Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 27

รายงานเชิงวิชาการ

การอา่ นเเละพิจารณาวรรณคดี บทละครพูดคาํ ฉันท์ เรื่ องมัทนะพาธา

โดย

ึ ษาปี ที่ 5/10 เลขที่ 9


้ ั ธยมศก
นางสาว ไอฝัน นิ นาทเกียรติกุล ชั นม
ึ ษาปี ที่ 5/10 เลขที่ 22
้ ั ธยมศก
นางสาว ศณา ยงพิพัฒน์วงศ ์ ชั นม
ึ ษาปี ที่ 5/10 เลขที่ 2
้ ั ธยมศก
นาย ธัชพล เดชอนันต์ ชั นม
ึ ษาปี ที่ 5/10 เลขที่ 12
้ ั ธยมศก
นาย ธีโรทัย ปรางละออ ชั นม

เสนอ

อ. ปัทวรรณ พันชั ย
ภาคเรี ยนที่ 2 ปี การศก
ึ ษา 2563
โรงเรี ยนสาธิตนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดล

รายงานนี้ เป็ นสว่ นหนึ่ งของกิจกรรมการเรี ยนรู้ โดยใชโ้ ครงงานเป็ นฐาน


(Project Based Learning)
ึ ษาปี ที่ 5
รายวิชาภาษาไทยและวัฒนธรรม ระดับมัธยมศก
คาํ นํา

่ นี้ จัดทาํ ขึ้นเพื่อเป็ นสว่ นหนึ่ งของวิชา ภาษาไทย และ วัฒนธรรม


รายงานเลม
ึ ษาปี ที่ 5 เพื่อให้ไดศ
ชั น้ มัธยมศก ึ ษาหาความรู้ วิเคราะหแ
้ ก ์ ละพิจารณาวรรณคดีและ
วรรณกรรม ในเรื่ อง บทละครพูดคาํ ฉันทเ์ รื่ องมัทนะพาธา เพื่อที่จะไดไ้ ดศ ึ ษาอยา่ ง
้ ก
เขา้ ใจเกี่ยวกับเนื้ อหา กลวิธีการแตง่ การใชภ
้ าษา ประโยชน์ รวมถึงคุณคา่ ใน
วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อเป็ นประโยชน์กับการเรี ยน
ผูจ้ ั ดทาํ ขอขอบคุณ อ. ปัทวรรณ พันชั ย ที่ให้ความรู้ ตลอดจนความชว่ ยเหลือ
และคาํ แนะนําตา่ งๆ จนรายงานนี้ สาํ เร็จลุลว่ งไปไดด ่ นี้
้ ว้ ยดี ผูจ้ ั ดทาํ หวังวา่ รายงานเลม
จะเป็ นประโยชน์กับผูอ
้ า่ น หรื อนักเรี ยน นักศก ้ มูลเรื่ องนี้ อยูห
ึ ษา ที่กาํ ลังหาขอ ่ ากมีขอ

แนะนําหรื อขอ ้ ละขออภัยมา ณ ที่น้ี ดว้ ย
้ ผิดพลาดประการใด ผูจ้ ั ดทาํ ขอน้อมรับไวแ

ผูจ้ ั ดทาํ
9 มิถุนายน
2563
สารบัญ

สารบัญ 3

การอา่ นและพิจารณาเนื้ อหาและกลวิธีในวรรณคดีและวรรณกรรม 4


เนื้ อเรื่ องหรื อเรื่ องยอ่ 4
โครงเรื่ อง 4

้ งเรื่ อง
ฉากทอ 7
บทเจรจาหรื อราํ พึงราํ พัน 8

่ เรื่ อง
แกน 10

การอา่ นและพิจารณาการใชภ
้ าษาในวรรณคดีและวรรณกรรม 12
การสรรคาํ 12
การเรี ยบเรี ยงคาํ 15
การใชโ้ วหาร 16

การอา่ นและพิจารณาประโยชน์หรื อคุณคา่ ในวรรณคดีและวรรณกรรม 19


คุณคา่ ดา้ นอารมณ์ 19
คุณคา่ ดา้ นคุณธรรม 19
คุณคา่ ดา้ นสั งคม 20

บรรณานุ กรม 21
การอา่ นและพิจารณาเนื้ อหาและกลวิธีในวรรณคดีและวรรณกรรม

เนื้ อเรื่ องหรื อเรื่ องยอ่

สุเทษณ์เทพบุตรหลงรักนางฟ้าชื่อมัทนา แตน
่ างไมไ่ ดร้ ั กตอบ เมื่อนางมัทนา
ปฏิเสธความรัก สุเทษณ์จึงสาปให้ไปเกิด เป็ นดอกกุหลาบ และเฉพาะในคืนวันเพ็ญ
้ นางจึงจะเป็ นคนได้ และเมื่อเกิดความรักในบุรุษใดจึงจะไมก
เทา่ นัน ่ ลายเป็ นดอก
กุหลาบอีกแตจ่ ะไดร้ ั บความทุกขจ์ ากรัก ษี มาพบนางมัทนาหลังจากเป็ นกุหลาบจึง
นําไปไวใ้ นอาศรม ตอ่ มา ทา้ วชั ยเสนเสด็จประพาสป่ามาพบนางมัทนาจึงเกิดความรัก

ไดข้ อนางมัทนา ตอ่ พระ ษี ทังสองไดอ้ ภิเษกสมรส นางจัณฑีมเหสเี อกเกิดความหึง
้ นางจัณฑีทาํ
หวง จึงให้พระบิดายกทัพมาชิงเมือง ทา้ วชั ยเสนออกรบ ระหวา่ งนัน
อุบายให้ทา้ วชั ยเสนเขา้ พระทัยผิดวา่ นางมัทนารักกับทหารเอกของพระองค์ จึงรับสั ง่
ให้นําไปประหารชีวต
ิ แตพ
่ ราหมณ์โสมทัตไดป
้ ลอ่ ยนางมัทนาไป นางมัทนามีความ
ทุกขจ์ ากความรัก จึงทาํ พิธีขอพรตอ่ สุเทษณ์จอมเทพ สุเทษณ์ขอให้นางรักตน แต่
นางไมย่ อมสุเทษณ์จึงสาปให้นางเป็ นตน
้ กุหลาบตลอดไป ตอ่ มา ทา้ วชั นเสนทราบ
ความจริ งจึงออกติดตามพบแตต
่ น
้ กุหลาบจึงนํามันมาไวใ้ น พระราชวัง

โครงเรื่ อง

้ กุหลาบเนื่ องจากปฏิเสธความรักจากสุ
นางมัทนาโดนสาปให้ไปเกิดเป็ นตน
้ ก็ตอ่ เมื่อมีความรัก และเมื่อมีความรักนางก็เกิดทุกข์
เทษณ์เทพบุตร จะหลุดพน
สุดทา้ ยนางมัทนาขอให้สุเทษณ์เทพบุตรชว่ ยแลกเปลี่ยนกับความรักที่นางตอ
้ งมีให้
แกเ่ ขา แตน ่ เคย เรื่ องจึงจบลงดว้ ยความสูญเสยี และความเจ็บปวดดว้ ย
่ างปฏิเสธเชน
กันทุกฝ่าย
ตัวละคร
ตัวละครหลักในเรื่ องบทละครพูดคาํ ฉันทเรื่ องมัทนะพาธา มีสามตัว ประกอบ
ดว้ ย สุเทษณ์ นางมัทนาและมายาวิน

สุเทษณ์
สุเทษณ์ เป็ นเทพบุตรที่หมกมุน
่ ในตัณหาราคะ เจา้ อารมณ์ เอาแตใ่ จตนเอง และ
ไมค
่ าํ นึ งถึงความรู้ สก ้ ่ ืน
ึ ของผูอ
สุเทศณ์: อา้ อรเอกองคอ์ ุไร พี่จะบอกให้
เจา้ ทราบคดีดังจินต;์
พี่เองใชม
้ ายาวิน ให้เชิญยุพิน
มาที่น้ี ดว้ ยอาถรรพณ์

สุเทศณ์: (ตวาด) อุเหม่ !


่ ์ ชิชิชา่ งจาํ นรรจา,
มะทะนาชะเจา้ เลห
ตะละคาํ อุวาทา ฤกระบิดกระบวนความ.
ดนุ ถามก็เจา้ ไซร้ บมิตอบณคาํ ถาม,
วนิ ดาพยายาม กะละเลน
่ สาํ นวนหวล.
ก็และเจา้ มิเต็มจิต จะสดับดนู ชวน,
ผิวะให้อนงคน
์ วล ชนะหลอ่ นทนงใจ.
บม
่ ิยอมจะร่วมรัก และสมัคสมรไซร้
ก็ดะนู จะยอมให้ วนิ ดานิ วาศสฺวรรค,์
ผิวะนางพะเอินชอบ มรุ อ่ืนก็ฃา้ พลัน
จะทุรนทุรายศั ล- ยะบอ่ ยากจะยินยล;
้ จะให้นาง
เพราะฉนัน จุติสูณ
่ แดนคน,
มะทะนาประสงคต
์ น จะกาํ เนิ ดณรู ปใด?
ทวิบทจะตูร์บาท ฤจะเปนอะไรไซร้,
วธุ เลือกจะตามใจ และจะสาปประดุจสรร;
้ กวา่
จะสถิตฉนัน จะสาํ นึ กณโทษทัณฑ,์
และผิวอนดนู พลัน จะประสาทพระพรให้
วนิ ดาจรัลกลับ ณประเทศสุราลัย;
ก็จะชอบสะฐานใด วธุ ตอบดนู มา

นางมัทนา
มัทนา เป็ นหญิงซ่ือสั ตย ์ นิ สัยตรงไปตรงมา คิดอยา่ งไรก็พูดอยา่ งนัน
้ ไมร่ ั กก็บอก
่ ูดปดหลอกลวง ไมม
ตรงๆ ไมพ ่ เ์ หลี่ยม พูดแตค
่ ีเลห ่ วามจริ งที่นางพูด
่ วามจริ ง แตค
ทาํ ให้นางตอ
้ งไดร้ ั บความลาํ บากทุกขร์ ะทมใจ

มัทนา: หญิงควรจะเปรมกะมะละยิง่ ผิวะจิตตะตอบรัก;


แตห
่ ากฤดี บ อะภิรมย ์ ้ จัก
จะเฉลยฉะนัน
เป็ นปดและลวงบุรุษะรัก ก็จะหลงละเลิงไป.
ิ ุจริ ต
ตูขา้ พระบาทสส ิ จะปดใคร,
บ มิคด
จึ่งหวังและมุง่ มะนะสะใน วรเมตตะธรรมา.
อันวา่ พระองคก
์ รุ ณะขอ
้ ย ฤ ก็ควรจะปรี ดา,
อีกควรฉลองวรมหา กรุ ณาธิคุณครัน;
มายาวิน
้ ่ีมีวชิ าอาคมใชเ้ วทยม
ผูท ้ ่ยังหลับไหล
์ นตเ์ รี ยกนางมัทนามาพบสุเทษณะเทพบุตร์ทังๆที
อันเป็ นบอ่ เกิดแกโ่ ทสะของสุเทษณะเทพบุตร์ตอ่ นางมัทนา

มายาวิน: เทวะ, ที่นาง อาการเป็ นอยา่ ง นี้ เพราะฤทธิ์มนตร์;


โยคะอันขลัง บังคับไดจ้ น ให้ตอบยุบล ไดต ้ ามตอ้ งการ
แตจ่ ะบังคับ ใครใครให้กลับ มโนวิญญาณ,
ให้ชอบให้ชัง ยืนยังอยูน ่ าน ยอ่ มจะเป็ นการ สุดพน ้ วิสัย
หากวา่ พระองค์ มีพระประสงค์ อยูเ่ พียงจะให้
นงคราญฉลอง รองพระบาทไซร้ ขา้ อาจผูกใจ ไวด ้ ว้ ยมนตรา.
มิให้นงรัตน์ ดื้อดึงขึ้งขัด ซ่ึงพระอัชฌา,
บังคับให้ยอม ประนอมเป็ นขา้ บาทบริ จา ริ กาเทวัญ.

้ งเรื่ อง
ฉากทอ

ใน บทละครพูดคาํ ฉันทเ์ รื่ องมัทนะพาธาในหนังสอื ไดแ


้ บง่ ฉากทอ้ งเรื่ อง
เป็ น2ภาค คือ ภาคสวรรค์ และ ภาคพื้นดิน
้ งเรื่ องก็คือ สววรคห
ในภาคสววรค์ ฉากทอ ์ รื อ ณ วิมานของสุเทษณ์เทพบุตร
โดยมี มัทนาเป็ นนางฟ้า และ มีสุเทศน์เทพบุตร กับมายาวิน เป็ นเทวดา ซ่ึงรายลอ
้ ม
์ ่ีเป็ นบริ วารตา่ งๆที่มาบาํ เรอขับกลอ่ มเทพบุตรเหมาะสมและ
ไปดว้ ย ชาวสวรรคท
สอดคลอ ้ ่ึงหมกมุน
้ งกับสุเทษณ์เทพบุตรผูซ ้ งเรื่ องที่ สววรค์
่ อยูใ่ นตัณหาราคะ ฉากทอ
ชี้ให้เห็นถึงที่มาของเนื้ อเรื่ องที่มีการใชม
้ นตร์สะกด เราสามารถสั งเกตุไดจ้ ากตอน
ที่มายาวินคลายมนตร์ให้นางมัทนา
สุเทษณ์ อ๊ะ! เราไมข่ อ ไดน ้ !
้ างละหนอ โดยวิธีนัน
้ สมัครรักตอบ.
เสยี แรงเรารัก สมัครใจครัน อยากให้นางนัน
ผูกจิตดว้ ยมนตร์ แลว้ ตามใจตน ฝ่ายเดียวมิชอบ,
เราใฝ่ละโบม ประโลมใจปลอบ ให้นางนึ กชอบ นึ กรักจริ งใจ.
้ ทา่ นครู คลายเวทมนตร์ดู อยา่ ชา้ ร่าํ ไร,
ฉะนัน
หากเราโชคดี ครัง้ นี้ คงได้ สท
ิ ธิ์สมดังใจ; รี บคลายมนตรา.
มายาวิน เอว เทวะ.
(มายาวินประนมมือแลว้ ร่ายมนตร์ตอ่ ไปนี้ )

้ งเรื่ องไดแ
ในภาคพื้นดินตัวอยา่ งของฉากทอ ้ ก่ เมืองหัสตินาปุระในอดีตกาล
และอาศรมของพระ ษี ซ่ึงแสดงให้เห็นการปครองของประเทศอินเดีย จะเห็นได้
จากตอนที่
“วันหนึ่ งทา้ วชั ยเสนกษัตริ ยแ์ หง่ นครหัสดิน เสด็จประพาสป่ามาถึงอาศรมพระฤๅษี
ตรงกับคืนวันเพ็ญที่มัทนากลายร่างเป็ นมนุ ษย ์ และไดพ
้ บกับทา้ วชั ยเสนและเกิด
ความรักตอ่ กัน พระฤๅษี จึงจัดพิธีอภิเษกให้ ชั ยเสนไดพ
้ านางกลับนครหัสดิน ทา้ วชั ย
เสนหลงใหลรักใคร่นางมัทนามาก ทาํ ให้นางจัณฑีมเหสี หึงหวง และอิจฉาริ ษยา จึง
้ ั บนายทหารเอก นางมัทนาจึงถูกสั ง่
ทาํ อุบายให้ทา้ วชั ยเสนเขา้ ใจผิดวา่ มัทนาเป็ นชูก
ประหารชีวต
ิ แตเ่ พชฌฆาตสงสารจึงปลอ่ ยนางไป”

บทเจรจาหรื อราํ พึงราํ พัน

ใน บทละครพูดคาํ ฉันทเ์ รื่ องมัทนะพาธา จะเห็นไดว้ า่ มีตัวละครที่หลากลาย


้ าํ การเรี ยบเรี ยงและการใชโ้ วหารตา่ งๆ ที่ผูแ
และ มีการใชค ้ ตง่ สามารถแตง่ ออกมาไดด
้ ี
้ ่ อง สามารถแสดงลักษนะนิ สัยของตัวละครไดอ
ในแบบบทพูดที่มีการเจรจาทังเรื ้ ยา่ ง
เป็ นเอกลักษณ์ ยกตัวอยา่ งในตอนที่มัทนาตังท
้ า่ จะกลับและไดม
้ ีปากเสยี งกับสุเทษณ์
เทพบุตร
้ า่ จะไป, แตส่ ุเทษณ์จับขอ้ มือไวด้ ว้ ยกิริยาออกจะโกรธ.)
(มัทนากราบแลว้ ตังท
สุเทษณ์. ชา้ กอ่ น! หลอ่ นจะไปไหน?
มัทนา. หมอ่ มฉันอยูไ่ ป ก็เครื่ องแตท
่ รงราํ าคาญ
่ งคราญ วา่ พี่ราํ คาญ?
สุเทษณ์. ใครหนอบอกแกน
มัทนา. หมอ่ มฉันสั งเกตเองเห็น.
่ ! อันตัวพี่เป็ นคนโงฤ่ ๅบา้ ฉันใด?
สุเทษณ์. เออ! หลอ่ นนี้ มาลอ้ เลน
มัทนา. หมอ่ มฉันเคารพเทพไท ทูลอยา่ งจริ งใจ
ก็ บ มิทรงเชื่อเลย,
กลับทรงดาํ รัสเฉลย ชวนชั กชมเชย
และชิดสนิ ทเสนหา.
พระองคท
์ รงเป็ นเทวา ธิบดีปรา-
กฏเกียรติยศเกรี ยงไกร,
มีสาวสุรางคน
์ างใน มากมวลแลว้ ไซร้
ในพระพิมานมณี ,
จะโปรดปรานขา้ บาทนี้ สั กกี่ราตรี ?
และเมื่อพระเบื่อขา้ น้อย,
จะมิตอ้ งนั่งละห้อย นอนโศกเศร้าสร้อย
ชะเงอ้ ชะแงแ้ ลหรื อ?
้ ือ สั จจาหนึ่ งคือ
หมอ่ มฉันนี้ เป็ นผูถ
วา่ แมม
้ ิรักจริ งใจ,
ถึงแมจ้ ะเป็ นชายใด ขอสมพาสไซร้
ก็จะมิยอมพร้อมจิต.
ดังนี้ ขอเทพเรื องฤทธิ์ โปรดขา้ น้อยนิ ด,
ขา้ บาทขอบังคมลา.
จากตัวอยา่ งดังกลา่ วเป็ นบทพูดระหวา่ งมัทนากับสุเทศน์ มีการใชเ้ ครื่ องหมาย
เพื่อแสดงให้เห็นถึงอารมณ์และการกระทาํ ของตัวละคร และมีการใชค
้ าํ ตา่ งๆเพื่อ
ึ ของตัวละครให้งา่ ยตอ่ การเขา้ ใจของผูอ
ขยายความรู้ สก ้ า่ น และจากการเขียนไดแ
้ สดง
ถึงนิ สัยของตัวละคร ไมว่ า่ จะเป็ น สุเทศน์ท่ีเป็ นคนหมกมุน
่ ในตัณหาราคะ เจา้ อารมณ์
้ เป็ นคนซ่ือตรง ไมม
เอาแตใ่ จตนเอง ในสว่ นของมัทนานัน ่ เ์ หลี่ยม ไมพ
่ ีเลห ่ ูดโป้ปด
ปากกับใจตรงกัน ไมแ
่ สแสร้ง

่ เรื่ อง
แกน

ในการดาํ เนิ นเรื่ องไดใ้ ชก ิ ยาธรมายาวินเป็ นผูเ้ ลา่ อดีตชาติของสุ


้ ลวิธีให้วท
เทษณ์เทพบุตรและดาํ เนิ นเรื่ องโดยแสดงให้เห็นลักษณะของสุเทษณ์เทพบุตร ผูเ้ ป็ น
ใหญ่ มีบุญ มีอาํ นาจวาสนา และมีบริ วารพรั่งพร้อม ควรที่จะเสวยสุขในวิมานของ
ตนเอง แตก
่ ลับเอาแตใ่ จตน หมกมุน ่ างเทพธิดาที่ประดับบารมี
่ ในตัณหาราคะ แคน
อยูก
่ ม ้ เหลือ จะเสวยสุขอยา่ งไรก็ได้ แตก
็ ากมายลน ่ ไ็ มพ
่ อใจ อยากไดอ
้ ะไร ก็จะตอ
้ ง
เอาให้ได้ เมื่อไมไ่ ดด
้ ว้ ยเลห ์ เ็ อาดว้ ยกล ไมไ่ ดด
่ ก ้ ว้ ยมนตร์ตอ
้ งเอาดว้ ยคาถา ผูห
้ ญิง
จึงเป็ นฝ่ายเสยี เปรี ยบ เพราะไมม ่ ้ อยที่หญิงหลงไปติดใน
่ ีอะไรจะไปตอ่ สูแ้ ละก็มีไมน
วิมานของ คนร่าํ รวย การดาํ เนิ นเรื่ องกาํ หนดให้สุเทษณ์สาปนางมัทนาให้เป็ นดอก
กุหลาบ ตอ่ เมื่อถึงคืนเพ็ญ จะเป็ นมนุ ษยห
์ นึ่ งวันกับหนึ่ งคืน หากมีความรักเมื่อใดจึง
จะเป็ นมนุ ษย ์ หากนางมีทุกขเ์ พราะรัก ก็ให้กลา่ วออ
้ นวอนสุเทษณ์จึงจะยกโทษให้ก็
เพราะสุเทษณ์หวังวา่ เมื่อนางตอ ่ มหวังก็คงจะเห็นใจคนที่
้ งระทมเพราะ ความรักไมส
่ ุเทษณ์ คาดการณ์ผิดเพราะเรื่ องจบ
หลงรักตนและคงจะยินดีรับรักสุเทษณ์บา้ ง แตส
้ นวอนขอให้รักของนางสมหวัง สุเทษณ์ขอให้นางรับรักก็ถูก
ลงดว้ ยนางมัทนาออ
้ และสาปนางให้เป็ นดอกกุหลาบชั ่วนิ รันดร์
ปฏิเสธอีก จึงโกรธแคน
์ ทละครพูดคาํ ฉันท์ เรื่ อง มัทนะพาธา
วัตถุประสงคใ์ นการพระราชนิ พนธบ
พระองคท
์ รง

ตังพระท ื อา่ นกวีนิพนธเ์ พื่อความสนุ กสนานในดา้ นเนื้ อหาและ
ั ยให้เป็ นหนังสอ
สะทอ้ นให้เห็นความเชื่อของสั งคม สะทอ ้ นให้เห็นธรรมชาติของมนุ ษย ์ โดยแสดงให้
เห็นวา่ การมีรักเป็ นทุกขอ์ ยา่ งยิง่ ตรงตามพุทธวจนะที่วา่ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ ดัง
ความรักของตัวละคร และ สะทอ ้ คิดเพื่อนําไปใชใ้ นการดาํ าเนิ นชีวต
้ นขอ ิ พร้อมกับยัง
สอนใจโดยให้เห็นถึงอานุ ภาพแหง่ ความรักซ่ึงไมไ่ ดใ้ ห้แตค ้ แต่
่ วามสุขสมหวังเทา่ นัน
ความรักสามารถสร้างความทุกขค ้ ่ีตกอยูใ่ นห้วงแหง่ ความรักที่ไมฟ
์ วามเจ็บปวด ผูท ่ั ง
คาํ เตือนหรื อคาํ ทว้ งติงใดๆ จะตอ
้ งประสบความเจ็บปวด ความทุกขเ์ สมอ ดังคาํ ของ
ิ ที่กลา่ ววา่
พระฤๅษี กาละทรรศน
ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน
ไมย่ น
ิ และไมย่ ล อุปสั คคะใดใด
ความรักเหมือนโคถึก กาํ ลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป บย่ อมอยู ่ ณ ที่ขัง
ถึงหากจะผูกไว้ ก็ดึงไปดว้ ยกาํ ลัง
ยิง่ ห้ามก็ยงิ่ คลั่ง บห
่ วนคิดถึงเจ็บกาย
การอา่ นและพิจารณาการใชภ
้ าษาในวรรณคดีและวรรณกรรม

การสรรคาํ

้ าํ ที่ส่อ
การสรรคาํ คือการเลือกใชค ื ถึงความคิด ความเขา้ ใจ เเละความรู้ สก
ึ ไดอ
้ ยา่ ง
ชั ดเจน โดยคาํ นึ งถึงเสยี ง โวหาร เเละรู ปเเบบของคาํ ประพันธร์ วมไปถึงลักษณะ
ฐานะ ของตัวละครอีกดว้ ย

้ ั งนี้
แบง่ ออกไดด

การเลือกใชค
้ าํ ให้เหมาะสมกับประเภทของคาํ ประพันธ์
พระราชนิ พนธเ์ รื่ องมัทนะพาธา เป็ นบทละครพูดคาํ ฉันท์ พระบาทสมเด็จ
พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยูห
่ ัว
ทรงมีความเชี่ยวชาญดา้ นฉันทลักษณ์อยา่ งยิง่ พระองคส์ ามารถใชค
้ าํ ที่กอ
่ ให้ผูอ
้ า่ น
้ ยา่ งดี อีกทังย
เกิดอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครไดอ ้ ั งสามารถเเตง่ บทละครพูดไดอ
้ ยา่ ง
่ บทเกี้ยวพาราณาสขี องสุเทณ์กับนางมัทนา
คมคาย เชน
ความวา่
สุเทษณ์. พี่รักและหวังวธุ จะรัก และ บ ทอด บ ทิ้งไป.
มัทนา. พระรักสมัคร ณ พระหทัย ฤ จะทอดจะทิ้งเสยี
?
สุเทษณ์. ความรักละเหี่ยอุระระทด เพราะมิอาจจะคลอเคลีย.
มัทนา. ความรักระทดอุระละเหี่ย ฤ จะหายเพราะ
เคลียคลอ?
์ ๔ ซ่ึงมักใชบ
บทดังกลา่ วถูกแตง่ ดว้ ย วสั นตดิลกฉันท๑ ้ ทเกี้ยวพาราสี ชมความ
งามธรรมชาติบา้ นเมือง สตรี ชมคุณงามความดี หรื อบทแสดงความโศกเศร้า
กวีไดม ้ าํ ที่ส่อ
้ ีการสลับตาํ แหน่งคาํ เพื่อให้เกิดความไพเราะ รวมถึงการใชค ื ถึง
อารมณ์ไดอ
้ ยา่ งชั ดเจน

การเลือกคาํ ให้เหมาะแกเ่ นื้ อเรื่ องและฐานะของบุคคลในเรื่ อง


กวีไดม ้ าํ ที่เหมาะสมเเกเ่ หตุการณ์เเละศั กดิข์ องบุคคลในบทละคร
้ ีการเลือกใชค
ไดอ
้ ยา่ งสละสลวย รวมถึงไดม
้ ีการใชศ ์ ่ีมาจากภาษาอื่นไมว่ า่ จะเป็ น
้ ั พทส์ ูง หรื อศั พทท
ภาษาบาลีเเละภาษาสั นสกฤตเพื่อให้ลงตัวกับบทพูดของตัวละครอีกดว้ ย ดว้ ยภาษา
เหลา่ นี้ จะทาํ ให้บทกวีมีความสงา่ งาม มีอาํ นาจบารมีมากขึ้น ดว้ ยเหตุน้ี สมเด็จ
พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยูห ้ ําภาษาเหลา่ นี้ มาใชจ้ าํ นวนมาก ตัวอยา่ งเชน
่ ั วจึงไดน ่ บทบูชา
์ ือพระพิฆเณศวร เทพเจาแหงศลิ ปะวิทยาการ และพระนารายณ์
เทพเจา้ 2 องคค
้ รงอิทธิฤทธิ์ ซ่ึงปรากฎอยูใ่ นตอนมายาวินทาํ พิธีเรี ยกมัทนาให้มาพบสุ
เทพเจา้ ผูท
เทษณ์
้ ีการนําคาํ จากภาษาอื่นมาใชห
บทนี้ ไดม ้ ลายคาํ ไดเ้ เก่ ภาษาบาลีเเละภาษาเขมร
เพื่อให้เขา้ กับสถานการณ์
ความวา่
ฺ ุลลฺ วิกฺกิฬิต,
[สั ทท
๑๙.]
มายาวิน. โอมบังคมพระคเณศะเทวะศวิ ะบุตร์ ้ิ สุด
ฆา่ พิฆฺนะสน
ประลัย;
อา้ งามกายะพระพรายประหนึ่ งระวิอุทัย, กอ้ งโกญจะ
นาทให้ สะหรรษ์;
เป็ นเจา้ สป ิ ธิ์ววิ ธิ ะวรรณ
ิ ปะประสท วิทยฺ าวิเศษสรร-พะ
สอน;
ยามขา้ กอบกรณี ยพ
์ ิธีมะยะบวร, จงโปรดประทาน
พร ประสาท,
โอมนารายะณะเทพเถลิงอุระคะอาสน์, ขี่ขุนสุบรรณ์ราช
จรัล;
ถือศั งขจ์ ั กระคะทาธรณิ ผัน ปราบยักษะ
กุมภัณฑ์ มะลาย;
เชี่ยวชาญโยคะวิธีพระพีระอภิปราย ้
ดลกิจจะทังหลาย
สะมิทธิ์.
ยามขา้ กอบกรณี ยพ
์ ิธีมะยะวิจิตร์ จงสมมะโน
ิ -ธิเทอญ.
สท

้ าํ โดยคาํ นึ งถึงเสยี ง
การใชค
่ เสยี งสั มพัส
เลน
อีกหนึ่ งปัจจัยที่จะเสริ มให้บทกวีมีความสละสลวยเพิม
่ มากขึ้นนั่นคือการ เลน

้ งจองและการหลากคาํ การหลากคาํ ในที่น้ี หมายถึงการใชค
เสยี งสั มพัสคลอ ้ าํ ที่มีความ
หมายเหมือนกันมาทดแทนเพื่อไมห
่ ้เกิดความซาํ ้ ซาก โดยในบทละครพูด มัทนะพาธา
ไดม ้ าํ โดยคาํ นึ งถึงเสยี งไดอ
้ ีการใชค ้ ยา่ งชั ดเจนในหลายบทความ ตัวอยา่ งเชน
่ ตอน
ที่มายาวินร่ายมนต์
ความวา่
อา้ สองเทเวศร์ โปรดเกศขา้ บาท ทรงฟังซ่ึงวาท
ที่กราบทูลเชิญ,
โปรดชว่ ยดลใจ ทรามวัยให้เพลิน จนลืมขวยเขิน
แลว้ รี บเร็วมา.
ดว้ ยเดชเทพไท้ ทรามวัยรู ปงาม จงไดท
้ ราบความ
ขา้ ขอนี้ นา,
แมค ิ ขัดขืน
้ ด ฝื นมนตร์คาถา ขอให้นิทรา เขา้ สงึ
ถึงใจ
มาเถิดนางมา อยา่ ชา้ เชื่องชอ้ ย ตูขา้ นี้ คอย
ตอ้ นรับทรามวัย,
อา้ นางโศภา อยา่ ชา้ มาไว ตูขา้ สั ง่ ให้
โฉมตรู รีบจร.
โฉมยงอยา่ ขัด รี บรัดมาเถิด ขืนขัดคงเกิด
ในทรวงเร่าร้อน,
มาเร็วบัดนี้ รี บลีลาจร มาเร็วบังอร ขา้ เรี ยกนาง
มา.

้ มีการใชเ้ สยี งสั มพัสหลายคาํ เชน


ในบทขา้ งตน ่
สั มพัสสระ ไดเ้ เก่ บาท-วาท เพลิน-เขิน ขืน-ฝื น ขัด-
รัด
สั มพัสอักษร ไดเ้ เก่ ขวย-เขิน รี บ-เร็ว ดว้ ย-เดช ชา้ -
เชื่อง-ชอ
้ ย
้ ั งมีการหลากคาํ เชน
อีกทังย ้ ้ ลว้ น
่ ทรามวัย โฉมตรู โฉมยง บังอร คาํ ทังหมดนี
เเตห ้
้ ญิงทังหมด
่ มายถึงผูห

การเรี ยบเรี ยงคาํ

้ าํ ที่เหมาะสมเเลว้ การที่จะทาํ ให้บทกวีน่าอา่ นจะตอ


นอกจากการใชค ้ งนําคาํ
้ มาเรี ยบเรี ยงให้เหมาะสม โดยเฉพาะบทกวีท่ีเป็ นร้อยกรอง จะตอ
เหลา่ นัน ้ งให้ได้
จังหวะและคาํ นึ งถึงกฎเกณฑด
์ า้ นฉันทลักษณ์
บทละครพูดเรื่ อง มัทนะพาธาไดถ
้ ูกประพันธข์ ้ึนโดยใชร้ ู ปเเบบการเขียน ๒ รู ป
เเบบ ไดเ้ เก่ กาพย ์ เเละ ฉันท์
์ ่ีกาํ หนด คณะ พยางคแ์ ละสั มพัส แตไ่ มน
กาพย ์ คือ คาํ ประพันธท ่ ิ ยม ครุ หลุ ใน
์ ้ี ไดม
บทประพันธน ้ ีการนํากาพยม
์ าใช้ ๓ ชนิ ด ไดแ
้ ก่ กาพยย์ านี ๑๑ กาพยฉ
์ บัง ๑๖
และกาพยส์ ุรางคนางค์ ๒๘
ตัวอยา่ งกาพย ์ - กาพยส์ ุรางคนางค์ ๒๘
รู ปจาก
https://teacherpisit.wordpress.com/2011/12/19/%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%
B8%97%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C-%
E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%
B8%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99/

้ ยคาํ ที่กวีไดร้ ้ อยกรองขึ้น ไห้เกิดความไพเราะ ซาบซ้ึง โดย


ฉันท์ คือ ลักษณะถอ
์ ้ี ไทยไดถ
กาํ หนดคณะ ครุ ลหุ และสั มผัสไว้ เป็ นมาตรฐาน ฉันทน ้ า่ ยแบบมาจาก
อินเดีย ของเดิมแตง่ เป็ นภาษาบาลี และสั นสกฤต โดยเฉพาะในภาษาบาลี ในบทพูด
เรื่ องมัทนะพาธาไดม ้ ั นท์ ๒๑ ชนิ ด เชน
้ ีการใชฉ ่ วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ อินทรวิเชียรฉันท์
๑๑ อุปชาติฉันท์ ๑๑ ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ อินทวงศฉ
์ ั นท์ ๑๒ วสั นตดิลกฉันท์ ๑๔
เป็ นตน

ตัวอยา่ งฉันท์ - วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
รู ปจาก
https://sites.google.com/site/learncomputerdooks/xinthrwicheiyr-c
hanth

การใชโ้ วหาร

้ ยคาํ ที่ใชใ้ นการส่อ


โวหาร หมายถึง ถอ ื สารที่เรี ยบเรี ยงเป็ นอยา่ งดี มีวธิ ีการ มีชันเชิ
้ ง
และมีศลิ ปะ เพื่อส่อ
ื ให้ผูร้ ั บสารรับสารไดอ ่ แจง้ ชั ดเจนและลึกซ้ึง รับสาร
้ ยา่ งแจม
ไดต
้ ามวัตถุประสงคข์ องผูส
้ ง่ สาร

โวหารจาํ เเนกออกเป็ น ๖ ประเภทหลักๆ ตามลักษณะเนื้ อหาเเละประเภทของ


ขอ
้ ความตา่ งๆ ไดเ้ เก่ อุปมาโวหาร บรรยายโวหาร อธิบายโวหาร พรรณาโวหารสาธก
โวหาร เทศนาโวหาร
บทประพันธ์ เรื่ อง มัทนะพาธา ไดม
้ ีการใชโ้ วหารมากมาย ที่เห็นไดช้ ั ดเจนคือการใช้
อุปมาโวหาร
อุปมาโวหาร
อุปมาโวหาร คือการโวหารกลา่ วเปรี ยบเทียบ เพื่อให้ผูอ
้ า่ นไดเ้ ห็นภาพชั ดเจน
ยิง่ ขึ้น อาจมีการใชค ่ ดุจ ดัง ประหนึ่ ง เเตห
้ าํ เปรี ยบเทียบเชน ่ ลายครัง้ อาจเปรี ยบเทียบ
้ าํ เหลา่ นี้ เลยก็ได้
โดยไมใ่ ชค
ผูแ ้ ุปมาโวหารในการกลา่ วชมความงามของมัทนา เป็ นการให้ภาพความ
้ ตง่ ใชอ
งามอยา่ งไมม ้ วพรรณที่ผุดผอ่ งดั่งทองทา แกม
่ ีท่ีติ ทังผิ ้ ผม นัยน์ตา ทรวดทรงองค์
เอว ทาํ ให้ผูอ ่ ชั ดขึ้น
้ า่ นมองเห็นภาพความงามของมัทนาเดน

ดังบทประพันธ์
งามผิวประไพผอ่ ง กลทาบศุภาสุพรรณ,
งามแกม
้ แฉลม
้ ฉัน พระอรุ ณแอร่มละลาน.
งามเกศะดาํ ขาํ กลนํา้ ณ ทอ้ งละหาน,
งามเนตร์พินิศปาน สุมณี มะโนหะรา;
งามทรวงสลา้ งสอง วรถันสุมนสุมา-
ลีเลิดประเสริ ฐกวา่ วรุ บลสะโรชะมาศ;
งามเอวอนงคร์ าว สุระศลิ ปิ ชาญฉลาด
เกลากลึงประหนึ่ งวาด วรรู ปพิไลยพะวง;
งามกรประหนึ่ งงวง สุระคชสุเรนทะทรง,
นวยนาฏวิลาศวง ดุจะราํ ระบาํ ระเบง;
โวหารภาพพจน์ เป็ นการใชถ ้ ยคาํ สาํ นวนโวหาร ที่ทาํ ให้ผูร้ ั บสารเกิดมโนภาพ เกิด
้ อ
ึ ร่วมตรงตามความปรารถนาของผูส
จินตนาการ ถา่ ยทอดอารมณ์ ทาํ ให้มีความรู้ สก ้ ง่
สาร
ในบทประพันธม
์ ีการใชภ
้ าพพจน์หลายประเภท ตัวอยา่ งเชน

อุปลักษณ์ หรื อการเปรี ยบเทียบดว้ ยการกลา่ ววา่ สงิ่ หนึ่ งเป็ นอีกสงิ่ หนึ่ งเป็ นการ
เปรี ยบเทียบที่ไมก
่ ลา่ วตรง ๆ ใชก
้ ารกลา่ วเป็ นนัยให้เขา้ ใจเอง ตัวอยา่ งเชน

อนงคส์ ุปรี ยามะทะนาสเิ ปรี ยบชี-


วะแหง่ ดนู น้ี ฤก็สน
้ิ ชีวาลัย

้ เป็ นบทพูดของทา้ วชั ยเสนซ่ึงเปรี ยบมัทนาเป็ นชีวต


บทความขา้ งตน ิ ของ
พระองคเ์ อง

อติพจน์ หรื อ การกลา่ วเกินจริ ง ซ่ึงเป็ นความรู้ สก ้ ตง่ ที่


ึ หรื อความคิดของผูแ
้ งการที่จะเน้นยาํ ้ ความหมาย ให้ผูอ
ตอ ึ วา่ หนัก และ จริ งจัง เน้นความรู้ สก
้ า่ นรู้ สก ึ ให้
เดน
่ ชั ด และ น่าสนใจ
ตัวอยา่ งเชน

“ชีพอยูก
่ เ็ หมือนตาย เพราะมิวายระทวยระทม
ทุกขยากและกรากกรม อุระชาํ ้ ระกาํ ทวี.”
การอา่ นและพิจารณาประโยชน์หรื อคุณคา่ ในวรรณคดีและวรรณกรรม

คุณคา่ ดา้ นอารมณ์

ในโครงเรื่ องมีการรวบรวมหลายอารมณ์อยา่ งความโกรธ ความหลง ความรัก


ความเศร้า ความแคน ้
ซ่ึงในเรื่ องนี้ ไดม
้ ีการลาํ เลียงเป็ นบทพูดจากแตล่ ะบทละคร อารมณ์ตา่ งๆที่ส่อ
ื อกมากก็
จะมาจากการเรี ยบเรี ยงคาํ พูดของตัวละครทาํ ให้พูดอา่ นคลอ
้ ยตามได้ อยา่ งเชน
่ ความ
โกรธของสุเทษณ์ท่ีบรรยายออกมา ความโกรธที่เกิดขึ้นโดยความรักที่มีตอ่ มัทนา แต่
มัทนาไมไ่ ดม
้ ีความรักตอ่ สุเทษณ์ และเกิดความเจ็บปวดตอ่ มา
ขณะที่อา่ นตามนอกจากความโกรธที่ถูกเผยออกมา แตจ่ ะมีความเศร้าซอ
้ นอยู ่
นอกจากนี้ ตอนที่มัทนาถูกกลายร่างเป็ นดอกกุหลาบ มันแสดงให้เห็นถึงความเจ็บ
้ เนื้ อเรื่ อง เรื่ องนี้ มีการเรี ยงเรี ยบคาํ พูด ถอ
ปวดของนางมัทนา เพราะฉะนัน ้ ยคาํ และ
ภาษาอยา่ งละเอียดเพื่อทาํ ให้พูดอา่ น คลอ
้ ยตามและเขา้ ถึงอารมณ์ของตัวละคร
ความวา่
มะทะนาชะเจา้ เลห
่ ์ ชิชิชา่ งจาํ นรรจา,
ก็และเจา้ มิเต็มจิต จะสดับดนู ชวน,
ผิวะให้อนงคน
์ วล ชนะหลอ่ นทนงใจ.
บม
่ ิยอมจะร่วมรัก และสมัครสมรไซร้,
ก็ดะนู จะยอมให้ วนิ ดานวาศสวรรค,์ ....
จากบทขา้ งบนจะแสดงให้เห็นถึงการที่ผูแ
้ ตง่ ไดน
้ ําคาํ มาสร้อยให้เป็ น
กลอนที่ส่อ
ื ความหมายและอารมณ์ไปถึงพูดอา่ น ทาํ ให้ผูอ
้ า่ นสนใจแลเเขา้ ถึงบทบาท
ของตัวแสดงตา่ งๆ
คุณคา่ ดา้ นคุณธรรม

่ นคาํ สอนลงไป ซ่ึงวรรณคดีนอกจากจะให้


ในการแตง่ กลอนจะมักมีการซอ
ความน่าสนใจ แตจ่ ะมีการเชื่อมคุณธรรมตา่ งๆลงไป อยา่ งเชน ่ คาํ สอนทางพระพุทธ
ศาสนา ซ่ึงเรื่ อง มัทะพาธานัน
้ เน้นเรื่ องความรัก ซ่ึงในหลักของพระพุทธเจา้ ไดม
้ ีการ
กลา่ วถึงที่ “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข”์ และความรักที่เกิดขึ้นมักจะตอ
้ งเกิดเพราะสองฝ่าย
มีความเห็นตรงเดียวกัน
้ ในเนื้ อเรื่ องเมื่อสุเทษ์ไดห
เพราะฉะนัน ้ ลงรักกับนางมัทนา ความรักที่สุเทษ์มี
ให้นางมัทนามันอันยิง่ ใหญ่ จนทาํ ให้สุเทษ์ขาดสติเพราะมีความตอ ้ งการที่จะอยากได้
นางมัทนา แตน่ างมัทนากลับไมร่ ั บรัก ซ่ึงทาํ ให้เกิดความทุกขต
์ อ่ สุเทษ์
ตอ่ มาในเรื่ องของความรัก ความรักมักเกิดขึ้นเพราะความเขา้ ใจและเห็นใจของ

ทังสองฝ ้ จ่ ะตอ
่ าย ทังคู ึ ที่เหมือนกัน ชอบกัน รักกัน มิฉะนัน
้ งมีความรู้ สก ้ จะเกิดความ
ทุกขท
์ รมานในชีวต
ิ ขอ ้ งตอนที่สุเทษ์พยายามทาํ ทุกอยา่ งเพื่อจะได้
้ ดังกลา่ วจะเกี่ยวขอ
นางมัทนา แตส ้ ่ีมีความรู้ หลงอยูฝ
่ ุเทษ์คือผูท ่ ่ ายเดียว แตใ่ นมุมมองของนางมัทนาคือ
้ ความรักที่เกิดขึ้น มาจากฝ่ายใด
่ ีความชอบหรื อความหลงในตัวสุเทษ์เพราะฉะนัน
ไมม
ฝ่ายหนึ่ งเทา่ นัน

คุณคา่ ดา้ นสั งคม

ในดา้ นของสั งคม จากบทกลอนทาํ ให้เห็นถึงคา่ นิ ยมในเรื่ องของความรักและ


ความครอบครอง ซ่ึงในสั งคมความรักระหวา่ งผูห
้ ญิงกับผูช้ าย ความรักตระนักโดย
ความซ่ือสั ตยแ์ ละยึดมั่นความรักเดียวใจเดียว
ตัวอยา่ งเชน

หมอ่ มฉันนี้ เปนผูถ
้ ือ สั จจาหนึ่ งคือ
วา่ แมม
้ ิรักจริ งใจ ถึงแมจ้ ะเปนชายใด
ขอสมพาศไซร้ ก็จะมิยอมพร้อมจิต

้ ่ีมีโฉมงดงามดั่งนางฟ้า
จากคาํ กลอนดังกลา่ วจะสั งเกตไดว้ า่ นางมัทนาเป็ นผูท
้ เมื่อไหร่ท่ีนางมัทนาไดก
เพราะฉะนัน ้ ลายคนจากกุหลาบเป็ นสาวสวย มัทนาจะตอ
้ ง
่ วามรักนัน
เจอกับความรัก แตค ้ กลายเป็ นความทุกข์ ถึงแมน
้ างมัทนาปฏิเสธสุเทษ์มา
นานแสนนาน เมื่อสุเทษ์เคยกลา่ ววา่ ถา้ นางมัทนามาออ
้ นวอนขอความชว่ ยเหลือเมื่อ
้ ความรักที่สุเทษ์แสดงให้เห็นวา่
้ รองรักอีก เพราะฉะนัน
ไหร่ สุเทษ์จะชว่ ยให้นางไดค
้ รักเดียวใจเดียว รักนางมัทนาคนเดียวถึงแมน
ตนนัน ่ ุเทษ์
้ างมัทนาจะไมเ่ คยสนใจแตส
ก็ไมค ิ ที่จะเปลี่ยนและกลับใจ
่ ด

บรรณานุ กรม

การเรี ยบเรี ยงคาํ . การเรี ยบเรี ยงคาํ [ออนไลน์]. เขา้ ถึงเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ.
๒๕๖๓. สบ ื คน
้ ไดจ้ าก
http://www.digitalschool.club/digitalschool/thai2_4_1/thai2_1
1/page2.php
ชาวรี ย ์ เกตุปราชญ.์ นางมัทนา [ออนไลน์]. เขา้ ถึงเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓.
ื คน
สบ ้ ไดจ้ าก
https://sites.google.com/site/girlsinwannakadee/girls-in-literat
ure/nang-mathna
ภาสกร เกิดออ่ นและคนอื่นๆ. หนังสอ
ื เรี ยน รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย วรรณคดีและ
ึ ษาปี ที่ ๕. บริ ษัท อักษรเจริ ญทัศน์ อจท. จาํ กัด: พิมพ์
้ ั ธยมศก
วรรณกรรมชั นม
ที่ บริ ษัท ไทยร่มเกลา้ จาํ กัด. ๑๗๒ หน้า.
ภาษาไทยเพื่อการส่อ
ื สาร. ความหมายของโวหาร [ออนไลน์]. เขา้ ถึงเมื่อวันที่ ๖
ื คน
มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓. สบ ้ ไดจ้ าก
http://www.ipesp.ac.th/learning/thai/chapter5-10.html
โรงเรี ยนโนนเจริ ญพิยาคม. มันทนะพาธา [ออนไลน์]. เขา้ ถึงเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน
พ.ศ. ๒๕๖๓. สบ ื คน
้ ไดจ้ าก
https://sites.google.com/site/learnthaibykrugikk/mathna-phat
ha
วิทยา ผิวงาม. กาพย ์ [ออนไลน์]. เขา้ ถึงเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓. สบ
ื คน้ ได้
จาก
https://www.baanjomyut.com/library_2/thai_poetry/04.html
วิทยา ผิวงาม. ฉันท์ [ออนไลน์]. เขา้ ถึงเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓. สบ ื คน้ ได้
จาก
https://www.baanjomyut.com/library_2/thai_poetry/03.html

You might also like