Professional Documents
Culture Documents
คณิตศาสตร์ คู่มือสหพัฒน์แอดมิชชั่น22 PDF
คณิตศาสตร์ คู่มือสหพัฒน์แอดมิชชั่น22 PDF
กองบรรณาธิการ
สหพัฒน์แอดมิชชั่น
สารบัญ หน้า
คณิตศาสตร์ (O-NET+PAT1+สามัญ) 3
อ.ไอศุริย สุดประเสริฐ (ม.หอการค้าไทย)
• ระบบจ�ำนวนจริง 3
• ความน่าจะเป็น 9
คณิตศาสตร์ (O-NET+PAT1+สามัญ) 17
อ.มนตรี นิรมิตศิริพงศ์ (พี่ช้าง We by the Brain)
• Trigonometric functions - ฟังก์ชันตรีโกณมิติ 18
• Sequence & Series - ล�ำดับและอนุกรม 25
• Complex Number - จ�ำนวนเชิงซ้อน 32
คณิตศาสตร์ (O-NET+PAT1+สามัญ) 36
อ.ภาคภูมิ อร่ามวารีกุล (พี่แท็ป ALevel by OnDemand)
• สถิติบทที่ออกข้อสอบเยอะในแต่ละสนาม 36
• ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม 37
• แคลคูลัส 40
• สถิติ 45
ระบบจ�ำนวนจริง
6. การแจกแจง a(b + c) = ab + ac
โจทย์ตัวอย่าง
วิธีการหาค�ำตอบของอสมการท�ำได้ดังนี้
ขั้นที่ 1 ท�ำด้านขวาของอสมการให้เป็นศูนย์ แล้วแยกตัวประกอบของพหุนามทางซ้ายมือ
สมมติว่าแยกได้เป็น
(x − a )(x − a ) ... (x − a )(x − a ) โดยที่ a < a < ... < a
1 2 n−1 n 1 2 n
+ − +
a1 a2 an−
2 an− 1 an
5. จงแก้อสมการแต่ละข้อต่อไปนี้
(1) (x − 2) (x − 3) ≥ 0
5 7
(2) (x − 2) (x − 3)
9 20
< 0
(3) (x − 2) 15
(x − 3)24(x − 4)37 > 0 (4) (x − 2)11
(x − 3)24(x − 4)53 ≤ 0
(x + 1)(x − 3)
6. จ�ำนวนเต็มที่สอดคล้องกับอสมการ มี
< 0 ทั้งหมดกี่จ�ำนวน
x (2x + 1)
|a| =
a, a ≥ 0
−a, a < 0
ตัวอย่างข้อสอบ
xy , x + y ≠ 0
______
x+y
1. ส�ำหรับ x และ y เป็นจ�ำนวนจริงที่ไม่เป็นศูนย์ นิยาม x * y =
0 , x+y=0
ถ้า a, b และ c เป็นจ�ำนวนจริงที่ไม่เป็นศูนย์ โดยที่ a * b = 1, a *c และ b * c = 3
= 2
5. ก�ำหนดให้ P(x) = 2x 3
+ ax2 + bx + c เมื่อ a, b, c เป็นจ�ำนวนจริง
ถ้า x + 1, x + 2 และ x + 3 เป็นตัวประกอบของ P(x) แล้ว a + b + c มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี้
(คณิตศาสตร์ 1 : 2559)
1. 12 2. 24 3. 32 4. 40 5. 46
5. { x | x < 2x }
2
1 2x
−2
และ B เป็นเซตค�ำตอบของอสมการ ≥
x+1 x −3x + 2
2
กฎข้อ 1: กฎการคูณ
ในการท�ำงานอย่างหนึ่งประกอบด้วย k ขั้นตอน โดย ขั้นตอนที่ 1 มีวิธีเลือกท�ำได้ n วิธี 1
⁝
เช่นนี้เรื่อยไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือ ขั้นตอนที่ k ท�ำได้ n วิธี k
กฎข้อ 2 : กฎการบวก
ในการท�ำงานอย่างหนึ่งประกอบด้วย k วิธี คือวิธีที่ 1 ถึงวิธีที่ k โดย
การท�ำงานวิธีที่ 1 ท�ำได้ n วิธี
1
⁝
เช่นนี้เรื่อยไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการท�ำงานวิธีที่ k ท�ำได้ n วิธี k
ถ้าต้องการเลือกท�ำงานวิธีใดวิธีหนึ่งเพียงหนึ่งวิธีเท่านั้น จะได้จ�ำนวนวิธีในการท�ำงานนี้
เท่ากับ n + n + n + ... + n วิธี
1 2 3 k
โจทย์ตัวอย่าง
2. จงหาจ�ำนวนวิธีในการสร้างเลขคู่สี่หลักที่แต่ละหลักไม่ซ�้ำกันจากเลขโดด 0, 1, 2, 3, 7, 8, 9
3. จงหาจ�ำนวนเต็มคี่บวกสามหลักทั้งหมดที่มีหลักหน่วยหรือหลักร้อยเป็นจ�ำนวนเฉพาะ
และ 0! = 1
โจทย์ตัวอย่าง
(2) ผู้ชายทั้งสามคนยืนติดกัน
กฎข้อ 4 : วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงเส้นของสิ่งของที่ไม่แตกต่างกันทั้งหมด
ถ้ามีสิ่งของ n สิ่ง ในจ�ำนวนนี้มี n สิ่งที่เหมือนกันเป็นกลุ่มที่หนึ่ง
1
มี n สิ่งที่เหมือนกันเป็นกลุ่มที่สอง
2
โจทย์ตัวอย่าง
7. จงหาจ�ำนวนวิธีในการเรียงสับเปลี่ยนตัวอักษร A, A, A, B, B, B
โดยมีตวั อักษรอย่างน้อยสองตัวที่ติดกันเป็นอักษรตัวเดียวกัน
โจทย์ตัวอย่าง
8. คุณลุง คุณป้า ลูกชาย และลูกสาว มาเยี่ยมครอบครัวเราซึ่งมี 4 คน คือ คุณพ่อ คุณแม่ ตัวฉัน และ
น้องชาย ในการจัดที่นั่งรอบโต๊ะอาหารกลมที่มี 8 ที่นั่ง โดยให้คุณลุงนั่งติดกับคุณพ่อ คุณป้านั่งติดกับ
คุณแม่ ลูกชายของคุณลุงนั่งติดกับน้องชายของฉัน และลูกสาวของคุณลุงนั่งติดกับฉัน จะมีจ�ำนวนวิธี
จัดได้เท่ากับเท่าใด
กฎข้อ 6 : จ�ำนวนวิธจี ดั หมูข่ องสิง่ ของทีแ่ ตกต่างกัน n สิง่ โดยเลือกคราวละ r สิง่ เมือ่ 0 ≤ r ≤ n
n!
( )
n
เท่ากับ หรื
r ( )
n
อ C วิธี โดย =
n, r r r! (n – r)!
( )
n
( )
n
1. = = 1
0 n
2. ( )
n
r ( )
n
= ก็
s ต่อเมื่อ r + s = n หรือ r = s
( )
n
( )
n
3. + =
r r+1 ( )
n+1
r+1
กฎข้อ 7 : วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงเส้นของสิ่งของที่แตกต่างกันทั้งหมด
จ�ำนวนวิธีเรียงสับเปลี่ยนสิ่งของ n สิ่งที่แตกต่างกันทั้งหมด โดยจัดเรียงคราวละ r สิ่ง
n!
เมื่อ 1 ≤ r ≤ n เท่ากับ P วิธี โดย P =
n, r n, r
(n – r)!
โจทย์ตัวอย่าง
11. กิตติและสมาน กับเพือ่ นอีก 5 คน ไปเทีย่ วต่างจังหวัดด้วยกัน เข้าพักทีร่ สี อร์ทแห่งหนึง่ ซึง่ มีบา้ นพักเหลืออยู่
3 หลัง โดยหลังแรกพักได้ 3 คน ส่วนหลังที่สองและสาม พักได้หลังละ 2 คน โดยบ้านแต่ละหลัง
มีรูปแบบที่แตกต่างกัน จงหาจ�ำนวนวิธีในการจัดคนทั้ง 7 คนเข้าพัก เมื่อ
(1) ไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
(2) กิตติและสมานพักในบ้านหลังเดียวกันคือหลังแรกหรือหลังที่สาม
โจทย์ตัวอย่าง
15. ในการจัดคน 12 คน (มี GAT และ PAT รวมอยูด่ ว้ ย) นัง่ รับประทานอาหารรอบโต๊ะกลม ความน่าจะเป็น
ที่ GAT และ PAT ไม่ได้นั่งติดกันเท่ากับข้อใดต่อไปนี้
5 4 5 5 5
5. Let x2 + y2 = 1 for x, y in R
Then the value of P = (3x – 4x3)2 + (3y – 4y3)2 is
1. 13 2. 12 3. 1 4. 2 5. 3
12. ค่าของ arccos sin 177π – arcsin sin 107π เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ (PAT1 ก.พ. 62)
1. – 514π 2. 14π 3. 27π 4. π2 5. 32π
7. ให้ sin A + sin B = 1 และ cos A + cos B = 3 ดังนัน้ cos(A + B) มีคา่ เท่ากับข้อใด
2
1. 5 2. 5 3. 5 4. 5 5. 1
8 13 16 26 2
9
9. If sin–1x + sin–1y + sin–1z = 3π then x2019 + y2019 + z2019 – 2020 2020
2 x + y + z2020
is equal to
1. ก�ำหนดให้ a1 , a2 , a3 , a4 , a5 และ b1 , b2 , b3 , b4 , b5 , b6
เป็ นล�ำดับเลขคณิตของจ�ำนวนจริงบวก โดยที่ a1 = b2 , a5 = b5 และ a1 ≠ a5
(b – b ) + (b – b1) x
ถ้า 6 a4 – a 6 = เมื
y ่อ ห.ร.ม. ของ x กับ y เท่ากับ 1
4 2
แล้ว x2 + y2 เท่ากับเท่าใด (PAT 1)
4. If the distinct non-zero numbers x(y – z), y(z – x), z(x – y) form a geometric sequence
with common ratio r, then r satisfies the equation
a. r2 + r + 1 = 0 b. (r – 1)4 + r = 0 c. r4 + r2 – 1 = 0 d. (r + 1)4 + r = 0
e. (r – 1)4 – r = 0
ผลบวกของ i0! + i1! + i2! + i3! + ...... + i100! เมื่อ i2 = –1 มีคา่ เท่าใด
1. 95 + i 2. 96 + i 3. 94 + 2i 4. 95 + 2i 5. 96 + 2i
2. ก�ำหนดให้ i2 = –1
1+i 1 3
2 – 1 + i มีคา่ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ (คณิต 1 สามัญ 62)
1. –i 2. i 3. –8 4. – 18 5. 1
5. Z1 + Z2 + Z3 + ..... + Zn
สถิติบทที่ออกข้อสอบเยอะในแต่ละสนาม
PAT1 สามัญ PAT3
สถิติ แคลคูลัส เรขาคณิต
แคลคูลัส ความน่าจะเป็น แคลคูลัส
ฟังก์ชันตรีโกณมิติ สถิติ Expo & Log
Expo & Log ล�ำดับและอนุกรม เชาวน์และโจทย์ปัญหา
ล�ำดับและอนุกรม Expo & Log ล�ำดับและอนุกรม
ระบบจ�ำนวนจริง เมทริกซ์ สถิติ
เรขาคณิตและภาคตัดกรวย จ�ำนวนเชิงซ้อน ฟังก์ชันตรีโกณมิติ
อื่นๆ ระบบจ�ำนวนจริง ความน่าจะเป็น
ความน่าจะเป็น ฟังก์ชันตรีโกณมิติ เมทริกซ์
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน ทฤษฎีจ�ำนวน ระบบจ�ำนวนจริง
3. (PAT1 ก.พ. 62) ให้ R แทนเซตของจานวนจริง ให้ f : R R เป็ นฟั งก์ชนั ที่มีอนุพนั ธ์
และสอดคล้ องกับ f (x h) f (x) 2h3 (6x 1)h2 2x(3x 1)h
สาหรับทุกจานวนจริง x และ h ถ้ าค่าต่าสุดสัมพัทธ์ของ f เท่ากับ 4
1
แล้ วค่าของ f ( 2) f 2 เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
1. 28 2. 32 3. 34 4. 36 5. 40
4. (PAT1 ก.พ. 62) กาหนดให้ f(x) เป็ นพหุนามกาลังสอง ซึง่ มีสมั ประสิทธิ์เป็ นจานวนจริง
ถ้ าเส้ นโค้ ง y = f(x) ผ่านจุด (2, 2) และมีจดุ สูงสุดสัมพัทธ์ที่จดุ (1, 3)
2
แล้ วค่าของ f ( x )dx เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
1
16 14 8
1. 7 2. 6 3. 4. 5. 3
3 3