักงานก็มีแต่คุณคันโนะคนเดียวด้วย”
พูดจบคันโนะก็ยิ้มและพยักหน้ารับ
“เดิมทีบ้านนี้เป็นบ้านพักตากอากาศของเจ้าของที่เปลี่ยนให้เป็น
สถานที่เทรนนิ่งและพักผ่อนของพนักงานน่ะครับ ประตูตรงทางเดินก็มา
จากตรงนี้แหละครับ ถึงจะเรียกว่าเพนชั่นแต่คนที่มาพักจะมีแต่พนักงาน
และครอบครัวเท่านั้น ปกติก็ว่างไม่มีใครมา แต่บางครั้งจะมีคนมาช่วย
ท�ำความสะอาดชั่วครั้งชั่วคราวด้วยน่ะครับ”
ตอนนั้นเองที่ได้ยินเสียงคนคุยกัน
“อายุมุเคยบอกว่าไม่มีปัญหาอะไรนี่ คิดจริงๆ หรือว่าท�ำแบบนั้น
แล้วจะไม่เป็นไรน่ะ?”
“แต่ว่า เรื่อง...ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวจะ...เอง”

- 60 -

You might also like