Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 3

เรื่องย่ อหนุ่มชาวนา

เริ่ มเรื่ องมีครู คนหนึ่งจากในเมืองมาประจาอยูท่ ี่ทุ่งหนองหลวงโดยมาพักอยูก่ บั บ้านชาวนา


ที่มีชื่อว่า “สุข” มีภรรยาชื่อ “พิม” มีนอ้ งชื่อ “ทอง” มีลกู อยูท่ ้งั หมด 8 คน ลูกคนโตมีชื่อว่า “เสา”
ในตอนแรกที่ครู มาทุ่งหนองหลวงนี้โดยมีสุขไปรับมาที่บา้ น ในหมู่บา้ นนี้เป็ นชาวนา
ทั้งหมดเมื่อครู มาถึงได้ดูสภาพหมู่บา้ น โรงเรี ยน และบ้านที่ตนจะมาพัก ซึ่งครูจะรู้สึกไม่ค่อยดีนกั
กับสภาพที่ได้เห็นหลังจากนั้นสุขก็จะแนะนาครอบครัวให้ครู หนุ่มรู้จกั และให้พิมผูเ้ ป็ นภรรยาไป
ทาอาหารมา ขณะกินข้าวครู หนุ่มได้สงั เกตการกินของชาวนากับตนว่าแตกต่างกัน คือต้องใช้มือ
กิน และคนเมืองเช่นตนนั้นกินกับมากกว่าชาวนามาก
เมื่อกินเสร็ จทองจึงนากระเป๋ าของครู ไปขึ้นไว้บนเรื อนของตนเพราะเรื อนของสุขซึ่งเป็ น
พี่ชายนั้นมีคนแน่นแล้ว เมื่อถึงเวลากลางคืนทองหยิบปื นแก๊ปลากล้องทองเหลืองมาไว้ตรงหัวนอน
จากนั้นเขาก็นอนลงและทองได้อธิบายให้ครู หนุ่มได้รู้จกั ทุ่งหนองหลวงดียงิ่ ขึ้น
ทองเล่าว่ากลางทุ่งนี้ทุกคนต้องช่วยตัวเองเพราะอยูห่ ่างไกล ปื นช่วยเขาจากขโมยที่จะมา
ขโมยควาย ครู สงั เกตว่าเสียงพวกเด็กเงียบไปหมดแล้วเพราะชาวนานอนกันหัวค่าเสมอ สักพักก็มี
เสียงฟ้ าคารามมาจากตาบลอื่น ทองจึงพูดถึงฝนจนหลับไป สักพักมีเสียงปื นของทองที่ยงิ ขโมยที่
เข้ามาเอาควายทาให้ครู หนุ่มรู้ว่าใช้ชีวิตที่นี่น้ นั ไม่ง่ายเลย
ในตอนเช้าทองได้ทาการตัดไม้ไผ่มาล้อมคอกเพิ่ม ส่วนครู หนุ่มได้ลงจากเรื อนและได้
พบว่าอากาศยามเช้าที่นี่สดชื่นมากหลังจากกินข้าวเช้าเสร็ จเสาได้ทาหน้าที่ต่างๆ ของตนซึ่งจะทาให้
เขารับงานหนักได้ตอนโต ทองขนไม้ไผ่กลับมาเต็มเกวียนและเริ่ มล้อมรั้วโดยมีสุขช่วยอยูด่ ว้ ย ทา
ให้ครู หนุ่มรู้ว่าชาวนานั้นช่วยกันทางานไม่มีเกี่ยงงานกันทา ตกกลางคืนมีฝนแรกมาท่าทีของ
ครอบครัวสุขนั้นดีใจกันมากเด็กๆ ก็พากันออกมาเล่นน้ า ซึ่งต่างกับครู หนุ่มที่รู้สึกว่าตนอ่อนแอกว่า
พวกเด็กๆ ซะอีกเพราะตนเป็ นไข้
วันรุ่ งขึ้นก็ได้เวลาเริ่ มทานาและเริ่ มเปิ ดการเรี ยนการสอน สักพักแดดที่เคยจ้าก็กลายเป็ น
ฝนตกมาอีกแล้ว ครู หนุ่มรู้สึกชื่นชมชาวนา ธรรมชาติสร้างให้ชาวนาแข็งแรงไม่เจ็บป่ วย
“สายบัว” เป็ นคนที่สนิทกับครอบครัวของสุขมาก และทางานได้เก่งมาก ผูห้ ญิงชาวนานั้น
ทางานต่าง ๆ มากกว่าผูช้ าย สายบัวได้มาคุยกับพิมสักพักจึงกลับ ขณะที่สอนหนังสืออยูก่ ็มีควาย
ขวิดกันเพื่อแย่งคู่ เด็กๆ จึงพากันไปดูและได้มีการพนันกันว่าควายใครจะชนะ
งานไถยังดาเนินไปอย่างจาเจจนมีเจ๊กขายของเข้ามาขายของให้กบั ชาวนา ครู หนุ่ม
สังเกตเห็นว่าการขายของเป็ นไปแบบมัดมือชก คือการที่เจ๊กตั้งราคาของเองและชาวนาก็ไม่มีใคร
ต่อรองราคา แต่ชาวนาก็ยนิ ดีที่จะซึ้อ พิมเลือกซื้อเสื้อให้สุขและทอง ส่วนตนยังไม่เอา
เดือน 7 ข้างแรมกล้าข้าวโตได้ที่ จึงเตรี ยมทาการลงแขกดานา ที่ครอบครัวของสุขเร่ ง
ทางานให้ทนั ดานาในวันรุ่ งขึ้นโดยไม่เกี่ยงงานกันทาและยังช่วยกันทาด้วยแม้แต่เสาที่ยงั เป็ นเด็กก็
ยังทาหน้าที่หาอาหาร ตกดึกทิดโกยหิ้วเหล้าที่เสียเดิมพันเมื่อควายขวิดกัน 2 ขวดมาที่บา้ นสุข สุข
จึงตะโกนเรี ยกไอ้แวว และทิดมัง่ มาร่ วมด้วยจึงเฮฮากันจนดึกจึงแยกย้ายกันไปนอน
ตกดึกครู หนุ่มได้ตกใจตื่นเพราะเสียงสุนขั เห่า มีขโมย แต่ทองหลับสนิทครู จึงค่อยๆ คลาน
ไปปลุกจากนันมีการยิงกันสักพักโจรจึงหนีไป
วันต่อมาเป็ นวันลงแขกชาวบ้านละแวกนั้นมาช่วยกันมากมาย มีการหยอกล้อกัน
สนุกสนาน บ่ายแก่ๆ การดานาก็เสร็ จสิ้นลงทุกคนรี บกลับบ้านเพราะว่าวันรุ่ งขึ้นเป็ นวันเข้าพรรษา
พิมรับหน้าที่เป็ นช่างตัดผมประจาบ้าน เย็นวันนั้นพิมทาขนมตาลเพื่อเลี้ยงพระในวันรุ่ งขึ้น
ในเย็นวันหนึ่งได้มีชายแปลกหน้า 3 คนมาแวะขอข้าวกินท่าทางไม่น่าไว้วางใจพวกทิดโกย
จึงซุ่มอยูด่ งโสนโดยมีสุขและครู หนุ่มอยูร่ ับแขก สักครู่ครู หนุ่มได้หาวิธีไม่เพิ่มปื นแก่ศตั รู โดยวิธี
อ้างว่าจะไปยิงนกแล้วจึงลงมารวมกับพวกข้างล่าง ในคืนนั้นทุกคนต้องนัง่ เฝ้ าอยูใ่ ต้โรงนาเผือ่ ว่า
โจรจะกลับมา
สายวันรุ่ งขึ้นมีตารวจ 3 นายมาขอข้าวกินและเล่าว่าตามคนร้ายมา สุขจึงเล่าให้ฟัง เมื่อกิน
ข้างเสร็ จตารวจจึงออกไล่ตามต่อไป อีก 2 วันต่อมาก็ถึงสิ้นเดือนครู จึงตกลงใจเอาเงินเดือนไปซื้อ
ปื นให้ทองและเงินที่เหลือซื้อเสื้อให้เด็ก และผ้าให้พิม เขาคิดว่าเงินที่ใช้ในครั้งนี้คุม้ ค่าที่สุดที่เคย
ใช้มาในชีวิตแล้ว หลังจากมีปืนพวกเขาก็นอนหลับกันได้สนิทขึ้น
ย่างเข้าเดือน 10 ข้าวก็ปลูกเสร็ จ ครู และพวกชาวนาจึงมีเวลาว่าง สุขจึงพาครู ไปแนะนา
ตามบ้านต่างๆ เพื่อให้สนิทสนมกัน ชาวนาทุกบ้านเป็ นคนดีตอ้ นรับขับสูโ้ ดยไม่รังเกียจ สายวัน
นั้นพิมทอเสื่อโดยมีสายบัวช่วยด้วย สักพักลูกคนเล็กร้องพิมจึงให้ทองทาแทน พอเที่ยงสายบัวก็ไป
ทาข้าวเม่าเป็ นอาหารเที่ยง ตกเย็นทองกับครูก็ออกไปเก็บดอกโสนที่ริมน้ าและได้เจอกับสายบัวที่
กลับบ้านไปแล้วกาลังเก็บสายบัวไปแกงส้ม
ใกล้ถึงวันสารททุกๆ บ้านเตรี ยมทากระยาสารท เสร็ จจากทาขนมทุกคนก็เสริ มสวยกัน ค่า
ลงก็มีเสียงปื น สุขเล่าว่าเป็ นประเพณี ของที่นี่ รุ่ งขึ้นทุกคนก็ตื่นแต่เช้าไปเข้าวัด หลังจากจบงาน
บุญก็มีบางคนมาจับกลุ่มเล่นคู่คี่กนั เมื่อกลับบ้านทองจึงไปตรวจนาแล้ววิ่งกลับมาบอกว่าปลาขึ้น
ปลาขึ้นนั้นเป็ นสิ่งที่ชาวนาชื่นชอบเพราะจะได้ปลามาเป็ นอาหารมากมาย
เดือน 1 ข้างแรมน้ าในนาเริ่ มแห้งข้าวเริ่ มตกรวง ลมหนาวเริ่ มมาแล้ว ชาวนาต้องทางาน
แข่งกับเวลาไม่เช่นนั้นข้าวที่อุตส่าห์ปลูกมาก็อาจจะเสียหายได้ ที่บา้ นสุขเริ่ มเกี่ยวข้าวเป็ นคนแรกมี
การลงแขกด้วย งานอย่างนี้ผหู้ ญิงถนัดกว่าผูช้ าย
ในตอนเย็นทองได้ทาซุม้ ไว้นอนจากฟางซึ่งอบอุ่น ช่วยครู หนุ่มได้มากทีเดียวเพราะถึงแม้
ครู ได้ปรับตัวในการใช้ชีวิตที่ทุ่งหนองหลวงนี้หลายอย่างแล้วก็ยงั ไม่อาจทนลมหนาวได้
ในคืนหนึ่งครู หนุ่มได้ยนิ เสียงปื นดังจึงตื่น ปรากฏว่ามีโจรเข้ามาขโมยควายอีกแล้ว แต่
งวดนี้มนั ไม่ได้ควายแต่ได้ชีวิตของเสาไปแทน รุ่ งขึ้นชาวบ้านมาช่วยกันทาหีบศพและจัดงานศพให้
โรงนาที่เคยมีความสุขก็เงียบเหงาลง
เดือน 3 ลมหนาวพัดมามากขึ้น ชาวนาต้องทางานแข่งกับเวลาในการนวดข้าว ทองเลือก
พื้นที่ทาลานข้าว เมื่อทาเสร็ จจึงไปมัดข้าวและหาบเข้าลานเพื่อเตรี ยมทุบข้าว ในการทุบข้าวนี้นิยม
ทากันเวลากลางคืนและมีการลงแขกหมุนเวียนกันไป เจ้าของบ้านมักนิยมเลี้ยงเหล้าให้ผชู้ ายและ
เลี้ยงขนมหวานสาหรับผูห้ ญิง พอดึกชาวบ้านก็แยกย้ายกลับไปนอนเอาแรงทาต่อในคืนถัดไป ครู
หนุ่มเข้าไปนอนในกองฟาง ครู ได้ปรับตัวให้เข้ากับทุ่งหนองหลวงได้แล้วทั้งเรื่ องการกินอยูแ่ ละ
การทนแดดทนฝน
กองข้าวเปลือกกองอยูท่ ี่ลานทุกคนช่วยกันตักข้าวโยนขึ้นบนอากาศเพื่อให้ลมพัดฝุ่ นและ
ข้าวลีบๆ ออกไป วันรุ่ งขึ้นเฮงก็ได้มารับข้าวที่ติดกันไว้ และสุขได้ขายข้าวเพิ่มอีก 2 เกวียน ครู
หนุ่มไม่ชอบใจในการตวงของเฮงเพราะเป็ นการโกงปากถัง โกงชาวนา โกงคนที่ตนรู้จกั จากนั้น
ทองและสุขได้ทาขวัญข้าวและเก็บข้าวเข้ายุง้ เมื่อเสร็ จจึงทาการเสริ มสวยกันอีกครั้งก่อนไปงานวัด
เย็นวันนั้นทิดโกยกระซิบบอกครู ว่าสุขให้ตนเป็ นเถ้าแก่ไปสู่ขอสายบัวให้ทอง ตกกลางคืนเพื่อน
บ้านละแวกนั้นก็พากันมาฉลองที่บา้ นสุข
รุ่ งเช้าก็ออกเดินทางไปวัดกันตั้งแต่เช้ามืดทุกคนสรงน้ าพระแล้วค่อยไปเดินซื้อของ ตอน
บ่ายมีการเทศน์บนศาลา ผูค้ นเงียบกันอย่างน่าประหลาดใจ พอมืดคนก็ยงั เต็มวัด มีแสงสว่าง
เรื องรอง หนุ่มสาวหัวเราะกันเบิกบาน ผูค้ นพากันนัง่ ที่หน้าเวทีเพื่อเตรี ยมดูลิเก การแสดงเริ่ ม
แล้วแต่ชีวิตของชาวนายังไม่จบ ยังคงวนเวียนอย่างนี้เรื่ อยไป

You might also like