Professional Documents
Culture Documents
12 บทที่ 7 Implementing PMS
12 บทที่ 7 Implementing PMS
การนาระบบการบริหารผลการปฏิบัติงานไปปฏิบัติ
Company
LOGO
การนาระบบการบริหารผลการปฏิบัติงานไปปฏิบัติ
• แผนการสื่ อสาร
1
• กระบวนการอุทธรณ์ (APPEALS PROCESS)
2
• หลักสูตรการฝึ กอบรมเพื่อพัฒนาทักษะที่จาเป็ นของผูป้ ระเมิน
3
• การทดลองใช้ระบบ (Pilot test)
4
• การติดตามอย่างต่อเนื่องและประเมินผล
5
2
การเตรียมการ (Preparation)
อุปสรรคที่เกิดขึน้ กับการสื่อสารให้ข้อมูล
การสัมผัสเฉพาะอย่าง (Selective Exposure)
เป็ นแนวโน้ มที่เราทุกคนจะเลือกสัมผัสเฉพาะความคิดที่เห็นชอบด้วย
การรับรู้เฉพาะอย่าง (Selective Perception)
เป็ นแนวโน้ มที่จะรับรู้ส่วนหนึ่ งของข้อมูล คาหรือวลีว่ามีความหมายเหมือนกับ
สิ่งที่เราอยากจะให้ หมายถึง ถึงแม้ว่าข้อมูลซึ่งผูท้ ี่สื่อสารให้ข้อมูลรับรู้อาจจะหมายถึง
สิ่งที่ตรงข้ามก็ตาม เรามักจะมองเห็นความหมายที่ตรงกับประสบการณ์ความเชื่อที่มี
อยู่ และความปรารถนาของเราเอง
การเก็บรักษาไว้เฉพาะอย่าง (Selective Retention)
เป็ นแนวโน้ มที่จะจดจาเฉพาะส่วนของข้อมูลที่ได้เห็นพ้องต้องกันเท่านัน้
4
แผนการสื่ อสาร (Communication Plan)
หลักการเอาชนะอุปสรรค
การให้มีส่วนร่วม
การชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ ที่จะได้รบั
การสร้างทัศนคติที่ดีต่อระบบการประเมินระบบใหม่
การกาหนดประเด็นในการนาเสนอให้ชดั เจนและมีข้อเท็จจริงสนับสนุน
การสื่อสารเป็ นลายลักษณ์อกั ษร
การใช้ช่องทางการสื่อสารหลายๆ ช่องทาง
ผูใ้ ห้ข้อมูลควรจะเป็ นบุคคลที่น่าเชื่อถือ
การให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่ อง
5
แผนการสื่ อสาร (Communication Plan)
กรณี ศึกษา
การเพิ่มช่องทางในการสื่อสารเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ PMS
ของ Mitsubishi Electric Automation Co.,Ltd.
จากเดิมบริษัทไม่มกี ารชี้แ จงให้ท ราบถึง ความรู้ค วามเข้า ใจในการประเมินผล
พนักงานทาให้เกิดปญั หาความไม่เข้าใจ การต่อต้านและการไม่ยอมรับ รวมถึงการ
ประเมินผลทีไ่ ม่ถกู ต้อง ทางบริษทั ฯจึงได้เพิม่ ช่องทางในการสือ่ สารเพือ่ ความเข้าใจ โดยการ
จัดฝึกอบรม ในเรือ่ ง การประเมินผลการปฏิบตั งิ านของพนักงาน โดยได้แบ่งออก เป็ น สอง
รุ่น ในระดับของผูบ้ ริหาร และทางด้านของหัวหน้างานทีใ่ ช้แบบประเมินผลพนักงาน ซึ่งใช้
เวลา รุน่ ละ 3 ชัวโมง
่ โดยเน้นไปทีก่ ารประเมินอย่างถูกวิธ ี การจดบันทึกตัวอย่างพฤติกรรม
ที่พนักงานทาเพื่อเป็ นข้อมูลสนับสนุ นในการประเมิน การให้ขอ้ มูลย้อนกลับแก่พนักงาน
และการตอบข้อซักถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการประเมิน เป็ นต้น ซึง่ หลังจากมีการประเมินผล
การปฏิบตั งิ านพนักงานไปแล้ว 1 เดือน จึงได้มกี ารเรียกประชุมหัวหน้างานเพือ่ ประเมินผล
ความรูค้ วามเข้าใจ อีกครัง้ หนึ่ง ผลทีต่ ามมาคือพนักงานในระดับหัวหน้างานมีการยอมรับใน
ระบบการประเมินผลมากขึน้
6
แผนการสื่ อสาร (Communication Plan)
กรณี ศึกษา
ระบบประเมิ นผลการปฏิ บตั ิ งานและระบบการอุทธรณ์ ของธนาคารอาคารสงเคราะห์
ระบบการประเมินผลการปฏิบตั ิงานของธนาคารอาคารสงเคราะห์มีวตั ถุ ประสงค์หลัก ในการนาผลการประเมินไป
พิจารณาเกี่ยวกับการเพิม่ เงินเดือนและปรับตาแหน่ งของพนักงานแต่ละราย โดยขัน้ ตอนการประเมินจะเริม่ จากการที่ฝ่ายบริหาร
ทรัพยากรบุคคลแจ้งให้แต่ละฝา่ ยทราบว่าจะต้องมีการส่งผลประเมินการปฏิบตั งิ าน เพือ่ นาไปใช้เป็ นข้อมูลในการคานวณอัตราการเพิม่
เงินเดือนของพนักงานว่าต้องเพิม่ ให้ในอัตราเท่าใด โดยระบบการประเมินผลการปฏิบตั งิ านกาหนดไว้เป็ นรายปี สาหรับผลการประเมิน
จะกาหนดเป็ นเกรด A ถึง D
เมื่อแต่ละฝ่ายรับทราบแล้ว แต่ละส่วนงานในฝ่ายนัน้ ๆ ก็จะให้แจ้งพนักงานแต่ละคนทาการกรอกผลงานหรืองานที่ตน
รับผิดชอบตลอดปี ทผ่ี ่านมาลงในเอกสารซึ่งเป็ นแบบฟอร์มที่กาหนดไว้ เพื่อในขัน้ ตอนของการประเมินผลจะได้ใช้ขอ้ มูลดังกล่าวเป็ น
ปจั จัยสาคัญในการพิจารณาและกรอกข้อมูล และส่งให้แก่ผบู้ งั คับบัญชาในส่วนงานของตนเอง เพื่อพิจารณาประเมินผลต่อไป โดย
แบบฟอร์มการประเมินจะประกอบไปด้วยส่ว นในการกรอกข้อ มูล เกี่ย วกับการปฏิบ ตั ิงาน และในส่ว นที่ให้กรอกผลประเมิน การ
ปฏิบตั งิ าน
เมื่อผูบ้ งั คับบัญชาในส่วนงานประเมินผลการปฏิบตั งิ านแล้วเสร็จ ก็จะระบุผลการประเมินลงในแบบฟอร์ม และแจ้งผลการประเมินให้แก่
พนักงานผูถ้ ูกประเมินทราบ หากพนักงานยอมรับในผลการประเมินก็จะลงลายมือชื่อรับทราบ และทาเครื่องหมายในช่องไม่ประสงค์
อุทธรณ์ และส่งคืนให้แก่ผบู้ งั คับบัญชา แต่หากพนักงานไม่ยอมรับในผลการประเมินก็สามารถลงลายมือชื่อ และทาเครื่องหมายลงใน
ช่องประสงค์อุทธรณ์ได้ และส่งคืนให้แก่ผบู้ งั คับบัญชาของตนเช่นกัน
แบบฟอร์มของพนักงานทีม่ คี วามประสงค์จะอุทธรณ์ผลการปฏิบตั งิ านจะถูกส่งไปทีผ่ บู้ งั คับบัญชาในลาดับทีส่ ูงขึน้ ระดับหนึ่ง ซึ่งผูถ้ ูก
ประเมินก็มสี ทิ ธิท่จี ะอุทธรณ์ความเห็นในการประเมินของผูบ้ งั คับบัญชาในระดับนี้ได้อกี (มีขนั ้ ตอนการเสนอเหมือนกับในลาดับแรก)
โดยจะเสนออุทธรณ์ต่อผูอ้ านวยการฝา่ ย และหากผูอ้ ุทธรณ์ไม่พอใจกับผลการพิจารณาอุทธรณ์ของผูอ้ านวยการฝา่ ย ขัน้ ตอนสุดท้าย
ในการอุทธรณ์ คือ การขอให้กรรมการผูจ้ ดั การเป็ นผูพ้ จิ ารณา 7
กระบวนการอุทธรณ์ (APPEALS PROCESS)
วัตถุประสงค์ ของกระบวนการอุทธรณ์
เพือ่ ให้ ระบบการบริหารผลการปฏิบัติงานเกิดความเป็ นธรรม และเป็ นที่ยอมรับ
ของทุกฝ่ าย ทั้งผู้ประเมินและผู้ถูกประเมิน
เพือ่ ให้ เกิดความเข้ าใจอันดีระหว่ างผู้ประเมินและผู้ถูกประเมิน เนื่องจาก
กระบวนการร้ องเรียนเป็ นกระบวนการแก้ไขข้ อผิดพลาดร่ วมกันจากการ
ประเมินผลการปฏิบัติงาน
เพือ่ เป็ นการแก้ไขปัญหาร่ วมกันอย่างเป็ นระบบ เนื่องจากกระบวนการร้ องเรียน
จะต้ องกาหนดขั้นตอนการร้ องเรียนให้ ชัดเจน รวมถึงหน้ าที่ความรับผิดชอบ
ของผู้ทเี่ กีย่ วข้ อง อานาจในการพิจารณาและตัดสิ นข้ อร้ องเรียน
8
หลักสู ตรการฝึ กอบรมเพือ่ พัฒนาทักษะทีจ่ าเป็ นของผู้ประเมิน
(TRAINING PROGRAMS FOR THE ACQUISTION OF REQUIRED SKILLS)
การฝึ กอบรมผู้ประเมิ น ผลการปฏิ บัติ ง านเป็ นอี ก หนึ่ง ขัน้ ตอนซึ่ง มี จาเป็ นและ
ส าคัญ อย่ า งยิ่ ง ใน การเตรี ย มความพร้ อมให้ ผ้ ู ประเมิ น ก่ อ นจะน าระบบประเมิ น ผล
ปฏิบตั ิงานไปใช้ จริ งในองค์กร ซึ่งคาจากัดความของการฝึ กอบรมในที่นี ้ไม่ใช่เป็ นเพียงการ
ฝึ กอบรมให้ แก่ผ้ ปู ระเมินและผู้มีส่วนร่ วมในระบบการประเมินผลปฏิบัติงานให้ มีทักษะที่
จาเป็ น และความเข้ าใจในการประเมินผลและสามารถใช้ เครื่ องมือต่างๆ ในการประเมินผล
ปฏิบัติงานเพียงเท่านัน้ แต่การฝึ กอบรมจะต้ องสามารถเพิ่มความพึงพอใจในระบบการ
ประเมินผลการปฏิบตั ิงานให้ เกิดขึ ้นกับ ผู้ประเมินและผู้ถกู ประเมินได้ อีกด้ วย
9
หลักสู ตรการฝึ กอบรมเพือ่ พัฒนาทักษะทีจ่ าเป็ นของผู้ประเมิน
(TRAINING PROGRAMS FOR THE ACQUISTION OF REQUIRED SKILLS)
10
หลักสู ตรการฝึ กอบรมเพือ่ พัฒนาทักษะทีจ่ าเป็ นของผู้ประเมิน
(TRAINING PROGRAMS FOR THE ACQUISTION OF REQUIRED SKILLS)
11
หลักสู ตรการฝึ กอบรมเพือ่ พัฒนาทักษะทีจ่ าเป็ นของผู้ประเมิน
(TRAINING PROGRAMS FOR THE ACQUISTION OF REQUIRED SKILLS)
12
หลักสู ตรการฝึ กอบรมเพือ่ พัฒนาทักษะทีจ่ าเป็ นของผู้ประเมิน
(TRAINING PROGRAMS FOR THE ACQUISTION OF REQUIRED SKILLS)
ลักษณะของความผิดพลาดที่พบได้ในการประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
Similar to me error Contrast error
Attribution error
Leniency error
Severity error
13
หลักสู ตรการฝึ กอบรมเพือ่ พัฒนาทักษะทีจ่ าเป็ นของผู้ประเมิน
(TRAINING PROGRAMS FOR THE ACQUISTION OF REQUIRED SKILLS)
ประเภทของความผิดพลาดในการประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
ลักษณะของความผิดพลาดที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดข้างต้น สามารถแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท
ได้แก่
14
หลักสู ตรการฝึ กอบรมเพือ่ พัฒนาทักษะทีจ่ าเป็ นของผู้ประเมิน
(TRAINING PROGRAMS FOR THE ACQUISTION OF REQUIRED SKILLS)
15
หลักสู ตรการฝึ กอบรมเพือ่ พัฒนาทักษะทีจ่ าเป็ นของผู้ประเมิน
(TRAINING PROGRAMS FOR THE ACQUISTION OF REQUIRED SKILLS)
16
หลักสู ตรการฝึ กอบรมเพือ่ พัฒนาทักษะทีจ่ าเป็ นของผู้ประเมิน
(TRAINING PROGRAMS FOR THE ACQUISTION OF REQUIRED SKILLS)
SELF-LEADERSHIP TRAINING
หลักสู ตรการอบรม Self-Leadership Training (SL) นั้น มีเป้ าหมายเพือ่
พัฒนาให้ ผ้ ปู ระเมินมีความมัน่ ใจในความสามารถการจัดการประสิ ทธิภาพในการ
ปฏิบัตงิ านของพนักงาน โดยหลักสู ตรจะประกอบไปด้ วยกิจกรรมเช่ น วิธีการพูด
ในแง่ ดเี พือ่ ให้ กาลังใจตนเอง (positive self-talk) การจินตนาการว่ าตนเองสามารถ
ทาได้ (mental imagery) กระบวนการคิดในแง่ บวกและจัดระบบความคิด
(positive beliefs and thought patterns) โดยหลักการสาคัญของหลักสู ตรการ
ฝึ กอบรม คือ ถ้ าสามารถเพิม่ ความมัน่ ใจและกระบวนการความคิดทีด่ ใี ห้ แก่ ผ้ ู
ประเมินแล้ว ก็จะสามารถเพิม่ ประสิ ทธิภาพของการประเมินผลปฏิบัติงานได้
18
การทดสอบนาร่อง (PILOT TESTING)
19
การทดลองใช้ระบบจริง (PILOT TESTING)
20
การทดลองใช้ระบบจริง (PILOT TESTING)
:: การเลือกกลุ่มเพือ่ ทาการทดสอบระบบ ::
ต้ องพิจารณาว่ ากลุ่มใหญ่ เพียงพอสาหรั บตัวแทนของทั้งองค์ กรหรื อไม่ เพื่อให้ เกิด
การตอบสนองจากกลุ่มส่ วนใหญ่ กับส่ วนที่เหลือขององค์ กร ดังนั้นในการเลือกกลุ่ม ควรจะ
เลือกงานที่จะคล้ ายกันทั่วทั้ง บริ ษัท และไม่ ควรจะเป็ นข้ อ ยกเว้ น ในทั้งทางบวกหรื อลบ
โดยเฉพาะอย่ างยิง่ กลุ่มที่ไม่ มปี ระสิ ทธิภาพ
21
การติดตามอย่างต่อเนื่ องและการประเมินผล
(ONGOING MONITORING AND EVALUATION)
:: มาตรการเพิม่ เติมสามารถใช้ เพือ่ ตรวจสอบและประเมินระบบ ::
จานวนของบุคคลที่รับการประเมิน คือ การประเมินจานวนของพนักงานที่เป็ นจริง
การกระจายของการจัดอันดับประสิ ทธิภาพ คะแนนส่ วนใหญ่ มักจะสู งเกินไป ต่า
เกินไปหรือกลางๆ ซึ่งอาจระบุข้อผิดพลาดโดยเจตนา เช่ น ผ่ อนปรนความรุ นแรง การ
กระจายของคะแนนผลการดาเนินงาน
คุณภาพของข้ อมูล คือ คุณภาพของการให้ ข้อมูลในส่ วนปลายเปิ ด เช่ น วิธีการเขียน
ประเมินจะทาอย่ างไร , ความเกีย่ วข้ องของตัวอย่ างที่ให้ ไว้ คอื อะไร
คุณภาพของการประชุ มอภิปรายผลการดาเนินงาน การสารวจกับพนักงานทุกคนเป็ น
ประจาเพือ่ รวบรวมข้ อมูลเกีย่ วกับวิธีการดูแล เช่ น ข้ อเสนอแนะเป็ นประโยชน์ หรือไม่
ระบบความพึงพอใจ
22
การติดตามอย่างต่อเนื่ องและการประเมินผล
(ONGOING MONITORING AND EVALUATION)
:: มาตรการเพิม่ เติมสามารถใช้ เพือ่ ตรวจสอบและประเมินระบบ ::
อัตราต้ นทุน / ผลประโยชน์ โดยรวม คือ ผู้เข้ าร่ วมประชุ มกับอัตราส่ วนค่ าใช้ จ่าย /
ผลประโยชน์ โดยรวมของระบบการจัดการประสิ ทธิภาพการทางาน
ระดับ และประสิ ทธิภาพขององค์ กรในระดับ คือ การวัดประสิ ทธิภาพของหน่ วย
และระดั บ องค์ ก ร ซึ่ ง อาจจะรวมถึ ง ความพึ ง พอใจของลู ก ค้ า กั บ หน่ ว ยงานที่
เฉพาะเจาะจง และตัวชี้วัดของประสิ ทธิภาพทางการเงินของหน่ วยงานต่ างๆ หรือ
องค์ กร
23
:: สรุปสิ่ งสาคัญ (Summary Points) ::
24
:: สรุปสิ่ งสาคัญ (Summary Points) ::
25
:: สรุปสิ่ งสาคัญ (Summary Points) ::
27
:: สรุปสิ่ งสาคัญ (Summary Points) ::
28
:: สรุปสิ่ งสาคัญ (Summary Points) ::
29
30