Professional Documents
Culture Documents
CC 1 e 21 C 1 e 07 A 48 FD 9599
CC 1 e 21 C 1 e 07 A 48 FD 9599
CC 1 e 21 C 1 e 07 A 48 FD 9599
โดย
เสนอ
อ.ปทวรรณ พันชัย
โรงเรียนสาธิตนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล
รายงานนีเปนส่วนหนึงของกิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยใช้โครงงานเปนฐาน
รายงานวิชาภาษาไทยและวัฒนธรรม ระดับชันมัธยมศึกษาปที 5
คํานํา
หากทางคณะผูจ
้ ัดทําได้ทําสิงผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ทีนี และขอน้อมรับทุก คําแนะนํา
เพือไปปรับปรุง ทังนีรายงานเล่มนีสําเร็จได้ด้วยความช่วยเหลือของ อาจารย์ปทวรรณ พันชัย ทางคณะผูจ
้ ัดทํา
จึงขอขอบพระคุณอาจารย์ทีช่วยเปนผูใ้ ห้คําแนะนําและให้ขอ
้ เสนอแนะ เพือให้ คณะผูจ
้ ัดทํานํากลับ ไปแก้ไข
รายงานเล่มนีได้อย่างสําเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
คณะผูจ
้ ัดทํา
11/5/63
1
สารบัญ
สารบัญ หน้า
1.1 เนือเรือง 3
1.2 โครงเรือง 3
1.4 ฉากท้องเรือง 6
1.6 แก่นเรือง 8
2. การอ่านและพิจารณาการใช้ภาษาในวรรณคดีและวรรณกรรม 9-12
3. การอ่านและพิจารณาประโยชน์หรือคุณค่าในวรรณคดีและวรรณกรรม 13-16
4. บรรณานุกรม 16
2
1. การอ่านและพิจารณาเนือหาและกลวิธใี นวรรณคดีและวรรณกรรม
1.1 เนือเรือง
1.2 โครงเรือง
วันหนึง ในขณะทีภรรยาของครอบครัวหนึงไม่อยูบ
่ า้ น สามีก็ได้ยกลูกให้ แก่ผอ
ู้ ืนไป เมือภรรยา
กลับมาไม่พบลูกจึงรูส
้ ก
ึ เสียใจมาก ท้ายทีสุดสามี จึงบอกความจริงและเหตุผลทีทําลงไป ภรรยาได้ฟง
เหตุผลจึงรูส
้ ก
ึ เห็น ด้วยและยินดีในสิงทีสามีได้ทํา
1.3 ตัวละคร
1.3.1 พระเวสสันดร
เปนผูม
้ ค
ี ณ
ุ ธรรมสูงเปนอย่างมากและกล้าทีจะยอมสละหลายสิงอย่างเพือทําทานให้ผอ
ู้ ืน ซึงยากที
มนุษย์ทัวไป จะทําได้ ยกตัวอย่างเช่นในบทกลอนทีทรงได้ทําบุตรทาน หรือการถวายลูกทีรักมาก ให้แก่ชูชก ดัง
กลอนทีว่า
...มัทรีเอ่ย อันอริยสัตบุรุษ
3
ทิสว
ฺ า ยาจกมาคเต ถ้าเห็นยาจกเข้ามาใกล้
ไหว้วอนขอไม่ยอ
่ ท้อในทางทาน
จนแต่ชนลู
ั กรักยอดสงสารพียังยกให้เปนทานได้ อันสองกุมารนี
ไซร้เปนแต่ทานพาหิรกะภายนอกไม่อิมหนํา …
“...พีจะเล่าให้เจ้าฟงก็สด
ุ ใจ
ด้วยเจ้ามาแต่ปาไกลยังเหนือยนัก
พีเห็นว่าความร้อนความรักจะรุกอก
ด้วยสองดรุณทารกเปนเพือนไร้
เจ้ามัทรีเอ่ย จงผ่องใสอย่าสอดแคล้ว
อันสองพระลูกแก้วไปไกลเนตร…”
1.3.1 นางมัทรี
“...ทังลูกรักดังแก้วตาก็หายไป
อกเอ๋ยจะอยูไ่ ปไยให้ทนเวทนา
อุปมาเสมือนหนึงพฤกษาลดาวัลย์
ย่อมจะอาสัญลงเพราะลูกเปนแท้เทียง…”
4
มีความอดทน ไม่ยอ
่ ท้อต่อความยากลําบาก และเปนภรรยาทีดี ตัวอย่างเช่น ทีนางเข้าปาเผือหาผลไม้
มาปรนิบต
ั ิสามีและลูก และแม้ว่าภายในปาจะมีหนาม หรืออุปสรรคต่างๆแต่นาง ก็ไม่ยอ
่ ท้อทีจะหาผลไม้ต่อไป
ดังกลอนทีว่า
“...อุตสาหะตระตรากตระตรําเตร็ดเตร่หาผลาผลไม้
ถึงทีไหนจะรกเรียวก็ซอกซอนอุตส่าห์เทียวไม่ถอยหลัง
จนเนือหนังข่วนขาดเปนริวรอย
โลหิตไหลย้อยทุกหย่อมหนาม
อารามจะใคร่ได้ผลาผลไม้มาปฏิบต
ั ิลก
ู บํารุงผัว…”
“...พระพุทธเจ้าข้าอันสองกุมารนี
เกล้ากระหม่อมฉานได้อุตส่าห์ถนอม
ย่อมพยาบาลบํารุงมา
ขออนุโมทนาด้วยปยบุตรทานบารมี
ขอให้นาพระหฤทัยพระองค์จงผ่องแผ้ว
อย่ามีมจ
ั ฉริยธรรมอกุศล อย่ามาปะปนในนาพระทัยของพระองค์เลย…”
5
1.4 ฉากท้องเรือง
ในเรืองเวสสันดรชาดก กัณฑ์มท
ั รี มีฉากท้องเรืองอยูใ่ นปาหิมพานต์ โดยฉากทีเห็นเปนฉากแรกคือฉากที
นางมัทรีเข้าไปเก็บผลไม้ในปาแล้วมีเทวบุตรแปลงกายมาเปนเสือทําให้การกลับอาศรมของนางล่าช้า และอีก
ฉากหนึงก็คือฉากทีนางมัทรีกลับมาทีศาลาแล้วไม่เจอลูก จึงเกิดความกระวันกระวายเลยตัดสินใจเข้าไปตามหา
ลูกทังสองของนาง
“...อนึงน้องเปนเอกองค์อัครบริจาริกากรแห่งพระเวสสันดรราช ษีอันจําจากพระบุรม
ี าอยูไ่ พร น้องนีก็ตังใจ
สุจริตติดตามมาด้วยกตเวทีอนึงพระสุรย
ิ ศรีก็ยาสนธยาสายัณห์แล้ว เปนเวลาพระลูกแก้วจะอยากนมกําหนด
เสวย พระพีเจ้าของน้องเอ๋ยทังสามรา ขอเชิญกลับไปยังรัตนคูหาห้องแก้ว แล้วจะได้เชยชมซึงลูกรักและเมีย
ขวัญอนึงน้องนีจะแบ่งปนผลไม้ให้สก
ั กึง…”
ฉากนีเปนฉากทีนางมัทรีเก็บผลไม้ในปากว่าจะเสร็จก็คาแล้ว แต่เจอเสือร้ายสามตัวมาขวางทางกลับ
อาศรม
“...ยังไม่วายนมพราหมณ์ยงขู
ิ ข ่ ม
่ เข่นเขียวคํารามตีต้อนให้ด่วนเดิน ตามปารกระหกระเหินหอบหิวแล้วไห้โหย มี
แต่เสียงเธอโอดโอยสะอืนร้องรําพันสังทุกเส้นหญ้า ก็หวันๆ วังเวงวิเวกปาพระหิมพานต์ เตสํ ลาลปตํสต
ุ ว
ฺ า ฝาย
ฝูงเทพทุกสถานพิมานไม้ไศลเกรินเนินแนวพนาวาส ได้สลับคําประกาศสองกุมารทรงพระกันแสงสังศาส์นจนสุด
เสียง…”
พระนางมัทรีรูส
้ ก
ึ เหตุประหลาดทีเกิดขึนในปาเหมือนเปนลางบอกเหตุ จึงหวันใจเปนห่วงลูกของตน
6
1.5 บทเจรจาหรือรําพึงรําพัน
“...น ทิสส
ฺ เร แต่ลก
ู รักทังคู่ไปอยูไ่ หนไม่เห็นเลย อยํ โส อสฺสโม โอพระอาศรมเจ้าเอ๋ยน่าอัศจรรย์ใจ แต่
ก่อนดูนสุ
ี กใสด้วยสีทองเสียงเนือนกนีราร้องสําราญรังเรียกคู่คข
ู ยับขัน ทังจักจันพรรณลองไนเรไรร้องอยู่
หริงๆ ระเรือยโรยโหยสําเนียงดังเสียงสังคีตขับประโคมไพร โอเหตุไฉนเหงาเงียบเมือยามนี ทังอาศรมก็
หมองศรีเสมือนหนึงว่าจะเศร้าโศก เออชะรอยว่าพระเจ้าลูกจะวิโยคพลัดพรากไปจากอกพระมารดาเสีย
จริงแล้วกระมังในครังนี นางก็กลับเข้าไปทูลพระราชสามีด้วยสงสัยว่า พระพุทธเจ้าข้าประหลาดใจ
กระหม่อมฉัน อันสองกุมารไปอยูไ่ หนไม่แจ้งเหตุหรือพากันไปเทียวลับพระเนตรนอกตําแหน่ง สิงห์สต
ั ว์
ทีร้ายแรงคะนองฤทธิมาพานพบขบกัดตัดชีวิตพระลูกข้าพาไปกินเปนอาหาร ถึงกระนันก็จะพบพานซึง
กเลวระร่าง มิเลือดก็เนือจะเหลืออยูบ
่ า้ งสักสิงอัน แต่พอแม่ได้รูส
้ าํ คัญว่าเปนหรือตาย สุดทีแม่จะมุง่
หมายสุดประมาณแล้ว…”
ฉากนี คือฉากทีนางมัทรีพงกลั
ึ บมาถึงอาศรมแต่นางไม่พบลูกทังสองจึงเริมคิดว่ามีเหตุการณ์
ร้ายเกิดขึงกับลูกของตน
“...เข้าเถือนเจ้าลืมพร้าได้หน้าแล้วลืมหลังไม่แลเหลียวเทียวทอดประทับมากลางทาง อันว่าพระยานาง
สิเปนหน่อกษัตริยจ
์ ะไปไหนก็เคยมีแต่กลดกัน พานจะเกรงแสงพระสุรย
ิ น
ั ไม่คลาเคลือน เจ้ารักเดินด้วย
แสงเดือนชมดาวพลาง ได้นาค้างกลางคืนชืนอารมณ์สมคะเน พอมาถึงก็ทําเสขึนเสียงเลียงเลียวพาโลว่า
ลูกหาย เออนีเจ้ามิหมายว่าใครๆ ไม่รูท
้ ันกระนันกระมัง หรือเจ้าเห็นว่าพีนีเปนชีอดจิตคิดอนิจจังทิงพยศ
อดอารมณ์เสีย เจ้าเปนแต่เพียงเมียควรหรือมาหมินได้ ถ้าแม้นพีอยูใ่ นกรุงไกรเหมือนแต่ก่อนเก่า หากว่า
เจ้าทําเช่นนี กายของมัทรีก็จะขาดสะบันลงทันตาด้วยพระกรเบืองขวาของอาตมานีแล้วแล”
เมือนางมัทรีกลับมาถึงแล้วไม่เจอลูกแล้วเห็นว่าสามีไม่ทก
ุ ข์รอ
้ นใดๆ จึงได้ว่ากล่าวสามีซงก็
ึ คือ
พระเวสสันดร พระองค์จึงตัดพ้อโต้ตอบนางมัทรีว่าด้วยเรืองทีนางกลับอาศรมช้า
“..โอ้เจ้าดวงสุรย
ิ น
ั จันทรทังคู่ของแม่เอ่ย แม่ไม่รูเ้ ลยว่าเจ้าจะหนีพระมารดาไปสูพ
่ าราใดไม่รูท
้ ี หรือจะ
ข้ามนทีทะเลวนหิมเวศประเทศทิศแดนใด ถ้ารูแ
้ จ้งประจักษ์ใจแม่ก็จะตามเจ้าไปจนสุดแรง
นีก็เหลือทีแม่จะเทียวแสวงสืบเสาะหา เมือเช้าแม่จะเข้าไปสูป
่ า พ่อชาลีแม่กัณหายังทูลสัง
แม่ยงั กลับหลังมาโลมลูบจูบกระหม่อมจอมเกล้าทังสองรา กลินยังจับนาสาอยูร่ วยรืน โอ้พระลูก
ข้านีจะไม่คืนเสียแล้วกระมังในครังนี กัณหาชาลีลก
ู รักแม่นบ
ั วันแต่ว่าจะแลลับล่วงไปเสียแล้ว
ละหนอ ใครจะกอดพระศอเสวยนมผทมด้วยแม่เล่า ยามเมือแม่จะเข้าทีบรรจถรณ์ เจ้าเคยเคียง
เรียงหมอนนอนแนบข้างทุกราตรี แต่นแม่
ี จะกล่อมใครให้นท
ิ รา โอ้แม่อุ้มท้องประคองเคียง
เลียงเจ้ามาก็หมายมัน สําคัญว่าจะได้อยูเ่ ปนเพือนยากจะฝากผีพงลู
ึ กทังสองคน มิรูว
้ ่าจะกลับ
7
วิบต
ั ิพลัดพรากไม่เปนผลให้อาเพศผิดประมาณ เจ้าเอาแต่หว
่ งสงสารนีหรือมาสวมคล้องให้แม่น ี
ติดต้องข้องอยูด
่ ้วยอาลัย เจ้าทิงชือและโฉมไว้ให้เปล่าอกในวิญญาณ์..”
ฉากนีเปนฉากทีนางสินหวังสินหวังกับการตามหาลูกและโศรกเศร้าเปนอันมาก เพราะนางได้
ตามหาทุกทีในปา และจึงมารําพึงรําพันถึงลูกเมือกลับถึงอาราม
1.6 แก่นเรือง
พระเวสสันดร กัณฑ์มท
ั รีต้องการจะสือถึงความรักของแม่ทีมีต่อลูกผ่านการทีนางมัทรีนนเมื
ั อลูกหายก็
รูส
้ ก
ึ หวันใจเปนห่วงโศกเศร้า และอีกประเด็นคือความปรารถนาอันยิงใหญ่ก็ต้องแลกด้วยความอดทนและความ
เสียสละเหมือนอย่างทีพระเวสสันดรได้ยกลูกให้กับชูชก
8
2. การพิจารณาการใช้ภาษาในวรรณคดีและวรรณกรรม
2.1 การสรรคํา
การสรรคํา คือ การเลือกใช้คําให้สามารถสือถึงความคิด ความรูส
้ ก
ึ ความเข้าใจ ได้อย่างถูกต้องตาม
ความเหมาะสม โดยคํานึงถึงความงามด้านเสียง โวหาร และรูปแบบคําประพันธ์ ในการประพันธ์นนผู
ั ก ้ วีต้อง
เลือกคําให้เหมาะสมกับตัวละครทีต้องการจะสืออกมาให้ผอ
ู้ ่านรับรูถ
้ ึงความรูส
้ ก
ึ อารมณ์ และ ความคิดของตัว
ละครนันๆ อีกทังยังต้องคงความสละสลวยของคําประพันธ์อีกด้วย
2.1.1 การใช้ถ้อยคําให้เหมาะสมต่อเรืองและบุคคลในเรือง
ปางนันส่วนสมเด็จพระมัทรีศรีสน
ุ ทรเทพกัญญา จําเดิมแต่พระนางเธอลีลาล่วงลับ พระอาวาส พระทัย
นางให้หวันหวาดพะวงหลังตังพระทัยเปนทุกข์ถึงพระเจ้าลูกมิลืมเลย เดินพลางทางเสวยพระโศกพลาง พระนัย
นเนตรทังสองข้างไม่ขาดสายพระอัสสุชล พลางพิศดู ผลาผลในกลางไพรทีนางเคยได้อาศัยทรงสอยอยูเ่ ปนนิตย์
ผิดสังเกต เหตุไฉนไม้ทีมีผลเปนพุม
่ พวง ก็กลายกลับเปนดอกดวงเดียรดาษอนาถเนตร แถวโน้นก็แก้วเกดพิกล
ุ
แกมกับกาหลง ถัดนันก็ สายหยุดประยงค์และยมโดย พระพายพัดก็รว
่ งโรยรายดอกลงมูนมอง แม่ยงั ได้เก็บเอา
ดอกมา ร้อยกรองไปฝากลูกเมือวันวาน ก็เพียนผิดพิสดารเปนพวงผล ผิดวิกลแต่ก่อนมา
จากบทประพันธ์เรืองมหาเวสสันดรชาดกกัณฑ์มท
ั รี ทําให้เห็นว่ากวีนนได้
ั เลือกสรรคําให้เหมาะแก่ฐานะ
ของตัวละคนในเรืองทีเปนคนในราชวงศ์ กวีได้เลือกใช้คําราชาศัพท์ทังการกระทํา หรือคํานามต่างๆทีสือถึงตัว
ละครนัน ตัวอย่างเช่น พระทัยนางให้หวันหวาด คําว่าพระทัย แปลว่าใจ
2.1.2 การใช้ถ้อยคําให้เกิดความรูส
้ ก
ึ
1. การใช้ถ้อยคํารําพึงรําพัน
เมือเช้าแม่จะเข้าสูป
่ า พ่อชาลีแม่กัณหายังทูลสัง แม่ยงั กลับหลังมาโลมลูบจูบกระหม่อมจองเกล้าทังสอง
รา กลินยังจับนาสาอยูร่ วยรืน ใครจะดอกพระศอเสวยนมผทมด้วยแม่เล่า ยามเมือแม่จะเข้าทีบรรจถรณ์ เจ้า
เคยเรียงหมอนนอนแนบข้างทุกราตรี แต่นแม่
ี จะกล่อมใครให้นท
ิ รา
จากตัวอย่างข้างต้นกวีได้ใช้ถ้อยคําในการรําพึงรําพันถึงบรรยากาศของความเปนแม่ผา่ นตัวละครทําให้
ผูอ
้ ่านได้รบ
ั อารมณ์ความสะเทือนใจ ความตราตรึงใจ และยังสามารถสือให้ตรงใจผูเ้ ปนแม่ในชีวิตจริงในทุกยุค
ทุกสมัย อีกทังเปนการเพิมความรักความผูกพันแก่ผอ
ู้ ่านและผูฟ
้ งทีเปนแม่และลูกได้เปนอย่างดี
2. การใช้ถ้อยคําสํานวนเชิงตัดพ้อ
อกของใครจะอาภัพยับพิกลเหมือนอกของมัทรีไม่มเี นตร น่าทีจะสงสารสังเวชโปรดปราณีว่ามัทรีนเปน
ี
เพือนยากอยูจ
่ ริงๆ ช่างค้อนติงปริภาษณาได้ลงคอไม่คิดเลย พระคุณเอ่ยถึงพระองค์จะสงสัยก็นาใจของมัทรีนี
9
กตเวที เปนไม้เท้าก้าวเข้าสูท
่ ีทางทดแทน อุปมาเหมือน สีดาอันภักดีต่อสามีรามบัณฑิต ปานประหนึงว่าศิษย์
กับอาจารย์ พระคุณเอ่ยเกล้ากระหม่อมฉานทําผิดแต่เพียงนี เพราะว่าล่วงราตรีจึงมีโทษ ขอพระองค์ทรง
พระกรุณาโปรด ซึงโทษโทษานุโทษกระหม่อมฉันมัทรี แต่ครังเดียวนีเถิด
จากตัวอย่างข้างต้นทีกล่าวมานีกวีเลือกถ้อยคําทีทําให้เกิดอารมณ์สงสารเวทนานางมัทรี และบีบคัน
จิตใจของผูอ
้ ่านและผูฟ
้ งเปนอย่างยิง เพราะเปนการใช้ถ้อยสํานวนเชิงตัดพ้อทีแสดงถึงความอุตสาหะตระตราก
ตระตรําเตร็ดเตร่หาผลไม้ เพือทีจะมาปฏิบต
ั ิลก
ู บํารุงผัว แต่พระเวสสันดรก็ไม่สงสาร อีกทังยังดุว่าได้ลงคอ
ตัวอย่างเช่น พระคุณเอ่ยเกล้ากระหม่อมฉานทําผิดแต่เพียงนี เพราะว่าล่วงราตรีจึงมีโทษ เปนต้น
2.1.3 การใช้ถ้อยคําทีคํานึงถึงเสียง
อกแม่นให้
ี อ่อนหิวสุดละห้อย ทังดาวเดือนก็เคลือนคล้อยลงลับไม้ สุดทีแม่จะติดตามเจ้าไปในยามนี ฝูง
ลิงค่างบ่างชะนีทีนอนหลับ ก็กลิงกลับเกลือกตัวอยูย
่ วเยี
ั ย ทังนกหกก็งัวเงียเหงาเงียบทุกรวงรัง แต่แม่เทียวเซซัง
เสาะแสวงทุกแห่งห้องหิมเวศ ทัวประเทศทุกราวปา สุดสายนัยนาทีแม่จะตามไปเล็งแล สุดโสตแล้วทีแม่จะซับ
ทราบฟงสําเนียง สุดสุรเสียงทีแม่จะราเรียกพิไรร้อง สุดฝเท้าทีแม่จะเยืองย่องยกย่างลงเหยียบดิน ก็สด
ุ สินสุด
ปญญาสุดหาสุดค้นเห็นสุดคิด จะได้พานพบประสบรอยพระลูกน้อยแต่สก
ั นิดไม่มเี ลย
จากตัวอย่างข้างต้นกวีได้ใช้การเล่นเสียงสัมผัสพยัญชนะ เพือให้เกิดไพเราะ และความสละสลวยของ
บทประพันธ์ ทําให้บทประพันธ์มค
ี วามน่าหลงไหลและน่าฟง เช่น ก็กลิงกลับเกลือก เยืองย่องยกย่าง เปนต้น
2.2 การเรียบเรียงคํา
การเรียบเรียงคํา คือการจัดวางคําทีเลือกสรรแล้วให้มาเรียบเรียงกันอย่างต่อเนืองตามจังหวะ ตาม
โครงสร้างคําพูด หรือตามฉันทลักษณ์ทีวางไว้
ส่วนเทพเจ้าทังสามองค์ได้ทรงฟงพระเสาวนีย์ พระมัทรีเธอไหว้วอน ขอหนทาง พระพักตร์นางนองไป
ด้วยนาาพระเนตร เทพเจ้าก็สงั เวชในวิญญาณ ก็พากันอุฏฐาการ คลาไคลให้มรคาแก่นางพระยามัทรี พอแจ่ม
แจ้งแสงสีศศิธรนางก็ยกหาบคอนขึนใส่บา่ เปลืองเอา พระภูษามาคาดพระถันให้มนคง
ั วิงพลางนางทรงกันแสง
พลาง ยะเหยาะเหย่าทุกฝย่างไม่หย่อนหยุด พักหนึงก็ถึงทีสุดบริเวณพระอาวาสทีพระลูกเจ้าเคยประพาสแล่น
เล่น ประหลาดแล้วแลไม่เห็น ก็ใจหาย ดังว่าชีวิตนางจะวางวายลงทันที จึงตรัสเรียกว่าแก้วกัณหาพ่อชาลีของแม่
เอ่ย แม่มา ถึงแล้ว เหตุไฉนไยพระลูกแก้วจึงมิมาเล่าหลากแก่ใจ แต่ก่อนแต่ไรสิพร้อมเพรียง เจ้าเคยวิงระรี เรียง
เคียงแข่งกันมาคอยรับพระมารดา ทรงพระสรวลสํารวลร่าระรืนเริงรีบรับเอาขอคาน แล้วก็พา กันกราบกราน
10
พระชนนี พ่อชาลีเจ้าเลือกเอาผลไม้ แม่กัณหาฉะอ้อนวอนไหว้ว่าจะเสวยนม ผทมเหนือพระเพลาพลางฉอเลาะ
แม่นต่
ี างๆ ตามประสาทารกเจริญใจ
จากบทประพันธ์ขา้ งต้นกวีได้เรียบเรียงคําโดยใช้การเรียงวลีหรือประโยคทีมีความสําคัญเท่าๆเคียงข้าง
กันไป อีกทังยังค่อยเรียงลําดับความเข้มข้นของเนือหาเพิมมากขึนเรือย ดังการไต่ขนบั
ึ นไดอารมณ์ ทําให้ผอ
ู้ ่าน
รูส
้ ก
ึ ตามตัวละครและลุ้นไปกับเนือหาของเรือง
2.3 การใช้โวหารภาพพจน์
11
จากบทประพันธ์ขา้ งต้นเปนการใช้อุปลักษณ์โวหารโดยสังเกตได้จากคําว่า เปน ดัง ในประโยคทีว่า ทัง
ขอบฟาก็ดาดแดงเปนสายเลือด เปนการเปรียบเทียบสีของท้องฟาในยามนันเปนเหมือนสีแดงของเลือด
2.3.4 อติพจน์
เจ้าเคยฟงแต่เสียงพี เลียงเขาขับกล่อมบําเรอด้วยดุรย
ิ างค์ ยามบรรทมธุลีลมก็มไิ ด้พด
ั มาแผ้ว พาน
จากบทประพันธ์ขา้ งต้นเปนการกล่าวเกินจริง โดยสังเกตได้จากประโยคทีว่า ยามบรรทมธุลีลมก็มไิ ด้
พัดมาแผ้ว พาน เปนการสือถึงว่าตอนนอนแม่ก็ปกปองลูก แม้กระทังลมก็ไม่ให้โดนตัวลูกได้
2.3.5 สัทพจน์
โอ พระอาศรมเจ้าเอ๋ยน่าอัศจรรย์ใจ แต่ก่อนดูนสุ
ี กใสด้วยสีทอง เสียงเนือนกนีราร้องสําราญรังเรียกคู่คู
ขยับขัน ทังจักจันพรรณลองไนเรไรร้องอยูห
่ ริงๆ ระเรือยโรย
จากบทประพันธ์ขา้ งต้นเปนการเลียนเสียงสัตว์ ในบทประพันธ์นกวี
ี ใช้คําว่า หริงๆ โดยมาจากแมลง
ได้แก่ จักจัน ลองไน และเรไร ทําให้ผอ
ู้ ่านจินตนาการถึงเสียงของแมลงเหล่านีและเข้าถึงได้มากยิงขึน
12
3.การอ่านและพิจารณาประโยชน์หรือคุณค่าในวรรณคดีและวรรณกรรม
3.1 คุณค่าด้านอารมณ์
“ ใครได้เห็นเปนขวัญตาเต็มจะหลงละลายทุกข์ปลุกเปลืองอารมณ์ชายให้เชยชืน ”
ในวรรคนีแสดงให้เห็นถึงอารมณ์หงึ หวงของพระเวสสันดรทีได้ตัดพ้อพระนางมัทรีว่ามีชายอืนเพือดับ
ความโศกเศร้าของพระนางแล้วลืมเรืองลูกทีพลัดพรากจากไป
3.2 คุณค่าด้านคุณธรรม
การเปนพ่อแม่ทดี
ี
“ ชาลี กัณหา แม่มาถึงแล้ว เหตุไฉนไยพระลูกแก้ว จึงไม่มารับเล่าหลากแก่ใจ แต่ก่อนร่อนชะไรสิพร้อม
เพรียง เจ้าเคยวิงระรีเรียงเคียงแข่งกันมารับพระมารดา เคยแย้มสรวลสํารวลร่า ระรืนเริงรีบรับเอาขอคาน แล้วก็
พากันกราบกรานพระชนนี พ่อชาลี ก็จะรับเอาผลไม้ แม่กัณหาก็จะอ้อนวอนไหว้จะเสวยนม ผทมเหนือ
พระเพลาพลาง เจ้าเคยฉอเลาะแม่ต่าง ๆ ตามประสาทารกเจริญใจฯ ”
ในวรรคนีแสดงให้เห็นถึงความเปนห่วงของแม่นางมัทรีทีมีต่อลูกหลังจากกลับมาทีอาศรมก็ไม่พบกัณหา
ชาลี เพราะลูกคือแก้วตาดวงใจของผูเ้ ปนพ่อแม่ ไม่มใี ครรัก ห่วง และหวงเราได้เท่าพ่อแม่ให้
การเปนสามีภรรยาทีดี
“ แห่งน้องนางนามชือพระมัทรี (ราชปุตต
ฺ ี) น้องก็กลายเปนกัลยาณี หน่อกษัตริย์ มัททราชสุรย
ิ วงศ์ อนึง
น้องเปนเอกองค์อัครบริจาริกากรแห่งพระเวสสันดรราชฤาษี อันจําจากพระบุรม
ี าอยูไ่ พร น้องนีก็ตังใจสุจริต
ติดตามมาด้วยกตเวที ”
ในวรรคนีแสดงให้เห็นถึงว่านางมัทรี เปนภรรยาทีมีความกตัญ ูจงรักภักดีต่อสามี และจากบ้านเมืองมา
อยูป
่ ากับพระเวสสันดรด้วยใจบริสท
ุ ธิ
13
“ถึงพระร่มเกล้าปกเกศเสด็จทุเรศไร้ราชสุรย
ิ วงศ์ จะบุกปาฝาดงไปแห่งใด ข้าพระบาทจะตามเสด็จไปไม่
ขออยู ่ จะเอาชีวิตและกายนีไปสูส
้ นองพระคุณกว่าจะสินบุญข้ามัทรีทีจะละพระราชสามีนนหามิ
ั ได้ แม้นจะตกไร้
แสนกันดารจะบริโภคมูลผลาหารต่างโภชนาก็จะสูท
้ รมานหามาปฏิบต
ั ิพระองค์ ถึงแม้มาตรจะปลดปลงก็มไิ ด้คิด
จะเอาชีวิตนีเปนเกือกทองฉลองพระบาท”
ในวรรคนีแสดงให้ถึงความซือสัตย์ของพระนางมัทรีทีมีต่อพระเวสสันดร แม้จะรูว
้ ่าการทีจะต้องเดินทาง
ไปกับพระเวสสันดรนันจะยากลําบากขนาดไหน แต่พระนางก็ไม่เกรงกลัวและยินดีเสด็จตามพระเวสสันดรไป
เพือจะได้มโี อกาสปรนนิบต
ั ิดแ
ู ลพระเวสสันดรตามรูปแบบของภรรยาทีดี
3.3 คุณค่าด้านอืนๆ
คุณค่าด้านความเชือ
“ พลางพิศดูผลาผลในการไพรทีนางเคยได้อาศัยทรงสอยอยูเ่ ปนนิตย์ผด
ิ สังเกต เหตุไฉนไม้ทีมีผลเปน
พุม
่ พวง ก็กลายกลับเปนดอกดวงเดียรดาษอนาถเนตร ”
ในวรรคนีพระนางมัทรีกําลังอยูใ่ นปาแต่กลับพบสิงผิดสังเกตมากมาย เช่น ไม้ผลกลับกลายเปนไม้ดอก
ผลไม้กลายเปนดอกไม้ทีน่าเกลียด เปนต้น สะท้อนให้เห็นถึงความเชือของผลบุญกุศลทีทํา คนไทยมักมีความคิด
ว่าถ้ามีอะไรผิดแปลกไปจากสิงปกติทีเห็นแล้ว นันแปลว่าอาจเปนลางบอกเหตุทีแสดงให้เห็นถึงเรืองร้ายทีกําลัง
จะเกิดขึน
คุณค่าด้านสังคม
คุณค่าด้านวรรณศิลป
การเล่นเสียง
14
การเล่นเสียงสัมผัสพยัญชนะ เช่น
“ พระพายรําเพยพัดมาฉิวเฉือย เรไรระรีเรือยร้องอยูห
่ ริงๆ ”
การเล่นเสียงสัมผัสสระ เช่น
“ นางก็ถึงวิสญ
ั ญีสลบลงตรงหน้าฉาน ปานประหนึงว่าพุม
่ ฉัตรทองอันต้องสายอัสนีฟาดระเนน
เอนก็ล้มลงตรงหน้าพระทีนังเจ้า นันแล ”
15
บรรณานุกรม
อักษรเจริญทัศน์, บริษัท. หนังสือเรียน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ม.๕. กรุงเทพฯ : บริษัท ไทยร่ม
เกล้า จํากัด, พ.ศ.๒๕๕๑. ๑๗๒ หน้า.
ศึกษาธิการ, กระทรวง. สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขันพืนฐาน. หนังสือเรียน รายวิชาพืนฐาน ภาษา
ไทย วรรณคดีวิจักษ์ ชันมัธยมศึกษาปที ๕ กลุ่มสาระการเรียนรูภ
้ าษาไทย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค,
พ.ศ. 2555. 131
ณรงค์ศก
ั ดิ กาหลง. ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์ มัทรี [ออนไลน์]. เข้าถึงเมือวันที ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๓.
สืบค้นได้จาก
https://sites.google.com/site/socialtanniisno2/baeb-thdsxb-reuxng-phra-wessandr-chadk
16