Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 2

หน้า ๒๙

เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๑๔๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๑๕/๒๕๕๗
เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

โดยที่ เ ป็ น การสมควรแก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม ประมวลกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณาความอาญา เพื่ อ ให้ วิ ธี


พิจารณาความอาญาในส่วนที่เกี่ยวกับการสอบสวนมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ
จึงมีประกาศ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๒๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
“มาตรา ๒๑/๑ สํ า หรั บ การสอบสวนซึ่ ง อยู่ ใ นความรั บ ผิ ด ชอบของเจ้ า พนั ก งานตํ า รวจ
ในกรณี ที่ ไม่ แ น่ ว่ า พนัก งานสอบสวนคนใดในจั ง หวัด เดี ย วกั น หรื อ ในกองบั ญ ชาการเดี ย วกัน ควรเป็ น
พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ให้ผู้บัญชาการซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของพนักงานสอบสวนนั้นเป็นผู้ชี้ขาด
การรอคําสั่งชี้ขาด ไม่เป็นเหตุให้งดการสอบสวน”
ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในวรรคสามของมาตรา ๑๔๒ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ในกรณีที่เสนอความเห็นควรสั่งฟ้อง ให้พนักงานสอบสวนส่งสํานวนพร้อมกับผู้ต้องหาไปยัง
พนักงานอัยการ เว้นแต่ผู้ต้องหานั้นถูกขังอยู่แล้ว หรือผู้ต้องหาซึ่งถูกแจ้งข้อหาได้หลบหนีไป”
ข้อ ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๑๔๕/๑ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
“มาตรา ๑๔๕/๑ สํ า หรั บ การสอบสวนซึ่ ง อยู่ ใ นความรั บ ผิ ด ชอบของเจ้ า พนั ก งานตํ า รวจ
ในกรณีที่มีคําสั่งไม่ฟ้องและคําสั่งนั้นไม่ใช่คําสั่งของอัยการสูงสุด ถ้าในกรุงเทพมหานครให้รีบส่งสํานวน
การสอบสวนพร้ อ มกั บ คํ า สั่ ง เสนอผู้ บั ญ ชาการตํ า รวจแห่ ง ชาติ รองผู้ บั ญ ชาการตํ า รวจแห่ ง ชาติ
หรือผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ถ้าในจังหวัดอื่นให้รีบส่งสํานวนการสอบสวนพร้อมกับคําสั่งเสนอ
ผู้บัญชาการหรือรองผู้บัญชาการ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ แต่ทั้งนี้มิได้
ตัดอํานาจพนักงานอัยการที่จะจัดการอย่างใดแก่ผู้ต้องหาดังบัญญัติไว้ในมาตรา ๑๔๓
ในกรณีที่ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ หรือผู้ช่วยผู้บัญชาการ
ตํ า รวจแห่ ง ชาติ ใ นกรุ ง เทพมหานคร หรื อ ผู้ บั ญ ชาการหรื อ รองผู้ บั ญ ชาการซึ่ ง เป็ น ผู้ บั ง คั บ บั ญ ชา
ของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในจังหวัดอื่นแย้งคําสั่งของพนักงานอัยการให้ส่งสํานวนพร้อมกับ
ความเห็นที่แย้งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อชี้ขาด แต่ถ้าคดีจะขาดอายุความ หรือมีเหตุอย่างอื่นอันจําเป็น
จะต้องรีบฟ้อง ก็ให้ฟ้องคดีนั้นตามความเห็นของผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการหรือรองผู้บญ ั ชาการดังกล่าวแล้วแต่กรณีไปก่อน
หน้า ๓๐
เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๑๔๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗
บทบัญญัติในมาตรานี้ ให้นํามาบังคับในการที่พนักงานอัยการจะอุทธรณ์ ฎีกา หรือถอนฟ้อง
ถอนอุทธรณ์และถอนฎีกาโดยอนุโลม”
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

You might also like