Professional Documents
Culture Documents
Reattach Original
Reattach Original
ธีสมดุลขีดจากัด และวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์
Comparisons of analysis results of slope
stability between Limit Equilibrium Method
and Finite Element Method
บทคัดย่อ
บ ท ค ว า ม นี้ น า เส น อ ก า ร เป รี ย บ เที ย บ ก า ร วิ เค ร า ะ ห์ เส ถี ย ร ภ า พ ข อ ง ล า ด ดิ น
ระหว่ า งวิ ธี ส มดุ ล ขี ด จ ากัด (Limit Equilibrium Method) กับ วิ ธี ไ ฟไนต์ เอลิ เ มนต์
(Finite Element Method) โ ด ย ใ ช้ ห น้ า ตั ด คั น ดิ น ตั ว อ ย่ า ง
ห น้ า ตั ด แ ล ะ ข้ อ มู ล ดิ น จ า ก ง า น วิ จั ย ที่ ผ่ า น ม า
แ ล ะ คั น ดิ น ป้ อ ง กั น น้ า ท่ ว ม ข อ ง ท่ า อ า ก า ศ ย า น สุ ว ร ร ณ ภู มิ เป็ น ก ร ณี ศึ ก ษ า
โ ด ย ศึ ก ษ า อิ ท ธิ พ ล ข อ ง คุ ณ ส ม บั ติ ด้ า น ก า ลั ง รั บ น้ า ห นั ก ข อ ง ดิ น
แ ล ะ อิ ท ธิ พ ล ข อ ง ร ะ ดั บ น้ า ที่ ไ ห ล ซึ ม ผ่ า น คั น ดิ น
จากผลการศึกษาเมือ ่ เปรียบเทียบค่าสัมประสิทธิค ์ วามปลอดภัยโดยใช้ผลงานวิจยั ทีผ ่ า่ นมา
พ บ ว่ า ก า ร ค า น ว ณ ด้ ว ย วิ ธี ไ ฟ ไ น ต์ เ อ ลิ เ ม น ต์
และวิธีสมดุลขีด จากัด ให้ค่าสัมประสิทธ์ ความปลอดภัยที่ใกล้เคียงกับ งานวิจยั ทัง้ สองวิธี
แ ล ะ เ มื่ อ ศึ ก ษ า อิ ท ธิ พ ล ข อ ง ก า ลั ง รั บ น้ า ห นั ก ข อ ง ดิ น พ บ ว่ า
ค่ า สั ม ป ร ะ สิ ท ธิ ์ ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย ขึ้ น กั บ ก า ลั ง รั บ น้ า ห นั ก ข อ ง ดิ น
โดยค่ามุมเสียดทานภายในของดินมีอท ิ ธิพลต่อค่าสัมประสิทธิค ์ วามปลอดภัยมากกว่าค่าแ
ร ง ยึ ด เ ห นี่ ย ว ข อ ง ดิ น
และอิทธิพลของระดับน้าทีไ่ หลซึมผ่านคันดินป้ องกันน้าท่วมมีผลทาให้คา่ สัมประสิทธิควา ์
ม ป ล อ ด ภั ย มี ค่ า ล ด ล ง เ มื่ อ ร ะ ดั บ น้ า สู ง ขึ้ น
โดยอิทธิพลของระดับน้าต่อค่าสัมประสิทธิค ์ วามปลอดภัยแสดงให้เห็นชัดในการคานวณด้
วยวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์
ค า ส าคั ญ : เส ถี ย ร ภ าพ ข อ ง ล าด ดิ น วิ ธี ส ม ดุ ล ขี ด จ ากั ด วิ ธี ไ ฟ ไ น ต์ เอ ลิ เม น ต์
ค่าสัมประสิทธิค์ วามปลอดภัย
Abstract
This paper presents the comparison of analysis results of slope stability
between Limit Equilibrium Method and Finite Element Method by using
slope from previous work and flood protection slope from Suvarnabhumi
Airport as case studies. The effective of strengh of soil and water level
flow through the slope are studied. As the results, the factors of safety by
limit equilibrium method and finite element method are similar with the
previous work. The strengths of soil affect the factor of safety from both
method. The friction angle play more effect with factor of safety than
cohesion of soil. For the effect of water level, it is found that factor of
safety depends on water level especially when analized with finite
element method.
2. วิธีการวิจยั
2.1. การตรวจสอบโปรแกรมด้วยการวิเคราะห์ความลาดชันจากผลงานวิจยั ทีผ
่ า่ นมา
ใ น ง า น วิ จั ย นี้ ใ ช้ โ ป ร แ ก ร ม KU-Slope [4]
ซึง่ เป็ นโปรแกรมทีใ่ ช้ในการวิเคราะห์เสถียรภาพความลาดชันของดินด้วยวิธีสมดุลขีดจากั
ด โ ด ย โ ป ร แ ก ร ม KU-slope
นั้น สามารถเลื อ กวิเคราะห์ เสถี ย รภาพความลาดชัน ของดิน ด้ว ยวิธี Ordinary [1], วิธี
Bishop [1], วิ ธี Janbu [2] แ ล ะ วิ ธี Spencer [5]
ส า ห รั บ ก า ร วิ เค ร า ะ ห์ ด้ ว ย วิ ธี ไ ฟ ไ น ต์ เอ ลิ เม น ต์ นั้ น ใ ช้ โ ป ร แ ก ร ม Plaxis [6]
ใ น ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์
ดังนั้นเพือ่ เป็ นการตรวจสอบโปรแกรมจึงทาการวิเคราะห์ความลาดชัน ของผลงานวิจยั ทีผ ่ ่
านมา 2 กรณี คื อ กรณี ที่ไ ม่มี น้ า และกรณี ที่มีน้ า ไหลผ่านในคัน ดิน Data From [7]
โดยหน้าตัดของความลาดชันแสดงในรูปที่ 1
โดยเงือ
่ นไขของงานวิจยั ของ Roscience Inc. ทาการจาลองดินเป็ นเนื้อเดียวกัน
(Homogeneous) โมเด ลแ บ บ T6 element ให้ พื้ น ด่ า น ล่ า งมี จุ ด ยึ ด แ บ บ Fixity
และให้ด้านข้างเป็ นจุด ยึด แบบ Roller และมีคุณ สมบัติข องดิน ตาม Mohr Coulomb
Model ตามรูปที่ 1
(ก) กรณีไม่มน
ี ้าไหลผ่านคันดิน
(ข)
กรณี มน
ี ้าไหลผ่านคันดิน
รูปที่ 1
หน้าตัดความลาดชันจากงานวิจยั ทีผ
่ า่ นมา [7]
2.2. การวิเคราะห์ความลาดชันด้วยหน้าตัดอย่างง่าย
เพือ
่ เป็ นการเปรียบเทียบวิธีวเิ คราะห์เสถียรภาพความลาดชันด้วยวิธีสมดุลขีดจากัด
แ ล ะ วิ ธี ไ ฟ ไ น ต์ เ อ ลิ เ ม น ต์ โ ด ย ใ ช้ ห น้ า ตั ด อ ย่ า ง ง่ า ย
และศึ ก ษาอิ ท ธิ พ ลของค่ า ก าลัง รับ น้ า หนัก ของดิ น คื อ ค่ า แรงยึ ด เหนี่ ย วของเม็ ด ดิ น
( Cohesion, C) แ ล ะ ค่ า มุ ม เ สี ย ด ท า น ภ า ย ใ น ( Internal friction angle, )
โ ด ย ห น้ า ตั ด ข อ ง ค ว า ม ล า ด ชั น แ ส ด ง ใ น รู ป ที่ 2
และเงือ
่ นไขของการศึกษาอิทธิพลของค่ากาลังรับน้าหนักของดิน แสดงในตารางที่ 1
การวิเคราะห์สมดุลขีดจากัดเพือ ่ วิเคราะห์เสถียรภาพความลาดชันของดินโดยใช้โป
ร แ ก ร ม KUslope ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ เ ป็ น แ บ บ 2
มิ ติ โ ด ย ใ ห้ ข อ บ ด้ า น ข้ า ง แ ล ะ ด้ า น ล่ า ง เ ป็ น ผิ ว เ รี ย บ
ท า ก า ร แ บ่ ง ชิ้ น เ พื่ อ ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ โ ด ย ค่ า ที่ เ ห ม า ะ ส ม ข อ ง โ ป ร แ ก ร ม
และทาการหาจุดศูนย์กลางและรัศมีของวงเคลือ ่ นพังตามการคานวณแบบอัตโนมัติของโป
รแกรม
การวิเคราะห์ไฟไนต์เอลิเมนต์เพือ
่ วิเคราะห์เสถียรภาพความลาดชันของดินโดยใช้
โ ป ร แ ก ร ม Plaxis ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ เ ป็ น แ บ บ 2
มิติโดยให้ข อบด้านข้างและด้านล่างเป็ นผิว เรีย บ ถู ก จาลองโดย 15-node triangular
element, coarse Mesh Generation และใช้เงื่อนไขการพังทลายของมอร์ -คูลอมบ์
( Mohr-Coulomb Failure Criteria)
โดยให้มีเงื่อนไขให้ดินมีพฤติกรรมระบายน้า (Drain Condition) ค่า Dilation angle
= 0o ค่ า Poisson Ratio = 0.3 ส า ห รั บ ก า ร จ า ล อ ง โ ม เด ล ใ ห้ เป็ น ดิ น เห นี ย ว
และก าหนดค่ามอดู ลสั ของยัง (Young Modulus, Eur) ให้มีค่าเท่ากับ 8600 kN/m2
[9]
= 20 kN/m3
C = 18 kN/m2
= 0o, 20o
รูปที่ 2 หน้าตัดความลาดชันอย่างง่าย
ตารางที่ 1 เงือ
่ นไขการศึกษาอิทธิพลของค่ากาลังรับน้าหนักของดิน
กรณี Unit Young Cohesion, Internal
weight, Modulus, C friction
E (kN/m2) angle,
(kN/m ) (kN/m2)
3
(degree)
1. ศึกษาผลของ 20 8,600 18 5, 10, 15,
internal friction 20, 25, 30,
angle 35, 40, 45,
50
2. ศึกษาผลของ 20 8,600 5, 10, 15, 0
cohesion 20, 25, 30,
40, 45, 50
3. ศึกษาผลของ 20 8,600 5, 10, 15, 20
cohesion 20, 25, 30,
40, 45, 50
ตารางที่ 2 คุณสมบัตข
ิ องชัน
้ ดินสาหรับคันดินป้ องกันน้าท่วม [8]
Soil No. Cohesion Internal friction Unit weight Young
(kN/m2) angle, (degree) (kN/m3) Modulus[9]
(kN/m2)
1 45.00 0 19.63 41000
2 0.00 30 19.63 41000
3 40.30 0 18.50 37540
4 13.70 0 18.70 3597
5 11.50 0 16.50 2350
6 21.50 0 15.70 8017
7 8.40 0 16.10 1500
3. ผลการวิจยั
3.1 การศึกษาหน้าตัดคันดินจากงานวิจยั ทีผ
่ า่ นมา
การตรวจสอบโปรแกรมโดยเปรียบเทียบกับงานวิจยั ทีผ ่ า่ นมา ด้วยโปรแกรม KU
Slope แ ล ะ โ ป ร แ ก ร ม Plaxis โ ด ย ใ ห้ มี ก า ร ต ร ว จ ส อ บ 2 ก ร ณี คื อ 1)
ก ร ณี ไ ม่ มี น้ า ไ ห ล ผ่ า น คั น ดิ น แ ล ะ 2) ก ร ณี ที่ มี น้ า ไ ห ล ผ่ า น คั น ดิ น
โดยเปรียบเทียบผลของสัมประสิทธิค ์ วามปลอดภัยทีไ่ ด้กบั ผลการวิเคราะห์ทไี่ ด้จากงานวิจ ั
ยทีผ
่ า่ นมา
3.2 การวิเคราะห์ความลาดชันของหน้าตัดคันดินอย่างง่าย
ต า ร า ง ที่ 5
์ วามปลอดภัยกรณี เปลีย่ นแปลงค่ามุมเสียดทานภายใน
แสดงค่าสัมประสิทธิค
No Unit Cohesio Intern Factor of Safety, FS
. Weigh n al
t friction วิธี วิธี วิธี วิธี FE
Ordinar Janb Bisho Spence
(kN/m3 (kN/m2) angle y u p r
)
1 20 18 5 0.712 0.719 0.720 0.721 0.67
5
2 20 18 10 0.871 0.870 0.899 0.899 0.88
9
3 20 18 15 1.024 1.016 1.048 1.047 1.04
3
4 20 18 20 1.166 1.158 1.203 1.201 1.21
9
5 20 18 25 1.318 1.307 1.368 1.365 1.38
7
6 20 18 30 1.476 1.463 1.530 1.526 1.54
5
7 20 18 35 1.639 1.623 1.707 1.700 1.70
8
8 20 18 40 1.823 1.805 1.904 1.899 1.98
4
9 20 18 45 2.036 2.017 2.127 2.118 2.22
9
10 20 18 50 2.269 2.247 2.376 2.369 2.50
8
3.00
Ordinary Janbu
2.50 Bishop Spencer
2.00 Finite
Factor of safety
1.50
1.00
0.50
0.00
0 5 10 15 20 25 30 35 40 45 50
Internal friction angle, degree
์ วามปลอดภัยเมือ่ เปลีย่ นแปลงมุมเสียดทานภายใน
รูปที่ 4 ค่าสัมประสิทธิค
3.00
Ordinary Janbu
2.50 Bishop Spencer
FE
2.00
Factor of safety
1.50
1.00
0.50
0.00
0 5 10 15 20 25 30 35 40 45 50
Cohesion, kPa
2.50
2.00
Factor of safety
1.50
รูปที่ 7 แนวการเคลือ
่ นพังของคันดินป้ องกันน้าท่วม กรณี ทม
ี่ รี ะดับน้ามากระทาต่าสุด
(0.00 เมตร)
รูปที่ 8 แนวการเคลือ
่ นพังของคันดินป้ องกันน้าท่วม กรณี ทม
ี่ รี ะดับน้ามากระทาสูงสุด (3.50
เมตร)
4. สรุปผลการศึกษา
จากการศึกษาเพือ ่ เปรียบเทียบผลการวิเคราะห์เสถียรภาพของลาดดินระหว่างวิธีสมดุล
ขี ด จ า กั ด แ ล ะ วิ ธี ไ ฟ ไ น ต์ เ อ ลิ เ ม น ต์ ส า ม า ร ถ ส รุ ป ไ ด้ ว่ า
การวิเคราะห์เสถียรภาพของลาดดินด้วยวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ มแ ี นวโน้มให้คา่ สัมประสิทธิค ์ วา
ม ป ล อ ด ภั ย ที่ ส ม เ ห ตุ ส ม ผ ล ก ว่ า ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ด้ ว ย วิ ธี ส ม ดุ ล ขี ด จ า กั ด
ดั ง ที่ แ ส ด ง ใ น ก า ร ศึ ก ษ า ด้ ว ย วิ ธี ต่ า ง ๆ ก ล่ า ว คื อ
เมื่ อ ท า ก า ร เป รี ย บ เที ย บ ค่ า สั ม ป ร ะ สิ ท ธิ ์ ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย จ า ก ง า น วิ จั ย ที่ ผ่ า น ม า
วิธีการคานวณทัง้ วิธีไฟไนต์เอลิเมนต์และวิธีสมดุลขีดจากัดถือว่ามีคา่ สัมประสิทธิค ์ วามปลอด
ภัยทีใ่ กล้เคียงกับงานวิจยั ทีผ ่ า่ นมา มีคา่ ความคลาดเคลือ ่ นทีแ
่ ตกต่างกันออกไปในแต่ละทฤษฎี
กรณี วิ เ ค ราะห์ ด้ ว ยห น้ าตัด ตัว อย่ า ง โด ยท าการเปลี่ ย น แ ป ลงค่ า คุ ณ สมบัติ ข องดิ น
ผลทีอ่ อกมาแสดงให้เห็นว่าวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์มีสมั ประสิทธิค ์ วามปลอดภัยทีต ่ ่ากว่าวิธีสมดุล
ขี ด จ า กั ด อ ยู่ เ ล็ ก น้ อ ย โ ด ย เ มื่ อ เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง คุ ณ ส ม บั ติ ต่ า ง ๆ ข อ ง ดิ น
วิ ธี ไ ฟ ไ น ต์ เ อ ลิ เ ม น ต์ ว่ า มี อั ต ร า ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ม า ก ก ว่ า
เป็ นเพราะว่ า ค่ า มุ ม ของแรงเสี ย ดทานภายในและค่ า แรงยึ ด เหนี่ ย วระหว่ า งเม็ ด ดิ น นั้น
การคานวณด้วยวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์มผ ี ลต่อการคานวณโดยตรงมากกว่าการคานวณด้วยวิธีส
ม ดุ ล ขี ด จ า กั ด ต า ม ห ลั ก ก า ร วิ ธี C- reduction
ที่ เ ป็ น ก า ร ใ ช้ ห ลั ก ก า ร ล ด ท อ น ค่ า ก า ลั ง ข อ ง ตั ว แ ป ร tan แ ล ะ C
ล ง จ น ก ร ะ ทั่ ง โ ค ร ง ส ร้ า ง เ กิ ด ก า ร วิ บั ติ
ค่ามุมของแรงเสียดทานภายในและค่าแรงยึดเหนี่ยวระหว่างเม็ดดินมีผลกระทบโดยตรงต่อค่า
สั ม ป ร ะ สิ ท ธิ ์ ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า คั น ดิ น ป้ อ ง กั น น้ า ท่ ว ม
จ ะ เ ห็ น ไ ด้ ว่ า เ มื่ อ เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ค่ า ร ะ ดั บ น้ า
ค่า สัม ประสิท ธิ ค ์ วามปลอดภัย จากวิ ธี ไ ฟไนต์ เอลิ เมนต์ มี ก ารเปลี่ ย นแปลงตามระดับ น้ า
แต่วิธีสมดุลขีดจากัดค่าสัมประสิทธิค ์ วามปลอดภัยจะเปลีย่ นแปลงเมือ ่ ระดับน้าสูงกว่า 2.00
เ ม ต ร ขึ น ้ ไ ป ท า ใ ห้ ส รุ ป ไ ด้ ว่ า
ระดับ น้ ามี ผ ลต่ อ ก ารค าน วณ ด้ ว ยวิ ธี ไ ฟ ไน ต์ เอลิ เ ม น ต์ ม าก ก ว่ า วิ ธี ส ม ดุ ลขี ด จ ากัด
แ ล ะ ส า ห รั บ ผ ล ก ร ะ ท บ ข อ ง ค่ า โ ม ดู ลั ส ข อ ง ยั ง (Young Modulus, E)
ที่ เป็ น ปั จ จั ย ที่ ต่ า ง กั น ข อ ง โ ป ร แ ก ร ม KUslope แ ล ะ โ ป ร แ ก ร ม Plaxis นั้ น
สรุ ป ได้ ว่า ค่า โมดู ล สั ของยัง มี ผ ลต่อ การค านวณค่า สัม ประสิท ธิค ์ วามปลอดภัย ที่น้ อ ยมาก
เป็ น เพ ร า ะ ว่ า ก า ร ค า น ว ณ ด้ ว ย วิ ธี ไ ฟ ไ น ต์ เอ ลิ เม น ต์ ใ ช้ วิ ธี C- reduction
ค่ า แ ร ง ยึ ด เ ห นี่ ย ว ร ะ ห ว่ า ง เ ม็ ด ดิ น
และค่ามุมของแรงเสียดทานภายในจะมีผลต่อการคานวณโดยตรงมากกว่าค่าโมดูลสั ของยัง
ซึ่ ง ทั้ ง ก า ร ศึ ก ษ า ทั้ ง 3 ก ร ณี ท า ใ ห้ ส รุ ป ไ ด้ ว่ า
การวิเคราะห์เสถียรภาพของลาดดินด้วยวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์มแ ี นวโน้มให้คา่ สัมประสิทธิค ์ วา
ม ป ล อ ด ภั ย ที่ ส ม เ ห ตุ ส ม ผ ล ก ว่ า ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ด้ ว ย วิ ธี ส ม ดุ ล ขี ด จ า กั ด
ทั้ ง นี้ ใ น บ ท ค ว า ม นี้ เป็ น ก า ร ศึ ก ษ า ใ น ก ร ณี ดิ น ถ ม เท่ า นั้ น ส า ห รั บ ง า น ดิ น ขุ ด
คั น ดิ น ที่ เ กิ ด จ า ก ธ ร ร ม ช า ติ ห รื อ ก ร ณี อื่ น ๆ
ต้องทาการศึกษาแยกเป็ นอีกกรณี เพือ ่ ทาการหาข้อสรุปต่อไป
5. กิตติกรรมประกาศ
ผูเ้ ขียนขอขอบพระคุณ บริษท ั ไวส โปรเจ็ค คอนซัลติง้ จากัด
ทีไ่ ด้อนุเคราะห์ขอ ้ มูลเจาะสารวจดินตัวอย่างทัง้ หมด เพือ
่ นามาวิเคราะห์ในงานวิจยั ในครัง้ นี้
จนทาให้งานสาเร็จลุลว่ งไปได้ดว้ ยดี
6. เอกสารอ้างอิง
[1] พัลลภ วิสท ุ ธิเ์ มธานุกูล, 2558, คูม
่ อ
ื วิศวกรรมฐานราก, ซีเอ็ดยูเคชั่น, กรุงเทพ, 792 น.
[2] วี ร ยา ฉิ ม อ้อ ย, 2544, การวิเคราะห์ แ ละออกแบบฐานราก, ภาควิช าวิศ วกรรมโยธา
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ปทุมธานี, 289 น.
[3] Whitman, R. V. & Bailey, W. A., 1967, Use of computers for slope
stability analysis. J. Soil Mech. Found. Div., ASCE 93
[4] รั ฐ ธ ร ร ม อิ ส โ ร ฬ า ร , คู่ มื อ ก า ร ใ ช้ โ ป ร แ ก ร ม KUslope version 2.0,
ภาควิชาวิศวกรรมปฐพี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ , กรุงเทพ, 45
น.
[5] Spencer E., 1967, A method of analysis of the stability of embankments
assuming parallel interslice forces, Géotechnique 17(1), 11-26 p.
[6] Brinkgreve R.B.J., 2002, PLAXIS 2D Version 8 Manual. A.A. Balkema
Publishers. 202 p.
[7] Roscience Inc., 2001-2004, Application of the Finite Element Method to
Slope Stability”. Roscience Inc., Toronto.
[8] ฝ่ ายวิ ศ วกรรมปฐพี , 2555, รายงานผลการเจาะส ารวจดิ น คัน ดิ น ป้ องกัน น้ า ท่ ว ม
สนามบินสุวรรณภูม,ิ บริษท ั ไวส โปรเจ็ค คอนซัลติง้ จากัด, กรุงเทพฯ
[9] Geotechnical Info, Young's Modulus of Soil, Available Source:
http://www.geotechnicalinfo.com/youngs _modulus.html
[10] สุเชษฐ์ ลิขิต เลอสรวง, 2550, วิธี ไ ฟไนต์ เอลิเมนต์ ในงานวิศ วกรรมธรณี เทคนิ ค ,
จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย: กรุงเทพฯ, 196 น.
[11] ว า รุ ณี ก ะ ก า ร ดี , สุ ท ธิ ศั ก ดิ ์ ศ ร ลั ม พ์ , แ ล ะ รั ฐ ธ ร ร ม อิ ส โ ร ฬ า ร , 2556,
การศึกษาความเหมาะสมของการวิเคราะห์เสถียรภาพของลาดงานขุดโดยเปรียบเทียบ
วิ ธี ส ม ดุ ล จ า กั ด
ไฟไนต อิลิเมนต และสมดุ ล จ ากัด ร วมกับ การพิ จ ารณาหน วยแรงในมวลดิ น ,
การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครัง้ ที่ 18: 339 – 346.