Professional Documents
Culture Documents
Fluid โรงเรียนวัดทรงธรรม
Fluid โรงเรียนวัดทรงธรรม
Fluid โรงเรียนวัดทรงธรรม
โรงเรียนวัดทรงธรรม ชื่อ…………………………………………………
วิชา ฟิสิกส์ 2 (ว32201) ชั้น……………………… เลขที่………..………
ความดันในของเหลว
ภาชนะที่มีของเหลว จะมีแรงที่ของเหลวกระท้าต่อภาชนะในทิศตั้งฉากกับผนังที่ของเหลวสัมผัสเสมอ ขนาด
ของแรงต่อพื้นที่ เรียกว่า ความดันในของเหลว
แรงที่ของเหลวกระท้าต่อวัตถุที่จมในของเหลว จะมีทิศตั้งฉากกับวัตถุที่จมเสมอ
ถ้าเราลองเจาะรูของภาชนะ จะพบว่า แรงที่ของเหลวจะดันน้้าให้พุ่งออกมาตั้งฉากกับภาชนะที่ต้าแหน่งที่
เจาะรูเสมอ ดังรูป
ความดันในของเหลวขึ้นอยู่กับความลึก
พิจารณาของเหลวที่มีความหนาแน่น ในภาชนะที่มีพื้นที่หน้าตัด A สูง h
แรงที่กระทาต่อผิวของของเหลวด้านบน
𝐹0 = 𝑃0 𝐴
แรงเนื่องจากน้าหนักของของเหลว
𝑤 = 𝑚𝑔 = 𝑉𝑔 = 𝐴ℎ𝑔
แรงที่กระทาต่อผิวของของเหลวด้านล่าง
จาก 𝐹 = 𝑃𝐴
กฎการเคลื่อนที่ข้อที่ 1 ของนิวตัน
𝐹 = 0
𝐹 = 𝐹0 + 𝑊
𝑃𝐴 = 𝐹0 𝐴 + 𝐴ℎ𝑔 ความดันในของเหลวขึ้นอยูก่ บั ความลึก 𝑃 ∝ ℎ
𝑃 = 𝑃0 + 𝑔ℎ
𝑃 = 𝑃0 + 𝑔ℎ
การจาแนกชนิดของความดัน
1) ความดันบรรยากาศ ( Atmospheric Pressure : Po ) คือ ความดันที่เกิดจากบรรยากาศที่ทับถมอยู่เหนือจุดที่
พิจารณา มีค่าเท่ากับน้าหนักของอากาศในชั้นบรรยากาศที่ทับถมอยู่เหนือพื้นที่ 1 ตารางหน่วยซึ่ง ความดัน
บรรยากาศปกติ ที่ระดับน้้าทะเล คือ 1 บรรยากาศ ( 1 atm )
𝑃𝑜 = 1.01325 × 105 𝑁/𝑚2
2) ความดันเกจ ( Gauge Pressure : 𝑃𝑔 ) คือ ความดันเนื่องจากน้้าหนักของของเหลวเพียงอย่างเดียว
𝑃𝑔 = 𝑔ℎ
𝑃 = 𝑃0 + 𝑔ℎ
กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความดันในของเหลวกับความลึก
จากสมการ 𝑃 = 𝑃0 + 𝑔ℎ
จัดรูปสมการใหม่ 𝑃 = 𝑔ℎ + 𝑃𝑜
เทียบกับสมการเส้นตรง 𝑦 = 𝑚 𝑥 + 𝑐
จะได้ว่า slope = m = 𝑔
4
สรุปหลักการเกี่ยวกับความดันในของเหลวในสภาวะอยู่นิ่งได้ดังนี้
1. ณ จุดใดๆ ในของเหลวจะมีแรงกระท้าของของเหลวไปในทุกทิศทุกทาง
2. แรงที่ของเหลวกระท้าต่อผนังภาชนะหรือผิววัตถุที่อยู่ในของเหลวจะอยู่ในทิศตั้งฉากกับผนัง ภาชนะหรือผิวของวัตถุที่
ของเหลวสัมผัส
3. ความดัน ณ จุดใด ๆ ในของเหลวที่อยู่นิ่งแปรผันตรงกับความลึกและความหนาแน่น ของของเหลวเมื่ออุณหภูมิคงตัว
4. ความดันในของเหลวชนิดหนึ่งๆ ไม่ขึ้นอยู่กับปริมาตรและรูปร่างของภาชนะที่บรรจุของเหลว และที่ความลึกเท่ากัน
ของเหลวชนิดเดียวกันความดันจะเท่ากันเสมอ
5. กราฟระหว่างความดันสัมบูรณ์ (P) กับความลึก (h) เป็นกราฟเส้นตรง ความชันของกราฟ = 𝑔
70cm
แรงดันที่กระทาต่อก้นภาชนะ
ภาชนะที่บรรจุของเหลว จะมีแรงดันเนื่องจากของเหลวกระท้าในทิศตั้งฉากกับพื้นที่ผิวภาชนะที่ของเหลว
สัมผัส โดยขนาดของแรงดันหาได้จากผลคูณของความดันของของเหลวกับพื้นที่ที่ของเหลวสัมผัส ( F = PA ) แต่
เนื่องจากความดันของของเหลวขึ้นอยู่กับความลึก ดังนั้นความดันที่กระท้ากับก้นภาชนะจะเป็นความดันสัมบูรณ์
ความดันที่กน้ ภาชนะ 𝑃 = 𝑃0 + 𝑔ℎ
แรงดันที่กระทาต่อก้นภาชนะ 𝐹 = 𝑃𝐴 = (𝑃𝑜 + 𝑔ℎ)𝐴
แรงดันที่กระทาต่อผนังภาชนะ
เนื่องจากความดันของของเหลวขึ้นอยู่กับความลึก ดังนั้นความดันที่กระท้ากับผนังภาชนะจะเป็นความดัน
เฉลี่ยระหว่างจุดสูงสุดและจุดต่้าสุดของของเหลว
𝑃 +𝑃 𝑃 +𝑃 + 𝑔ℎ 2𝑃0 + 𝑔ℎ
ความดันที่ผนังภาชนะ 𝑃เฉลี่ย = 𝑜2 = 0 02 = 2
2𝑃 + 𝑔ℎ
แรงดันที่กระท้าต่อผนังภาชนะ 𝐹เฉลี่ย = 𝑃เฉลี่ย 𝐴 = ( 𝑜 2 )𝐴
แรงดันที่กระทาต่อประตูกันน้าหรือเขื่อนตั้งตรงในแนวดิ่ง
1. ลักษณะแรงดันของน้้าจะตั้งฉากกับผิวสัมผัส คือ ผนังเขื่อนหรือผนังประตูน้าเสมอ
2. การค้านวณหาขนาดของแรงดันเหมือนกับการหาแรงดันของของเหลวที่กระท้าต่อผนังภาชนะ คือ
2𝑃𝑜 + 𝑔ℎ 1
𝐹เฉลี่ย = 𝑃เฉลี่ย 𝐴 = 𝐿ℎ = 𝑃0 𝐿ℎ + 𝑔𝐿ℎ2
2 2
ไม่คิดแรงดันเนื่องมาจากความดันบรรยากาศ จะได้ว่า
1
แรงดันน้้าที่กระท้าต่อประตูกั้นน้้าหรือเขื่อนตั้งตรงในแนวดิ่ง คือ 𝐹 =
2
𝑔𝐿ℎ2
เครื่องมือวัดความดัน
1. มานอมิเตอร์ ( Manometer ) เป็นเครื่องมือวัดความดันของของไหล ประกอบด้วยหลอดแก้วรูปตัวยู ( U tube )
มีของเหลวบรรจุอยู่ภายใน ปลายข้างหนึ่งปิด ส่วนปลายอีกข้างหนึ่งจะต่อกับภาชนะบรรจุของไหลที่ต้องการวัดความดัน
และการรู้ความแตกต่างของระดับของเหลวในหลดแก้วรูปตัวยูทั้งสองข้างจะท้าให้สามารถหาความดันของของไหลได้
หลักการคานวณ
ให้เปรียบเทียบระดับความสูงของของเหลวในหลอดทั้งสองข้าง
“ที่ระดับความสูงเดียวกันความดันจะมีค่าเท่ากัน”
𝑃𝐴 = 𝑃𝐵
𝑃2 = 𝑃1 + 𝑔ℎ
𝑃0 = gh
𝑃0 = 13.6 × 103 × 9.8 × 760 × 10−3
𝑃0 = 1.01325 × 105 𝑁/𝑚2
26. A U-tube of uniform cross-sectional area and open to the atmosphere is partially filled with mercury.
Water is then poured into both arms. If the equilibrium configuration of the tube is as shown in Figure,
With h2 = 1.00 cm, determine the value of h1 .
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
27. Mercury is poured into a U-tube, as shown in Figure. The left arm of the tube has a cross-sectional area A1
of 10.0 cm2, and the right arm has a cross-sectional area A2 of 5.00 cm2. One-hundred grams of water are
then poured into the right arm, as shown in Figure. (a) Determine the length of the water column in the
right arm of the U-tube.
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
28. เมื่อน้าหลอดแก้วปลายตันยาว 1 m บรรจุปรอทให้เต็มแล้วคว่้าลงในอ่างปรอท ระดับปรอทอยู่สูงจากระดับปรอทในอ่าง
75.85 cm จงหาความดันบรรยากาศในขณะนั้น ( ก้าหนดให้ ปรอท = 13.6 × 103 kg/m3 , g = 10 m/s2 )
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
29. Blaise Pascal duplicated Torricelli’s barometer, using a red Bordeaux wine, of density 984 kg/m3, as the
Working liquid. What was the height h of the wine column for normal atmospheric pressure? Would you
expect the vacuum above the column to be as good as that for mercury?
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
30. บารอมิเตอร์ อ่าความดันที่ระดับน้ าทะเลได้ 760 mmHg และอ่านความดันบนยอดเขาได้ 600 mmHg ถ้าอากาศมีความ
หนาแน่นเฉลี่ย 1.0 kg/m3 และปรอทมีความหนาแน่นสัมพัทธ์ 13.6 จงหาความสู งของภูเขา ( กาหนดให้ g = 10 m/s2)
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
12
กฎของพาสคัลและเครื่องอัดไฮดรอลิก
ออกแรงกดที่ลูกสูบข้างหนึ่งให้เคลื่อนที่ลง ลูกสูบอีกข้างหนึ่ง
จะเคลื่อนที่ขึ้น การออกแรงเป็นการเพิ่มความดันให้กับลูกสูบ แสดงว่า
ความดันส่งผ่านของไหลได้
กฎของพาสคัล ซึ่งกล่าวว่า “เมื่อเพิ่มความดันในของเหลวที่อยู่นิ่งในภาชนะปิด ความดันที่เพิ่มจะถ่ายทอดไป
ยังทุกๆตาแหน่งในของเหลวรวมทั้งผนังของภาชนะด้วย”
กฎของพาสคัลสามารถอธิบายการท้างานของเครื่องกลผ่อนแรง คือ เครื่องอัดไฮดรอลิก (hydraulic press) ซึง่
ประกอบด้วยกระบอกสูบและลูกสูบสองชุดมีขนาดต่างกัน มีท่อต่อเชื่อมกันและมีของเหลวบรรจุอยู่ภายใน
ถ้าระดับของเหลวในกระบอกสูบทั้งสองเท่ากัน จากกฎของพาสคัลจะได้ว่า
𝑊 𝐹
=
𝐴 𝑎
2
เมื่อ 𝐴 คือ พื้นที่หน้าตัดของลูกสูบใหญ่ หน่วย ตารางเมตร (m )
2
𝑎 คือ พื้นที่หน้าตัดของลูกสูบเล็ก หน่วย ตารางเมตร (m )
𝐹 คือ แรงกดลูกสูบด้ านพื ้นที่หน้ าตัด 𝑎 หน่วย นิวตัน (N)
𝑊 คือ น้ าหนักที่ตอ้ งการจะยก นิวตัน (N)
ถ้าระดับของเหลวในกระบอกสูบทั้งสองไม่เท่ากัน จากกฎของพาสคัลจะได้ว่า
𝑊 𝐹
+ 𝑔ℎ =
𝐴 𝑎
กาหนดให้ F1 = แรงที่เท้าเหยียบเบรก
F2 = แรงที่กระทาต่อลูกสู บเล็ก
ก a = พื้นที่หน้าตัดของลูกสู บเล็ก
M = 0 A = พื้นที่หน้าตัดของลูกสู บใหญ่
Mตำม = Mทวน W = แรงที่ลูกสู บใหญ่กระทาต่อจานเบรก
............ = …….
……... = …….
F2 = ……. ค
แรงที่กระทาต่อลูกสู บเล็กเท่ากับ.......... Pลูกสูบเล็ก = Pลูกสูบใหญ่ = ………
ความดันที่ลูกสู บเล็กจะเท่ากับความดันที่ลูกสู บใหญ่
เพราะ.........................................................................
...................................................................................
...................................................................................
ข
หาความดันที่ลูกสู บเล็ก F W
สู ตร P = ง สู ตร =
a A
.......................... = ..........................
Pลูกสูบเล็ก = ……….
.......................... = ..........................
Pลูกสูบเล็ก = ……….
.......................... = ..........................
Pลูกสูบเล็ก = ……….
.......................... = ..........................
Pลูกสูบเล็ก = ……….
W = ..........................
Pลูกสูบเล็ก = ……….
แรงที่ลูกสูบใหญ่กระทาต่อจานเบรกเท่ากับ.................
ความดันที่ลูกสู บเล็กเท่ากับ.................
15
𝐹𝐵 = 𝐹ล่าง − 𝐹บน
𝐹𝐵 = 𝑉𝑔
เหลว จม
46. A piece of aluminum with mass 1.00 kg and density 2700 kg/m3 is suspended from a string and then
completely immersed in a container of water (Fig.). Calculate the tension in the string (a) before
and (b) after the metal is immersed.
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
47. A 10.0 kg block of metal measuring 12.0 cm x 10.0 cm x 10.0 cm is suspended from a scale and immersed
in water, as shown in Figure. The 12.0 cm dimension is vertical, and the top of the block is 5.00 cm from
the surface of the water. (a) What are the forces acting on the top and on the bottom of the block? (Take
(b) What is the reading of the spring scale? (c) Show that the buoyant force equals the difference between
the forces at the top and bottom of the block.
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
48. A cube of wood having a side dimension of 20.0 cm and a density of 650 kg/m3 floats on water. (a) What is
the distance from the horizontal top surface of the cube to the water level? (b) How much lead weight
must be placed on top of the cube so that its top is just level with the water?
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
18
พลศาสตร์ของของไหล
เราได้ศึกษาสมบัติบางประการของของไหล เช่น ความดัน แรงลอยตัว เป็นต้น ซึ่งเป็นการศึกษาของไหลที่อยู่นิ่ง
ส้าหรับของไหลที่มีการเคลื่อนที่ เช่น ลมพัด การไหลของน้้าในท่อ การไหลของโลหิตในเส้นเลือด ความดันของของไหล
เหล่านั้นจะเปลี่ยนอย่างไรหรือไม่ จะได้ศึกษาดังต่อไปนี้
ของไหลอุดมคติ
การเคลื่อนที่ของของไหลเป็นการเคลื่อนที่ที่ซับซ้อน เพื่อให้การศึกษาการเคลื่อนที่ของของไหลไม่ยุ่งยาก เราจะ
พิจารณา ของไหลอุดมคติ (ideal fluid) ซึ่งมีสมบัติดังนี้
1) มีการไหลอย่างส่าเสมอ (steady flow) หมายถึงความเร็วของทุกอนุภาค ณ ต้าแหน่งต่างๆ ในการไหลมีค่าคงตัว โดย
ความเร็วของอนุภาคของของไหลเมื่อไหลผ่านจุดต่างๆ กันจะเท่ากันหรือต่างกันก็ได้
2) มีการไหลโดยไม่หมุน (irrotational flow) กล่าวคือในบริเวณโดยรอบจุดหนึ่งๆ ในของไหลจะไม่มีอนุภาคของของไหล
เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเชิงมุมรอบจุดนั้นๆเลย
3) มีการไหลโดยไม่มีแรงต้านเนื่องจากความหนืด (non-viscous flow) หมายความว่า ไม่มีแรงต้านใดๆ ภายในเนื้อของ
ของไหลมากระท้าต่ออนุภาคของของไหล
4) ไม่สามารถอัดได้ (incompressible flow) หมายความว่า ของไหลมีปริมาตรคงตัว โดยปริมาตรของของไหลแต่ละ
ส่วนไม่ว่าจะไหลผ่านบริเวณใดก็ยังมีความหนาแน่นเท่าเดิม
การไหลของของไหลอุดมคติ
พิจารณาการไหลของของไหลในอุดมคติ
𝐴1 𝑣1 = 𝐴2 𝑣2
𝑄 = 𝐴𝑣
สมการแบร์นูลลี
พิจารณาของไหลอุดมคติไหลอย่างสม่้าเสมอผ่านท่อที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เท่ากันจากต้าแหน่งหนึ่งไปยังอีก
ต้าแหน่งหนึ่งที่อยู่ต่างระดับกัน ดังรูป
∆𝑊 = 𝐸2 − 𝐸1
1 1
∆𝑃𝑉 = 𝑚𝑣22 + 𝑚𝑔ℎ2 − 𝑚𝑣12 + 𝑚𝑔ℎ1
2 2
1 1
𝑉∆𝑃 = 𝑚𝑣2 + 𝑚𝑔ℎ2 − 𝑚𝑣12 − 𝑚𝑔ℎ1
2
2 2
1 1
𝑉(𝑃1 − 𝑃2 ) = 𝑚𝑣2 + 𝑚𝑔ℎ2 − 𝑚𝑣12 − 𝑚𝑔ℎ1
2
2 2
1 2 1 2
𝑃1 − 𝑃2 = 𝑣 + 𝑔ℎ2 − 𝑣1 − 𝑔ℎ1
2 2 2
1 2 1 2
𝑃1 + 𝑣1 + 𝑔ℎ1 = 𝑃2 + 𝑣 + 𝑔ℎ2
2 2 2
1 2
𝑃1 + 𝑣 + 𝑔ℎ1 = ค่าคงที่
2 1