Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 34

1.

ข้ อสอบวิชาจรรยาบรรณนายหน้ าประกันวินาศภัย=ชุดล่าสุ ด
จรรยาบรรณ 1 : ซื่อสั ตย์ สุ จริ ต ไม่ มีพฤติกรรม และการกระทาการใดๆ ให้ ได้ รับความเสี ยหายทางด้ าน
การเงิน และผิดหรือขัดต่ อกฎหมายและศีลธรรมอันดีงาม
เรื่องที่ 1 : นาส่ งเบีย้ ประกันภัยโดยทันที
1. นาย ก. ตกลงทาประกันภัยโจรกรรม และได้ชาระเบี้ยประกันภัยผ่าน ข. ซึ่ งเป็ นนายหน้า ข. เห็นว่า บริ ษทั มักจะ
ทวงถาม เรื่ องเบี้ยประกันหลัง 30 วันไปแล้ว ดังนั้นจึงนาเงินนั้นไปใช้ ส่วนตัวก่ อน และจะนาเงินส่ งคืนบริ ษทั ในทันที
ที่มีการทวงถาม ท่านคิดว่าการกระทาของ ข. ถูกหรื อไม่
ก. ถูก เนื่องจากไม่เกิดผลเสี ยต่อ ก. และบริ ษทั
ข. ผิด เนื่องจาก ข. ไม่ ซื่อสั ตย์ต่อ ก. และบริษัท
ค. ผิด เนื่องจาก ข. ควรบอกกล่าว ก. ก่อน
2. นาย ก. เป็ นนายหน้า ขายประกันให้กบั นาง ข. โดยได้บอกกับนาง ข. ว่าต้ องจ่ ายเบีย้ ประกันภัยเป็ นรายปี ๆละ
6,000 บาท แต่เมื่อนาง ข. ได้รับใบเสร็ จรับเงินเป็ นจานวน 12 ใบ ( ใบเสร็ จ 1 ใบต่อเบี้ยประกันภัย 1 เดือน )
นาง ข. จึง หยิบกรมธรรม์ มาอ่ านดูพบว่ าระบุจ่ายเบีย้ ประกันภัยเดือนละ 500 บาท โดยต้องจ่ายทุกวันที่ 1 ของทุก
เดือน ท่านคิดว่า นาย ก. กระทาผิดจรรยาบรรณหรื อไม่
ก. ไม่ผดิ เพราะถึงอย่างไรนาง ข. ก็ตอ้ งจ่ายเบี้ย 6,000 บาทต่อปี
ข. ผิด เพราะนาย ก. ไม่ มีความซื่อสั ตย์ ต่อผู้เอาประกันภัย
ค. ไม่ผดิ เพราะนาง ข. ยินดีจ่ายเงินให้นาย ก. ก่อนเพื่อว่านาย ก. ไม่ตอ้ งมาเก็บทุกเดือน
ง. ผิด เพราะนาย ก. ไม่มีความซื่ อสัตย์ต่อบริ ษทั
3. ปญหาที่เกิดจากนายหน้าประกันวินาศภัยมากที่สุด คือ การเก็บเบีย้ ประกันภัยแล้วไม่ ส่งให้ บริษัทในทันที ในฐานะ
ที่เป็ นนายหน้ามืออาชีพ ท่านจะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างไร
ก. ไม่กระทาพฤติกรรมดังกล่าว โดยไม่จาเป็ น
ข. เปิ ดเผยข้อความจริ งกับผูเ้ อาประกันภัย บริ ษทั ว่าบางครั้งจาเป็ นต้องส่ งเบี้ยประกันภัยช้า
ค. ชักชวนเพือ่ นร่ วมอาชีพไม่ ให้ ส่งเบีย้ ประกันภัยช้ า
ง. พยายามให้ขอ้ มูลแก่ลูกค้าว่า ควรตรวจสอบพฤติกรรมของนายหน้าประกันวินาศภัยคนอื่นๆ

เรื่องที่ 2 : ให้ บุคคลอืน่ ขายประกันแทน


1. นายสมศักดิ์เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยของบริ ษทั ประกันวินาศภัยแห่งหนึ่ง มีความสามารถในการหาประกัน
วินาศภัยทั้งการประกันอัคคีภยั ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยทางทะเลและขนส่ ง และเบ็ดเตล็ด ได้ตรงตาม
เป้ าหมายบริ ษทั ประกันภัยเป็ นประจาและต่อเนื่ องมาโดยตลอดจนได้ชื่อว่าเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยดีเด่นของ
บริ ษทั ประกันภัยทุกปี แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น นายสมศักดิ์ประสบอุบตั ิเหตุตอ้ งนอนรักษาตัวอยู่
เกือบ 2 เดือน ทาให้ไม่
สามารถออกไปหาประกันภัยได้ ภรรยานายสมศักดิ์ซ่ ึ งเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยเกรงว่าสามีจะเสี ยงานและไม่มี
ใครบริ การปิ ดงานรับประกันภัยที่คา้ งกับลูกค้า จึงได้ขอรายชื่ อผูท้ ี่สนใจจะทาประกันภัยจากสามีและได้ช่วยหา
ประกันภัยให้ กบั สามีซึ่งนอนป่ วย จนกระทัง่ สามีหายและออกหาประกันภัยได้ตามปกติ ท่านคิดว่าการกระทาของ
สามีและภรรยาคู่น้ ีเป็ นอย่างไร
ก. ไม่มีความซื่ อสัตย์ต่อผูเ้ อาประกันภัย เพื่อนร่ วมอาชีพ แต่ซื่อสัตย์ตอ่ บริ ษทั ประกันภัย
ข. ไม่มีความซื่ อสัตย์ต่อบริ ษทั ประกันภัย แต่ซื่อสัตย์ต่อผูเ้ อาประกันภัย
ค. ไม่ มคี วามซื่อสั ตย์ต่อบริษัทประกันภัย เพือ่ นร่ วมอาชี พและผู้เอาประกันภัย
ง. ไม่มีความซื่ อสัตย์ต่อเพื่อนร่ วมอาชีพ แต่ซื่อสัตย์ต่อผูเ้ อาประกันภัย
2. นายคล้า เป็ นนายหน้าส่ งงานให้กบั บริ ษทั ประกันวินาศภัยแห่งหนึ่ง ต่อมาได้ชักชวนเพือ่ นชื่อ นายหนา ซึ่งกาลังตก
งาน เนื่ องจากเศรษฐกิจตกต่ามาช่ วยขายประกันวินาศภัยให้ ตน โดยมีเงื่อนไขว่าถ้า นายหนาหาลูกค้าได้ 1 ราย ตน
จะจ่ายเงินให้ 1,500 บาท การกกระทาของนายคล้า ถือว่าถูกหรื อผิดจรรยาบรรณผูป้ ระกอบอาชีพนายหน้า
ประกันภัยหรื อไม่
ก. ผิด เพราะนายคล้า ชักชวนเพือ่ นมาขายประกันวินาศภัยโดยไม่ ได้ รับใบอนุญาตนายหน้ าประกันวินาศภัย
ข. ผิด เพราะนายหนา ไม่ซื่อสัตย์ต่อผูเ้ อาประกันภัย
ค. ไม่ผดิ เพราะนายหนา ไม่จาเป็ นต้องบอกใครๆ ว่าตนเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัย
ง. ไม่ผดิ เพราะผูเ้ อาประกันภัยตกลงทาประกันภัยกับนายหนาเอง
3. นาย ก. เป็ นนายหน้าส่ งงานให้กบั บริ ษทั ประกันวินาศภัยแห่งหนึ่ง ต่อมาได้ชักชวนเพือ่ นชื่อ นาย ข. ซึ่ งกาลังตก
งาน เนื่ องจากเศรษฐกิจตกต่ามาช่ วยขายประกันวินาศภัยให้ ตน โดยมีเงื่อนไขว่าถ้านาย ข. หาลูกค้าได้ 1 ราย ตน
จะจ่ายเงินให้ 1,500 บาท หลังจากที่นาย ข. หาลูกค้าได้ 2-3 รายก็เกิดความว่าถ้าตนเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัย
เองก็คงจะได้รับผลตอบแทนมากกว่านี้ จึงสอบเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยและส่ งงานบริ ษทั เดียวกับนาย ก. โดย
ไม่ได้บอกเรื่ องนี้ แก่ นาย ก. เมื่อนาย ก. มีลูกค้าประสงค์จะทาประกันภัย ก็แจ้งไปยังนาย ข. ให้ช่วยอธิ บายเรื่ อง
การประกันภัยให้กบั ลูกค้าและเมื่อลูกค้าตกลงทาประกันภัย นาย ข. จะให้ ลูกค้ ากรอกใบคาขอเอาประกันภัยเพือ่ เป็ น
ลูกค้ าของตนเอง และกลับมา บอก นาย ก. ว่ าลูกค้ าไม่ ยอมทาประกันภัย ท่ านคิดว่ า การกระทาของนาย ข. ผิด
จรรยาบรรณหรือไม่

ก. ผิด เพราะนาย ข. ไม่ ซื่อสั ตย์ต่อเพือ่ นร่ วมงาน


ข. ผิด เพราะนาย ข. ไม่ซื่อสัตย์ต่อผูเ้ อาประกันภัย
ค. ไม่ผดิ เพราะนาย ข. ไม่จาเป็ นต้องบอกใครๆ ว่าตนเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัย
ง. ไม่ผดิ เพราะผูเ้ อาประกันภัยตกลงทาประกันภัยกับนาย ข. เอง
4. นาง ก. เป็ นตัวแทนประกันวินาศภัย บริ ษทั หนึ่ ง จากัด ซึ่ งเป็ นบริ ษทั ที่มีชื่อเสี ยงมานานทาให้หาลูกค้าได้ง่ายแต่
บริ ษทั นี้ ขายกรมธรรม์แบบที่ตอ้ งจ่ายเบี้ยประกันภัยสู งกว่า สอง จากัด นาง ก. ต้องการเป็ นตัวแทนบริ ษทั สอง
จากัด เนื่ องจากมีแบบการประกันภัยที่จ่ายเบี้ยประกันภัยน้อยกว่าบริ ษทั หนึ่ง จากัด และนาง ก. ทราบดีวา่ บริ ษทั
หนึ่ง จากัด คงไม่ยินยอมให้เป็ นตัวแทนประกันภัยบริ ษทั สอง จากัด ดังนั้นจึงชักชวนให้ น้องสาวมาสมัครเป็ น
ตัวแทนบริษัทสอง จากัด โดยนาง ก. เป็ นผู้ขายประกันแทนน้ องสาว นาง ก. จะพิจารณาว่าลูกค้ารายใดควรจะทา
ประกันภัยกับบริ ษทั หนึ่ง จากัด หรื อบริ ษทั สอง จากัด การกระทาของนาง ก. ถูกหรื อผิดจรรยาบรรณผูป้ ระกอบ
อาชีพตัวแทนประกันวินาศภัย
ก. ถูก เพราะมีความซื่ อสัตย์ตอ่ บริ ษทั ประกันภัย
ข. ผิด เพราะไม่แจ้งแก่ลูกค้าว่าเป็ นตัวแทนประกันวินาศภัยบริ ษทั ใด
ค. ถูก เพราะเป็ นการตั้งใจให้บริ การที่ดีแก่ลูกค้า เพื่อรักษาผลประโยชน์ของลูกค้า
ง. ผิด เพราะขาดความซื่อสั ตย์ ต่อบริษัทและผู้เอาประกันภัย
4. นายหน้า ต้ องมีความซื่ อสั ตย์ สุจริ ตต่ อผู้เอาประกันภัย และบริ ษัทประกันภัย ท่านคิดว่าความหมายในข้อใดเป็ น
ความหมายที่ถูกต้อง
ก. นายหน้า ต้องซื่ อสั ตย์ต่อผูเ้ อาประกันภัย โดยต้องไม่ เปิ ดเผยข้อมูล อื่ นใดๆ ของผูเ้ อาประกันภัยนอกจากที่
ปรากฏในใบคาขอเอาประกันภัยให้บริ ษทั ทราบ
ข. นายหน้าต้องซื่ อสัตย์ต่อบริ ษทั ประกันภัยที่ตนส่ งงาน โดยต้องยึดถือประโยชน์ของบริ ษทั เป็ นอันดับแรก
ค. นายหน้าต้องวางตัวเป็ นกลาง ไม่เปิ ดเผยข้อมูลของผูเ้ อาประกันภัย และไม่เปิ ดเผยข้อมูลของบริ ษทั ประกันภัย
ง. นายหน้ าต้ องตั้งอยู่บนความถูกต้ องสุ จริต และทาตัวเสมือนคนกลางทีไ่ ม่ เอาใจไปเข้ าข้ างลูกค้ าหรือบริษัท
6. ท่านคิดว่าพฤติกรรมใดที่นายหน้ าแสดงออกถึงความซื่อสั ตย์และรักษาผลประโยชน์ ของผูเ้ อาประกันภัย
ก. เปิ ดเผยข้อความจริ งของผูเ้ อาประกันภัยในส่ วนที่เป็ นสาระสาคัญ เพื่อการพิจารณารับประกันภัยหรื อเพื่อความ
สมบูรณ์แห่งกรมธรรม์
ข. ไม่แนะนาให้ผเู ้ อาประกันภัยยกเลิ กกรมธรรม์ประกันภัยเดิ มเพื่อทาสัญญาใหม่ หากทาให้ผเู ้ อาประกันภัยเสี ย
ประโยชน์
ค. ไม่แนะนาผูข้ อทาประกันภัยทาประกันภัยเกินความสามารถในการชาระเบี้ยประกันภัยหรื อแนะนาความคุม้ ครอง
ที่ผเู ้ อาประกันภัยไม่มีความเสี่ ยงภัย
ง. ถูกทุกข้ อ

เรื่องที่ 3 : ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมประเพณีอนั ดีงาม


1. ท่านมีความเชื่ อมัน่ ในคากล่าวที่วา่ “ นายหน้ าประกันวินาศภัยทีป่ ระพฤติตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม จะทาให้
ก้าวหน้ าในอาชีพการงาน ” หรื อไม่ อย่างไร

ก. เป็ นความจริง เพราะคนทีป่ ระพฤติตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม จะเป็ นทีน่ ่ าเชื่ อถือไว้ วางใจแก่ ผ้ เู กีย่ วข้ อง
ข. เป็ นความจริ ง เพราะจะทาให้เงินที่หามาได้เพียงพอจะใช้สอยในครอบครัว
ค. เป็ นความจริ ง เพราะทาให้ไม่มีเรื่ องเสื่ อมเสี ยชื่อเสี ยง
ง. เป็ นความจริ ง เพราะเมื่อเป็ นคนดี ย่อมเป็ นคนขยันหมัน่ เพียร
2. จรรยาบรรณและศีลธรรมของนายหน้าประกันวินาศภัยใดที่ปฏิบตั ิได้ยากที่สุด แต่ถา้ ใครปฏิบตั ิขอ้ นี้ได้อย่างแท้จริ ง
จะได้ ชื่อว่าเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ดี และยอดเยีย่ มของธุ รกิจประกันภัย
ก. มีความซื่ อสัตย์ต่อผูเ้ อาประกันภัย บริ ษทั และเพื่อนร่ วมอาชีพ
ข. ไม่กล่าวให้ร้ายทับถมตัวแทนหรื อบริ ษทั อื่น
ค. รักษาความลับอันมิควรเปิ ดเผยของผูเ้ อาประกันภัยและของบริ ษทั ต่อบุคคลภายนอก
ง. ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมประเพณีอนั ดีงาม ทั้งธารงไว้ ซึ่งเกียรติ ศักดิ์ศรี และคุณธรรมแห่ งอาชีวปฏิญาณ
3. นาย ก. เป็ นนายหน้าที่สร้างยอดการขายสู งอย่างต่อเนื่อง และนาย ก. เป็ นคนโชคดี มักมีรายได้ จากการเสี่ ยงโชค
เพิ่มประมาณ 30% ต่อเดือน ของรายได้จากการขายกรมธรรม์ประกันภัย ท่านคิดว่า นาย ก. ควรปฏิบตั ิตน
อย่างไร
ก. แยกความชัดเจนของรายได้จากการเป็ นนายหน้า และรายได้จากการพนัน ไม่ให้กระทบกันเด็ดขาด
ข. พยายามลดรายได้จากกการพนันให้นอ้ งลง และเพิ่มรายได้หลักจากการเป็ นนายหน้า
ค. เลิกอาชีพการเป็ นนักการพนัน เพราะขัดแย้งกับอาชีพนายหน้ าประกันวินาศภัย
ง. แสดงความบริ สุทธิ์ ใจ โดยแจ้งช่องทางรายได้ชดั เจน ทั้งกับลูกค้า และบริ ษทั
4. นาย ก. เป็ นนายหน้า และเป็ นคนที่มีเครดิตกับธนาคารหลายแห่ง โดยช่วงหลังมีการทวงถามเรื่องการชาระหนี้
บัตรเครดิตล่าช้ าจากธนาคารต่างๆ พฤติกรรมของ ก. อาจมีผลกระทบต่อลูกค้าของเขาอย่างไร
ก. ไม่มีผล เพราะคนในสังคมต่างก็เป็ นแบบนี้
ข. ไม่มีผลต่อลูกค้า เพราะลูกค้าของเขาไม่ใช่ธนาคาร
ค. มีผล เพราะลูกค้ าจะขาดความเชื่ อถือไว้ วางในด้ านการเงิน
ง. มีผล เพราะลูกค้าสามารถขอความรู้จาก ก. ในการติดต่อกับธนาคารเอง การชาระหนี้สินล่าช้าแก่ธนาคาร
5. นาย ก. เป็ นนายหน้าซึ่งบริ การลูกค้าของตนเองดีมาก แต่ ก. มีนิสัยเจ้ าชู้ และมีภรรยาหลายคน พฤติกรรมของ ก.
นี้ผดิ จรรยาบรรณหรื อไม่
ก. ผิด เพราะไม่ ได้ ประพฤติตน เป็ นแบบอย่ างที่ดีในการรั กษาเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี ชื่ อเสี ยงในฐานะนายหน้ าที่ดี
และศีลธรรมประเพณีอนั ดีงาม
ข. ไม่ผดิ เพราะนาย ก. ยังให้บริ การที่ดีแก่ลูกค้าอย่างสม่าเสมอ
ค. ไม่ผดิ เพราะเรื่ องงานและเรื่ องส่ วนตัว สามารถแยกออกจากกันได้
ง. ผิด เพราะเมื่อมีพฤติกรรมเช่นนี้จะมีค่าใช้จ่ายมาก อาจเป็ นผลก่อให้เกิดการทุจริ ตในเรื่ องเงินได้
6. นาย ก. เป็ นนายหน้าที่ชอบดื่มเหล้าครั้งละมากๆ เป็ นประจา แต่ ก. ก็ไม่เคยก่อความเสี ยหายใดๆ แก่ผเู ้ อา
ประกันภัยรวมทั้งยังคงให้บริ การที่ดีแก่ผเู ้ อาประกันภัยอย่างสม่าเสมอด้วย การกระทาของ นาย ก. ผิด
จรรยาบรรณนายหน้าหรื อไม่
ก. ไม่ผดิ เพราะว่าเป็ นเรื่ องส่ วนตัวของ ก. และ ก. สามารถควบคุมการบริ การที่ดี
ข. ไม่ผดิ เพราะว่า ก. ไม่ได้ก่อความเสี ยหายใดๆ แก่ผเู ้ อาประกันภัย
ค. ผิด เพราะว่า ก. ไม่ ประพฤติตนเป็ นแบบอย่ างทีด่ ี อยู่ในศีลธรรมประเพณีอนั ดีงาม
ง. ผิด เพราะว่า ก. มีค่าใช้จ่ายสู ง อาจสร้างปั ญหาการเงินได้

จรรยาบรรณ 2 : ปฏิบัติต่อลูกค้ าอย่ างเป็ นธรรม และยึดถือประโยชน์ ลูกค้ าเป็ นสาคัญ

เรื่องที่ 1 : รักษาผลประโยชน์ ของผู้เอาประกันภัย


1. ข้อใดกล่าวถูกต้ องเกีย่ วกับการปฏิบัติตามจรรยาบรรณนายหน้ า
ก. นายเอ รักษาความลับของลูกค้ามากกว่าความลับของบริ ษทั
ข. นายเอ ไม่พยายามดึ งลู กค้าเดิ มของตนมาเป็ นลู กค้าของบริ ษทั ใหม่ ยกเว้นว่าบริ ษทั เดิ มไม่มีตวั แทนประกัน
วินาศภัยที่เหมาะสมอยูใ่ นบริ ษทั ประกันภัยเดิม
ค. นายเอ เข้าร่ วมกิจกรรมของชมรม สมาคมอย่างสม่าเสมอ
ง. นายเอ ไม่ แนะนาลูกค้ าซื้อประกันภัยเกินความเสี่ ยงภัยทีม่ ี
2. ข้อใดที่นายหน้าทาถูกต้ องตามจรรยาบรรณ
ก. ขายประกันให้มากที่สุด
ข. รักษาผลประโยชน์ของตนเอง บริ ษทั และผูเ้ อาประกันภัย
ค. ศึกษาผลประโยชน์ เงื่อนไข ความคุม้ ครอง และรายละเอียดต่างๆ
ง. ถูกทุกข้ อ
3. ท่านคิดว่าการเป็ นนายหน้ าประกันวินาศภัยทีด่ ีควรปฏิบัติตนเช่ นไร
ก. ขายประกันวินาศภัยให้ได้เบี้ยประกันภัยมากที่สุด จะได้ผลงานมากๆ เพื่อเลื่อนตาแหน่ง
ข. ขายประกันวินาศภัยให้ได้เบี้ยประกันภัยมากที่สุด จะได้ช่วยให้ธุรกิจประกันภัยเจริ ญเติบโต
ค. ขายประกันวินาศภัยให้ ได้ เบีย้ ประกันภัยมากที่สุด แต่ ก็ควรคานึงถึงผู้เอาประกันภัยว่ าให้ ได้ รับผลประโยชน์
มากทีส่ ุ ด เช่ นเดียวกัน
ง. ขายประกันวินาศภัยให้ได้เบี้ยประกันภัยมากที่สุด จะได้ชื่อว่าเป็ นตัวแทนประกันวินาศภัยที่ขยันหมัน่ เพียร
น่ายกย่อง
4. ข้อใดเป็ นสิ่ งที่นายหน้าประกันวินาศภัยไม่ ควรปฏิบัติ
ก. ยกย่องบุคคลผูอ้ ื่นที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพอย่างสม่าเสมอ
ข. ส่ งเสริ มและสนับสนุนให้เพื่อนร่ วมงานศึกษาวิชาการประกันภัย
ค. ให้คาปรึ กษาเมื่อลูกค้าร้องขอ แม้วา่ ลูกค้าไม่ได้ทาประกันภัยกับตนแล้ว
ง. ถือว่ าผลประโยชน์ ส่วนตัวทีค่ วรได้ รับ ต้ องเท่ ากับผลประโยชน์ ทลี่ ูกค้ าจะได้ รับจากการบริการของตน

5. ท่านคิดว่านายหน้ าทีร่ ักษาผลประโยชน์ ของผู้เอาประกันภัย จะมีจรรยาบรรณข้อใด


ก. ค านึ ง ถึ ง ส่ วนได้เสี ย และไม่ ป ฏิ บ ตั ิ ก ารใดๆ ที่ อาจขัดแย้ง ทางด้า นผลประโยชน์ ที่ จะส่ ง ผลกระทบต่ อ
ผลประโยชน์ ของลูกค้า บริ ษทั นายหน้าอื่น และผูท้ ี่เกี่ยวข้อง
ข. ไม่เสนอแนะผูข้ อเอาประกันภัยทาประกันภัยเกินความเสี่ ยงภัย และไม่มีความจาเป็ น
ค. ไม่สร้างความขัดแย้งในเรื่ องผลประโยชน์ ระหว่างผูเ้ อาประกันภัย บริ ษทั และผูเ้ กี่ยวข้อง
ง. ถูกทุกข้ อ

6. นายหน้าประกันวินาศภัยมีการให้ บริการผู้เอาประกันภัยอย่ างไร


ก. ให้บริ การอย่างดีในปี แรก สาหรับปี ต่อๆไปไม่จาเป็ นแล้ว เพราะผูเ้ อาประกันภัยต่างก็รู้หน้าที่ของตนแล้ว
ข. ช่วยกรอกใบคาขอแทนผูเ้ อาประกันภัย เพื่อจะได้ไม่รบกวนเวลาผูเ้ อาประกันภัยและเป็ นการบริ การที่ดี
ค. ให้การบริ การต่อผูเ้ อาประกันภัยที่ จ่ายเบี้ ยประกันภัยสู งมากกว่าผูท้ ี่ จ่ายเบี้ ยประกันภัยต่ า ทั้งนี้ เพื่อความ
ยุติธรรมต่อทุกฝ่ าย
ง. ให้ บริการผู้เอาประกันภัยอย่ างสม่าเสมอ

7. การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 มีจานวนเงินเอาประกันภัยสู งมาก แต่ เบี้ยประกันภัยก็สูงมาก


สาหรับผู้มีรายได้ น้อย จะมีผลอย่างไร
ก. เป็ นผลดีต่อผูเ้ อาประกันภัย เพราะผูเ้ อาประกันภัยจะได้รับผลประโยชน์สูง
ข. เป็ นผลเสี ยต่ อผู้เอาประกันภัย เพราะผู้เอาประกันภัยจะไม่ สามารถชาระเบีย้ ประกันภัยได้
ค. เป็ นผลดีต่อผูเ้ อาประกันภัย เพราะจะทาให้บริ ษทั ได้รับเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้น
ง. ไม่มีผลเสี ยหาย มีแต่ผลดีท้ งั นั้น
8. นาย ก. เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยได้แนะนาให้ ข. ทาประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ทั้งๆที่ทราบว่ารถยนต์ของ ข.
เพิ่งเสี ยหายจากอุบตั ิเหตุเฉี่ ยวชนต้นไม้ โดยไม่ ได้ แจ้ งให้ บริ ษัททราบว่ ารถเพิ่งเกิดอุบัติเหตุมา ถามว่า ก. เป็ นนายหน้า
ประกันวินาศภัยที่ดีหรื อไม่
ก. เป็ นนายหน้า ประกันวิน าศภัย ที่ ไ ม่ ดี เพราะการแนะนาเช่ นนั้น เป็ นการไม่ ซื่ อ สั ตย์ต่อบริ ษ ัท ไม่ รัก ษา
ผลประโยชน์ให้บริ ษทั
ข. เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ไม่ดี เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตน
ค. เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัย ที่ ดี เพราะพยายามช่ วยเหลื อ ข. และความจริ งเรื่ องการเฉี่ ย วชนเป็ นเรื่ อง
เล็กน้อยของการทาประกันภัยรถยนต์
ง. ถูกทั้ง ก. และ ข.
9. นาย ก. เป็ นนายหน้าได้ทาให้ ข. ตกลงทาประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 โดย ข. ได้ชาระเบี้ยประกันภัยเป็ นที่เรี ยบร้อย
ครั้นเมื่อถึ งวันส่ งมอบกรมธรรม์ ก. ได้ นากรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 ให้ แก่ ข. โดยได้ช้ ี แจงว่า ข. จะ
ได้รับความคุ ม้ ครองมากกว่าการประกันภัยประเภท 2 และขอเก็บเบี้ยประกันภัยเพิ่ม ท่านคิดว่า ก. ทาถูกต้องตาม
จรรยาบรรณหรื อไม่
ก. ถูกต้อง เพราะ ก. หวังดีที่จะให้ ข. ได้ความคุม้ ครองที่ดีกว่า
ข. ไม่ ถูกต้ อง เพราะ ก. มีผลประโยชน์ ทบั ซ้ อนและไม่ มีความซื่อสั ตย์ ต่อผู้เอาประกันภัย
ค. ถูกต้อง เพราะ ก. ได้ช้ ี แจงให้ ข. ทราบถึงความคุม้ ครองที่ ข. จะได้รับจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
ประเภท 1
ง. ไม่ถูกต้อง เพราะ ก. มาเก็บเบี้ยประกันภัยอีก
10. นาย ก. เป็ นนายหน้าและเป็ นเจ้าของอู่ซ่อมรถที่มีมาตรฐานสู ง และเป็ นตัวแทนจาหน่ายอะไหล่รถยนต์ของแท้และมี
คุณภาพ ก. มักแนะนาให้ ลูกค้ าผู้ซื้อประกันภัยให้ นารถเข้ าซ่ อมในอู่ตนเอง ท่านคิดว่าพฤติกรรมของ ก. ในฐานะที่เป็ น
นายหน้าเข้าข่ายใดมากที่สุด
ก. เห็นประโยชน์และแนะนาประโยชน์สูงสุ ดให้แก่ลูกค้า
ข. ดูแล บริ การลูกค้าอย่างดี ตั้งแต่การรับประกันภัย และเรื่ องสิ นไหมทดแทน
ค. เต็มใจ ใส่ ใจลูกค้าให้ได้บริ การที่ดีที่สุด
ง. มีพฤติกรรมทีอ่ าจขัดแย้งทางด้ านผลประโยชน์ โดยตรง และ/หรือทีจ่ ะส่ งผลกระทบต่ อผลประโยชน์ ของลูกค้ า

เรื่องที่ 2 : การชี้แจงรายละเอียดการประกันภัย
1. เมื่อบริ ษทั ประกันภัยออกกรมธรรม์ประกันภัยอุบตั ิเหตุส่วนบุคคลแบบใหม่ ผู้เอาประกันภัยซึ่ งเป็ นลูกค้ าของท่ าน
ต้ องการเปลีย่ นกรมธรรม์ ประกันภัยเป็ นแบบทีอ่ อกใหม่ ท่านควรทาอย่างไร เพื่อให้ถูกต้องตามจรรยาบรรณ
ก. เปลี่ยนกรมธรรม์ประกันภัยตามความต้องการของลูกค้า
ข. ศึ ก ษาผลประโยชน์ ข องกรมธรรม์ ป ระกันภัย ใหม่ พร้ อมทั้งชี้ แจงข้ อ ดี ข้อ เสี ยของการเปลี่ยนกรมธรรม์
ประกันภัยใหม่ และเบีย้ ประกันภัยทีเ่ ปลีย่ นแปลง
ค. ไม่ควรเปลี่ยนให้ เพราะผิดจรรยาบรรณ
ง. ศึกษาผลประโยชน์ของกรมธรรม์ประกันภัยใหม่ ถ้าดีกว่า นายหน้าสามารถจัดการเปลี่ยนให้ลูกค้าได้
2. จากคากล่ าวที่ ว่า “ นายหน้าที่ ดีน้ นั ควรปฏิ บตั ิ ต่อลู กค้า อย่า งเป็ นธรรม ให้บริ การที่ ดีและสม่ าเสมอแก่ ผูเ้ อา
ประกันภัย โดยไม่ มีความจาเป็ นต้ องชี้ แจงให้ ผ้ ูเอาประกันภัยได้ ทราบถึงสิ ทธิ หน้าที่ และ ผลประโยชน์ที่ผูเ้ อา
ประกันภัยควรได้รับ ” ท่านคิดว่าคากล่าวข้างต้นนี้ ถูกต้องหรื อไม่
ก. ถูก การบริ การที่ดีอย่างสม่าเสมอ ก็เป็ นการเพียงพอแล้วสาหรับนายหน้าประกันวินาศภัยที่ดี
ข. ถูก เพราะสิ ทธิ หน้าที่ และผลประโยชน์ผเู ้ อาประกันภัยจะต้องศึกษาให้เข้าใจด้วยตนเองเท่านั้น ไม่จาเป็ นที่
นายหน้าประกันวินาศภัยต้องไปชี้แจงให้เข้าใจ
ค. ผิด เพราะการให้ คาชี้แจงแก่ ผ้ เู อาประกันภัยได้ ทราบถึงสิ ทธิ หน้ าที่ และผลประโยชน์ ที่ควรจะได้ รับเป็ นการ
กระทาอีกอย่างหนึ่งทีน่ ายหน้ าประกันวินาศภัยทีด่ ีควรจะกระทา
ง. ไม่มีขอ้ ใดถูก
3. ในการต่ออายุกรมธรรม์ประกันวินาศภัย ถ้ ามีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จากกรมธรรม์ประกันภัยเดิ ม สิ่ งที่นายหน้ าฯ
ต้ องทาคือ
ก. ชี้ แจงรายละเอียดของความเสี่ ยง ทุนประกันภัย ข้ อคุ้มครอง ข้ อยกเว้ นที่เปลี่ยนแปลง ราคารวมถึงสิ ทธิ
ประโยชน์
ข. ชี้แจงให้ผเู ้ อาประกันภัยอ่านรายละเอียด มิฉะนั้นจะมีผลต่อการพิจารณาค่าสิ นไหมทดแทน
ค. กรมธรรม์ประกันภัยจะถูกส่ งและระบุรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงตามที่ผเู ้ อาประกันภัยต้องการ
ง. นายหน้าฯ เป็ นผูม้ ีหน้าที่ดูแลรายละเอียดของความเสี่ ยงภัยที่เปลี่ยนแปลงให้ผเู ้ อาประกันภัย
4. นาย ก. เป็ นนายหน้าได้แนะนาให้ ข. ซึ่ งมี ฐานะไม่ ร่ า รวยนักท าประกันภัย สุ ข ภาพโดยเสนอแบบกรมธรรม์
ประกันภัยสุ ขภาพที่ให้ผลประโยชน์และความคุม้ ครองที่ดี แต่ ก. ไม่ ได้ อธิบายให้ ทราบถึงข้ อจากัด และข้ อยกเว้ น
ต่ างๆให้ ทราบ อันทาให้ ข. ตกลงทาประกันภัยสุ ขภาพ ถามว่า ก. เป็ นนายหน้าที่มีจรรยาบรรณหรื อไม่
ก. เป็ นนายหน้าที่มีจรรยาบรรณ เพราะแนะนากรมธรรม์ประกันภัยสุ ขภาพที่มีประโยชน์ต่อผูเ้ อาประกันภัย
ข. เป็ นนายหน้ าทีไ่ ม่ มีจรรยาบรรณ เพราะไม่ ซื่อสั ตย์ ต่อผู้เอาประกันภัย
ค. เป็ นนายหน้าที่ มีจรรยาบรรณ เพราะส่ วนที่ เป็ นข้อจากัดของกรมธรรม์ประกันภัยสุ ขภาพมักเป็ นที่ รู้กนั อยู่
ทัว่ ไปอยูแ่ ล้ว
ง. เป็ นนายหน้าที่ไม่มีจรรยาบรรณ เพราะกรมธรรม์ประกันภัยที่คุม้ ครองดีๆ มักจะคิดเบี้ยประกันภัยสู ง
5. นายจี๊ ดได้ทาประกันอัคคี ภยั กับนายจอน ซึ่ งเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัย แต่เนื่ องจากนายจี๊ ดเป็ นชาวบ้านที่ มี
ความรู้ เพียง ป.4 และนายจอนคิดว่าหากอธิ บายถึงสิ ทธิ ของผูเ้ อาประกันภัยให้แก่นายจี๊ดฟั งก็คงไม่มีประโยชน์ จึง
ไม่ อธิบายถึงสิ ทธิต่างๆ ของผู้เอาประกันภัย แต่จะคอยดูแลเป็ นพิเศษ ดังนี้การกระทาของนายจอนถูกต้องหรื อไม่
ก. ถูกต้อง เพราะเป็ นความสะดวกของผูเ้ อาประกันภัยเองที่ไม่ตอ้ งเปลืองสมอง
ข. ถูกต้อง เพราะนายจอนคอยดูแลเป็ นกรณี พิเศษ
ค. ไม่ ถูกต้ อง เพราะเป็ นหน้ าที่ของนายหน้ าที่จะต้ องอธิบายให้ ผ้ ูเอาประกันภัยทราบถึงสิ ทธิ หน้ าที่ เงื่อนไข
ความคุ้มครองต่ างๆ ของการประกันภัยประเภทดังกล่ าว
ง. ไม่ถูกต้อง เพราะนายจอนดูถูกความสามารถของผูเ้ อาประกันภัย
6. นาย ก. เป็ นนายหน้าได้ชกั ชวนให้ ข. ซื้ อกรมธรรม์ประกันภัยอุบตั ิเหตุส่วนบุคคล ทั้งๆที่ตวั เองทราบว่า ข. มี
อาชี พขับ รถแข่ง กรมธรรม์ประกันภัยอุบตั ิเหตุมีขอ้ ยกเว้นไม่คุม้ ครองความสู ญเสี ยจากขณะที่ผเู ้ อาประกันภัยแข่ง
รถทุ ก ชนิ ด แต่ ไ ม่ ไ ด้ ใ ห้ ค าแนะน า ข. ให้ เ ข้ า ใจในข้ อ ยกเว้ น ดั ง กล่ า ว อยากทราบว่า การกระท าของ ก. ผิ ด
จรรยาบรรณของนายหน้าหรื อไม่
ก. ผิด เพราะเป็ นการเสนอขายนอกเหนือเงื่อนไขแห่ งกรมธรรม์ ประกันภัย
ข. ไม่ผดิ เพราะผูเ้ อาประกันภัยควรอ่านกรมธรรม์ประกันภัยให้ละเอียดด้วยตนเอง
ค. ไม่ผดิ เพราะเป็ นหน้าที่ของผูเ้ อาประกันภัยต้องสอบถามเอง
ง. ไม่ ผิ ด เพราะผูเ้ อาประกัน ภัย อาจเสี ย ชี วิ ต จากอุ บ ตั ิ เ หตุ ก รณี อื่ นได้ก็ ไ ด้รั บ ความคุ ้ม ครองจากกรมธรรม์
ประกันภัย อุบตั ิเหตุได้
7. นาย ก. เป็ นเจ้าของโรงงาน ต้องการทาประกันอัคคีภยั กับ ข. ซึ่ งเป็ นนายหน้าและเป็ นญาติสนิทของตน โดย ข.
ได้แนะนาให้ ซื้อความคุ้มครองหลายๆอย่ าง เพื่อจะได้เงินชดใช้ค่าเสี ยหายมากขึ้น ซึ่ ง ก. ปฏิเสธ เนื่องจากโรงงาน
ขาดสภาพคล่องทางการเงินอยูแ่ ล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ข. พยายามพูดจาหว่านล้อมจนทาให้ ก. เปลี่ยนใจทาประกัน
อัคคีภยั ตามคาแนะนาของ ข. ท่านคิดว่าการกระทาของ ข. ผิดจรรยาบรรณหรื อไม่ อย่างไร
ก. ผิด เพราะเป็ นการเสนอแนะผู้ เอาประกันภั ยให้ ท าสั ญญาประกั นภั ยเกิ นความสามารถในการช าระเบี้ย
ประกันภัย
ข. ผิด เพราะไม่ทาตามความต้องการของผูเ้ อาประกันภัย
ค. ไม่ผดิ เพราะ ก. และ ข. เป็ นญาติสนิทชอบพอกัน
ง. ไม่ผดิ เพราะ ข. เสนอขายกรมธรรม์ประกันวินาศภัยที่ดีให้แก่ผเู ้ อาประกันภัย
8. นายแซมเป็ นเจ้าของโรงงาน ต้องการทาประกันอัคคีภยั กับนายซุ ง ซึ่ งเป็ นนายหน้าและเป็ นญาติสนิ ทของตน โดย
นายซุ งได้แนะนาให้ซ้ื อความคุ ม้ ครองหลายๆอย่างเพื่อจะให้ได้รับความคุ ม้ ครองตามความเสี่ ยงที่ มี ซึ่ งนายแซม
ปฏิเสธ แต่นายซุ งพยายามพูดจาหว่านล้อมจนทาให้นายแซมเปลี่ยนใจทาประกันอัคคีภยั ตามคาแนะนาของนายซุ ง
ท่านคิดว่าการกระทาของนายซุ งผิดจรรยาบรรณหรื อไม่ อย่างไร
ก. ผิด เพราะเป็ นการเสนอแนะผูเ้ อาประกันภัย ให้ท าสั ญ ญาประกันภัย เกิ นความสามารถในการช าระเบี้ ย
ประกันภัย
ข. ผิด เพราะไม่ทาตามความต้องการของผูเ้ อาประกันภัย
ค. ไม่ผดิ เพราะนายแซมและนายซุ งเป็ นญาติสนิทชอบพอกัน
ง. ไม่ ผดิ เพราะนายซุ งเสนอขายกรมธรรม์ ประกันวินาศภัยทีด่ ีให้ แก่ ผ้ เู อาประกันภัย
9. ธนาคาร ก. ซึ่ งมีใบอนุ ญาตประกอบธุ รกิ จนายหน้าประกันวินาศภัยมีนายสมานซึ่ งมีใบอนุ ญาตนายหน้าประกัน
วินาศภัยเป็ นผูจ้ ดั การสาขา นายสมานได้ รับนโยบายมาจากผู้บริ หารระดับสู งของธนาคาร ก. ให้ แนะนาลูกค้ าเงินกู้
ทาประกันภัยอัคคีภัยกับบริษัทประกันวินาศภัย ข. ซึ่ งเป็ นบริ ษัทลูกของธนาคาร ก. ให้ ได้ นายสมานไม่อยากทา
ผิดจรรยาบรรณของการเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัย จึงควรทาอย่างไร
ก. บอกลูกค้า ให้ไปกูเ้ งินจากธนาคารอื่นแทน
ข. บอกลูกค้าว่าอยากได้เงินกูจ้ ากธนาคาร ก. ต้องทาประกันอัคคีภยั กับบริ ษทั ประกันวินาศภัย ข. เท่านั้น
ค. บอกลูกค้ าธนาคาร ก. นาเสนอกรมธรรม์ ประกันอัคคีภัยของบริษัทประกันวินาศภัย ข. เพียงแห่ งเดียวแต่
ลูกค้ าสามารถหาความคุ้มครองของบริษัทประกันวินาศภัยอืน่ มาเปรียบเทียบได้
ง. บอกลูกค้าว่าในปี แรกนี้ ให้ทาประกันอัคคีภยั กับบริ ษทั ประกันวินาศภัย ข. ไปก่อน ไว้ปีหน้าอาจจะให้ทา
ประกันอัคคีภยั กับบริ ษทั ประกันวินาศภัยอื่นได้

10. นาย ก. เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยของบริ ษทั ประกันภัยแห่ งหนึ่ ง ได้เสนอขายแบบประกันวินาศภัยให้นาย ข.


ผูส้ นใจทาประกันภัย โดยได้ อธิบายถึงความคุ้มครอง เงื่อนไข สิ ทธิของกรมธรรม์ ประกันภัย ในแต่ ละแบบที่บริ ษัท
มี ปรากฏว่ านาย ข. ต้ องการความคุ้มครองมากกว่ าแบบประกันภัยที่บริ ษทั มี นาย ก. จึงเสนอแนะบริษัทให้ ออก
กรมธรรม์ ประกันภัยให้ มีความคุ้มครองตามที่ผ้ ูสนใจทาประกันภัยต้ องการ ท่านคิดว่าการกระทาของนาย ก. เป็ น
อย่างไร
ก. ถูกต้อง เหมาะสมกับการเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ดี
ข. ถูกต้ อง เหมาะสมกับการเป็ นนายหน้ าประกันวินาศภัยทีด่ ี เพราะไม่ หลอกลวงผู้ขอทาประกันภัย
ค. ถูกต้อง เหมาะสมกับการเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ดี เพราะไม่รักษาผลประโยชน์ให้แก่ลูกค้า
ง. ถูกต้อง เหมาะสมกับการเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ดี เพราะรักษาผลประโยชน์ให้แก่บริ ษทั

เรื่องที่ 3 : เปิ ดเผยข้ อความจริงอันเป็ นสาระสาคัญ


11. ข้อใดที่ถือว่านายหน้ามีความซื่อสั ตย์ เพราะรักษาผลประโยชน์ของผูเ้ อาประกันภัย
ก. แนะนาให้ ผ้ เู อาประกันภัยบอกเฉพาะความจริงซึ่งเป็ นสาระสาคัญของความเสี่ ยงภัย ข้ อใดไม่ ใช่ ข้อมูลจริ ง ก็
ให้ บริษัทประกันภัยไปตรวจสอบเอง
ข. บอกความจริ งอันเป็ นสาระสาคัญเพื่อการพิจารณารับประกันภัยของบริ ษทั
ค. ไม่แนะนาให้ผเู ้ อาประกันภัยยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยกรณี จะต่ออายุ หากผูเ้ อาประกันภัยเสี ยประโยชน์
ง. ไม่แนะนาให้ผเู ้ อาประกันภัยทาประกันภัยเกินความเสี่ ยงภัย
12. ข้อใดเป็ นการกระทาทีผ่ ดิ จรรยาบรรณของนายหน้าประกันวินาศภัย
ก. ไม่ลดหรื อเสนอที่จะลดค่าบาเหน็จ เพื่อจูงใจให้ลูกค้าทาประกันภัย
ข. ไม่กล่าวให้ร้ายทับถมนายหน้าหรื อนายหน้าประกันวินาศภัยหรื อบริ ษทั อื่น
ค. หมัน่ ศึกษาหาความรู ้ในวิชาชีพเพิม่ เติมอยูเ่ สมอ
ง. ช่ วยเหลือผู้เอาประกันภัยให้ ได้ ทาประกันภัย โดยการปกปิ ดข้ อเท็จจริงอันเป็ นสาระสาคัญบางอย่ าง

13. หากท่านได้เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยแล้ว ท่ านจะแนะนาให้ ผ้ ูเอาประกันภัยอย่ างไร จึงจะได้ ชื่อว่ าเป็ นนายหน้ า
ทีด่ ี
ก. แนะนาให้ ผ้ เู อาประกันภัยเปิ ดเผยข้ อความจริงของผู้เอาประกันภัยในส่ วนที่เป็ นสาระสาคัญ เพื่อการพิจารณา
รับประกันภัย หรือความสมบูรณ์ ของกรมธรรม์ ประกันภัย
ข. แนะนาให้ผเู ้ อาประกันภัยยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยเดิม เพื่อทากรมธรรม์ใหม่ที่เบี้ยถูกกว่า
ค. แนะนาให้ผเู ้ อาประกันภัยทาประกันภัยอุบตั ิเหตุหลายๆกรมธรรม์ เพื่อให้ได้วงเงินเอาประกันภัยอุบตั ิเหตุสูง
ง. ถูกทุกข้อ
14. นายหน้าประกันวินาศภัยจะต้องมีจรรยาบรรณในการชี้ ช่องให้บุคคลทาสัญญาประกันวินาศภัยกับบริ ษทั ประกันภัย
ข้ อต่ อไปนีข้ ้ อใดนายหน้ าประกันวินาศภัยควรปฏิบัติมากทีส่ ุ ด
ก. ต้องซื่ อสัตย์ต่อบริ ษทั ประกันวินาศภัยมากกว่าผูเ้ อาประกันภัย เพราะบริ ษทั คือนายจ้าง
ข. ต้องให้ความช่วยเหลือผูเ้ อาประกันภัย โดยสัญญาว่าจะมารับเบี้ยประกันวินาศภัยไปส่ งให้บริ ษทั ทุกปี เพราะ
การนาเบี้ยประกันภัยไปส่ งที่บริ ษทั ไม่ใช่หน้าที่ของผูเ้ อาประกันภัย
ค. ต้ องแนะนาให้ ผ้ ูเอาประกันภัยหรื อผู้ขอเอาประกันภัยเปิ ดเผยข้ อความจริ งซึ่ งเป็ นสาระสาคัญในการพิจารณา
รับประกันภัยหรือความสมบูรณ์ แห่ งกรมธรรม์
ง. ควรปฏิบตั ิดงั ข้อ ก. ข้อ ข. และข้อ ค.
15. นาย ก. ได้ทาประกันภัยสุ ขภาพกับนายหน้าโดย ก. มีโรคความดันโลหิ ตสู ง ซึ่ ง ก. สอบถามนายหน้าว่าจะต้อง
แจ้งไปในใบคาขอเอาประกันภัยสุ ขภาพหรื อไม่ นายหน้ าฯ บอกว่ าไม่ ต้องแจ้ งเพราะอาจจะทาให้ บริษัทไม่ รับทา
ประกันภัยสุ ขภาพให้กบั ก. นายหน้าผูน้ ้ ีทาผิดจรรยาบรรณข้อใด
ก. ไม่มีความซื่ อสัตย์ต่อผูเ้ อาประกันภัย
ข. ช่ วยปกปิ ดข้ อความจริงของผู้เอาประกันภัยในส่ วนทีเ่ ป็ นสาระสาคัญ และไม่ รักษาผลประโยชน์ ของบริษัท
ค. ให้บริ การที่ดี และรักษาผลประโยชน์ของผูเ้ อาประกันภัย
ง. รักษาความลับไม่ควรเปิ ดเผยของผูเ้ อาประกันภัย ในส่ วนที่เป็ นสาระสาคัญ
16. นาย ก. ได้ทาประกันภัยสุ ขภาพกับบริ ษทั ประกันวินาศภัยแห่งหนึ่ง โดยได้แจ้งแก่นายหน้าว่าตนเป็ นโรคเบาหวาน
นายหน้าเกรงว่า ถ้ าแจ้ งความจริ งให้ บริษัททราบแล้ วจะทาให้ การพิจารณารั บประกันภัยของบริษัทล่ าช้ า และหาก
เกิดปั ญหาภายหลังก็สามารถยกเลิกสัญญาได้ จึงไม่แจ้งแก่บริ ษทั ในกรณี น้ ีนายหน้าทาถูกหรื อไม่
ก. ถูกต้อง เนื่องจากนายหน้าพิจารณาเรื่ องการคุม้ ครองผลประโยชน์สูงสุ ดของผูข้ อทาประกันภัย
ข. ถูกต้อง เนื่องจากนายหน้าต้องการขายประกันภัยเพื่อผลประโยชน์ของบริ ษทั
ค. ผิด เนื่องจากนายหน้ าไม่ เปิ ดเผยข้ อความจริงของ ก. แก่ บริษัทในส่ วนที่เป็ นสาระสาคัญในการพิจารณารั บ
ประกันภัย และไม่ รักษาผลประโยชน์ ของบริษัท
ง. ผิด เนื่องจากนายหน้าเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย โดยไม่แจ้งเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ฯ
17. นาย ข. ได้ปลูกบ้านและใช้เป็ นที่เก็บวัสดุ ไวไฟเพื่อส่ งขาย ต่อมา ข. ต้องการซื้ อกรมธรรม์ประกันอัคคีภยั บ้าน
และได้รับคาแนะนาจากนายหน้าให้ทาเฉพาะประกันอัคคีภยั บ้าน โดยแนะนาให้ แจ้ งต่ อบริษัทประกันภัยว่ าสถานที่
ดังกล่ าว ใช้ เป็ นทีอ่ ยู่อาศัยเพียงอย่ างเดียว ซึ่งจะทาให้ ข. จ่ายเบี้ยประกันภัยน้อยลง ต่อมาสถานที่ดงั กล่าวถูกเพลิง
ไหม้โดยมีสาเหตุมาจากการเก็บประทัดไว้เพื่อส่ งไปขายเป็ นจานวนมาก ทาให้เกิ ดการระเบิดและลุ กไหม้ข้ ึน จง
พิจารณาข้อความข้างล่างนี้วา่ ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. นายหน้าได้ทาสิ่ งที่เหมาะสมแล้ว เพราะช่วยบริ ษทั ประกันภัยขยายธุ รกิจให้เจริ ญเติบโตอย่างรวดเร็ ว
ข. นายหน้ากระทาสิ่ งที่น่าสรรเสริ ญ เพราะช่วยให้ผทู ้ ี่มีปัญหาด้านการเงินทาประกันอัคคีภยั บ้านได้
ค. การกระทาของนายหน้าเช่นนี้ ช่วยรักษาผลประโยชน์แก่บริ ษทั ประกันภัย
ง. การกระทาของนายหน้ าเช่ นนีไ้ ม่ สมควรยิง่ เพราะผิดจรรยาบรรณอย่างร้ ายแรง ควรช่ วยกันขจัดให้ หมดไป
18. นายบาดใจเป็ นนายหน้า แนะนาให้ผเู ้ อาประกันภัยกรอกใบคาขอเอาประกันภัยด้วยตัวเอง และแนะนาให้ผเู ้ อา
ประกันภัยตอบคาถามตามความเป็ นจริ ง อันเป็ นสาระสาคัญ และให้ระมัดระวังในการตอบคาถามเพื่อประโยชน์ใน
การเรี ยกร้องค่าสิ นไหมทดแทน และยังขอสาเนาทะเบียนบ้านผูเ้ อาประกันภัยเพื่อแนบไปกับใบคาขอเอาประกันภัย
พร้อมตรวจสอบรายละเอียดทุกคาถามและรายละเอียดในหลักฐานที่ได้รับมา หากมีขอ้ สงสัยจะสอบถามไปยังผูเ้ อา
ประกันภัยก่อน ถือว่านายบาดใจปฏิบัติตามหน้ าทีต่ ัวแทนได้ ดีหรือไม่
ก. ปฏิบตั ิหน้าที่ตวั แทนได้ดี แต่เป็ นการไม่อานวยความสะดวกแก่ผเู ้ อาประกันภัย อาจทาให้เกิดความล่าช้า
ข. ปฏิบตั ิหน้าที่ตวั แทนได้ดี แต่เป็ นการบริ การผูเ้ อาประกันภัยไม่ได้มาตรฐาน
ค. ปฏิบตั ิหน้าที่สมกับการเป็ นตัวแทนที่ดี แต่ไม่ควรนามาเป็ นตัวอย่าง เพราะเป็ นความสามารถเฉพาะตัว
ง. ปฏิบัติหน้ าทีส่ มกับการเป็ นตัวแทนทีด่ ี ถือว่ าเป็ นการรักษาผลประโยชน์ ให้ แก่ ผ้ เู อาประกันภัยและบริษัท

เรื่องที่ 4 : ให้ บริการลูกค้ าอย่ างสมา่ เสมอ


19. ตัวแทนประกันวินาศภัยมีการให้บริ การผูเ้ อาประกันภัยอย่างไร
ก. ให้บริ การอย่างดีในปี แรก สาหรับปี ต่อๆไปไม่จาเป็ นแล้ว เพราะผูเ้ อาประกันภัยต่างก็รู้หน้าที่ของตนแล้ว
ข. ช่วยกรอกใบคาขอแทนผูเ้ อาประกันภัย เพื่อจะได้ไม่รบกวนเวลาผูเ้ อาประกันภัยและเป็ นการบริ การที่ดี
ค. ให้ก ารบริ ก ารต่ อผูเ้ อาประกันภัย ที่ จ่า ยเบี้ ย ประกันภัยสู ง มากกว่า ผูท้ ี่ จ่ายเบี้ ย ประกันภัย ต่ า ทั้ง นี้ เพื่ อความ
ยุติธรรมต่อทุกฝ่ าย
ง. ให้ บริการผู้เอาประกันภัยอย่ างสม่าเสมอ
20. ตัวแทนมีหน้าที่ชกั ชวนให้ผเู ้ อาประกันภัยทาประกันภัยกับบริ ษทั ประกันวินาศภัย ข้ อใดที่ถือว่ าเป็ นข้ อควรปฏิบัติ
มากทีส่ ุ ด
ก. ลดค่าบาเหน็จให้แก่ผเู ้ อาประกันภัย
ข. ติดตามให้ บริการแก่ ผ้ เู อาประกันภัยทีด่ ีอย่ างสม่าเสมอ
ค. ปกปิ ดเรื่ องสุ ขภาพของผูเ้ อาประกันภัย เพื่อให้บริ ษทั รับประกันภัย
ง. ควรปฏิบตั ิทุกข้อ
21. ในการให้บริ การเก็บเบี้ยประกันวินาศภัยจากผูเ้ อาประกันภัยของตัวแทนประกันวินาศภัย ท่ านคิดว่ าการกระทาใน
ข้ อใดทีแ่ สดงถึงความมีคุณภาพทีด่ ีของตัวแทนประกันวินาศภัย
ก. ติ ด ตามและให้ ค วามส าคัญ กับ ผู ้เ อาประกัน ภัย ที่ มี จ านวนเงิ น เอาประกัน ภัย สู ง เป็ นอัน ดับ แรก เพื่ อ
ผลประโยชน์ของบริ ษทั ประกันภัย เพราะผูเ้ อาประกันภัยที่มีจานวนเงินเอาประกันภัยสู ง เบี้ยประกันวินาศภัย
ที่ส่งให้บริ ษทั ประกันภัยย่อมจะสู งตามไปด้วย
ข. ติ ดตามและให้ความส าคัญกับ ผูเ้ อาประกันภัยโดยปฏิ บ ตั ิ อย่างเป็ นธรรมและยึดถื อผลประโยชน์ข องผูเ้ อา
ประกันภัยเป็ นสาคัญ
ค. ให้บริ การที่ดีและสม่าเสมอแก่ผเู ้ อาประกันภัยทุกคน ทั้งในด้านการเก็บเบี้ยประกันภัย โดยออกเอกสารแสดง
การรับเงินของบริ ษทั ประกันภัยทุกครั้งและการเรี ยกค่าสิ นไหมทดแทน
ง. ถูกทั้งข้ อ ข. และข้ อ ค.
22. นาย ก. และ ข. เป็ นเพื่อนกัน และมีอาชี พเป็ นตัวแทนเช่นเดียวกัน วันหนึ่ ง ก. ได้ขายประกันภัยรถยนต์ให้กบั
ค. และก็ทราบมาว่า ข. ก็เสนอขายประกันภัยรถยนต์ให้กบั ค. ด้วย แต่ แบบประกันภัยรถยนต์ ที่ ข. เสนอขายไม่
เหมาะสมกับ ค. ดังนั้น ก. ควรจะปฏิบตั ิอย่างไร
ก. ไม่เสนอการขายประกันภัยรถยนต์ให้กบั ค. เพราะเกรงใจ ข. แต่เสนอขายประกันภัยประเภทอื่นๆแทน
ข. เลิกความคิดที่จะขายประกันภัยรถยนต์ให้กบั ค.
ค. ขายประกันภัยรถยนต์ให้กบั ค. โดยตนเองเลือกแบบที่คิดว่าเหมาะสมกับ ค. มากกว่า
ง. ขายประกันภัยรถยนต์ ให้ กับ ค. โดยเสนอแนะให้ เลือกแบบที่เหมาะสมและแนะนา ค. ว่ าควรพิจารณาเลือก
แบบ การประกันภัยรถยนต์ ตามความต้ องการของตน
23. นาย ก. และ ข. เป็ นตัวแทนทั้งคู่ เรื่ องปรากฏว่า ค. ได้ทาประกันภัยรถยนต์ไว้กบั ก. ต่อมา ก. ไม่มาให้บริ การ
ค. ทั้งการรับชาระเบี้ยประกันภัยปี ต่อไปหรื อการเคลม จนกระทัง่ ข. ได้ พบกับ ค. และได้ บริการ ค. แทน ก. เป็ น
อย่ างดี ซึ่ ง ก. เห็นว่ า ข. เป็ นคนดีและได้ บริการตนมานานจึงคิดตอบแทน ข. โดยการทาประกันอัคคีภัยกับ ข.
อีกกรมธรรม์ประกันอัคคีภยั ฉบับหนึ่ง และ ข. ก็รับทาประกันภัยให้ ดังนี้การกระทาของ ข. ถือว่าผิดจรรยาบรรณ
ต่อเพื่อนร่ วมอาชีพหรื อไม่
ก. ผิด เพราะ ข. ได้ประโยชน์จากลูกค้าของตัวแทนคนอื่น
ข. ผิด เพราะ ข. แย่งลูกค้าของ ก. ซึ่งเป็ นตัวแทนเช่นเดียวกัน
ค. ไม่ผดิ เพราะ ค. ขอทาประกันภัยกับ ข. เอง
ง. ไม่ผดิ เพราะการกระทาทั้งหมดของ ข. มิได้เป็ นการแย่งลูกค้าเลย
24. ส่ วนใหญ่เมื่อนายหน้าประกันวินาศภัยขายกรมธรรม์ประกันภัยไปแล้ว ในปี ต่อไปนายหน้าประกันวินาศภัยมักจะ
ละเลยไม่ไปเก็บบริ การเก็บเบี้ยประกันภัย ทั้งๆ ที่บอกกับผูเ้ อาประกันภัยว่าจะเป็ นผูม้ าเก็บเอง ถามว่าการละเลยไม่
ไปเก็บเบี้ยประกันภัยของนายหน้าประกันวินาศภัยเป็ นการขาดจรรยาบรรณหรื อไม่
ก. ขาดจรรยาบรรณ เพราะไม่ มีความหมั่นเพียรในการบริการ
ข. ขาดจรรยาบรรณ เพราะไม่มีความซื่ อสัตย์ต่อผูเ้ อาประกันภัย
ค. ไม่ขาดจรรยาบรรณ เพราะเป็ นหน้าที่ของผูเ้ อาประกันภัยที่จะต้องไปชาระเบี้ยเอง
ง. ถูกทั้ง ก. และ ข.
25. นายเจ๋ งได้ทาประกันความเสี่ ยงภัยทรัพย์สินโรงงานกับบริ ษทั ยินดี ประกันภัย โดยมีนายก้องเป็ นตัวแทนประกัน
วินาศภัย ต่ อมานายเจ๋ งกับนายก้ อ งได้ มีเรื่ องบาดหมางและทะเลาะกัน นายก้ องจึ งไม่ ดูแลกรมธรรม์ ประกันภัย
ดังกล่ าวของนายเจ๋ งและได้ ให้ นางแต๋ วซึ่ งเป็ นตัวแทนประกันวินาศภัยดูแลแทน ดังนี้ นายก้องทาผิดจรรยาบรรณ
หรื อไม่
ก. ผิด เพราะเป็ นหน้ าทีข่ องตัวแทนประกันวินาศภัยทีจ่ ะต้ องคอยดูแลผู้เอาประกันภัยในทุกกรณี
ข. ผิด เพราะเป็ นเรื่ องส่ วนตัวไม่เกี่ยวกับจรรยาบรรณ
ค. ไม่ผดิ เพราะเป็ นทางออกที่ดีเพื่อประโยชน์ของผูเ้ อาประกันภัย
ง. ไม่ผดิ เพราะนายก้องสามารถมอบให้นางแต๋ ว ซึ่ งเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยดูแลได้
26. นาย ก. เป็ นผูเ้ อาประกันภัยรถยนต์ ซึ่ งกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ได้ถึงกาหนดวันชาระเบี้ยประกันภัยตามที่ระบุ
ไว้ใน กรมธรรม์แล้ว จึงได้โทรศัพท์ไปบอก ข. ผูเ้ ป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยให้มาเก็บเบี้ยประกันภัย และ ข.
ตกลงรับว่ าจะมาเก็บเบีย้ ประกันภัยในวันรุ่ งขึน้ แต่ ข. ไม่ ได้ ไปตามนัด ถามว่า ข. ผิดจรรยาบรรณหรื อไม่
ก. ไม่ผดิ เพราะไม่ก่อให้เกิดความเสี ยหายแก่ผเู ้ อาประกันภัย และไม่ขาดความรับผิดชอบเรื่ องการบริ การ
ข. ผิด เพราะแสดงถึงการขาดความรับผิดชอบในเรื่ องการบริ การ
ค. ไม่ผดิ เพราะ ข. ไม่ได้โกหก ตั้งใจไปแต่เผอิญลืม
ง. ผิด เพราะทาให้ผเู ้ อาประกันภัยเสี ยผลประโยชน์ เนื่องจากทาให้กรมธรรม์ประกันภัยขาดผลบังคับ
27. นาย ก. เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยได้ชกั ชวนให้นาย ข. ซึ่ งเป็ นเพื่อนที่ทางานที่ เดี ยวกันกับพี่ชายของคนทา
ประกันวินาศภัย หลังจากนั้น 5 ปี นาย ข. ได้เลื่อนตาแหน่งสู งขึ้น ทาให้พี่ชายนาย ก. และนาย ก. ไม่พอใจและ
ไม่ไปเก็บเบี้ ยประกันภัยจากนาย ข. เมื่ อถึ งกาหนด รวมทั้งเมื่อมี การเรี ยกร้ องค่าสิ นไหมทดแทน นาย ก. ก็ไม่
สนใจให้บริ การเหมือนที่เคยปฏิบตั ิมาก่อน การกระทาเช่นนี้เป็ นการผิดจรรยาบรรณและศีลธรรมหรื อไม่
ก. ผิด เพราะไม่ได้ให้บริ การที่ดีแก่ผเู ้ อาประกันภัยอย่างสม่าเสมอ
ข. ผิด เพราะนาเอาเรื่ องส่ วนตัวมาเกี่ยวข้องกับเรื่ องงาน ทาให้เสื่ อมเสี ยชื่อเสี ยงของผูเ้ อาประกันภัย
ค. ไม่ผิด เพราะถึงแม้นาย ก. จะไม่ไปเก็บเบี้ยประกันภัยก็เป็ นหน้าที่นาย ข. ต้องเป็ นผูน้ าไปจ่ายให้แก่บริ ษทั
เอง
ง. ไม่ผดิ เพราะเมื่อนาย ก. ไม่ให้บริ การแก่นาย ข. นาย ข. สามารถแจ้งแก่บริ ษทั ประกันวินาศภัยให้นายหน้า
อื่นมาบริ การแทนได้
28. ปั ญหาที่นายหน้าประกันวินาศภัยไม่มาเก็บเบี้ยประกันภัย และให้บริ การแก่ผเู ้ อาประกันภัย โดยที่ผเู ้ อาประกันภัย
ไม่ทราบถึงผลเสี ยนั้น ท่านมีความเห็นว่า
ก. นายหน้าประกันวินาศภัยควรแจ้งให้ผเู ้ อาประกันภัยทราบล่วงหน้าว่าการมาเก็บเบี้ยประกันภัยเป็ นเพียงการ
ให้ บ ริ ก าร ถ้า นายหน้า ไม่ ม าเก็ บ เบี้ ย ประกัน ภัย ตามก าหนด เป็ นหน้า ที่ ข องผูเ้ อาประกัน ภัย ต้องส่ ง เบี้ ย
ประกันภัยให้ถึงบริ ษทั
ข. เป็ นหน้าที่ของนายหน้าประกันวินาศภัยที่ตอ้ งรับผิดชอบความเสี ยหายที่เกิดขึ้นหากไปเก็บเบี้ยประกันภัยไม่
ตรงตามกาหนด
ค. เป็ นการกระทาที่ผิดจรรยาบรรณ ในข้อที่ ไม่ให้บริ การที่ ดีอย่างสม่ าเสมอ และไม่ช้ ี แจงให้ผเู ้ อาประกันภัย
ทราบถึงสิ ทธิและหน้าที่
ง. ถูกทั้งข้ อ ก. และ ค.
29. นาย ก. เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยของบริ ษทั ประกันภัยแห่ งหนึ่ ง ได้เสนอขายแบบประกันวินาศภัยให้นาย ข.
ผูส้ นใจทาประกันภัย โดยได้ อธิบายถึงความคุ้มครอง เงื่อนไข สิ ทธิของกรมธรรม์ ประกันภัย ในแต่ ละแบบที่บริ ษัท
มี ปรากฏว่ านาย ข. ต้ องการความคุ้มครองมากกว่ าแบบประกันภัยที่บริ ษทั มี นาย ก. จึงเสนอแนะบริษัทให้ ออก
กรมธรรม์ ประกันภัยให้ มีความคุ้มครองตามที่ผ้ ูสนใจทาประกันภัยต้ องการ ท่านคิดว่าการกระทาของนาย ก. เป็ น
อย่างไร
ก. ถูกต้อง เหมาะสมกับการเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ดี
ข. ถูกต้ อง เหมาะสมกับการเป็ นนายหน้ าประกันวินาศภัยทีด่ ี เพราะไม่ หลอกลวงผู้ขอทาประกันภัย
ค. ถูกต้อง เหมาะสมกับการเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ดี เพราะไม่รักษาผลประโยชน์ให้แก่ลูกค้า
ง. ถูกต้อง เหมาะสมกับการเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ดี เพราะรักษาผลประโยชน์ให้แก่บริ ษทั
30. นายเอ เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัย ได้แนะนาให้นายบีซ้ื อกรมธรรม์ประกันอัคคีภยั บ้านแบบพิเศษ ฉว เนื่ องจาก
พิจารณาแล้วเห็ นว่าน่าจะมีความเหมาะสมและให้ประโยชน์กบั นายบีมากที่สุด นายบีตกลงที่จะทาประกันอัคคีภัย
บ้ านแต่ ขอเลือกกรมธรรม์ ประกันภัยแบบที่มีอัตราเบีย้ ประกัน ภัยถูก นายเอควรจะพิจารณาเรื่ องอย่างไรจึงจะเป็ น
ทางออกที่ดีที่สุด
ก. เสนอทางเลือกในการจัดสรรรายได้และบริ หารค่าใช้จ่ายของนายบี เพื่อให้นายบีทาประกันอัคคีภยั บ้านแบบ
พิเศษ ฉว
ข. ไม่ตอ้ งแนะนาอะไร ทาตามความต้องการของนายบี
ค. ต้องโน้มน้าวให้นายบีทาประกันอัคคีภยั บ้านแบบพิเศษ ฉว ต่อไปจนกว่าจะสาเร็ จ
ง. ทาตามความต้ องการของนายบีแต่ ต้องอธิบายให้ นายบีเข้ าใจอย่ างถูกต้ องถึงความคุ้มครองที่จะได้ รับตามแบบ
ทีน่ ายบีเลือก
31. นาย ก. ได้ทาประกันภัยโรคร้ ายแรงให้กบั นาย ข. ซึ่ งเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัย ต่อมานาย ก. ไม่สบายและ
เข้า รั ก ษาที่ โ รงพยาบาลแห่ ง หนึ่ ง ก่ อ นที่ นาย ก. จะออกจากโรงพยาบาล นาย ข. มาเยี่ย มไข้ และได้เ ห็ น
ใบเสร็ จรับเงินที่ใช้เบิกเงินจากบริ ษทั ประกันสุ ขภาพของนาย ก. แต่ ไม่ มีใบรั บรองแพทย์ ประกอบจะเป็ นเหตุให้ นาย
ก. เสี ยสิ ทธิ นาย ข. จึงขอให้ แพทย์ ออกใบรับรองอีกหนึ่งฉบับทาให้ นาย ก. ได้ รับเงินจากบริ ษัทประกันสุ ขภาพ
เต็มที่ ดังนี้ การกระทาของนาย ก. ถูกต้องหรื อไม่
ก. ถูกต้ อง เพราะเป็ นการรักษาประโยชน์ ของผู้เอาประกันภัย
ข. ถูกต้อง เพราะนาย ก. ยังไม่ได้เบิกค่ารักษาพยาบาล
ค. ไม่ถูกต้อง เพราะทาให้บริ ษทั ประกันภัยเสี ยเงินมากกว่าเดิม
ง. ไม่ถูกต้อง เพราะเป็ นการโกงเงินบริ ษทั ประกันภัยให้ผเู ้ อาประกันภัย

เรื่องที่ 5 : ยกเลิกกรมธรรม์ ประกันภัย


32. นาย ก. เป็ นนายหน้า มักจะได้ยิน ข. ซึ่ งเป็ นเพื่อนบ่นเสมอว่า นายหน้า ฯ ที่ ข. ได้ทาประกันภัยสุ ข ภาพด้วย
ให้บริ การไม่ดี ไม่สามารถที่จะปรึ กษาหรื อขอทราบข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับการประกันภัยสุ ขภาพได้ ก. จึงเสนอให้
ข. เลิกกรมธรรม์ ประกันภัยเดิมและมาทาประกันภัยสุ ขภาพใหม่กบั ตน ท่านเห็นว่า ก. กระทาถูกต้องเหมาะสม
หรื อไม่
ก. ถูกต้อง เพราะการประกันวินาศภัยเป็ นการบริ การ เมื่อนายหน้าประกันวินาศภัย บริ การไม่ดีก็ควรจะเลิกได้
ข. ไม่ถูกต้อง เพราะการเลิ กกรมธรรม์ประกันภัย และทาประกันภัยใหม่ ทาให้ผเู ้ อาประกันภัยเสี ยประโยชน์
เพราะอาจต้องเสี ยเบี้ยประกันภัยมากขึ้นจากการที่อายุมากขึ้น
ค. ไม่ถูกต้อง เพราะผูเ้ อาประกันภัยอาจเสี ยผลประโยชน์ แต่ ก. อาจเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยอื่นให้ ข. ที่
เหมาะสม โดยไม่จาเป็ นต้องยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยเดิม
ง. ถูกทั้งข้ อ ข. และ ข้ อ ค.
33. นางสาวสวยเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัย ต้องการเสนอขายกรมธรรม์ประกันอัคคีภยั ที่อยูอ่ าศัย ระยะเวลา 5 ปี
ซึ่ งเสี ยเบี้ยประกันภัยที่ถูกกว่า ให้กบั นายหล่อ แต่ปรากฎว่านายหล่อทาประกันภัยบ้านหลังนี้ กบั บริ ษทั ประกันภัย
อื่นมาแล้ว 6 เดือน นางสาวสวยจึงแนะนาให้ นายหล่ อยกเลิกกรมธรรม์ ประกันภัยเดิม เพื่อจะได้เบี้ยประกันภัยคืน
ส่ ว นหนึ่ ง แล้ว มาท าประกัน ภัย กับ บริ ษ ัท ประกัน ภัย ที่ ต นสั ง กัด อยู่ ท่ า นคิ ด ว่า นางสาวสวยปฏิ บ ัติ ถู ก ต้อ งตาม
จรรยาบรรณนายหน้าประกันวินาศภัยหรื อไม่
ก. ไม่ถูกต้อง เพราะเป็ นการแย่งงานบริ ษทั ประกันภัยอื่น
ข. ไม่ ถู ก ต้ อ ง เพราะผู้ เ อาประกัน ภั ย เสี ยประโยชน์ จ ากการยกเลิ ก กรมธรรม์ ป ระกัน ภั ย และการรั บ เงิ น เบี้ย
ประกันภัยจากกรมธรรม์ ประกันภัยเดิม
ค. ถูกต้อง เพราะนางสาวสวย มีความซื่ อสัตย์ต่อบริ ษทั ประกันภัยที่ตนสังกัดอยู่
ง. ถูกต้อง เพราะลูกค้าจะได้รับการบริ การที่เสี ยเบี้ยประกันภัยใหม่ที่ถูกกว่า
34. บริ ษ ัท แห่ ง หนึ่ ง อยู่ใ นช่ ว งการแข่ ง ขัน ผลงาน นาย ก. ซึ่ งเป็ นนายหน้า ประกัน วินาศภัย จึ ง พยายามเสนอขาย
กรมธรรม์ใหม่ให้แก่ ลูกค้าที่ทามา 2-3 ปี โดยนาย ก. ได้บอกแก่ นาย ข. ลูกค้าเก่ าว่ากรมธรรม์เดิ มล้าสมัย
กรมธรรม์แบบใหม่ให้ผลประโยชน์มากกว่า แต่นาย ข. บอกว่าขณะนี้ ยงั ไม่มีเงิน จะมีเงินอีก 2 เดือนข้างหน้า ซึ่ ง
จะหมดระยะเวลาแข่งขันแล้ว นาย ก. จึงแนะนาให้ นาย ข. ยกเลิกกรมธรรม์ เดิม เพื่อนาเงินมาชาระเบี้ยประกันภัย
สาหรับกรมธรรม์ใหม่ การกระทาของนาย ก. ผิดจรรยาบรรณเพราะอะไร
ก. เพราะนาย ก. เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว
ข. เพราะนาย ก. แนะนาให้ผเู ้ อาประกันภัยยกเลิกกรมธรรม์เดิมเพื่อซื้ อกรมธรรม์ใหม่
ค. เพราะทาให้ผเู ้ อาประกันภัยเสี ยผลประโยชน์
ง. ข้ อ ข. และ ค. ถูก
35. นาย ข. ได้ตกลงทากรมธรรม์ประกันอัคคีภยั กับนายหน้าโดยเขียนใบคาขอเอาประกันภัยและลงชื่ อในใบคาขอเอา
ประกันภัยเรี ยบร้อย เมื่อนายหน้าได้นาใบคาขอเอาประกันภัย พร้อมเบี้ยประกันภัยของ ข. มาส่ ง บริ ษทั ปรากฏว่า
บริษัทได้ ออกแบบการประกันอัคคีภัยแบบใหม่ ซึ่งมีความคุ้มครองตรงความต้ องการมากกว่ าและดีกว่ า นายหน้ าจึง
กลับไปหา ข. และแนะนาว่ า ข. สามารถเปลี่ยนกรมธรรม์ การประกันภัยแบบใหม่ ได้ การกระทาของนายหน้าผิด
จรรยาบรรณหรื อไม่
ก. ผิด เพราะเป็ นการยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยเก่าเพื่อซื้ อใหม่
ข. ผิด เพราะจุดประสงค์ของ ข. ต้องการซื้ อกรมธรรม์ประกันภัยแบบเดิม
ค. ไม่ผดิ เพราะนายหน้าสามารถยกเลิกกรมธรรม์เก่าเพื่อซื้ อใหม่ โดยที่ผเู ้ อาประกันภัยไม่ได้เสี ยผลประโยชน์
ง. ไม่ ผดิ เพราะกรมธรรม์ ประกันภัยของ ข. ยังไม่ ออก ไม่ ถือว่ าไม่ เป็ นการยกเลิกกรมธรรม์ ประกันภัยเก่ าเพื่อ
ซื้อกรมธรรม์ ประกันภัยใหม่

จรรยาบรรณ 3 : ปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชี พและพัฒนาความรู้ ความสามารถให้ รองรั บต่ อการ


เปลีย่ นแปลงของธุรกิจ
เรื่องที่ 1 : หน้ าทีข่ องนายหน้ า

36. หน้ าทีข่ องนายหน้ าประกันวินาศภัยตามกฎหมาย คือข้อใด


ก. ทาหน้าที่ในการชักชวนผูเ้ อาประกันภัย ให้ทาสัญญาประกันภัยกับบริ ษทั ประกันภัยที่ตนสังกัด
ข. ทาหน้าที่ในการชี้ช่องทางให้ผเู ้ อาประกันภัย ให้ทาสัญญาประกันภัยกับบริ ษทั ประกันภัยที่ตนสังกัด
ค. ทาหน้าที่ในการชักชวนผูเ้ อาประกันภัย ให้ทาสัญญาประกันภัยกับบริ ษทั ประกันภัยใดๆ ที่มีชื่อเสี ยง
ง. ทาหน้ าทีใ่ นการชี้ช่องให้ ผ้ เู อาประกันภัย ทาสั ญญาประกันภัยกับบริษัทประกันภัยใดๆ ทีม่ ีชื่อเสี ยง
37. ข้อใดเป็ นหน้ าทีข่ องนายหน้ าในการให้ ข้อมูล เกี่ยวกับการประกันภัยที่ถูกต้องต่อลูกค้า
ก. ให้ ข้อมูลที่ถูกต้ อง และไม่ ให้ ข้อมูลที่ทาให้ ผ้ ูเอาประกันภัยเข้ าใจผิดเกี่ยวกับการประกันภัยทั้งก่ อน ระหว่ าง
และหลังการขาย หรือการทาสั ญญา
ข. ไม่ให้ขอ้ มูลที่ทาให้ผเู ้ อาประกันภัยเข้าใจผิดเกี่ยวกับการประกันภัยก่อนทาประกันภัย หรื อ ระหว่างทาสัญญา
ค. ให้ขอ้ มูลที่ถูกต้องในความเสี่ ยงภัย ที่ผเู ้ อาประกันภัยทาประกันภัย
ง. ไม่ให้ขอ้ มูลที่จะทาให้ผรู ้ ับประกันภัย เข้าใจผิดเกี่ยวกับการประกันภัยก่อนทาประกันภัย หรื อทาสัญญา
38. นายหน้าจะต้ องมีจรรยาบรรณในการชี้ช่อง ให้บุคคลทาสัญญาประกันวินาศภัยกับบริ ษทั ประกันวินาศภัย ดังนี้
ก. นายหน้าในฐานะคนกลาง ต้องให้ขอ้ มูลที่เป็ นกลาง ไม่ก่อให้เกิดส่ วนได้เสี ยกับผูท้ ี่เกี่ยวข้อง
ข. ให้บริ การที่ดีอย่างสม่าเสมอ และชี้แจงให้ผเู ้ อาประกันภัยทราบถึงสิ ทธิ และหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของ
ผูเ้ อาประกันภัย
ค. ไม่เสนอแนะผูเ้ อาประกันภัยให้ทาสัญญาประกันอัคคีภยั เกินกว่ามูลค่าบ้านที่แท้จริ ง
ง. ถูกทุกข้ อ

39. ข้อใดที่ถือว่านายดาปฏิบัติต่อลูกค้ าถูกต้ องตามหลักจรรยาบรรณ


ก. นายดาเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่มีความซื่ อสัตย์ แต่ติดเหล้า
ข. นายดาเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ขยันหาความรู ้ แต่ไม่เคยมีโอกาสอธิ บายให้ผเู ้ อาประกันภัยทราบ
ค. นายดาเป็ นนายหน้า ประกันวินาศภัย ที่ ป กปิ ดความลับอันไม่ค วรเปิ ดเผยของผูเ้ อาประกันภัย ต่อบุ ค คลอื่ น
รวมถึงไม่เปิ ดเผยให้ผทู ้ ี่เกี่ยวข้องคนอื่นๆด้วย
ง. นายดาเป็ นนายหน้ าประกันวินาศภัยที่ชวนเพื่อนร่ วมอาชี พให้ ปฏิบัติถูกต้ องตามหลักปฏิบัติของสานักงาน
คปภ.
40. นางสาวขิงได้สมัครเป็ นนายหน้าประกันชีวติ ที่ส่งงานของบริษัท หนึ่งประกันชี วิต จากัด และเป็ นนายหน้ าประกัน
วินาศภัยทีส่ ่ งงานของบริษัท สองประกันภัย จากัด โดยนางสาวขิงส่ งงานประกันภัยให้ แก่ บริษัทประกันภัยทั้งสอง
เสมอมาโดยไม่ มีปัญหาแต่ อย่างใด ท่านคิดว่าการกระทาของนางสาวขิงนั้นมีความซื่ อสัตย์หรื อไม่
ก. มี เพราะนางสาวขิง มิได้กระทาการสิ่ งใดที่ขดั ต่อศีลธรรมเลย
ข. มี เพราะเป็ นสิ ทธิ ของนางสาวขิง ที่จะส่ งงานให้กบั บริ ษทั ประกันภัยใดๆ ที่ตนเองมีใบอนุญาตประเภทนั้นๆ
ค. ไม่มี เพราะนางสาวขิง ไม่ซื่อสัตย์ต่อบริ ษทั ประกันภัยที่ตนส่ งงาน
ง. ไม่มี เพราะนางสาวขิง ไม่ปฏิบตั ิภายใต้เงื่อนไขของบริ ษทั ประกันภัยที่ตนส่ งงาน
41. นาย ก. มีอาชีพส่ งหนังสื อพิมพ์ ต่อมานาย ก. มาเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยแต่ยงั คงส่ งหนังสื อพิมพ์ในตอนเช้า
เสร็ จแล้วและแต่งตัวออกไปทางานเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัย การกระทาของนาย ก. ถือว่าผิดต่อจรรยาบรรณ
และศีลธรรมของนายหน้าประกันวินาศภัยหรื อไม่
ก. ผิด เพราะนาย ก. ทางานที่ไม่ธารงไว้ซ่ ึ งเกียรติ ศักดิ์ศรี
ข. ผิด เพราะนาย ก. ทางานอื่นนอกจากงานประกันอันผิดต่ออาชีวปฎิญาณ
ค. ไม่ ผดิ เพราะไม่ มีอะไรห้ ามนาย ก. ส่ งหนังสื อพิมพ์ตอนเช้ า
ง. ไม่มีขอ้ ถูก
42. นาย ก. เป็ นนายหน้าขายประกันอุบตั ิเหตุส่วนบุคคล ให้ ข. ซึ่ งตกลงทาประกันภัย จึงได้กรอกรายละเอียดในใบ
คาขอ ฯ พอ ก. กลับบ้านจึงไปตรวจความเรี ยบร้ อยในใบคาขอฯ นั้น พบว่า ข. ลืมลงชื่ อในใบคาขอฯ นาย ก.
นายหน้ าจึงตัดสิ นใจลงชื่อแทน เพื่อยืน่ ใบคาขอทาประกันภัยในวันรุ่ งขึ้น ถามว่าการกระทาของ ก. ถูกต้องหรื อไม่
ก. ถูกต้อง ก. สามารถลงชื่อแทน ข. ได้เพื่อรักษาผลประโยชน์ผเู ้ อาประกันภัย
ข. ถูกต้อง ก. สามารถลงชื่อแทน ข. ได้เพราะผูเ้ อาประกันภัยตกลงทาประกันภัยอุบตั ิเหตุส่วนบุคคลแล้ว
ค. ไม่ ถูกต้ อง ก. ไม่ สามารถลงชื่อแทน ข. ได้ นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังผิดจรรยาบรรณ
ง. ไม่ถูกต้อง ก. ไม่สามารถลงชื่อแทน ข. ได้ เพราะผิดจรรยาบรรณ แต่ไม่ผดิ กฎหมาย

เรื่องที่ 2 : การเสนอลดค่ าบาเหน็จ


43. ข้อใดเป็ นสิ่ งที่นายหน้าประกันวินาศภัยพึงปฏิบัติ
ก. ไม่เปิ ดเผยข้อความจริ งของผูเ้ อาประกันภัยในส่ วนที่เป็ นสาระสาคัญเพื่อการพิจารณารับประกันภัย
ข. ไม่เสนอขายกรมธรรม์นอกเหนือเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย
ค. ช่วยเหลือเพื่อให้ผเู ้ อาประกันภัยจ่ายเบี้ยประกันภัยน้อยที่สุด
ง. ไม่ เสนอลดค่ าบาเหน็จเพือ่ จูงใจให้ เอาประกันภัย
44. นาย ก. สนใจทาประกันวินาศภัย แต่มีเงื่อนไขว่านายหน้าประกันวินาศภัยจะต้ องลดค่ าบาเหน็จ ให้ ถ้าท่านเป็ น
นายหน้าท่านจะ
ก. ไม่ ขายประกันวินาศภัยให้ กบั นาย ก. เพราะผิดจรรยาบรรณนายหน้ าประกันวินาศภัย
ข. ไม่ขายประกันวินาศภัยให้กบั นาย ก. เพราะถือว่าเป็ นการช่วยเหลือกัน
ค. ขายประกันวินาศภัยให้กบั นาย ก. เพราะถือว่าเป็ นการช่วยเหลือกัน
ง. ขายประกันวินาศภัยให้กบั นาย ก. เพราะค่าบาเหน็จเป็ นส่ วนของนายหน้าประกันวินาศภัยจะลดค่าบาเหน็จ
ให้ผเู ้ อาประกันภัยก็ยอ่ มทาได้
45. ข้อใดถูกต้อง
ข้อหนึ่ง : การไม่ ลดหรือเสนอทีจ่ ะลดค่ าบาเหน็จ เพื่อจูงใจเอาประกันวินาศภัยเป็ นสิ่ งที่ควรปฏิบตั ิ
ข้อสอง : การที่แนะนาให้ผเู ้ อาประกันภัยทาประกันภัยตัวทุนประกันภัยที่สูง โดยไม่จาเป็ นต้องคานึ งถึงจานวน
เบี้ยประกันภัยที่ตอ้ งชาระเป็ นสิ่ งที่ควรปฏิบตั ิ เพราะทาให้ ผ้ เู อาประกันภัยได้ รับประโยชน์ มากที่สุด
ก. ข้ อหนึ่งถูก ข้ อสองผิด
ข. ถูกทั้งข้อหนึ่งและข้อสอง
ค. ข้อหนึ่งผิด ข้อสองถูก
ง. ผิดทั้งข้อหนึ่งและข้อสอง
46. นาย ก. เป็ นหัวหน้าหน่วยนายหน้า ชวนเพื่อนของตน คือ นางสาว ข. ให้ช่วยทาประกันภัยกับตนเพื่อทาผลงาน
ให้ได้ตามเป้ าหมาย โดยนาย ก. ได้ ลดค่ าบาเหน็จให้ แก่ นางสาว ข. การกระทาดังกล่ าวของนาย ก. จะขัดกับ
จรรยาบรรณของนายหน้าหรื อไม่
ก. ไม่ขดั เพราะทาให้เพื่อนของตนเองมีหลักประกันภัยในชีวติ ด้วยการทาประกัน
ข. ไม่ขดั เพราะเพื่อนกันก็ตอ้ งช่วยกัน นอกจากนี้เพื่อนได้ทาประกันภัยด้วย
ค. ขัด เพราะเป็ นการลดค่ าบาเหน็จเพือ่ จูงใจให้ เอาประกันวินาศภัย
ง. ขัด อาจทาให้ระบบบริ การนายหน้าล้มเหลวเนื่องจากนายหน้าอื่นจะปฏิบตั ิตาม
47. คุณสมบัติของการเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยข้อหนึ่ งบอกว่า นายหน้าประกันวินาศภัยต้องมีความซื่ อสัตย์จริ งใจ
ต่อผูเ้ อาประกันภัยและเพื่อนร่ วมอาชีพ ข้ อใดต่ อไปนีท้ จี่ ะแสดงให้ เห็นว่ า นายหน้ าประกันวิน าศภัยมีความจริงใจใน
การช่ วยเหลือผู้เอาประกันภัย แต่ ประพฤติตนผิดจรรยาบรรณและศี ลธรรมของผูป้ ระกอบอาชี พนายหน้าประกัน
วินาศภัย
ก. ผูเ้ อาประกันภัยยังไม่มีเงิ นชาระเบี้ ยประกันภัยของงวดถัดไป จึ งเสนอให้ความช่ วยเหลื อโดยการพาผูเ้ อา
ประกันภัยไปกูเ้ งินจากบริ ษทั เพื่อนามาชาระเบี้ยประกันภัย
ข. ไปบริ การเก็บเบี้ยประกันภัยทุกงวดอย่างสม่าเสมอ และคอยให้ความช่วยเหลือในการติดต่อกับบริ ษทั แทนผู ้
เอาประกันภัย
ค. เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่มีอุดมการณ์วา่ ต้องสร้างสรรค์สังคม และหาวิถีทางที่จะให้กลไกของประกัน
วินาศภัยได้รับใช้สังคมมากที่สุด โดยการชักชวนให้ครอบครั วที่ มีรายได้น้อยทาประกันวินาศภัยแต่ความ
คุม้ ครองเฉพาะบางอย่างเท่านั้น เพื่อให้เบี้ยประกันภัยต่า
ง. ผู้ขอเอาประกันภัยมีภาระต้ องใช้ เงินมากในขณะทีจ่ ะต้ องจ่ ายเบีย้ ประกันภัยงวดแรก จึงให้ ความช่ วยเหลือโดย
การลดเงินค่ าบาเหน็จจากเบีย้ ประกันภัยให้ ครึ่งหนึ่งเพือ่ เป็ นการจูงใจให้ ทาประกันภัย

เรื่องที่ 3 : หมัน่ ศึกษาหาความรู้ และพัฒนาตนเอง


48. นายพรชัยเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ดี มีความรู ้ ดา้ นประกันวินาศภัย และชอบนาความรู ้ที่มีไปบอกต่อเพื่อน
นายหน้าด้วยกัน เพื่อให้นายหน้าไปอธิ บายต่อผูเ้ อาประกันภัยได้ ถือว่านายพรชัยปฏิบตั ิตามจรรยาบรรณข้อใด
ก. พัฒนาตนเองอยูเ่ สมอ
ข. ส่ งเสริมและสนับสนุนจรรยาบรรณและวิชาชี พจรรยาบรรณนายหน้ าประกันวินาศภัยให้ เป็ นทีย่ อมรับ
ค. เป็ นเพื่อนร่ วมอาชีพที่ดี
ง. ทาตัวให้เป็ นผูร้ ู้
49. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการพัฒนาความรู้ ของนายหน้าประกันวินาศภัย
ก. ความรู้ เป็ นสิ นทรัพย์ นายหน้ าต้ องหมั่นศึกษาหาความรู้
ข. กรมธรรม์ประกันภัยมี 4 ประเภท นายหน้ามีความรู ้เฉพาะประเภทกรมธรรม์ประกันภัยที่มี
ค. กรมธรรม์ประกันภัยมีหลากหลายประเภท นายหน้ามีความรู ้เฉพาะบางประเภทพอ
ง. กรมธรรม์ประกันภัย เงื่อนไข ความคุม้ ครอง เทคโนโลยี กฎหมาย นายหน้าเรี ยนรู ้ท้ งั สี่ เรื่ องนี้อย่างต่อเนื่ อง
50. มีคากล่าวหนึ่งว่า “ รู้ มาก ยากนาน ” คานี้ มีความหมายกับอาชีพนายหน้าฯอย่างไร
ก. เราไม่ควรเสี ยเวลาไปอบรมความรู ้บ่อยๆ เพราะเสี ยเวลาทามาหากิน
ข. หากมีความรู ้มาก จะทาให้ทางานไม่เป็ น
ค. มีความรู้ มาก แต่ ไม่ นาความรู้ มาใช้ ประโยชน์ รั งแต่ จะแสวงหาความรู้ ที่ไม่ เกี่ยวกับเรื่ องของตนหรื ออาชี พ
ของตน ทาให้ ไม่ ประสบความสาเร็จในชีวติ
ง. เราเป็ นนายหน้าฯ แค่ชกั ชวนเท่านั้น ไม่ตอ้ งรู ้มาก
51. มีผกู ้ ล่าวว่า “ การเปลีย่ นแปลงนโยบายด้ านการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา มีผลต่ อการประกันภัยในประเทศไทย
” ประโยคใดถูกต้องที่สุด
ก. เป็ นไปไม่ได้ ไม่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันเลย
ข. เป็ นไปได้เพียงเล็กน้อย เพราะนโยบายดังกล่าวอาจมีผลต่อการลงทุนของนักลงทุนชาวอเมริ กนั ที่ลงทุนกับ
บริ ษทั ประกันภัยในสหรัฐอเมริ กา
ค. เป็ นไปได้ เพราะนโยบายดั ง กล่ า วอาจมี ผ ลต่ อ การลงทุ น ของนั ก ลงทุ น ชาวอเมริ กั น ที่ ล งทุ น กั บ บริ ษั ท
ประกันภัยใน สหรัฐอเมริกาและประเทศไทย
ง. แน่นอนที่สุด เพราะบริ ษทั ประกันภัยไทยอาศัยเงินลงทุนจากสหรัฐอเมริ กา
52. เพราะเหตุใด นายหน้ าจึงต้ องผ่ านการอบรมเมื่อจะต่ ออายุใบอนุญาต
ก. นายหน้าต้องมีความรู ้เท่ากัน กับความเสี่ ยงภัยและปั จจัยแวดล้อมของความเสี่ ยงที่เปลี่ยนแปลง เพื่อสามารถ
แนะนาลูกค้าได้อย่างถูกต้อง
ข. นายหน้าต้องมีการพัฒนาตนเองอย่างสม่าเสมอ
ค. นายหน้าต้องสร้างความศรัทธา ความน่าเชื่อถือแก่ผเู ้ อาประกันภัย
ง. ถูกทุกข้ อ
53. ก่อนการสอบเป็ นนายหน้าที่ดีตอ้ งศึกษาหาความรู ้ ในเรื่ องประกันวินาศภัยและกรมธรรม์ประกันภัย รู ปแบบต่างๆ
ให้เข้าใจ และเมื่อเป็ นนายหน้าแล้ว นายหน้ าทีด่ ีต้องศึกษาหาความรู้ ต่อหรื อไม่
ก. ไม่จาเป็ นต้องศึกษาหาความรู ้เพิ่มขึ้น เพราะความรู ้เรื่ องประกันวินาศภัยก็คงมีเท่าเดิม
ข. ต้ องหมั่นศึ กษาหาความรู้ ในเรื่ องประกันวินาศภัย แบบการประกันวินาศภัย และความรู้ ในส่ วนที่เกี่ยวกับ
วิชาชีพ เพือ่ พัฒนาตนเองตลอดเวลา
ค. ต้องหมัน่ ศึกษาถึงแบบการประกันวินาศภัยใหม่ๆ ที่มีขายเพิ่มมากขึ้นในตลาด
ง. ต้องเรี ยนสู งขึ้นเรื่ อยๆ เพื่อใช้ในการเลื่อนตาแหน่ง
54. ข้อความใดกล่าวถูกต้ องเกีย่ วกับจรรยาบรรณของนายหน้ าประกันวินาศภัย
ก. รักษาความลับในส่ วนที่ถือเป็ นสาระสาคัญในการพิจารณารับประกันวินาศภัยของผูเ้ อาประกันภัยต่อบริ ษทั
และบุคคลอื่น
ข. แนะนาให้ผูเ้ อาประกันภัยยกเลิ กกรมธรรม์ประกันภัยเดิ มที่ทากับบริ ษทั อื่ น เพราะนายหน้าของบริ ษทั นั้น
ให้บริ การไม่ดี และเปลี่ยนมาทาสัญญากับบริ ษทั ประกันวินาศภัยที่ตนส่ งงาน
ค. หมั่นศึกษาหาความรู้ ในวิชาชี พเพิม่ เติมอยู่เสมอ
ง. เห็นคล้อยตามเมื่อผูเ้ อาประกันภัยกล่าวตาหนินายหน้าประกันวินาศภัย และบริ ษทั อื่น
55. เหตุผลสาคัญที่นายหน้าประกันวินาศภัย ต้ องศึกษาหาความรู้ เพิม่ เติมอยู่เสมอ คือ
ก. เพื่อให้เป็ นไปตามจรรยาบรรณที่ถูกกาหนดขึ้น
ข. เพื่อหาทางทาให้ผเู ้ อาประกันตกลงซื้ อกรมธรรม์ประกันภัยกับตน
ค. เพือ่ พัฒนาตนเองให้ ทนั กับความก้ าวหน้ าของธุรกิจทีพ่ ฒ ั นา
ง. เพื่อสร้างความมัน่ ใจว่าจะสามารถขายประกันวินาศภัยได้
56. ท่านคิดว่าจรรยาบรรณของนายหน้าประกันวินาศภัยข้อใดที่สอนให้นายหน้ารู้ จักการพัฒนาตนเองให้ มีคุณภาพทีด่ ี
ก. ให้บริ การที่ดีอย่างสม่าเสมอ และชี้แจงให้ผเู ้ อาประกันภัยทราบถึงสิ ทธิ และหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของ
ผูเ้ อาประกันภัย
ข. รักษาความลับอันมิควรเปิ ดเผยของผูเ้ อาประกันภัยและของบริ ษทั ประกันภัยต่อบุคคลภายนอก
ค. การหมั่นศึกษาหาความรู้ ประสบการณ์ ในรู ปแบบต่ างๆ ในวิชาชี พเพิม่ เติม อย่ างต่ อเนื่อง
ง. ดูแลบุคลิกภาพให้ดีอยูเ่ สมอ
57. ท่านคิดว่า ท่ านต้ องมีความรู้ ด้านใดบ้ าง ในการทาอาชีพนายหน้าประกันวินาศภัย
ก. ความรู ้เรื่ อง เศรษฐกิจ การเงิน การธนาคาร
ข. ความรู้เรื่ อง กฎหมาย และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
ค. ความรู ้เรื่ อง กรมธรรม์ประกันภัยต่างๆ ที่ตอ้ งการขาย
ง. ถูกทุกข้อ
58. บริ ษทั ประกันภัยแห่ งหนึ่ งมัก เพิ่มจานวนนายหน้าประกันวินาศภัย เพื่อขยายธุ รกิ จ โดยไม่มี การอบรมนายหน้า
ประกันวินาศภัยให้เพิ่มพูนความรู ้ เพราะเสี ยค่าใช้จ่ายโดยไม่ได้รับผลตอบแทนไม่มากนัก สาหรับท่านมีความคิด
เห็นอย่างไร
ก. เห็นด้วย เพราะการเสี ยค่าใช้จ่ายในการเพิ่มนายหน้าประกันวินาศภัย คุม้ ค่ากว่าการอบรมเพิ่มพูนความรู ้
ข. เห็นด้วย เพราะการจัดอบรมสัมมนานายหน้าประกันวินาศภัย นอกจากเสี ยค่าใช้จ่ายแล้วยังเสี ยเวลาการขาย
อีกด้วย
ค. ไม่เห็นด้วย เพราะหากนายหน้าประกันวินาศภัยมีความรอบรู ้แล้ว จะสามารถให้ขอ้ แนะนาต่อผูท้ าประกันภัย
อันมีผลสื บเนื่องถึงชื่อเสี ยงและการขยายธุ รกิจของบริ ษทั ในอนาคต
ง. ไม่เห็นด้วย เพราะนายหน้าประกันวินาศภัยจะไม่ได้รับวิธีการใหม่ๆในการขยายตลาด
59. นายหน้ าเข้ าถึงจรรยาบรรณได้ จากแหล่งใด
ก. บริ ษทั ประกันวินาศภัยที่ตนเองสังกัด
ข. สมาคมประกันวินาศภัย
ค. สมาคมนายหน้าประกันวินาศภัย
ง. ถูกทั้ง ก. และ ข.
60. นาย ก. เป็ นหัวหน้าหน่วยนายหน้าประกันวินาศภัย ของบริ ษทั ประกันวินาศภัยแห่ งหนึ่ ง ซึ่ ง นาย ก. มีหน้าที่ให้
คาแนะนาความรู ้ ต่างๆ เกี่ยวกับการประกันวินาศภัยและเทคนิ คการขายให้กบั นายหน้าอยูเ่ สมอ เพื่อให้นายหน้ามี
ความรู ้นาไปใช้ให้คาแนะนาผูเ้ อาประกันภัยอย่างถูกต้อง ดังนั้นนาย ก. ปฏิบตั ิตามหลักจรรยาบรรณนายหน้าข้อใด
ก. มีความซื่ อสัตย์ต่อเพื่อนร่ วมอาชีพ
ข. หมั่นศึกษาหาความรู้ ในวิชาชี พเพิม่ เติมอยู่เสมอ
ค. ให้บริ การที่ดีอย่างสม่าเสมอ
ง. ประพฤติตนอยูใ่ นศีลธรรมประเพณี อนั ดีงาม
61. นายมานิต เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่มีวุฒิการศึกษาระดับปริ ญญาตรี และกาลังเรี ยนต่ อปริ ญญาโท การศึกษา
ของนายมานิตมีผลกระทบต่อลูกค้าด้านใด
ก. ไม่มีผล เพราะสาขาที่เรี ยนอาจไม่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย
ข. มีผล เพราะนายหน้าฯที่มีความรู ้ดี น่าจะสามารถดูแล ให้คาแนะนาเรื่ องความเสี่ ยงต่างๆได้ดี
ค. ไม่มีผล เพราะการเป็ นนายหน้าฯ ไม่ตอ้ งใช้ความรู ้มากมายอะไร
ง. มีผล เพราะนาย ก. เป็ นคนน่าคบหาสมาคม เพราะมีการศึกษาสู ง
62. นาย ก. เป็ นนายหน้า มีอาชีพรองเป็ นอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่ งหนึ่ง การมีอาชีพนี้มีผลกระทบต่อลูกค้าด้านใด
ก. มีผลต่ อลูกค้ าในเรื่องความเชื่ อถือ และน่ าจะสามารถช่ วยดูแลเรื่องความเสี่ ยงต่ างๆได้ อย่ างเหมาะสม
ข. มีผลต่อลูกค้า เพราะอาจช่วยแนะนาลูกค้าเรื่ องการสอบเข้าเรี ยนต่อระดับมหาวิทยาลัยได้
ค. มีผลต่อลูกค้า เพราะนายหน้าคนนี้ อาจไม่สนใจดูแลลูกค้า เนื่องจากมีงานรองเป็ นอาจารย์มหาวิทยาลัย
ง. ไม่มีผลต่อลูกค้า เพราะนายหน้าที่ดีข้ ึนกับนิสัยส่ วนตัว
63. นาย ก. เป็ นนายหน้าที่หมั่นหาความรู้ ในวิชาชี พเพิ่มเติมอยูเ่ สมอ และนาความรู ้ ที่ได้ไปใช้ในการให้บริ การลูกค้า
แสดงให้เห็นว่านาย ก. เป็ นนายหน้าเช่นไร
ก. มีความรับผิดชอบต่อลูกค้า เพราะว่าได้ให้บริ การที่ดีและเชื่อถือได้ต่อลูกค้า
ข. มีความรับผิดชอบต่อสังคม เพราะนายหน้าผูน้ ้ นั จะรับใช้สังคมได้อย่างมีประสิ ทธิภาพและสร้างสรรค์สังคม
ค. มีความรับผิดชอบต่ออาชี พ เพราะอาชี พนายหน้าเป็ นอาชี พอิสระเช่นเดียวกับอาชี พอื่นๆ ที่ผปู ้ ระกอบอาชี พ
ต้องใฝ่ หาความรู ้เพิ่มเติมอยูเ่ สมอ
ง. ถูกทุกข้ อ
64. นาย ก. เป็ นนายหน้าที่มีบุคลิกภาพที่ดี มีมนุ ษยสั มพันธ์ และสามารถอธิ บายเรื่ องยากให้ เป็ นที่เข้ าใจได้ โดยง่ าย
บุคลิกภาพนี้ จะมีผลกระทบต่อลูกค้าด้านใด ประโยคใดถูกต้องที่สุด
ก. เป็ นคนทีน่ ่ าเชื่ อถือ เพราะสามารถสร้ างความมั่นคง ปลอดภัยให้ แก่ ลูกค้ าได้
ข. เป็ นคนน่าเชื่อถือ เพราะพูดเก่ง
ค. เป็ นคนที่ตอ้ งระมัดระวัง เพราะอาจเป็ น พวกสิ บแปดมงกุฎ ที่คอยล่อลวงคนได้
ง. เป็ นคนที่น่าคบ
65. นาย ก. เป็ นหัวหน้าที่มีบุคลิกภาพที่ดี สร้างมนุ ษยสัมพันธ์เก่ง อธิ บายเรื่ องราวต่างๆได้เป็ นอย่างดี มีเสน่ ห์และมี
เพือ่ นต่ างเพศมากมาย บุคลิกภาพนี้ จะมีผลกระทบต่อลูกค้าด้านใด
ก. เป็ นคนที่น่าเชื่อถือ เพราะสามารถสร้างเพื่อนได้จานวนมาก
ข. เป็ นคนที่น่าเชื่อถือ เพราะพูดเก่ง
ค. เป็ นคนทีต่ ้ องระมัดระวัง เพราะอาจเป็ นคนปากหวาน เหลาะแหละ ไม่ มั่นคง
ง. เป็ นคนที่ไม่ดี นอกจากจะหลอกเอาเงินเราแล้ว อาจสร้างความเสี ยหายด้านอื่นๆอีก
66. นายเอกเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ขยันและประสบความสาเร็ จในการขายกรมธรรม์ประกันวินาศภัยและใช้
เวลาสาหรับการอบรมเพิ่มเติมความรู ้เกี่ยวกับการประกันวินาศภัยอยูเ่ สมอ และมักนาความรู ้ที่ได้ไปขยายโอกาสใน
การเสนอขายประกันภัยบ้าง ท่านคิดว่าการกระทาของนายเอก มีลกั ษณะอย่างไร
ก. นายเอก เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ไม่ดี ควรใช้เวลาในการหาลูกค้าเพิ่มจะดีกว่า
ข. นายเอก เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ไม่ดี เพราะทาให้ลูกค้าเดิมสับสน
ค. นายเอก เป็ นนายหน้ าประกันวินาศภัยทีด่ ี รู้ จักหาความรู้ เพิม่ เติมให้ แก่ ตนเอง
ง. นายเอก สับสนในบทบาทและหน้าที่ของตนในการเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ดี
67. นายแก้ว เป็ นนายหน้าที่มีผลงานมาก นอกจากนี้แล้วก็ยงั ขยันหาความรู้ เกีย่ วกับการประกันวินาศภัยอยู่เสมอ เมื่อมี
การอบรมเกี่ ยวกับการประกันวินาศภัยที่นายแก้ว เห็นว่าเกี่ยวข้องและมีประโยชน์กบั ตนเองก็จะเข้าร่ วมอบรมด้วย
และก็นาความรู ้ ที่ได้มานี้ มาบอกเล่าให้ผเู ้ อาประกันภัยและบุคคลอื่นทราบด้วย ท่านคิดว่าการกระทาของนายแก้ว
เป็ นนายหน้าที่ดีหรื อไม่
ก. เป็ นนายหน้าที่ไม่ดี ควรใช้เวลาในการบริ การผูเ้ อาประกันภัยจะดีกว่า
ข. เป็ นนายหน้าที่ดี ที่ส่งเสริ มจรรยาบรรณวิชาชีพตน สมควรที่จะยึดถือเป็ นแบบอย่าง
ค. เป็ นนายหน้าที่ดี รู ้จกั หาความรู ้เพิม่ เติมให้แก่ตนเอง
ง. ถูกทั้ง ข. และ ค.
68. นาย ก. เป็ นนายหน้าที่เชื่ อว่าการเป็ นนายหน้าต้องมีทกั ษะในการสื่ อสาร/ต้องพูดเก่งด้วย จึงจะสามารถจูงใจลูกค้า
ได้ จึงได้ชกั ชวนเพื่อนร่ วมอาชีพไปสมัครเข้ าอบรมหลักสู ตรการสื่ อสาร/โรงเรียนฝึ กพูด แต่เพื่อนไม่เห็นด้วย ก. จึง
ไปเรี ยนโดยลาพังจนจบหลักสู ตรได้รับประกาศฯรับรองคุณวุฒิและมีทกั ษะที่ดีข้ ึน จงพิจารณาว่าข้อความ ข้างล่างนี้
ว่าข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. นาย ก. ควรสนใจวิชาการประกันภัยและรายละเอียดต่างๆ ในกรมธรรม์ประกันภัยมากกว่าเพื่อประโยชน์
ในการอธิ บายให้ผเู ้ อาประกันภัยเข้าใจ
ข. นาย ก. ควรเน้นเฉพาะวิชาการศึกษารายละเอียดกรมธรรม์ประกันภัยและเทคนิ คการขาย เพื่อเป็ นนายหน้า
ประกันวินาศภัยที่มีประสิ ทธิ ภาพ
ค. นาย ก. มีความคิดถูกต้ อง เพราะการเป็ นนายหน้ าต้ องใช้ ท้ งั ศาสตร์ และศิลป์ และความรู้ อื่นๆที่เกี่ยวข้ อง จึง
ต้ องหมั่นศึกษาหาความรู้ เพิม่ เติมอยู่เสมอ ทั้งความรู้ ทางวิชาการประกันวินาศภัยและความรู้ อนื่ ๆทีเ่ กี่ยวข้ อง
ง. นาย ก. มีความคิดถูกต้อง เพราะการเป็ นนายหน้าต้องเน้นสนใจเรื่ องเทคนิคการขาย
69. นายไก่และนายไข่ เป็ นเพื่อนรักกันและเป็ นนายหน้าเหมือนกันด้วย ต่อมานายไก่ ทราบว่า นายไข่ไปเรี ยนวิชา
ดาราศาสตร์ /โหราศาสตร์ เพิ่มเติม เมื่อพบกันนายไก่จึงตาหนิ นายไข่ ที่ไปเสี ยเวลาเรี ยน 1 เดือนเต็ม ทาให้เสี ย
โอกาสในการทามาหากิน มิหนาซ้ า ความรู ้ที่ได้ยงั ไม่เกี่ยวข้องกับวิชาชี พของนายหน้าประกันวินาศภัย จงพิจารณา
ข้อความข้างล่างนี้วา่ ข้อใดถูกต้องมากที่สุด
ก. การกระทาของนายไข่ นั้นสมควร เพราะถือว่านายหน้าฯที่ดีน้ นั ต้องหมัน่ ศึกษาหาความรู ้ในวิชาชี พเพิ่มเติม
อยูเ่ สมอ
ข. การกระทาของนายไข่ นั้นไม่ ผดิ จรรยาบรรณ เพราะเป็ นสิ ทธิของ ข. ที่จะไปเรียนหรือทาอะไรก็ได้ ตราบใด
ทีไ่ ม่ ทาให้ ผ้ เู อาประกันภัยเสี ยผลประโยชน์
ค. การกระทาของนายไข่ นั้นไม่สมควรเอาเยี่ยงอย่าง เพราะเสี ยเวลาในการทามาหากิน ซึ่ งขัดกับจรรยาบรรณ
นายหน้า
ง. การกระทาของนายไข่ นั้นไม่ถูกต้อง เพราะนอกจากจะทาให้ไม่มีเวลาในการบริ การลูกค้าแล้ว หลักสู ตรที่
เรี ยนก็ไม่ตรงกับความต้องการของนายหน้าที่เน้นเรื่ องการขายการประกันภัย
70. นายน าเป็ นหัว หน้ า หน่ ว ยตัว แทนประกัน วิ น าศภัย และมี ค วามรู ้ ด้า นโหราศาสตร์ เชื่ อ ว่ า การมี ค วามรู ้ ด้า น
โหราศาสตร์ จะช่วยทาให้ลูกค้ามาทาประกันภัยกับตนเอง จึงแนะนาให้นายเดชาไปเรี ยนโหราศาสตร์ เพิ่มเติม เพื่อ
ลูกค้าจะได้มาซื้ อประกันภัยผ่านนายเดชา กรณี น้ ีถือว่านายเดชาปฏิบตั ิตามหลักจรรยาบรรณข้อใด
ก. หมัน่ ศึกษาหาความรู ้ในวิชาชีพเพิ่มเติมอยูเ่ สมอ
ข. ได้บริ การลูกค้าอย่างสม่าเสมอ
ค. มีความรู้ เพิม่ เติมไม่ ใช่ เฉพาะความรู้ ในวิชาชี พ
ง. ไม่มีขอ้ ใดถูก เพราะไม่ได้เข้าถึงจรรยาบรรณข้อใด
71. ทุกครั้งที่เสนอขายผลิ ตภัณฑ์ประกันวินาศภัยและรับเบี้ยประกันภัยจากผูเ้ อาประกันภัย นาย ก. ซึ่ งเป็ นนายหน้ า
ประกันวินาศภัยจะต้ องแสดงหนังสื อมอบอานาจจากบริ ษัทประกันวินาศภัยและออกเอกสารแสดงการรั บเงินของ
บริษัทประกันภัยทุกครั้ง ดังนี้ ถือว่านาย ก. ปฏิบตั ิงานตามจรรยาบรรณข้อใด
ก. ประกอบธุ รกิจด้วยความซื่ อสัตย์สุจริ ต
ข. ดาเนินงานทีเ่ ป็ นมาตรฐาน มีความโปร่ งใสพอทีจ่ ะสร้ างความเชื่อมั่นให้ กบั ประชาชน
ค. รักษาความลับของลูกค้าเป็ นอย่างดี
ง. พัฒนาความรู ้ความสามารถอย่างสม่าเสมอ

จรรยาบรรณ 4 : รักษาความลับของลูกค้ า ไม่ นาข้ อมูลส่ วนตัว และ / หรือข้ อมูลส่ วนบุคคลใดๆของลูกค้ าไป
เปิ ดเผยต่ อบุคคลอืน่
รักษาความลับอันไม่ ควรเปิ ดเผยของผู้เอาประกันภัย
72. ในจรรยาบรรณของตัว แทนประกัน วิ น าศภัย ข้อ ที่ ใ ห้ เปิ ดเผยข้อความจริ ง ของผูเ้ อาประกัน ภัย ในส่ ว นที่ เ ป็ น
สาระส าคัญ เพื่ อ การพิ จ ารณารั บ ประกัน ภัย หรื อ เพื่ อ ความสมบู ร ณ์ แ ห่ ง กรมธรรม์ น้ ัน ค าว่ า ในส่ ว นที่ เ ป็ น
สาระสาคัญ หมายถึง
ก. ทุกเรื่ องที่เกี่ยวกับผูเ้ อาประกันภัย
ข. ทุกเรื่องทีม่ ีในใบคาขอเอาประกันภัย
ค. ทุกเรื่ องที่นายหน้าประกันวินาศภัยทราบ
ง. ทุกเรื่ องที่บริ ษทั ทราบ
73. ข้อใดที่ถือว่านายหน้ าปฏิบัติถูกต้ องเรื่องการรักษาความลับอันไม่ ควรเปิ ดเผย
ก. ไม่นาความลับของลูกค้าไปบอกต่อบุคคลภายนอก และบริ ษทั ประกันภัย
ข. รักษาความลับของลูกค้ า เพือ่ ประโยชน์ ของลูกค้ า
ค. ไม่บอกใครจนกว่าจะได้รับอนุญาตจากบริ ษทั
ง. จะบอกบุคคลอื่นถ้าลูกค้าได้รับประโยชน์
74. นายหน้ าต้ องรักษาข้ อมูลส่ วนตัวของผู้เอาประกันภัย ท่านคิดว่าความหมายในข้อใดเป็ นความหมายที่ถูกต้อง
ก. ข้อมู ล ส่ วนตัวที่ ไ ด้จากการเปิ ดเผยจากผูเ้ อาประกันภัย นายหน้า ต้องลงบันทึ ก และส่ ง ให้บ ริ ษ ทั เก็ บ เป็ น
ความลับ
ข. ข้ อมูลส่ วนตัวทีไ่ ด้ จากการเปิ ดเผยจากผู้เอาประกันภัย นายหน้ าต้ องถือเป็ นความลับอย่ างยิ่ง ไม่ นาไปเปิ ดเผย
ต่ อบุคคลใด หรือ แสวงหาผลประโยชน์
ค. ข้อมูลส่ วนตัวที่ได้จากการเปิ ดเผยจากผูเ้ อาประกันภัย นายหน้าสามารถเปิ ดเผยได้จนกว่าจะได้รับการอนุ ญาต
จากบริ ษทั
ง. ข้อมูลส่ วนตัวที่ดีจากการเปิ ดเผยจากผูเ้ อาประกันภัย สามารถเปิ ดเผยได้ถา้ ไม่กระทบต่อผูเ้ อาประกันภัย
75. การที่นายหน้าแสดงเจตนาชัดเจนในการแจ้งต่อผูเ้ อาประกันภัยว่า ข้ อมูลที่ผ้ ูเอาประกันภัยเปิ ดเผยทั้งหมดจะถูกเก็บ
เป็ นความลับและเปิ ดเผยไม่ ได้ นอกจากผู้เอาประกันภัยจะอนุ ญาตหรื อประสงค์ ให้ เปิ ดเผย ท่านคิดว่าพฤติกรรม
นายหน้านี้เหมาะสมหรื อไม่
ก. แสดงการผูกมัดนายหน้าเองมากเกินขอบเขต บทบาทหน้าที่ของนายหน้า
ข. แสดงอย่ างถูกต้ อง เป็ นไปตามจรรยาบรรณในการรักษาความลับของผู้เอาประกันภัย
ค. แสดงอย่างถูกต้อง ในฐานะจะเป็ นนายหน้าดีเด่น
ง. แสดงอย่างถูกต้อง เพราะเป็ นการเสมอภาค ยุติธรรมทั้งกับนายหน้าและผูเ้ อาประกันภัย
76. การที่นายหน้ านาข้ อมูลส่ วนตัว อาทิ เบอร์ โทรศัพท์ ของผูเ้ อาประกันภัย ขายให้ กับบริษัทที่ขายบริ การผ่ านการ
ขาย ทางโทรศัพท์ ท่านคิดว่าการกระทาเช่นนั้นผิดจรรยาบรรณหรื อไม่
ก. ไม่ผดิ สามารถทาได้เพราะการบริ การผ่านช่องทางทางโทรศัพท์เป็ นประโยชน์ต่อผูเ้ อาประกันภัย
ข. ไม่ผดิ สามารถทาได้เพราะการบริ การผ่านช่องทางทางโทรศัพท์ไม่ได้ก่อความเสี ยหายต่อผูเ้ อาประกันภัย
ค. ผิด ไม่สามารถทาได้ เพราะผิด พรบ. ประกันวินาศภัยและการเก็บข้อมูล
ง. ผิด ไม่ สามารถทาได้ เพราะผิดจรรยาบรรณรั กษาความลับของลูกค้ า ไม่ นาข้ อมูลส่ วนตัวและ/หรื อข้ อมู ล
ส่ วนบุคคลใดๆของลูกค้ าไปเปิ ดเผยต่ อบุคคลอืน่ หรือแสวงหาผลประโยชน์
77. นาย ก. เป็ นนายหน้าได้ขายกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ให้กบั ข. หนึ่ งปี ผ่านไป ข. ประสบปั ญหา
ทางด้านการเงิน ไม่สามารถชาระเบี้ยประกันภัยเพื่อต่ออายุกรมธรรม์ได้ตรงตามนัดหมาย ก. ทวงถามหลายครั้งจน
เบื่อ จึงบ่ นเรื่องนีใ้ ห้ ภรรยาฟัง การกระทาของ ก. ผิดจรรยาบรรณหรื อไม่
ก. ไม่ผดิ เพราะการผิดนัดของผูเ้ อาประกันภัยเป็ นเรื่ องธรรมดา
ข. ไม่ผดิ เพราะการกล่าวเช่นนั้นไม่ได้ทาให้นาง ข. เสี ยหาย
ค. ผิด เพราะเปิ ดเผยความลับอันไม่ สมควรเปิ ดเผยของผู้เอาประกันภัยต่ อบุคคลภายนอก
ง. ผิด เพราะเป็ นการให้ร้ายผูเ้ อาประกันภัย
78. นาย ก. เป็ นนายหน้าได้ขายกรมธรรม์ประกันภัยสุ ขภาพให้แก่ ข. หลังจากที่ ข. ทาประกันภัยสุ ขภาพไปได้ 10
เดือน ก็พบว่าตนเองเป็ นโรคติดต่อร้ายแรงจึงมาปรึ กษา ก. ว่าจะสามารถต่อสัญญาประกันภัยสุ ขภาพในปี ต่อไปได้
หรื อไม่ ก. ไม่แน่ใจ จึงไปปรึ กษาอาจารย์ ผ้ ูเคยสอนกฎหมายให้ตนและ ข. มาก่อน และอาจารย์ผนู ้ ้ ี ก็รัก ข. มาก
การกระทาของ ก. ผิดจรรยาบรรณหรื อไม่
ก. ผิด เพราะการกระทาของ ก. ทาให้ ข. ถูกผูอ้ ื่นรังเกียจ
ข. ผิด เพราะ ก. ไม่รักษาความลับอันไม่ควรเปิ ดเผยของผูเ้ อาประกันภัยต่อบุคคลภายนอก
ค. ไม่ ผดิ เพราะ ก. ไม่ ได้ เล่าเรื่องให้ คนภายนอกฟัง เพียงแค่ ปรึกษากับอาจารย์ของตนคนเดียว
ง. ไม่ผดิ เพราะ ก. เปิ ดเผยข้อความจริ งของผูเ้ อาประกันวินาศภัย
79. นายสุ ดเจ๋ ง เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยได้ชกั ชวนนายเข่งทาประกันอุบตั ิเหตุส่วนบุคคลและนายเข่งได้ระบุให้
ภรรยาน้อยเป็ นผูร้ ับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย นายสุ ดเจ๋ งได้ นาเรื่ องไปเล่ าให้ พี่สาวของตนเองซึ่ งเป็ น
ภรรยาหลวงของนายเข่ งฟัง นายสุ ดเจ๋ งกระทาผิดจรรยาบรรณอาชีพนายหน้าประกันวินาศภัยหรื อไม่
ก. ไม่ผดิ เพราะนายสุ ดเจ๋ ง นาความลับของนายเข่งไปเล่าให้พี่สาวฟัง
ข. ไม่ผดิ เพราะนายสุ ดเจ๋ ง พูดความจริ งพึงเปิ ดเผยกับผูท้ ี่เกี่ยวข้องได้
ค. ผิด เพราะนายสุ ดเจ๋ ง ไม่ซื่อสัตย์กบั นายเข่ง
ง. ผิด เพราะนายสุ ดเจ๋ ง นาเรื่ องซึ่ งได้ รับรู้ มาจากใบคาขอเอาประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลของนายเข่ งไป
เผยแพร่ ต่อบุคคลอืน่
80. นาย ก. เป็ นนายหน้า ประกัน วิน าศภัย ที่ ส่ ง งานให้ บ ริ ษ ทั ประกัน ภัย แห่ ง หนึ่ ง และทราบว่า สมุ ห์บ ัญชี บ ริ ษ ัท
ประกันภัยแห่งนี้ยกั ยอกเงินไปเล่นการพนันฟุตบอล นาย ก. จึงได้แจ้งเรื่ องดังกล่าวแก่กรรมการบริ ษทั แต่เวลาผ่าน
ไปนาน สานักงานใหญ่ก็มิได้กระทาการอย่างใดแก่สมุห์บญั ชี คนนั้น นาย ก. จึงนาเรื่องดังกล่ าวไปแจ้ งต่ อนาย ข.
ซึ่งเป็ นบุคคลภายนอก การกระทาของนาย ก. ผิดจรรยาบรรณหรื อไม่
ก. ผิด เพราะเปิ ดเผยความลับอันไม่ สมควรเปิ ดเผยของผู้เอาประกันภัยต่ อบุคคลภายนอก
ข. ผิด เพราะทาให้บริ ษทั เสี ยประโยชน์
ค. ไม่ผดิ เพราะสิ่ งที่นายดอกรักพูดเป็ นความจริ ง
ง. ไม่ผดิ เพราะนายดอกรักพูดไปโดยมิได้ต้ งั ใจ
81. การกระทาข้อใดต่อไปนี้ ถือว่านายหน้าปฏิบตั ิตามจรรยาบรรณว่าด้วยการรั กษาความลับอันไม่ ควรเปิ ดเผยของผู้เอา
ประกันภัย
ก. ปกปิ ดเรื่ องของผูเ้ อาประกันภัยเป็ นโรคมะเร็ ง เพื่อให้บริ ษทั พิจารณารั บทาประกันภัยสุ ขภาพให้กบั ผูเ้ อา
ประกันภัย
ข. ปกปิ ดอายุที่แท้จริ งของผูเ้ อาประกันภัยในการประกันภัยสุ ขภาพ เพื่อให้จ่ายเบี้ยประกันภัยน้อยลง
ค. ปกปิ ดเรื่องมารดาของผู้เอาประกันภัยเป็ นโรคติดต่ อไม่ ให้ เพือ่ นๆ ของผู้เอาประกันภัยรู้
ง. ปกปิ ดผูร้ ับประโยชน์เรื่ องผูเ้ อาประกันภัยได้ทาประกันวินาศภัยไว้
82. นาย ก. และนาย ข. เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยของบริ ษทั แห่ งหนึ่ ง ซึ่ งมีความขัดแย้งกันในเรื่ องตาแหน่ งงาน
ต่อมานาย ก. ได้เสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยให้กบั นางสาว ค. แต่ได้รับคาตอบว่าได้ซ้ื อกรมธรรม์ประกันภัย
ตามคาชักชวนของนาย ข. แล้ว และยังทราบถึงเรื่ องความขัดแย้งของทั้งคู่จากคาบอกเล่าของนาย ข. ด้วยนาย ก.
เกรงว่านางสาว ค. จะเข้าใจผิดฟั งความข้างเดี ยว จึงได้เล่าเรื่ องความขัดแย้งให้ทราบ จากการกระทาของนาย ก.
และนาย ข. ท่านคิกว่าผิดจรรยาบรรณหรื อไม่
ก. นาย ก. ไม่ผดิ จรรยาบรรณ เพราะเป็ นการพูดความจริ งให้กบั นางสาว ค. ได้เข้าใจ
ข. นาย ข. ผิดจรรยาบรรณ เพราะนาความลับอันไม่ควรเปิ ดเผยของบริ ษทั มาเปิ ดเผยให้กบั นางสาว ค. ทราบ
ค. นาย ก. และนาย ข. ไม่ ผดิ จรรยาบรรณ เรื่องทีเ่ ล่ าเป็ นเรื่องส่ วนตัวไม่ ใช่ ความลับของผู้เอาประกันภัย
ง. นาย ก. และนาย ข. ผิดจรรยาบรรณ เพราะนาความลับอันไม่ควรเปิ ดเผยมาเปิ ดเผยให้นางสาว ค. ได้ทราบ
83. นายปิ ต ทาประกันอัคคีภยั โรงงานของตนกับบริ ษทั สามประกันภัย จากัด ซึ่ งมีนายวีระเป็ นนายหน้าประกันวินาศ
ภัยให้ ต่อมา เมื่ อครบปี มี การต่ออายุเรี ยบร้ อย นายวีระจึงเรี ยกเก็บเงิ นค่าเบี้ ยประกันภัยปี ที่สองจากนายปิ ต แต่
เนื่องจากนายปิ ตกาลังมีปัญหา เรื่ องหนี้สินอันเกิดจากการลงทุนผิดพลาด และยังไม่สามารถชาระเงินได้ในขณะนั้น
นายวีระจึงนาเรื่องมาบอกแก่ บริษัทที่รับประกันภัย ดังนี้ นายวีระกระทาผิดจรรยาบรรณนายหน้าประกันวินาศภัย
หรื อไม่
ก. ผิด เพราะนายวีระนาเรื่ องความผิดพลาดของ นายปิ ตมาบอกแก่ผอู ้ ื่น
ข. ไม่ผดิ เพราะนายปิ ตไม่ชาระเบี้ยประกันภัยตามกาหนด
ค. ไม่ผดิ เพราะเป็ นเรื่ องปกติที่นายหน้าประกันวินาศภัยฯ จะหาทางแก้ปัญหาให้ผเู ้ อาประกันภัย
ง. ไม่ ผดิ เพราะบริษัทประกันภัยไม่ ใช่ บุคคลภายนอก

จรรยาบรรณ 5 : ประกอบธุรกิจโดยมีระบบการดาเนินงานทีเ่ ป็ นมาตรฐาน มีการควบคุมที่ดี มีความโปร่ งใส


เพียงพอ สร้ างความเชื่อมัน่ ให้ ประชาชน
เรื่องที่ 1 ประกอบธุรกิจโดยมีระบบการดาเนินงานทีเ่ ป็ นมาตรฐาน
84. การที่ นายหน้ าประกันวินาศภัยสามารถส่ งงานได้ หลายบริ ษัท จะมี ผลต่อผูเ้ อาประกันภัยอย่างไร จงเลื อกข้อที่
ถูกต้องมากที่สุด
ก. ผูเ้ อาประกันภัยได้รับข้อมูลข่าวสารของบริ ษทั ประกันภัยที่นายหน้าประกันวินาศภัยยังไม่ได้ศึกษาข้อมูลอย่าง
แท้จริ ง
ข. ผูเ้ อาประกันภัยเกิดความเชื่อถือเพราะนายหน้าประกันวินาศภัยส่ งงานกับบริ ษทั ประกันวินาศภัยที่มีชื่อเสี ยง
ค. ผู้เอาประกันภัยได้ รับการเสนอรู ปแบบกรมธรรม์ ประกันภัยที่หลากหลายและสามารถเลือกซื้ อได้ ตามความ
เหมาะสม
ง. ผูเ้ อาประกันภัยมีความภูมิใจที่ได้ซ้ื อกรมธรรม์ประกันภัยกับนายหน้าประกันวินาศภัยที่ส่งงานหลายบริ ษทั
85. จรรยาบรรณที่กาหนดว่าการประกอบธุ รกิ จต้องมีระบบการดาเนินงานที่เป็ นมาตรฐาน มีการควบคุมที่ดี มีความ
โปร่ งใสเพียงพอทีจ่ ะสร้ างความเชื่อมั่นให้ กบั ประชาชนได้ ท่านเข้าใจว่าเป็ นการดาเนินงานในด้านใดบ้าง
ก. นายหน้าบุคคลธรรมดาที่รวมกันต้องมีใบอนุญาต 5 คน
ข. มีการจดทะเบียนจัดตั้งเป็ นนิติบุคคล
ค. ปฏิบตั ิตามข้อกาหนด ระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ง. ถูกทุกข้ อ
86. การที่นายหน้าประกันวินาศภัยมีระบบการดาเนินงานทีเ่ ป็ นมาตรฐานท่านเข้าใจอย่างไร
ก. การประกอบธุ รกิจที่มีการวางแผนกาหนดกลุ่มลูกค้าเป้ าหมายและกาหนดแนวทางจะใช้ผลิตภัณฑ์เป็ นตัวนา
ทางตลาด
ข. การคัดเลือกบริ ษทั ประกันภัยและผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย
ค. ปฏบัติตามกรอบ กติกา กฎหมายและจรรยาบรรณ
ง. ถูกทุกข้ อ
87. การที่นายหน้าประกันวินาศภัยมีความผูกพันกับองค์ กรและเผยแพร่ ความดี ภาพลักษณ์ขององค์กรแก่สาธารณชน
แสดงว่าตัวแทนประกันวินาศภัย
ก. เป็ นผูม้ ีจรรยาบรรณในเรื่ องความภักดีต่อบริ ษทั ประกันภัย
ข. เป็ นผู้มีจรรยาบรรณในเรื่องการเผยแพร่ ประชาสั มพันธ์
ค. เป็ นผูม้ ีจรรยาบรรณในเรื่ องความซื่ อสัตย์ต่อองค์กร
ง. เป็ นผูม้ ีจรรยาบรรณในเรื่ องเปิ ดเผยข้อมูลของบริ ษทั สู่ สาธารณชน
88. ข้อใดไม่ ใช่ จรรยาบรรณและศีลธรรมของนายหน้าประกันวินาศภัย
ก. รักษาความลับอันไม่ควรเปิ ดเผยของผูเ้ อาประกันภัยและของบริ ษทั ต่อบุคคลภายนอก
ข. ยกย่องแบบประกันวินาศภัยและบริษัทประกันวินาศภัยทีต่ นทาอยู่อย่ างเกินความจริง
ค. ไม่ แ นะน าให้ ผูเ้ อาประกัน ภัย บอกเลิ ก กรมธรรม์เก่ า เพื่ อท ากรมธรรม์ใ หม่ หากท าให้ผูท้ าประกันภัย เสี ย
ประโยชน์
ง. ไม่กล่าวให้ร้ายทับถมนายหน้าหรื อบริ ษทั อื่น
89. ข้อใดถือว่านายหน้าภักดีต่อบริ ษทั
ก. นายหน้าประกันวินาศภัยหารายได้เพิม่ ให้บริ ษทั
ข. นายหน้ าประกันวินาศภัยไม่ เห็นแก่ ค่าบาเหน็จที่สูงขึ้นจากบริ ษัทอื่น แต่ ทางานให้ บริ ษัทเดิม ทุ่มเท ตั้งใจ
ทางานให้ แก่บริษัทเดิม
ค. นายหน้าประกันวินาศภัยประชาสัมพันธ์กรมธรรม์ของบริ ษทั
ง. นายหน้าประกันวินาศภัยเปิ ดเผยข้อมูลจริ งของบริ ษทั ให้แก่สาธารณชน
90. นาย ก. เป็ นนายหน้าที่เก่ง ได้รับการยอมรับในความรู ้เรื่ องการประกันวินาศภัย และความสามารถในการขาย ก.
ฝึ กพนักงานคนใหม่ ให้มีความรู ้อย่างดี มีมาตรฐาน สามารถชักชวนลูกค้าได้เพื่อจะขยายงานและรับงานลูกค้าใหม่ๆ
เป็ นผู้ช่วยทางานแทนตน การกระทาของ ก. ถูกต้อง ตามจรรยาบรรณหรื อไม่
ก. การกระทาของ ก. ผิดจรรยาบรรณ เพราะนายหน้ าต้ องไม่ มอบหมายให้ ผ้ ูอื่นที่ไม่ มีใบอนุ ญาตกระทาการ
แทนตน
ข. การกระทาของ ก. ผิดจรรยาบรรณ เพราะผูช้ ่วยของ ก. ต้องมีผา่ นการรับรองคุณภาพและมีความรู ้ที่ถูกต้อง
ก่อน
ค. การกระทาของ ก. ไม่ผดิ จรรยาบรรณ เพราะคนที่ ก. ฝึ กมีคุณภาพ
ง. การกระทาของ ก. ไม่ผดิ จรรยาบรรณ เพราะบริ ษทั พิจารณารับงานที่ส่งในชื่อของ ก. เท่านั้น
91. การที่นายหน้าประกันวินาศภัยมีความภักดีต่อบริษัทประกันภัย จะมีผลดีต่อบริ ษทั ประกันภัยอย่างไร จงเลือกตอบ
ข้อที่ถูกต้องมากที่สุด
ก. บริ ษทั ประกันภัยจะมีงานประกันภัยเพิ่มขึ้น มีรายได้ การเติบโตเพิ่มมากขึ้น
ข. บริ ษทั ประกันภัยจะมีชื่อเสี ยง ได้รับการยกย่องในการบริ การ
ค. บริษัทประกันภัยมีบุคลากรทีท่ ่ มุ เท ตั้งใจในการทางาน มีโอกาสสามารถสร้ างผลงานที่ดี กิจการเติบโตเป็ นที่
ปรากฏแก่ ลูกค้ า ประชาชน
ง. บริ ษทั ประกันภัยจะมีระบบการบริ หารนายหน้าประกันวินาศภัยที่แข็งแกร่ ง
92. ปั จจุบนั ข้อมูลข่าวสารของธุ รกิจประกันภัยมีปริ มาณมากและทันต่อสถานการณ์ ทุกคนสามารถรับรู ้ถึงสภาพธุ รกิ จ
ของบริ ษทั ประกันภัยได้จากสื่ อ ซึ่ งเป็ นสิ่ งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และอินเตอร์ เน็ต นายหน้าฯจึงได้ใช้ขอ้ มูลข่าวสาร
นี้มาเป็ นปั จจัยในการหาประกันภัยด้วยการเปรี ยบเทียบฐานะการเงิน รายได้ ของบริ ษทั ที่ตนส่ งงานให้กบั บริ ษทั อื่น
โดยให้ ลูกค้ าสาคัญผิดในฐานะการเงินของบริษัทอืน่ ทีแ่ ย่ กว่ า ท่านเห็นว่าการใช้ขอ้ มูลข่าวสารดังกล่าวของนายหน้าฯ
ถูกต้องหรื อไม่อย่างไร
ก. ถูกต้อง เพราะเป็ นความสามารถของนายหน้าที่รู้จกั ใช้ขอ้ มูลให้เป็ นประโยชน์
ข. ถูกต้อง เพราะในการแข่งขันจาเป็ นต้องให้ขอ้ มูลข่าวสารลูกค้าเพื่อการตัดสิ นใจ
ค. ถูกต้อง เพราะข้อมูลข่าวสารเหล่านี้เป็ นข้อมูลเปิ ดเผยใครๆ ก็สามารถนาไปใช้ได้
ง. ผิดทุกข้ อ
93. นายนาเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ส่งงานให้บริ ษทั หนึ่งประกันวินาศภัย จากัด ซึ่งเป็ นบริษัทประกันภัยที่มีข่าว
ว่าฐานะทางการเงินไม่ ค่อยดี เมื่อนายหน้ าไปเก็บเบีย้ ประกันภัยได้ สอบถามกับนายนา นายนาควรจะตอบว่ าอย่ างไร
จึงจะไม่ ผดิ จรรยาบรรณในข้ อความลับอันมิควรเปิ ดเผยของบริษัทประกันภัยมาเปิ ดต่ อบุคคลภายนอก
ก. ตอบว่าเป็ นข่าวลือเชื่อถือไม่ได้
ข. ตอบว่ าเป็ นเพียงข่ าว เพราะมีหน่ วยงานของรัฐควบคุมอยู่
ค. ตอบว่าเป็ นความจริ ง แต่บริ ษทั ประกันภัยกาลังดาเนินการแก้ไขอยู่
ง. ตอบว่าบริ ษทั ประกันภัยคู่แข่งสร้างข่าวเพื่อกลัน่ แกล้ง
94. นาย ก. เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยของบริ ษทั หนึ่ ง จากัด แม้ว่านาย ก. จะมีนิสัยเจ้าชู้และมีภรรยาหลายคน
แต่นาย ก. ก็ให้บริ การแก่ลูกค้าของตนเองด้วยดีตลอดมา นาย ข. ซึ่ งเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยของบริ ษทั สอง
จากัด ทราบถึงพฤติกรรมการเจ้าชูแ้ ละการมีภรรยาหลายคนของนาย ก. จึงเล่าเรื่องดังกล่าวให้ นาย ค. ซึ่ งเป็ นลูกค้ า
ของนาย ก. ฟัง การกระทาของนาย ข. ขัดกับหลักจรรยาบรรณของนายหน้าประกันวินาศภัยหรื อไม่
ก. ไม่ขดั เพราะพูดความจริ ง
ข. ไม่ขดั เพราะคนเราทุกคนมีสิทธิ พดู ภายในกรอบของกฎหมาย
ค. ขัด เพราะไม่ได้ประพฤติตนอยูใ่ นศีลธรรมประเพณี อนั ดีงาม
ง. ขัด เพราะเป็ นกล่าวให้ ร้ายทับถมนายหน้ าประกันวินาศภัยอืน่
95. นาย ก. เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัย บริ ษทั หนึ่ ง จากัด ได้เสนอขายแบบการประกันวินาศภัยแบบหนึ่ งให้แก่
นาง ข. และโอ้ อ วดแก่ น าง ข. ว่ า เป็ นแบบการประกั น วิ น าศภั ย ที่ ดี ผลประโยชน์ แ บบนี้ ไ ม่ มี บ ริ ษั ท ใดมี
ผลประโยชน์ ที่ดี ก ว่ า นี้อีกแล้ ว และเป็ นบริ ษ ทั เดี ย วที่ ไ ด้รับ อนุ ญาตจากส านัก งานคณะกรรมการการก ากับ และ
ส่ งเสริ มการประกอบธุ รกิจประกันภัยให้ขายได้ การกระทาเช่นนี้เป็ นการผิดจรรยาบรรณและศีลธรรมหรื อไม่
ก. ผิด เพราะเป็ นการกล่าวในเชิงทับถมบริษัทประกันวินาศภัยอื่น
ข. ผิด เพราะมีความซื่ อสัตย์ต่อบริ ษทั
ค. ไม่ผดิ เพราะไม่ได้กล่าวร้ายทับถมบริ ษทั ประกันวินาศภัยอื่น
ง. ไม่ผดิ เพราะที่นาย ก. พูดเป็ นความจริ ง
96. นาย ก. เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยของบริ ษทั แห่ งหนึ่ ง จูงใจผูเ้ อาประกันภัยทาประกันวินาศภัยกับตน โดยให้
เหตุผลสู้ กบั คู่แข่ งว่ า บริษัทคู่แข่ งเป็ นของคนต่ างชาติ หากทาแล้ วบริษัทคู่แข่ งจะนาเงินตราออกนอกประเทศ ดังนั้น
ท่านเห็นว่า การกระทาของนาย ก. ถูกหรื อไม่
ก. ถูกต้อง เพราะเป็ นวิธีการทางการแข่งขันอย่างหนึ่ง
ข. ถูกต้อง เพราะบริ ษทั ของนาย ก. เป็ นบริ ษทั ของคนไทย
ค. ไม่ ถูกต้ อง เพราะเป็ นการให้ ร้ายผู้อนื่
ง. ไม่ถูกต้อง แต่สามารถทาได้เพื่อความสาเร็ จ
97. นายไช้เป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ส่งงานให้บริ ษทั ประกันวินาศภัยแห่ งหนึ่ ง ซึ่ งเป็ นบริ ษทั ขนาดกลางมีรายได้
จากเบี้ยประกันภัยปี หนึ่ งๆ ประมาณ 50 ล้านบาท ปรากฎว่าในช่วงหนึ่ งปี ที่ผา่ นมารายได้ดอกเบี้ยประกันภัยของ
บริ ษทั ประกันวินาศภัยลดลงเนื่ องจากคนตกงานไม่มีเงิ นส่ งเบี้ยประกันภัย นายไช้ ทราบถึงเหตุการณ์ ดังกล่ าว จึง
เปลี่ยนการส่ งงานจากบริ ษัทประกันภัยเดิม ไปให้ บริ ษัทประกันภัยแห่ งใหม่ ซึ่ งมีรายได้ ดีกว่ า โดยได้ ให้ เหตุผลว่ า
ต้ องการหาประสบการณ์ใหม่ ท่านคิดว่าการกระทาของนายไช้ ถูกต้องหรื อไม่
ก. ถูกต้ อง เพราะมิได้ กล่ าวร้ ายบริษัทประกันวินาศภัยเดิมให้ เสี ยหาย
ข. ถูกต้อง เพราะนายไช้ เป็ นคนที่ฉลาดที่ได้หาโอกาสให้กบั ตนเองเป็ นอย่างดี
ค. ไม่ถูกต้อง เพราะแสดงให้เห็นว่าเป็ นคนแก่ประโยชน์ส่วนตัว
ง. ไม่ถูกต้อง เพราะทอดทิ้งบรัทประกันวินาศภัยเดิม
98. นายหน้าประกันวินาศภัยได้ลาออกจากบริ ษทั หนึ่ งประกันภัย จากัด แล้วมาเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัยให้กบั
บริ ษทั สองประกันภัย จากัด เมื่อไปชักชวนให้ลูกค้าทาประกันภัยจะบอกกับลูกค้ าว่ าบริ ษัท หนึ่งประกันภัย จากัด
มีวิธีการหลีกเลี่ยงการจ่ ายค่ าสิ นไหมทดแทนให้กบั ผูเ้ อาประกันภัยและได้ให้ลูกค้าทาประกันภัยกับบริ ษทั สอง
ประกันภัย จากัด ถ้าสมมุติวา่ ท่านเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัย ท่านคิดว่าจะขายประกันภัยโดยวิธีน้ ีหรื อไม่
ก. ไม่ขายวิธีน้ ี เพราะลูกค้าจะรู ้วา่ เราย้ายบริ ษทั ประกันภัย
ข. อาจขายวิธีน้ ี เพราะเป็ นความจริ งซึ่ งอาจทาให้ลูกค้าคล้อยตาม และตกลงทาประกันภัย
ค. ไม่ขายวิธีน้ ี เพราะนายหน้าประกันวินาศภัยต้องมีจรรยาบรรณ และไม่ยอมกล่ าวให้ร้ายหรื อทับถมบริ ษทั
ประกันภัยอื่น แม้จะทาให้ขายประกันภัยไม่ได้ก็ตาม
ง. ไม่ขายวิธีน้ ี เพราะถึงอย่างไรลูกค้าก็ทาประกันภัยกับนายหน้าประกันวินาศภัยผูน้ ้ ีอยูแ่ ล้ว
99. นาย ก. เป็ นตัวแทนประกันวินาศภัยของบริ ษทั หนึ่ง จากัด แม้วา่ นาย ก. จะมีนิสัยเจ้าชูแ้ ละมีภรรยาหลายคน แต่
นาย ก. ก็ให้บริ การแก่ลูกค้าของตนเองด้วยดีตลอดมา นาย ข. ซึ่ งเป็ นตัวแทนประกันวินาศภัย ของบริ ษทั สอง
จากัด ทราบถึงพฤติกรรมการเจ้าชูแ้ ละการมีภรรยาหลายคนของนาย ก. จึงเล่าเรื่องดังกล่าวให้ นาย ค. ซึ่ งเป็ นลูกค้ า
ของนาย ก. ฟัง การกระทาของนาย ข. ขัดกับหลักจรรยาบรรณของตัวแทนประกันวินาศภัยหรื อไม่
ก. ไม่ขดั เพราะพูดความจริ ง
ข. ไม่ขดั เพราะคนเราทุกคนมีสิทธิ พดู ภายในกรอบของกฎหมาย
ค. ขัด เพราะไม่ได้ประพฤติตนอยูใ่ นศีลธรรมประเพณี อนั ดีงาม
ง. ขัด เพราะเป็ นการกล่าวให้ ร้ายทับถมตัวแทนประกันวินาศภัยอื่น

เรื่องที่ 2 รักษาเกียรติภูมนิ ายหน้ า


100. ข้อใดกล่าวถูกต้องในการรักษาเกียรติภูมินายหน้ า
ก. ดารงตนในศีลธรรม เกียรติ ศักดิ์ศรี คุณธรรม
ข. ซื่ อสัตย์ต่อบริ ษทั เท่ากับผูเ้ อาประกันภัย
ค. ขายให้มากที่สุด
ง. ถูกทุกข้ อ

101. ข้อใดกล่ าวถูกต้ องทีส่ ุ ดเกีย่ วกับการส่ งเสริมจรรยาบรรณของตัวแทนประกันวินาศภัย

ก. สนับสนุนตัวแทนประกันวินาศภัยคนอื่นๆ ในการรั กษาความลับส่ วนตัวของผู้เอาประกันภัย ยกเว้ นเปิ ดเผย


สาระสาคัญต่ อบริษัทประกันภัย
ข. แนะนาตัวแทนประกันวินาศภัยคนอื่นๆ เรื่ องประสบการณ์การเป็ นตัวแทนประกันวินาศภัย ที่ไปชักชวนผู ้
เอาประกันภัยให้ยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยกับบริ ษทั อื่นเพื่อทาสัญญากับบริ ษทั ประกันภัยที่ตนสังกัด เพราะ
บริ ษทั ประกันภัยสามารถให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า
ค. สนับสนุนให้ตวั แทนประกันวินาศภัยคนอื่นๆ ศึกษาหาความรู ้เท่าที่จาเป็ นในอาชีพก็พอ
ง. สนับสนุนผูเ้ อาประกันภัย เมื่อผูเ้ อาประกันภัยกล่าวตาหนิตวั แทนประกันวินาศภัย และบริ ษทั ประกันภัย
102. นาย ก. เป็ นนายหน้ า และเป็ นเพื่ อ นบ้า นกับ ข. ซึ่ งท าประกัน ภัย อุ บ ัติ เ หตุ ส่ ว นบุ ค คล กับ บริ ษัท สอง
ประกันภัย จากัด ต่อมา ข. ประสบอุบตั ิเหตุเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยที่นายหน้าฯ ของบริ ษทั
สองประกันภัย จากัด ไม่ดูแล ข. เลย ก. ทราบข่ าวจึงไปเยี่ยมและช่ วยเหลือ แนะนาเรื่ องสิ ทธิประโยชน์ ที่พึง
ได้ รับให้ แก่ ข. แต่ ไม่ ได้ ชักจูงให้ ข. มาทาประกันภัยอุบัติเหตุกบั ตน ก. กระทาผิดจรรยาบรรณหรื อไม่
ก. ไม่ผดิ เพราะนายหน้าประกันกันวินาศภัยของ ข. ไม่ให้บริ การ ข.
ข. ไม่ ผดิ เพราะ ก. ธารงไว้ซึ่งการรักษาชื่อเสี ยงของอาชีพคนกลาง
ค. ผิด เพราะ ก. ไม่ปกป้ องเพื่อนร่ วมอาชีพ
ง. ผิด เพราะ ข. อาจเปลี่ยนใจมาทาประกันภัยกับ ก.
103. นาย ก. และนาย ข. เป็ นเพื่อนรักกันมาก ทั้งคู่มีอาชี พเป็ นนายหน้าประกันวินาศภัย ทั้งสองคนมีผลงานโดดเด่น
มาก และได้รับรางวัลประจาปี อยูเ่ สมอๆ แต่เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในปั จจุบนั ตกต่ามากทาให้การหาประกันภัยมี
อุปสรรค ทั้งสองจึงตกลงกันว่ าถ้ าผลงานของใครต่ากว่ าเป้าหมายอีกคนจะยกผลงานให้ เพื่อที่จะได้ รักษาชื่ อเสี ยง
นายหน้ าดีเด่ นไว้อย่างต่ อเนื่อง การทางานของทั้งคูเ่ หมาะสมหรื อไม่
ก. ทั้งคู่เป็ นเพื่อนร่ วมอาชีพที่ดีต่อกันสมควรนามาเป็ นแบบอย่าง
ข. ทั้งคู่เป็ นเพื่อนร่ วมอาชีพที่ดีต่อกันแต่ไม่สมควรนามาเป็ นแบบอย่าง
ค. ทั้งคู่เป็ นนายหน้าที่ดีสมควรนามาเป็ นแบบอย่าง
ง. ทั้งคู่เป็ นนายหน้ าทีไ่ ม่ ดีไม่ สมควรนามาเป็ นแบบอย่ าง

จรรยาบรรณ 6 : ใช้ ถ้อยคาหรือการแสดงออกในการโฆษณา ประชาสั มพันธ์ กจิ การที่เกินจริงหรือก่อให้ เกิด


ความเข้ าใจผิด
104. นาย ก. เป็ นนายหน้าได้แนะนากรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สินที่รับประกันความเสี่ ยงภัยทุกชนิ ดให้แก่ลูกค้าว่า “
กรมธรรม์น้ ี คุม้ ครองความเสี่ ยงทุกชนิ ดที่เกิดขึ้น บริ ษัทจะจ่ ายค่ าสิ นไหมถ้ าเกิดความเสี ยหายทุกอย่ าง ” ท่านคิดว่า
การที่ ก. แนะนาลูกค้าเช่นนี้ถูกต้องหรื อไม่
ก. ถูกต้อง เพราะตรงตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุ
ข. ถูกต้อง เพราะนายหน้าทาตามหน้าที่ ในการอธิบายถึงข้อคุม้ ครอง
ค. ไม่ ถูกต้ อง เพราะเป็ นการโฆษณาการขายเกินจริง
ง. ไม่ถูกต้อง เพราะ เป็ นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่พิจารณารับประกันภัยที่ตอ้ งอธิ บายเรื่ องความคุม้ ครอง ข้อยกเว้น
แก่ลูกค้า
105. ข้อความโฆษณาใดเป็ นข้ อความทีผ่ ดิ จรรยาบรรณ
ก. เราเป็ นนายหน้ าฯ ทีด่ ีทสี่ ุ ดในประเทศไทย
ข. เราเป็ นบริ ษทั นายหน้าฯ ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดประกันสุ ขภาพกลุ่มและอุบตั ิเหตุ
ค. ติดต่อเราสิ คะ ถ้าท่านอยากทาประกันรถยนต์ไม่วา่ จะเป็ นรถยนต์ยหี่ อ้ ใด รุ่ นเก่าหรื อรุ่ นใหม่
ง. เราสามารถจัดประกันภัยกับบริ ษทั ประกันวินาศภัยได้ถึง 30 บริ ษทั
106. บริ ษทั นายหน้าประกันวินาศภัย ถ้ ามีการใช้ ถ้อยคาหรื อการแสดงออกในการโฆษณาที่ก่อให้ เกิดความเข้ าใจผิด มี
ผลกระทบต่ อหลักจรรยาบรรณ
ก. ไม่มี ผลกระทบ เพราะบริ ษทั นายหน้า ประกันวินาศภัย ประกอบธุ รกิ จด้วยความซื่ อสั ตย์ สุ จริ ต และไม่
สนับสนุนการกระทาอันเป็ นความผิดตามกฎหมาย ผิดศีลธรรมและผิดจรรยาบรรณใดๆ
ข. ไม่มีผลกระทบ เพราะบริ ษทั นายหน้าประกันวินาศภัยปฏิบตั ิต่อลูกค้าอย่างเป็ นธรรมและยึดถือประโยชน์ต่อ
ลูกค้าเป็ นสาคัญ
ค. มีผลกระทบ เพราะการที่บริ ษัทนายหน้ าประกันวินาศภัยมีการใช้ ถ้อยคาหรือการแสดงออกในการโฆษณาที่
ก่ อให้ เกิดความเข้ าใจผิดมีผลกระทบต่ อหลักจรรยาบรรณทุกๆข้ อ ก่ อให้ เกิดความเสี ยหายกับภาพพจน์ ของ
บริษัทประกันภัยและลูกค้ า
ง. มีผลกระทบ เฉพาะหลักจรรยาบรรณที่กาหนดว่าจะประกอบธุ รกิจโดยมีระบบการดาเนิ นงานที่เป็ นมาตรฐาน
มีการควบคุมที่ดี มีความโปร่ งใส เพียงพอที่จะสร้างความเชื่อมัน่ ให้กบั ประชาชนได้
107. ผลของการปฏิ บ ตั ิ ตามหลัก จรรยาบรรณที่ ว่า “ นายหน้าจะไม่ ใช้ ถ้อ ยค าหรื อการแสดงออกในการโฆษณา
ประชาสัมพันธ์กิจการที่เกินจริ งหรื อก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ” คือ
ก. บริษัทนายหน้ าจะได้ รับชื่อเสี ยง และเป็ นทีย่ อมรับ น่ าเชื่อถือ ไว้วางใจ
ข. บริ ษทั ประกันภัยได้รายได้ที่เพิ่มขึ้น
ค. ผูเ้ อาประกันภัยไม่ได้รับข้อมูลที่เป็ นประโยชน์
ง. บริ ษทั นายหน้าจะเป็ นบริ ษทั ดีเด่น
108. การที่นายหน้าประกันวินาศภัยมีความผูกพันกับองค์กรและเผยแพร่ ความดี ภาพลักษณ์ ขององค์กรแก่สาธารณชน
แสดงว่านายหน้าประกันวินาศภัย
ก. เป็ นผูม้ ีจรรยาบรรณในเรื่ องความภักดีต่อบริ ษทั ประกันภัย
ข. เป็ นผู้มีจรรยาบรรณในเรื่องการเผยแพร่ ประชาสั มพันธ์
ค. เป็ นผูม้ ีจรรยาบรรณในเรื่ องความซื่ อสัตย์ต่อองค์กร
ง. เป็ นผูม้ ีจรรยาบรรณในเรื่ องเปิ ดเผยข้อมูลของบริ ษทั สู่ สาธารณชน

You might also like