Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 41

Page |1

คูม่ ือการใช้ โปรแกรม REVIT 2018


ฉบับย่อ
Page |2

สารบัญ

1. วิธกี ารอ่านแปลนก่อสร้าง...................................................................................................................... 3
1. เริ่ มจากแปลนพื ้นชัน้ ............................................................................................................................ 3

2.ต่อด้ วย แปลนขยายห้ องนํ ้า ..................................................................................................................... 4


3.ตามด้ วย แปลนหน้ าต่างและประตู ........................................................................................................... 4
4.จบด้ วยแปลนไฟฟ้า ............................................................................................................................... 5
2. Revit 2018 ใช้ยงั ไง ................................................................................................................................ 6

1.การเริ่ มต้ น Revit 2018 (การเปิ ดโปรแกรม, เปลี่ยนหน่วย) ........................................................................... 6


2.การสร้ างห้ องเบื ้องต้ น............................................................................................................................. 8
4. การใส่เฟอร์นิเจอร์ ..................................................................................................................... 13
5. การใส่สขุ าภัณฑ์หรือเฟอร์นิเจอร์.................................................................................................. 14
3. การใส่วสั ดุให้กบั วัตถุและทําสารบัญวัสดุเพือ่ ใช้ในอนาคต............................................................................. 18
4. การเติมวัสลุ งไปในวัตถุต่างๆ ................................................................................................................... 26
คําสัง่ Paint .......................................................................................................................................... 26
คําสัง่ Edit Type ................................................................................................................................... 27
5. การเปลีย่ นมุมกล้องเตรียมตัวก่อนการ Render .......................................................................................... 29
Camera view คูก
่ บั Project browser.................................................................................................... 29
การทํารูปตัด ใน Default 3D view .......................................................................................................... 31
การ Render ภาพ ..................................................................................................................................... 33
เทคนิคอื่นๆ .............................................................................................................................................. 38
1. การแบ่งผนังหรื อพื ้น ....................................................................................................................... 38
2. การทําผนังเอียง ............................................................................................................................. 39
Page |3

1. วิธีการอ่านแปลนก่อสร้าง
การที่เราจะออกแบบหรื อสร้ างห้ องในโปรแกรม Revit ให้ ได้ สมจริ งนัน้ การอ่านแปลนก่อสร้ างถือเป็ นส่วนหนึง่ ที่
้ าเป็ นต้ องมีแปลนอย่างน้ อย 5 แปลนซึง่ ได้ แก่ 1.แปลนแผนผังหรื อแปลนชัน้ 2.
สําคัญ การอ่านแปลนโดยคร้ าวๆ นันจํ
แปลนขยายห้ องนํ ้า 3.แปลนรูปด้ านทัง้ 4 ด้ าน (ใช้ ในกรณีที่ห้องนันมี
้ ผนังที่สามารถมองเห็นได้ จากภายนอก) 4. แปลน
หน้ าต่างและประตู (เอาไว้ ดสู เปกของและความสูงของหน้ าต่าง)5. แปลนไฟฟ้า (ไม่มีไม่เป็ นไร)

1. เริ่มจากแปลนพืน้ ชัน้
1. หาตําแหน่งห้ องที่ต้องการว่าอยู่สว่ นไหน
ของบ้ าน
2. ห้ องนันมองเห็
้ นจากภายนอกตึกได้ รึไม่ ถ้ า
ได้ จะสามารถมองเห็นจากด้ านไหน ตัวอย่างเช่น
ห้ องนํ ้า-ส้ วม 1 ของบ้ านหลังนี ้สามารถมองเห็นจาก
ด้ าน บนลงล่าง ซึง่ ตรงกับรูปด้ านหมายเลข 3 ***
ระวัง บางครัง้ หมายเลขของรูปด้ านอาจจะไม่ตรง
กับด้ านนันๆ***

3. ในกรณีที่ไม่สามารถหาความยาวของผนัง
บางอันได้ จริ งๆ เราสามารถดูมาตราส่วนแล้ วนําไม้
บันทัดมาวัดและคํานวนออกมาได้ อย่างเช่น
1:100 หมายถึง 1 cmของไม้ บน ั ทัด = 100 cm
ของจริ ง หรื อ 1 : 250 หมายถึง 1 cm = 250 cm
ทิศทางการดู

ตัวอย่างเช่น ห้ องนํ ้า-ส้ วม 1 อยู่มมุ ขวาบนของ


แปลนชัน้ 1 ซึง่ คนจากภายนอกสามารถมองเห็น
ผนังได้ สองด้ าน ( ) ดังนันรู ้ ปด้ าน (ลักษณะ
สัญาลักษณ์รูปด้ าน ภายนอกของอาคารที่เห็นจากข้ างนอก) ที่จะเห็น
ผนังทังสองนั
้ ้ คือ 3 และ 4 *เราดูรูปด้ านเพื่อที่
นก็
เราจะได้ ร้ ูความสูงของกําแพง ในกรณีที่เป็ นห้ องที่มีการจัดวางไม่ปกติ หรื อดูลกั ษณะการวางหน้ าต่าง เป็ นต้ น

4. กล่องนี ้จะเป็ นตัวบอกความสูงของพื ้นจากระดับพื ้นดิน (ในกรณีของชัน้ 1 จะอยู่ประมาณ +0.5 แต่ไม่ต้องไป


สนใจมันมาก แต่ในกรณีที่บางครัง้ ห้ องๆ หนึง่ อาจจะมีพื ้นคนละระดับได้ อัน
นี ้ควรดูดีๆ) อันนี ้แสดงว่าเขากําหนดพื ้นมาให้ แล้ ว ต้ องไปดูที่กล่องสัญลักษณ์
Page |4

2.ต่อด้วย แปลนขยายห้องนํ้า
ความกว้ างยาวของห้ อง โดยส่วนมากแล้ ว ความยาวที่กําหนด
มาให้ จะเป็ นความยาวระหว่างเสา ไม่ใช่ความยาวของห้ อง
จริงๆ ควรจะเอาความยาวที่เขากําหนดให้ มาลบกับความหนา
ครึ่งหนึง่ ของเสา (ส่วนมากเสาจะหนา 20 cm ดังนันครึ
้ ่งหนึง่
ของเสาจะได้ 10 cm) แต่สําหรับการสร้ างห้ องใน revit ถ้ า
ขนาดของห้ องที่ให้ มาไม่ได้ รวมกับความหนาของกําแพง
(อย่างเช่นในรู ป) เราจําเป็ นที่จะเพื่มความยาวของแต่ละด้ าน
ออกไปอีกครึ่งหนึง่ ของขนาดกําแพง ตัวอย่างเช่น กําแพงหนา
20 cm ทุกด้ าน ดัง่ นันห้
้ องนันๆ
้ ต้ องเพื่มขนาดออกไปอีกด้ าน
ละ 10 cm เพราะ revit จะสร้ างกําแพงจะทําได้ โดยเขียนขึ ้น
ตามเส้ นรอบวงของห้ อง **ต่อหน้ า 8

3.ตามด้วย แปลนหน้ าต่างและประตู

บอกความสูงของหน้ าต่างจากพื ้นห้ อง

วัสดุ
Page |5

4.จบด้วยแปลนไฟฟ้ า

ใช้ แปลนไฟฟ้าเพื่อดูตําแหน่งของหลอดไฟ
และดูชนิดของหลอดไฟ

สายไฟ (ไม่จําเป็ นต้ องดู)


Page |6

2. Revit 2018 ใช้ยงั ไง


ในหน้ าจอ revit จะมีสงิ่ ที่ต้องคํานึงถึงอยูเ่ สมอ ประมาณ 2-3 อย่าง ซึง่ ได้ แก่ 1. ช่อง Project browser 2. ช่อง
properties และ 3. การกําหนด Work plane แต่ก่อนหน้ านัน้ เรามาเริ่ มต้ นกันเลย

1.การเริ่มต้น Revit 2018 (การเปิดโปรแกรม, เปลี่ยนหน่ วย)


หน้ าต่างนี ้จะเป็ นหน้ าต่างแรกที่เราจะเห็นหลังจากเปิ ดโปรแกรม ซึง่ ทางมุมซ้ ายของหน้ าต่าง

1. ข้ างล่างคําว่า project ซึง่ จะมีคําสัง่ ต่างๆ เช่น open, new แต่


ถ้ าเราเริ่มใหม่ให้ เราเลือก Architectural template
****ส่วนคําว่า Families นันคื
้ อการสร้ างสิง่ ของต่างๆ ที่จะนํามีเป็ น
ส่วนประกอบของงานของเรา ตัวอย่างเช่น ทําเก้ าอี ้ หรื อ โต๊ ะ ซึง่ ของพวก
นี ้สามารถโหลดได้ ในเว็บต่างๆ เช่น
2. แล้ วเราก็จะได้ หน้ าต่างอย่างนี ้
Page |7

3. เมื่อเลือก template แล้ วเราจําเป็ นต้ องเปลี่ยนหน่วยของงานนันๆ


้ *ข้ อควรระวัง เราต้ องมาทําการเปลี่ยนหน่วย
ทุกครัง้ ถ้ าหากเราสร้ าง file ใหม่ วิธีการเปลี่ยนหน่วย
3.1 เลือก Manage  Project Units ในช่อง setting

3.2 แล้ วเราก็จะได้ หน้ าต่างอย่างนี ้ แล้ วจากนันคลิ


้ ้กช่องข้ างใต้ Format แล้ วเลือกหน่วยที่ต้องการ แล้ วจากนันเลื
้ อก
ช่อง Rounding เป็ น 1 decimal place หรื อ 2 decimal place ในกรณีที่ต้องการทศนิยม 2 ตําแหน่ง
(decimal แปลว่า ทศนิยม)

3.3 เสร็จสิ ้นกระบวนการเปลี่ยนหน่วย


Page |8

2.การสร้างห้องเบือ้ งต้น

1. ช่อง Project Browser จะเป้นช่องที่เอาไว้ แสดงงานของเราในมุมมองต่างๆ อย่างเช่น Floor Plans – Level 1


หมายถึงมุมมองแปลนพื ้นชัน้ 1 (เหมือนกับที่เรามองแปลนในกระดาษปกติ) หรื อ Floor Plans - level 2 ก็
หมายถึงแปลนของชัน้ 2
2. ในมุมมองแบบ Elevations (Building Elevation) เราจะเห็นรู ปด้ านของงานเรา และมุมมองนี ้เรายังสามารถ
ปรับความสูงตํ่าของพื ้นและเพดานได้ อีกด้ วย โดยที่มมุ มอง East = ตะวันออก West = ตะวันตก North =
เหนือ South = ใต้ และนี ้ก็คือมุมมองของรูปด้ าน
Page |9

3. สําหรับการสร้างห้องนันให้
้ เริ่ มจากมุมมอง Floor plans – level 1 และเลือกคําส่ง Floor ใน
Architecture เพื่อสร้ างพื ้นห้ อง **อย่าลืมว่าความยาวของห้ องต้ องลบความหนาของเสาด้ วย

พอเลือกคําสัง่ Floor แล้ วนันให้้ เราเลือกว่าจะสร้ างพื ้นรูปแบบอย่างไร จะสร้ างโดยการเขียนให้ เป็ นรูป หรื อวาด
สี่เหลี่ยมขึ ้นมา ในจุดนี ้ เราสามารถเลือกรูปแบบต่างๆ ได้

พอเราวาดลงไปแล้ วนัน้ เรายังสามารถปรับแต่งขนาดของมันได้ โดย


ลากเมาส์ไปบนตัวเลข แล้ วแก้ ไขมัน หรื อทําการเขียนเลขที่ต้องการ
ระหว่างการเขียนพื ้นก็ได้ ***อย่าลืมบวกความยาวของทุกด้ านด้ วย
ความหนาครึ่งหนึง่ ของกําแพง **กลับไปอ่านหน้ า 4

ถ้ าเราวาดเสร็จแล้ ว ให้ เราคลิ ้กลูกศรตกลงสีเขียว หรื อถ้ าเราไม่


ต้ องการพื ้นชิ ้นนี ้แล้ วหรื อไม่ต้องการให้ กดกากบาทสีแดง
P a g e | 10

พอได้ พื ้นมาแล้ วให้ เริ่มทํากําแพง โดยเริ่ มจากเลือกคําสัง่ Wall ใน ช่อง Architecture ซึง่ บางครัง้ โปรแกรมจะ
ขึ ้นคําถามว่าเราจะ save งานตอนนี ้ไหม กด cancel (ยกเลิก) ได้ เลย เราสามารถสัง่ save ได้ ทีหลังพอเรา
ทํางานเสร็จ

ก่อนที่เราจะวาดกําแพงนัน้ เราต้ องไปปรับขนาดและความสูงของกําแพงซะก่อน โดยการปรับความสูง (1) ให้ ไป


แก้ ไขในช่อง Modify l Place Wall ช่องแรกทางซ้ ายมือ ส่วนการปรับความหนาและชนิดของกําแพง (2) ทําโดย
การกดเข้ าไปที่ Edit type ของกําแพงข้ างๆคําว่า New Walls ใน ช่อง Properties

แล้ วเราจะได้ หน้ าจอแบบนี ้ แล้ วให้ เลือก Duplicate(คัดลอก)(1) แล้ วเปลี่ยนชื่อเป็ นอะไรก็ได้ จากนันกด
้ ok
แล้ วเลือก Edit (2)

2
P a g e | 11

หลังกด edit เราจะได้ หน้ าต่างแบบในรูป จากนันให้


้ ไปแก้ Thickness (ความหนา) ซึง่ ปกติกําแพงแรกที่เราจะ
ได้ มีความหนา 0.2 m แล้ วให้ เราไปคลิ ้กบนตัวเลขแล้ วเปลี่ยนตามสเปคของเรา แล้ วกด ok

เราสามารถแก้ วสั ดุของกําแพงได้ โดย


การกดตรงนี ้แล้ วกดกล่อง**ต่อท้ ายเล่ม

ทําการวาดกําแพงโดยอิงจากเส้ นรอบรูปของห้ อง (การที่เราเพื่มระยะห้ องก็เพื่อการนี ้ๆ เอง) เราวาดกําแพงไปเลย


โดยไม่ต้องสนใจตําแหน่งของประตุและหน้ าต่าง เพราะเราสามารถมาใสได้ ทีหลัง หลังจากวาดเสร็จให้ กด
modify เพื่อเสร็ จสิ ้นการทํากําแพง

1.6 – 0.05 – 0.05

= 1.5 m
P a g e | 12

จากนันเราจะมาใส่
้ เพดาน ซึง่ ในจุดนี ้เราต้ องเปลี่ยนมุมมองของเราจากมุมมอง Floor Plans- level 1 เป็ น
Ceiling Plans – Level 1 จากนันกดที
้ ่ Ceiling ใน Architecture ถ้ าหากห้ องเราเป็ นห้ องที่มีกําแพงที่สงู
เท่ากันทุกด้ าน เราสามารถกด Automatic ceiling แล้ วลากเมาส์ไปบริ เวรห้ อง ถ้ าหากไม่มีอะไรผิดพลาด
เราจะเห็นกรอบสีแดงปรากฎขึ ้น ให้ เรากดกรอบนัน้ และกด Modify เหมือนกับ กําแพงเพื่อเสร็จสิ ้น

5
3

4 ปรับระดับความสูงของเพดาน
P a g e | 13

การแก้ ไขหรื อลบเพดานออกไปนัน้ ทําได้ หลายขันตอนหนึ


้ ง่ ในนันคื
้ อ (1) เริ่มจากเปลี่ยนมุมมองจาก ceiling plan – level
1 เป็ น มุมมมองแบบ 3D แล้ วลากเมาส์ไปบนเพดานให้ มีไฮไลท์สีนํ ้าเงินแล้ วจากนันคลิ
้ ้กแล้ วกดปุ่ ม Delete (Del)

เลือกสัญลักษณ์บ้านที่อยูข่ ้ างบนของหน้ าต่าง

คลิ ้กให้ เป็ นสีนํ ้าเงินอย่างนี ้แล้ วกด Delete เพื่อลบ

4. การใส่เฟอร์นิเจอร์ และสุขาภัณฑ์ ควรที่จะทําในมุมมอง Floor plans- level 1 หรือ level ที่เราได้ สร้ าง
พื ้นไว้ การใส่ประตูนนต้
ั ้ องเริ่ มจากการเลือกคําสัง่ Door ส่วนหน้ าต่างก็ต้องเลือก Window ตามรูปภาพ

ทังนี
้ ้เราสามารถปรับขนาดและความสูงของประตู หรื อหน้ าต่างได้ โดยแก้ ไขในช่อง Properties และ edit type
เหมือนกับกําแพง

แก้ ไขขนาดและวัสดุ

ความสูงจากพื ้น
ซึง่ ดูได้ จาก
แปลนหน้ าต่าง
และประตู*อ่าน
หน้ า4
P a g e | 14

การเติมหน้ าต่างหรื อประตูสามารถทําได้ โดยการลากเมาส์ไปบนกําแพงที่เราได้ สร้ างไว้ เมื่อวางตําแหน่งที่


ต้ องการได้ แล้ วให้ คลิ ้กเมาส์ ถ้ าต้ องการเปลี่ยนตําแหน่งหรื อแก้ ไขตําแหน่งให้ แก้ ที่ตวั เลขหลังจากที่วางประตู
หรื อหน้ าต่างเรี ยบร้ อยแล้ ว
แก้ ไขตําแหน่ง

ก่อนยืนยันการวาง หลังวางตําแน่งแล้ ว

5. การใส่สขุ าภัณฑ์หรือเฟอร์นิเจอร์ลอยอย่างเช่นเก้ าอี ้นัน้ ควรจะเริ่มทําในมุมมอง Floor plans-


level 1 หรื อ level ที่วางพื ้น วิธีการทํานันใกล้
้ เคียงกับการสร้ างผนังหรื อพื ้นแตกต่างตรงที่เราต้ องมาเลือกสุขา
ภัณฑ์หรื อ families ใน folder ที่เรามี

สําหรับสุขาภัณฑ์นนั ้ เราต้ องไปเลือก Pumping fixture ใน แถบ System เพราะพวกชักโครกหรื ออ่างล่าง


หน้ านันถู
้ กเหมารวมกับพวกระบบนํ ้าและระบบต่างๆ ภายในบ้ าน

ในครัง้ แรกนัน้ โปรแกรมจะบอกว่าเราไม่มี families (วัตถุ) ซึง่ เรากด Yes ไปเลย เพราะเดี๋ยวโปรแกรมมัน
จะหาที่อยูข่ องพวก Families ต่างๆให้ แต่ทงนี
ั ้ ้ทังนั
้ น้ Families พวกนันมี
้ หลายชนิด เราต้ องเลื่อนลงไป
จนกว่าจะเจอ folder ที่มีชื่อว่า Pumping
P a g e | 15

พอเรากดเข้ าไปใน folder แล้ วให้ เราเลือก MEP ซึง่ มันจะ families ที่โปรแกรมอณุญาตให้ เราใช้ โดยไม่
ต้ องคํานึงถึงระบบภายในบ้ าน (ถ้ าเป็ น Architectural มันจะบังคับให้ เราไปวาง families บนระบบท่อนํ ้า
หรื อไฟฟ้าที่ถกู ต้ องเท่านัน้ ) แล้ วจากนันให้
้ เลือก Fixture (Equipment มันจะเป็ นพวกอุปกรณ์เสริ มหนะ)
แล้ วเลือกตามที่ต้องการ

การแก้ ไขหรื อย้ าย families ทําได้ โดยการใช้ เมาส์ลากไปมาตามที่กําหนดหรื อแก้ ไขตัวเลขก้ ได้
ส่วนการหมุน families ทําได้ โดยการกด แล้ วเลือกแกนหมุนเป็ นอันดับแรกแล้ ว
จากนันจึ
้ งหมุนวัตถุ
P a g e | 16

การใส่ไฟในห้ องนันทํ
้ าเหมือนกับใส่สขุ าภัณฑ์หรื อพวก families ต่างๆ เริ่ มจากเปลี่ยนมุมมองจากปั จจุบนั
ไปเป็ น Ceiling Plans- level 1 แล้ วเลือก lighting ในแถบของ System ซึง่ ถ้ าเป็ นการเปิ ด Lighting ครัง้
แรกมันจะบอกว่าไม่มี families เหมือนกัน ให้ เราทําแบบเดียวกับที่ทํากับ pumping

External – ไฟสําหรับภายนอก

Internal - ไฟสําหรับภายใน

เลือกหมดทุกอัน แล้ วจากนันกด



Open เลย คอมอาจจะมีการค้ าง
เล็กน้ อย
P a g e | 17

การวางหลอดไฟฟ้าต้ องใช้ มมุ มอง Ceiling plans – level 1 (1) แล้ วสามารถไปเลือกชนิดของหลอดไฟใน
ช่อง properties (2) ในบางครัง้ เราจําเป็ นต้ องเลือกระดับของพื ้นที่ๆ จะวางตําแหน่งไฟด้ วย อย่างเช่นใน
กรณีนี ้ เราจําเป็ นต้ องกด Place on Face (3) เพื่อที่จะวางหลอดไฟบนเพดาน จากนันจึ ้ งไปวางหลอดไฟไว้
บนพื ้นที่ๆ ต้ องการ (4) แล้ วจากนันกด
้ Modify เพื่อยืนยัน (5)

5
3
2

ในบางครัง้ ที่แสงในห้ องนันอาจจะน้


้ อยเกินไปจนทําให้ ห้องที่เราออกแบบนันไม่้ สวยงาม เราอาจจะ
เพื่อหลอดไฟเข้ าอีก หรื อไม่ก็เพื่ม Studio light เข้ าไป studio light คือแสงสว่างที่ไม่ใช่หลอดไฟ
แต่เป็ นแสงสว่างอ่อนๆ ที่จะทําให้ ทงห้
ั ้ องดูสว่างขึ ้นมาเล็กน้ อย นิยมวางไว้ กลางห้ อง

ไม่มี studio light มี studio light


P a g e | 18

3. การใส่วสั ดุให้กบั วัตถุและทําสารบัญวัสดุเพื่อใช้ในอนาคต


เราสามารถปรับแต่งวัสดุตา่ งๆ ของเฟอร์ ที่เราใช้ ได้ อย่างไม่มีจํากัด ไม่วา่ วัสดุตวั นันจะเป็
้ นที่ร้ ูจกั หรื อไม่ เรา
สามารถที่จะปรับแต่งตามที่ต้องการอย่างง่ายดาย ในทุกครัง้ ที่เราวาง families ต่างๆ รวมถึงพวกกําแพง พื ้น และผนัง ใน
ช่อง properties (ลักษณะ) จะมีแถบคําสัง่ Edit type อยูข่ ้ างล่าง ซึง่ แถบนี ้จะทําให้ เราสามารถปรับแต่งคุณลักษณ์ตา่ งๆ
ของ families ตัวนันได้ ้ หรื อคําสัง่ Paint ใน แถบ modify ที่จะทําให้ เราเปลี่ยนวัสดุตา่ งด้ วยการเลือกสิง่ ๆ นัน้ มักใช้ กบั
กําแพงหรื อสิง่ ที่ไม่ใช่ families

Paint
P a g e | 19

1. ก่อนที่เราจะใช้ paint หรื อ edit type เพื่อเปลี่ยนวัสดุนนั ้ บางทีเราจําเป็ นที่จะต้ องสร้ างวัสดุนนขึ
ั ้ ้นมาเองซึง่ การ
สร้ างวัสดุขึ ้นมาเอง ข้ อเสียของ Revit คือถ้ าเราสร้ างวัสดุไหนมาใช้ วัสดุนนจะคงอยู
ั้ แ่ ค่ใน project หรื อ file
นันๆ
้ เท่านัน้ หมายความว่าวัสดุที่เราสร้ างจากงานครัง้ ก่อนจะไม่ปรากฎในง่ายชิ ้นใหม่ๆ ดังนัน้ เราจําเป็ นที่
จะต้ องสร้ างสารานุกรมวัสดุขึ ้นมาใหม่เพื่อที่จะสามารถเปิ ดใช้ งานได้ ในงานชิ ้นต่อไป
1.1 วิธีแก้ คือการสร้ าง Material library หรื อสารบัญวัสดุขึ ้นมาเอง โดยเริ่ มจากเปิ ด Manage และกดเข้ าไปที่
material

1.2 จากนันให้
้ เลือกไอคอลรูปไฟล์กบั ประแจที่อยูด่ ้ านล่างซ้ าย ในครัง้ แรกที่สร้ างให้ เลือก create new library เพื่อ
สร้ างสารบัญวัสดุ แต่ในครัง้ ต่อไปเราสามารถเลือก open existing library เพื่อใช้ สารบัญวัสดุที่เราเคยสร้ างไว้
ในครัง้ แรกได้

1.3 เลือกที่ save file และตังชื


้ ่อ จากนันกด
้ ok แล้ วโปรแกรมจะนําเรากลับไปที่หน้ าของ material จากนันให้
้ เรา
เลือก open/close assets browser
P a g e | 20

1.4 ถ้ าหากไม่มีชื่อ file ที่เราสร้ างอยู่ในนัน้ ให้ เรากดไอคอลรูปไฟล์กบั ประแจที่อยูด่ ้ านล่างซ้ ายในหน้ าต่างนันแล้
้ ว
เลือก open existing library แล้ วเข้ าไปหา file library ของเรา ถ้ าหากมันไม่แสดง file ของเราถึงแม้ เราจะ
เข้ าถูกที่แล้ วก็ตาม ให้ เราเปลี่ยนช่อง Files of type เป็ น library file (*.adsklib)
P a g e | 21

1.5 File “ตัวย่างสําหรับการสอน revit” จะเป็ น file เปล่าๆ ไม่มีวสั ดุอะไรเลย เราจําเป็ นต้ องสร้ างวัสดุขึ ้นมาจาก
หน้ าต่างแรกของเรา โดยเริ่ มจากกดไอคอลทรงกลมที่มีรูปบวกสีนํ ้าเงิน แล้ วเลือก create new material ซึง่

โปรแกรมจะทําการสร้ างวัสดุตวั ใหม่ขึ ้นมาโดยมีชื่อเริ่ มต้ นว่า Default New material ทางที่ดีนนเราควรจะกด
ั้
คลิ ้กขวาที่มนั และเปลี่ยนชื่อ (Rename) แนะนําว่าให้ เปลี่ยนเป็ นชื่อสันๆ
้ หรื อแค่ตวั อักษรหรื อตัวเลขเดียวยิ่งดี
เพราะไม่งนเราจะเขี
ั้ ยนชื่อจริงๆ ในสารบัญวัสดุเราไม่ได้
P a g e | 22

1.6 ****ระวัง*** หลังจากที่เราเปลี่ยนชื่อวัสดุ โปรแกรมจะทําการจัดวางตําแหน่งวัสดุใหม่โดยเรี ยงลําดับตาม


พยัญชนะ อย่างเช่นเราตังชื ้ ่อที่ขึ ้นต้ นด้ วย “B” เราต้ องเลื่อนหน้ าต่างไปในส่วนของพยัญชนะ B

1.7 จากนันกดเข้
้ าไปใน Appearance (ลักษณะทางกายภาพ) ถ้ าหากใส่วสั ดุเป็ นกระเบื ้อง ให้ เรากดเข้ าไปที่ช่อง
ลูกศรลงของช่อง image (รูปภาพ) แล้ วเลือก tiles

- Tile Count คือการแบ่งกระเบื่องเป็ นหลายๆแผ่น


โดยเหมือนกับจิ๊กซอที่ตดั รูปใหญ่ออกเป็ นรูปเล็กๆ
หลายๆรูป Row (เส้ นแนวนอน) Column (เส้ นแนวตัง้ )
- Tile appearance คือรู ปของกระเบื่อง กดไปที่ลกู ศร
ข้ างหลังแถบสี แล้ วเลือก image (รูป) เพื่อเลือกลายที่
ต้ องการ

- Grout Appearance คือลักษณะการยาแนว เลือกสี


และขนาดได้
P a g e | 23

1.8 ใน Tile Appearance หลังจากที่เราเลือกลายกระเบื ้องได้ แล้ วมันจะมีหน้ สต่างให้ เราเลือกขนาดของแผ่น ฯลฯ

หมุนรูป

ปรับขนาดของลายกระเบื ้อง

ปุ่ มนี ้คือล็อกค่าของความ


กว้ างและยาวให้ เท่ากัน กด
ยกเลิกได้

หลังจากปรับแต่งเรี ยบร้ อยแล้ ว ให้ กด done เพื่อยืนยัน หลังจากนัน้ โปรแกรมจะเด้ งเรากลับไปหน้ านี ้

เราจะสังเกตได้ ว่าตอนนี ้ลายเราเปลี่ยนไปแล้ ว ทังนี


้ ้เราควรที่จะตรวจสอบความถูกต้ องอีกครัง้ เพราะในบางที
โปรแกรมอาจจะตังให้ ้ นหรื อก็คือ 30*30 cm วิธีการตรวจก็แค่คลิ ้กที่รูปและดูที่
้ กระเบื ้องเรากลายเป็ นค่าตังต้
ขนาด (Scale) อีกครัง้
1.9 ในหน้ า Appearance นันนอกจากเราจะสามารถเลื
้ อกลายหรื อรูปของวัสดุนนๆ
ั ้ ได้ แล้ ว เรายังสามารถปรับแต่ง
ความเงา การสท้ อนแสง และความลึกตื ้นของวัสดุนนๆ
ั ้ ได้ ด้วย โดยเราจะต้ องติ ้กกล่องเพื่อแสดงความต้ องการ
ให้ กบั โปรแกรม
P a g e | 24

ความเงา
เงามาก

การสะท้ อนแสง

สะท้ อนแสงชัดเจนมาก

ยิ่งน้ อยยิ่งด้ าน
ความโปรงใส

ความชัดลึก ใส่รูปสีขาวดําของลายที่เราเลือก และขนาดต้ องเท่ากัน

ชัดลึกมากหรื อน้ อย พยายามอย่าปรับเยอะ


P a g e | 25

1.10 พอเราสร้ างวัสดุเสร็จแล้ วให้ เราคลิ ้กขวาที่วสั ดุของเราทางตารางด้ านซ้ ายแล้ วเลือก Add to ตามด้ วย
ชื่อสารบัญวัสดุของเราเป็ นการเสร็จสิ ้น ทังนี
้ ้ทังนั ้ สดุที่ใส่เข้ าไปในสารบัญวัสดุจะมีชื่อเริมต้ นคือ Generic แต่
้ นวั
เราสามารถเปลี่ยนชื่อได้ แต่ไม่สามารถใช้ ชื่อซํ ้ากับชื่อแรกที่เราใช้ ในตารางวัสดุแรกได้

1.11 กด ok เพื่อยืนยัน
1.12 ในเวลาที่เราทํางานใหม่แล้ วต้ องการใช้ วสั ดุที่เคยทําไว้ ในงานก่อนๆ เราต้ องเริ่ มเหมือนกับการสร้ างวัสดุ
อันใหม่เพียงแต่ในครัง้ นี ้เราไม่ต้องไปทําอะไรเกี่ยวกับ Appearance แต่ให้ เปิ ดหน้ าสารบัญวัสดุ (library) แล้ ว
กด หลังวัสดุที่เราต้ องการในสารบัญวัสดุ

เปลี่ยนชื่อด้ วย
P a g e | 26

4. การเติมวัสลุ งไปในวัตถุต่างๆ
ดัง่ ที่ได้ กล่าวไปในข้ างต้ นเกี่ยวกับคําสัง่ Paint หรื อคําสัง่ ที่เหมือนกับทาสี และวิธีการแก้ ไขคุณสมบัติของวัตถุ
โดยการกด Edit type ในช่อง properties (ในหน้ า 18) ซึง่ ทังสองวิ ้ ธีมีลกั ษณะการใช้ ที่แตกต่างกันไป และมความ
เหมาะสมที่ไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น Paint นันใช้้ ง่ายและสามารถเปลี่ยนวัสดุได้ ง่ายโดยแค่คลิ ้กสิง่ ที่ต้องการเปลี่ยนและ
เลือกใหม่เท่านัน้ ดังนัน้ Paint จึงเหมาะกับงานพวกกําแพง พื ้น หรื ออะไรที่ไม่ซบั ซ้ อน ในขณะเดียวกัน Edit type ทําให้
เราสามารถเปลี่ยนวัสดุของวัตถุนนๆ ั ้ ในแบบที่เป็ นระบบมากกว่า Paint เพราะเราเปลี่ยนองค์ประกอบของวัตถุชิ ้นนันๆ ้ ซึง่
ไม่เหมือนกับ Paint ที่แค่เปลี่ยนวัสดุผิวนอก ดังนัน้ Edit Type จึงเหมาะกับวัตถุที่ซบั ซ้ อนอย่างเช่นพวก สุขาภัณฑ์ ประตู
และ Family ต่างๆ

คําสัง่ Paint
1. การใช้ คําสัง่ paint นันอยู
้ ใ่ นช่อง Modify

2. กดวัสดุที่ต้องการอย่างเช่น กระเบื ้องลาย High away grey 12*24 ตามรูปภาพ แต่ยงั ไม่ต้องกด Done
้ คลิ ้กผนังหรื อวัตถุที่ต้องการ (เมื่อลากเมาส์ไปที่วตั ถุๆ นันจะปรากฎเป็
จากนันให้ ้ นสีนํ ้าเงิน) เมื่อทําเสร็จทัง้
หมดแล้ วจึงค่อยกด Done
P a g e | 27

คําสัง่ Edit Type

1. เลือกวัตทุ ี่เราต้ องการเปลี่ยนคุณลักษณะของสิง่ นันๆ


้ จากนันกด
้ Edit Type ที่อยูใ่ นกล่อง Properties ทาง
ด้ านซ้ ายของหน้ าจอเรา

วัตถุที่เลือก

2. ในกรณีที่สงิ่ ของนันเป็
้ น family หรื อตัวอย่างเช่นชักโครงตัวนี ้ ในช่องแรกจะเขียนว่า Material and finishes
(วัสดุและการตกแต่ง) ในช่องนันจะมี
้ ลสิ ขชิ ้นส่วนของชักโครก (1) และช่องซ้ ายจะให้ เราเลือกวัสดุสําหรับชิ ้นสวน
้ (2) เราต้ องกด 1 คลิ ้กซ้ ายในช่องวัสดุแล้ วกดกล่องเล็กๆทางด้ านขวาและเลือกวัสดุ (3)
นันๆ

1
2
3
P a g e | 28

2.1 ในกรณีที่วตั ถุที่เราเลือกคือกําแพงหรื อพื ้นหรื อวัตถุที่ไม่ใช่ family (สําเร็จรูป) ช่อง material and finishes
จะเปลี่ยน Construction แทน ให้ เรากดช่อง Edit ที่อยูท่ างด้ ารซ้ ายของ Structure ***ระวัง*** การ
เปลี่ยนวัสดุในวิธีนี ้จะทําให้ ทกุ วัตถุที่เป็ นชนิดเดียวกันกับวัตถุที่เราแก้ ไขจะเปลี่ยนไปด้ วย

2.2 ในวิธีนี ้ เราจะเป็ นดัง่ ช่างก่อสร้ างเสมือนโดยที่เราต้ องใส่วสั ดุก่อสร้ างต่างๆ ในแต่ละชันของวั
้ ตถุ อย่างเช่น
การสร้ างกําแพงอิฐที่ปดู ้ วยกระเบื ้องทังสองด้
้ าน เราต้ องกด Insert เพื่อสร้ างผนังกระเบื ้องข้ างนอก และกด
insert ต่อเพื่อสร้ างผนังอิฐ และตามด้ วยผนังกระเบื ้องอีกครัง้ (ต้ องเรี ยงชันของผนั้ งกําแพงด้ วยว่าอันไหน
เป็ นผนังข้ างนอก-ลําดับบน-อันไหนอยูข่ ้ างใน-ลําดับล่างลงมา) ทังนี ้ ้เราต้ องกําหนดความหนาของวัสดุแต่
ละอันด้ วย เพราะกําแพงที่เราสร้ างจะมีความหนาอิงจากผนังหรื อโครงสร้ างต่างๆ ที่เราสร้ าง ข้ อดีคือเวลาทํา
รูปตัดหรื อการผ่าห้ องจะทําให้ เราเห็นโครงสร้ างของกําแพงหรื อพื ้นอย่างละเอียด

ความสูง

กดเพื่อเลือกหน้ าที่ เปลี่ยนวัสดุ ความหนา ม.

เพื่ม/ลดชันของวั
้ ตถุ
P a g e | 29

5. การเปลี่ยนมุมกล้องเตรียมตัวก่อนการ Render
การเปลี่ยนมุมกล้ องนันทํ
้ าได้ หลายวิธีไม่วา่ จะเปลี่ยนจาก Project browser หรื อ Default 3D view (ไอคอน
รูปบ้ านเล็กๆ ด้ านบน) แต่ทงนี
ั ้ ้การ Render แต่ละครัง้ เราต้ องหามุมมองที่เหมาะสมและเครื่ องมือเหล่านี ้มีลกั ษณะการ
ทํางานต่างกัน และมีข้อดีและข้ อเสียต่างกัน เครื่ องมือเหล่านันคื
้ อ 1. การใช้ Camera view และ Project browser
และ 2.การทํารู ปตัด ใน Default 3D view

Camera view คู่กบั Project browser


วิธีนี ้เหมาะกับการ render มุมมองเสมือนจริง สามารถทําให้ เกิดมุมมองของบุคคลที่หนึง่ ได้
1.1เปิ ดมุมมองที่เราต้ องการจาก Project browser ตัวอย่างเช่น Floor Plans- level 1

1.2ให้ เลือกลูกศรลงข้ างไอคอน บ้ าน (Default 3d view) ให้ เลือก Camera

1.3ทําการวางตําแหน่งกล้ องและคลิกซ้ าย 1 ครัง้ เพื่อวางกล้ อง จากนันเลื


้ อกมุมโดยการลากเมาส์ไปในบริ เวณที่
ต้ องการ โดยที่เส้ นกากบาทคือความลึกที่จะมองเห็นจากจุดวางกล้ อง
P a g e | 30

1.4เราสามารถปรับขยายมุมมองของเราได้ โดยกดลากปุ่ มอยูบ่ นขอบรูปภาพของเราออกไป หรื อถ้ าอยากหมุน


มุมมองก็ให้ กดค้ าง Shift+ลูกกลิ ้งของเมาส์

1.5ถ้ าหากอยากเห็นว่าห้ องเราตกแต่งยังไง แต่ยงั ไม่อยากกด Render ที่กินเวลาค่อนข้ างมาก ให้ เราเลือก
ไอคอน Visual style โดยค่าตังต้
้ นที่เราเห็นอยู่คือ hidden line ให้ เราเปลี่ยนเป็ น Realistic หรื อไม่ก็
Shade ถ้ าอยากเห็นแค่เงาจากแสง
P a g e | 31

การทํารูปตัด ใน Default 3D view


วิธีนี ้เหมาะกับการดูภาพรวมและการ render รูปตัด เพราะเราสามารถหมุนห้ องเราไปในมุมต่างๆ ได้ โดยง่าย

1.6ให้ เลือกไอคอน บ้ าน (Default 3d view)

1.7เราสามารถหมุน่ ภาพได้ โดยกด Shift + ลูกกลิ ้ง และสามารถเลื่อนภาพได้ ด้วยการกดลูกกลิ ้งอย่างเดียว

1.8ให้ เราสังเกตที่ช่อง Properties ทางด้ านซ้ ายมือให้ เราเลื่อนลงไปเลื่อยๆ จนเห็นคําว่า Section box
จากนันให้
้ เราติ ้กกล่องเพื่อที่เราจะทํารูปตัด
กล่อง Section (รูปตัด)
P a g e | 32

1.9ให้ กดกล่องที่ปรากฎรอบห้ องของเราเพื่อเริ่ มการปรับแต่ง เราสามารถเลื่อนด้ านใดให้ ออกหรื อเข้ าก็ได้ โดย
การกดลูกศรที่อยูด่ ้ านนันค้
้ างและลากไปเข้ าหรื อออก ถ้ าหากเลื่อนทะลุผนังห้ องจะทําให้ บริ เวณที่อยูห่ ลัง
เส้ นหายไป

กด Shift+ลูกกลิ ้ง
เพื่อหมนมุมมอง
P a g e | 33

การ Render ภาพ


การ Render ภาพให้ สวยนัน้ ขึ ้นอยู่กบั มุมกล้ อง แสง และความสมจริ งของวัสดุที่เราใส่เข้ าไป ในหลายๆ ครัง้ นัน้
ุ ภาพที่ไม่คอ่ ยน่าพอใจ เพราะอาจจะมี Noise หรื อเม็ดสีแตก ทําให้ ภาพดูไม่สวย ทังนี
ภาพที่ออกมามีคณ ้ ้สิง่ เหล่านี ้
สามารถแก้ ได้ ด้วยการตังค่
้ าให้ ถกู ต้ องตามลักษณะการใช้ งาน

1. ไอคอนรูปกานํ ้าคือ Render ทังนี


้ ้มันจะมีอยูส่ องจุด คือ 1. แถบข้ างล่างหน้ าจอเรา และ 2.ช่อง view ที่อยู่
ข้ างบน
P a g e | 34

2. พอเรากดเข้ าไปแล้ วมันจะมีหน้ าต่าง setting ขึ ้นมา

เริ่ มการ Render Render แค่ในบริ เวณที่ต้องการ

คุณภาพการ Render

คุณภาพของรูปสําหรับการปริน้
(อย่างตํ่าควรจะเป็ น 300 DPI) คุณภาพของรูปสําหรับการปริน้
(อย่างตํ่าควรจะเป็ น 300 DPI)

ลักษณะของแสงเหมาะกับแบบ
การควบคุมหลอดไฟ อันไหนเปิ ด
ไหน ภายนอก-ใน
อันไหนปิ ด
ทิศทางของแสงอาทิตย์

Background เป็ นยังไง ใส่รูป

ความสว่างของแสง ความเข้ ม หรื อใส่สี ฯลฯ


ของเงา สีของแสง
ในกรณีที่ Render เสร็ จแล้ ว แต่
Export รู ปภาพ
อยากแก้ ไขห้ อง ให้ กดปุ่ มนี ้ มัน
จะให้ เราแก้ ไขมุมมอง
P a g e | 35

3. ถ้ าหากต้ องการ Render เพื่อต้ องทดลองแสงหรื อองค์ประกอบอื่นๆ ให้ เริ่ มจากเปลี่ยน Quality setting  Draft ,
Output setting resolution  Screen แล้ วกด Region เพื่อทําการกําหนดบริ เวณที่จะทํา Render แล้ วจึงกด
Render
เส้ นสีแดงคือ
Region ที่จะ
render เราแก้ ไข
ได้

4. ในการ Render ห้ องที่เป็ น indoor นันให้


้ เราเปลี่ยน Lighting Scheme Interior :Artificial only (ใช้ ไฟ
จากหลอดไฟอย่างเดียว) หรื อ Interior :Sun and Artificial (ใช้ ทงไฟจากหลอดและดวงอาทิ
ั้ ตย์) ทังนี
้ ้แสงจาก
ดวงอาทิตย์สามารถแก้ ไขจากการกดกล่องที่มี 3 จุด ข้ างๆ Sun setting หรื อถ้ าอยากปิ ดหรื อเปิ ดหลอดไฟดวง
ไหนก็ให้ เรากดเข้ าไปในกล่อง Artificial light

ติ ้กกล่องเพื่อเปิ ด
ไฟ
P a g e | 36

5. นอกจากนี ้ เรายังสสามารถปรับแสงและอุณภูมิสี(สีของแสง)ได้ มากกว่านี ้ โดยเราต้ องกดเข้ าไปที่ Light


exposure

ความสว่ างของ 9 เหมาะกับห้ องมืดๆ

ความสว่ างของจุดกระทบ

ความเข้ มของเงา

ความเข้ มของสี

อุณภูมิ แนะนํา 5600-6000

6500 คือค่ากลางของ Revit


P a g e | 37

6. เมื่อปรับทุกอย่างเสร็จแล้ วก็กด Render ทังนี ้ ้เราสามารถกดยกเลิกได้ เช่นกันโดยกด Stop แต่คณ


ุ ภาพงานจะ
หยุดอยูแ่ ค่ตรงนัน้ ยิ่งคุณภาพงานสูง ยิ่งใช้ เวลานาน
P a g e | 38

เทคนิคอื่นๆ
มีอีกหลายวิธีที่จะทําให้ เราสร้ างห้ องที่มีลกั ษณะพิเศษได้ อย่างง่ายดาย อย่างเช่นการแบ่งผนังห้ องเพื่อทําผนังที่มี
มากกว่า 1 ลาย หรื อ กี่ทํากําแพงให้ เอียง

1. การแบ่งผนังหรือพืน้
การแบ่งพื ้นและผนังจะใช้ คําสัง่ ตัวเดียวกัน เพียงแต่การแบ่งผนังนันจะมี้ ขนตอนเยอะกว่
ั้ าการแบ่งพื ้นอยู่ 2-
3 ลําดับ การแบ่งพื ้นจะใช้ คําสัง่ Paint เพื่อการใส่วสั ดุเพราะพื ้นที่ถกู แบ่งจะตัดออกจากกัน
1.1ในกรณีของพื ้น เรื่ มด้ วยการกดเข้ าไปที่มมุ มอง Floor Plans- level ที่มี plan ของเรา จากนันเข้
้ าไปที่
ช่อง Modify แล้ วเลือกคําสัง่ Split face

1.2จากนันพยายามเลื
้ ่อนเมาส์ไปหาตําแหน่งบนพื ้นที่จะทําให้ พื ้นปรากฎเส้ นสีนํ ้าเงินและคลิ ้กซ้ าย 1 ครัง้
เพื่อเริ่ มการวาดเส้ น

เส้ นสีชมพูต้องบรรจบที่
เส้ นสีส้มเท่ านัน้ ไม่ งนั ้ มัน
จะไม่ ให้ สร้ าง
1.3ในกรณีของการแบ่งผนังนันเราสามารถใช้
้ มมุ มองจาก 3D section ที่เราเคยทําในการ Render ได้ ซงึ่
มันจะง่ายกว่าด้ วย โดยที่เราตัดด้ สนตรงข้ ามออกเพื่อที่จะมองเห็นผนังที่ต้องการและเลือก Split face
บนผนังที่ต้องการ
P a g e | 39

2. การทําผนังเอียง
ผนังเอียงนันผู
้ ้ ใช้ จําเป็ นต้ องสามารณคํานวนตรี โกเป็ นเพราะการสร้ างผนังเอียงจะทําเหมือนกับวางตําแหน่ง
จุดสองจุด ซึง่ ต้ องคํานวนในเรื่ องของการทํามุมและระยะห่างระหว่างสองจุดนี ้ อย่างเช่น ถ้ าเราทํากําแพงที่
มีความสูงจากพื ้นถึงพื ้น 3 ม. และทํามุม 60 องศา เราต้ องคํานวนมาว่าจากจุดเริ่ มของกําแพงไปถึงชันบน้
จะมีระยะห่างในแนวนอนเท่าไร ดังนันตรี ้ โกจึงจําเป็ นอย่างมากในการทํากําแพงเอียง
2.1ให้ เราเรื่ มจากทําการวาดแผนผังชัน้ 1ก่อน เพื่อเป็ นช่วยในการวางตําแหน่งเส้ น
2.2จากนันเปิ
้ ดมุมมอง Elevation ด้ านไหนก็ได้ แล้ วเช็คความสูงของ Level 2 หรื อมากกว่านันว่
้ าถูกต้ อง
ตามที่เราออกแบบไหม (ความสูงของ Level จะเป็ นตัวกําหนดความสูงของกําแพง)
2.3จากนันให้
้ กดเข้ าไปในช่อง Mass & site และเลือกคําสัง่ In-place Mass แล้ วตังชื
้ ่อ (ไม่ตงก็
ั ้ ได้ )

2.4 กดวิธีการวาดโดยจะวาดแบบเส้ นหรื อรูปต่างๆ จากนันกด้ Draw on work plane แล้ วเลือก
Placement plane เป็ น level 1 เพื่อที่จากวาดพื ้นของกําแพง

2.5การทําวาดเส้ นกําแพงที่ต้องการบนพื ้นชัน้ 1 เมื่อเสร็จให้ กด ESC จากนันเปลี


้ ่ยนมุมมองเป็ น Floor
plans-level 2 หรื อ level ที่ต้องการ แล้ วกดวาดเส้ นอีกครัง้ แล้ วเปลี่ยน Placement Plane เป็ น
Level 2 หรื อ level ที่ต้องการแล้ ว
P a g e | 40

2.6วาดเส้ นที่สองออกห่างจากเส้ นแรกโดยใช้ ระยะห่างที่คิดจากสูตรตรี โก จากนันกด


้ Ctrl+คลิ ้กซ้ ายที่เส้ น
นันและเปลี
้ ่ยนมุมมองเป็ น Floor-level 1 แล้ วCtrl+คลิ ้กซ้ ายที่เส้ นที่หนึง่

2.7 พอเลือกเส้ นทังสองแล้


้ ว กด Create form แล้ วเราควรจะเห็นแผ่นสี่เหลี่ยมขึ ้นมาแบบนี ้

2.8กดเครื่ องหมายถูกเพื่อยืนยันการสร้ าง จากนันเราจะได้


้ แผ่นสีส้มมา ให้ เรากลับไปที่ช่อง Mass & Site
แล้ วเลือก Wall จากนันคลิ
้ ้กบนแผ่นสีส้ม

2.9กดเครื่ องหมายถูกต้ องเพื่อยืนยันการสร้ างกําแพง กดมุมมอง 3D เพื่อเช็คความถูกต้ อง


P a g e | 41

“ คูม
่ ือนี ้ถูกจัดทําขึ ้นมาเพื่อจุดประสงค์ของ
การศึกษา มิได้ มีเจตนาที่จะตีพิมพ์เพื่อการซื ้อ
ขาย ผู้จดั ทําคาดหวังว่าคูม่ ือนี ้จะช่วยท่านผู้อา่ น
ทังให้
้ ได้ รับประโยชน์สงู สุดและส่งต่อแต่ผ้ ทู ี่
ต้ องการ ”

You might also like